Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]  (อ่าน 733516 ครั้ง)

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
รอบันนี่นานแล้วนะ คุณเคนมาต่อที

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: :กอด1:

เชี่ยเชี่ย  ขอโทษครับ  หายหัวไปน๊านนานแน่ะที่รัก  มีคนฝากลูกลิงมาเลี้ยงหนึ่งตัว  เหนื่อยแสนสาหัสจริง ๆ

วันนี้เอาตอนที่ 26 มาส่งครับ  ยังไม่ลืมกันเนอะ

เคนอิจิ


##########################################################################

Chapter 26




ดื่มสุราเปรมจิต  เดินย่ำทรายลงสู่ห้วงนที  แยงซีนี้เย็นฉ่ำ  ผายมือสู่เบื้องบน  หมายไขว่คว้าจันทร์  กลับพบเพียงเงาบนผืนน้ำ

บันอ่านบทกวีของหลี่ไป๋ซ้ำแล้วซ้ำเล่า   ฟูกสีขาวที่รองตัวอยู่นั้น  ยับย่นไปมา  ใกล้กันมีกองหนังสือพะเนินเทินทึกกองสุมกันอย่างไม่เป็นระเบียบ
เมื่อมองผ่านกระจกใสออกไปยังด้านนอกของตัวบ้านจะเห็นละอองฝนกระจายตัวอยู่ในอากาศแล้วค่อย ๆ หล่นลงมาบนพื้นหญ้าสีเขียวสด
บนพื้นสีเขียวนั้นมีต้นดอกราชาวดีที่แม่ปลูกเอาไว้ในซุ้มไม้เลื้อย  มันเอนไหวและส่ายไปมาด้วยแรงลม  บันวางหนังสือปกแดงเล่มใหญ่ลงบนพื้น 
ลุกขึ้นยืน  เดินเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรงไปเกาะขอบหน้าต่าง  เมื่อจ้องออกไปทางด้านซ้ายมือ  จะเห็นว่า  วันนี้แม่น้ำท่าจีนมีน้ำเอ่อขึ้นมาเกือบถึง
ขอบบนสุดของตลิ่ง  ท่าน้ำไม้สักที่บันชอบไปนั่งเล่นบ่อย ๆ ตอนเป็นเด็ก  ตอนนี้กำลังอยู่ปริ่มน้ำ

“ ไขว่คว้าจันทร์  กลับพบเพียงเงา  หลี่ไป๋กับเธอกำลังตีความบทกวีนี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร  อธิบายมาซิ ? ”
เสียงอาจารย์เกาดังแว่วเข้ามาในหัวอีกครั้ง

“ หลี่ไป๋เมาสุรา  จึงหลงคว้าพระจันทร์บนฟ้า  สภาพหลี่ไป๋ตอนนั้นคงเหมือนผมในตอนนี้ ”

“ เธอติดสุรางั้นหรือหนุ่มน้อย ? ”
“ เปล่าครับอาจารย์ ”
“ อะไรที่ทำให้คนลุ่มหลงได้อีก  นอกจากสุรา  อะไรที่ทำให้เธออยากจะเก็บเอาพระจันทร์บนนั้นลงมา ? ”

“ ความรักมั้งครับอาจารย์  ผมคิดว่าตัวเองกำลังมีความรัก ”

บันถอนหายใจเบา ๆ เกิดเป็นไอสีขาวมัวบนแผ่นกระจกใส  นับตั้งแต่ออกจากบ้านที่ฮ่องกงมา  วันนี้ก็เกือบเก้าเดือนแล้ว  เขาเขียนตัวเคตัวใหญ่
ลงบนฝ้าไอน้ำ  ก่อนจะลบมันออกอย่างรวดเร็ว

“ บัน ”

“ บัน ”

“ แม่เรียกตั้งนาน  ทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะลูก  ไม่สบายหรือเปล่า  ไหนหันหน้ามาซิ ”
แม่ประกบหลังมือเข้ากับซอกคอบันเบา ๆ ก่อนจะลูบหัวไปมา

“ กินอะไรดีกระต่ายน้อย ? ”

“ บันเพิ่งกินข้าวไปเมื่อกี้เองนะแม่ ”

“ เมื่อกี้ ?   ข้าวเที่ยงมันผ่านมาตั้งนานแล้ว  นี่มันห้าโมงเย็นแล้วลูก  มาเร็ว  ช่วยแม่ทำกับข้าวดีกว่า ”

“ ไข่เจียวใส่แฮม  หรือว่าแกงส้มอนุบาล  หรือว่าแกงจืดตะลุยอวกาศ ? ”
แม่เดินนำลงมาตามบันไดไม้  เดินไปในห้องครัว  หยิบเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกมา

“ ใส่รองเท้าแตะแล้วออกไปดึงต้นหอมในกระบะไม้ออกมาซักสามสี่ต้นนะ  คื่นฉ่ายด้วยนะลูก อย่าไปใกล้ตลิ่งมากนะ  เดี๋ยวจะตกลงไป 
แม่ไม่อยากลงไปงม  ”
“ บันว่ายน้ำเป็นนะแม่ ”
“ ผอมเป็นไม้สำลีปั่นหูแบบนี้จะเอาแรงที่ไหนมาว่าย ”

บ้านของบันเป็นบ้านทรงสมัยใหม่ด้านล่างเป็นคอนกรีตกับโลหะ  ด้านบนที่เป็นชั้นสองประกอบด้วยไม้ที่ถอดเอามาจากบ้านเดิมของพ่อ  นำเอา
มาขัดตกแต่งใหม่แล้วใส่เข้าไป  ส่วนด้านนอกเป็นอะลูมิเนียมสีเทา  ตัวบ้านดูทันสมัยหากมองจากด้านนอกและดูร่วมสมัยหากมีคนได้เห็นการ
ตกแต่งภายใน   แถวละแวกบ้านของบัน  มีหลายคนเดินเข้ามาและขอให้คุณพ่อซึ่งเป็นสถาปนิกช่วยออกแบบบ้านให้

รองเท้าแตะฟองน้ำเหยียบลงบนแผ่นหินศิลาแลงที่วางเอาไว้เป็นทางเดินไกลออกไปจนถึงท่าน้ำและแปลงผักสวนครัวเล็ก ๆ ของแม่  บันจับโคน
ต้นหอมที่รวมกันเป็นกระจุก  ก่อนจะดึงขึ้นมา  เมื่อเคาะสองสามทีแล้วดินไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกไป  จึงต้องพึ่งสายยางฉีดน้ำสีเขียวที่ขดเป็นวง
เล็ก ๆ   เมื่อเปิดก็อก  ความทรงจำเมื่อครั้งยังอยู่ที่ฮ่องกงก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง  ภาพอัลเบิร์ตกระโดดไปมาบนพื้นหญ้าสีเขียว  มีสายฉีดน้ำพ่น
ละอองน้ำออกมา  มีสายรุ้งเส้นเล็กขึ้นให้เห็น  มีเสียงเห่าของหมากับเสียงห้ามของคนดังสลับกันไปมา

“ คิดถึงอัลเบิร์ตจัง     คิดถึง ………….   ”
บันคิดไปถึงเจ้าของบ้าน  ไม่น่าเชื่อเลยว่ายิ่งเวลาผ่านมานานเท่าไหร่  ความรู้สึกมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

“ เจ้านายแกน่ะนะอัลเบิร์ต     เจ้านายขี้เก็ก ”

“ เอ้า  บัน  มัวแต่มาด่าต้นหอม  เดี๋ยวหกโมงเย็นพ่อจะกลับมาแล้วนะ  เร็วเข้า  กลับมาจะได้กินข้าวพร้อมกัน ”


พ่อของบันเป็นผู้ชายตัวใหญ่แต่ไม่อ้วน  พ่อเป็นสถาปนิกใจดี  บันจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ พ่อชอบเอาตัวเองขึ้นขี่คอไปที่ทำงานด้วยบ่อย ๆ  ส่วนแม่ก็
มีบางครั้งที่ต้องเอาบันไปด้วย  แม่เป็นครูสอนเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา  ตอนเด็กบันเลยมีเพื่อนชั้นประถมหลายห้อง  บันนั่งตรงบันได้ไม้มอง
พ่อที่เดินเข้ามาในบ้าน    พ่อถอดรองเท้าใส่เข้าไปในตู้แล้วหยิบรองเท้าผ้าขึ้นมาสวมแทน

“ ไงกระต่าย  อยู่บ้านเบื่อหรือยัง ? ”
“ เบื่อแล้วพ่อ  บันอยากไปหาเพื่อน  ไปหาแม่ไก่  แต่เขาก็ทำงานกันหมด ”
“ ก็มีพ่อแก่เรียนต่ออยู่คนเดียวนี่นา ”
แม่เดินขำเข้ามาร่วมวงด้วย  มือขวาจับเอากระเป๋าของพ่อไปวางไว้บนโซฟาผ้าสีครีม

“ พรุ่งนี้ก็ติดรถพ่อออกไปสิ  ไปดูหนังในห้าง  เย็น ๆ พ่อจะไปรับ ”
พ่อคลายเน็กไทด์ออกจากคอเสื้อก่อนจะส่งยิ้มมาให้บัน

“ หรือจะไปสอนพิเศษที่โรงเรียนกับแม่  เอาไหม  ครูใหญ่มีค่าขนมให้ด้วยนะ  ช่วงที่ยังไม่ได้เริ่มงาน  ก็หาอะไรทำไปก่อน  จะได้ไม่เหงา ”


“ ที่ทำงานเขาให้ไปเริ่มวันไหนล่ะลูก  แล้วเตรียมพาสปอร์ต  ขอวีซ่าไว้หรือยัง  เสื้อผ้าเตรียมหรือยัง ? ”
พ่อตักข้าวใส่จานให้แม่  ก่อนจะหันมาถามบัน
“ บันอยากทำกับบริษัทคนไทยมากกว่า  แต่ก็กลัวว่าจะหางานที่ดีกว่านี้ไม่ได้  พ่อว่าบันคิดถูกหรือเปล่า ”
“ ทำงานกับต่างชาติก็ดี  ไม่เรื่องมาก  ภาษาที่เรียนมาก็จะได้เอามาใช้  ทำงานกับคนไทยก็พูดไทย  อีกหน่อยก็ลืม ”
“ บันไม่อยากบินไปนู้นไปนี่  บันอยากอยู่บ้านอยากเจอพ่อกับแม่ ”
“ ขี้อ้อนนะเรา  แล้วบริษัทที่ว่าเป็นบริษัทประเทศอะไรนะ  เคยบอกพ่อครั้งนึง  พ่อจำไม่ได้แล้วเนี่ย ”
“ บริษัทญี่ปุ่นครับ  แต่สำนักงานอยู่ที่เซี่ยงไฮ้กับที่ฮ่องกง ”
“ แล้วเขาให้เราประจำที่ไหนล่ะลูก ?  ”
“ บันก็ต้องเป็นเหาฉลาม  เกาะติดเจ้านายไปด้วยทุกที่  เพราะบันเป็นเลขา ”

“ ทำงานกับคนมันดีตรงที่เราจะได้ฝึกตัวเองไงบัน  อย่างที่บันถามแม่  ถ้าทำงานเป็นเลขากับทำงานแปลเอกสาร  แบบไหนดีกว่ากัน
แม่ว่ามันก็ดีคนละแบบ  แต่อย่างแรกมันมีโอกาสพัฒนามากกว่านะลูก  แล้วมันจะทำให้เราแกร่ง  ทำให้เราโตขึ้นอีกเยอะ  เชื่อแม่สิ ”
บันพยักหน้าช้า ๆ ปากก็เคี้ยวข้าวไปด้วย  ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเจอก้อนกลม ๆ ที่แม่เอากระดาษหนังสือพิมพ์ห่อเอาไว้  มันเป็นก้อนกลม ๆ
วางเรียงกันอยู่สิบลูกในตะกร้า  ลูกใหญ่สุดเป็นกระดาษที่มีรูปของเคลวินห่อเอาไว้

“ แม่  นั่นกระดาษของบันนี่นา  แม่เอามาห่ออะไรซะแล้ว ! ”
บันเดินไปดูห่อกระดาษด้วยความเสียดาย  กระดาษหนังสือพิมพ์ที่มีรูปของเคลวินกับคุณย่า  มีข้อความภาษาจีนที่ระบุการเข้าเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ
และข่าวการหมั้นของทายาททั้งสองบริษัท

“ ตายจริง  เอกสารสำคัญหรือเปล่าน่ะบัน  แม่เอามาห่อลูกฝรั่ง  พรุ่งนี้จะเอาไปฝากเพื่อนที่โรงเรียน ”

“ โถ่  เจ้านาย  กลายเป็นเจ้าชายฝรั่งไปซะแล้ว ”
บันทำตาละห้อย  ค่อย ๆ แกะกระดาษออกมาจากลูกฝรั่ง

“ หนังสือพิมพ์เก่าตั้งหลายเดือนมาแล้ว  เก็บเอาไว้ทำอะไรน่ะบัน  ขอบเหลืองหมดแล้ว ? ”
“ บันเก็บเอาไว้เตือนใจน่ะแม่  จะได้ไม่หลงพระจันทร์ ”
“ พูดอะไรแปลก ๆ นะลูกคนนี้  ไหนเอามาดูซิ ”
“ ทำเหมือนกับอ่านภาษาจีนออกน่ะคุณ  ”
พ่อหัวเราะแม่ที่ทำหน้าสงสัยและพยายามอ่านภาษาจีนบนหนังสือพิมพ์

“ ของบางอย่าง  ถึงจะเก่าจะเหลือง  มันก็มีคุณค่ากับบัน  บันอยากมีความทรงจำดี ๆ ที่ฮ่องกงเก็บเอาไว้กับเขาบ้างเหมือนกัน ”




       มิสเตอร์เคนซาบุโร่  โมริตะ  เป็นรองประธานกรรมการบริหาร  กลุ่มบริษัทเอเชียเมดิเทค  ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดใหญ่ของเอเชีย 
มีโรงงานการผลิตในไทย  และมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเซี่ยงไฮ้และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง  บันพยายามมองหาภาพของเจ้านายคนใหม่จาก
บอร์ดกิจกรรมในโรงงาน  แต่ก็พบเพียงแค่ภาพงานกิจกรรม  5 ส เท่านั้น  ภาพคุณลุงชาวญี่ปุ่นใจดีที่บันจินตนาการเอาไว้  ยังไม่ปรากฏตัวจริง
ให้เห็น บันยืนจับเนคไทด์สีกรมท่าเส้นเล็กไปมา  พร้อมกับกระชับสูทสีดำสนิทให้เข้าที่  สูทตัวใหม่นี้  แม่สั่งตัดให้เป็นพิเศษ  เนื่องจากเห็นว่าสูท
สำเร็จรูปนั้น  ดูแก่และไม่เข้ากันกับลูกชาย    ก่อนออกมาจากบ้าน  แม่บอกว่า

“ ดูยังไงก็เหมือนเด็กมอปลายใส่สูท  ”


“ คุณบันคะ  คุณโมริตะจะคุยด้วยค่ะ  ท่านกำลังรอสายอยู่  ”
พนักงานสาวชุดน้ำเงินเข้มเหมือนสีดอกอัญชันเดินออกมาจากห้องประชุมและเดินตรงเข้ามาหาบัน

“ ด่วนค่ะ  ท่านรออยู่ ”


“ สวัสดีครับ  กำลังพูดสายครับ ”
บันกรอกเสียงลงไปในหูโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน

“ おはようございます โอฮาโย โกซัยมัส ”
เสียงทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นดังออกมาจากโทรศัพท์  ทำเอาบันต้องเอียงคอด้วยความสงสัย  ก่อนจะคิดเอาเองว่าเจ้านายคนนี้ท่าทางแปลก ๆ

“ พูดญี่ปุ่นได้ไหม ? ”

“ ไม่ได้ครับ ”

“ ซักคำก็ไม่ได้เลยเหรอ ? ”

“ โอฮาโย โกซัยมัส / โคนิจิวะ / คอมมังวะ / โอซะยูมินาซัย ”

“ ออออออออออสส  สวัสดีเช้าบ่ายเย็นค่ำ  นี่จะลากลับบ้านแล้วเหรอ ? ”

“ ผมพูดญี่ปุ่นได้แค่สี่คำ ”

“ ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นล่ะนะ  คุณเลขาคนใหม่มีนิคเนมว่าอะไร ? ”

“ ชื่อบันครับ ”
บันดึงเก้าอี้เบาะสีดำเข้ามานั่ง  ก่อนจะบอกชื่อเล่นออกไป

“ สุบรรณหรือเปล่า ? ”

บันยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู  ก่อนจะมองมันด้วยความประหลาดใจ  มิสเตอร์เคนซาบุโร่คนนี้  รู้จักคำไทย

“ ไม่ใช่ครับ   ชื่อบัน  บันขนมปังน่ะครับ  สุบรรณนั่นหมายถึงครุฑ ”

“ เรียกผมว่าเคนตะซังนะ  ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน  วันนี้พอแค่นี้  คุณกลับบ้านได้  อ้อ  ให้เวลาสามวัน  เตรียมตัวให้พร้อม  เราจะบินไปงานเปิดตัว
สินค้าที่ฮ่องกง  คุณรับตัวอย่างสินค้ากลับไปด้วย  แล้วทำพรีเซนเทชั่นภาษาจีนเตรียมเอาไว้  จองโรงแรมที่พักเอาไว้ด้วยนะบันคุง  แล้วก็หา
รายชื่อโรงพยาบาลในฮ่องกงมาทั้งหมด  แล้วดูว่ามีกี่ที่ที่ใช้โปรดักส์เรา  มีที่ไหนที่ไม่ใช่  แล้วเขาใช้ของบริษัทอะไร  แค่นี้ ”

“ เอ้อ  ครับ  ”

บันนั่งนิ่งทบทวนงานที่มิสเตอร์เคนซาบุโร่สั่งประมาณห้านาที  จดลงสมุดบันทึก  ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องรับผลิตภัณฑ์กลับบ้านไปด้วย


“  แล้วจะไปรับของกับใครล่ะเนี่ย ? ”

บันเดินออกมาจากห้องทำงานที่อยู่ในออฟฟิศ  ตามองออกไปยังทางออกที่มีแสงสว่างจ้าตรงปลายสุดของทางเดิน  ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเตะเข้ากับ
กล่องกระดาษขนาดย่อม  กล่องกระดาษใบนั้นมีลายมือขยุกขยิกเขียนเป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้านบนว่า

“ Mr. Bun ”

“ เอ๊ะ ? ”
บันยกกล่องขึ้นมาสังเกตใกล้ ๆ เมื่อเห็นว่าเป็นสายน้ำเกลือ  ถุงน้ำเกลือ  หลอดฉีดยา  รวมถึงอุปกรณ์หลายอย่างในโรงพยาบาลก็แน่ใจว่าเป็น
ของตัวเอง


“ เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนมีจินตนาการสูงนี่นะ ”

บันเดินฝ่าไอแดดตอนสายออกไปยังป้อมยามหน้าโรงงาน  ชายวัยกลางคนที่มีท่าทางกระฉับกระเฉง  เห็นบันเดินมาแต่ไกลก็ส่งยิ้มมาให้

“ คุณเลขาจะกลับบ้านแล้วเหรอครับ ? ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำท่าตะเบ๊ะและหันมายิ้มให้
“ รู้จักผมด้วยเหรอครับ ? ”
“ รู้จักครับ ”
“ ครับ     คือช่วยเรียกแท็กซี่ให้หน่อยนะครับ  ”
“ ได้ครับ  แต่รอนานหน่อยนะครับคุณเลขา  แถวนี้มันชานเมือง  ไม่ค่อยมีแท็กซี่ผ่านเข้ามา  ผมจะลองกดเรียกแท็กซี่ศูนย์ให้นะครับ ”
“ ขอบคุณครับ ”
ไม่ทันที่ยามจะกดโทรศัพท์  เสียงแตรรถยนต์ที่ขับออกมาจากโรงงานก็ดังขึ้น  รถยนต์เลกซัสสีดำเงามันปลาบก็แล่นเข้ามาจอดเทียบใกล้ ๆ กับ
ป้อมยาม  ซักพักกระจกรถฝั่งคนขับก็เลื่อนลงช้า ๆ คนขับโผล่หน้าออกมาทางบัน  แล้วกวักมือเรียก

“ ติดรถผมออกไปก็ได้นะครับ ”
คนขับส่งภาษาอังกฤษชัดแจ๋วออกมาคุยกับบัน

“ ครับ  ออกไปถนนใหญ่หรือเปล่าครับ ? ”
บันถามไปตามมารยาท

“ คงต้องออกทางถนนใหญ่ล่ะครับ  รถคันนี้มันใหญ่  คงขับเข้าไปในดงมะม่วงพวกนี้ไม่ได้  ทางมันแคบแล้วรถก็จะเป็นรอย ”
ผู้ชายในรถตอบเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความขบขัน

“ ไม่เห็นจะขำ ”
บันพยักหน้ารับแล้วทำท่าจะเข้าไปนั่งตรงเบาะหลัง

“ นั่งเบาะหน้าครับคุณ  ผมไม่ใช่พนักงานขับรถ ”
“ ขอโทษครับ ”
บันเดินเข้ามานั่งข้างคนขับ  พร้อมกับวางกล่องกระดาษไว้บนตัก  มือขวาดึงเอาเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาคาด

“ เลขาคนใหม่สินะ ”
“ ครับ ”
“ เนคไทด์สวยดี ”
“ ขอบคุณครับ ”

คนขับชวนบันคุยไปเรื่อย ๆ จนถึงถนนใหญ่ที่มีรถวิ่ง  บันขยับตัว  ก่อนจะถูกเรียกเอาไว้

“ เคนตะซังดุไหม ? ”
“ ไม่ทราบครับ  ยังไม่เจอตัวจริง   จอดข้างหน้าก็ได้ครับ ”
บันก้มหัวลงนิด ๆ เป็นการขอบคุณ

“ เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน  บอกทางมาสิ ”
คนขับใช้นิ้วซ้ายแตะตรงสันจมูกเพื่อขยับแว่นกันแดดให้เข้าที่  บันคิดว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นพนักงานในบริษัทที่มีตำแหน่งสูงพอสมควร 
มิหนำซ้ำยังพูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ  ท่าทางจะเป็นคนสำคัญ

“ ไม่ต้องหรอกครับ  บ้านผมอยู่นครปฐม  คนละฝั่งเมืองกับแถวนี้เลยครับ  ผมนั่งรถไปเองดีกว่า  จอดข้างหน้าก็ได้ครับ ”

“ ผมมีใบขับขี่สากลนะ  ไม่ต้องกลัวหรอก  แล้วก็อีกอย่างที่สำคัญ  เคนตะซังสั่ง  โอเค้ ? ”

“ ไกลนะครับ ”

“ คุณเลขาเป็นเนวิเกเตอร์ก็แล้วกันนะ ”
พนักงานลึกลับที่บันตั้งฉายา  ชวนบันคุยเรื่องสัพเพเหระตั้งแต่เรื่องดินฟ้าอากาศไปจนถึงเรื่องนิสัยคนไทยที่ดูเขาจะชอบใจมากเป็นพิเศษ
บันรู้สึกว่านายคนนี้ดูจะมีพลังงานมากกว่าคนปกติ  เขาพูดไม่หยุดปากตั้งแต่เขตมีนบุรีเรื่อยมาจนถึงเขตจังหวัดนครปฐม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2012 18:03:07 โดย Keniji »

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
“ ว่าแต่  คุณไม่หิวน้ำบ้างเหรอ ? ”
ชายหนุ่มหันมาถามบันที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ

“ ไม่ครับ ”

‘ พูดมากจนน้ำลายแห้ง ’

“ มีมินิมาร์ทบ้างหรือเปล่านะ ? ”
เขาชะเง้อคอมองหาร้านสะดวกซื้อ  แต่ก็เจอแต่ดงหญ้าแห้งและเพิงขายของเล็ก ๆข้างทาง

“ ไม่มีหรอกครับ  ต้องเข้าไปในตัวเมือง  แต่ถ้าคุณหิวน้ำ  ผมจะลงไปซื้อข้างทางให้ ”
บันชี้มือชี้ไม้ไปที่เพิงเล็ก ๆ ข้างทาง

“ ศาลเจ้านั่นน่ะเหรอ ? ”

“ ไม่ใช่ศาลเจ้าครับ   นั่นมัน  ร้านค้าริมทางน่ะ ”

บันยกกล่องอุปกรณ์ไปไว้เบาะหลัง  แล้วเปิดประตูลงไปซื้อน้ำริมทาง  ไม่นานก็เปิดประตูรถกลับเข้ามานั่ง  ในมือมีถุงน้ำสีขุ่นมีน้ำแข็งลอยอยู่มา
ด้วย

“ น้ำอ้อยสด ”

“ ไม่รู้จัก ”

“ อร่อยนะ  ดูดสิ  ผมจะเอาถุงไปทิ้ง  เดี๋ยวหกในนี้แล้วมดจะขึ้นรถคุณ  รถตั้งแพงเดี๋ยวมดกัดล่ะก็เสียดายแย่ ”
บันแกว่งถุงน้ำอ้อยไปมา  เหมือนกำลังหลอกเด็กให้กินข้าว  ซักพักชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นมารับถุงน้ำไป  ดูเหมือนว่าเขากำลังชั่งใจว่า  ไอ้เจ้าน้ำสี
ขุ่นคลั่กเหมือนน้ำคลองนี้  มันจะดื่มได้หรือไม่

“ อร่อย   ซื้อมาอีกสิ  ผมชอบ ”

“ เดี๋ยวก็ปวดฉี่หรอกคุณ  ห้องน้ำไม่มีหรอกนะแถวนี้น่ะ ”



รถยนต์ขับเข้ามาในเขตจังหวัดนครปฐมชั้นในแล้ว  นายสารถีจำเป็นของบันถอดแว่นกันแดดออก  ส่งสายตาสงสัยไปที่สิ่งก่อสร้างสูงใหญ่ที่ตั้ง
ตระหง่านอยู่ด้านหน้าด้วยความประหลาดใจ

“ พระปฐมเจดีย์น่ะครับ  รู้จักหรือเปล่า ? ”

“ ไม่รู้จักหรอก  ว่าแต่ทำไมต้องสร้างสูงขนาดนั้นด้วยล่ะ ? ”

“ ตำนานว่า  มีคนสร้างเอาไว้ไถ่บาปน่ะครับ  ลูกฆ่าพ่อตัวเอง  เลยมาสร้างเจดีย์เท่านกเขาเหิน ”
บันอธิบายย่อ ๆ แล้วชี้ทางต่อไป

“ ได้ข่าวว่าคุณเคยเรียนที่ฮ่องกงมาก่อนเหรอ ? ”
“ ครับ ”

“ ก็พูดกวางตุ้งได้สินะ ”
บันหันไปมองด้านนอกรถ  ใจคิดไปถึงตอนที่อยู่ฮ่องกง  อุปสรรคเรื่องภาษากวางตุ้ง  นำเรื่องราวต่าง ๆ เข้ามาสู่ชีวิตมากมาย 

“ พูดได้ …………….  นิดหน่อย  ผมไปเรียนแมนดาริน  ไม่ใช่กวางตุ้ง   แต่ว่า  คุณรู้ได้ไงว่าผมเคยไปเรียนอยู่ที่นั่น ? ”

ชายหนุ่มไม่ตอบ  เขายักไหล่  แล้วทำมือวนเป็นรูปวงกลมกว้าง ๆ รอบรถ  บันคิดเรื่องฮ่องกงจนเกือบลืมว่าต้องบอกทางเข้าบ้าน

“ อ๊ะ คุณ  เลี้ยวข้างหน้า  ขอโทษที  มัวแต่คิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ ”

“ เกือบหยุดรถไม่ทัน ”


รถยนต์ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน  บันกำลังลังเลว่าจะชวนแขกเข้าไปนั่งในบ้านหรือจะตัดบทขอบคุณ  เพราะเห็นว่ารบกวนเวลามาพอสมควร
แต่เจ้าของรถก็ตัดบทด้วยการขอไปเข้าห้องน้ำในบ้าน

“ ตรงไปเลี้ยวซ้าย  เดินไปจนสุดทางเลยครับ ”

บันขึ้นไปเปลี่ยนชุดลำลองลงมา  เห็นแขกกำลังเดินชมสวนอยู่  ดูเหมือนกับว่าแขกของบ้านกำลังสนใจอ่างน้ำดินเผาที่มีฝูงนกกระจอกกำลังลง
มาอาบน้ำกันอย่างสนุกสนาน  บันยกถาดน้ำหวานกับคุกกี้ไปวางไว้ในศาลาท่าน้ำ  ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ

“ บ้านคุณเลขานี่สวยจริง ๆ   คนแต่งบ้านฝีมือดีมาก  วันหลังจะมาคุยด้วย  วันนี้เขาไปทำงานใช่ไหม ? ”

“ ใช่ครับ  วันนี้เขาไปทำงาน   ตรงนี้ร้อนนะครับ  ไปนั่งหลบแดดตรงศาลาริมน้ำก่อนดีไหม ? ”

“ คุณเลขา  คุณไม่คิดจะถามชื่อผมหน่อยเหรอ ? ”

“ เอ้อ   ทำไมครับ ?  ”
บันถามกลับไป

“ มันเป็นการให้เกียรติคนที่เรากำลังคุยด้วยไงครับ ”

“ คนไทยจะนิยมแนะนำตัวมากกว่า  ไม่ได้รอให้ใครเข้ามาถามชื่อ ”

“ อย่างงั้นหรอกเหรอ  มิน่าล่ะ  ผมแค่คิดว่า  เราต้องทำงานด้วยกันอีกนาน  ควรจะรู้ชื่อกันไว้    บันคุง ”

“ วาตาชิโนะ นามาเอะวะ  เคนซาบุโร่  โมริตะ  เดสุ ”
เขายืนขึ้นอีกครั้งแล้วก้มตัวลงอย่างสุภาพ  ตรงข้ามกับบันที่นั่งตัวแข็งอยู่ฝั่งตรงข้าม  ไม่คิดว่าคนขับรถพูดมากที่นั่งคุยกันมาตลอดทาง  ที่แท้ก็
เป็นเจ้านายคนใหม่



เคลวินหยิบเอาผีผาสีดำจากในกล่องประดับมุกออกมา  มือขวาหมุนปรับสายให้เข้าที่  ไม่นานนิ้วมือยาวนั้นก็ค่อย ๆ ดีดสายโลหะของผีผาเป็น
จังหวะ  ส่งบทเพลงไพเราะแต่แฝงเอาไว้ด้วยความเศร้าออกมา  พระจันทร์ดวงกลมโตสีเหลืองที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า  มันใหญ่โตจนดูเหมือนว่า
กำลังจะหลุดร่วงลงมาสู่พื้น    อัลเบิร์ตที่นอนอยู่กับพื้นหญ้าค่อย ๆ คลานเข้ามาใกล้กับเจ้านาย  หัวโต ๆ ของมันแนบไปกับรองเท้าของเคลวิน


‘ จันทร์กลมโต  ส่องสว่างอยู่เหนือซีหู  ไร้เมฆบัง  ลมเย็นพัดกิ่งหลิวไหวเอน  ดูราวกับมีนางรำเคลื่อนกายไปมา  ช่างงดงามนัก
ความรื่นเริงจากงานมหรสพ  เสียงกลองอึกทึก  ยิ่งทำให้ใจสั่นระรัว  เหตุใดใจถึงวูบวาบ  ว้าเหว่ถึงเพียงนี้  นี่เรากำลังอยู่ในงานมงคลมิใช่หรือ ?
เป็ดแมนดารินคู่รัก  กำลังว่ายน้ำเคียงคู่กันในซีหู  ช่างน่าอิจฉา 
ความรักนิรันดร์คือสิ่งใด  มิใช่ดอกไม้ที่รอวันแห้งเหี่ยว   แต่เป็นความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ  ที่ยากจะมีคนเข้าถึง
ความรัก  ยากนักที่จะเอ่ยออกมา  หากแต่หน้าที่และความรับผิดชอบยิ่งใหญ่กว่าขุนเขา  แล้วความรู้สึกของหัวใจเล่า  ยิ่งใหญ่เพียงไหน
ภักดีต่อความรับผิดชอบ  แต่ทรยศต่อหัวใจตัวเอง  ตัวข้าเป็นคนที่น่ายกย่องหรือขลาดเขลา

ดวงจันทร์สวยเด่น  ยามไร้เมฆบัง  แต่ดูเงียบเหงาเมื่อไร้เงากระต่ายเคียงคู่ ’




วันนี้เป็นวันที่สาม  นับตั้งแต่เดินทางมาถึงฮ่องกง  บันเดินทางเข้าออกศูนย์นิทรรศการนานาชาติเป็นร้อย ๆ ครั้ง  บทคัดย่อภาษาอังกฤษที่ส่งไป
ให้เคนตะซัง  ยังไม่ได้รับกลับ  บูทจัดแสดงยังขาดสินค้าตัวสุดท้าย  รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยที่บันกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ

“ คิดซะว่าเป็นงานเลี้ยงน้ำชาก็แล้วกันนะ ”
เคนตะซังเดินเข้ามาในชุดลำลอง  สวมรองเท้าผ้าใบ  เสื้อยืดลายขวาง  เขาดูผ่อนคลายและดูสนุกที่เห็นบันทำหน้ามุ่ย

“ แต่เคนตะซังครับ  คุณยังไม่ได้ส่งบทคัดย่อให้ผมแก้เลยนะ  แล้วอาหารทางหลอดเลือดดำก็ยังมาไม่ถึง แล้วคุณหว่องผู้จัดการสำนักงานฮ่องกง
ก็ป่วยเป็นไข้หวัด  มิสเตอร์ซาโตชิสั่งของเพิ่มอีกสองคอนเทนเนอร์  แต่เราไม่มีของที่ฮ่องกงเลย  แล้ว  แล้ว ”
บันทำหน้าตาเหมือนแมวป่วย  มือขวายุกยิกอยู่กับกระดาษบันทึก  มือซ้ายถือโทรศัพท์ของเคนตะเอาไว้รอสายของลูกค้า

“ บันนี่ฟังนะ  บทคัดย่อนั่นดีมาก  ไม่ต้องแก้   ไฮเปอร์โทนิค โซลูชั่นตัวใหม่จะมาทันพรุ่งนี้   โทรบอกเลขาคุณหว่องให้ส่งคนมาแทน  ถ้าไม่มีคน
มาที่นี่  ผมจะปลอดคุณหว่องออกทันที    โทรบอกซาโตชิ วาตานาเบ้  บอกว่า  เรามีของแน่นอน  จะให้ส่งของที่โยโกฮามะหรือคาวาซากิ   
พอวางสายซาโตชิซังเสร็จ    โทรไปที่สำนักงานเซี่ยงไฮ้  บอกว่าผมขอยืมสินค้าสองคอนเทนเนอร์  โอเค้ ? ”
บันพยักหน้าตามที่เจ้านายสั่ง  ก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ

“ เคนตะซังครับ  พรุ่งนี้ผมจะเกาะคุณเป็นเหาฉลามทั้งวันเลยคอยดู    คุณไปไหนต้องบอกผมนะ  ไม่งั้นผมจะลาออก ”
บันทำหน้าเครียด  ตากลมโตจ้องหน้าเคนตะอย่างเอาจริงเอาจัง

“ รับทราบและอนุมัติให้เกาะได้  ”



งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในศูนย์นิทรรศการวันนี้  ใหญ่โตมากซะจนบันคิดว่าตัวเองเป็นมดตัวเล็ก ๆ ที่ไต่ไปมาในงาน  เสียงคุยกันเป็นภาษาต่าง ๆ
ดังขึ้นทั่วทุกทิศทาง  ที่หน้าเวทีใหญ่มีแท่นสำหรับแนะนำสินค้า  มีจอแอลอีดีขนาดใหญ่  เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบจัดคิวด้านล่างเข้ามา
กระซิบกับบันว่าพิธีกรท้องเสีย  ให้หาคนออกไปแนะนำบริษัทและสินค้าไปก่อน

“ แย่แล้วเคนตะซัง  ใครจะขึ้นไปพูดล่ะ ? ”

“ ก็เลขาผมไง  อย่าลืมทักทายเป็นภาษากวางตุ้งนะ  ลูกค้าจะได้ประทับใจ  ”
เคนตะดันหลังให้บันเดินออกไปหน้าเวที



“ เอ๊ะ  นั่นบันนี่  บันนี่จริง ๆ ด้วย  พี่ดูสิ ”
ดาเนียลสะกิดเคลวินให้ดูบันออกมาเป็นพิธีกรจำเป็นหน้าเวที  แม้ว่าสองหนุ่มจะอยู่ไกลจากเวทีมาก  แต่ก็เห็นภาพของบันได้ชัดเจนจากจอ
แสดงภาพขนาดใหญ่

“ เด็กคนนั้นจะมาอยู่ในนี้ได้ไง ? ”
เคลวินหันมามองจอแอลอีดี  และเห็นชัดว่าเป็นบันจริง ๆ   บันที่เหมือนจะโตเป็นผู้ใหญ่   ดูไม่เหมือนเด็กคนเดิมอีกต่อไป



“ ทำดีมากนะ  เป้าหมายที่ 12 เปอร์เซ็นต์  ปีนี้เราต้องทำได้แน่นอน  ”
เคนตะโอบหลังบันขณะเดินขึ้นลิฟต์กลับห้องพัก  เมื่อผ่านเคาน์เตอร์ต้อนรับ  พนักงานโรงแรมก็เดินเข้ามาหาบันพร้อมกับส่งกล่องของขวัญ
สีแดงมาให้  มันเป็นกล่องที่ดูเรียบง่าย  ไม่มีโบว์  ไม่มีริบบิ้น  มีแค่กล่องสีแดงด้านนอกและของที่อยู่ด้านใน

“ อะไรน่ะ  ระเบิดหรือเปล่า  ลองเปิดดูซิ ”
เคนตะล้อบันที่ทำหน้าสงสัย

“ ระเบิดผมไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร  เปลืองเงินเปล่า ๆ ”
บันเปิดฝากล่องสีแดงนั้นออกมาและพบว่าด้านในที่เป็นฟองน้ำบุอยู่นั้น  เป็นยูเอสบีแฟลชไดรฟ์สีขาวเรียบ ๆ

“ OYA SUMINASAI   ราตรีสวัสดิ์ครับเคนตะซัง ”
บันก้มหัวลง  พร้อมกับรูดบัตรเปิดประตูห้องพักเข้าไป


ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ถูกเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์  ไม่นานมันก็มีหน้าต่างขึ้นมาให้กดเล่นเพลง    บันแปลกใจเมื่อมีเสียงงี๊ดง๊าดแปลก ๆ มีเสียงดีดนิ้ว
และสุดท้ายมีเสียงเห่าดังติดต่อกันหลายครั้ง  โปรแกรมเล่นเพลงนั้น  เล่นไฟล์วิดีโอต่อเนื่อง  มันเป็นวิดีโอที่มีรูปหมาตัวใหญ่นอนเกลือกกลิ้งอยู่
บนพื้นหญ้าสีเขียว  บันนิ่งไปซักพัก  เมื่อเงียบอยู่นาน  น้ำตาก็ไหลออกมา

“ เจ้านาย  อัลเบิร์ต  คิดถึงจัง ”
บันสะอึกสองสามครั้งและคิดไปถึงตอนที่เขียนจดหมายลา  การจากกันครั้งสุดท้ายระหว่างบันกับเคลวิน  เกิดจากหลังจากที่มีข่าวใน
หนังสือพิมพ์เรื่องงานหมั้นของทายาทสองตระกูลใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  สองครอบครัวกำลังเกี่ยวดองกันด้วยการแต่งงาน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2012 06:17:47 โดย Keniji »

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
คิดถึงบันมากกกกกเลยค่ะ
เปิดตอน 26 มา ก็ผ่านไป 9 เดือนแล้ว
กรี๊ดดดด  :z3: ตอนจบ 25 ไม่เห็นมีเค้าลางอะไรเลยอ่ะ นี่ฉันพลาดตอนสำคัญอะไรละเนี่ย
รีบกลับไปดูตอน 25 อีกรอบ

 :z3: แง่ะๆๆ สงสารบันอ่ะ ทำไมเคลวินถึงปล่อยให้บันลาออกง่ายๆแบบนี้นะ  :z3:

+1  :กอด1: ดีใจได้บวกเป็นคะแนนที่ 1001 เลขสวยเนอะ

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
ดีใจจังในที่สุดก็มาต่อ  ผ่านมา 9 เดือน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมแยกกันล่ะ  :a5: :a5:



+1

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
กิ๊ดดดดดดดดดดด คิดถึงมากกกก

อะไรกันกลับมาน้องบันก็กลับมาเมืองไทยแล้วว อะไรยังไงงงง 

ออฟไลน์ dezzetoeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :กอด1: :กอด1:
โอยยยยย เคนอิจิ๊ คิดถึงแท้น๊อออออออออออ ในที่สุดก็กลับมาแล่วว
แต่ทำไมตอนนี้จู่ๆบันนี่ก็กลับมาไทย เก้าเดือนนี่ ฉันพลาดอะไรไปหรือว๊า

คิดถึงเจ้านายกับอัลเบิร์ดเหมือนกัน ส่งวิดีโอมาง้อกันขนาดนี้ แอบคิดได้ใช่ไหมว่าเจ้านายไม่ได้แต่ง  :impress2:
เลี้ยงกระต่ายก็เหนื่อยแย่แล้วเนอะ อยากให้กลับไปอยู่บ้านเดียวกันเหมือนเดิมจริงๆ

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ตั้งเก้าเดือนกว่าแล้ว อิตาเจ้านายน้ำแข็งมิแต่งงานมีเมียไปแล้วเรอะ! -[]-

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เคนซังงงงงงงง รีบมาต่ออีกด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
บันหนีกลับบ้านเหรอ
แล้วใครหมั้นล่ะเนี่ย ทายาทก็แดเนียลกะเคลวินใช่มะ

ออฟไลน์ melody

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ในที่สุดก็มาต่อแล้วๆ ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย
ตอนนี้เริ่มคิดเอนเอียงแล้วว่าหรือว่าจะมีการเปลี่ยนตัวพระเอกเกิดขึ้น
ไม่เอานะๆ จะเอาเจ้านายคนเก่า ไม่เอาเจ้านายคนใหม่นะ :z3:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
เคนคุงงงงง คิดถึงงงงงงงง :กอด1:
หายไปนาน กลับมาอีกทีดันพาบันนี่หนีกลับไทยด้วยซะงั้น :sad4:

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
พ่อยังไม่ทันได้บอกความในใจเลย บันจังก้อหนีมาไทยแล้ว

ปล เคลียร์เรื่องหมั้นไม่ได้ง้อไม่สำเร็จแน่

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจจัง น้องบันมาแล้ว

the_pupae

  • บุคคลทั่วไป
ฮูเล่ :mc4:  มาต่อสะที อย่าหายไปนานๆอย่างนี้อีกน้า :call:

เจ้านายเจอนู๋บันแล้วจะเอาไงต่อเนี่ย

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
คิดถึงเคนอิจิชะมัด เอาน้องบันมาให้ยาวๆ นี่ ชื่นใจจริงๆ เสียก็แต่ยังคาใจ ตกลง
บันกลับไทยทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ หรือจบแล้วอะครับ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เมื่อไหรเจ้านายจะเลิกเย็นชา
เปลี่ยนมาเชียร์นายญี่ปุ่นแทนดีไหม๊

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ kissme

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 457
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
 :pig2:กลับมาแล้ว......คิดฮอดดดด มั่ก ๆ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Hi... ทักทายกันก่อนครับ เคนอิจิ :กอด1:
เปิดเรื่องมาก็ให้บรรยากาศเศร้าสร้อย ด้วยบทกวีของ หลี่ไป๋
จบตอนก็ต้องมาลุ้นว่า ความน้อยใจและเข้าใจผิดของ บัน จะถูกสะสางอย่างไร
ดูไป ไม่ง่ายเลย ยิ่งต่างคนต่างไม่พูดและแสดงออกอีกทั้ง เจ้านายคนใหม่ดูยังไง ๆ อยู่นา  :z2:
+ 1 ให้ เป็นคะแนนที่ 1003 ( ไม่รู้จะบอกทำไม  555.....)

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แต่!!ไหงเป็นแบบนี้ละ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เง้อออออ ทำไมเป็นอย่างนี้

บันจัง ร้องไห้ ฮืออออ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
คิดถึงหนูบัน กัยอัลเบิร์ตมากกกกกกกก :กอด1:

ออฟไลน์ มะมะมะหมิว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
กลับมาก็ดราม่าเลยยยย

ฮือออออออ สงสารบันนี่  :o12: :o12:

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
เปิดมาอีกที่ก็ผ่านมาเก้าเดือน....นี่ถ้าเป็นละครไทนหนูบันคงคลอดลูกละ :laugh:

แต่หนูบันก็ยังหน้ารักเหมือนเดิมเลยยยย....ขอบคุณที่มาต่อนะครับ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
คิดถึงบันนี่มากกกกกกกกกกกก
บันหนีกลับไทยเพราะเจ้านายจะหมั้นใช่ไหม
แต่เจ้านายญี่ปุ่นคนนี้แปลกมากเหมือนรู้จักบันเลย
มาถึงฮ่องกงแล้ว บันไม่คิดจะไปหาอัลเบิร์ตบ้างเหรอ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เจ้านายลงมือทำอะไรอีกนิด
กระต่ายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหงาตายได้นะ
แต่ก่อนหน้านั้นก็มีคนอยากเลี้ยงกระต่ายเยอะแยะ จะไหวมั้ย

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
okaeri~ Bunny~
คิดถึงมากๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
คิดถึงเคนอิจิที่สุด

แต่มาถึงก็เศร้าเลยทีเดียว

อย่าแยกเคลวินกับหนูบันแบบนี้สิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด