สืบเสน่หา (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สืบเสน่หา (จบ)  (อ่าน 169210 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #30 เมื่อ06-07-2011 20:28:19 »

สืบไปสืบมาก้รักกัน

อิอิ

หวังว่าคุณตำรวจจะไม่เปนอะไรนะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #31 เมื่อ07-07-2011 08:40:55 »

สนุกอ่ะ!!!!!!!

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #32 เมื่อ07-07-2011 09:50:07 »

แค่สองตอน แต่สนุกมากๆ น่าตื่นเต้นนะคะ เวลาที่พ่อหมอสองคนมาเจอกัน
แต่พี่เจมส์เท่อ่ะ o13

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #33 เมื่อ08-07-2011 16:57:57 »

สืบเสน่หา

ตอนที่ 3



ดึกดื่นค่อนวิกาลแล้วในยามนี้ ที่มีเสียงกระซิบกระซาบแผ่ว ในกลุ่มคนสี่คนสวมชุดดำ ซึ่งยืนลอบมองอยู่ที่รั้วด้านข้างของตัวบ้าน รั้วที่เป็นผักกินได้อย่างชะอม ทำให้ยากแก่การปีนป่ายนัก แถมยังสามารถนำมาทำเป็นอาหาร ได้ประโยชน์สองต่ออีกด้วย

“ทางนี้ไม่ได้ว่ะ หนามเยอะชิบเป๋ง” คนร่างเตี้ยบ่นพึมพำ

“หลังบ้านไง ตรงนั้นมีต้นไม้ใหญ่ให้ปีนด้วย” ชายตัวผอมเสนอ

“ทำไมไม่รีบบอกวะ” สายตาดุมองคาดโทษ พลางคลำมือป้อย ๆ เพราะเผลอโดนหนามไปเต็ม ๆ เมื่อครู่นี้

ทั้งหมดจึงรีบเดินกันอย่างเบาที่สุดไปทางด้านหลังอย่างพยายามให้เงียบมากที่สุด บ้านหลังนี้แปลกประหลาดนัก แม้จะตั้งอยู่ท้ายซอยตัน ที่ค่อนข้างร้างผู้คน แต่กลับไม่เลี้ยงสุนัขไว้จับขโมยแม้แต่สักตัวเดียว ประตูก็ใช่ว่าจะล็อคแน่นหนา ตัวบ้านทำด้วยไม้ ยิ่งง่ายแก่การเข้าถึง ราวเชิญชวนให้เข้ามาปล้นได้ง่าย ๆ เลยด้วยซ้ำ จะมีที่กันได้อยู่หน่อย ก็รั้วชะอมหนามแหลมที่ปลูกเรียงรายรอบบ้านนั่นแหละ

“เฮ้ย ระวังหน่อยนะ อาจจะมีสัญญาณกันขโมยอยู่ก็ได้” อีกคนรีบปราม คนอื่นพยักหน้ารับ มองฝ่าความมืดเข้าไปด้านใน ภายในที่เงียบสงัดไร้แสงไฟ คล้ายเจ้าบ้านเข้านอนไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อหลายชั่วโมงก่อน

ทุกคนทยอยกันข้ามฝั่งไปทีละคน เหลือเพียงชายร่างอ้วนคนสุดท้าย ที่ค่อนข้างจะเงอะงะกว่าคนอื่น เลยทำให้การปีนดูลำบากลำบนกว่ามากนัก ขณะกำลังเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนที่ปีนข้ามรั้วไปฝั่งตรงข้ามไปเรียบร้อย โดยอาศัยไม้ใหญ่ที่ขึ้นเสียชิดรั้ว พลางนึกก่นบ่นอยู่ในใจ ว่าทำไมไม่คิดจะช่วยดึงกันบ้างเลย ดวงตาคู่นั้นก็เบิกกว้าง เมื่อมองเห็นปลายเท้าสีขาวผ่องที่ห้อยลงมาจากกิ่งด้านบน พอมองสูงขึ้นไปอีก ก็พบร่างผอมบางในชุดขาว ที่มีผมยาวสยาย ใบหน้าขาวซีดหากแฝงความงามอย่างเศร้า ๆ เบนลงมาจ้องมองนิ่ง

“น่ะ…นั่นใครน่ะ มาได้ยังไง” เสียงสั่นน้อย ๆ ถามออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก เมื่อครู่ยังไม่มีใครบนนี้เลย เขาแน่ใจ แล้วตอนนี้…มาจากไหน…เมื่อไหร่กัน

“…ให้ช่วย…ฉุดขึ้นไป…ไหมคะ…” เสียงหวานลากยาวเย็นเยือกถามกลับ ริมฝีปากสีแดงสดเริ่มแย้มยิ้ม

“อ่ะ..อื้ม” มือเผลอยื่นออกไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสมือเย็นเฉียบราวน้ำแข็งนั้น พอเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นลำคอขาวผ่องมีเชือกคล้องห้อยอยู่ รอยรัดของมันทำเอาเป็นแนวเชือกสีม่วงคล้ำ ร่างนั้นห้อยต่องแต่งโดยมีเพียงตัวเชือกที่คอช่วยยึดเหนี่ยวจนแกว่งไกว และพอมองไล่ขึ้นไป ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าสวยแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงช้ำก่อนจะค่อย ๆ เริ่มเน่าเฟะ…ฉ่ำน้ำเหลืองหยดแหมะ ยามไหวเอนตามสายลมเห็นกระทั่งหนอนตัวน้อย ๆ ที่ตอมไต่ร่วงหล่นตาม มือที่จับกันอยู่ค่อยนิ่มร่วนเนื้อหลุดลุ่ยเหลือแต่กระดูก เสียงหัวเราะหวานใสบาดหูดังใกล้ ๆ ชัดจนถึงโสตประสาทในเบื้องลึก

“เรียมคิดถึงพี่ขวัญเหลือเกิน…มาอยู่กับเรียมนะคะ”

“เฮ้ย!” คนถูกจับยึดไว้ร้องเสียงหลง รีบสะบัดอีกฝ่ายให้หลุดทันที

ร่างที่ไม่ได้มีอะไรยึดเหนี่ยวหล่นโครมลงเบื้องล่าง ในมือยังคงมีมือติดกระดูกเละ ๆ ของใครบางคน หลุดติดมาด้วย

คนมองตาเหลือกอย่างตกใจ พอตั้งตัวได้ก็รีบเหวี่ยงของที่จับไว้ทิ้ง ก่อนโกยสี่เท้าวิ่งอ้าว

“จะทิ้งเรียมไปไหนล่ะคะ…คุณพี่”

ร่างสีขาวขาดวิ่นเบาหวิวตามเกาะไหล่ คนถูกเกาะตกใจแทบทำอะไรไม่ถูก ได้แต่สะบัดตัวกลิ้งไปมาอยู่กับพื้น ฉี่แตกเลอะราดเป้ากางเกงไปเรียบร้อย

“เรียมรักพี่คนเดียว……” ใบหน้าที่หนอนขึ้นเต็มขยับเข้าใกล้อีก ปากสีม่วงคล้ำปะปนมูกเลือดเขียว ๆ โน้มลงหา แทบจะประทับจูบลงเสียแล้ว คนมองตาเหลือกถลน ช็อคน้ำลายฟูมปาก ก่อนหมดสติไปทั้งอย่างนั้น

ผีสาวมองมาอย่างนึกสนุกทำหน้าเละ ๆ นั้นให้กลับมาสวยดังเดิมอย่างสมใจ ก่อนจะหายวับไปจากตรงนั้น



อีกด้านของรั้ว ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกด้านเข้าเสียแล้ว คนชุดดำตัวสูงหันมาหาคนเตี้ยกว่าพลางถามขึ้นว่า “เจ้าอ้วนไปไหนแล้ววะ”

ร่างเตี้ยส่ายหน้าอย่างไม่รู้เรื่อง ก่อนถอนหายใจยาว “เฮ้อ มันคงปีนข้ามมาไม่ไหวมั้ง ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องตามมา ดันอยากจะมาซะนี่ สมน้ำหน้ามัน”

“เอาไงดีล่ะ” คนตัวผอมด้านข้างหารือ

“ก็มันข้ามมาไม่ได้เองนี่หว่า ทิ้งมันไว้นั่นแหละ เรารีบไปจัดการให้เสร็จ ๆ ก่อนดีกว่า เดี๋ยวใครตื่นมาเจอจะยุ่ง”

“เอางั้นก็ได้ เอ้า ไปซะทีสิ” คนร่างสูงเร่ง ท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่มอย่างเห็นได้ชัด มือแข็งแรงกวักเรียก ทั้งหมดจึงรีบวิ่งผ่านทางเดินที่โรยด้วยกรวดขาว เสียงกระทบกันของเม็ดกรวดดังแผ่วเบา บ้านโบราณยกใต้ถุนสูง ทำให้สามารถวิ่งเข้ามาแอบใต้ตัวบ้านได้ไม่ยากเย็นนัก

“ในบ้านไม่มีไฟเปิดเลยว่ะ สงสัยมันจะช่วยชาติประหยัดไฟ”

หัวติดจะล้านของชายร่างเตี้ยโดนตีดังเผียะ “ไอ้บ้า ไปชมมันทำไมวะ กะอีแค่หลับไปแล้วเท่านั้นแหละ มันคงไม่เปิดไฟนอนเหมือนใครบางคนหรอกน่า สิ้นเปลืองงบประมาณชาติจริง ๆ”

“ก็ข้ากลัวผีนี่หว่า” คนพูดชักหน้ามุ่ยเถียงไม่ออก

พูดจบเหมือนจะรู้ บรรดาหมาจากวัดใกล้ ๆ เริ่มเปิดคอนเสิร์ตประสานเสียงแทบจะในทันที คนพูดสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เสียงหอนเย็นเยียบคล้ายเรียกผี ว่ากันว่าหมาหอนเพราะเห็นผี มันจะจริงหรือไม่ เขาก็กลัวไปเรียบร้อยแล้ว

ทั้งหมดขึ้นมาบนนอกชานแล้วในตอนนี้ บริเวณที่เคยใช้รับลูกค้าตอนกลางวัน ตอนนี้กลับโล่งมืดและเงียบสงัด ฝ่ายหัวหน้าที่ก้าวขึ้นมาคนแรกมองซ้ายขวา ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากคนในบ้าน บ่งบอกได้ว่าทางสะดวก

“เฮ้ย แยกกันไปค้นตามห้อง เป้าหมายอยู่ในห้องด้านนั้นคนเดียว เราจะค้นห้องนั้นตอนมันไปทำงานตอนกลางวันแทน ส่วนห้องอื่น ๆ จัดการตอนนี้เลย ทำให้เนียน อย่าให้มีหลักฐานเหลือล่ะ ว่ามีคนแอบเข้ามาค้นของ”

ขณะคนสั่งกำลังจะก้าวเดิน กลับถูกใครบางคนยึดชายเสื้อไว้ พอหันกลับมา ก็พบว่าเจ้าเตี้ยคนเดิม เผลอดึงเสื้อเขาไว้เสียแน่น

“เฮ้ย ข้าบอกให้แยกกันไปไง จับเสื้อไว้ทำไมวะ” เขากระซิบเสียงดุ หากอีกฝ่ายยังคงไม่ปล่อย

“กะ…ก็หมามันหอน ข้ากลัวนี่หว่า” คนตอบละล่ำละลัก หน้าสั้นศีรษะล้านเลี่ยน หันรีหันขวางอย่างหวั่น ๆ ขี้กลัวเสียจนน่าหมั่นไส้

“ปล่อยเลยแกนี่ ไม่ได้เรื่องสักคนพวกนี้ ไปทางนู้นเลยไป ไอ้ยาวเอ็งไปเป็นเพื่อนมัน ข้าจะไปทางนี้เอง” เขาพูดอย่างตัดรำคาญ

“โธ่ลูกพี่” เสียงคร่ำครวญเบา ๆ จากอีกฝ่าย ที่แม้จะอายุมากกว่า แต่สมองดูจะด้อยพัฒนากว่าชอบกล

“เออน่า รีบ ๆ จัดการให้เสร็จ ๆ แล้วจะได้กลับ เรื่องง่าย ๆ ได้เงินก็เยอะ แกอย่าเรื่องมากเลยน่า”

เพราะคำพูดนั้นเลยทำให้อีกฝ่ายเลิกโต้เถียง คนชื่อยาวจึงพยักพเยิดให้ตามมา



การเคลื่อนไหวทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของร่างเล็กที่นอนกลิ้งอยู่บนขื่อบ้าน เท้าป้อมที่มีกำไลทองห้อยลงมาพลางกระดิกอย่างครุ่นคิด ใบหน้าใสมีรอยยิ้มน่ารักติดจะเจ้าเล่ห์ “พ่อพูดถูกจริง ๆ มีแขกมาเยอะเสียด้วย ฝากพี่เรียมต้อนรับที่ริมรั้ว กำจัดได้ไป 1 ยังเหลืออีกสาม…เอ จะเล่นอะไรดีน้า”

ดวงตากลมโตเป็นประกาย จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ทำอะไรสนุก ๆ แบบนี้มานานมากแล้ว เรื่องการแกล้งคนเนี่ย เป็นความสามารถอันดับหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ และเพราะแบบนี้ พ่อของเขาเลยนอนหลับอุตุซะสบายใจเฉิบ ขนาดรู้ทั้งรู้ ว่าคืนนี้จะมีคนลอบเข้ามาที่บ้านในคืนนี้

ใบหน้าใสยิ้มให้กับตัวเอง เพราะพ่อไว้ใจเขาสินะ แบบนี้ก็ต้องจัดชุดใหญ่ให้สักหน่อย

เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ถ้าจัดการไม่ได้ ก็ไม่ใช่เจ้าเคนแล้ว!

ยังไม่ทันเริ่มปฏิบัติการพิเศษ ร่างเล็กของเด็กหญิงผู้หนึ่งกลับโผล่ขึ้นมาข้างตัว เธอมีดวงตาสีฟ้า และผมสีทองสดใส อยู่ในชุดกระโปรงบาน สูงกว่าเคนเล็กน้อย มือบอบบางกอดตุ๊กตาหมีไว้แนบอก ร่างกึ่งโปร่งใสของเธอ หันมามองพลางยิ้มเผล่

เด็กน้อยผมจุกสะดุ้ง กระเถิบถอยห่างแทบไม่รู้ตัว “เจนนี่ ใครชวนเธอมากันเนี่ย”

“ใจร้ายจริงเคน ชวนคนอื่นทุกคน แต่ไม่ชวนเจนนี่” เธอว่าพลางนั่งลงที่ข้าง ๆ บนขื่อนั้น “พี่เรียมจัดการเสร็จไปคนนึงแล้ว เหลืออีกสามจะทำไงล่ะ”

พี่เรียมของทั้งสองคือหญิงสาวชุดขาวที่นั่งรอบนต้นไม้ริมรั้วนั่นเอง เธอเป็นผีสาวที่ตอนเป็นคนถูกคนรักทอดทิ้ง แล้วอินจัดในเรื่องขวัญกับเรียม ขนาดผูกคอตายแล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นเรียมที่เฝ้ารอเจ้าขวัญอยู่นั่นเอง

คนฟังหัวเราะเบา ๆ “โชว์ชุดใหญ่ยังไม่ออกเลย รับรองสนุกแน่”

“ให้เจนนี่เล่นด้วยนะ” เธอเป็นผีเด็กน้อยที่เจมส์เก็บได้ในย่านตรอกข้าวสาร ตอนออกไปรับจ้างทำงานซ่อมท่อน้ำนอกสถานที่ เด็กลูกครึ่งมักจะเติบโตมาด้วยความยากลำบาก และขนาดตายแล้ว ก็ใช่ว่าจะสบาย ด้วยเจ้าที่หลายที่ล้วนแล้วแต่ตั้งแง่ กับผีลูกครึ่งที่ดูไม่เหมือนคนไทย พอมาอยู่ที่บ้าน ก็มีคนมาขอเธอไปเลี้ยง เจมส์เห็นว่าชะตาต้องกัน อาจจะเป็นมารดาของเด็กน้อยในชาติก่อน เขาจึงยินยอมให้นำสิ่งของแทนตัวเด็กหญิง ก็คือตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง กลับไปบูชา แต่แม้จะไปแล้ว ในบางครั้งเธอก็จะแว่บกลับมาเยี่ยมเยียนทั้งชายหนุ่ม…และเด็กน้อย ด้วยติดอกติดใจเสน่ห์ของเจ้าเคนเป็นพิเศษ

“เอ้า ก็ได้ เห็นว่านาน ๆ ทีหรอกนะ” เด็กน้อยพูดด้วยท่าทีเป็นผู้ใหญ่เสียเต็มประดา ก่อนจะโดนหอมแก้มฟอดใหญ่ เล่นเอาตกใจแทบตกขื่อไปเลยทีเดียว

“ฉันบอกแล้วไงเจนนี่ ว่าอย่าจูบ!”

“แม่ยังชอบหอมแก้มเจนนี่เลย ตอนที่ยังไม่ตายน่ะ” ดวงตากลมโตสีสวยเศร้าลง เมื่อเผลอคิดถึงมารดาเข้า

มือของเคนตบบ่าบอบบางนั้นเบา ๆ “ก็ได้ ๆ นาน ๆ ทีจะทำก็ได้ แต่อย่าบ่อยแล้วกัน” เขาพูดพลางเสมองไปอีกด้าน ด้วยแก้มที่เขินจนแดงเรื่อ เด็กสาวมองเด็กชายที่กำลังเขินอายพลางยิ้มหวาน เข้าใจว่าเคนต้องการจะปลอบใจเธอนั่นเอง

“เจนนี่รักเคนที่สุดเลย” เธอว่าพลางกอดเด็กชายไว้ เคนดิ้นขลุกขลักอยู่เป็นครู่ กว่าจะหลุดจากอ้อมกอดคนตัวสูงกว่านั้นได้ ฮึ เขาก็แค่ตายตอนตัวเล็กกว่าเท่านั้น ผีที่ไม่มีการเจริญเติบโตต่อเนี่ย ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เด็กน้อยคิดในใจอย่างหงุดหงิด ที่ต้องตัวเตี้ยกว่าสาวเจ้า ไม่มีทางโตกว่าได้

“อ๊ะ มัวแต่นอกเรื่องซะนาน เดี๋ยวพวกนั้นก็ทำบ้านเลอะเทอะพอดี ไปกันเจนนี่ พวกพี่ ๆ คงรออยู่นานแล้ว”

“ชวนใครมาบ้างล่ะ พี่ลำไยที่เป็นกระสือ กับพี่แม้นผีหัวขาดสินะ” เธอพูดต่ออย่างรู้ดี ว่าก๊กผี ๆ ของเจ้าเคน มีใครบ้าง

“ฮื่อ แล้วยังมีพี่แก้ว ที่ตายทั้งกลมด้วย วันนี้ตาเจ้าที่ใจดี อนุญาตให้เข้ามากันได้เยอะเชียวแหละ”

“ฮึ มีแต่ผีสาว ๆ ทั้งนั้น” เจนนี่พึมพำอย่างน้อยใจ เพราะเคนไม่ยอมชวนเธออยู่คนเดียวจริง ๆ

“ก็พวกนี้อยากมาเจอหน้าพ่อนี่นา นาน ๆ ทีหรอก ตาเจ้าที่ถึงให้เข้ามา ปกติพ่อสั่งไว้ ว่าห้ามให้เข้ามารบกวน คงกลัวโดนลักหลับแน่ ๆ” ร่างเล็กว่าพลางหัวเราะคิกอย่างขบขัน พอนึกถึงสมัยก่อนที่พอเจมส์ตื่นมา ก็มีบรรดาผีสาว ๆ มานอนเป็นเพื่อนเสียเต็มเตียง คนมันมีเสน่ห์ก็ลำบากแบบนี้แหละนะ

“ไม่รีบไปดูแล เดี๋ยวพ่อเธอก็โดนลักหลับอีกหรอก”

จอมเจ้าเล่ห์ยักไหล่พลางหัวเราะเบา ๆ “พ่อไม่ได้สั่งให้ดูเรื่องนั้นนี่ ช่วยไม่ได้”

ว่าพลางหันมาหาเด็กหญิง “ฉันให้พวกพี่ ๆ ไปเฝ้าตามห้องต่าง ๆ แล้วล่ะ มีแค่ห้องพระ ที่พวกเขาไม่ค่อยอยากเข้าเท่าไหร่ แต่ห้องนั้นมีร่างฉันอยู่ เจนนี่ก็เคยอยู่ในนั้นมาก่อนนี่นะ คงไม่เป็นไร เราไปเฝ้าห้องนั้นกันดีกว่า ขืนให้พวกนั้นขโมยพระเครื่องของรักของหวงพ่อไปได้สักชิ้น มีหวังอดได้ของเล่นอีกเป็นปี”

“อื้ม ไปสิ” มือน้อย ๆ จับกันไว้ แล้วหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2011 13:23:50 โดย ppm »

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #34 เมื่อ08-07-2011 17:01:17 »

เสียงกุกกักดังเบา ๆ ในห้องครัว ก่อนร่างในชุดสีดำสนิททั้งสองจะย่องเข้าไปเสียอีก คนตัวผอมที่เดินนำหน้าชะงักรีบย่อตัวลงต่ำ โดยไม่ลืมที่จะลากเพื่อนก้มลงด้วย แม้ว่าตัวจะเตี้ยอยู่แล้ว

“มีคนอยู่ในครัว ไหนหัวหน้าบอกมันอยู่คนเดียวไง” เสียงพึมพำอย่างงุนงง หากผู้เป็นเพื่อนกลับส่ายหน้า แบบไม่รู้พอ ๆ กัน

“อาจจะเป็นแมวเข้ามาก็ได้นะ ครัวบ้านนี้เปิดโล่งจะตาย” ชายร่างเตี้ยคาดคะเน ครัวโบราณที่มีฝาบ้านแบบไม้ขัดเป็นตารางห่าง ๆ ให้ระบายอากาศได้ดีและหน้าต่างที่เปิดโล่ง ทำให้แมวหรือสัตว์ตัวเล็ก ๆ สามารถเข้ามาได้ง่ายจริงอย่างว่า

“เข้าไปดูก่อนดีกว่า เบา ๆ นะ” เสียงอีกฝ่ายกระซิบ คนฟังพยักหน้ารับ ถ้าเป็นเพียงแค่แมว แล้วไม่เข้าไปดู มีหวังหัวหน้าเล่นงานยับแน่ อย่างน้อยก็ต้องดูให้ชัวร์ก่อน จะได้เอาไปอ้างถูก

เพราะโดนกำชับมาให้ค้นหาทุกซอกทุกมุม ดังนั้นในครัวยิ่งไม่ใช่ข้อยกเว้น ผงขาวหนักเป็นกิโล ๆ ขนาดนั้น อาจจะซ่อนไว้ตรงไหนก็ได้ ไม่แน่อาจจะหลายที่ หลายห้อง จึงจำเป็นต้องดูอย่างละเอียด

เสียงนั้นยังคงอยู่ แถมเหมือนจะดังขึ้นอีกด้วย มีเสียงเคี้ยว เสียงขย้ำ อาจเป็นพวกแมวที่กำลังจับหนูอยู่ก็เป็นได้

ทั้งสองค่อย ๆ ก้าวเข้าไปทีละก้าว ก่อนลอบมองเข้าไปภายใน ห้องครัวมีบานหน้าต่างเปิดออกสู่ภายนอก ดังนั้นจึงมีแสงจันทร์ส่องเล็ดลอดเข้ามาได้เช่นกัน ในเงามืดดำตะคุ่ม จึงยังคงมองเห็นบางส่วนได้ราง ๆ และสิ่งที่เห็น…ก็คือศีรษะ…ที่มีผมยาวสยายกำลังก้มทำอะไรสักอย่าง อยู่ตรงโต๊ะเตรียมอาหาร

คนมองเผลอกลืนน้ำลายลงคอที่ฝืดเคือง รู้สึกคล้ายอยากอาเจียนขึ้นมาแทบจะในทันทีที่มองได้ชัด ภาพที่เห็นเป็นศีรษะของหญิงสาว…ที่มีเสี้ยวใบหน้าขาวสวยยามต้องแสงจันทร์…คงจะเป็นสาวที่งดงามผู้หนึ่ง…หากไม่ใช่ว่าเธอมาแต่หัว…พร้อมกับไส้ห้อยเป็นพวง!

เสียงแคร้งดังขึ้น เมื่อมือไม้ที่เผลอสั่น ไปแตะโดนก้านทัพพีจนมันหล่นลงมาที่พื้น ร่างนั้นหันควับกลับมาแทบจะในทันที และนั่นทำให้เห็นริมฝีปากสวยได้รูป…ที่เปื้อนไปด้วยเลือด

เธอคนนั้น กำลังคาบเครื่องในสด ๆ ก้อนหนึ่งไว้ในปาก ส่วนไส้ที่ล่องลอยเหนือพื้น ยังมีการส่องแสงเรืองในตัวเองจาง ๆ

ดวงตาของเธอก็เรืองแสงได้เช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้เข้ามาใกล้ สองคนที่เมื่อครู่แข็งทื่อแทบเป็นหิน ก็โกยสี่ขาแน่บออกมา

“กะ…แกเห็นเหมือนข้าไหมไอ้เตี้ย” เสียงคนชื่อยาวสั่นสะท้าน หากพอหันมามองเพื่อนร่วมชะตากรรม เขากลับพบว่า เพื่อนเกิดสูงขึ้นมาผิดหูผิดตาเสียนี่     

“ไม่เห็นว่ะ พอดีกล้ามข้ามันบังตา” เสียงทุ้มแปลกหูตอบกลับ คนถามอึ้งไปแล้ว เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่นั้น ที่ตนเองจับมืออยู่ กลับเป็นร่างสุดล่ำที่ไร้ศีรษะเสียนี่!

“หะ…หัว…หัวแกไปไหนแล้ว” เขาถามด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“หัวเหรอ?...อ้าว ตาไม่ดีเรอะ อยู่นี่ไงล่ะ” มือข้างที่คล้ายถืออะไรกลม ๆ ส่งสิ่งนั้นให้กับมือ

พอรับมามองชัด ๆ เท่านั้น เขาก็ตะลึงงัน เมื่อได้สบตากับดวงตาแดงฉานในศีรษะที่ถืออยู่ ที่นอกจากจะมองกลับมาแล้ว ยังกลอกมองไปมาได้อีกด้วย ปากหนาได้รูปถัดลงมา ก็ยังคงแย้มยิ้ม แล้วขยับพูดขึ้นว่า

“เห็นชัดรึยัง หัวข้าอยู่นี่ไง!”

คนมองตาเบิกกว้าง ก่อนโยนหัวทิ้งแทบจะในทันที เสียงแผดร้องดังลั่น แล้วโกยแน่บออกจากตัวบ้านไป ปล่อยให้มือแข็งแรงนั้น เข้ามาหยิบหัวที่กลิ้งอยู่กับพื้น พลางบ่นพึมพำ

“โยนกันอย่างนี้ได้ไง มันเจ็บไม่ใช่เรอะ ถ้าข้าหมดหล่อขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ”



หากในอีกด้าน เจ้าคนตัวเตี้ยหัวล้าน กลับวิ่งมาหยุดที่ห้องนอนรับแขก ในห้องนั้น มีเตียงเล็กสำหรับเด็กอยู่ด้วย ซึ่งเป็นเตียงที่มีคนซื้อมาบูชาให้เจ้าเคนนั่นเอง

เตียงเล็กมีกลไกให้แกว่งไกวได้ มือเรียวยาวของใครบางคน กำลังไกวพลางร้องเพลงกล่อมเด็กเสียงเย็นหวาน หากจู่ ๆ เสียงเพลงนั่นก็ชะงักงันไปเสียอย่างนั้น เหลือเพียงเสียงครางแผ่ว อย่างเจ็บปวดทรมานแทนที่

“ช่วย…ช่วยแก้วด้วย…แก้วจะ…จะคลอดแล้ว” เสียงของเธอขอความช่วยเหลือ

ร่างเตี้ยที่วิ่งมาจนหอบหยุดชะงักมองมาอย่างงุนงง หญิงสาวผู้นั้น มีท้องที่ใหญ่โตใกล้คลอดจริง ๆ ท่าทางที่ยืนกุมขอบเตียงอย่างทรมาน ทำให้อดไม่ได้ ต้องเข้าไปช่วยเหลือ

“ปะ…เป็นอะไรรึเปล่า จะคลอดเหรอ” เสียงชายในชุดดำนั้นถามอย่างตกใจ ร่างเล็กหันรีหันขวาง ไม่รู้จะช่วยยังไงดี

ใบหน้าขาวซีดหันมามองก่อนยิ้มให้ แม้ใบหน้าจะมีเหงื่อชุ่มโชก “ไม่…ไม่เป็นไรจ้ะพี่…แก้วคลอด…แล้ว เมื่อกี้เอง”

เธอว่าพลางชี้ให้ดูช่องท้องที่ถูกแหวะออก จนเห็นถึงอวัยวะภายในที่มีเลือดแดงฉาน สายสะดือเปื้อนเลือดโยงยาวออกมาบนตัวเตียงเล็กนั้น พร้อมกับมีอะไรบางอย่าง กำลังคืบคลานอยู่เบื้องล่าง

มือผอมบางของเธออุ้มสิ่งนั้นขึ้นมาอย่างถนอม ก่อนจะโชว์คนกำลังอึ้งเบื้องหน้า “ลูกของแก้วเองจ้ะ…น่ารัก…ใช่มั้ยจ๊ะ”

เด็กในมือเธอเนื้อตัวเปียกโชกด้วยเลือดและน้ำคร่ำ แต่กลับยังดิ้นไปมาพลางร้องได้ พอมองไปชัด ๆ เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นใบหน้าเหี่ยวย่นจากร่างเล็กหันกลับมาเนิบช้า ดวงตาโหลแสยะยิ้มไร้ฟัน หัวเราะเสียงดังชอบใจ

“ลองอุ้ม…ดูไหมจ๊ะ”

คนมองผงะถอย ก่อนหันหลังโกยอ้าวออกตามอีกคนเมื่อครู่ไปแทบจะในทันที



ตอนนี้จึงหลงเหลือเพียงหัวหน้าทีมร่างสูง ที่เดินสำรวจค้นหาของโดยลำพัง พอก้าวเข้ามาถึงห้องพระ เจ้าตัวก็ลอบยิ้มอย่างดีใจ

ห้องพระของที่นี่ใหญ่โตสมกับเป็นห้องของผู้มีอาคมติดตัว โดยจัดด้านหนึ่งวางโต๊ะหมู่บูชาชุดใหญ่ และจัดวางพระพุทธรูป พระเครื่องเก่าแก่ และสิ่งบูชาหลากหลายหน้าตาเต็มไปหมด สำหรับคนที่ดูพระเป็น ย่อมทราบถึงมูลค่าของสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

มือที่กำลังทำทีเป็นค้นหาของ กลับหันไปหยิบจับเพ่งดูพระเครื่อง ทำงานนอกเหนือหน้าที่อย่างสนอกสนใจ

“รุ่นนี้หายากเสียด้วย เอาไปขายต้องได้หลายหมื่นแน่” เขาพึมพำ

มือของใครบางคนสะกิดเรียก ชายชุดดำจึงหันไป และเห็นพระเครื่องอีกองค์ในมือเล็กนั้น “องค์นี้ดีกว่าฮะ หายากมากแถมราคาในตลาดสูงลิ่ว กว่าพ่อจะประมูลมาได้ แทบต้องขายบ้าน”

“จริงเหรอ” เขารับมาอย่างสนใจ ก่อนจะหันควับไปด้านข้างอย่างตกใจ ว่าใครเป็นคนส่งของให้

ด้านข้างมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยสักคน เขามองของในมืออย่างประหลาดใจ เริ่มรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

มือที่ถือพระเครื่องกำแน่น สอดส่ายสายตาหาคน จะต้องมีใครซ่อนอยู่แถวนี้แน่ ๆ ผีน่ะ มีจริงซะที่ไหน

ทว่าจู่ ๆ ก็มีเสียงเด็กสองคนหัวเราะ เสียงฝีเท้าวิ่งวนไปมารอบตัว เล่นเอาเขาถึงกับชะงัก พยายามพูดเอาเสียงเข้าข่ม “นั่นใครน่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

มือที่ชักปืนขึ้นมา กวาดไปรอบ ๆ พร้อมจะยิงทุกอย่างที่โผล่ออกมา

เสียงหัวเราะขบขันดังกว่าเดิม เมื่อเสียงใสพูดขึ้นว่า “พวกพี่ ๆ ฮะ มาเล่นกันเถอะ พี่ชายในห้องเขาอยากเล่นกับเราเต็มแก่แล้วล่ะฮะ”

จู่ ๆ ประตูที่ปิดอยู่ก็เปิดออกดังผลัวะ พร้อม ๆ กับหน้าต่างที่เปิด ๆ ปิด ๆ เสียงดังปัง ๆ เป็นระยะ คนในห้องสะดุ้งโหยง มองไปด้านนอก แล้วก็ได้เห็นหัวของหญิงสาว ที่ล่องลอยไปมาอยู่นอกหน้าต่างนั้น พร้อมกับไส้อีกพวงใหญ่ ริมฝีปากสีสดของเธอมองดูสดกว่าเก่า ด้วยรอยเลือดจากการกินเครื่องในสด ๆ แล้วไม่ได้ปาดเช็ด ซึ่งในตอนนี้กำลังฉีกยิ้มหวานส่งมาให้จนคนมองเริ่มขนลุก

“เฮ้ย อะไรน่ะ”

ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีหัวของผู้ชาย…ใช่ มาแต่หัว โผล่มาที่หน้าต่างอีกบาน โดยมีมือใหญ่ข้างหนึ่ง ถือมันไว้ นัยน์ตาเล็กเรียวกลอกไปมาก่อนยิ้มทักโชว์ฟันครบ 32 ซี่ ด้วยกรามคมสันรับโครงร่างอันล่ำบึ้กที่ตอนนี้ถูกตัดขาดจากกันตรงลำคอหนา

ประตูที่เปิดออกก็ยังคงมีหญิงสาว ที่สวมชุดคลุมท้องเปื้อนเลือด เด็กทารกยังพึ่งคลานออกมาจากหน้าท้องที่ถูกแหวะ และดิ้นไปมาพลางแสยะยิ้มให้อย่างเชิญชวน

เสียงเด็กหัวเราะประสานเสียงกับพวกตัวประหลาดรอบนอก ทำให้เขาเผลอปล่อยของในมือร่วงลงพื้น แล้วรีบอุดหูอย่างตกใจ เสียงร้องดังลั่นด้วยความหวาดกลัว หลับหูหลับตาวิ่งฝ่าออกไป ทางประตูรั้วที่เปิดอ้ารอไว้

พอลับร่างคนสุดท้ายที่แตกตื่นจากไป ประตูรั้วก็ปิดลง พร้อมกับเสียงตะโกนไล่หลังให้ได้ยินว่า “ว่าง ๆ ก็มาเยี่ยมกันใหม่นะฮะ พวกเราจะรอ!”



ยามเช้ามาเยือนหลังค่ำคืนอันแสนวุ่นวาย เจมส์บิดกายอย่างเมื่อยล้านิด ๆ รู้สึกได้ว่าร่างกายนั้นหนักอึ้ง หากพอลืมตาตื่น ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเผลอประสานตา กับบรรดาผี ๆ ที่นอนอยู่บนเตียงเคียงข้างไม่มีห่างอยู่หลายตน

“เฮ้ย มาจากไหนกัน! พี่ลำไย พี่เรียม พี่แม้น น้องแก้ว เจนนี่ ตื่นให้หมดเลยนะ!” เขาอุทานอย่างตกใจ แต่ต้องตกใจกว่าเดิม เมื่อรู้สึกได้ถึงผ้าที่โป่งพอง ตรงโคนขาคล้ายมีอะไรบางอย่างนอนหนุนอยู่ ชายหนุ่มดึงผ้าห่มออกในคราวเดียว แล้วพบว่าใต้ผืนผ้า ยังมีกุมารทองตัวน้อยนอนขดอยู่ตรงหน้าขาของเขาอย่างสบายอารมณ์

“อ้อ เจ้าเคนก็อยู่ด้วย” คนมองเข้าใจเรื่องราวได้ในทันที พลางมองร่างเล็กที่ขยี้ตาผุดลุกขึ้นนั่งอย่างง่วงงุนอย่างคาดโทษ

เจ้าเคนเป็นตัวการ มิน่าล่ะ ตัวเขาถึงได้หนักนัก เพราะโดนผีพวกนี้อำนี่เอง ดีว่าไม่ได้โดนลักหลับล่ะ

“อ้าว…ตื่นแล้วเหรอฮะพ่อ”

“ออกไปให้หมดทุกตัวเลยนะ!” เสียงเจมส์ตะโกนไล่

“โธ่ พ่อล่ะก็ พวกเขาอุตส่าห์ช่วยทำงานให้ทั้งคืน แค่ให้นอนใกล้ ๆ ขอดูดกลืนพลังชีวิตของพ่อนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเอง อย่างกไปหน่อยเลย”

“ผีสาว ๆ ก็พอทน ไหงกระทั่งพี่แม้นก็ยังต้องมานอนกับฉันด้วยเล่า” เขาหมายถึงผีหัวขาดหนุ่มผู้นิยมกล้าม ซึ่งนอนอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่างออกไป แถมยังกอดเอวเขาไว้ตอนกำลังหลับเมื่อครู่เสียอีก

“ล่ำ ๆ ไม่ชอบหรือไงฮะ” เจ้าตัวแสบว่าพลางหัวเราะคิก

“ไม่รู้ล่ะ ท่านเจ้าที่ จับพวกนี้ออกไปให้หมดเลยนะ ถ้าผมไม่อนุญาต ห้ามให้เข้ามาล่ะ โดยเฉพาะในห้องนอนนี่” เขาสั่งเสียงเข้ม

พริบตาเดียว ทั้งหมดก็หายวับไป เหลือเพียงเจ้าเคน ที่เข้านอกออกในได้ตลอดโดยไม่มีใครว่า

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพลางมองเด็กน้อย แล้วถามขึ้นว่า “เมื่อคืนเล่นอะไรไปบ้าง คงไม่มีใครช็อคตายใช่มั้ย พ่อไม่อยากให้บาปกรรมมันติดตัวพวกเจ้าเพิ่มหรอกนะ”

ร่างเล็กหัวเราะเบา ๆ “ไม่มีหรอกฮะ แค่เล่น ๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ถ้าหัวโกร๋นหรือผมขาวทั้งหัว หรือเป็นพวกไข้จับสั่น อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

“ถ้าแค่นั้นก็สมควรแล้ว อยากเข้ามายุ่งกับเราก่อนเองนี่นะ” เขาว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะหันมาทำตาดุใส่เด็กน้อย “อ้อ แต่ทีหลัง อย่าเชิญชวนพวกผี ๆ เข้ามาในนี้ล่ะ เกิดโดนอำหายใจไม่ออกตายไปจะว่าไง”

“ก็พวกพี่ ๆ เขาทำงานให้พ่อนะฮะ มันก็ต้องตอบแทนเขาหน่อยสิ เอาน่า นิด ๆ หน่อย ๆ เอง”

“เดี๋ยวพ่อจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เอง ใครบอกให้เอาร่างกายไปแลกกัน” คนพูดยังคงบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

ร่างเล็กกระแซะเข้าหาอย่างออดอ้อน “พ่อฮะ อย่าโกรธผมนะฮะ ผมก็แค่อยากทำ..ให้พ่อดีใจเท่านั้นเอง” ดวงตากลมโตหลุบต่ำ ทำท่าเสียใจเสียเต็มประดา

คนมองมาถอนใจยาวอย่างโกรธไม่ลง เด็กมันอ้อนเสียขนาดนี้ ใครโกรธลงก็แย่แล้ว เสียงที่ตั้งท่าจะดุเลยอ่อนลงอัตโนมัติ

“เอ้า ก็ได้ ๆ ไม่โกรธก็ได้ ไม่โมโหด้วย” มือของเขาเอื้อมมาสัมผัสกายละเอียดของเด็กน้อย แม้จะบางเบา แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ มือนั้นลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยนก่อนยิ้มให้ “เอาเป็นว่า…ลูกทำได้ดีมาก วันนี้พ่อขอบคุณละกัน”

“ฮะพ่อ รักพ่อที่สุดเลย” ร่างเล็กนั้นกอดเอวชายหนุ่มไว้ แม้จะกอดไม่ถึงสักเท่าไหร่ เพราะตัวนั้นเตี้ยเพียงแค่โคนขาของชายหนุ่มเท่านั้นเอง

“อืม ก็เพราะมีเจ้าแหละนะ บ้านนี้ถึงไม่เงียบเหงา เอาล่ะ ได้เวลาทำงานเสียที” เขาว่าพลางเปิดตู้เสื้อผ้า

“วันนี้มีงานอะไรเหรอฮะ” เด็กน้อยถามกลับ พ่อของเขามีงานยุ่งทุกวันจนไม่น่าแปลกใจนัก แต่พอเปิดตู้เลือกเสื้อผ้าสวย ๆ ทีไร เป็นต้องไปทำงานแบบโชว์ความหล่อแทบทุกที

“คุณประจักษ์ติดต่อให้ไปถ่ายแบบแก้ขัดอีกแล้ว ไม่น่าเผลอรับปากไปเลยสิให้ตาย โทรตามซะเรื่อย นายแบบนางแบบนี่ขยันป่วยกันซะจริง” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ

คนฟังหัวเราะเบา ๆ รู้ดีว่าจริง ๆ แล้ว ประจักษ์คงอยากได้ชายหนุ่มมาเป็นนายแบบ มากกว่าจ้างคนอื่นเสียอีก เด็กน้อยรู้ว่าเจมส์ก็พอรู้ แต่เขาก็ไม่อยากทำให้อีกฝ่าย ที่เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที ต้องผิดหวัง เพราะขี้เกียจฟังเสียงบ่นจากเจ้าเพื่อนแสนดี คนแนะนำมา

“วันหลังคงต้องบอกเจ้านัทแล้ว ว่าไม่ต้องเอาฉันไปเสนอขายใครอีก” เขาพูดขึ้นเรื่อย ๆ

“พี่นัทเขาหวังดีหรอก พ่อจะได้มีเงินไปซื้อของเล่นให้ผมไง”

เพราะช่วงหนึ่งเขามีปัญหาเรื่องการเงิน ธนัทเพื่อนซี้ของเขาจึงช่วยหางานให้ อันนี้เจมส์ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ขอโวยสักนิด คงไม่เสียหายเท่าไหร่ เพราะโดนอีกฝ่ายใช้งานจนคุ้มมาหลายงานแล้ว

“ไม่ต้องเลยเรา เห็นคนอื่นดีไปหมดนะ คนเหนื่อยน่ะมันฉัน เข้าใจไหม เก๊กหล่อบ่อย ๆ เดี๋ยวกลายเป็นหุ่นโชว์หุบยิ้มไม่ลงกันพอดี”

“ก็ใครให้พ่อของผมเท่ขนาดนี้ล่ะ ถ้าผมเป็นคนคงซื้อหนังสือที่ลงรูปพ่อหมดทุกเล่มเก็บไว้ดูแล้ว”

“เฮอะ ขี้เกียจจะพูดแล้ว ไปดีกว่า จะไปด้วยหรือจะเฝ้าบ้านล่ะ”

ร่างเล็กผุดลุกขึ้น แม้ตัวจะค่อนไปทางโปร่งใส “อ๊ะ พ่อเนี่ย รอด้วยสิฮะ เรื่องอะไรจะอยู่เฝ้าบ้าน ตาเจ้าที่น่าเบื่อจะตาย ไปกับพ่อสนุกกว่า”

“ถ้างั้นก็เลิกพูดได้แล้ว ทำงานให้เสร็จ ๆ เผื่อจะได้…”

“แวะหาคุณตำรวจ!”

คนพูดชะงัก เมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายต่อให้ อย่างแทงใจดำ

“กะ…ก็มีคนมาบุกรุกบ้านนี่ จะแจ้งความก็ไม่แปลกไม่ใช่รึ” เขาเสพูดแก้ตัว

“นั่นสินะฮะ แถมตำรวจที่ญาติดีกับพวกเรา ก็มีแค่ ‘คุณตำรวจ’ คนเดียวเสียด้วย”

“เออ ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่เลิกรู้ทันล่ะก็ ของเล่นที่จะซื้อให้วันนี้จะงดแล้วนะ”

“อ๊ะ พ่อใจร้าย ไหนว่าวันนี้ผมทำงานได้ดีไงล่ะฮะ” ร่างเล็กรีบท้วง

“ปลาหมอยังตายเพราะปากได้ กุมารทองก็อดได้ของเล่น เพราะปากได้เหมือนกัน” เขาว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะออกจากบ้านไปทำงาน โดยไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าเคนอีก แม้จะแอบหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายงอนแก้มป่องไปเรียบร้อย



“เจ้าพวกบ้า ทำงานประสาอะไร แหวกหญ้าให้งูตื่นซะขนาดนี้” ชวรัตน์โวยวายเสียงดังลั่นออกมาจากในห้อง จนสาวใช้ที่กำลังยกอาหารเช้ามาชะงักด้วยความตกใจ เช้านี้มีโทรศัพท์มากวนเจ้านายของเธอแต่เช้าตรู่ และท่าทางจะเป็นการส่งข่าวที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่เสียด้วย

ชวรัตน์เอนกายลงกับเก้าอี้ทำงานอีกครั้ง เขายังคงอยู่ในชุดนอน เพราะพึ่งตื่นได้ไม่นาน ข่าวที่ได้รับในเช้านี้ เล่นเอาเขาหงุดหงิดไปหมด เพราะนอกจากจะไม่สามารถรื้อค้นหาของในบ้านเป้าหมายได้แล้ว คนของเขาตั้งสี่คน ต่างจับไข้หัวโกร๋น พูดจาไม่รู้เรื่องไปตาม ๆ กัน เท่าที่จับใจความได้ ก็มีเพียงว่าโดนผีหลอก แถมยังน่ากลัวมากอีกด้วย

“เออ ๆ รีบจัดการให้เรียบร้อยล่ะ อย่าให้มันสาวมาถึงฉันได้ จัดการส่งพวกมันเข้าโรงพยาบาลบ้าไปก่อนชั่วคราวก็ได้ พูดมากนักจะพาซวยเอา” เขาพูดต่อกับโทรศัพท์อย่างใส่อารมณ์ เสียงขอโทษขอโพยตามสายยังคงดังมาอย่างต่อเนื่อง

คนฟังเริ่มใจเย็นลงอีกหน่อย เมื่อคิดเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ ลองมีผีแบบนี้ ไม่แน่นัก เป้าหมายเขา คงจะต้องเป็นคนใช้อาคมคนนั้น ที่มาขัดขวางตอนหมอคงทำพิธีจัดการชิดชัยแน่ ๆ

แบบนั้นส่งคนธรรมดาไป ก็คงทำอะไรไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่าย มีดีกว่าที่คิด

ร่างทรงอำนาจถอนใจยาวก่อนจะออกคำสั่งกลับทางโทรศัพท์อีกครั้ง

“ตามหมอคงให้ฉันด้วยล่ะ เล่นกับผีก็ต้องใช้หมอผีซะแล้ว ให้มันรู้กันว่าใครจะแน่กว่าใคร!”


จบตอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2011 17:54:53 โดย ppm »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #35 เมื่อ08-07-2011 17:29:11 »

ตอนนี้ไม่มีคุณตำรวจเลยแฮะ  น้องเคนเป็นพระเอกล่ะตอนนี้

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #36 เมื่อ08-07-2011 18:02:59 »

พี่เรียมอย่างฮา :m20:
น้องเคนเจนนี่น่ารัก :-[

Vidh

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #37 เมื่อ08-07-2011 19:02:52 »

 o13 o13

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #38 เมื่อ08-07-2011 19:27:47 »

อิอิ สนุกกันจนได้เรื่องเลยทีเดียว

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #39 เมื่อ08-07-2011 19:35:31 »

สนุกมากเลยครับ บรรดาผีๆทั้งหลาย  เคนน่ารักจังเลยมากอดทีนะ  สนุกครับเรื่องนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
« ตอบ #39 เมื่อ: 08-07-2011 19:35:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #40 เมื่อ08-07-2011 20:02:03 »

 :laugh:

น่าติดตามมากกก

พวกผีๆ ฮาดีครับ

พึ่งเคยเห็นหมอผีหล่อ ล่ำขนาดนี้มาก่อน  มันเริ่ดดดดซะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #41 เมื่อ08-07-2011 20:26:18 »

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #42 เมื่อ08-07-2011 23:55:14 »

บรรดาผีๆน่ารักจัง 555+ o3

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #43 เมื่อ09-07-2011 00:28:23 »

เป็นการอ่านนิยายที่มีตัวละครเป็นผีมากมายหลายตน หลายแบบ และหลอกหลากหลายวิธี
แต่ไม่รู้สึกกลัวเลยเด้อ
มนต์ดำกำลังจะได้สู้กับมนต์ขาว รอลุ้นกันตอนต่อไป
และที่สำคัญ รออ่านตอนหน้าที่เจมส์จะไปพบนายตำรวจรูปหล่อน่ารักนายนั้น

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #44 เมื่อ09-07-2011 02:57:56 »

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยชอบน้องเจนนี่ 5555555555555

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #45 เมื่อ09-07-2011 13:28:41 »

จะหล่นแล้วมาดันๆๆๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #46 เมื่อ09-07-2011 16:49:37 »

น้องกุมารเคน กะน้องเจนนี่น่ารักจังเลย :o8:
แต่คิดไปคิดมา เป็นผีนี่หว่า แว้กกก  o22

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 3 (8/7/11)
«ตอบ #47 เมื่อ09-07-2011 19:13:32 »

วันนี้ไม่มีคุณตำรวจเลย....
เคนจังนี้ช่างน่ารักจริงเชียวว
คราวหน้าคงเจอศึกหนักแน่ หมอผีปะทะหมอผี
พ่อจ๋า ของหนูหล่อมากกกกกก เท่ห์สุดๆ ^^

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #48 เมื่อ10-07-2011 11:36:01 »

สืบเสน่หา

ตอนที่ 4


(ตอนที่ 4/1)


โรงพักแสนว่างในยามบ่ายอันชวนง่วงงุนทำให้คนในเครื่องแบบเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เต็มแรงก่อนหลับตาลงหาวหวอด วันนี้เป็นวันที่เขาต้องอยู่เวร แถมพวกพ้องก็โดนเกณฑ์ไปทำงานอื่นนอกสถานที่กันเสียหมด ทิ้งเขาอยู่โยงเพียงลำพังจนบรรยากาศในโรงพักเริ่มเงียบเหงา

และเพราะคิดว่าช่วงนี้คงไม่มีใครเข้ามาติดต่ออะไร ปวินต์จึงลืมตัวกว่าที่เคย หากเสียงหัวเราะของใครบางคน ก็ทำให้ผู้กองหนุ่มเผลอผุดลุกนั่งตัวตรงโดยอัตโนมัติจนได้

“พึ่งรู้ว่าคุณหาวแบบนี้เป็นด้วย” เสียงคุ้นหูติดจะกวนประสาทนั้นแทบจะไม่ต้องลืมตามองก็รู้ว่าใคร เจมส์ในวันนี้แต่งชุดสุดเท่อีกแล้ว เขาเลยสันนิษฐานได้อย่างง่าย ๆ ว่า เจ้าตัวคงไปรับจ๊อบเดินแบบอีกแหง ๆ แล้วจึงค่อยแวะมาหาหลังงานเสร็จ

“ผมไม่ใช่หุ่นยนต์นะ ยังต้องกินต้องอยู่ แล้วก็ต้องนอนเหมือนมนุษย์ปถุชนคนทั่วไปเหมือนกัน” ปวินต์สวนกลับแทบจะในทันที จนคนฟังลอบอมยิ้ม ร่างสูงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะโดยไม่รอให้ตำรวจหนุ่มอนุญาต ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ก็ผมคิดว่าคุณเป็นโรโบคอปนี่นา เห็นไม่ว่าทำอะไร ก็ดูซีเรียสไปซะทุกที”

“นั่นมันหน้าที่ต่างหาก…ฉันเป็นตำรวจก็ต้องทำแบบนั้นสิ ว่าแต่นายน่ะ มานี่เพราะโดนจับข้อหาลวนลามใครเข้าหรือไง”

“โห ผู้กองครับ เจอหน้ากันก็ยัดข้อหาให้เลย ผมน่ะ มาเป็นเจ้าทุกข์นะครับ ไม่ใช่ผู้ต้องหา พูดแบบนี้เดี๋ยวผมฟ้องกลับซะนี่”

“ฟ้องกลับข้อหาอะไรไม่ทราบ” เสียงถามห้วนสั้น ติดจะบึ้งตึงเล็กน้อย นิสัยเสียอย่างหนึ่งของปวินต์ก็คือ ไม่ชอบให้ใครมาพูดจาดูถูก หรือลบหลู่อาชีพตำรวจอันทรงเกียรติ ที่เขาภาคภูมิใจเสมอมา ดังนั้นเวลามีใครทำแบบนั้น เขาจะเริ่มเสียงแข็งขึ้นแทบจะในทันที มันเป็นนิสัยที่เขารู้ดี แต่แก้ไม่เคยได้เลยสักครั้ง

“ข้อหาขโมยหัวใจของผมไปน่ะสิครับ” คนพูดย้ำชัดถ้อยชัดคำด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ ไม่สะทกสะท้าน

คำพูดแสนเลี่ยนนั้นกลับทำให้คนฟังเผลอหน้าแดงจนต้องรีบทำทีจัดเอกสารเก็บอาการเขิน ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะพูดจาจีบกันซึ่งหน้าแบบนี้อีกแล้ว ปวินต์แสร้งตีสีหน้าเคร่งพูดขึ้นว่า

“มีอะไรก็ว่ามา คุณประชาชนผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง”

คำพูดเหน็บแนมแถมประชดทำให้คนฟังอารมณ์ดีขึ้นไปอีก เจมส์แน่ใจว่าถ้าวันไหนเขาไม่ได้ยินเสียงเหน็บแนมจากคุณตำรวจ บางทีเขาอาจจะนอนไม่หลับ

“ผมมาแจ้งความครับ เมื่อวานมีโจรขึ้นบ้านผม” ชายหนุ่มตอบง่าย ๆ แต่อีกฝ่ายกลับแทบลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ

“อะไรนะ! พวกมันทำอะไรนายรึเปล่า?” ปวินต์ถามอย่างร้อนรน ดวงตาคู่สวยกวาดมองร่างอีกฝ่ายขึ้นลง จนแน่ใจว่าอีกฝ่ายปลอดภัยดี จึงลอบถอนหายใจออกมา

“เป็นห่วงผมเหรอครับ ดีใจจัง” ใบหน้าแกร่งยิ้มน้อย ๆ “แต่ผมไม่เป็นไร ได้ลูกชายช่วยไว้น่ะครับ”

ตำรวจหนุ่มสะดุดกึก ที่แท้ก็มีลูกมีเมียแล้วเหรอเนี่ย ยังจะมาจีบคนมั่วซั่วไปหมดแบบนี้ ไม่รับผิดชอบเอาเสียเลย

และเพราะคิดแบบนั้น เลยทำให้อารมณ์ของปวินต์ แอบขุ่นมัวโดยไม่รู้ตัวแทบจะในทันที

“ถ้างั้นก็เล่ามา ว่ามีอะไรสูญหาย หรือเสียหายบ้าง จะได้ลงบันทึกประจำวันไว้” น้ำเสียงตอบกลับเริ่มเย็นชา

“ถ้าบอกหัวใจผมหาย คุณตำรวจจะตามหาให้ไหมครับ”

ดวงตาคมมองกลับด้วยแววตาน่ากลัวแทบจะในทันที “เอามาแต่เนื้อ ๆ น้ำกับเรื่องไร้สาระไม่ต้อง!”

“ตำรวจที่ดีต้องใกล้ชิดประชาชนสิครับ ดุขนาดนี้ใครจะกล้ามาแจ้งความกัน” เจมส์พูดยิ้ม ๆ แต่ยังคงเข้าเรื่องตามที่อีกฝ่ายต้องการ เพราะรู้ดีว่าล้อเล่นมากกว่านี้ อาจจะทำให้อีกฝ่ายโกรธเขาแทนได้

“เมื่อคืนมีคนลอบเข้ามาในบ้านผม ทั้งหมดสี่คน ทุกคนใส่ชุดดำ เข้ามาก็พยายามรื้อค้นหาอะไรสักอย่าง แต่ว่าคงไม่ได้อะไรไป เพราะไปเจอลูกชายของผมเข้าเสียก่อน”

“แล้วลูกชายนาย…ปลอดภัยรึเปล่า” ผู้กองหนุ่มถามต่อ อย่างอึกอักเล็กน้อย และมันทำให้คนฝั่งตรงข้ามลอบยิ้ม โดยไม่คิดจะอธิบายความเข้าใจผิดนั้น

“ลูกชายผมฉลาดน่ะ เขาเลยจัดการไล่พวกนั้นไปจนหมด โดยที่พวกมันไม่ได้อะไรไปเลย แต่ผมคิดว่า พลเมืองดีอย่างผม ควรจะมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ถูกไหมครับคุณตำรวจ”

ปวินต์ปั้นสีหน้าเป็นทางการกว่าเดิม ก่อนพยักหน้ารับ “คุณทำถูกต้องแล้ว ผมจะลงบันทึกไว้ และเรื่องสำคัญ…ถ้าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับคดีนั้น กรุณาเล่าให้ผมฟังให้หมดเถอะครับ มันจะช่วยในการทำรูปคดี และคุณเอง ก็จะได้ไม่ต้องตกเป็นเป้าของพวกนั้นด้วย”

“คุณคิดว่า พวกที่มา เกี่ยวข้องกับคดีนั้นงั้นเหรอครับ” เจมส์ถามขึ้น โดยทำทีไม่ใส่ใจต่อท่าทีที่เปลี่ยนไปของปวินต์

“ก็อาจจะใช่ แต่ยังไง ก็ควรระวังมากกว่านี้นะครับ คุณเจมส์”

“เจมส์สิครับ ไหนคุณว่าจะเป็นเพื่อนของผมแล้วไง” ชายหนุ่มแย้ง

“คุณเจมส์แหละดีแล้ว ในเมื่อคุณไม่ยอมบอกเรื่องนั้นให้ชัดเจน ผมคงยังเป็นเพื่อนกับคุณไม่ได้” ปวินต์ตัดบท “อ้อ แล้วก็…ผมจัดการลงบันทึกให้คุณเรียบร้อยแล้วครับ เชิญคุณกลับบ้านได้” ประโยคหลังเริ่มเป็นการไล่กลาย ๆ

คนฟังยักไหล่น้อย ๆ ก่อนลุกขึ้น “น่าเสียดาย ผมคิดจะชวน ‘เพื่อน’ ของผม ไปทานอาหารค่ำด้วยกันเสียหน่อย แล้วก็จะได้เล่าเรื่องที่เขาอยากฟังให้ฟังด้วย แต่ถ้าเขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมแล้ว ก็คงได้แต่ต้องตัดใจ”

ว่าแล้วเขาก็ตั้งท่าจะเดินออกไป แต่ปวินต์รีบลุกขึ้นเรียกเขาไว้ในทันที

“เดี๋ยวสิเจมส์ อย่าพึ่งไป” เสียงเรียกที่ดูกันเองกว่าเดิมลิบลับ ทำให้เจมส์อมยิ้ม ก่อนหันมาสมตาอีกฝ่าย

“ว่าไงครับ คุณจะตกลงเป็นเพื่อนกับผมไหม”

ปวินต์อึ้งไป รู้ดีว่าถูกย้อนเข้าให้เสียแล้ว “เอ้า เป็นก็เป็น แต่ผมต้องเข้าเวร ไว้ตอนค่ำคุณเสร็จ ‘งานหลอกลวงประชาชน’ ซะก่อน ค่อยโทรมานัดผมแล้วกัน” ขนาดพูดแค่นี้ยังไม่วายเหน็บแนมอีกจนได้ เล่นเอาเรียกรอยยิ้มจากเจมส์ได้ชะงัดนัก

พอเห็นคนฟังยิ้มกว้าง แถมยังเป็นรอยยิ้มที่ดูเท่และน่ารักกว่าที่เคย ทำเอาปวินต์เองยังแอบใจเต้น

เจมส์พยักหน้ารับ “ตกลงครับ แล้วคืนนี้ผมจะโทรไปหานะครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินฮัมเพลงลงจากโรงพักไป อย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ



แดดร่มลมตก อากาศกำลังเย็นสบาย สำนักพ่อปู่วันนี้ลูกค้าน้อยกว่าทุกวัน เจมส์จึงตัดสินใจปิดตำหนักไวกว่าปกติเล็กน้อย เพราะจู่ ๆ เขาก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดี ว่าอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ และลางสังหรณ์ของเขาค่อนข้างแม่นมาตลอดอยู่แล้ว

สายลมเริ่มพัดแรงโดยไม่บอกกล่าว แถมยังหอบพัดเอากลิ่นโชยแปลก ๆ เหมือนซากศพลอยมาด้วย สัญญาณเริ่มไม่ดีมากขึ้น เจมส์รู้ได้ในทันที ว่าฝ่ายตรงข้าม ตัดสินใจรุกเขาเข้าแล้ว…ในทางคุณไสย

ถ้าเป็นเช่นนั้น อันตรายจะยิ่งมากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรบอกยกเลิกนัดกับปวินต์ เพราะไม่อยากลากอีกฝ่ายเข้ามาเดือดร้อนด้วย

เขาคงคิดไว้ไม่ผิด หลังจากการตอกกลับด้วยการส่งผีไปหลอกคนพวกนั้นอย่างจงใจ เจ้าหมอผีตัวการหลักนั่น จะต้องโผล่ออกมาแน่ ๆ

ตอนนี้เขาเองอยู่ในที่แจ้ง ในขณะที่อีกฝ่ายอยู่ในที่ลับ จะอย่างไร ก็คงไม่ปลอดภัย

ดังนั้นเขาจึงจงใจ บอกให้เจ้าเคนจัดการกับคนพวกนั้น เป้าหมายก็คือการดึงเจ้าตัวร้ายกาจกว่าในที่ลับ ออกมาที่แจ้งด้วยเช่นกันนั่นเอง

เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะลงมือได้เร็วขนาดนี้ จึงได้เผลอใจบอกนัดปวินต์เข้า แต่ลางสังหรณ์นั่น…ก็บอกกับเขาว่า วันนี้เขาไม่ควรไปไหน ถ้าพวกมันลงมือเล่นงานเขาวันนี้จริง ก็แสดงว่าพวกมัน…รีบร้อนด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง และสิ่งนั้นก็อาจจะทำให้เขาเป็นต่อได้อีกด้วย ถ้าสามารถรู้ได้ว่ามันคืออะไร



ตำรวจหนุ่มที่ปลายสายอีกด้านขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจหลังฟังคำแก้ตัวอย่างชักแม่น้ำทั้งห้าของอีกฝ่าย เจมส์กำลังอยากจะบอกเรื่องราวสำคัญกับเขาแล้ว ยังอุตส่าห์หาเหตุเลื่อนได้อีก แถมยังพูดจาอ้อมแอ้ม คล้ายต้องการปิดบังอะไรบางอย่างกับเขามากขึ้นเสียด้วย

“งั้นผมไปหาคุณที่บ้านก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากออกไปไหน” ปวินต์ตัดสินใจรุกขึ้นก่อน

“อย่าเลยครับ วันนี้ผมไม่สะดวกจริง ๆ” เสียงตอบกลับดูมีพิรุธนัก ถ้าเป็นปกติแล้ว เจมส์คงจะแกล้งเขาด้วยการหยอดคำหวานเชิญชวนให้มาบ้านอย่างยินดีมากแน่ ๆ

“ก็ได้ ไว้วันหลังก็แล้วกัน” ตำรวจหนุ่มตัดบทง่ายเกินคาด

“เฮ้อ เสียดายจัง งั้นวันหลังผมจะไปทานข้าวที่บ้านคุณนะครับ อย่าลืมเตรียมเมนูพิเศษไว้รอผมล่ะ” เจมส์ตอบกลับอย่างเสียดายจริง ๆ เพราะตลอดบ่ายเผลอฝันหวานว่าจะได้ออกไปหาใครบางคนจนอารมณ์ดีผิดหูผิดตา แต่สุดท้ายนัดสำคัญ ก็มีอันเป็นหม้ายเสียนี่

“อืม เอางั้นก็ได้ ถ้างั้นแค่นี้นะ” ปวินต์ตัดบทอีกครั้ง หากเจมส์ที่กำลังจดจ่อกับเรื่องอื่นอยู่ กลับมิได้สังเกต

“โอเคครับ แล้วผมจะโทรหาคุณใหม่อีกที วันนี้นอนหลับฝันดี แล้วก็ฝันถึงผมด้วยนะครับ”

“ใครจะไปฝันถึงนายกัน ฝันร้ายล่ะไม่ว่า!” อีกฝ่ายตอบกลับ ก่อนวางหูไป ทิ้งให้อีกฝั่งของสัญญาณ หัวเราะกับตัวเองอย่างเบิกบานใจกว่าเดิม หากยิ้มคนเดียวอยู่ได้ไม่นาน เสียงเจ้าเคนก็ทำให้เขาชะงัก

“พ่อฮะ…รีบเตรียมตัวเถอะ ผมรู้สึกไม่ดีเลยฮะ”

“อืม พ่อก็รู้เหมือนกัน ‘มัน’ กำลังจะมาแล้ว” เขาตอบกลับ สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มหยิบชุดขาวชุดใหม่ออกมา ก่อนจัดการอาบน้ำชำระร่างกายแล้วผลัดเปลี่ยนชุดใหม่ ทำใจให้สงบสะอาดกว่าเดิม เขารู้ดีว่าการตั้งรับ จะอย่างไรก็ต้องมีสมาธิที่แน่วแน่ และเพื่อการนั้น จะต้องทำตัวให้ผ่อนคลายให้มากที่สุดเสียก่อน

เจมส์หยิบลูกประคำคล้องคอ พร้อมกับหยิบมีดหมอด้ามสำคัญ ที่พ่อของเขาทิ้งไว้ให้ก่อนตายขึ้นมาอย่างทะนุถนอม มือเรียวยาวพนมมือเข้าหากัน โดยมีมีดหมออยู่ตรงกลาง แล้วจรดมันเหนือศีรษะ ก่อนทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิที่เบื้องหน้าโต๊ะหมู่บูชาในห้องพระ แล้วบรรจงวางมันลงบนพานเบื้องหน้า

ร่างแกร่งหลับตาลงสวดมนต์แผ่วเบาหากหนักแน่น ค่อยโน้มนำกระแสจิตให้เป็นสมาธิอย่างช้า ๆ เปิดจิตจากกายละเอียดที่รับสัมผัสลี้ลับได้ดีกว่าไว้รออย่างไม่ประมาท

รอบบ้านกำลังเกิดอาเพศ เขารู้สึกได้ดีถึงกระแสการคุกคามจนปั่นป่วน เจ้าที่ในบ้านกำลังต่อต้านมันสุดฤทธิ์ด้วยการผลักไสสิ่งก่อกวนเหล่านั้นให้ออกไป บริเวณภายในบ้านเป็นบริเวณศักดิ์สิทธิ์ ยามปกติเมื่อมีการดูแลสม่ำเสมอ ย่อมยากนักจะมีภูติผีแปลกหน้าเข้าแทรกแซงได้

แต่วันนี้มันไม่ธรรมดาเสียแล้ว บ่งบอกได้ชัดถึงการประกาศสงครามของอีกฝ่าย ภูติผีปีศาจชั้นต่ำจำนวนมากเริ่มวนเวียนอยู่รอบภายนอกบ้าน แม้จะเข้ามาไม่ได้ แต่พวกมันก็พยายามหาช่องโหว่เพื่อเล็ดลอดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

เงาร่างมากมายนับสิบถูกใครบางคนบงการอยู่เบื้องหลัง ก้าวย่างไปมารอบรั้วบ้าน แม้ไม่สามารถปรากฏร่างเด่นชัด แต่ความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนกับกลิ่นสาปสางชวนคลื่นเหียน ยังคงกระจายไปทั่ว โชคดีนักที่บ้านของเขาเว้นระยะห่างจากบ้านหลังอื่นอยู่ช่วงหนึ่ง จึงมิได้ทำให้ใครต้องมาเดือดร้อนไปด้วยจากการจู่โจมในครั้งนี้

แต่เพียงไม่นาน คิ้วเข้มก็เริ่มขมวดมุ่น เขาสัมผัสได้ถึงวิญญาณกลุ่มใหม่ที่เริ่มเข้ามาปะปน วิญญาณงวดนี้เบาบางเจือจางเสียยิ่งกว่าเจ้าพวกที่เดินวนอยู่รอบบ้าน เป็นวิญญาณที่ไร้ซึ่งสตินึกคิด มีเพียงความรู้สึกสุดท้ายที่ติดตัวยามตายทำให้คงสภาพอยู่ได้ บางประเภทจึงยึดติดกับสถานที่หรือข้าวของบางอย่างที่ผูกพันเจ้าตัวไว้ยามมีชีวิต บ้างก็เป็นพวกเร่ร่อนวนเวียนไปมาระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลก เพื่อตามหาหรือค้นหาอะไรบางอย่าง ที่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถได้มา ได้แต่ล่องลอยไปมาที่แล้วที่เล่าไปผุดไปเกิดไม่ได้อยู่อย่างนั้น

วิญญาณพวกนี้ไม่อันตราย แต่มีจำนวนมากและพบเห็นได้ทุกสถานที่ เมื่อจิตด้านลบก่อตัวขึ้นจากการคุกคามบงการของใครบางคน โดยการชักนำเหล่าปีศาจชั้นต่ำที่ชั่วร้ายเข้ามา มันจึงคล้ายแหล่งหลุมดำ ที่ดึงดูดเหล่าวิญญาณเคราะห์ร้ายให้ติดร่างแหเข้ามาด้วย เหมือนเปิดไฟล่อแมลงในยามค่ำ เหล่าวิญญาณไร้สติสัมปัชชัญญะที่น่าสงสาร จึงได้แต่ถูกล่อลวงดึงดูดให้เข้ามา โดยไม่อาจถอยหนีกลับออกไปได้

และที่น่ากลัวกว่านั้นคือเมื่อมันมาสะสมกันมากเข้า จิตด้านลบที่มีจะขยายอานุภาพที่รุนแรงมากขึ้นทุกที จะดึงดูดวิญญาณที่อยู่ไกลออกไป ให้เข้ามารวมตัวกันอีก ไม่มีจบสิ้น

การมีเจ้าพวกนั้นคอยวนเวียน ถึงในตอนแรกจะไม่ได้มีผลต่อคนทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่หากมันมากันเยอะเข้า คนจิตอ่อนที่ผ่านไปผ่านมาจะเริ่มได้รับผลกระทบ และจะเป็นลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่รีบเร่งจัดการแต่ต้นลม และนั่นเองจึงเป็นสิ่งที่เจมส์กำลังวิตก แม้จะมั่นใจ ว่าพวกนั้นจะไม่สามารถเข้ามาในบ้านได้

คงต้องใช้อาคมสลายวิญญาณ ชายหนุ่มคิดต่อไป เขาไม่ค่อยอยากจะใช้วิชานี้ถ้าไม่จำเป็น ถึงมันจะสามารถใช้งานได้เป็นวงกว้าง และสามารถปลดปล่อยแกมขับไล่วิญญาณจำนวนมากให้แตกสลายแยกย้ายกันไปได้ แต่มันก็ใช้พลังงานมหาศาลในการใช้งานเช่นกัน จะให้มาไล่ไปทีละตนก็เห็นทีจะไม่ไหว พลังด้านลบที่เพิ่มจำนวนขึ้น ยิ่งค่อย ๆ ดึงดูดวิญญาณเร่ร่อน ภูตผีปีศาจในละแวกนี้ให้เข้ามารวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง ถ้ายังชักช้าอาจจะสายเกินไป

ฉลาดนักนะ ใช้วิธีการนี้เพื่อบีบให้เขาทุ่มเทพลังไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วหัวเราะมองดูโดยไม่ต้องเหนื่อย ซุ่มเฝ้ารอคอยให้เขาหมดแรงแล้วค่อยโจมตีซ้ำ

เขาประมาทมันเกินไป ที่คิดเพียงแค่ว่าถ้าทำให้มันรู้ที่อยู่แล้ว ตัวการใหญ่จะออกมาเพื่อจัดการเขาเอง

ไม่คิดว่ามันจะใช้เล่ห์กลย้อนมาเล่นงานเขาเช่นนี้

ถึงจะอ่านแผนการออกได้ แต่เขาก็รู้ดี ว่าถึงยังไงก็คงต้องทำ

จะปล่อยให้คนและวิญญาณผู้บริสุทธิ์ ต้องมารับเคราะห์มากไปกว่านี้ไม่ได้!


TBC

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #49 เมื่อ10-07-2011 11:48:39 »

น่ากลัวอ่ะ คุณ ppm เขียนอธิบายซะเราเห็นภาพนึกตามเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
« ตอบ #49 เมื่อ: 10-07-2011 11:48:39 »





ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #50 เมื่อ10-07-2011 13:27:57 »

อ่า จะมาไม้ไหนกันนะ ติดตามค่า

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #51 เมื่อ10-07-2011 13:51:30 »

 :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #52 เมื่อ10-07-2011 15:00:41 »

จะเอาตอน 2 เลยครับลุ้นสุดใจเลย  สนุกจริงๆ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #53 เมื่อ10-07-2011 15:29:30 »

 :z2:

พี่เจมส์สู้ๆๆ  พี่เจมส์สู้ตาย พี่เจมส์ไว้ลายสู้ตาย สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #54 เมื่อ10-07-2011 17:26:01 »

เหนื่อยแทนเจมส์เลยยย
หวังว่าคุณตำรวจจะไม่มาโผล่แถวนั้นน้ะ หวั่นใจจริงๆเชียว

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #55 เมื่อ10-07-2011 20:12:39 »

อ่านแล้วตื่นเต้นจังเลย

แถมบรรยายซะน่ากลัว  แต่ก็ชอบนะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #56 เมื่อ10-07-2011 20:18:11 »

ลุ้นเหมือนกันแฮะ  เจมส์จะรับมือไหวมั๊ยเนี่ยะ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #57 เมื่อ10-07-2011 20:28:37 »

ทายเลยว่าคุณตำรวจต้องมาเป็นภารให้พระเอกแหงๆ หุๆ ตามฟอร์มหนังไทย  :laugh:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #58 เมื่อ10-07-2011 20:35:24 »

เอาใจช่วยเจมส์เด้อ

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #59 เมื่อ11-07-2011 01:13:26 »

คุณตำรวจอย่าเพิ่งโผล่ไปเป็นภาระนะจ๊ะ
ช่วยอยู่อย่างสงบๆให้เจมส์จัดการปัญหาตอนนี้ให้เรียบร้อยก่อนนะ
ตอนนี้คนอ่านขอเอาใจช่วยเจมส์เต็มที่
เจมส์สู้ๆ :a2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด