มาดูทางฝั่งคุณกายกันบ้างว่าจะรับมือกับแผนร้ายของนายนิคได้ไหม

ตอนนี้รีบมาอัพเท่าที่ทำได้แล้วค่ะ

ใจร่มๆ รอคนเขียนขัดเกลานิดนุง

ขอบคุณคนอ่านมากๆค่ะ ถ้าไม่มีใครอ่านใครเม้นกำลังใจก็คงหดหาย

สุดท้ายนี้ ขอให้อ่านนิยายอย่างมีความสุขนะคะ

------------------------------------
Chapter: 30 แผนยั่ว(2) ผมไปทำงานด้วยอารมณ์หงุดหงิดขุ่นมัว ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะว่าเมื่อเช้านิคทำผมขัดใจเป็นอย่างมาก แต่ผมก็ไม่รู้จะทำไง ในเมื่อเขาหยุดเพราะกลัวผมเสียงาน จะให้ผมพูดอะไรออกไปได้ล่ะ
ถึงผมจะไม่แน่ใจก็เถอะ แต่ผมว่าเขาดูแปลกไปจากปกติ ทั้งที่จริงๆแล้วคนอย่างเขาไม่น่าจะยอมปล่อยมือจากผมจนกว่าเขาจะได้ในสิ่งที่ต้องการแท้ๆ ซึ่งเมื่อเช้านี้สิ่งที่เขาทำมันดูต่างไปจากเดิมจากที่เคยเป็น... หรืออาจเป็นเพราะเขาแคร์ผมมากขึ้นและไตร่ตรองเหตุผลมากกว่าเดิม? หรือจะเป็นเพราะเมื่อวานผมไปหาว่าเขาหมกมุ่น!
ผมชักเริ่มสับสนในตัวเขาเสียแล้วสิ…
เฮ้อ... อย่าเพิ่งคิดอะไรให้สับสนวุ่นวายในตอนนี้จะดีกว่า อีกไม่กี่นาทีการประชุมบอร์ดบริหารก็จะเริ่มแล้ว ขืนผมไม่มีสมาธิรับฟังการประชุม จะเสียงานเสียการและเสียเวลาไปเปล่าๆ
…
วันนี้กว่าผมจะได้ออกจากบริษัทก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว เมื่อช่วงหัวค่ำผมได้โทรไปบอกนิคแล้วว่าไม่ต้องรอผมกลับมาทานข้าวด้วยกัน แม้ว่าตอนแรกเขาทำท่าจะไม่ยอม แต่ในที่สุดก็ต้องยอมผม เพราะความจริงแล้วเจ้าตัวเองก็คงจะหิวอยู่ไม่น้อยเลย อาการที่แสดงถึงความห่วงใยในตัวผมมากกว่าห่วงตัวเองของเขา ทำให้ผมอดที่จะยิ้มในขณะทำงานไม่ได้
ตั้งแต่กลับมาจากการเที่ยวพักร้อนที่ภูเก็ต เวลาผมจะออกไปไหนมาไหนก็ต้องขับรถไปเองไม่ก็คอยบอกทางให้นายนิคขับให้แต่มันก็ไม่ค่อยหน้าไว้วางใจนักกับการไม่ค่อยชินถนนหนทางของเขา ทำให้ส่วนใหญ่จะเป็นผมมากกว่าที่เป็นคนขับ
พูดแล้วก็นึกถึงเรโอ คนที่ทำให้ผมเสียนิสัยจนถึงทุกวันนี้ ตอนมันอยู่คอยดูแลเทียวรับเทียวส่งผมก็เฉยๆนะ เห็นเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ แต่พอมันไม่อยู่นี่สิ เห็นถึงความสำคัญที่มันคอยเจ้ากี้เจ้าการผมขึ้นมาในทันที ว่าที่ผ่านมามันเอาใจใส่ผมมากจนบางครั้งก็นึกรำคาญ แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นผมที่เอาแต่พึ่งพามันจนเคยตัว...
ผมขับรถมาถึงคอนโดก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ดึกขนาดนี้...ไม่รู้ว่านายนั่นจะหลับไปหรือยัง?
เมื่อไขประตูเข้ามาในห้องก็พบว่าไฟในห้องดับหมดแล้ว เห็นแค่เพียงแสงสลัวๆที่ส่องออกมาจากในห้องนอนเท่านั้น ผมคลายเนคไทออกแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนทันที
ผู้ชายตัวโตนอนหลับสนิทบนเตียงนอนของผม ทำให้ผมยิ้มออกมา
‘คงจะรอไม่ไหวล่ะสิ...’
ผมคิด แล้วถอดเสื้อผ้าออกเตรียมตัวอาบน้ำ ได้ยินเสียงเตียงขยับ ก่อนที่คนที่คิดว่าหลับอยู่จะพูดกับผมด้วยเสียงงัวเงีย ทำเอาผมที่เพิ่งจะแก้ผ้าออกจนหมดสะดุ้งเฮือก!
“กลับมาแล้วเหรอครับ...? มานี่สิ...” ขอหาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวกันอุจาดก่อนได้ไหม แล้วค่อยไปหา ถึงผมจะคบกับเขาอยู่ แต่ก็ยังอายอยู่ดี มันไม่ได้ชินกันง่ายๆหรอกนะ
“มีอะไร ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว” ผมคว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่ง ไม่กล้าหันไปมองเขา เพราะรับรู้ถึงสายตาของเขาที่กำลังจดจ้องผมอย่างไม่วางตา
“มาให้ผมกอดหน่อยสิครับคนดี กว่าคุณจะกลับมาก็ดึก ปล่อยให้คนรอคิดถึงจะแย่…” น้ำเสียงตัดพ้อแต่ทว่าอ่อนโยน ทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวใจอ่อนยวบลง จนต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเขาที่ข้างเตียง
แขนแกร่งคว้าเอวผมดึงลงให้ล้มลงบนตัวเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว หนุ่มฝรั่งนอนกอดผมไว้นิ่ง แต่ความนิ่งของเขากลับทำให้หัวใจผมเต้นรัว เพราะไม่คิดว่าภายใต้ผ้าห่มหนาที่ก่อนหน้านี้ปิดคลุมตัวเขาไว้ กลับไม่มีอะไรติดกายเขาเลยสักชิ้นเมื่อผ้าห่มเลื่อนออกไปจากร่าง
“คิดถึงจังเลยครับ...” มือร้อนผ่าวลูบไล้แผ่นหลังเปล่าเปลือยของผมแผ่วเบา ไม่มีอารมณ์ความต้องการแฝงอยู่ในน้ำเสียงแต่อย่างใด แต่เหมือนกับว่าที่เขาลูบหลังผมนั้น เพื่อจะให้ผมรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า
แต่...มันไม่เป็นอย่างนั้นน่ะสินิค! ผมไม่ได้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเลยแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นกับตัวผมมากกว่า
ฮือ... อยากจะร้องไห้ เพราะตอนนี้กลางลำตัวของผมกำลังค่อยๆตื่นขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ทั้งๆที่ไม่ได้ถูกเขาเล้าโลมเหมือนในทุกๆครั้ง แต่มันกลับตื่นตัวขึ้นง่ายๆ อย่างที่ตัวผมเองก็ยังตกใจ
หรือว่ามันเป็นอาการเก็บกดตั้งแต่เมื่อเช้า?
ยังไงก็ช่างเถอะ เพราะตอนนี้ผมอายมากๆ เขาต้องรู้แล้วแน่ๆเลยว่าผมเกิดอารมณ์ เขากอดผมนิ่งๆไม่ได้ทำอะไรผมแท้ๆ แต่ผมกลับตื่นเต้นจนใจสั่นเมื่อฝังหน้าอยู่กับหน้าอกแน่นๆของหนุ่มฝรั่ง กล้ามท้องที่แนบกับลำตัวผมทำให้รู้ถึงความแข็งแรงอย่างผู้ชาย นี่ผมกำลังเป็นบ้าใช่ไหม? ผมกำลังเบี่ยงเบนจนเต็มตัวแล้วใช่ไหมถึงได้เกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมา!
ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าที่ร่วมรักกับเขาในทุกครั้ง เป็นเพราะเขาปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการทางเพศตามธรรมชาติของผมขึ้นมา และไม่ว่าใครเมื่อถูกกระตุ้นเล้าโลมก็ต้องเกิดอารมณ์ร่วมตามเป็นธรรมดา...
แต่ตอนนี้ผมคงต้องคิดใหม่เสียแล้ว เพราะเขาไม่ได้ปลุกเร้าอะไรผมเลยด้วยซ้ำ!
แค่ได้รู้ว่าเขากอดผมทั้งๆที่เปลือยเปล่าแบบนี้ ก็ทำให้ผมใจสั่น อารมณ์เตลิดกับร่างกายสัดส่วนของผู้ชาย สิ่งที่เกิดขึ้นผมไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดกับผมได้
ผมชอบผู้ชาย... ไม่จริงน่า...
“อยากเหรอครับ?” ผมสะดุ้ง คำพูดน่าอายหลุดออกมาจากปากเขาง่ายๆจนทำให้ผมเขินแทน หนุ่มฝรั่งคงรู้สึกได้ถึงสิ่งแข็งขืนนั้นที่ผ้าเช็ดตัวก็คงกั้นไว้ไม่อยู่
ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขาเลย เพราะใบหน้าผมตอนนี้มันร้อนจนแทบไหม้แล้ว!
“ว่าไงครับ...” เขาถามย้ำ
“...”
ผมพูดอะไรไม่ออก และไม่รู้จะบอกยังไงดี อยากจะยอมรับตามความจริงแต่ก็ไม่กล้าพูดมันออกมา ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เขาจะคลายอ้อมกอดออกจากตัวผมแล้วดันให้ผมลุกขึ้น
“ผมว่าคุณไปอาบน้ำก่อนดีกว่า กลับมาเหนื่อยๆแบบนี้”
“เอ่อ... เอ่อ..” ผมพูดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้ อยากจะแย้งเขาอยู่หรอกนะ แต่ก็อายตัวเองยังไงไม่รู้ แต่เขานี่สิ! ยังนอนยิ้มให้ผมเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมกลับมายืนข้างเตียงอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ ทุกทีเขาจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนโดยที่ไม่เคยถามความเห็นของผม แต่มาวันนี้เขากลับปล่อยผมไปเฉยๆ เหมือนเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับร่างกายของผมเลย...
นี่มันอะไรกัน... ผมกำลังคาดหวังให้เขาอยากมีอะไรกับผมงั้นเหรอ...?
เมื่อวานผมเพิ่งจะหาว่าเขาหมกมุ่นในเรื่องเซ็กซ์แท้ๆ แต่วันนี้กลับเป็นผมซะเองที่กำลังทำตัวหมกมุ่น! ชักจะไปกันใหญ่แล้วตัวผม...
“วันนี้อยู่บ้านคนเดียว ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเอาผ้าม่านมาซักแล้วก็ปัดกวาดเช็ดถู ค่าเวลาระหว่างรอคุณกลับ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ไม่อยากจะเชื่อเลยนะครับ ว่างานบ้านจะทำให้เหนื่อยได้ขนาดนี้ ” หนุ่มฝรั่งพูดกับผมด้วยท่าทีปกติ จนผมที่ยืนอยู่กับที่รู้สึกแปลกๆ ได้แต่ถามตัวเองว่าจะยืนรีรออะไรอยู่ต่อไป ผมอยากให้อะไรมันเกิดขึ้นนักเหรอ?
ความคิดของผมหยุดอยู่แค่นั้นจนนึกหงุดหงิดตัวเองขึ้นมา ผมไม่ได้ตอบรับหรือรับฟังสิ่งที่เขาพูดคุยเลย หันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่ใส่ใจคนที่กำลังยิ้มข้าง โดยไม่รับรู้ว่าคนข้างหลังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ในท่าทีของผม
อาบน้ำเสร็จออกมาก็พบว่าหนุ่มฝรั่งหลับไปอีกแล้ว แถมยังไม่ยอมห่มผ้าห่มผ่อนปกปิดร่างกายอีก ฮึ่ม! นอนอ้าซ่าให้ผมทุเรศลูกตาอยู่นั่นแหละ!
ผมเดินไปหยุดยืนมองคนหลับอยู่ข้างเตียง แล้วอะไรดลใจให้ผมโน้มหน้าลงไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากเขาไม่รู้ แต่ผมก็ทำไปแล้ว... ผมผละออกมายืนหน้าแดง นี่ผมลักจูบคนหลับเหรอเนี่ย!? ถ้าเขาตื่นอยู่ผมคงไม่ทำอะไรแบบนี้ก่อนแน่ๆเชื่อสิ!
ส่ายศีรษะให้กับความบ้าของตัวเองแล้วเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มมาเพื่อจะห่มให้คนที่นอนอยู่ แต่ผมก็ต้องชะงักการกระทำค้างไว้ เพราะสิ่งที่กำลังค่อยๆเติบโตนั่น!
ผมจ้องมองสิ่งนั้นหน้าร้อนผะผ่าว ก่อนจะละสายตาไปมองหน้าเจ้าของร่างกายนี้อีกครั้ง ใบหน้าหล่อเข้มยังคงนอนหลับตาพริ้มอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ เห็นอย่างนี้แล้วก็ทำให้ผมเกิดอารมณ์หมั่นไส้ขึ้นมาทันที!
‘หนอยยย! หลับสบายเชียวนะ ปล่อยให้ฉันปั่นป่วนอยู่ได้คนเดียว น่าเจ็บใจนัก’
ตาผมจ้องมองไปที่แกนกลางลำตัวของหนุ่มฝรั่งอีกครั้ง มองอยู่อย่างนั้นจนกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกโดยไม่รู้ตัว แล้วความคิดบางอย่างก็วาบขึ้นในสมองของผม!
ปล่อยให้ผมปั่นป่วนทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ แล้วยังมานอนหลับได้อย่างหน้าตาเฉยแบบนี้อีก เขาทำแบบนี้แล้วคืนนี้ผมจะหลับตาลงได้อย่างไร
ผมไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอีกต่อไปแล้ว! แม้กระทั่งหน้าตัวเองก็ไม่คิดจะสนอีกต่อไป! ในเมื่อวันนี้ไม่จบไม่สิ้นเสียที ผมคงต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว...
บางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกถึงอารมณ์ของผมตอนนี้ บางอย่างที่เขาต้องรับผิดชอบ และรับรู้ด้วยกันกับผม!
คิดได้ดังนั้น มือผมก็ปัดผ้าห่มผืนหนาออกจากเตียงทันที!
ลงมือคว้าสิ่งที่กำลังชี้หน้าท้าทายผมไว้เป็นตัวประกัน ก่อนจะนิ่งอย่างใช้ความคิด ว่าจะจัดการมันอย่างไรดี
“อื้อ...” เสียงครางในลำคอของเขา ทำให้ผมต้องละสายตามามองหน้าเขาก่อน
นัยน์ตาคู่สวยสีมรกตปรือขึ้นมองผมเหมือนจะงุนงงในการกระทำของผม
“...คิดจะลักหลับผมเหรอครับ” ผมหน้าร้อนฉ่ากับคำถามแรกของเขาหลังจากตื่นขึ้นมา แล้วรีบปล่อยมือจากตัวประกันทันที เหมือนกับคนถูกจับได้เมื่อแอบทำความผิดอย่างไรอย่างนั้น ความคิดที่อยากจะเอาคืนเขาถูกความอายกลบกลืนจนมิด!
ชายหนุ่มจ้องมองผมนิ่ง โดยที่ผมไม่กล้าสบตากับเขา ก่อนจะพูดคำพูดที่ทำให้ผมหน้าชาและอยากจะร้องไห้ ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
“แต่ตอนนี้ผมง่วงมาก ไว้คราวหลังนะครับ มันดึกแล้วขอผมนอนเถอะ...” พูดจบก็นอนตะแคงหันหลังให้ผมเสียอย่างนั้น
ผมตัวชานิ่งอึ้งไปหลายวินาที ก่อนที่สติของผมจะคาดผึ่งอย่างยับยั้งไว้ไม่อยู่!
“ไม่!! ฉันไม่ให้นอน จนกว่าเราจะพูดกันให้รู้เรื่อง!” ผมกระชากแขนเขาให้หันกลับมาเผชิญหน้า
“ก็ผมบอกแล้ว...!”
น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความน้อยใจเมื่อเห็นหน้าเขาที่เจือแววหงุดหงิด คำพูดที่เขากำลังจะบอกผมถูกกลืนหายไปในลำคอ ด้วยความตกใจที่เห็นผมร้องไห้
“...ผมขอโทษ อย่าร้องนะครับคนดี ผมขอโทษๆ ผมผิดไปแล้ว...” แขนแกร่งดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น คำพูดปลอบโยนบอกกับผมซ้ำไปซ้ำมา
“นายไม่รักฉันแล้วเหรอ...” ผมถามเสียงเครือ ทวงถามคำที่ผมไม่เคยให้เขา แต่ผมกลับเป็นฝ่ายที่ต้องการมันมากกว่าอะไร
“รักสิครับ” คำตอบที่บอกผมอย่างไม่ต้องหยุดคิด ทำให้ความน้อยใจของผมหายไปได้อย่างน่าประหลาด
“ละ...แล้วทำไมวันนี้นายถึงทำเฉยเมยกับฉันล่ะ เบื่อกันแล้วเหรอ... ”
“ชู่ร์... ไม่เอาไม่พูดคำนั้นอีกนะครับ” หนุ่มฝรั่งยื่นนิ้วมาปิดปากผมไว้เบาๆ
“ผมไม่เคยมีความคิดอย่างนั้นสักวินาที และผมก็ไม่ได้ทำเฉยเมยกับคุณนะ ผมถามคุณแล้วนะก่อนคุณไปอาบน้ำแต่คุณก็ไม่พูดอะไรออกมา”
“ผมอยากจะฟังคุณให้มากกว่านี้ ผมไม่อยากจะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่เป็นการบังคับคุณรึเปล่า ในเมื่อคุณไม่พูดออกมาแล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณต้องการอะไรจากผม สิ่งที่คุณต้องการจากผมอย่างแท้จริงคืออะไร? เรียกร้องบ้างสิครับ...” สายตาจริงจังแต่น้ำเสียงเว้าวอน ทำให้ผมต้องนิ่งคิดกับตัวเองถึงคำพูดของเขา
จริงสินะ... ผมมัวแต่คิดมากคิดจนวุ่นวาย จนลืมสิ่งที่แท้จริงไป ลืมความต้องการแรกไป โดยเอาความคิดต่างๆนานๆมาขยายมันเพื่อหักลับเหตุผลที่แท้จริงไป ผมปฏิเสธความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง โดยคิดแต่ว่าสิ่งที่ผมต้องการมันเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะยอมรับ ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าผมจะเรียกร้องจากคนที่ผมไว้วางใจให้อยู่เคียงข้างแบบนี้
“เราแชร์หัวใจกันแล้วนะครับ ถ้าไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์ แล้วเราสองคนจะมีความสุขกันได้อย่างไร”
คำพูดของเขาสะท้อนไปมาในหัวผม และชี้ทางสว่างให้ผมได้เป็นอย่างดี
อีกครั้งแล้วสินะ... กับคนๆนี้... ที่ทำให้มุมมองความรักของผมเปลี่ยนแปลง...
-------------------------------------
