วันนี้เป็นอีกวันที่น่าหนักใจ
คอนเซปต์- คอนเซ็ปต์การถ่ายแบบวันนี้คือการถ่ายสนุกๆ แบบสลับเพศ ให้นายแบบใส่เสื้อผ้าของนางแบบและนางแบบใส่เสื้อผ้าของนางแบบ ภาพวันนั้นที่ไนท์ติดขนตนปลอมจนดูเป็นกระเทยอาคาซ่า
+++++
“ตายแล้ว แฟนคลับสมัยนี้น่ากลัวจริงๆ ค่ะ เอาไป
ใช่ก่อนได้เลยค่ะ ยังไงมะรืนนี้ก็ได้ทำงานร่วมกันอีก
++++
แต่เขาอยากให้ไนท์ปลอดภัยจากบรรดา
แฟบนคลับหัวรุนแรง แค่แผลที่ข้อมือก็ทำเอาเขารู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว
“พี่เต” ทันทีที่
จึ้นรถไนท์ก็เรียกเขาในทันที เขาหันไปยิ้มให้ก็เจอสายตาที่มองมาอย่างสงสัย
++++++++++
“ขอเวลาเตรียมตัวก่อนนะครับ พวกนี้ไม่ใช่ว่าอยากเลี้ยงจะเลี้ยงได้เลย ต้องดูก่อนว่าจะเลี้ยงอะไร เตรียมอะไรบ้าง ต้องพาไป
ฉีกวัคซีนอะไร ไม่งั้นเอามันมาเลี้ยง เลี้ยงไม่ดี จะเป็นการทรมานสัตว์” เขาให้เห็นเหตุผลกับไนท์ ไนท์นั่งหน้างอแล้วขมวดคิ้ว เหมือนกำลังคิดถึงสิ่งที่เขาพูด
“แต่สัญญาแล้วนะว่าจะให้เลี้ยง” เขาพยักหน้ารับในทันที
“แค่ขอเวลาหน่อยเท่านั้นเองครับ” เขาลูบ
ศีระอีกฝ่าย
ก่อนนจะนึกถึงเรื่องที่คาใจเขาได้
“ไนท์ทำไมไม่พูดกับคนอื่นในกองเลยละครับ พี่ไม่เห็นไนท์คุยกับใครในกองเลย แม้แต่พวกช่างแต่งหน้า” เขาเห็นไนท์พูดกับเขามากขึ้นแต่กับคนอื่นยังคงเฉยเหมือนเดิม
“ต้องพูดด้วยเหรอ” ไนท์เอียงคอถามเขาเหมือนไม่เข้าใจ
“แล้วทำไมเราไม่พูดกับเขาละครับ” เขาถามกลับไปบ้างแล้วรอคำตอบ ไนท์เงียบเป็นเวลานาน เขานั่งเคาะพวงมาลัยรอไปเรื่อยๆ บางคำถามไนท์จะคิดนานในการตอบกลับมา
“ก็พวกนั้นพูดอะไรไม่รู้ พูดไม่หยุดเลย ฟังไม่รู้เรื่อง..แล้ว.. แล้ว......แล้ว.......” ไน์พูดซ้ำๆ แล้วทำท่าคิดอยู่นาน เขาไม่ได้ขัดจังหวะปล่อยให้ไนท์คิดต่อไป
“ไนท์ไม่อยากคุยด้วย เพราะไม่รู้จะคุยอะไร แล้ว..แล้ว..อือ...แล้ว....แล้ว....แล้วไม่อยากคุย แล้ว..แล้ว... แล้ว...ก็ไม่รู้จะคุยไปทำไม..แล้ว.....แล้ว.........นึกไม่ออก แต่ไนท์ไม่อยากคุยด้วย” เจ้าตัวบอกมาแค่นี้ซึ่งเขาก็พยักหน้าเข้าใจ
“แต่คุยกับพี่นี่นะ” เขายึ้มขำๆ
“พี่เตไม่เหมือนกัน” ไนท์ส่ายหน้าจนวิกเกือบหลุด เขามองกริยานั้นอย่างเอ็นดู น้อยครั้งที่ไนท์จะแสดงออกอะไรแบบนี้
“ไม่เหมือนยังไง” เขาลองถามกลับไปบ้างอยากรู้เหมือนกันว่าไนท์คิดยังไง
“พี่เตใจดี แล้ว พี่เตก็หาอะไรให้ไนท์กิน อื้อ พี่เตตัวสูงเหมือนพ่อเลย แล้วก็พี่เตตัวอุ่นด้วย แล้ว แล้วก็ไนท์ชอบพี่เต” คำสุดท้ายของไนท์ทำเอาเขาหัวใจพองโต ไนท์บอกว่าชอบเขา แค่นี้เขาก็ใจละลายแล้ว
“พี่ก็รักไนท์” เขายิ้มแล้วดึงมือของไนท์เข้ามากุมเอาไว้
“รักไนท์คนเดียวนี่แหละ” เขาดึงมือขึ่นมาจุมพิตแผ่วเบา ไนท์พยักหน้ารับในทันที
“ระวังวิกหลุด” เขาจัดวิกให้เข้าที่แล้วขับรถพาไนท์ออกไปหาอะไรทานในมื้อเย็น
เตชวัฒนืกำลังคิดว่า การให้ไนท์แต่งหญิงออกมาเดินก็เป็นการดีเหมือนกันนะ เพราะผู้คนรอบข้างที่เคยจ้องมองและรุมล้อมในตอนนี้ ไม่ใครสนใจร่างสูงโปร่งตรงหน้า คิดว่าคงจำไม่ได้มากกว่า เพราะพอมาอยู่ในชุดธรรมดาในสภาพผู้หญิงแล้ว ไนท์ก็ดูเป็นผู้หญิงอกแบนร่างสูงโย่งต่างจากผู้หญิงทั่วไปนิดหน่อย
เขาพาไนท์มาที่ร้านหนังสือ เพื่อเลือกคู่มือเลี้ยงสัตว์ เขาอยากให้ไนท์อ่านก่อนจะเอาสุนัขสักตัวมาเลี้ยง แม้ไม่อยากเลี้ยงแต่สัญญาไปแล้วเขาก็ควรทำตาม
“อยากเลี้ยง
พันธ์ุไหนครับ” เขาพาไนท์มามุมหนังสือสัตว์เลี้ยงแล้วให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือกว่าอยากเลี้ยงสุนัขพันธุ์อะไร
“นี่กับนี่”
ไนทืหยิบหนังสือออกมาสองเล่ม เล่มแรก ไซบีเรียน ฮัสกี้ เล่มที่สองเป็น ปอมเปอเรเนียน ซึ่งสองสายพันธุ์นี้ขนาดคนละไซด์กันเลย
“เลือกได้ตัวเดียวครับ และพี่เลือกตัวนี้” เขาดึงหนังสือปอมเปอเรเนียนออกมา เขาเลือกปอมเปอเรเนียน เพราะตัวเล็กดูแลง่ายกว่าไซบีเรียนฮัสกี้
“นะครับเอาพันธุ์นี้แหละ ไนท์จะได้ดูแลง่าย อุ้มได้นะครับ พี่ขอร้อง ถ้าตัวใหญ่มากพี่ก็ดูแลไม่ไหว” เขาใช้น้ำเสียงนุ่มๆ ค่อยๆ อธิบายเหตุผลไนท์ช้าๆ จนไนท์ยอมในที่สุด
เขาพาไนท์ออกไปหาอาหารทานเป็นมื้อเที่ยง แล้วพาไปเดินเล่นอีกนิดเผื่อไนท์จะซื้ออะไรเพิ่ม พอเดินผ่านร้านรองเท้าไนท์ดึงชายเสื้อเขาแล้วชี้เข้าไปด้านใน เขาพยักหน้ารับแล้วเดินตามเข้าไป
ไนทืลองรองเท้าอยู่นานตลอดเวลาไนท์ก็ไม่พูดอยู่เช่นเคย ลองๆ ใส่ๆ ให้พนักงานใส่เข้าใส่ออก
“จะเอากี่คู่ครับนั่น” เขาถามเมื่อเห็นกองรองเท้าขนาดใหญ่ ไนท์ชี้ไปที่รองเท้าๆ ข้างๆ สามสี่คู่เขาพยักหน้าเข้าใจในทัที แต่ไอ้สามสี่คูของไนท์น่ะ รวมๆ กันแล้วราคาปาเข้าไปแสนกว่าบาท
“ได้ใส่เหรอ” เขาถามอีกฝ่ายเมื่อนึกถึงรองเท้าของไนท์ที่มีเต็มตู้ เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋าอีก ไนท์มีเยอะมาก
“ทำไม” ไนท์ถามเขาอย่างไม่เข้าใจ ดูก็รู้ว่าไม่สนใจคุณค่าของเงินเลยสักนิด เขายังไม่ได้พูดอะไรเมื่อเห็นว่าพนักงานขายเดินกลับเข้ามา พอพนักงานขายเดินกลับออกไปอีกครั้ง
“ไนท์ จริงอยู่ว่าพวกเรามีเงิน ของพวกนี้เป็นของฟุ่มเฟือยแค่ที่ไนท์มีอยู่นี่พี่ก็ว่ามันมากเกินพอแล้วนะ ทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับนี่ ใช่ทั้งเดือนไม่ซ้ำกันยังได้” ไนท์ทำหน้าไม่เข้าใจ มองของแล้วหันมามองหน้าเขาก่อนเดินเข้ามาใกล้ แล้วจับมืิอเขาเอาไว้
“เตเต้ ไนท์จะเอา ซื้อนะ ซื้อนะ” ไนท์เขย่าแขนเขาเบาๆ แม้จะรู้ว่านั่นเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่ไนท์จำมาจากภาพยนต์ต่างๆ ที่ธรรกฤตหามาให้ดูก็ตาม แม้จะรู้ว่าไนท์ไม่ได้อยากได้จริงจังก็ตามที แม้จะรู้ว่าซื้อไปมันก็จะกองอยู่ในตู้ก็ตาม แต่เขาก็ใจอ่อนพยักหน้ารับไปแล้ว สงสัยต้องเป็นเขานี่แหละที่ต้องมีสติในการใช้เงิน
ก่อนจะกลับเขาแวะซื้อขนมกลับมาอีกกองโต เพราะไนท์กินเก่ง แต่พอ
สตาร์รถเท่านั้น
ไนทืก้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอย่างสนอกสนใจในทันที
“พี่เต” ไนท์เรียกเขาทำให้เขาเหลือบกลับไปมองเพราะขับรถอยู่
“ว่าไงครับ” พอเขาขานตอบไนท์ก็เงียบไปอีก
“ในหนังสือบอกว่า............จะเลี้ยงหมาต้องมีอุปกรณ์.....แล้วที่บ้านไม่มี...............ไนท์กับพี่เตต้องไปซื้ออุปกรณ์.ที่.ที่ ..ร้านขายอุปกรณ์..ไปกันเลยนะ” เขาฟังแล้วรู้สึกทะแม่งๆ สุนัขยังไม่ซื้อแต่เตรียมอุปกรณ์แล้ว ซื้อที่หลังก็ได้มั้ง
“ซื้อที่หลังก็ได้ รอได้หมาก่อน” เขายิ้มบอกอีกฝ่าย ไนท์ไม่ตอบแต่เงียบเป็นเวลานาน เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงเข้าใจที่เขาพูด
แล้ว แต่ไม่ใช่เลย
“เตเต้ ไปซื้ออุปกรณ์เถอะนะ ไนท์อยากเลี้ยงหมา นะนะ” ไม่พูดเปล่าแต่ไนท์ทิ้งตัวลงนอนหนุนตักแล้วใช้ใบหน้าถูไถกับหน้าท้องของเขาไปมา เตชวัฒน์แทบจะขับรถชนคันข้างหน้าเมื่อเจอลูกอ้อนของคนตรงหน้าที่ทำเอาเขาใจละลาย เขาย้ำกับตัวเองว่ามันก็แค่พฤติกรรมเลียนแบบสิ่งที่เห็นเท่านั้นไม่มีอะไรหรอก
“เตเต้ ไปซื้ออุปกรณ์เถอะนะ” ไนท์ดึงชาย
เาื้อของเขาขึ้นมาริมฝีปากนุ่มจุมพิตเบาๆ ที่บริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้อง จนเขารู้สึก
เหมือกำลังละลาย
อ๊าย ไนท์ จะน่ารักไปไหนลูก เดี่ยวพี่เต ตบะแต่กันบอกดี
“ตกลงครับ
เดี่ญวพี่พาไป” พอตอบคำถามเท่านั้นแหละเขี้ยวคมก็งับเข้าที่ท้องเขาทันที เตชวัฒน์เจ็บจนต้องงอตัว ดีนะที่รถติดไฟแดงไม่งั้นเกิด
อุบัตติเหตุไปแล้ว
“อย่ากัดพี่และอย่าทำแบบนั้นอีกนะครับ เวลาขับรถมันอันตราย” เขาเตือนไนท์เสียงเข้มและจริงจัง ไนท์เอียงคอมองเขาแล้วพยักหน้าเข้าใจ
แอบสงสาร พี่เต
“ไปซื้ออุปกรณ์กัน” เขาชัดไม่แน่ใจว่าไนท์สนใจที่เขาพูดหรือเปล่า บางครั้งไนท์ก็เหมือน
เด้กดื้อ แต่บางครั้งก็เป็นเด็กว่าง่าย แต่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรเพราะไนท์กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลายๆ อย่าง
สุดท้ายเขาก็ต้องหอบอุปกรณ์ในการเลี้ยงลูกสุนัขมากมายกลับคอนโดทั้งที่ยังไม่ได้ซื้อลูกสุนัขสักตัว เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจกับตัวเองที่หมู่นี้ชักจะไม่ค่อยมีสติในการตัดสินใจกับการประชิดตัวของไนท์ ตอนนี้เขาต้องรับมือไนท์กับความอดทนของตัวเองทั้งเวลากลางวันและกลางคืนจนมันทำให้เขารู้สึกเครียด
กลับมาถึงห้องไนท์ก็เดินไปนอนเล่นบนโซฟาเป็นปรกติ เขาเก็บของเข้าที่จนเรียบร้อยแล้ว พอมองเหล่าอุปกรณ์เลี้ยงลูกสุนัขและรองเท้าที่ไนท์ซื้อมาแล้วเขาเกิดความสงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมา เขาเดินไปหาไนท์ที่กำลังเป่าฟองอากาศอยู่ที่ริมระเบียง ไนท์หันมาสบตาเขา
ทำองว่ามีอะไร
“ทำไมเรียกพี่ว่าเตเต้” เขาสะดุดใจเพราะธรรมดาไนท์จะเรียกเขาว่าพี่เตมีแต่ตอนที่จะเอาอะไรนี่แหละถึงเรียกเขาว่าเตเต้ ไนท์คิดได้ขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะเท่าที่เขารู้ไนท์ยังพูดไม่ค่อยคล่องและถ้าพูดเป็นประโยคใช้การเลียบแบบพูดตามสิ่งที่ฟังอยู่เลย และเขาไม่เคยใช้คำว่าเตเต้กับไนท์มาก่อน ถ้าแบบนั้นไนทืก็ต้องเรียกเขาว่าพี่เต
ไนท์หันกลับมามองหน้าเขาแล้วนิ่งคิด เหมือนกำลังนึกอะไรสักอย่างอยู่ เขาหยิบที่เป่าฟองอากาศจากมือไนท์มาเป่ารอเวลา
“พี่ทอย พี่ที่ใส่เสื้อกาวสีขาวทำแผลให้ไนท์ พี่ที่เอาไอ้นี่ให้ พี่ที่เอาการ์ตูนให้ดู พี่คนนั้นบอกว่า ถ้าจะเอาอะไรให้เรียกพี่เตว่า
เตเต้ รับรองว่าพี่เตซื้อให้ทุกอย่าง” ไนท์พูดจบก็ดงที่เป่าลูกโป่งออกไปเป่าต่ออย่างไม่สนใจ ทิ้งเตชวัฒนืที่เดินเข้าห้องไปเงียบๆ
‘ไอ้ทอย ไอ้หมอโรคจิตนี่เองที่เป็นตัวการ’เขาได้แต่สาบแช่งเพื่อนหมอในใจที่สอนอะไรแบบนี้ให้เขาแล้วเขาก็ดันใจอ่อนกับอะไรแบบนี้ด้วยสิ มันน่าเจ็บใจจริงๆ
ไอ้เราก็นึกว่าน้องคิดเอง ไหนๆ ปรากฏว่า พี่ทอยคิดให้ซะงั้น
แวปเข้ามาดูตอน ตี สี่ กว่าๆ อ้าว! คุณกาลลงแล้ว กรี๊ดดังๆ และ +1 ให้เป็ดค่ะ
ปล.