หกจุดสอง.....กรุณาอย่าแย่งกัน....(ฉันมีพอสำหรับทุกคน)เสียงพูดคุยดังมากเสียจนหนุ่มน้อยหัวใจสาวต้องฝืนตื่นลืมตาขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ มือของเขา(หรือเธอ)ไขว่คว้าหาโทรศัพท์มือถือด้วยความเคยชิน และหลังจากเพ่งมองด้วยตาตี่ ๆ บวม ๆ อย่างคนที่ยังไม่ตื่นดีนัก เดย์เหย่ก็พบว่า.....
มันเพิ่งจะหกโมงครึ่งเท่านั้น!!!!
“ผมไม่ได้ทำบุญใส่บาตรแบบนี้นานแล้วนะครับเนี่ย....แล้วก็แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายของคุณยายสุโคร่ยมาก ๆ”
“ขนาดนั้นเลยหรือจ๊ะหนุ่มน้อย.....ถ้าอร่อยล่ะก็ กินเยอะ ๆ สิพ่อคุณ เอ้า....เอาข้าวสวยอีกมั้ยเดี๋ยวยายตักให้”
คนงามยามเช้าเดินขยี้ผม ตามเสียงพูดคุยออกมาจากห้องนอน เสียงหวาน ๆ เอ่ยถามยายอันเป็นที่รัก....
“ยาย.......ใครอ่ะมาหายายแต่เช้า....ฮ้าวววววววววว”
“เดย์เหย่ของเพ่.....”
“เจ้ยยย.....อิพี่ตี๋......นี่มันอะไรกันย๊ะ.....มาหาของฟรีกินแต่หัววันเลยนะอิบร้า”
หญิงชราหัวเราะขัน ๆ....ก่อนจะลุกเดินไปทำธุระเก็บล้าง เดย์จ้องมองผู้ชายหน้าตี๋ ตาตี่เป็นแป๊ะยิ้ม กำลังยิ้มแฉ่ง ข้างแก้มมีเศษข้าวสวยติดปาก
“ไม่ต้องมายิ้มเลย.....”
“ก็แหม.....พี่น่ะมารับส่งแกทุกว๊านนนน....ทุกวันนี่ ก็ตอบแทนพี่เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้รึไง หรือจะตอบแทนเป็นร่างกายของเจ้าฮึ....แม่นางเดย์เหย่”
“จะเอาไปทำไมยะ.......เอาไปทำเป็นเสาค้ำเรือนรึไงอีนี่”
แขกยามเช้าไม่ตอบ เพราะเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาโซ้ยข้าวเช้าอย่างหิวโหย แม่กะเทยโย่งโก๊ะได้แต่มองตามแล้วก็อมยิ้ม....
หมอนี่มันน่ารัก....เด็กน้อย.....ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นพี่เลยสักนิด แต่กลับรู้สึกเอ็นดูเหมือนน้องเหมือนนุ่งมากกว่า“ช้า ๆ ก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก”
“พี่มารับเราไปห้องพี่น่ะ ไปอัดคลิปลงยูทูปกัน พี่เตรียมเพลงคู่ไว้เพียบเลย.....ไปนะ”
“นี่ชวนหรือบังคับยะ”
“บังคับชวน”
“ไปก็ไปสิ....เดี๋ยวเดย์ไปช่วยยายล้างหม้อไหจานชาม อาบน้ำแต่งตัว....ประมาณชั่วโมงครึ่งนะ.....อย่ามาทำหน้าอย่างนั้น....เพราะวันนี้มันวันอาทิตย์ ดิฉันตื่นสี่โมงกว่า ที่ตื่นนี่เสียงพ่อล้วน ๆ”
“คร๊าบแม่”
“แอร๊ยยยยย เดี๋ยวตบฟ่ำเลย”
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งหลังรออยู่นานพักใหญ่แล้ว ตรงใต้ถุนตึก....เจยืนพิงเสาพร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มหญิงสาว....ไม่สิ....ชายหนุ่มกับกะเทยออกสาว กำลังเดินลงมาพร้อมกับหยอกล้อเล่นหัว หัวเราะหัวใคร่กันตลอดทาง แล้วแม่เดย์เหย่คนงามในชุดเสื้อยืดลายแมวเหมียวตัวโคร่งกับกางเกงขาสามส่วน(แน่นอนว่านางแว๊กซ์ขนหน้าแข้งแล้ว แต่ก็ไม่ใช่พวกชอบโชว์ขาอ่อน ตามสไตล์เด็กแนวเรียบ ๆ)....สีครีมอ่อน
“นี่แกอีกแล้วเหรอ”
น้ำเสียงนั้นเจือความระอาและเบื่อหน่ายพร้อม ๆ กัน เดย์คว้าแขนพ่อเด็กน้อยจอมทะเล้น เดินลิ่ว ๆ ผ่านชายหนุ่มไปโดยไม่สนใจ
“เฮ้ยยย.....มันจะมากไปแล้วนะอีตุ๊ด”
เจปราดเข้าไปขวางหน้าคนงามทรามวัยเอาไว้ แล้วเพียงแค่ข่มขู่เบา ๆ ด้วยน้ำเสียงและท่าเงื้อหมัด ก็ทำเอาพ่อคนป๊อดรีบไปหลบหลังกะเทยร่างโย่ง ราวกับลูกน้อยหลบหลังคุณแม่ ผิดกับเดย์ที่จ้องตอบอย่างเฉยชา
“จะไปไหน....”
“ไม่ใช่เรื่องของแก”
“กูมารับมึงไปขี่รถกินลมเล่น”
“ในกรุงเทพเนี่ยนะ....ไม่ล่ะขอบใจ ชั้นมีรถเก๋งมารับแล้ว”
“ใช่สินะ....มึงมันสวยแล้วนี่ จะเลือกมากก็คงไม่แปลก....แต่เท่าที่เห็นก็มีแต่ไอ้หน้ามืดรสนิยมแย่ตัวนั้น กับไอ้แหยนี่.....หึ....ตัวเลือกมึงนี่วิเศษจริง ๆ”
“สองคน....ก็พอแล้วมั้ง ให้หมู่แบบหนูพีทของแก เห็นทีคงจะรับไม่ไหว เครื่องพังกันพอดี....หึหึหึ”
การปะทะคารมสิ้นสุดลง....เมื่อชายโฉดเงื้อหมัดขึ้นหมายจะชกกะเทยปากกล้าให้รู้ซึ้ง ว่าอย่าได้สะเออะมาต่อปากต่อคำ หากแต่พ่อหนุ่มหน้าตี๋นั้น เอาหน้ามารับไว้ได้ทันท่วงทีอย่างกับพระเอกละคร....
“เฮ้ยพี่ตี๋.....นี่แกเป็นอะไรมากมั้ยวะเจ....พอเหอะ.....ไม่รู้ว่าแกคิดจะทำอะไรแต่มันเปล่าประโยชน์มากเลยรู้มั้ย”
“โว๊ยยยย.....แมร่งมีแต่พวกหน้าโง่มาขวางตลอด มึงมันมีอะไรดีวะ ถึงได้มีแต่คนปกป้อง”
“ไม่ต้องให้ใครมาปกป้อง....ชั้นก็ปกป้องตัวเองได้ย่ะ”
เคยรักมาก.....
เคยเกลียดมาก....
แต่ว่าตอนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรให้คน ๆ นี้อีกแล้ว
ชายหนุ่มกุมหน้าร้องโอดโอยเมื่อเจอกับฤทธิ์แสบร้อนของสเปรย์พริกไทย อภินันทนาการจากคุณยายเลดี้แอลคนงาม
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึงอีตุ๊ด....โอย....ตากูจะบอดมั้ยเนี่ย”
ชายหนุ่มทรุดร่างลง....มีเพียงแค่เสาอาคารให้ได้พิง มือใหญ่ขยี้ตาอย่างบ้าคลั่ง แต่เดย์กลับหันหลังแล้วประคองพี่ชายหน้าตี๋ร่างเล็กออกมา ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความสงสาร
เอาเหอะ....มันไม่ตายง่าย ๆ หรอก.....ชั้นโดนกระทืบซะอ่วมยังรอดมาได้เลย...ชิส์.
.
.
.
.
.
.
“ถ้ารู้ว่าทำแล้วมันเจ็บตัว แถมยังไม่เท่ห์เลยซักนิด....ทีหลังก็อย่าทำนะคะพี่”
ยาทาแก้ฟกช้ำบนปลายนิ้วคนงามค่อย ๆ เกลี่ยจนทั่วรอยเขียวอมม่วงที่มีเลือดซิบ ๆ ใต้เบ้าตา พ่อหน้าตี๋หลับตา พร้อมกับรับสัมผัสเย็น ๆ ที่คุณเธอบรรจงเป่าลงมา
“ฟู่.....หายนะเพี้ยง”
“พี่ไม่ใช่เด็กนะไอ้ตุ๊ด”
“พี่น่ะมันโครตเด็กเลย หนูน่ะโดนยิ่งกว่าพี่อีก ยังไม่ยักกะดูแย่ขนาดนี้....พ่อผิวบาง....บ๊างบาง”
“เออ....ก็พี่มันผิวผู้ดี ไม่ได้กร้านแบบแกนิ....ขอบใจนะที่ทายาให้พี่น่ะไอ้ตุ๊ดติงต๊อง”
“หนูก็ขอบใจที่เอาหน้ามารับหมัดของไอ้หมาบ้าแทนหนู แต่ทีหลังไม่ต้องนะ หนูน่ะชินกับหมัดมันแล้ว มันชกมาหนูก็หลบหวืดได้สบายบรื๋อ”
“เออเอ็งเก่ง”
ตี๋ค่อย ๆ ทำเนียน....เอนซบแม่เดย์เหย่ ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตำแหน่งของศีรษะลงมาบนตักของแม่คุณ น่าแปลกที่คุณเธอไม่ขัดขืน หากเป็นผู้ชายคนอื่น ต่อให้เป็นนายแสนดีอย่างพี่ต้นก็เหอะ มาทำรุ่มร่ามแบบนี้เป็นได้เจ็บกระดองใจ
ก็บอกแล้วว่าเอ็นดูเหมือนน้องนุ่ง.....ไม่สิ....เหมือนลูกเหมือนหลาน“พี่อยากร้องเพลงนี้กับเรา.....งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวงของวง Cocktail เพราะเสียงแกสูงใช้ได้....น่าไปเป็นดูโอกับเบลล์ นันทิตานะ....แต่ตอนนี้เป็นดูโอกับพี่ก่อนละกัน....”
“นอนพักไปเหอะ...เด็กน้อย...เอาไว้เดี๋ยวค่อยอัดคลิปก็ได้....หนูน่ะว่างทั้งวัน มีเวลาเล่นกับพี่เยอะ”
พ่อหน้าตี๋ยิ้มแฉ่ง อันดูเหมือนว่าจะเป็นจุดขายอีกอย่างนอกจากใบหน้านิ่ง ๆแต่ดูก๊วนกวนเหลือเกิน เดย์ค่อย ๆ เกาหัวรุ่นพี่นิสัยเด็กอย่างแผ่วเบา จนอีกฝ่ายหลับปุ๋ย
“เออ....นี่ชั้นกลายเป็นแม่ลูกอ่อนแล้วหรืออย่างไรฟะ”
.
.
.
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น....
ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม....ร่างโปร่งเดินลงมาเพื่อเตรียมตัวจะไปเรียนหนังสือตามปกติ หากแต่ว่าวันนี้สารถีหน้าทะเล้นนั้น ไม่มีแม้แต่วี่แวว
“รอราชรถมารับเรอะอีตุ๊ด”
เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออกูล่ะหน่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเดย์ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะสลัดผู้ชายน่ารำคาญที่ครั้งหนึ่งเธอเคยหลงใหลได้ปลื้มคนนี้ไปได้ คนงามที่วันนี้สวมวิกผมสั้นแบบสาวย้อนยุคทวิกกี้ เพียงแต่เป็นวิกผมสีดำไม่ใช่สีบลอนด์ทองจ๋า ทำให้ดูน่ารักเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป หันไปฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มอย่างเสแสร้งสุด ๆ
“ฮัลโหลเดย์จ๋า วันนี้ไปเองวันนึงนะจ๊ะ....รถเฮียตี๋ถูกวางเรือใบ ยางแตกกระจุยยยยยย”
เง้อ.....นั่นแหละนายตี๋ ตี๋น้อย.....ต่อให้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ทุกอย่างก็ดูเหมือนเป็นเรื่องตลก ไม่ต้องเดาให้ปวดหัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร ถ้าหากว่าเรื่องนี้...ไม่ใช่ฝีมือของไอ้หนุ่มหน้าหล่อร้ายตรงหน้าเดย์นี่ล่ะก็นะ
ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นฝีมือของผีห่าซาตานตนไหนอีกแล้วล่ะ!!!!
“ไปรถกูก็ได้นะถ้าไม่อยากสาย”
“ฝันไปเถอะ....แกนี่เหมือนอะไรรู้มั้ย หมากฝรั่งติดรองเท้า เอาออกย๊ากยาก....ชั้นไปล่ะ”
ชายหนุ่มวิ่งไปดักหน้าคนสวย(ที่ตอนนี้ติดหล่ออยู่นิด ๆ ตามสไตล์ตุ๊ดทอมบอย????) พ่อคุณควักสมุดพกออกมาเล่มหนึ่ง แล้วจดยุกยิกอย่างไม่ค่อยจะถนัดนัก
“เจ็บมาก....ที่มึงพูดเมื่อกี้ เล่นเอาซะกูจุกเลย แต่ว่ากูน่ะเป็นคนที่ใจกว้างพอ ครั้งนี้กูจะปล่อยไปซักครั้งนะอีตุ๊ด”
“โฮ่ยยยยย รำคาญย่ะ....ไปให้พ้น ๆ ไป๊....”
“นี่...เอาไปสิ.....”
สมุดพกอีกเล่มถูกควักออกมาแล้วส่งให้เดย์ แม่กะเทยสาวรับมาถือไว้อย่างงง ๆ
“อะไรเนี่ย”
“สิ่งที่กูเคยทำไว้กับมึงไง....ถ้าขาดตกบกพร่องตกไหน มึงเขียนเพิ่มได้เลยนะ กูรู้ว่ามึงไม่โกง”
“เพื่ออะไรยะ”
“ทุกครั้งที่มึงทำร้ายจิตใจกู กูก็จะจดมันลงไปในสมุดเล่มนี้ แล้วเดี๋ยวพอมันเต็ม เราสองคนค่อยมาดูกัน ว่ามันจะสามารถหักล้างกันได้มั้ย ถ้ามึงอยากต่อยกู กระทืบกู มึงเชิญทำได้เดี๋ยวนี้เลยนะ บัญชีแค้นของเราจะได้หมดลงเร็ว ๆ แล้วทีนี้กูกับมึงก็จะได้....”
“เพ้อเจ้อ....ไร้สาระ ทำอะไรเป็นเด็ก ๆ ไม่รู้จักโต นี่นะ เอาเวลาไร้สาระของแกที่หมดไปวัน ๆ ไปแล้วเป็นเงินล่ะก็ แกคงรวยเละ ชั้นไม่ได้แค้นอะไรแล้ว เพราะว่าชีวิตชั้นดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้ความแค้นที่มีต่อแกเป็นแรงผลัก แต่ชั้นมีคนหลายคนที่รักและหวังดีกับชั้น ซึ่งชั้นพอใจมาก เอาล่ะ....ทีหลีกทางไป....แล้วหวังว่าแกกับไอ้มอไซด์เด็กแว้นซ์นี่คงจะไม่มาป้วนเปี้ยนที่ใต้ถุนแฟลตชั้นอีกนะยะ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย”
เน้นคำสุดท้ายหนัก ๆ แรง ๆ แต่อีกฝ่ายไม่ยักกะของขึ้นอย่างทุกที
“อันนี้กูไม่นับนะ เพราะเวลามึงด่ากูเป็นชุด กูรู้สึกว่ามึงใส่ใจกูดี....แล้วก็น่ารักดีด้วย....มึงน่ะเหมาะกับคนเหี้ย ๆ แบบกูเท่านั้นแหละตุ๊ดเอ๊ย”
“ไปตายให้หนอนแดกไป....ไอ้ควายเอ๊ย”
คนงามเดินหัวเสียจากไปแล้ว และเช้าวันนั้นเดย์ก็คงจะหงุดหงิดไปทั้งวัน จะมีก็แต่พ่อหนุ่มหน้าคมคนนี้ ที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จ้องมองแผ่นหลังบางจนกระทั่งลับตาไป
“กูเจอมึงก่อนใคร แล้วกูจะยกมึงให้คนอื่นง่าย ๆได้ไง....อีตุ๊ดหน้าปลวก”
ไม่หรอก.....ไม่ใช่ตุ๊ดหน้าปลวกอีกแล้ว
แต่คนขี้แพ้ในวันนั้น กำลังจะกลายเป็นยิ่งกว่าผีเสื้อ....เพราะเธอคือ.....
อวาตาร......
ไม่สิ....
เธอคือนางฟ้า นางฟ้าแสนสวยในแบบฉบับของเธอนั่นแหละนะ
..................................................................................................
“ทำแบบนี้หมายความว่าไง....นายหลอกใช้เรางั้นเหรอ”
ชายหนุ่มหน้าตาปานกลาง ไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่ได้หล่อมากนัก กำลังยืนชี้หน้าหนุ่มน้อยตัวเล็กสวมแว่นสายตา ที่กำลังตัวสั่นสะท้าน...
ด้วยว่ากลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“คิก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
“หัวเราะอะไรวะ.....ไอ้ร่าน”
“หัวเราะคนไร้น้ำยาไง....ไอ้หนูของนายมันอ่อนปวกเปียก แล้วก็ขี้แพ้เหมือนเจ้าของไม่มีผิด”
ผลั้วะ!!!!กำปั้นของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยโทสะซัดเข้าให้ที่ใบหน้าเล็ก แว่นตานั้นกระเด็นหลุดไปไกลแสนไกล เลือดนั้นไหลโจ๊กไม่แพ้น้ำที่ไหลออกจากก๊อก แต่ร่างเล็กนั้นยังไม่หยุดหัวเราะ
ผลั้วะ!!!.....ผลั้วะ!!!!......ผลั้วะ!!!!!หมัดแล้วหมัดเล่า พีทก็ยังคงยืนขำ....แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเป้าหมายที่รอคอยอยู่ เจ้าหล่อนก็กระโจนเข้าใส่ด้วยท่าทางที่เหมือนกับสุนัขขี้แพ้
“พี่ครับช่วยผมด้วย”
“เฮ้ย....นี่มันอะไรกันครับน้อง”
คนเจ็บค่อย ๆ ทรุดลงตรงแทบเท้าของชายหนุ่มอีกคนอย่างไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเลยแม้แต่น้อย ดวงตานั้นพร่าเลือนเนื่องจากเสียเลือดไปไม่ใช่น้อย
“น้องครับ....น้อง ๆ ๆ”
“พี่ครับ....ผู้ชายคนนั้นเค้าจะฆ่าผม”
คนตัวเล็กหมดสติลงไปแล้ว....ความเจ็บปวดนั้นถูกกลบจนสิ้นด้วยความปิติยินดียิ่ง เสียงคนต่อสู้กันนั้นดังแว่วเข้ามาวูบสุดท้าย ก่อนที่ร่างกายนั้นจะหมดสติไป....
หึหึหึหึหึ
พี่ต้นของพีท.....น่ารักเหลือเกิน....เท่ห์เหลือเกิน....
อีเดย์....อีกะเทยน่าสมเพช คนอย่างมึงน่ะ
ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองผู้ชายดีดีแบบนี้ อีหน้าโง่....พี่ต้นต้องเป็นของกู แล้ววันนั้นกูนี่แหละที่จะเป็นคนกรอกหูมึงซ้ำ ๆ ทุกวัน
ว่าผู้ชายคนนี้เป็นของกู...............................................................................
ว๊ะฮ๊ะฮ๊ะ มาแล้วจ้ะ มาแล้ว
ขอโทษที่หายไป แต่อยากให้คนอ่านได้รู้เอาไว้ก่อนเลยนั้น คือคนแต่งต้องส่งงานเดือนละสองดิว....แล้วสิ้นเดือนงานจะหนักมาก ๆ ถามว่าเจียดเวลามาแต่ฟิคได้มั้ย มันก็ได้นะ แต่บางครั้งพอว่าง ๆ แล้ว กลับตันเรื่องนี้ แล้วไปแล่นอีกเรื่องหนึ่งต่ออย่างช่วยไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เค้าก็มาอัพแล้วนะ เม้นท์กัน ให้กำลังใจกันได้เหมือนเดิม มิต้องกดบวก....ไม่ต้องกดเป็ด ขอแค่เม้นท์สั้น ๆ จากใจ เค้าก็หายเหนื่อยและมีกำลังใจแล้วค่ะ
ปล.อย่ากะเวลาว่าเค้าจะมาตอนไหน มันคาดเดามิได้ว่าพล็อตจะมาเพลาใด ถ้าไหล ๆ หน่อยก็จะมาเร็ว ซึ่งเค้าจะพยายามนั่งคิดพล็อตทั้งวัน.....ไม่สัญญา แต่จะพยายามทำให้ได้ หุว๊ะฮ่าฮ่าฮ่า
..............................
ขอบคุณ คุณทิวลิปสีส้ม สำหรับเรื่องคำผิดค่า...
