Ch.16 : Marry Me : ชิดๆเข้าไปอีกหน่อย
บรรยากาศมื้อเย็นวันนี้คล้ายครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกมากมายนั่งล้อมโต๊ะกลม อันได้แก่ ลุงโชคชัยกับน้องสาวแท้ๆ..ชิดชนก อดีต
สามีอย่างพฤษภา ลูกชายตัวกลมคือน้องเมษ และตัวเกะกะสายตาอย่างแด๊ดดี้เฟรดที่หอบเรือพ่วง..เด็กชายโจชัวร์มาเป็นก้าง
ขวางคอชาวบ้านอยู่ด้วย
น้องเมษนั่งคั่นกลางระหว่างพ่อจ๋ากับแม่จ๋า ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่จะเอาอกเอาใจลูกเป็นการแก้เก้อ จานข้าวของเด็กเลยมีแต่อาหาร
เต็มอัตรา
“หนูไม่ชอบผัก” เจ้าตัวแสบใช้ส้อมเขี่ย
“ไม่ได้นะคะ” แม่ชิดปราม “น้องเมษไม่กินผักไม่ได้ ผักมีวิตามินนะ สงสัยพ่อจ๋าให้กินแต่เบอร์เกอร์แน่ๆเลยใช่มั้ย อ้วน
เป็นตุ่มเชียว”
เด็กชายเมษาหน้าง้ำหน้างอเพราะถูกขัดใจ เจ้าตัวน้อยถอนใจเฮือกแล้วเฮือกเล่าจนกุ๊กพฤษภ์ต้องเข้ามาบอกเอง
“ไมกี้ ไมกี้กินอะไรถึงแข็งแรงครับคนเก่ง”
โจชัวร์อยากช่วยเลยยกมือหรา “กินพิซซ่าฮะ”
..ช่วยได้มากเลยบักหำน้อยเอ๊ย..
“เต่าทั่วไปกินอะไรจอชชี่” เฟรดยิ้มจาง ลูกชายคนเก่งเลยร้องอ๋อแล้วเปลี่ยนคำตอบใหม่ว่า เต่ากินผักสีเขียว “จะแข็ง
แรงก็ต้องกินผักสีเขียวสินะ”
“เบิ้มกินผัก เบิ้มจะแข็งแรง” โจชัวร์ยกแขนขึ้นร้องฮัดช่า “เมษกินผัก เมษก็จะแข็งแรง แล้วเมษก็จะเหมือนไมกี้ ไมกี้
เหมือนเลโอด้วยนะ”
เด็กชายเมษาเลยจำยอมจิ้มผักสดเข้าปากอย่างเสียไม่ได้
ชิดชนกนึกทึ่งสองพ่อลูกตรงหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าพวกเขาเข้ามาเป็นเพื่อนของพฤษภ์นานแค่ไหน เห็นว่าเป็นเพื่อนผู้
ปกครองที่โรงเรียนอนุบาลกางเกงแดง และดูเหมือนว่าน้องเมษจะติดเพื่อนจอชเอามากด้วย ที่แน่นอนกว่านั้นคืออีกฝ่ายสามารถ
จูงใจน้องเมษได้ดีกว่าเธอที่เป็นแม่ด้วยซ้ำ
“คุณเฟรดทานเผ็ดได้เหรอคะ” เธอมองฝรั่งหัวทองที่พูดไทยชัดแจ๋วซ้ำยังกินน้ำพริกตาแดงสูตรนรกของเธอได้ชนิดไม่อายคน
ไทยแล้วแอบงุนงง
“สบายมากครับ” เฟรดยิ้ม เขาเหลือบมองคนที่ไม่ยอมสบตาด้วยอยู่ครู่หนึ่ง แอบคิดกังวลในใจไปสะระตะ ก่อนกลับมา
บ้าน พฤษภายังแสดงท่าทีมีใจให้เขาอยู่เลย แต่ไหงกลับมาแล้ว พี่แกทำเหมือนคนไม่รู้จักกันไปซะได้
สาวตัวเล็กหัวเราะร่วน นึกชอบใจอีกฝ่ายขึ้นมาทันที
“ชิดชอบทานเผ็ดค่ะ ไม่รู้จะถูกใจคุณเฟรดมั้ยเพราะประเคนพริกลงไปซะเยอะ ตอนอยู่ซานฟรานไม่ค่อยได้ทำ พอดีแฟนกิน
อาหารไทยไม่เป็นเล..”
“อะแฮ่ม..” โชคชัยกระแอมขัด แถมไม่แค่ส่งเสียง พี่ยังเตะขาน้องสาวคนสวยจากใต้โต๊ะด้วย “อยู่เมืองไทยก็พูดแต่
ของไทยสิยัยชิด” ประโยคหลังนั่นเขาแอบกระซิบกระซาบกับน้องพลางเหลือบดูปฏิริยาของพฤษภาอย่างห่วงใย
กุ๊กนั่งนิ่ง ไม่เออออ ไม่ตอบรับ ไม่มองหน้ามองตา เขากินเหมือนแมวดมแล้วรวบช้อนส้อมเข้าหากัน ตีสีหน้าเรียบเฉยจน
ยากจะเดาความรู้สึก
“เดี๋ยวผมเอาของหวานมาให้” บอกแล้วก็ลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ ผละหายเข้าไปในครัวเหมือนร่างไร้วิญญาณ
โชคหันมาถลึงตาใส่น้อง “หาเรื่องแล้วไง!”
บุคคลภายนอกอย่างเฟรดแอบกลืนข้าวไม่ลงเพราะติดก้อนแข็งๆในลำคอ อันที่จริงเขาควรพาโจชัวร์กลับบ้าน แต่ถ้า
ผละไปตอนนี้ เขาคงไม่รู้เลยว่าเมย์คิดอะไรอยู่ในใจ และมีโอกาสจะรีเทิร์นกับอดีตภรรยาหรือไม่
..หนุ่มฝรั่งรักจริงทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ไหวหรอก!..
ชิดชนกหน้าเจื่อน รีบสาวเท้าตามไปติดๆ เธอรั้งแขนอดีตสามีที่กำลังทำหน้ากระเง้ากระงอดได้อย่างน่ากัดแก้ม
นัก “พฤษภ์โกรธเหรอ”
พฤษภาไม่โต้ตอบ เขาหยิบพุดดิ้งในตู้เย็นมาแกะออกจากแบบพิมพ์ ตักนมสดที่ต้มกับนมข้นหวานราดลงไปด้านบนแล้ว
แต่งหน้าด้วยสตรอเบอร์รี่
“พฤษภ์..ไม่เอาน่า” หญิงสาวเกาะแขนอีกฝ่าย “วันนี้เรามีแขกนะ”
กุ๊กเมย์มองอดีตภรรยา ใบหน้าสะสวยยังคงเต่งตึงแม้ว่าวัยจะล่วงมาเลขสามแล้ว เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่เพียงแค่กอดก็
แทบจะจมหายไปกับอ้อมอก ในสายตาของเขา ชิดชนกเป็นผู้หญิงซุกซนที่พร้อมจะผจญภัยอยู่เสมอ
..เขาให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้..
เธอชอบความแปลกใหม่ ชอบการเปลี่ยนแปลงและเบื่อหน่ายกับสิ่งจำเจ แต่เขา..เป็นคนที่ชอบลงหลักปักฐานอยู่กับสิ่ง
ที่มั่นคง
พฤษภารู้ตัวว่าไม่ใช่ผู้นำครอบครัวที่ดีนัก เขามักตัดสินใจช้าและเอื่อยเฉื่อย เคยพยายามเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ดูเหมือน
ตัวตนของเขาคือสิ่งนี้
..และเธอเลือกที่จะไม่ยอมรับมัน..
พวกเขาทั้งสองหย่ากันและถอยห่างจากความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา ชิดชนกแต่งงานใหม่กับแฟนชาวต่างชาติ พวก
เขาไม่มีลูกด้วยกันแต่ก็ได้ยินว่าเธอรับหลานชายของสามีมาเป็นบุตรบุญธรรม
“จ้องชิดทำไม” เจ้าหล่อนทำหน้าเบ้ “จะด่าก็ด่ามาสิ”
กุ๊กพฤษภ์ละมือข้างหนึ่งเอื้อมไปที่ใบหน้านวลเนียน ชายหนุ่มเกลี่ยปอยผมสีน้ำตาลอ่อนขึ้นไปทัดข้างใบหูขาว เธอมอง
เขาด้วยดวงตากลมโตอย่างที่เคยใช้จับจ้องเจ้าบ่าวของเธอในวันแต่งงาน
เธอเป็นภรรยาที่เขาเลือกมาด้วยตัวเอง อาจจะเคยโกรธ..อาจจะเคยเสียใจ..เคยร้องไห้ตามลำพัง แต่เธอก็คือผู้หญิง..ที่
ช่วงชีวิตหนึ่งของเขาเลือกมาเป็นแม่ของลูก ทั้งเวลาก็ช่วยเยียวยาบาดแผลตรงนั้นไปจนหมดแล้ว..ในเมื่อชีวิตคู่มันไปด้วยกันไม่
ได้ เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้ทำไม จะทำร้ายใครอีกคนไปเพื่ออะไร สู้จากกันด้วยดียังเจอหน้ากันได้อย่างภาคภูมิกว่า
..เพียงแต่เห็นว่าเธอดูผอมลงไป..
..ผู้ชายคนนั้นเลี้ยงเธอไม่ดีเท่าที่เขาเคยมีให้หรือ..
“สบายดีมั้ย..” นั่นคือคำแรกที่เขาปริปากกับเธอ
ชิดชนกน้ำตาร่วง ฉวยถ้วยพุดดิ้งไปจากมือพฤษภ์แล้วชกเขาเข้าที่แขนดังตุ้บ “ไอ้บ้า! บอกให้ด่าทำไมไม่ด่าวะ” ยัง
แข็งแรงอยู่เสมอจริงๆเจ๊คนนี้
“จะให้ผมด่าอะไรชิด หืม..” กุ๊กหัวเราะแผ่ว “ถ้าอยากด่าก็มีแค่คราวนั้นนั่นละ ‘เวลาของเราคงเดินไม่ตรงกันซะแล้ว’ น้ำ
เน่าเป็นบ้าเลย”
“ผู้ชายปากจัด” ชิดชนกบู้หน้าใส่ ยกนิ้วขึ้นปาดน้ำตาออกทั้งรอยยิ้ม
“น้องเมษสบายดี คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะ” เขาหันกลับ สาละวนกับการเตรียมของหวานอีกถ้วย “พวกเราดูแลตัวเองได้
ดูเจ้าหมูน้อยนั่นสิ”
เธอยิ้มทั้งน้ำตา เหลือบมองน้องเมษที่เรอดังเอิ๊ก พอดีกับโจชัวร์ตัวจ้อยที่ผายลมออกมาดังปุ๋งอย่างกลั้นไม่อยู่ “ชิดเห็น
แล้วว่าลูกเรามีความสุข”
“แต่แย่หน่อยนะที่น้องเมษรักผู้พันแซนเดอร์สมากกว่าพวกเรา”
ชิดชนกหัวเราะ เธอเงยหน้ามองผู้ชายคนดีที่หนึ่ง ถึงแม้ว่าจะแต่งงานใหม่และมีสามีที่ดีไม่แตกต่าง แต่ในใจเธอก็ยังจด
จำพฤษภาได้เสมอ
“คุณเป็นพ่อจ๋าที่น่ารักที่สุดในสามโลก” เธอแตะไหล่เขา “คงจะพอทดแทนชิด..ที่เป็นแม่ห่วยแตกที่สุดในสามโลกได้ ดู
พี่โชคสิ พอรู้ว่าชิดจะมานี่พี่แกด่าไม่มีดี พี่โชคแคร์พฤษภ์มากกว่าน้องสาวตัวเองอีกนะ นี่ถ้าพี่โชคเป็นผู้หญิง ชิดคงได้เตะดิ้นแล้ว
เพราะนึกว่าจะมาแฮปน้องเขยไปกกซะเอง”
พฤษภาหัวเราะร่วน “พี่โชคคงจำได้มั้งว่าผมจิตตกแค่ไหนตอนคุณไป แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้โอเคแล้ว ผมมอง
นาฬิกาจนเข้าใจแจ่มแจ้งเชียวว่าเวลาที่ไทยกับซานฟราน เอาให้ตาย..ยังไงมันก็เดินไม่ตรงกัน”
“เลิกแซวซะทีเถอะ อีตาบ้า!” เจ้าหล่อนโผเข้างับบ่าอดีตสามีอย่างเคยตัว พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอว่าอีกฝ่ายกำลังจ้อง
มองอยู่เช่นกัน “อะไรยะ”
“เปล่า..” เขายิ้ม “แค่รู้สึกว่า..เสียดายเล็กๆ เสียดุลต่างชาติซะได้”
“ขอโทษนะ..” เธอขยุ้มชายเสื้อเขาไว้แน่น “ขอโทษจริงๆ..”
“มันผ่านไปแล้วชิด การที่คุณมีครอบครัวใหม่ ไม่ได้แปลว่าจะต้องตัดขาดกับครอบครัวเก่า ผมเคยบอกไม่ให้คุณโทรหา
น้องเมษ แต่ตอนนี้..ผมจะดีใจมากถ้าคุณโทรมาคุยกับลูกบ้าง น้องเมษอาจจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ แต่คงจะดีกว่าถ้าเขารับรู้ว่าตัวเอง
ก็มีแม่ที่คอยห่วงใยเหมือนกัน”
ชิดชนกมองผู้ชายตัวเล็กแต่ใจใหญ่ของเธอ “รู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าพฤษภ์ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตอนแรกนึกว่าจะถูกไล่
ตะเพิดซะอีก”
พฤษภาเงียบงัน เผลอมองแด๊ดดี้เฟรดที่นั่งห่อเหี่ยวเหมือนหมาถูกทิ้งอยู่ตรงโซฟา ส่วนน้องเมษกับจอชชี่กำลังเล่น
จิ๊กซอว์โดยมีลุงโชคคอยช่วย
“คงเพราะผมคบคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ล่ะมั้ง” เขาอมยิ้ม
..แม้ว่าพฤติกรรมบางอย่างจะเด็กทารกก็เถอะ..
แต่เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่าหมอนั่นเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกที่หายไป เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัว..จนช่องที่
ว่างเปล่าถูกถมขึ้นมาอีกครั้ง
..แล้วจะต้องแสวงหาอะไรอีก..
“ใคร? พี่โชคเหรอ” เธอมองตามสายตาอีกฝ่าย แต่สุดท้ายกลับพบว่าคนข้างกันเลือกที่จะหยุดความสนใจอยู่ที่หนุ่มฝรั่ง
คนนั้นมากกว่า “คุณเฟรด?”
พฤษภ์เสมองไปทางอื่นทันที
“ยอมรับเลยว่าคุณเฟรดจูงใจน้องเมษได้ดีกว่าชิด เขารู้ธรรมชาติของเด็กๆดีนะ” เธอพึมพำก่อนจะเงยหน้ามองอีก
ฝ่าย “ขอบคุณนะ..พฤษภ์”
“อะไร”
เธอฉีกยิ้ม ที่มาในวันนี้ก็เพราะอยากจะมาดูว่าน้องเมษและอดีตสามีอยู่กันสุขสบายดีหรือเปล่า และในตอนนี้..เธอก็ได้
รับรู้แล้ว
..ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีกต่อไป..
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้ชิด”
เขายิ้มตอบพลางยกมือขึ้นดึงแก้มเธอ “เพิ่งจะรู้รึไงครับ”
ไอ้ตอนแรกก็ขำดีอยู่หรอก แต่สงสัยพี่จะมันมือไปหน่อย ตอนหลังนี่เล่นดึงซะยืดย้วยเป็นพิซซ่าเลย “เจ็บนะยะ” ไอ้กุ๊ก
ตัวเตี้ยนี่!
พฤษภาหัวเราะครึกครื้น ขยี้หัวยุ่งๆของเธอไปหนเป็นสัญญาณการให้ให้อภัยและตอบตกลงที่จะคงสถานะของเพื่อน
สนิทที่รักกันอีกครั้ง
“ไปกินของหวานกัน” เขารุนหลังหญิงสาวแล้วบอกให้ถือถ้วยพุดดิ้งไปด้วย “ถ้าเย็นนี้ไม่มีอะไรทำ พาน้องเมษไปเดิน
เล่นสวนแถวนี้มั้ย”
“อื้ม” ชิดชนกยิ้มแย้มตาเป็นประกาย
ภารกิจที่คิดว่ายากที่สุดเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เหลือภารกิจสุดท้าย
..หวังว่าจะง่ายไม่ต่างกัน..
หนุ่มฝรั่งนอนพลิกกระสับกระส่าย ยกเท้าซ้าย ป่ายเท้าขวา พาดแขนบนอก ยกมือกุมขมับ สลับกันหลายท่าจนโจชัวร์ที่นั่งต่อ
บล็อกไม้อยู่ข้างเตียงหันมอง
“แด๊ดดี้” เจ้าตัวน้อยเท้าคางทำหน้าฉงน “แด๊ดดี้เป็นอะไร”
“แด๊ดดี้คันหัวใจครับ” เฟรดตอบอย่างเพลียๆ
เมื่อเย็นที่ผ่านมา หลังจากกินข้าวด้วยกันแล้วกุ๊กเมย์ยังชวนอดีตภรรยากับลูกชายออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะด้วยกัน
ตัวแถมอย่างเขาและคุณโชคชัยเลยต้องล่าถอยออกมาโดยปริยาย
..แต่ระดับนี้แล้ว..ถ้าจะไม่ตามไปแอบดูก็คงเสียชาติฝรั่งแน่..
“อะไรติดหัวน่ะ” กุ๊กพฤษภ์กวักมือเรียกหญิงสาวให้ก้มลง
“หนอนรึเปล่า”
“ไม่ใช่หรอก แค่เห็บหมา” มุกเสื่อมๆยังจะเล่นกันได้ลง เสียงหัวเราะของทั้งคู่เล่นเอานักสืบจำเป็นอย่างเขาปวดใจ
..รีเทิร์น..ไม่รีเทิร์น..
“นั่นอะไรเหรอพฤษภ์ สีแดงๆ”
“พระอาทิตย์ตกดินไง” กุ๊กพยายามโชว์ภูมิอันน้อยนิด
“เปล่า..ตูดจิ้งจก” เล่นแล้วก็ตบหลังอดีตสามีดังป๊าบๆ
น้องเมษแทรกตัวเข้ามากลางวง “เป็นสีไก่ทอดในตู้อบของผู้พันแซนเดอร์สต่างหากฮะ” นายตัวอ้วนยิ้มร่า “ถ้ามี
ขอบกรอบๆจะเป็นทาร์ตไข่” ..เข้ากันได้ดีเหมือนปาท่องโก๋กับนมข้นหวาน..
..รีเทิร์น..ไม่รีเทิร์น..
“พฤษภ์ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วดูดีนะ”
“หล่อล่ะสิ” หนุ่มตัวเล็กยืดอกลำพองใจ
“เปล่า..เซ็กซี่ดี” เธอยกมือขึ้นเชคๆเหนือหัว “ต้องร้อง I will survive”
พฤษภาเลยแยกเขี้ยว “เดี๋ยวดึงแก้มอีกรอบหรอก!” ..มีการหยอดน้อยๆ..ชมเล็กๆ..
..แบบนี้จะรีเทิร์น..หรือไม่รีเทิร์น..
“เฮ้อ..” เฟรดพลิกตัวรอบที่ห้าสิบ “คันหัวใจยุกยิก”
..ไม่คิดจะอธิบายกันเลยหรือไง..
“คันๆๆ” โจชัวร์วิ่งไปเอาไม้เกาหลังของป้าสาวมาไถอกข้างซ้ายของแด๊ดดังแกรกกราก ไม่ได้เบามือเลยจนพ่อฝรั่งต้อง
สูดปากด้วยความแสบ
“เจ้าตัวร้าย” เฟรดอุ้มนายตัวกลมขึ้นมานั่งตัก หอมแก้มฟอดไปที
“แด๊ดดี้คันหัวใจ” จอชชี่เอาไม้เกาหลังล้วงลงไปเกาก้นตัวเองด้วย “จอชทำให้อีกมั้ย” เกาก้นแล้วก็ไม่ต้องยื่นมาใกล้
หน้าขนาดนั้นก็ได้นะไอ้ยุ่ง!
“เกาข้างนอกไม่หายครับ มันยุกยิกอยู่ในนี้” เขาอธิบายให้ลูกรับทราบ
ก็ดูเหมือนจะซึมซาบอยู่หน่อย หรือไม่ก็พิเรนทร์ไปนิด เด็กน้อยของเขาเลยถามว่าควรควักหัวใจออกมาเกาข้างนอกหรือไม่ “ไม่
เป็นไรลูกชาย”
..มุกของน้องเมษที่แพร่มาใส่จอชชี่นี่น่ากลัวจริงๆ..
“แล้วแด๊ดดี้เป็นอะไร”
เฟรดอมยิ้ม โยกหัวไอ้ตัวน้อยไปมาพลางลูบผมสีทองอร่ามด้วยความรักใคร่ “แด๊ดดี้กำลังอินเลิฟ แล้วก็กำลังกลุ้มใจเล็กๆ”
โจชัวร์โยกก้นดุ๊กดิ๊กตามเพลงในทีวี “อินเลิฟกับพ่อจ๋า ชะละล้า”
..ใครว่าเด็กไม่รู้เรื่องกันล่ะนี่..
ชายหนุ่มยิ้มฝืดเฝื่อน หมุนตัวลูกชายกลับมามองหน้ากัน “จอชคิดว่ายังไงครับ พ่อจ๋าของน้องเมษน่ารักมั้ย แล้วก็..ถ้า
เกิดว่าแด๊ดอยาก..”
“พ่อเมย์น่ารัก คึกคักเวลาเราเล่น” เด็กชายวิ่งไปเอาไม้ขนไก่สีสดใสมาสะบัดแทนพู่เชียร์ “พ่อเมย์ใจเย็นๆ เวลาแด๊ด
หอมแก้มเล่น คึกคัก คึกคัก”
เฟรดแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง
..ไอ้พวกตัวร้าย!..แอบดูพฤติกรรมพ่อๆอยู่ตลอดเลยหรือนี่!..
“สรุปว่าน่ารักสินะ” เขาอมยิ้ม “แล้วแด๊ดรักได้หรือเปล่า”
“แด๊ดรักพ่อเมย์ จอชก็รักพ่อเมย์!” โจชัวร์ยกมือหรา “จอชอยากอยู่กับพ่อเมย์ จอชอยากอยู่กับเมษด้วย แด๊ดพามาเร็วๆ พามา
เลย นะ..น้า~”
เฟรดหรี่ตามอง “จะไม่เขวี้ยงหนอนใส่พ่อเมย์ใช่มั้ย”
“ไม่เขวี้ยงๆ” แม้ว่าจะเคยเขวี้ยงใส่ผู้หญิงที่แด๊ดเดทด้วยก็เถอะ
“จะไม่ดีดเสื้อในพ่อเมย์ใช่มั้ย” แล้วจะดีดได้ยังไงในเมื่อกุ๊กไม่ได้ใส่
“ไม่ดีดๆ” โจชัวร์ยิ้มร่า “สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือร้องไห้”
“นั่นมันเมนูคอเหล้าแล้ว” เฟรดจูบหัวเล็ก “แปลว่าพามาอยู่ที่บ้านได้”
เด็กชายพยักหน้าหงึก “พาเมษมาด้วยนะ”
ร่างสูงยิ้มเมื่อได้รับใบอนุญาตจากลูก โจชัวร์พยักหน้าแล้วคือผ่านด่านที่หนึ่ง แต่ด่านที่สองนี่สิ..ไม่รู้ว่าหนุ่มคนไทยจะยอมพยัก
หน้าด้วยหรือเปล่า
ดังนั้น..เมื่อฝรั่งขี้นกยังคงคันหัวใจยุบยิบ นอนเท่าไหร่ก็ไม่หาย ทางแก้เพียงหนึ่งเดียวคือการอัญเชิญตัวมายืนอยู่หน้าบ้านกุ๊ก
คอยเกาะขอบรั้วคล้ายสัมภเวสีผีไร้ญาติเพื่อรอดูว่าเมื่อไหร่เจ้าของบ้านจะเยี่ยมหน้ามาหา
..เผื่อจะได้ส่วนบุญเป็นจูบนิดๆหน่อยๆพอให้หลับฝันดี..
ฝ่ายพฤษภา หลังจากส่งอดีตเมียไปกล่อมลูกชายแล้วก็หอบที่นอนหมอนมุ้งไปอีกห้อง ถึงชิดชนกจะบอกว่านอนด้วยกันและให้
น้องเมษคั่นกลางก็ได้ แต่เขาก็ยังมีมารยาทพอจะนึกถึงสามีใหม่ของเธอว่าคงไม่ชอบใจแน่
“ยังไงผมก็เป็นผู้ชายนะ ผู้ชายทั้งแท่ง”
“แท่งไหนคะ บราทเวิร์ส แฟรงเฟอร์เตอร์ หรือว่าเวียนนาห้านิ้ว” เธอปิดปากหัวเราะ “แต่ที่แน่ๆไม่น่าจะยาวถึงเฟรชคันทรี่พอร์ค
แปดนิ้ว”
พฤษภาน้ำตาตก ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายถูกยัยเจ๊นี่เล่นซะย่อยยับป่นปี้
“จะแท่งไหนก็ยังมีประสิทธิภาพเสกเด็กเข้าท้องได้แล้วกัน” หนุ่มตัวเล็ก ‘อะไรๆ’ ก็เลยเล็กตามตัวทำเสียงประชด “คุณนอนห้องนี้
ไปเถอะ จะได้บอกไอ้หนุ่มวิลลี่ได้อย่างสนิทใจว่าหนุ่มไทยยังไงก็ให้เกียรตินะ”
“จ้าๆ” หญิงสาวหาววอด ล้มตัวลงนอนแล้วบอกกู๊ดไนท์
“พรุ่งนี้เจอกัน” กุ๊กยิ้มให้ ปิดไฟแล้วเดินไปที่ประตู
“พฤษภ์..”
“หืม..”
“ยังไงชิดก็ยังชอบค็อกเทลท่อนสั้นๆนะ”
“ขอให้ฝันร้าย ยัยเจ๊นี่!!” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกน้องสารพัดไส้กรอกของเขานั่นเป็นลูกศิษย์ใคร..ก็เจ๊ชิดชนก น้องสาวเจ้าของร้าน
มธุปายาสนี่ละ!
..ไม่รู้จักเล็กสั้นพลังเทอร์โบซะแล้ว..
พฤษภาเดินฮัมเพลงผ่านหน้าต่างริมทางเดิน ดวงตาที่กำลังหรี่ปรือเผลอเบิกกว้างอย่างตกใจ เขาถลันมองให้แน่ชัดอีกหนก่อนจะ
ร้องออกมาเบาๆ
“คุณเฟรด!”
แด๊ดดี้เฟรดดี้ในชุดนอนลายทางมีเสื้อคลุมสีเข้มทับอีกชั้นช่วยกันลมยามดึกยืนห่อไหล่อยู่หน้าบ้าน ร่างสูงแทบจะเอาคางเกยตู้
ไปรษณีย์สีขาวเพราะกำลังจะหมดแรงอยู่รอมร่อแล้ว ไม่รู้ว่ามายืนดักรออยู่นานแค่ไหน
กุ๊กเมย์รีบคว้ากุญแจไขประตูแล้ววิ่งมาหา “คุณทำบ้าอะไรนี่”
“หนาว..” ไอ้ฝรั่งตอแหลโยกตัวไปมา “ขอกอดหน่อย”
คนฟังเลยโบกไปทีหนึ่ง ถึงอย่างนั้นก็แอบหูแดงเรื่อ “เข้าบ้านก่อน”
เฟรดส่ายหน้า ยิ้มฝืดเฝื่อนคล้ายจะบอกว่าไม่อยากรบกวนนาน เขาแค่มีเรื่องคาใจ คันใจ จนลามไปถึงตับไตไส้พุง ถ้าไม่ได้คำ
ตอบวันนี้ คาดว่าคงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ พลิกตัวกระสับกระส่ายคล้ายแมลงสัตว์กัดต่อยแน่ๆ
“โทรมาก็ได้นี่”
“ไม่เอา” เฟรดยิ้ม “อยากเห็นหน้าก่อนนอน”
..เอ้า! เอาเข้าไป..ไม่กลัวคนฟังสำลักทะเลน้ำเชื่อมตายก่อนก็เชิญ..
“มีอะไรก็ว่ามาสิ” กุ๊กพองลมที่แก้ม รู้สึกลิ้นตัวเองพันกันตะกุกตะกัก
เฟรดถอนหายใจ กลับเข้าโหมดเครียด ซีเรียส จิตสกปรก วิตกกังวลอีกหน “ผมขอโทษ..ผมอาจจะใจร้อนเกินไปก็ได้ แล้วที่จริง..
ผมมีสิทธิ์ที่จะสงสัยหรือว่าระแวงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แต่..แต่ถ้าไม่ถาม..ผมคงนอนไม่หลับ”
“อะไรล่ะ” คนได้ยินเริ่มหน้าร้อนผ่าว ที่บรรยายมาทั้งหมดเขาก็พอจะแปลความได้อยู่ในเมื่อไม่ใช่ไอ้หนุ่มน้อยไร้เดียงสาไม่รู้ความ
อะไรขนาดนั้น
..หึง..ใช่มั้ย..
แทนคำตอบ เฟรดดี้ก็ฉวยโอกาสที่หนุ่มไทยเสมองไปทางอื่นรั้งข้อมือขาวมากอบกุมแล้วดึงมาวางแนบอก
พฤษภาเบิกตากว้าง หันซ้ายหันขวากลัวใครเห็น “นี่..”
“ผมกลัว” ชายหนุ่มพูดโพล่ง ดวงตาสีฟ้ากระจ่างอ้อนวอนเป็นนัย
“ก..กลัวอะไร”
“เมื่อตอนเที่ยวสวนสนุก คุณยังยิ้มให้ผมอยู่เลยนะเมย์ แต่มาเมื่อตอนเย็น คุณไม่มองหน้าผม ไม่บอกผม ไม่อธิบายให้ผมรู้บ้าง
เลย” เขาตัดพ้อ “อย่างน้อย..ก็ช่วยพูดให้มั่นใจหน่อยว่าผมยังมีโอกาสทำคะแนนอยู่”
“จะแข่งกับพี่โชคหรือน้องชิด” พฤษภ์อมยิ้ม
“ทุกคน” เฟรดจริงจัง “ทุกคนที่จะเข้าหาคุณ”
“โลภ”
“ผมยอม”
พฤษภาคิดว่าดีแล้วที่เขาไม่ได้เปิดไฟหน้าบ้าน ไม่อย่างนั้นแด๊ดดี้เฟรดอาจจะเห็นคุณพ่อลูกหนึ่งอย่างเขากำลังยืนหน้าแดงอยู่ก็
ได้
..เกิดมาสามสิบปีไม่เคยเขินอะไรจนตัววูบวาบอย่างนี้เลยให้ตาย..
..สุดท้ายมายืนอายม้วนต่อหน้าผู้ชายด้วยกัน..
..ไอ้พฤษภ์เอ๊ย!..ดวงมึงจะมีผัวแทนมีเมียซะแล้วพฤษภ์!..
เฟรดเห็นอีกฝ่ายเงียบไปก็โอดครวญ “จะไม่พูดหน่อยเหรอ”
..แต่คนฟังก็ยังเงียบ..
“Honey..” เขาอ้อน “Darling..”
พฤษภาทำยืนเฉย
“My dear..” ยังคงเรียกต่อไม่ลดละ “Sweetheart..”
“ฝรั่งขี้นกคิดมากแบบนี้ทุกคนรึเปล่า” กุ๊กพึมพำ นัยน์ตาสีอ่อนไหวริกเพราะความเก้อเขิน “แล้วก็..ขอภาษาไทยด้วย”
เฟรดยิ้มแก้มปริ “ทูนหัวของผม”
พฤษภ์คิดว่าเขาคงใกล้จมน้ำตาลตายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว ดังนั้น..ก่อนที่จะตายขึ้นมาจริงๆ เขาควรรีบเฉลย “คนอะไร
คิดมาก”
“ที่รัก..” หนุ่มฝรั่งครางด้วยความหวังที่ปะทุปังๆไม่ต่างจากป๊อปคอร์นในไมโครเวฟ “แปลว่า..จะไม่เป็นอย่างที่ผมกลัว”
คนตัวเล็กกว่าย่นจมูกแล้วเอื้อมมือไปดีดหน้าผากร่างใหญ่ “ใช่!”
ถ้าหัวใจพองได้ใหญ่กว่าบอลลูน เฟรดคิดว่ามันก็คงเป็นไปอย่างนั้นเรียบร้อย ชายหนุ่มรีบรวบมือขาวๆมาจูบ ซ้ำยังแฝงนัยยะด้วย
การจรดกลีบปากร้อนรุ่มลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของคนตรงหน้าอีกด้วย
กุ๊กเมย์หน้าแดงก่ำ ตอนนี้หูเขาแดงเหมือนตูดไก่เสียบไม้ย่างไม่มีผิด “กลับไปนอนได้แล้วคุณ ทำอะไรเป็นเด็กๆไปได้” เขาผลัก
ช่วงตัวหนา “ทีหลังก็โทรมาคุย รู้มั้ย หรือไม่ก็รอให้เช้าก่อน คิดว่าเป็นเด็กหนุ่มมายืนเฝ้าสาวหรือไง”
เฟรดหัวเราะร่า นัยน์ตาเป็นประกายหวานเชื่อม
“ผมเป็นคนจริงจัง จริงใจ แล้วก็ทุ่มเท เดิมพันหมดใจ ไม่มีอั้น”
..อีกแค่สองมิล..พฤษภาจะกลายเป็นตังเมเพราะน้ำตาลเกาะ..
“กลับไปนอนไป๊ตาแก่” ไม่รู้หรือว่าไอ้แก่อีกหนึ่งที่หัวเริ่มใกล้จะหงอกยืนเขินใกล้ตายแล้ว ขออย่าให้เป็นเบาหวานก่อนวัยอันควร
เลย
“ไปก็ได้” เฟรดยิ้ม ไม่วายชี้มือที่แก้ม “แต่ขอไนท์คิสก่อน”
มีเสียงเพี๊ยะดังสนั่นแถวต้นแขนแข็งแรง
“กลับไปเลย!”
ชายหนุ่มหัวเราะ ยกมือขึ้นนวดรอยตบป้อยๆ “ไปก็ได้ พรุ่งนี้เจอกัน”
กุ๊กเมย์พยักพเยิด ผลักตัวอีกคนออกไปนอกรั้วหลังจากยืนตากน้ำค้างกลางสวนหน้าบ้านกันเสียนานนม แต่พออีกฝ่ายโบกมือลา
“เดี๋ยว..” เขาก็รั้งเอาไว้โดยอัตโนมัติ
เฟรดเลิกคิ้ว ส่วนคนเรียกก็ได้แต่อึกอัก มันเป็นไปเองเพราะในอกแอบรู้สึกวูบโหวงในฉับพลันที่คนตรงหน้าหันหลังให้
เอาวะ! กุ๊กตัดสินใจเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียหน้า ประเดี๋ยวจะหาว่าขี้ขลาด ไม่สมกับเจ้าของวลี ‘เล็กๆไม่..ใหญ่ๆเอา’
หนุ่มไทยคว้าสาบเสื้อคลุมร่างสูงใหญ่แล้วเหนี่ยวต้นคออีกคนเต็มแรง เฟรดเซถอยมาก้าวพร้อมกับที่ปากนุ่มนิ่มขบเม้มลงบนริม
ฝีปากร้อน
..จุ๊บ..
เหมือนมีดวงดาวระยิบระยับพร่างพรายเต็มท้องฟ้า ในอกเต้นระรัวคล้ายมีคนนับร้อยจุดพลุถล่มทลาย เสียงแตรเสียงทรัมเป็ตเป่า
กันให้ครึกโครม ริบบิ้นหลากสีล่องลอยอยู่กลางไอสีชมพู ฝรั่งขี้นกเห็นตัวเองเป็นราชาแม็กนั่ม!
กุ๊กก้มหน้างุดๆ เขินจนตัวจะสุกอยู่แล้ว “เอ่อ..ฝันดีนะ”
“ฝัน..ดี” เฟรดเอานิ้วแตะปากอย่างเบลอๆ เขาเดินจากไปด้วยใจที่ลอยละล่องพองฟู ซ้ำยังเตะถังขยะเพื่อนบ้านดังโครมใหญ่
เพราะความรักบังตา
หนุ่มไทยผู้แสนจะร้อนแรงยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเรียกสติ
“ไปนอนๆๆๆ” เขาย่นจมูก “ไปนอนได้แล้วไอ้พฤษภ์”
เมื่อร่างเล็กๆของพฤษภาลับหายเข้ามาในบ้าน ม่านหน้าต่างบนชั้นสองที่ถูกเลิกไว้เพียงนิดก็ค่อยๆปิดลง
“โอ้..พระเจ้าช่วย! สาบานให้เวียนนาห้านิ้วกลายเป็นโบโลญ่า” ชิดชนกอุทาน ยกมือทาบอกพลางขยี้ตายุกยิกอย่างไม่อยากจะ
เชื่อสิ่งที่ได้เห็น
อดีตสามีของเธอ..กับเพื่อนฝรั่งตัวใหญ่คนนั้น!
น้องเมษนั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่บนเตียง เด็กชายชูสองนิ้ว “พ่อจ๋าเก่ง”
หญิงสาวเดินตัวอ่อนปวกเปียกกลับมาล้มลงบนฟูก “นานแล้วเหรอคะน้องเมษ..” เธอพึมพำ “แม่หมายถึง..สองพ่อ..ทูแด๊ดดี้นั่น
น่ะ”
เมษากลิ้งไปเกลือกมา “เบอร์เกอร์คิงมีลดฮะ”
“ไอ้ตัวแสบ” ชิดชนกฟัดแก้มลูก “ถ้าเล่าให้ฟังจะเลี้ยงผู้พันด้วยเอ้า!”
และแล้วน้องเมษที่ไม่เคยคิดจะขายพ่อจ๋าแลกกับของกินเลยสักครั้งจริงจริ๊ง! ก็เล่านิทานก่อนนอนให้แม่จ๋าฟังเท่าที่พอจะจดจำ
ได้
..ไม่มากมายหรอก..ถ้าเปรียบเป็นส้อม..พ่อจ๋าก็พรุนเละเท่านั้นเอง..
ชิดชนกฟังไปขำไป เธอตาลุกวาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น ถ้าจะถามว่าประหลาดใจหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่านิดหน่อย
..เพราะมันตงิดตั้งแต่มื้อเย็นที่แสนจะอึมครึมนั่นแล้วละ..
“หมดแล้ว” น้องเมษนอนผึ่งพุง
“ว้า..เพราะว่าเรือเอียงเลยไม่ได้จูบเลยสินะ”
“หนูอยากกินเบอร์เกอร์”
“จ้า รู้แล้วๆ ตอนนี้นอนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายอดกินแน่” เธอตบก้นลูกชายตัวน้อยอย่างนุ่มนวล น้องเมษเลี้ยงง่ายนอนง่าย หัวถึง
หมอนก็ตาปรือ
“ผู้พันด้วยนะฮะ” ขนาดหลับตาแล้วยังไม่วายกำชับ
“จ้า” ชิดชนกอมยิ้ม กล่อมลูกจนเจ้าตัวร้ายหลับผล็อย
ดวงตาคู่สวยเหลือบมองทางห้องที่อยู่ติดกัน คิดว่า ‘เมย์’ คงหลับแล้ว
..หาว่าคนอื่นไปเสียดุลให้ต่างชาติ..แล้วทีตัวเองล่ะ..
เธอหัวเราะคิก “ว่าแต่เขา..อิเหนาเป็นเอง”