โหมด ขนมจีบhttp://www.youtube.com/watch?v=qU4Yl02SJcg&feature=relatedขณะนี้ ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่บนห้อง อย่างไม่รู้จะทำอะไร สงสัยสินะครับว่าทำไมผมถึงไม่ไปทำอาหาร
เพราะ
เพราะ
ผมกำลังโกรธ
ใช่ ผมกำลังโกรธ
หากผมไปทำอาหาร ทั้งๆที่ใจยังไม่สงบ อาหารคงจะมีรสชาติที่ไม่อร่อย อย่างเเน่นอน
"หนมจีบ เป็นไงบ้าง ลุกเปาเอาอาหารเช้ามาให้ครับ"
"ขอบคุณครับ ลูกเปา ว่าเเต่สามคนนั่นเขาไปทำงานหรือยังครับ"
"หมายถึงพวกพ่อตาน่ะเหรอ"เเหมลูกเปา อย่าเเกล้งหนมจีบสิครับ
"ใช่ครับ ไปกันหรือยัง"คือผมไม่ได้กลัวนะครับ แต่ไม่พร้อมเผชิญหน้าเฉยๆ
“แล้วหนมจีบ กะอยู่ในห้องนานแค่ไหนหล่ะ”ผมหันไปทางลูกเปาทันที
“คะ คือ ไม่ทราบครับ”ก็ผมยังไม่แน่ใจนี่ครับ
“อืม แล้วแต่หนมจีบล่ะกัน เดี๋ยวอยากเอาอะไรก็บอกนะ”ว่าเสร็จลูกเปาผมก็ออกจากห้องไป
จากนั้นผมก็ ลุกมานั่งก่อนที่จะทำสิ่งที่ไม่ค่อยอยากทำ บ่อยนัก
“เฮ้อออ!!!!”
ผมชอบถอนหายใจ เมื่อเกิดปัญหาใดสักอย่าง เพราะแม้เรื่องอาจไม่ได้หายไป แต่การที่เราถอนหายใจดังๆสักครั้ง
ก็เหมือนกับการที่เราต้องที่จะเอาหายใจใหม่ เพื่อให้มีพลังขึ้นมาอีกครั้งเช่นกัน ก่อนที่จะส่องกระจกตรงหน้า ยิ้มให้
มันเล็กน้อย
“เอาหล่ะ หนมจีบ นายพร้อมแล้วนะ”
จากนั้นผมก็เดินลงมาข้างล่าง พร้อมเหลือบตามองสภาพที่ลูกเปาผมกำลัง ลนลานกับแขกที่มาร้าน ผมจึงเดินมาที่ครัวทันที
“อ้าว พ่อไปพักเถอะ เดี๋ยวเบียร์กับพวกทำอาหารได้”
“เบียร์ ขอเสต๊กไก่ กับ สลัดผักนะ”
“ได้ ไอ้ไวน์ ว่าแต่ลูกค้าที่สั่งซุปเห็ดหอมน่ะ บอกเขาได้ป่าวว่าไม่มีอ่ะ”
“บอกแล้ว แต่เขาบอกอยากกินว่ะ ตอนนี้ซาลาเปากำลังไปเคลียร์ให้”
“อ่ะ มักกะโรนี ซอสมะเขือเทศ อ่ะ ไปเสริฟสิ”
“ไรวะ ไอ้ค๊อกเทล ข้าเดินเสริฟจนเหนื่อยแล้วนะ พักนิด พักหน่อยไม่ได้เหรอไง”
“เดี๋ยว ซาลาเปามา จะฟ้อง”
“โหยย ไอ้ขี้โกง ทีแกบ่นเหนื่อยไม่ยากทำครัว ข้ายังไม่ฟ้องเลยนะเว้ย”
“อ้าว ไอ้นี่ อย่าเสียงดังสิ ซาลาเปาได้ยิน ซวยกันหมดนะเว้ย”
“บ่นอะไร อ๋ะโต๊ะหกได้แล้วเหรอ มาเดี๋ยวซาลาเปาไปเสริฟเอง ไวน์นั่งพักก่อนก็ได้ อ้าวหนมจีบ ลงมาทำไมไปพักก่อน ก็ได้”
“ไม่เป็นไร หนมจีบดีขี้นแล้วหล่ะ เดี๋ยวหนมจีบไปทำอาหารเอง พวกลูกเขยกับซาลาเปารีบไปเสริฟเถอะ จะได้ทันนะ”
ผมว่าเสร็จก่อนลงมือทำอาหารทันทีอย่างไม่รีบร้อน แต่ว่าใส่ใจรายละเอียดเพิ่ม โตยให้ลูกเปา ยกพุดดิ้งแถมให้
เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจกับการบริการของร้าน
“โหยยยย เหนื่อยอ่ะ หนมจีบ ว่าแต่สามคนนั่นบ่นไรเปล่าเนี่ย”ลูกเปาเดินมาหาผมก่อนที่จะนั่งปุตรงหน้า
เมื่อแขกออกไปหมดแล้ว
“บ่นครับ แล้วซาลาเปาจะทำยังไงเหรอ”ผมหันมายิ้มให้ก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าเย็นมาให้
“อืมม ไม่รู้สิ หนมจีบบอกวิธีหน่อยสิ”แหมลูกเปา ทำหน้าพองลม อิอิ กลมน่ารักอ่ะ
“งั้น ไปต้มน้ำอุ่น เพื่อแช่เท้าพวกนั้นดีไหม นวดตัวเบาๆสักหน่อย ก็ดี เดี๋ยวหนมจีบเตียมน้ำอุ่นให้”ผมว่าพลางก่อนที่จะเริ่มตั้งน้ำ
หากแต่ ซาลาเปาเดินมาสะกิดเสียก่อน
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวซาลาเปาทำเอง”
“ไม่ต้องหรอก เสริฟอาหารเหนื่อยๆ มาอยู่”ผมว่าพลางแต่แอบลอบยิ้ม เพราะรู้ว่าลูกเปาต้องการอะไร
“น่า หนมจีบ แฟนเปา เปาดูแลเองดีกว่า”
“งั้นก็ดี ว่าแต่พวกพ่อตา วันนี้เขาจะกลับบ้านรึเปล่าครับ”ผมอดถามไม่ได้ ก็นะเมื่อคืนผมอารมณ์ขุ่นอยู่
“อืม ไม่เห็นพูดนะ แต่ซาลาเปาสั่งให้กลับมาน่ะ”ลูกเปาว่าพลาง ตั้งน้ำร้อนก่อนที่จะเปิดไฟพร้อมหันมายิ้มให้
“อย่าทำหน้างง น่าหนมจีบ พวกพ่อตาบ่นปวดหลังแต่อยากคุยกับหนมจีบกันหมดหล่ะ”ผมฝืนยิ้ม ก่อนที่จะหันไป
เปิดตู้เย็น ก่อนที่จะหันมามองลูกเปาอย่างจริงจัง
“ซาลาเปา ครับ”
“มีอะไรเหรอ หนมจีบ”
“วันนี้ พวกลูกขึ้นห้องเร็วหน่อยนะครับ”
“อ๋อ ได้สิ”
จากนั้นเสียง สามหนุ่มก็ดังมาให้ได้ยินทันที
“ซาลาเปา เบียร์ล้างจานเสร็จแล้วครับ”
“ซาลาเปา ค๊อกเทลเอาขยะไปทิ้งเสร็จแล้วครับ”
“ซาลาเปา ไวน์ ถูพื้นเสร็จแล้วครับ”
“ดี พวกนายสามคนไปนั่งที่โซฟาสิ รอซาลาเปาแป๊ปนะ”
“ครับ”สามเสียงพร้อมใจประสานเสียงทันที ก่อนที่ลูกเปาจะหันมามอง
“หนมจีบ อยากทำอะไรก็ทำนะ แต่ถ้าอยากอัดสักทีสองทีก็ดีนะ พวกพ่อตาจะได้เชื่อฟังกันบ้าง อ่ะ หนมจีบมีผ้าเย็น
เหลือไหมอ่ะ”
“มีสิครับ”ผมว่าพลางก่อนที่จะหยิบผ้าเย็นให้
จากนั้นเวลาก็ผ่านไป ผมก็ใช้เวลานั้นทำอาหารให้ทุกคน ก่อนที่จะทบทวนความรู้สึกตัวเอง ว่าผมยังโกรธพวก
เค้าอยู่ไหม ทำไมผมถึงรู้สึกโกรธ เพราะแค่ขายหน้าที่พวกเค้าแสดงกริยาไม่ดีต่อหน้าเพื่อนผม หรือว่า
เพราะว่าเขาไม่คิดจะให้อภัยใครง่ายๆกัน แน่หรือว่าเพราะผมไม่ได้ รักพวกเขาจริงๆจึงได้โกรธ
แต่คำตอบก็ออกมาคำเดียว เท่านั้น!!
พวกลูกเปา เอาอาหารขึ้นห้องไปก่อนตอยห้าโมงกว่าๆ แต่ว่านะ ได้ยินเสียงบ่น ประมาณว่า ไม่เหนื่อยกันเหรอไง
อะไรทำนองนี้ แต่ว่าผมก็เตรียม แผ่นประคบเย็นไว้สองอันเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะได้ยินเสียงเปิดประตู
“กลับมาแล้วเหรอครับ คุณว๊อดก๊า”ผมว่าเสร็จ ก่อนที่จะหยิบน้ำเย็นยื่นให้
“หนมจีบ คือ หนมจีบเรื่องเมื่อวาน ผมขอโทษ คะ คือว่า”
“เราค่อยคุยกันพร้อมหน้าดีกว่าครับ”
ผมไม่สนใจคำตรงหน้าก่อนที่จะเดินจูงมือนำมายังเก้าอี้ ก่อนที่จะวางซุปเห็ดหอมไว้ตรงหน้า
“ทานซุปร้อนๆ รองท้องก่อนนะครับ แล้วพวกคุณน้ำแข็งกับคุณโซดา จะมาเมื่อไรครับ”ผมอดถามไม่ได้ แต่พลัน
ผมก็ได้ยินเสียงดังก่อนทันที
“กลับมาแล้ว หนมจีบ”น้ำแข็งเอ่ยเสียงดัง
“หนมจีบ ผมกลับมาแล้ว”โซดาร้องเรียกเมื่อก้าวเข้ามา
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”ผมกล่าวก่อนที่จะเดินไปหาพร้อมยื่นน้ำเย็น พร้อมหันหลังมานั่งทานอาหารกัน
“คือ หนมจีบพวกเรา”น้ำแข็งเอ่ยร้องหากแต่ผมยกมือเป็นเชิงห้าม
“ทานอะไรกันก่อนดีกว่าคับ”ผมว่าพลางก่อนที่จะตักซุปวางให้อีกสองคน และค่อยตักข้าววางให้บรรดาแฟนและตัวผม
พวกเราทานอาหารกันอย่างเงียบๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ผมไม่คิดอะไรมาก เพราะว่าผมได้คำตอบตัวเอง
แล้ว ก่อนที่จะสังเกตุทั้งสามที่ตอนนี้ ทานอาหารอย่างช้าๆ ช้าจนผมยังอดแปลกใจ ทั้งๆที่ เป็ดย่างราดซอสไวน์แดง
คุณโซดาและคุณว๊อดก๊าชอบมาก และยำผักป่าใส่เม็ดมะม่วงหิมพานอีก คุณน้ำแข็งแทนจะไม่แตะต้องเลย
แต่ผมจำใจต้องใช้กำลังก่อนที่จะเคาะส้อมกับแก้วน้ำทันที
“ผมขอเปิดประชุม ครอบครัวนะครับ”
“ได้ครับหนมจีบ”สามเสียงประสานพร้อมกัน
“เรื่องเมื่อวานนี้ ผมรู้สึกเสียใจนะครับ และคิดว่าเราควร”หาแต่ผมยังพูดไม่จบ สามคนร้องเสียงดังทันที
“ไม่เอานะ หนมจีบ”ว๊อดก๊าเอ่ยเสียงดังทันที
“นายอย่าทำแบบนั้นเลย ผมขอหล่ะ”น้ำแข็งอ่อนวอนเสียงเบาๆ
“ให้โอกาสพวกเราแก้ตัวบ้างสิ อย่าถึงต้องเลิกกันเลย ขอร้องหล่ะ”โซดาเอ่ยพลางปาดน้ำตาอย่างไม่อาย
“เลิกกันเหรอครับ”ผมหันไปมองรอบๆอย่างไม่เข้าใจ “พวกคุณอยากเลิกกับหนมจีบเหรอครับ”
“ไม่ พวกเราไม่อยากเลิก”สามเสียงประสานพร้อมกัน
“ที่หนมจีบจะคุย หนมจีบรู้แล้วว่าทำไมหนมจีบ ถึงได้โกรธพวกคุณ พวกคุณอยากทราบไหมหล่ะครับ ว่าเพราะอะไร”
“คือ ฉันไม่อยากรู้อ่ะ หนมจีบ”ว๊อดก๊าเอ่ย อ้อมแอ้ม
“แต่หนมจีบอยากให้รู้นะครับ”ผมหันไปมองพลางสื่อสายตาว่ามันจำเป็น จนคุณว๊อดก๊าต้องก้มหน้าลงทันที
“งั้นเชิญเลย หนมจีบ”โซดาเอ่ยพลางประสานมือรับฟังเหมือนกำลังประชุมเครียดก็ไม่ปาน
“เพราะพวกคุณไม่ใช่คนที่หนมจีบรักครับ”ผมเอ่ยอย่างสงบ ก่อนที่จะหยิบน้ำเปล่าดื่มสักเล็กน้อย
“ไม่ได้รัก เหรอหนมจีบ”น้ำแข็งเอ่ยตามก่อนที่จะแขนตกลงข้างๆ คุณว๊อดก๊าก้มหน้าเงียบ แต่ผมได้ยินเสียง
สะอื้นๆเบาๆ ขณะที่คุณโซดาต้องยกมือนวดดั้งจมูกอย่างใช้ความคิด
“ครับ พวกคุณไม่ใช่คนที่หนมจีบรัก”ผมยืนยัน ก่อนที่จะสูดลมหายใจ “แต่พวกคุณเป็นมากกว่ารัก”
ผมหันไปมองทั้งสามอย่างช้าๆ ซึ่งตอนนี้ทุกคนเหมือนมีกำลังหันมาจ้องหน้าผมอย่างชัดเจน จนผมต้องคิดว่าต้องพูดความต้องการก่อนที่จะไม่ได้พูด
“พวกคุณ เป็นมากกว่ารัก หนมจีบคงเสียใจ หากคุณไม่รู้จักระงับโทสะ มันก็เหมือนตอนที่คุณคิดจะทำร้ายหนมจีบ
หากวันนั้นคุณไม่รู้ความจริง หนมจีบคงโดนคุณทำร้ายจนเราไม่อาจนั่งคุยกัน ไม่ได้ทำสิ่งดีๆให้กัน และไม่ได้รู้สึกว่าคุณ
สำคัญมากแค่ไหน พวกคุณสัญญาได้ไหม อย่าคิดแค้นใคร หรือหากทำไม่ได้ ก็อย่ายึดติดมันมากนักเลย”
“ฮือๆๆ ได้ครับหนมจีบ”ว๊อดก๊าเอ่ยเสียงร้องไห้ก่อนที่จะซบหน้าลงบนบ่าผม
“เราจะไม่ทำให้นายรู้สึกแบบนี้อีก เราสัญญา”โซดาเอ่ยพลางกุมมือ
“นายคือคนดี ที่ชั้นไม่ยอมเสียอีกแล้ว ได้ชั้นสัญญา”น้ำแข็งว่าพลางก่อนที่จะเดินมาจูบเบาๆที่หน้าผาก
“ขอบคุณครับ”ผมเอ่ยเสียงเบา
จากนั้นเราสี่คนก็เดินกันขี้นไปบนห้อง เนื่องจากสามคนคงอยากขอโทษผม แต่ผมก็ไม่ฝืนอะไร เพราะว่าเตรียมใจ
แล้วเหมือนกัน
ความคิดคนเขียนอยากบอก เขียนไม่ออกอ่ะ เหมือนตนเองผูกเชือกเเล้วมันเเกะไม่ออก คือเเบบจะให้หนมจีบวีนหรือโวยวายเเบบซาลาเปาหรือขวัญใจ แต่ทำไม่ได้ เเบบ มานไม่ช่ายยยยยยย หวังว่าอ่านเเล้ว ชอบนะครับ