^^
“น้องครับ จอดชิดขอบถนนทางนั้นเลยครับ เมื่อกี้ขับเร็วเกินกำหนดนะครับ ขอใบขับขี่ด้วยครับ” อยู่ก็โดนโบก แถมสั่งจอดอีกต่างหาก พี่ตำรวจมาดเข้ม หน้าก็เข้มเสียงก็เข้ม หน้าเข้มนี่หมายถึงดำนะดำแล้วจากนั้นไม่ใช่แค่หน้าดำอย่างเดียว ใจยังดำด้วย เมื่อใบสั่งก็ส่งตรงถึงมือคนขับอย่างมึนๆ เมื่อต้องไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักให้ยุ่งยากแล้วอารมณ์อยากไปไหนต่อก็หมดลง
“ไปจ่ายให้เสร็จๆ แล้วกลับบ้านเลยดีกว่า” เสียงเล็กพึมพำกับตนเองแต่หาได้พ้นหูตำรวจจอมหาเรื่องไปได้
เมื่อเดินทางมาที่สถานีเตรียมจ่ายเงินกลับกลายเป็น
“ไม่ต้องจ่ายค่าปรับนี่ครับ เพราะช่องนี้ติ๊กว่าตักเตือน” คนเสียเวลามาอ้าปากหวอ
“ก็ไอ้ เอ้อคุณตำรวจที่เขียนบอกว่าต้องมาจ่ายค่าประ เอ่อช่างมันเถอะ งั้น ไม่ต้องจ่ายนะครับ ลาเลย” หมุนตัวเดินลงจากโรงพักยังไม่พ้นกะไดขั้นสุดท้าย ไอ้ตำรวจเวรก็เข้ามาดักทางเอาไว้เสียก่อน
“เป็นตำรวจรังแกประชาชน หน้าไม่อาย” คนตัวเล็กกระซิบรอดไรฟัน เพราะอยู่ในถิ่นเค้า แต่เจ้าพนักงานกลับเห็นเป็นเรื่องตลก
“ไม่ได้แกล้ง แต่อยากให้มาเพราะจะขอติดรถกลับบ้านด้วยแค่นั้นเอง” คุณตำรวจสวนกลับมาหน้าทะเล้น
“ตลกตายหละ ที่บ้านสอนว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าโดยเฉพาะตำรวจ” คนตัวเล็กเดินหนีเอาซึ่งๆหน้า แต่ตำรวจตัวดำก็ยังตามมาไม่ห่าง
“งั้นเรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า น้องแจ่ม” น้องแจ่มทำหน้างง จนต้องควักใบขับขี่ของตนขึ้นมาส่องดูว่ามีชื่อเล่นพิมพ์แอบอยู่ส่วนไหนของบัตรหรือเปล่า
“หึ หึ ไม่ต้องหาให้ตาเหล่หรอกครับ พี่เก่งรู้จักน้องมานานแล้ว ก็บ้านพี่อยู่ไม่ห่างจากห้องที่เราเช่าอยู่ บางวันยังได้กินข้าวร่วมโต๊ะกันเลย” แจ่มถึงกับเหวอ กินข้าวร่วมโต๊ะแต่ไหงกรูจำมันไม่ได้วะ คนตกใจคงแสดงออกทางสีหน้ามากไปนิ๊ส
“ก็เวลากินข้าวก็เลิกกดบีบีกะคาบช้อนบ้างก็ดีนะครับ” แหมก็กำลังเพลินนี่หว่า
“แล้วจะเอาไง ทำไมต้องแกล้งแจ่มด้วยละครับ” สุภาพเข้าไว้ปลอดภัยกว่า
“ไม่ได้แกล้งครับพอดีว่าจะหารถกลับบ้านไหนๆเราก็บ้านใกล้เรือนเคียงเห็นน้องขับรถผ่านที่นี่ทุกวัน เลยอยากขอติดรถไปกลับด้วย แค่นั้นเอง”
ไม่ว่าจะเถียงเอาโล่แค่ไหนคุณตำรวจเวรก็ยังแถกไปได้ จนสุดท้ายก็ได้ขึ้นมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในรถคันเดียวกันอยู่ดี
“ส่งตรงไหนบอกละกันครับ” แจ่มบอกอย่างเซ็งๆ
“ที่หัวใจน้องแจ่มน่าจะดีครับ” รถที่กำลังเคลื่อนตัวถึงกับหยุด ด้วยเท้าคนขับกระทืบเบรกแทนหน้าไอ้คนพูด
“เอ่อพี่ครับอย่าออกเสี่ยวแถมนี้ไม่งั้นมีอ้วก” แจ่มว่ากลับหน้าเครียด
“โห แค่นี้ท้องซะแล้วเพิ่งมองตา..” แจ่มมองตอบตาขวาง
“อะแหมล้อเล่น งั้นเอาจริงนะ พี่สนใจแจ่ม แบบอยากจีบ แจ่มจะตอบพี่ว่ายังไงครับ” รถเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงที่หมายแต่ก็ยังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามสุดท้ายนั้น
“ขอเวลาคิดหน่อยละกันครับพี่เก่ง” คนตอบทำหน้าคิดหนัก
“ได้ครับแต่ช่วงที่คิดพี่ขอไปรับไปส่ง เทคแคร์ ดูแลป้อนน้ำป้อนข้าวน้องแจ่มเองนะครับ อ๊ะเดียวจอดตรงประตูรั่วนั้นเลยครับ เดียวพรุ่งนี้พี่หา” ไม่ได้รอคำปฏิเสธแต่กลับรีบลงรถหนีเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว
.
.
.
“เฮ้ยไอ้เก่งกูแค่ให้มึงหาที่อยู่เค้าไม่ได้ไปจับเค้าแบบนั้น” เมื่อเข้ามาถึงตัวบ้านก็มีเสียงถามอย่างเอาเรื่องจากคนเป็นเพื่อนร่วมบ้านที่เพิ่งมาอยู่ได้สองวัน ไอ้เพื่อนคนนี้อยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่มีเหตุไม่เข้ากรุง เพราะความเบื่อรถติด
“เออก็กูหาที่อยู่น้องเค้าให้ไอ้นักสืบต่างจังหวัดไร้น้ำยาอย่างมึงไง แต่กูก็อยากเห็นหน้านี่หว่าว่าคนที่ทำให้มึงหวั่นไหวจะหน้าตาซักแค่ไหนกันแค่นั้นเอ้ง”
“แค่นั้นจริงอะ แล้วรู้หรือยังว่าน้องเค้าอยู่ไหน”
“รู้แล้วน่าเพื่อนคม แต่ไม่ได้เอามาให้”
“ไหงงั้นวะ มึงก็รู้ว่ากูจะกลับวันนี้”
“ก็กูรีบ” รอไปก่อนนะเพื่อนคม อาทิตย์หน้ามาใหม่ค่อยเอาก็แล้วกัน หึหึ ห้าวันพี่เก่งจะทำคะแนนไม่ให้น้องคมเห็นฝุ่นเลย
“เอาน่าเดียวเอามาให้ แล้วกูจะไปดูๆ ให้ด้วยว่าอยู่จริงหรือเปล่า” ผ่านไปอีกหลายรอบ กว่าที่คมจะได้ที่อยู่ของแจ่มอย่างที่ต้องการ เพราะไอ้เพื่อนเก่งลืมตลอด
.
.
.
“เฮ้ยไอ้เก่งกูแค่ให้มึงไปดูลาดเลา กับคอยดูๆ แลๆ ไหงมึงไปนั่งแป้นแร้นบนรถน้องเค้าได้วะ” คมถามคาดคั้นเก่งในเย็นวันศุกร์อีกสองอาทิตย์ต่อมา หลังจากที่แอบเห็นเก่งลงจากรถของแจ่ม
“ก็นี่ไง กูไปดูไปแลอย่าที่สั่งเปี้ยบเลย แล้วกูก็แค่อยากรู้ว่าน้องเค้า นิสัยดีเหมือนหน้าหรือเปล่าแค่นั้นเอ้ง” เก่งตอบเสร็จก็รีบหนีเข้าบ้าน
.
.
.
“เฮ้ยกูรู้ว่าบ้านน้องค้าอยู่ไม่ไกลบ้านมึงแต่ไหงมึงถึงไปยึดรถน้องเค้ามาขับเองอย่างงี้วะไอ้เก่ง” ในเย็นวันศุกร์ที่คมมาค้างที่บ้านเก่ง
“อ๋อ กูรวมรถกับน้องเค้าช่วยชาติ รวมพลังหารสองแค่นั้นเอ้ง” พูดจบก็รีบหนีเข้าบ้านเหมือนทุกครั้งที่คมมาค้างที่บ้าน
.
.
.
“อ๊ะ อ๊า พี่เก่ง โอ้วว อืออ แ..ม อ๊าวว เบา ครับ อือมมมมม” เสียงนี้ ไม่ใช่มั้ง
“ โอ๊วว อ๊า ดีครับ อ๊า อย่างงั้น โอ๊ยย ซี๊ดพี่เก่งจะตายอยู่แล้ว อู๊ยย ซี๊ดด คนดี อ๊า ซี๊ดด อู้วว” เช้าอย่างงี้ มันทำอะไรกันนักหนา
“เอาวะนั่งรอมันก่อนก็ได้ มันคงกำลังนวดกันอยู่มั้ง” คมนั่งรออยู่หน้าห้องอย่างอดทน
“อื้อ ซี๊ดด อื่ม ฮื่ม พี่เก่ง อ๊า แจ่มไม่ อ๊า ไม่ไหวแล้ว” หือ ไอ้เสียงแบบนี้ ชื่อนี้
“อุ๊ก อือม ตั้งแต่เมื่อคืนแจ่ม อ๊า ยังไม่ได้นอนเลยนะ อ๊า โอ๊วว” ตั้งแต่เมื่อคืน ไอ้เลวเอ้ย คมลุกพรวดเปิดประตูเข้าห้องเพื่อนอย่างเร็ว
“ไอ้เก่ง ทำไมน้องแจ่มถึ...” ชายสองคนเปลือยเปล่าอยู่ด้วยกันบนเตียง คนนึงนอนหมอบยกก้นลอยอยู่ด้านหน้า อีกคนกำลังกระหน่ำสะโพกเข้าใส่ถี่ยิบ คนพรวดพราดเข้ามาถึงกับอ้าปากค้าง ตาแทบถลนจากเบ้ากับภาพที่เห็น
“...” สองคนบนเตียง นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น
“อ๊ากก ไอ้เก่ง น้องกู เมียกู” คมเต้นผาง คนบนเตียงแยกออกจากกันอย่างเสียดาย
“แจ่ม... ไอ้เก่ง .. โธ่โว้ย” ด้วยความหงุดหงิดเหลือบรรยาย คมเดินไปกระแทกตัวนั่งที่เก้าอี้ มองอีกสองคนค่อยๆหาผ้าผ่อนมาใส่
“ไอ้เก่งทำไมแจ่มถึงมาอยู่ที่บ้านมึง” คมเค้นเสียงถามออกมา
“อ๋ออันนี้มึงต้องถามน้องเค้าเอาเองว่ะ กูแค่ชวนเฉยๆ เอง” ไอ้เก่งตอบหน้าตากวนทีน ไม่ได้หนีเข้าบ้านอีก เพราะมันอยู่ในบ้านอยู่แล้ว
“แจ่ม ทำไมมาอยู่ที่บ้านไอ้เก่ง” เก่งได้ฟังคำถามกลับเป็นคนงงซะเองทำไมเพื่อนเค้าที่ไม่เคยเจอกับแจ่ม กลับพูดจาเหมือนรู้จักกันมาก่อนแล้ว
“อ๋อแจ่มช่วยชาติหนะครับพี่คม หารสอง หารสอง” แจ่มก็ตอบเหมือนคนกันเองซะเหลือเกิน
“ดีงั้นพี่ช่วยด้วยอีกแรงมันจะได้หารสามกันไปเลยดีกว่า” คมบอกกับแจ่มแต่ตวัดตามาเหล่หน้าเพื่อน
“หมายควายเอ้ยหมายความว่าไงวะไอ้คม” เก่งอดรนทนไม่ได้เลยต้องถามให้เคลีย
“ก็มึงกะน้องแจ่มช่วยชาติกูก็จะช่วยด้วยโดยกูจะย้ายมาอยู่กะมึงที่นี่ไง นอนห้องเดียวกัน กินด้วยกันไปด้วยกัน ประหยัด”
“หา ได้ไง ไม่เอา แล้วมึงรู้จักกะน้องแจ่มด้วยหรือวะ ดูสนิทกันพิกล ไอ้คม บอกกูมา” เก่งปฏิเสธ แต่ยังไม่ลืมข้อสงสัย แต่ลืมเฉลียวกับคำตอบของเพื่อนว่ามันจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
“ก็ไอ้แจ่มมันน้องกู มันหนีออกจากบ้านมาเกือบปี ที่บ้านเค้าให้กูตามสืบหากว่าจะรู้ว่าอยู่แถวนี้ กูกลัวมันจะเตลิดไปอีกเลยให้มึงคอยสอดส่องแต่ที่ไหนได้หนอย ตีท้ายครัวกูซะงั้นนะไอ้เก่ง” คมมองเพื่อนตาเขียว
“อะไรนะ นามสกุลไม่เหมือน หน้าก็คนละบ้านซะขนาดนี้ เป็นพี่น้องกันได้ไงวะ” ไอ้เพื่อนตัวดีไม่มีสลด
“ก็พี่คมเค้าเป็นลูกของป้าแจ่มนี่ครับพี่เก่ง เราเลยใช้กันคนละนามสกุล” แจ่มช่วยคมตอบ
“หาจริงอะ แล้วแจ่มหนีออกจากบ้านทำไมครับ” เก่งคว้าตัวแจ่มมากอด ลูบหลังลูบไหล่ถาม อย่างไม่เกรงสายตาเพื่อนเลย
“ก็เพราะแจ่มชอบผู้ชาย แล้ววันนั้นแม่มาเห็นตอนแจ่มนอนกอดกับผู้ชาย” แจ่มตอบอ้อมแอ้ม
“เลยทะเลาะกับแม่แล้วหอบผ้าหนีมา” คมเป็นคนตอบ แถมมือยังดึงเอาน้องออกจากไอ้เพื่อนหน้าด้านอีกต่างหาก แต่ก็ไม่หลุดจากมือตุ๊กแกซักที
“อะไรวะ แค่เนี้ย ทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต...”
แล้วพอดีว่า ตอนที่เค้ามาเจอเนี่ยไอ้คนนั้นกับแจ่ม เพิ่งเสยกันเสร็จ” เก่งทำท่าเหมือนถามว่า ‘แล้วไง’
“แล้วบังเอิญไอ้คนนั้นก็คือกู” คมบอกเสียงเรียบ เก่งถึงกับแข็งค้างอีกรอบ
ตั้งแต่ลงมือคุยหาข้อสรุปหลังจากเถียงกันจนจะตายไปข้าง และตกลงกันด้วยความไม่สงบนัก ตั้งแต่เช้าจนดึกดื่น ก็ได้ข้อสรุปแค่ว่า แจ่มจะอยู่กับเก่งต่อไป คมเป็นแค่ชู้รักที่จะมาหาแจ่มได้ตามแต่สะดวกเพราะยังไงก็ นานๆ ที ไม่ใช่ทุกวัน คมเองก็คงเอาแจ่มกลับไปบ้านไม่ได้อยู่แล้ว ข้อนี้เก่งเป็นคนสรุป ซึ่งคมเองก็เถียงไม่ออก
ตกกลางคืนเก่งจะเข้านอนในห้องกับแจ่ม แต่ยังไงคมก็ไม่ยอม เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ควรจะเป็นของคม แม้เก่งจะเถียงว่าควรให้เวลาคู่ข้าวใหม่ปลามันอย่างเก่งกับแจ่มบ้าง แต่ถ่านไฟเก่าอย่างคมมีหรือจะยอม คมตามติดเข้ามานอนร่วมห้องด้วยอีกคนจนได้ ไม่ว่าเก่งจะโวยแค่ไหน
“เอาน่าพี่เก่ง ไงซะคืนนี้ แจ่มก็ไม่ไหวแล้วนะ ง่วงจะตาย” แจ่มส่งตาแป๋วเว๋วจนเก่งต้องยอม แต่ก็ยังถีบเพื่อนลงมานอนที่พื้น ส่วนตัวเองกับแจ่มก็นอนสุขโขบนเตียงกันสองคน ดึกสงัด ที่เก่งคิดเอาว่าเพื่อนส่วนเกินนอนหลับสนิทจากความเหนื่อยไปแล้ว เก่งเอามือสะกิดแจ่มกะจะให้หนีไปนอนด้วยกันอีกห้อง แต่แจ่มไม่ยอมตื่น เอาแต่บิดตัวไปมาอย่างน่ารักจนเก่งถึงกับอดใจไม่ไหว ด้วยความลุ่มหลงกับร่างน่ารักตรงหน้าทำเอาลืมอีกคนที่อยู่ร่วมห้องไป
“ไอ้คมมึงอ๊า อย่านะมึง อุ๊ก อือ”
“เอาน่าเก่งเป็นเมียกูอีกคนจะเป็นไร” เก่งพยายามดิ้นรนแต่ก็หนีไปไหนไม่ได้
“น่า เก่งคนดี อย่าดิ้นนะ อือม ทนนิดนะ ชู่ว นั้น อย่างงั้น ซี๊ดด อือม”
“คม อึ๊ก อ๊า ปล่อย อืออ ปล่อยกู”
“น่าเก่ง กูจะได้เสียน้ำมันรถมาหาน้อง หาเพื่อน แถมเมียอีกสองในคราวเดียวเลยไง ประหยัด คุ้ม”
“อ๊าก....... โอ้ย.........อ๊า”
The end