- 2 - ท่าทางแก้เขินโดยทำเป็นเบี่ยงเอาหูแนบกับอกซ้ายของปาจาแทน ในขณะที่หน้าใสหล่อกระชากใจของพระลักษมณ์แดงก่ำไปหมดทั้งคอทั้งหู ยิ่งแทบทำให้ปีศาจรูปงามอยากฟัด
ร่างกายที่เนียนแน่นกลิ่นหนุ่มชวนมึนของพระลักษมณ์ให้หนำใจเสียจริง ไม่รู้เลยสิว่าตอนนี้ปีศาจตาเดียวของตนมันแข็ง
ชีพจรเต้นตุ๊บๆ ผงกหัวหงึกๆ ภายในชุดนอนจวนจะระเบิดอยู่แล้ว ให้ตายสิ...พระลักษมณ์ช่างมีอิทธิพลกับความรู้สึก
ทางเพศกระตุ้นอารมณ์ตนจนกลายเป็นปีศาจหื่นกามไปแล้ว
“เฮ้ย!..ทำไมผมไม่ได้ยินเสียงหัวใจคุณเต้นเลยเนี่ย!..ประหลาดแล้ว..มิน่าคนอย่างคุณ
มันไร้หัวใจนี่เอง” คำพูดของพระลักษมณ์ มาพร้อมกับอาการตาโตปากแดงเจ่อสีสดกำลังบริภาษปาจาด้วยนั้น
ทำเอาเจ้าคุ้มรูปหล่ออดขำออกมาจนได้ มันช่างเหมือนคนหัวดื้อที่กำลังออกอาการโมโหหงุดหงิดได้น่ารักจริงๆ
“ฮ่าๆๆๆๆ..คิดไปได้ ผมเป็นคนนะ..ไม่มีหัวใจได้ไง..มานี่มะ..ผมจะให้คุณพิสูจน์ใหม่” พูดจบ
ปาจาถือโอกาส ใช้มือหนาเพียงข้างเดียว จับท้ายทอยของพระลักษมณ์อย่างเบามือก่อนจะกดให้แนบลงทางอกขวา
แล้วให้อยู่นิ่งๆสักพัก เล่นเอาพระลักษมณ์หน้าเหวอตาโตเข้าไปใหญ่ รีบดันมือตะเกียกตะกายขึ้นนั่งเหมือนเป็นเรื่อง
มหัศจรรย์พิลึกพิลั่นเข้าให้ ก่อนพูดรัวเร็วกลับมาว่า
“เฮ้ย!..นี่อย่าบอกว่าคุณมีหัวใจอยู่ข้างขวา..ใช่ไหม?..หัวใจคุณอยู่อกขวา” ความตื่นเต้นของพระลักษมณ์
ที่เจ้าตัวแสดงออกมานั่น เรียกรอยยิ้มกลั้นขำของปาจาอย่างนึกเอ็นดู ไม่ว่าพระลักษมณ์จะแสดงท่าทางแบบไหน
เหมือนเด็กซนๆ ที่สอดรู้สอดเห็นเสียจริง
“อืม..” ปาจาพยักหน้าตอบรับเสียงในคอ ปั้นหน้ากลั้นขำอย่างเอาเป็นเอาตายต่อไป
“ว่าแล้วเชียว...คนปกติเค้ามีหัวใจอยู่ด้านซ้าย มิน่า..ปีศาจหน้าตายอย่างคุณถึงมีหัวใจอยู่อกขวา...
เหอะ..ปีศาจชัดๆ” ประโยคทิ้งทวน ดันสรุปเองเบ็ดเสร็จ ปาจาอยากกดจูบปิดปากช่างพูดสีสดนั่นจัง...
“ช่างคิดเนอะ..ถ้าหากผมเป็นปีศาจจริงๆ คุณจะไม่รับเป็นแฟนหรือ...หืม” แต่ปาจาก็เรียกเลือดวิ่งขึ้นหน้า
พระลักษมณ์อีกจนได้ เพียงคำพูดง่ายๆ ไม่ซับซ้อนแต่กินความหมายลึกซึ้ง ถือเป็นการทดสอบจิตใจของพระลักษมณ์
อีกต่างหาก คนฉลาดอย่างพระลักษมณ์มีหรือจะไม่เข้าใจ ลองตอบไปสิว่าไม่รับ...ตนได้กลายเป็นคนมองโลกในแง่ลบ
ใจแคบไปทันที แล้วจะเหลือทางเลือกให้ตอบอีกหรือไงเล่า...กรรม..ไอ้ปีศาจตนนี้มันโคตรฉลาดแกมโกงเลยจริงๆ
ให้ตายเหอะ...??
“อย่ามาขุดหลุมล่อ เพื่อจะให้ผมโง่ตอบอย่างที่คุณหวัง แล้วดูถูกจิตใจรวมทั้งความคิดของผม
ว่าเป็นคนใจแคบตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมเสียให้ยาก ผมไม่แคร์หรอกไม่ว่าจะมนุษย์หรือปีศาจ ขนาดคุณเป็นผู้ชาย
แล้วยังมาทำกับผมแบบนี้ ผมยังยอมให้ทั้งที่ไม่เคยนึกพิศวาสผู้ชายมาก่อน ยังไม่เป็นการพิสูจน์อีกหรือไง?”
คำตอบของพระลักษมณ์เรียกรอยยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกของปาจา แม้แต่คนมองอย่างพระลักษมณ์เองยังตะลึงตาค้าง
ใจเต้นตึกๆตักๆ เอ่อ..เอากับเค้าดิ ดันปล่อยฟีโรโมนเข้าใส่ตนซะงั้น แค่นี้หัวใจพระลักษมณ์ก็เต้นกระหน่ำยังกะ
ออกกำลังติดต่อกันสิบชั่วโมงไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ จะบ้าตาย...
“รู้หรือเปล่า...คำพูดคุณทำให้ผมมีความสุข” อร๊ากกก!!..อยากทำอะไรกับผมตามสบายเลยคุณจา
เล่นทั้งหยอดทั้งปล่อยฟีโรโมนเข้าใส่แบบนี้ ต้องการอะไรเอาไปเลยครับพี่ ตอนนี้ร่างโปร่งหมดแรงอ่อนปวกเปียกไปแล้ว..
ไอ้บร้า..พระลักษมณ์ก่นด่าปีศาจรูปงามปานลูซิเฟอร์ในใจ โดยหารู้ไม่ว่าตนได้เผลอพูดแสดงความในใจออกไปจนหมดเปลือก
เพราะความอวดเป็นคนฉลาดเหนือกว่านั่นปะไร...แล้วมันจะไม่ทำให้ปาจายิ้มกว้างจนปากจะฉีกได้ยังไง...แถมยังขยันหน้าแดง
หูแดงเถือกนั่นอีก ต่อให้ปาจามีหัวใจเป็นน้ำแข็งขั้วโลก ก็คงหลอมละลายอยู่ดี....???
“หมดคำถามแล้ว ผมทวงสัญญาเลยนะ” พูดไม่ทันจบ คว้าตัวพระลักษมณ์พลิกลงอยู่ใต้ร่างอีกรอบ
ร่างโปร่งเองก็อ่อนเปลี้ยจนหมดแรงต้าน แต่สติยังอยู่ครบ ฝืนฮึดขึ้นมาว่า..ไหนๆ ก็ต้องโดนทะลวงไส้ด้วยปืนใหญ่ของปาจา
อย่างไม่มีทางรอดแล้ว ขอคลายข้อสงสัยในใจอีกสักข้อเถอะ
“เดี๋ยวก่อน...ตอบผมมาก่อนว่าคุณส่งนมอ่อนกับหนูผาไปพบใคร?” คำถามของพระลักษมณ์ทำให้ปาจา
หยุดชะงัก ทั้งที่ห่างไม่กี่เซ็นต์ปากหนาสวยได้รูปก็ประกบปิดปากเจ่อสีสดของตนแล้ว
“หึหึ...ผมตอบได้แค่เพียงว่า อีกสองวันก็ถึงวันพระจันทร์ดับแล้ว..คิดว่าจิตมารสิตาคงอาศัยคืนนั้น
ออกอาละวาดแน่ เพราะงั้นผมจำเป็นต้องส่งนมอ่อนกับหนูผาไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน จะได้ไม่ต้องกังวล ส่วนเป็นใครนั้น
ผมบอกคุณได้แค่ว่า เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักท่านหนึ่ง พอใจหรือยัง” อ่า..ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง นั่นสิตนป่วยจนลืมไปเลยว่า
ใกล้ถึงคืนวันพระจันทร์ดับแล้วสินะ ปาจาทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะสองคนนั่น ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ จะได้หมดห่วง
กำลังจมอยู่กับความคิดหลังฟังคำตอบของปาจาอยู่ดีดี ก็มีอันต้องหัวเบลอสมองมึน เมื่อร่างสูงใหญ่
ไม่เปิดโอกาสให้คนขี้สงสัยตามสัญชาติญาณของสายลับได้ซักฟอกต่ออีก ถือโอกาสประกบริมฝีปากฉกจูบดูดพันลิ้นนุ่ม
ในโพรงปากหวานของร่างโปร่งอย่างดูดดื่มปลุกเร้า และครั้งนี้พระลักษมณ์เองก็ไม่ขัดขืนปล่อยให้ปีศาจหื่นกามตักตวง
ความหวานกับรสจูบได้ตามความพอใจ
อารมณ์ที่เตลิดลิ่วร้อนระอุของทั้งคู่ พระลักษมณ์รู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว ตนต้องถูกปืนใหญ่ของปีศาจรูปงาม
ทะลวงประตูชัยจนได้ แต่ช่างเถอะอนาคตไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ปัจจุบันหากสามารถตอบแทนความรักความจริงใจที่ปาจามีให้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ใช่เรื่องที่ต้องเอามาคิดให้รกสมอง ในเมื่อลึกๆแล้วพระลักษมณ์ยอมรับว่าตนเองก็พอใจกับการ
ได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งกับร่างสูงใหญ่หล่อหลากไส้ที่กำลังซุกไซร้ไปทั่วร่างเปลือยของตนอย่างอ่อนโยน สลับเร่าร้อน
ปลุกเร้าให้ตนจำต้องบิดกายสะท้าน เพราะความเสียวกระสันปานขาดใจ เพียงแต่หวังว่าตนคงไม่ต้องเดินขาถ่างพาอาย
กายันต์และธรรมตรัยในวันรุ่งขึ้นเป็นพอ ด้วยรู้ดีว่า..ปีศาจตนนี้คงไม่ยอมจบแค่รอบเดียวหรอก เห็นความพยายามที่อดทน
ดูแลร่างเปลือยของตนตอนเช็ดตัวก็รู้ ถึงจะทำเป็นนิ่งปั้นหน้าตาย แต่โทษที่เถอะหูสองข้างยังแอบแดงก่ำให้ตนได้เห็นอยู่ดี
นึกแล้วอยากหัวเราะชะมัด ทำเป็นปิดบังไม่แสดงอาการ...แต่อย่าลืมว่าระดับ.’วิษณุทรงพล’ หน่วยสืบราชการลับมือดี
จะพลาดการจับสังเกตก็เสียชื่อที่สร้างมาหมดสิ....ฮ่าๆๆๆกร๊ากกก....อืออ..โอววว!!..ว่าแต่ตอนนี้สมองไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นแล้ว
เพราะปีศาจจอมเชี่ยวกำลังโจมตีจุดยุทธศาสตร์จนต้องเปล่งเสียงร้องผ่อนคลายความเสียวซ่านแทบขาดใจ ไม่ไหวขอพัก
ความคิดไปสู้รบรับศึกปืนใหญ่ทะลวงไส้ต่อก่อน ไม่งั้นได้ขาถ่างเดินเป็ดขายขี้หน้าชัวร์...ก็นะตระกูลดงพญา..
พ่อให้มาเสียขนาดนั้นนิ...น่าอิจฉาชิบ..เอามาซะเยอะโคตร..ลำบากตูดชะมัดยาด...?????
มาต่อฉากหวานๆ ให้ตามความประสงค์แล้วนะคะ
ตอนหน้าจะเป็นฉากหวานของคู่กายันต์กับเลขาเย็นชาบ้าง
ขอบคุณทุกกำลังใจ เนื้อหาของเรื่องนี้ไม่เกินสี่ตอนก็จบแล้วเช่นกัน
ขอบคุณกับทุกเม้นท์ทุกรีไพส์ที่ให้กำลังใจคนเขียนและติดตามผลงาน
มาโดยตลอด ขอให้มีความสุขในการอ่าน รักคนอ่านทุกคนเช่นกัน
Luk.
ปล.ฝากเรื่องใหม่ขนาดกลางสิบตอนจบ ‘เทพพิทักษ์ขุน’ อยู่ในอ้อมกอดนักอ่านเหมือนเดิมนะคะ..ใช้คำพูดถูกหรือเปล่าหว่า?? ไม่สั้น ไม่ยาว กำลังพอดี..อืม...แซ่บ!