เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมเขียนนะคับ ผมโพสไว้ในบอร์ดปาล์มแล้ว มีคนแนะนำบอร์ดนี้คือคุณ ไอ่ jaa เลยเอามาลงดู
มันเป็นเรื่องแต่งจากประสบการณ์จริงนะคับ ไม่ได้เจตนาพาดพิงอะไรถึงใคร หรือสถานที่ใด
*****************************************************************************************************************
ตอนที่ 1 : หวัดดีคับ
...ความรู้สึกแปล๊บๆ เกิดขึ้นมาเมื่อครู่ อ้าว มีความรักแล้วสิกรู เจ็บตั้งแต่แรกเลยเว้ย หุหุ...
ผมนึกในใจเมื่อเห็นใครบางคนเดินผ่านห้องเรียน ขณะตัวเองกำลังตั้งใจฟังเดอะแก๊งคุยกันเรื่องเด่นเย็นนี้ ว่าด้วยประเด็น 'สถานที่ดื่มแอลกอฮอล์'... จริงๆ มันก็ไม่จำเป็นต้องคิด เครียด เถียงอะไรกันมากมายเลยนะ เพราะร้านที่พวกผมไปกันประจำน่ะ ก็มีแค่ร้านเดียวเสียวได้อยู่แล้ว เถียงกันให้ตาย พวกมึงก็ไม่พ้นร้านนี้หรอกเว้ย แต่ผมก็ยังคงหันกลับไปแสดงความคิดเห็นอยู่ดี หลังจากเสียวแปล๊บๆ เมื่อเห็น 'ไอ้น่ารัก' คนหนึ่ง เดินลับตาผ่านไปเมื่อกี๊
“เฮ้ย กูว่าๆ วันนี้เปลี่ยนร้านดีกว่าว่ะ เบื่อๆ แม่งวันเกิด กีฬาสี ปีใหม่ พวกมึงก็ไปกันแต่ร้าน...” เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งเสนอความคิด ก่อนจะโดนเบรกตั้งแต่คิดยังไม่เสร็จ
“แหมมึง ทำยังกับมึงอายุถึง เข้าร้านไหนก็ได้งั้นแหละ มีร้านเหล้าให้นั่งนี่ก็ดีแล้ว อย่าเรื่องมาก” เหตุผลเดิมๆ ที่ใช้กันมาหลายต่อหลายครั้ง และทุกครั้งไอ้เหตุผลข้อนี้ก็ยังคงทำให้พวกผมมองหน้ากันไปมาก่อนเปลี่ยนเป็นสีอันเศร้าสลดในชะตาชีวิตสุดรันทดของเด็กวัยมัธยม
“แม่ง 20 เมื่อไหร่กูจะเที่ยวให้กระจายเลย!!!” เสียงคุ้นๆ แฮะ อ่อ ดังก้องอยู่ในหัวกรูนี่เอง
“เออๆ ตกลงคืนนี้ที่เดิม อย่าเรื่องมากๆ กูลงไปหาไรแดกละ หิว” เสียงไอ้ตัวโตประจำกลุ่มกล่าวปิดประชุม ก่อนจะเดินออกนอกห้องเรียนไป ที่เหลือต่างแยกย้าย และเป็นอันรู้กันว่า 'ที่เดิม' คือที่ใด
ผมดูเวลา อ่ะเหลืออีกตั้งเกือบ 20 นาทีนี่หว่า กูต้องไปเดินเตร็ดเตร่หน่อยและ จริงๆ น่ะ คือจะไปสืบเสาะหาเบาะแสดูว่า ไอ้คนเมื่อกี๊ที่เดินผ่านห้องเรียนไปน่ะ มันคือใคร ทำไมช่างหน้าตาไม่คุ้นสมอง...แต่หน้าแบบนั้นใจกรูอยากคุ้นละ หุหุ แผนชั่ว
แล้วจะไปยากอะไรละคร้าบ แค่ทำทีเดินไปทักทายเพื่อนห้องโน้น น้องห้องนี้ ละรายทางไปเรื่อยๆ แต่แล้ว...แม่ง เดินจนทั่วละ ไม่เห็นมีเลยวะ เอ...หรือแม่งไม่ได้อยู่ชั้นนี้วะ ถึงยังไงกูก็ต้องหาให้เจอ จอมมารหน้าหยกอย่างผมไม่มีวันยอมแพ้อยู่แล้ว หึหึ แล้วสองเท้าก็ก้าวลงบันไดจากชั้นสี่ลงไปชั้นสาม แต่ชั้นนี้ผมไม่ค่อยรู้จักใครเท่าไหร่ เพราะเป็นห้องเรียนของพวกรุ่นน้อง ม.4 (ผมม.6 แล้วน่ะ ขาใหญ่ๆ หุหุ)
มองซ้ายมองขวา แม่งเอ้ย...หายตัวไวจังวะ พื้นที่โรงเรียนก็ช่างกว้างเท่าตรอกแมว ไอ้บ้านั่นมันไปซ่อนที่ไหนวะ
ขณะสายตากำลังเล็งเข้าไปในแต่ละห้องที่เดินผ่านประดุจเหยี่ยวมองหาเหยื่อ (น่ากลัวไปป่าวหว่า) หางตาอันแหลมคมก็เหลือบไปเห็นหน้าเล็กๆ ปากบางๆ จมูกนิด ตาหน่อย ไอ้นั่นน้อย ไอ้นี่นิด...หึหึ
เอาเป็นว่าไอ้น่ารักมันอยู่ในกำมือแล้วครับผม หน้าใสๆ ซื่อๆ เดินออกมาจากห้องสมุด โหยยย นี่มึงเข้าห้องสมุดร้างนั่นด้วยหรอวะ เหี้ยมึงรู้มั้ย แม่งกูนี่เกือบลืมไปแล้ว ว่าโรงเรียนตัวเองยังมีห้องสมุดอยู่ ไม่ได้ยินชื่อนี้มานาน นึกว่ายุบเป็นห้องอะไรไปซะและ เหอะๆ
ว่าแต่แม่งไปทำไรในนั้นวะ กูไม่เชื่อแน่ๆ หน้าตาแบบนี้แม่งจะเข้าไปอ่านหนังสือ ถึงจะขาว ตี๋ ดูเรียบร้อยแต่แววตานี่ไม่ใช่เด็กเรียนแน่ๆ กูฟันธง!
พอเห็นเป้าหมายค่อยๆ มุ่งหน้ามาทางฐานทัพที่ผมดักซุ่มอยู่ ก็เลยกระโจนตะครุบ จำปล้ำแม่งตรงนั้นเลย แหะๆ (ในความคิดนะ) ความจริงน่ะ หงอคร้าบ
ว่าแล้วก็แกล้งเดินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็กะจะตามมันไปต่อ จะได้รู้ว่าเรียนห้องไหน และแล้ว…
“เฮ้ยไอ้เซน มาด้อมๆ มองๆ อะไรแถวนี้วะ ห้องเรียนมึงน่ะชั้นสี่ไม่ใช่หรอ ไป กลับไป ไอ้นี่หนิ” โอ้เพื่อนสุดที่เลิฟผมนั่นเอง จะใครที่ไหนล่ะเสียงแบบนี้ หวัดดีคร้าบ...อาจารย์ปกครอง เพื่อนสนิท ไข่ย้อย อ่ะดิ
“ป่าวจารฯๆ เดินผ่านพอดีคร้าบ” ผมทักทายก่อนจะโดนแกซักไซร้ (เพราะปกติกรุชอบแค่ไซร้อย่างเดียว555) แล้วปลีกตัว ไปปฏิบัติภารกิจต่อ แต่...
หายไปไหนฟระ แม่ง กูหันไปหาอาจารย์แปร๊บเดียว ไอ้นี่ไวจริง
ชะเง้อคอดูซ้ายขวา ไม่มี วู้...วัยรุ่นเซ็ง พักยกลงไปโรงอาหารดีกว่า เพราะกองทักต้องเดินด้วยท้อง หาไรกินเติมพลัง นั่งคุยกับไอ้พวกคุณเพื่อนดีกว่า
แล้วพอเดินลงไปยังไม่ทันจะไปถึงโต๊ะที่เพื่อนๆ ผมนั่ง
แค่นั้นแหละ....โอ้ว
(อย่าคิดว่าไอ้น่ารักนั่งอยู่ในกลุ่มนะคับ ผิดถนัด)
แอ๊ดดดด อิ๊ดดดด อ๊ออออด (ไม่รู้จะพิมพ์ไงให้เสียงมันสมจริงอ่ะ กริ่งโรงเรียนผมมันดังประมาณนี้แหละนะ)
อ่ะแน่นอน เสียงนี้ เสียงนรกยามบ่ายบอกเวลาขึ้นเรียนนั่นเอง ผมนึกในใจ ไรวะ กูยังไม่ทันนั่งเลย เสือกดังและ แต่ก็ไม่ได้ทำให้สำนึกผิดคิดเลี้ยวกลับขึ้นไปบนตึกเรียนแต่อย่างใด ด้วยความมุ่งมั่น ดิ่งตรงไปนั่งเพื่อร่วมวงสรวลเสเฮฮากับพวกคุณเพื่อนตามสันดาน
“เฮ้ย ไม่ไล่ไม่เลิกนะพวกมึงเนี่ย ขึ้นตึกไปเรียนได้แล้ว พักกันจนฉลาดทั้งก๊วน ไป ไป ไม่งั้นเดี๋ยวได้เข้าห้องปกครองแทน เอ้า จะเลือกไปห้องไหน” อ่ะคุ้นอีกและกรู ตามตื๊อไม่เลิกเล้ย อาจารย์ที่รักของกรูหนิ
“คร้าบ จารฯๆ แหม เป็นคนแก่ขี้บ่นเลย ไปแล้วคร้าบๆๆ” ไอ้โก้เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มผมตะโกนบอก ด้วยความซี้ย่ำปึ้ก และพวกมันก็ค่อยๆ ทยอยลุกบิดขี้เกียจกันสักพักก่อนจะเดินขึ้นไป ส่วนผมหาได้กล้าหาญชาญชัยนั่งต่อไม่ ก็เดินขึ้นตึกไปพร้อมพวกมันแหละคับ แหะๆ รุ่นใหญ่มากูก็หงอเป็นเหมือนกัน
การเรียนการสอนวันแรกของภาคเรียน ก็รู้ๆกันอยู่คับ แต่เล็กจนโต วันแรกก็ไม่เห็นจะมีเรียนอะไร
ทั้งๆ ที่รู้กรูก็ยังอุตส่าห์มา ขยันจริงจริ๊ง แหะๆ หารู้ไม่ ที่มาเนี่ย จะมานัดกันไปแดกเหล้าคับ เพราะถ้าไม่วางแผนออกจากบ้านมาโรงเรียนในยามเช้า ก็คงยากที่ท่านผู้ปกครองจะปล่อยบุตรหลานออกไปเที่ยวยามค่ำคืน
พอเสียงสวรรค์ (เสียงเดิมกับเมื่อตอนบ่ายนั่นแหละ) ดังขึ้นอีกครั้ง บอกเวลาเลิกเรียน ก็ได้เวลาลอกคราบ
“เฮ้ย วันนี้น้องกูขอไปด้วยว่ะ เป็นไรป่ะวะ” ไอ้ต้าถามขึ้น ขณะกำลังเก็บของใส่กระเป๋าจะออกจากห้องเรียน
“มึงมีน้องด้วยหรอวะ กูไม่เห็นรู้” เพื่อนอีกคนถามขึ้น เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาจนม.6แล้วเนี่ย ก็ยังไม่เคยเห็นมันบอกเลยว่ามีน้องมีนุ่ง
“น้องกูมันเพิ่งย้ายมาโรงเรียนนี้น่ะ จริงๆ มันไม่ใช่น้องแท้ๆหรอก คนละแม่กัน แต่ก่อนมันเรียนอยู่เชียงใหม่น่ะ” (เชียงใหม่อีกและ นิยายรักนี่มันหนีไม่พ้นเมืองนี้จริงๆ)
“อ่ะ แล้วแต่ดิวะ ว่าแต่น้องมึงน่ารักป่าว ถ้าน่ารักกูจองเว้ย” ไอ้เพื่อนคนเดิมทำท่ากระตือรือร้น ซึ่งก็พอๆกับคนอื่นในละแวกนั้นน่ะแหละ เพื่อฟังคำตอบจากไอ้ต้า
“ไอ้เหี้ย ผู้ชายเว้ย”
“อ้าวเหี้ย งั้นช่างแม่ง” ไอ้คนนั้นทำท่าเซ็ง ก่อนจะเดินออกไปไม่สนใจ
พวกผมบางส่วนที่กลับบ้านไม่ได้ (เพราะถ้ากลับไป จะไม่ได้ออกมารอบดึกอีกอ่ะดิ) ก็ต้องไปสิงสถิตย์ที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนแบบเดินไปกลับได้สบายๆ ซึ่งทำให้มันมาสายที่สุดทุกวัน ด้วยเหตุผลที่ว่า..."ก็พวกมึงนั่งรถ แต่กูเดินนะสัด"
ส่วนบางคนที่กลับได้ ก็กลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหล่อ แต่งสวยกันเต็มคราบ คือกลุ่มผมจะมีทั้งผู้หญิงผู้ชายน่ะ หญิงสาม ชายห้า ไม่ครบคู่อยู่นี่ไง ผมเลยต้องเปลี่ยนให้มันพอดีๆ เย้ยยยย
พอได้ฤกษ์ ก็ทยอยกันไปที่ร้านคับ พวกผมมาบ่อยจนพี่เค้าจำหน้าได้แล้วล่ะ
“อ้าวไง เพิ่งเปิดเทอมกันก็มาเลยหรอ” เสียงพี่เจ้าของร้านทักแบบกันเอง
“แหะๆ เปิดกล่องชอล์คพี่” เพื่อนผมคนหนึ่งพูด (อายว่ะ โรงเรียนกรูยังใช้ชอล์คอยู่อีก บ้านน้อกกกบ้านนอก)
“จ๊ะ เปิดทุกอาทิตย์นั่นแหละ” พี่สาวคนสวย แกล้งประชด
พวกผมเดินไปที่โต๊ะประจำ ซึ่งยังว่างอยู่ ก็ใช่สิ มึงมากัน พระอาทิตย์ยังไม่ลับขอบถนนเลยมั้ง ใครจะแย่ง
ยังไม่เห็นมีใครมา ก็นั่งเกลือกๆ ไถลๆ ไปกับโซฟาที่นั่ง บิดไปบิดมา กันอยู่ 4 คน อีก 4 ชีวิตกำลังเดินทางมา
พอนั่งคุยกันสักพักพวกมันก็ทยอยๆ มาจนครบ เล่นเอาผมอึ้งทึ่งเสียวกับไอ้เพื่อนคนสุดท้าย...สาดเอ้ย รู้งี้กูไปรับมึงถึงบ้านเลยไอ้เพื่อนเลิฟ
ที่อึ้งไม่ใช่เพราะจะกินเพื่อนตัวเองนะคับ แหะๆ ถ้าหล่อกูก็คงกินไปแล้วล่ะอิอิ แต่ว่า...
“ดีเว้ยๆ โทดทีที่มาช้า ไอ้ห่าเนี่ย แม่งมัวแต่แต่งหล่อ” ไอ้ต้าทักพร้อมมองไปที่น้องชายมัน ผมก็มองตามไปที่น้องมันเหมือนกัน แล้วอาการ แปล๊บๆ แบบไฟช๊อตก็เกิดอีกขึ้นอีกครั้งในวันเดียว รักแรกพบป่าววะ หุหุหุ...ผมเพ้ออยู่ในใจ
“ดีคับพี่ .. พี่... พี่ .. พี่ ..” มันก็หวัดดีพวกเพื่อนๆ ผมตามที่ไอ้ต้าแนะนำให้ฟัง
จนวนมาจบที่ “ดีคับ พี่เซน”
คับ ถูกต้องแล้ว ถ้าเดากันไม่ออกก็จะบอกให้ น้องไอ้ต้า ชื่อเต้คับ เป็นน้องต่างแม่ ห่างกับมัน 2 ปี แม่แท้ๆ ไอ้ต้ามันเสียไปตั้งแต่มันยังเล็ก พ่อมันก็เลยแต่งงานกับแม่ใหม่แล้วก็มีไอ้เต้ ซึ่งจริงๆ เค้าอยู่เชียงใหม่กัน แต่ไอ้ต้ามันอยู่กับยายที่กรุงเทพ พอยายมันเสีย พ่อมันเลยย้ายครอบครัวกันลงมาอยู่ที่นี่หมดเลย เพราะบ้านมันก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
และมันก็ต้องเป็นอย่างที่คุณคิดอยู่แล้วคับ ไม่งั้นผมคงไม่อึ้ง ก็จะอะไรอีกล่ะ... ก็ไอ้น้องเต้เนี่ย มันคือไอ้น่ารักที่ผมเจอเมื่อกลางวันนั่นไง พรหมลิขิตเลยกรู หึหึ...เล่นน้องเพื่อนจะบาปป่ะวะ คิดในใจ แล้วปากก็พูดออกไป
“หวัดดีคับ...
เต้!”
********************************************************