ตอนที่ 16"เก้า ทำไมถึงแกล้งกวนโซ่ล่ะ"
"รู้ด้วยเหรอ"
"ปรกติเก้าไม่ได้พูดจาดีกับผมขนาดนั้น"
"พูดกูมึงเหอะ เอาจริงๆ ไม่ต้องพูดผมแล้ว กูไหว้ล่ะ มันฟังดูเสแสร้ง รำคาญหู"
"เนี่ยอ่ะ ปกติชอบพูดแดกดัน" ผมบ่นเบาๆ
"เออ โซ่มันพูดกระทบแก้ว จริงๆ ก็คงไม่ตั้งใจหรอก แต่มันจี๊ดขึ้นมา ก็เลยอยากกวนตีนมันเล่น... นี่มึงกลัวกูไม่เลิกแกล้งอะไรมันรึไงถึงไม่ยอมให้ตามมา"
"แค่อยากรู้ว่า..มึง มีธุระอะไรจะคุยรึเปล่า"
"กูจะซื้อเสื้อผ้า กับพวกเครื่องประดับ เห้ยแวะร้านนี้ก่อนแป๊บ ดูเครื่องเงินหน่อย"
"เก้า ถามจริงๆ ชวนกูออกมาทำไม"
"ไม่พอใจรึไง เรื่องมาก กูอุตส่าห์จะพักเรื่องมึงกับแก้วไว้ก่อนจนกว่ามึงจะจำอะไรได้ หรือไม่...จนกว่าแก้วจะออกปากขอให้ช่วยเอง กูยุ่งมากแล้วมีแต่เรื่อง"
"แล้วตอนนี้แก้วเป็นยังไงบ้าง บอกได้ไหม"
"มันอยู่บ้านพ่อแม่ที่เมืองนอก มีนัดบำบัดกับจิตแพทย์ทุกอาทิตย์ จริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เกิดอาการวัยรุ่นใจร้อนแค่หนเดียวนั่นแหละ"
"เอ๊ะ? ใจร้อนเรื่องอะไร"
"เออ กูยังเล่าไม่หมดนี่หว่า ลืมไป ที่กูเคยบอกวิน ยังไม่ได้บอกแฟร์"
"อะไร"
"........ไม่ดีกว่า เดี๋ยวมึงร้องไห้กลางตลาดนัด"
"บอกกูหน่อยสิ นะ"
"ถือของให้หน่อยดิ๊ ไปซื้อน้ำเปล่าให้ขวดนึงด้วย ถ้าเจอพัดหรือพัดลมมือถือก็ซื้อมาด้วย กูจะเลือกสร้อยรอ"
ผมไม่เข้าใจเก้าเลย อารมณ์แปรปรวนได้ตลอดเวลา นี่ก็เปลี่ยนจากตามกวนประสาทผมไปกวนใจโซ่เข้า ถึงได้โดนทุบมา ต่อหน้าโซ่เข้ามาพูดเหมือนสนิทกับผม แต่พอออกจากคอนโดโซ่แล้วก็ทำตีมึน ลากมาเที่ยวแล้วใช้ให้ตามถือของ ให้ไปซื้อน้ำ หรือว่านี่คือนิสัยเวลาปกติแล้วนะ ทำตัวให้คนรอบตัวหัวปั่นตลอดเวลา
...แต่อย่างน้อย ก็ดีที่ว่าวันนี้เก้าก็ไม่ได้ยกเรื่องแก้วขึ้นมาเป็นประเด็นหลัก ออกจะหลบเลี่ยงไม่พูดถึงอีกด้วยซ้ำ ผมดีใจนะที่เก้ามองเห็นผมเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่วิน ไม่ได้ทวงให้ชำระหนี้แค้นอีก ...แต่ในเมื่อไม่มีความเจ็บแค้นแล้ว เก้ามีอะไรถึงมายุ่งกับคนแปลกหน้าอย่างผมอีก
"น้อง น้องครับ ถ่ายรูปหน่อยได้ไหมครับ"
"?...ให้ผมถ่ายรูปให้?"
"ไม่ใช่ๆ คือพี่น่ะ มากับกองละคร มาถ่ายกันแถวนี้ พี่เห็นน้องหน้าตาเด่นดี อยากจะถ่ายไปให้บอสพี่ดูหน่อยน่ะ"
"เอ่อ เอาไปทำไมครับ"
"ก็เผื่อพี่เค้าสนใจ อยากได้น้องไปถ่ายละคร หรือโฆษณาอะไรแบบนี้น่ะ นะ ช่วยพี่หน่อย"
"ถ่ายก็ได้ครับ แต่ผมคงไปถ่ายละครอะไรไม่ได้หรอกนะครับ"
"ครับๆ "
ผมยืนเฉยๆ แล้วมองกล้อง พอถ่ายเสร็จรูปหนึ่ง ผมก็รีบโค้งลาทันทีแล้วเดินไปซื้อน้ำเปล่าที่เค้าแช่เย็นขาย ก่อนย้อนกลับเข้าไปในซอกซอยเดิม
"ช้าาา"
"ผมรีบมาแล้วนะ"
"อย่าพูดผม สมองมีน่ะหัดจำซะมั่ง"
"มีคนมาทักน่ะ" ผมพยายามไม่ใส่ใจคำพูดเก้า ยื่นขวดน้ำให้แล้วโดนจ้องหน้า ทำอะไรไม่ถูกใจอีกล่ะ
"ทำไมซื้อมาขวดเดียว"
"ยังไม่หิวน้ำ กินเหอะ"
"แฟร์ชอบกินน้ำไร"
"..กาแฟเย็น ที่ไม่หวาน"
"กาแฟเอ็กเพรสโซแบบที่ร้านวันนั้นเหรอ"
"กาแฟอะไรก็ได้ ขมหวานแต่ไม่หวานมาก"
"ตกลงหวานหรือไม่หวานวะ"
"...กาแฟดำก็ได้"
"ไปเดินหาร้านกัน"
"กูกลับแล้วได้มั้ย"
".....ทำไม เดินเล่นกับกูก่อนไม่ได้รึไง"
"มึงก็อยู่คนเดียวได้นี่นา"
"ใครบอก"
"อะไร"
"ใครบอกว่ากูอยู่คนเดียวได้ กูเคยอยู่กันสองคนกับน้อง เพราะใครไม่รู้มันถึงต้องย้ายออกไป"
"............"
"แต่ไม่ใช่เพราะแฟร์หรอก เนอะ"
มันยิ้มหัวเราะหึๆ กำรอบข้อมือผมแล้วพาเดินตามอำเภอใจ สรุปก็ยังเอาแก้วมาบังคับแบบอ้อมๆ อยู่ดี นอกจากกาแฟแก้วหนึ่งที่ซื้อเลี้ยงแล้ว ทั้งบ่ายเก้าก็เหมือนเดินเที่ยวคนเดียวแล้วปล่อยให้ผมวิ่งไล่ตาม เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก เวลาสนใจก็หันมาแกล้ง ถ้าไม่แกล้งก็คือเมินหนีไปเลย สนใจแต่ตัวเอง ผมได้แต่ทำหน้าเหนื่อยหน่ายแล้วรอเวลามันปล่อยกลับบ้าน
"เที่ยวกับกูไม่สนุกขนาดนั้นเหรอแฟร์"
เก้าถามขึ้นตอนขับรถกลับ ผมเผลอเหม่อลอยไปนิดหน่อย
"กูนึกว่าจะมีอะไรซะอีก เลยตามมา ไม่ได้อยากเที่ยว"
"กูไม่ค่อยมีเพื่อน"
"อยากเป็นเพื่อนกับกูเหรอ? ไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนรึไง"
"กูบอกเมื่อไหร่ว่าอยากเป็นเพื่อนกับมึง"
เงียบ... แล้วจะเอาอะไรจากกูอีกล่ะ กูไม่ใช่สัตว์เลี้ยงนะ ถึงมาตั้งชื่อให้ พาไปเดินเล่น คอยฟังคำสั่งน่ะ จะให้กูสนุกสนานมันบังคับควบคุมกันไม่ได้หรอกนะ ผมหลับตาถอนหายใจยาว
"แฟร์..."
"อะไร"
"อดทนกับกูหน่อย"
ผมมองเก้าอย่างไม่เข้าใจ ส่วนเก้ามองไปทางอื่น
"เรื่องอะไร"
"กูทำให้ใครชอบกูไม่ได้ มีแต่คนทนไม่ได้แล้วหนีไป มึงทำความรู้จักกูก่อนนะแฟร์ แล้วค่อยหนีถ้าทนไม่ได้แล้วจริงๆ "
ผมไม่ได้พูดอะไร และเก้าเองก็ไม่ได้รอฟังคำตอบ ผมลงจากรถแล้วกำลังจะเดินขึ้นห้อง เก้าก็เรียกเอาไว้
"แฟร์ เอานี่ไปด้วย" เก้าโยนถุงกระดาษใบเล็กๆ ให้ผมแล้วขับรถออกไป อะไรของเค้า... สร้อยข้อมือเงิน นึกว่าซื้อไว้ใส่เองซะอีก ให้งั้นเหรอ...ใจดีจังนะ ...ผมไม่ได้คิดว่าเก้าใจร้าย แต่เป็นคนที่รับมือยาก อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนไม่รู้ว่าอะไรที่ตัวตนที่แท้จริงกันแน่ ให้อดทนทำความรู้จักอย่างนั้นเหรอ?... ได้สิ ก็ทำตัวให้ชัดเจนว่าหน่อยว่าจริงๆ แล้ว เก้าเป็นคนยังไงกันแน่ ถ้าเราไม่ได้เริ่มรู้จักกันจากความแค้นเก่าๆ เก้าจะปฏิบัติกับคนแปลกหน้าคนนี้ยังไง
ผมเตรียมตัวกลับไปเผชิญหน้าโซ่อีกครั้ง กลัวจะโดนโกรธที่ทำให้เป็นห่วงอีก รู้สึกว่าจะโดนเทศน์เรื่องไม่ระวังตัวมาหลายทีแล้ว อย่าเที่ยวโปรยยิ้ม ทำหน้าออดอ้อนใคร
"หัดระวังตัวหน่อย หน้าตาอย่างมึง มันชวนเข้าใจผิดง่ายๆ "
"อย่าเที่ยวทำตัวว่าง่ายแบบนี้กับคนอื่นได้ไหม"แต่ว่า... ไม่เห็นต้องจูบซะหวานขนาดนั้นเลย ถ้าจะสั่งสอนกันล่ะก็ อย่างน้อยก็จูบให้เหมือนกับคนไม่คิดอะไรหน่อย เพราะกูอายมาก จูบที่ทะนุถนอมแบบนั้น... เหมือนกูเป็นที่รักมากงั้นแหละ อย่างไอ้เก้ายังจูบทื่อๆ มากกว่า เหมือนทำเพราะนึกไม่ออกว่าจะแก้แค้นแบบอื่นยังไง แค่เมื่อวานวันเดียวผมโดนผู้ชายจูบถึงสี่หน ...ท่านยมทูตครับ ผมรู้สึกว่าผมทำเรื่องน่าอายให้เจ้าของร่างมากเลย ท่านอยู่ที่ไหน ฝากขอโทษคุณวินด้วยเถอะนะครับ
ผมเปิดประตูห้องเข้าไป ไม่มีวี่แววโซ่อยู่ในห้องเลย รองเท้าใส่เดินในบ้านเก็บอยู่ในชั้น แสดงว่าออกไปข้างนอก ผมอดโล่งใจนิดหน่อยไม่ได้ แต่ก็สงสัยว่าโซ่หายไปไหน ทำไมทีตัวเองออกไปข้างนอกไม่มีโน๊ตบอกสักนิดว่าออกไปไหน โถ่เอ้ย ไม่แฟร์เลยนี่หว่า ผมเบ้ปาก หยิบของในตู้เย็นมาทำอาหารค่ำรอ จนกับข้าวสามอย่างวางพร้อมอยู่บนโต๊ะแล้วโซ่ก็ยังไม่กลับมาอีก ลองโทรหาดูดีกว่า
"ฮัลโหล"
"โหล ป๋าวิน นี่เนตรนะฮะ โซ่มันเมาหลับไปแล้ว"
"เอ่อ นี่อยู่ที่ไหนกันเหรอ"
"บ้านกัซไง เอ้อ ...จำไม่ได้สินะ"
"พอบอกทางได้ไหมเดี๋ยวผมให้คนขับไปส่ง"
ผมโทรขอให้ลุงเสือมาช่วยขับรถให้ เวลาสองทุ่มคงยังไม่ดึกเกินไป ผมมาถึงบ้านหลังโตที่สิงสถิตของเดอะแก๊ง นึกต่อว่าโซ่ว่าอะไรที่ห้ามผมทำตัวเองทำเองหมด บอกว่าอย่ายุ่งกับเหล้ายาแต่ก็มาเป็นซะเองแบบนี้ มันน่าเชื่อฟังตรงไหนกันเนี่ย
"เห้ยยยย นิววินมาแล้วเว้ย ไอ้กัซ มึงมาๆ ลุกมานี่ ไวๆ"
"ไอ้วิน มึงความจำเสื่อมจริงเหรอวะ เหมือนในหนังเลยอ่ะ แม่ง ลืมพวกกูหมดเลยเหรอ กูกัซ กัซเพื่อนมึงไง"
"หวัดดี ปาล์ม กัซ โซ่อยู่ไหนเหรอ"
"นอนอยู่นู่นอ่ะ เป็นไรไม่รู้ ดื่มคนเดียวตั้งแต่บ่าย พวกกูยังไม่เริ่มเลย"
ผมเดินเข้าไปทางทีวี มีคนสองคนนั่งดูหนังบนพรมขนยาวดูนุ่มนิ่มบนพื้น และโซ่นอนข้างบนโซฟายาวสีครีม ผมเดินเข้าไปข้างหลังคนพวกนั้นแล้วเขย่าไหล่ร้องเรียกคนที่นอนหลับ
"โซ่ๆ ตื่นเถอะ โซ่"
"เห้ยวินนนนน"
"สาดดดดด"
"ไอ้ริวๆ มานี่ กูมีเหตุผลให้เริ่มปาร์ตี้แล้วเว้ย ป๋าวินมาแล้วเว้ย กินเหล้าๆ"
"เอ่อ..."
คนที่ชื่อริวโดดลงมาจากขอบหน้าต่างที่นั่งอยู่ ปาล์ม กัซ ก็ตามเข้ามา สองคนที่นั่งดูหนังคือ หยี คนที่เจอว่าไปเรียนบ่อยๆ เหลืออีกคนก็คือเนตร โซ่ขยับตัวตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเอะอะครึกโครม ดูเหมือนก๊วนกินเหล้าจะไม่มีใครทันแตะเหล้าเลยสักคน จะมีก็แต่ตัวโซ่นั่นแหละที่กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึก
"วิน... มาที่นี่ทำไม"
"มารับกลับ ลุกเร็ว"
"เดี๋ยวดิ๊วิน ให้พวกกูเลี้ยงเวลคัมแบคมึงหน่อย ไอ้เลว ออกจากโรงบาลตั้งนานไม่มาหาพวกกู"
"ผมไม่กินเหล้าแล้วน่ะ กลัวมาแล้วจะ..เลิกไม่ได้"
"ป๋าวินนนน"
จู่ๆ คนที่ชื่อเนตรก็โผเข้ามากอดหมับ ผมกลืนน้ำลายอึ้กพยายามดันอกเนตรให้ถอยออกไปเพราะความอึดอัด แต่สัมผัสที่มือแตะไปเต็มสองมือนั้นทำให้ผมหน้าแดงวาบจนรีบชักมือออกแทบไม่ทัน เนตรไม่ได้ดูตกใจอะไรเพียงแค่หัวเราะเสียงดังลั่น
"ฮ่าๆๆๆๆ น่ารักอ้ะ หน้าแดงแจ๋หมดแล้ว"
"ขอหยีกอดมั่งดิ หยีเจอก่อนแท้ๆ นะ ตัดหน้าได้ไง"
"ป๋า ป๋าจำไม่ได้เหรอว่ากูเป็นตัวเมียน่ะ ฮ่าๆๆๆ"
"ไอ้เนตร ปล่อย! "
เป็นเสียงโซ่ที่ช่วยชีวิตไว้ หน้าผมร้อนไปหมดแล้ว โซ่ยังพอลุกขึ้นมาได้
"ทำไมอ่ะ วินยังไม่ว่าไรกูเลย"
"ปล่อยเว้ย วินเป็นของๆ กู นับจากนี้ พวกมึงทุกคนห้ามแตะต้อง"
"ฮ่าๆๆๆ มึงกับไอ้วินเนี่ยนะ แล้วใครจะอยู่บนอยู่ล่างวะ จะบ้ารึไง" กัซว่า
"กูอยู่ข้างบน"
โซ่ดึงเนตรออกจากตัวผมเอาเอาแขนพาดบ่าผม อะไรคือข้างบนข้างล่างวะ ผมพยุงมันไม่ให้ตัวโอนเอียงไปมา ทุกคนทำเงียบฉี่ทั้งที่เคยคุยกันจ้อกแจ้ก กัซทำหน้าช๊อกซีดเหมือนเจอผีหลอก ยาหยีก็ดูเหรอหราจากที่จะลุกเข้ามากอด อะไรกันน่ะ?
"กลับกันเหอะวิน บ้านนี้น่ะอันตรายของอันตรายที่สุดแล้ว มีแต่พวกหื่นๆ ห้าคนนี้แม่งหื่นกามหมดเลย อย่าไปเข้าใกล้ เข้าใจไหม..."
ผมเลิกคิ้วสูงตาโต แต่ก็ต้องรีบตามประคองโซ่ที่เริ่มเดินเซๆ จะกลับท่าเดียว พูดเล่นใช่ป้ะ ก็ดูทุกคนก็ดูโอเคนี่นา จะบอกว่าผู้หญิงอย่างหยีกับทอมบอยอย่างเนตรก็อันตรายเหรอ ผมเอาตัววินเข้าไปนั่งประจำที่ในรถอย่างยากลำบาก ลมหายใจร้อนมีแต่กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง แหงล่ะ
"พูดเพ้อเจ้อ เมาหนักเกินไปแล้ว"
"กูเมา แต่กูพูดจริงทุกคำ"
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอบคุณไอ ไม่ได้เขียนเรื่องที่ภาคินเป็นตัวเอกมาก่อนเลยค่ะ เป็นตอนพิเศษตอนเดียวจบ ถ้านึกอะไรที่น่าจับมาเล่าสนุกๆ ก็อาจจะมีตอนแบบนี้มาแทรกอีกในโอกาสหน้า
ตอนหน้าจะพยายามอัพเร็วๆ นะคะ ปล. หนูวินเป็นผู้ชายปรกติ