อย่าไปเอาอะไรกับน้องฐามากค่ะ ถึงจะเศร้าก็เศร้าแบบรั่วๆ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ หลายคนเข้าข้างน้องฐากัน ก็มีเหมือนกันที่มองอย่างเป็นกลาง จะบอกว่า ประโยคบางคำ หรือเนื้อเรื่องบางอย่างก็เอามาจากคอมเม้นท์คนอ่านนี่ล่ะเอามาปรับใช้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ... ตอนที่ 9 ความลับแตก
พูดถึงอีพี่โต้ง... น้องฐาก็นึกเรื่องแฟนเพื่อนขึ้นมาได้ แต่ไม่อยากจะถามตรงๆ เลยอ้อมๆไป
“เออ เมื่อวานใครมาส่งมึงเหรอกิ๊ง”
“เพื่อน” แหมตอบซะกว้างเลย
“เพื่อนจริงดิ เห็นพี่โต้งเขาบอกว่า แฟนน้องกิ๊งมารับ กูก็นึกว่า...” หนูทำเสียงประชดมันนิดหน่อย
“ก็กูรำคาญเขา ก็เลยเน้นๆ เสียงคำว่าเพื่อนนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ค่อยโล่งหน่อยที่เขาเสร็จมึงซะได้”
“โอ๊ย... ใช่ว่าเขาอยากจะเลิกจีบมึงซะเมื่อไร ถ้ามึงเกิดชอบเขาขึ้นมาไม่ต้องเกรงใจกูหรอกนะ” กัดฟันพูดเลยนะประโยคนี้
“บ้าสิ... กูไม่ชอบปาดหน้าเค้ก” กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด แมนมากๆ ค่ะอีเพื่อน ดันเสือกใช้ศัพท์กระเทย อีเพื่อนพาราดะแล้วคร่า...
“อุ๊ย ปาดอะไร้ มึงก็น่าจะรู้สันดานกู ครั้งสองครั้งกูก็เบื่อแล้ว” ซุงแหลสุดๆ
“บ้าน่า... ทั้งหล่อทั้งรวยมึงไม่เสียดายเหรอฐา” อยากจะบอกว่าโคตรเสียดาย แต่ไม่อยากให้มันรู้สึกผิด ไม่อยากให้มาห่วง
“โอ๊ย มึงจะมาเอาอะไรกับกะเทยลัลล้าอย่างกู มึงเหอะ พูดแบบนี้ไม่เสียดายเหรอ”
“ไม่อ่ะ กูไม่ชอบแบบนี้” อุ๊ย...แล้วชอบแบบไหนคะ
ดูมัน!! ไม่ตอบว่าไม่ชอบผู้ชาย แต่บอกว่าไม่ชอบ “แบบนี้”
จะไม่ให้คิดได้ไงคะ บอกว่าแมนๆ พอมาสนิทกันแล้ว มันก็หลุดบ่อยค่ะ แต่ยังไม่เจอเต็มๆ ซะทีเท่านั้นเอง
“เหรอ... แล้วไหนว่ากูไม่ไปไม่มีคนมาส่งแล้วไงล่ะ โกหกกูนี่” ทำเสียงเหมือนไม่พอใจเล็กน้อย เรียกร้องความสนใจ และก็ตามแผน กิ๊งมันจะหันมาสนใจว่าหนูจะเคือง
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะฐา กันย์มันแค่บังเอิญมารับเพื่อนที่ซ้อมโมเดลที่คณะพอดี กูเลยขอร้องให้มันไปส่งกูด้วยเท่านั้นเอง” ชื่อกันย์ค่ะ เพื่อน...คนนี้
“อ้อ... ดีนี่ กูเลยไปรับเก้อเลย” ใช่ ไปเก้อแล้วบ่อน้ำตาแตกอีก เสียหายหลายเสนนะคะเนี่ย...
“กูขอโทษ” อีกิ๊งบอกแล้วเนียนเข้ามากอด อ่ะค่ะ มันบอกว่ามันแมน... และมันไม่ชอบกะเทยค่ะ .... แต่มีผู้ชายที่ไหนเขาจะมากอดรัดกะเทยแบบนี้ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน
พอเถอะ อีเพื่อน.... เมื่อไรจะโป๊ะแตกคะ?? น้องฐารออยู่!!
พอเพื่อนกลับไป แล้วอยู่คนเดียว ก็แสนจะเหงา.... อีพี่โต้งบ้า คนผีทะเล ถึงจะบอกว่าเกลียดนักหนา แต่น้องฐาก็ยังนั่งมองโทรศัพท์เป็นระยะๆ มาขอเบอร์ไปแล้วทำไมไม่โทรมาล่ะ?? ฮือๆๆๆๆ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
เกลียดอีพ่อค้าตับเข้าไส้ ทะลุม้าม ไปปอด และแอบนึกย้อนไปเมื่ออดีตกาล อีพ่อค้าตับมันเคยทำหนูปวดลำไส้ขนาดหนักมาแล้วครั้งหนึ่งด้วย
เนื่องจากตอนนี้น้องฐาไม่ค่อยสบายด้วยโรคอาหารเป็นพิษ รับประทานตับไร้คุณภาพร้านคุณพี่โต้งเข้าไปทำให้ เกิดอาการ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย คล้ายวิงเวียน อยากดมวาเป๊ก (ไม่เกี่ยว)
รู้สึกว่าต่อมหื่นกับต่อมฮา ทำงานผิดปกติมีอาการปวดตับข้างซ้ายเป็นประจำ หนำซ้ำเกิดโรคแทรกซ้อน เห็นหนุ่มมาดเท่ห์หล่อลาก ฐาน้อยก็ไม่แข็ง เป็นกามตายด้านขึ้นมาอีกโรค ซวยแท้...
เชอะ!! แต่คิดว่าน้องฐาจะสิ้นไร้ไม้ตอก นั่งโศกาอาดูร จมปลักกับกองขี้ควายแบบคุณพ่อค้าตับไปตลอดนั้น ฝันไปเถอะ หนูก็มีศักดิ์ศรีกะเทยเหมือนกันนะคะ
น้องฐาหงุดหงิดเสียนัก ไม่รู้จะทำฉันใด หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง น้องฐาเลยฟิตเปรี๊ยะตามนังเพื่อนสวยไปนั่งเหล่เด็กวิท-ยา ที่ใต้คณะกะเอามาดามใจ หรือไม่ได้เรื่องก็จะเขี่ยทิ้งแก้แค้นอีพี่โต้ง
แต่วันนี้...แทนที่จะได้จีบใครมาแนบกายหนูกลับได้รู้อะไรดีๆ มาแทน ความพยายามจะทำให้นังเพื่อนสวยโป๊ะแตกมาตลอดกลับสัมฤทธิ์ผลโดยแทบไม่ได้ออกแรงเลย
เพราะระหว่างที่นังกิ๊งนั่งทำการบ้านเอาโล่ หนูก็เหล่หนุ่มหล่อไปเรื่อยมาเตะตาเอาที่กลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านมาเลยเรียกนังเพื่อนขึ้นมาดู
“กิ๊ง กลุ่มนี้หล่อดีว่ะมึงรู้จักหรือเปล่า ชื่อไรกันมั่งวะ” มันเงยหน้าขึ้นมาทำท่าตกใจ
“ถามทำไมวะฐา”
“กูอยากจีบว่ะ” หนูทำเสียงอย่างแรดที่สุดลงไป
“อย่าเลยมึงเพื่อนกูทั้งนั้น พวกมันคงไม่ชอบกินตับกระเทยหรอก” หมั่นไส้จริงๆ ค่ะนังเพื่อนชอบกันท่า
“ใครจะรู้ มึงดูถูกกูอยู่เรื่อย เดี๋ยวกูโชว์ฝีมือให้ดู กูว่ากูจะจีบสักคน เอาคนที่ถือกุญแจรถนั่นดีกว่า” หนูว่าไป เห็นคนถือกุญแจรถยนต์แล้วรู้ว่ารวยค่ะลุกขึ้นปุ๊บนังเพื่อนก็กระชากแขนหนูลงไปนั่งอย่างแรง ทำเอาเจ็บค่ะ ตัวก็บางๆ ไม่รู้เอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหนนักหนา
“มึงดึงกูเบาๆ ดิวะ กูเจ็บนะ” หนูโวยวาย
“ฐา มึงอย่าเลยนะ” ใบหน้า น้ำเสียงอ้อนอ้อนเกินความจำเป็น
“จะห้ามทำไมเนี่ย มึงหวงเหรอ หวงทำไม มึงควรดีใจที่เพื่อนจะได้แฟนหล่อมาควง ท่าทางจะรวยด้วย”
“คนไหนๆ กูไม่ว่า กูขอไว้คนนึงเถอะนะ” เอ๊ะ มันยังไงๆ ซะแล้ว...
“ขอทำไม ก็ไหนมึงบอกไม่ชอบผู้ชายไง”
“เบาๆ ดิวะ” มันรีบห้าม
“ไม่พูดใช่ไหม งั้นก็ปล่อยกู กูไม่มีผู้ชายตกถึงท้องมาหลายวันแล้ว” ค่ะ ไม่มีจริงๆ ตับชิ้นสุดท้ายที่กินเข้าไปก็ร้านอีพี่โต้งนั่นแหละค่ะ กินตั้งนานมาแล้วช้ำใจมาจนวันนี้เลย “ปล่อยดิกิ๊ง”
“เออ กูชอบมัน ยกให้กูสักคนเถอะฐา” เจอประโยคนี้เข้าไปก็อึ้งค่ะ คนบอกไม่ชอบผู้ชายมานาน อยู่ดีๆมาสารภาพว่าชอบผู้ชายแบบนี้ กลั้นหัวเราะแทบไม่ไหวจนต้องปล่อยออกมา
“ฮ่าๆ กูว่าแล้ว แทงหวยไม่ถูกอย่างนี้สิน่า” มันทำหน้าเหมือนทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่
แล้วหนูก็คะยั้นคะยอให้มันเล่าเรื่องของผู้ชายคนนี้ให้ฟัง ก็ใจความคร่าวๆ ว่า ที่จริง กันย์เป็นเสป๊กของมันอยู่แล้ว เพราะมันชอบคนตัวสูง ผิวออกน้ำผึ้งๆ หุ่นนักกีฬา ที่จริงก็ชอบหลายคน แต่กันย์จะพิเศษกว่าคนอื่นหน่อยตรงที่เป็นรูมเมทของมัน ตอนที่เจอกันวันแรก มันแสดงออกว่าชอบผู้ชายออกไปจนกันย์เผ่นหนีไม่กล้ามาอยู่หอใน เวลาพูดทำนองว่าชอบผู้ชาย กันย์ก็จะทำหน้าตกใจ กิ๊งมันรู้สึกว่า แกล้งแล้วสนุกดี ประมาณนั้น แต่มันชอบเฉยๆ ไม่ได้อยากได้มาเป็นแฟนหรอกนะคะ ... อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็มีความสุขดีแล้ว แหมรักใสบริสุทธิ์ซะ
ส่วนเรื่องของมันเป็นยังไงต่อนั้น ช่างมันก่อน เพราะแค่นี้นังกิ๊งมันก็แย่งซีนหนูไปเยอะแล้ว...(หลายๆคนก็คงรู้เรื่องกิ๊งล่วงหน้ากันไปเยอะแล้ว ฮา)
เอาเป็นว่า นอกจากเป็นผู้ชายแล้วอีพี่โต้งไม่มีตรงไหนที่เป็นเสป๊กของกิ๊งมันเลย ยิ่งมาคอยเทคแคร์เหมือนเด็กมันยิ่งไม่ชอบหนัก ติดจะรำคาญด้วยซ้ำ มันบอกว่าอย่างอีพี่โต้งน่ะ จีบมันไปก็เท่านั้น ยังไงๆ กินแห้วพันเปอร์เซ็น เฮ้อ...คนสวยก็อย่างนี้ล่ะค่ะ หยิ่ง!!! ไม่เหมือนหนูเลย มีคนเอาอกเอาใจแล้วมีความสุขสุดๆ
ระหว่างนั่งเม้าท์จนน้ำลายแตกฟองอยู่นั้น เก้าอี้ตรงกันข้ามก็มีคนมานั่งค่ะ
“ขนมไหมครับ” ถุงขนมวางกองลงตรงหน้า หนูหันไปมองคุณพี่โต้งแวบหนึ่งก่อนจะเสก้มลงหลบตาอย่างรวดเร็ว เหมือนพี่เขาจะมองหนูเหมือนกัน
“น้องกิ๊ง ขนมครับ” พี่เขาหันไปคุยกับกิ๊งเฉย ชิส์!! สงสัยหนูจะเข้าข้างตัวเองมากจนเกินไป
“ไม่ดีกว่าครับขอบคุณ” บอกแล้วว่าอีเพื่อนสวยมันหยิ่งค่ะ
“น้ำก็มีนะครับ” พี่โต้งนี่ก็มีความพยายามจริ๊ง
“ขอบคุณครับพี่ แต่พี่โต้งเอาใจผมแบบนี้ เดี๋ยวฐามันก็น้อยใจหรอก” หนูตาโตแล้วหันไปมองกิ๊งทันทีเลยค่ะ ต๊ายยยยย อีเพื่อนวางระเบิดใส่หนูแล้วค่ะ โฮ.....
“จริงเหรอครับน้องฐา น้อยใจพี่เหรอ” พี่โต้งหันมาถามหนู แต่หนูไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไงเลยลุกขึ้นยืน จะอยู่ทำไมล่ะค่ะ
หมับ!! อีพี่โต้งจับมือหนูทันทีเลยค่ะ
“จะไปไหนครับ” ฮือ...ทำไมต้องทำตาดุใส่หนูด้วย ฮือ.... โทษหนัก...โทษหนักแบบไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้เป็นโรคปอดแหกเพิ่มอีกโรคแล้วคร่า แง้ๆๆ
“พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วนหนูขอตัวก่อนนะคะ กิ๊ง กูไปก่อนนะ” รีบชิ่งดีกว่าค่ะ
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง” กรี๊ดดดดดดดดดดดส่งทำม้ายยยยย
พี่โต้งลุกขึ้น ไม่ปล่อยมือที่จับแขนหนูค่ะ ทั้งยังเป็นฝ่ายลากแขนหนูออกเดินมาที่จอดรถอีกต่างหาก
“น้องฐาบอกอะไรน้องกิ๊งคะ น้องเค้าถึงพูดแบบนั้น” น้ำเสียงเอาเรื่องค่ะ
“ปละ...เปล่าค่ะ ไม่ได้บอกอะไรเลย...”
“ไม่จริง...บอกไปแล้วใช่ไหมคะเรื่องที่เราไปนอนด้วยกันมา” เสียงยิ่งเข้มไปกันใหญ่
“ฮึก...ฮึก... ฮือ...” เริ่มร้องไห้แล้วค่ะ “หนูโกหกหรือไงล่ะ เรื่องจริงทั้งนั้น”
“แล้วพี่เป็นคนเริ่มไหมคะ พี่ลากน้องเข้าโรงแรมไหม เริ่มต้นปลุกอารมณ์ไหม ก็ว่าจะไม่ทำอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคนแถวนี้สัญญาไว้ดิบดีว่าจะไม่บอก จะเก็บเป็นความลับ”
ฮือ.... จริงสิ พี่เขาไม่ผิดเลยสักนิด หนูผิดเองทุกอย่าง
“หนูก็ว่าจะไม่พูดเหมือนกันถ้าไม่เห็นนิสัยพี่เสียก่อน รักพี่เสียดายน้องแบบนี้ หนูกับกิ๊งเป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ ยังอยากจะคั่วพร้อมกันลง”
“พี่ไม่ได้บอกว่าจะคบพร้อมกัน พี่ก็แค่ยังเผื่อใจไว้เท่านั้นว่า น้องเค้าค่อนข้างจะหิน ถ้าพี่จีบน้องกิ๊งเค้าติด พี่ก็คิดว่าพี่จะมีเค้าแค่คนเดียว” จริงใจกับกิ๊งมากขนาดนั้นเลยสิ...
“แล้วหนูล่ะคะ” แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองที่ถามคำถามงี่เง่าแบบนั้นออกไป
“กับคนที่เจอกันแค่สามชั่วโมงก็ยอมนอนด้วยแล้วเนี่ย พี่ต้องจริงจังใช่ไหมคะ” คำถามนี้ทำเอาหนูสะอื้นหนักเข้าไปอีก...
พูดแทงใจดำจนแทบสะอึก.... เจ็บเพราะเป็นเรื่องจริง
ง่ายไป... จนไร้ค่า
“ทีแรกก็คิดว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วนี่ว่าไม่ผูกมัดเป็นเจ้าของกันและกัน เรายังเริงร่าบอกพี่ว่า จีบน้องเค้าได้เลยหนูจะไม่ขัดขวาง พี่ก็เข้าใจว่าหนูแฟร์มากพอที่จะไม่ถือสาเรื่องพวกนี้ แต่มาหึงมาหวงกันทีหลังแบบนี้น่ะ มันงี่เง่ามากรู้ไหม”
ตกปากรับคำไปมั่นเหมาะว่าแค่ชั่วครั้งชั่วคราวไม่จริงจัง ท้ายที่สุดก็กลืนน้ำลายตัวเอง
ฮือ... อีฐาเอ๊ย ....มึงผิดคนเดียว ผิดเต็มประตูเลย!!!!
“ฮือ.... หนูขอโทษ หนูมันร่านเองอ่ะ หนูเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่าง แต่ถ้าพี่ไม่ได้คิดสนใจใยดีก็อย่ามาทำดีกับหนูสิ” ถ้าพี่ไม่ดีแสนดีหนูคงไม่เป็นแบบนี้...
“พี่ดีกับหนูก็ดีแล้วนี่คะ ทำไม ชอบให้ร้ายใส่ โรคจิตหรือไง”
“ถึงจะไม่สานต่อ...ฮึก... แต่มาใช้หนูเป็นสะพานจีบเพื่อนก็เกินไปหน่อยนะ”
“พี่ไม่ได้บังคับนะคะว่าให้ช่วย ไม่ได้ใช้เป็นสะพานสักนิด แค่จะถามว่าน้องเค้ามีแฟนหรือยังเท่านั้นเอง ถ้าไม่มีพี่ก็มีหวัง ถ้ามีแล้วพี่ก็จะได้ตัดใจ เรื่องก็จบเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้มันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะในเมื่อน้องเขาก็รู้หมดแล้วว่าเราไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว เกมโอเวอร์แล้วแบบนี้น้องฐาจะรับผิดชอบยังไงที่ผิดสัญญา พี่เคยบอกไปแล้วนี่ว่า... ถ้าพี่รู้ว่าน้องปากโป้งจะโดนโทษหนัก... แต่ดูท่าน้องจะไม่กลัวใช่ไหม?”
“แล้วจะให้หนูทำยังไง จะให้ไปบอกมันไหมว่าหนูโกหกตอแหล ที่จริงไม่มีอะไรทั้งนั้น”
“น้องกิ๊งเค้าคงไม่โง่หรอกค่ะ ”
“พี่จะเอายังไงกับหนูล่ะ....” ถามอย่างท้าทาย ตอนนี้ก็แก้ไขไม่ทันแล้วเพราะบอกไปแล้ว มีแต่ต้องรับโทษอย่างเดียว
“นั่นสิ” พี่โต้งจับปลายคางหนูให้เชิดขึ้นแล้วมองหน้าที่เปื้อนน้ำตา “ปากดีแบบนี้ ควรจะทำโทษแบบไหนนะถึงจะเหมาะ?” รอยยิ้มส่อแววสนุกสนานอยู่ในแววตา
หนูไม่สามารถคาดเดาได้ว่า จะเป็นยังไงต่อ...
จะโทษอะไร...
หนักแค่ไหน...
จัดมาเถอะ...
ก็หัวใจหนูตอนนี้....มันแทบจะแตกสลายอยู่แล้ว…
....มันคงไม่มีอะไรจะทำให้เจ็บมากกว่านี้ได้อีกแล้ว...
…............................................
โฮกกกกกกกกกกกก
ซีนอารมณ์....อีกแล้วคร่า.... สงสารน้องฐา แต่ในมุมมองพี่โต้งก็อีกแง่นึงนะ
พี่เขาก็แค่ไม่รู้ว่าฐามันเกิดจริงจังขึ้นมาเท่านั้นแหละค่ะ ....
คำถามที่ถามไป แค่อยากรู้ความคิดเฉยๆ ค่ะ
จะเอามาประกอบการตัดสินใจของน้องฐาในอนาคต ...
นิไม่ได้จะไปแปลงเน้อเพราะนิเป็นสาววายน้า...