ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn หรือคบหาพูดคุยกันในเล้า
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0แต่งด้วยอารมณ์ชั่ววูบอีกแล้ว คราวนี้แอบเอาตัวละครจากฟิคหลักมาดัดแปลง แต่เนื้อหานั้นเป็นคนละเรื่องซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน
เป็นแนวพี่น้องนะคะ ใครไม่ชอบปิดค่ะ------ใครใคร่เม้นท์ เม้นท์เล้ยยยยยย 5555+
มีทั้งเอ็นซีร้อน ๆ :oo1:ผสมกับอะไรคล้าย ๆ กับก๊อปมาจากหนังเขย่าขวัญทริลเลอร์ บ่าย ๆ แบบนี้ชวนหลับดีชะมัด ไปอ่านกันเล้ย.....
เรื่องสั้นแนวจับฉ่าย : ผมกับพี่…...และความทรงจำในช่วงฤดูร้อนมันเป็นฤดูร้อนที่แดดแรงที่สุดในช่วงปี.......
มีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งทำให้ผมต้องกลับไปที่บ้านหลังเก่า บ้านหลังที่เคยมีเรา พ่อ-แม่-พี่ชาย แล้วก็ผม เคยอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
“บิ๊กลูก มาช่วยพ่อดันประตูรั้วหน่อยสิ มันฝืดมากเลย ฮึ่บ!!!!” คุณพ่อผู้ซึ่งยังคงหล่อเหลาเหมือนเมื่อครั้งยังหนุ่ม ๆ เรียกผมไปช่วยกันเปิดประตูรั้ว ขณะที่เจ้าเด็กขี้เกียจสองคนนั่งหลบร้อนอยู่ในรถซึ่งเปิดแอร์เย็นฉ่ำ คนหนึ่งไม่ยอมละสายตาไปจากเครื่องเล่นเกมส์แบบพกพา ขณะที่อีกคนกำลังนั่งอ่านการ์ตูนเขย่าขวัญ
บ้านหลังเก่าของพวกเราดูโทรมลงกว่าที่ผมนึกภาพเอาไว้นิดหน่อย ด้วยความที่ตั้งแต่แม่จากพวกเราไปซึ่งนานหลายปีแล้ว ผมกับพ่อแล้วก็ไอ้บู้พี่ชายฝาแฝดของผม เราสามคนก็ไม่เคยย่างกรายเข้ามาเหยียบที่นี่อีก
ถ้าไม่ใช่เพราะบ้านหลังนี้กำลังจะถูกขายทิ้ง เราก็คงไม่มีเหตุผลที่จะกลับมาเยือนที่นี่อีก
ผมเหลือบตามองดูบ้านร้างหลังที่อยู่ติดกับบ้านของเรา มองไม่เห็นหรอก เพราะมันเป็นบ้านสวน ซึ่งแต่ละหลังอยู่ห่างกันและรกครึ้มไปด้วยต้นไม้
บางอย่างสะกิดเตือนให้ผมนึกถึงเหตุการณ์อันคลุมเคลือในอดีต
.
...
.....
...............
“โอ้โห มีแต่ฝุ่น ดีนะที่แม่ไม่ได้มาด้วย ไม่งั้นคงได้ภูมิแพ้กำเริบ” ไอ้เด็กเบียร์ ลูกชายคนเล็กของพ่อกับผู้หญิงคนนั้น กวาดตามองไปรอบบ้านอย่างแหยง ๆ มือข้างหนึ่งเกาะแขนไอ้บู้เสียแน่น เหมือนกลัวจะหลง
“จะเก็บอะไรไว้ก็ไปเลือกเอานะ บิ๊ก – บู้” คุณพ่อพูดยิ้ม ๆ ผมรีบดึงพี่ชายของตัวเองออกมาจากไอ้เด็กนรกนั่น ก่อนจะพากันวิ่งขึ้นไปชั้นบนราวกับเด็ก ๆ
หวนนึกถึงเมื่อครั้งที่เรายังเด็กและเป็นครอบครัวเล็ก ๆ (พ่อ-แม่-ลูก-ลูก)ที่แสนจะอบอุ่น
“ตุ๊กตาตัวนี้ของบุ๊กบิ๊ก จำได้มั้ย ว่าบิ๊กโมโหแล้วก็พาลกับทุกคนเพราะว่าลืมเจ้านี่เอาไว้” พี่ชายของผมยิ้มกว้าง มือชูหุ่นโรโบคอป ตำรวจเหล็ก ของขวัญวันเกิดของผมตอนห้าขวบ
“เค้าเรียกหุ่นยนต์จำลองตังหากล่ะพี่”
ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนหนานุ่ม(แต่ว่าเหม็นอับ) พี่ชายทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ บ้าง
ไอ้บู้ทำหน้าตาทำตาเยิ้ม ๆ แปลก ๆ อย่างมีเลศนัย
“ล๊อคประตูแล้วเหรอ” ผมถามพี่ มันก็พยักหน้าช้า ๆ
“รีบทำให้เสร็จ ๆ นะ เวลาเรามีน้อย พี่เอาถุงยางมาด้วยใช่มั้ย”
“ไม่มีปัญหา”
ผมถามไปยังงั้นแหละ เพราะคงไม่ได้ใช้อยู่แล้ว เซ็กซ์แบบเร่งด่วนคงทำอะไรไม่ได้เยอะ ผมเลิกเสื้อของมันขึ้นมาพันเอาไว้ ส่วนกางเกงขายาวนั้นรูดลงไปกองที่ข้อเท้า เราสองคนเริ่มจูบแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน เสียงบดคว้านขยี้ดังขึ้นจ๊วบจ๊าบ ความตื่นเต้นเนื่องจากกลัวว่าพ่อกับไอ้เบียร์จะมาเห็นทำให้เครื่องติดอย่างรวดเร็ว ไอ้หนูของเราแข็งขึงบดเบียดกันผ่านกางเกงชั้นในตัวบาง
ผมถอดเสื้อออกบ้าง อากาศที่ร้อนทำให้เหงื่อแตกซิก สุดท้ายแล้วเราสองคนก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนกันทั้งคู่
“เสียวไอ้จู๋ว่ะบุ๊กบิ๊ก”
“เลียหัวนมเค้าหน่อยสิ ดูดแรง ๆ เลยก็ดี เค้าชอบ......ซี๊ดดดด นั่นแหละ” หัวนมของผมใหญ่และค่อนข้างจะไวต่อสัมผัสมาก ๆ ไอ้คุณพี่ทั้งดูด ทั้งเลีย และขบเม้มจนแข็งชูชัน ผมสยิวจนขนลุกซู่ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเอาเจ้าหนอนยักษ์ที่กำลังร้อนถูกับไอ้จ้อนขนาดมินิของพี่บ้าง ผมชอบการเล้าโลมแบบนี้มากกว่าตอนปฏิบัติภารกิจหลักซะอีก
มือของผมกำรวบท่อนเอ็นร้อน ๆ สองท่อนเข้าไว้ด้วยกัน จับมันรูดขึ้นลงแรง ๆ จนพี่ชายกัดริมฝีปากด้วยความเสียว ทำอยู่อย่างนั้นซักพักจึงเปลี่ยนท่าจับมันพลิกคว่ำโดยที่ผมเอาของผมถูไถกับร่องก้นของมัน ส่วนมันก็เอาของมันถูเสียดสีกับผ้าปูที่นอน
พวกเรากอดก่ายถูไถกันชั่วครู่เดียวต่างคนก็ต่างเสร็จไล่เลี่ยกันโดยไม่ได้สอดใส่ ผมพลิกตัวลงไปนอนหงายอยู่ด้านล่าง แล้วให้มันขึ้นมานอนทับตัวผม นอนกอดกันแบบนั้นซักพัก ซึมซาบความเสียวกระสันจากจุดสุดยอดที่ค่อย ๆสงบลง มันหอมแก้มผมสองฟอดใหญ่ ๆ
“ตื่นเต้นเนอะ”
“เร็วเกิ๊น ยังไม่ทันได้เล่นท่าหกเก้าเลย ท่าโปรดของพวกเราซะด้วยสิ”
“แต่งตัวเหอะบุ๊กบิ๊ก เดี๋ยวเบียร์กับพ่อจะสงสัย”
เอาไว้กลับไปเดี๋ยวค่อยหาเวลาเล่นอะไรตื่นเต้น ๆ แบบนี้อีก........ทำกันในห้องชมรมที่มหาลัยดีมั้ยนะ.....หรือจะเอากันตรงระเบียงตอนกลางคืนดี หึหึหึ
“ไปห้องใต้หลังคากัน” พี่ชายชวนผม เมื่อเราเปิดประตูออกจากห้องนอน เสียงพ่อกับไอ้เบียร์ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง มันคงจะถามนู่นถามนี่ไปเรื่อย ตามประสาเด็กขี้สงสัยนั่นแหละ
ห้องใต้หลังคานั้นเดิมทีเป็นห้องนอนของคุณยาย ท่านป่วยเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ ไม่พ่อก็แม่นี่ล่ะที่เป็นคนบอก พวกผมสองคนเกิดไม่ทันได้เห็นท่านหรอก แล้วหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นที่สำหรับเก็บของจิปาถะ ผมกับพี่ลื้อค้นแบบลวก ๆ อย่างไม่ค่อยสนใจมันซักเท่าไหร่นัก
“กลับเหอะ ไม่เห็นมีไรเลย พี่ร้อน เหนียวตัว”
“เออ ก็ดี แต่เอ๊ะ นั่นกล่องอะไรน่ะ”
“บิ๊กบู้ลงมาดูอะไรนี่เร็ว” เสียงพ่อเรียก ทำให้ไอ้คุณพี่ชายวิ่งปรู๊ดลงไปทันทีโดยที่ไม่รอผม แต่ว่าผมกลับรู้สึกสะดุดตาและค้างคาใจกับเจ้ากล่องไม้ใบหนึ่งที่วางอย่างผิดที่ผิดทางอย่างบอกไม่ถูกจึงชะงักขาเอาไว้ก่อน
ผมค่อย ๆ เปิดฝากล่องที่ฝุ่นจับเสียหนาเตอะ ของในกล่องทำให้ภาพเหตุการณ์อันรางเลือนในอดีตฉายขึ้นมาอย่างแจ่มชัด
แล้วมันก็เกี่ยวกับบ้านร้างหลังข้าง ๆพวกเรานี่ด้วย
เจ้าของบ้านนั้นผมจำชื่อและหน้าตาของแกไม่ได้เสียแล้ว รู้แต่ว่าเป็นคนแก่ร่างใหญ่และดูแข็งแรงแบบชาวสวน แกใจดีแล้วก็ชอบมาคุยที่บ้านของพวกเรา พร้อมกับนำขนมนมเนยมาฝากผมกับพี่ชายเสมอ และบางครั้งผมก็ชอบที่จะไปหาแกที่บ้าน ไปนั่งเล่น ฟังแกเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อครั้งสมัยที่แกยังเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์และเข้าร่วมรบกับกองกำลังของทหารญี่ปุ่น
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
แกเรียกผมเข้าไปในห้องนอนของแก และแกพยายามที่จะทำบางอย่างซึ่งผมไม่ชอบ และผมในตอนนั้นไม่รู้เลยว่าสิ่งที่แกพยายามจะทำนั่นมันคืออะไร.....รู้แต่ว่ามันลามกและน่าขยะแขยง
ลิ้นสากของแกเลียไปทั่วใบหน้าของผม และพยายามที่จะบังคับให้ผมถอดเสื้อผ้าออก น้ำเสียงแกฟังดูอ่อนโยน นุ่มหู แต่ทว่าถ้อยคำฟังดูสกปรกโสโครก ผมดิ้นรนจนหลุดออกจากวงแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของแก แล้ววิ่งออกมาจากทางด้านหลังของบ้าน
ผมในตอนนั้นวิ่งหูตาตั้งอย่างไม่รู้ทิศรู้จาก และหลงวนอยู่ในสวนซึ่งครึ้มไปด้วยต้นไม้ ยิ่งวิ่งก็ยิ่งรู้สึกว่าหาทางออกไม่เจอ
แล้วแกก็จับผมได้อีกครั้ง
ท่อนไม้ขนาดเหมาะมือของแกฝาดเข้ามาที่ท้องจนผมรู้สึกจุก
ผมล้มลง แขนขาอ่อนหมดสิ้นเรี่ยวแรง พยายามเรียกให้คนช่วย แต่กลับไม่มีเสียงร้องออกมาจากปาก
น้ำตาผมเริ่มไหลด้วยความกลัวสุดชีวิต
กางเกงขาสั้นของผมถูกรูดลงออกไปอย่างง่ายดาย สองขาเล็ก ๆ ถูกจับให้แยกออก
แล้วผมก็หมดสติ
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว กางเกงถูกสวมกลับเข้าที่อย่างเรียบร้อย นอกจากความรู้สึกเจ็บแบบจุกๆตรงที่ถูกตีแล้ว ผมก็ไม่ได้เจ็บที่ตรงไหนอีก ผมพาร่างกายอันบอบช้ำค่อย ๆ พยุงตัวเองออกมาจากตรงนั้น เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ผมก็มาโผล่ที่ถนนซึ่งตัดผ่านหน้าบ้านของแก และของผม
พ่อกับแม่ทำท่าจะดุ แต่พอเห็นท่าทางอิดโรยของผม ก็ช่วยกันพยุงขึ้นไปนอนบนห้อง ผมทิ้งตัวนอนลงข้าง ๆ พี่ชายฝาแฝดของผมที่หลับเป็นตายไม่รู้เรื่อง ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เที่ยงของอีกวัน
วันรุ่งขึ้นพ่อกับแม่ก็ซักถามผมถึงเรื่องรอยฟกช้ำบริเวณหน้าท้องของผมที่พวกท่านเจอเมื่อคืนนี้ ผมปิดปากเงียบ จนกระทั่งถูกขู่ว่าจะทำโทษ ผมเลยโกหกไปว่าสะดุดล้มกระแทกกับอะไรไม่รู้แล้วก็สลบไป......
ที่โกหกใช่เพราะกลัวผู้ชายคนนั้น แต่เพราะมีอะไรบางอย่างสะกิดให้ผมเลี่ยงที่จะพูดความจริง
พ่อกับแม่เปลี่ยนไปบ่นเรื่องพี่ชายของผมที่ไปมีเรื่องกับเด็กแถวนั้นจนรองเท้าคู่เก่งกระเด็นหายไปข้างหนึ่ง เป็นรองเท้าแตะแบบหุ้มส้นที่มีแถบตีนตุ๊กแกสองแถบ แบบที่เด็ก ๆ เค้าฮิตใส่กัน
รองเท้าคู่นั้นมันอยู่ในกล่องนี้ยังไงล่ะ!!!!!
ก่อนที่ผมจะสลบไปนั้น สายตาอันพร่าเลือนเหลือบไปเห็นขาเล็ก ๆ กับรองเท้าคู่โปรดที่เจ้าตัวแสบชอบสวม
รองเท้าในกล่องนั้นมีอยู่เพียงข้างเดียว นอกจากรองเท้าแล้วก็ยังมีก้อนอิฐบล็อคสีส้ม.....
มันเปื้อนเลือดทั้งคู่ พร้อม ๆ กับความทรงจำลาง ๆ เกี่ยวกับชายชราซึ่งถูกทำร้ายที่ศีรษะจนตายคาที่!!!END เหอะ มั่วแนวเกิ๊นนนน!!!!