อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๗
“จบกันดีๆ ถ้าดีไม่ได้ก็จบด้วยลูกปืน” พ่อฝิ่นทำหน้าเข้มเดินมาทางเขากับลูกชาย แต่ก่อนไปพ่อมันดันฝากปืนไว้กับมือเขา เล่นเอามือร่วงเลยทีเดียว
มีพ่อที่ไหนส่งเสริมลูกอย่างพ่อบ้านนี้เนี่ย
ผู้ใหญ่เถื่อนๆตีคิ้วใส่เขาแล้วเดินออกจากห้องรับแขกไปไอ้ฝิ่นจึงจับปืนสั้นของพ่อมันออกจากมือเขาไปวางไว้หลังตู้หนังสือใกล้ๆ
“ปืนไม่มีลูกก็เอามาเล่นจัง” มันว่าพ่อมันตามหลัง
แขกยามวิกาลลุกขึ้นยืนเบื้องหน้าโดยหันหลังมาทางเขา แต่...ช่างเป็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยเหลือเกิน สมองและลำคอคล้ายตีบตันขึ้นมาดื้อๆทั้งที่เมื่อครู่ยังรู้สึกโล่งโปร่งดีอยู่แท้ๆ ใบหน้าซึ่งสวมทับด้วยแว่นตาดำไม่ได้สวมไว้กันแดดแต่มันสวมเอาเท่ได้ทุกเวลาหันมาเผชิญหน้ากันจะๆแบบไม่ต้องรอให้ตั้งตัวใดๆ และใจของเขากำลังเดินเข้าไปหาคนไร้มารยาทที่มาบ้านคนอื่นเอาดึกดื่นป่านนี้ เว้นแต่ขาที่ก้าวไม่ออกและได้แรงบีบจากหัวไหล่ที่เตือนสติว่าไม่ได้อยู่แค่สองคนหากแต่ยังมีไอ้ฝิ่นที่เขาเผลอลืมมันไปชั่วขณะยืนอยู่ข้างๆนี้ด้วย
“เอามือออกจากไหล่ไอ้แก้ว” เสียงทุ้มห้าวพูดอย่างไม่เกรงใจอาวุธในมือเจ้าของบ้านและตัวเองกำลังเหยียบถิ่นมันอยู่
“หึ กลับมาไวจังนะ” มีเหรอที่คนอย่างไอ้ฝิ่นจะทำตาม ยิ่งสั่งมันด้วยแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ แก้วจึงใช้มือซ้ายจับมือฝิ่นหมายจะยกอออกจากไหล่ด้วยความกลัวพงษ์จะจับได้ แต่...นอกจากมันไม่ยอมเอาออกยังบีบมือเขาจนเจ็บอีกด้วย “อยากได้คืนเหรอ หึ” ไอ้ฝิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน และนั่นเป็นการกระตุ้นให้พงษ์เดือดเขารู้ดี
แก้วหันมองหน้าฝิ่นด้วยความอึดอัดใจแต่มันกลับยักคิ้วให้แล้วกอดไหล่เขาพาเดินหันหลังให้พงษ์
“ไปคุยกันข้างนอก”
“ไม่จำเป็น กูแค่มาเอาตัวไอ้แก้วกลับ” พงษ์พูดแทรกแล้วเดินอ้อมมายืนตรงหน้าพร้อมกับถอดแว่นเก็บไว้ที่คอเสื้อแล้วคว้าข้อมือข้างขวาเขาหมับ “กลับบ้าน” มันย้ำน้ำเสียงหนักแน่น
แก้วได้แต่หลบตาพงษ์ ไม่ใช่ไม่อยากกลับนะแต่...
“เอาไง ถ้าพ่อกับแม่กูลงมาอีกรอบกูเอาเรื่องแน่”
“พงษ์ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ” เขามองหน้าพงษ์ด้วยความอ้อนวอนขอร้องให้เข้าใจกันบ้างพลางมองที่ข้อมือตัวเอง แต่พงษ์กลับมองเขาด้วยสายตาตำหนิอย่างไม่คิดจะปกปิด
ขนาดมันทิ้งเขา เขายังยกโทษให้มันตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้า แต่มันล่ะ ขอแค่เวลานิดเดียวมันกลับไม่ยอม
“ปล่อยก่อนได้ไหม?” เขารู้ว่าไอ้ฝิ่นเกรงใจพ่อกับแม่มันมากจึงไม่อยากมีปัญหา และเขารู้ว่าพงษ์กำลังข้องใจที่เห็นเขาอยู่กับไอ้ฝิ่นมันเลยไม่ยอมก่อนง่ายๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงลองบอกไอ้ฝิ่นให้เอามือออกจากไหล่เขาก่อนบ้าง ไอ้พงษ์จะได้ยอมออกไปข้างนอกง่ายๆสักที
แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการเลยให้ตายเถอะ
ฝิ่นปัดมือพงษ์เสียงดังจนหลุดออกจากข้อมือเขา แต่ตัวมันเองดันลากคอเขาให้เดินตามมันไปข้างนอก
“ปล่อยก่อน” เขาเดินตามแรงลากแต่ก็พยายามจะเอาตัวเองออกจากท่อนแขนมันให้ได้ซึ่งก็ดูท่าว่าไม่เป็นผลเลย ในขณะเดียวกันก็หันมองไอ้พงษ์ไปด้วย มันกำหมัดแน่นแต่เดินตามออกจากบ้านด้วยความอดกลั้น
แล้วกลับมาทำไมตอนนี้นะ...แล้วเขาจะทำยังไงต่อไป
“ไม่คิดว่าจะได้เจอมึงที่บ้านกู ทั้งที่กูเคยตามหามึงให้ทั่ว” ฝิ่นจับต้นแขนเขาไว้พูดกับพงษ์ด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระอะไรเลย
“ไม่ต้องพล่ามหรอก ถ้ามึงไม่ปล่อยเพื่อนกู กูเอาตำรวจมาลากคอมึงเข้าตารางแน่”
“ลากคอไอ้คนที่ฆ่าเพื่อนกูก่อนดีกว่าไหม?”
“ยังไม่จบเหรอ แก้ว?” พงษ์ถามเขาแล้วเขาจะตอบยังไง แก้วได้แต่มองหน้าพงษ์เพื่อขอให้มันรอฟังคำอธิบาย
...เขาขอเวลาคิดหาคำอธิบายดีๆสำหรับเรื่องนี้ก่อน
“มึงปล่อยก่อนได้ไหม” แก้วปัดๆมือฝิ่นแต่ก็นั่นแหละ เฮ้อ ดูเหมือนว่ามันยิ่งจะมีอารมณ์มากขึ้นซะอีก
“จบ? ชีวิตเพื่อนกูทั้งคนมึงจะให้จบง่ายๆ?”
“แล้วยังไง กูก็ชดใช้ให้ไปตั้งเยอะ ถือซะว่ากูซื้อชีวิตเหี้ยๆของเพื่อนมึงละกัน”
“เอ่อ พอก่อนได้มะ...”
“งั้นก็แลกกัน ชีวิตเพื่อนกู กับชีวิตเพื่อนมึง” พูดยังไม่ทันจบไอ้ฝิ่นก็พูดแทรก แก้วหันควับมองหน้าฝิ่นซึ่งเจ้าตัวไม่ได้สนใจเขาเลย มันมัวแต่แสยะยิ้มมุมปากตาก็จ้องหน้าพงษ์ด้วยแววตาอาฆาตทั้งมือยังบีบต้นแขนเขาแรงขึ้นๆเรื่อยๆ
แก้วกลืนน้ำลายลงคอเฮือก มันจะเอาชีวิตเขาอย่างนั้นเหรอ?
“ไอ้แก้วมีค่ากว่านักเลงข้างถนนอย่างพวกมึง”
ผั่ว!! พงษ์เดินอาดเข้ามาดึงมือไอ้ฝิ่นออกจากแขนเขาทั้งยังเหวี่ยงกำปั้นเข้าที่ใบหน้ามัน
“พงษ์อย่า...นี่บ้านมันนะ” เหมือนเป็นข้ออ้างที่เขาเข้าไปกอดตัวพงษ์ไว้ไม่ให้มันทำร้ายไอ้ฝิ่นอีกรอบ
“แล้วยังไง? มึงก็เลยจะยอมให้มันทำร้ายมึงที่นี่อย่างนั้นเหรอ!”
“ก็ถ้าเราไม่ทำเขาก่อนกูจะยอมไหม!” แก้วพูดสวนทันควัน เขากำมือแน่นเพื่อระงับความรู้สึก ไม่ใช่เพราะมึงทำเขาก่อนหรอกเหรอ แล้วไม่ใช่เพราะกูให้ท้ายมึงหรอกเหรอ เขาถึงต้องยอมรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งที่รู้ว่ามันแทนความสูญเสียไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าผิดยังไงก็คือผิด ผิดที่กูไม่อยากยอมรับความเป็นจริงแต่ขอแค่ให้ความผิดที่มีในใจของมึงกับกูลดลงไปบ้าง แค่ที่โดนมานี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ และอีกอย่าง มันไม่ได้ทำร้ายกูแล้วด้วย นอกเสียจากว่ากูกำลังทำร้ายความรู้สึกตัวเองอยู่ ด้วยใจที่เอนเอียงให้มันมากไปเท่านั้น
“กลับไปคุยกันที่บ้าน” พงษ์ดึงเขาออกจากตัวทั้งที่มันควรจะปลอบเพราะเขากำลังสั่นในอกอยู่แท้ๆ แล้วเขาก็คิดถึงมันมาก อยากจะให้มันกอดปลอบเขามากๆแต่มันกลับไม่ทำ ฮึก แก้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อปลอบตัวเอง
“ถ้ามึงไปก็ไม่ต้องกลับมาอีก” แก้วเบนความสนใจไปที่ฝิ่นซึ่งสายตามันไม่ได้ลดละที่จะเอาเรื่องเลย
และอีกครั้งกับคำพูดที่คล้ายกับโดนผลักไส
“ที่แล้วมากูจะถือว่าเป็นโมฆะ”
“โมฆะ?” เข้าย้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ใช่ ในเมื่อเจ้าตัวมันมาถึงนี่แล้วกูจะเก็บมึงไว้ทำไม” ทั้งคำพูดทั้งสายตาต่างเหวี่ยงมาที่เขาเหมือนกับเป็นแค่เพียงอากาศที่ล่องลอยอยู่ข้างๆตัวมันแค่นั้น
“หมายความว่า...”
“กูจบกับมึง แต่กูจะเริ่มกับมัน” ไอ้ฝิ่นพูดออกมาหน้าตาเฉยพลางชี้มือไปทางพงษ์ มันไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาสักนิด ไม่แม้แต่จะรับรู้ว่าเขาคิดยังไงกับคำพูดนี้
หมายความว่ามันยังไม่เลิกแค้นไอ้พงษ์อย่างนั้นเหรอ?
“ได้ยังไง?!” แม้ไม่ย้ำเงื่อนไขแต่เราสองคนก็รู้อยู่เต็มอกว่ามีข้อแลกเปลี่ยนกันยังไง อยู่ๆจะมาล้มเลิกเพราะไอ้พงษ์กลับมาแล้วอย่างนี้เขาไม่ยอมหรอกนะ
ที่รักมันก็เพื่อหวังให้มันจบ แล้วเขาก็รักมันไปแล้ว มันก็ควรจบน่ะใช่ แต่มากกว่านั้นคือหัวใจของเขาไม่ใช่รึไง มันไล่เขาง่ายๆอย่างนี้นี่นะ
และมันเองก็คิดไม่ต่างจากเขาไม่ใช่เหรอ?
ไม่ได้ไม่รักกูมันก็คือมึงรักกูไม่ใช่รึไง? เรื่องนี้กูยอมไม่ได้หรอก!
“ดี ในเมื่อกูก่อเองกูก็จะจบเองแต่ไม่ใช่วันนี้ ไปแก้ว” พงษ์คว้าแขนดึงเขาออกไป แต่เขาขืนตัวไว้
“แต่กูรักมึง” เขาโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกของคนที่กำลังจะถูกทิ้ง พูดออกไปด้วยต้องการที่จะรั้งมันสักนิดให้ได้ “กูรักมึงจริงๆ ฮึก ฮึก” เขาไม่ยอมหรอก ไม่ยอม... ไม่ยอมถูกไล่ง่ายๆนะ
“ไอ้แก้ว! อะไร เกิดอะไรขึ้น?”
“ฮึก ฮึก พงษ์ กูรักมัน”
“ยะ อย่า อย่าร้อง” พงษ์อ้าปากค้างตาแทบไม่กระพริบจับไหล่เขาทั้งสองข้าง ก็เขา... เขาอยากให้ฝิ่นจบเรื่องไอ้พงษ์แต่เขาไม่อยากถูกมันทิ้ง “แก้วเงียบเลยนะ” ฮึก ฮึก เขาเม้มปากแน่นแต่น้ำตาก็ยังคลอทั้งยังสะอื้นไม่หาย ถ้าเป็นไอ้ฝิ่นมันคงไม่สั่งเขาอย่างเดียวแต่มันจะกอดเขาด้วย แต่นี่มันไอ้พงษ์เขายิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ อยากให้เขาหยุดแต่ไม่ทำอะไรนอกจากพูดบอกเนี่ยนะ ฮึก
“ตอนไม่มีมึงกูก็มีแต่มัน” ถึงชีวิตจะไม่ได้ราบรื่นเหมือนตอนที่อยู่กับพงษ์แต่เขาก็มีความสุขไปอีกแบบ ถึงจะขาดๆ แต่ก็เต็มได้ในเวลาเดียวกัน
แก้วมองไปที่ฝิ่นซึ่งยืนอยู่ตรงกันข้ามห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว มันเหมือนจะเดินเข้ามาหาแต่แล้วก็ชะงักไป
ทำไม?
“แต่มัน ...” พงษ์จิ๊ปากอย่างกับไม่อยากจะพูด “มันจะเป็นไปได้ยังไง” สายตาไม่เชื่อหากแต่มีแววสั่นไหวของพงษ์ทำเอาเขาอยากจะย้ำคำเดิมอีกล้านรอบ
“ฝิ่น...” มึงช่วยย้ำกับไอ้พงษ์ให้กูที
“ถ้าไม่อยากไปมึงก็เลือกเอาละกัน กูกับมันมึงจะเลือกใคร” แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากกดดันเขาอีกคน
ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปกับไอ้พงษ์ แต่เขาไม่อยากไปจากไอ้ฝิ่น ไม่ว่ามันจะเอาเรื่องไอ้พงษ์อีกรึไม่ก็ตาม เขาไม่อยากไป...
...แล้วทำไมเขาต้องเลือกด้วยวะ
“มึงกำลังสับสนอยู่ใช่ไหม ไม่เป็นไรนะ กูจะจัดการเอง” ไอ้พงษ์กัดฟันพูดกับเขา
“แต่พงษ์ กูกับมันรักกัน”
“แก้ว ไว้กูจะบอกมึงเอง ตอนนี้เรากลับบ้านกันนะ กลับบ้านเรากัน”
“ฮึก ฝิ่นมึงพูดอะไรบ้าง” ให้กูรู้สึกว่าไม่ได้คิดไปเอง “มึงลืมได้ไหม มึงเลิกได้ไหม ไหนบอกว่ามันจะจบยังไงล่ะ ทำไมมึงไม่รักษาคำพูด”
“ก็เพราะมึงมีเงื่อนไขกับกูไง”
“อะ....?” มึงเป็นคนตั้งเงื่อนไขเอง ...ไม่ใช่เหรอ? แก้วชะงักมองฝิ่นตาค้าง
“หึ มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่าทุกอย่างมันคือเกม”
“เกม? ...ไม่ จริง”
“อย่าลืมว่ามึงอยู่กับกูเพราะอะไร”
“แต่มึงเป็นคน...”
“มึงนั่นแหละเรียกร้องเอง” เหมือนกับตัวเองยืนอยู่บนหน้าผาแล้วหน้ามืดจนหล่นวูบลงไปข้างล่างยังไงอย่างนั้น
“พงษ์...” เขาจับแขนพงษ์ไว้เพื่อเป็นหลักยึดไม่ให้ตัวเองล้มลงไปจริงๆ
“กูให้โอกาสมึงเลือก...แก้ว” ฝิ่นยื่นมือมาหาเขา หากเพียงเขายื่นมือออกไปจับมือนั้นไว้เขาก็ไม่ต้องไปไหน “เลือกกู มันเจ็บ เลือกมัน มันตาย”
แต่ข้อเสนอไม่มีทางไหนให้เขาตัดสินใจได้ง่ายๆเลย
สักนิดที่มึงย้ำให้กูได้มั่นใจในความรู้สึก ขอสักนิดแต่ไม่มี นอกจากกูคิดเข้าข้างตัวเองแล้ว มีอะไรบ้างที่มันคือความจริง
อ้อมกอดที่โหยหาจะได้สัมผัส อ้อมกอดที่เคยอิ่มเอมใจ แต่สุดท้าย มันคือภาพลวงตา มันคือการแสดง มันคือการหลอกลวงเพื่อให้ได้สิ่งที่มันต้องการ
มันต้องการอะไร...หึ รู้ตั้งแต่แรกแล้วแท้ๆ
แต่หัวใจของเขายังหลงระเริงไปกับสัมผัสปลอมๆนั่นมาโดยตลอด
ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกเขาก็รู้แล้ว รู้มาตลอดเพียงแต่หลอกตัวเองว่าเผื่อมันจะดีขึ้น... เผื่อจะดีขึ้นจนถลำลึกลงไปเอง
รักมันแล้วเรื่องจบมีที่ไหน นอกจากรักมันแล้วเขาเจ็บต่างหากละ
จริงอยู่ ทุกอย่างสองเรานั้นรู้ไม่จำเป็นต้องบอกแม้มีเส้นของความบาดหมางกั้นอยู่
ฉันเชื่อ คุณค่าจิตใจนั้นเหนือกว่าสิ่งใดแต่เขาก็อยากจะลบมันออกไปด้วยการใช้หัวใจเข้าแลก
รู้ดี และไม่ต้องการพิธีอะไรที่มากมายเพราะทุกอย่างมันเริ่มต้นทีละนิด ทีละนิด จนหล่อหลอมมาเป็นความรู้สึกจนได้
เพราะเข้าใจ มั่นใจในเธอทุกครั้งตลอดมาขอแค่ให้มันค่อยๆรับรู้ความจริงใจจากเขาบ้าง เขาเชื่อว่ามันรู้สึก เขาเชื่อว่ามันสัมผัสได้ และเขาเชื่อว่ามันจะทำตามคำพูดที่มันเคยลั่นเอาไว้
แต่ว่าวันนี้ สิ่งที่ฉันเป็นช่างต่างจากวันนั้น
ทั้งที่จิตใจฉันเองอยากจะเข้มแข็ง
แต่ว่าเรี่ยวแรง บอกว่าฉันคงทนเข้าใจเธอไม่ได้
รู้สึกอ่อนล้า จนใจฉันกลัวจะทนไม่ไหวทุกอย่างสูญเปล่า ความจริงเฉลย เงื่อนไขที่เขาบ้าวิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียว ต่อให้ขอร้องอ้อนวอนมันจนตาย มันก็ไม่มีทางรู้สึกไปในทางเดียวกับเขาได้
โปรดเถอะนะ แสดงว่าเธอรักฉันอีกครั้งหนึ่ง ให้ฉันได้ซึ้งถึงความรักบ้าง
กอดจูบฉัน เบาๆเหมือนที่เธอเคยเมื่อก่อน
โปรดช่วยย้อนให้ฉันจำ และช่วยย้ำให้ฉันมั่นใจอีกทีเขารักมันเพื่อลดโทษให้ไอ้พงษ์อย่างนั้นเหรอ? แต่แท้จริงแล้วรักมันก็คือรัก รักก็เพื่อรัก เขาไม่สามารถบังคับให้ตัวเองรู้สึกกับมันได้เพียงแค่คำพูดของมัน แต่เขาสามารถรักมันได้ เพราะเขา...รู้สึกรักมัน
ความรักไม่สามารถชดใช้ความผิดให้ใครได้ แต่ความรักเมื่อได้รักไปแล้วไม่ได้รับอีกใจตอบ มันก็เจ็บสิ้นดี
ร้องไปเถอะ อ้อนวอนเข้าไปเถอะ อ้อมกอดจอมปลอม จูบจอมปลอม หึ ความรู้สึกปลอมๆ อยากได้จากแค่ใครสักคนจนหลับหูหลับตาหลอกตัวเองมองข้ามความจริงไปเถอะ
โปรดช่วยย้อนให้ฉันจำ และช่วยย้ำให้ฉันมั่นใจอีกครั้ง“ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกกูตายคู่เลยดีกว่า” เขาหลับตาแล้วโอบกอดพงษ์ไว้ในขณะที่พงษ์เองก็กอดตอบและลูบหลังเขาเป็นครั้งแรกที่อยู่ต่อหน้าบุคคลที่สาม
เขายอมฝิ่นได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องของพงษ์
“โธ่เว้ย! มึงเลือกเองนะ มึงเลือกเอง!”
“หึ แล้วกูจะกลับมาเคลียร์กับมึงวันหลัง” พงษ์พูดบอกแล้วพาเขาออกจากตรงนี้
ถ้าเป็นเมื่อก่อนฝิ่นมันคงจะโวยวายฟาดงวงฟาดงาลงกับของใกล้ตัวเมื่อโดนขัดใจ
แต่เขาขัดใจมันในครั้งนี้ เขาไม่ได้หันกลับไปดูด้วยซ้ำว่ามันจะอยู่ในอารมณ์ไหน
ตอนนี้...เอาความรู้สึกตัวเองให้รอดก่อนแล้วกัน
...................................
http://www.youtube.com/watch?v=aTVCACpg4jw
เครดิต เพลง โปรดเถอะ : โป้ โยคีย์เพล์บอย
(ช้าเพราะหาวิธีลงเพลงนี่แหละY^Y อ่านแล้วยิ่งมึน อยากจะลงเพลงแต่ลงไม่เป็น)
รบกวนใครลงเพลงเป็นลงให้คนเขียนที ง่อยมากอะไรมาก
นี่ว่า คนแต่ง ต้องมีมุมเก็บกดอะไรซักอย่าง
สรรหาคำพูดมาเสียดแทงคนอ่านได้ดีมาก
...จ๊ากกกก ฮ่าๆๆๆ ตามนั้นเลยคนอ่านจ๋า คนเขียนเป็นคนหลายบุคลิกค่ะ เอาแน่เอานอนไม่ได้ อิอิ
สัปดาห์นี้เหนื่อยจริงๆค่ะ ไม่ไหวๆ ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอดๆจุ๊บ
สวัสดีนักอ่านหน้าใหม่ด้วยนะคะ ^^
ปล.ใครเม้นท์ตัดหน้า อัพไม่ได้เนี่ย บ่นๆ ฮ่าๆๆๆๆ