อ๊า~~~ คิดถึงจังเล้ย~~~

ตอนที่ 44 หนี...
………. น้ำยืนประจันหน้ากับนายยุทธพิชัยอย่างไม่คิดที่จะถอยสักก้าว
แผนที่สู้อุตส่าห์นัดไอ้เทพพิชัยมากินข้าวที่ร้านนี้
ก็เพื่อให้เอสพาพ่อของมันมาเจอหน้ากันจังๆอย่างตอนนี้นี่ไง
เขาจะไม่ทำให้เอสผิดหวัง หรือเสียเวลาเปล่า และแม้เขาจะต้องต่อสู้กับ
ความรู้สึกที่ยังคงปวดร้าวอยู่ข้างใน...
แต่เมื่อมีเอสอยู่เคียงข้าง............. เขาก็ไม่คิดจะหนีอีกแล้ว!
แต่น้ำก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า.. ยิ่งมองหน้า สู้ตาอีกฝ่าย... เขาก็ยิ่งรู้สึก....เสียใจ...
......นายยุทธพิชัย........... เขาเคยรักผู้ชายคนนี้เหมือน.........
พ่อคนที่สอง....
จะไม่ให้เสียใจได้อย่างไร เมื่อวันหนึ่งต้องถูกทรยศ ...หักหลังกันได้อย่างเลือดเย็น
ทำกับเขาราวกับไม่เคยมีวันคืนที่ผูกพันใดๆกันมาก่อนเลย!
[................................................. หลังจากฝันร้ายหนแรก
คือวันที่เตี่ยกับแม่ต้องจากโลกนี้ไป ... นายยุทธพิชัยหรือ...ลุงย้ง....
เพื่อนสนิทที่รักกันดีมาตลอดของอาเตี่ย ก็ยังให้ความช่วยเหลือและเอ็นดูพวกเขา
สองพี่น้องเป็นอย่างดี แม้จะสิ้นอาเตี่ยไปแล้ว........... แต่..
หลังจากเวลาผ่านไปได้เพียงแค่สามเดือน…
เมื่อน้ำตกลงเซ็นสัญญาขายบ้าน ซึ่งเป็นมรดกชิ้นสุดท้าย..เพื่อล้างหนี้
และหาเงินเรียนต่อให้ตัวเองกับน้องไปแล้ว
... ลุงย้งของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
วันนั้นมันเหมือนฝันร้ายหนที่สอง ที่เขาจะไม่มีวันลืมเช่นกัน...
เมื่อต้องถูกคนที่รักนับถือ เหมือนพ่ออีกคน.... หักหลัง...
“ลื้อสองคนรีบเก็บข้าวของ ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ได้แล้ว! อั๊วจะขายบ้าน!”
คำประกาศกร้าวของนายยุทธพิชัย ทำเอาสองพี่น้อง น้ำและนิกกี้ที่นั่งฟังตกใจจน
ต้องกระเด้งตัวจากที่นั่งบนโซฟา ขึ้นมายืนร้องเสียงหลงพร้อมๆกัน
“ห๊า!!!||||||||||” ราวกับโลกหยุดหมุน หรือหูพวกเขาเฝื่อนไป
แต่ผู้มาเยือน ซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะเจ้าของบ้านตัวจริง กลับทำหน้าไม่พอใจท่าทีของทั้งคู่
“ตกใจอาราย! ไม่ต้องมา ห๊า! พวกลื้อได้ยินกันแล้วนี่! บ้านทั้งสวยทั้งใหญ่ขนาดนี้น่ะ
ปล่อยให้พวกลื้ออยู่ต่อไปก็น่าเสียดายเปล่าๆ!! ขายไปซะอั๊วยังจะได้กำไรเหนาะๆตั้งเป็นสิบล้าน!
ทำประโยชน์ให้ได้มากกว่าพวกลื้อที่กินๆนอนๆตั้งเยอะ!”
“อึก! มะไม่ได้นะครับลุงย้ง! ลุงเป็นอะไรไปครับ!!?||||||||||| ทำไมอยู่ดีๆถึงมาไล่น้ำ ไล่น้อง
ออกจากบ้านอย่างนี้ !? นี่พวกน้ำทำอะไรให้ลุงย้งไม่พอใจงั้นเหรอครับ!? ทะทำไมไม่บอกกันดีๆ..”
น้ำพยายามตั้งสติ ทั้งที่เขาอยากจะเป็นลมด้วยซ้ำ นิกกี้ต้องมาจับแขนพยุงพี่ชายไว้
“ฮึ.... ไอ้กิมน่ะมันซี้ม่องเท่งไปแล้ว! มันก็ทำประโยชน์อะไรให้ธุรกิจของอั๊ว
ไม่ได้แล้ว! พวกลื้ออย่ามาตีหน้าโง่ใส่อั๊วเลยดีกว่าน่า ภายในสามวันนะ! ออกไป!”
“...........ลุง... ลุงย้ง! ทำไมลุงพูดแบบนี้ล่ะครับ!!!?||||||||||||” น้ำไม่อึ้งก็แปลก...
“อึก!นั่นดิลุง!ทำไมลุงพูดถึงเตี่ยแบบนี้!? หึ..นี่!ลุงย้งเล่นอะไรครับ?
พวกผมตามไม่ทันนะลุง!” เหมือนอยากจะส่งยิ้มให้เพราะคิดว่าคงล้อกันเล่นใช่มั้ย..
... แต่ หนุ่มตี๋ก็ยิ้มไม่ออก.. คุณลุงย้งไม่เคยทำสีหน้ารังเกียจพวกเขาแบบนี้มาก่อนเลย
ถ้าจะล้อกันเล่นมันก็แรงเกินไปแล้ว เล่นประกาศขายบ้านที่เป็นเหมือนชีวิตจิตใจ
ของพวกเขาสองคนเสียขนาดนี้
“หึ....พวกลื้อนี่มันอ่อนต่อโลกจริงๆนะ ใครเขาพูดอะไรก็เชื่อมันไปหมด!555
ทีเวลาอั๊วโกหกพวกลื้อทำไมถึงได้ซื่อบื้อ เชื่อฟังอั๊วง่ายดีจังวะ?55 เห๊อะทีเวลาอั๊วพูดเรื่องจริง
ไม่เห็นมีใครเข้าใจ ยอมเชื่อกันง่ายๆบ้างเลยว้า~!? ฟังนี่!ฟังที่อั๊วจะพูดให้ดีๆ!! เตี่ยพวกลื้อน่ะมันตาย!!
ตายห่าไปแล้ว!!! ซี้แหง๋แก๋! ไปเป็นปุ๋ยให้ผักได้อย่างเดียว แต่ทำเงินให้อั๊วไม่ได้แล้ว!
อั๊วจะคอยอุ้มชูพวกลื้อต่อไปก็ไม่ได้อะไร!เอ้อเข้าใจกันบ้างซี่! พวกลื้อก็ไม่มีอะไรจะขายอีกแล้วด้วย!
เหลือแต่ตัวกับเงินนิดหน่อยที่อั๊วจ่ายให้เท่านั้น5555 แหม่แต่มันก็น่าจะพอสำหรับคนอย่างพวกลื้อแล้วน่า!5555
เอาล่ะ! อย่าทำให้อั๊วเสียเวลาทำมาหากินเลยนะ นับตั้งแต่วินาทีนี้ไปพวกลื้อไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นี่อีกแล้ว!
เก็บข้าวของออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ!!!จะไสหัวไปอยู่ที่ไหนกันก็ปายยย! เพราะอั๊วจะขาย!!”
ท่าทางที่ยักไหล่..ไม่แยแสสายตาน่าสงสารของสองพี่น้องที่มองดูเขาเหมือน
โลกทลายนั้น........ช่างดูไร้หัวใจนัก...
น้ำสอดมือที่เย็นเฉียบของตัวเอง จับมือที่รู้สึกได้ว่าเย็นไม่แพ้กันของน้องชายไว้แน่น..
หลังจากได้ยินสิ่งที่อยู่ในใจของคนที่พวกเขาหลงรักและนับถือมาตลอด
ก็ถึงกับน้ำตาไหล.. อย่างที่ไม่อาจจะกลั้นได้..
จิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้..หยั่งถึง....
อย่างที่แม่เคยบอกไว้ อย่างที่ครูทุกคนเคยสอนสั่งจริงๆ
วันนี้พวกเขารู้แล้วว่า ความเจ็บช้ำที่กำลังเผชิญหน้าอยู่คืออะไร
มันไม่ใช่การไร้ที่ซุกหัวนอน... แต่เป็นการที่ต้องเสียคนอันที่รักไป
ทั้งที่ยังไม่ตายจากกัน เพราะเขากำลัง ตายจากใจ..
ลุงย้ง... คนที่เคยพูดว่าให้พวกเขาเข้มแข็งเข้าไว้ แล้วลุงจะเป็นกำลังช่วยเอง
ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ขอให้นึกถึงลุง..... ลุงคนที่เคยยิ้มแย้ม ใจดี ลูบหัวเอ็นดูพวกเขาเสมอ
คนที่เคย.....บอกว่า รัก พวกเขาเหมือนลูกของตัวเอง....
ลุงย้งคนนั้นไม่มีอยู่จริงมาตั้งแต่แรกแล้วสินะ!
มีแค่คนหน้าเงินที่ทำได้ทุกอย่าง เพื่อหลอกลวงพวกเขา!!
ทำไมมันถึงได้เจ็บในอกถึงเพียงนี้...............
คำว่า เสียใจ ยังน้อยเกินไป!
“ไม่! ไม่!!! น้ำจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!ฮึก!ฮือ!! น้ำไม่ไป! นี่มันบ้านน้ำ!
ลุงย้งไม่มีสิทธิ์มาไล่น้ำ! ลุงย้งทำอย่างนี้ได้ยังไง!! ฮืออ!!!~ น้ำเกลียดลุง!
น้ำเกลียดลุงย้งที่สุดเลย!!!ฮือออ!!ฮือออ!! น้ำเกลียดลุง!ทำไมทำกับเตี่ยกับแม่
ทำกับพวกเราอย่างนี้!!ฮืออ!!!”
คำตะโกนต่อว่าที่แผดดังด้วยทั้งความเศร้าเสียใจ และความโกรธที่บันดาลขึ้น
ไม่ได้ทำให้ชายที่กุมใบโฉนดบ้านพร้อมที่ดินในมือสะทกสะท้านแต่อย่างใด..
“ฮึ่ม! ไม่รับรู้อะไรด้วยหรอกนะ! แล้วก็ไม่ต้องมาร้องไห้ให้อั๊วเห็นหรอกไอ้กระเทย!
รู้กันไว้ว่าต้องออกไปจากบ้านหลังนี้ก็พอ! ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกันแน่! แล้วจะหาว่า
อั๊วไม่เตือนพวกลื้อสองพี่น้องไว้ก่อนนะ!”
ไม่พูดเปล่า แต่ชี้หน้าอย่างดูถูกเหยียดหยามไปด้วย เพราะหน้าตาที่ดูสวยหวานเกินชาย
รูปร่างบอบบาง และยังท่าทางที่ไร้ทางสู้ของน้ำ
“ฮึ่มม!!! มึงมันไอ้ชั่ว!!! อย่ามาว่าพี่กูนะไอ้คนจัญไร! ไสหัวกลับไปเลย!!!
ไม่ต้องมาขู่กูไม่กลัวมึงหรอก! เอาซี่! ให้มันรู้กันไป พวกกูไม่ออก! ไม่ไปไหนทั้งนั้น!
มึงผิดสัญญากับพวกกูก่อน!! แล้วตั้งแต่วันนี้ไป พวกกูจะไม่มีวันญาติดีกับมึงอีก!
ไม่มีวันนับถือมึงอีกไอ้คนเลว! กูเกลียดมึง!มึงได้ยินมั้ย!!!”
เสียงตะคอกที่ดุดันแข็งกร้าวของคนน้อง ทำเอาคนมาขับไล่สะดุ้งตกใจ
ในท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันนั้นไม่น้อย....
ขณะที่นิกกี้ประคองกอดพี่ไป... น้ำตาของเขาก็ไหลไม่หยุด
ความเสียใจที่มีไม่ได้น้อยไปกว่าพี่ชายของเขาเลย...
ยิ่งด่าเขา เรากลับยิ่งเสียใจ.............. ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย!
“เอ้อ!!!-*- แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!ฮึ่ม!!! บ้านนี้เป็นของอั๊ว!! อั๊วจะยกบ้าน
ให้หมาขี้เรื้อนมันอยู่ก็ยังได้! อยู่ที่ว่าพวกลื้อจะยอมเป็นหมาขี้เรื้อนรึเปล่าล่ะ!?55
อย่าหวังจะได้อยู่ที่นี่ต่อเลย! ไอ้พวกเด็กสันดานเสียอุตส่าห์มาบอกดีๆไม่ชอบ!!
อีกอย่างลูกชายอั๊วจะกลับมาจากเมืองนอกอีกไม่กี่วันนี้แล้ว! หึ... หวังว่าพวกเรา
คงไม่ต้องเจอหน้ากันอีก! เพราะอั๊วจะให้ลูกชายมาจัดการกับพวกลื้อเอง!555
คอยดูกันไปเถอะ! สัญญาขายบ้านก็อยู่ในกำมืออั๊ว ไอ้งั่งอย่างพวกลื้อมันไม่มีปัญญา
ทำอะไรได้หรอกรู้ไว้ซะ!!!555555..”
เสียงหัวเราะทิ้งท้ายที่เจ็บแสบนั้น......เหมือนเหยียบเข้าไปในหัวใจของน้ำและน้อง
ให้แตกสลาย.......
นั่นสินะ......ใครจะไปรักคนอื่นมากกว่าลูกของตัวเอง...
ลูกชายตัวจริงเขาจะกลับมาแล้ว ส่วนพวกเขานั้นก็เป็นเพียงแค่
คนที่หาประโยชน์อะไรด้วยไม่ได้แล้ว.....
ไม่ได้ถูกจัดอยู่แม้แต่ในหมู่ของคนเคยรู้จัก... แต่กลายเป็นพวกคนที่เขาไม่อยาก
จะรู้จักด้วยอีกต่อไปแล้ว.........
บทเรียนนี้..... จ่ายแพงเหลือเกิน.....
เจ็บปวดเหลือเกิน......
“นิกกี้.....ฮึกฮึก...พี่ขอโทษ!! ฮือออ!!! พี่ขอโทษ!!! ฮืออออ... ”
น้ำได้แต่กอดน้องร้องไห้ให้กับความโง่ของตัวเอง แม้น้องชายจะเฝ้าปลอบเขา
แต่เขาก็ไม่อาจจะอภัยให้ตัวเองได้เลย...
หลังจากนั้น.... น้ำก็ยิ่งช้ำใจจนถึงกับนอนซมเพราะไข้ขึ้นอยู่หลายวัน เมื่อได้รู้ความจริง
จากการให้นิกกี้โทรไปหาอดีตทนายของพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาเอาแต่พึ่งลุงย้ง
จนไม่ได้รู้เรื่องจริงใดๆเลย ว่าพวกเขาถูกหลอกเสียสนิท ..
หนี้ส่วนของเตี่ยนั้นมีแค่ไม่ถึงแสน แต่เขากลับโดนกล่อมให้ขายทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เตี่ยกับแม่เหลือไว้ให้ไปหมดแล้ว....
เพราะหลงเชื่อตามลมปากของคนที่คิดว่า จะเข้ามาช่วยดูแลพวกเขาอย่างจริงใจ....
แถมยังโดนหลอกให้ขายบ้านต่ำกว่าราคาจริงนับสิบล้าน เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้
ที่เตี่ยไม่ได้ก่อ โดยไม่รู้ทันความเลวของเจ้าคนคิดคดนั่น.......
แล้วยัง..... ความรัก ...ความผูกพันที่เคยมีให้...
ต้องมาโดนเหยียบย่ำซ้ำเติม จนแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี!!
เขาจะไม่มีวันอภัยให้มัน.......... ไอ้ยุทธพิชัย!!! ……….]
คนที่สาบานว่าจะขอเกลียดไปจนวันตาย ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน
เขาก็ยังคงเกลียดมันเหมือนเดิม!!
“คงไม่ต้องเล่าหรอกครับ เรื่องที่ไม่น่าจดจำ!... อย่ามาใช้คำว่ารู้จักหรือสนิทกันดี
เลยดีกว่า............... เพราะผมขยะแขยง!!” คนน่ารักจ้องตากร้าว กระแทกเสียงใส่
ต่อหน้านายยุทธพิชัย เล่นเอาอีกฝ่ายสะดุ้งหน้าเสีย
“คนหน้าด้านอย่างนี้ผมไม่รู้จัก!! ไม่อยากแม้แต่จะให้หน้ามันมาอยู่ในหางตา!
คุณคิดให้ดีเถอะเอส คนที่คิดคดทรยศเพื่อนรักตัวเองมันคบได้ที่ไหน!!
จะทำธุรกิจกับมันเหรอ!? หึ! ไปทำงานกับหมา!ซะยังจะดีกว่า!! เดี๋ยวก็หมดตัว
ไม่รู้ตัวหรอก! จำไว้ให้ดีเถอะไอ้หน้าเหี่ยวๆย่นๆ คิ้วชี้ฟ้าหัวเถิกๆ จมูกบานๆอย่างเนี๊ยะ!
คบไม่ได้หรอก!!ชาติชั่วชัดๆ!!!”
“น้ำ!..” เทพพิชัยได้แต่ครางเรียกชื่อคนที่เขาเฝ้ารักอย่างเสียใจ....
ได้ยินพ่อตัวเองถูกด่า มันราวกับเขาถูกด่าเสียเอง.. น้ำไม่ยอมลงให้พ่อของเขาแม้สักนิด..
เหมือนที่ไม่เคยไว้หน้าเขา ทุกๆครั้งที่ด่าเขา ก็คงคิดว่ากำลังด่าพ่อเขาด้วยสินะ..
โดนชี้หน้าตะคอกด่าลั่นจนผู้คนรุมมองให้ได้อายขนาดนี้ มีหรือที่นายยุทธพิชัยจะทนได้
เอสต้องรีบผวาจับตัวน้ำให้ถอยไปหลบด้านหลังของตัวเองทันที ที่เห็นว่าอีกฝ่าย
ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่คนน่ารักของเขาด้วยความโมโหจนหน้าแดงก่ำ แต่จังหวะนั้น
ตัวลูกชายก็เข้ามาจับคนเป็นพ่อเอาไว้เหมือนกัน
“ปล่อย!! ปล่อยป๊านะอาเทม!!!||||||||*|| นี่ลื้อไม่เห็นมันด่าป๊าเรอะ!!!
ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! ป๊าจะสั่งสอนมัน!!! ฮึ่มม! อาคุณเอสครับ!
อย่าไปเชื่อที่มันพูดนะ ไอ้เด็กคนนี้มันนิสัยไม่ดี!!|||||||||||มันคิดจะให้ผมฉิบหาย!”
คิดจะดิ้นให้หลุดจากมือลูกไปต่อยปากเขาให้ได้ แต่ลูกชายก็จับไว้แน่นเหลือเกิน
“ฮึ่มม!!! คุณทำอะไรเอาไว้ก็น่าจะรู้ตัวเองดีนะคุณยุทธ! งานนี้ผมคงต้องขอถอนตัว!”
ยิ่งได้ยินที่ว่าที่หุ้นส่วนคนสำคัญพูด... นายยุทธพิชัยก็ผงะแทบหน้าหงาย
“มะไม่ได้นะ!!! ไม่ได้นาอาคุณเอส!!||||||||||| ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ!อย่าไปเชื่อมัน!
มันตอแหล! ไอ้เด็กนี่มันเกลียดผม! คุณคิดถึงผลกำไรที่เราจะได้ร่วมกันซี่~!!!”
ดาราหนุ่มยังยืนกันคนรักไว้ด้านหลังตน แล้วมองชายตรงหน้าอย่างสมเพช..
“เฮ้อ~! นี่คุณคงไม่คิดว่าผมจะเชื่อคุณมากกว่าผู้ช่วยของผมหรอกใช่มั้ย!?
โทษทีนะแต่คุณคงต้องไปหาหุ้นส่วนเอาใหม่แล้วล่ะ! เพราะผมไม่ไว้ใจคุณ!”
เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องสูญเสียผลประโยชน์มหาศาลไป นายยุทธพิชัยก็ยิ่งบันดาลโทสะ
ชี้หน้าพาลด่าตะคอกน้ำอย่างเจ็บใจ “ลื้อมันงูพิษชัดๆไอ้เด็กเหลือขอ! ระวังตัวไว้
ให้ดีเถอะ! นี่คงคิดจะมาจับลูกชายอั๊ว ให้อั๊วเป็นบ้าเล่นสินะ!! จำใส่กะโหลกเน่าๆ
ของลื้อให้ดีๆ อั๊วไม่มีวันยอมให้ลื้อมายุ่งกับลูกอั๊วอีก!”
แต่คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนกับคำพูดนั้น ดูเหมือนจะเป็นลูกชายของเขาเองมากกว่า
“ป๊า!!|||||||| มันไม่ใช่อย่างนั้นนะป๊า! ใจเย็นๆก่อนแล้วค่อยๆพูดกันได้มั้ย!!”
“ฮึ่ม! ลื้อหุบปากไปเลยอาเทม! เป็นเพราะลื้อไม่เคยเชื่อป๊าเลย!! บอกว่าอย่าไป
ยุ่งกะมันๆ เห็นมั้ย!! แหกตาดูซิว่ามันทำป๊าฉิบหาย ด่าป๊าเสียหมาขนาดไหน
คนอย่างนี้น่ะเหรอที่ลื้อว่าดี! ถุ๊ย!! ต่อให้ป๊าเอาตีนคิดยังรู้เลยว่ามันหลอกใช้ลื้อ!!
มันอยากจะทำให้ป๊าอกแตกตาย! ไอ้เทม! ถ้ายังไม่เชื่อฟังป๊า
ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเรียกป๊าว่าป๊า!!! จะไปเป็นลูกหมาที่ไหนก็ไปเลยเราขาดกัน!
ให้มันรู้กันไปซิว่าลื้อจะเห็นผู้ชายดีกว่าป๊าลื้อ!!!”
คำขาดจากปากพ่อ ทำเอาลูกชายหน้าซีด...... เทมมองหน้าพ่อตัวเองอยู่อย่างนั้น
ใช่แล้ว................... นี่สินะ........... สิ่งที่น้ำต้องการ...
น้ำไม่ได้หลอกใช้เขาหรอก... แต่ต้องการกำจัดเขาออกไปจากชีวิต
ด้วยการหลอกใช้พ่อของเขาต่างหาก...
หนุ่มน่ารักกัดกรามแน่นด้วยความโมโห กำหมัดแน่นแต่ก็ต้องข่มใจไม่เข้าไป
ต่อยปากตาแก่จอมขี้โกง ที่คิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาอยากจะเข้าไปยุ่งกับ
ไอ้ลูกชายห่วยๆของมันเหลือเกิน .. เพราะทุกอย่างมันก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้แล้ว
ตอนนั้นเอง น้ำสังเกตเห็นพนักงานเสิร์ฟ ลากแขนชายแต่งตัวดีท่าทางเหมือนเป็น
ผู้จัดการร้านอาหารนี้ พากันเดินเข้ามายังที่พวกเขายืนประจันหน้ากันอยู่ ..
ลูกค้าในร้านก็พากันแตกตื่น มองจ้องมาทางพวกเขาไม่วางตา
แน่ล่ะก็กำลังมีเรื่องกันอยู่นี่นะ... แต่มีเรื่องไม่ดีอย่างนี้ คงไม่เป็นผลดี
ต่อดาราดังที่ใครๆก็รู้จักหน้าอย่างเอสเป็นแน่
“(กระซิบ) เอส! ผมว่าได้เวลาแล้วล่ะ เรารีบชิ่งกันเถอะ!”
คนหน้าหล่อพยักหน้ารับ ก่อนโดนผลักให้ไปยืนอยู่ด้านหลังแทน
อย่างน้อย คนน่ารักก็อยากจะขอทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายแค้นใจเล่น
“ดี! มึงก็ได้ยินเต็มสองรูหูแล้วนะไอ้เชี่ยเทพ! ที่พ่อเลวๆของมึงพูด!
กูล่ะขอสาปส่งพวกมึงเลย!! อย่ามายุ่งกับชีวิตกูอีก!!! ไปตายห่าที่ไหนก็ไป!
กูเกลียดพวกมึงทั้งพ่อทั้งลูกเลยไอ้พวกขี้โกง ไอ้พวกเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!”
น้ำเล่นตะโกนแหกปากเสียลั่นร้านด้วยความสะใจ แล้วชูนิ้วกลางใส่หน้าสองพ่อลูก
เดือดร้อนเอสต้องรีบรวบตัวคนน่ารักของเขา ที่กำลังทำกิริยาไม่น่ารักเลย
พาออกไปจากร้านเดี๋ยวนั้นโดยไม่รอเคลียร์กับทางร้านแต่อย่างใด ||||||||||||||||
“ดู!!!ลื้อดูมันอาเทม!! |||||||||||*|| มันประกาศกลางร้านให้ป๊าขายขี้หน้าเขาชัดๆ!!”
นายยุทธพิชัยทำท่าเหมือนจะตามไปหาเรื่องเขาอีก แต่เจ้าลูกชายไม่รักดีก็จับเขา
เอาไว้อีกแล้ว “พอ!พอซะทีเถอะป๊า!!!ฮึก!...”
ไอ้หนุ่มลูกครึ่งตะคอกเสียงใส่ เพื่อเรียกสติพ่อตัวเองให้หันกลับมาสนใจเขาบ้าง
“ป๊า!..... ป๊าก็รู้อยู่แก่ใจ............... ว่าป๊าเคยทำอะไรเขาไว้.....”
ได้ยินลูกพูดเสียงสั่น... น้ำตาคลอเบ้าอย่างนั้น..
คนเป็นพ่อที่รู้ตื้นลึกหนาบางดีกว่าใครๆก็ถึงกับสะอึก
“นี่ลื้อ! อาเทมลื้อไปเชื่อลมปากมัน มากกว่าพ่อตัวเองอย่างป๊าเรอะ!”
“พอซะทีเถอะป๊า!!! ป๊าก็คิดว่าผมโง่เหมือนที่ใครๆคิดใช่มั้ย! จะหลอกผมไปถึงเมื่อไหร่!?
ป๊าหลอกให้ผมไปไล่เขาออกจากบ้าน! หลอกว่าเขาโกงเงินบ้านเราไป!
แล้วความจริงมันคืออะไร!! ที่ป๊าเกือบหมดตัวคราวนั้นก็เพราะไปเล่นพนันมาใช่มั้ย!
แถมยังทรยศเพื่อนตัวเองอีก! ไม่ได้โดนเขาโกงแต่ไปโกงเขามาทั้งนั้น!!!!
ทำไมผมจะไม่รู้!..............ฮึก..ฮึก....”
เทพพิชัยระเบิดอารมณ์ และความรู้สึกแสนทรมานที่เขาต้องเก็บกดเอาไว้มาตลอด
ต่อหน้าพ่อตัวเองที่อ้าปากค้างหน้าซีด และมองเขาอย่างตกตะลึงไม่วางตา..
เทมทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นอย่างหมดแรง........ก่อนเงยหน้าขึ้นมองพ่อที่ยืนตัวสั่น
“ แต่ป๊า... เป็นป๊าของผม.. ฮึกฮึก...ถึงผมอยากจะหนีไปที่ไหนก็ไม่มีวันลบความจริงข้อนี้ได้...
.......... ผมเป็นลูกของคนที่ทำร้ายชีวิตเขา!ฮึก....ฮึกฮึก... ที่เขาเกลียดเรา
มันถูกแล้วป๊า.....มันถูกแล้วป๊า!! เขาเกลียดผมยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน! มองผมเหมือน
เศษขยะทุกครั้งที่เจอหน้า! เขาอยากจะฆ่าผมให้ตายด้วยซ้ำ! เขาไม่มีวันรักผม!!
เขาไม่มีวันรักผม!!เพราะผมเป็นลูกของป๊า เหมือนที่ป๊าเคยบอกผมนั่นแหละ!!!”
“อาเทม..............|||||||||||||.... ป๊า..” นายยุทธพิชัยพูดอะไรไม่ออก...
แต่มือของคนเป็นพ่อก็อยากจะเอื้อมไปจับไหล่ที่สั่นไหวด้วยอาการสะอื้น
ร้องไห้อย่างไม่อายใครของลูกชายไว้นัก... ไม่เคยเห็นลูกชายจอมอวดดีของเขา
ร้องไห้เสียใจอย่างนี้มาก่อนเลย........
..... มันเสียใจเพราะเรื่องที่ไม่ได้รักกับไอ้เด็กนั่น.............. หรือเพราะ
เรื่องที่เขาทำเอาไว้กันนะ.........แต่...ไม่ว่าจะเรื่องไหน.........
คนที่ทำให้มันเสียใจ.. ก็คือตัวเขาเอง......
พ่อของมันเอง...
ยังไม่ทันที่มือของพ่อจะเอื้อมถึงตัว ร่างที่ทรุดอยู่กับพื้นก็พลุนพลันลุกขึ้น
สะบัดมือที่จะเอื้อมลงไปจับตัวเขานั้นให้ออกห่าง…
น้ำตาที่ไหลรินอยู่บนใบหน้าของลูกชาย กับสายตาที่ใช้มองจ้องหน้าเขา
บอกให้รู้ได้อย่างชัดเจน ว่าลูกกำลังอยากบอกว่าเสียใจ และผิดหวังในตัวเขา
มากเพียงไหน..
เทพพิชัยหันหลังให้พ่อแล้วเดินอย่างเร็วหนีออกจากร้านไป
โดยไม่ยอมหันกลับไปสนใจ เสียงร้องเรียกของพ่อเขาเลยสักนิดเดียว
“อะอาเทม!!||||||||||||| ลื้ออย่าไปนะ!อาเทม!! อาเทม!!!”
อยากจะตามลูกไปนัก แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเหล่าพนักงานในร้านที่ฉุดแข้งฉุดขาเขาไว้
“ขะขอความกรุณา! ท่านลูกค้าช่วยเช็คบิลก่อนด้วยครับ!!!||||||||||||||”
………………………
……………….
(มีต่อนะจ๊ะ^^ ) 