แต่พอลงมาถึงเขาเห็น
ไนทืเล่นกับลูกหมาน้อยกับเด็กผู้หญิงอยู่ที่ล๊อบบี้
“ไม่ได้หรอกครับ ไนท์ทำงานไม่เป็น
เวลส มันจะเป็นภาระ สงสารลูกหมา” เขาลูบศีรษะปลอยใจแล้วให้เหตุผล เห็นไนท์มอง
ลูกหมาตาละห้อยแล้วก็สงสารนะ แต่เขาไม่อยากตามใจไนท์จนเสียเด็ก
ไนทืทำหน้างอใส่เขาแล้วก็เมินหน้าใส่ พอเขาบอกว่าไม่ต้องไปแล้วเดี๋ยวพี่ทอยจะมาหา ไนท์ก็เดินเข้าลิฟท์ไปอย่างไม่สนใจใยดีเขา พออยู่ในลิฟท์กัน
าองคนไนท์เริ่มออกอาการให้เขาเห็นถึงการพัฒนาการ แต่มันเป็นไปในทางที่เขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่
“พี่เต อยากได้ อยากได้ อยากได้” เมื่อเขาเฉย ไนท์
ก้เดินหนีไปนั่งที่โซฟา เขาเลยเดินไปหยิบหนังสือมานั่งอ่านที่ระเบียงห้องแทน
“พี่เต ไนท์จะเอาหมา” ไนทืหันกลับมาอีกครั้ง ซึ่งถ้าไม่ใช่ขอหมาเขาก็คงให้ แต่พอเขาส่ายหน้า
ไนทืก็เข้ามากัดเขาในทันที ซึ่งตอนนี้เขารู้สึกว่าไนท์น่าตีสุดๆ
เออ ไปหาตารางงานของระพีพัฒน์มาให้ด่วน ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนหามาให้ที เอาเดี๋ยวนี้” เขาค่อนข้างแปลกใจ ที่เห็นท่าทางหงุดหงิดของเพื่อนปกติเพื่อนของเขาเป็นคนที่เรียกได้ว่าเก็บอารมณ์เก่ง เขาปล่อยให้เพื่อนเข้ามาในห้องเห็นธรรศกฤตเดินเข้าไปคุยกับไนท์พร้อมยื่นอะไรบางอย่างให้ เขาเ็นแบบนั้นเลยรีบโทรเช็คให้เพื่อนทันที พอรู้ที่อยู่ของ
ระพีพัฒนืเขาก็เดินกลับมา เห็นไนท์กำลังนั่งเป่าฟองอากาสลอยไปทั่วห้องพร้อมกับ DVD ที่เพื่อนเขามเอามาให้
“รู้แล้ว อยู่ระยอง ถ่ายโฆษณาที่นั่น 3 วัน” ทันทีที่ได้ยินคำตอบธรรสกฤตหัวเราะในคออย่างอำมหิต
“เออ ว่างมาคุยกันก่อนหรือเปล่า หมอ” เขาอยากคุยกับทอยเรื่องอาการของไนท์
“ก็ได้” ธรรสกฤตตกลงเมื่อเห็นว่ายังไงก็ต้องใช้เวลากว่าไปถึงระยอง เตชวัฒน์ชวนเพื่อนไปนั่งคุยที่ระเบียง
“เมื่อกี้มาช่วยชีวิตเลยนะ ไนท์กำลังอาแต่ใจ บอกตรงๆ รับมือไม่ถูก” เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง วึ่งตลอดมาทุกอย่างก็โอเคหมด มาตอนที่ไนท์จะเอาหมานี่แหละที่ดูเหมือนยังไงก็ไม่ยอม
“ก็ให้เลี้ยงสิ” ธรรสกฤตพูดง่ายๆ
“บ้าเหรอ แค่ไนท์คนเดียวก็เหนื่อยจะแย่แล้ว” แต่เขาไม่ได้บอกออกไปว่าแย่ในด้านไหน
“ก็ใจแข็งอย่าให้เลี้ยง เท่าที่ฟังก็ปกตินะ คงกำลังเรียนรู้นะแหละ อย่างที่บอกว่าขาดพัฒนาการ แล้วเท่าที่สังเกต ไนท์ดูแต่พวกการ์ตูนนี่ ห้ดูอย่างอื่นบ่้างไหม” เขาถามรายละเอียด พอเจอคำถามนี้ทำให้
เตชวัฒนืครุ่นคิด จะว่าไปปกติเขาก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าไนท์จะดูอะไร แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็ดูแต่พวกการ์ตูน
“ถ้าดูพวกหนังก็คงตอนที่ดูด้วยกัน แต่ถ้าดูคนเดียวก็เห็นดูแต่พวก
การ์ตุนกับรายการเด็กนะ” เขาตอบกลับไปตามที่นึกออก ธรรศกฤตนิ่งคิดสักพัก
“งั้นก็คงปกติแหละ ทนๆ เอาหน่อย อาจจะมีช่วงเอาแต่ใจตัวเองบ้างถ้าใจเย็นๆ เดี๋ยวก้หาย อดทนค่อยๆ พูดค่อยๆ สอนมานานไม่ใช่เหรอ” เสียงราบเรียบของเพื่อนทำให้เขาสงบใจลงพอสมควร
“แค่ตกใจนะ อยู่ๆ ก็ร้องจะเอาหมาให้ได้ ไนท์ไม่เคยเป็นแบบนี้” เขาตกใจจริงๆ ไนท์ที่เมินเฉยเขารับมือได้ แต่ถ้ามางอแงจะเอาอะไรแบบนี้เขารับมือไม่ถูก
“แรกๆ ก็แบบนี้แหละ ค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอน ว่าแต่ไนท์โตมาได้ยังไงเนี่ย” ธรรศกฤตพึมพำเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเอง
วะมากกว่า แต่โดยส่วนใหญ่ที่คุยกันแล้วธรรศกฤตบอกเขาว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการเด็ก แม้ไนท์จะโตแล้ว แต่ก็กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้การแสดงออกของอารมณ์และคำพูด
“แต่จริงๆ ให้เลี้ยงสัตว์ก็ดีนะ สัจว์เลี้ยงจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาการของเด็ก ถ้าเจ้าตัวชอบด้วยแบบนี้แล้วมันก็ไม่เลว” ธรรศกฤตยังคงแนะนำซึ่งเขาก็พยักหน้าเข้าใจ
“ที่สำคัญใจเย็นๆ และอดทน นี่แหละที่สำคัญ” นี่เป็นคำเตือนของเพื่อนที่เขายอมรับมาตั้งแต่แรกธรรศกฤตบอกว่าเอาพวกแผ่นหนังมาให้ไนท์ดูฆ่าเวลานอกจากหนัง
การ์ตูนย์ ไม่มี ย์ นะค่ะ และควรให้
ไนทืหาอะไรทำบ้างและที่สำคัญต้องหากิจกรรมจะให้ทำอย่าปล่อยให้อยู่เฉยๆ มันจะช่วยได้
หลังจากธรรศฤตกลับไปแล้ว เขากำลังคิดเรื่องสัตว์เลี้ยงจริงอยู่ที่การเลี้ยง
สัตตว์มันช่วยเรื่องพัฒนาการ แต่ชีวิตที่ทำงานไม่เป็นเวลามันจะทำให้ไม่มีเวลาดูแลสัตว์เลี้ยง เขาเอาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลไนท์สงสัยต้องหาสัตว์ตัว
เล้กๆ ที่เลี้ยงง่ายไม่เป็นภาระมาแทนแล้วละมั้ง
ระหว่างที่คิดอยู่นั้นไนท์เดินเข้ามากอดเขาจากด้านหลังทำเอาเขาแปลกใจ พอหันไปหาเท่านั้นไนท์ก็กอดเอวเขาแน่น
“เตเต้ เค้าอยากเลี้ยงหมา ให้เค้าเลี้ยงน้า” ไม่พูดเปล่าใบหน้าคุ้นเคยถูไถเข้ากับหน้าท้องของเขาอยากออดอ้อน เขารู้สึกเหมือนหัวใจกำลังละลาย ไม่ทันรู้ตัวเขาก็เอ่ยตอบออกไปแล้วว่า
“ได้ครับ” ไนท์ยังคงกอดเขาไม่ปล่อยพอได้คำตอบแล้วเจ้าตัวก็ยิ้มดีใจแล้วผละออกไป นั่นแหละเขาถึงได้สติ
“ไนท์” พอเขาเรียกไนท์ก็หันกลับมาหาเขา
“ทำไมเรียกพี่ว่าเตเต้ แล้วเมื่อกี้ไปเอามาจากไหน” เขาไม่เคยสอนไนท์ให้เรียกเขาแบบนี้ และไม่เคยสอนให้พูดอะไรแบบนี้ด้วย ไนท์เอียงคอมองแล้วชีไปที่โทรทัศน์ พอเห็นว่าเป็น DVD ที่ธรรศกฤตเตรียมมาให้แล้วเขากดน้อนกลับไปดูในทันที
“ทัคกี้ เค้าอยากได้กระเป๋า ตัวเองซื้อให้เขาหน่อยน้า” สาวน้อยออดอ้อนแฟนหนุ่มแบบที่ไนท์ทำเมื่อกี้เปะๆ
“เลียนแบบสินะ” เขาหันมามองไนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าเขามองเจ้าตัวนิ่งไปสักพัก ก็ขยับเข้ามากอดเขา
“ตกลงแล้วนะ” ไม่พูดเปล่าไนท์ขยับเข้ามาหอมแก้มเขาอีกครั้งพอเขาเงียบเจ้าตัวก็ขยับขึ้นมาจูบหน้าผาก เมื่อเขาเงียบ
ไนทื+ก้ขยับขั้นมานั่งคล่อมเขาแล้วจูบที่กกหู
“โอเคครับ เลี้ยงครับ เลี้ยง” เขาตอบออกไปตะกุกตะกักรู้สึกเหมือนหัวใจจะ
วายวะให้ได้ พอได้คำตอบที่พอใจล้วไนท์หอมแก้มเขาอีกครั้งแล้วลงไปนั่งดู DVD ต่อ ปล่อยให้เขานั่งหายใจแรงอยู่ข้างเคียง
พอตั้งสติได้แล้วชักอยากรู้จริงๆ ว่าไอ้หมอทอยมันเอาอะไรมาให้ไนท์ดู มีพัฒนาการมันก็ดี แต่ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ เขาได้หัวใจวายตายแน่ๆ แค่นี้ทุกๆ คืนเขาก็ท่องอยู่แล้วว่า ‘อดทน’ แล้วถ้า
เ็นแบบนี้ต่อไปมันจะเป็นยังไงเนี่ย พอเหลือบไปเห็น DVD ที่ไนท์ดูอยู่แล้ว อยากจะบีบคอไอ้หมอจริงๆ นี่มันไม่ใช่หนังสำหรับเด็กที่เสริมสร้างพัมนาการ แต่มันเป็นหนังรักแนวคอมเมดี้ที่มีบทถึงเนื้อถึงตัวจนน่าหวาด
เสียง ถ้าไนท์เลียนแบบจริงๆ เขาจะทนไหวไหมเนี่ย
++++++++
ปล. เป็นกำลังใจต่อไปค่ะ