Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]  (อ่าน 735266 ครั้ง)

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
สงสารอัลเบิร์ตอ่าาาาาาาาาาาาา

bozang

  • บุคคลทั่วไป
เคนตะห้ามทำแบบนี้น้า ม่ายยยยยยยย
สงสารอัลเบิร์ต แง๊
อย่าตายนะ
ตอนนี้สั้นจัง T-T รออ่านต่อค่า

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
want กับ need นี่ทำให้คนเรานี่ทำได้ทุกอย่าง โดยไม่รู้สึกผิดจริง ๆ
คิดในแง่ + เหตุการณ์นี้ ทำให้ สองคนกับหนึ่งตัวได้กลับมาเจอกันพร้อมหน้าอีกครั้ง   :เฮ้อ:
ส่วนผู้กระทำผิด  คิดไม่ซื่อ คิดหรือว่าจะหนีความผิดพ้น สมัยนี้กล้องวงจรปิด จับผู้ร้ายได้มากกว่าตำรวจเสียอีก
ไม่ว่าจะอยู่ที่ฮ่องกง หรือว่า ญี่ปุ่น ก็ตาม  :m16:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เคนอิจิ เอา  :L2: มาฝาก เห็นหรือเปล่า ไม่ใช่แต่ก้อนอิฐนะ ดอกไม้ช่องาม ๆ ก็ได้ด้วย  :z2:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ยัยผู้หญิงบ้า :angry2:

ใช้หมาเป็นเครื่องมือ ขอให้กรรมสนองค่ะ  o18

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
อย่าเป็นอะไรนะ  อัลเบิร์ต  น้ำตาซึมเลยอ้ะ

ไอ้คนบ้านั่นใจร้ายที่สุด

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อย่าให้อัลเบิร์ตตายนะ ชักเกลียดเคนตะกับยัยอลิซตัวร้าย
บันนี่่เลิกทำงานกับไอบ้าเคนตะเลยนะ

+1+เป็ดให้คุณเคน

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
อัลเบิร์ตจ๋าอดทนรอเจ้านายน้อยหน่อยนะ กำลังจะบินไปหาอย่างด่วนแล้ว   :m15:

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
เอ่อ ขอเขกหัวเคนจิหน่อยเหอะ.....อย่าหนีสิ!!!!

ออฟไลน์ ~@มาวินฮับ@~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
อัลเบิร์ตต้องไม่ตาย กราบขอร้องเคนอิจิอย่าให้อัลเบิร์ตตายนะเขียนแล้วก็แก้บทใหม่นะคราบ  :m15: อ่านไปร้องไห้ไป นานเท่าไหร่ก็ได้ขออย่างเดียวอย่าให้อัลเบิร์ตตายก็พอ

D-Lay

  • บุคคลทั่วไป
บันนี่น้อย จะได้ไปหาอัลเบิร์ตไหมมมม TTUTT
อยากด่าเคนตะซัง แต่คิดคำด่าไม่ออก .....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ลู่เคอOlive♥

  • แซ่บเว่อร์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-8
 :fire: คนอะไรทำร้ายสัตว์น่ารักๆ ได้ลงคอ
นังอลิส เลวที่สุด!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ MiNaTeuk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
โหย...จิตใจทำด้วยอะไรอะ  :angry2: :angry2: :angry2:
กระทั้งหมายังทำ...ร้องไห้ตามเลย :sad12: :sad12: :sad12:
 :m16: :m16: :m16: แค้นอะ :m16: :m16: :m16:
สงสารน้องหมา ....
 o1 o1 o1 ขอร้องล่ะพี่เคนซัง อย่าให้น้องหมาเป็นอะไรเลย

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
เคนอิจิอย่าให้อัลเบิร์ตตายน๊ะ แค่อ่านตอนนี้น้ำตายังไหลแล้ว ถ้าตายละก็  :o12:

Mitsu_sama

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียวค่ะ ชอบอ่ะ ขออนุญาตสมัครเป็นแฟนคลับด้วยคนนะคะ ><

ตอนแรกรำคาญอิตาดาเนียลมากอ่ะ แต่พอมาเจอเคนตะแล้วอยากให้ดาเนียลกลับมาเลย หรือตาเจสยังจะโอเคกว่าอีก (จริงเหรอ 555)
แม่อลิส ก็แย่มาก ไม่ชอบพวกที่ไปอยากได้ของคนอื่นแล้วคิดว่าถ้าแยกเค้าออกจากกันได้แล้วตัวเองก็จะได้มาครองอย่างมีความสุขอ่ะ =3= ทำตัวแบบนี้ใครเค้าจะไปอยากรู้สึกดีๆ ด้วยล่ะ บวู่ววว  :fire:


ปล. อ่านไปแล้วแอบชอบพี่หมอหลินมากกว่าพ่อพระเอกค่ะ  :o8: (โดนแฟนๆ พระเอกต่อย)

มาต่อเร็วๆ นะค้า (นั่งรออัลเบิร์ต)  :L2:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
ตามมาอ่านเรื่องนี้ต่อจากเรื่อง "รหัสลับนักปรุงยา"

เรื่องนี้น่ารักมากเลย  ดีใจที่อ่านตามทันแล้ว

แต่ว่าตอนล่าสุดนี่มันอะร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อัลเบริ์ตอย่าตายนะ  ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
มาต่อได้แล้วนะครับเคนอิจิ หายไปนานมากแล้วครับ

ออฟไลน์ ~@มาวินฮับ@~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
คิดถึงอัลเบิร์ตจังเลย

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
และแล้วเราก็ตามทัน! (ในเวลาสองวัน)  :sad4:
โฮฮฮฮฮฮ!!!!!! อัลเบิร์ตตตต
ตอนแรกก็ว่าสงสารและเห็นใจอลิซ + ชอบเคนตะอยู่

แต่ตอนนี้ .. ม่ายยยยยยยยยยยย  :o12: :o12: :o12: :m31:

รอพี่เคนอิจิมาต่ออยู่นะคะ  :m15: :m15: สู้ๆ รออยู่เสมอ
นิยายพี่สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ (แต่ไม่แน่ในว่าเม้นท์ทุกเรื่องรึเปล่า o22 จ.. จำไม่ได้อ่ะ)

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
ตาย ๆ (เอาเท้าก่ายหน้าผาก) หายไปร่วมเดือน   เอาฮึบ ๆ มาลงแล้วครับ^^

Chapter  37

   Chapter  37

   เคนตะสูดหายใจช้า ๆ แล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้บันนั่งนิ่งเหมือนหุ่นยนต์ไร้ชีวิต  ตาจับจ้องอยู่กับแผงคอนโซลหน้ารถที่มีนาฬิกาดิจิตอลส่องสว่าง  เวลาผ่านมานานหลายชั่วโมงแล้วหลังจากหมอหลินโทรศัพท์เข้ามาเรื่องอัลเบิร์ต  บันเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากบ้านโมริตะตรงมาที่สนามบิน  เดินไปมาอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ถึงเข้ามาแจ้งว่ามีตั๋วว่างสองที่ 
   ตอนนี้รถยนต์ของโรงแรมที่พัก ขับเข้ามาในเขตตลาดเก่าฮ่องกง  ผ่านย่านการค้าที่คุ้นเคย ก่อนจะเลี้ยวเข้ามาจอดยังหัวมุมถนนที่เป็นที่ตั้งของคลินิก  บันคว้ากระเป๋าผ้าเตรียมเปิดประตูรถ ก่อนจะชะงักไปแล้วหันกลับมาพูดกับเคนตะ
   “เคนตะซังไปรอที่โรงแรมนะครับ เดี๋ยวผมเสร็จธุระแล้วจะกลับไปเองครับ”

   “เดี๋ยวผมลงไปเป็นเพื่อน  แล้วถ้ายังไงเดี๋ยวจะกลับไปรอที่โรงแรม”

   “แล้วเพื่อนของเคนตะซังที่นัดไว้ล่ะครับ?”

   “ก็คง…………….ไปจัดการกันทีหลัง”
เคนตะยักคิ้วให้กับบันที่ทำหน้าไม่เข้าใจ

“ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ  อาการเจ้าอัลเบิร์ตของบันนี่คงดีขึ้นแล้ว”

คลินิกรักษาสัตว์ของหมอหลินดูเงียบเหงา  อาจจะเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงเช้าและอากาศภายนอกก็ดูอึมครึมเหมือนฝนกำลังจะลงเม็ด  บันเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปตามทางที่ปูด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาดตาด้วยความรวดเร็วเพราะคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี  กล่องไฟสีแดงส่องสว่างอยู่เหนือประตูห้องฉุกเฉินที่เห็นอยู่ข้างหน้าทำเอาบันเหมือนคนหมดแรง  บริเวณหน้าห้องที่เป็นพื้นหินแกรนิตสีเทาอ่อนนั้นดูเงียบผิดปกติ  ไม่มีวี่แววของคน  ไม่มีเคลวิน หมอหลิน และดาเนียล  บันวางกระเป๋าผ้าลงบนเก้าอี้พลาสติกสีเหลืองสดที่ต่อกันเป็นแถวอยู่หน้าห้องก่อนจะเดินเข้าไปแนบหน้าชิดกับกระจกฝ้ามัว ๆ ที่กั้นห้องฉุกเฉินเอาไว้กับพื้นที่ด้านนอก  ผ่านไปนานเกือบสิบนาทีจนรู้สึกถึงความผิดปกติ  บันหันกลับไปมองเคนตะที่นั่งยิ้มมาจากเก้าอี้  เขานั่งกอดอก ทำท่าเหมือนคนกำลังวางแผนทำอะไรบางอย่าง

“คงอยู่ข้างในกันหมด”
เคนตะพยักหน้าทางหลังประตูกระจกที่เป็นห้องฉุกเฉิน  บันเงื้อจะเคาะประตูพอดีกับจังหวะที่หมอหลินเปิดประตูกระจกออกมา
“มาแล้วเหรอ?”
หมอหลินยิ้มกว้าง

“เป็นไงบ้างครับ……………..อัลเบิร์ตเป็นไงบ้าง?”

“อาการยังทรงตัวอยู่  ตอนนี้เคลวินอยู่ข้างใน” หมอหลินมองไปทางด้านในของห้องฉุกเฉิน  “ต้องเปลี่ยนชุดก่อนถึงจะเข้าไปข้างในได้”
หมอหลินขยับตัวมองไปทางด้านหลังของบันแล้วพยักหน้าทักทายเคนตะ

“คุณเคนซาบุโร่  เจ้านายผมเองครับ”
บันแนะนำเคนตะให้หมอหลินรู้จัก

“สวัสดีครับ  ได้ยินบันนี่พูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ”
หมอหลินเดินเข้ามาจับมือ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เคนตะยื่นมือขวาเข้าไปจับก่อนจะหันไปพูดกับบัน “ตอนเย็นผมจะส่งรถของโรงแรมมารับ”

“ไม่ต้องหรอกครับ  เดี๋ยวผมไปส่งให้เอง”
หมอหลินโบกมือแล้วพยักหน้าให้บันเดินตามไปที่ห้องทำงาน

“แล้วเจอกันที่โรงแรมนะครับเคนตะซัง”
บันทิ้งท้ายแล้วรีบเร่งฝีเท้าตามหมอหลินไป

“อาการทรงตัวนะ  ไม่แย่ไปกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น  ตอนนี้มีหมออีกคนอยู่ห้อง กำลังดูอาการ  เมื่อตอนเช้ามืด ปั๊มหัวใจไปสี่ครั้ง”
หมอหลินคนกาแฟเร็ว ๆ สองสามครั้ง แล้วยกขึ้นเป่า  พร้อม ๆ กับที่บันมุดส่วนหัวออกมาจากชุดคลุมสีเขียวเข้ม

“บางทีอัลเบิร์ตอาจจะจำกลิ่นกับเสียงบันนี่ได้”
หมอหลินพยักหน้า

ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกช้า ๆ ผู้ชายอีกคนที่หมอหลินบอกว่าเป็นสัตวแพทย์คนที่สอง  กำลังยกเครื่องปั๊มลมสีขาวออกมาวางข้างเตียง  และผู้หญิงอีกคนที่ทำหน้าที่คล้ายพยาบาลผู้ช่วยกำลังเก็บเครื่องมือที่ดูคล้ายกับสายโทรศัพท์ที่ขดเป็นวงออกจากเตียง  เจ้าขนฟูตัวใหญ่  ตอนนี้นอนนิ่งอยู่บนเตียงสเตนเลสเย็นเฉียบ  บันรู้สึกอยากจะหันหน้าหนีภาพที่เกิดขึ้น  ไม่อยากรับรู้ความเจ็บปวด  ไม่อยากเห็นเพื่อนที่แสนดีจากไป  อัลเบิร์ตเป็นสิ่งมีชีวิตแรกสุด ที่เข้ามาทักทายบันเมื่อครั้งเข้ามาในบ้านหลังนั้น  ตอนนี้มันกำลังหายใจรวยริน  คล้ายกับใบไม้ใบสุดท้ายที่ติดอยู่กับกิ่งไม้  รอลมพายุแรงที่จะพัดให้มันปลิดปลิวไป

“ถ้าเจ้านายของอัลเบิร์ตหมดหวังแล้ว  ใครจะเป็นคนดึงมันกลับมาได้ล่ะ”
เคลวินยื่นมือเข้ามาคว้าเอวบัน แล้วดึงเข้าไปใกล้ ๆ

“ผมไม่ใช่เจ้าของอัลเบิร์ต  เคลวินต่างหาก”
บันสะอื้น  และรู้สึกเหมือนกับมีก้อนโต ๆ เข้ามาจุกตรงหน้าอก

“เรา…………… เป็นเจ้าของอัลเบิร์ต”
เคลวินบีบมือบันเบา ๆ

“เรา……………เหรอครับ?”

“ใช่  เราสองคนเป็นเจ้านายของอัลเบิร์ต  เราต้องช่วยกัน”
เคลวินจับฝ่ามือของบันไปวางไว้บนหลังหูของอัลเบิร์ต  จากนั้นก็ทาบฝ่ามือใหญ่ของตัวเองลงไป

“อัลเบิร์ต …………. ฉันมาแล้ว  ได้ยินหรือเปล่า”
บันเข้าไปกระซิบใกล้ ๆ หูเจ้าหมาตัวใหญ่  มือซ้ายยื่นเข้าไปลูบหน้าผากที่มีขนนุ่มสีน้ำตาลอย่างแผ่วเบา

“เอาเสื้อปลาคาร์ปมาฝากด้วยนะ  เสื้อปลาคาร์ปสีสวยแบบที่แกชอบไง  ตื่นขึ้นมาดูสิ”
บันรู้สึกได้ถึงแรงตอบสนองจากใต้ฝ่ามือ  แม้จะแผ่วเบาแทบไม่รู้สึก แต่บันก็รู้ว่าเจ้าขนฟูพยายามอยู่รอด  แต่ตอนนี้มันไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลืมตาขึ้นมามองบัน  อาการตอบสนองเพียงอย่างเดียวของอัลเบิร์ตตอนนี้คือ ลมหายใจอ่อน ๆ ที่เบาบางจนแทบไม่รู้สึก

“ฉันจะไม่ทิ้งแกไปไหนอีกแล้ว  ฉันสัญญา  เราจะอยู่ด้วยกันนะอัลเบิร์ต  ตื่นขึ้นมาสิ”

เกิดแรงกระตุกใต้ฝ่ามือของบันกับเคลวิน  ตอนนี้เจ้าขนฟูมีอาการชักและเกร็ง  หมอหลินเรียกเอาท่อช่วยหายใจและเครื่องมือมาจากผู้ช่วย  ในขณะที่หมออีกคนก็เข้ามาฉีดยา ก่อนจะคุยเรื่องคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดกับหมอหลิน  บันหดมือออกมาจาก อัลเบิร์ตพร้อมกับร้องโฮ  เคลวินพาออกมาจากห้องก่อนจะดึงเข้ามากอดให้กำลังใจ

“ไม่เป็นไร”
เคลวินดูจะหดหู่อยู่พอสมควร  แต่ก็ยังอยู่ในท่าทางที่เป็นปกติ  ตรงข้ามกับบันที่ดูจะเสียขวัญไปมาก

“อยากไปดูอัลเบิร์ต ………..ข้างใน”

“อย่าเลย…………….” เคลวินกดหน้าผากบันเข้ากับหน้าอกตัวเอง “เข้าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“แต่อัลเบิร์ต”

“ไปหาอะไรอุ่น ๆ จิบซักหน่อยดีกว่า  แล้วค่อย …………………. กลับมารับอัลเบิร์ตกลับบ้าน”
คำพูดที่ขาดช่วงไปของเคลวินทำเอาบันใจหล่นไปกองกับพื้น  ตอนนี้มืออบอุ่นออกแรงดึงเบา ๆ ให้บันเดินตามออกไปข้างนอก

รถยนต์สีดำคันใหญ่แล่นออกมาตามถนนเส้นเดิมที่บันคุ้นเคย  ตัดผ่านแยกและสถานีรถไฟฟ้าที่เริ่มมีคนเดินคึกคักกว่าช่วงเช้า  บันเอนตัวลงกับเบาะผ้า  แนบหน้าลงกับกำมะหยี่สีเทานุ่ม ๆ ทอดสายตามองอย่างไร้จุดหมายผ่านไปยังเมฆสีเทาที่จับกลุ่มกันอยู่ข้างนอก  ท้องที่ว่างเปล่า ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ไม่มีความรู้สึกหิว  อาหารที่ผ่านเข้ามาอย่างสุดท้าย  เป็นน้ำผลไม้ครึ่งกล่องที่เคนตะคะยั้นคะยอให้กินตอนอยู่บนเครื่อง

เคลวินพาบันเดินเข้ามานั่งในเบเกอรี่เฮ้าส์ของโรงแรมที่ตกแต่งร้านสวยงามเหมือนในหนังสือเรื่องโรงงานช็อกโกแลตมหัศจรรย์ของโรอัลด์ ดาห์ล    เวลาผ่านไปไม่นาน  ถ้วยขนาดย่อมรูปวิลลี่ วองก้าที่ด้านในบรรจุนมร้อนเอาไว้ก็ถูกยกเข้ามาวางตรงหน้าบัน  ข้าง ๆ มีเค้กผลไม้กับพายบลูเบอร์รี่สีม่วงสดใส  เคลวินพยักหน้าแล้วส่งรอยยิ้มหายากมาให้

“กินสิ  ถ้าไม่หมดก็ต้องนั่งอยู่ตรงนี้”
เคลวินสั่ง

“ทำไมพักนี้ถึงได้มีแต่เรื่องก็ไม่รู้”
บันหยิบช้อนขึ้นมาเขี่ยฟองนมในถ้วยไปมา

“หลายอย่างมันดูบังเอิญมากไปหน่อย”
เคลวินพูดแล้วยกถ้วยนมขึ้นจิบ

“หมายความว่าไงครับ?”

“ก็เรื่องที่เกิดขึ้นพวกนี้  ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกันไปหมด  แต่ก็คงอีกไม่นาน  เรื่องทุกอย่างก็จะจบลง”
เคลวินชี้นิ้วไปที่เค้กของบัน  เป็นเชิงบังคับให้เจ้าของเค้กรีบจัดการของตรงหน้าตัวเอง

“หมายความว่า  เคลวินจัดการเรื่องบริษัทคุณย่าได้แล้วเหรอครับ?”
บันขยี้ตาที่มีสีแดงก่ำไปมาแล้วหันไปมองเคลวินที่พยักหน้ารับช้า ๆ

“หุ้นส่วนคนหนึ่งของฝ่ายอลิซ  ตัดสินใจขายหุ้นให้เรา”

บันยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบชั่วโมง  ก่อนจะคิดได้ว่าวงการธุรกิจ  ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ

“แล้วต้องแลกกับอะไรครับ?”
บันถามต่อ

“เขากำลังสนใจระบบโทรศัพท์ในจีน  ก็เลย”

“ก็เลยขอแลกหุ้นกับบริษัทของเคลวินเหรอครับ”
บันทำหน้าเหมือนคนหมดแรง

“ไม่ใช่…………….. เขาจะขายหุ้นในบริษัทอลิซให้  โดยมีข้อแม้ว่า  เขาจะต้องได้หุ้นของบริษัทระบบโทรศัพท์”

“แต่บริษัทนั้นคุณพ่อคุณสร้างขึ้นมา  แล้วมันก็กำลังไปได้ดี”

“ต้องช่วยบริษัทคุณย่าก่อน  แล้วอีกอย่าง  การแต่งงานก็จะได้ไม่เกิดขึ้น  ไม่ดีใจหรือไง”
เคลวินยิ้ม

“ผมรู้ว่าคุณรักบริษัทนั้นมาก  ทำไมเราไม่หาทางอย่างอื่นดูล่ะครับเคลวิน”
บันกดนิ้วมือลงไปบนขมับสองข้างที่เริ่มมีอาการตุบตับคล้ายกับมีกลองอยู่ข้างใน

“นี่คือทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้” เคลวินยิ้ม  “ก็ดีเหมือนกัน  จะได้มีเวลาทำอะไรมากขึ้น”

“ขายบริษัทแล้ว  ก็มาทำงานกับคุณย่าเหรอครับ?”

“บริษัทคุณย่าก็มีดาเนียลอยู่แล้วไง”

“แล้ว …………….. เคลวินจะทำอะไรต่อ?”
บันใช้ส้อมจิ้มลงไปบนหน้าเค้กแล้วยกขึ้นมาแตะ ๆ ลิ้น เป็นทำนองว่าตัวเองได้กินเค้กชิ้นนี้ไปแล้ว

“ก็แบกกระเป๋าสมัครงาน  ที่ไหนรับก็ไปทำงานที่นั่น”

บันทำหน้ามุ่ย  ถ้านี่เป็นเรื่องตลกที่เคลวินพยายามพูดให้หัวเราะเพื่อคลายความเศร้า  เรื่องนี้คงเป็นมุกตลกที่ไม่มีความขำขันเอาเสียเลย  บันนึกภาพเคลวินถือกระเป๋าหนังรีบออกไปทำงานแต่เช้าตรู่เพื่อสแกนนิ้วลงเวลาทำงานไม่ออก

“ไม่ดีหรือไง  ทำงานหมดเดือนก็รับเงิน  วันหยุดเราจะได้พาอัลเบิร์ตไปเที่ยวไง  ทำงานเหมือนเดิมก็ไม่ได้ไปไหนซักที”

“ถึงกับต้องขายบริษัทมาทำงานเป็นลูกค้า  นี่มันไม่ตลกหรอกนะ  ผมไม่อยากเห็นเคลวิน……..”
บันถอนหายใจยาวแล้วเลื่อนถาดเค้กกับถ้วยนมออกไป

“รู้สึกสงสารหรือว่า …………….สมเพชฉันกันแน่ล่ะ?”
เคลวินดีดนิ้วลงบนหน้าผากของบันเบา ๆ ก่อนจะใช้มือปัดผมหน้าของบันไปมา

“เปล่าครับ  ผมแค่ไม่อยากให้เคลวินลำบาก”

“กลัวว่าฉันจะไม่มีเงินเลี้ยงหรือไง  แค่กระต่ายกับหมาอย่างละตัว  ไม่ทำให้จนได้หรอก”
เคลวินเลื่อนเข้ามากุมมือคนตรงข้ามไว้ ก่อนจะสัมผัสได้กับแรงสั่นเบา ๆ ของโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง  เมื่อยกขึ้นมารับปรากฏว่าเป็นสายจากหลินเจียเว่ยที่อยู่ในคลินิก  เคลวินส่งภาษากวางตุ้งรัวเร็วตอบกลับไปซักพักก่อนจะวางสายแล้วหันกลับมาคุยกับบัน

“อัลเบิร์ต”
เคลวินพูดแล้วนิ่งไป 

“อัล”
บันออกแรงบีบเบา ๆ บนมือของเคลวิน

“ฟื้นแล้ว”
เคลวินยิ้ม

“จริงเหรอครับ  ไปกันเถอะ  ไปเดี๋ยวนี้เลย ไปหาอัลเบิร์ต”
บันดีดตัวขึ้นเหมือนมีสปริงติดอยู่  อาการซึมเศร้าก่อนหน้า  ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้ง



เคนตะนั่งนิ่ง  สายตาจ้องผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายอย่าง  ทั้งไม่พอใจ ไม่ชอบใจและรู้สึกผิดหวัง  เขาเคาะนิ้วเป็นจังหวะ ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วยักไหล่

“มีความสามารถทำได้แค่นี้เองเหรอ  ผมไม่น่าให้โอกาสคุณเลยนะอลิซ”
เคนตะพูดอย่างคนหัวเสีย

“ใครจะไปรู้ว่าไอ้เจ้าหมายักษ์ของเคลวินจะอ่อนแอขนาดนั้น”
อลิซกระแทกเสียงกลับ

“นี่จนแต้มถึงขนาดที่ต้องไปลงกับสัตว์แล้วเหรอ!”

“ถ้าคิดว่าตัวเองทำได้ดีกว่านี้  คุณก็ควรทำเองนะเคนตะ!”

“แล้วก็ปล่อยให้คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปน่ะเหรออลิซ  ทำไมผมจะต้องลงมือเองด้วย  ในเมื่อผลประโยชน์มันจะไปตกอยู่กับคุณ”

“ถึงฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรจากเรื่องนี้  แต่ฉันมั่นใจ  ว่าคุณจะได้รับประโยชน์  ถ้าฉันทำมันได้สำเร็จ!”
อลิซยืดตัวขึ้นมาแล้ววางฝ่ามือลงบนโต๊ะ

“ซึ่งก็เห็นกันอยู่แล้วว่าคุณทำไม่ได้  ข้อตกลงของเราเป็นอันยกเลิก  ผมประเมินคุณสูงไปหน่อย”
เคนตะยกมือให้บริกรมาเก็บเงินที่โต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วส่งสายตาแข็งกร้าวมาให้อลิซ

“ถ้ายังทำอะไรที่โง่เง่าและสิ้นคิดแบบนี้อยู่อีกล่ะก็  คุณไม่มีทางได้สมหวังกับมิสเตอร์เคลวินนั่นหรอก”
เคนตะวางธนบัตรลงบนโต๊ะแล้วหันหลังกลับ  เดินตรงไปยังบันได

“กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องนะเคนตะ  เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะคุณ  คุณเป็นคนยื่นมีดมาให้ฉัน  คุณมันก็โหดเหี้ยมไม่ต่างกันหรอก!”
อลิซแผดเสียงแหลมจนก้องไปทั่วคอฟฟี่ช็อป  ลูกค้าที่เข้ามานั่งหลบอากาศหนาวข้างนอก  ต่างพากันหันมามองคู่หญิงชายที่ยืนทำท่าถมึงทึงอยู่หน้าบันไดหินอ่อนด้วยความสนใจ

“อย่าเอาผมไปนับรวมกับคุณ  ผมไม่มีทางใช้วิธีสกปรกแบบเดียวกันกับคุณแน่อลิซ  คนไม่เคยรักใครจริง ๆ หรอก  ไม่เคยให้ความรักกับใคร  คุณถึงไม่เคยสัมผัสได้กับความรักจริง ๆ ความรักที่เสียสละให้กันได้ทุกอย่าง”

เคนตะส่งเสียงเย็นชากลับมาที่อลิซ  ซึ่งกำลังยิ้มและหัวเราะ

“นักบุญใจบาป  ตัวตนของคุณก็เป็นซาตานดี ๆ นี่เอง  คุณยื่นมีดมาให้ฉันฆ่าคนอื่น  คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับลงมือเองหรอกเคนตะ”

“ก็แล้วแต่จะคิด  ผมไม่มีเวลาให้คุณอีกแล้ว  ยิ่งคุยกับคุณมากเท่าไหร่  ผมยิ่งรู้สึกว่าเวลาทุกนาทีของผมมันดูมีค่ามากขึ้นเท่านั้น  เป็นเวลาที่มีค่า  ไม่ควรจะเอามันมาเสียกับคนอย่างคุณ”
เคนตะขยับเสื้อนอกแล้วก้าวขาเดินลงบันได้หินอ่อนสวยงามลงมา  อลิซที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ  เดินตามลงมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน  เสียงพื้นรองเท้าของเธอสัมผัสและกระทบกันกับหินอ่อนจนเกิดเสียงดังไปทั่ว

“ขายหุ้นให้ฉันซะเคนตะ  แล้วเราก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก!”
อลิซออกแรงกระชากแขนของเคนตะ  จังหวะเดียวกับที่บันเดินผ่านเข้ามาตรงหน้าบันไดหินอ่อนพอดี

“เคนตะซัง?”
บันมองเคนตะที่กำลังออกแรงสะบัดมือของอลิซ  หนุ่มญี่ปุ่นชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะหันมาทำตาวาวกับอลิซ

“ฉลาดขึ้นแล้วนี่!”
เคนตะดึงแขนออกมาจากอลิซ

“ฉันเปล่านะ  ฉันจะทำไปทำไม  ไม่เห็นหรือไงว่าเคลวินมาด้วย”
อลิซทำหน้าเสียเมื่อเห็นเคลวินเดินตามจากทางด้านหลังของบัน

บันทำหน้าผิดหวังหลังจากที่ปะติดปะต่อเรื่องจากเหตุการณ์ที่เจอ  เพื่อนที่เคนตะบอกว่าจะออกมาเจอที่แท้ก็คืออลิซ เรอเน

“ผมมาเอง  ไม่มีใครบอกให้มาที่นี่” บันตั้งใจพูดกับเคนตะ  “เคนตะซัง ………….. ไม่รู้เรื่อง  เคนตะซังไม่ใช่คนทำร้ายอัลเบิร์ตใช่ไหมครับ?”

เคนตะจับน้ำเสียงผิดหวังและเสียใจของบันได้  เขารู้ว่าบันมองเขาเป็นผู้ชายใจดีและมีเหตุผล  แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้  เขากลายมาเป็นคนร้ายฝ่ายเดียวกับอลิซ

“ผมรู้เรื่องอัลเบิร์ตจากบันนี่  เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวกับผม”
เคนตะก้าวเข้าไปจะจับมือบัน  จังหวะเดียวกับบันถอยห่างออกไป

“เคนตะขายหุ้นให้กับคุณอลิซ”

“มันคนละส่วนกัน  ผมคิดจะขายหุ้นให้กับอลิซก็จริง  แต่ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรกที่อลิซทำกับสัตว์เลี้ยงของมิสเตอร์เคลวิน”
เคนตะไม่ได้โกหกบัน  เขาพูดตามความเป็นจริงทุกอย่าง

“คุณไม่ควรดึงอัลเบิร์ตเข้ามาเกี่ยวด้วยเลยนะอลิซ  มันไม่มีสมองพอที่จะมาต่อสู้กับคุณได้”
เคลวินเดินเข้ามาทันประโยคที่เคนตะพูดพอดี  เขารอเคนตะพูดจบแล้วถึงจะหันมาพูดกับอลิซ  ตอนนี้คนสี่คนยืนนิ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ตรงหน้าบันได  ต่างคนต่างเงียบและไม่มีทีท่าว่าจะมีคนพูดต่อ

“เข้าใจแล้วครับ”
บันพยักหน้าแล้วถอนหายใจอย่างผิดหวัง

“อย่ามองผมไปในทางร้าย”
เคนตะดูจะมีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“ผมรักเคนตะซังเหมือนเจ้านายกับลูกน้องและเหมือนพี่ชายกับน้องชาย  ผมคิดว่า  เคนตะซังจะไม่โกหกผม”
บันจ้องตาเคนตะอย่างคนที่ต้องการความมั่นใจ

“ผมไม่ได้โกหก  ผมพูดที่โตเกียวไปแล้วเรื่องหุ้น  เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนี้  ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  และผมก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  เสียใจที่ทำให้บันนี่รู้สึกผิดหวังและรู้ไม่ดี”
เคนตะเอื้อมมือมาแตะแขนบันเบา ๆ

“ต้องไปแล้วครับ  ต้องไปดูอัลเบิร์ต”
บันส่งยิ้มบางๆ ให้กับเคนตะแล้วหันไปมองอลิซที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ ๆ   ในสถานการณ์นี้  อลิซดูจะอยู่ในตำแหน่งที่ลำบากกว่าคนอื่น  เธอกลายเป็นผู้ต้องหาที่มีพยานมัดตัวแน่นหนา  เคลวินไม่หันมามองเธอเลย นับตั้งแต่พูดประโยคแรกกับเธอจบ  เขาเห็นเธอเป็นเหมือนอากาศ

“ไปกันเถอะ”
เคลวินดึงบันออกมาจากจากวงล้อมที่แสนอึดอัด

“ผมจะยกหุ้นให้คุณมิสเตอร์เคลวิน  เงื่อนไขอย่างเดียวของผมคือ  บันนี่”
เคนตะส่งเสียงตามหลังมา  เคลวินหยุดเดินแล้วหันกลับไปตอบ

“ถ้าคุณรักและหวังดีกับใครซักคน  คุณไม่ควรเอาเขามาเป็นเงื่อนไข  คุณไม่ควรเอาความรักมาตีค่าเป็นเงิน ความรักไม่ใช่การค้า ความรักไม่ได้มีไว้ขาย  มันไม่มีคำว่าขาดทุนหรือได้กำไร”


ย่อหน้าแปลก ๆ ขออภัยครับ มันก๊อปปี้มาแล้ว ยังไงไม่รู้ เดี๋ยวมาแก้อีกที คำผิดยังไม่ได้แก้ (นิสัย) เดี๋ยวไปตุ๊ระข้างนอกก่อนครับ
แล้วจะเข้ามากดบวกให้ครับที่รัก^^
//เคนอิจิ :กอด1:


เข้ามาแก้คำผิด ครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2012 19:52:03 โดย Keniji »

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
ทางเข้าเพจ  กดน้องก็อตซิลล่าตรงแบนเนอร์ลายเซ็นได้เลยครับ  ไปคุยกันที่นั่นได้นะครับ^^

V

V

V

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
บันจังคงผิดหวังน่าดู เเต่อลิสแย่ที่สุดทำยังงั้นกับอัลเบิร์ตได้ยังไง   :z6:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :เฮ้อ:  เคนตะ ทำไมทำแบบนี้คะ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
พูดได้ดีมากเคลวิน

honeystar

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆ อัลเบิร์ตไม่เป็นไรแล้ว เกลียดยัยอลิซสุดๆ

ออฟไลน์ 2NITE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พ่อพูดได้ดีมาก เคนตะได้ยินแล้วใช่ไหมว่า บันนี่รักเคนตะแบบพี่น้อง

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
งานนี้เคนตะจะหาข้อแลกเปลี่ยนอะไรที่ไม่ทำให้บันนี่ต้องโกรธนะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
บีบคั้นหัวใจ
แต่ก็ดี เร่ืองมันจะได้จบๆไป

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
 :mc4: อัลเบิร์ตรอดแล้ว  สะใจยัยอลิซ กะเคนตะมาก

“ถ้าคุณรักและหวังดีกับใครซักคน  คุณไม่ควรเอาเขามาเป็นเงื่อนไข  คุณไม่ควรเอาความรักมาตีค่าเป็นเงิน ความรักไม่ใช่การค้า ความรักไม่ได้มีไว้ขาย  มันไม่มีคำว่าขาดทุนหรือได้กำไร”
ชอบมากๆ กับคำพูดของเคลวิน  feel good 

กด + และ + เป็ด ให้กับคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ kissme

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 457
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ค่อยยังชั่ว......  แต่เสียดายเคนตะซังจังเลย  หวังว่าสักวันคงจะเข้าใจและพบคนที่ใช่นะจ๊ะ

รัก คือ อะไรหนอ???

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด