ตอนที่ 12 ถ่านไฟเก่า....
หลังจากอธิบายความหมายของคำว่า “ทำแท้ง” เรียบร้อยแล้ว โอ๋มันก็ถอนใจเหนื่อยหน่ายแล้วถามต่อ
“วันนี้จะไปบ้านไอ้โรจน์เหรอ?” หนูพยักหน้าตอบเบาๆ ด้วยใบหน้าที่ยังเปื้อนน้ำตาตามเดิม
“แวะไปบ้านกูก่อนแล้วกัน มีของจะให้ แล้วค่อยต่อรถไปบ้านไอ้โรจน์อีกที” มันว่า ทำให้หนูส่งสายตาแสดงคำถามไปให้แต่อีกฝ่ายไม่ให้ความกระจ่างใดๆ
“ไม่ต้องถามหรอก เดี๋ยวก็รู้เอง ตอนนี้นอนพักไปก่อนแล้วกัน” มันบอกแล้วเดินออกจากห้องพยาบาลกลับไปยังชั่วโมงพละอีกครั้ง
.....................
“อะไรอ่ะ?” หนูส่งคำถามเมื่อมาถึงบ้านโอ๋เรียบร้อยแล้ว มันส่งกระปุกสีแดงสดยี่ห้อ “ดูเร็กซ์” ให้มา
“เจลไง” มันบอกแค่นั้น แต่กลับทำให้หนูขมวดคิ้วหนัก
“เอามาทำอะไร แต่งทรงผมเหรอ?” คำถามซื่อๆ ของหนูทำให้อีกฝ่ายสูดปากเหมือนเจ็บปวดพร้อมตวาดลั่น
“อีฐา!!!” เล่นเอาหนูสะดุ้งเฮือก.....
อะไรอีกล่ะ....ยังมีอะไรที่หนูไม่รู้อีกเหรอ??
“*&*(%&$%(&*(*_)(*(*^*&^*&”
อึ๋ย ....ขี้หูเต้นระบำกับคำด่าเป็นหางว่าวที่ถูกประเคนใส่ พร้อมอธิบายประโยชน์ของเจลให้ฟังอย่างละเอียด
“กูเพิ่งรู้ว่ามึงแม่งเอสเอ็ม แถมยังโง้โง่......โง่ๆๆๆๆ จนไม่รู้จะด่าว่ายังไงแล้ว” อีกฝ่ายโวยอย่างฉุนๆ จนหนูได้แต่ก้มหน้าสลด รู้สึกเลยว่าตัวเองมันช่างงี่เง่าเสียจริงๆ
ตัวหนูที่โง่เง่า ดักดานไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยอย่างนี้ก็สมควรแล้วที่จะโดนเพื่อนด่าว่า “โง่”
สมควรแล้ว....ที่โดนไอ้โรจน์ด่าว่า “ห่วยแตก”
คนโง่ๆ อย่างหนู....ไม่สมควรจะเกิดมาเป็นกะเทยให้เสียสถาบันเลยจริงๆ
ฮึก....ฮึก..... ยิ่งคิดน้ำตาร่วงพรูเป็นสาย
“โอ๊ย.....มึง...จะร้องไห้ทำไมเนี่ย....” อีโอ๋พูดเสียงอ่อนลง เข้ามาลูบหลังปลอบ
“ก็ที่แกพูดมันเรื่องจริงทั้งนั้นเลยนี่ ฉัน....ฉัน....ฮือ.....” ยังคงงอแงต่อไปพร้อมน้ำตาทะลักไหลเป็นทาง
“เออ.... ฉันขอโทษ เลิกร้องเหอะ นิ่งซะนะ แรกๆ ก็อย่างนี้แหละ นานๆ เข้าเดี๋ยวก็เชี่ยวไปเองอ่ะ ฉันแค่อารมณ์เสียมากไปหน่อยก็เพราะเป็นห่วงแกนั่นแหละ” โอ๋มันว่าพยายามจะปลอบกะเทยเจ้าน้ำตาให้หยุดเป่าปี่ แต่ทำให้หนูยิ่งหยุดร้องไม่ได้เข้าไปใหญ่
.............................
.............................
“โรจน์จ๋า.....ใช้ไอ้นี่ให้หน่อยนะ” น้องฐาส่งเสียงหวานส่งสายตาอ้อนวอนพลางยื่นขวดเจลในมือไปข้างหน้า สองวินาทีก็ชักมือกลับ ทำหน้าเบื่อชีวิต
“อี๋...... แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ใครมันจะกล้าพูดเล่า”
เฮ้อ..... ถอนใจเฮือกใหญ่กับตัวเองคนเดียว
หือ... ถูกต้องแล้วค่ะคนเดียว ตอนนี้หนูกำลังนั่งซ้อมบทพูดอยู่บนเตียงไอ้โรจน์คนเดียวส่วนไอ้โรจน์น่ะเหรอ คงกำลังอาบน้ำ หลังจากด่าหนูไปหนึ่งชุดที่หายไปนาน
สงสัยต้องทำด้วยตัวเองอย่างเดียวแล้วมั้ง....
แต่ว่ามันต้องเอาไอ้นี่สอดเข้าไปในนั้นจริงอ่ะ?
หนูเปิดจุกขวดแล้วบีบสารหล่อลื่นใส่ปลายนิ้วแล้วขยับปลายนิ้วที่ติดเจลเหนียวๆ
เย็นดีจัง...
หนูยิ้มแล้วขยับนิ้วเล่นกับของในมือเหมือนกำลังสนุก จนกระทั่ง....เจ้าของห้องเปิดประตูเข้ามา
หนูหันไปมองร่างล่ำๆ ที่เปลือยท่อนบน มีหยดน้ำเกาะเล็กน้อยตามผิวกาย พันผ้าขนหนูไว้ที่เอว
เอื๊อก... ถึงจะเห็นบ่อยแล้วแต่ก้ยังอดเขินไม่ได้อยู่ดี เพราะที่จริงแล้วแล้วไอ้โรจน์มันหุ่นน่ากินมาก แต่ไม่รู้สิ เห็นแล้วมันไม่ใช่ความหลงใหลเท่าไร มันรู้สึก น่าเกรงขามและหวาดกลัวเสียมากกว่า
“เล่นเชี่ยอะไรของมึงน่ะ” มันถามขณะมองมาที่มือของถือซึ่งเปื้อนเจลเละเต็มมือ
กรรม.....
ไม่น่าสนุกมากเลย .... เยิ้มเชียว
“ไปล้างมือเลยมึง เดี๋ยวเลอะเตียงกู” มันสั่งเสียงดุ
“เอ่อ....คือ....นี่มัน” พยายามจะอธิบายแต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ส่งสายตาโหดมาแล้วตะคอก
“เดี๋ยวนี้!!”
เวรกรรม!!!!!!
ช่างเถอะ ไม่ใช้ก็ไม่ใช้ เจ็บบ่อยๆ เดี๋ยวก็คงชินไปเองมั้ง
ซะที่ไหนล่ะยะ .....
ชีวิตหนูมันเศร้า แต่เป็นไปแล้วจะให้ทำยังไงได้ ก็ทำได้แต่ก้มหน้ารับกรรมต่อไป
ฮือ.....ฮือ........
.....................
....................................
ซ่า!!!
“อุ๊ย....” หนูร้องออกอาการแต๋วแตกทันทีที่น้ำสีแดงมีฟองพร้อมน้ำแข็งที่ “บังเอิญ” หกมาโดนเสื้อนักเรียนสีขาวของหนูจนเปียกโชก
“อุ๊ยขอโทษค่ะ” คู่กรณีขอโทษขอโพยพลางทำหน้าเสียอกเสียใจอย่างยิ่งเงยหน้าขึ้นพบว่าคนตรงหน้าเป็นคนคุ้นหน้าจนได้แต่อึ้งนิดๆ
นึกว่าใครที่แท้ก็ “เด็ก” ไอ้โรจน์นี่เอง
มากับเพื่อนผู้หญิงอีกคน
“ไม่เป็นไร” หนูตอบ แม้จะรู้สึกเซ็งๆกับความเปียกชื้นที่เกิดขึ้นก็ตาม
“ขอโทษจริงๆ นะ” อีกฝ่ายยังคงย้ำ หนูพยักหน้าหงึกหงัก แค่โบกมือให้ พลิกกายเดินไปห้องน้ำ
“ใจดีเนอะแก” ได้ยินเสียงแว่วมาแต่ไกล
“ใจดี...หรือโง่กันแน่”
ว่าไงนะ?!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เข้ามาโมโหโทโสคนเดียวในห้องน้ำ โชคดีนะ ที่หนูปวดฉี่พอดีเลยเดินออกจากโต๊ะมาห้องน้ำคนเดียว ยัยสองคนนั้นเลยรอดไป ถ้ายกโขยงกันมาหลายๆ คนเหมือนปกติจะขอกลับมาจับตบล้างน้ำข้อหาปากมอมสักทีเถอะ
จะว่าไปแล้ว ทำไมต้องมาหาเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ หนูไปทำอะไรให้งั้นเหรอ? ก็ตั้งแต่ไอ้โรจน์มันหลอกพาหนูไป...ซื้อของขวัญวันนั้นมันก็ไม่ได้กลับไปยุ่งกับชีแล้วนี่นา....
ก่อนเข้าคาบเรียนตอนบ่าย ความค้างคาใจยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อเห็นชะนีตัวเมื่อกี้กับไอ้หมาบ้ายืนคุยกันใต้ต้นไม่ข้างตึกเรียน...
หรือว่า.....
หรือว่า.....
ถ่านไฟเก่าจะปะทุอีกครั้ง.....
.............
เย้!!!!! อยากจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ในที่สุดน้องฐาก็จะได้เป็นไทแล้วสินะ
กรี๊ดดดดดดด จะไม่ต้องกลับไปสนองอารมณ์ใคร่ของไอ้หมาบ้าแล้ว โอ๊ย จะได้หลุดจากขุมนรกแล้ว ยอดเยี่ยมๆ
“เสื้อไปโดนอะไรมา” ไอ้โรจน์หันมาถามระหว่างคาบเรียนเมื่อมองเห็นคราบที่เปื้อนเสื้ออยู่จางๆ
“เอ้อ... ทำน้ำแดงหกใส่อ่ะ”
“มึงนี่มันซุ่มซ่ามเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลยนะ” มันบ่นเชิงตำหนิ
ชิ...ก็แล้วมันเพราะใครล่ะ? มันเด็กใครที่ทำเรื่องนี้.....
เดี๋ยวสิ ทำไมเด็กไอ้โรจน์มันต้องมาเขม่นหนูล่ะ หรือว่า.....
“ยินดีด้วยนะโรจน์” หนูแกล้งปรยขึ้นมาเพื่อเกริ่น แล้วจะได้ล้วงความลับต่อ
“เรื่อง?”
“จะกลับไปคบกับจอยอีกรอบนึงไม่ใช่เหรอ?” หนูพูดลอย แต่เสียงเบาพอได้ยินกันแค่สองคนเพราะยังอยู่ในคาบเรียน
“ใครบอก” มันทำเสียงตึงๆ
“ต้นไม้ข้างตึกไม่ได้ลับตาคนหรอกนะ”
“มึงก็เลยเห็นแล้วก็เข้าใจไปแบบนั้น?”
“หรือไม่จริง?” หนูถามกลับด้วยน้ำเสียงเหมือนจะล้อเลียน
“อือ... ทำไมกูต้องกลับไปคบกับคนที่หาว่ากูเป็นเกย์ด้วยล่ะ คนที่ไม่มีความเชื่อใจ แล้วก็เอาแต่ฟังข่าวลือ เห็นอะไรก็คิดเป็นตุเป็นตะไม่ฟังคำอธิบาย แล้วก็ปากมอมอีกต่างหาก ปล่อยให้เต้นไปแบบนี้แหละสะใจดี” น้ำเสียงเย้ยหยันแสดงความสะใจทำให้หนูต้องขมวดคิ้วหันไปมองเสี้ยวหน้าที่แสยะยิ้มเหี้ยมๆ แล้วหนาวๆ ร้อนๆ ยังไงก็ไม่รู้
ไอ้โรจน์ไขข้อข้องใจให้หนูฟังเมื่อหมดวัน ว่าจอยมันมาแอบเห็นหนูกับโรจน์ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ มันก็เลยเอาเรื่องนี้มากระแนะกระแหนไอ้โรจน์ทำให้มันโมโหจนฟิวส์ขาดก็เลยลากจอยไปจัดหนัก เพื่อแก้เผ็ดพร้อมปิดปากไปด้วยในตัว แทนที่อีกฝ่ายจะเข็ดไม่กล้ายุ่งกลับผิดคาด ดันกลับมาตามตื๊อซะงั้น
“ถ้าไม่ได้ชอบแล้วไปทำกับเขาอย่างนั้นทำไมล่ะ?” หนูว่าไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไร ไม่ชอบเห็นใครโดนบังคับขืนใจในเรื่องนี้แม้จะรู้ว่าคนที่พูดถึงจะพอออกพอใจก็เถอะ
“ก็ไม่ได้อยากจะเอาตัวไปเกลือกกลั้วนักหรอก พวกปากไม่มีหูรูดพันนั้น แต่อยากรนหาที่เอง ช่วยไม่ได้ จะได้จำใส่กะโหลกเอาไว้บ้างว่า จะกงจะเกย์หรือเปล่าก็ช่าง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายแล้ว มันก็ “เอา” เป็นทุกคนล่ะ” เหตุผลของมันทำเอาหนูถอนใจเบาๆอย่างระอา
“กูล่ะรำคาญ ทีเมื่อก่อนนะหาว่ากูโรคจิตวิปริตอย่างนั้นอย่างนี้ พอโดนไปที มากอดขากูขอให้กลับไปคบกันใหม่ เหอะ...อีด-ก” ไอ้โรจน์ด่าแรงซะหนูสะดุ้ง เพราะปกติแล้วถึงมันจะดูโหดๆ เห้ๆ อย่างนี้ แต่เวลามันชอบใครรักใครก็ทำตัวดีได้ กับผู้หญิงมันก็ดูแล รักใคร่ เอาใจดีอยู่ แสดงว่าคราวนี้มันคงโกรธมากจริงๆ
“แล้ว....เรื่องอย่างว่าล่ะ เป็นไงบ้างอ่ะ” เห็นมันทำท่าอารมณ์เสียแล้วก็เลยเปลี่ยนเรื่อง พร้อมสอดแนมเรื่องที่เป็นปมด้อยของหนูไปด้วย
“ก็งั้นๆ แหละ จะว่าสดซิงหรือก็เปล่า” มันทำเสียงเหยียดๆ แต่แล้วก็ชะงักพลางหันมาเหล่
“ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ นะ แต่ถ้าเทียบกับมึง ก็ถือว่าลีลาห่างชั้นอยู่ดี แถมผู้หญิงมันก็เนื้อนุ่มกว่า อึ๋มกว่า แล้วที่สำคัญ ไม่แจกทองกูด้วย”
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไอ้หมาบ้า....... ปากมอมที่สุดในโลก เรื่องตั้งนานแล้วจะขุดขึ้นมาทำไมยะ
หนูต้องเบะปากพยายามสะกดกลั้นความคับแค้น อับอายนั้นไว้โดยเร็ว
“งั้นเหรอ ถ้างั้น...ก็กลับไปคบกับเขาเถอะ ไหนๆ ก็ได้เขาไปแล้ว อย่าใจดำนักเลย อย่างน้อยคบกับผู้หญิงมันก็สบายใจกว่ากันเยอะ" โกรธ .....โมโห ....แต่ไม่รู้จริงๆว่าจะทำอะไรได้....ได้แต่พยายามทำเสียงให้เรียบที่สุด
“ไม่!! กูไม่กลับไปคบกับคนที่ปรักปรำว่ากูเป็นเกย์หรอก”
ปรักปรำ? อยากจะขำ แล้วทุกวันนี้ที่ยังหาเวลามา “โต๊ะ” กันบ่อยๆ เนี่ยจะบอกว่าไม่ใช่เกย์เหรอ?
“ไม่ต้องมองกูอย่างนั้นเลยนะ เพราะถึงกูจะมีมึงเป็นเมีย แต่ไม่ได้แปลว่ากูเลิกชอบผู้หญิง เห็นผู้หญิงกูก็ยังมีอารมณ์ ยังเอาได้อยู่ดี” งั้นก็เป็นไบสิแบบนี้?
“งั้นก็ขอโทษแล้วกันนะที่เข้าใจผิด แล้วก็ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดตามไปด้วย แต่จะบอกอะไรให้นะ ถ้าโรจน์ยังมายุ่งกับเราแบบนี้ เรื่องนี้ก็มีวันจบหรอก ถ้าจะให้คนอื่นเขาเลิกพูดเลิกคิด มีทางเดียว คือโรจน์ต้องกลับไป ...กลับไปคบกับผู้หญิง แล้วปล่อยให้เรื่องของเราสองคนกลายเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นเท่านั้นเอง”
......................................
โต๊ะ= การร่วมเพศ
ขอพูดถึงภาคปกตินิดนึงนะคะ.....
จำได้ว่า.....ครั้งแรกที่เจอกับพี่โต้ง ฐามันก็ไม่ได้คิดถึงเจลอะไรเลยนะ จนพี่โต้งยังถามว่า ถ้าไม่ใช้แล้วไม่เจ็บเหรอ? มันก็เจ็บ แต่มันชินแล้ว บวกกับไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามานานก็เลยไม่มีการเตรียมพร้อม
แล้วที่ดันปากเสียไปว่าพี่โต้งว่า “ใหญ่กว่านี้ ก็เจอมาแล้ว” ที่จริงแล้วไม่ได้ตั้งใจหรอก คือเป็นเรื่องจริงนั่นแหละ แต่ฐามันก็ซื่อเนอะ พูดตรงไปหน่อยเท่านั้นเอง กร๊ากกกกก (น้องคงลืมนึกไปว่า ถ้าไปดูถูกหรือเปรียบเทียบเรื่องแบบนี้ผู้ชายเขาถือ)
นิคิดไว้ว่าภาคนี้มันจะไม่ยาวมากอ่ะ แต่พอแต่งๆ ไปแล้วรายละเอียดมันก็เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนยาวขึ้นๆ
ที่จริงแล้วเรื่องของไอ้โรจน์ไม่ใช่ส่วนสำคัญเท่าไรหรอกค่ะ
แต่ที่นิอยากแต่งภาคนี้ก็เพื่ออยากให้มองเห็นพัฒนานาการของกะเทยคนนึงที่น่ารักไร้เดียงสา มองโลกในแง่ดี พอเจอเรื่องราวต่างๆ ก็ทำให้ความคิดและการกระทำค่อยๆ เปลี่ยนไป ร้ายขึ้น แรงขึ้น สู้คนขึ้น? (ประชดเก่งขึ้น ขี้โม้มากขึ้น ฮาๆๆ)
แล้วก็ไปแก้ปมในภาคหลัก ที่คนอ่านก็อาจจะลืมไปแล้วก็ได้
เช่น....ถ้ามีคนเคยอ่านกันย์กิ๊ง น้องฐาเคยพูดไว้ตอนที่กล่อมกิ๊ง....
“ฟังกูดีๆ มึง...เข้าใจอะไรผิดป่ะ มึงผู้ชายนะ ไม่ใช่ผู้หญิง เสียพรหมจรรย์ละเลือดออกอ่ะ”
“กูอ่านนิยายกี่เรื่องเลือดสาดตลอด” อ่านนิยายในเว็บ แล้วก็การ์ตูนบ้างนิดหน่อยครับ
“มึงอ่านพวกนิยายซาดิสถูกจับกดอะไรแบบนั้นมาป่าว ที่จริงถ้าใจเย็นๆ ทำเบาๆ ทะนุถนอมก็คงไม่ออก แต่อย่างว่า แรกๆ มันยังปรับตัวลำบากแล้วอีพวกเป็นรุกแม่ง.... เพราะเห็นว่าเป็นผู้ชายด้วยกันมั้ง เลยชอบรุนแรง ไม่บันยะบันยัง ไม่หัดคิดมั่งว่า กูก็ต้องการความอ่อนโยนเหมือนผู้หญิง พอจะเอาก็บอกว่า ไม่เจ็บๆ พอถึงเวลาอย่างนั้นจริงๆ อารมณ์มันก็พาไปจนลืมมั้งว่ากูก็เจ็บเป็นอะไรเป็น ถึงจะกระเทยก็มีหัวจิตหัวใจ แถมเจ็บกว่าผู้หญิงซะอีก แม่ง... ”
จากข้อความนี้ฐาพูดถึงไอ้โรจน์นะคะ
ยังมีอีกสองปมที่พยายามจะแก้อยู่...ถ้าแก้ได้จะมาบอกอีกที อิอิ
อีกอย่างคืออยากเขียนน้องฐา โหมด dark ด้วยอ่ะ น้องฐาคนที่เถียงเก่งๆ ชอบท้าทาย เหมือนมาโซสะใจดี...
คนเขียนโรคจิตว่ะ กร๊าก.....
ต้องขอโทษคนที่คิดถึงพี่โต้งด้วยนะคะ แต่คิดว่าคงต้องอยู่กับโรจน์ไปอีกพักนึง แต่ไม่ต้องกลัว แต่ละตอนจะมาไวกว่าปกติ คงจะจบได้ไม่เกินสิ้นปีนี้ (จะพยายามค่ะ แต่ถ้าไม่ได้อย่าด่าคนเขียนนะคะ)
เราอย่าไปคิดเลยว่า...พระเอกในเรื่องคือใคร เพราะยังไง คนที่เด่นและมีบทบาทสำคัญที่สุดในเรื่อง ก็คือ “น้องฐา” อยู่ดี
รักนะคะทุกคน....
(เดี๋ยวแต่งต่ออีก เสร็จแล้วจะมาให้อ่านกันอย่างว่องไวจ้า........)