'ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ'
พฤษภาลากสังขารอย่างยากลำบากลงมาถึงหน้าโรงแรมโดยสวัสดิภาพ กว่าจะโบกเรียกแท็กซี่ได้ก็เหงื่อตก ในใจได้แต่สาปแช่งไอ้ฝรั่งขี้นกตัวเท่าควายที่ป่านนี้คงนอนหัวเราะเยาะเขาอยู่บนห้องสวีท
..ใช่! ห้องสวีท..
กุ๊กหนุ่มขบฟันกรอดๆ นึกถึงเรื่องเมื่อเช้า จู่ๆตื่นมา ข้างตัวมีผู้ชายนอนเปลือยอยู่ติดกัน แล้วที่เจ็บใจมันไม่ใช่อะไร เขาดันนอนกับนายจ้างฝรั่งเข้าไปแล้วน่ะสิ! เสียดุลการค้าชิบเป๋งเลย!
..ผู้ชายคือสัตว์โลกที่ไว้ใจไม่ได้! ถึงมีเดือยมันก็เอา!..
“ห้องอาหารมธุปายาส สุขุมวิท 22” เขาชะโงกหน้าบอกคนขับแท็กซี่ที่ผ่านการเลือกสรรแล้ว(ว่าถึงมีเดือยก็คงปั่นให้ตั้งไม่ได้แน่)
“ครับ”
พออีกฝ่ายพยักหน้ารับ ไม่ได้บอกปัดว่าจะไปส่งรถ พฤษภาก็กระโดดขึ้นนั่ง ลืมตัวไปนิดว่าเบาะหนัง ไม่ได้บุผ้าสักหลาดเนื้อนุ่ม
“อูย..” มันคงเห็นก้นเขาเป็นกระท้อนถึงได้ใช้ไม้ตีพริกทุบเสียน่วม!
กุ๊กพฤษภ์เจ็บจนเห็นดาว ตอนตื่นยังไม่เท่าไหร่ มีอาการชินๆชาๆ ถ้าไม่เป็นเพราะตกใจจนลืมเจ็บ อาจเป็นเพราะว่ามันเจ็บต่อเนื่องกระทั่งถึงเช้ามืด ตอนตื่นเลยยังเบลอๆอยู่ แต่ตอนนี้น่ะสิ แทบลงไปนอนกลิ้งสิบตลบ ตีอกชกหัวตัวเองเพราะความเจ็บแสบรวดร้าวสะท้านไขสันหลังจี๊ดขึ้นไปถึงกบาล
“ไม่สบายรึเปล่าครับคุณ” คนขับวัยดึกมองผ่านกระจกส่องหลัง เห็นชายหนุ่มนั่งนิ่งตัวเกร็งหน้าซีดปากสั่นอยู่ลำพัง
“เปล่าครับ..” พฤษภากัดฟันตอบ
..ไม่เป็นไรโคตร! แค่ระบมก้นเหมือนถูกบาซูก้าถล่มเละประมาณนั้น..
เขายกมือปาดเหงื่อ กำลังจะเช็ดหน้าเข้าแล้วแต่ชะงักไปหน่อย หันซ้ายหันขวาหาทิชชู่ไม่มีเลยแอบป้ายมือแรงๆกับเบาะหลัง สีหน้าขยะแขยงเหมือนจะขย้อน ไอ้มือข้างนี้นั่นล่ะที่กำมะเขือยาวเข้าไปเต็มรัก!
..ให้ตายเถอะโรบิน! บิ๊กไบท์ในฝันนั่นเลี้ยงคนได้หนึ่งครอบครัวพอดี..
ถึงนิยามกุ๊กจะเป็น ‘เล็กๆไม่ ใหญ่ๆเอา’ ก็เถอะ แต่แบบนี้มันใหญ่เกินจะเอา พ่อแม่งเล่น ‘ยัดเยียด’ เลยนี่หว่า! ไม่ขาดใจตายโหงตายห่าคาเตียงก็ดีแค่ไหน เกิดมาเพิ่งได้ขึ้นโรงแรมหรู ดันกลายเป็นเหยื่อฝรั่งซะงั้น
“ถึงแล้วครับคุณ” คนด้านหน้าเลี้ยวเข้าซอยมาจอดเทียบถึงที่หมาย
“อ้าว..ทำไมมาร้านล่ะคุณ ผมบอกไปบ้านผม” กุ๊กโวยวาย
“ร้านหรือบ้านไม่ทราบล่ะครับ แต่คุณบอกว่า ห้องอาหารมธุปายาส สุขุมวิท 22” เขายิ้มอวดฟันปลอมแล้วแบมือ “แปดสิบบาทครับผม”
พฤษภาหุบปากฉับ สมองเขาคงเจอของแข็งจนเบลอไปแล้วจริงๆ ตั้งใจจะกลับบ้านดันสั่งให้มาร้าน เมื่อไหร่อาการหายใจเข้าออกเป็นเรื่องอาหารจะหายเสียทีก็ไม่รู้ “ร้อยนึง ไม่ต้องทอน เศรษฐีใหม่น่ะลุง”
“เจริญๆเน้อ ขอให้ได้เมียสวยรวยเสน่ห์” แกอวยพร
ชายหนุ่มตีหน้าปุเลี่ยน ตอนนี้จะคำว่า เมีย ผัว ฝรั่ง หรือไส้กรอก ก็ดูจะเป็นศัพท์ต้องห้ามทั้งนั้น ใครอย่าพูดมาเชียว พ่อพฤษภ์จะสอยร่วง!
“เอาวะ ให้พี่โชคช่วยไปส่งบ้านก็ได้” เขาพึมพำ เปิดรั้วเข้าไปด้านใน
วันนี้วันเสาร์ เป็นวันทำงานที่ยุ่งกว่าปกติ ร้านจะเปิดเร็วขึ้นอีกชั่วโมงทุกคนต้องวิ่งวุ่นกันจนหัวฟู แต่ด้วยสภาพร่างกายและจิตใจไม่อำนวยอย่างนี้แล้ว คาดว่าเขาคงหยิบกระปุกเกลือมาใส่กล้วยบวชชีแทนน้ำตาล
พฤษภายิ้มทักคนทำความสะอาดแล้วเปิดประตูห้องครัวเข้าไป ได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเด็กๆที่กำลังสุมหัวกันปอกเปลือกมันฝรั่ง
“วันนั้นล่ะตัวเอง เราไปเที่ยวดรีมเวิลด์ แล้วพอกำลังต่อแถวขึ้นสกาย โคสเตอร์ จู่ๆคนแถวนั้นก็ร้องกรี๊ดกันใหญ่ รู้รึเปล่าเกิดอะไรขึ้น!”
“อะไรเหรอ”
“มีฝรั่งตกลงมา! ดิ่งลงพื้นแหลกละเอียด!”
“ยี้!”
“แล้วทำไงอ่ะ เละเลยสิ หวา!”
พฤษภาแอบเงี่ยหูฟัง ไม่รู้โรคจิตหรือเปล่า แต่แอบยอมรับว่า สะใจว่ะ
“แล้วหลังจากนั้น..” คนพูดทำท่าระทึก “พริกกับเกลือก็หล่นตามมา”
ทุกคนระเบิดหัวเราะกันฮาครืน อีกหนึ่งคนที่ฟังอยู่ตั้งแต่แรกขมวดคิ้วฉับ ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันพร้อมกับเคาะตะหลิวเป๊งๆ
“อุ๊ย..พี่พฤษภ์” ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันประจำที่
“ทำอะไรกันอยู่” พฤษภากวาดมองทั่วบริเวณ เอาหลังพิงกำแพงเก๊กหน้านิ่ง ไม่กล้าให้ใครรู้ว่าปวดก้นกบแค่ไหน
“ปอกมันฝรั่งค่ะ”
“คัดเครื่องเทศครับ”
“ขอดเกล็ดปลา”
“สลักชิ้นฟัก ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์”
และ “เลือกไส้กรอกค่ะ”
กุ๊กตัวเล็กหันขวับ เจ้าหล่อนถือถุงไส้กรอกขนาดต่างๆไว้เต็มสองมือ
“เอามาทำอะไรเยอะแยะ” เสียงติดจะห้วนถามทันที
“อ้อ..ว่าจะถามพี่พฤษภ์ว่ายำไส้กรอกต้องใช้แบบไหน หนูไปซื้อแล้วงง ไม่แน่ใจเลยเหมารวม” เธอทำหน้ามึน “พี่ช่วยเลือกหน่อย ระหว่าง..บราทเวิร์สเนื้อหมู เส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งนิ้ว ยาวสี่นิ้ว กับเฟรชคันทรี่พอร์คอ้วนเท่ากันแต่ยาวตั้งแปดนิ้วแน่ะ หรือว่าเอาโบโลญ่าไปเลยดีคะ” เธอคว้าดุ้นเบ้อเริ่มขึ้นมาจ่อหน้า “เส้นผ่านศูนย์กลางห้านิ้ว ยาวสิบห้านิ้ว”
“เอาไปทิ้งให้หมด!!” กุ๊กว้ากลั่น
“เอ๋!” ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตก
พฤษภาเพิ่งได้สติ รีบปรับสีหน้า “วันนี้พี่จะมาบอกว่าไม่สบาย” จริงๆขี้เกียจอยู่ให้แสลงใจ “อย่าเพิ่งทำเมนูยากล่ะ เย็นนี้ถ้าไหวจะมาช่วย”
“อ้าว..พี่พฤษภ์เป็นอะไร”
“กินยารึยังครับ”
“พักผ่อนน้อยอีกแล้วใช่มั้ยคะ” สารพัดคำถามห่วงใยชวนชื่นใจคนฟัง
“เมื่อคืนไม่อาบน้ำงั้นเหรอ”
“ทำไมใส่เสื้อผ้าชุดเก่าล่ะพี่”
“หรือว่าเมาค้าง อิอิ”
..แต่ไอ้คำถามหลังๆมันน่าชกปากจังว่ะ..
“เออน่า..” กุ๊กบอกปัด โบกมือบ๊ายบาย “พี่ไปล่ะ ยังไงเดี๋ยวโทรมา”
“ไส้กรอกหนูล่ะค่ะ” ยัยคนนี้มันยังไม่วาย! “นี่ยังเหลือแฟรงค์เฟอร์เตอร์สี่นิ้ว เวียนนาห้านิ้ว กับค็อกเทลท่อนสั้นๆ”
พฤษภากลอกตามองเพดานอย่างเพลียๆ
“ใช้อะไรก็ตามใจ อย่าไปใช้ไส้กรอกชีสก็แล้วกัน!”
กว๊ากกก มาช้ามาก อู้ได้อีก ช่วงนี้เพิ่งเริ่มเรียนป.โทคร้าบ กำลังปรับตัว กั้กๆๆ พอชินเมื่อไหร่เดี๋ยวจะอัพกระหน่ำ

(ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะชิน)