อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๖
“จะเอามันไปด้วยทำไม” เขาฟังคำพูดเชิงค้านของพี่ไม้พลางมองไปหาไอ้แก้วซึ่งยืนคุยกับไอ้โจ้อยู่ที่โรงรถ
“มันไม่สบาย” ตอบหน้าตาย
“งั้นมึงควรจะให้มันอยู่บ้าน ไม่ใช่ลากมันไปด้วยทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะเกิดอะไร”
“แต่...”
“มึงจะเอายังไงกันแน่ กูเคยบอกให้มึงปล่อยมันไปแล้วไม่ใช่เหรอ กูเตือนมึงแล้ว เตือนมึงแล้วแท้ๆ” พี่ไม้ต่อว่าด้วยความหน่ายใจอย่างคนที่รู้จักเขาดี
เห็นสภาพมันแล้วเขาก็อด....
เขาไม่ได้เป็นห่วงแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายอ่อนแอเลยแค่รู้สึกแปลกตา
“ผมหยุดไม่ได้”
“ทำไม แค่มึงหยุด ทำไมจะทำไม่ได้ คนอย่างมึง ไม่เคยมีคำว่าไม่ได้ไม่ใช่เหรอวะ”
ก็เพราะอย่างนั้นไง
“เอาตามนี้แหละ อะไรจะเกิดก็ช่างแม่งมัน”
กูไม่ได้ไม่รักมึง คำพูดที่กูไม่ได้หลอกให้มึงสบายใจ ที่พูดไปก็มาจากความรู้สึกทั้งนั้น
แต่จะให้พูดออกไปตรงๆได้ยังไงในเมื่อกู...
...กูรักมึงไม่ได้!
ยังไงชีวิตเพื่อนเขาก็ต้องสำคัญที่สุด
จะให้ผู้ชายคนแรกที่เอาเป็นเมีย มาอยู่เหนือใจเขาไม่ได้
ก็แค่ไม่คุ้น ก็แค่ไม่เคย มันจึงทำให้เขาเกิดความลังเลในความรู้สึก แต่...
เขาทรยศไอ้เป้งไม่ได้ แค่เขามองหน้ามันเขาก็โกรธมากแล้ว แต่อีกใจเขาดันไม่กล้าที่จะแตะต้องมัน ยิ่งนานวัน เขายิ่งคล้ายกับคนแพ้เข้าไปทุกที แค่คิดจะดึงมันออกจากเงื่อนไขเขาก็รู้สึกแย่กับตัวเองพอแล้ว แค่เขาให้ใจมัน เขา...ก็สารเลวกับไอ้เป้งมากไปแล้ว
แต่มันคงทำให้ไอ้แก้วเจ็บน้อยที่สุดเมื่อถึงเวลาที่พวกมันต้องได้รับผลตอบแทน เขาจำเป็นต้องทำต่อ ทำจนกว่าคนที่ฆ่าไอ้เป้งมันจะรู้สึก เอาให้มันตายตามไอ้เป้งไปเลยยิ่งดี
ส่วนไอ้แก้ว เขาจะรับผิดชอบความรู้สึกมันเอง แค่มีเขา ไอ้แก้วมันจะต้องไม่เจ็บปวด ไม่เสียใจ ...เพราะเขาคือคนสำคัญของมัน มันต้องทนเพื่อเขาได้อยู่แล้ว
ฝิ่นเดินนำพี่ไม้ไปยังโรงรถ ไปถึงไอ้โจ้ก็ออกปากบอกมาก่อน
“พี่ไม้ ไอ้แก้วมันหาว่าผมใส่ร้ายพี่มัน ก็ไอ้ขวัญนั่นมันแกล้งโวยให้พี่ล้างรถมันทั้งวันจริงๆนี่หว่า แม่งเกรียนแล้วไม่ยอมรับ”
“ไม่ได้บอกว่าใส่ร้าย แค่บอกว่าพี่ขวัญไม่ได้ตั้งใจแกล้งใครหรอกอย่าถือสาเลย แค่นี้เอง”
“นั่นแหละ มึงเถียงกูอยู่ แล้วอีกอย่างมึงแก้ตัวให้มันรึเปล่าล่ะ โธ่ เจอข้างนอกกูจะโบกให้สักที”
“มึงก็โบกตอนพ่อกูไม่อยู่สิ” เขาสนับสนุนความคิดไอ้โจ้ รำคาญลูกตากับพี่ชายไอ้นี่เหมือนกัน
“พี่ขวัญเขา...”
“หยุด” เขาเบรกคำพูดไอ้แก้ว “ขึ้นรถ” มันมองเขาหน้าบึ้งแล้วเดินเข้าไปนั่งเบาะหลังตามที่เขาสั่งและเปิดประตูรถค้างไว้ก่อนหน้า
แล้วสามคนที่เหลือค่อยตามขึ้นรถกันทีหลัง
จะเป็นห่วงเป็นใยพี่นอกไส้ทำไม ที่วันก่อนกลับมาในสภาพซากคนนั่นไม่ใช่ฝีมือไอ้พี่ตัวดีของมันหรอกเหรอ
อย่าคิดว่าไม่รู้ไปไหนมา แค่ไม่รู้และไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเอง
“คนพร้อมนะโจ้”
“ยิ่งกว่าพร้อมพี่” ฝิ่นพยักหน้ารับเมื่อได้ฟังคำตอบของรุ่นน้อง
“เราจะไปไหนกันเหรอ” หืม สนิทกับกูจนใช้คำว่าเราเชียวนะมึง เขาเหวี่ยงสายตามองไอ้แก้วอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไปดูความเลวของพี่ดิวมึงไง” ตอบไปอย่างไม่สนใจว่ามันจะรู้เรื่องด้วยรึเปล่า เพิ่งจะดีขึ้นจากอาการบ้าห่าเหวแท้ๆแต่เขาก็ยังจะพามันไปด้วย แต่แล้วยังไง? ต่อให้มันไม่รู้ว่าพี่มันทำอะไรกับอาชีวะxบ้างเพื่อให้ได้หยามเขา เขาก็จำเป็นต้องใช้ตัวไอ้แก้วอีกครั้ง
ก็ในเมื่อไอ้ดิวอยากเจอจุดจบไวๆ เขาก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ โทษของคนหักหลังมันไม่แรงเท่าคนที่กระทำ แต่ในเมื่อไอ้ดิวยังคอยตอดเล็กตอดน้อยเขาไม่เลิก มันก็ต้องสั่งสอนกันบ้าง
มึงไม่มีอะไรเทียบกูได้เลยไอ้ดิว ทั้งอำนาจ ทั้งไอ้แก้ว กูอยู่เหนือมึงทุกเรื่อง
“แยกกันตรงนี้นะ” ลงจากรถกันพร้อมหน้าพี่ไม้ดันเอ่ยปากขอแยกทาง
“พี่จะไปไหน?” เขาถามเสียงห้วน ไม่ชอบใจ
“นัดเพื่อนไว้ แค่อาศัยติดรถมาด้วยเฉยๆ”
“อืม” เขาจำต้องพยักหน้าเข้าใจ “โจ้ไปกับพี่...”
“ไม่ต้อง” จะสั่งไอ้โจ้ให้ตามแต่พี่ไม้กลับปฏิเสธ
“แต่...”
“กลับไปเจอกันที่บ้านฝิ่น”
“เออ...ก็ได้วะ” รู้ว่าพี่ดูแลตัวเองได้และไม่ชอบให้คนติดตาม แต่เขาเป็นห่วงพี่นี่หว่า “โจ้โทรบอกเด็กตามพี่ไม้ห่างๆสักสามสี่คน” จึงกระซิบบอกไอ้โจ้เมื่อพี่ไม้หันหลังให้อย่างคนไม่แยแสต่อความหวังดีของเขา
หันมองไอ้แก้วที่หน้าถอดสีเมื่อเขาพามันเดินเข้าไปในร้าน กลัวอะไรนักหนากะแค่ถิ่นเทคโนT ถ้าไม่ตั้งใจมามีเรื่องคิดเหรอว่าจะเหยียบมาแถวนี้ให้เป็นเสนียดตีน
เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในร้านเพื่อนร่วมสายต่างพากันเดินออกมาคนละทิศคนละทางจนรวมตัวกันได้กลุ่มใหญ่ เขาผลักไอ้แก้วไปให้ไอ้โจ้ดูแลอยู่ข้างหลังแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างเดินนำอย่างชิวๆมุ่งหน้าไปยังโต๊ะคู่อริ
พลั่ก! ฝ่าเท้าถีบเข้ากลางลำตัวลูกกระจ๊อกโนTที่ออกหน้ามารับแทน
ฝิ่นเบ้ปากพลางแสยะยิ้มให้กับพวกไร้ฝีมือ
“เก่งแต่ลอบกัดนะพวกมึง” เขาจ้องเขม็งไปยังไอ้แชมป์ประธานสาย๓Tที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ท่ามกลางฝูงหมาลอบกัดกลุ่มใหญ่ แต่ยังเล็กกว่าพวกของเขาที่ตั้งใจยกมาเท่าตัว
“กูขอเวลา” ไอ้แชมป์ลุกขึ้นยืนด้วยฟอร์มประธานสายที่มักจะถอยมากกว่าชน มันไม่ใช่คนไร้ฝีมือหรอก แต่มันรู้ดีว่าถ้าเดือดร้อนมันก็เดือดร้อนกันยกสาย ไม่ก็ทั้งโรงเรียนเอกชนต๊อกต๋อยของมันนั่นแหละ
“ถุย! ขอเวลาหรือรอเวลาให้สายกูตายไปอีกคน ตอนยิงเด็กสายกู ไม่เห็นรอให้พวกกูรู้ตัวเลยเหี้ย” จะรู้ก็เมื่อกลับถึงบ้านหลังจากพาไอ้แก้วไปโรงพยาบาล และไอ้คนที่ยิงก็ไม่ใช่ใคร... “ส่งตัวไอ้ดิวมา กูจบทันที” ฝิ่นยื่นข้อเสนอ
“มึงเห็นกับตาว่ากูทำรึไงถึงได้มั่นใจซะ” ไอ้ดิวลุกขึ้นยืนข้างไอ้แชมป์ยักคิ้วมองหน้าเขาชวนกวนส้นตีน
“อย่าหน้าตัวเมียให้มันมากไปเลยว่ะ มึงทำพวกกูเจ็บ มึงก็ควรกล้าแลก” เขาท้าทายมันทั้งคู่ เคลียร์ก่อนค่อยเล่นงานนี่ก็ยอมให้สุดๆแล้ว “งานนี้มีคนนอกเห็นเหตุการณ์มึงจะว่าไง” พลางส่งคำถามไปที่ไอ้แชมป์เพื่อจี้เอาคำตอบ
“กูให้คนอื่น” ถุย พูดได้เหี้ยมาก
“ไม่!” เขาสวนตอบด้วยอารมณ์โมโห เพราะเขาจะเอาตัวคนที่ทำเท่านั้น “อ้นลากคอไอ้เหี้ยดิวมา!” สั่งไอ้อ้นเพื่อนในสายแล้วก้าวเท้าเข้าประชิดตัวไอ้แชมป์ “มึงจะขวางกูก็ได้นะแชมป์” สายตาเด็ดเดี่ยวบ่งบอกถึงความเอาจริง ถึงงานนี้จะไม่เสียหายอะไรมากมายแต่เขาจะรวบยอดกับไอ้ดิวมันคราวเดียวนี่แหละ ใครจะทำไม?
ไอ้อ้นตะโกนกร้าว ...ใครขวางมันเอาตาย...แต่ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกที่พอพูดออกไปแล้วแม่งจะส่งตัวประธานปีสามมาให้ง่ายๆ
ต่างฝ่ายต่างจึงมองหยั่งเชิงกันไปก่อนทำให้แขกในร้านคนอื่นๆเริ่มระแวงว่าจะมีเรื่อง และมันไม่ทันใจเขาเหลือเกิน
“โจ้” เขาเสียงดังเรียกชื่อรุ่นน้องคนสนิท
ไอ้โจ้เดินออกมาจากกลุ่มพร้อมกับกอดคอไอ้แก้วออกมาด้วย เห็นอย่างนั้นเขาจึงดึงไหล่ไอ้แก้วออกจากโจ้มายืนอีกฝั่งเพื่อพักแขนเขาแทนพลางส่งสายตาปรามๆไปให้ลูกน้องตน
พอเห็นไอ้แก้วไอ้ดิวถึงกับอึ้ง หึ ยังไม่ชินอีกเหรอมึง แต่คนออกอาการมากกว่ากลายเป็นไอ้ประธานสาย
“ไอ้แก้ว” แก้วมันก้มหน้าเล็กน้อยหลังไอ้แชมป์เรียก “กูเจอมึงอยู่กับ๕xสองรอบแล้วนะ”
เขาไม่สนใจหรอกว่าไอ้แชมป์จะคิดอะไร
“ว่าไงดิว ถ้ามึงไม่รับผิดชอบ จะให้น้องมึงรับแทนก็ได้นะ” พูดพลางใช้ปลายนิ้วช้อนคางไอ้แก้วให้เงยหน้าสบตากับพี่ดิวของมัน
มันเงยหน้าจริงแต่กลับหันมองมาที่เขา ...อย่ามามองกูแบบนี้นะ!
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ”
“ใครใช้ให้มึงออกความเห็น” เขากัดฟันพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคนเมื่อไอ้แก้วพูดกับเขาเสียงเรียบ
“เมื่อวานเด็กสายกูโดน๕xดักเล่นกลางห้าแยก มึงรู้ไหมใครคุม? แล้วคนที่โดนยิงมันก็เห็นด้วยว่าใครทำมัน” ดีที่มันไม่ตายไม่อย่างนั้นคงต้องหาตัวกันให้วุ่นอีก เขาเอ่ยถามไอ้แก้วที่มองมาอย่างกับว่าเขาเป็นคนผิดซะเอง ฮึ่ย! “ว่ายังไง? กูมีเวลาไม่มากหรอกนะ” แล้วเอ่ยปากกดดันไอ้แชมป์ไอ้ดิวเข้าไป
หมาลอบกัดอย่างไอ้ดิวลังเลครู่เดียวแล้วโพล่งออกมา
“กูยอม!”
“หึ” เขาหัวเราะในลำคออย่างชอบใจนึกไว้แล้วไม่มีผิด คนที่แอบรักมันก็ต้องอยากเป็นฮีโร่ในสายตาของคนที่มันรักอยู่แล้ว แต่ไอ้แก้วจะมองมึงยังไงกูไม่สน เพราะมึงทำของมึงเอง มึงไม่ได้ออกรับผิดแทนใครเขาที่ไหนถ้าไอ้แก้วโง่ขนาดมองมึงเท่ก็เอาสิ “สิบต่อหนึ่ง ไม่รุม รอดก็รอดตายก็ตาย จบไหมแชมป์”
“.............”ไอ้แชมป์พยักหน้าส่งๆแล้วเดินนำออกไปนอกร้านพร้อมไอ้ดิวที่มองหน้าน้องมันไม่ละสายตา
“ถ้าตุกติกมึงจัดการให้หมอบ” เขาปล่อยให้ไอ้อ้นกับไอ้โจ้เป็นคนจัดการเพราะเด็กที่โดนเล่นงานเป็นคนในความรับผิดชอบของมันโดยตรง เขาแค่เคลียร์ทางให้ก็หมดหน้าที่แล้ว
อีกอย่าง ตั้งใจทิ้งไอ้โจ้ไว้ด้วยข้อหาที่มันกวนส้นตีนเขาดีนัก
.
“เป็นอะไร” ถามคนที่นั่งข้างๆที่เอาแต่นั่งเป็นใบ้ตั้งแต่ออกจากร้าน เขาจอดรถข้างทางพลางเอามืออังหน้าผากเจ้าตัว
ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาอีกเมื่อไหร่
“มึงใช้กูล่อพี่ดิว” ฝิ่นชะงักมือค้าง คำพูดต่อว่าที่ไม่ได้รุนแรงแต่กลับทำเอาใจกระตุก
“มันทำเด็กสายกู ทำไมเมื่อกี้มึงไม่ว่าพี่มึงบ้าง” เขาเองก็ตอกกลับเช่นกัน ยังมาทำหน้าบึ้งใส่อีก
“แต่สิบรุมหนึ่ง” ไอ้แก้วหันมาต่อว่าเขาทั้งคำพูดทั้งสายตา
“กูพูดว่ารุมรึไง?”
“ต่อให้ไม่รุมแล้วใครจะสู้ไหว”
“นี่มึงต่อว่ากูเพราะเป็นห่วงมันใช่ไหม?” มันมองเขาตาแข็งก่อนจะขยับตัวหันไปมองทางข้างหน้า
“.......................” เงียบ ให้มันได้อย่างนี้สิวะ
“สวมเขาให้กู กูเอามึงตายแน่” ฝิ่นออกรถอย่างเร็วด้วยความโมโห ทำไมไม่เห็นว่าพวกมึงทำพวกกูยังไง ทำไมถึงเอาแต่จะให้กูผิดๆอยู่ฝ่ายเดียว
“.........................” เงียบอีกแล้ว! เงียบให้ตลอดทางเถอะคิดว่ากูสนใจมึงมากรึไง?
รำคาญโว้ย!
เอี๊ยดดด!!
เป็นเขาซะเองที่ทนไม่ไหว ขืนมันยังเงียบอยู่อย่างนี้มีหวังเขาได้ขับรถพามันไปตายข้างทางแน่
เกลียดจริงๆนิสัยนี้ของมัน
ฝิ่นเบรกรถพร้อมตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางอีกครั้ง
“มึงคิดอะไร คิดว่ากูจะทำอะไรมึงแทนไอ้ดิวจริงๆน่ะเหรอ เอาสมองส่วนไหนมึงคิด ห๊ะ” เขารู้ว่าไอ้ดิวคิดยังไงกับมันก็แค่เอามันมาอ้างแค่นี้เอง
“ถึงมึงจะใช้กูเป็นเครื่องมือเอาคืนพี่ดิวกูก็ไม่กล้าว่าอะไรมึงหรอก”
“ก็กูไม่ได้ใช้มึง กูแค่ยั่วมันไปงั้นเอง เข้าใจไหม?”
“ไม่ต่างกัน ไม่ใช่เหรอ”
“กูบอกไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิโว้ย!” ให้เข้าใจตามที่เขาพูดมันยากตรงไหนวะ
ฝิ่นโวยวายแทบอยากจะหาที่ลงไม้ลงมือเพื่อระบายอารมณ์แม่งโคตรงี่เง่าเมื่อได้ฟังคำพูดงี่เง่ากว่าจากปากไอ้แก้ว แต่แล้วเขากลับดึงตัวแก้วเข้ามากอดแทน
เขาหายใจเร็วและแรงด้วยความโกรธแต่ต้องการระงับอารมณ์ตัวเองเพราะเขาเองก็พาลไม่น้อย
“ต่อไปมึงห้ามคิดเองเออเองเข้าใจไหม? เอาแค่ที่กูพูดก็พอ” เขาพยายามพูดเสียงเบากับมัน
“.......................” มันพยักหน้าแทนคำตอบว่าจะทำตามที่บอก
แต่เขารู้สึกกลัว กลัวอะไรวะฝิ่นคนอย่างมึงจะต้องกลัวอะไร เหี้ย!
หาคำตอบไม่ได้ก็ด่าตัวเองไปก่อนเพราะเขาไม่ชอบเลยความรู้สึกแบบนี้
ความรู้สึกเหมือนวันที่เห็นพี่ไม้กับไอ้เป้งทะเลาะกันบ่อยๆ จน...
เพราะมึงคนเดียว เพราะไอ้คนที่กอดเขาแน่นอยู่นี่คนเดียว
“แต่กูไม่อยากรู้สึกเหมือนโดนมึงหลอกใช้” ฉึก!
“พูดบ้าอะไรของมึง”
“กูหมายความว่า มึงบอกกูก่อนก็ได้ว่าจะให้กูทำอะไร” กูบอกไปหมดแล้วนะสิ่งที่กูต้องการจากมึง บอกโดยที่มึงไม่รู้ตัว และทำตามโดยไม่รู้ตัวนั่นแหละ
“มึงอยู่เฉยๆก็พอ”
“ฝิ่น...กูรักมึง” เฮ้อ ปวดใจหนึบๆเว้ย
เขาจับไหล่แก้วทั้งสองข้างผละออกจากอ้อมกอดสายตาทั้งสองคู่มองสบประสานกัน
ไม่ได้ปฏิเสธที่จะฟังแต่...
“มึงพูดบ่อยเกินไปแล้ว”
“...........” มันส่ายหน้า “ไม่มีใครรู้วันพรุ่งนี้หรอก ตอนนี้พูดได้ กูก็ควรพูดไม่ใช่เหรอในเมื่อกูรู้สึกของกูอย่างนั้น”
“แต่กูจะบอกมึงครั้งเดียว”
“อืม นั่นกูก็นึกว่าฝันแล้ว”
“มึงกำลังกวนตีนกูอยู่” เขาจับไหล่มันพิงตรงแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยให้ พลางออกรถเพื่อจะได้เดินทางกลับบ้านกันสักที
มึงบอกรักกูมันก็ดีอยู่หรอก แต่มึงจะรักกูได้ตลอดรึเปล่านี่สิ
“แม่ทำไมป่านนี้ยังไม่นอน” ฝิ่นถามเมื่อเห็นแม่มายืนรออยู่หน้าบ้าน
“มีเพื่อนมารอตั้งแต่สองทุ่มแล้ว”
“เพื่อน?” ใครวะ ไม่เคยมีใครมารบกวนที่บ้านดึกดื่นเลยนี่หว่า “ใครแม่”
“เขาบอกแค่จะรอไม่ยอมบอกชื่อแม่ก็ไม่เคยเจอหน้า หนูไปดูเองละกันพ่อเช็ดปืนคอยแล้วโน่น” เขาขมวดคิ้วพลางพยักหน้าให้แม่อย่างงงๆ
“ลูกแก้วรีบไปนอนได้แล้วลูกเพิ่งจะหายก็กลับบ้านดึกๆดื่นๆกัน” ไอ้แก้วรับคำแม่ด้วยใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
หึ มีความสุขจังนะมึง
ฝิ่นส่ายหน้าอมยิ้มให้กับท่าทางของแก้วพลางเดินนำเข้าบ้านเพื่อไปดูว่าใครที่มารบกวนพ่อแม่เขาเอาป่านนี้
................................ พี่ซีซั่นค่ะ อยากรู้ว่าพี่ฝิ่นกับน้องแก้วอิมเมจประมานไหนอ่ะ
พยายามจะจิ้นแล้วนะ แต่ไม่รู้จะจิ้นใครดี
เรื่องงานสู้ๆนะคะ ^^
...เจอคำถามนี้คนเขียนขอเอาหัวโขกคีย์บอร์ดก่อนอันดับแรก เอาเป็นว่าที่จะบอกต่อไปนี้ให้คนอ่านเอาเป็นไกด์พอนะคะ ไม่อยากให้ติดภาพ จริงๆอยากให้มองที่การกระทำมากกว่า (แหนะ บรรยายไม่เป็นแต่ก็แถไปนะ ฮ่าๆๆๆ) (แต่พี่ไม่ได้ไม่สะดวกตอบนะ จริงๆพี่ก็มีอิมเมจไว้อยู่แล้วค่ะ) ฝิ่นนี่มาจากพี่สิงห์ในเรื่องตะวันเดือดตอนที่พี่สิงห์ร้องไห้น่ะค่ะ (พี่สิงห์คือใคร พี่สิงห์รับบทโดยโป๊บ ค่ะ ชื่อจริงไรก็ไม่รู้-*-) เห็นแล้วมันใช่เลย อิฝิ่นชัดๆ ส่วนแก้ว อิมเมจแรกที่คิดไว้ไม่ใช่คนนี้แต่ถ้าบอกไปคนอ่านจิ้นไม่ออกแน่ๆเพราะตอนนี้ฮีหัวเกรียนสมกับความเกรียนของฮีเหลือเกิน ตอนนี้ก็เหลือแต่คชา เอเอฟอะค่ะที่คล้ายแก้วที่สุด คนที่มองไว้ว่าเป็นแก้วก็สองคนนี้อะค่ะ คนแรกปล่อยมันไปเถอะ ฮ่าๆ(ขออนุญาตแฟนคลับชาชาตัวน้อยด้วยนะคร๊าบบบ)
น้องก็สู้ๆนะคะ คนเขียนก็แอบอู้งานเขียน คนอ่านก็อู้งานอ่าน เอากับเขาสิเรื่องนี้ กร๊ากกกก เราว่าแก้วมันแพ้ท้องว่ะฝิ่น ตรวจผิดโซนแล่วว เดินเลี้ยวไปแผนกฝากครรภ์เหอะ
กอดดดดดดดคนแต่ง ....รู้ตัวมั๊ย ??
ตัวเองเขียนบทเรียกน้ำตาได้ทะลักมากๆ
เวลาแก้วมันน้อยใจนะ คำพูดแต่ละประโยคเนี่ย เรียกน้ำตาคนอ่าน โฮกๆ
ส่วนคำพูดฝิ่นเวลาเชือดแก้วแต่ละที ...ขอบอกว่ามันเรียกteenzคนอ่านสุดๆ
เกิดอาการเส้นกระตุก อยากเอารองเท้าเขวี้ยงหัวพระเอกแรงๆสักสิบคู่ 
....ตอบว่าไม่รู้ตัวจ้า ฮ่าๆๆๆ รู้แต่ว่าเขียนในอารมณ์ฮาเฮไม่เป็น เล่นมุกตึ่งโป๊ะไม่ได้ด้วย เคยพยายามลองเขียนเรื่องอื่นให้คอมเมดี้นะคะ แต่ไม่สามารถจริงๆ ต่อไปก็จะยึดสไตล์นี่แหละเป็นหลัก ฮ่าๆๆๆ
ปล.ขำกร๊ากตรงแพ้ท้องมาก ฮ่าๆ
กอดๆ ม๊วฟฟฟ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ^^กอดๆ จุ๊บ
ได้เวลาเลิกงานพอดี ฮ่า