INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289  (อ่าน 2426112 ครั้ง)

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
:: Part II ::

              “ฝัน มึงจะเรียนที่ไหน?”
ผมตัดสินใจถามคำถามนี้   เพราะจนใกล้จะสอบแล้ว เพื่อนรักยังไม่มีทีท่าเปิดเผย
“กูไม่บอก” มันยักไหล่ ตอบง่ายๆ
“อ้าว ทำไมวะ?” ผมขมวดคิ้วใส่มัน
“ไม่เอา ไม่บอก มึงก็ห้ามบอกกู” มันส่ายหน้า น้ำเสียงเด็ดขาด
“เราโคตรสนิทกัน เดี๋ยวจะเรียนตามกัน มึงก็อย่าบอกไอ้หมอก แล้วก็ห้ามไอ้หมอกบอกมึง เข้าใจไหม”
เหรอ อย่างนั้นเหรอวะ? ผมพยักหน้าหงึกหงัก กูเชื่อคนง่ายไปไหมนี่..


              “ตกลงมึงจะเลือกเรียนที่ไหน” ไอ้หมอกถามผมอย่างที่ไอ้ฝันทำนายไว้
“ไอ้ฝันบอกว่าห้ามบอก” ผมส่ายหน้าดิก
“ห๊ะ?” ไอ้หมอกขมวดคิ้วใส่ ผมจึงอธิบาย “ไม่งั้น เดี๋ยวจะเรียนตามๆกันไป”
“จะเรียนตามกันได้ยังไงวะ ไม่ได้เรียนคณะเดียวกันเล้ย แถมต่อให้เรียนที่เดียวกัน จะได้เจอกันมากแค่ไหนก็ยังไม่รู้..”
“ไอ้ฝันบอกว่าห้ามบอก!” ผมปฏิเสธอย่างดื้อดึง
“กูจะเรียนที่...” ไอ้หมอกอ้าปากจะพูด
ผมรีบขยับเข้าใกล้ เอาฝ่ามือทาบปิดปากมันไว้ “มึงก็ห้ามบอกกู..”

...
ไม่มีอะไรมากครับ สตั๊นทั้งคู่..

ตลอดตั้งแต่เทอมที่แล้วจนถึงเทอมนี้
หลายวัน.. หลายเดือน.. ที่ไม่เคยใกล้ชิดมากขนาดนี้..
ครั้งสุดท้ายคือตอนที่มันโอบเอวผมเข้าหาตัว ก่อนที่เราจะเริ่มติวหนังสือกันอย่างจริงจังเมื่อนานมาแล้ว

ส่วนใหญ่ เราสองคนจะนั่งตรงข้ามกัน มากที่สุดก็คือเดินข้างกันตอนกลับบ้าน จนแทบจะลืมความรู้สึกนี้ไปแล้ว..
ความรู้สึกวาบไหวในอก.. ยามรับรู้ถึงสัมผัสและลมหายใจของอีกฝ่าย..
มือแกร่งของคนตรงหน้ายกขึ้นมาจับมือผมไปเกาะกุมไว้ ยื่นหน้ามาใกล้
“ทำไมไม่บอก..”
“อะ..” ผมพยายามเบี่ยงหน้าหลบ
“อ..ไอ้ฝันบอกว่า ด..เดี๋ยวกูไปเรียนตามมึง จนไม่เลือกที่ที่ต้องการจริงๆ”
ไอ้หมอกพยักหน้ารับรู้ “แล้วตอนนี้มึงตัดสินใจหรือยัง?”
ผมพยักหน้าบ้าง “ตัดสินใจแล้ว”
เรามองหน้ากัน..
ใจหนึ่งผมก็อยากให้เราเรียนที่เดียวกันเพื่อสานต่อความสัมพันธ์นี้ต่อไป
แต่อีกใจ.. ไม่ได้เรียนที่เดียวกันก็ดี จะได้รู้ว่าความรู้สึกนี้มันจะยั่งยืนสักแค่ไหน  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ผมก็ต้องพร้อมรับ..

“ไอดิล..” เสียงเข้มเอ่ยเรียกชื่อ มือข้างหนึ่งแตะหลังคอ โน้มใบหน้าผมลงไปหา
อย่า.. ผมพยายามจะค้าน แต่เสียงก็ไม่หลุดลอดออกจากลำคอเมื่อดวงตาหลับนิ่งอย่างหวั่นไหว 
ทว่า.. ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้หมอกปล่อยผม หันหน้าหนีไปทางอื่น..

“เอ้า มา ติวต่อ!”
“ห๊ะ!?” ผมมองไอ้หมอกค้าง ปากเผยอนิดๆ แต่มือใหญ่กว่ายีหัวผมอย่างหยอกล้อ
“อ่านหนังสือซะ” มันว่าห้วนๆ “แล้วอย่าเข้ามาใกล้แบบนั้นอีก”
โด่ววว.. ผมเบ้หน้างอนๆ กูก็นึกว่ามึงจะ..

ที่สุด.. รอยยิ้มอ่อนโยนแบบเดิมจึงกลับมาฉาบฉาย นิ้วแกร่งไล้ใบหน้าผม โน้มเข้าไปประทับจูบเบาๆ แต่ลึกซึ้ง..
เพียงชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง..

“เท่านี้ก็พอ.. อย่ามากกว่านี้เลย เดี๋ยวจะเสียสมาธิกันทั้งคู่”
ไอ้หมอกกลืนน้ำลาย เอามือตบหัวผมเบาๆอีกที
“ตั้งใจอ่านหนังสือสอบกันนะ กูไม่อยากให้พ่อหล่อกับพ่อน่ารักผิดหวังว่าทำให้ลูกเขาไขว้เขว..”
ไอ้..หมอก..
ผมได้แต่ยิ้ม..  ยิ้มอย่างมีความสุขที่สุด 
ความรู้สึกวาบหวามในใจถูกเติมเต็มด้วยความรู้สึกอบอุ่น.. ปลอบประโลม.. แนะนำ.. ย้ำเตือน..
ผมพยักหน้ารับคำ..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ก่อนจากกัน.. ขอสัญญา
ฝากประทับตรึงตรา.. จนกว่าจะพบกันใหม่
โบกมืออำลา ..สัญญาด้วยหัวใจ
เพราะความรักติดตรึงห่วงใย.. ด้วยใจผูกพันมั่นคง

          ตามธรรมเนียมงานปัจฉิมนิเทศ..
เพลง ‘คำสัญญา’ ถูกเปิดให้เข้ากับบรรยากาศ 
เสื้อพละและปากกาเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องมี.. 
ผมและเพื่อนๆ ผลัดกันเขียนเสื้อ มีเพียงสองเพื่อนสนิท..ที่ผมยังไม่ได้เขียน

            ผมเดินไปหาไอ้ฝันก่อน ผู้ซึ่งเขียนเสื้อให้ไอ้เต้เสร็จเรียบร้อยพอดี..
เพื่อนสาวหันมาหาผม มันกลืนน้ำลาย มือที่ถือปากกาสั่นไหวน้อยๆ

“เขียนให้กูด้วย..”
ผมยืนตรงหน้ามัน แต่แม่งไม่ยักเขียน กลับทิ้งปากกาลงพื้นเสียอย่างนั้น
แขนเรียวคว้าตัวผมไปกอดไว้ ซบหน้าลงกับบ่า น้ำตาไหลเปียกเสื้อ..
ผมได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นกอดไหล่มันตอบหนักๆและกระพริบตาไล่หยดน้ำออกไป.. 

ไอ้ฝันเป็นเพื่อนสนิทคนแรกของผม มิตรภาพของเรานั้นลึกซึ้งเกินจะอธิบายได้
สิบกว่าปีที่เป็นเพื่อนกันมา.. 
สุข..ทุกข์..ร่วมกัน 
หัวเราะ..ร้องไห้..ด้วยกัน 
ด่าทอ..และ..ชื่นชม
กวนตีน..และ..ให้กำลังใจ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมสาบานได้เลย มันจะเป็นเพื่อนรักของผมเสมอไป
และเมื่อมันเกิดปัญหา.. เมื่อมันต้องการ.. ไม่ว่าจะมันจะอยู่ที่ไหน  ผมก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อไปอยู่ที่นั่น..

           “พวกมึงแต่งงานกันเถอะ” ไอ้เต้เย้ายิ้มๆ
เพื่อนร่วมชั้นหัวเราะอย่างให้กำลังใจ ด้วยรู้ดีว่าผมกับไอ้ฝันผูกพันกันขนาดไหน
“แต่งไม่ได้ไอ้เต้” ไอ้แชมป์เหล่ไปทางร่างสูงที่นั่งเขียนเสื้อให้เพื่อนอีกคน 
“เดี๋ยวคนบางคนแม่งช้ำใจตาย มันยิ่งรักของมันอยู่”

ผมกับไอ้ฝันผละจากกัน ทั้งขำทั้งซึ้ง เพื่อนสาวสูดน้ำมูก 
“มึงสองคนก็อย่าทำเมินกันอยู่เลย มีอะไรจะพูดกันก็พูดไป”
ผมกลืนน้ำลาย มองแผ่นหลังไอ้หมอก ผู้ที่มือชะงักปากกาไว้ ก่อนจะเขียนให้เสร็จและส่งเสื้อคืนเจ้าของ
ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันหน้ามามองผม ผมเองก็มองมัน
“กูไม่รู้เลย ..ว่าจะพูดอะไร”
ผมพยักหน้าน้อยๆ.. “กูก็เหมือนกัน”
มันเดินมาหาผม.. ผมก็เดินไปหามัน.. 
แขนแข็งแรงโอบผมเข้าสู่อ้อมกอด ผมเองก็ทำเช่นเดียวกัน 
ไม่พูดอะไรเหมือนเคย แต่พยายามส่งผ่านความรู้สึกไปให้มากที่สุดท่ามกลางพยานหลายสิบชีวิตที่พร้อมใจกันทำท่าไม่รู้ไม่ชี้..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

              การสอบเสร็จสิ้นลง.. เรารอผลกันอย่างอกสั่นขวัญแขวน และที่สุด..
เมื่อยามสายหลังจากประกาศผลสอบ ก็มีรอยยิ้มน้อยๆ ฉาบฉายอยู่บนใบหน้าผม

             “ตกลงมึงจะบอกกูได้หรือยังว่าเรียนที่ไหน”
ไอ้ฝันมาที่บ้าน ผมจึงถามมันเสียเลย ทว่า เพื่อนสาวยังคงส่ายหน้าอยู่
“เออ.. ไม่เป็นไร” ผมเสมองไปทางอื่น ค่อยๆเอ่ยแต่ละคำออกมา
“อีกไม่กี่วัน.. กูจะไปแล้วนะ พ่อหล่อจะขับรถไปส่ง”
ไอ้ฝันได้แต่ก้มหน้าลงพื้น ผมจึงเอ่ยต่อ
“แล้ว.. แล้วมึงต้องรายงานตัววันไหน  จองหอพักอะไรหรือยัง แล้วเดินทางไปยังไง ที่..ที่ไหนก็ตามที่มึงจะไป”
“เรียบร้อยหมดแล้วล่ะ  ที่จริง..  กูติดตั้งแต่สอบตรงแล้ว   แม่พาไปสอบตอนเดือนมกราฯ”
“แล้วมึงไม่บอกกูเลยเนี่ยนะ!” ผมเพ่งมองหน้าม้าพองฟูของมัน 
“ตอนนี้กูก็สอบได้แล้ว  เลือกไว้อันดับหนึ่ง  เพราะงั้น.. ต่อให้มึงเรียนที่ไหน  กูก็จะเรียนที่ที่กูเลือกไว้แน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ  มึงจะบอกกูได้หรือยัง อย่างน้อย กูจะได้ไปส่ง ไปเป็นเพื่อน..”
“กูไม่บอก”
คำยืนยันนั้นทำให้ผมโมโห
“เออ ตามใจ!” ผมว่าห้วนๆ
ไอ้ฝันพยักหน้าน้อยๆ หันหลังจะลากลับ
“พ่อๆคะ ฝันกลับบ้านก่อนนะ” มือเรียวยกขึ้นไหว้สองพ่อ
“เอ้อ พ่อหล่อคะ.. พ่อหล่อไปวันไหน แวะรับหนูด้วยนะคะ หนูบอกแม่แล้วว่าจะไปพร้อมพ่อหล่อ ให้แม่ไม่ต้องห่วง..”
จากที่เม้มอยู่ ปากผมอ้าค้างน้อยๆ ตามองไอ้ฝัน
“เจอแม่เราเมื่อวานที่ร้านค้า แม่เราบอกพ่อแล้วล่ะ” พ่อหล่อพยักหน้ายิ้มๆ
“แม่เราได้พาไปสอบ ไปเห็นที่เรียนแล้ว เขาก็เลยสบายใจ บอกว่าไว้ค่อยหาโอกาสไปเยี่ยมเราอีกทีน่ะ”
เฮ้ย!
ผมจ้องหน้าพ่อหล่อ ส่วนพ่อน่ารักมองผมอย่างขำๆ พลางพยักหน้ายืนยันว่าความเข้าใจของผมนั้นถูกต้อง

“ไอ้ฝัน!” ผมว้ากเพื่อนสนิท
“เหี้ย แล้วมึงไม่บอกกูเลยเนี่ยนะ! มึงไม่รู้เหรอว่ากูก็จะเรียนที่..”
“กูรู้..” มันบอกปนหัวเราะ รอยยิ้มแย้มแต่งริมฝีปาก
“เฮ้ย! แล้วตอนวันปัจฉิมฯ มึงจะร่ำลากูซะซึ้งขนาดนั้นทำเพื่อ!?”
“กูไม่รู้ว่ะ” ไอ้ฝันโคลงศีรษะ “เพลงมา บรรยากาศพาไป กูก็เลยตามเลย..”
“ไอ้เกรียน!” ผมก้าวยาวๆ ไปดึงตัวมันมากอดไว้หนักๆ 
เราหัวเราะกันลั่น จนกระทั่งไอ้ฝันผละออกและเอ่ยค่อยๆ..
“กูอยากไปหาพี่หมอ”
“อืม..” ผมพยักหน้า “ไปกัน”

           เราเดินออกมาจากบ้าน สายตาผมเหลือบไปมองบ้านข้างๆอย่างช่วยไม่ได้
ไอ้ฝันกำลังจะไปหาพี่หมอ แล้วผมล่ะ.. เราไม่ได้พูดกันมาหลายวันแล้ว..

            “หมอก!” ไอ้ฝันตะโกนเข้าไปในรั้ว แม่งไวกว่ากูอีก..
ทว่า เป็นคุณนายแม่หมอกที่เดินออกมา
ผมมองตาเธอ เธอก็มองผม แล้วผมก็ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ผมยกมือไหว้..
“หมอกอยู่บ้านไหมครับ”
เธอนิ่งไปแป๊ปหนึ่ง แล้วจึงพยักหน้า..

           “เฮ้” ไอ้หมอกเดินยิ้มน้อยๆ ออกมาหาในไม่กี่อึดใจ
สายตาจริงใจ ริมฝีปากระบายรอยยิ้มน้อยๆ ก็นี่ล่ะ ใบหน้าประจำของมัน..
“ไปเที่ยวตลาดป่ะ” ไอ้ฝันชวน
ร่างสูงผงกศีรษะ ยิงคำถาม “จักรยาน มอเตอร์ไซค์หรือตีน?”
ฮ่ะๆ แม้แต่ผมก็หลุดหัวเราะ ขณะไอ้ฝันตอบสิ่งที่ผมเดาได้ “ตีน!”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            “ที่มึงกำลังทำ เรียกว่ามาหาตู้จดหมายว่ะ ไม่ใช่มาหาพี่หมอ”
ผมกับไอ้หมอกกลอกตาไปมา เมื่อการมาหาของมัน  คือการมาเขียนกระดาษโน้ตแล้วทำท่าจะหย่อนลงตู้จดหมายเหมือนเดิม  ในขณะที่ผมคาดว่ามันจะเดินเข้าไปหาในคลินิกให้เป็นเรื่องเป็นราว

“ไอ้ดิ้ล มึงนี่..” ไอ้ฝันเม้มปาก
“กูไม่ใช่คนไข้ ไม่ใช่เพื่อน ไม่มีธุระ จะให้เข้าไปหาในฐานะอะไรวะ”
มือเรียวกำลังจะหย่อนกระดาษโน้ตลงในตู้จดหมาย.. 
ทว่า  ในทันใด บุคคลที่ควรจะเป็นผู้รับก็ปรากฏกายขึ้น ยื่นมือมาและพยักหน้าทำนองว่า ‘ส่งมานี่เลย’
แต่ไอ้ฝันไม่ส่ง..
เพื่อนผมยืนอึ้งตะลึงงัน ผมเองก็อึ้ง  แต่มีสติมากกว่า จึงสังเกตว่าพี่หมอเดินมาจากบริเวณข้างตู้ไปรษณีย์หน้าคลินิก..

“เอ่อ..” ไอ้ฝันกลืนน้ำลาย พยายามจะพูดอะไร แต่ก็ไม่มีคำใดหลุดออกจากปาก
“ส่งมานี่ เดี๋ยวพี่ก็มาเปิดหยิบไปอยู่ดี”
“ส่งไปซี” ผมกระแทกไหล่เพื่อนเบาๆ มือสั่นๆนั้นจึงส่งกระดาษให้พี่หมอรับไป

‘ดูแลตัวเองด้วยนะคะ จะคิดถึง..’

บนแผ่นกระดาษประดับไปด้วยถ้อยคำเหล่านั้น

“คุณ..กำลังจะไปเรียนต่อแล้วใช่ไหม” พี่หมอก้มลงอ่าน แล้วเอ่ยถามเบาๆ
จากท่าที เขาเหมือนคาดเดาไว้อยู่แล้ว เพราะนี่เป็นฤดูเรียนต่อ ใครๆก็ทราบดี
“อื้อ..” ไอ้ฝันพยักหน้าแล้วตอบรับแผ่วๆ คำตอบรับที่ทำให้มันน่ารักขึ้นเป็นสิบเท่า
“ค่ะ..”
พี่หมอพยักหน้าบ้าง ยื่นกระดาษให้มันแผ่นหนึ่ง
ไอ้ฝันเลิกคิ้วรับมา ผมชะโงกไปมอง มันเป็นตัวเลขสิบตัว..

“ถ้าคุณไม่สบายหรือว่ามีปัญหาก็..”
พี่หมอเอ่ย สายตาที่มองมายังเพื่อนผมนั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาดี
“โทร..ได้ตลอดเวลานะ”
ไอ้ฝันมองตา พี่หมอเองก็มองกลับมา ก่อนที่มือเรียวจะตบไหล่ไอ้ฝันเบาๆอย่างให้กำลังใจ แล้วพยักหน้าให้พวกผม และเดินเข้าคลินิกไป
ผมมองตามหลัง..
ไม่อยากจะคิดว่าพี่เขามายืนรอ  แต่ว่าเขาไม่ได้เดินมาจากถนนสายอื่นเลย เหมือนเขายืน..ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกแล้ว

ไอ้ฝันก้มมองตัวเลขสิบตัวนั้นอีกครั้งและเงยมองกลับเข้าไปในคลินิก
“ขอบคุณค่ะ..”

ผมกับไอ้หมอกมองหน้ากัน หลุดเสียงหัวเราะ แม่ง คำขอบคุณมึงดีเลย์เกิ๊น!
ทว่า จากที่หัวเราะกันอยู่ดีๆ ไม่กี่วินาทีต่อมา เราก็นิ่งไป..
ร่างสูงกว่าที่คุ้นเคยทำให้รู้สึกอยากเดินเข้าไปกอดเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่สิ่งที่ผมทำก็เพียงเอ่ยถาม..
“สอบได้อย่างที่ตั้งใจใช่ไหม..”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ผมจึงยิ้มยินดี “ดีใจด้วย กูกับไอ้ฝันก็เหมือนกันนะ”
ไอ้หมอกยิ้มตอบเหมือนเคย..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            “ไอดิล เก็บของเรียบร้อยแล้วนะลูก”
หลายวันต่อมา.. ในคืนที่พ่อหล่อยกบรรดากระเป๋าขึ้นรถเพื่อพร้อมออกเดินทางในเช้าวันรุ่งขึ้น  พ่อน่ารักก็ถามย้ำกับผม ผมจึงพยักหน้า หลักๆก็.. เรียบร้อยแล้ว..

ขาก้าวช้าๆ ขึ้นบันได เปิดประตูห้องนอนตัวเองที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมแม้ภายหลังเก็บของแล้ว   เพราะที่ผมเอาไปก็มีเพียงเสื้อผ้า  หนังสือนิดหน่อยและ ของใช้ส่วนตัวไม่กี่อย่างเท่านั้น ของส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในห้องนี้..

หน้าต่างที่เปิดอยู่ทำให้เห็นคนอีกฝั่ง..
ร่างสูงนั่งอยู่ปลายเตียง  แขนแกร่งโอบกีต้าร์แนบลำตัว  นิ้วเรียวดีดไปบนเส้นลวด เสียงดนตรี..ที่ผมคุ้นเคย 
หมอกเล่นกีต้าร์ทุกวัน.. ผมเองก็เป่าขลุ่ยทุกวัน..
บางวัน.. เราไม่ได้พูดกันเลย แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเราสื่อสารกันทุกวันอยู่ดี และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน..
เราสบตากันแป๊ปหนึ่ง แล้วผมจึงเดินกลับเข้ามาหยิบขลุ่ยที่โต๊ะเขียนหนังสือขึ้นมาจรดริมฝีปาก เป่าออกไปเป็นท่วงทำนองเพลง ‘แสงจันทร์’ ที่อีกฝ่ายก็รู้จักดี..
ทว่า.. เดินออกมาอีกครั้ง คนที่หน้าต่างก็หายตัวไปแล้ว.. 

           ก๊อก ก็อก!
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นในความเงียบทำให้สะดุ้ง
ผมขมวดคิ้ว เพ่งมองหน้าต่างบ้านตรงข้ามอีกที ให้แน่ใจว่าไอ้หมอกไม่ได้อยู่ในนั้น

              ก๊อก ก๊อก..
เมื่อเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง ผมจึงเดินไป ค่อยๆ ดึงประตูเปิดออก..
ไม่ใช่พ่อหล่อ.. และไม่ใช่พ่อน่ารัก..

“อะ..” ผมอ้าปากค้างไว้
คนนอกประตูถือวิสาสะเดินสวนเข้ามาและผลักประตูปิด   ก่อนที่มือแกร่งสองข้าง
จะจับไหล่ผมไว้ ดันไปชิดประตู  ไม่ได้เตรียมตัว.. ไม่ได้ตั้งใจ.. และไม่ทันห้ามปราม   
 ริมฝีปากที่จำได้ก็โน้มลงมาประทับจูบบนเรียวปากผม

“อ๊ะ..”
ผมสะดุ้งตกใจ มือสองข้างห้อยตกแนบอยู่ข้างลำตัว ขณะที่ไหล่ถูกกดไว้ชิดประตู และภายในโพลงปากก็กำลังถูกรุกรานอย่างนุ่มนวล.. เชื่องช้า..

“อื้อ..”
ผมครางเบาๆ เผลอยกมือขึ้นเกาะเอวร่างตรงหน้าเอาไว้   ริมฝีปากจูบตอบ สนองอย่างโหยหาแทบจะพอๆกัน..

“ม..หมอก ..อื้อ”
ผมทั้งครางทั้งเรียก พยายามดันตัวมันออก เมื่อรู้สึกว่าใกล้ขาดอากาศหายใจ
“อืม..” หน้าคมผละออกนิดหนึ่ง ผมจึงสูดลมหายใจเข้าปอดและรีบถาม
“มึงมาได้ยังไง”
“ก็พ่อมึงบอกเอง..” เสียงเข้มกระซิบ “ว่าถ้าจะมาหาลูกเขา ให้ขอเข้าทางประตู”
“อะ..” ผมหน้าแดง “ก็ใช่ แต่..”
แต่พ่อไม่น่าจะอนุญาตให้ขึ้นมานี่นา สิ่งที่ท่านน่าจะทำคือขึ้นมาเรียกผมลงไปข้าง ล่างมากกว่า  ผมจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความงุนงง..
“พ่อหล่ออนุญาตให้กูขึ้นมา” มันตอบสายตาแห่งคำถามของผม
“แต่พ่อน่ารัก..” ไม่มีทางยอมแน่..
ไอ้หมอกหัวเราะน้อยๆ พลางจ้องผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แบบที่เห็นไม่บ่อยนัก
“ท่านก็ไม่ค่อยแฮปปี้หรอก แต่พอดี.. ตอนที่กูเข้ามา  พ่อหล่อกำลังทำกับพ่อน่ารักแบบเดียวกับที่กูทำมึงเมื่อกี๊อยู่ เลยเหมือนไม่ค่อยมีแรงห้าม..”
ไอ้.. แม่ง..  ผมทุบอกมันเบาๆอย่างเขินๆ มึงเลยฉวยโอกาสเลยว่างั้น?

“กูเห็นพ่อหล่อเช็ครถ เอากระเป๋าขึ้น.. มึงจะไปพรุ่งนี้เหรอ” 
มือแกร่งปล่อยไหล่ผมเปลี่ยนเป็นโอบรอบเอวด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างไล้แก้มขึ้นลงเบาๆ
“อือ..” ผมพยักหน้า

ไปไหนก็ยังไม่เคยพูดกัน
เรียนที่ไหนก็ยังไม่ได้บอกให้ชัดเจนและมันเองก็ไม่ถาม..

“ขอจูบอีกทีนะ..”
เสียงเข้มประซิบ โน้มจมูกลงมาแนบชิด
ผมหน้าแดงก่ำ แต่ลำคอก็พยักน้อยๆ “อือ..”
เปลือกตาปิดลงอีกครั้งอย่างยินยอม มือสองข้างขยุ้มเสื้อยืดอีกฝ่ายไว้แน่น
หวั่นไหวในใจจนคล้ายว่าน้ำตาจะหยดลงมา..

“หมอก..” ผมผละริมฝีปากออกนิดหนึ่ง มองตาอีกฝ่าย “กู..”
ไม่เคยพูด.. ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่ว่า.. ก็อยากจะพูด.. อยากจะบอก..
ถ้าหากเราจะไม่ได้พบกันทุกๆวันแบบนี้อีกแล้ว ผมก็อยากให้ผู้ชายตรงหน้ารับรู้ว่า..
“กูรั..”
ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นมาแนบแก้ม นิ้วโป้งกดปิดเรียวปากเบาๆ ชะงักคำพูดผมเอาไว้
มืออีกข้างลูบศีรษะเบาๆอย่างปลอบโยน
“เดินทางปลอดภัยนะครับ..”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

              “เก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้วแน่ๆนะไอดิล”
พ่อน่ารักถามย้ำมาจากชั้นล่าง  ขณะที่ผมขึ้นห้องมารอบสุดท้ายเพื่อหยิบของ

“มีอีกสองอย่างครับ..”
ผมหยิบขลุ่ยขึ้นมากำไว้แนบอก มองผ่านหน้าต่างออกไปที่ห้องไอ้หมอก ก่อนที่จะดึงมันปิด แล้วก้าวออกนอกประตูห้องตัวเองและยืนนิ่งมองแผ่นกระดาษที่แปะอยู่บนนั้น..

คือ.. บทกวีแห่งศักดิ์ศรี
คือ.. ดนตรีที่แจ่มชัด
คือ.. ภาพเขียนเจิดจรัส
คือ.. ทิวทัศน์อันงดงาม

             ผมค่อยๆแกะแผ่นกระดาษออกมาอย่างเบามือ.. ทะนุถนอม..
เกรงว่ามันจะขาดหรือชำรุดเสียหาย เพราะมันก็แปะอยู่ตรงนี้มายาวนานสิบกว่าปีแล้ว
และถ้าผมจะไปนอนที่ห้องอื่น.. ผมก็คงต้องเอามันไปด้วย..

            “ไอดิล ลืมอะ-” พ่อน่ารักเดินขึ้นบันไดมาดูเมื่อผมเงียบไปนาน
ทว่า คำถามกลับชะงักอยู่ที่ริมฝีปากเมื่อเห็นว่าผมดึงแผ่นกระดาษนั้นออกมาสอดไว้ในสมุดบันทึกอย่างช้าๆ

“ผมทนไม่ได้ถ้าจะนอนในห้องที่ไม่มีกระดาษใบนี้แปะอยู่” ผมอธิบาย
“ผมขอเอาไปด้วยนะครับ”
พ่อน่ารักมีสีหน้าที่ยากจะอธิบาย.. มือเรียวดึงผมเข้าสู่อ้อมแขน
ผมเอ่ยบอกกับอกท่านเบาๆ “ผมรัก.. ผมรักพ่อ”

TBC

ออฟไลน์ Trystan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z13: เย้ จิ้มๆๆ อ่านแปป

ออฟไลน์ ที่เดิมในหัวใจสาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :katai1: :katai1: แล้วจะเป็นไงต่อ หมอกต้องตามไปนะ  :z3:

ออฟไลน์ chutee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบคู่นี้สุดๆ รักมากกกกก

ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด.........น่ารักกกกกกกกก คิดถึงอ่ะๆๆๆๆ  มาต่อไวๆๆนะคะ    :-[  จะต่อที่ไหนก็ได้ขอให้มาต่อนะ  ไอดิลน่ารักกกกกกกก  #ว่าแต่ไปมอชอ.ทั้งสามคนเลยใช่มะ  o13

ออฟไลน์ YouandMe

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
คิดถึงเกรียนน้อยๆ คนนี้จริงๆ  :กอด1:
ยังคงสืบทอดความเกรียนจากพ่อน่ารักได้ไม่ตกหล่นสักนิด  :z1:
แถมตอนท้ายมีซึ้งกับพ่อน่ารักอีก  :impress2:

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4
แอบรู้สึกแบบ.. แาผ่านมานานจัง
าอ่านเรื่องคู่คุณพ่อตั้งแต่ปิดเทอมม.1เห็นจะได้
ตอนนี้ก็จบม.หก ไปเรียนวิศวะ เหมือนกัน
แต่คนละสาขานะ มันก็รู้สึกโหวงๆ จัง
พอมาอ่านเรื่องนี้ บรรยายถึงการแยกจาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ใจหนึ่งก็ยินดีกับการเริ่มต้นชีวิตไปอีกก้าวอีกใจหนึ่งก็ใจหายกับการจากลาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
อ่านไปก็น้ำตาไหลไป มันซึ้งกับมิตรภาพดีๆของเพื่อน  :hao5:

แล้วจะไปเรียนต่อที่ไหนกัน เรียนที่เดียวกันหรือป่าว อยากรู้ มาต่อไวไวนะ  :katai4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คือมิตรภาพที่เติบโต

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Loogling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นึกว่าตาฝาดไปปปปป

 :o8: :o8:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ขอให้ได้เรียนที่เดียวกันทั้งสามคนเลยน๊าาาา
นะๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เอาใจช่วยหมอกนะสู้ๆ
ต้องตามไปให้ได้นะหมอก  :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยังไม่มาต่ออีกเหรอ.......ฉันมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยยยยย :mew2:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
:: Part III ::

            เราสี่ชีวิตพ่อลูก.. 
พ่อหล่อ พ่อน่ารัก ผมและไอ้ฝัน นั่งรถแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ จากใต้ขึ้นเหนือ ไล่ตั้งแต่พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์  แวะพักค้างคืนที่เพชรบุรี..
แล้วก็ขึ้นต่อไปยัง ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน..
พ่อหล่อเป็นโชเฟอร์เพียงคนเดียว  เพราะน่ารักนั้นไม่น่าไว้วางใจนักในเรื่องการขับรถทางไกล 
ทว่า ก็ไม่เห็นพ่อหล่อจะเคยมีปัญหาในเรื่องนี้  เพราะเว้นเสียจากเรื่องขับรถ พ่อน่ารักก็ทำให้พ่อหล่อได้ทุกอย่าง..

            “แล้ว..เราจะพักโรงแรมไหนกันดี?”
พ่อน่ารักเอ่ยถาม เมื่อเราเข้าเขตจังหวัดเชียงใหม่
“พ่อ!” ผมแทบจะว้ากพ่อน่ารัก
พ่อถามคำถามนั้นออกมาได้ยังไง ได้ยังไงครับพ่อ!?
มันออกจะชัดเจนอยู่แล้ว เราก็ต้องพักบ้านทัศนศุภกฤษณ์สิคร้าบ!!
“ผมจะไปนอนบ้านปู่กับย่า!” ผมยื่นคำขาดหน้ามุ่ย
พ่อหล่อกับพ่อน่ารักหัวเราะลงลูกคอ..


   และ ณ ที่นี้.. 
เขตอำเภอสันกำแพง  บ้านสีขาวหลังใหญ่  รายล้อมด้วยต้นไม้อยู่เบื้องหน้าผม

“ไอดิล ไปทำเซอร์ไพรส์ย่าเร็วๆเข้า” พ่อน่ารักผู้มักมีความคิดแผลงๆ กระซิบชี้แนะผม
เราไม่ได้บอกย่าล่วงหน้าอยู่แล้วครับว่าจะมาเชียงใหม่  เนื่องจากพ่อหล่อกะจะมาทำให้ย่าประหลาดใจ  ส่วนพ่อน่ารักนั้นก็คงอยากทำให้ย่าประหลาดใจกว่า
ผมจึงต้อง..

        ดิ๊ง ด่องงง..!

           “มาหาใครคะ?”
สาวใหญ่ผู้หนึ่งออกมาถาม หลังจากผมกดกระดิ่งไปไม่กี่อึดใจ
“หาคุณทัศนีย์ครับ”
ผมกระแอม เอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ทำทีเป็นสำรวจเอกสารในมือ
“ธุระอะไรคะ”
“ผมนัดกับคุณทัศนีย์ไว้..”
ผมเอ่ยเป็นการเป็นงาน สลับกับกวาดสายตาไล่มองเอกสาร
“เราจะคุยกันเรื่องซื้อขายยานอวกาศรุ่น Airtrend Minibus HbA1c 320d ครับ”
“ห๊ะ?” ป้าคนนั้นอ้าปากน้อยๆ
“อะ..เอ่อ คุณทัศนีย์ไม่ได้แจ้งไว้เลยค่ะว่าคุณจะมาพบ”
“สงสัยจะลืมแน่ๆครับ เพราะเรานัดกันไว้ คุณทัศนีย์จะซื้อสองลำด้วยซ้ำ!”
“เอ่อ..”
“ไปเรียนท่านเถอะครับ ว่าผมเป็นตัวแทน NUSA จะมาคุยเรื่องซื้อขายยานอวกาศรุ่น Airtrend Minibus HbA1c 320d”
ผมเอ่ยเรียบๆ แล้วก็โพล่งขึ้นมา
แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าคุณทัศนีย์ตัดสินใจซื้อสองลำภายในวันนี้  ผมแถมฟรี แผนที่ดาวอังคาร”   
“อะ..ค่ะ ค่ะ รอสักครู่”

           ผมยืนตีหน้าตายเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอยู่นอกรั้วบ้าน    ก่อนจะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังออกมาในเวลาไม่นาน
“ฉันไม่ให้เข้ามาหรอกย่ะ ยานอวกาศบ้าบออะไรแจ่ม ฉันจะซื้อได้ยังไง มันต้องคนบ้าแน่นอน!”
ผมอมยิ้ม..
“แต่ฉันอยากจะดูหน้านัก เซลล์บ้าอะไรมาใช้มุขนี้กับฉัน ฉันจะฟ้องกลับ คอยดูนะฉันจะฟ้องให้ล้มละลายเลย!”
“อ..อยู่นอกรั้วค่ะคุณณีย์  แจ่มไม่ได้ให้เข้ามา เพราะคุณนีย์ไม่ได้แจ้งว่ามีแขก  แต่
เขาพูดจาน่าเชื่อถือมาก  แจ่มจำรุ่นยานที่เขาว่าไม่ได้   จำได้แต่เขาบอกว่าแถมฟรีแผนที่ดาวอังคาร คิดว่าคุณนีย์ต้องรีบตัดสินใจภายในวันนี้ เผื่อว่าจะได้-”
“ยัยแจ่ม!” ย่าผมว้าก แล้วก็มองเขม็งออกมานอกรั้ว
“ไหนใคร ใครยะใครที่มาขายยานอวกาศ เกรียนคนไหนมันทำแบบนี้!”
ผมขยับออกจากกำแพงปูนไปอยู่ที่ช่องประตูรั้ว ส่งยิ้มเฉิดฉายให้คนตรงหน้า 
“เกรียนคนนี้ครับ”

…สตั้นไปสามวิฯ ก่อนที่ย่าจะแผดเสียงเรียกผมดังลั่น

“ไอดิล ไอดิลลลลล!!”
ย่าแทบจะเปิดประตูรั้วด้วยตัวเอง ทำให้คุณป้ารีบกระวีกระวาดเข้ามาห้าม
“ให้เปิดหรือคะคุณนีย์”
“เปิดสิยะ เปิดเร็วๆ!”
“แต่คุณนีย์บอกว่าคนบ้าอะไรขายยานอวกาศ  ห้ามให้เข้าบ้านเด็ดขาด  ให้มันอยู่ในยานของมันไปนี่คะ!”
“โอ๊ย แจ่ม..” คุณย่าทำหน้าหมดอาลัย “นี่หลานชายฉัน--ไอดิล”
“ห๊ะ?” ป้านามว่าแจ่มขมวดคิ้ว แต่แล้วก็นึกได้
“ที่เคยโทรมาขายเครื่องกรองน้ำน่ะหรือคะ?”
แต่ย่าไม่มีอารมณ์ตอบ เปิดประตูรั้วได้ ร่างขาวก็ตรงเข้ามาคว้าผมไปกอด
“คิดถึงจริงๆ ไอดิล..”
“สวัสดีครับย่า” ผมเอ่ยกลั้วหัวเราะ ไม่ทันจะได้ยกมือไหว้ก็ถูกโอบรัดเสียแน่น
“นี่ ม..มาได้ยังไง”

ไม่พักต้องตอบคำถาม พอย่าปล่อยผม ท่านจึงได้เห็นพ่อหล่อ พ่อน่ารักและไอ้ฝันลงมาจากรถ

“ทัศน์ เกรย์!”
ย่าคว้าลูกชายกับสะใภ้มากอดไว้คนละข้างและถึงกับแตะหัวไอ้ฝันเบาๆ เมื่อเพื่อนสาวยกมือไหว้
“อ้าว แล้วตา-ยายเราล่ะไอดิล” ย่าหันมองหา
“เรคยาวิกครับ” ผมตอบสั้นๆ และเสริมเมื่อย่าขมวดคิ้ว “ไอซ์แลนด์”
ย่าพ่นลมหายใจ “ไอ้ที่บอกว่าไปเที่ยวออสเตรียคราวนั้นแล้วจะพอนี่ไม่จริงสินะ”
ผมหัวเราะร่า
“ก็เพิ่งไปอีกครั้งนี่แหละครับ ก่อนหน้านี้ก็อยู่บ้าน  นี่อีกสองสามวันก็กลับแล้วครับ บอกว่าจะรีบมาเยี่ยมผม แถมจะมาทักย่าด้วย” ผมโฆษณาใหญ่
“แค่ทักไม่ได้นะ ต้องมาค้างบ้านทัศนศุภกฤษณ์สักสองสามอาทิตย์!”
ฮ่ะๆ ผมเข้าไปกอดเอวย่าแน่น ย่าเองก็กอดผมตอบ

“แหม แต่จริงๆเล้ย มาไม่บอกไม่กล่าว..” ย่าอดไม่ได้ที่จะบ่น
“แถมให้ลูกชายมาขายยานฯ ไอ้มุขนี้น่ะ ความคิดใคร ฮึ!”
“โธ่.. ทำไมย่าไม่คิดว่าเป็นความคิดผมเองล่ะครับ”
“ไอดิลน่ะใสๆ ย่าไม่เชื่อหรอก!”
ย่าตวัดมองไปทางพ่อน่ารักซึ่งอมยิ้มทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
แล้ว.. หนูเกรียนกับคุณหญิงอินดี้ก็ส่งสายตาให้กันอย่างมีความหมาย
ผมประหวัดนึกถึงฉากไม่กี่ฉากที่สองคนเบื้องหน้าพบกันใน ‘INDY in love’  ที่เคย
อ่านซึ่งก็นานหลายปีมาแล้ว..   


              พ่อหล่อขับรถเข้าบ้าน..
ส่วนเราที่เหลือก็เดินกันไปคุยกันไปตามทางสู่ตัวบ้าน และเมื่อผ่านที่จอดรถ ผมกับไอ้ฝันก็ดี๊ด๊า
“ไอ้ดิ้ลๆ มาสด้าสอง มาสด้าสองในตำนาน!” ไอ้ฝันชี้ไม้ชี้มือ ผมเองก็เบิ่งตา
“จริงด้วย มึงดูซิมีขวดน้ำดื่มคริสตัลอยู่ใกล้ๆหรือเปล่า!”
แว๊กกก! ผมกับไอ้ฝันโคตรตื่นเต้น!!
“ว่าแต่.. กำแพงตรงไหนที่พ่อน่ารักปีนเข้ามาวะ!” ไอ้ฝันสอดส่ายสายตามอง
“ใช่ๆ ตรงไหนที่เขายืนกอดกันแนบแน่นไม่แคร์สื่อ” ผมช่วยเพื่อนมองหา
ผู้ถูกกล่าวขวัญถึงหน้าแดงจัดด้วยความขวยเขิน   เมื่อพวกเราเอ่ยถึงวีรกรรมสมัยหนุ่มๆ
ย่าหันกลับมามองพ่อน่ารัก หัวเราะในลำคอและส่งเสียงที่แผ่วเบา แต่ผมได้ยิน
ชัดเจนว่า.. “มันน่าโบกเกรียนนัก”
ฮ่ะๆ!

            เราสี่คนพ่อลูกเข้าไปกราบปู่ในตัวบ้าน..
คุณปู่ทิวเขาดูใจดีเหมือนที่ผมเคยนึกวาดภาพไว้ ใบหน้าที่ดูออกชัดเจนแม้ยามชราว่าพ่อหล่อละม้ายคล้ายมองผมด้วยสายตาแห่งความปราณี..

             “ทัศน์จะเอามาสด้าสองกลับไปก็ได้นะ”
ย่าเอ่ย หลังจากสั่งป้าแจ่มไปเตรียมห้องให้เราสามห้อง แล้วนั่งทานของว่างกันที่ห้องนั่งเล่น
“รถแห่งความทรงจำของเราไม่ใช่หรือ เดี๋ยวแม่ให้รถยกมายกไปให้ดีไหม จะได้จอดไว้ที่บ้านเรา”
“ไม่เป็นไรเลยครับแม่ จอดไว้ที่นี่ดีแล้ว” พ่อหล่อปฏิเสธยิ้มๆ
“รถน่ะ ผมไม่ยึดติดหรอกครับ เพราะที่มีความหมายจริงๆ.. ก็นั่งอยู่ข้างๆนี่แล้ว”
“อ่ะ..” พ่อน่ารักสำลักน้ำแตงโมที่พี่แจ่มเอามาให้ ใบหน้าแดงจัดอีกครั้ง
ฮึ่ย! หยอดกันไม่เกรงใจลูกเล้ย ผมเสมองไปทางอื่น ในใจคิดถึงไอ้หมอก..

           
           “คุณทัศน์กับคุณเกรย์ ห้องนี้ค่ะ ห้องนอนเก่าคุณทัศน์เองนะคะ ส่วนคุณไอดิลกับคุณในฝัน ห้องถัดไปค่ะ”
ป้าแจ่มกล่าว “ถ้าขาดเหลืออะไรก็เรียกใช้แจ่มได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ” ผมยกมือไหว้ พลางแตะแขนป้าแจ่มไว้
“ผมขอโทษนะครับที่เกรียนใส่ตอนมาถึง”
ป้าแจ่มหัวเราะ “คุณไอดิลเป็นลูกคุณเกรย์นี่คะ ป้าไม่สงสัยเลย!”
“ฮ่ะๆ” ผมหัวเราะบ้าง “ที่จริงเป็นความคิดคุณเกรย์ที่ป้าแจ่มพูดถึงนั่นแหละครับ”
“โอ๊ยยย นั่นป้าแจ่มก็เลิกสงสัยแล้วค่ะ ตั้งแต่คุณเกรย์ปีนกำแพงเข้าบ้านคราวนั้น
ป้าแจ่มไม่มีข้อสงสัยอะไรในตัวคุณเกรย์เลยค่ะ!”


            เราแยกย้ายกันพักผ่อนเสียที..
เพราะเดินทางกันมาก็นาน เมื่อยล้ากันเต็มที  โดยเฉพาะพ่อหล่อที่เป็นโชเฟอร์   แต่ก็คงไม่เป็นไร  เพราะผมคาดว่าพ่อหล่อน่าจะได้รับการปรนนิบัติอย่างดีจากพ่อน่ารักในระยะเวลาอันใกล้นี้

             ผมเดินเข้ามาในห้อง  นั่งลงเงียบๆ  ใจประหวัดครุ่นคิดถึงหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ผ่านมาและจะผ่านไป จนถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผมพิจดูตัวเองในกระจกที่สะท้อนภาพเด็กหนุ่มผิวขาว..
ผมคงเกิดที่เชียงใหม่นี้ พบกับพ่อน่ารัก พ่อหล่อ ครอบครัวและผองเพื่อน เราไปอยู่ภาคใต้ตั้งแต่ผมยังจำอะไรไม่ค่อยได้ จึงแทบไม่รู้จักเชียงใหม่เลย   จนกะทั่งวันนี้.. ผมได้กลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย..  ครอบครัวที่แสนดียังคงอยู่เคียงข้าง พ่อหล่อกับพ่อน่ารัก ตากับยาย แล้วตอนนี้ ผมก็ยังมีปู่กับย่าอีก ผมได้แต่อมยิ้ม..
ทำไมผมโชคดีแบบนี้ ..ผมต้องเป็นลูกและหลานที่ดีตอบแทนพวกท่าน..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

               
             วันรุ่งขึ้น.. สิ่งที่ต้องทำคือไปรายงานตัวเข้าหอพัก
ผมอยู่หอสามชาย ส่วนไอ้ฝันอยู่หอสามหญิง ซึ่งไม่ได้ไกลกันเลย
สองพ่อขับรถมาส่งเราในมอ แล้วปล่อยให้สะพายกระเป๋าเป้คนละใบ และกระเป๋า
เสื้อผ้าของใช้อีกคนละใบ แล้วหาทางไปกันเอง โธ่ พ่อ!

                “เสร็จแล้วมาเจอกันใต้ต้นโพธิ์นั้นนะ  เราจะได้ไปซื้อชุดนักศึกษากัน  พ่อหล่อบอกว่ามีร้านอยู่หน้ามอ”
ผมบอกไอ้ฝัน พลางชี้ไปเบื้องหน้า
“ไม่เอาๆ” เพื่อนสาวส่ายหน้า “พ่อน่ารักบอกว่าขึ้นรถไปหน้ามอที่ อ.มช. แล้ว อ.มช. น่ะ อยู่ติดหอกูเลย มึงเดินมารอหน้าหอกู กูจะได้ไม่ต้องข้ามมานี่”
เออ โอเคๆ ผมเดินไปส่งไอ้ฝันที่หอหญิงก่อน แล้วจึงเดินกลับมาหอตัวเอง
สูดลมหายใจเข้าน้อยๆ เดินเข้าไปอย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะพบ ..หรือไม่พบอะไรในนั้น


          337 ตัวเลขที่ลอกล่อนบ่งไว้ว่าอย่างนั้น..
ผมกระชับมือที่หิ้วกระเป๋า ยืนจ้องมองประตูห้อง..
ห้องที่พ่อน่ารักเคยอยู่ ห้องที่ลุงแอร์กับลุงนนเคยอยู่.. บุคคลที่ผมเคารพทั้งสามท่าน..
ก่อนที่ผมจะเดินผ่านไปและเปิดประตูห้อง 338 ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ผมไม่มีความกล้าพอจะอยู่ห้องเดิมที่พ่อน่ารักเคยอยู่หรอกครับ   เพราะดูท่าน่าจะมีอาถรรพ์อะไรสักอย่าง ฮ่ะๆ!

              ในยามสาย.. ผมกับไอ้ฝันไปซื้อชุดนักศึกษาคนละสามชุดแล้วกลับมาซักมือตากผึ่งลมไว้ที่ระเบียง ก็พอดีได้เจอกับรูมเมททั้งสองคนซึ่งคนหนึ่งชื่อ ‘ม่อน’ ส่วนอีกคนนั้นชื่อ ‘พชร’ ม่อนเป็นคนเชียงใหม่ ส่วนพชรมาจากลำพูน

               ผมถอนหายใจ.. มองไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง   
แล้ว.. คนที่มาจากที่เดียวกับผม ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ..เขาเป็นรูมเมทใคร
ผมไม่กล้าคิด.. ไม่อยากคาดเดา..

             เที่ยงวันนั้น.. ผมกินข้าวกับไอ้ฝันที่ อ.มช. และเราก็ใช้เวลาหมดไปกับการสำรวจมหาวิทยาลัย  ไอ้ฝันแยกไปสำรวจคณะรัฐศาสตร์  ส่วนผมก็เดินเลียบๆไปตามฟุตบาทที่นำไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งอยู่ถัดจากหอไปเพียงนิดเดียว

             ‘วิศวฯ ม.ช.’ ตัวอักษรสีม่วงบ่งว่าอย่างนั้น
ผมมองเข้าไป ..นี่เป็นที่ที่พ่อหล่อเคยอยู่ ..เคยเรียน ..เคยใช้ชีวิตวัยหนุ่ม
พ่อหล่อ ลุงกรีน ลุงโกและลุงแอร์
โต๊ะเก้าอี้วางเรียงรายอยู่ใต้คณะ ..พ่อกับเพื่อนๆ คงเคยนั่งสักที่ในนั้น..
แค่เพียงตระหนักว่า.. อยู่หอที่พ่อเคยอยู่.. เรียนคณะที่พ่อเคยเรียน..
เหยียบย่างลงบนทางที่พ่อเคยเดินผ่าน.. ทำไมมันช่างอบอุ่นหัวใจถึงเพียงนี้..
ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะมาถึงวันนี้.. มาถึงที่นี่จนได้..
ผมไม่ได้คิด.. ไม่ได้ตั้งใจมาก่อนเลย..


            “ไง วันแรกในมอสนุกไหม?”
พ่อหล่อถาม เมื่อมารับเราไปกินมื้อเย็น
“คืนนี้ไปนอนบ้านย่าอีกคืนก็แล้วกันนะ  แล้วพรุ่งนี้ พ่อจะเข้ามาส่งรายงานตัว ทีนี้ลูกก็ตามสบาย..”
ผมกับไอ้ฝันพยักหน้า  เราต่างเงียบกันไป  ไอ้ฝันคงจะตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ 
ผมเองก็เช่นเดียวกัน และนอกจากนั้น.. ผมก็ได้แต่รอลุ้นบางสิ่งบางอย่าง..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            “เราจะได้เจอลุงโกกับลุงกรีนไหมครับพ่อ”
ผมเอ่ยถาม เมื่อพ่อเลี้ยวรถเข้าจอดในร้านอาหาร
“แน่นอนอยู่แล้ว” พ่อหล่อผงกศีรษะ ลุงทั้งสองของผมทำงานที่เชียงใหม่ครับ
“เสียดายจังที่ได้เจอแค่สองคน จะว่าไปผมก็คิดถึงลุงแอร์ ลุงนน แล้วก็ลุงทิว อากรด้วยครับ”
“อื้ม พ่อก็คิดถึง” พ่อหล่อว่า “แต่จริงๆแล้ว วันนี้ลูกจะได้เจอสี่คน..”


             ลุงกรีนกับลุงโกรออยู่ที่โต๊ะแล้ว  เมื่อเราสี่คนพ่อลูกไปถึง 
ผมส่งสายตามองหาเพื่อนสนิทของพ่อหล่ออีกสองคนที่พ่อบอกไว้ว่าจะมากินข้าวกับเราด้วยและหนึ่งในนั้นเรียนวิศวฯสิ่งแวดล้อมเหมือนที่ผมกำลังจะเรียน
หลังจากทักทายลุงๆ  ผมก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาคอยบุคคลที่ยังไม่เคยพบหน้า หรือก็เคยพบแล้วนั่นแหละ แต่เด็กมากจนจำไม่ได้.
 
              ก่อนจะอ่าน ‘INDY in love’ ผมสงสัยมาตลอด ว่าเพื่อนสนิทอีกสองคนของพ่อหล่อเป็นแค่เพื่อนกันหรือเป็นแฟนกัน ทว่า.. แรกเจอเขาสองคนในวันนี้ ต่อให้ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อน โง่ๆ อย่างผมก็รู้ได้ทันที 
เริ่มจากข้อมือของคนทั้งคู่ที่คาดไว้ด้วยสายข้อมือแบบเดียวกันเด๊ะๆ  เป็นสายสีดำประดับด้วยตัวอักษรสแตนเลส ‘J&N’ 
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนกว่านั้นว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน คือสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่สามารถอธิบายได้..
แต่ขณะหนึ่ง เมื่อผมอยู่ระหว่างคนสองคนนั้น  ผมรู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์บางอย่าง  สายสัมพันธ์ที่แนบแน่น.. แข็งแรง.. 
สายสัมพันธ์แบบเดียวกันกับที่ผมรับรู้ได้เสมอเวลาที่พ่อหล่อกับพ่อน่ารักอยู่ด้วยกัน..


         “พวกมึงสบายกันดีนะ”
พ่อหล่อตบไหล่ผู้มาใหม่ทั้งสอง แล้วจึงหันมาแนะนำกับผม “ไอ้ดิ้ล นี่ลุงโจ ลุงหนุ่ม”
ผมยกมือไหว้คนทั้งสอง ลุงโจรูปร่างสูงสะโอดสะอง ส่วนลุงหนุ่มนั้นเตี้ยกว่าและดูจะมีเนื้อหนังมากกว่า
“ดีจริง ที่พวกมึงยังรักกันดี ไม่ตีกันตาย” พ่อหล่อยิ้มกว้าง
“ฮ่ะๆ” ลุงโจหัวเราะ “อย่าว่าแต่ตี กูทั้งโดนหยิกแขน บิดหู ชกไหล่ ไม่อยากจะพูด”
“นี่มึงไม่อยากพูดแล้วเหรอ!” ลุงหนุ่มสวนขึ้นมา
“เฮ้ยโจ นี่มึงตกอยู่ใต้อาณัติเหรอวะ” พ่อหล่อแซว ทำให้ลุงโจตีหน้าขรึม
“กลางวันเราก็ต้องยอมเขาไปก่อนใช่ไหมล่ะ พอกลางคืน ยังไงเราก็อยู่เหนืออยู่ดี”
“ถูก..” พ่อหล่อพยักหน้าเห็นด้วย “แต่บางคืน.. เขาก็อยู่เหนือเรานะ”
“เฮ้ย สองคนนั้นน่ะพอแล้ว!” พ่อน่ารักว้าก “ไอดิลหน้าแดงหมดแล้วเห็นไหม”

เป็นความจริงครับ  ผมขัดเขิน ใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด เพราะเผลอนึกภาพตาม
ต่างกับไอ้ฝัน แม่งหัวเราะชอบใจ โรคจิตจริงๆ..
ผมก้มหน้าก้มตากินข้าวด้วยความเขินอาย โอ๊ย ใครอยู่เหนือใครผมก็ไม่รู้ทั้งนั้น
แหละโว้ย! ผมพยายามปัดภาพใบหน้าไอ้หมอกออกไป..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

             “พ่อจะกลับวันนี้แล้วหรือครับ?”
ผมเอ่ยถาม หน้าเศร้าเล็กน้อย เมื่อพ่อหล่อชะลอรถส่งที่อาคารเรียนรวมเพื่อรายงานตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น
“ก็ต้องวันนี้ล่ะ” พ่อน่ารักว่า “คุณทัศน์ต้องทำงานอีกนะลูก”
ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างข่มใจ..
เกือบยี่สิบปีมานี้ ตั้งแต่จำความได้ ผมก็อยู่บ้านเดียวกับพ่อมาตลอด ไม่เคยห่างจากพ่อเลย..

“แล้ว เดี๋ยวพ่อจะออกเลยหรือว่า..”
“ลูกรายงานตัวให้เสร็จเถอะ พ่ออยากรอเจอลูกอีกทีก่อน”
พ่อน่ารักพิศมองผมในชุดนักศึกษา มือเรียวเข้ามาจัดเนคไทม่วงของผมให้เข้าที่..
“หล่อแล้ว” พ่อน่ารักเอ่ยแผ่วๆ ผมยิ้ม.. “ขอบคุณครับพ่อ”
“พ่อขอไปรำลึกความหลังกันหน่อยนะ เสร็จแล้ว ลูกก็โทรมาแล้วกัน”
ผมพยักหน้ารับก่อนเดินเคียงไปกับไอ้ฝันเข้าสู่ตัวอาคารและแยกกันไปรายงานตัวตามจุดที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด


                นักศึกษาปีหนึ่งจำนวนมากที่มารายงานตัวในวันนี้..
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมเช่นผม     
และอีกหลายคณะ หลายสาขาวิชา รวมไปถึง.. คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี..
ซึ่งผมไม่มีความกล้าพอจะสำรวจรายชื่อ.. ได้แต่รอจนรายงานตัวเสร็จ จึงตัดสินใจส่งข้อความไปยังหมายเลขสิบตัวปลายทาง

‘ถ้าหากมันเป็นอย่างที่คิด.. กูจะรออยู่ที่นั่นนะ’

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            ผมก้าวขาลงจากรถไฟฟ้า..
ค่อยๆ ย่างเท้าช้าๆ เข้าไปในบริเวณอ่างเก็บน้ำใหญ่เบื้องหน้า
อะไรหลายๆอย่างแตกต่างไปจากที่ผมคิด..
ลานหญ้าเขียวที่พ่อน่ารักกล่าวถึงในหนังสือถูกเทปูนไว้เป็นหย่อมๆ 
สะพานเหล็กที่ทอดออกไปเป็นท่าน้ำไม่เหมือนในรูปปกหลัง ผมใจเต้น.. มอบไปรอบๆ..


                  มันผิด.. ผิดจากที่ผมคาดไว้แล้วล่ะ
เพราะผมคาดว่าจะมารอ.. แต่ผมกลับไม่ได้รอ.. 
จะรอได้อย่างไร  ในเมื่อร่างสูงที่คุ้นเคยในชุดนักศึกษาแขนสั้นผูกเนคไทม่วงเอาไว้หลวมๆนั้นยืนพิงต้นหางนกยูงใหญ่ มองมาที่ผมก่อนแล้ว..

แววตาจริงใจ..
รอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าคมสันนั้น..
ไม่มีทางจะเป็นของใครอื่น..

ผมยิ้มตอบ.. เดินเข้าไปหา..
ความรู้สึกเต็มล้นในใจ.. จนไม่อาจพูดอะไรออกมา..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-03-2016 19:09:38 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
:: Part IV ::

‘ถ้าหากมันเป็นอย่างที่คิด.. กูจะรออยู่ที่นั่นนะ..’

ผมกดดูข้อความในโทรศัพท์และระบายรอยยิ้มออกมาน้อยๆ
มันก็เป็นอย่างที่มึงคิดนั่นล่ะ..
ผมรายงานตัวเสร็จก่อนสักพักหนึ่งแล้ว   ใจนึกถึงนักศึกษาใหม่ของคณะที่จำนวนประชากรเยอะพอๆกับคณะของผม คณะวิศวกรรมศาสตร์..

              ผมค่อยๆ เดินเข้ามาถึง.. ‘ที่นั่น’ ของมัน
ก็ต้องที่นี่แหละนะ.. ไม่มีทางจะเป็นที่อื่นไปได้หรอก..
ผมคลายเนคไทม่วงออก ยืนพิงต้นซอมพอใหญ่ริมอ่างน้ำ  หันหน้ามองออกไปทางถนน
และ.. เมื่อร่างเล็กที่คุ้นเคยค่อยๆ ก้าวลงจากรถม่วง  เดินเข้ามาสู่บริเวณลานหญ้า
สายตากวาดไปรอบๆ อย่างคาดหวังระคนหวั่นใจ  เราทั้งสองก็ประสานสายตากัน..

          ไอดิลอยู่ในชุดที่ไม่คุ้นตา 
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว  กางเกงสแลคสีดำ  ผูกเนคไทสีม่วง แบบเดียวกันกับผม
น่ารัก.. บอกได้คำเดียวเท่านี้จริงๆ
ร่างเล็กยิ้มกว้างตอบรอยยิ้มของผมที่ส่งไป.. ก้าวช้าๆมาหยุดยืนเคียงข้าง
ความรู้สึกเต็มล้นในใจ จนแม้แต่ผมเอง.. ก็ยังไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเอื้อนเอ่ย

          ราวกับนานแสนนานที่ได้เพียงยืนนิ่งมองสายน้ำกันอยู่อย่างนั้น จนผมตัดสินใจเป็นคนทำลายความเงียบขึ้นเอง เพราะรอไอดิล ท่าจะได้ยืนถึงพรุ่งนี้..
“อยู่หอไหน?”
ไอ้ดิลอึกอักก่อนจะตอบช้าๆ อย่างที่ผมคาดได้.. “หอสามชาย”
ฮ่ะๆ.. “ห้อง 337 ใช่ไหม?”
ทว่า.. ไอดิลส่ายหน้า “มึงจองห้องนั้นใช่ไหม?”
ผมเลิกคิ้ว “เปล่า”
“กูคิดว่ามึงจะจองห้องนั้น” นั่นเป็นคำพูดไอดิล ซึ่งผมได้แต่อ้าปากค้าง
“กูก็นึกว่ามึงจะจองห้องนั้นเหมือนกัน”
ผมกับไอดิลมองหน้ากัน สรุปว่าเราไม่จองห้องนั้น เพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะจอง
เพราะเรา.. ไม่อยากอยู่ห้องเดียวกัน?
“ทำไมไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับกู”
เราแทบจะถามขึ้นมาพร้อมกัน แต่แล้วก็พร้อมใจกันเสมองไปทางอื่น
ทำไมน่ะหรือ.. ก็เพราะมันเสี่ยงโคตรๆเลยไง!
“ยังไม่ได้เข้าหอเลย ของอยู่ที่บ้าน คงย้ายเข้าวันนี้แหละ” ผมชวนคุย
“แล้ว.. ตกลงอยู่ห้องไหน”
ไอดิลกัดปากเบาๆ “มึงบอกก่อน”
แต่ผมส่ายหน้า ประนีประนอม “บอกพร้อมกัน”
และเมื่อไอดิลพยักหน้า อ้าปากบอก ผมก็ทำเช่นเดียวกัน
“สามสามแปด”
“สามสามหก”

ห๊ะ!?
เรามองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะออกมา
“เกือบอยู่ห้องเดียวกันแล้วไหม..” 
ไอดิลพูดกลั้วหัวเราะ  แต่แล้วก็เงียบไป ใบหน้าขึ้นสีนิดๆอย่างขวยเขิน 
ผมเองก็เขินๆเหมือนกัน เมื่อนึกถึงเหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมห้องกับอีกฝ่าย
จนในที่สุดก็เจอสิ่งที่จะมาดึงความสนใจของเราออกไปจากเรื่องตัวเอง

         “พ่อมึง..”
“ห๊ะ?” ไอ้ดิลขมวดคิ้วมองผม “มึงด่าพ่อกูเหรอ?”
“ฮ่ะๆ ไอ้บ้าเอ๊ย” ผมหัวเราะ กูจะด่าทำไม
“กูบอกว่า.. พ่อมึง” ผมพยักพเยิดไปทางสันเขื่อนที่ซึ่งมีคนสองคนเดินเคียงข้างกันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คนที่เราคุ้นตา..
“เฮ้ยมึง หลบเร็ว พ่อมาตรงนี้แหง!”
มือเล็กกว่าคว้าข้อมือผมไปหลบหลังต้นโพธิ์ใหญ่ จนกระทั่งสองร่างนั้นมาหยุดยืนตรงที่ที่เรายืนกันอยู่ก่อนหน้า

           “นึกถึงตอนนั้นจัง..”
พ่อหล่อประสานมือไว้ที่ท้ายทอย บิดขี้เกียจน้อยๆ  ตามองไปที่สะพาน
“คนที่มาอ่างแก้วตอนเช้ามีอยู่สองประเภท คนที่ออกกำลังกายกับคนอกหัก”
พ่อน่ารักทำหน้ากวนตีนใส่  “มึงเป็นประเภทไหน..”
“ฮ่ะๆ ไอ้เกรียนเอ๊ย!”
พ่อหล่อเราะร่า มือละจากท้ายทอยตัวเองมาโอบเอวบางเข้าหาตัว

          “อ๊ากกก ฮื่อๆๆ”
เป็นเสียงแผ่วเบาในลำคอที่เล็ดลอดออกมาจากคนข้างๆผมเองครับ
พ่อมึง.. พ่อมึงเองนะเนี่ย ยังจะตื่นเต้นอีกเหรอวะ?
ผมนึกขำในใจ ขณะไอดิลเอาหัวโขกต้นโพธิ์เบาๆ

            “ทัศน์ ปล่อยก่อน” 
พ่อน่ารักพยายามแกะมือพ่อหล่อออก พลางหันมองซ้ายขวา
ทว่า ยังไม่เปิดเทอม  จึงไม่ได้มีใครมากนัก  มีเพียงนักศึกษาปีหนึ่งที่มารายงานตัวผ่านไปมาอยู่ประปราย ซึ่งพ่อหล่อก็ท่าจะไม่สนใจ  โอบพ่อน่ารักจนแผ่นหลังแนบต้นไม้ แล้วตัวเองก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้..

           “อ่ะ..!”
ไอดิลกลั้นเสียงอุทาน ใบหน้าแดงซ่าน
คาดว่าเจ้าตัวคงชินกับการเห็นพ่อๆสวีทกันที่บ้าน แต่อาจไม่เคยเห็นแบบเอาท์ดอร์มาก่อนก็เป็นได้

            “อือ.. ทัศน์ พอ..”
พ่อน่ารักพยายามดันอกพ่อหล่อออก ร่างสูงกว่าขยับลำตัวออกมานิดหนึ่งอย่างยอมๆ
“ไหน.. พูดว่ารักพี่ทัศน์ซิ”
“ห๊ะ?” พ่อน่ารักส่ายหน้า ดวงตาที่หรี่ปรือเบิ่งขึ้น “ไม่เอา!”
“ไม่บอก กูไม่ปล่อยนะ..” เสียงเข้มกระซิบขู่
“จะบ้าเหรอ” พ่อน่ารักว้ากสั่นๆ
“ไม่บ้า พูดเร็ว อยากได้ยิน อยากได้ยินว่า.. น้องเกรย์รักพี่ทัศน์”
พ่อหล่อย้ำ ก่อนประทับริมฝีปากลงไปอีก แต่ก็เป็นเชิงหยอกเย้า  ไม่ได้จริงจังหรือกระตุ้นอารมณ์ให้เกิดความรู้สึกมากเกินไป
“อื้อ..” พ่อน่ารักเม้มปาก เมื่อหน้าเข้มละริมฝีปากออกมาเลิกคิ้วมองอย่างรอคอย
ที่สุด.. เสียงพ่อน่ารักจึงค่อยๆเอ่ย
“น้องเกรย์..รัก..พี่ทัศน์”
“หึหึ..” พ่อหล่อหัวเราะพอใจ ไม่จูบต่อ แต่โอบศีรษะอีกฝ่ายแนบแผ่นอกตัวเอง
“พี่ทัศน์ก็รัก..รักน้องเกรย์ครับ”

ไอหมอกขอตายอย่างสงบตรงนี้เลยก็แล้วกันครับ..
สายตาผมเสไปมองร่างข้างๆ ที่ตอนนี้พิงตัวกับต้นโพธิ์  ใบหน้าแดงจัด  ชวนให้ผมทำกับเจ้าตัวอย่างที่พ่อหล่อเพิ่งจะทำกับพ่อน่ารักไปเป็นอย่างมาก..

           “มึงว่าลูกรายงานตัวเสร็จหรือยัง ลองโทรเข้าไหม ไม่งั้น เดี๋ยวเราจะออกเลทมากไป”
เสียงพ่อน่ารักดังมา
หลังจากพ่อหล่อพยักหน้ารับและกดโทรศัพท์ เสียงเพลงจึงดังมาอย่างปิดไม่ทัน

,,So, I’m going home, back to the place where I belong
Where you love has always been enough for me..

       “เย้ย!”
พ่อน่ารักอุทานหลังจากเดินตามเสียงเพลงมา คงคุ้นว่าเป็นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ลูกชาย 
เพลง  ‘Home’  ของ  Daughtry  ไม่ใช่เพลงวัยรุ่นฮิตติดชาร์จขนาดจะเอามาตั้งซ้ำกันอย่างบังเอิญขนาดนี้ 
ถ้าเป็นผม ผมก็เดินมาแหละครับ..
“หมอก ไอดิล ไปทำอะไรตรงนั้น!” พ่อหล่ออุทานอีกคน
“แหะๆ..” ผมกับไอดิลไม่มีคำอธิบาย ได้แต่หัวเราะเหยๆ

“ผะ..ผม โทร.. โทรถามไอ้ฝันก่อนนะครับว่ามันอยู่ไหน”
ไอดิลเอ่ยตะกุกตะกัก  “บอกมันว่า.. ว่าพ่อจะกลับแล้ว”
เฮ้ย มึงชวนกูมาแอบฟัง แล้วทิ้งกูแบบเนียนๆอย่างนี้น่ะนะ!?
ผมมองตามร่างเล็กที่ฉุดให้ลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง แล้วตอนนี้ก็กำลังกดโทรศัพท์เดินหนีไปด้วยเขินอายฉากรักของพ่อตัวเองเมื่อครู่
เดี๋ยวกูจัดให้บ้างสักฉากเลยดีไหม? เอาให้ลึกซึ้งกว่าที่มึงเห็นอีก ฮึ่ย!

           “หมอก..” เสียงพ่อน่ารักดังมาขัดจังหวะ “อย่าทำในสิ่งที่น่าจะกำลังคิด”
เฮ้ย! 
“เอ่อ.. ผม..”
“เรียนจบก่อนค่อยทำ”
ห๊ะ? ผมตาลีตาเหลือก “พ..พ่อครับ”
ผมมองอย่างวอนขอ เรียนจบเชียวหรือ!
แต่พ่อน่ารักย้ำคำอย่างดื้อดึง “เรียนจบก่อน!”
“พ่อหล่อครับ..” ผมเบนเป้าหมายไปส่งสายตาละห้อยให้พ่อหล่อแทนด้วยหวังว่าคนตรงหน้าน่าจะเข้าใจได้มากกว่า
“อ่าม.. เอาน่ะๆ ปีสี่ก็ได้” พ่อหล่อยอมประนีประนอม “นะเกรย์นะ..”
“ปีสี่ก็เถอะ พ..พ่อหล่อกับพ่อน่ารัก ตั้งแต่พ่อน่ารักยังไม่เรียนปีหนึ่งวันแรกเลยนะครับ..”
“ไอ้หมอก!” พ่อน่ารักว้าก กระนั้นผมก็ทำใจกล้าต่อรอง “ปีสองได้ไหมครับ..”
“ปีสามแล้วกัน” พ่อหล่อขอพบกันครึ่งทาง “เท่านี้แล้วนะ ไม่มีการต่อรองแล้ว”
“ก..ก็ได้ครับ ปีสามก็ปีสาม” ผมคอตก เอาน่ะ ก็ยังดีกว่าปีสี่วะ!
“แล้ว.. ตอนนี้ ผมทำอะไรได้บ้างครับ” ผมตัดสินใจถามออกไป
“ได้แค่ข้างนอก ห้ามเข้าไปในร่มผ้า” พ่อน่ารักประกาศ
“หมายความว่า.. ให้กอดได้ จูบได้ แต่..ห้ามถอดเสื้อ ห้ามถอดกางเกง รวมถึงห้ามลูบไล้เข้าไปในเสื้อผ้า เข้าใจใช่ไหม?”
พ่อหล่อกระซิบอธิบาย
“เข้าใจครับ” ผมพยักหน้ารับ
“แล้วเข้าไปในเสื้อผ้าได้ตอน..ปีสองใช่ไหมครับ  ส่วนปีสามให้เข้าไปในตัวได้.. ถูกใช่ไหมครับ”
ผมรีบสรุปเองเสร็จสรรพ ไม่หื่นครับ ไอ้หมอกไม่หื่นเลย!
“ก็..ก็ตราบเท่าที่ไอดิลยอม” เสียงเข้มตอบกระอักกระอ่วน
แต่ผมยิ้มอย่างมีความหมายให้พ่อหล่อเรียบร้อยแล้ว
พ่อน่ารักยอมพ่อหล่อยังไง ไอดิลก็ยอมผมอย่างนั้นแหละครับ หึหึ..

           “พ่อ บอกไอ้ฝันแล้วว่าอยู่อ่างแก้ว เดี๋ยวมันมา”
ไอดิลเดินกลับมาสู่วงสนทนาในที่สุด
“เอาล่ะ..” พ่อหล่อยืดตัวเต็มความสูง พูดแบบเป็นการเป็นงานอีกครั้ง
“หมอก ไอดิล ตั้งใจเรียนกันให้ดีล่ะ  ส่วนเรื่องหัวใจ อะไรๆก็ไม่แน่นอน  อย่าให้มันไปไกลเกิน จนกว่าจะแน่ใจตัวเองกันนะ”
ผมกับไอดิลลอบมองกันยิ้มๆ  แล้วเสไปทางอื่นทันที   กลัวพ่อทั้งสองจะรู้ทันว่าเราคิดอะไร  ก็พ่อๆน่ะ.. จัดกันตั้งแต่ยังไม่รู้จักชื่อเลยนะครับ ฮ่ะๆ
แต่ก็นั่นแหละ..  เรื่องของท่านมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนี้ก็ได้    ผมจึงเข้าใจความห่วงใยของพ่อทั้งสองที่มีต่อลูกชาย

           “หมอก ถ้าหากใจเราเปลี่ยนไป..”
พ่อน่ารักกลืนน้ำลาย  มองผมอย่างจริงจัง  ไม่ได้ดุ  ไม่ได้ขู่ฟ่ออย่างที่ผ่านมา  ทว่ามองอย่างผู้ใหญ่มองเด็กจริงๆ
“ถ้า.. เจอใครที่ชอบ ที่ถูกใจมากกว่าไอดิล ขอให้บอกไอดิลตรงๆ จบความสัมพันธ์กันดีๆ อย่าหลอก.. อย่าทำร้ายจิตใจไอดิลนะ..”
ผมมองตาพ่อน่ารักให้รู้ว่าหมายความตามนั้น “ผมรับรองด้วยเกียรติครับ”
“ไอดิลก็เหมือนกันนะ” พ่อหล่อเสริม
“ครับพ่อ” ไอดิลพยักหน้า

เราสองคนรับคำ.. 
ไม่อยากจะคัดค้าน ไม่อยากยืนยันว่าเราจะไม่เปลี่ยนใจ  เพราะท่านทั้งสองเป็นผู้ใหญ่  อยู่มานานกว่า  เห็นอะไรมามากกว่า
เราอายุยังน้อยนัก  ความสัมพันธ์อาจจะเปลี่ยนไปวันใดวันหนึ่งก็ได้  พ่อหล่อกับพ่อน่ารักทำถูกแล้วที่ย้ำเตือนในเรื่องนี้   
แต่ก็นั่นแหละ.. หากว่าความสัมพันธ์ของผมกับไอดิลจะยั่งยืนก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไร  เพราะบุคคลสองคนเบื้องหน้าที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่ายี่สิบปี  ก็พบรักกันในวัยที่ไล่เลี่ยกันนี่เอง   
ดังนั้น..  ที่เราควรทำในตอนนี้ก็เพียงรับปากว่าจะซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาต่อกันและกัน

           ในฝันตามมาสมทบในเวลาไม่นานนัก..
และก่อนสองบุคคลอันเป็นที่รักจะออกรถเดินทางกลับบ้านก็ฝากถ้อยคำย้ำเตือนเราทั้งสามคนเอาไว้
“ไม่มีที่ไหนเป็นสถาบันที่ดีที่สุดสำหรับลูกหรอก  มีแต่ลูกที่ต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่สถาบัน แล้ว..ไอดิล ในฐานะที่เรียนวิศวฯ สิ่งแวดล้อม”
พ่อน่ารักกวาดสายตามองรอบๆอ่างแก้ว “พ่อฝากด้วยได้ไหม..”
คนข้างตัวผมพยักหน้ารับหนักแน่น “ผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง”
“ถ้าพอเรียนไปแล้ว มันยาก มันลำบากกว่าที่เราคิด ก็พยายามเข้านะลูก ทั้งสามคนเลย..  กอดปณิธานแรกที่เราตั้งใจเอาไว้ให้มั่น จำไว้เสมอว่าทำไมเราถึงเลือกเรียน.. จงภูมิใจในการตัดสินใจของตัวเอง  ภูมิใจในตัวครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอน  ภูมิใจในตัวเพื่อนร่วมสาขาและภูมิใจในศาสตร์วิชาของเรา..”



.. End of the Beginning ..

TBC

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ มีตอนพิเศษเพิ่มให้เล็กน้อย รอสักกำเน้อ

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
เย้ๆๆๆๆ ในที่สุดก็เรียนที่เดียวกันนนนนนนน
หอเดียวกันอีก  กรีดร้องงงงงงงงง

ออฟไลน์ happybird

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ my_love_yyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
คิดถึงโจ-หนุ่ม :mew1: ชอบคู่นี้มาก ในที่สุดก็เริ่มกลับมามีบทสักที :mew4:

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
คิดถึงทั้งบ้านนนนนน  :m15
รอตอนต่อไปเน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รอค่าาาาาาา........ :o8: #ว่าแต่ไม่สนใจไอดิลภาคมหาลัยบ้างเหรอคะ??? :impress2:

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่สวยงามมมมมมไอดิลหมอก รอยลโฉมหน้าปกเลยค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ขอบคุณนะคะ รักเกรียนมากๆ สนุกทุกตอนเลย  รักตอนหมอกกับไอดิล รัก โจหนุ่ม รอติดตามตอนพิเศษและเรื่องอื่นๆนะคะ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ในที่สุดก็เรียนที่เดียวกัน ได้เรียนสถานที่ในตำนานซะด้วย  :mew1:

จะรอตอนพิเศษนะคะ  :L2: :L1: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Loogling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอค่าาาาาาาาาา :impress2:

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รอค่าาาาาา
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณมากๆๆๆๆค่ะ
#เราจะรอเวลาที่หนังสือรวมเล่มต่อไป รออยู่นะค่ะ (เช็คเมล์ประจำเลยค่าาาา กลัวพลาด คึคึ) :กอด1:

 :pig4:

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ชอบอ่าาาาาา,, อ่านกี่ครั้งๆ ก็อบอุ่นในอกยังไงไม่รู้
เป็นครอบครัวตัวอย่างได้เลยอ่ะ

ขอบคุณนะค่ะ

ออฟไลน์ AlexMP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย อ่านกี่รอบๆก็ยังชอบ ไม่มีเบื่อ
อ่านตั้งแต่ตอนยังอยู่มัธยมยังไม่เคยเห็นมช. ต้องมโนถึงมช.ไปเรื่อย จนมาอ่านอีกรอบตอนได้เข้ามาเรียนมช.แล้วอินมากๆเลย ทุกเหตุการณ์
ขอบคุณนะครับ ที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน

ออฟไลน์ arnis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ จะรอ่านหนังสือเป็นเล่มนะคะ อ่านทีไรก็นึกถึงอ่างแก้ว

ออฟไลน์ ป๋า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบครับ สนุกดี เกรียนๆ ฮาๆ มีสีสันดีครับ  :laugh:

ส่วนตัวชอบคู่โจหนุ่มที่สุด คือ งานดราม่ามาเต็ม อารมณ์ได้ ฟีลถึง อ่านแล้วอินเนอร์พุ่ง  :katai4:

อยากมีใครมาฟังเสียงหัวใจเราบ้าง ใส่เสื้อผ้าเราบ้าง คิดแล้วเพ้อ  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด