47 ครึ่งแรก ...
-ปอนด์-
กี่วันแล้ว.... ที่สลัดเอาความกลัวของตัวเองออกไป....
พยายามแล้วที่จะไม่คิดมาก ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค... รู้แค่ว่าวันนี้ผมทำดีที่สุดแล้ว
บางทีการเปลี่ยนบทบาทมาเป็นรับบ้างอาจจะไม่ได้เลวร้าย...(มั้ง) แต่ผมก็ยังไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากมายถึงขนาดนั้น ขนาดที่มีคนชมว่าน่ารัก... หรือมองว่าอ่อนหวาน... ยิ่งฟังก็ยิ่งขัดใจ...
แต่ไอ้คนตรงหน้านี่สิ มองแล้วขัดตาเข้าไปใหญ่ เคยเจอกันในแบบโหดหื่นไม่รู้เท่าไร พอเปลี่ยนมาเป็นโหมดใหม่ ทำเอาไปไม่เป็น....
“ตรงนี้....” น้ำเสียงอ่อนหวานกับสัมผัสอันแผ่วเบาที่พร่างพรมลงบนผิวเนื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำเอาผมไม่อยากขยับหนีไปไหน ตุลย์ในโหมดหวานทำเอาผมพูดไม่ออก... ที่ผ่านมาก็มีบ้างเหมือนกันที่มันเกิดนึกใจดี... แต่ผมซะอีกชอบขัดซะทุกที... คงเพราะกลัวว่าความใจดีอาจจะทำให้เราเคยตัว ทั้งที่ความจริง ผมอาจจะชอบ....
“อืม....” ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองนัก.... เผื่อว่าจะไม่เปล่งเสียงน่าอายแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก... แต่ก็ได้แต่คิด....
“พอแล้วๆ... กูยอมก็ได้...” เป็นครั้งที่เท่าไรที่แพ้ บางครั้งแพ้ต่ออารมณ์ บางครั้งแพ้ใจตัวเอง
“ยอมอะไร?”
“ยอมรับว่ากูน่ารัก ... เลิกแกล้งกูสักทีได้ไหม?” ผมโพล่งออกไปอย่างเหลืออด...
“อะไร ใครแกล้ง... ไม่มี้” ผมเห็นรอยยิ้มสนุกสนานของมันแล้วพาลให้หงุดหงิด...
“ถ้าไม่ได้แกล้ง ก็ปล่อยซะทีสิ” มันกอดผมอยู่นานแล้ว... ปากก็ไล่จูบจากแก้มจนต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกระดุมเสื้อถูกปลดจนเม็ดสุดท้ายแล้ว
“จะรีบไปไหน.... ทำรักอยู่ไม่เห็นเหรอ?” ท้ายประโยคเป็นจูบที่จรดลงบนหน้าผาก ใช้ฝ่ามือกดไหล่ผมให้นั่งลงกับเตียง... ส่วนตัวมันย่อตัวลงไปนั่งลงที่พื้นห้อง แหงนเงยหน้าขึ้นมองหน้า พลางแตะมือลงที่เข็มขัดตรามหาวิทยาลัย
“อย่าเลย แผลยังไม่หายดี...” พยายามผลักไหล่มันออกไป
“ดีขึ้นเยอะแล้ว....” มันเถียง ปลดเข็มขัดออกได้สำเร็จ
“แต่กูหิวแล้วนะ.... ไม่หาอะไรกินกันก่อนเหรอ?” ผมต่อรองเสียงอ่อน...
“กินมึงก่อน...ดีกว่า....” ผมเห็นมันยิ้ม....ด้วยแววตาสดใสเหมือนเด็กน้อยยามได้ของเล่น... หรือไม่ก็เหมือนกระต่ายเวลาเห็นขนมปังของชอบวางอยู่ตรงหน้า
แล้วถ้าเป็นคุณ.... มาอยู่ตรงนี้แทนผม....คุณจะผลักไสมันได้ลงคอหรือ??
เชื่อผมสิว่าไม่ลง.....แน่นอน
ผมถอนหายใจยาวๆ หนึ่งทีอย่างปลงชีวิตแล้วเป็นฝ่ายก้มหัวลงไปหามันก่อน ปลายนิ้วทั้งสิบนวดเคล้นอยู่ที่ต้นคอของมันระหว่างแลกลิ้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา.... ส่วนมือของมันดันมาหยุดอยู่ตรงตุ่มตมตรงหน้าอกผม...ช่างเป็นอะไรที่ไม่เท่าเทียม...
“อืม....” ผมลืมตาขึ้นเมื่อมันเป็นฝ่ายถอนตัวออกจากรสจุมพิตอันบ้าคลั่งที่ผมหยิบยื่น จนรู้สึกริมผีปากเปราะเลอะน้ำลายไปอย่างไม่ตั้งใจ ผมมีเวลางุนงงสงสัยได้เพียงครู่เดียวก่อนที่ร่างที่นั่งอยู่กับพื้นจะยืดสูงขึ้นแล้วกระโจนผลักผมหงายหลังลงไปบนเตียงกว้าง....
ตึกตัก ตึกตัก....
ผมอยากบังคับใจตัวเองให้เต้นช้าลง และเบาลงกว่านี้อีกนิด ด้วยกลัวว่ามันจะรู้ว่าผมตื่นเต้น หายใจไม่ทั่วท้องเมื่อนอนสบตามันที่เท้าแขนคร่อมร่างผมไว้....
“มึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย...”
“อะไร...”
“มึงชอบห้ามกูไม่ให้ทำนั่นทำนี่ แต่พอมึงอยากทำ..มึงก็....”
“ก็อะไร....”
แววตาไหวระยับบวกกับริมฝีปากที่ยกยิ้มทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ มันไม่ได้ต่อประโยคที่ขาดหายให้จบแต่กลับก้มศีรษะลงมาหา ผมเผลอหลับตาลงเพราะคิดว่ามันจะจูบ ที่ไหนได้มันกลับไปโจมตีที่ซอกหูผมแทน
“ฮื้อ.....” ผมดิ้นขลุกขลัก ไม่แน่ใจว่าจะเสียวหรือจั๊กจี้ดี... รู้แค่ไม่ชอบ....
“อย่า....ดิ....”
“มึงบ้าจี้เหรอ?”
“เปล่า.... แต่ไม่ชอบ...”
“แต่กูชอบนี่....” มันหัวเราะชอบใจ มาอีกแล้วสินะไอ้นิสัยเอาแต่ใจเนี่ย....ทำไมแก้ไม่เคยหายสักทีนะ ไอ้กระต่ายฮิตเลอร์เอ๊ย...
“โรคจิตเรอะ....อย่าเลียตรงนั้น ไม่งั้นกูไม่ให้ทำแล้วนะ”
“ละมึงจะหนีกูได้เหรอ...” คำถามมีแววขบขันทีเล่นทีจริง ใช่สิ... ก็ตอนนี้มันขยับมานั่งคร่อมท้องผมแล้วทั้งน้ำหนักตัว ทั้งแรงควายก็รู้อยู่ผมหนีมันไม่พ้นแน่อยู่แล้ว...
“ก็ไม่หนีหรอก แต่ถ้าแกล้งกูอีก...กูจะเลิกรักมึงแล้ว...”
รอยยิ้มที่ค้างอยู่บนในหน้าของมันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแปลกใจแล้วกลับมาเป็นยิ้มบางๆ พลางซบหน้าลงมาที่ซอกคอผมนิ่งนาน นานจนผมแปลกใจ
“ตุลย์.....เป็นไร”
“เปล่า...” มันตอบผงกหัวขึ้นมายิ้มให้ แล้วก้มลงจูบแก้มผม
“มึงแม่ง.... น่ารักชิบ...” น่ารักอะไรวะ งง
“อะไรของมึง...” มันไม่ตอบคำถามเอาแต่จูบไซร้ซอกคอผมไปเรื่อยเปื่อย ด้วยความรู้สึกเพลินดีเลยขี้เกียจถามต่อ ปล่อยให้มันโรมรันพันตูไปอย่างนั้น....
อารมณ์มันค่อนๆไต่ระดับพุ่งสูงขึ้นตามปลายลิ้นที่ลากต่ำลงไปเรื่อยๆ แต่แล้วมันก็ชะงัก....
“เงียบคืออะไร ชอบ...ไม่ชอบ...” ผมลืมตาขึ้นมองเพดานห้องอย่างเซ็งนิดๆ ไอ้ตุลย์เป็นพวกสนใจความรู้สึกคนอื่นตั้งแต่เมื่อไรเหรอ
“ไม่ชอบก็บอกเองล่ะ....” ผมตอบกวนๆ บางทีก็ไม่เข้าใจทำไมมันชอบชวนคุยเวลาแบบนี้ทุกที เวลาที่แบบกำลังได้อารมณ์.... กำลังเคลิ้มๆ
“มึงเก็บความรู้สึกเก่งเกินไป....มึงไม่รู้หรอกกูอยากได้ยินเสียงมึงครางบ้างอะไรบ้าง...”
“โรคจิต....”
“ก็เป็นมาตั้งนานละ เพิ่งรู้หรือไง....”
“อยากได้ที่ครางเก่งๆ ไปหานางเอกเอวีไป”
“กูไม่อยากฟังเสียงคนอื่นนี่”
“เรื่องมาก...จะทำไม่ทำ ไม่ทำก็ลุกไปเลยไป....” เริ่มเหวี่ยงเล็กๆ
“ทำสิ หงุดหงิดอะไร”
“จะทำก็รีบทำสิ บอกแล้วว่ากูหิวข้าว...”
“มึงโมโหหิวขนาดนั้นเลย งั้นกินข้าวก่อนก็ได้...”
ว่าไงนะ...... คือมีเหรอที่กระต่ายไม่หื่นได้.... หูฝาดไปป่ะเนี่ย???
“ป่ะ กินข้าวก่อนก็ได้ เป็นไรล่ะ ไม่ทำละไง.....มาดิ....” มันลุกขึ้นไปยืนข้างเตียงแล้วยื่นมามือให้เป็นเชิงว่าจะให้ลุกขึ้น
ผมมองหน้ามัน.... แล้วก็พูดอะไรไม่ออก อยากบอกว่าผมก็เร่งไปอย่างนั้นเองเพราะมันลีลาเรื่องมาก ผมไม่คิดว่ามันจะยอมหยุดจริงๆ และที่สำคัญกว่านั้น ผมจะบอกมันออกไปได้ยังไง ว่ามันทำให้ผมอารมณ์ค้าง...
.
.
.
.
.
พากัน “ค้าง” เป็นเพื่อนปอนด์ สักคืน....ละกัน เดี๋ยวปอนด์ เหงา
