The Space [ช่องว่าง] จบแล้วค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Space [ช่องว่าง] จบแล้วค่ะ  (อ่าน 119751 ครั้ง)

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #150 เมื่อ30-05-2011 17:37:31 »

คยเขียนมันส์

แต่คนอ่าน "หัวใจจะวาย" :serius2:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #151 เมื่อ30-05-2011 17:55:53 »

ยิ่งมันส์ ก็ต้องรีบมาต่ออีกนะคุณบีขาาา :laugh:

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #152 เมื่อ30-05-2011 18:16:06 »

เอิ้ววว
ค้างจะตายแล้ว
ลุ้นมันทุกบรรทัด อ๊ากกกก

natty _lovelove

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #153 เมื่อ30-05-2011 18:19:53 »

อร๊ายยยยยยย  กรี๊ด

จุ๊บๆ บีบีจัง

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #154 เมื่อ30-05-2011 18:30:29 »

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
ลอยตามฟี่ไปอีกคนได้มั้ย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #155 เมื่อ30-05-2011 19:55:37 »

แอบดีใจแทนฟี่ได้ไหมเนี่ย

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #156 เมื่อ30-05-2011 20:12:59 »

ไม่ไหวน๊าาาาาาาา ณัฐอย่าลีลามาก ตรงๆ ไปเลย ฟี่ยิ่งคิดเองไม่ได้อยู่ 555

บวกๆ ค่า

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #157 เมื่อ30-05-2011 20:25:41 »

 :L2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #158 เมื่อ30-05-2011 20:41:37 »

ปล. ยิ่งเขียนยิ่งมันส์ 555+
จ้ะยิ่งมันส์ ก็ยิ่งต้องเขียนเยอะๆ ลงต่อๆกันเยอะๆ ใช่ไหมคะ อิ อิ (พูดเอาประโยชน์ใส่ตัวเลย ดิฉัน)
ณัฐ..หวังว่านายจะรู้สึกตรงกับฟี่จริงๆนะ ถ้าใช่...รุกต่อ ลุยไปโลด จะถูกใจ(คนอ่านที่ซู้ดดดดดด)ฟี่เลยแระ

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #159 เมื่อ31-05-2011 02:10:31 »

บินเลยค่ะลูก :laugh: :laugh: :laugh:

เอาให้มันสูงๆ :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
« ตอบ #159 เมื่อ: 31-05-2011 02:10:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #160 เมื่อ31-05-2011 09:35:33 »

มารอฟี่ให้ลอยสุงๆค้างๆนานๆไปเลย ฮิๆ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #161 เมื่อ31-05-2011 11:15:19 »

อ่านะ อ่านตอนนี้เห็นณัฐทำแบบนี้คนอ่านจิ้นกันไปไกลลิบลิ่วแล้ว  :z3:
อย่างกับนั่งอ่านบนไวกิ้ง มันเสียววูปๆ กลัวจะมาม่าตลอดเวลา  :z3:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 13 Part I+II (30/5/2011)
«ตอบ #162 เมื่อ31-05-2011 13:31:28 »

ความฝันยังคงดำเนินต่อไป ฟี่รีบๆตื่นสิ เพราะว่าฝันก็แค่ความสุขในจินตภาพเท่านั้น

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ช่องว่างหมายเลข 14
«ตอบ #163 เมื่อ31-05-2011 17:24:59 »



ผมได้ยินเสียงคลื่นสาดเข้ากระทบกับชายฝั่ง
เสียงกระดิ่งตรงหน้าต่างที่ดังกรุ๊งกริ๊งยามถูกลมพัด
เสียงลมหายใจของตัวผมเอง
เสียงหัวใจของผมที่มันเต้นแรงจนรู้สึกได้ เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังอยู่ใกล้ๆหู...

ใครโทรมาวะ... แง่ง...

“ณัฐ...ฟี่ขอ...รับโทรศัพท์ก่อนได้ไหม?” ผมบอกกับคนที่อยู่บนตัวผมด้วยเสียงออดอ้อนแบบที่ผมไม่ได้ต้องการจะใช้สักนิด แต่ไม่รู้ว่าทำไมเสียงผมถึงเป็นแบบนั้น ยิ่งเห็นสายตานิ่งๆที่มองมา หัวใจของผมมันก็ยิ่งอ่อนระทวย ผมกำลังจะเป็นบ้าครับ...
“...” ณัฐไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ขยับตัวออกให้ผมได้ลุกไปรับโทรศัพท์ได้

“ว่าไงครับ” ผมรับสายด้วยน้ำเสียงแสดงความคุ้นเคยกับปลายสายที่โทรมา
/ฟี่~ ไปเที่ยวที่ไหนไม่บอกเลยน้า/
“เชอรี่รู้ได้ยังไงเนี่ย”
/ก็เชอรี่มีญาณวิเศษไง อิอิ/
“ตลกแล้ว รู้ได้ไงเนี่ยหืม?”
/ก็ไปหาที่บ้านมาน่ะสิ แล้วคนบางคนก็ไม่อยู่/

ผมลุกเดินไปนั่งที่โซฟาริมหน้าต่าง เพราะดูท่าว่าการสนทนานี้คงจะอีกยาว เสียงหวานๆของเชอรี่แฝงความเป็นห่วงมาอย่างชัดเจน ที่ผมต้องทำมีเพียงแค่รอฟังสิ่งที่เชอรี่จะถามเท่านั้น

/ฟี่... เชอรี่จะรอนะ ถ้ามันเจ็บปวดจนทนไม่ไหวก็รีบกลับมา..ไม่ต้องงกค่ารีสอร์ทล่ะ.../ ผมกัดริมฝีปากแน่น น้ำใจจากผู้หญิงที่แสนอ่อนโยนคนนี้เป็นอะไรที่ผมไม่มีทางตอบแทนได้หมด อย่างที่เขาบอก มีเพื่อนเป็นร้อยก็ไม่เท่าเพื่อนแท้แค่คนเดียว

“รออะไร..” ผมสะดุ้งเฮือก ณัฐมายืนฟังผมคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ และลำโพงของผมมันก็ดังพอที่คนอื่นที่อยู่ใกล้ผมจะได้ยินไปด้วย ผมหันไปมองใบหน้าเรียบเฉยของณัฐ ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ว่าณัฐอารมณ์ไม่ดีชัวร์
“เชอรี่รออะไร” ณัฐถาม แล้วผมก็ส่ายหัว ผมดันตัวณัฐให้ถอยออกไปห่าง แต่ณัฐก็บีบแขนผมไว้แน่น
“ทำไม? ตอบณัฐไม่ได้เหรอ” เสียงณัฐเข้มขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็อึกอัก ไหนจะโทรศัพท์ ไหนจะณัฐ
/ฟี่...มีอะไรหรือเปล่า?/ เสียงเชอรี่ฟังดูกังวล คงจะได้ยินเสียงณัฐหงุดหงิดสินะ...
“ไม่มีอะไรหรอกเชอรี่ ฟี่ขอวางก่อนนะ” แล้วผมก็วางสาย พอผมวางปั๊บณัฐก็เอาโทรศัพท์ไปจากมือผมแล้วโยนลงบนที่นอนอีกด้านหนึ่ง เรียกว่าคนละมุมห้องเลยแหละครับ
“เชอรี่โทรมาทำไม”
“ก็โทรมาคุยเฉยๆ..”
“แล้วทำไมต้องพูดว่าจะรออะไรด้วย”
“ไม่มีอะไร... เชอรี่ก็แค่บอกว่าจะรอของฝาก..” ผมโกหกไปดีกว่าเนอะ..
“รอของฝาก? แล้วเชอรี่รู้ได้ยังไงว่าฟี่มาเที่ยว”
“ก็เชอรี่ไปหาฟี่ที่บ้าน แล้วเห็นว่าบ้านปิดทั้งที่เป็นวันหยุด...” ผมกระเถิบตัวหนีณัฐที่ขยับมาใกล้ผมเรื่อยๆ ตัวผมแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโซฟาอยู่แล้ว และคงจะจมลงไปในโซฟาแน่ๆถ้าณัฐไม่หยุดรุกมาใกล้ผมแบบนี้
“อ่าฮะ...เชอรี่ไปหาที่บ้านบ่อยเหรอ..”
“ก็บ่อยนะ เกือบทุกวันหยุดแหละ..” ผมตอบไปก็ไม่เข้าใจว่าทำไมณัฐต้องมารุกไล่อะไรผมแบบนี้
“เป็นเพื่อนกันแน่ใช่มั้ย?” ผมพยักหน้า ก็เป็นเพื่อนกันสิ(วะ) มันจะเป็นอื่นนอกจากเพื่อนได้ไงในเมื่อหัวใจผมให้ไอ้บ้าตรงหน้านี่ไปหมดแล้ว!
“อืม...” ณัฐพยักหน้ารับรู้ ทำสีหน้าประมาณว่าเชื่อก็ได้ (แต่อย่าให้รู้ว่าโกหกนะ...)  นี่ผมกลัวเขา?
“งั้นไปกินข้าวกันเถอะ” ณัฐถอยออกไปห่างจากผมแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเงิน ผมก็เลยลุกจากโซฟาแล้วจะเดินไปหยิบของตัวเองบ้าง แต่พอผมลุกจากโซฟาเท่านั้นแหละ...
“อะ...” ตัวผมชาวาบเลยครับ จู่ๆณัฐก็หันมาผลักผมกลับไปที่โซฟาแล้วล็อกตัวผมไว้ หน้าณัฐห่างจากหน้าผมแค่นิ้วเดียว ริมฝีปากของเราก็ห่างกันแค่สองเซน. ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจของณัฐที่รินรดอยู่บนแก้มของผม แล้วจมูกกับริมฝีปากของณัฐก็ขยับมาใกล้แก้มของผมมากขึ้นจนผมเริ่มรู้สึกขนลุกซู่เหมือนไฟฟ้าสถิตย์ ผมหลับตาปี๋ตอนที่ริมฝีปากของณัฐแตะลงบนแก้มผม... สัมผัสวูบวาบและใกล้ชิดเกินกว่าเพื่อน... ความรู้สึกแบบที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน กับแค่การหอมแก้มมันจะอะไรนักหนา ก็แค่การเอาปากหรือจมูกมาแตะที่แก้ม มันไม่น่าจะทำให้ผมรู้สึกอะไรได้มากแบบนี้นี่!

ณัฐทำให้ระบบทุกอย่างในตัวผมเพี้ยนไปหมด!!!

ณัฐทำให้ผมหวั่นไหวไปกับแค่การหอมแก้ม แค่การแนบชิด...
ผมเองไม่ใช่ว่าจะใสซื่อบริสุทธิ์ ขนาดจูบครั้งแรกสมัยม.ปลายผมยังไม่รู้สึกอะไรมากแบบตอนนี้ แล้วนี่ณัฐแค่หอมแก้มผม เราแค่ใกล้กันนิดๆหน่อยๆผมก็รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ร่างกายของผมทุกอณูมันตื่นตัวผิดปกติเกินไปแล้ว...

 “ฟี่...หอมจังเลยนะ...ตัวฟี่หอมจังเลย..” เสียงของณัฐฟังดูทุ้มและนุ่มนวลเหลือเกิน น้ำเสียงของณัฐมันทำให้ผม...รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นที่ต้องการ น้ำเสียงของณัฐทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองมีความสำคัญ...
“ท๊อฟฟี่...หวานเหมือนชื่อหรือเปล่านะ...” หา? ณัฐว่าอะไรนะ ผมฟังไม่ชัดเลย
“อะ..” สัมผัสอุ่นและนุ่มที่ริมฝีปากของผมบ่งบอกว่าผมกำลังถูกณัฐชิมหาความหวานตามที่ณัฐสงสัย... ถึงตอนนี้ผมแอบเคืองพ่อนิดๆที่ตั้งชื่อผมเป็นขนมหวาน ถ้าตั้งชื่อผมว่าไอ้ขม ณัฐก็คงไม่คิดจะชิมหรอก...คุณว่างั้นไหม?
“อืม...ฟี่” ณัฐกระซิบขึ้นมาเสียงแผ่ว ณัฐจะทำเสียงแบบนั้นทำไมว้า… ผมคลั่งจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ไอ้ร่างกายผมมันก็เป็นอะไรไม่รู้ ทำเหมือนเป็นหนุ่มจิ้นไปได้ แค่เขาหอมก็อ่อนระทวย แค่เขาจูบก็ละลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปแล้ว สมองผมมึนเบลอไปหมดเลย ตอนนี้ผมลืมไปหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหตุผลหรืออะไรก็ตาม สมองของผมสั่งการแต่ว่าอยากจะผูกพันกับคนๆนี้ให้มากขึ้นอีก ผมเหมือนตัดขาดกับสรรพสิ่งรอบตัว ไปจนหมด ณ จุดนี้ผมสนใจแต่เรื่องของคนตรงหน้าเท่านั้น ยิ่งริมฝีปากของณัฐรุกเร้ามามากเท่าไร ผมก็ยิ่งสนองตอบไปมากเท่านั้น ณัฐขบและกัดริมฝีปากของผมแล้วส่งเสียงอืออาในลำคอ มือของณัฐเริ่มแตะลูบไปตามแผ่นหลังของผม เอ่อ...แผ่นหลังมัน...เป็น...จุดอ่อนของผมนะครับ...
“อะ..ณัฐ...อย่า...” ผมหันหน้าหนีริมฝีปากของณัฐแล้วดันอกณัฐออก ผมเหมือนกำลังต่อสู้กับความต้องการของตัวเองไม่มีผิด คุณเคยไหมที่แบบว่าขนมมาจ่ออยู่ตรงปากแต่ก็ต้องห้ามใจไม่กิน...

กริ๊ง กริ๊ง

การกระทำทุกอย่างหยุดนิ่งเลยครับ...เสียงโทรศัพท์ในห้องช่างดังได้จังหวะ ผมมองหน้าณัฐที่กัดฟันกรอดแล้วเดินไปรับโทรศัพท์เสียงห้วน
“ฮัลโหล” ผมมองณัฐที่ยืนหันหลังคุยโทรศัพท์แล้วผมก็มองตัวเอง เสื้อผ้าหน้าผมยุ่งไปหมด ผมหันไปมองกระจก ปากของผมแดงเจ่อ แก้มก็ช้ำ ผมเป็นคนผิวขาว พอเจออะไรมากระตุ้นก็มักจะแดงช้ำได้ง่าย
“ขอบคุณมาก เดี๋ยวพวกผมจะลงไป” พอได้ยินณัฐพูดผมเลยรีบลุกและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย คงเป็นคุณแซนด์โทรมาบอกเรื่องอาหารแน่เลย
“อ๊ะ ฟี่จะไปไหน” พอณัฐวางหูปุ๊บ ผมก็วิ่งออกไปนอกห้องแล้วครับ จังหวะนี้ผมต้องรีบโกยก่อนที่จะหมดโอกาส
“ไปกินข้าว เดี๋ยวณัฐรีบตามมานะ ฟี่จะไปรอข้างล่าง” ผมตะโกนบอกณัฐจากตรงบันไดทางลง พูดจบผมก็วิ่งลงไปเลยโดยไม่รอณัฐ

อากาศชายทะเลในยามค่ำคืนบวกกับแสงไฟสีส้มช่างเหมาะเจาะลงตัว ทางรีสอร์ทมีการก่อกองไฟประดับเอาไว้ช่วงกลางคืนด้วย ปาร์ตี้บาร์บีคิวไนท์มีแขกคนอื่นๆลงมาใช้บริการกันอีกมาก ทั้งผมและณัฐเลือกโต๊ะตัวที่อยู่ติดชายทะเล ณัฐบอกให้ผมคอยเป็นคนย่าง ส่วนณัฐก็เป็นฝ่ายเดินไปหยิบของสดมาจากบาร์
“ฟี่ กินนี่สิ” ผมมองปลาหมึกย่างที่ณัฐตักมาวางในจานผมที่เต็มไปด้วยกุ้งหอยปูปลามากมายจนผมกินไม่ทันแล้วถอนใจ
“เอ่อ...ณัฐ... ฟี่กินไม่หมดหรอกนะ”
“ไม่ได้ กินในจานให้หมด ผอมจะตายอยู่แล้ว” พระเจ้า...ถ้าผมกินหมดจานนี้อย่างที่ณัฐว่า ผมคงอิ่มไปถึงพรุ่งนี้เย็นแหละครับ
“ณัฐ ฟี่กินไม่หมดจริงๆนะ” ผมหันไปย้ำกับณัฐอีกรอบ ณัฐหันมามองผมด้วยสายตาประเมินแล้วก็ยิ้มก่อนจะขยี้หัวผม
“อืม งั้นกินอีกคำนึงนะ” ณัฐจิ้มปลาหมึกมาจ่อตรงหน้าผม แล้วสุดท้ายผมก็ต้องยอมกิน พอกินหมดชิ้นหนึ่ง ณัฐก็เอามาป้อนใหม่ พอผมส่ายหน้าหนีณัฐก็จะตัดพ้อต่างๆนาๆจนผมรู้สึกผิดแล้วก็ยอมกินต่อ...จนหมดจาน..
“เก่งจังเลย..” ณัฐชมแล้วลูบหัวผม ผมไม่ใช่เด็กนะ!! แต่ผมก็ชอบที่ณัฐทำแบบนี้แฮะ..

ระหว่างมื้อเย็นนั้นที่รีสอร์ทมีลูกค้าเยอะพอสมควร คุณแซนด์เองก็ต้องคอยดูแลแขกทุกคนเลยไม่ได้มาคุยกับผมเท่าไรนัก แต่มีอยู่ครั้งสองครั้งที่ผมหันไปจ๊ะเอ๋กับคุณแซนด์พอดีแล้วเขาก็ส่งยิ้มให้ผม ผมจึงยิ้มกลับไปตามมารยาท แต่พอผมหันหน้ากลับมาก็จะเห็นณัฐทำตาขวางมองเลยผมไป...ที่คุณแซนด์...

“อิ่มแล้วไปเดินเล่นกันมั้ยฟี่” ณัฐที่กำลังตักไอศครีมเข้าปากเงยหน้ามาถามผม ผมก็พยักหน้าตอบกลับไปแล้วหันไปนั่งจ้องทะเลต่อ
“เอาแก้วมานี่มา เดี๋ยวณัฐไปเติมน้ำให้” ณัฐเอื้อมมือมาเอาแก้วน้ำอัดลมไปจากมือผม ผมมองตามหลังณัฐที่เดินไปเติมน้ำให้แล้วก็นั่งยิ้มคนเดียว ผมว่าผมคงเป็นบ้าไปแล้วแหละครับ ที่แค่เห็นแผ่นหลังณัฐก็มีความสุข...

“คุณฟี่ ทำไมนั่งคนเดียวละครับ”
“อ๋อ ณัฐไปเอาน้ำให้น่ะครับ” ผมหันไปก็เห็นคุณแซนด์ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
“แหม สนิทกันดีจังนะครับ” ผมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
“แล้วคบกันมานานหรือยังครับ”
“ก็รู้จักกันมาสี่ปีได้แล้วมั้งครับ” ผมนิ่งคิดแล้วก็ตอบไป แต่พอผมตอบ คุณแซนด์กลับทำสีหน้าแปลกใจ
“รู้จักกัน? สรุปแล้วไม่ได้คบกันเป็นแฟนหรอกเหรอครับ” ผมขมวดคิ้ว อะไรทำให้คุณแซนด์คิดแบบนั้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือทำไมคุณแซนด์ถึงถามอะไรที่ละลาบละล้วงจังหว่า ดูเขาจะเฟรนด์ลี่ไปหน่อยไหม
“อะฟี่ ชาเขียวกับฝอยทอง” ณัฐมาเป็นผู้ช่วยชีวิตผมครับ ผมมองจานฝอยทองอบกรอบกับชาเขียวในมือณัฐ...
“ณัฐ... ทำไมเป็นชาเขียวละ ไหนเป๊ปซี่ของฟี่ละ” ผมถามแล้วณัฐก็ส่ายหัว
“วันนี้กินเป๊ปซี่ไปเยอะแล้วนะฟี่ พอแล้ว”
“โหย...” ผมส่งเสียงขัดใจนิดเดียวณัฐก็ทำตาดุใส่ผม จนผมต้องยอมเงียบไปเอง
“ว่าแต่คุณแซนด์มีอะไรเหรอครับ” ผมลืมไปซะสนิทว่าคุณแซนด์ยืนอยู่ด้วย พอหันไปก็เห็นคุณแซนด์แค่ยิ้มแล้วก็ส่ายหัว
“เปล่าหรอกครับ แค่มาทักทายเฉยๆ ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ” คุณแซนด์พูดแค่นั้นแล้วก็เดินไปดูแลลูกค้าคนอื่นๆ ผมเองก็แปลกใจว่าทำไมไม่เป็นช่างคุยเหมือนตอนที่ณัฐยังไม่มาเลยหว่า
“ณัฐ ณัฐว่าคุณแซนด์เขาแปลกๆไหม” ผมแอบกระซิบถามณัฐที่ตวัดหางตามองคุณแซนด์ แล้วก็หันมาทำตาขวางใส่ผม
“เพิ่งจะรู้สึกเรอะ” ณัฐพูดกับผมเสียงห้วนแล้วก็หยิบเอาฝอยทองของผมไปกินโดยไม่พูดถึงคุณแซนด์อีก

พอเราทั้งสองคนอิ่มแล้วก็เลยชวนกันขับมอเตอร์ไซค์ไปที่หาด พอหาที่จอดได้เราก็ลงไปเดินเล่นกัน ช่วงนี้มืดแล้วคนก็เลยไม่ค่อยมี น้ำทะเลที่นี่ใสจนผมอยากจะเล่นน้ำซะเดี๋ยวนั้นแต่ก็ต้องอดใจรอให้เช้าก่อนครับ
“ฟี่ ไปนั่งตรงนั้นกัน” ณัฐจับมือผมแล้วพาผมเดินไปนั่งตรงโขดหิน ผมบอกหรือยังครับ... ว่าตั้งแต่มาที่นี่ณัฐจับมือผมบ่อยมาก...ผมเองไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะครับ แต่ผมแค่เขิน...แล้วก็สับสนบ้าง...ในบางที...
“ทำไมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นละฟี่” ณัฐเอานิ้วมาจิ้มตรงหว่างคิ้วผมอีกแล้ว แต่มันก็ทำให้ผมรู้ตัวนะ ว่าผมกำลังขมวดคิ้ว
“อือ...ฟี่คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ..”
“คิดอะไรแล้วทำไมต้องขมวดคิ้วด้วยละ ถ้าต่อไปนี้ฟี่ขมวดคิ้ว ณัฐจะเอานิ้วดีดหน้าผาก ดีไหมครับ?”
“หึ! ไม่ดีอะ มันเจ็บนะ”
“งั้นก็อย่าขมวดคิ้ว” ครับ...ง่ายๆสั้นๆ แล้วพ่อเจ้าประคุณก็หันไปนั่งชมคลื่นชมดาวต่อ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นคนว่าง่ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องที่ณัฐคอยห้ามหรือคอยเตือนผมนั้นมันก็มักจะเป็นเรื่องที่ส่งผลดีกับตัวผมเอง อย่างเรื่องที่ผมดื่มจัด(เป๊ปซี่นะครับ) ณัฐก็คอยห้ามให้ผมดื่มน้อยลงเพราะกลัวกระเพาะผมจะมีรู ขนาดนิสัยที่ผมชอบขมวดคิ้วณัฐก็ไม่อยากให้ทำ เพราะเขาไม่อยากให้ผมหน้าแก่

ผมเองก็นั่งเพลิดเพลินกับลมเย็นๆและดาวที่เต็มท้องฟ้าไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งณัฐเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดกับผมก่อน
“ฟี่... ฟี่ไม่มีอะไรที่อยากจะถามณัฐบ้างเหรอ”  ผมละสายตาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวแล้วหันไปมองหน้าคนข้างๆ ผมก้มหน้านิ่งแล้วก็คิด ผมอยากถามสิ...สารพัดสิ่งที่ผมคิดอยากจะถาม แต่บางครั้งที่ผมตั้งใจว่าจะถาม พอเจอหน้าณัฐผมก็ลืมไปหมดทุกสิ่ง เวลาที่อยู่กับณัฐผมมักจะลืมเรื่องราวที่ขุ่นข้องหมองใจไปจนหมด มันเป็นแบบนั้นเพราะว่าตัวผมอยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ผมมีความสุขให้มากเข้าไว้ หากมีเรื่องที่จะทำให้ทุกอย่างต้องพังทลายลงผมก็จะพยายามทุกทางไม่ให้มันเกิดขึ้น

“ฟี่ก็ไม่รู้สิณัฐ บางทีฟี่ก็มีเรื่องอยากจะถามณัฐมากมาย แต่พออีกแว่บหนึ่งฟี่ก็คิดว่าไม่ถามเสียยังจะดีกว่า” ผมบอกแล้วก็ถอนหายใจ พูดไปพูดมาผมมันก็เหมือนคนขี้ขลาดคนนึงเท่านั้นเอง...
“ทำไมฟี่ถึงคิดแบบนั้น ทำไมฟี่ถึงคิดเอาเอง บางทีคำตอบมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ฟี่คิดก็ได้นี่นา” ผมมองณัฐด้วยความแปลกใจ ใบหน้าณัฐดูจริงจัง... แต่ผมก็ยังไม่กล้าถามอยู่ดี
“ฟี่...ณัฐไม่รู้หรอกนะว่าฟี่คิดอะไร หรือรู้สึกยังไง ถ้าฟี่ไม่พูดออกมา..” ผมมองตามมือของณัฐที่เอื้อมมาจับมือผมไว้ ใจจริงผมก็แค่ไม่กล้าสู้สายตาของณัฐ ผมเลยก้มมองมือ แต่ณัฐก็จับคางให้ผมเงยหน้าขึ้นและสบตากับเขาแทน
“รู้ไหม...ว่าตรงนี้ของณัฐ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีให้ฟี่นะ...” ณัฐจับมือของผมไปแตะที่อกด้านซ้ายของเขา..ด้านที่รับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นอยู่ข้างใน ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ผมไม่เข้าใจว่าเวลาคนเราจะกลั้นน้ำตาทำไมต้องกัดริมฝีปาก เพราะสำหรับผมมันไม่ช่วยอะไรเลย ต่อให้ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดอาบ น้ำตาผมก็ยังไหลอยู่ดี และสุดท้ายผมก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ได้..
“ไม่เอานะ ฟี่ไม่ร้องไห้สิ...” ณัฐดึงให้ผมไปนั่งบนตักเขาแล้วลูบแก้มของผม นิ้วของณัฐแตะให้ผมเลิกกัดปากตัวเอง เขาพรมจูบลงบนแก้ม เปลือกตา และริมฝีปากของผม เขาลูบหลังปลอบโยนผมสารพัดแต่ก็ไม่ช่วยหยุดน้ำตาของผมได้...

ผมรู้สึก...ว่าหัวใจของผมมันกำลังพองโต...

“ณัฐไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจะสูงหรือตัวโตอะไรเลยนะ แต่พอมาอยู่ใกล้ๆฟี่แล้วณัฐก็รู้สึกว่าตัวเองตัวใหญ่ชะมัด หึหึ”
“ฮึก...ใช่สิ...ฟี่มันเตี้ย...” ผมเถียงไปทั้งที่ยังสะอื้น ก็ดูสิ ผมนั่งบนตักเขาเหมือนเป็นเด็กตัวน้อยๆไม่มีผิด ผมรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิจากร่างกายของณัฐ ผิวกายของเราต่างก็แนบชิดกัน ผมสูดกลิ่นหอมจากซอกคอของณัฐ กลิ่นกายของณัฐ กลิ่นที่ผมสูดดมเท่าไรก็ไม่เคยพอเสียที
“ฮื้อ... มาดมซอกคอเขาแบบนี้ได้ยังไง” ณัฐพูดแต่ผมก็ไม่นำพา ผมชอบของผมนี่นา
“ไหนเงยหน้ามาคุยกันก่อนสิ ฟี่ยังไม่บอกกับณัฐเลยนะ...” ผมถูกณัฐจับให้หันมามองหน้าเขา แสงจันทร์ยามค่ำคืนสาดแสงไปที่ใบหน้าของณัฐชัดแจ่ม แล้วณัฐล่ะ...จะเห็นไหมว่าผมหน้าแดงแค่ไหน ณัฐจะรู้ไหมว่าผมกำลังเขินสุดๆ
“ทำไมณัฐต้องถามด้วยละ...”
“แล้วณัฐอยากรู้ไม่ได้เหรอ ฟี่บอกไม่ได้เหรอ หรือว่าเราไม่ได้คิดเหมือนกัน..” ณัฐพูดเสียงตัดพ้อ พอผมได้ยินผมก็ปรี๊ดทันทีเลยครับ
“ณัฐอย่ามาขี้โกงนะ... ณัฐอย่ามาหาว่าฟี่ไม่ได้รู้สึกเหมือนณัฐนะ ณัฐไม่รู้หรอกว่าฟี่คิดมากแค่ไหน ณัฐไม่รู้หรอกว่าฟี่กลัวทุกครั้งที่ใกล้ณัฐ กลัวว่าสักวันหนึ่งที่ฟี่เผลอพูดไปก็จะทำให้ณัฐเกลียด..” ผมเคืองจริงๆนะครับ...จะมาหาว่าผมไม่รู้สึกอะไร...ไอ้น้ำตาบ้านี้ก็ไหลเอาๆ หรือว่าชาติที่แล้วผมจะเป็นสาวน้อยเจ้าน้ำตากันแน่นะ
“ณัฐไม่เคยเกลียดฟี่เลยสักนิด...” ณัฐบอกแค่นั้นผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่ได้รับรู้ว่าเขาไม่เกลียดผมก็เพียงพอ...

แค่ตอนนี้เท่านั้นที่ผมจะพอใจกับคำๆนี้ หากสักวันที่อะไรๆมันชัดเจนขึ้นมามากกว่านี้ก็ค่อยว่ากัน สำหรับผมแล้ว ความสัมพันธ์มันไม่ได้สร้างขึ้นมาได้ด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว ณัฐอาจจะไม่ได้บอกว่าเขาชอบผม และผมก็ไม่ได้บอกว่าผมชอบเขา ที่มันเป็นแบบนั้นเพราะเราต่างก็รู้กันดีอยู่ เรื่องบางเรื่องผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูด เพราะทุกสิ่งที่ผมเป็น มันก็บอกความรู้สึกของผมได้หมดแล้ว ผมอยากให้เรื่องราวมันค่อยเป็นค่อยไป ผมจะใช้ความรู้สึกนำทางหัวใจ ตราบใดที่ณัฐรู้สึกดีกับผม ผมว่ามันก็เป็นก้าวแรกที่ดีเกินความคาดหมายแล้ว

ผมย้ำอีกครั้ง...แค่ตอนนี้เท่านั้นนะที่ผมจะพอใจกับความรู้สึกนั้น... เพราะไม่ว่ายังไงระหว่างเราสองคนก็ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการอีกมากมาย แต่ผมขอแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและเก็บเกี่ยวความสุขไว้ให้มากที่สุด...

----------------------------- To Be Continue -----------------------------

ปล.1 ค้างคาใช่มั้ยคะ สรุปจะอะไรยังไงก็ยังไม่รู้แน่ชัด แถมยังปิดท้ายเหมือนจะจบอีกต่างหาก เหอะๆ
แต่ลองคิดดูนะคะ กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว (ใช่ป่าวหว่า?) ความสัมพันธ์ของคนเรามันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปค่ะ หิหิ

** ใจจริงคือไม่อยากให้สุขจนล้นมากนัก เดี๋ยวผิดคอนเซ็ปท์เรื่องความหดหู่ 555+
ปล.2 มีคนไม่ชอบณัฐเหมือนกันแฮะ :-)

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #164 เมื่อ31-05-2011 17:47:57 »

เอาใจช่วยฟี่

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #165 เมื่อ31-05-2011 18:07:40 »

ลุ้นจนตัวยาวเป็นยีราฟแล้ว
แบบว่าอีกนิดนึง นิดนึงได้มั้ย
ขอความชัดเจนอีกหน่อย
หัวใจจะหยุดเต้นไม่รู้กี่รอบแล้วเนี่ย

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #166 เมื่อ31-05-2011 18:10:38 »

ลุ้นจนตัวยาวเป็นยีราฟแล้ว
แบบว่าอีกนิดนึง นิดนึงได้มั้ย
ขอความชัดเจนอีกหน่อย
หัวใจจะหยุดเต้นไม่รู้กี่รอบแล้วเนี่ย

ชอบค่ะ 55555+

เป็นยีราฟไปเสียแล้ว

งั้นเอาตัวอย่างตอนต่อไปมาเป็นของกำนัล...

ตัวอย่างตอนที่ 15
“ณัฐไปอาบน้ำสิ” ผมปิดประตูห้องพักแล้วก็บอกให้ณัฐไปอาบน้ำก่อน ตัวของเราสองคนมีแต่กลิ่นบาร์บีคิว แถมเท้าก็ยังมีแต่ทรายติด แต่พอผมหันไปมองคนที่ผมไล่ให้ไปอาบน้ำผมก็ผงะ
“ณัฐ! อย่าไปนอนบนที่นอนฟี่แบบนั้นนะ เท้าเปื้อนทรายเต็มไปหมด อี๋ย์” ผมรีบเดินไปดึงณัฐออกมาจากที่นอนของผม ทำไมเขาไม่ไปนอนบนที่ตัวเองละเนี่ยยยยยยยย
“ฟี่แหละไปอาบก่อน ณัฐให้ฟี่อาบก่อน”
“งั้นณัฐก็อย่ามานอนกลิ้งบนที่นอนฟี่ ไปนั่งที่โซฟาเลย อย่ามาเกลือกบนที่นอน เท้ามีแต่ทราย” ผมไล่ณัฐลงจากที่นอนแล้วผมก็ไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดไหล่โดยไม่สนใจคนที่เดินปึงปังหน้าหงิกหน้างอไปนั่งบนโซฟา
“ยังไงคืนนี้ก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้วนี่...” เสียงบ่นพึมพำจากคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาทำเอาผมหันควับ
“ห๊ะ? ณัฐว่าอะไรนะเมื่อกี้ ฟี่ฟังไม่ค่อยชัด”
“เปล๊า...ไม่มีอะไรหรอก..ไปอาบน้ำเถอะ”
ผมเอียงคออย่างสงสัย เมื่อกี้ณัฐมันต้องพูดอะไรสักอย่างที่ไม่ดีแน่ๆเลย แต่ผมดันฟังไม่ทันเสียอย่างนั้น...
แต่เอาเถอะ... คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง...




รอติดตามต่อพรุ่งนี้ค่า~~



natty _lovelove

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #167 เมื่อ31-05-2011 18:21:03 »

อืม หวานแบบเทาๆ

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #168 เมื่อ31-05-2011 20:16:21 »

อยากให้ฟี่เจอคนดีกว่านี้อ่ะ
ไม่ใช่ว่าณัฐไม่ดีนะ
คือ ดูเหมือนณัฐยังไม่ชัดเจน ไม่แน่นอนเรื่องฟี่เท่าไหร่อ่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #169 เมื่อ31-05-2011 20:40:12 »

มันยังมีกลิ่นไอของความหดหู่อยู่ยังไงไม่รู้ สงสัยระแวงคนแต่ง 55+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
« ตอบ #169 เมื่อ: 31-05-2011 20:40:12 »





ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนท
«ตอบ #170 เมื่อ31-05-2011 22:06:52 »

อยากให้ฟี่มีความสุข
 :m17:แต่ไม่อยากให้เป็นณัฐเลยให้ตายซิ  :เฮ้อ:
 :กอด1:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #171 เมื่อ01-06-2011 00:02:32 »

แวะมา +1 ให้ คุณบีบี แทนคำขอบคุณสำหรับตัวอย่างตอนต่อไป  :o8:
:เฮ้อ: ยิ่งอ่านยิ่งเครียดไม่ได้รู้สึกว่าจะแฮปปี้เอนดิ้งได้ง่ายๆเลย กลัวๆ
แล้วจะรออ่านต่อน๊า

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #172 เมื่อ01-06-2011 09:49:05 »

+1 คุณบีบี มารอแต่เช้าค่ะ แอบอู้ในที่ทำงาน o19

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 14 (31/5/2011)
«ตอบ #173 เมื่อ01-06-2011 16:22:27 »

งง กับณัฐ
ชอบฟี่ตั้งแต่ตอนไหน
ทำไมอาการหนักจัง

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ช่องว่างหมายเลข 15
«ตอบ #174 เมื่อ01-06-2011 17:20:44 »



ผมกับณัฐนั่งเล่นกันอยู่ที่หาดจนเกือบสามทุ่มก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับมาที่รีสอร์ท แขกในรีสอร์ททยอยกันกลับห้องพักไปเกือบหมด คงเพราะว่ามันก็เริ่มดึกแล้ว

ณัฐจอดมอเตอร์ไซค์ให้ผมลงไปยืนรอระหว่างที่ณัฐขับรถไปจอดตรงที่จอดรถ ผมยืนรอสักพักณัฐก็เดินมาโอบไหล่ผมแล้วพาเดินกลับไปที่ห้องพัก ระหว่างที่เดินไปที่ห้องผมก็สำรวจความสวยงามของการตกแต่งรีสอร์ทในยามค่ำคืน โคมไฟติดผนังที่ตกแต่งด้วยเปลือกหอยให้บรรยากาศแบบทะเล๊ทะเล ถ้าผมมีบ้านติดทะเลบ้างก็ดีสินะ... แต่ที่แน่ๆตอนนี้ต้องผ่อนบ้านที่กรุงเทพให้หมดก่อน...

“ณัฐไปอาบน้ำสิ” ผมปิดประตูห้องพักแล้วก็บอกให้ณัฐไปอาบน้ำก่อน ตัวของเราสองคนมีแต่กลิ่นบาร์บีคิว แถมเท้าก็ยังมีแต่ทรายติด แต่พอผมหันไปมองคนที่ผมไล่ให้ไปอาบน้ำผมก็ผงะ
“ณัฐ! อย่าไปนอนบนที่นอนฟี่แบบนั้นนะ เท้าเปื้อนทรายเต็มไปหมด อี๋ย์” ผมรีบเดินไปดึงณัฐออกมาจากที่นอนของผม ทำไมเขาไม่ไปนอนบนที่ตัวเองละเนี่ยยยยยยยย
“ฟี่แหละไปอาบก่อน ณัฐให้ฟี่อาบก่อน”
“งั้นณัฐก็อย่ามานอนกลิ้งบนที่นอนฟี่ ไปนั่งที่โซฟาเลย อย่ามาเกลือกบนที่นอน เท้ามีแต่ทราย” ผมไล่ณัฐลงจากที่นอนแล้วผมก็ไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดไหล่โดยไม่สนใจคนที่เดินปึงปังหน้าหงิกหน้างอไปนั่งบนโซฟา
“ยังไงคืนนี้ก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้วนี่...” เสียงบ่นพึมพำจากคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาทำเอาผมหันควับ
“ห๊ะ? ณัฐว่าอะไรนะเมื่อกี้ ฟี่ฟังไม่ค่อยชัด”
“เปล๊า...ไม่มีอะไรหรอก..ไปอาบน้ำเถอะ”
ผมเอียงคออย่างสงสัย เมื่อกี้ณัฐมันต้องพูดอะไรสักอย่างที่ไม่ดีแน่ๆเลย แต่ผมดันฟังไม่ทันเสียอย่างนั้น...
แต่เอาเถอะ... คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง...

ห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำที่สร้างด้วยไม้ หน้าต่างระบายอากาศเปิดโล่งให้เห็นดาวบนท้องฟ้า น้ำเย็นๆจากฝักบัวกระจายลงบนใบหน้าผม ลมทะเลพัดเข้ามาทางช่องระบายอากาศทำให้ผมขนลุกซู่ ที่นี่อากาศดีจนไม่ต้องเปิดแอร์เลย ผมเอื้อมมือไปกดสบู่เหลวที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ กลิ่นหอมของผลไม้ตระกูลซีตรัสเตะจมูกผมอย่างจัง ผมชอบใช้พวกสบู่ที่เป็นกลิ่นผลไม้ที่สุด
“ฮืม...หอมสดชื่นดีจัง...” แค่ถูนิดเดียวก็มีฟองเต็มตัวผมไปหมด ยี่ห้ออะไรหว่า...น่าซื้อไปใช้จังเลยนะ ผมฟอกสบู่อย่างสนุกสนาน กลิ่นผลไม้ติดตัวดีชะมัด ผมล้างตัวแล้วก็ลงยกแขนขึ้นมาดมกลิ่นแล้วก็ฟอกสบู่อีก ผมอาบน้ำไปอย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก ก๊อก

“ครับ?” ผมขานรับเสียงเคาะที่ดังขึ้น
“ฟี่ เสร็จหรือยัง อาบนานจังเลย” เสียงณัฐถามผมจากหน้าประตู
“อีกแป๊บนะณัฐ” ผมตะโกนตอบกลับไป
“อืม...” ณัฐตอบแล้วก็เงียบไป จนผมคิดว่าณัฐคงจะร้อนแล้วอยากอาบน้ำเร็วๆแน่เลย งั้นผมต้องรีบอาบแล้วละ

ผมปล่อยให้น้ำจากฝักบัวล้างสบู่ออกจากตัวผมจนเกลี้ยงแล้วก็ดึงผ้าขนหนูมาพันรอบเอวกับคลุมไหล่ พอเรียบร้อยดีแล้วก็เปิดประตูออกไป
“เหวอ!” ผมตกใจแทบช็อคแน่ะครับเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงทะมึนยืนค้ำอยู่ตรงหน้าประตูพอดี ไอ้ผมก็ไม่ทันตั้งตัวเลยปะทะเข้ากับณัฐไปเต็มแรง
“อาบน้ำนานจัง...” ผมรับรู้ได้ว่าณัฐยกแขนขึ้นมาโอบกอดผมและกระซิบเสียงสั่น..

ทำไมผมจะไม่รู้ว่าณัฐต้องการอะไร...

เพราะในเมื่อผมเองก็ต้องการไม่แพ้กัน...

“อือ เพลินไปนิดน่ะ สบู่มันหอมดี แล้วน้ำก็เย็นดีด้วย...” ผมพยายามหลบออกมาจากอ้อมแขนนั้น อ้อมแขนที่ผมเคยโหยหามาตลอด
“ขอกอดก่อนสิ...”
“อื้อ...อย่าสิ ฟี่จะไปแต่งตัว”
“ก็ได้...” ผมยอมรับว่าแปลกใจนิดๆที่ณัฐยอมปล่อยผม แต่ผมก็ไม่อยากคิดอะไรมากครับ รีบแต่งตัวก่อนดีกว่า สถานการณ์ไม่ปลอดภัย
“ณัฐเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ให้แต่งตัวแล้วละ”
“อ๊า! ปล่อยนะณัฐ” ผมร้องเสียงหลงทันทีที่ตัวผมถูกยกลอยขึ้นจากพื้น ณัฐอุ้มผมขึ้นมาแล้วเดินตรงไปบนที่นอน ผมรู้สึกว่าทำตัวไม่ถูกแล้วใจก็เต้นแรงเป็นบ้า ผมควรจะทำยังไงดีเนี่ย!
“ฟี่..ณัฐขอกอดหน่อยได้ไหม” ผมพยักหน้ารัวๆแต่ก็รีบพูดต่อ
“แค่กอดนะณัฐ”
“มากกว่ากอดไม่ได้เหรอ” ณัฐถามเสียงออดอ้อน ผมเองก็ใจอ่อนยวบแต่ก็ต้องฝืนส่ายหัว...

ผมไม่ได้หวงเนื้อหวงตัวหรืออะไรหรอกนะครับ... แต่ผมรู้ว่า..หากผมเลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับณัฐมากไปกว่านี้ คนที่เจ็บ.. คงเป็นผมเองแหละครับ ณ ตอนนี้ที่เรื่องครอบครัวของณัฐมันยังคลุมเครืออยู่ ผมเองก็ไม่อยากจะถลำลึกลงไปอีก เพราะเมื่อวันหนึ่งหากณับเลือกที่จะกลับไปหาครอบครัวของเขา ผมก็จะได้ไม่ต้องช้ำมาก(จริงเหรอ?)

“อืม ณัฐไม่เซ้าซี้แล้วละ” ณัฐยอมถอยออกห่างจากผม เขาจูบผมที่แก้มเบาๆแล้วคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป ผมมองณัฐปิดประตูห้องน้ำแล้วผมก็ถอนใจก่อนจะเดินไปเอาเสื้อผ้ามาสวมให้เรียบร้อย

ผมหยิบน้ำอัดลมจากในตู้เย็นออกมากระป๋องหนึ่งแล้วเดินไปนั่งที่ระเบียง ลมเย็นๆและดวงดาวบนท้องฟ้าช่างสวยเหมือนฝัน ผมกำลังสงสัยว่าหลังจากที่เราทั้งคู่กลับไปกรุงเทพแล้วความสัมพันธ์จะเป็นยังไง มันจะก้าวไปไกลกว่าเดิม มันจะหยุดอยู่กับที่ หรือมันจะแย่ลง

แล้วผมก็นึกถึงเรื่องลูกของณัฐ เรื่องแฟนของณัฐที่ห่างกันแล้ว ณัฐใช้คำว่า ‘ห่างกันแล้ว’ ไม่ได้ใช้คำว่า ‘เลิกกัน’ แสดงว่าหากพวกเขาเคลียร์เรื่องที่ไม่เข้าใจกันได้ก็คงจะกลับไปดีกันสินะ แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ผมก็คงไม่เหลือที่ให้ยืนแล้ว ณัฐเป็นเหมือนที่พักใจของผม เป็นต้นกำเนิดของความสุขในชีวิตผม ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้รู้สึกผูกพันอะไรกับเขามากมายขนาดนี้ บางทีมันอาจเป็นเรื่องแบบที่เขาเรียกว่ากงกรรมกงเกวียนหรือเปล่านะ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงผมก็คงไม่สามารถขัดขืนมันได้ เพราะว่าเมื่อผมมองไปที่ทุกอย่างรอบตัวผม มันก็จะมีแต่เงาของณัฐเต็มไปหมด แล้วผมจะเหลือสายตาไปมองใครได้อีก

“คิดอะไรอยู่” ผมหันไปมองณัฐที่มาหยุดยืนข้างผม เขาดึงเก้าอี้อีกตัวมานั่งแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมตัวเอง ผมมองมือใหญ่ที่ขยี้เส้นผมเปียกๆของเขาแรงๆ กล้ามเนื้อช่วงบนที่ปราศจากเสื้อผ้าปกปิดกับกางเกงเลขาสามส่วน ณัฐเคยทำให้ผมรู้สึกเหมือนหยุดหายใจได้อย่างไร ตอนนี้มันก็เป็นแบบนั้น... ผมคงถอนตัวไม่ขึ้นแล้วแหละครับ

“คิดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ..”
“ฟี่บอกว่าคิดไปเรื่อยเปื่อยทีไร ณัฐต้องรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นเสมอเลย...” ผมยิ้มให้ณัฐ เขาช่างรู้ดีจริงๆแฮะ
“เมื่อกี้แม่ณัฐส่งเมสเสจมาบอกว่าจะเลี้ยงฉลองวันเกิดให้น้องพรุ่งนี้ ให้ณัฐรีบกลับบ้าน” ผมฟังที่ณัฐเล่าแล้วก็สะท้อนใจ เราจะได้อยู่กันตามลำพังแค่วันนี้... และพรุ่งนี้ก็จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วสินะ...
“ฟี่ไปเปล่า หึหึ” ผมรู้ครับ ว่าณัฐชวนผมขำๆ ผมรู้ครับว่าณัฐแค่พูดลอยๆ แต่รู้ไหมครับ ว่าผมเสียใจเหลือเกิน...

ผมรู้ว่าผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเหยียบบ้านของเขาได้...
สถานะของเรามันไม่ใช่เรื่องที่จะเปิดเผยได้ เพราะไหนจะเรื่องครอบครัวของณัฐ และเรื่องเพศของเรา ผมรู้ว่าบางทีชาตินี้จนผมตายก็คงจะไม่มีวันได้ไปเปิดตัวพูดคุยทำความรู้จักกับพ่อแม่ของเขาได้เหมือนคู่อื่นๆ แต่การที่ณัฐพูดเรื่องนี้ขึ้นมาลอยๆเหมือนไม่คิดอะไรมันก็ทำให้ผมเจ็บเหลือเกิน...

“ฟี่ขอไปนอนก่อนนะ” ผมรีบลุกมาจากตรงนั้นแล้วเดินเข้าไปในห้อง ผมมันโง่จริงๆครับ ลุกพรวกพราดมาแบบนั้นณัฐก็คงต้องรู้อยู่แล้วว่าผมผิดปรกติ ณัฐต้องรู้แน่ว่าผมเสียใจ
“ฟี่! เป็นอะไร?” ณัฐเดินตามผมมาจริงๆด้วย แต่ผมก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาสุดๆ สมองผมมันไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมปัดมือณัฐที่จับแขนผม
“เดี๋ยวสิ...ฟี่เป็นอะไร ฟี่ร้องไห้ทำไม...” น้ำเสียงณัฐฟังดูตกใจ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะมาอธิบายอะไรทั้งนั้น ยิ่งณัฐมาเซ้าซี้ผมแบบนี้น้ำตามันก็ยิ่งไหล...ให้ตายเถอะ ผมร้องไห้กี่ครั้งแล้ว ทำไมผมถึงอ่อนไหวแบบนี้นะ
“ฟี่ตอบสิ...” ณัฐเขย่าแขนผมและเฝ้าถามต่อ จนผมทนไม่ไหวจึงถามเขากลับไป
“แล้วณัฐพูดอะไรออกมาล่ะ...ณัฐไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าณัฐพูดอะไรออกมา” ผมถามกลับไป เสียงผมสั่นมากจนฟังแทบไม่ออก แต่จากสีหน้าเศร้าของณัฐก็แปลว่าเขาฟังที่ผมรู้เรื่องทุกคำ
“ณัฐไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น...ณัฐขอโทษ...ณัฐไม่ได้ตอกย้ำฟี่เลยนะ...”
“แต่ฟี่เสียใจ ณัฐนึกว่าฟี่ไม่รู้สึกเหรอ นึกว่าฟี่ไม่เคยคิดเหรอ ฟี่คิดเสมอเลยนะว่าชาตินี้ฟี่ไม่มีทางได้ไปเหยียบบ้านณัฐหรอก เพราะอะไรล่ะ ก็เพราะว่าฟี่ไม่มีสิทธิ์ไง!” ผมตะโกนใส่เขา เหมือนมันอัดอั้นมานาน พอระเบิดก็เลยเต็มที่น่ะครับ
“ฟี่...ณัฐทำให้ฟี่รู้สึกแบบนั้นเหรอ ณัฐทำให้ฟี่รู้สึกว่าณัฐไม่จริงจังเหรอ...”   
“ก็ณัฐไม่เคยพูดอะไร ไม่บอก ไม่เล่าอะไรสักอย่าง มันเหมือนว่าเราแค่ใช้เวลาร่วมกันไปวันๆแค่นั้น ฟี่ไม่เคยได้รู้เรื่องอะไรของณัฐเลย ตอนนี้ความสัมพันธ์ของณัฐกับเขาเป็นยังไงบ้างฟี่ก็ไม่รู้...ฮึก..” ผมพูดแล้วผมก็สะอื้น น้ำตาผมหยดแหมะจนณัฐต้องดึงกระดาษทิชชู่มาซับให้
“ที่ณัฐไม่บอกกับฟี่ ไม่พูด ไม่เล่า เพราะณัฐรู้ว่าฟี่ก็ต้องเก็บไปคิด...ณัฐรู้ว่าฟี่ต้องคิดมากเรื่องของณัฐ ณัฐไม่อยากให้ฟี่ต้องคิดมากเลย...” ณัฐพยายามอธิบายให้ผมฟัง แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะผมไม่อยากทนรออีกแล้ว
“มันไม่ต่างกันหรอก ณัฐไม่พูดฟี่ก็คิด ณัฐพูดฟี่ก็คิด เพราะงั้นณัฐพูดมาเถอะ ฟี่ไม่อยากจะคิดเองเออเองอีกแล้ว” ผมสูดจมูกแล้วกลั้นสะอื้น

เราทั้งสองคนต่างก็นิ่งเงียบ มีแค่เสียงสะอื้นเบาๆของผมที่ยังดังอยู่ นาฬิกาตรงฝาผนังเหมือนจะส่งเสียงเดินดังเป็นพิเศษในเวลาแบบนี้ เวลาที่มนุษย์นิ่งเงียบ...

“ณัฐก็ไม่รู้ว่าจะทำยังเหมือนกันฟี่... เพราะว่าเรื่องของณัฐกับเขาน่ะ มันเป็นความสัมพันธ์ที่มีกันมานาน ถึงมันจะระหองระแหง ถึงเราจะเข้ากันไม่ได้และทะเลาะกันประจำ แต่ว่าเรามีลูกด้วยกัน มันจึงตัดกันไม่ขาด ไม่ใช่ว่าณัฐไม่เคยขอเลิกกับเขาหรอกนะ ณัฐเคยขอเลิกแล้วเขาก็บอกว่าให้ตัดขาดกันไปเลย แต่ณัฐยังอยากเจอลูก แล้วสุดท้ายณัฐก็ใจอ่อน จนเรื่องมันก็วนกลับมาที่จุดเดิม มันเป็นแบบนี้มาสองครั้งแล้ว สองครั้งที่ณัฐขอเลิกแล้วก็ใจอ่อนเอง”

“รู้ไหมฟี่...นานเท่าไรแล้วที่ณัฐต้องทนกับความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่มองหน้ากัน คุยกันก็ทะเลาะ แล้วเขาก็ไม่เคยคิดจะพูดคุยปรับความเข้าใจอะไร ฟี่เชื่อไหม ณัฐเคยแอบอ่านไดอารี่ของเขา เพราะณัฐอยากรู้ว่าเขาน่ะคิดอะไร จนณัฐไปอ่านเจอว่าเขาบอกเสียดายที่เลิกกับแฟนเก่าของเขา ณัฐก็เลยโมโหทะเลาะกัน แล้วณัฐก็เผลอไล่ให้เขากลับไปอยู่บ้านเขา”

ผมนั่งมองณัฐที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาเอง เรื่องที่เขาพบเจอในระหว่างที่เราไม่ได้พบกัน ณัฐดูเจ็บปวดผิดไปจากคนแสน
ร่าเริงอารมณ์ดีที่ผมรู้จัก ผมเอามือป้ายน้ำตาตัวเองแล้วตั้งใจฟังที่เขาเล่าให้มากกว่าเดิม...

“ณัฐเสียใจนะ แล้วก็รู้สึกผิดที่ทำรุนแรงกับเขาไปแบบนั้น ณัฐยังมีเรื่องเลวๆที่ฟี่ไม่เคยรู้อีกเยอะ ตอนที่ณัฐรู้ว่าจะมีลูกน่ะ เชื่อไหมว่าณัฐแทบบ้า ณัฐคิดว่าอนาคตของณัฐต้องดับวูบแน่นอน แต่แล้วณัฐก็มาคิดได้ว่าเราจะต้องเดินต่อไป เพราะยังไงตัวณัฐก็เป็นของณัฐ ณัฐจะไม่ให้คนอื่นมาทำให้ชีวิตของณัฐต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลหรอก”

“แต่ถึงณัฐจะยอมรับเป็นพ่อของลูกมันก็ไม่พอชดใช้กับความเลวที่ณัฐเห็นแก่ได้ ถ้าตอนนั้นณัฐรู้จักควบคุมอารมณ์ความต้องการของตัวเอง ถ้าณัฐไม่ชิงสุกก่อนห่าม หรือถ้าณัฐรู้จักป้องกันสักนิด ณัฐก็คงไม่ทำให้เขาต้องมาเป็นแม่คนทั้งที่ยังอายุน้อย แถมณัฐยังไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้อีก”

“เมื่อก่อนเขาเคยถามณัฐ ว่าณัฐรักเขาไหม... ซึ่งณัฐตอบไม่ได้...” ณัฐพูดแล้วก็เงยหน้ามองผม ณัฐทำสีหน้าเหมือนสาแก่ใจ ทำหน้าเหมือนสมน้ำหน้าตัวเอง มันเป็นสีหน้าที่ดูถูกตัวเองที่สุด...ที่ผมไม่อยากให้เขาเป็นแบบนั้น

“ครั้งแรกที่เลิกกัน เราก็ห่างกันไปพักหนึ่ง แต่เหมือนว่าพอวันเวลาค่อยๆผ่านไปก็เริ่มกลับมาคุยกันได้ หึ...ณัฐก็คิดว่าทุกอย่างน่าจะดี แต่พอไม่นาน เราก็กลับมาทะเลาะกันอีก แล้วเราก็เลิกกันอีกเป็นครั้งที่สอง...” ณัฐก้มหน้าลงซบกับฝ่ามือ ผมเองอยากจะโน้มตัวไปกอดเขาและบอกให้เขาหยุดเล่า แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะผมยังอยากจะรู้เรื่องของเขา แม้ว่ามันจะเป็นเหมือนการระลึกความทรงจำที่เจ็บปวดก็ตามเถอะ หากการที่เขายอมเล่าเรื่องให้ผมฟัง ก็แปลว่าเขาเปิดใจให้ผมไม่ใช่หรือ?

“ถึงตอนนั้นณัฐรู้แล้ว...ว่ามันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมแล้ว ณัฐทนไม่ไหวแล้วนะฟี่ ความรู้สึกมันไม่กลับไป ณ จุดนั้นแล้ว ต่อให้ณัฐพยายามฝืนอีกเป็นครั้งที่สามก็ตามทีเถอะมันก็คงเป็นไปไม่ได้”

“แต่ณัฐก็บอกกับเขาไว้เรื่องหนึ่ง ว่าถึงจะห่างกันไป แต่ณัฐก็จะไม่มีใคร จะอยู่ไปแบบนี้เพื่อครอบครัวเพื่อลูก ณัฐคิดว่าณัฐคงอยู่ได้ ไม่มีใครให้รักก็ไม่เป็นไร เพราะณัฐอยากจะทำเพื่อลูก เพื่อชดเชยความเลวที่ณัฐทำให้เขาต้องเสียใจ แต่จนวันหนึ่งความคิดนั้นมันก็เปลี่ยนไป ณัฐเริ่มที่จะเปิดใจรับใครอีกคนเข้ามาในหัวใจ วันที่ณัฐได้เจอฟี่อีกครั้ง...อะไรๆมันก็เหมือนว่าจะชัดเจนขึ้น”

“ฟี่รู้ไหม ตั้งแต่เมื่อก่อนตอนที่ทำงานที่ร้านพี่แก๊บ ณัฐชอบเวลาที่เราได้เข้ากะพร้อมกันมากเลยนะ ถึงตอนนั้นความรู้สึกที่ณัฐมีให้ฟี่มันจะไม่ใช่ความรู้สึกชอบแบบคนรัก แต่ณัฐก็รู้สึกดีกับฟี่เสมอ และความรู้สึกมันก็มากขึ้นๆตั้งแต่ได้เจอกันอีก ณัฐต้องขอโทษฟี่อีกครั้งที่เมื่อก่อนณัฐไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของฟี่เลย เอาแต่พูดเรื่องราวทำร้ายจิตใจฟี่เป็นประจำด้วย”

ณัฐสบตากับผม จมูกของณัฐแดงเรื่อ ดวงตาก็มีน้ำตาคลอ ผมแตะปลายนิ้วที่หางตาของณัฐและเกลี่ยน้ำตาออกให้และส่ายหน้าบอกว่าผมไม่โกรธเขาเลย ผมไม่โกรธเขาสักนิด
“ฟี่...ฟี่ทำให้ณัฐรู้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างนะ ฟี่ทำให้ณัฐรู้ว่าณัฐต้องเดินต่อไป ณัฐต้องตัดสินใจเสียทีว่าจะเลือกความถูกต้อง...หรือจะทำตามหัวใจเรียกร้อง” ผมก้มมองมือของณัฐที่ผมจับเอาไว้ คุณรู้ไหม ในใจของผมบอกให้เขาเลือกทำตามหัวใจ เพราะผมไม่ใช่คนดีพอที่จะบอกให้เขาเลือกครอบครัวแทนผม ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องของความถูกต้องเลยสักนิด การที่เลิกกับแม่ ไม่ได้แปลว่าจะเลิกเป็นพ่อของลูก เหมือนพ่อของผมที่ไม่เคยเลิกเป็นพ่อ พ่อยังคงเป็นพ่อแม้ว่าพ่อจะไม่เลือกแม่ก็ตามที

“ณัฐ...ฟี่จะไม่ช่วยณัฐตัดสินใจหรอกนะ เพราะณัฐเองก็น่าจะรู้ว่าฟี่จะอยากให้ณัฐเลือกทางไหน แต่ฟี่จะบอกให้ณัฐรู้ว่าการที่พ่อแม่เลิกกันมันไม่ได้แปลว่าพ่อแม่ไม่รักลูก ถึงจะไม่ได้เจอลูก ก็ไม่ได้แปลว่าณัฐจะช่วยเหลือดูแลลูกไม่ได้ พ่อแม่ของฟี่เองก็เลิกกันตั้งแต่ฟี่ยังเด็ก แต่ฟี่ก็ไม่เคยโกรธพ่อหรือแม่เลยนะ” ผมพูดแล้วมองหน้าณัฐอย่างจริงจัง เพราะสิ่งต่อไปนี้ที่ผมจะพูดมันสำคัญยิ่งกว่าอีก
“ฟี่รู้ว่าเรื่องของความรักมันไม่มีเงื่อนไข คนที่ผูกพันกันมานานไม่ได้แปลว่าจะรักมากกว่าคนที่ผูกพันน้อย เพราะงั้นฟี่ก็มั่นใจว่าความรู้สึกของฟี่ที่เก็บมากว่าสี่ปีมันไม่น้อยเลยนะ ความรู้สึกที่ฟี่มีให้ณัฐมันไม่แพ้คนอื่นแน่ๆ” น้ำตาผมมันเหมือนจะไหล คนตรงหน้าผมนี้ไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ เขายังมีด้านมืดเหมือนคนอื่นทั่วไป หากเพื่อนคนอื่นของผมรู้ว่าณัฐเป็นผู้ชายที่มีพันธะแล้วก็คงแนะนำให้ผมเลิกยุ่งกับณัฐ แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะสำคัญ ณัฐไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัวในความคิดของผม เพราะถ้าหากณัฐเลวและเห็นแก่ตัวจริง ณัฐคงไม่เก็บความทุกข์ไว้กับตัวเองมาตลอดจนป่านนี้
“ถ้าหากว่าณัฐเลือกที่จะจับมือฟี่ไปแบบนี้ ฟี่จะดูแลณัฐใช่ไหม ฟี่จะทำให้ณัฐมีความสุขหรือเปล่า” ณัฐถามผมซ้ำ เขาทำหน้าเหมือนลูกหมาที่รอเจ้านายมารับ ผมยิ้มแล้วก็ตอบเขาไปชัดเจน
“ณัฐจะสุขล้นจนทนขาดฟี่ไม่ได้เลยละ”
“สัญญานะ” ณัฐชูนิ้วก้อยขึ้นมาให้ผม ผมก็เลยใช้นิ้วก้อยของผมเกี่ยวกับนิ้วของเขา
“กลับไปแล้วณัฐจะบอกกับเขา.. ณัฐจะไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง...” ผมฟังที่ณัฐพูดแล้วก็รู้สึกตามันร้อนผ่าว ผมยกหลังมือของณัฐขึ้นมาจูบ
“งั้นวันนั้นฟี่จะรอณัฐอยู่ที่บ้าน จะทำกับข้าวไว้รอณัฐ”
“อืม ณัฐจะรีบกลับมากินนะ” ณัฐดึงตัวผมไปนั่งติดกับเขาแล้วเขาก็กอดผม ณัฐกอดผมไว้แน่น จมูกของณัฐหอมย้ำๆอยู่ที่แก้มและไหล่ของผม ผมหลับตารับสัมผัสของเขา ผมอยากจะรับทุกสิ่งที่เป็นเขามาให้หมด เพราะว่าผมเองเลือกแล้ว ผมเลือกผู้ชายธรรมดาคนนี้ คนที่มีดีเลวปะปนกันไป แต่เพราะว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ผมมีความสุข เขาทำให้ผมรู้จักการคิดถึง ทำให้ผมรู้จักความสุนทรีย์ของการกอด ทำให้ผมรู้ว่าการจูบใครสักคนด้วยความ...

รัก

มันเป็นยังไง...

ผมเลือกแล้วว่าผมรักเขาครับ...

----------------------------- To Be Continue -----------------------------

ปล.เฮ้อ ท๊อฟฟี่ก็ตัดสินใจไปแล้วนะคะ ถึงตอนนี้ขอให้คิดว่าท๊อฟฟี่ก็เป็นผู้ใหญ่คนนึงที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
เพราะฉะนั้นท๊อฟฟี่ก็คงคิดอะไรถี่ถ้วนแล้วเหมือนกันถึงได้เลือกณัฐ

บีเองก็เชื่อว่าคนเราไม่ได้มีใครดีพร้อมค่ะ บางทีเราอาจเลือกผู้ชายที่ดูเลวในสายตาคนอื่น นั่นก็เพราะว่าเราอาจจะมองเห็นความดีของเขาที่คนอื่นไม่เห็น

เรื่องท๊อฟฟี่กับณัฐก็เหมือนกัน ท๊อฟฟี่เองก็รู้สึกถึงสิ่งดีๆของณัฐ และทั้งท๊อฟฟี่และณัฐก็รู้จักกันมานาน ทำให้ต่างก็รู้นิสัยกำพืดของแต่ละคนมาพอสมควร

เรื่องหัวใจมันเลือกไม่ได้หรอกค่ะว่าเราจะต้องรักคนที่ดีพร้อม และใช้เวลาบ่มเพาะความรักมายาวนาน ความรักมันไม่ต้องการเงื่อนไขหรอกค่ะ
ความรักมันเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ กับใครก็ได้

เหมือนที่ท๊อฟฟี่รู้สึกรักณัฐแหละค่ะ ผูกพันน้อยกว่า ไม่ได้แปลว่ารักน้อยกว่าไปด้วย จริงไหมคะ?


ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 15 (01/06/2011)
«ตอบ #175 เมื่อ01-06-2011 21:24:39 »

ก็รักเค้าไปหมดใจแล้วนี่เนอะ
ที่เหลือก้อต้องคอยดูกันต่อไป
จำไว้เสมอว่า นี่คือสิ่งที่เราเลือกเอง
โทษใครไม่ได้ แม้แต่โชคชะตา

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 15 (01/06/2011)
«ตอบ #176 เมื่อ01-06-2011 23:38:23 »

ลุ้นแทนฟี่ว่าเหตุการณ์จะเป็นไง

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 15 (01/06/2011)
«ตอบ #177 เมื่อ02-06-2011 00:08:39 »

ใช่ค่ะ ต่อให้รักคนที่เลวในสายตาคนอื่น แต่ที่เรารัก เพราะเราเห็นความดีที่คนอื่นไม่เห็น
ชอบตอนนี้จัง อะไรๆดูชัดเจนขึ้น

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 15 (01/06/2011)
«ตอบ #178 เมื่อ02-06-2011 00:14:58 »

แล้วเมื่อก่อนฟี่รู้สึกยังไงบ้างล่ะ ที่พ่อฟี่ทิ้งแม่ไปมีคนใหม่

ลูกณัฐก็คงรู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากฟี่หรอก เฮ้อ

สุดท้ายมันจะลงเอยด้วยความสุขหรือเปล่า ก็รอดูต่อไปแหละนะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: The Space [ช่องว่าง] ตอนที่ 15 (01/06/2011)
«ตอบ #179 เมื่อ02-06-2011 00:33:19 »

อ่านแล้วคิดได้ว่า เราไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกที่จะรัก
รักต่างหากที่ทำให้เราต้องเลือก

รันต๊ด T____T
ถึงจะไม่มีอนาคตที่แน่นอนแต่ตอนที่เลือกเค้าแล้วมันก็ต้องทุ่มสุดตัวสินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด