- G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End  (อ่าน 29106 ครั้ง)

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
«ตอบ #60 เมื่อ01-05-2011 01:24:43 »

เพื่อนๆๆ หายไหนกันหมดน้ะ

มาตามไนท์สิ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
«ตอบ #61 เมื่อ01-05-2011 06:23:45 »

เค้าตามมาช่วยแล้ววววววววววววววว

ice-vanilla

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
«ตอบ #62 เมื่อ01-05-2011 22:44:13 »

ไนท์โกรธพระเอกเราทำไมอ่ะ  :o12:

นึกว่าจะคล้อย...

คุณ campping ใจร้ายมาก หวานกันยังไม่ทันไรเลย :serius2:

campping

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #63 เมื่อ02-05-2011 11:45:16 »

ง่ะ ใครว่าผมใจร้ายนะ ...
ไม่จริงหรอกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่เชื่อดูสิ  :laugh:


G E T  L O S T 9 – เมื่อลืมตา
    “^%$&$%$%*^”
    “^&*&”
    “*^&%^%()*)(_(**(&%$%” บทสนทนาสามบรรทัดนี้ ผมเองก็ฟังไม่รู้เรื่องครับ รู้แต่ว่าเป็นเสียงของคนสองคนคุยกัน เป็นชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ผมลืมตาขึ้นทีละน้อยเพื่อจะได้ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม หรือว่า นี่ผมตายแล้ว ? แต่ถ้าตายแล้ว แล้วทำไมยมบาลพูดภาษาจีนวะ !
    “คะ…ใคร” มันจะพูดยังพูดลำบากเลยครับ ผมดันตัวขึ้นจากเตียงเท่าที่แรงของผมมันจะเอื้ออำนวยให้ แต่แล้วแขนของคนคนนึงก็ช่วยพยุงผมให้ขึ้นมานั่งได้ง่ายขึ้น ผมเอนหลังพิงกับหัวเตียงหนีตาทีนึงก่อนจะลืมตาขึ้นมาดู
    “ที่นี่ที่ไหน” ผมพึมพำกับตัวเอง มองไปรอบ ๆ แล้วนี่ไม่คุ้นเลย หรือว่าเราจะอยู่ไทยแล้ว ?
    “โรงพยาบาล” เสียงของคนคนนึงดังขึ้นตอบผม ผมหันไปหาต้นเสียง ไอเสียงแบบนี้ หน้าตี๋ ๆ แบบนี้ เฟยหลง!
    “เฟยหลง!” มันพยักหน้าให้ผม สีหน้ามันดูไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรไป ?
    “เป็นไร ทำหน้าทำตาไม่สดชื่นเลย”
    “………” นั่นคือคำตอบครับ คำตอบของมันคือเงียบ
    “เดี๋ยวนะ…กู…เอ้ย! ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง” ผมเปลี่ยนสรรพนามทันทีที่เหลือตาไปเห็นทุกคนในบ้านมันกำลังยืนมองมาที่ผมอย่างเป็นห่วง ตอนนี้น้ำตาผมแทบจะไหลเลยล่ะครับกับความดีที่พวกเขาทั้งบ้านทำให้ผม ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมอาจจะเป็นโจรด้วยซ้ำ เค้ากลับเชื่อใจผม
    “เฟยหลงไปเจอไนท์เข้าที่ซอยร้างน่ะ”ต้าฟงตอบขึ้นมา ถึงผมจะมองหน้าไม่ชัดเพราะไม่ได้ใส่แว่น แต่ผมก็จำเสียงได้เป็นอย่างดี
    “แล้ว..ไปเจอได้ยังไงหรอ..ครับ ?”
    “มือถือไง” มือถือ ?
    “มือถือ ? ผมไม่ได้ใช้โทรเลยนะครับ” ผมตอบทุกคนออกไป
    “เฟยหลงใช้ระบบ GPS ระบุตำแหน่งไนท์ไว้น่ะ เค้ากลัวหายไปน่ะสิ” อ่อ… เพราะแม่ฝากฝังไว้สินะ
    “ไนท์ ทำไม.. ถึงไปกองอยู่กับพื้นขนาดนั้นล่ะ ?” พี่หลิงหลิงเอ่ยถามผมด้วยความเป็นห่วง
    “ก็… มันมีนักเลงที่ไหนไม่รู้เข้ามาจะปล้นผมแล้วพอดีตอนนั้นกำลังหงุดหงิดอยู่เลยสู้มันเข้าน่ะครับ สู้ไปสู้มา… มันก็เอากระเป๋าตังค์ผมไปได้ แต่พาสปอร์ดไม่น่าโดนขโมยไปครับเพราะว่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง”
    “พวกนักเลงนั่นเอง แล้วทำไมไม่โทรเรียกเฟยหลงหรือร้องให้คนอื่นช่วยล่ะ ?”
    “ผมกำลังโมโห…อยู่น่ะครับ”
    “โมโห ?”
    “ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องเล็กน้อยไร้สาระเท่านั้นเอง ก็ด้วยแรงโมโหเลยทำให้ไม่ทันได้คิดอะไรเท่าไหร่น่ะครับ”
    “วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไทยหรือฮ่องกง หรือที่ไหนก็ตาม มันอันตรายนะ” พี่หลินหลินว่าพร้อมกับลูบหัวผมเบา ๆ เหมือนกำลังโอ๋เด็ก
    “ครับ ผมจะระวังตัวให้มากขึ้น”
    “อ๊ะ! เดี๋ยวพี่ไปก่อนแล้ว วันนี้ตอนสิบโมงเช้าพี่มีบิน”
    “อ่ะ…ครับ ๆ” พี่หลินหลินบอกลาผมแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นพ่อแม่ของไอตี๋ก็ขอตัวไปทำธุระกันก่อนเหลือแค่สามพี่น้องกับผมเท่านั้น
    “นี่ไนท์นอนหลับไปกี่วัน” ผมเอ่ยถามพลางกวาดตามองทั้งสามคน
    “สองวัน” ต้าฟงเป็นคนตอบผม สองวัน…งั้นหมายความว่าหมดเดย์ทริปไปแล้วสิ!
    “สองวัน!! ตอนแรกไนท์ว่าจะไปรอเพื่อนที่สนามบินแล้วกลับพร้อมกัน แต่มันเลยวันมาแล้วอ่ะ ทำไงดี ?” ชิบหายแล้ว ความหวังที่จะได้เจอเพื่อนแล้วกลับพร้อมเพื่อนมันมลายสิ้นไปในทันที กระเป๋าตังค์ก็โดนขโมย ช่างซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรอย่างงี้ เห้อ..
    “พี่เฟยหลงเดี๋ยวผมไปทำงานและฝากดูไนท์ด้วยนะ” ต้าฟงบอกไอหน้าตี๋อย่างรีบ ๆ แล้วเดินออกไปจากห้องอีกคน หลังจากนั้นเจ้าน้องเล็กก็ขอตัวไปหาเพื่อนอีกเลยเหลือแค่ผมกับไอหน้าตี๋แค่สองคนเท่านั้น
    “เป็นแค่ลูกหมายังจะทำซ่าอีก” นี่มึงคิดจะซ้ำเติมกูใช่มะ ? ใช่สิ! กูมันคนทำมึงซวยนี่ ทำมึงต้องลำบาก
    “มึงน่าจะปล่อยให้กูตายไปเลยนะ”
    “ไร้มนุษยธรรมเกินไป”
    “หึ!” อย่างมึงน่ะมีมนุษยธรรมที่ไหน ที่จริงก็แค่แม่มึงฝากดูกูเฉย ๆ ใช่มั้ยล่ะ
    “เห้ย เจ็บ!!” อยู่ดีดีมันก็เอามือมาจับที่แก้มผมข้างที่โดนต่อยครับ แค่มันแตะนิดเดียวผมก็ร้องจ้ากแล้ว ก็มันเจ็บนี่หว่า เจ็บชะมัด
    “ทำซ่า” เสียงมันแผ่วลงกว่าทุกครั้งที่ผมเคยได้ยินมา น่าแปลกจริงเวลาฟังเสียงไอหมอนี่แผ่ว ๆ แล้วก็ดูดีเหมือนกันแฮะ
    “เสือก!” ผมว่าแล้วเบนหน้าหนี เห้อ ถ้าจะด่ากูก็ออกไปดีกว่ามั้งเนี่ย
    “แล้วจะเอาไงต่อ ?”
    “กลับไทยเลยก็ได้มั้ง…คงต้องขอยืมเงินจากบ้านของมึงก่อนแหละ” ก็เงินพึ่งโดนขโมยไป คงไม่มีปัญญาไปหามาจากที่ไหนหรอก
    “ไม่อยากเที่ยวฮ่องกงก่อนหรอ ?”
    “เจอไปขนาดนั้น ไม่อยากเที่ยวแล้วล่ะ”
    “นั่นเพราะมึงไม่มีกู”
    “ห๊ะ!?” มันหมายความว่ายังไงฟระ!
    “ไอควาย เพราะมึงเซ่อไงเลยโดนขนาดนี้” ตอนแรกกูคงหูฝาดไปมั้ง ตอนนี้เนี่ยแหละใช่มึงเลย ปากแบบเนี้ย!
    “เออ! กูมันเซ่อ อย่ามายุ่งกับกูเลย”
    “แล้วตกลงจะกลับบ้านเลยหรอ ?” มึงจะถามกูซ้ำ ๆ ทำไมวะ!
    “แหงอยู่แล้ว คิดถึงที่บ้านจะแย่อยู่แล้วด้วย ป่านนี้เพื่อนกูห่วงแย่แล้ว”
    “ไม่ห่วงหรอก”
    “ห๊ะ ?” ทำไมมันพูดแมว ๆ งี้ฟระ เพื่อนกูคนดีเว้ยไม่เหมือนมึงหรอก
    “โทรศัพท์มึงที่เอามาจากไทย เปิดต่างประเทศไว้ใช่มั้ยล่ะ ? ตอนแรกมันโทรหากันไม่ได้หรือไม่เพื่อนมึงก็ไม่ได้เอามา แต่เมื่อวานนี้เพื่อนมึงถึงไทยแล้วเลยโทรหา กูก็ให้แม่กูคุยว่ามึงอยู่กับพวกกูเรียบร้อยแล้ว แม่กูบอกไปแล้วด้วยว่าอีกไม่เกินอาทิตย์มึงถึงจะกลับ”
    “แล้วเพื่อนกูไม่มีคนบอกว่าจะบินกลับมาเลยหรอ ?” แน่ล่ะผมหมายถึงไอเช่ครับ เพราะไอนี่มันห่วงเพื่อนสุด ๆ ไปเลย
    “มี แต่แม่กูบอกไม่ต้อง เพราะที่นี่ไว้ใจได้ ก็เล่นแจ้งชื่อ ถ่ายเอกสารทุกอย่างที่ระบุได้ส่งไปให้เพื่อนมึงดู เค้าคงเชื่ออยู่แล้วล่ะ”
    “อืม…” ไม่รู้จะตอบว่าอะไรต่อดี เห้อ… ถ้ากลับเลยก็ดีเหมือนกัน จะได้ไปประเทศตัวเองสักที!
    “ไม่อยากอยู่เที่ยวต่ออีกหน่อยหรอ ?” มันเป็นอะไรวะวันนี้ อยากให้กูอยู่จังฮ่องกงเนี่ย
    “มีอะไรล่ะ ?” ถามแบบนี้แสดงว่ามีเงื่อนงำ ถามซะหลายรอบเลย
































    “อยากรู้รึเปล่าล่ะว่าทำไมกูถึงจูบมึงวันนั้น”



หึหึหึหึหึหึ
ผมใจดีใช่ป่ะล่าาา ? :laugh:

ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านงับ  :pig4:

ออฟไลน์ Heladasless

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #64 เมื่อ02-05-2011 11:58:26 »

 :sad4: :a5:นั่นแน่มีซัมติ้งใช่มะละ  o18.     :L2:

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #65 เมื่อ02-05-2011 12:58:34 »

อยากให้เค้าอยู่เที่ยวอะดิ  แกล้งเล่นตัวดีป่ะ  o18

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #66 เมื่อ02-05-2011 14:20:15 »

จับทำเมียแล้วขังไว้นี้หละไม่ต้องให้กลับหรอก อิอิ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #67 เมื่อ02-05-2011 14:32:41 »

แอบรำคาญเฟยหลง
นี่ชอบหรือว่ากวนส้นตรีนเฉยๆ เนี่ย

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #68 เมื่อ02-05-2011 14:49:41 »

เฟยหลง ชอบเค้าก็บอกเค้าไปดิ
เล่นตัวอยู่นั่น

 :m16: :m16:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #69 เมื่อ02-05-2011 19:05:21 »

ค้างเลยแบบนี้แหมแล้วทำไปเพราะอะไรละเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
« ตอบ #69 เมื่อ: 02-05-2011 19:05:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #70 เมื่อ02-05-2011 19:39:13 »

ใจดีมากกกกกกกกกกก  :z3:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #71 เมื่อ02-05-2011 20:10:13 »

เฟยหลงชอบเขาเข้าแล้วซี ทำเหมือนยังไม่อยากให้เขากลับไทยน่ะ
แต่สงสัยฟอร์มเยอะ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมแสดงออกตรงๆ ชิส์

ice-vanilla

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #72 เมื่อ02-05-2011 20:13:18 »

ไนท์อย่าเพิ่งกลับไทยเลย

อยู่รักกับเฟยหลงก่อน ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #73 เมื่อ02-05-2011 20:16:12 »

อยากรู้ว่าทำไมเฟยหลงถึงจูบ

ออฟไลน์ Papoonn

  • inspiration <3
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
«ตอบ #74 เมื่อ02-05-2011 20:44:29 »

อยากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  !
หมายถึงเค้าอ้ะ  เค้าอยากรู้  ><     
มาต่อเร็วเน้อ  +1 ให้เฟยหลง  อิอิ 

campping

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
«ตอบ #75 เมื่อ03-05-2011 10:32:01 »

กระซิก ๆ :o12: มีคนหมั่นไส้เฟยหลง ม่ายยยยยยยย

งั้นคงต้องรำคาญพระเอกเราไปอีกสักสองสามตอนนะคับ  :laugh:


G E T  L O S T 10 – กระเช้า 360 องศา
    “โห วิวที่นี่สวยดีว่ะ!” ผมมองลงไปที่พื้นกระจกแก้ว เห็นวิวด้านล่างแบบ 360 องศา มันเป็นวิวที่ลืมได้ยากจริง ๆ ครับ เหมือนเราอยู่บนเครื่องบินแก้วที่ใสแจ๋วจนมองเห็นได้ทุกส่วนของเกาะฮ่องกง
    “นั่งลงได้ป่ะวะ เดี๋ยวแม่งตก”
    “มึงกลัวอ่ะดิ!”
    “ใครกลัว ?”
    “มึงไง” ผมว่าแล้วขำออกมาเล็กน้อย ที่ความสูงจากพื้นดินระดับนี้คนจะกลัวมันก็ไม่แปลกหรอกครับ แต่พอดีผมชอบ ตอนนี้พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปไหว้พระกันครับ เรียกว่าอะไรหรอ ? ช่างมันเหอะผมจำไม่ได้ จำได้แต่ว่าเป็นกระเช้า 360 องศา (มันชื่อนี้จริง ๆแต่เป็นชื่อจีน) เมื่อเช้าไอ้ตี๋มันปลุกผมเช้ามากครับมันบอกเดี๋ยวคนเยอะ มาถึงก็หกโมงเช้า แต่ก็คุ้มค่าล่ะครับ มันสวยจริง ๆ และแน่นอน สภาพผมตอนนี้ทั้งฟกช้ำ มีผ้าปิดแผลเพียบ ก็พึ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานมันก็ลากมาแล้วครับ
    “แล้ววันนี้เดี๋ยวไปไหนต่อรึเปล่า ?” ผมหันไปถามไอ้ตี๋ที่นั่งนิ่งมองทางข้างหน้าอยู่ ผมก็รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ได้กลัวหรอก แต่มันคงเบื่อการนั่งรอคอยมั้ง
    “มึงจะไปไหนล่ะ ?”
    “ดิสนี่แลนด์!!” อย่าหาว่าผมปัญญาอ่อนนะครับ มาฮ่องกงใครไม่อยากไปดิสนี่บ้าง ?
    “เออ ก็คิดไว้เหมือนกัน”
    “แล้วที่ไหนอีก ๆ”
    “เดินดิสนี่แลนด์ก็หมดเวลาแล้ว มึงนี่ควายจริงไอลูกหมา” กูอยากจะอัดเทปให้มึงฟังจริง ๆ ว่า ‘กูไม่ใช่คนฮ่องกง!!’
    “เออ!” จากการที่เราตกลงกัน ผมจะกลับไทยภายในวันพรุ่งนี้ครับ ถือเป็รการอนุโลมที่สุดแล้วสำหรับคนหลงทางอย่างผม ทั้งเกรงใจมันแล้วก็คิดถึงที่บ้านกับเพื่อน ๆ มากเลยด้วย
    “ถึงแล้วโว้ย ๆ!” ผมตะโกนอย่างดีใจทันทีที่เห็นกระเช้าเลื่อนเข้าเทียบท่า พอลงกระเช้าเสร็จไอ้ตี๋มันรีบเดินนำหน้าผมออกไปอย่างเร็ว มึงยังต้องกลัวเสียเวลาหรอวะ นี่พึ่ง 8 โมงกว่า =  =
    “กูนึกออกแล้ว” นึกอะไรของมึงออกวะ อยู่ดีดีก็พูดมา กูอ่านใจมึงไม่ได้นะ ผมเลิกคิ้วให้มันข้างนึงเป็นคำถามว่า นึกอะไรออก(วะ?)
    “มีอีกที่นึง หลังจากดิสนี่แลนด์แล้วจะพาไปเป็นที่สุดท้าย”
    “คือ ?”
    “เดี๋ยวก็รู้เองแหละ ตามมานี่เดี๋ยวมึงก็หลงอีก!” ทำเสียงหงุดหงิดอีกและ ทำไมมันช่างเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เผด็จการแบบนี้วะ มันดึงแขนผมไปข้างนึงให้เดินตามมันแต่..
    “โอ้ย!” ไอเชี้ย ดึงให้มันเบา ๆ หน่อยไม่ได้เรอะไงฟระ นี่คนป่วยนะ!
    “เป็นไรลูกหมา” มันถามเสียงค่อยแล้วปล่อยมือผมก่อนจะหันมาดูที่แขนผม
    “กูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ มึงเบา ๆ ไม่เป็นหรอวะ แรงก็เยอะ โอย…” ผมคลำจุดที่ช้ำป้อย ๆ ปวดจากแผลไม่เท่าไหร่ แต่ปวดจากที่มึงดึงเนี่ย เยอะ!
    “เออ งั้นเอางี้” ไอ้ตี๋เอามือมันมาจับที่มือผมเบา ๆ ไอ้เชี้ย ทำไรวะ!
    “ทำไรวะ!”
    “จูงหมา” ขอบใจ! ไม่ใช่คำตอบที่กูอยากได้เลยแม้แต่น้อยว่ะ
    “เชี้ย ปล่อยเลย ๆ กูเดินเองได้” ผมทำท่าจะสะบัดมือจากมันแต่มันหันกลับมามองด้วยตาลีบ ๆ ของมันอย่างอารมณ์เสีย นี่กูผิด ?
    “กูขี้เกียจหามึงอีก” มันไม่ฟังคำผมต่อแต่จูง(ลาก)ผมไปตามตัวมันเลย เห้อ! ผู้หญิงคนไหนได้มึงเป็นแฟนคงต้องทำใจยาวเลยว่ะ
    “แล้วนี่จะเดินไปไหนอ่ะ ทำไมไม่แวะข้างทางดูมั่ง ๆ” ผมกระตุกมือมันเบา ๆ แต่มันไม่สนใจยังคงลากผมต่อไปข้างหน้าแล้วหยุดลงตรงบันไดสูงประมาณสองร้อยขั้นที่บ้านบนมีพระพุทธรูปประทับอยู่
    “จะขึ้นไปไหว้รึเปล่า ไหวเปล่าไอลูกหมาซมซาน” หยามกูมากอ่ะ!
    “ไหวเดะ ไปเดี๋ยวนี้เลยอย่าให้เสีย!” ผมว่าแล้วลากมันบ้างแต่มันกลับหยุดนิ่งจนผมต้องหันไปมอง
    “อะไรเสีย ?” ห๊ะ ? แล้วอะไรวะเสีย ? อ๋อสงสัยมันงงคำว่าอย่าให้เสีย
    “มันเป็นคำของไทย นี่มึงไม่รู้คำวัยรุ่น ๆ เลยหรอวะ ?”
    “ลึก ๆ กูก็ไม่รู้เว้ย!”
    “เออ ๆ ช่างเหอะ ไปเหอะเสียเวลา” ผมว่าแล้วออกเดินนำมันอ้อมเคาน์เตอร์ขายของที่ระลึกไปที่บันไดอย่างรวดเร็ว
    “เรามาแข่งกันดีกว่าไอ้ปากหมา”
    “ใครปากหมา ?” กูดีใจมากที่เห็นมึงทำหน้าหงุดหงิดได้ ฮ่า ๆ
    “มึงไง”
    “ไอ้ลูกหมา!!” มันทำท่าจะต่อยผมแต่ผมดีดตัวขึ้นบันไดไปก่อนมันสี่ขั้นแล้วหันกลับมามองหน้ามัน
    “แน่จริงก็ตามให้ทันเดะ ไอ้ ปาก หมา!” ผมว่าแล้วแลบลิ้นปลิ้นตาให้มันก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ไอ้หน้าตี๋มันก็วิ่งตามผมมาติด ๆ แต่น่าเสียดายที่กูวิ่งเร็วกว่าว่ะ ฮ่า ๆ
    “โห ลุงระวังเหนื่อยตายนะ” ผมหันไปหามันที่กำลังเดินหอบเล็กน้อย ตอนนี้พวกเราได้ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
    “ฝากไว้ก่อนนะ … นี่เห็นว่าเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากทำร้ายสัตว์” ขอบใจนะ! ฮ่า ๆ แต่จริง ๆ ผมก็ดูออกครับ มันก็ไมได้เหนื่อยมาก เหมือนผมนั่นล่ะ
    “เอ้า ขอพรจากพระซะแล้วจะได้นั่งกระเช้ากลับ”
    “อย่าบอกนะว่ามาแค่นี้ ?”
    “ก็ถ้ามึงจะแวะร้านในเมืองจำลองกูก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอพรได้แล้วมึงอ่ะ”
    “เดี๋ยว ๆ”
    “อะไร ?” มันหันมาหาผมอย่างหงุดหงิด
    “พระท่านฟังภาษาไทยออกหรอ ?”
    “ไอสัด!”
    “ด่ากูทำไม กูถามจริงนะเนี่ย!!” ผมตะคอกใส่มัน มันส่ายหน้าให้ผมอย่างเอือมก่อนจะตอบ
    “เค้าว่ากันว่าภาษาที่เราใช้กันอยู่บนโลกนี้เป็นภาษาสมมติ ถ้าเป็นเทพหรือพนะพุทธเจ้าล่ะก็จะฟังออกทุกภาษา มึงนี่ไม่มีความรู้เอาซะเลยนะ”
    “ไอเชี้ย ถ้ารู้แล้วจะถามมั้ย ?” พอจบสงครามน้ำลายขนาดย่อมแล้วผมก็เริ่มขอพรตามที่ใจผมคิดไว้
    “มึงขอบ้าน ที่ดิน อยู่หรอไงวะ ?” ไอ้ตี๋มันถามผมหลังจากที่มันขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่งไม่รู้หรอเนี่ยว่ารังแกคนกำลังสวดมนต์มันบาปนะเฟ้ย
    “เปล่าเว้ย!” ผมตอบมันหลังจากที่สวดมนต์พอพรเสร็จ
    “มึงขออะไร ?” ไอ้ตี๋ถามผมตอนที่พวกเราเริ่มออกตัวจะเดินลงจากบันได มือมันนี่ก็ติดกาวจริง ๆ แค่ลงบันไดกูคงไม่หลงหรอกเว้ย!
    “ไม่ใช่เรื่องของมึง” ผมตอบเสียงหลงแล้วหันหน้าไปหามัน
    “แล้วมึงล่ะ ขอไร ?”
    “ก็ไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้ลูกหมาหลงทาง!” ผมทำท่าล้อเลียนท่าทางของมันเล็กน้อยทำเอามันโมโหขึ้นมานิดหน่อย


หึหึ ถ้าถามว่ากูขออะไรน่ะหรอ




หลายอย่างเลยล่ะไอ้ตี๋





แต่อย่างนึงคือ..























กูอยากให้มึงปากไม่หมากับกูบ้าง!

 :pig4: ค้าบ ฝากด้วยเน้อ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกเม้นนะงับ ^ ^

ปล ผมใจดี เห็นมั้ยยย ????





ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
«ตอบ #76 เมื่อ03-05-2011 11:12:01 »

เฟยหลงอ่ะ พูดจาให้มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง

 :m16: :m16:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
«ตอบ #77 เมื่อ03-05-2011 11:48:20 »

ผัวก็หมา เมียก็หมา อิิอิ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
«ตอบ #78 เมื่อ03-05-2011 12:20:58 »

ในวันเที่ยวส่งท้ายนี้เชื่อว่า ทั้งสองคนต่างก็คงทำใจตัวเองหล่นใส่ใจซึ่งกันและกันไปแล้วม้างงง

campping

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
«ตอบ #79 เมื่อ08-05-2011 23:25:49 »

เย้ มาลงฉลองวันเกิดตัวเอง  :mc4:


และก็


จะบอกว่า
ใกล้
ถึง
จุด
คลายแม็กซ์ ซะที ขอบคุณทุกท่านคับบบ



G E T  L O S T 11 – Disney Land Hong Kong
    “สวยจริง ๆ ด้วยว่ะ” ผมว่าขณะกำลังกวาดตามองทางเข้าที่ยาวเป็นร้อยเมตรของที่แห่งนี้ มันประดับประดาไปด้วยดอกไม้กับต้นไม้อย่างสวยงาม สถาปัตยกรรมชั้นยอด ก็เหมือนในการ์ตูนเลยจริง ๆ นั่นแหละ
    “ธรรมดา คนฮ่องกงมาที่นี่ครั้งเดียวก็เบื่อแล้ว” ไอ้ตี๋ยักไหล่แบบไม่ยี่หระแล้วดึงมือผมให้เดินตามมันไปอย่างแผ่วเบา มันคงรู้ว่าผมเจ็บมั้งเลยเริ่มใช้แรงน้อยลง
    “ขอบอกไว้ก่อนนะที่ซื้อนี่ต้องจ่ายกูคืนด้วยนะ!” มันยกของที่มันถือให้ผมขึ้นมาให้ดู ผมยักไหล่ไม่สนใจมันแล้วเดินต่อไปพลางมองไป ไอของพวกนี้น่ะหรอครับ ก็หลังจากลงมาจากไหว้พระแล้วก็เจอร้านคนไทย ก็เลยไปอุดหนุนแว่นกันแดดกับหมวกมา แล้วเดิน ๆ อีกก็เจอพวงกุญแจอีก สวยดีก็เลยซื้อมา แต่ก็อย่างที่รู้ ผมไม่มีเงิน เลยให้มันออกไปก่อนเท่านั้นเอง นี่มันทวงตั้งกะขึ้นกระเช้ากลับยันมาดิสนี่แลนด์เลยนะเนี่ย =  =
    “เอ้า บัตร” มันส่งบัตรทางเข้ามาให้ผมเป็นลายสติช น่ารักดี แต่กระดาษมันค่อนข้างอ่อนอยู่นะเนี่ย ก่อนมันจะเดินนำผมไปตรงทางเข้าที่ต้องสอดบัตรเหมือน BTS บ้านเรา
    พอเราผ่านทางเข้าไปสิ่งแรกที่เห็นคือพุ่มดอกไม้ที่ปลูกไว้เป็นรูปมิกกี้เม้าส์! ทำไมมันน่ารักอย่างนี้เนี่ย ผมล่ะอยากถ่ายรูปใจจะขาดแต่ไอ้ตี๋มันบอกว่าไม่มีกล้อง ไม่ได้เอามา สาด! แล้วมาเที่ยวทำไมไม่พกกล้องฟระ! หลังจากที่ผมมองดูซุ้มดอกไม้ตรงหน้าอยู่พักใหญ่มันก็จูงมือผมไปที่ชานชาลารถไฟมิกกี้ ! นอกจากคนจะเยอะแล้ว คนขับยังสวยด้วย
    “นั่งรถไฟไปไหนอ่ะ ?” ผมถามมันเมื่อเห็นว่ามันใกล้ถึงคิวของเราเต็มที่แล้ว นี่กูยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหนเนี่ย
    “….” มันเงียบครับ เห้อ… กลุ้มใจ เดินทางกับมันมีแต่ความกวนประสาท แล้วแต่อารมณ์มันน่ะครับว่าถ้ามันอารมณ์ดีมันก็คุยด้วย ถ้าไม่ดีก็ไม่คุยไม่งั้นก็กวนตีนผม ไรฟระ
    ตอนนี้รถไฟได้มาจอดที่ชานชาลาแล้วครับ เป็นรถไฟเหมือนในการ์ตูนเลย แต่ที่นั่งให้หันมาแค่ฝั่งเดียว พวกผมเลือกเข้าไปตรงโบกี้ที่ใกล้ที่สุดเพราะคนมันแย่งกันเข้าเกือบตาย นี่ขนาดมีพนักงานคอยจำกัดจำนวนคนนะเนี่ย
    รถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาอย่างเชื่องช้า และแล้วคุณโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศบอกถึงสถานที่ที่เราผ่านไป ก็มีป่าวิเศษไรเงี้ยเป็นภาษาอังกฤษ จีนกลาง จันกวางตุ้งตามลำดับ อยากบอกว่าปวดหัวมากตอนฟังทั้งสองจีน ฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย! พอรถไฟมาหยุดที่ชานชาลาอีกแห่งหนึ่งไอ้ตี๋มันก็บอกให้ผมลง ผมก็ตามมันลงไป ก็เป็นสถานีที่มีเครื่องเล่นเยอะอยู่ แต่ถ้าให้กวาดตามองแล้วล่ะก็ มีแต่เครื่องเล่นที่รุนแรงทั้งนั้นเลย! ม้าหมุนขนาดยักษ์  ล่องเรือไปตามสายน้ำ  ของเล่นที่หมุน ๆ แล้วเวลากดปุ่มมันจะยกขึ้นไปประมาณยี่สิบเมตร แลดูน่าเล่นน่ากลัวทั้งนั้น =  =
    “อะไรที่มันน่ากลัวสุด ?” ผมถามมันหลังจากที่เดินดูแถวนั้นจนทั่ว ใช้เวลาแค่สี่สิบนาทีนี่กูเดินทั่วดิสนี่แลนด์ฮ่องกง!!! พระเจ้า ช่างใหญ่อะไรอย่างงี้
    “รถไฟเหาะมั้ง”
    “รถไฟเหาะ!!” ในที่สุด กูก็เจอของเล่นที่กู(พอจะ)เล่นได้สักที
    “พาไปหน่อยดิ ๆๆ” ผมดึงมือมัน เมื่อกี้จริง ๆ คงผ่านมาแล้วล่ะแต่มองไม่เห็นเพราะบางอันมันไม่ใช่เครื่องเล่นในที่เปิดโล่ง
    “เออ ๆ” มันทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม เออให้มันได้อย่างงี้ แต่ก็ยังดีวะที่มันเดินจูงผมไปถึงที่จนได้
    “คน เยอะ ชิบ หายเลยว่ะ!” ผมบ่นงุบงิบ ให้ตายเหอะคนหรือหนอน มันเป็นแถวต่อแบบธนาคารไทยพาณิชย์อ่ะครับ แต่มีตั้งเจ็ดแถว =  = สาด…
    “งั้นใช้ Fast Pass แล้วกัน”
    “Fast Pass ?”
    “เออ มันเป็นโปรแกรมของที่นี่ แค่ใส่บัตรไปที่เครื่องมันก็จะปริ้นใบออกมาให้ว่ามาอีกทีกี่โมง เราก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วก็เข้าได้เลย ไม่ต้องรอ” อ๋อ… ดีจังเลยเว๊ย ที่ดรีมเวิร์ลบ้านเราน่าเอามาทำมั่งนะเนี่ย ว่าแล้วไอ้ตี๋ก็พาผมไปกดเครื่องที่มันบอก เวลาที่เราได้คือบ่ายสามโมง อืม ไม่นานหรอกครับ แค่สองชั่วโมงเอง!
    “แล้วระหว่างนี้จะไปทำอะไรอ่ะ ?”
    “แล้วมึงอยากทำอะไรล่ะ?”
    “อืม…. อยากกินข้าวแล้ว หิวแล้ว”
    “เออ มีโรงอาหารอยู่ แต่มึงต้องกินให้หมดนะ” แล้วเราก็เดินไปที่โรงอาหารซึ่งมันทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมมันบอกว่าต้องกินให้หมด อาหารจานนึงคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300 กว่าบาทครับ แต่! จานใหญ่มากก ใหญ่มากจริง ๆ ทำเอาผมถึงกับอึ้ง มันเป็นจานหลักจริง ๆ ด้วย แต่ผมไม่สนหรอก ทำตกใจไปงั้นจริง ๆ ก็กินหมดอยู่แล้วล่ะ
    “เครื่องบินพรุ่งนี้ออกตอนกี่โมงนะ ?” ผมเริ่มถามมันหลังจากที่เรารับจานข้าวมานั่งที่โต๊ะแล้ว มันเงยหน้าขึ้นจากจานที่มันกำลังจะกินเล็กน้อย มองผมด้วยสายตาแปลก ๆ
    “แปดโมงเช้า เวลาที่นี่ ถ้าที่ไทยก็เจ็ดโมงเช้า ไปถึงประมาณสิบโมง ที่ไทยก็เก้าโมง โทรไปบอกให้คนมาเตรียมรับไปด้วยล่ะ” มันก้มหน้าก้มตาลงกินต่อ
    นี่คงเป็นการกินข้าวกับมันที่เงียบที่สุดนับตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอมันมา เราต่างคนต่างกินไป ผมคิดว่าเราต่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ สำหรับมัน ผมก็คงเป็นแค่คนหลงทางธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่บังเอิญไปเจอเข้า หรือจะเรียกว่าเป็นลุกหมาหลงทางมันก็ไม่ผิดนักหรอก พอลูกหมาเจอฝูงหรือหนทางกลับบ้านแล้วก็จะได้พ้นจากความดูแลของคนที่เก็บมาเสียที แต่สำหรับผม ถ้าเปรียบผมเป็นลูกหมา ผมคงเป็นลุกหมาหลงทางที่โชคดีมาก อย่างน้อยก็มีคนที่ปากเสียอย่างมันเก็บไปดู มันน่ะปากหมาแต่จิตใจดีนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจผมมาตลอดนั่นก็คือ มันจูบผมวันนั้นทำไม ถ้าถามว่าผมรังเกียจมันมั้ย ? ตามความจริง ควรจะรังเกียจ ก็ผู้ชายด้วยกันจะมาจูบกันแบบนี้มันถูกที่ไหนล่ะ ? แต่ผมกลับไม่ปฏิเสธมันตั้งแต่เริ่มต้น ก็อย่างที่บอก ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไม ผมคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นแหละครับ ผมอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้
    ผมไม่กล้าเชื่อใจตัวเองได้ว่า วันนั้นที่มันถามผมว่าอยากเที่ยวต่อไหม แล้วมันจะบอกเหตุผลของมันกับผม ผมตัดสินใจมาเพราะเหตุผลนี้รึเปล่า ผมไม่แน่ใจจริง ๆ ผมรู้แค่ว่าเวลาอยุ่กับมันแล้วก็ดีเหมือนกัน มันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก หลังจากสองวันแรกที่ผมได้เจอมันและครอบครัวของมัน จะนับว่าทริปนี้เป็นทริปฮ่องกงที่ดีที่สุดทริปหนึ่งก็ว่าได้ แต่จะว่าไม่ดีก็ได้เพราะผมดันไม่ได้เที่ยวกับเพื่อน แต่คิดในแง่ดีดีกว่าอย่างน้อยผมก็รู้จักคนดีในโลกนี้เพิ่มนี่นา
    “เอาอะไรอีกมั้ย ?” เฟยหลงถามผมเมื่อมันเห็นผมกินเสร็จ ผมส่ายหัวเป็นคำตอบให้มันไป
    “บ่ายสองโมงสิบนาทีเอง เห้อ อยากเล่นแล้วอ่ะ”
    “อีกแค่ชั่วโมงเดียวเอง หรือจะกลับกันก่อน ?”
    “กลับตอนนี้แล้วไปไหนฟระ =  =” มันส่ายหัวยิ้ม ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นจากหน้ามันเท่าไหร่ ให้กับผมเบา ๆ ถึงจะแค่แวบเดียว แต่มันยิ้มจริง ๆ นะ
    “ทำไม ถึง….จูบกู” ผมได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปแบบนั้น ผมแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตอนนี้ตาผมมองลอดแว่นไปสบกับตาตี่ ๆ ของมัน
    “เพราะว่า…..”
    “เพราะว่า ?” ผมทวนคำถามซ้ำ มันหลบตาลงเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
    “มันยังไม่ถึงเวลานะ” มันว่าแล้วเอามือตบเข้าที่แก้มผมเบา ๆ
    “อืม” ผมตอบมันแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้เหยียดตัวไปตามความยาวพนักพิง ตามความจริงกูซึ่งเป็นผู้เสียหายต้องมีสิทธิ์ที่จะรู้สิวะ
    “แล้วคิดจะบอกเมื่อไหร่ ?”
    “ที่สุดท้าย” ผมลอบถอนหายใจแผ่วเบา ตอนนี้ในใจผมมันเต้นตูมตามไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ แต่มีความรู้สึกว่ามันตื่นเต้นที่จะได้ยินคำตอบ
    “ไปเดินดูของฝากได้เปล่า เผื่อจะซื้อกลับไปฝากใครมั่ง”
    “ได้สิ” มันว่าก่อนจะลึกขึ้นพร้อมกับผมแล้วส่งมือของมันมาจับเข้าที่มือของผมเช่นเคย น่าแปลกที่ผมไม่มีความคิดที่จะสะบัดมันออกไปเลยแม้แต่น้อย
    เราเดินไปถึงร้านที่เป็นร้านเฉพาะเพื่อขายของที่ทำมาจากดิสนี่ มันตกแต่งอย่างสวยงาม มีไฟสีส้มอ่อนดูโรแมนติกดี คนคลาคล่ำเต็มร้านไปหมด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งซะมากกว่า ผมเดินไปเลือกไป แต่ที่ได้มาก็แค่พวกพวงกุญแจสวย ๆ ประมาณสิบพวงมั้ง แน่นอน เฟยหลงจ่าย ! หลังจากที่ผมเลือกของเสร็จเรียบร้อยก็ใกล้เวลาพอดี พวกเราเลยเดินไปที่สถานีรถไฟเหาะแล้วยื่นบัตรผ่านเข้าไปเลย สมแล้วที่เรียกว่า Fast Pass
    รถไฟที่ให้นั่งเป็นเหมือนรถไฟตะลุยอวกาศของบ้านเรา มันมีทั้งหมดสิบสองที่นั่ง 6 คู่ แน่นอนว่าผมนั่งกับมัน ก่อนจะเล่นยังมีการบอก ถ้ากลัวก็หลับตาไปตลอดเลยก็ได้นะ ฮ่า ๆ ผมไม่เคยกลัวของแบบนี้อยู่แล้ว! และแล้วรถไฟเหาะก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลา อยากจะบอกว่าเหมือนรถไฟตะลุยจักรวาลจริง ๆ แต่ว่าโค้งและความหวาดเสียวมันมีมากกว่า ถ้าถามว่าเทียบกับรถไฟเหาะบ้านเราล่ะ ? เอ่อ..รถไฟเหาะบ้านเราสนุกกว่าครับ
    พอเล่นเสร็จก็เดินออกมาจะเป็นร้านขายของที่ระลึก (อีกแล้ว) แต่ว่าคราวนี้มันมีขายภาพด้วยครับ ภาพของคนที่เล่น เค้าจะซ่อนกล้องไว้ แอบถ่ายตอนพวกเราเผลอ
    “มึงทำหน้าฮามากอ่ะไอ้ตี๋!” ผมยืนขำกับภาพที่มีเราสองคนอยู่ ไอ้ตี๋มันทำหน้านิ่งมาก แต่ด้วยความแรงของลมผมมันเลยพัดเป็นทรงแปลก ๆ ตลกดี ส่วนผมก็นั่งอ้าปากกว้างกำลังร้องอย่างเมามันส์
    “เอารึเปล่าล่ะ ?” ผมยักหน้าหงึก ๆ ที่อยากได้ไม่ใช่อะไรหรอก






ก็แค่…ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งได้มาดิสนี่แลนด์…







กับมึงไงเฟยหลง




ว่าแล้วมันก็เดินไปขอซื้อภาพมาสองใบ ส่วนอีกใบนึง
















มันเก็บไว้เอง…







ใกล้แล้ววววววววววววววว ^ ^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
« ตอบ #79 เมื่อ: 08-05-2011 23:25:49 »





ออฟไลน์ Heladasless

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
«ตอบ #80 เมื่อ09-05-2011 00:03:54 »

เฟยหลง หลงเข้าให้ซะแล้ว o18
เป็นกำลังใจให้จ้า :L2:
 :z13: :z13:

ออฟไลน์ iranen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
«ตอบ #81 เมื่อ09-05-2011 02:16:33 »

อยากอ่านความคิดของเฟยหลงนะว่าคิดยังไง
ไม่ใช่ตามไปไทยด้วยหรอกนะ

ออฟไลน์ Heladasless

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
«ตอบ #82 เมื่อ09-05-2011 02:31:54 »

อยากอ่านความคิดของเฟยหลงนะว่าคิดยังไง
ไม่ใช่ตามไปไทยด้วยหรอกนะ
เห็นด้วยเฟยหลง หลงตามไปไทย :impress2: :m20:

KM

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
«ตอบ #83 เมื่อ09-05-2011 10:16:47 »

แฮปปี้เบิร์ดเดย์ย้อนหลังคร้าบบ  มันหนุกมาก อ่านตามรวดเดียว

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
«ตอบ #84 เมื่อ09-05-2011 10:40:00 »

อยากอ่านพาสเฟยหลงบ้าง

 :L1: :L1:

campping

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
«ตอบ #85 เมื่อ09-05-2011 20:17:24 »

ฮี่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เรื่องตอนฮ่องกงจะปิดฉากแย้ว ^ ^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาครับผม



G E T  L O S T 12 – Star Avenue
    แสงหลากสีแข่งกันเฉิดฉายขึ้นบนตึกระฟ้าทั่วเมืองฮ่องกง เมื่อมองดูจากที่ตรงนี้แล้วจะสามารถเห็นตึกของอีกฝั่งได้ นั่นก็คือฝั่งฮ่องกง ตึกที่ฝั่งนั้นส่องแสงประกายเจิดจ้ายามค่ำคืนอย่างงดงาม ตอนนี้ผมกับไอ้ตี๋กำลังเดินอยู่บนถนนของเหล่าหมู่ดาว หรือ Star Avenue ที่พื้นที่เราเดินไปจะมีกรอบที่มีลายเซ็นกับฝ่ามือของดาราฮ่องกงที่โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ที่พื้นนี้ยังฝังไฟดวงเล็ก ๆ เอาไว้เป็นทางเดินสำหรับคนที่มาท่องเที่ยวด้วย ลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้าที่มีผ้าพันแผลของผม มันไม่ได้บาดลึกเข้าไปในผิวหนังแต่กลับทำให้ผมรู้สึกเย็นสบายดี ยามค่ำคืนแล้ว ที่แห่งนี้ก็เป็นที่หนึ่งที่ดีเช่นกัน
    "เฉิน หลง อยู่ไหน ?” ผมถามเฟยหลงขณะที่กำลังเดินไปข้างหน้าพร้อมก้มลงมองพื้นเป็นระยะ
    “อยู่เกือบท้าย ๆ” มันว่าพร้อมกับดึงมือผมให้ลุกขึ้นจากที่พื้น ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามันเล็กน้อยแล้วทำตาม
    “รู้จักดาราพวกนี้หมดเลยเปล่า ?”
    “ไม่หมดหรอก ดาราที่มีชื่อที่นี่บางคนเกิดก่อนฉันอีก” ผมพยักหน้าหงึก ๆ ตาก็ยังคงก้มมองพื้นอยู่ดี มันน่าสนใจจริง ๆ นะครับ ที่นี่ทำคล้าย ๆ ฮอลลีวูดที่จะมีรูปมือแปะเอาไว้ที่แท่นหินที่พื้นน่ะครับ สวยดี
    ตามรายทางของถนนแห่งนี้ก็มีของขายนะครับเต็มไปหมด ทั้งจานที่รูปของเราจะไปติดอยู่น่ะครับ แล้วก็พวกของกินต่าง ๆ เยอะมาก เบียร์ก็มีนะ แต่ผมไม่กินหรอก ไม่แตะต้องแอลกอฮอล์ (แหล!) ว่าแล้วก็อยากได้จานชะมัดเลยแฮะ
    “เฟยหลง”
    “ห๊ะ ?” มันหันมาหาผมที่กำลังจ้องมองร้านถ่ายรูป
    “อยากถ่าย ไปถ่ายกัน” ไม่รีรอครับ ผมดึงมือมันเข้าไปเลย ไอ้เจ้าคนที่ถูกดึงก็เลยต้องพลอยตามมาด้วย มันส่งภาษากับเจ้าของร้านครู่หนึ่งพวกเราก็ได้ถ่ายรูปกับวิวข้างหลังสวย ๆ กันครับ ตอนแรกผมทำท่าชูสองนิ้วกับมันธรรมดา แต่มันบอกปัญญาอ่อนมันเลยเอาแขนมาโอบไหล่ผมแทน ส่วนผมหรอ เติมเขาให้มันไง ฮ่า ๆ
    หลังจากที่ถ่ายเสร็จก็จ่ายเงินแล้วก็รับจานมาสองใบ(อีกแล้ว)
    “อยากได้รุปกูอ่ะดิ!” ผมแซวมันไป ฮ่า ๆ เพราะกูหล่อใช่ไหมล่ะ ?
    “อืม” ห๊ะ ? เมื่อกี้กูคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ?
    “อะไรนะ”
    “เปล่า”
    “เปล่าอะไร ก็เมื่อกี้ยังพูดอยู่เลย อะไรนะ ๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมเซ้าซี้มัน มันเลยทำหน้ารำคาญขมวดคิ้วใส่ผมซะงั้นอ่ะ ผมหรอ ก็กลัวสิครับ ไม่ชอบให้มันทำหน้าแบบนี้เลย ทำแบบนี้แล้วหน้าโคตรโหด
    “แล้ว จะไปส่งรึเปล่า ?” ผมถามขณะที่เรากำลังเดินต่อไปเรื่อย ๆ
    “ส่ง ?”
    “อ่า ใช่ หมายถึงไปส่งที่สนามบินน่ะ”
    “ไม่รู้ดิ อาจจะไม่ว่างก็ได้มั้ง” ยังจะมีมั้งอีก จะมีมั้งทำไมฟระก็ในเมื่อมันวันพรุ่งนี้แล้วทำไมยังไม่รู้ตารางตัวเองอีกเนี่ย ?
    “ทำไมถึง อาจจะ ล่ะ ?”
    “ก็…คนบางคนอาจจะไม่อยากให้ไปก็ได้”
    “ใครล่ะ คนบางคนที่ว่า” ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเราเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว รู้แต่ว่าคนรอบข้างมันน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วทางก็มืดลงเล็กน้อยเพราะไฟที่ข้างทางมันห่างกันมากขึ้น
    “ก็ ไม่ใช่คนหรอก เป็นลูกหมา”
    “เอ… รู้ได้ไง ว่าลูกหมาตัวนั้นไม่อยากให้ไป” นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดจริง ๆ ผมคิดอะไรมักจะตรงกับคำพูด.. ผมไม่อยากพูดเต็มปากว่าผมกำลังจะคิดแบบไหนกับคนข้าง ๆ ผมกันแน่ในตอนนี้
    “ก็ไม่รู้สิ แล้วอยากให้ไปรึเปล่าล่ะ ?” เราสองคนหยุดเดิน เฟยหลงหันหน้ามาหาผมเล็กน้อย ผมทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วโพล่งออกไป
    “ไม่อยาก! ให้พี่หลินหลินมาส่งคนเดียวก็พอแล้ว” ผมหยอกคนข้างหน้าเล่น แต่ว่าทำไมเฟยหลงถึงขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างนั้นล่ะ
    “หรอ ?” มันถามผมแผ่วเบา ไม่รู้ว่าไอมือขนาดใหญ่นี้มันมาแตะที่แก้มผมตั้งแต่เมื่อไหร่
    “อืม ก็คงอย่างงั้นแหละ ให้สาวสวยไปส่งดีกว่า” ผมพูดอย่างร่าเริง แต่คนข้างหน้ากลับเงียบ “แล้วก็ไปนอนค้างที่บ้านเลยก็ได้ ฮ่า ๆ สวยขนาดนั้นพ่อแม่คง…..” คำพูดของผมถูกกลืนไปกับริมฝีปากของคนตรงหน้าของผม ผมค่อย ๆ หลับตาลง ริมฝีปากของผมเริ่มเปิดออกให้คนตรงหน้าสอดลิ้นเข้ามาอย่างอ่อนโยน เค้าคงรู้ ว่าผมเจ็บปากอยู่จากอาการบาดเจ็บนั้น กล้ามเนื้อนั้นสัมผัสกับบริเวณที่เป็นแผลอย่างแผ่วเบา
    “โอ้ย!” ผมร้องออกมาเมื่อริมฝีปากนั้นสัมผัสเข้ากับบริเวณที่บวมตรงแก้มของผม เฟยหลงผละตัวออกเกือบจะในทันทีแล้วมองผมอย่างอ่อนโยน
    “เจ็บใช่ไหม ?” ผมพยักหน้าแผ่วเบา เป็นคำตอบให้กับคนตรงหน้า
    “จูบ….ทำไม ?”
    แล้วคำตอบของคนตรงหน้าผมก็คือการก้มลงมาประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมใช้มือของผมผลักหน้าคนตรงหน้าออกไป สายตาของผมมองไปยังดวงตาคู่ตรงหน้าอย่างค้นหา
    “ตอบมาก่อน” เฟยหลงยิ้มให้ผมอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดห้าวันนี้ เป็นยิ้มที่ทำให้ดูดีขึ้นมาในทันใด มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบที่หัวผมอย่างแผ่วเบา ผมไม่เข้าใจเลย ทำไม…ทำไมผมถึงรู้สึกดีกับคนตรงหน้านี้
    “เพราะว่า” เฟยหลงค้างคำแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ผมอีกครั้ง “น่ารักขนาดนี้ยังไงล่ะ” แล้วคำพูดที่ผมจะพูดต่อไปก็ถูกกลืนหายไปกับรสจูบของคนตรงหน้า ลิ้นหนาของเฟยหลงสอดแทรกเข้ามาภายในริมฝีปากของผม ผมอดไม่ได้ที่จะต้องสอดลิ้นตอบกลับไป มันไม่เจ็บบริเวณบาดแผลสักนิด มันอ่อนโยนกว่าครั้งแรกที่เราจูบกัน
    เฟยหลงผละใบหน้าออกจากผมเล็กน้อยแล้วก้มลงมามองตาของผมผ่านแว่นขนาดใหญ่นี้ ผมรู้ว่าต่อไปคนข้างหน้าจะต้องถามอะไรผมแน่ ๆ
    “คำตอบล่ะ ?” เฟยหลงถามผมขึ้นมา ผมก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับคนตรงหน้า
    “จะมีคำตอบได้ยังไง ก็ยังไม่ได้ยินคำถามเลย”
    “ต้องถามอีกหรอ ?” เฟยหลงพูดเสียงแผ่ว อบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยินมา มือทั้งสองข้างของเฟยหลงมาโอบที่ตัวของผมให้เข้าไปชิดตัวมากขึ้นอีก
    “ก็ไม่ได้อ่านใจคนออกนี่ เดี๋ยว ๆ ไม่ต้องมาเปลี่ยนประเด็นเลย ตกลงพรุ่งนี้จะไปส่งมั้ย ?”
    “ไม่ไป” นั่นทำให้ผมใจแป้วขึ้นมาในทันที แต่เฟยหลงกลับยิ้มให้ผม







“ได้ยังไงเล่า”
    



“นี่..” ผมเว้นช่วงเล็กน้อยแล้วกลืนน้ำลายลงคอเพื่อถามคำถามต่อไป “คิดว่า ผู้ชายกับผู้ชาย เป็นแฟนกันได้หรอ แล้ว ไม่ได้อยู่ด้วยกันจะเป็นแฟนกันได้หรอ ?”
    “ของอย่างงี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ หรือระยะทางหรอกนะ” เฟยหลงก้มหน้าลงคุยกับผมในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าหล่อเหลาจูบลงที่ปากผมทีนึงแล้วพูดต่อ “ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจต่างหาก ใจของแต่ละคนว่าจะรักกันเพราะอะไร รักกันได้นานเท่าไหร่ ถ้าใจของคนสองคนผูกกันแล้ว ต่อให้อะไรก็มาทำลายเส้นใยที่เหนียวแน่นได้หรอก”
    “แล้วคำตอบล่ะ เจ้าลูกหมา ?” คนที่กำลังโอบกอดผมอยู่เอ่ยถามผมอีกครั้ง ผมยิ้มแผ่วเบาให้กับคนตรงหน้าแล้วดันตัวออกห่างจากอ้อมกอด
    “ไม่มีหรอก” ผมส่งยิ้มให้กับเฟยหลงอย่างอ่อนโยน



































“จนกว่าจะถึงบ้าน”



ไนท์ไม่ได้ง่ายนะครับ แต่ก็ไม่ยาก 5555555

สำหรับคนอยากอ่านพาร์ทเฟยหลงนะงับ ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งตรงนั้นน่ะงับ แต่เดี๋ยวจะเขียนเป็น
side story นะงับ ^ ^

ปล สงสัยเฟยหลงอ่านยากจริง ๆ คนถึงหมั่นไส้เยอะ  :laugh:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
«ตอบ #86 เมื่อ09-05-2011 20:31:25 »

อ๊ายยยย รีบกลับบ้านอย่างด่วน  :laugh:

ออฟไลน์ Heladasless

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
«ตอบ #87 เมื่อ09-05-2011 21:01:25 »

อุ้ยพ่อปากทองคำใช้ภาษากายแทนสินะ o18
เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆ :L2: :L2:
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
«ตอบ #88 เมื่อ09-05-2011 21:07:21 »

ตอนนี้ เฟยหลง น่ารักมาก 

 :กอด1: :กอด1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
«ตอบ #89 เมื่อ09-05-2011 21:29:34 »

กลับบ้านด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด