[ปิดจองแล้วค่ะ]My neighbor is a spy คนข้างห้องผมเป็นสายลับ ตอนที่88(จบ) p17 13/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ท่านผู้อ่านชอบตัวละครใดมากที่สุด ในเรื่อง"คนข้างห้องผมเป็นสายลับ" (อนุญาตให้เลือกได้แ

หนูฟ่ง : แน่นอนอะ กระรอกน้อยช่างน่ารัก และน่าเหยียบ ในเวลาเดียวกันo_O
รูฟัส : สุดๆ อะ พระเอกอะไรไม่รู้ว มันน่ารัก น่าหยิกแก้มจริงๆ นะเนี่ย (ทั้งกะล่อน ตอแหล หื่น รวมอยู่ในคนคนเดียว!!)
เว่ยเฟิงปิง : เอะอะสะบัดบ๊อบตลอดค่ะ (ไม่มีก็ไว้ซะนะคะ เฟิงขา)
จางซื่อเยี่ยน : ถึงจืดถึงจาง.. ถึงจะซื่อจะบื้อ... แต่ก็รักนะ รักหน่อยเหอะน้า~
อิทธิเดช : หนุ่มหน้าสวย บทไม่มาก (เพราะคนเขียนไม่อวย<<อ้าว) แอบโรคจิตนิดๆ แต่ก็น่าถนอม
วรุต : หนุ่มน้อยหน้ามน โรคจิตไม่แพ้กัน (จับคู่กับอิทธิเดชเลยได้คู่จิตป่วนแห่งปีไป) เอาน่า น้องวรุตก็มีส่วนน่ารักน่าเอ็นดูนะ!!
เว่ยจินหยิน : อวย!! อันนี้คนเขียนอวยค่ะ ฮ่าๆ ไม่รู้จะจิ้มใคร จิ้มให้คุณชายจิ้งจอกสุดที่Loveของดั้นสิฮ้า (โดนคนอ่านถีบ)
เถียนซาน : ผู้ชายแสนอบอุ่น... (คนนี้ไม่ได้อวย แต่เป็นคนอวยคนด้านบนอีกทีนึง..... เอวัง)

ผู้เขียน หัวข้อ: [ปิดจองแล้วค่ะ]My neighbor is a spy คนข้างห้องผมเป็นสายลับ ตอนที่88(จบ) p17 13/1/55  (อ่าน 247461 ครั้ง)

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
หนุ่มนักดีไซน์ กับนายสายลับ
บทที่87 Дмитрий
   “ฟ่งครับ ตื่นได้แล้วครับ จะถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแล้ว” เสียงเรียกและมือที่ยื่นมาแตะแขนเขาเบาๆ ทำให้ฟ่งลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะพรวดพราดลุกขึ้นมาจนเกือบจะชนกับคนที่มาปลุก
   “ถึงแล้วเหรอ?!” ฟ่งถามอย่างงุนงงไม่หาย ก่อนจะหันรีหันขวาง ควานหาแว่นที่น่าจะหล่นอยู่ใกล้ๆ หมอนหรือที่ไหนสักแห่ง รูฟัสเลยต้องก้มลงช่วยหาอีกแรง สักพัก แว่นก็มาสถิตอยู่บนดั้งของผู้เป็นเจ้าของในที่สุด
   “ผมต้องรีบเก็บของ” ฟ่งว่า และตะลีตะลานลงจากเตียง ก่อนจะนึกได้ว่าสัมภาระอยู่บนชั้นด้านบนที่นั่งนี่นา แล้วเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้รื้ออะไรออกมาก่อนนอน
   รูฟัสหัวเราะเบาๆ แล้วพูดตอบ “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอกครับ ยังไม่ถึงหรอก อีกประมาณครึ่งชั่วโมง ผมมาปลุกคุณก่อน จะได้ไปล้างหน้าแปรงฟัน”
   “อ้อ” หนุ่มสวมแว่นพยักหน้า รู้สติขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เมื่อสองวันก่อน รูฟัสเสนอว่าไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นั่งเครื่องบินไปจะประหยัดเวลากว่า แต่ฟ่งเห็นว่าไหนๆ ก็มาถึงรัสเซียแล้ว อยากจะลองใช้บริการรถไฟเที่ยวยาวดูสักครั้ง สุดท้ายเขาก็เลยได้นั่งรถไฟสายRed arrow ไปเซนต์ปีเตอร์ฯสมอยาก แต่รถไฟออกตอนเที่ยงคืน กว่าเขาจะหลับก็ปาไปค่อนรุ่ง เลยตื่นเอาสายโด่ง ฟ่งไม่รู้ว่าควรจะภูมิใจในตัวเองดีรึเปล่า รถไฟโคลงเคลงขนาดนี้ เขายังจะมีหน้าหลับสนิทจนรูฟัสต้องมาปลุกได้อีก ถ้ามีการแข่งขันกันหลับ เขาน่าจะลองไปสมัครดู ไม่แน่ว่าอาจจะได้แชมป์โลกก็ได้
   รูฟัสมองดูแผ่นหลังของร่างผอมบางที่พาเรือนผมยุ่งๆ ออกไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ ก่อนจะยิ้มออกมา แล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
   เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก...
   กี่ปีมาแล้วนะที่เขาไม่ได้เหยียบย่างเข้าเมืองแห่งนี้ เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของเขา แห่งความหลัง เมืองที่เขาทิ้งตัวตนเดิมเอาไว้ แล้วจากมาโดยที่ไม่เคยหวนกลับมาก่อน
   จนกระทั่งวันนี้.....
   
   ฟ่งเดินกลับออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าสดใส เขาชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วหันมาถามเพื่อนร่วมทาง “กี่โมงแล้วน่ะ”
   “เจ็ดโมงกว่าครับ อีกสักพักก็น่าจะถึงแล้ว” รูฟัสตอบ และมองฟ่ง “ฟ่งครับ เตรียมหมวกไว้ด้วยนะครับ เมื่อตะกี้ผมถามพนักงานรถไฟ เห็นเขาว่าที่นั่นอุณหภูมิสักสององศาได้”
   “โห...” ฟ่งร้อง และทำตาโต รีบหยิบเสื้อโค้ทที่พาดเอาไว้มาถือ แล้วค้นหมวกออกมาจากในเสื้อ “สององศา ผมจะตายรึเปล่าเนี่ย” หนุ่มสวมแว่นว่า รูฟัสหัวเราะหึๆ
   “เมื่อวานที่มอสโคว์ห้าองศานะครับ คุณยังออกไปเดินตากหิมะเล่นเลย”
   “ก็ผมไม่เคยเห็นหิมะนี่” ฟ่งแย้ง “แถมเมื่อวาน เกรเกอรีมาเล่นหิมะเป็นเพื่อนผม ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกหนาวไงล่ะ”
   รูฟัสพยักหน้า หนุ่มสวมแว่นทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ “จริงสิ รูฟัส คุณกับพี่ชายคุณ ดีกันแล้วหรือยัง?”
   “?”
   “ผมหมายถึง พ่อของเกรเกอรีน่ะ เขาเป็นพี่ชายคุณไม่ใช่เหรอ ผมลองถามเกรเกอรีแล้ว เขาเห็นว่าคุณไปที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกับพ่อเขา ตกลงคุณสองคนดีกันหรือยังน่ะ?”
   รูฟัสมองหน้าฟ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมา “ผมกับเขาไม่ได้ทะเลาะอะไรกันนะ”
   “งั้น... เขารู้แล้วใช่ไหมว่าคุณเป็นน้องชายเขาน่ะ” ฟ่งถามอีก รูฟัสพยักหน้า
   “คงรู้ล่ะครับ แต่ผมไม่ได้บอกเขาตรงๆ หรอก เขาเรียกผมไปขอบคุณเรื่องที่ช่วยลูกเขาเอาไว้นะ”
   “แค่นั้นเองหรือ?” ฟ่งถามด้วยความแปลกใจ รูฟัสมองหน้าเขา แล้วยิ้มอีก “เขายังพูดอีกเรื่องน่ะ แต่ไว้เดี๋ยวพอถึงที่แล้วผมจะบอกคุณก็แล้วกัน”
   “อือ....” ฟ่งลากเสียง ตอนแรกว่าจะเซ้าซี้ต่อแล้ว แต่มาคิดอีกที รูฟัสบอกว่าจะบอก ไว้รอให้ถึงตอนนั้นก็ได้ เขาควรจะพยายามทำให้ตัวเองเคยชินกับความลับสารพัดของรูฟัสได้แล้ว
-----------------------------------------------------
   ฟ่งเห็นตัวเองหายใจออกมาเป็นไอ ตอนที่ลงมาจากรถไฟ แถมไอน้ำยังเกาะแว่นจนเป็นฝ้าขาวอีกต่างหาก ชายหนุ่มเลยต้องหยุดเช็ดแว่นแป๊บหนึ่ง แล้วเขากับรูฟัสรีบลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในสถานี ก่อนที่ร่างผอมบางจะห่อตัวด้วยความหนาว
   “โห... หนาวจริงๆ นะเนี่ย ผมว่าก่อนจะลง เขาควรปิดฮีตเตอร์สักห้านาทีนะ ผู้โดยสารจะได้ชินอากาศ” ฟ่งว่า และเอามือมาห่อปาก ก่อนจะเป่าลมหายใจลงไป รูฟัสหัวเราะ
   “ทำอย่างกับเลี้ยงปลาแน่ะครับ ผมว่าคุณใส่ถุงมือด้วยดีกว่านะ”
   “อือ ผมกำลังจะใส่” ฟ่งว่า และพูดต่อ “ตะกี้ผมกลัวยกกระเป่าไม่สะดวกน่ะ”
   รูฟัสพยักหน้า มองดูฟ่งหยิบถุงมือหนังสีน้ำตาลขึ้นมาสวม แล้วยกมือขึ้นจับหมวกขนกระต่ายให้เข้าที่
   ฟ่งซุกมือลงในกระเป๋าเสื้อโค้ทสักพัก ก็เอื้อมไปหยิบกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะหันมามองหน้ารูฟัส
   “ไปกันเถอะ ผมพร้อมจะสู้กับอากาศหนาวแล้วล่ะ!”

   “รูฟัส เฮอมิเทจไกลมั้ย?” ฟ่งหันมาถามรูฟัส หลังจากเอากระเป๋าเข้ามาในห้องพักแล้ว รูฟัสหันไปมองหน้าคนถาม “ไม่ไกลครับ จะออกไปเลยหรือ?”
   “อื้อ” หนุ่มสวมแว่นพยักหน้า รูฟัสถามต่อ “งั้นนั่งรถไปนะครับ”
   “ตกลงไกลหรือไม่ไกลกันแน่น่ะ” หนุ่มสวมแว่นย้อนถามด้วยสีหน้าสงสัย รูฟัสเลยหันมาตอบคำถามเขา “ไม่ไกลหรอกครับ แต่เห็นคุณหนาว ผมว่านั่งรถดีกว่า”
   “ไม่เอา ผมจะเดิน เดินไปก็ได้ใช่ไหมล่ะ?” ฟ่งพูด และรีบอธิบายเหตุผลต่อเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของรูฟัส “ผมอยากเห็นพวกอาคารบ้านเรือนน่ะ นั่งรถก็ไม่เห็นใช่ไหมล่ะ คุณไม่ต้องกลัวผมหนาวขนาดนั้นหรอก ถ้าหนาวมาก เดี๋ยวผมจะวิ่งเอา คงจะอุ่นขึ้นบ้างล่ะ”
   คนได้ฟังยิ้มออกมา “งั้นก็ได้ครับ ไม่ต้องวิ่งหรอก ถ้าคุณหนาวมาก เรากลับมาอบอุ่นร่างกายกันที่ห้องก็ได้ เดี๋ยวผมจะทำให้คุณร้อนเลย”
   ฟ่งถลึงตามองรูฟัส ถ้าอยู่ใกล้ๆ กัน เขาคงง้างมือทุบเข้าให้แล้ว
   พอวางของเสร็จ ทั้งฟ่งและรูฟัสก็ออกจากโรงแรม เพื่อไปพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อว่า Hermitage.
---------------------------------------------
   ถึงจะไม่ได้กลับมาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนานแล้ว และตอนที่อาศัยอยู่ก็แทบจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเฮอมิเทจเลย แต่รูฟัสยังไม่ลืมภาษาบ้านเกิดของตัวเอง ดังนั้น หลังจากซื้อสมุดไกด์กับแผนที่ของพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว รูฟัสก็พอจะทำตัวเป็นไกด์จำเป็นพาฟ่งเดินดูของในเฮอร์มิเทจได้สำเร็จ
   “โอ้โห....” ฟ่งอุทาน เมื่อเห็นรูปสลักหินอ่อน The Farnese Hercules ซึ่งตั้งโชว์อยู่ในห้องแรกของพิพิธภัณฑ์
   ฟ่งไม่เคยออกมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์นอกประเทศมาก่อน ของพวกนี้ที่เคยเห็นก็มีแต่ในหนังสือเท่านั้นแหละ
   ชายหนุ่มพินิจมองรูปปั้นอย่างจริงๆ จังๆ จนรูฟัสอดไม่ได้ต้องทักขึ้น “ไหนว่าไม่ชอบผู้ชายไงครับ”
   ฟ่งหันมามองรูฟัสอย่างงงๆ ก่อนจะถลึงตาใส่ “นี่มันรูปสลักนะ คุณคิดอะไรของคุณเนี่ย ผมแค่กำลังทึ่งว่าเขาแกะหินยังไง ถึงได้ดูอ่อนช้อยขนาดนี้”
   รูฟัสหัวเราะอย่างกระดากๆ “ขอโทษทีครับ พอดีผมไม่ค่อยเข้าใจงานศิลปะ”
   ฟ่งทำหน้าหงิก จากนั้นก็เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆ ตลอดทางมีรูปสลักจากหินอ่อนวางเรียงกันเต็มไปหมด
   “ชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานปั้นน่ะครับ เอ้อ จริงสิ ไปดูนี่ดีกว่า” รูฟัสพูด และพาฟ่งเดินลัดเลาะผ่านห้องต่างๆ จนไปถึง The Second Chamber of the Gold Room ซึ่งมีเครื่องทองในยุคราวๆ สี่ถึงห้าร้อยปีก่อนคริสตกาลวางโชว์อยู่ในตู้กระจก
   “โอ้โห...” ฟ่งอุทานอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองรูฟัส และพบว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัด
   “มีอะไรเหรอ?” ฟ่งถาม รูฟัสหันมามองเขาแล้วหัวเราะแหะๆ “เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าพิพิธภัณฑ์นี่ต้องวางระบบรักษาความปลอดภัยกันน่าดูเลยนะ”
   ฟ่งหน้ายู่ “รูฟัส คุณเคยขโมยของในพิพิธภัณฑ์รรึเปล่าเนี่ย?”
   “เอ่อ...” คนถูกถามทำหน้ายุ่งยาก “ไม่ถึงกับเคยหรอกครับ พิพิธภัณฑ์น่ะเคยเข้าไปขโมย แต่ไม่ได้ขโมยของที่เป็นคอลเลกชั่นนะครับ เข้าไปขโมยเอกสารลับน่ะ”
   คราวนี้ฟ่งหันมามองรูฟัสอย่างพินิจพิจารณาเสียยิ่งกว่ามองข้าวของในพิพิธภัณฑ์เสียอีก “รูฟัส คุณบอกผมตรงๆ นะ คุณถูกทางการประเทศไหนล่าตัวอยู่บ้างรึเปล่า?”
   รูฟัสสั่นศีรษะทันที “ไม่มีนะครับ สาบานได้ แค่ที่มีอยู่ผมก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ผมไม่ทำอะไรที่เป็นปัญหากับรัฐบาลหรอก คุณวางใจได้เลย”
   ฟ่งมองรูฟัสอยู่อีกพักหนึ่ง “คุณห้ามขโมยอะไรในนี้นะ”
   รูฟัสครางออกมาทันที นี่ถ้าเกิดมีคนที่เดินไปเดินมาฟังภาษาไทยออก เขาคงถูกภัณฑารักษ์เรียกไปสอบสวนแล้วมั้ง “ผมไม่ใช่โจรนะครับฟ่ง!”
   “ใครจะไปรู้ล่ะ” ฟ่งพูดและทำหน้าซื่อ เล่นเอารูฟัสชักอยากจะกัดสักคำ หนุ่มตาสองสีเลยก้มลงดูแผนที่ แล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู
   “ฟ่ง ไปชั้นสองกันดีกว่า เห็นว่ามีนาฬิกานกยูงรำแพนด้วย”
   “หา?” ฟ่งหันมา ยังไม่ทันหายงงดี ก็ถูกรูฟัสลากมือขึ้นไปชั้นสอง ตรงส่วนของ The Pavilion Hall
   พอไปถึงฟ่งก็เห็นคนนับสิบๆ ยืนมุงนกยูงสีทองที่อยู่ในครอบแก้วอยู่ เขาหันไปมองรูฟัส “นี่นาฬิกาเหรอ?”
   คนถูกถามพยักหน้า “เข้าไปดูใกล้ๆ เลยก็ได้ครับ คุณตัวเล็กๆ แทรกเข้าไปไหวอยู่แล้ว นี่เป็นของมีชื่อของที่นี่เลยนะครับ”
   ฟ่งเห็นว่ารูฟัสดูท่าทางอยากจะนำเสนอมาก แล้วเขาก็ไม่อยากพลาดโอกาสดูของดี ก็เลยพยายามแทรกตัวผ่านเข้าไป จนพอจะมองเห็นนกยูงสีทองตัวนั้นได้ทั้งหมด
   นกยูงตัวนั้นเกาะอยู่บนคอนไม้สีทอง ประดับเถาไม้สีทอง ด้านข้างเป็นนกฮูกที่มีกรงทรงกลมล้อมรอบและกำลังหมุนอยู่ ส่วนอีกฟากหนึ่งเป็นไก่สีทองยืนเกาะอยู่
   ฟ่งได้ยินเสียงเพลงดังออกมา แต่ยังมองไม่ออกว่าเจ้านกยูงตัวนี้จะเป็นนาฬิกาได้อย่างไร ดูยังไงก็ไม่เห็นหน้าปัด แต่ก็เห็นหลายคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ยกกล้องขึ้นรอถ่ายวีดีโอ เขาเลยเอากล้องขึ้นมาบ้าง
   ยืนรออยู่สักพัก ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากนกฮูกหมุนไปหมุนมา ขณะที่ฟ่งกำลังคิดว่าจะเบียดกลับไปหารูฟัส เสียงแกร่กๆ ก็ดังขึ้น จากนั้น นกยูงสีทองที่อยู่ด้านบนก็เริ่มรำแพน
   “โห!” ฟ่งอุทานพร้อมกับคนอีกเป็นสิบๆ คนที่ยืนรออยู่ เหลือเชื่อเลย นกยูงตัวนั้นขยับได้อย่างกับนกยูงจริง ทั้งๆ ที่เหมือนจะทำจากโลหะแท้ๆ แพหางสีทองแผ่กว้างออก ก่อนที่ตัวนกยูงจะหมุนสลับให้เห็นแพหางด้านหลังซึ่งเป็นสีเงิน ก่อนจะหมุนกลับไปที่เดิม แล้วหุบหางลง จากนั้นไก่ตัวที่เกาะอยู่ด้านล่างก็เริ่มขัน ขยับได้เหมือนจริงอย่างที่สุด
   ฟ่งยืนมองตาค้าง จนทั้งนกฮูกหยุดหมุน ทั้งเพลงจบแล้วยังอึ้งไม่หาย
   “เป็นไงครับ ชอบไหม?” รูฟัสเดินเข้ามาถามยิ้มๆ ฟ่งหันไป และพยักหน้าหงึกๆ “สุดยอดเลยล่ะ ทำได้ไงน่ะ” เขาถาม รูฟัสตอบยิ้มๆ “เห็นว่าเป็นงานของช่างฝีมืออังกฤษน่ะ เดี๋ยวก่อนกลับซื้อหนังสือกลับไปสิครับ ผมจะแปลให้ฟัง”
   “อื้อ” ฟ่งพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปดูเจ้านกยูงตัวนั้นใกล้ๆ
   “ตรงนี้มีกระรอกด้วยล่ะ” ฟ่งพูด พร้อมกับกวักมือเรียกรูฟัสเข้าไปดู รูฟัสมองแล้วพยักหน้า “ครับ” พลางนึกว่าเขาเองก็กำลังเจอกระรอกอยู่ตัวหนึ่งเหมือนกันนล่ะ
   ขณะยืนรอฟ่งสำรวจนกยูงตัวนั้น รูฟัสก็ยืนอ่านแผนที่นำเที่ยวไปพลาง ก่อนจะชวนฟ่งออกเดินอีก
   “ฟ่งครับ ไปดูคิวปิดกัน”
   “หา?”
   รูฟัสไม่รอให้ฟ่งทำหน้างงนาน เขารีบจูงชายหนุ่ม เดินผ่านห้องต่างๆ และต้องแวะหยุดเป็นระยะๆ เพราะฟ่งอยากดูอย่างอื่นก่อน กว่าจะถึงคิวปิดที่ว่า ก็เล่นเอาเย็นแล้ว
   พอได้เห็นคิวปิดตัวที่ว่า ฟ่งก็ร้องอุทานออกมาอีก “น่ารัก!”
   ก่อนจะเดินมาถึงคิวปิดตัวนี้ เขาได้ดูคิวปิดไปหลายตัว ส่วนใหญ่เป็นรูปชายหนุ่ม บางงานปั้นก็นัวเนียอยู่กับไซคี คิวปิดที่เป็นเด็กๆ ก็พอมีบ้าง แต่ตัวนี้ถือว่าน่ารักที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ทั้งจากที่เห็นด้วยตามาก่อนหน้านี้ แล้วก็ที่เห็นมาจากหนังสือด้วย ฟ่งยืนมองอยู่พักตามประสาคนชอบงานศิลปะ โดยมีรูฟัสยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
   ทั้งคู่เดินดูพิพิธภัณฑ์กันอยู่จนเกือบทุ่ม ฟ่งถึงยอมแพ้สังขาร ทั้งหิวทั้งเมื่อย สุดท้ายเลยต้องจำจากเฮอร์มิเทจออกมาเพื่อหาอะไรทาน แล้วพักแข้งพักขาเสียก่อน รูฟัสเลยเสนอว่าพรุ่งนี้ไปดูในตัวเมืองกันก่อน แล้วอีกวันค่อยกลับมาเที่ยวที่นี่อีกที ฟ่งยอมรับข้อเสนอ และรู้สึกตัวเองโชคดีแบบแปลกๆ ที่ได้มาเที่ยวแบบไม่ต้องมีกำหนดกลับแบบนี้ แถมมีคนนำทางติดมาด้วยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอีกต่างหาก
----------------------------------------------------
   วันต่อมารูฟัสพาเขานั่งรถไปดูChurch of blood หรือที่คนรัสเซียเรียกกันว่า Храм Спаса на Крови พอได้เห็น ฟ่งก็นึกไปถึงเซนต์เบซิลที่มอสโคว์ เพราะหลังคาดูเป็นสีสันละลานตาดีเหมือนกัน แต่ลักษณะการก่อสร้างคนละแบบ
   หลังจากดูโบสถ์หยาดเลือดเสร็จแล้ว รูฟัสก็พาเขาเดินซื้ออะไรกิน ก่อนจะเรียกรถพาเวียนรอบตัวเมือง เพื่อให้ฟ่งได้ดูอาคารร้านรวงต่างๆ ให้อย่างเต็มอิ่ม
   “เดี๋ยวจะไปไหนต่อล่ะ?” ฟ่งถามขึ้น หลังจากทั้งสองคนเดินออกมาจากวิหารเซนต์ไอแซก ซึ่งนอกจากจะเป็นโบสถ์ที่มีความสวยงามทางด้านสถาปัตย์กรรมแล้ว ยังมีเสาทรงโรมันที่ทำจากมาลาไคต์ และลาปิสฯ ทั้งแท่งวางค้ำอาคารอยู่ให้ตะลึงในความแพง
   รูฟัสเงยดูท้องฟ้าแล้วก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะหันหน้ากลับมาตอบ “ขอนอกโปรแกรมเที่ยวสักสองสามชั่วโมงนะครับ ผมอยากพาคุณไปสุสาน”
   ฟ่งเบิ่งตากว้างใต้แว่น ก่อนจะพยักหน้า “อื้อ”

   สุสานที่รูฟัสว่านั้นอยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองพอสมควร พอมาถึงแล้วก็ให้ได้บรรยากาศสุสานในหนังฝรั่งจริงๆ เพราะเป็นฤดูหนาวด้วยมั้ง ต้นไม้เลยแห้งหมด ยิ่งดูเศร้าเข้าไปใหญ่
   โชคดีที่ตอนทั้งคู่มาถึง สุสานยังไม่ปิด รูฟัสเลยเดินผ่านประตูเข้าไป แล้วยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ฟ่งจึงเดินไปข้างๆ แล้วจับแขนเสื้อเขาไว้ รูฟัสหันมามองเขา แล้วยิ้มให้ ไม่มีใครพูดอะไรอีก
   จากนั้นสักพัก ชายหนุ่มตาสองสีก็เริ่มออกเดินไปตามทางเก่าๆ ผ่านสุสานที่ตั้งเรียงรายกันไปเป็นแถว ฟ่งเดินตามไป และได้เห็นว่าแต่ละหลุมสลักชื่อของผู้ตายเอาไว้ตรงฐานหินใต้ไม้กางเขน
   รูฟัสเดินวนไปวนมาสักพัก ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าหลุมศพหลุมหนึ่ง ซึ่งอยู่กลางๆ ตรงหน้าหลุมศพนั้นมีช่อดอกลิลลี่สีขาววางอยู่ก่อนแล้ว ดูจากสภาพคงเพิ่งมาวางได้สักวันหรือสองวัน หนุ่มตาสองสีถอนหายใจแล้ววางช่อดอกไม้ในมือลงข้างๆ ก่อนจะพึมพำอะไรบางอย่างที่ฟ่งฟังไม่รู้เรื่อง
   หนุ่มสวมแว่นยืนเก้ๆ กังๆ ฟังอีกคนพึมพำด้วยความขัดๆ เขินๆ สุดท้ายก็เลยยกมือขึ้นพนมบ้าง พอรูฟัสหันมาเห็นก็ทักขึ้นทันที “ทำอะไรน่ะครับ”
   “ผมพยายามสวดมนต์ให้อยู่” ฟ่งว่า และรีบพูดต่อ “ผมเป็นคนพุทธนะ ไม่เข้าใจธรรมเนียมคริสต์หรอก แต่คนที่อยู่ในนี้เป็นญาติคุณใช่ไหมล่ะ? ผมก็ควรต้องเคารพสิ”
   รูฟัสยิ้มออกมา “พ่อ แม่ กับน้องสาวผมน่ะ”
   “?” ฟ่งมองหน้ารูฟัส อึ้งไปพักหนึ่ง ได้ยินเสียงลมหนาวพัดวูบมาจนแสบหู หนุ่มสวมแว่นหันไปมองหลุมศพอีกครั้ง แล้วหันกลับมา “สามคน... ในที่เดียวเหรอ?”
   “เปล่าครับ” หนุ่มตาสองสีตอบยิ้มๆ แล้วชี้มือไปที่สองหลุมซึ่งอยู่ถัดไป “นี่ของแม่ผม ส่วนอันนี้ของน้องสาว” เขาเดินไปหยุดหน้าหลุมศพหลุมเล็ก แล้วทรุดตัวลงนั่ง เหม่อมองดูป้ายหลุมศพนั้นเป็นเวลานาน ฟ่งเลยเดินมาใกล้ๆ แล้วนั่งลงข้างๆ บ้าง
   ทั้งคู่นั่งเงียบๆ กันอยู่พักหนึ่ง รูฟัสเลยพูดออกมา “ขอบคุณนะครับ”
   ฟ่งหันหน้ามามองรูฟัส ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้า สองคนยังนั่งอยู่อย่างนั้นอีกสักพัก ก่อนที่รูฟัสจะผุดลุกขึ้น แล้วฉุดมือฟ่งให้ลุกตาม
   “ท่าทางพี่ชายผมจะแวะมาแล้วเมื่อวาน คงจะให้คนมาทำความสะอาดน่ะ” รูฟัสพูด และมองดูหลุมศพพวกนั้นอีกครั้ง
   “ที่เขาพูดกับคุณคือให้คุณแวะมาเยี่ยมหลุมศพพ่อแม่บ้างสินะ” ฟ่งเดา และกวาดตามองไปยังหลุมศพพวกนั้นบ้าง ขณะที่รูฟัสพยักหน้า
   “ผมยอมรับตรงๆ เลยนะว่า ผมไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงเลยล่ะ ผมอยากจะคิดว่าชีวิตของผมตอนนั้นเป็นแค่ความฝันแสนสุข ผมไม่ได้เสียอะไร แค่ตื่นจากฝันเท่านั้นเอง”
   ฟ่งได้แต่พยักหน้า ไม่รู้จะพูดตอบว่าอะไรดี ทั้งคู่ยืนนิ่งกันอีกสักพัก ก่อนที่รูฟัสจะรู้สึกว่าฟ่งยื่นมือมาจับมือเขาเอาไว้ ชายหนุ่มกุมมือนั้นไว้แน่น ก่อนจะหันหน้ามายิ้ม “ขอบคุณนะครับ”
   “อืม” ฟ่งส่งเสียงในลำคอ ก่อนจะเงียบไปอีก เขากำลังมองเหม่อไปยังหลุมศพร้างที่อยู่ติดกัน รูฟัสมองตามไปแล้วส่งเสียงขึ้นต่อ “นั่นหลุมศพผมน่ะ”
   ฟ่งหันกลับมามองเขาทันที ได้ยินเสียงรูฟัสพูดต่อ “ป้าผมคงซื้อเผื่อเอาไว้มั้ง เห็นว่าเขาปลงแล้วล่ะว่าผมน่าจะตายไปแล้ว แต่ไม่มีศพ จะฝังโลงเปล่าก็ไม่ได้ เลยต้องทิ้งร้างไว้แบบนั้นแหละ”
   “เอ๋? งั้นชื่อบนป้ายหลุมนั่นก็....”
   “อืม.. ชื่อผม แต่ไม่ใช่ชื่อผมตอนนี้หรอกนะ” รูฟัสตอบ ฟ่งพยักหน้า “อืม.. ผมรู้”
   รูฟัสมองหน้าฟ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “ฟ่งครับ ผมขอร้องอะไรสักอย่างหนึ่งนะ”
   “อะไรล่ะ?” ฟ่งหันหน้ามาถาม หนุ่มตาสองสีมองเขาอยู่อีกพัก
   “ถ้าผมตายน่ะ ไม่ต้องเอาผมมาฝังไว้ที่นี่หรอกนะ ผมรู้สึกว่าคนพุทธเขาเก็บเถ้ากระดูกบางส่วนเอาไว้ที่บ้านเหมือนกันใช่ไหมล่ะ เก็บผมไว้ข้างๆ คุณนะ ผมอยากอยู่ใกล้ๆ กับคุณ”
   “รูฟัส!” ฟ่งเรียกชื่ออีกฝ่าย ก่อนจะบีบมือแน่น “คุณอย่ามาพูดเรื่องแบบนี้กับผมนะ... คนเราใครมันจะกำหนดวันตายได้กันล่ะ”
   หนุ่มสวมแว่นเงียบไปพักหนึ่ง แก้มแดงเป็นปื้นขึ้นมาเหมือนกำลังโกรธจัด จนรูฟัสอดตกใจตามไม่ได้ “ฟ่ง!”
   “ผมน่ะ” ฟ่งพูดต่อ และเงยหน้าขึ้นจ้องมองดวงตาสองสีนั้น “ผมน่ะ ตอนนี้อยู่กับคุณแล้ว คุณเองก็ตั้งใจจะอยู่กับผมเหมือนกันใช่ไหมล่ะ เพราะอย่างนั้นน่ะ เรื่องตายไม่ต้องพูดถึงหรอก คุณคิดว่าผมเป็นอมตะหรือไง?”
   “ฟ่ง....”
   “ผมจะอยู่กับคุณ ตอนที่ยังเป็นๆ นี่แหละ เพราะฉะนั้น ห้ามพูดเรื่องตายอีกนะ” ฟ่งโพล่งออกมา รูฟัสมองหน้าเขา ก่อนจะดึงร่างนั้นเข้ามากอดไว้แน่น จนฟ่งตะกุกตะกักพูดขึ้นต่อ “รูฟัส! นี่สุสานนะ!”
   “ครับ” ชายหนุ่มยอมรับ แต่ก็ไม่ยอมปล่อย เขากอดฟ่งไว้อย่างนั้น จนลมหนาวพัดวูบมาอีกครั้ง และได้ยินเสียงสัปเหร่อขยับประตูรั้ว ถึงได้ยอมผละออกไป
   “ขอบคุณมาก ขอบคุณมากจริงๆ นะครับ” รูฟัสพูด และมองคนตรงหน้าซึ่งยังคงมีหน้าตาบึ้งตึงอยู่ “อืม.. ห้ามพูดอีกล่ะ”
   หนุ่มตาสองสียิ้ม และชวนฟ่งเดินกลับออกไป ก่อนที่ประตูจะปิด

   ตอนที่เดินผ่านประตูออกมา รูฟัสก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูเขา
   “Дмитрий”
   ฟ่งหันกลับไปมองหน้ารูฟัสทันที ก่อนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้านั้นอีกครั้ง
   “ชื่อผม... ถ้าคุณอยากจะเรียกน่ะนะ...”
   ฟ่งเบิ่งตามองรูฟัส เผยอปากออกน้อยๆ ก่อนจะพูดออกมา “ด...”
   รูฟัสจ้องหน้าฟ่ง จนแล้วจนรอด เขาก็ได้ยินไม่จบคำพูดสักที ดูเหมือนฟ่งจะหยุดเสียงไว้แค่นั้น หนุ่มสวมแว่นจ้องหน้าเขากลับ แล้วถอนหายใจออกมา “คุณพูดเร็วไป ผมฟังไม่ทันนะ”
   “อา... งั้น....” รูฟัสทำท่าคิดหนัก “ผมพูดให้ฟังอีกที”
   ฟ่งจ้องหน้าเขาต่อ “ผมถามคุณก่อนดีกว่า คุณอยากให้ผมเรียกรึเปล่า?”
   “เอ่อ.....” รูฟัสอึ้งไปพัก ก่อนจะตอบไม่ตรงคำถาม “ผมแค่อยากให้คุณรู้ ให้คุณรู้ว่าผมไม่มีความลับกับคุณแล้ว”
   ฟ่งอยากหยิกรูฟัสสักที เพราะเชื่อแน่ว่า เจ้าหมอนี่ยังมีความลับอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้บอกเขา และท่าทางคงจะบอกไม่หมดไปตลอดชาติ ฟ่งถอนหายใจออกมา แล้วพูดขึ้นอีก
   “ผมไม่สนความลับในอดีตหรอก ผมจะเรียกคุณว่ารูฟัสเหมือนเดิมนี่แหละ”
   หนุ่มตาสองสีเบิ่งตาสีแปลกบ้าง ก่อนจะยิ้มกว้าง “ฟ่ง”
   ฟ่งหันหน้าไปหารูฟัสอีกรอบ “ผมไม่สนความลับที่เป็นอดีตของคุณแล้วก็จริงนะ แต่ต่อไปนี้ ห้ามมีความลับกับผมอีกนะ ห้ามโกหกผมนะ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเราน่ะ”
   รูฟัสมองคนที่เดินข้างด้วยสายตาตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะโพล่งออกมา “ครับ ผมสาบาน”
   ฟ่งดึงหมวกขนกระต่ายเข้ามาปิดหูให้มิดอีก แล้วห่อตัวด้วยความหนาว “รูฟัส จะกลับกันยังไงน่ะ”
   เขาพูดและมองท้องฟ้าซึ่งเริ่มจะมืดครึ้มลงแล้ว รูฟัสชี้มือออกไปที่ถนนใหญ่ “เดี๋ยวไปขึ้นแท็กซี่ตรงนั้นน่ะครับ”
   “อือ” ฟ่งพยักหน้า ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไป หิมะเริ่มตกให้เห็นเป็นละอองสีขาวอีกครั้ง ในขณะที่ทั้งคู่เดินเคียงกันไปเรียกแท็กซี่... ฟ่งหันไปมองหน้ารูฟัส
   Дмитрий…………….
-----------------------------------------------------------

-------------------------------------------------
***แปะไว้ตัวใหญ่ๆ ใครที่แกะคำอ่านชื่อเจ้ารูฟัสออก กรุณา อุบเงียบนะคะ (ถ้าโพล่งขึ้นมาเราขอแจ้งลบเน้ เอิ๊ก)

อนึ่ง คำอ่านจริงๆ จะไปเฉลยในรวมเล่มค่า^^

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชื่อจริงรูฟัสเพราะนะเนี่ยไรเตอร์
ตอนเราเรียนประวัติศาสตร์รัสเซียเราอย่างชอบคนชื่อนี้เลยอ่ะ
>///<

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
กลัวออกเสียงไม่ถูก  :o8:
แล้วก็อย่างที่ฟ่งว่าเลย รูฟัสง่ายกว่าเยอะ   :laugh:

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
รอตอนสุดท้าย

ว่าแต่
จะมีตอนพิเศษบ้างป่ะ

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
รอตอนสุดท้าย

ว่าแต่
จะมีตอนพิเศษบ้างป่ะ


ตอนพิเศษตามเก็บในบล็อกกับรวมเล่มค่ะ ในนี้จะลงให้แค่ตอนหลักนะคะ (เพราะแค่นี้ก็ยาวจนจุก อิิอิ)

บทสุดท้ายแ้ล้วค่ะ


------------------------------
บทที่88 (จบ)
   ฟ่งดูจะมีความสุขกับทุกอย่างในทริปเที่ยวรัสเซียครั้งนี้ เสียอย่างเดียว อาหารที่นั่นถึงจะอร่อย แต่ก็ไม่ถูกปากเท่ากับอาหารที่ประเทศไทย ดังนั้น หลังจากกลับมาแล้ว รูฟัสเลยถูกลากให้ไปกินอาหารไทยขนานดั้งเดิมสารพัดอย่าง ก่อนที่วันรุ่งขึ้น ฟ่งจะลากเขาไปกินอาหารที่บ้านต่อ พร้อมกับของฝากคนในครอบครัว
   รูฟัสตั้งใจเป็นกรณีพิเศษอยู่แล้วว่าเขาจะทำตัวให้คนที่บ้านฟ่งประทับใจในฐานะลูกชายคนใหม่ เลยซื้อ ไข่ฟาเบอเช่ที่ทำจากหินควอร์ตไซต์สีขาวใส กับตุ้มหูอำพัน มาให้แม่ กับพี่สาวฟ่ง ส่วนเล้งได้กล่องเปเปอร์มาเช่ที่ราคาเหยียบหลักครึ่งหมื่นไปเป็นที่ระลึก
   ฟ่งนึกโล่งใจที่รูฟัสซื้อของพวกนี้มา แทนที่จะซื้อเครื่องเพชร ที่เขาไม่ต้องเห็นราคาก็พอจะรู้ว่าคงไม่มีใครที่บ้านปลื้มแน่ๆ แถมจะพาลสงสัยเอาอีก เลยพยายามเกลี้ยกล่อมให้รูฟัสซื้ออะไรที่ธรรมดาๆ แทน
   หลังจากกินกันจนอิ่ม และต่างคนต่างแกะของฝากแจกกันหมดแล้ว ทั้งหมดก็คุยกันต่อเรื่องไปเที่ยวจนดึก รูฟัสเลยเสนอให้นอนค้างไปเสียเลย และเช้าวันต่อมา ก็กระวีกระวาดลุกขึ้นมาเป็นคนงาน ช่วยขนนั่นขนนี่ตั้งแต่เช้า จนฟ่งนึกสงสัยว่ารูฟัสมีแผนจะย้ายมาอยู่ที่บ้านเขาหรือเปล่า
   หลังจากที่ถูกเสนอให้ค้างอีกวัน ฟ่งเลยต้องคุยกับรูฟัสตรงๆ เสียที พออาบน้ำอะไรเสร็จ เข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้ว เขาก็เปิดฉากถามขึ้น “รูฟัส คุณจะมาอยู่บ้านผมเหรอ?”
   “เอ่อ... ก็ทำนองนั้นล่ะครับ” หนุ่มตาสองสีตอบ พลางหัวเราะแหะๆ ซึ่งไม่ใช่ท่าทางยามปกติเท่าไหร่นัก ฟ่งชักนึกสงสัยว่ารูฟัสคงมีอะไรปิดบังเขาอีก เลยเค้นถามต่อ “บอกผมมานะ คุณวางแผนอะไรอยู่กันแน่”
   “เอ้อ...” รูฟัสคราง ก่อนจะถอนหายใจเฮือก และขยับมาใกล้ กระซิบเบาๆ
   “ฟ่งครับ ความจริงผมเองก็ไม่อยากจะปิดบังคุณหรอก แต่ก็ไม่อยากจะทำให้คุณวิตกน่ะ ผมว่าเราต้องย้ายที่อยู่กันแล้วล่ะ ไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่คอนโดที่เราอยู่ตอนนี้น่ะ”
   “หา!” ฟ่งร้องออกมา “มีคนตามล่าคุณอีกแล้วหรือ?!”
   รูฟัสจำต้องยกมือขึ้นปิดปากฟ่งเอาไว้ “อย่าพูดดังสิครับ ผมบอกคุณตรงๆ เลยนะว่า ผมถูกล่าตัวอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ ที่อยู่ห้องคุณได้ตั้งเดือนกว่าโดยไม่มีอะไรเลย ผมยังว่าแปลกเลยล่ะ”
   ฟ่งทำหน้าสงสัยสุดๆ รูฟัสเลยเอามือออก
   “ทำไมล่ะ? สมัยก่อนคุณก็อยู่บ้านคุณราฟาแอลเหมือนกันนี่ อยู่ที่นั่นไม่โดนตามล่าหรือไง”
   “ไม่โดนครับ” รูฟัสพูด “บ้านนั้นรัฐบาลคุ้มครองนะครับ อีกอย่างผมก็ไม่ได้อยู่ตลอด ปกติผมอยู่นานที่สุดก็สองสัปดาห์เท่านั้นแหละ”
   “?!” ฟ่งกะพริบตาปริบๆ อย่างคนนึกคำพูดอะไรไม่ออกทันที รูฟัสมองหน้าอีกฝ่าย แล้วพยักหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “ผมรู้ว่าคุณลำบากใจแน่ เลยไม่ค่อยอยากจะพูดเท่าไหร่ แต่ยังไงเราก็ไม่ควรจะกลับไปอยู่ที่ห้องนั้นอีกแล้วล่ะ ผมกับคุณต้องย้ายที่อยู่ จะไปที่ไหนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ห้องนั้นก็พอ เพราะทั้งเฟิงปิง ทั้งราฟี่ ก็รู้ว่าผมกับคุณอยู่ที่นั่น แค่เฟิงปิงรู้ ก็รับประกันได้แล้วว่าคนอื่นก็ต้องรู้ ดังนั้น เราต้องย้ายที่อยู่นะครับ”
   ฟ่งมองหน้ารูฟัสอย่างอึ้งสนิทอยู่นาน กว่าจะอ้าปากพูดขึ้นได้ “แล้ว... ต้องย้ายเรื่อยๆ รึเปล่า?”
   เขาชักนึกถึงคำพูดของรัสเลอร์ขึ้นมา อยู่กับรูฟัสแล้วต้องหลบๆ ซ่อนๆ จริงๆ หรือนี่ ก่อนหน้านี้เขาก็คิดถึงปัญหานี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้คิดอย่างจริงๆ จังๆ มาก่อน เห็นท่าทางของรูฟัสวันนี้ สงสัยรัสเลอร์จะไม่ได้แค่พูดขู่เขาเฉยๆ เสียแล้ว
   “อืม... ถ้าไม่มีใครรู้เราก็อยู่กันได้เรื่อยๆ แหละครับ” รูฟัสตอบ ฟ่งมีสีหน้าครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัด “แล้วงานล่ะ?”
   “ไปหาทำเอาแถวนั้นก็ได้ครับ ผมว่าจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ คุณว่าไง”
   “โห....” ฟ่งร้อง สีหน้าดูหนักใจสุดๆ “ผมไม่ชอบอาหารที่เชียงใหม่เลย คุณอยู่ในกรุงเทพฯไม่ได้เหรอ ที่อื่นก็ได้”
   “อืม... จริงๆ ก็ได้อยู่หรอกครับ แต่ผมว่าเปลี่ยนเมืองไปเลยน่าจะปลอดภัยกว่า”
   “.........” ฟ่งยกมือขึ้นเกาศีรษะ ดูท่าทางจะคิดหนัก “งั้น... ย้ายไปปริมณฑลก็ได้ นนทบุรี ไม่ก็สมุทรปราการ มีหมู่บ้านเปิดใหม่เยอะ ผมไม่อยากจากบ้านไปไกลๆ น่ะ”
   ฟ่งอธิบายเหตุผลของตัวเอง รูฟัสมองหน้าเขา แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เอางั้นก็ได้ครับ ผมขอโทษด้วยนะ”
   ฟ่งถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต “ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้วนี่ ผมคงต้องไปกับคุณนั่นแหละ”
   “งั้น... พรุ่งนี้เราออกไปหาบ้านใหม่กันเลยนะครับ จะได้รีบย้ายออก”
   “โห.... ต้องรีบขนาดนั้นเลยหรือ?”
   “ครับ”
   ฟ่งกะพริบตาปริบๆ อีกครั้งแล้วพยักหน้า รูฟัสดึงตัวเขาเข้ามากอด หอมแก้มเขาหลายฟอด และกระซิบข้างหู “ผมขอโทษนะ”
   “อือ” ฟ่งส่งเสียงในคอ ก่อนจะนึกขึ้นมาในใจว่า เขาคิดผิดรึเปล่านะที่ว่าจะอยู่กับรูฟัสน่ะ
   แต่... ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ เขาคงเสียใจอยู่เหมือนกัน
----------------------------------------------------
   หลังจากตระเวนดูบ้านอยู่สองวัน ฟ่งกับรูฟัสก็ตัดสินใจซื้อบ้านเดี่ยวราคาราวๆ สี่ล้านกว่า ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือง โดยใช้ชื่อฟ่งเป็นผู้ซื้อ และรูฟัสเป็นคนจ่ายเงิน
   พอดาวน์แล้ว รูฟัสก็ชวนฟ่งนั่งรถออกไปเที่ยวอยุทธยาอีกสองวัน เพื่อให้เข้าใจว่าไปทำเรื่องกู้อยู่ ก่อนจะกลับมาจ่ายเงินค่าบ้าน จากนั้นก็กลับไปขนของของฟ่งที่คอนโดเดิม เพราะฟ่งยืนยันว่ายังไงก็ต้องขนไปด้วย เพราะของบางอย่างหาซื้อไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะหนังสือ อีกอย่าง ถ้าหายไปเฉยๆ เลย ก็ต้องถูกคนอื่นสงสัยอยู่ดี สุดท้าย รูฟัสจึงจำต้องกลับไปที่คอนโดแห่งนั้นอีกครั้ง

   ฟ่งนึกใจหาย เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่ทันได้ถึงปี เอาเข้าจริงคือไม่กี่เดือนด้วยซ้ำ เพราะที่เหลือต้องระหกระเหินไปนั่นไปนี่ พอกลับมาก็ต้องย้ายออกเสียแล้ว แต่อีกมุมก็นึกขำดีเหมือนกัน เพราะวันแรกที่ย้ายเข้ามา คนข้างห้องของเขาเข้ามาช่วยขนของให้ ตอนนี้พอจะย้ายออก คนข้างห้องคนเดิมก็กำลังช่วยเขาแพกของอยู่
   คิดแล้วก็เหมือนชะตาเล่นตลก ไม่คิดเลยว่าคนคนเดียวจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปได้มากมายถึงขนาดนี้
   ที่สำคัญ เขากลับสัญญาที่จะอยู่กับผู้ชายคนนี้ด้วยน่ะสิ
   เรื่องนี้จะเล่าให้ใครฟังไม่ได้เด็ดขาด เพราะคงจะเหลือเชื่อยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าแน่ๆ
   ขณะที่กำลังนั่งเก็บแผ่นซีดี ฟ่งก็พบว่า กล่องที่ซื้อมาไม่พอ เขาเลยหันไปบอกรูฟัส
   “รูฟัส เราต้องลงไปซื้อลังมาเพิ่มล่ะ ผมว่าผมไม่ค่อยได้ซื้ออะไรนะเนี่ย ทำไมถึงยังไม่พออีกนะ”
   “งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อให้แล้วกัน ร้านข้างล่างที่ซื้อกันตะกี้ใช่ไหมล่ะครับ คุณจะได้จัดของต่อ”
   ฟ่งนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ได้ๆ งั้นฝากด้วยนะ”
   “ครับ อย่าลืมนะ ห้ามเปิดประตูให้คนไม่รู้จักเด็ดขาดนะครับ” รูฟัสกำชับ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฟ่งนิ่วหน้า อยากจะเถียงว่าเขาไม่ใช่เด็กแล้วนะ เสียแต่รูฟัสปิดประตูไปก่อนนั่นแหละ เขาเลยต้องหันมาง่วนกับการจัดของต่อ
---------------------------------------------------------
   รูฟัสซื้อลังขึ้นมาอีกหกเจ็ดใบ ขณะเดินมาถึงหน้าประตูห้อง เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง หนุ่มตาสองสียกมือขึ้นเคาะประตู สักพัก มันก็เปิดออก หนุ่มสวมแว่นผมยุ่งคนเดิมเดินมาเปิดประตูให้เขา ก่อนจะยิ้มกว้าง “มาพอดีเลย”
   เขาว่า แล้วเปิดประตูให้รูฟัสเข้าไป พอเดินเข้าไปในห้อง หนุ่มตาสองสีก็แทบจะขว้างกล่องใส่สองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้อง เขาหันไปหาฟ่งซึ่งปิดประตูแล้วเดินเข้ามาสมบท ก่อนจะถามเสียงเข้ม
   “คุณเปิดให้พวกเขาเข้ามา?”
   ฟ่งพยักหน้า แล้วมองรูฟัสงงๆ “คุณราฟาแอลมาเยี่ยมคุณนะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ผมไม่ได้เปิดประตูให้คนไม่รู้จักเข้ามาเสียหน่อย”
   รูฟัสมองหน้าฟ่ง หลับตาลงอย่างคนยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ก่อนจะหันหน้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
   “ไง รูฟัส ไม่เจอกันแค่เดือนเดียว มาทำหน้าเหมือนเห็นปิศาจไปได้” ราฟาแอลว่า ขณะที่รัสเลอร์ซึ่งนั่งอยู่ตรงโซฟาอีกตัวพูดขึ้นบ้าง “รูฟัส นายเตรียมตัวให้ฟ่งเก็บของแล้วย้ายไปกับพวกเราใช่ไหม?”
   “ใครจะย้ายไปกับพวกนายไม่ทราบ!” รูฟัสพูดสวนออกไปทันที พลางนึกว่าปัญหาที่เขาไม่อยากให้เกิดที่สุด กำลังมาเกิดอยู่ตรงหน้าของเขาเรียบร้อยแล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รูฟัสนึกอยากย้อนเวลา แล้วพูดกับฟ่งใหม่ว่า นอกจากเขาแล้วห้ามเปิดประตูให้คนอื่นเด็ดขาด แต่ดูท่าว่าคงสายไปเสียแล้ว
   “รูฟัส ผมว่าเราควรไปกับคุณราฟาแอลนะ” ฟ่งที่ยืนอยู่ข้างเขาพูดขึ้นบ้าง คราวนี้รูฟัสตาเหลือก หันมามองทันที “ว่าไงนะครับ?!”
   “ผมว่า เราควรไปกับพวกเขานะ ผมฟังเรื่องที่คุณราฟแอลเล่าแล้ว เราอยู่เฉยๆ ไม่ได้หรอก”
   รูฟัสหันกลับไปมองราฟาแอลอีกรอบ “คุณเล่าอะไรให้เขาฟังน่ะ?!”
   ราฟาแอลยิ้มเจ้าเล่ห์ “ฉันแค่เล่าว่า ตอนนี้มีรัฐบาลประเทศC เกณฑ์เด็กๆ ไปฝึกอาวุธ เพื่อให้กลายเป็นกองกำลังพิทักษ์ประธานาธิบดี แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด เบื้องบนเลยส่งเราไปสืบก่อน ก็แค่นั้นแหละ”
   “นี่คุณรับงานเบื้องบนมาอีกแล้วเรอะ!!” รูฟัสโพล่งออกมา หันไปจ้องรัสเลอร์ ที่ยิ้มเผล่อยู่ ก่อนจะหันกลับมาหาราฟาแอลอีกรอบ “ไหนคุณบอกไม่ชอบทำงานร่วมกับเบื้องบนไง”
   “เออ แต่มันจะปฏิเสธได้ไหมล่ะ?!” ราฟาแอลย้อย “หรือแกกล้า”
   รูฟัสทำหน้าอึกอัก แต่ก็เถียงออกไป “ถึงงั้นก็เถอะ คุณก็ไม่น่าจะเอาเรื่องเก่าสมัยยี่สิบกว่าปีที่แล้วมาหลอกฟ่งแบบนี้ ไอ้จับเด็กไปฝึกอาวุธน่ะ”
   “เฮ้ย นี่ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ” ราฟาแอลตีหน้าเครียดขึ้นมาทันที “แกคิดว่าฉันอารมณ์ดีพอจะเอาอดีตพรรค์นั้นมาพูดล้อเล่นหรือไง!”
   รูฟัสอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขอโทษออกมา “อืม... แต่ผมล้างมือแล้วล่ะ คุณไปหาคนอื่นเถอะ”
   ราฟาแอลพยักหน้ายอมรับอย่างง่ายๆ “เออ ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ได้สมาชิกใหม่มาคนหนึ่งแล้ว คงพอใช้แทนแกได้หรอก”
   “อืม... ได้ใครมาล่ะ” รูฟัสพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ พลางนึกสงสัยว่าราฟาแอลได้คนแทนแล้ว ยังจะมาหาเขาทำไมอีกนะ
   “ผม” ฟ่งพูดขึ้น และยกมืออย่างภาคภูมิใจ “ผมว่าจะไปช่วยเขาล่ะ คุณรัสเลอร์บอกว่าที่นั่นเป็นอาคารลับ ค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่ จะให้ผมไปช่วยแยกข้อมูลให้”
   “!!!” รูฟัสหันกลับมามองฟ่ง แล้วจับไหล่เขาไว้อย่างลืมตัว “ว่าไงนะครับ คุณตกลงไปแล้วเหรอ?!”
   “อื้อ!” ฟ่งพยักหน้า รู้สึกตกใจกับแรงที่รูฟัสจับไหล่เขา “ก็เขามาขอให้ช่วยนี่นา ผมจะนิ่งดูดายได้ไงนะ แล้วก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กด้วยนะ ผมยังไม่ใจดำพอหรอก”
   รูฟัสชักนึกสงสัยว่าฟ่งหาว่าเขาใจดำทางอ้อมรึเปล่า หนุ่มสวมแว่นพูดต่อ “อีกอย่าง ไหนๆ คุณกับผมก็ต้องหาที่อยู่ใหม่กันไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว สู้ย้ายให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ถูกไหมล่ะ?”
   “ฟ่ง....” รูฟัสครางออกมา แทบจะอยากทรุดลงกองกับพื้น “ไหนคุณบอกว่าอยากให้ผมเลิกไง”
   “อืม...” ฟ่งพยักหน้า แต่ก็พูดแย้งขึ้น “แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องมนุษยธรรมนะ ถ้าคุณไม่อยากทำแล้ว ผมทำเองก็ได้ เดี๋ยวให้คุณราฟาแอลหาคนมาเพิ่ม ผมฝากดูบ้านด้วยแล้วกัน”
   “ฟ่ง!!!!” รูฟัสร้องเสียงลั่น ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างคนหมดสิ้นหนทางคิดต่อ ก่อนจะพึมพำอะไรบางอย่างที่ฟ่งฟังไม่รู้เรื่อง หนุ่มสวมแว่นขมวดคิ้ว “ตกลงคุณจะเอายังไงน่ะ? จะไปด้วยกันรึเปล่า?”
   รูฟัสเงยมองหน้าเขา ก่อนจะหันไปมองหน้าสองคนที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟา ถลึงตาใส่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะหันมาพูดกับฟ่งด้วยสีหน้าจำยอมอย่างที่สุด
   “ถ้าคุณไป ผมก็ไปครับ ยังไงผมก็อยู่กับคุณทุกที่อยู่แล้ว ผมปล่อยคุณไปคนเดียวไม่ได้หรอก”
   ฟ่งยิ้มร่า “ผมรู้ ว่าคุณเป็นคนดี” พูดจบก็กระโดดเข้ากอดรูฟัสทีหนึ่ง ชายหนุ่มรีบรวบตัวอีกฝ่ายไว้แล้วกอดแน่น ก่อนจะหันไปเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับสองคนที่นั่งอยู่
--------------------------------------------------------------------
(อวสาน)
** 555+ แล้วมันก็จบ... จนได้ เอิ๊กๆๆ

เรื่องนี้เปิดให้จองรวมเล่มตั้งแต่วันนี้ - 19ก.พ.55นะคะ พลาดรอบนี้ คาดว่าอีกนานกว่าจะรีปริ๊นค่ะ

ขอบคุณที่ให้การติดตาม และขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่อ่านเรื่องนี้จนจบนะคะ :L2: :L2:

ท่านเป็นนักอ่านที่อ่านเก่งมากค่ะ เพราะเนื้อหาเรื่องนี้ยาวราวๆ 1000หน้ากระดาษเอสี่เป็นอย่างต่ำค่ะ^^  :กอด1:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เฮ้อ ~ สรุปสองคนนี้ก็คงต้องผจญภัยไปเรื่อยๆสินะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่า สนุกมากเลย  :L2:

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13 o13 จองยังไงค่ะ จองในนี้ได้เลยรึป่าว

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
^ดูรายละเอียดหน้า15.เลยค่า

ส่งรายละเอียดมาทางเมลที่ลงไว้นะคะ^^

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
เป็นตอนจบส่งท้ายที่น่ารักมากๆค่ะ
อิจฉาคู่นี้จริงๆ :-[
แต่แอบฮารูฟัสมาก ฟ่งใสซื่อได้อีกแม้ในตอนท้ายเรื่อง
ดีใจที่รูฟัสกลับไปทำงานอีกครั้งเพราะมันตื่นเต้นอีกออก
+1 ประเดิมตอนจบค่ะ o13

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
จบลงอย่างที่คิด

แต่ที่ติด หนุ่มทางจีนอ่ะ
เป็นงัยบ้าง
หลังจากที่รับตำแหน่งแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
จบลงอย่างที่คิด

แต่ที่ติด หนุ่มทางจีนอ่ะ
เป็นงัยบ้าง
หลังจากที่รับตำแหน่งแล้ว

หาอ่านได้จากตอนพิเศษนะคะ (มีอยู่ในบล็อกและรวมเล่มค่ะ)

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
ทุกท่านคะ!!!!!!!!!!!

อิฉันเพิ่งได้พบข้อผิดพลาดมหันต์ที่ให้อภัยไม่ได้ของตัวเอง

เนื้อเรื่องช่วงบทที่81-83 ว่าด้วยเนื้อหาของเกรเกอรี

มันเป็นความบิดเบี้ยวผุพังด้านการวางพล็อตขั้นเทพของฉันเลยล่ะค่ะ (แบบว่า... อะไรมันจะรั่ว พัง ง่าวขนาดน้านนน :z3: :z3:)

ดังนั้น ในรวมเล่ม อิฉันจะแก้สามบทนี่ใหม่หมดทั้งดุ้นเลยนะคะ

ขออภัยในความมึนเมา และสะเพร่าด้วยค่ะTTATT

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ princessrain

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
อาาาาาาา
ในที่สุดก็จบซะที
ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องสนุกๆมาใหเอ่าน

จากใจเลยหนูชอบ เว่ยเฟิงปิง ที่สุดดดด ชอบคุ๋นี้มาก
ตรงโหวตด้านบนหนูก้โหวตเว่ยเฟิงปิง!!

คงเป็นเพราะเฟิงปิงในสายตาหนูมีบางอย่างคล้ายๆกับ คงฉ่วย...(เขียนชื่อผิดขออภัยนะคะT T)

ทำให้ต้องกลับไปอ่านนกยูงแดงอีกรอบนึงเพราะ อาเว่ยเฟิงปิงเชียวนะค๊าบบ  :z2:

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
อาาาาาาา
ในที่สุดก็จบซะที
ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องสนุกๆมาใหเอ่าน

จากใจเลยหนูชอบ เว่ยเฟิงปิง ที่สุดดดด ชอบคุ๋นี้มาก
ตรงโหวตด้านบนหนูก้โหวตเว่ยเฟิงปิง!!

คงเป็นเพราะเฟิงปิงในสายตาหนูมีบางอย่างคล้ายๆกับ คงฉ่วย...(เขียนชื่อผิดขออภัยนะคะT T)

ทำให้ต้องกลับไปอ่านนกยูงแดงอีกรอบนึงเพราะ อาเว่ยเฟิงปิงเชียวนะค๊าบบ  :z2:

เฟิงเฟิงน้อยเหมือนคงฉ่วย (ตรงไหน? ฮ่าๆ)  เฟิงเฟิงกับคงฉ่วยขี้วีนเหมือนกันใช่มั้ยคะ?? (ม่ายน๊า คงฉ่วยเค้าไม่ขี้วีนนะ ฮ่าๆ)

โอ๊ย อยากเขียนตอนพิเศษน้องงูน้อยอีกนะ แต่.. คิดไม่ออก= ="

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
เห้อ เรื่องนี้ต้องขอเมนท์แรงๆนิดนึง เป็นเรื่องแรกที่ใช้เวลาอ่านนานมากกว่า 4 วัน เพราะอ่านติดกันแล้วรู้สึก สำลักตัวอักษร

เนื้อเรื่องเล่าแบบผู้เขียนเป็นพระเจ้า ทราบในทุกจุดและทุกมุม
เล่าผ่านสายตาของบุคคลที่เกี่ยวข้อง สลับฉากกันเล่าในบางมุม หรือเล่าผ่านสายตาของพระเจ้าเองในบางจุด (ถ้าจำไม่สับสนนะ)
เขียนได้ดีครับ ไม่ค่อยสับสนมากนัก ถึงจะมีสลับในบางตอนถี่ยิบ
เนื้อหาค่อนข้างเยอะกว้างและกระจาย นี่ละคือสิ่งที่ผมกำลังจะแนะนำ แต่ไว้ก่อน ขอชมก่อน
ภาษา สมดุลดีและสม่ำเสมอ ไม่แหวกหรือฉีกไปมา พิมพ์ผิดบ้างเล็กน้อยไม่ว่ากันครับ
พล็อทเรื่องและคอนฟลิก เกือบดีครับ มีบางจุดที่ยังดูทะแม่งๆ แต่เข้าใจละ ว่านี่มันนิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ (ถ้ามีปราปริก้า)
ไทม์ไลน์ของเรื่องไม่นานนัก อยู่เกณฑ์ที่ดี เนื้อหาเข้มข้น

แต่ บางครั้งการเอ่ยภูมิหลังของเนื้อหา ใน 2 บทที่เป็นจุดเดียวกันให้ระวังเล่าต่างกัน
และสำคัญมากๆ มีบางจุดที่เอ่ยถึงว่าภายภาคหน้าอีก นานที่เขาจะมีชีวิตอยู่ แต่ทว่าสามบทถัดมา เขากลับตายไปซะละ
เป็นจุดที่จะสร้างความสับสนได้ หรือแม้กระทั่ง การสลับฉาก สลับคนเล่ามากไป
ก็อาจทำให้ผู้อ่านสงสัยกับห้วงเวลาที่เกิด เช่น ช่วงเวลาที่มีการปฏิการครั้งสุดท้ายในห้องลับ

ที่อยากแนะนำเพิ่มนะครับ พล็อทหลักและพล็อทรอง คอนฟลิกของแต่ละตัวละคร มันมากจริงๆ
มันแย่งซีนกันเองจนบางครั้งแยกไม่ออก ว่าอะไรหลักอะไรรอง ดูเด่นและสำคัญๆเหมือนกันหมด

ลองถามคำถามดูว่าทำไมเรื่องนี้ยาวนัก คำตอบคือ มีหลายคู่มาก และมีทั้งเรื่องอดีต เรื่องปัจจุบัน เนื้อหาจึงยาวมาก
และตัวอักษรเยอะๆ มากๆนี่แหละ ทำให้คนอื่านท้อได้ครับ คนที่ไม่เข้มแข็งพอกับการอ่าน อาจจะเลิกและถอดใจ
ดังนั้น ถ้าผมจะแนะนำว่าเขียนอย่างไรให้น่าสนใจ ตัดเนื้อหาลงครับ สโคปเฉพาะคู่หลักก่อน
ส่วนเนื้อหาที่ปลีกย่อยของคู่อื่นๆ แนะนำให้ใช้การตัดทิ้งแบบปริศนา หรือเขียนพาดไว้แต่ไม่เอ่ยต่อ ทิ้งให้คนสงสัย
เพื่อเป็นฐานให้เราเขียนภาคสอง เรื่องราวของเว่ยจินหยิน หรือ ภาคสาม เรื่องราวของเว่ยเฟิงปิง
หรือ ภาคสี่ เรื่องราวของวรุต หรือ ภาคห้า เรื่องราวของศึกรักตระกูลชิง

แบ่งซอยออกมาให้พอดีๆ มันจะน่าอ่านขึ้นมาก แน่นอนว่าฝีมือ สำนวนการเขียนของคุณดีอยู่แล้ว
การทิ้งไว้แบบปริศนา เพื่อให้คนสงสัยและอยากรู้จนอ่านต่อให้เล่มภาคใหม่ เป็นอะไรที่น่าทำอยู่ครับ
เพื่อลดทอนความยาวของเล่ม ของตัวอักษรและจำกัดเหตุการณ์รวมทั้งเน้นพล็อทหลักและคอนฟลิกให้ชัดเจนขึ้น

เป็นครั้งแรกที่อยากแนะนำจากใจจริงและลงทุนเขียนยาวๆ ถึงผมเองจะไม่ได้มีผลงานออกมาให้ได้อ่านกันมาก
แต่ก็ผ่านการอบรมงานเขียนหลายครั้ง รวมทั้งอ่านมามากมายจริงๆ จึงอยากใช้ประสบการณ์ที่มีแนะนำให้ผู้เขียนที่ดีอยู่แล้ว
ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ดีเยี่ยมมากขึ้นครับ

ปล. เมื่อบ่ายคงมีคนบนบีทีเอสหาว่าผมบ้าบ้างละ อ่านนิยายบนบีทีเอสแล้วหน้าแดง แอบอมยิ้ม หัวเราะ คนเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2012 22:21:44 โดย express_men »

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
เห้อ เรื่องนี้ต้องขอเมนท์แรงๆนิดนึง เป็นเรื่องแรกที่ใช้เวลาอ่านนานมากกว่า 4 วัน เพราะอ่านติดกันแล้วรู้สึก สำลักตัวอักษร

เนื้อเรื่องเล่าแบบผู้เขียนเป็นพระเจ้า ทราบในทุกจุดและทุกมุม
เล่าผ่านสายตาของบุคคลที่เกี่ยวข้อง สลับฉากกันเล่าในบางมุม หรือเล่าผ่านสายตาของพระเจ้าเองในบางจุด (ถ้าจำไม่สับสนนะ)
เขียนได้ดีครับ ไม่ค่อยสับสนมากนัก ถึงจะมีสลับในบางตอนถี่ยิบ
เนื้อหาค่อนข้างเยอะกว้างและกระจาย นี่ละคือสิ่งที่ผมกำลังจะแนะนำ แต่ไว้ก่อน ขอชมก่อน
ภาษา สมดุลดีและสม่ำเสมอ ไม่แหวกหรือฉีกไปมา พิมพ์ผิดบ้างเล็กน้อยไม่ว่ากันครับ
พล็อทเรื่องและคอนฟลิก เกือบดีครับ มีบางจุดที่ยังดูทะแม่งๆ แต่เข้าใจละ ว่านี่มันนิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ (ถ้ามีปราปริก้า)
ไทม์ไลน์ของเรื่องไม่นานนัก อยู่เกณฑ์ที่ดี เนื้อหาเข้มข้น

แต่ บางครั้งการเอ่ยภูมิหลังของเนื้อหา ใน 2 บทที่เป็นจุดเดียวกันให้ระวังเล่าต่างกัน
และสำคัญมากๆ มีบางจุดที่เอ่ยถึงว่าภายภาคหน้าอีก นานที่เขาจะมีชีวิตอยู่ แต่ทว่าสามบทถัดมา เขากลับตายไปซะละ
เป็นจุดที่จะสร้างความสับสนได้ หรือแม้กระทั่ง การสลับฉาก สลับคนเล่ามากไป
ก็อาจทำให้ผู้อ่านสงสัยกับห้วงเวลาที่เกิด เช่น ช่วงเวลาที่มีการปฏิการครั้งสุดท้ายในห้องลับ

ที่อยากแนะนำเพิ่มนะครับ พล็อทหลักและพล็อทรอง คอนฟลิกของแต่ละตัวละคร มันมากจริงๆ
มันแย่งซีนกันเองจนบางครั้งแยกไม่ออก ว่าอะไรหลักอะไรรอง ดูเด่นและสำคัญๆเหมือนกันหมด

ลองถามคำถามดูว่าทำไมเรื่องนี้ยาวนัก คำตอบคือ มีหลายคู่มาก และมีทั้งเรื่องอดีต เรื่องปัจจุบัน เนื้อหาจึงยาวมาก
และตัวอักษรเยอะๆ มากๆนี่แหละ ทำให้คนอื่านท้อได้ครับ คนที่ไม่เข้มแข็งพอกับการอ่าน อาจจะเลิกและถอดใจ
ดังนั้น ถ้าผมจะแนะนำว่าเขียนอย่างไรให้น่าสนใจ ตัดเนื้อหาลงครับ สโคปเฉพาะคู่หลักก่อน
ส่วนเนื้อหาที่ปลีกย่อยของคู่อื่นๆ แนะนำให้ใช้การตัดทิ้งแบบปริศนา หรือเขียนพาดไว้แต่ไม่เอ่ยต่อ ทิ้งให้คนสงสัย
เพื่อเป็นฐานให้เราเขียนภาคสอง เรื่องราวของเว่ยจินหยิน หรือ ภาคสาม เรื่องราวของเว่ยเฟิงปิง
หรือ ภาคสี่ เรื่องราวของวรุต หรือ ภาคห้า เรื่องราวของศึกรักตระกูลชิง

แบ่งซอยออกมาให้พอดีๆ มันจะน่าอ่านขึ้นมาก แน่นอนว่าฝีมือ สำนวนการเขียนของคุณดีอยู่แล้ว
การทิ้งไว้แบบปริศนา เพื่อให้คนสงสัยและอยากรู้จนอ่านต่อให้เล่มภาคใหม่ เป็นอะไรที่น่าทำอยู่ครับ
เพื่อลดทอนความยาวของเล่ม ของตัวอักษรและจำกัดเหตุการณ์รวมทั้งเน้นพล็อทหลักและคอนฟลิกให้ชัดเจนขึ้น

เป็นครั้งแรกที่อยากแนะนำจากใจจริงและลงทุนเขียนยาวๆ ถึงผมเองจะไม่ได้มีผลงานออกมาให้ได้อ่านกันมาก
แต่ก็ผ่านการอบรมงานเขียนหลายครั้ง รวมทั้งอ่านมามากมายจริงๆ จึงอยากใช้ประสบการณ์ที่มีแนะนำให้ผู้เขียนที่ดีอยู่แล้ว
ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ดีเยี่ยมมากขึ้นครับ

ปล. เมื่อบ่ายคงมีคนบนบีทีเอสหาว่าผมบ้าบ้างละ อ่านนิยายบนบีทีเอสแล้วหน้าแดง แอบอมยิ้ม หัวเราะ คนเดียว

ขอบคุณสำหรับคำติชมค่ะ (สำหรับคำตินี่ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ)

อนึ่ง เรื่องนี้เป็นนิยายที่เริ่มเขียนเป็นเรื่องแรกค่ะ ยอมรับอย่างศิโรราบว่าทุกอย่างที่ท่านผู้อ่านติมา เป็นจริงทุกประการ

แต่เรามีความคิดส่วนตัวว่าอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นที่ระลึก (มันคล้ายๆ บันทึกการเขียนนิยายของเรา นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราใช้เรียนรู้การวางพล็อต การเล่าเรื่อง และอื่นๆ อีกมากมาย) เลยไม่อยากจะแก้ไขอะไรมาก (แต่ก็แก้ไปเยอะมากสำหรับรวมเล่ม)

เอาจริงๆ แล้วเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่ตั้งใจจะขายให้ติดตลาดสักเท่าไหร่ (ที่จริงตอนเริ่มเขียนก็แค่ว่าอยากน่ะค่ะ)

และเนื่องจากเนื้อหาเกือบ90%รวมเล่มไปหมดแล้ว (ตอนนี้มันก็ใกล้จะรวมครบแล้วล่ะค่ะ)

เพราะงั้น... เราจะใช้วิธี เอาเนื้อหาเรื่องนี้ไปปูดในเรื่องหลังๆ ที่เราเขียน แล้วให้คนพยายามกลับมาอ่านเรื่องนี้แทน(โดนเตะ)

ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างนะคะ แค่ท่านผู้อ่านอ่านจบ ดิฉันก็ดีใจและนับถือมากๆ แล้วค่ะ

ส่วนเรื่องที่ติมา จะพยายามนำไปแก้ไขในเรื่องต่อๆ ไปนะคะ^^ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

ขอบคุณนะคะ^^

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
ยินดีครับ

ผมชื่นชมนะ สำหรับคนที่เขียนได้จบ และยาวขนาดนี้ ด้วย นับถือเลยละ

หลายๆคนที่ไม่เคยเขียนอาจจะคิดว่ามันไม่ยาก แต่ผมว่ามันเป็นอะไรที่ต้องใช้ พลังกาย พลังใจ และพลังทางความคิดมากๆ

เคยขีดๆเขียนๆไว้เหมือนกัน บรรดาอาจารย์นักเขียน ก็ชื่นชอบพล็อท แต่ปัยหาเดียวคือ เขียนไม่จบ นี่ละ ...  :z1:

เลยชื่นชมครับ ยังไงจะรอติดตามอ่านผลงานเรื่องหน้า ต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ ENG❤LUCKY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
อ่านจบแล้วววววววว
ดีมากๆ เลย ติดเรื่องนี้ที่สุด ต้องมาตามอ่านให้จบให้ได้ T T
ติดบ่วงมากจากผีเสื้อค่ะ 555555

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เรื่องยาวมากกว่าจะอ่านจบเล่นเอาเหนื่อยเลย
แต่สนุกครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bookoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กว่าจะอ่านเรื่องนี้จบกินเวลาไปเกือบเดือน เป็นนิยายที่เราติดงอมแงมเลยค่ะ
ถูกใจทั้งภาษาเขียน ทั้งการเล่าเรื่อง ถึงเรื่องนี้จะมีหลายตัวละครแต่ว่าสำหรับเราทุกตัวละครมันโดดเด่นแตกต่างกันหมดเลย
เหมือนกับว่าถ้าไม่มีคนนี้ คนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เขียนได้ดีมากๆ
ประทับใจการบรรยายฉากบู๊  ฉากรักและฉากเรท 5555555
เพิ่งเคยได้อ่านฉากเรทที่กินหน้าไปเกือบสามหน้า อู๊ววว จุใจ 55555555
ขอบคุณมากที่เขียนนิยายดี ๆ อย่างนี้ออกมาให้ได้อ่านกันนะคะ :pig4: แอบเสียใจที่ต้องจบ ; w ;
จะติดตามนิยายของคุณไปเรื่อยๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ nishiauey

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่า สนุกมากเลย

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
ใช้เวลาอ่านเป็นเดือนเลยค่ะกว่าจะ happy ending เรื่องสนุกมาก ถึงจะยาวแต่ไม่เบื่อเลยค่ะ เขียนได้น่าติดตามมีทั้งบู้ รัก ดราม่า เรียกว่าครบรส เก่งจริงๆนะคะสำหรับคนเขียนเรื่องแรกแล้วทำออกมาได้ขนาดนี้

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้นะคะ :pig4:

netsu

  • บุคคลทั่วไป
จบได้น่ารักมากค่ะ ฮิฮิ o13
เดาใจฟ่งไม่ถูกเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
อ่านจบทั้งซีรี่ส์แล้วค่ะ สนุกมากๆ แต่งเก่งมาก ยาวสะใจหนอน 555
อ่านแบบลืมวันลืมคืน เนื้อเรื่องมีปมปริศนาให้ตามแกะไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย
ชอบตัวละครทุกตัวเลย
ฟ่งน่ารักติสท์แตก สับสนในตัวเอง :really2: แต่ถ้าตัดสินใจแล้วก็แน่วแน่มาก
รูฟัสสายลับหล่อเท่ :m19: โกหกเก่ง แต่เพื่อฟ่งแล้วยอมทุกอย่าง เลิฟฟ่งมากมาย ฮิ้วว~
เว่ยเฟิงปิง เคะราชินี  :a14: เชิดๆ หยิ่งๆ วีนๆ โหยหาความรัก ฮาคู่นี้ ซื่อเยี่ยนไม่ค่อยได้ดั่งใจ ทำราชินีหงุดหงิดตลอด 555
เว่ยจินหยิน จิ้งจอกเลือดเย็น เก๊กนิ่งได้ตลอด ยอมทำชั่วเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อ(เศร้า :monkeysad:)
แต่โหวตให้เถียนซานผู้สุภาพ อ่อนโยน แต่เก่งกาจเหลือเชื่อ (อิจฉาจินหยินอ่ะ) :o8:
กับโหวตให้ซื่อเยี่ยน ซื่อๆ ถึกๆ ทื่อๆ แต่รักจริง ภักดี แล้วตอนต่อสู้ก็ไม่ทื่อนะ เก่งเท่ไม่เลว o13
 :pig4: :pig4: :pig4:
+vote+เป็ด

mazz

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากค่ะเรื่องนี้  สนุกจนต้องอ่านจนจบ  แต่พอถึงตอนจบกลับไม่อยากให้จบซะงั้น :laugh:  อยากจะรู้ต่อไปว่าถ้าทั้งสี่คนมาทำงานด้วยกันจะน่าติดตามขนาดไหน  แล้วก็อยากรู้เรื่องของวรุตกับอิทธิเดชด้วยค่ะ  ว่าจะเป็นไงต่อไป

แต่เสียดายจังเลยค่ะที่จองหนังสือไม่ทัน  คงต้องรอรอบหน้า 

ขอบคุณมากนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆ มาให้อ่าน  มีครบทุกรสชาติจริงๆ ค่ะ o13   

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
สนุกมากค่ะเรื่องนี้  สนุกจนต้องอ่านจนจบ  แต่พอถึงตอนจบกลับไม่อยากให้จบซะงั้น :laugh:  อยากจะรู้ต่อไปว่าถ้าทั้งสี่คนมาทำงานด้วยกันจะน่าติดตามขนาดไหน  แล้วก็อยากรู้เรื่องของวรุตกับอิทธิเดชด้วยค่ะ  ว่าจะเป็นไงต่อไป

แต่เสียดายจังเลยค่ะที่จองหนังสือไม่ทัน  คงต้องรอรอบหน้า 

ขอบคุณมากนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆ มาให้อ่าน  มีครบทุกรสชาติจริงๆ ค่ะ o13   


หนังสือยังหาซื้อได้อยู่ที่ร้านแดทวายนะคะ (แต่จะไม่ได้art bookที่เป็นของแถมพิเศษค่ะ)

ออฟไลน์ FFS_Yaoi

  • นู๋ยังว่างมาจีบนู๋บ้างก็ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
 o13 o13 o13

จบแล้ววววววววววววววววววววววววววว
88ตอน เรื่องนี้มีทุกความรู้สึกมีทุกอารมณ์เลย

แต่ชอบฟ่งมากเลยยยยยย เป็นตัวละครที่ดูธรรมดา แต่มีความไม่ธรรมดาในตัวเอง
ถึงขนาดทที่สาบลับยังคิดไม่ออกบอกไม่ถูก

ไงก็เป้นกำลังใจให้ค่ะ แล้วก็ตอนนี้ตามอ่าน เรื่องครูผมเป็นมาเฟีย M & M อยู่ แบบกรี้ดพี่เฆมมากกกก
ไม่มีเมพตนใด เกรียนหื่นได้เท่าพี่แกละ

 o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1

โค้งงามๆให้คนเขียน  นับถืบในความคิดและจิตนาการของท่านมากกกก
นับเป็นไอดอล เสมอพี่ตา มณีจัทร์เลย


ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
^ ขอบคุณที่อ่านจบจบค่ะ^^

ปล. เรื่องพี่เมฆ อิฉันไม่ได้เขียนนะคะ แต่ก็ติดตามอยู่ค่ะ พี่เมฆแกกวน teenเป็นที่หนึ่งจริงๆ ฮ่าๆๆ :laugh:

GggG

  • บุคคลทั่วไป
จากแอ๊คชั่น ไซไฟ ปรับอารมณ์มาเป็นโรแมนติกกึ่งนำเที่ยว
เรื่องสนุก ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ที่สำคัญจบแบบแฮปปี้ทุกคู่ ทุกคน  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด