จอมใจนักเลง
Part 31
หัวใจร้าวลึก.
.
.
.
.
.
.
.
“โอ๊ะ..โอ้ย!...ชู่วว!..เบาหน่อยสิครับ..เจ็บน๊า” ผมหน้านิ่ว อ้อนจอมแสบให้เบามือหน่อย หลังจากเทพบุตรล้างแผลเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้ผมใหม่
ก็น้องเล่นหนักมือกับผมซะขนาดนั้น นี่ผ่านมากว่าอาทิตย์หนึ่งแล้ว ถึงแม้แผลหายระบมแล้วก็ตามเถอะ
แต่สุดหล่อเล่นใส่แรงขนาดนี้ไม่เจ็บก็บ้าแล้วเหอะ...
“หึ!” แหนะ!...มีทำเสียงขึ้นจมูกให้ผมอีก
“เมื่อไหร่จะเลิกงอนสักทีครับสุดหล่อ” นั่นสิ..ผ่านมาหลายวันแล้ว น้องยังไม่เลิกงอนผมอีก
ง้อก็แล้วอ้อนก็แล้วยังไม่ยอมคุยดีๆ กับผมเลย ไม่ยอมนอนห้องเดียวกันอีก ผมจะบังคับแต่จอมแสบเล่นยื่นคำขาด
หากผมบังคับน้องบอกจะออกไปอยู่ข้างนอกซะเลย ใจแข็งชิบ...นี่แหละเค้าถึงบอกเมียใจนักเลง...ใจอ่อนยากชะมัด
พวกไอ้โต๋ ตะเกียง ไอ้พรต ไอ้รัน มันกลับกันไปหมดแล้วเมื่อสี่วันก่อน พวกไอ้คุณหยาง
จำนนด้วยหลักฐาน แถมฆ่าคนตายอีกงานนี้ติดคุกหัวโต คดีเรียบร้อยดีเพราะพวกผมมีหลักฐานพร้อมของกลาง
ส่วนศพพ่อเลี้ยงบรรจง ผมส่งพี่สอนเป็นตัวแทนไปเคารพศพ คิดว่าคงไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อ
อะไรกับคนของตระกูลนั้นอีก เห็นว่างานนี้หลังจัดงานศพไอ้ขจรลูกชายถึงกับประกาศขายบ้านแล้วพาจรรยาน้องสาวไปอยู่
อเมริกากับญาติที่โน้น เค้าใจนะว่าเด็กๆ คงอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อข่าวขึ้นหน้าหนึ่งว่าพ่อตนเองเป็นเครือข่ายค้ายา
ข้ามชาติ ดีแล้วล่ะที่ตัดสินใจไปเริ่มต้นกันแบบนั้น แทนที่จะทนฟังคำซุบซิบนินทา สภาพจิตใจของทั้งคู่คงบอบช้ำไม่น้อย
แต่ประสบการณ์ย่อมสอนให้คนเติบใหญ่ หวังว่าเด็กทั้งสองคนคงไม่มีใครคิดเจริญรอยตามพ่อเลี้ยงบรรจงเข้าอีก
ตัวอย่างก็มีให้เห็นสุดท้ายก็จบไม่สวยสักราย
ปัญหาคือเรื่องของผมนี่แหละ ไอ้พวกเพื่อนตัวดี พอหมดธุระดันยกให้ผมแก้ปัญหาง้อเมีย
เพียงลำพังเสียนี่ ทั้งที่ตอนช่วยกันวางแผนก็ออกความเห็นเสียดิบดีทีงี้เสือกทิ้งให้ผมคนเดียว แม้แต่นายท่านกับนายแม่
ก็ไม่ออกตัวช่วยผมซะงั้น แถมยกยอชื่นชมลูกสะใภ้จนผมกลายเป็นหมาหัวเน่า ทั้งที่ลงทุนเอาตัวเข้าเสี่ยงตายขนาดนี้
ไม่ยักมีใครสงสาร เอาวะ...เป็นไงเป็นกันง้อยากดีนัก พ่อจับกดแม่งเลย...ที่เหลือค่อยว่ากันทีหลังคิดถึงเมียจนจะขาดใจ...
ที่สำคัญผมจะลงแดงตายแล้ว เดือนกว่าเข้ามาแล้วไม่ได้กอดเมียรักให้ชื่นใจ ยิ่งได้กลิ่นหนุ่มหอมจรุงใกล้จมูก
เจ้าบิ๊กบอมย์มันไม่รักดีผงาดหัวซะจนปวดหนึบแทบระเบิด แต่สุดหล่อผมก็ยังหน้านิ่งเย็นชาได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
แถมยังใจร้ายแอบกลับไปเรียนหน้าตาเฉย แทนที่จะลาหยุดอยู่ดูแลผม
พอจบเรื่องน้องก็ไปขอยกเลิกเรื่องดรอปเรียน กลับไปเข้าเรียนปกติ ทิ้งผมมองตามตาละห้อย
ใจร้ายไม่มีเหลียวแลสามีสักนิด ส่วนงานที่โรงแรมพี่ชิดดูแลให้แถมรายงานผมมาอีกว่าจอมแสบเลิกเรียนแล้วเข้าไป
เคลียร์งานทุกเย็น สนใจงานมากกว่าผัวตัวเองอีก ไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันเสาร์คงไม่ออกใจเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้ผมหรอก
กว่าจะลงมือทำให้ต้องให้ผัวสุดเท่อ้อนจนปากแทบฉีก
“วันนี้ เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันดีไหม?” ผมเอ่ยชวน กะจะใช้เดทเป็นการง้อเมีย
“ไม่ว่าง” เวร..หมดมู๊ดเลยกู เมียผมเล่นตอบแบบไม่ต้องคิดเลยเหอะ
“จอมครับ..จะโกรธพี่อีกนานไหม? เลิกงอนสักทีสิครับ เห็นไหมเล่าว่าพี่เจ็บตัวชดใช้ให้แล้ว
จะให้ทำไงถึงจะหายโกรธ?” ผมเริ่มนอยด์แดกแล้วครับ ในชีวิตไม่เคยต้องง้อใครมาก่อน น้องเป็นคนแรกแถมง้อโคตรยาก
จนเริ่มหงุดหงิดตัวเองเหมือนกัน ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยว่ะ!
“ไม่ต้องทำอะไร..ไม่จำเป็น..แบบนี้ดีอยู่แล้ว” ตอบได้หน้านิ่งเสียงเรียบได้อีกเมียกู
“ไม่ดี..คนเป็นผัวเมียกันใครเค้าอยู่กันแบบนี้” ผมไม่เล่นด้วยหรอก
“งั้นก็ไม่ต้องเป็น..เป็นพี่น้องกันไปเลย” ผมสะอึกทันทีหลังฟังน้องพูดจบ จ้องสบตาน้องนิ่ง
ต้องการค้นหาความจริงว่าน้องรู้สึกอย่างที่พูดใช่ไหม แต่กลับมองเห็นแต่ความว่างเปล่า น้องคงรู้สึกอย่างที่พูดสินะ
นี่กลายเป็นผมเป็นไอ้งั่งเพียงคนเดียวที่วิ่งตามขอความรัก ทั่งที่เจ้าตัวเค้าไม่เคยรู้สึกเหมือนผมเลยใช่ไหม
แล้วไอ้ตอนที่บอกรักผมในวันที่ผมแกล้งตายที่โรงพยาบาล ก็คงแค่เสียใจที่คิดว่าผมตายไม่ใช่รู้สึกรักผมแบบคนรักกันสินะ
นั่นสิผมคิดเองเออเองคนเดียวว่าอย่างน้อยน้องต้องรู้สึกกับผมเช่นกัน ไม่งั้นคนหยิ่งทรนงแบบน้องจะยอมให้ผมเชียวหรือ
หากลองคิดอีกทีที่ผ่านมาผมล้วนใช้วิชามารเจ้าเล่ห์เอาเปรียบน้องตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่น้องสมัครใจยอมผมเอง
คิดมาถึงตอนนี้..ปวดหนึบในอกข้างซ้าย คงเป็นผลกรรมของผมเข้าแล้ว ที่ทำร้ายใครต่อใครมาไม่น้อย
เมื่อมีคนหลงรักผมก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกเค้าได้ ความรู้สึกของคนเหล่านั้นคงเจ็บปวดแบบผมตอนนี้เหมือนกันสินะ
ผมไม่รู้ว่าหน้าตาผมตอนนี้แสดงสีหน้ายังไง รู้อย่างเดียวว่าในหัวมึนตึ๊บ
ใครจะว่าผมคิดเยอะ หรืออะไรยังไงก็แล้วแต่ ถือได้ว่าผมพยายามสุดความสามารถแล้ว
ความรู้สึกของผมที่มีต่อน้อง ไม่ว่าจะเป็นคำพูดและการกระทำผมทุ่มให้น้องหมดแล้วเช่นกัน ทุ่มอย่างที่ไม่เคยทำ
ให้ใครมาก่อน เชื่อได้เลยว่าผมไม่เคยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อปกป้อง หรือยอมตายได้เหมือนกับที่ผมทำให้น้อง
โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดถึงผลลัพธ์ที่ตัวเองจะได้รับด้วยซ้ำ
มันคงถึงเวลาแล้วสินะ ไหนใครบอกว่าหลังปัญหาพ้นผ่านแล้วฟ้าจะสว่างใส หลังฝนตกแดดออก
รุ้งกินน้ำก็ต้องเผยโฉม แต่สำหรับผมมันยังคงขมุกขมัวคลุมเครือหลอกตัวเองไปวันๆ โกหกตัวเองมาตลอดว่าอย่างน้อย
จอมใจนักเลงก็ต้องรักผมไม่มากก็น้อย ในที่สุดก็ต้องรักผมเข้าสักวันจนได้
มาถึงตอนนี้ ผมหมดหวังแล้วครับ เพียงคำพูดเราเป็นพี่น้องกันไปเลยคำเดียวนี้ จากน้ำเสียงและ
สีหน้าเรียบนิ่งไม่ทุกข์ร้อนสักนิดยามเอ่ยปากออกมา ผมเหมือนคนโง่ไล่ไคว้ขว้าหัวใจนักเลงเพียงลำพัง จนลืมข้อเท็จจริง
ไปว่าน้องเป็นผู้ชายปกติ รูปร่างหน้าตารวมทั้งฐานะการศึกษาพร้อมสมบูรณ์ถึงปานนี้ ย่อมมีโอกาสที่ดีในการสร้างครอบครัว
และคนรักที่ตนเองมีสิทธิ์เลือก
กลายเป็นผมเสียอีกที่เห็นแก่ตัว คิดจะกักน้องไว้เป็นของตัวเอง หึหึ..ขำตัวเองชะมัด ด๊อกเตอร์บอมย์เบย์ผู้ชายที่หลายคนพากันอิจฉา ที่ไหนได้ผมต่างหากที่น่าสมเพชสุดๆ หลงรักเด็กที่อายุห่างกว่าเป็นรอบ
แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก อ้า..คงเป็นการอกหักเพราะผู้ชายครั้งที่สอง หลังจากที่เคยอกหักเพราะตะเกียงมาแล้วครั้งหนึ่ง
แต่ในครั้งนั้นผมไม่มีทางสู้ไอ้โต๋ได้เลย คู่แข่งคือมันคงต้องยอมยกธงแพ้ไปโดยปริยาย
ครั้งนี้ผมแพ้อีกแล้ว ทั้งที่ไม่มีคู่แข่ง แต่ที่ผมต้องยกธงแพ้คงพูดได้เพียงคำเดียวเท่านั้นว่า...
ผมแพ้... ‘หัวใจนักเลง’ ของน้องเข้าแล้วจริงๆ หัวใจที่แสนทระนงดวงเดียวเท่านั้น ที่ผมเอาชนะไม่ได้ จะมีความสุขอะไร
หากได้ร่างกายเค้ามาโดยไม่ได้หัวใจของน้องเค้าเลย ขืนยังดื้อไม่ถอยเสียแต่วันนี้ คงต้องกระอักเลือดตายอยู่ดีในวันหน้า
เมื่อเค้าควงใครสักคนเข้ามาแล้วแนะนำกับผมว่า...
‘คนนี้คือคนที่จอมรัก และเราจะแต่งงานกัน’ คงไม่ต้องรอให้ถึงวันนั้นแล้วครับ แค่คำพูดว่าเราเป็น
พี่น้องกันมันก็เล่นเอาอกข้างซ้ายผมปวดหนึบจนแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ เอาเป็นว่าผมคงต้องให้อิสระที่ได้มัดมือชกจับน้องเค้า
เป็นแฟนตั้งแต่แรก คืนอิสระให้เขาเสียที
คิดได้ดังนั้นผมยกยิ้มแม้จะฝืนใจเป็นที่สุด แล้วเอ่ยตอบน้องไปหลังจากที่เราต่างฝ่ายต่างเงียบ
จมอยู่ในความคิดของตนเองมานานพอสมควร
“ครับ..ขอโทษจากใจอีกครั้งที่พี่ทำให้จอมเสียใจ หลังจากนี้ไปคงไม่ต้องเสียใจเพราะพี่อีกแล้ว..หึหึ” พูดจบผมลุกเดินออกจากห้องไม่เหลียวหลัง เพราะผมไม่อยากให้น้องเห็นน้ำตาสิงห์บอมย์ ซึ่งตอนนี้มันไหลออกมาอย่างไม่
มีทางอดกลั้นไว้ได้อีก ลาก่อน....จอมใจนักเลง...ของพี่...????
------------------------------------------------------------------------
ฮ่าๆๆๆ...ผมมาอยู่อเมริกาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วครับ งานที่โรงแรมฝากให้พี่ชายผมดูแลไปก่อน ตั้งแต่วันที่ผมหันหลังเดินออกประตูพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชาย
เพราะอกหัก ผมไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีกเลย จัดการติดต่อพี่ชายผมเร่งด่วนฝากธุระเสร็จสรรพ ผมก็สั่งพี่ชิดจองไฟล์บิน
ตรงดิ่งมายังอเมริกาทันที ผมไม่ต้องเดินเรื่องขอวีซ่า เพราะด๊อกเตอร์บอมย์เบย์ถือวีซ่าตลอดชีพเพราะช่วยทำวิจัยสมัยเรียน
ที่นี้ ไม่ต้องลำบากในการเดินเรื่องด้านเอกสารเลยสักนิด
ผมไม่ติดต่อใครเลยไม่ว่าจะเป็นนายท่าน นายแม่ และกลุ่มเพื่อนสิงห์โตดำทุกคน มือถือผมก็ไม่ใช้
เบอร์เดิม อย่าคิดว่าผมนอยด์จนทำอะไรโง่ๆ ผมเพียงอยากพักรักษาหัวใจดูแลความรู้สึกของตัวเองให้ดีเสียก่อน
เมื่อผมพร้อมที่จะเผชิญหน้าจอมแสบในฐานะพี่ชายน้องชายตามความต้องการของน้องเค้าแล้ว วันนั้นผมจะเปิดมือถือ
เบอร์เดิมอีกครั้ง และพร้อมจะพูดคุยกับทุกคนเหมือนเดิม
ในวันนี้ผมยังไม่พร้อม ที่สำคัญผมรบกวนพวกเพื่อนๆ ผมมามากแล้ว ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นกังวล
กับผมอีก โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นปัญหาของผมคนเดียว ต้นเหตุเกิดจากผมก็ต้องแก้ที่ผมเท่านั้น....
อีกสามวันผมจะเดินทางไปทำวิจัยร่วมกับโปรเฟสเชอร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของผมในระหว่าง
ที่ทำโปรเจ็คจบด๊อกเตอร์ที่นี่ แกดีใจมากที่ผมตัดสินใจช่วยงานแกอีกครั้งในการเดินทางไปทำวิจัยที่บราซิลเกี่ยวกับ
การท่องเที่ยวและผลการเติบโตในละตินอเมริกา ผมว่ามันท้าทายดีและถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของผมด้วยเช่นกัน
เพราะประเทศนี้ผมยังไม่มีโอกาสไปเยือนเลย แถมผมยังเป็นแฟนนักเตะระดับโลกของประเทศนี้หลายคน เพราะฉะนั้น
การไปครั้งนี้เกือบสามเดือนผมคงจะสนุกกับงานวิจัยจนไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดถึงจอมนักเลงเค้าได้ เวลาเท่านั้น
จะรักษาแผลใจของผม....???????
“ว่าไงมิสเตอร์บอมย์...คุณพร้อมแล้วใช่ไหม?” โปรเฟสเชอร์ถามผมทันทีหลังจากผมเดินเข้าไปพบ
แกที่ห้องทำงานในมหาวิทยาลัย
“ครับ..แล้วคนอื่นๆ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมอาจารย์” ผมถามแกกลับ เพราะงานนี้นอกจากผมแล้ว
ยังมีลูกศิษย์อีกหกคนรวมผมเป็นเจ็ดคนที่ต้องไปร่วมทำวิจัยในครั้งนี้ ผมกับนาตาลีมีดีกรีด๊อกเตอร์ ส่วนอีกห้าคนปริญาโท
ถือโอกาสเอาผลงานวิจัยเป็นโปรเจคขอจบในสาขาที่เรียนด้วย
“พวกเค้าก็พร้อมแล้วทุกคน เพิ่งเข้ามาพบผมก่อนหน้าคุณนี่เอง เออ..รู้สึกนาตาลีเข้าฝากบอก
ด้วยว่า เป็นไปได้ขอพบคุณที่บ้านพักเธอเย็นนี้ ยังไงคุณติดต่อเธอเองนะ ไม่แน่อาจมีเซอร์ไพรส์คุณเข้าให้มิสเตอร์บอมย์
เชื่อคุณเลยเสน่ห์แรงไม่เคยเปลี่ยน” โปรเฟสเชอร์ล้อผมตามเคย ผมกับนาตาลีเคยควงกันอยู่พักหนึ่งก่อนผมจบ
ที่นี่ก็แบบนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก...แม้ผมจะรู้สึกว่าเธอจริงใจกับผมก็เถอะ แต่ผมก็บอกเธอไปแล้วว่าผมยังไม่คิดจะมีครอบครัว
เราต่างจากกันด้วยดีเพราะงั้นมิตรภาพระหว่างผมกับเธอจึงไม่ได้เลวร้ายอะไร เอาเป็นว่าผมตกลงจะไปพบเธอก็แล้วกัน
เพราะยังไงงานนี้ก็ต้องเดินทางร่วมกันอยู่แล้ว...?????
มาต่อให้แล้วนะคะ อย่าเพิ่งเบิร์ดกะโหลกคนเขียนกันละ
มันเป็นไปตามพล็อตเรื่อง ไม่ได้แกล้งคนอ่านเลยนะเอ่อ
ถ้ากำลังใจเยอะ รับรองจะมาต่อให้มีความสุข
ขอตัวหลบฝ่ามือไปตั้งหลักก่อนดีกว่า ไปแหระ...
Luk.