คือว่า....ก่อนอ่านใครหัวใจไม่แข็งแรงให้หาอุปกรณ์หรือตัวช่วยด้วยน๊า แบบว่ามันเศร้าอ่ะ
เรื่องสั้นคั่นเวลา…..ก้แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน จากกันด้วยดี
มันเจ็บมั้ยล่ะ ที่กลับมาถึงแล้วกระเป๋าเสื้อใบเล็กนิดเดียวถูกโยนใส่หน้า พร้อมกับการที่คนที่ทำหน้าบึ้งรีบทั้งลากทั้งดึงแขนให้เดินตามลงมาจากชั้นบนของตัวบ้าน สงสัยคงกลัวว่าจะอยู่นานเกินไป
ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอก แค่นี้ก็รู้ซึ้งน้ำใจดีแล้ว ไม่ต้องไล่กันถึงขนาดนั้นก็ได้
“แม่ ไอ้ฮวยมันรีบมากเลย หมาที่บ้านมันไม่สบายหนัก ต้องรีบไปดูแล”
ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกของคนตัวเล็กที่ทั้งลากทั้งดึงแขนให้เดินออกจากบ้านแล้วยิ่งอยากจะร้องไห้
ยกมือยกไม้ไหว้ว่าที่แม่ยาย ที่ยังยืนถือตะหลิวค้างรับไหว้แทบไม่ทัน แล้วก็มีอันต้องขึ้นมาซ้อนอยู่บนมอเตอร์ไซด์ของคนขับที่เหมือนจงใจจะเร่งสปีดให้มันเร็วขึ้น ชนิดที่ว่า ไม่กลัวเปลืองน้ำมัน เพราะเข้าใจว่าที่บ้านมีโรงกลั่นน้ำมันเป็นของตัวเอง
น้อยใจสุด ๆ
โคตร ๆ ของความน้อยใจ
นอกจากไม่ง้อไม่แคร์ไม่สนใจ ไม่รักกันเลยสักนิด
เดียร์มันยังทำร้ายจิตใจด้วยการเดินลิ่ว ๆ เข้าไปที่ช่องขายตั๋วด้วยตัวเองและซื้อตั๋วมาส่งให้อีกต่างหาก
แล้วแบบนี้จะให้พูดอะไร
ได้แต่นั่งเงียบอยู่ที่เก้าอี้พักผู้โดยสาร แล้วก็มองเมินออกไปข้างนอก ไม่อยากเห็นหน้าขาว ๆ ของคนใจดำ
ที่ไม่พูดไม่จาอะไรเลยสักคำนอกจากนั่งหน้าบึ้ง หน้าหงิกหน้างอ และคงอยากจะรีบกระโดดถีบให้ขึ้นรถไปโดยไว
เวลาเดินเร็วจนเหมือนอยากทำร้ายจิตใจกันให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ
หวังว่าเดียร์จะพูดอะไรออกมาสักคำ
ด่าก็ได้
หรือหาเรื่องงี่เง่าใส่ก็จะไม่ว่า
แต่นอกจากความเงียบแล้ว ไม่มีคำพูดอะไรออกมาสักคำ
ไม่บอกไม่พูด ไม่แสดงออก นอกจากทำหน้าเหมือนโกรธใครมาสิบชาติ
ถ้าไม่ต้องการกันขนาดนั้น ไม่อยากเห็นหน้ากันถึงขนาดนั้น ก็ไม่คิดจะฝืนใจกันอีก
ถ้าไม่คิดจะง้อ
ก็ไม่คิดจะง้อกลับแล้วเหมือนกัน มากเกินไปแล้ว กับการทำลายศักด์ศรีที่ยอมอ่อนข้อให้คน ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่เห็นค่า
แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาจากใจ จากความรู้สึกทั้งหมด ทั้งที่ไม่เคยทำกับใครแบบนี้
แต่ต้องถูกทำร้ายจิตใจด้วยการไม่สนใจไยดี เดียร์มันรู้มั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
นึกว่าเราเข้าใจกัน แม้ไม่ต้องมีคำพูด แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า เราไม่เข้าใจกันเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่สื่อออกไป เดียร์ไม่เคยเห็น และไม่เคยคิดว่ามันมีอยู่จริง
ทั้ง ๆ ที่
ทั้ง ๆ ที่........ยอมให้ถึงขนาดนี้แล้ว.....แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่มั้ย
นั่งคิดอย่างสมเพชในความบ้าบอของตัวเอง ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ จนกระทั่งวันนี้ที่ต้องถูกไล่ให้กลับเพราะเดียร์มันคงกลัวว่าจะมาทำให้รกหูรกตา
รถทัวร์เข้าจอดเทียบท่า พร้อมกับสายตาที่หันกลับมามองคนใจร้ายอีกครั้ง
จะไปแล้วนะเดียร์
จะกลับแล้วนะ
แอบบอกกับคนบางคนอยู่ในใจ และหันเหสายตาหนีภาพคนใจร้ายตรงหน้า มือกำตั๋วรถเอาไว้แน่น และลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายเตรียมเดินไปขึ้นรถ
แอบหวังว่าจะมีเสียงเรียกทัดทาน
แอบหวังเล็ก ๆ เมื่อก้าวขาเดินอย่างช้า ๆ ว่าจะมีเสียงใครสักคนรั้งเอาไว้
แอบหวัง และอยากให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความหวังนั้น
ก้าวขาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเตรียมจะก้าวขึ้นรถ แต่ก็ยังไม่หมดหวัง ว่าจะต้องมีคำพูดสักคำจากปากของคนมาส่ง
แต่เมื่อหันกลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่มีได้แต่หวังก็มีอันต้องร่วงหล่นลงพื้น
เมื่อคนที่ไม่แม้จะเอ่ยลา หายไปจากที่นั่งพักผู้โดยสารและเดินลิ่วไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ขับออกไปทันที
ไม่รอส่ง
ไม่พูด
ไม่บอกอะไรเลยสักคำ
ไม่มีแม้แต่คำล่ำลา หรือบอกว่าให้รักษาตัวด้วย แล้วเจอกัน
ไหน ๆ จะใจร้ายใจดำแล้ว ก็เอาให้มันสุด ๆ ไปเลยใช่มั้ย
เอาเลย ให้มันตายกันไปข้างหนึ่งเลยเดียร์
ยอมแล้ว
ซึ้งน้ำใจแล้ว
รู้แล้วว่าเราไปกันไม่ได้ เพราะเดียร์ไม่เคยสนใจ ไม่เคยคิดจะปรับความคิด หรือทำให้ความรู้สึกของเราตรงกัน
ไม่เคยซึ้ง กับคำพูดที่เคยบอก
คำว่ารัก มันไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด ไม่มีเลย
ไม่มีค่าแม้จะเอ่ยออกมาจากปาก จากความคิด ความรู้สึกทั้งหมด
จากทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดจะถ่ายทอดและทุ่มเทให้
ก้าวขึ้นมานั่งอยู่บนเบาะนั่งและปรับเบาะเอนลงนอนหลับตานิ่ง ๆ เพื่อจะหยุดความรู้สึกที่กำลังถาโถมเข้ามาให้ได้
รถเคลื่อนออกจากชานชาลา พร้อมกับใจที่หลุดลอยจากไป
ไม่ได้อยากเป็นคนอ่อนแอ
แต่มันเจ็บที่หัวใจ เมื่อได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนสำคัญ และไม่มีค่าอะไรเลยกับคนบางคน ที่ได้พร่ำบอกคำรักครั้งแล้วครั้งเล่า
ฝ่ามือกำแน่น และจมอยู่กับความคิดของตัวเองเงียบ ๆ
มองฝ่าออกไปนอกความมืด และโบกมืออำลาสถานที่ที่เอาหัวใจไปทิ้งเอาไว้
เราคงต้องเลิกกันตั้งแต่วันนี้ ทั้งที่เรายังไม่เคยคบกัน ............
เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อมาถือเอาไว้
พิมพ์ข้อความ ทั้งที่มือสั่น น้ำตาแทบหล่นลงบนหลังมือ แต่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้
ไม่ตาย
แค่ไอ้งี่เง่าเดียร์ไม่รัก ก็ไม่เห็นจะตาย
ไม่รักก็ไม่รัก ไม่รักก็ช่วยไม่ได้
ในเมื่อสื่อเท่าไหร่ก็ส่งไปไม่ถึง คงต้องยุติเอาไว้เพียงแค่นี้
นั่งอ่านข้อความที่ตัวเองตั้งใจพิมพ์อีกครั้ง ก่อนจะกดส่งข้อความที่ไม่อยากส่งให้ไปถึงใครอีกคน
......ดีแล้ว....ที่เราเลิกกัน.....
เดียร์คงอยากให้เป็นอย่างนี้
ทำให้แล้ว
ทำให้ทั้งที่ไม่อยากทำ
ทำทั้งที่เจ็บไปทั้งใจ
พึมพำบอกกับตัวเองเสียงเบา และพยายามจะยิ้มออกมาให้ได้ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้
“ดีแล้วใช่มั้ย.....ดีแล้วจริงๆ ใช่มั้ยที่เราเลิกกัน”
อยากจะถามคำถามนี้ให้เดียร์ตอบ แต่คงไม่มีโอกาสถามอีกแล้ว ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลงที่ตรงนี้
มันจบลงตั้งแต่ที่คิดว่าจะเริ่มคบกัน
จบไปแล้ว
จะไม่มีการเริ่มต้นอีก ทุกอย่างมันจบลง เพราะเดียร์ไม่คิดจะสนใจ ไม่เคยคิดจะรักกันสักนิด
ไม่เคยทำให้รู้สึก
ไม่เคยตอบรับกลับมา แล้วแบบนี้จะทนอยู่เพื่ออะไร ในเมื่อรู้ว่าไม่มีวันที่จะได้ความรู้สึกกลับมา ไม่มีทางที่จะได้มาไว้ในครอบครอง
คนบางคน ไม่ถนัดที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเอง
และยิ่งแย่กว่านั้นคือไม่มีความกล้าพอที่จะบอกความรู้สึกที่แท้จริงกับใคร
ทั้งที่ตัวเองก็รู้ว่าวันหนึ่งจะต้องสูญเสียบางอย่างไป
แต่ทำไมไม่พูดสักคำ
ไอ้ฮวยมันไปแล้วนะ มันไปแล้ว คนบ้า ๆ บอ ๆ ที่ชอบแกล้งชอบทำให้โมโหมันไปแล้วนะ
มันจากไปแล้ว ทั้งที่มันชอบทำให้ปวดหัวทุกวัน แต่ทำไมวันนี้มันไม่ทำอย่างที่มันเคยทำ
ทำไมไม่แกล้ง ทำไมไม่พูดจาบ้าๆ บอ ๆ ใส่
ทำไมไม่บอกว่า “จะให้ไปจริง ๆ เหรอ “ หรืออย่างน้อย แค่บอกว่า “ไม่อยากไป”
แค่คำเดียว แค่นี้ ก็จะรั้งเอาไว้
จะยอมทำหน้ายุ่งเหยิงใส่ และงี่เง่าหาเรื่องไปอีกนิดหน่อย คิดเอาไว้อย่างนั้นแล้วจะพากลับไปกินข้าวที่บ้าน
อุตส่าห์แอบไปกระซิบบอกแม่ว่า อยากให้แม่ทำกับข้าวแบบที่ตัวเองชอบ
เพราะว่าอยากให้ไอ้ฮวยมันลองกินดู ว่าแกงที่แม่ทำอร่อยแค่ไหน
ขู่เข็ญงี่เง่าให้มันช่วยเอาที่นอนไปตาก เพราะอยากให้มันได้นอนบนที่นอนอุ่น ๆ และอยากให้มันรับรู้ว่าที่นอนที่เพิ่งตากแดดมาใหม่ ๆ กลิ่นหอมแค่ไหน
อุตส่าห์อยากจะลากมันไปเล่นเกมส์แข่งกับไอ้พี่ปลาเน่า เพราะรู้ว่าเล่นแล้วไอ้ฮวยมันมีสิทธิ์ชนะ
แค่อยากจะให้มันกินข้าวด้วยกัน
แค่อยากจะพาไปพายเรือเล่น ถึงจะต้องคุยกันไปทะเลาะกันไปก็ได้
แค่คิดว่าพรุ่งนี้จะชวนมันไปดูสวนมะพร้าวและอยากจะพาไปเตะบอลที่ลานหน้าหมู่บ้านที่เดินไม่เท่าไหร่ก็ถึง
แค่คิดว่าจะพามันไปตกปลาที่บึงและอยากจะเอาเตาไปปิ้งปลากินกันที่ข้างบึง
แค่คิด......ว่าจะใช้เวลาด้วยกัน อยากเป็นตัวของตัวเอง อยากให้อีกฝ่ายเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่เคยชินนานหลายวัน
แต่มันก็แค่คิด
แค่คิดว่าจะทำด้วยกัน แค่วางแผนเอาไว้ แต่ไม่เคยได้บอกให้อีกฝ่ายรับรู้
ไม่เคยชวนว่าไปด้วยกันมั้ย
ไม่เคยออกปาก เอาแต่ลากให้ไปด้วย และทำตัวงี่เง่าใส่ เพราะไม่อยากยอมรับกับความรู้สึกของตัวเอง
แค่ไม่อยากยอมรับความจริง
ถึงจะรู้อยู่เต็มอก แต่ก็ยังอยากยืดเวลาที่ต้องยอมรับความจริงออกไป
ยิ่งเข้าใจความรู้สึกตัวเองเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลัวเสียใจภายหลังมากเท่านั้น
รถทัวร์ขับเลยไปไกลแล้ว
และเดียร์ต้องรีบขับมอเตอร์ไซด์ฝ่าลมกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะรู้ว่าตัวเองคงประคองสติให้สงบนิ่งไปได้อีกไม่นาน เมื่อรู้อีกไม่นานความรู้สึกบ้า ๆ บอ ๆ คงได้ระเบิดออกมา
ใจเจ็บแปลบ แต่ไม่อยากจะเอ่ยปาก ไม่อยากพูดให้ใคร ๆ รับรู้ถึงความคิดของตัวเอง
ทำไมจะไม่รู้ว่ามีคนรัก
ทำไมจะไม่ซาบซึ้งกับคำพูดที่ได้ฟังซ้ำ ๆ และทำให้ใจละลายทุกครั้งที่ได้ฟังคำพูดนั้น
ทำไมจะไม่นึกหวั่นไหวกับสายตาออดอ้อนและน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยบอก
รู้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เต็มอก
แต่ไม่กล้ายอมรับ ให้ทำยังไงในเมื่อยังกลัว กลัวในสิ่งที่ใครหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
แค่กลัวว่า....ถ้ารักใครอีกสักหน.....ในวันที่ผิดหวังจะต้องเจ็บปวดทุรนทุรายอย่างที่เคยเป็น
การเสียใจมันน่ากลัว กลัวตัวเองจะแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเหมือนคราวนั้น ไม่อยากเจ็บไม่อยากเสียใจอีก
แล้วจะให้ทำยังไง
สายตาจ้องมองที่ถนน แต่ใจคิดไปถึงใครอีกคนที่ไม่ยอมเอ่ยคำลา
เสียงข้อความจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ต้องควานมือค้นหาในกระเป๋าเสื้อเพื่อกดดูข้อความ
“ดีแล้ว.....ที่เราเลิกกัน”
แค่ได้เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา
แค่ได้อ่านข้อความ เพียงเท่านั้น ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง
และอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะให้ดังลั่น ให้สะใจกับเรื่องที่ตัวเองทำ
แต่กลับรับรู้ได้ถึงภาพที่พร่าเลือนเพราะน้ำตากำลังทะลักทะลายมาอย่างรวดเร็วก่อนจะหยดลงที่ข้างแก้ม
เสียใจ
แต่จะไม่มีวันพูดคำว่าเสียใจ
ร้องไห้
แต่จะไม่บอกใครว่าตัวเองกำลังร้องไห้
ร้องไห้ ทั้งที่ไม่อยากร้อง เสียใจทั้งที่รู้ว่าตัวเองอาจจะต้องเสียใจ
แล้วก็มาถึงจริง ๆ เวลาที่ถูกทำให้เสียใจ......ดีแล้วที่ไม่รักไอ้ฮวย ดีแล้วที่พยายามจะไม่รักมัน
ดีแล้วที่ทำได้ถึงขนาดนี้.....
แต่ทำไมถึงรู้สึกเจ็บเหมือนจะขาดใจ
ทำไมถึงร้องไห้
ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียใจมากกว่าครั้งที่แล้ว ทำไมรู้สึกเสียใจมากกว่าครั้งก่อน
ทั้งที่พยายามจะไม่รักไอ้บ้านั่น คิดว่าทำได้แล้ว อย่างน้อยก็หลอกตัวเองว่าทำได้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ คิดว่าหักห้ามความรู้สึกของตัวเองได้แล้วแท้ ๆ
แล้วทำไมถึงได้ร้องไห้ได้ถึงขนาดนี้
และทำไมถึงเสียใจมากถึงขนาดนี้
ดีสิที่เราเลิกกัน
คนแบบนี้จะคบไปเพื่ออะไร เข้ากันไม่ได้ นิสัยไปด้วยกันไม่ได้ ไอ้ฮวยมันไม่รู้หรอกว่าวัน ๆ คิดอะไรอยู่บ้าง
นิสัยแบบนี้ ทำตัวแย่ขนาดนี้ เป็นใครก็ไม่อยากได้
ใครที่ไหนมันจะบ้ามาทนอยู่ด้วย ไม่มีหรอก ไม่มีใครเขาอยากอยู่กับคนที่ทำตัวแย่ ๆ แบบนี้หรอก
“กูไม่รักมึงหรอก....ดีแล้วที่เลิกกันเหรอ เออดี ดีแน่ ดีสิที่เลิกกัน มันต้องดีอยู่แล้วที่เลิกกัน คนงี่เง่าแบบนี้ เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ ทำตัวให้ดีกว่านี้เพื่อใครสักคนก็ทำไม่ได้ ดีแล้วแหละฮวย คนดี ๆ กว่านี้มีให้เลือกอีกเยอะ อย่ามาชอบคนอย่างกูเลย กูไม่ดีพอหรอก ดีแล้ว ดีแล้วที่เราเลิกกัน”
TBC…