ตอนที่ 41 เริ่มต้น....
“แน่ใจนะคะว่าทำได้?” พี่โต้งถามย้ำอย่างไม่เชื่อใจเมื่อเราสองคนกลับมาถึงห้องเรียบร้อยแล้วและหนูอาสาจะทำ “อาหารเย็น” ให้รับประทาน
“แน่ใจสิคะ” หนูยืนยันมั่นเหมาะ ไม่รู้ซะแล้วว่าน้องฐาอ่ะทำอาหารเก่งนะคะ คริคริ ก็โดนสอนมาแต่อ้อนแต่ออกนี่นาว่าเสน่ห์ปลายจวักผัวรักคนวันตาย อ๊า... แต่ทำไมแม่ทำอาหารอร่อยแทบตายดันโดนพ่อทิ้งก็ไม่รู้นะคะ สงสัยพ่อจะลิ้นจระเข้หรือไม่ก็เห็นกรงจักรเป็นดอกหน้าวัวแน่ๆ เลย
“งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อน แล้วจะออกมาดูผลว่ากินได้จริงหรือเปล่า” พี่แกยิ้มให้ขำๆ ก่อนจะเดินออกไป
ชิ ดูถูก!! คำพูดคำจาทำร้ายจิตใจเหลือเกิน...
คอยดูนะจะทำออกมาให้อร่อยจนต้องตาโต แอคติ้งโอเวอร์ยังกะดูการ์ตูนยอดกุ๊กอะไรอย่างงั้นเลย.... ฮุฮุ
และแล้ว น้องฐาก็ลงมือหั่น ไก่ ผัก เตรียมเครื่องปรุง วันนี้จะทำ มักกะโรนีไก่อบนะคะ
ก่อนอื่นก็ต้องนำไก่ไปล้างให้สะอาด นำมาหมักกับซอสปรุงรสแล้วทำไปทอดพอสุก แล้วค่อยใส่เครื่องปรุงรสแล้วก็เอาไปอบค่ะ
ระหว่างที่กำลังทอดไก่อยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังลั่นขึ้น หนูวิ่งไปรับโทรศัพท์ที่หมกอยู่ก้นกระเป๋าถือกว่าจะหยิบออกมาได้มันก็ผ่านไปเกือบจบท่อนฮุก
MinK เอิ่ม... จำไม่ได้ว่ามีเพื่อนชื่อนี้ด้วยแฮะ
ว่าแต่จะจำได้ยังไงล่ะก็มันโทรศัพท์พี่โต้งนี่นา คงจะเป็นเพื่อนหรือไม่ก็ญาติ
“สวัสดีค่ะ” หนูกรอกเสียงเล็กๆ ลงไปอย่างประหม่า
“.......” ปลายสายเงียบไปแป๊บนึง คงงงเหมือนกันว่าโทรมาเจอใคร
“เอ่อ... ขอสายพี่โต้งใช่ไหมคะ พอดีพี่เขาอาบน้ำอยู่ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะบอกให้โทรกลับนะคะ” หนูบอกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ โดยลืมไปด้วยซ้ำว่าการที่ตอบออกไปอย่างนั้นมันสามารถทำให้อีกฝ่ายจินตนาการออกมาในรูปใดได้บ้าง
“เอ่อ...แล้วเธอน่ะใคร แฟนใหม่เหรอ?” ปลายสายถามกลับมาด้วยน้ำเสียงแสดงความแปลกใจ พลอยทำให้หนูคิดหนักตามไปด้วย
“แล้ว...คุณล่ะคะเป็นใคร?” หนูถามกลับอย่างสุภาพ เพราะใครโทรมาก็ยังไม่รู้ แล้วจะให้ตอบว่าใช่ทันทีได้ยังไง เกิดเป็นญาติขึ้นมาล่ะอาจจะงานเข้าไม่รู้ตัวก็ได้
“อยากรู้? เอาไว้รอถามโต้งเอาเองสิว่ามิ้งค์น่ะใคร... อย่าลืมบอกให้เขาโทรหาฉันแล้วกันนะ แค่นี้ล่ะ” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจอะไรนักก่อนจะวางสายไป
เสียงสัญญาณที่ขาดหายดัง ตู๊ด ตู๊ด จากสายโทรศัพท์ทำร้ายความรู้สึกเหลือเกิน
ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรรุนแรงหรือแสดงอาการหึงหวงอะไรออกมาสักนิดเดียวแต่กลับให้ความรู้สึกเหนือกว่าอย่างบอกไม่ถูก และที่สำคัญสร้างความสงสัยให้เหลือเกิน.... หนูลดมือถือลงกำแน่น
บ้าจริง... คิดมากทำไมล่ะ ก็คงเพื่อนธรรมดานั่นแหละ พี่เขาก็ย้ำมาตั้งหลายรอบแล้วนี่นาว่าไม่ชอบผู้หญิง
ไม่ชอบผู้หญิง......
และไม่ชอบกะเทย......
“น้องฐาคะ” หนูสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ค่อนข้างดัง เงยหน้าขึ้นมองพี่โต้งในลักษณะเปลือยท่อนบนกับผ้าขนหนูหนึ่งตัวเดินมาแตะแขน
“คะพี่...”
“มัวทำอะไรอยู่ ดูสิควันคลุ้งแล้ว” พี่แกว่าพลางเดินผ่านไปปิดกระทะไฟฟ้า ซึ่งกำลังทอดไก่ค้างไว้ แต่ตอนนี้ไก่ไหม้ไปเรียบร้อย.....
น้องฐาทำหน้าสลดเสียดายไก่ แล้วยังเสียหน้าอีกต่างหาก พี่แกคงคิดว่าหนูโม้แน่เลยเรื่องทำอาหารเก่ง
“พิซซ่าแล้วกันเนอะ เดี๋ยวพี่โทรสั่ง” พี่โต้งหันมาถามขณะเลื่อนกระจกด้านหลังห้องเพื่อระบายอากาศ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ทำใหม่ก็ได้ ยังเหลือไก่ในตู้เย็นอีกหน่อย”
“เอาไว้วันหยุดค่อยทำใหม่แล้วกัน ตอนนี้พี่หิวแล้ว..”
โฮ....ทำไมเป็นเงี้ย? ก็เพราะเพื่อนพี่โต้งนั่นแหละดันโทรมาขัดจังหวะพอดี เลยไหม้เลย.... ไม่ใช่ความผิดของหนูสักหน่อยจริงๆ นะ
“หนึ่งแถมหนึ่งเหรอครับงั้นถาดกลางหน้าซีฟูด กับ..... น้องฐาเอาไก่ด้วยไหม” พี่แกหันมาถาม หนูก็พยักหน้าเออออไป แล้วแกก็สั่งนั่นนี่ต่อไปอีก
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมงได้กินแน่ ขืนรอน้องฐามีหวังคืนนี้หิวตาย” พี่โต้งหันมาแซว เลยโดนหนูย่นจมูกใส่ “ฮ่าๆ เอาน่า ไว้วันหลังค่อยแก้ตัว วันนี้แก้ผ้าไปก่อนแล้วกัน”
“บ้า...” หนูคลายหน้ามุ่ยเป็นหน้าเขินแล้วซัดตุ้บไปที่ไหล่อีกฝ่ายที่อุตส่าห์เล่นมุกทะลึ่งได้อีก
“พี่ไปใส่เสื้อก่อนนะ น้องฐาไปอาบน้ำก่อนก็ได้ กว่าของจะมา” พี่โต้งบอกก่อนจะพลิกกายเดินออกไป
“เอ่อ...พี่คะ”
“หือ.....” พี่โต้งชะงักเท้าแล้วหันมาเลิกคิ้วให้
“เมื่อกี้คนชื่อมิ้งค์โทรมา บอกให้โทรกลับด้วย” หนูบอกออกไปด้วยหน้าเรียบๆ พยายามจะไม่แสดงออกว่าคิดมากหรือระแวงสงสัยอะไรให้อีกฝ่ายรำคาญ
พยายามจะยิ้มแม้มันจะลำบากเหลือเกินเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักไป ใบหน้าที่มีรอยยิ้มอยู่แต่แรกเลือนหายจนกลายเป็นตกใจ หน้าซีดเผือด...
“เหรอ?” รับคำสั้นๆ ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ เดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองเดินหนีเข้าห้องไป....
ปฏิกิริยาตอบรับรุนแรงซะจน..... สมองคิดอะไรไม่ออก
ไม่รู้จะตอบหัวใจยังไงดี.....
……………….
ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา...พี่โต้งก็เปิดประตูออกมาเจอหนูยืนอยู่หน้าห้อง หนูคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นบ้างสักคำแต่พี่โต้งกลับถามว่า
“อ้าว... ยังไม่ไปอาบน้ำอีกเหรอคะ”
“กำลังจะไปค่ะ” หนูตอบอย่างเซ็งๆ แล้วขยับตัวเดินไปห้องน้ำ
หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหนูเดินไปนั่งข้างๆ พี่โต้งที่กำลังดูทีวีอยู่
“เอ่อ... น้องฐาคะ พี่ว่าเราเลิกแลกโทรศัพท์กันใช้ดีกว่า เวลาคนอื่นติดต่อมาจะได้ไม่ลำบาก” หนูชะงัก หัวใจมันวูบไหวอย่างประหลาด แต่ก็ฝืนหันไปส่ายหน้าอ้อนๆ
“ไม่เอาอ่ะหนูชอบโทรศัพท์พี่ แอพเยอะดี”
“งั้นแลกซิมคืนก็ได้ โอเคนะคะ” พี่โต้งพูดเองเออเองเสร็จสรรพแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปลี่ยนซิมโดยไม่ฟังคำคัดค้านของหนู
อึดอัดจนทนไม่ไหวถึงได้เอ่ยคำถามนั้นออกไป....
“พี่คะ... มิงค์เนี่ย? ใครเหรอคะ?”
พี่โต้งหยุดมือที่แกะโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเครียดแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบกลับมา
“แฟนเก่าพี่เองค่ะ”
เกิดความเงียบขึ้นทันใด....พร้อมๆ กับเสียงโทรศัพท์ในห้องดังลั่นขึ้นขัดจังหวะทำให้ไม่มีบทสนทนาใดเพิ่มเติมจากนั้น แม้ว่าหนูจะมีคำถามมากมายที่ผุดพรายขึ้นมาเต็มไปหมด
“พี่ลงไปเอาพิซซ่าแป๊บนะคะ” พี่โต้งวางสายโทรศัพท์ของห้องแล้วหันมาบอกแต่ไม่ได้รับคำตอบใดจากหนู
เพราะตอนนี้หนูไม่ได้สนใจพิซซ่าแล้ว เอาแต่คิดถึงเรื่อง คนชื่อมิงค์อย่างเดียว....
แฟนเก่า? ถ้างั้นก็ผู้หญิงคนนั้นน่ะสิ ผู้หญิงหน้าสวยๆ หุ่นดีๆ ที่เคยเจอวันที่เราเลิกกัน....
ภาพความทรงจำในวันนั้นไหลย้อนกลับมาทันที....
โอ๊ย...... ทำกรรมอะไรมาแต่ชาติปางไหนเนี่ย
ขออยู่อย่างสงบนานๆ บ้างไม่ได้เลยหรือไง
ทำไมทะเลสงบทีไร พายุต้องมาทุกทีอ่ะไม่เข้าใจเลย!!
..........................
...........................
นี่ยังไม่มาม่านะคะ แต่เกริ่นเฉยๆ แค่เริ่มต้น .... ตอนหน้ายังฮาได้อยู่....
กำลังแต่งแต่ยังไม่เสร็จขอแบ่งมาลงก่อน...ถ้าเสร็จแล้วจะมาลงโดยไว...
ขอบคุณทุกบวก ทุกเป็ด ทุกคอมเม้นท์เหมือนเคย
และขอบคุณทุกคำอวยพรด้วย ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ ด้วยเช่นกันค่ะ