@@@@ แจ้งให้ทราบสำหรับนักอ่านที่สั่งซื้อหนังสือเรื่อง
เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้ทางทีมงานจัดทำขอเลื่อนการส่งหนังสือไปราวกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป
ติดขัดปัญหาเรื่องน้ำท่วม และไม่สะดวกการจัดส่ง ทั้งยังมีนักอ่านที่สั่งซื้อ
หลายท่านไม่สะดวกให้ส่งอีกเป็นจำนวนไม่น้อย ทางทีมงานจึงลงมติเห็นควร
ส่งพร้อมกันทีเดียวเลย กันหนังสือสูญหาย หวังว่าอดใจรอหน่อยนะคะสำหรับท่าน
ที่ไม่ประสบปัญหาเหมือนคนอื่น ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
มนต์มาร
Part 22
เทพบุตรสุดหื่น.
.
.
.
พระลักษมณ์รู้สึกตัวตื่นสะลืมสะลือจากฤทธิ์ยาแก้ปวด หมอฉีดให้โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตนนอนอยู่ที่ไหน
ต้องย้อนไป หลังจากปาจาสามารถช่วยพระลักษมณ์และหนูผาปลอดภัยจากน้ำมือของ
จิตมารสิตาได้สำเร็จ ทั้งหมดก็กระเตงกันออกมาขึ้นหลังม้าที่ผูกเชือกไว้ใต้ต้นไม้ หลังจากขึ้นหลังม้าเยาะย่างได้ไม่เท่าไหร่
พระลักษมณ์ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวถึงกับสลบไปบนหลังม้า เดือดร้อนปาจาต้องจูงเชือกม้าพากลับคุ้มดงพญา
ในขณะที่ต้องคอยระวังหนูผาที่นั่งซ้อนด้านหน้าของตนไปด้วยเช่นกัน
ด้วยความเป็นห่วงคนรัก พอถึงเรือนไทยปาจาโทรตามหมอให้มารักษาพระลักษมณ์ทั้งคืน
โดยให้ทองคำขับรถไปรับ-ส่งหมอกันเลย ที่เหลือก็ปล่อยเป็นหน้าที่หมอซึ่งทำการเย็บแผลจ่ายยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ
พร้อมกับฉีดยาแก้ปวดให้พระลักษมณ์เป็นที่เรียบร้อยกว่าจะเสร็จเกือบค่อนรุ่ง ถึงได้เดินทางกลับ
ส่วนหนูจันทร์ผา นมอ่อนรับหน้าที่ดูแลให้นอนห้องนมหนูน้อยเองก็อ่อนเพลียไม่ต่างกัน
กายันต์และธรรมตรัยยังไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่งจะได้พูดคุยสอบถามเรื่องราวก็เช้าตรู่นี่เอง ขณะนี้ทั้งสองคน
ขอตัวไปดูหนูผาที่ห้องนมอ่อนแล้ว
กายันต์สั่งคนรับใช้ย้ายสัมภาระของตนไปอยู่ชั้นล่างที่ห้องของธรรมตรัยเป็นที่เรียบร้อย เพราะห้อง
ธรรมตรัยเป็นทางสามารถลงสู่ห้องใต้ดินได้ ครั้นจะให้เลขาหน้านิ่งย้ายขึ้นมานอนกับตนแทนเจ้าตัวก็ยืนกรานเสียงแข็ง
ไม่ยอมย้ายเด็ดขาด เดือดร้อนเทพบุตรสุดหล่อต้องเป็นฝ่ายย้ายลงไปดูแลคนรักเสียเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะกายันต์ออกตัวปกป้องคนรักจนออกนอกหน้า ด้วยรู้อยู่แล้วว่าธรรมตรัยมีความรู้ทางไสยศาสตร์ลึกลับแต่เพียงอย่างเดียว
นอกจากนั้นไม่สามารถป้องกันตนเองได้แน่นอน รายนั้นไม่มีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้เอาเสียเลย
ส่วนปาจาเอง ก็ย้ายสัมภาระของพระลักษมณ์มาไว้ในห้องตนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
เนื่องจากพระลักษมณ์ยังบาดเจ็บต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญห้องพระลักษมณ์อยู่ตรงข้ามห้องสิตา
ปาจาไม่ไว้ใจแม้จะเป็นเรือนไทยในคุ้มดงพญาเองก็เถอะ เอาเป็นว่าตอนนี้พี่น้องตระกูลดงพญาต่างเห่อคนรักจนออกนอกหน้า
อย่างไม่มีใครน้อยหน้าใครว่างั้น
“อูย...ปวดชะมัดยาด” พระลักษมณ์หน้าเบี้ยว หลังจากลองขยับตัวเช็คสภาพร่างกายตนเองดู
“หืม...ตื่นแล้วหรือครับ ผมสั่งแม่บ้านต้มข้าวต้มหมูร้อนๆ พอลุกไหวไหม? ผมช่วยพยุงไปล้างหน้า
แปรงฟัน ทานข้าวก่อนค่อยกินยาตามที่หมอสั่ง” เจ้าคุ้มรูปหล่อเปิดประตูเข้ามาพอดี จังหวะเห็นคนรักกำลังพยายามลุกนั่ง
รีบกุลีกุจอเข้ามาพยุงคนป่วยโดยไม่รีรอ
“อืม” พระลักษมณ์ครางรับในคอ ก่อนเจ้าคุ้มร่างใหญ่จะพยุงร่างโปร่งของคนรักพาเข้าห้องน้ำ
ไปทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย การดูแลเอาใจใส่ของปาจาพาเอาคนป่วยรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ ไม่คิดว่าเจ้าคุ้มรูปหล่อ
จะแสดงความห่วงใยตนเองมากมายเช่นนี้
“ขอบคุณมาก ที่ดูแลผม” จนอดพูดขอบคุณจากใจไม่ได้
“คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก ผมเสียอีกต้องขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้คุณได้รับบาดเจ็บ
ที่สำคัญผมทำตามหัวใจตนเองคนรักผมบาดเจ็บขนาดนี้ ต้องดูแลอย่างดีสิจริงไหม?” น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ปาจาพูดมา
พร้อมกับสายตาคมเข้มที่จ้องสบตาพระลักษมณ์ฉายความจริงใจในคำพูด พาเอาหน้าหล่อใสของร่างโปร่ง
ซับสีเลือดแดงเรื่อจนเห็นชัดเจน
“หึหึ...” เสียงหัวเราะในลำคอของปาจา หลังจากเห็นเลือดวิ่งขึ้นหน้าคนรัก
ทำเอาพระลักษมณ์ต้องเฉเบือนหน้าหลบ พร้อมกับหาเรื่องแก้เขินทันที
“คุณออกไปได้แล้ว ผมจะทำธุระส่วนตัว” วิธีหนีเอาตัวร้อนก่อนหน้าจะระเบิดคือขับไล่ปีศาจรูปงาม
ที่จ้องสายตาวิบวับให้ออกจากห้องน้ำไปเสียที ปาจาก็ไม่อยู่แกล้งคนรักให้ได้อายไปมากกว่านี้ ยอมออกไปแต่โดยดี
พร้อมกับปิดประตูให้เสร็จสรรพใบหน้าหล่อเข้มเปื้อนยิ้มจนหุบไม่อยู่ เล่นเอาพระลักษมณ์แอบทำหน้าบู้
ตามหลังร่างใหญ่อย่างขัดใจ....
------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากทานข้าวกินยาตามคำสั่งหมอแล้ว ร่างโปร่งขอเดินสูดอากาศรอบบริเวณเรือนไทย
ปาจาก็ตามใจคนป่วยหัวดื้อรูปหล่อหน้าใส โดยยอมพาออกมาเดินริมสวนใกล้เรือนสูดอากาศบริสุทธิ์อาบแสงแดดยามเช้า
เพียงสองคน ระหว่างเดินกันอยู่นั่น พระลักษมณ์อดตั้งคำถามกับสิ่งที่ยังติดใจสงสัยขึ้นมาว่า
“พวกคุณบอกสิตาเป็นญาติตอนแนะนำให้ผมรู้จักครั้งแรก โดยไม่มีใครรู้มาก่อนหรือไง
ว่าเค้าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ?” คำถามของพระลักษมณ์ทำเอาปาจาคิ้วขมวดมุ่นขึ้นมาทันที ก่อนจะตอบคนรักด้วยเสียงนุ่ม
กลับมาว่า
“ถือเป็นความสะเพร่าของผมเอง สามปีก่อนสิตาหิ้วกระเป๋ามาที่คุ้ม พร้อมกับของสำคัญที่ปู่ผม
เคยกำชับไว้ว่าหากใครถือสิ่งนี้มาให้ความช่วยเหลือไว้ทันที เพราะเค้าคือผู้มีพระคุณกับปู่ผม เค้าเคยช่วยชีวิตคุณปู่พร้อมกับ
พรานธรรมรัตน์ปู่ทวดของธรรมตรัย ตอนท่านทั้งสองหลบหนีการตามล่าจากพรานวาโยจิตมารนั่นแหละ ท่านได้พบกับ
ชาวบ้านคนหนึ่งที่แบ่งปันอาหารกับน้ำดื่มให้ระหว่างมาเก็บของป่าขาย แต่เพื่อไม่ให้ชาวบ้านคนนั้นเดือดร้อนปู่จึงไม่ดึงเค้า
เข้ามารับรู้เรื่องราวที่กำลังเผชิญอยู่เพราะคิดว่าถึงยังไง ก็คงไม่สามารถช่วยเหลือพวกท่านได้ จึงมอบแหวนหยกไว้ให้
และบอกเค้าว่าวันข้างหน้าหากเดือดร้อนสิ่งใด สามารถถือแหวนหยกวงนี้มาขอความช่วยเหลือได้ ปู่จะตอบแทนคุณทันที
และแหวนหยกวงนั้น คือตัวเบิกทางให้สิตานำมาแสดงและขออาศัยอยู่ในคุ้มดงพญา
ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือเพราะเธอบอกว่าไร้ญาติขาดมิตร ไม่เหลือใครแล้ว เธอบอกแหวนวงนี้พ่อของเธอมอบให้
เพื่อนำมาแสดงกับปู่ มาถึงตอนนี้ผมเพิ่งคิดได้ว่าจิตมารคงสิงห์ร่างเธอแล้ว ด้วยอำนาจมนต์มารมันย่อมรู้เรื่องคำสัญญา
นี้แน่นอน จึงอาศัยช่องทางนี้เข้ามาแฝงตัวอยู่ในคุ้มดงพญา” คำบอกเล่าของปาจา ทำให้พระลักษมณ์เข้าใจแล้วว่า
ทำไมสิตาถึงได้เข้ามาอยู่ในเรือนไทยได้ อย่างง่ายดาย แต่ยังอดสงสัยต่อการสืบสายเลือดของจิตมารอยู่ดี จึงถามต่อไปว่า
“คุณไม่สัมผัสพลังมารจากสิตาเลยเหรอ ตอนที่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่” “ผมเคยบอกแล้วนี่ว่าภายใต้อาณาเขตของเรือนไทย พลังมารจะไม่แสดงออกเพราะตะกุดที่ปู่จัดการฝัง
อยู่ใต้ถุนเรือนนี้ แม้แต่กายันต์เองพลังมารก็ไม่เผยตัวเช่นกัน ดังนั้นไม่มีใครสามารถรู้หรอก” เจ้าคุ้มรูปหล่อตอบมา
พระลักษมณ์พยักหน้าเข้าใจ ก่อนถามกลับไปว่า
“พี่ชายของสิตาที่คุณยิงเค้าแต่แรก เพราะมั่นใจว่าคือจิตมาร แล้วทำไมคุณถึงไม่สัมผัสพลังมาร
ของสิตาด้วย ผมไม่เข้าใจ” พระลักษมณ์ตั้งคำถามในสิ่งที่ตนสงสัยต่อ
“ผมสัมผัสรังสีมารในถ้ำ แต่จะรู้ได้ไงว่ามีสองคน แต่ที่ผมตกใจยิ่งกว่าคงเรื่องของสิตา
คือผู้หญิงข้ามเพศ เป็นข้อมูลใหม่ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน ยอมรับคิดไม่ถึงจริงๆ” ปาจายอมรับหน้าตาย แต่พระลักษมณ์เอง
ก็เข้าใจเช่นกัน มันยากที่จะคาดเดาจริงๆ ตนยังแอบชื่นชมความงามของสิตาด้วยซ้ำ นี่ถ้าเจ้าตัวไม่เผยธาตุแท้ออกมา
คงตบตากันได้อีกนาน อารมณ์เสียใจที่พี่ชายตายต่อหน้าพร้อมกับระเบิดความหึงหวงนั่นแหละทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
“เออ...ผมรู้ว่าคุณกายันต์มีความสัมพันธ์กับสิตาขั้นลึกซึ้ง ทำไมคุณยันต์ถึงไม่รู้ว่าสิตาเป็นผู้หญิงข้ามเพศ”พระลักษมณ์สอบถาม นั่นสิระดับกายันต์ก็ไม่น่าจะโง่ กระทั่งมีหนูผาเป็นลูกแล้วจะแยกไม่ออกเชียวหรือในช่วงเวลาขณะนั้น
“ผมสอบถามเจ้ายันต์มันแล้วเมื่อเช้าก่อนคุณจะตื่น มันบอกว่าอารมณ์ตอนนั้นเหมือนจะเบลอ
แทบทุกที จำไม่ได้ว่าความจริงแล้วคืออะไร เชื่อว่ามันคงโดนมนต์สะกดเข้าให้ จำวันที่เรากลับจากไปดูศพครูรัสสาได้หรือไม่
ที่เจ้ายันต์มันโดนมนต์ให้แอบขโมยหัวใจมารต้นแบบ ผมคิดว่าคนที่สะกดกายันต์คงเป็นสิตาเช่นกัน อย่าลืมสิว่า..พรานวาโย
เป็นจอมขมังเวทย์ เพราะงั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะร่ายมนต์สะกด คุณเองที่รอดมาได้คงเพราะแหวนจากนิ้ว
ถึงไม่ถูกมนต์มารสะกดของมัน” เจ้าคุ้มรูปหล่อเฉลยทุกข้อปัญหา ทำให้พระลักษมณ์กระจ่างแจ้งทันที
“แสดงว่าครูรัสสาตายด้วยฝีมือสิตาสินะ เพราะไม่มีใครรู้เวลานัดหมายของสองคนนั้นว่าตกลงกันไว้ยังไง”
พระลักษมณ์วิเคราะห์ถึงสาเหตุการตายของครูรัสสาขึ้นมา ทำให้เจ้าคุ้มต้องหยุดเดินกะทันหัน พร้อมกับจ้องหน้าหล่อใส
ของร่างโปร่งเป็นคำถาม
“ผมพูดไปตามเหตุผล” พระลักษมณ์รีบออกตัวตอบไปทันที
“ทำไมคุณคิดอย่างนั้น ไม่แน่อาจเป็นพี่ชายสิตาที่ดักฆ่าครูก็เป็นได้” ปาจาถามตามที่ตนคิด
“ผมวิเคราะห์จากแผลที่คุณครูเสียชีวิต ฝีมือสิตาแน่นอน อาวุธที่ใช้ก็คงมีดที่กระชวกท้องผม
นั่นแหละ ที่ผมมั่นใจเพราะพิษรักแรงหึงมากกว่าทำให้สิตาฆ่าคุณครู” พระลักษมณ์ตอบ ตนเจอแรงหึงจนเลือดขึ้นหน้า
ของปีศาจสิตามากับตัว แต่ปาจาคงยังไม่เข้าใจ ทั้งที่เป็นสาเหตุหลักกลับทำหน้าฉงนซะงั้น
“หึง..เหรอ” เจ้าคุ้มรูปหล่อย้ำถามออกมา
“คุณแกล้งโง่หรือเปล่าเนี่ย!...สิตาเค้าหึงคุณมาก ที่ผมเกือบตายก็เพราะเค้ารู้ถึงความสัมพันธ์ของเรา
ตั้งแต่วันที่เห็นคุณออกจากห้องผมตอนเช้าวันนั้น แต่เธอเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ มาระเบิดเอาตอนจะฆ่าผมให้ตายกับมือ
ในถ้ำผมถึงรู้ ว่าเธอหลงรักคุณมานานแล้ว ตอนนี้เธอต้องการคุณไปเป็นทาสรัก เพราะงั้นหลังจากได้หัวใจมารต้นแบบ
เพิ่มพูนพลังมารจนสำเร็จ เธอคงมุ่งเป้ามาที่คุณแล้วตอนนี้ ตราบใดยังไม่สมหวังในรักเธอไม่ยอมรามือแน่” พระลักษมณ์
จ้องหน้าปาจานิ่ง พร้อมกับบอกเหตุผลซะแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ทำเอาปีศาจรูปงามอมยิ้มอีกแล้ว หมั่นไส้พิลึกถึงขนาดนี้แล้ว
ยังยิ้มได้อีก พักนี้ปาจายิ้มบ่อยเกินไปแล้ว
“หึหึ...คุณหึงผมหรือเปล่า?” คำถามซื่อๆ เล่นเอาพระลักษมณ์หน้าเหวอไปทันที บ้าชะมัด..ถามไรเนี่ย..
ร่างโปร่งจนคำตอบจึงใช้วิธีเดิมเตรียมเดินหนี แต่แขนดันถูกรั้งไว้โดยเจ้าของคำถาม
“เอาละ ไม่ต้องตอบผมก็ได้ ความจริงผมพอรู้คำตอบแล้วละ ถ้างั้นผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ
สิตาออกมาเอง คุณคิดว่าไง?” ความคิดของปาจาทำเอาพระลักษมณ์ชะงักกึก ก่อนจะแหวออกมาอย่างไม่ทันระวัง
“มันอันตรายมากรู้ไหม สิตาตอนนี้เป็นครึ่งสัตว์ครึ่งคน หากทำร้ายคุณขึ้นมาจะทำยังไง” เผลอหลุด
ความในใจแสดงความเป็นห่วงจนออกนอกหน้า ทำเอาเจ้าคุ้มรูปหล่อฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
“ขอบคุณครับที่ห่วงผม นึกว่าคุณจะไม่ห่วงซะอีก” อดแหย่คนหน้าใสที่พอรู้ตัวดันหน้าแดงแปร๋ดซะงั้น
ทำเอาพระลักษมณ์นิ่งสนิทไปอีกรอบ
“คุณไม่ต้องกังวลหรอกครับ บอกผมเองไม่ใช่หรือไงว่าสิตาเค้ารักผมมาก เพราะงั้นเค้าคงไม่
ทำร้ายผมหรอก จริงไหม?” คำพูดของปาจามีเหตุผลด้วยสิ แต่ร่างโปร่งก็ยังอดกังวลไม่ได้ เพราะสิตาบอกเองว่า
หากได้ร่วมรักกับปาจาเมื่อใด เจ้าคุ้มรูปหล่อต้องตกเป็นทาสรักของจิตมารตลอดไป
“คุณรู้หรือไม่ว่าหากเผลอร่วมรักกับจิตมาร จะตกเป็นทาสของมันไปตลอด” พระลักษมณ์พูดจบ
ทำเอาปาจาอมยิ้มแก้มตุ่ยเข้าอีกแล้ว เช้านี้รู้สึกไม่ว่าตนจะพูดอะไรกลับทำให้เจ้าคุ้มอารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยที่คนพูด
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตนแสดงความรู้สึกส่วนลึกออกมาทุกครั้งทั้งแววตาและคำพูด
“ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมคงไม่มีอารมณ์แบบนั้นกับใครได้หรอก ต่อให้เป็นสาวสวยๆก็เถอะ
นับประสาอะไรกับสิตาในร่างครึ่งสัตว์ครึ่งคน คุณสบายใจได้เพราะตอนนี้หัวใจและร่างกายผม มันรู้สึกกับคุณเพียงคนเดียว”
หมดคำพูด นอกจากหน้าแทบระเบิดแล้ว พระลักษมณ์อยากถีบปีศาจรูปงามตนนี้ซะจริง ขยันทำให้ตนอายได้ตลอดสิน่า
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ชอบนะ เพราะหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ปาจาหยอดซะงั้น เอาเหอะอย่างน้อยปาจาก็ใช่คนชอบพูดพร่ำเพรื่อ
แสดงว่าที่พูดมาต้องรู้สึกตามนั้นแล้วละ ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้ นอกจากเขินจนหน้าร้อนฉ่าไปหมดแล้ว
ตนยังแอบดีใจพิลึก...จะบร้าตาย...วิษณุทรงพล แพ้ลูกหยอดของปีศาจตนนี้เข้าให้อย่างจัง.....??????
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
“อะไร? คุณยันต์” ธรรมตรัยหน้านิ่งถามกายันต์ขึ้นมาดื้อๆ จนคนถูกถามทำหน้านิ่วบ้างทันที
ตนรึอุตส่าห์ตอดนิดตอดหน่อยแกล้งเนียนเลื้อยแขนรวบกอดคนหน้าสวย ซึ่งนิ่งได้นิ่งดีเข้ามาในอ้อมกอด
ดันถามมาหน้าเย็นซะงั้น
“ก็กอดแฟนไง ถามแปลกหรือต้องให้แสดงมากกว่านี้ครับ” กายันต์จำต้องตีมึนตอบหน้าตายบ้าง
ได้ผลต่อให้เลขาเย็นชาที่เพิ่งเลื่อนฐานะเป็นสะใภ้รองของดงพญาจะนิ่งแค่ไหน ก็ยังมีเลือดเนื้อปกติไม่งั้นหน้าสวย
จะซับสีเลือดได้หรือ อาการนี้ทำเอากายันต์อดกดจมูกซับความนุ่มและความหอมบนแก้มเนียนไม่ไหว จัดเต็ม
“ฟอด!” ยังไม่หนำใจซุกไซร้ซอกคอขาวต่อทันที ทำเอาร่างสูงของเลขาหน้านิ่งทนเฉยต่อไม่ไหว
ต้องปรามอย่างไว
“เดี๋ยว!...นี่คุณกำลังจาบจ้วงผมอยู่นะคุณยันต์” มือไม้ก็คอยป้องกัน ดีนะที่อยู่ในห้องส่วนตัว
แต่ก็แย่เพราะมันล่อแหลมเกิน
“หืม...ผมทำกับแฟน ผิดด้วยหรือ” กายันต์ยังคงยึดคาแรกเตอร์ตีมึนตอบหน้าตายเหมือนเคย
งานนี้หากจะปราบพยศคนหน้านิ่งแสนชาเย็นก็ต้องใช้ไม้ตายตีมึนแบบนี้แหละ พร้อมกับยังคงซุกไซร้ร่างสูงในอ้อมแขน
ไม่หยุด ทำเอาธรรมตรัยเสียงสั่นต้องยอมอุธรณ์เสียงอ่อนออกมาจนได้
“อือออ...ผมเจ็บอยู่เลย รอหายก่อนได้ไหม?” พอเจ้าตัวพูดมาแบบนี้ กายันต์ก็กายันต์เถอะ
มีหรือจะใจแข็งต่อไปได้อีก น้อยครั้งจะได้ยินน้ำเสียงแกมขอร้องจากคนหน้าสวยแสนชาเย็น นี่ยอมลงทุนเสียงอ่อน
พาเอาใจอ่อนยวบเชียวละ
“หือออ..แต่ผมต้องการคุณนี่...ไม่เชื่อพิสูจน์ดูดิ” ไม่พูดเปล่า เอื้อมจับมือเรียวไปวางแหมะตรงเป้าตุง
ของตนเองเป็นการพิสูจน์เล่นเอาเจ้าของมือหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที
“คุณนี่มัน...ก็ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเอาสิ!” ธรรมตรัยอดโมโหไม่ได้ พอได้เสียกันแล้วรู้สึกกายันต์
จะหื่นใส่ตนซะจริง ไม่นับเมื่อคืนหลังทำพิธีจนหมดแรง พอรู้สึกตัวตื่นใกล้รุ่ง พ่อคนหื่นจัดถือโอกาสจัดให้อีกรอบหน้าตาเฉย
ไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมสักนิด ไอ้ตนก็ดันเสือกไม่มีแรงต่อต้านเลยตามเลยตามน้ำไปกับเขาซะงั้น ที่น่าเจ็บใจให้ความร่วมมือเสียอีก
ถึงได้ระบมไม่หายตอนนี้ไง ที่ไม่กล้าไปเดินโทงๆต่อหน้าปาจากับพระลักษมณ์เพราะอายท่าเดินของตัวเองตะหาก
ถึงต้องหลบอยู่ในห้องแม้จะห่วงอาการคนถูกแทงไม่น้อยก็เถอะ
“ไม่เอา...มันไม่ได้รู้สึกดีเหมือนทำกับคุณนี่...เอางี้ผมไม่ทำตรงนั้นก็ได้ แต่คุณใช้ปากช่วยผมนะ
นะ..นะ..ผมสัญญาผมจะทำให้คุณด้วยเหมือนกัน” กายันต์พูดเหมือนขอกินขนม แต่สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักการร่วมรักครั้งแรก
อย่างธรรมตรัยผู้ถือเพศพรหมจรรย์มากว่ายี่สิบแปดปี ตอนนี้หน้าจะระเบิดอยู่แล้ว สมองยังไม่ทันได้โต้ตอบก็ต้องพลาดท่า
ให้กับกายันต์เทพบุตรสุดหื่นจนได้ เมื่อปากหนาได้รูปบดจูบดูดกลืนความหวานในโพรงปากนุ่มปลุกอารมณ์ร่างสูงของ
เลขาชาเย็นอย่างไม่ต้องรอเอาคำตอบ...งานนี้หมดทางปฏิเสธ..ให้ตายเถอะ...ไม่คิดมาก่อนกายันต์จะนัวเนียกับตนไม่เลิก....
เฮ้อ!...เลขาหน้านิ่งแสนชาเย็นคงได้หลอมละลายเพราะไฟรักจากกายันต์เทพบุตรสุดร้อนแรงแล้วละคราวนี้.....??????????
มาต่อให้แล้วนะคะ ยอมรับว่าตอนนี้วุ่นวายมากมาย
ขอโทษที่มาต่อช้านะคะ จะพยายามไม่หายนานค่ะ
ขอบคุณทุกรีไพส์ ทุกกำลังใจ ทุกคะแนนบวก
รักคนอ่านทุกท่านเช่นกัน
Luk.
.