†ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: †ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day  (อ่าน 522746 ครั้ง)

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:
พี่นิคน่ารักกกกกจริง ๆๆๆ.... คราวนี้กายคงจะเห็นใจบ้างล่ะนะ...
ดัดนิสัยกายบ้างงงง...มะค่อยใส่ใจสุขภาพตัวเองงงง ดื้อมากกกก
พยายามต่อไปพี่นิค.....สู้สู้.....เอาใจช่วยสุดใจ... :m4:

satan666

  • บุคคลทั่วไป


ถึงตอนที่10แล่ว ที่มีในสต๊อกใกล้จะหมดลงทุกที  :m29:

ตอนล่าสุด ตอน15 ยังเขียนมะจบเลย  :m23:

มาต่อกันดีฟ่า ขอบคุณทุกคนที่ติดตามน๊า


==========================================================================



Chapter 10 เปลี่ยนมุมมอง

   ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงพูดคุยของคนที่อยู่ในห้อง อาการปวดหัวบรรเทาลงไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงมึนๆอยู่ ผมกระพริบตาถี่ๆขับไล่ความอ่อนเพลียไป เพ่งมองแผ่นหลังของคนๆหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเตียง เขากำลังพูดคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก

   “ครับคุณน้า คือแฟนผมเขาเป็นโรคความดันต่ำน่ะฮะ แล้วตอนนี้ก็ไม่สบายอยู่ด้วย”  ผมขมวดคิ้วมุ่นทันที เมื่อได้ยินถ้อยคำที่เขาพูด เหมือนกับว่าคนที่เขาพูดถึงอยู่นั้นหมายถึงผมอย่างไรอย่างนั้น

   “ครับ ผมอยากรู้เรื่องวิธีการดูแลน่ะครับ พวกเรื่องอาหารการกิน อะไรแบบนี้น่ะครับ” ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้ตัว ว่าผมกำลังมองเขาอยู่ หัวข้อสนทนากับบุคคลทางปลายสายทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด อะไรของหมอนี่กัน จะมาวุ่นวายอะไรกับชีวิตของผมอีก ผมจะเป็นอะไรก็ช่างผมสิ ทำไมจะต้องมาคอยก่อกวนสร้างความรำคาญให้แก่ผมแบบนี้ด้วย

   “อ่ะ เดี๋ยวนะครับ ขอผมหาปากกากับกระดาษก่อน” เขาหันมาหาของในลิ้นชักหัวเตียง ผมรีบหลับตาลงแสร้งทำเป็นหลับตามเดิม รู้สึกได้ถึงเตียงที่ยุบยวบลง และสัมผัสจากมือเขาที่วนเวียนอยู่ข้างแก้ม มันทำให้ผมต้องนอนตัวเกร็ง

   “พร้อมแล้วครับ บอกมาเลยครับ” เขาผละมือออกจากใบหน้าผมแล้ว ผมค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นเขานั่งหันหลังให้กับผม มือขวาจับปากกา มือซ้ายถือโทรศัพท์ ดูเขาจะตั้งอกตั้งใจฟังแล้วจดตามที่คนปลายสายบอกเหลือเกิน 

   “ครับๆ อาหารประเภทโปรตีน... หา! ชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่ะเหรอครับ! อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ ถึงมันจะช่วยได้บ้างก็เถอะ แต่ผมก็ไม่คิดจะสนับสนุนให้ดื่มเท่าไหร่นัก... ”

   หนุ่มฝรั่งพูดกับคนปลายสายอยู่สักพัก ก็วางสายไป หัวข้อสนทนาก็หนีไม่พ้นเรื่องผมอยู่ดีนั่นแหละ แถมยังเรียกหาผมเป็นแฟนได้อยากเต็มปากเต็มคำอีก มันทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้ระคนขุ่นเคืองใจเหลือเกิน

   ทันทีที่เขาวางสายลง เขาก็หันมามองผม เราทั้งคู่สบตากันสักพัก เขาก็ส่งยิ้มชวนขนลุกมาให้ แล้วโน้มหน้าลงมาจะจูบผม แต่ผมรีบเบี่ยงหน้าหลบเสียก่อน แล้วทำหน้าดุใส่หมอนั่น 

   “อรุณสวัสดิ์ครับ! คุณหิวรึเปล่า? ” เขาถามผมเสียงอ่อนเสียงหวานน่าสะอิดสะเอียน ผมทนมองใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่นไม่ไหว รู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ที่ทำให้ผมต้องมาพบเจอกับคนน่ารำคาญเช่นเขา ผมไม่สนใจหมอนั่นอีก พลิกตัวนอนหันหลังให้อย่างไม่แยแสสนใจ

   อยู่ดีๆหมอนั่นก็เอามือมาลูบไล้แผ่นหลังของผม จนผมสะดุ้งเฮือก! “อย่ามายุ่งนะ!!” ผมหันไปตวาดใส่

   “ผิวของคุณเนียนนุ่มดีจังนะครับ ผมชอบมากเลย” หมอนั่นบอกผมด้วยน้ำเสียงเคลิบเคลิ้ม แล้วลูบแผ่นหลังของผมไม่หยุด ทั้งยังไล้ต่ำลงเรื่อยๆอีก จนผมรู้สึกวาบหวิวอย่างบอกไม่ถูก

   “ไอ้เวรนี่!!” ผมลุกพรวดขึ้นนั่งด้วยความโมโห การลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วส่งผลทำให้ผมหน้ามืด ผมยกมือขึ้นกุมขมับ รู้สึกว่าเขากำลังโอบประคองร่างผมไว้อยู่

   “หน้ามืดหรือครับ? ทีหลังอย่าลุกพรวดพราดเร็วๆแบบนี้สิครับ...” น้ำเสียงที่อ่อนโยนของชายหนุ่ม ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

   “มันเรื่องของฉัน” ผมผลักเขาออก เขาจ้องมองผมไม่ได้ตอบโต้อะไร

   “นายเอาเสื้อผ้ามาคืนฉันได้แล้ว ฉันมีงานมีการต้องทำนะ ไม่ได้อยู่ว่างๆ” ผมบอกอย่างหงุดหงิด สายตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้น

   “ไม่ครับ” เขาตอบอย่างรวดเร็ว มองผมอย่างดุๆ “ก็เพราะคุณเอาแต่หักโหมงานเนี่ยแหละ ร่างกายถึงได้เป็นแบบนี้ ทำไมไม่เอาใจใส่ดูแลตัวเองซะบ้าง”

   “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย ฉันจะเป็นอะไรก็ช่างฉันสิ!”

   “คุณนี่มันปากดีจริงๆ” เห็นเขาบ่นพึมพำ แล้วลุกขึ้นยืน ผมมองเขาอย่างแปลกใจ เพราะเขาไม่ได้โต้ตอบอะไรผม แต่กลับนิ่งผิดคาด

   “เดี๋ยวผมจะออกไปหาอะไรมาให้คุณทาน คุณต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”

   “ฉันต้องการเสื้อผ้า!” ผมจ้องหน้าหมอนั่นเขม่ง

   “ขอโทษด้วยนะครับ สิ่งนั้นมันอยู่นอกเหนืออะไรที่ผมจะให้คุณได้” เขาตอบผมยิ้มๆ แล้วก้มลงหอมแก้มผม โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวสักนิด

   “แล้วผมจะรีบกลับมานะครับที่รัก” แล้วหมอนั่นก็จากไป ทิ้งให้ผมโมโหเดือดดาลอยู่คนเดียวในห้องเท่านั้น

   ผมทิ้งตัวลงนอน ยกมือขึ้นก่ายหน้าผากอย่างกลัดกลุ้ม จะทำยังไงผมถึงจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ล่ะ? มันเป็นปัญหาที่แสนยากเย็นสำหรับผมในตอนนี้เหลือเกิน

   สายตาผมเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของโรงแรมบนโต๊ะหัวเตียงเข้า ความคิดบางอย่างแล่นวาบเข้ามาสู่สมอง ใช่แล้ว! นี่คือหนทางรอดนั่นเอง!

   พร้อมกับการด่าทอตัวเองในใจ ที่ตั้งแต่เมื่อวานทำไมไม่ยอมคิดได้ ผมรีบคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมาทันที

   “ฮัลโหล รบกวนคุณช่วยส่งเสื้อผ้ามาให้ผมหนึ่งชุดที่ห้องด้วยครับ” ผมบอกกับทางพนักงานปลายสาย

   [“เอ่อ... เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในบริการของทางโรงแรมเรานะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ”]

   ผมขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบที่ได้รับ “ผมเป็นลูกค้านะครับ คุณมีอาชีพบริการ อาชีพอย่างคุณ ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าสิครับ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง ขอแค่คุณจัดหาสิ่งที่ผมต้องการมาให้ก็พอ” ปลายสายเงียบไปสักพักหนึ่ง ผมได้ยินเสียงคนปรึกษากันดังแว่วมา จึงได้แต่อดทนรอฟังคำตอบเท่านั้น

   [“...เสื้อผ้าบุรุษหนึ่งชุดใช่ไหมคะ? หมายเลขห้องอะไรคะ”]

   “ใช่ครับ เอ่อ...สักครู่นะครับ” ผมรีบตรงไปห้องน้ำ คว้าผ้าขนหนูมาพันรอบกายส่วนล่าง แล้วออกมาเปิดประตูหน้าห้องพักเพื่อดูหมายเลขห้อง โชคดีที่ไม่มีใครเดินอยู่บริเวณทางเดินหน้าห้อง ไม่งั้นเขาคงจะมองผมอย่างประหลาด ที่มีคนนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาชะเง้อมองหมายเลขห้อง

   “ห้อง2704ครับ ขอบคุณสำหรับการให้บริการเป็นอย่างดีนะครับ” ผมยิ้มออกมาอย่างลิงโลดขณะวางหูโทรศัพท์ลงบนแท่นตามเดิม

   ทีนี้ผมก็จะได้หนีออกไปจากที่นี่แล้ว ไม่คิดว่ามันจะง่ายดายปานนี้ แต่ก็ถือว่าผมยังมีโชคอยู่บ้าง หลังจากที่ซวยซ้ำซวยซ้อนมาหลายครั้ง

   ที่เหลือก็คงได้แต่รออย่างเดียวเท่านั้น หวังว่าทางพนักงานโรงแรมจะจัดส่งเสื้อผ้ามาให้ผมก่อนที่หมอนั่นจะกลับมานะ ผมภาวนาอย่างสุดใจขาดดิ้นจริงๆ

   ผมเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระล้างร่างกาย เพื่อเตรียมรอเสื้อผ้าเปลี่ยน พออาบน้ำเสร็จ ผมก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังออกมาจากหน้าประตูห้องพัก จึงรีบนุ่งผ้าเช็ดตัว แล้วออกไปทั้งๆที่ยังไม่ทันได้เช็ดตัวให้แห้ง

   แอ๊ด...!

   ผมเปิดประตูออก ยิ้มกว้างออกมาทันที เมื่อเห็นพนักงานชายยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับถุงเสื้อผ้าใบหนึ่ง แต่เมื่อผมมองข้ามไหล่ชายคนนั้นไป ผมก็ต้องนิ่งอึ่ง ช็อกสนิท!




===========================================================================

ปล. ค้างอ่ะเด้ อิอิ  :laugh:
ปลล. ถ้าคนที่ติดตามอ่าน มารีครบทุกคนอาจมีแถม  :m18:








ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ค้าง  o9  o9  o9  o9 มาต่อไวไว เลย  o9  o9

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
 :o อ่ะใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยย ค้างคาที่สุด

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

นิลวัฒน์

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:
ไม่ค้างหรอกครับ เพราะเดาได้ว่า ไงก็ต้องเป็นพี่นิคแน่นอน
อยากให้พี่นิคกะกายอยู่ด้วยกันนานๆๆๆๆๆ :m3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2007 21:10:16 โดย นิลวัฒน์ »

ออฟไลน์ yoki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • บ้านนิยายมือสอง
กร๊างๆๆๆๆๆๆๆ  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

หยกชอบตอนนี้จังอิอิ :m10: :m10:

มาต่อไวไวน่ะค่ะ :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
กำ มาต่อด่วนครับ
 :serius2: :serius2: :serius2:

สงสัยจะหนีไปไหนไม่รอด
คิกคิก
 :m11:

anTon

  • บุคคลทั่วไป
นิค โคดน่ารักเลยอ่ะคับ :m3:

กายอย่าดื้อสิคับ นิคเค้ารักนายจิงจิงนะ :m18:

คนเขียน ค้างอย่างแรงคับ :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
คิดหนีเหรอจับกดเลย หุหุ  o12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ คุณหมาหยอกไก่

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 877
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-2
 :a5: :a5:

ค้างคาจายสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

satan666

  • บุคคลทั่วไป


มาแถมให้ค่ะ อิอิ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะ

ปล. ได้อ่านต่อแล้วคงจะหายค้างกันได้แล้วเนาะ  :m4:


==========================================================================




แอ๊ด...!

   ผมเปิดประตูออก ยิ้มกว้างออกมาทันที เมื่อเห็นพนักงานชายยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับถุงเสื้อผ้าใบหนึ่ง แต่เมื่อผมมองข้ามไหล่ชายคนนั้นไป ผมก็ต้องนิ่งอึ่ง ช็อกสนิท!

   หนุ่มฝรั่งร่างสูง ที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ข้างหลังพนักงานโรงแรมนั่น... โอ๊ยตายแล้ว... ความโชคดีของผมมีอยู่จำกัดจริงๆ ความปรารถนาอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่เมื่อยื่นมือจะไปคว้า มันกลับตกอยู่ในหุบเหวลึก ช่างเป็นความรู้สึกที่โหดร้ายจริงๆ

   “นี่เสื้อผ้าที่คุณสั่งครับ ส่วนนี่ใบเสร็จรับเงิน เชิญชำระค่าเสื้อผ้า แล้วช่วยเซ็นชื่อยืนยันด้วยครับ” พนักงานหนุ่มบอกกับผม แต่ขณะที่ผมกำลังยื่นมือไปรับถุงเสื้อผ้านั้น หนุ่มฝรั่งเจ้าของเงื้อมมือมารกลับคว้ามันไปเสียก่อนอย่างรวดเร็ว

   เห็นเขาล้วงกระเป๋าตังค์ออกมา ควักเงินให้พนักงานคนนั้นไปสองพันแล้วเซ็นชื่อ จากนั้นก็คว้าแขนผมกระชากเข้าห้องอย่างแรง ตามด้วยเสียงประตูกระแทกกระทั้นปิดลงเสียงดัง

   “เผลอเป็นไม่ได้เลยนะครับ!!” หน้าตาเขาตอนนี้ดุดันน่ากลัวมาก ผมค่อยๆก้าวถอยหลังออกห่างจากเขาอย่างหวาดผวา แต่เขาก็ก้าวกระชั้นชิดตัวผมเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งหลังของผมชนกับผนังด้านหนึ่งของห้อง สิ้นสุดหนทางหนี

   ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมกำลังสั่นอยู่ แต่ผมไม่ได้สั่นเพราะกลัวไอ้บ้านี่หรอกนะ ผมสั่นสู้ต่างหากล่ะ!หรือไม่ก็สั่นเพราะหนาว เพราะตัวผมยังเปียกอยู่เลย

   เขาจ้องมองผมเขม่ง นัยน์ตาสีมรกตนั่นเหมือนกับมีดวงไฟลุกโชนอยู่ภายใน ผมหลุบตาลงไม่กล้าจ้องมองดวงตานั่น เขาเอามือมาสัมผัสใบหน้าผมและผมที่เปียกชื้นของผม

   “นี่คุณอาบน้ำมาเหรอ...” ผมได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ แล้วร่างผมก็ถูกเขาพาไปที่เตียงนอน เขาเดินเอาของที่ซื้อมาไปวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินกลับมาหาผม ที่ยืนทำหน้างงอยู่ข้างเตียง แล้วจู่ๆหมอนั่นก็กระชากผ้าเช็ดตัวออกจากร่างผม!!

   “เฮ้ย!!” ผมรีบเอามือปกปิดของสงวนของผมไว้ทันที ขณะกำลังจะอ้าปากด่ามัน หมอนั่นก็เอาผ้าขนหนูนั่นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ผม ทำให้คำด่าที่เตรียมพรั่งพรูออกมากลืนหายเข้าไปในลำคอของผม

   ผมมองการกระทำของหมอนั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก ความจริงผมอยากจะต่อว่าเขาให้สาแก่ใจ  แต่ตอนนี้ผมกลับด่าเขาไม่ลง ไม่รู้ว่าทำไม ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย

   “คุณไม่สบายอยู่นะครับ อาบน้ำแบบนี้ ถ้าเกิดไข้กลับขึ้นมาจะทำยังไง” เขาพร่ำบ่นใส่ผมขณะเช็ดตัวให้

   เมื่อเขาพยายามจะดึงมือผมออกจากส่วนนั้น ผมก็รีบเบี่ยงตัวหลบ หันหลังให้เขาทันที  “อย่ามายุ่ง!!”

   “ผมแค่จะเช็ดให้เท่านั้นแหละ” เขาหัวเราะในลำคอ แล้วโอบกอดผมไว้จากข้างหลัง

   “มันจะมากไปแล้วนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้!!” ผมพยายามดิ้นหนี แต่เขากลับเพิ่มแรงกอดรัดผมแน่นยิ่งขึ้น

   ตอนนี้ผมรู้สึกย่ำแย่มาก การที่ต้องมาเปลือยเปล่าต่อหน้าคนอื่น โดยเฉพาะกับหมอนี่ เป็นอะไรที่อันตรายสำหรับตัวผมมาก เพราะฉะนั้นถึงเมื่อวานเขาจะรับปากกับผมว่าจะไม่ทำอะไรผม แต่ผมก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดี 

   “คุณยิ่งดิ้น ผมยิ่งมีอารมณ์นะ” เขากระซิบข้างหูผมเบาๆ

   ผมหยุดดิ้นทันที ให้ตายเหอะ! คำขู่ของมัน...

   ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ทำไมผมจะต้องมาอยู่กับหมอนี่ ในสภาพแบบนี้ด้วยนะ อยากจะบ้าตายจริงๆ ช่างเวลาที่ย่ำแย่แบบนี้มันจะดำเนินไปอีกนานแค่ไหนกันนี่

   “นายปล่อยฉันไปเถอะนะ ขอร้องล่ะ” ผมร้องขอ นี่ผมยอมพูดดีๆกับเขาแล้วนะ ผมยอมฝืนตัวเองสุดๆ

   “ผมจะปล่อยคุณไปเมื่อคุณหายดีแล้ว” เขาบอกพลางซุกไซร้ซอกคอผม เส้นเลือดบริเวณขมับผมกระตุกด้วยความฉุนเฉียว เกลียดนักกับการกระทำที่ฉวยโอกาสของหมอนี่

   สมองคิดทบทวนหาสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยง ไม่ให้เขาถึงเนื้อถึงตัวผมแบบที่เขากำลังทำกับผมอยู่ตอนนี้ ผมไม่อยากทนอยู่เป็นเบี้ยล่างให้เขารังแก ผมไม่อยากตกอยู่ในความเสียเปรียบ โดยที่ผมไม่ได้รับอะไรกลับมาเลย

   และผมก็คิดได้ ในเมื่อเขาบอกว่ารักผมนัก ผมก็จะใช้ความรู้สึกของเขานี่ล่ะ เป็นตัวช่วยของผม ใช้ประโยชน์จากมันให้ดี ในเมื่อผมเป็นนักธุรกิจ ผมก็ต้องขบคิดเสียบ้าง เพื่อไม่ให้ผมเสียเปรียบ

   ผมลอบยิ้มออกมาอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะยื่นคำขาดต่อเขา ตามที่ได้คิดไว้

   “ถ้านายไม่หยุดลวนลามฉัน ฉันจะไม่เปิดปากพูดกับนายอีก”   
         


                                            ----------------------------------------------------------------------









ออฟไลน์ JaHkoNY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 368
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เอาแล้วไง เริ่มเกิดสงครามเย็นขึ้นแล้ว แง่ว~

กำลังชอบใจอยู่เลยที่นิคได้เปรียบ ไพ่กำลังจะเปลี่ยนมาอยู่ในมือกายแล้วหรือนี่ เฮ้อ ไม่มันส์เลย (อ้าว) 555

ชอบๆ แต่เมื่อไหร่กายจะยอมใจอ่อนลงซะที นิดนึงก็ยังดี ตอนที่สิยละน้า ใจยังแข็งเหมือนเดิม

นิคสู้ๆ ฮ่า ๆ ไม่มีใครอยู่ข้างกายเลยได้ข่าว อิอิ

จุ๊บๆนะคะ  :m1:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ไม่เปิดปากพูดก็จับข่มขืนเลย
เด่วก็ต้องร้อง
โอ้ยๆเสียว
 :m20: :m20: :m20:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

นู๋บอย

  • บุคคลทั่วไป

My name M

  • บุคคลทั่วไป
 :a3:..อีกนานมั้ยอ่ะครับ กว่าอีกฝ่ายจะมีใจให้...ลุ้นมากเลยครับบบบบ...เปงกังลังจัยให้น่ะครับ... :m23:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แบบนี้เมื่อไหร่................จะรักกันล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม ชอบมาตลอดอ่าครับ

อ่านแล้วสนุกดีครับผม ชอบๆๆ

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมครับ

 :impress: :impress: :impress:


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ไม่เปิดปากพูดก็จับข่มขืนเลย
เด่วก็ต้องร้อง
โอ้ยๆเสียว
 :m20: :m20: :m20:

สมกับตำแหน่งเป็ดหื่นจริง ๆ คร้าบ  :m20:  :m20: คราวนี้จะหาว่าบล็อคโหวตไม่ได้แล้วน้า   :m14:  :m14:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ไม่เปิดปากพูดก็จับข่มขืนเลย
เด่วก็ต้องร้อง
โอ้ยๆเสียว
 :m20: :m20: :m20:

ไม่เสียแรงที่โหวตให้  :a1: 

เชียร์นิคเหมือนเดิมจ้า... :a2:

ออฟไลน์ คุณหมาหยอกไก่

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 877
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-2
 :m18: :m18:

เฮ้ออออออออ  อิจฉาจิงๆ

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
หวัดดีค่ะ เพิ่งมาอ่าน ยังตามหน้าไม่ทัน แต่อยากเมนต์ อิอิ เพิ่งต้วมเตี้ยมถึงฉากกายเอาปืนจ่อยิงนิคที่หน้า 3 เอง :m23: สนุกดีค่ะ นายกายไฮโซ๊ ไฮโซ  :try2:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ  <<< น่ารักเหมือนเดิมนะครับบบบบ คุณ Ken  :m12:

ช่างคิดสมกับเป็นนักธุรกิจจริง ๆๆๆๆๆ นายกายยย   :m5:
หนักใจแทนพี่นิค....รักกายน่ะแหละถึงเข้าข้างพี่นิคคคคค  :m1:
เอาใจช่วยกันต่อไปครับบบบบ....

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
ตามทันแล้วววว  :m19: กายใจแข็งน่าดู คนแต่งไม่สงสารนิคตัวน้อยๆบ้างเหรอคะ  :impress:

satan666

  • บุคคลทั่วไป

มาแล้วค่ะ วันนี้ยาวหน่อยละกัน ชดเชยเมื่อวานด้วย :m9:



=========================================================================



       ผมชะงักการกระทำของตนทันที เมื่อได้ยินคำพูดน้ำเสียงเยียบเย็นของเขา รู้สึกอึ้งนิดหน่อยที่อยู่ๆเขาก็พูดออกมาแบบนี้ ดูเขาจะโกรธที่ผมมาทำยุ่มย่ามกับเขา ผมจึงต้องอดใจเอาไว้ แล้วค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากตัวเขา

   ตอนแรกที่กลับมา แล้วเห็นอย่างจะๆว่าเขากำลังจะคิดหนี ผมรู้สึกโมโหมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อไปจากผมให้ได้แบบนี้ ตอนแรกกะจะลงโทษเขาให้หลาบจำ จะได้ไม่คิดหนีอีก แต่เมื่อผมสังเกตเห็นร่างกายที่กำลังสั่นเทาของเขา หยดน้ำที่เกาะพราวทั่วร่าง และผมที่เปียกชื้น ความโมโหเดือดดาลก็ค่อยๆลดลงทันที เปลี่ยนเป็นความห่วงใยแทน

   คนป่วยคนนี้ไม่ใช่คนป่วยที่ธรรมดาเลย ชอบหาเรื่องอยู่ตลอด ทั้งดื้อรั้นถือทิฐิเป็นที่สุด แล้วแบบนี้จะหายดีโดยเร็วได้อย่างไร ผมล่ะหนักใจจริงๆ

   ผมมองด้านหลังเขาพลางส่ายศีรษะไปมา แล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มบนเตียงมาห่มคลุมร่างที่หนาวสั่นให้เขา หมุนร่างเขาให้หันหน้ามาทางผม

   “ดูสิเนี่ย... ปากคุณซีดหมดเลย” ผมบ่นขณะไล้นิ้วมือไปมาที่ริมฝีปากซีดๆของเขา แล้วโน้มหน้าเข้าหา หวังจะจูบปากของเขาเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ แต่เมื่อสายตาผมสบกับสายตาเชือดเฉือนอาฆาตของเขา ผมก็ชะงักการกระทำนั้นทันที

   ให้ตายสิ ผมรู้สึกขัดใจชะมัด แต่ผมก็หวั่น ว่าถ้าผมทำไปตามแต่ใจตน เขาจะไม่พูดกับผมอย่างที่ปากว่าจริงๆ

   ผมผละออกจากตัวเขา เดินไปแกะถุงน้ำเต้าหู้ที่เพิ่งซื้อมาใส่แก้ว แล้วยกมาให้เขาดื่ม

   “น้ำเต้าหู้อุ่นๆครับ คุณน้าของผมบอกว่า คนที่ความดันเลือดต่ำควรทานอาหารประเภทโปรตีน น้ำเต้าหู้นี่ก็มีโปรตีนจากถั่วเหลือง ดื่มเยอะๆดีต่อสุขภาพนะครับ ” ผมบอกไปยิ้มไป เห็นเขามองหน้าผมสลับกับมองแก้วน้ำเต้าหู้ไปมา แล้วทำหน้าเซ็งๆ

   เขารับแก้วมาดื่มอย่างว่าง่าย ไม่ได้เกี่ยงอย่างที่คิดไว้ ผมคิดว่าเขาคงจะหิว หรือไม่ก็คงชอบดื่มน้ำเต้าหู้ ผมก็ได้แต่เดาไป ตามองคุณกายค่อยๆดื่มน้ำเต้าหู้ในแก้วจนหมด อย่างสุขใจเล็กๆ

   “ผมซื้อโจ๊กมาให้คุณทานด้วย โจ๊กหมูใส่ไข่น่ะครับ คุณจะทานเลยไหมครับ? ” เห็นเขาพยักหน้าเบาๆ ในใจผมรู้สึกยินดีจนตัวลอย ต้องอย่างนี้สิถึงจะน่ารัก! แต่ผมก็ไม่กล้าบอกเขาไปตรงๆหรอก

   “งั้นเดี๋ยวผมป้อนให้นะครับ” ผมหันไปเทโจ๊กใส่ชาม

   “ไม่ต้อง ฉันไม่ได้เป็นง่อย” เขาสวนกลับมาแทบจะในทันที  แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ ดันเขาให้นั่งลงบนเตียง แล้วผมก็ยกชามโจ๊กมานั่งลงข้างๆเขา

   “ก็ผมอยากป้อนให้นี่ครับ ไหนเมื่อคืนคุณสัญญากับผมแล้วไง ว่าจะไม่ดื้อกับผมอีก” เขาทำหน้าง้ำทันที เมื่อผมทวงสัญญา

   “สัญญาบ้าบอ ไม่เห็นจะยุติธรรม...” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ แต่ก็ยอมให้ผมป้อนแต่โดยดี

   เขาพูดถูก เรื่องสัญญานั่นผมมีแต่ได้กับได้ เพราะผมทบทวนมาดีแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำตามสัญญาหรือไม่ ผมก็เป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ดี การดีดลูกคิดรางแก้วครั้งนี้ กำไรอยู่ที่ผมเห็นๆ

   เมื่อทานข้าวเสร็จผมก็เอายาให้เขากิน ผมรู้สึกได้ถึงสายตาของเขา ที่จับจ้องมองมาที่ผม ขณะที่ผมกำลังจัดการกับถ้วยชามและถุงขยะอยู่ ไม่รู้ว่าเขามองผมทำไม

   ผมได้แต่หวังว่าที่เขามองผม นั่นอาจเป็นเพราะเขาเริ่มมีใจให้ผมแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ ผมก็ดีใจสุดๆเลย ที่ความพยายามของผมเริ่มเห็นผลบ้างแล้ว

   แต่ถึงมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงยังไงเขาก็ยังเห็นผมอยู่ในสายตาบ้างแล้ว

   ผมหันไปมองสบตาเขา เขารีบหลบตาผมอย่างรวดเร็ว แล้วขยับตัวลงนอนแสร้งทำเป็นไม่สนใจผม การกระทำนั่นทำให้ผมยิ้มขำ ผมเห็นว่ามันตลกดี

   “จะนอนแล้วเหรอครับ คุณยังปวดหัวอยู่รึเปล่า?”

   เขาสั่นหัวเบาๆ ใบหน้าข้างหนึ่งฝังลงกับหมอน พริ้มตาหลับลง คงเป็นเพราะฤทธิ์ยากระมัง จึงทำให้เขารู้สึกง่วง

   ผ้าห่มที่ห่มคลุมร่างเขาเลื่อนลงมาถึงอก เผยให้เห็นยอดอกสีชมพูทั้งสองข้าง ซึ่งถูกสรรสร้างอย่างสวยงามอยู่บนแผ่นอกขาวเนียน ที่สะท้อนขึ้นลงเบาๆตามจังหวะการหายใจ

   ผมมองภาพอันยั่วยวนนั่น พลางกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคือง ข่มใจแล้วเดินเข้าไปจัดแจงผ้าห่มให้ปิดคลุมถึงหัวไหล่ของเขา

   ความจริงผมอยากจะเข้าไปปลุกปล้ำเขา แล้วทำให้ร่างกายเขาตกเป็นของผมทั้งวันทั้งคืน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ร่างกายผมโหยหาแต่เขา ต้องการสัมผัสเขาแล้วฝังตัวลึกเข้าไปในความสุขที่ร้อนระอุ ซึ่งไม่ได้สัมผัสมานาน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเจอเขา และไม่มีวันลืมเลือน

   แต่ตอนนี้ผมต้องระงับยับยั้งใจเอาไว้ก่อน เพื่อซื้อใจเขา ผมไม่อยากให้เขาเกลียดผม ไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีต่อตัวผม

   ผมก้มลงหอมแก้มคุณกายฟอดใหญ่ให้ชื่นใจ มีแต่ตอนนี้เท่านั้นแหละ ที่ผมจะฉกฉวยโอกาสได้ตามใจ

   ถึงเวลาสำหรับปากท้องของผมบ้างแล้ว ผมแกะห่อข้าวมันไก่ที่ซื้อมา แล้วสวาปามอย่างเอร็ดอร่อย สำหรับคนตัวโตๆอย่างผม ต้องข้าวมันไก่สองห่อถึงจะอยู่ท้อง ผมชอบอาหารแบบนี้จัง สะดวกแล้วก็ราคาไม่แพง แถมยังมีประโยชน์กว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดที่บ้านเกิดเมืองนอนของผมอีก

   หลังจากอิ่มหนำแล้ว ผมก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องโทรศัพท์ ที่เป็นตัวต้นเหตุ ทำให้ชายหนุ่มเกือบจะหนีไปจากผมได้สำเร็จ ผมจัดการดึงสายโทรศัพท์ออก แล้วยัดเครื่องโทรศัพท์นั้นลงในลิ้นชักหัวเตียง ไม่ลืมที่จะไขกุญแจ ล็อกมันเอาไว้ ทีนี้เขาก็หมดหนทางที่จะหนีไปจากผมได้อีกแล้ว

   เฝ้ามองคุณกายหลับอยู่สักพัก ผมก็ลุกออกไปจากห้องพัก ตรงไปยังอีกห้องที่ผมเปิดเอาไว้ ผมมาอาบน้ำแต่งตัวที่นี่ เพราะเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของผมทั้งหมดอยู่ในห้องนี้ รวมทั้งของๆคุณกายด้วย

   พออาบน้ำเสร็จ เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ความจริงมันก็ดังอยู่สักพักแล้วล่ะ เพียงแต่ผมกำลังอาบน้ำอยู่เท่านั้น สายที่โทรเข้ามาเป็นพี่เอ เขาคงจะโทรมาเพื่อถามความคืบหน้าเรื่องของผม

   ผมรีบกดรับ ตั้งแต่มาเมืองไทยผมก็ยังไม่ได้ติดต่อไปหาพี่เขาเลย อยากจะบอกพี่เอเต็มแก่แล้ว ว่าแผนที่อยู่ในทางเลือกสุดท้าย กลับเป็นผลสำเร็จ

   “ฮัลโหลพี่เอ ดึกดื่นป่านนี้ ยังอุตส่าห์โทรมาอีกนะ ไม่หลับไม่นอนเหรอครับ”

   [“ก็ฉันคำนวณเวลาแล้วไง ถึงได้โทรมาหาเธอตอนนี้ ที่โทรมาก็เพื่อจะมาบอกข่าวให้เธอรู้น่ะ”]

   “ข่าวอะไรเหรอครับ?” ผมเริ่มสนใจแล้วสิ ที่พี่เอยอมเสียสละเวลานอนเพื่อโทรมาหาผม ข่าวที่เขาเอามาบอกจะต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆ

   [“ข่าวเรื่องคุณกายของเธอไง เมื่อวานฉันไปคุยกับมาดามมา เลยได้รู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณกายอย่างหนึ่ง มันค่อนข้างจะเป็นข่าวร้ายสำหรับเธอนะ เธอยังอยากจะฟังอยู่รึเปล่า?”] ผมแทบหยุดหายใจ ข่าวร้ายเหรอ...?? แต่ถึงแม้มันจะเป็นข่าวร้าย ยังไงผมก็ยังอยากรู้อยู่ดี ก็ในเมื่อมันเป็นข่าวของคุณกายคนรักของผมนี่

   “ว่ามาสิครับ เรื่องอะไร” น้ำเสียงผมเริ่มซีเรียสขึ้น

   [“อะ เอ่อ...คุณกายของเธอน่ะ เขามีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว... เรื่องนี้ฉันได้ยินจากปากมาดามซิลวีตรงๆเลย มันเป็นเรื่องที่พูดคุยกันในสังคมวงในน่ะ รู้สึกจะเป็นลูกสาวท่านทูตไทยประจำอังกฤษด้วย”]

   มันเป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย! ที่ว่าคุณกายมีคู่หมั้นแล้ว! ผมนึกว่ามันเป็นคำขู่ของเขาเสียอีก... ผมไม่ได้กลัวเรื่องที่คุณกายมีคู่หมั้นแล้ว แต่ผมกลัวว่าหัวใจของเขาจะไม่ได้อยู่กับตัวเขาแล้ว มันอาจจะตกไปอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น คนที่เป็นคู่หมั้นของคุณกาย

   “เรื่องนั้นผมทราบแล้วล่ะครับ” ผมบอกพี่เอไป

   [“อ้าว! รู้ได้ยังไง นี่เป็นข่าววงในเลยนะ เพราะเขายังไม่ได้ประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการ”]

   “ผมรู้จากปากคุณกายเองเลยล่ะ รสชาตินี่เกินบรรยาย”

   [“เอ๋... ตอนนี้คุณกายไม่ได้อยู่อิตาลีหรอกเหรอ? มาดามบอกว่าเขามีงานเจรจาธุรกิจที่มิลาน”]

   “เปล่า เขากลับจากอิตาลีแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ไทย และอยู่กับผมด้วย”

   [“กรี๊ด!! ไม่อยากจะเชื่อ! เธอไปฉกตัวเขามาได้ยังไงน่ะ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!”] แล้วผมก็ต้องบอกเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่เอฟังตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกเขาจะตื่นเต้นมากกับเรื่องที่ผมเล่า

   “ฮะๆ แผนแย่ๆที่พี่คิดขึ้น กลับประสบผลสำเร็จอย่างง่ายดาย ผมก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ” ผมบอกไปตามความจริง ใครจะคิดล่ะ ว่าแผนที่เหมือนกับเป็นโจรผู้ร้ายแบบนั้นจะสำเร็จได้

   [“อะไรกันยะ! แผนของฉันออกจะดี มาว่าแผนฉันแย่ได้ยังไง ตานิคต้องมาก้มกราบฉันแล้วย่ะ ถ้าไม่ได้มันสมองอย่างฉันคิดแผน ป่านนี้เธอก็คงได้แต่เห่าเครื่องบินอยู่นั่นแหละ โฮะๆ”]

   “แหม! ได้ที่ทับถมผมเลยนะครับ มันเป็นเรื่องบังเอิญต่างหากล่ะครับ ไม่ต้องมาเอาความดีใส่ตัวเลยพี่ ฮะๆ แต่ยังไงผมก็ต้องขอบคุณพี่เอนะครับ ถ้าไม่ได้พี่ผมก็คงจะแย่อยู่เหมือนกัน พี่ไปนอนได้แล้วครับ ดึกแล้วเดี๋ยวจอห์นก็ว่าหรอก” ผมรีบไล่ให้พี่เอไปนอน เขาบ่นพึมพำ บอกว่าเพราะผมเลยทำให้เขาตาสว่างเลย แล้วเขาก็อวยพรให้ผมโชคดีเรื่องความรัก จากนั้นก็รีบวางสายไป เพราะผมแว่วได้ยินเสียงของจอห์นเรียกพี่เอดังมาจากปลายสาย

   หลังจากได้คุยกับพี่เอแล้ว ผมมีความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างน้อยผมก็ไม่ได้สู้อยู่คนเดียวตามลำพัง ผมยังมีพี่เอที่คอยเป็นกำลังใจให้ผมอยู่เสมอ

   เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็ถือวิสาสะค้นกระเป๋าเดินทางของคุณกาย ด้วยความใคร่รู้ว่า เวลาคุณกายเดินทางนำอะไรติดตัวไปบ้าง น้ำหอมโคโลนเขาชอบกลิ่นอะไร  หรือแม้แต่ไซส์ชั้นในของเขาผมก็อยากจะรู้

   ในกระเป๋าของเขามีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกอยู่เครื่องหนึ่ง แฟ้มเอกสารหนึ่งแฟ้ม เสื้อผ้าที่เป็นชุดใส่ทำงานสองชุด เนคไทต์สามเส้น กางเกงในสองสามตัว นอกนั้นก็เป็นข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น น้ำหอมที่เขาใช้คือ คลูวอเตอร์ ผมก็ว่าเหมาะกับเขาดี  ข้าวของเครื่องใช้ในกระเป๋าเดินทางของเขาถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของเจ้าตัวเป็นอย่างดี

   แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นกระปุกยาเล็กๆใบหนึ่ง ผมหยิบมันขึ้นมาพิจารณาด้วยความสงสัย ว่ามันเป็นยาอะไร ชื่อยาตรงฉลากไม่ได้บอกว่าเป็นยาพาราเซทตาม่อนอย่างที่ผมคิดเอาไว้ เพราะมันเป็นยาสามัญที่ปกติคนมักจะพกกันเวลาเดินทางไปไหนต่อไหนเผื่อจำเป็น แต่ชื่อยาประหลาดๆนี้ผมไม่คุ้นเคยกับมันเลย

   “ยาอะไรกัน...”   

   ผมจดจำชื่อยานั้นเอาไว้ คิดว่าจะลองโทรไปถามคุณน้าดูว่ามันเป็นยาอะไร คุณน้าของผมเป็นหมอ ยังไงท่านก็ต้องย่อมรู้ดีเรื่องยารักษาโรคอยู่แล้ว แต่เห็นจะโทรไปเลยตอนนี้ก็ไม่ได้ เพราะเวลานี้เป็นเวลางาน ผมยังไม่อยากจะไปรบกวน

   คำถามต่อมาในจิตใจผมคือ ยานี้รักษาโรคอะไร คุณกายมีโรคประจำตัวด้วยหรือ?

   ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ และเริ่มเป็นกังวล ผมรีบสลัดความคิดต่างๆทิ้ง เพราะยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเลยเถิด จึงได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ แล้วรอคอยคำตอบที่เป็นจริงเท่านั้น

   ผมปิดกระเป๋าเดินทางลงตามเดิม แต่ก่อนที่ผมจะก้าวเดินออกจากห้องนี้ไปนั้น โทรศัพท์ถือก็พลันดังขึ้น จึงรีบควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงทันที ปรากฏว่าเสียงนั้นไม่ได้มาจากมือถือของผม แต่มันดังจากที่ใดที่หนึ่งภายในห้อง กรีดร้องอย่างไม่ยอมหยุด ผมขมวดคิ้วอย่างฉงน ก่อนจะเดินหาต้นตอของเสียง

   ที่แท้เป็นโทรศัพท์มือถือของคุณกาย มันสั่นเบาๆอยู่บนโต๊ะหัวเตียง วางอยู่ข้างๆกันกับกระเป๋าสตางค์ ที่ผมยึดมันมาจากเขาเป็นการชั่วคราว

            

                                                                  --------------จบตอน---------------


=========================================================================

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  o1

วันเสาร์จะมาขึ้นตอนที่11ให้นะ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
 :o :o :o
มีคู่หมั้นแล้ว อิอิ
งี้จะเอาอะไรมาพิชิตใจหนอ
 :m30:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับมะไร่คุรกายจะยอม นิคละครับ

ยอมๆๆไปเถอะครับผม พี่นิคน่ารักออกซะขนาดนี้ครับ

อิอิ เอาใจช่วยครับผม

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :try2: คู่นี้ท่าทางลุ้นเหนื่อย

ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
คู่หมั้นที่ว่านี่คุณหยกฟ้าใช่มั้ยเคอะ...รายนั้นเขามีคนรักแล้วนิ

เง้อ...อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะนิค  สู้ต่อไปนะจ๊ะ  :a9:

เอาชนะใจคุณกายให้ได้... :m28: ว่าแต่ใครโทรหากายเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด