“พี่โซโล่ครับ ข้าวน่ะอยากกินเนื้อเอาให้หน่อยสิครับ ป้อนด้วยน่า~”
ผมแอบเหล่ไปมองอีกครั้ง ช่างเป็นภาพงบาดตาบาดใจเหลือเกิน ไอ้โซโล่มันจับเนื้อจิ้มน้ำพริกแล้วยื่นมาป้อนน้องข้าวโพดที่งับทันที จากนั้นก็เขยิบไปเบียดไอ้โซโล่ใกล้กว่าเดิมอีก ไอ้โซโล่!!! แล้วมึงจะไปตามใจน้องเขาทำไมวะ!? ให้มันหยิบกินเองสิโว้ย!!! ทีกูล่ะไม่เคยป้อน!! ผมนั่งสงบจิตสงบใจยกแก้วขึ้นมาซดแทน
อารมณ์ผมเริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ แม่ง อีน้องข้าวโพดครับ!! มาอ้อนผัวกูอยู่ได้!!! ผมนั่งเก็บนั้นกินนี้ไปเรื่อยๆ กูไม่สน กูไม่แคร์! งืมๆ ไอ้โซโล่!! ไอ้บ้า!! ชิ!! แต่ละคนเนี่ยหันมามองพวกผมเป็นตาเดียวเหมือนรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้สตางค์มันยิ้มแห้งๆ ให้กับผม เพื่อนๆ ไอ้โซโล่มันก็ยิ้มๆ เหมือนรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผมจะไปทำอะไรได้ล่ะครับ! นั่งซดเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่า จนในที่สุดไอ้ฮอยฮักมันก็โผล่หน้าจืดๆ เข้ามาในร้าน รู้สึกว่าเมื่อกี้จะมีใครมาส่งมันด้วย ถ้าดูไม่ผิดแล้วนั้นพี่ยิ้มแน่ๆ ครับ โห~! พี่ยิ้มแกรับได้แล้วเหรอว่าน้องแต่งหน้าจืดๆ แบบนี้ออกมาข้างนอกเนี่ย? พอมันเดินเข้ามาในร้าน ไอ้แซมก็โบกมือเรียกมันทันที
“ไอ้ฮอย ทางนี้โว้ย”
เพราะข้างๆ ไอ้แซมมันเว้นไว้ที่หนึ่ง อ้อ เว้นไว้เพื่อไอ้ฮอยฮักมันนี่เอง ไอ้บ้านั้นมันก็เดินมาจริงๆ นั้นแหละครับ ไม่ได้ดูสายตาไอ้คนนั่งหัวโต๊ะทางด้านนั้นเลยเหรอวะไอ้ฮัก!? ไอ้วินเซอร์มันเหลือบมองไอ้ฮักมันแทบจะเป็นจิกสายตา ไอ้ฮักมันเดินมาถึงที่ข้างๆ ไอ้แซมวางกระเป๋าใบใหญ่แล้วเดินตอกๆ ไปนั่งข้างไอ้วินเซอร์มันด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติสุดๆ คนอื่นเนี่ยมองมันอย่างแปลกใจแกมสงสัยอย่างแรง
พอไอ้ฮักมันนั่งปุ๊บไอ้วินเซอร์ก็บริการหานั้นหานี้ให้พร้อมสรรพ คนในโต๊ะมองพวกมันทั้งสองเป็นตาเดียวแต่พวกมันหาได้ใส่ใจกับพวกผมไม่ นั่งคุยอะไรกันสองคนซุบซิบเสียงเบา กูนั่งไกลแบบนี้มันไม่ได้ยินวะ ไม่รู้ว่าไอ้ฮอยฮักมันพูดอะไรออกไปถึงทำให้ไอ้วินเซอร์มันหัวเราะ บรรยากาศมันช่างหวานแหววโลกนี้เป็นสีชมพูไปหมด!!
“อะไรวะ เมื่อไม่นานมานี้กูยังเห็นพวกมันวิ่งไล่กันที่คณะอยู่เลย ไหงวันนี้มันมานั่งไหล่ชนกันได้”ไอ้แซมมันมองภาพนั้นแล้วถามอย่างข้องใจสุดๆ ผมก็ส่ายหน้า กูก็เพิ่งรู้แหละว่าพวกมันไปวิ่งไล่จับกันที่คณะ ไปสร้างวีรกรรมอันลือลั่นไว้แล้วพวกเราก็ตัดสินใจไม่สนใจคู่นั้นอีก แต่สำหรับผมแอบมองพวกมันเงียบๆ
โอ้~!!
ไอ้วินเซอร์มันดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเว้ยเฮ้ย! ดูอ่อนโยนขึ้นเป็นกองมียิ้มแล้วลูบหัวของไอ้ฮอยฮักมันด้วยแหละ ผมแอบมองพวกมันแล้วยิ้มตาม กูแอบมองแล้วเขินแทนพวกมันเลยอ่า เพิ่งเคยเห็นมีคนจับหัวของไอ้ฮอยฮักได้เนี่ยแหละ มึงเป็นคนแรกเลยนะไอ้วินเซอร์! อย่างไอ้วินเซอร์เนี่ยต้องเรียกว่าเหนือเทพสินะ!!
พวกเรากินไปกันสักพัก ไอ้โจ้และน้องลูกหว้าก็อาสาไปเปิดเวที ทั้งสองคนขึ้นไปบนเวทีเปิดเพลงคาราโอเกะถือไมค์เตรียมพร้อม พอเสียงดนตรีขึ้นเท่านั้นผมก็รู้เลยว่าคู่นี้เขาจะร้องเพลงอะไรกัน
“โน่นแน่ะนกเขาคู จุ๊ก จุ๊กกรู นกมันเฝ้าคูหาชู้มัน”
“โถโก่งคอทำเสียงหวาน ช่างน่าสงสารนะกระไรใจข้า”
ใช่แล้วล่ะครับ พวกเขาร้องเพลง ‘นกเขาคูรัก’ นั้นเอง!! ไอ้โจ้กับน้องลูกหว้าร้องไปหยอกกันไปอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ผมมองแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ โห~ ไอ้โจ้เต้นไปรอบๆ น้องลูกหว้าแล้วเต้นโยกใส่กันไปมา ช่างเป็นแฟนที่นิสัยเหมือนกันเหลือเกิน! แต่มันก็น่ารักดีน่ะนะ
“พี่โซโล่ เราไปร้องเพลงคู่ด้วยกันไหมครับ?”น้องข้าวโพดเอ่ยถามขึ้นระหว่างมองคู่ไอ้โจ้มันร้องเพลงหยอกล้อกันอย่างหวาน ไอ้โซโล่มันไม่ได้ตอบอะไรไปครับ เชอะ!
“พี่ร้องเพลงไม่เป็น”ไอ้โซโล่มันปฏิเสธออกไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่ไปยืนร้องกับผมเท่านั้นเอง น่า~”
ตื้ออยู่นั้นแหละ!! เขาไม่อยากจะไปร้องก็ปล่อยเขาไปสิฟ่ะ!! ผมบ่นในใจให้กับน้องข้าวโพดที่ยังตามตื้อให้ไอ้โซโล่มันไปร้องด้วยแต่ไอ้โซโล่มันก็ส่ายหน้าปฏิเสธจนน้องข้าวโพดยอมแพ้หันไปเอาใจมันทางอื่นแทน เอาใจมันเข้าไป!! ผมเหลือบมองแล้วหันไปมองทางอื่น หึ! ไม่ได้โกรธหรอกแค่เคือง! ไอ้โซโล่มันไม่ได้ดั่งใจเล๊ย!!
ตอนเปลี่ยนที่นั่งกันแทนที่มันจะพูดอะไรให้ชัดเจนแต่กลับยอมง่ายๆ ซะงั้น เหอะ!! นี่ต้องรอให้กูเป็นคนบอกเป็นคนพูดเองเลยหรือไงวะ!? แล้วไอ้บู๊ลิ้มเจ้าของงานกับไอ้สตางค์เมียมันขึ้นไปบนเวทีแทนคู่แฟนบ้าบอ พอดนตรีขึ้นผมก็ทำหน้าเซ็งจัด
“โธ่ นวลละอองน้องจะเนียมอายไปทำไม หันมาใกล้ ๆ สิจะอายไปไหนกัน”
“อุ๊ย ไม่เอา อุ๊ย ไม่เอา เขารู้ทัน น้องอายพระจันทร์ ดูท่านกำลังมอง”
เห็นคู่นี้มันร้องเพลงคู่กันแล้วตูเลี่ยนทันที คู่ก่อนหน้านี้มันออกแนวบ้าๆ ทำให้ดูน่ารักดีแต่คู่นี้กลับมาสวีตเต็มพิกัด มีทำเขินกันอีกแน่ะ ไอ้บู๊ลิ้มก็ทำท่าจะหอมแก้มไอ้สตางค์ ไอ้เตี้ยมันก็ทำเป็นหลบได้สะดิ้งมาก!! คนข้างล่างเนี่ยทำหน้าแหยงใส่พวกมันแทบจะทุกคน พวกผมต้องนั่งทนมองพวกมันสองคนร้องหยอกกันไปมาอย่างหวานหยดย้อย
“แน่ะ เมฆมาทับดับแล้วเดือนดารา มาหอมหน่อยขวัญตาน้องเอยอย่ากลัวท่านเหลียว”
“อุ๊ย ว๊าย ดูซิช้ำไปเป็นกอง”แล้วไอ้บู๊ลิ้มมันก็ขโมยหอมแก้มไอ้สตางค์ได้สำเร็จ(หรือสมยอมหว่า?)
“โธ่อย่าร้อง ซิท่านจะเหลียวมองดูเรา”
แล้วการร้องเพลงที่โคตรเลี่ยนก็จบลงด้วยการที่ไอ้บู๊ลิ้มขโมยหอมแก้มอีกฝ่ายได้ทั้งสองแก้ม ไอ้สตางค์มันก็โบกมือฟาดทันที แต่ฟาดเบาๆ มึงไม่ต้องอายหรอกวะไอ้สตางค์คนเยอะแยะ!! ผมอารมณ์ว่าดีแล้วนะแต่พอหันมาแล้วใจมันเดือดทันที บรรยากาศพาไปเหรอครับน้องไปซบไหล่แฟนชาวบ้านเขาแบบนั้นน่ะ!!! ผมเหล่มองไอ้โซโล่มันเล็กน้อย มึงก็ไม่ผลักน้องเขาเลยนะ เหี้ย!! ผมคิ้วกระตุกยิกๆ อารมณ์ตอนนี้แม่งอยากกระทืบคน!!!
“ใครจะร้องต่อไหมวะ?”
“กูเอง!”ผมเสนอตัวไปทันทีที่ไอ้สตางค์มันถามขึ้น แล้วผมก็เดินออกด้วยอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไอ้ฮอยฮักมันก็เดินมาหาผมแล้วกระซิบบอกอะไรบางอย่าง ผมพยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่ เออ!! เพลงนี้ล่ะมึง!! โดนใจกูตอนนี้ม๊ากมาก!!! ผมเดินขึ้นเวทีไปแล้วกดหาเพลง ก่อนจะเริ่มต้นคว้าไมค์เตรียมพร้อม น้องข้าวโพดตบมือร่าส่วนไอ้โซโล่มันทำหน้านิ่ง
หึ!! แล้วมึงจะหนาว! ผมยืนค้ำเอวชี้หน้าไอ้โซโล่ทำหน้าหาเรื่องเต็มที่ มันเลิกคิ้วรับแล้วผมก็เหลือบไปมองน้องข้าวโพดที่ยิ้มแป้น เดี๋ยวคุณน้องจะร้องไม่ออก! พอดนตรีขึ้นเท่านั้นแหละ พวกของเพื่อนเนี่ยดิ้นชักกันไปข้าง
ผัวพี่เด้อน้อง ผัวพี่เด้อน้อง ผัวพี่เด้อน้อง
ขอร้องอย่ามาซูน สูนขึ้นมา เตะขาดเขิ่ง!
เบิ่งแหน่แมะของไผ ผัวผู้ใดไผก็หวงตัว
โย้ อย่ามาเฮ็ดมั่วๆ บ่มักใซ่ผัวร่วมกับคนอื่น
บ่มักใซ่ผัวร่วมกับคนอื่น
พอผมร้องออกไปไอ้โซโล่มันก็หัวเราะตามพวกไอ้โจ้ทันที น้องข้าวโพดเนี่ยหน้าซีดเชียวเมื่อเจอท่อนเตะขาดเขิ่ง(เตะขาดครึ่ง)ผมจับแทงเข่าด้วยสีหน้าอินเอามันให้ตาย!! พวกเพื่อนของผมมันก็ส่งเสียงเชียร์พร้อมกับตบมือให้จังหวะ
มันทนบ่ได้ มันทนบ่ได้มันทนบ่ได้ ของใครก็ของมัน
คั่นฮู้แล้ว อย่าสู่ฝืน เมียเขานั่นยังอยู่
ลองเบิ่งดูบ่อยากตายคืน ลักเล่นผัวคนอื่น
ยิ้มหวานซื่นมีสุขแท้นอ ยิ้มหวานซื่น มีสุขแท้หนอ
บ่ได้เว่าเล่น บ่ได้เว่าเล่นบ่ได้เว่าเล่น
บ่เห็นกะแล้วไป เจอะเมื่อใด จับหักคอ
บักผัวเฮากะโตดี ทำถ่าทีพ่อว้อพ่อว่อ
มาเคียดแฮงแท่นอ อยากเจอเบาะ
นี่แหละของจริง ผัวพี่เด้อน้อง
ไอ้โซโล่มันหัวเราะไม่ฟื้นไปแล้วล่ะครับนอนหัวเราะไปกับเก้าอี้เลยทีเดียว ไม่ได้สำนึกเล๊ย!! อยากจะเจอของจริงแบบไม่ใช้ตัวแทน ไม่ใช้สแตนด์อินเลยใช่ไหมไอ้โซโล่!? จับหักคอจิ้มแจ่วกินให้ดู!! อย่าหาว่ากูโหดนะโว้ย!! ไอ้น้องข้าวโพดถ้าบ่อยากตายคืนก็ถอยห่างๆ จากผัวกู!!!
ผัวพี่เด้อน้องผัวพี่เด้อน้อง ขอร้องกันหลายๆ
อายคนเด้ เฮานะหน้าตาดี หาผู้ชายสักคน
เป็นตัวเป็นตนที่เขาฮักจริง อย่ามาคิดแย่งชิง
ผัวอ้ายแห่งมีผู้เดียว กว่าสิได้มาหายากเกือบตาย
บ่ได้เว่าเล่น บ่ได้เว่าเล่นบ่ได้เว่าเล่น บ่เห็นกะแล้วไป
เจอะเมื่อใด จับหักคอ บักผัวเฮากะโตดี
ทำถ่าทีพ่อว้อพ่อว่อ มาเคียดแฮงแท่นอ
อยากเจอเบาะ นี่แหละของจริง
ผัวพี่เด้อน้อง ผัวพี่เด้อน้องผัวพี่เด้อน้อง
ขอร้องกันหลายๆ อายคนเด้ เฮาก็หน้าตาดี
หาผู้ชายสักคน เป็นตัวเป็นตนที่เขาฮักจริง
อย่ามาคิดแย่งชิง ผัวอ้ายแห่งมีผู้เดียว
กว่าสิได้มาหายาก เกือบตาย
“ฮิ้ววววววววววววววววววววว~!!!!!!!!!!!!!!!”พวกไอ้โจ้มันส่งเสียงโห่ร้องพร้อมกับตบมือกันเกรียวกราว ไอ้โซโล่เนี่ยยิ้มหน้าบานเชียว ผมเดินลงมาจากเวทีแล้วสะบัดหน้าใส่ไอ้โซโล่ ยิ้มหาพระแสงอะไรไม่ทราบ!!? น้องข้าวโพดก็หน้าแดงเชียวแล้วก็หลุดหัวเราะออกมา อะไรของน้องครับ!!? ผมเบิกตากว้างใส่ทั้งสองคนที่เอาแต่หัวเราะ
“ถึงกูจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่โอเค มานี่มา ข้าวโพดเขยิบไปนั่งที่เดิมไป เมียพี่หึงโหดระวังโดนเตะขาดเขิ่ง ฮ่าๆๆๆ”ไอ้โซโล่มันพูดพร้อมกับยิ้มๆ ให้กับผม มันกวักมือเรียกแล้วบอกให้น้องข้าวโพดย้ายที่นั่ง น้องข้าวโพดก็ยิ้มรับแล้วเขยิบไปให้ผมนั่งที่เดิมในตอนแรกแล้วหันมายกมือไหว้ขอโทษผม
“อย่าเตะผมเลยนะครับพี่พรีสต์~ ก็ใครบอกให้พี่ทั้งสองคนไม่บอกผมสักทีล่ะ ผมก็ต้องแก้แค้นเป็นธรรมดา”
“แก้แค้นก็ไม่ว่านะครับน้อง แต่อย่ามามากกับผัวพี่ เดี๋ยวเตะขาดเขิ่ง!”
“คร้าบ~”
ผมจ้องเขม็งมองไอ้น้องข้าวโพดที่หันไปคุยกับไอ้แซมอย่างไม่ไว้วางใจแล้วหันขวับมามองไอ้โซโล่ที่พอมองผมแล้วก็หันไปหัวเราะขำ เดี๋ยวปั๊ดกูเตะมันขาดเขิ่งคนแรก! พอมองไปที่ไอ้ฮอยฮักผู้เสนอเพลงให้กับผมก็เห็นมันซบไหล่ไอ้วินเซอร์แล้วตัวสั่นๆ เหี้ยยยยยย!!!! ขนาดไอ้ฮอยฮักมันยังขำจนต้องไปหลบซบไอ้วินเซอร์เลย!! ผมเริ่มอายหน้าแดงขึ้นมาดื้อๆ
เมื่อกี้กูทำอะไรวะ? กูจำไม่ได้!!!!ไอ้โซโล่มันก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีแล้วยกแก้วขึ้นมากรึบๆ อย่างเพลิดเพลิน กูเนี่ยนั่งก้มหน้าอายคนชิบหายเมื่อคิดย้อนกลับไปแล้ว แว๊กกกกก!!! ไอ้ฮอยฮักไอ้บ้าเพราะมึงแนะนำเพลงนี้แท้ๆ! กูเลยกลายเป็นตัวตลกไปซะชิบ!! ไอ้โซโล่มันก็เอานั้นเอานี้มาให้กับผมแล้วจับตัวผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ มัน มือน่ะโอบเอวผมไว้ตลอด โอ๊ยหนอออออ!!!! กูไม่รู้อะไรแล้ว ดื่มมันอย่างเดียวโว้ย!!!
ดื่มไปสักพักเจ้าของวันเกิดมันก็รีเควสไอ้หนุ่มเสียงดีมือพิณเทพอย่างไอ้ฮอยฮักไปขึ้นเวที ไอ้วินเซอร์เนี่ยมองไอ้ฮอยฮักอย่างแปลกใจ แล้วท่านเทพก็เดินขึ้นเวทีไปอย่างมั่นอกมั่นใจไปหยิบพิณที่วางไว้หลังเวทีพร้อมกับลากเก้าอี้มานั่ง
“เพลงนี้ผมเรียบเรียงดนตรีใหม่เป็น Acoustic Version อันที่จริงผมเตรียมเพลงนี้ไว้เพื่อเขา แต่ร้องตอนนี้ก็ได้ และสุดท้ายนี้อยากบอกว่า...ตอนนายร้องเพลงนั้นให้ฉัน...มันโคตรได้ใจเลยวะ”
อยากฟังซ้ำคำที่เธอบอกฉัน คืนนั้นจำได้ไหมกระซิบที่หู
กระเทือนถึงใจยังจำไว้เรื่อยมา อยากฟังซ้ำคำที่เธอบอกรัก
รักฉันมากหนักหนา เสมือนชีวิต เสมือนดวงตา คำนี้น่ารักจัง
เหมือนบทเพลงหวานซึ้งฟังครั้งหนึ่งไม่พอ
อยากฟังซ้ำฟังต่อ สักหมื่นๆ ครั้ง บอกอีกสักครั้งว่าเธอยังจดจำ
จำถ้อยคำฝากฝัง กระซิบซิครับจะเอียงหูฟัง ยังรักฉันหรือเปล่า
ผมนั่งมองไอ้ฮอยฮักมันร้องเพลงอย่างเหม่อลอยเหมือนคนอื่นๆ เสียงนุ่มและหวานของมันกำลังสะกดพวกเราให้อินไปกับเพลง ทุกคนเงียบฟังไม่มีใครขยับ น้ำเสียงหวานลื่นหูกับเสียงพิณเพียวๆ นั้นขับกล่อมพาไปกับบรรยากาศตอนค่ำที่มีอากาศเย็นๆ
เหมือนบทเพลงหวานซึ้งฟังครั้งหนึ่งไม่พอ
อยากฟังซ้ำฟังต่อ สักหมื่นๆ ครั้ง
บอกอีกสักครั้งว่าเธอยังจดจำ
จำถ้อยคำฝากฝัง กระซิบซิครับ
จะเอียงหูฟัง ยังรักฉันหรือเปล่า
พวกเรานิ่งไปจนกระทั่งไอ้ฮอยฮักมันลุกขึ้นไปวางพิณไปที่เดิม แล้วไอ้โจ้มันก็ตบมือทำให้คนอื่นๆ ได้สติตบมือกันเกรียวกราวตาม คนร้องก็โค้งตัวรับเสียงตบมือ แต่ละคนเหมือนเพิ่งหลุดจากภวังค์ความฝัน นี่ขนาดมันเป็นฮอยฮักจืดๆ ยังรู้สึกว่ามันโคตรหล่อเลย แล้วถ้ามันเป็นไอ้ฮอยฮักโคตรหล่อคนนั้นแต่ละคนยังจะละลายลอยล่องไปกับความฝันแล้วล่ะครับ!! ตอนนี้กูอยากเป็นไอ้วินเซอร์!! เป็นคนที่ไอ้ฮอยฮักมันร้องเพลงให้เลยโว้ย ได้ใจมาก ถ้าคะแนนเต็มสิบดาวกูให้มึงร้อยดาว!!!
“เป็นไงล่ะ ไอ้จืดของเราก็มีดีน่ะเฟ้ย!”ไอ้สตางค์มันพูดข่มครับ โห~ ทำอย่างกับมึงร้องเองงั้นแหละ!! ระหว่างฟังเพลงผมแอบเห็นไอ้สตางค์มันซบไอ้บู๊ลิ้มด้วยแหละ อย่าคิดว่ากูไม่รู้น่ะมึง!!
เพราะกูก็ทำ...ฮิๆ
“พี่พรีสต์ครับ พี่ใส่แว่นคนนั้นชื่ออะไรเหรอครับ?”น้องข้าวโพดเข้ามาสะกิดแล้วถามผมเบาๆ ผมเลิกคิ้ว อย่าบอกนะว่าน้องหลงคารมไอ้ฮอยฮักเข้าอีกคนน่ะ? เฮ้ย! น้องจะไปสู้ไอ้วินเซอร์ได้เหรอ!?
“มันชื่อฮอยฮักครับ”
“ไม่ได้ชื่อเลิฟมีงั้นเหรอครับ?”
!!!!!?“เลิฟลงเลิฟมีอะไร บ้านิยายน่ะเราเนี่ย”ผมตกใจหัวเราะแห้งๆ แล้วส่ายหน้าไปมา น้องข้าวโพดมองไอ้ฮอยฮักเขม็งแล้วหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ดวงตาเป็นประกายวูบแล้วทำหน้าเขินอาย ทำเอาผมพูดอะไรไม่ออกเลย
“ผมว่าใช่เลิฟมีแน่ๆ ครับ ผมน่ะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเลิฟมีเลยน่ะครับ เรียกว่าคลั่งเลยก็ได้!”
ไอ้ฮัก!!! กูว่ามึงงานเข้าแล้ววะ!!!TBC.ได้ลงใหม่เจ็บปวด

เยสสสส~ คนแต่งเปิดเทอมแล้ววววววว!!
งานเข้าตั้งแต่วันแรกที่เรียนเลยคร้าบ เฮอะๆ