Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]  (อ่าน 791840 ครั้ง)

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
+1 และกดเป็ดเหลืองให้อัลเบิร์ต
ปลื้มปริ่มดีใจที่อัลเบิร์ตอาการดีขึ้น o7

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
กดไลท์พันครั้งให้กับคำพูดของเคลวิน o13

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
อยากให้มาต่อให้อ่านบ่อยๆอย่าขาดหายไปนาน เพราะบางทีจำเรื่องราวไม่ค่อยได้ น้องเคนจิอย่าร้างลาไปไหนนะครับ

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตายแล้วฉัน นั่งร้องไห้ดีใจที่อัลเบิร์ตไม่ตายอะ  ตลกตัวเองมากอะตอนนี้

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
Chapter 38

   อัลเบิร์ตฟื้นขึ้นมาพร้อมกับพายุฝนตกหนัก ๆ ของฮ่องกงอย่างเหลือเชื่อ  หมอหลินโล่งอกกับอาการแพ้ยาของอัลเบิร์ต แต่ก็เป็นห่วงเรื่องความชื้นของอากาศข้างนอก ที่อาจจะทำให้เจ้าขนฟูปอดบวมได้  บันทันได้เห็นอัลเบิร์ตแวบเดียวช่วงที่หมอย้ายมันจากห้องฉุกเฉินไปห้องพักฟื้นปลอดเชื้อ  แม้จะยังไม่ได้ยินเสียงชัด ๆ แต่บันก็ดูพออกพอใจมากที่สหายสี่ขากลับมาได้  บันถูมือแล้วเดินวนเวียนอยู่หน้าห้อง  รอคุณหมอเล่ยที่เป็นเจ้าของไข้อีกคนกลับออกมาจากห้องปลอดเชื้อ  ขณะที่อีกด้านของคลินิก  หมอหลินกำลังนั่งคุยอยู่กับเคลวินในห้องทำงาน  ทั้งคู่นั่งตรงข้ามกัน และส่งเสียงสนทนาด้วยภาษากวางตุ้งเบา ๆ หมอหลินถอดแว่นตาออกมาเช็ดด้วยผ้าผืนเล็ก ก่อนจะวางลงแล้วนวดขมับตัวเอง

   “คิดดีแล้วเหรอ  บริษัทนั่นก็ทำกำไรดีทุกปี งานประมูลก็เพิ่งเซ็นสัญญาไป ขายซะตอนนี้ก็น่าเสียดายแย่”

   “น่าเสียดาย แต่ไม่น่าเสียใจ”
เคลวินตอบสั้น ๆ

“บันนี่รู้หรือยัง?”
หมอหลินกดน้ำร้อนลงใส่ถ้วยกระเบื้องที่มีถุงชาสองถ้วย  เขาวางถ้วยของตัวเองลงบนโต๊ะ เสร็จแล้วก็เลื่อนถ้วยชาของเคลวินให้พร้อมกับกาเล็ก ๆ ที่ใส่นมเอาไว้

“เพิ่งรู้ก่อนกลับเข้ามาที่นี่ครับ”

“บันนี่ก็พยายามช่วยเต็มที่ ………… แต่ทุกอย่างมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคน ๆ เดียว” หมอหลินพูดแล้วหยุดซักพัก  ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นมาแล้วพูดต่อ “ไม่ใช่สิ  คนสองคนต่างหาก  คุณอลิซ กับคุณเคนซาบุโร่”

“เพิ่งไปเจอสองคนนั่นที่โรงแรมมาครับ  คนที่ทำเรื่องอัลเบิร์ตก็คืออลิซ”
เคลวินดูจะหัวเสียกับเรื่องนี้พอสมควร

“คิดว่าคุณเคนซาบุโร่น่าจะมีความสามารถมากกว่าอลิซนะเคลวิน?”
หมอหลินตั้งข้อสงสัย

“บันบอกว่าเชื่อใจเขา ถ้าเคนซาบุโร่บอกว่าไม่โกหก เขาก็ไม่โกหกจริง ๆ ”

“บันนี่มองคนในแง่บวกมากเกินไป คนฉลาดรู้คิดอย่างเคนซาบุโร่ ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง แต่ก็ไม่แน่” หมอหลินกอดอก  “บันนี่อาจมองเห็นอะไรดี ๆ ในตัวเคนซาบุโร่ก็ได้  เขานอนด้วยกันทุกคืน”
หมอหลินทิ้งระเบิดลูกโตเอาไว้หน้าเคลวิน

“คืนนี้ผมจะพาบันไปค้างที่บ้าน”
เคลวินดูจะมีสีหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินหมอหลินพูดเรื่องบันกับเคนตะ

“อย่าเลย  ให้ไปนอนที่บ้านดีกว่า  บ้านนายไม่มีคนอยู่ เดี๋ยวบันนี่จะเหงา  อีกอย่าง ที่บ้านก็มีพ่อบ้านดูแลตลอด ระหว่างนี้ นายควรไปจัดการเรื่องหุ้นให้เรียบร้อย เรื่องบันนี่ ให้เขาตัดสินใจเอง ว่าจะทำงานที่ไหน จะกลับไปญี่ปุ่นหรือว่าอยู่ทำงานที่นี่”
หมอหลินพูดปิดประเด็น ก่อนจะหันไปมองประตูที่มีคุณหมอเล่ยโอบหลังบันเดินเข้ามา

“ดูเหมือนว่าเราจะห่วงอัลเบิร์ตจนลืมเจ้านายของมันนะครับหมอหลิน”
คุณหมอเล่ยยิ้มแล้วเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะ  ดึงเอาปรอทวัดไข้สีเหลืองออกมาเช็ดด้วยกระดาษฆ่าเชื้อ สะบัดสองครั้ง ก่อนจะให้บันอ้าปากแล้วให้อมแท่งปรอท

“ยืนหน้าแดงอยู่หน้าห้อง”
คุณหมอเล่ยดึงปรอทออกมาจากปากบัน  โลหะเหลวสีเงินของปรอทที่อยู่ในแท่งแก้ว ขึ้นมานิ่งอยู่ที่ 39.2 องศาเซลเซียส

“เป็นไข้ครับ”
สัตวแพทย์ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายแพทย์จำเป็นหันไปบอกหมอหลิน

“มัวแต่ห่วงคนอื่น จนลืมตัวเองเลยนะบันนี่”
หมอหลินยกนิ้วชี้เหมือนคาดโทษมาที่บัน เขายกหูโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาต่อสายไปที่บ้าน สั่งความกับพ่อบ้านสั้น ๆ ก่อนจะลุกขึ้นมายืนอย่างกระฉับกระเฉง

“เคลวิน ไปเอากระเป๋าบันนี่ที่โรงแรมมาทีนะ ได้แล้วก็เอาไปส่งที่บ้าน  หมอเล่ยฝากอัลเบิร์ตด้วย เที่ยงคืนหมอจางจะเข้ามาเปลี่ยน ผมจะเข้ามาอีกทีตอนเช้าพรุ่งนี้  บันนี่ กลับบ้านกัน ได้ยินมาว่ายังไม่กินอะไรเลยใช่ไหม พออัลเบิร์ตฟื้นนี่คงต้องทำโทษกันละนะ”
หมอหลินเดินโอบหลังบันเดินออกไปจากห้อง บันหันมามองเคลวินที่ทำท่าล้วงกุญแจรถยนต์ เคลวินพยักหน้าให้บันเดินไปกับหมอหลิน

“เดี๋ยวจะเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปส่งให้”

# # # # # # # # # # # #

พ่อบ้านวัยชราของบ้านหลิน  เปิดประตูรับเคลวินที่ช่องทางเข้าเล็ก ๆ ข้างประตูใหญ่ซึ่งเป็นทางรถยนต์เข้าออก เขาจอดรถยนต์สีดำคันที่ใช้เป็นประจำไว้บนถนนด้านนอกของประตูทางเข้า  ก่อนจะเดินตามพ่อบ้านเข้าไปด้านใน

“หลับไปแล้วครับ คุณหนูให้ทานอาหารเย็นแล้วให้ยาแก้ไข้กับยาทำให้ง่วง ตอนนี้นอนอยู่ชั้นบนครับ”
พ่อบ้านรายงานพร้อมกับพาแขกเดินเข้ามาในบ้านที่สว่างไสวด้วยแสงไฟจากฝ้าเพดาน

“คุณหนูเคลวินมาถึงแล้วครับ”
พ่อบ้านพูดแล้วเดินหายไปทางด้านหลัง หมอหลินที่อยู่ในชุดนอน บนไหล่มีผ้าขนหนูที่ดูเปียกชื้นจากการสระผม ชี้มือให้เคลวินไปนั่งพักบนเบาะผ้าขนาดใหญ่ที่จัดเอาไว้เป็นมุมรับแขก

“เจอเคนซาบุโร่หรือเปล่า เขาว่าไงบ้างล่ะ?”

“ไม่เจอครับ  เขาให้คนเอากระเป๋าบันลงมาให้ ไม่ได้คุยกัน”
เคลวินวางกระเป๋าผ้าใบเล็กของบันไว้ข้าง ๆ ตัว

“บันเป็นไงบ้างครับ?”

“บังคับให้กินข้าวเย็น หมดไปแค่ครึ่งชาม นี่ให้ยาแล้วให้ไปนอน ยังไม่ให้อาบน้ำ” หมอหลินดึงผ้าขนหนูมาคลุมหัวเอาไว้แล้วพูดต่อ  “คนเราถ้าเจออะไรมามาก ๆ จิตใจก็ป่วยได้เหมือนกัน ยิ่งมาเจอลมฝนกับอากาศเย็น ๆ แบบนี้ด้วยแล้ว ก็ทำให้ไม่สบายง่ายขึ้นไปอีก ระหว่างนี้ก็หยุดคุยเรื่องหุ้นเรื่องธุรกิจไปก่อนละกัน อันที่จริงไม่ใช่เรื่องที่บันนี่ต้องมายุ่งด้วยเลย นายรู้ใช่ไหม ว่าทำไมบันนี่ต้องเข้ามาช่วย เขาแคร์นายมากนะเคลวิน”

“ผมรู้ครับ ผมจะรีบจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่เกินอาทิตย์นี้ เรื่องนี้จะจบ”

“แล้วนายจะเอาไงต่อ จะไปทำงานกับคุณย่าหรือว่า……………….”

“ตอนนี้ดาเนียลก็รับผิดชอบได้อยู่แล้ว  ผมว่าจะลองหางานอย่างอื่นทำ”
เคลวินตอบ

“ก็คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่”
หมอหลินยิ้ม  เขาหมายถึง เคลวินมีเงินเก็บมากพอที่จะใช้ชีวิตได้โดยไม่เดือดร้อน  เคลวินมีเงินที่พ่อกับแม่ทิ้งมรดกไว้ให้จำนวนมาก บวกกับเงินเก็บที่ได้จากผลกำไรบริษัทโทรคมนาคมตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา  รวมกับเงินปันผลจากหุ้น  ส่วนของพ่อที่มีในบริษัทคุณย่า  และเงินก้อนใหญ่ที่จะได้มาจากการที่เคลวินจะขายหุ้นให้กับบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่เสนอเงื่อนไขแบบขายแลกหุ้น

“เงินที่มี มากพอจะทำบริษัทอีกสองที่ได้สบาย”
หมอหลินพูดต่อ
“ถ้าขายบริษัทของคุณพ่อไป ผมคงไม่จับงานด้านนี้อีก เพราะแค่สมบัติชิ้นเดียวของพ่อ   ยังรักษาไว้ไม่ได้”

“นายทำดีที่สุดแล้ว  อย่าลืมสิเคลวิน  ยังมีสิ่งดี ๆ รออยู่อีกหลายอย่าง  อย่างแรกที่เห็นเลยก็คือ นายไม่ต้องทนใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก  มันเป็นสิ่งสำคัญมากรู้หรือเปล่า”
หมอหลินยิ้มแล้วพยักหน้าขึ้นไปด้านบนของบ้านที่มีบันนอนอยู่

# # # # # # # # # # # #

สามวันหลังจากอัลเบิร์ตฟื้นขึ้นมา  ทุกอย่างดูจะดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น  เคลวินหายหน้าไปสองวัน ไม่ได้โทรศัพท์เข้ามา แต่มีกล่องขนมกับหนังสืออ่านเล่นส่งมาให้ทุกวัน  ตอนนี้บันกำลังให้อาหารเจ้านกแก้วมาคอว์ตัวใหญ่อยู่ในกรงหลังบ้าน  ในอุ้งมือขวามีเมล็ดข้าวโพดสีเหลืองอ่อนดูน่ากิน  เจ้านกแก้วเกาะอยู่บนไหล่ของบันแล้วโน้มส่วนหัวลงมาจิกเอาเมล็ดข้าวโพดเข้าปาก สลับกับทำท่าผงกหัวไปมาเหมือนนักเที่ยวกลางคืนที่ส่ายหัวไปมาตามจังหวะดนตรี  หมอหลินเดินถือกระบอกใส่น้ำที่ผสมยาเข้ามาเปลี่ยนให้ครอบครัวเมียร์แคท แล้วเดินเข้ามาคุยกับบันในกรงนกแก้ว

“ควรจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อยนะบันนี่ ปล่อยเอาไว้นาน ทางโน้นเขาจะรอ”

“ผมฝากเคลวินซื้อตั๋วเครื่องบินให้แล้วครับ พรุ่งนี้จะไปเก็บของที่บ้านเคนตะซัง……… หมายถึงคุณเคนซาบุโร่น่ะครับ  เมื่อวานผมโทรไปที่บ้านโมริตะ แต่ไม่เจอเขา คุณจุนอิจิเป็นคนรับสาย  บอกให้ผมไปคุยที่นั่น”

“น้องชายเขารับสาย?”

“พี่ชายฝาแฝดครับ  ผมโทรไปลาออก แต่เขาบอกว่าผมต้องคุยกับคุณเคนตะเอง เพราะเขาไม่ใช่เจ้านายผม”
บันปัดฝ่ามือที่มีเศษข้าวโพดออกเบา ๆ จากนั้นก็อุ้มเจ้านกแก้วสีน้ำเงินตัวใหญ่ไปเกาะไว้กับคอนไม้ที่แขวนยาวใต้ต้นแอปเปิ้ล  แอปเปิ้ลต้นนี้กำลังผลิดอกสีขาวเต็มต้น  เป็นต้นแอปเปิ้ลที่ติดลูกน้อย เพราะเจ้านกแก้วสองตัวของหมอหลินชอบเอาปากมางับให้ดอกร่วงหล่นไปกองกับพื้นตามประสานกที่ปากอยู่ไม่สุข  เจ้าตัวที่บันอุ้มไปเกาะคอนนั้น  พยักหน้าตามที่บันพูดแล้วทำปากงับอากาศ ท่าทางมันเหมือนคนไม่มีผิด

“มิน่า เคลวินถึงต้องไปด้วย”
หมอหลินยิ้ม

“เคลวินจะไปด้วยเหรอครับ?”

“เขาไม่ได้บอกเหรอ?”
หมอหลินถาม

“เปล่านี่ครับ ผมฝากซื้อแค่ใบเดียว กะว่าจะรีบไปรีบกลับ”
บันทำหน้าสงสัย

“เคลวินคงกลัวคนที่บ้านนั้นกักตัวบันนี่เอาไว้ล่ะมั้ง”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ”
บันยิ้มแล้วผลักประตูกรงออกมา

“มีคนหวง……………..และห่วง เขาคงไม่อยากให้บันนี่ไปยุ่งกับคนพวกนั้นอีก”


# # # # # # # # # # # #

พ่อบ้านชาวญี่ปุ่นที่บันรู้จักเป็นอย่างดีตอนนั่งรถชมเมืองโตเกียว เปิดประตูไม้บานเล็กของบ้านโมริตะออกมาต้อนรับบัน  ขณะที่เคลวินซึ่งยืนอยู่ข้างรถชูฝ่ามือแสดงสิบนิ้ว เป็นเหมือนคำสั่งให้บันเข้าไปในบ้านได้แค่สิบนาที  บันเดินตามหลังชายชาวญี่ปุ่นเข้าบ้านไปท่ามกลางแสงจันทร์สว่างและลมเย็น ๆ ของอากาศตอนค่ำของญี่ปุ่น  เมื่อเดินผ่านโถงทางเข้าหลังประตูกระดาษ  คุณคุรุมิ แม่ของฝาแฝดก็ยืนยิ้มอยู่  วันนี้เธอสวมเดรสลายจุดเล็ก ๆ คุณคุรุมิกางแขนแล้วโอบบันไว้ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายเบา ๆ
“เหนื่อยไหม?”

“ไม่เหนื่อยเลยครับ”

“ของของอุซางิคุงอยู่ในห้องเคนตะ  เข้าไปเก็บได้ตามสบายเลยนะ”
คุณคุรุมิปล่อยให้บันเดินเข้าไปตามโถงทางเดินนั้นเงียบ ๆ คนเดียว  เมื่อเปิดห้องมืด ๆ นั้นเข้าไป ก็ไม่เจอเจ้าของห้องอย่างที่คิด  ไม่มีชายขี้เล่นคนเก่า กลางห้องนอนกว้าง ๆ  บันเจอกระเป๋ากับของสองสามชิ้นของตัวเองวางอยู่ในลักษณะเดิมเหมือนตอนก่อนไปฮ่องกง  บันไม่แน่ใจว่าเคนตะได้กลับเข้ามานอนในห้องนี้อีกหรือเปล่า

“อย่าลืมลูกไก่สีเหลือง มันคงจะเหงาแย่ถ้าเจ้าของลืมมันเอาไว้”

บันหันตามเสียงกลับไปมองตรงประตูห้องนอน  ชายในชุดยูกาตะลายขนนก ยืนอยู่ระหว่างมุมแสงสว่างจากโถงทางเดินกับความมืดจากภายในห้อง  เขายิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟที่อยู่ตรงผนังห้อง  เงาของเคนตะที่บันคุ้นเคยค่อย ๆ หายไปพร้อมกับความมืด แสงสว่างจากหลอดไฟสีนวลตาเข้ามาแทนที่พร้อม ๆ กับร่างของจุนอิจิที่เด่นชัดมากกว่าตอนปิดไฟ

“ก่อนกลับ แวะไปลามินาโกะด้วยได้ไหม ผมมีเรื่องจะคุยกับอุซางิคุงที่นั่น”
จุนอิจิพยักหน้าเป็นเชิงขอร้องมากกว่าบังคับ เขาออกเดินนำไปยังทางเดินที่เป็นระเบียงไม้ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมออกไปทางด้านหลังของบ้าน 

“มีคนมาลากลับบ้าน”
จุนอิจิดีดนิ้วเรียกปลาคาร์ปพันธุ์ตันโจสีขาวมุกตัวใหญ่  มันว่ายน้ำช้า ๆ เข้ามาหา แล้วหยุดนิ่ง ๆ อยู่ตรงหน้าบัน

“ลาก่อนครับมินาโกะ”
บันยื่นมือลงไปสัมผัสส่วนหัวของปลาเบา ๆ

“อุซางิคุง  รู้จักเคนตะดีแค่ไหน?”
จุนอิจิพูดผ่านความเงียบของบรรยากาศการลาเข้ามา บันวางกระเป๋าจากมือซ้ายลงกับพื้นไม้แล้วคุกเข่านั่งลงตรงหน้ามินาโกะ

“เคนตะซังเป็นคนน่ารักครับ เป็นเจ้านายที่ใจดีและเป็นพี่ชายที่ขี้เล่น”

“คุณคิดว่า เคนตะจะทำร้ายคุณหรือเปล่า?”
จุนอิจิถามต่อ

“ไม่เลยครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”

“เคนตะอาจจะดูเป็นคนไม่ยืดหยุ่นในเรื่องธุรกิจ  แน่นอนสิ ก็เราสองคนถูกสอนมาแบบนั้น  เราต้องรักษาผลประโยชน์ของครอบครัว แต่รู้อะไรไหม เราไม่เคยทำร้ายคนที่เรารู้สึกดีด้วย”  จุนอิจินิ่งไปซักพัก  “เคนตะพูดกับแม่ว่า ตั้งแต่คุณเข้ามาอยู่กับเรา ทุกอย่างก็ดูสดใสขึ้น บ้านก็ดูเป็นบ้านมากขึ้น บ้านเราไม่เงียบเหงาเหมือนเมื่อก่อน”
จุนอิจิถอนหายใจ

“เมื่อก่อน ต่างคนก็มีมุมส่วนตัว ไม่ได้มานั่งทำงานด้วยกันในห้องเดียว ไม่ได้กินข้าวด้วยกันเหมือนตอนคุณอยู่ที่นี่  แม้แต่……..”
จุนอิจิสะกิดน้ำ  ไม่นาน มินาโกะก็ว่ายเข้ามาใกล้ ๆ

“แม้แต่มินาโกะก็มีชีวิตชีวาไปด้วย”

บันเหยียดขาขนานไปกับขอบบ่อปลา พยายามทำตัวให้ดูผ่อนคลายที่สุด  เขาไม่อยากให้คนที่บ้านโมริตะมองว่าเขารู้สึกโกรธหรือไม่พอใจ แท้จริงแล้ว  เขาไม่ได้รู้สึกติดลบกับครอบครัวนี้เลย ตรงกันข้าม  กลับรู้สึกถึงความเป็นมิตรที่คนในบ้านหลังนี้มอบให้ด้วยซ้ำ

“เคนตะทำไปก็เพราะอยากให้คุณเลิกยุ่งกับคนพวกนั้น  เขาไม่อยากให้คุณยุ่งกับอลิซ ไม่อยากให้ไปที่ฮ่องกงอีก  ผมไม่ได้หมายความว่าเคนตะทำถูกหรอกนะ  เขาเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เด็ก  เป็นคนรั้นไม่ยอมคน  จริง ๆ แล้วเคนตะไม่ใช่คนเลวร้ายเลยนะ ผมรับรองได้”

“ผมไม่เคยคิดว่าเคนตะเป็นคนไม่ดีครับ”

“แม่โกรธเคนตะมากที่ทำแบบนั้น แม่บอกว่าเคนตะจ้างคนอื่นมาทำร้ายคุณ  แต่ผมเข้าใจเคนตะมากกว่าใคร”
จุนอิจิชี้นิ้ววนไปมาบนหน้าตัวเองเป็นทำนองว่าเขาเป็นแฝดของเคนตะ

“เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด  ผมรู้ว่าเคนตะรู้สึกยังไง  เขาทำไปเพราะไม่อยากเสียของรักไป  เขากลายเป็นคนเห็นแก่ตัวทั้งที่ปกติเขาเป็นคนที่แฟร์มาก ๆ ”

“ผมเข้าใจครับ  และยืนยันคำเดิมว่าผมไม่โกรธเคนตะ วันที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย  ผมแค่รู้สึกผิดหวัง  แต่เรื่องที่เคนตะบอกผมว่าเขาไม่โกหก  เรื่องนั้นผมเชื่อเขา ผมมั่นใจว่าเคนตะไม่โกหก”
บันรู้สึกถึงแรงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋า  ตอนนี้เคลวินคงโทรเข้ามาตามแล้ว

“ถ้าคุณไม่โกรธเขา  ช่วยพูดกับเขาหน่อยได้ไหม?”

“ช่วย………………. เหรอครับ?”

“ช่วยปลดล็อกเขาหน่อย  ตอนนี้เขากำลังเคว้ง”


# # # # # # # # # # # #

จุนอิจิเดินออกมาพร้อมกับบันตรงมายังหน้าบ้านที่เงียบสงัด  เคลวินที่ยืนพิงรถของโรงแรมหันมามองจุนอิจิที่โค้งให้
“ผมจุนอิจิครับ  คุณคือมิสเตอร์เคลวินสินะครับ  ยินดีที่ได้รู้จัก”
จุนอิจิยื่นมือเข้าไปสัมผัสกับเคลวิน

“ได้เวลากลับแล้ว”
เคลวินพยักหน้ามาทางบัน หลังจากจับมือกับจุนอิจิ

“ถ้าจะกรุณา  ผมอยากจะยืมตัวบันซักชั่วโมงจะได้ไหมครับ  ขอรับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า  จะพาบันไปส่งที่โรงแรมให้อย่างปลอดภัย”
จุนอิจิก้มหัวอย่างสุภาพมาทางเคลวิน

“ฝากกระเป๋ากลับไปก่อนนะครับเคลวิน ผมจะไปหาเคนตะซัง ไม่นานหรอกครับ จะไปบอกลาแล้วยื่นใบลาออก”

“ให้เวลาถึงสามทุ่มตรง” เคลวินชี้ไปบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือของตัวเอง

“หมดไปห้านาทีแล้วครับเคลวิน”
บันโบกมือแล้วเปิดประตูรถของจุนอิจิเข้าไปนั่ง

# # # # # # # # # # # #

 
ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2012 20:39:32 โดย Keniji »

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป

“ดูคุณเคลวินเขาห่วงคุณมากนะ”
จุนอิจิขับรถออกมาตามทางเลี่ยง จากนั้นก็ขับลัดเลาะมาตามถนนเส้นเล็กที่คดเคี้ยว ไม่นานก็ทะลุออกมาบนถนนใหญ่ที่มีรถอยู่คับคั่ง

“ผมเคยทำงานที่ฮ่องกงมาก่อนครับ”

“ผมหมายถึงเขาห่วง แบบ……….. หวง ๆ น่ะ”
คราวนี้จุนอิจิพูดตรงประเด็นมากกว่าเดิม  เป็นคำพูดที่ดูคล้ายกับของหมอหลินไม่มีผิด

“คงงั้น …………… มั้งครับ”
บันยิ้มกลบเกลื่อน

“สามวันตั้งแต่กลับมาจากฮ่องกง เคนตะไม่ได้ไปทำงานเลย  ดื่มอย่างเดียว เมาแล้วก็ขึ้นไปนอนบนโรงแรม พอเย็นก็กลับลงมาดื่มต่อ”
จุนอิจิส่ายหัว

“เคนตะอยู่ที่ไหนครับ?”

“อินาเบะเฮ้าส์  เป็นคลับของโรงแรม”
จุนอิจิใช้เวลาบนถนนไปเกือบสี่สิบนาที  เขาส่งกุญแจรถให้พนักงานขับเข้าไปจอด แล้วเดินนำบันไปทางชั้นใต้ดินของโรงแรมซึ่งจัดตกแต่งเป็นแนวร้านเหล้ายุคเฮอังที่มีพนักงานในชุดโบราณให้บริการ  จุนอิจิชี้ให้บันมองไปทางเคาน์เตอร์หน้าบาร์เครื่องดื่มซึ่งอยู่ด้านในของคลับ  ผู้ชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวนั่งอยู่ชิดมุมในสุดติดผนัง  เป็นจุดที่ค่อนข้างสลัว

“นั่งด้วยคนนะครับ”
บันเข้ามาหมุนเก้าอี้กลมแล้วหันตัวเข้าหาเคนตะที่ก้มหน้ารินของเหลวสีใสลงในถ้วยกระเบื้อง  กลิ่นของเหล้าญี่ปุ่นดีกรีสูง โชยขึ้นมาปะทะกับจมูกจนบันต้องเบือนหน้าหนี
“อยากนั่งตรงไหนก็นั่ง”
เคนตะโบกมือ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าคนที่เข้ามาอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่น

“กลับไปดื่มที่บ้านดีกว่านะครับ มาอยู่ที่นี่ คนอื่นก็เป็นห่วงแย่”
บันคว้าคอขวดเหล้าที่อยู่ตรงหน้าเคนตะออกมาวางหน้าตัวเอง

“บันนี่”
เคนตะหันมามองคนที่อยู่ข้าง ๆ เขายื่นฝ่ามือเข้ามาสัมผัสหน้าของบันแล้วใช้นิ้วโป้งเขี่ยไปมาบนแก้ม  ในความสลัวจนต้องเพ่งสายตาแบบนี้ บันก็ยังมองเห็นสีหน้าของเคนตะได้อย่างชัดเจน   หนุ่มญี่ปุ่นมีสีหน้าเข้มจัด  กลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมากับผสมกับลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

“นึกว่าจะไม่กลับมาแล้ว”
เคนตะยื่นมือซ้ายเข้ามาจับหูบันเบา  ๆ

“กลับบ้านเถอะครับ”

“โกรธผมมากเลยใช่ไหม?” เคนตะดึงขวดเหล้าตรงหน้าของบันกลับไปรินใส่ถ้วย “แม่ก็โกรธผมมาก”  เคนตะยิ้มแล้วยกถ้วยเหล้าเข้าปาก

“เมื่อไหร่เคนตะคนเดิมจะกลับมาครับ”
บันคว้าขวดเหล้ากลับมาแล้วยกขึ้นดื่มจนหมด  รสชาติขมบาดคอเคลื่อนผ่านลงสู่ท้องพร้อมกับอาการร้อนวูบ เคนตะดึงเอาขวดเหล้ากลับ เขาเขย่าขวดกระเบื้องสีขาวว่างเปล่าแล้วหันมามองบัน

“อย่ากินเหล้า ไม่ดีหรอกนะบันนี่”
เคนตะยื่นแขนเสื้อเข้ามาเช็ดปากบัน  ตอนนี้บันรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ทำใจกล้าแย่งเหล้าของเคนตะมาดื่ม เหล้าขวดนี้ทำให้บันรู้สึกเหมือนมีกองไฟน้อย ๆ อยู่ในท้อง  ร่างกายเขาดูจะต่อต้านด้วยการพยายามขับเอาเจ้าสิ่งแปลกปลอมกลับออกมาทางเดิม  บันรู้สึกอยากอาเจียนจนน้ำตาไหล

“อย่าร้องไห้เลยนะ”
เคนตะเริ่มหน้าเสีย

“เปล่าครับ ………….ผมอยาก”
บันรีบปฏิเสธ

“อย่าเกลียดผมได้ไหม?”
เคนตะเสียงสั่น  เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาแผ่นกระดาษพับสี่ส่วนออกมา จากนั้นก็กางลงบนเคาน์เตอร์แล้วดึงเอาปากกาที่เสียบอยู่กับกระเป๋าเสื้อขึ้นมาถือไว้    เขาบังคับมือที่สั่นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อยู่พักใหญ่ กว่าจะเซ็นชื่อตัวเองลงไปในกระดาษได้

“เอากระดาษแผ่นนี้ไปให้มิสเตอร์เคลวิน  บอกว่าผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
เคนตะยื่นกระดาษให้กับบัน

“สัญญาซื้อขายหุ้น”  เคนตะพูด “ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ”

“เคนตะซัง”
บันพูดเบา ๆ

“บ้านโมริตะยินดีต้อนรับเสมอ  จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้  บันนี่คือสมาชิกครอบครัวเรา”
เคนตะดึงบันเข้ามากอดแน่น  ก่อนจะจูบหน้าผากเบา ๆ

# # # # # # # # # # # #

ไฟท้ายของรถยนต์จุนอิจิค่อย ๆ ห่างออกไปจนกลายเป็นจุดสว่างเล็ก ๆ  บันหันหลังกลับ เดินหิ้วกระเป๋าใบเล็กเข้ามาในล็อบบี้โรงแรม  ผ่านมุมเลิฟซีทที่มีเคลวินนั่งอยู่หลังนิตยสาร  บันเดินเข้าไปยื่นกระดาษซื้อขายหุ้นไว้ข้างหน้า  ปิดส่วนที่เคลวินกำลังอ่านอยู่  ซักพักเขาก็เงยขึ้นมามองบันที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า

“ไปลาเจ้านายเก่าอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ?”
เคลวินถามแล้วดึงกระดาษเข้าไปอ่านอีกครั้ง  กระดาษแผ่นนี้เป็นของจริง มีลายมือชื่อเจ้าของเดิมเรียบร้อย  บันพยักหน้าแล้วพนมมือสองข้างแนบกับแก้มที่เอียงมาทางซ้าย  บอกเป็นนัยว่า ‘ง่วงนอนแล้ว’
“ง่วงแล้วเหรอ?”
เคลวินถาม  บันยิ้มแล้วพยักหน้าตอบ

“หิวหรือเปล่า?”

บันส่ายหัว แล้วออกเดินตรงไปยังหน้าลิฟต์  เคลวินเดินตามเข้ามาจังหวะที่ประตูเปิดพอดี

“ลืมลิ้นไว้กับเคนซาบุโร่หรือไง?”

บันส่ายหัวแล้วพยายามกลั้นหายใจ  ประตูลิฟต์ปิดสนิทแนบกันดีแล้ว  เคลวินกดเลขชั้นที่พักอยู่

“น่าสงสัย”
แขนยาว ๆ ดึงบันเข้ามาในวงกอด  เคลวินจ่อจมูกเข้ามาชิด ทำเอาบันสะดุ้ง แต่ก็กลั้นหายใจได้ทัน   แต่ไม่นานฝ่ามือเคลวินที่จับตรงไหล่ของบันก็เลื่อนขึ้นมาจับกรามคนมีพิรุธ  เคลวินบีบให้บันอ้าปาก แล้วยื่นจมูกเข้ามา

“โอ๊ย!”
บันคลำหน้าผากที่โดนเคลวินเคาะด้วยข้อนิ้วชี้

“ใครสอนให้ดื่ม”

“ดื่มลาเคนตะครับ อึกเดียว”
อึกเดียวของบัน คือครึ่งขวด

“จำไว้ซะบ้างนะ ว่าเวลาดื่มแล้ว จะกลายเป็นยังไง”

“ดื่มแล้วเมา ร้อน แล้วก็แก้เสื้อ นอน”
บันหัวเราะหน้าแดง

“แล้วก็ไล่ไปเที่ยวกอดคนอื่นมั่วไปหมด”
เคลวินยื่นนิ้วเข้ามาจิ้มหน้าผากบัน

“เคนตะซังบอกก่อนกลับไปว่า  ถ้าอยู่ฮ่องกงแล้ว เจ้านายปล่อยทิ้งไว้ไม่สนใจ ก็ให้โทรไปบอก เคนตะจะมารับครับ”
บันยิ้ม

“งั้นก็บอกคนญี่ปุ่นไปว่า  กระต่ายตัวนี้มีเจ้าของแล้ว  เป็นกระต่ายฮ่องกง ไม่ใช่กระต่ายญี่ปุ่น เจ้าของมัน หวงมาก ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง”
ประตูลิฟต์เปิดออก เคลวินก้าวขาออกไป จากนั้นก็หันกลับมาจับแก้มของบันแล้วส่งปากอุ่น ๆ เข้ามาประกบ

“อือ…………..”
บันทำตาเหลือก

“ล้างกลิ่นเหล้าญี่ปุ่น”
เคลวินยิ้ม


จบตอนที่ 38 ครับ พบกันใหม่ตอนหน้า / เคนอิจิ

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันแม่ครับ  พบกันในวันฝนตกปรอย ๆ
ตอนที่ 38 แล้ว  เรื่องราวก็ใกล้มาถึงตอนจบแล้วนะครับ  ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้กับเรื่องราวในบ้านเล็ก ๆ บนเนิน ของ ของ
ของใครดี ของอัลเบิร์ตละกัน

ยังไงถ้ามีผลงานเรื่องอื่น ๆ ก็ฝากติดตามด้วยนะครับ /เคนอิจิ  :กอด1:

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
ละแบบอ่านแล้วจะกรี๊ดดดดดดด
เขินตอนท้ายมากกกกก ทำไมเคลวินน่ารักเยี่ยงเน้ >////<
บันนี่ก้โลกสวยตลอด น่ารัก ใสซื่อออออออ

แอบสงสารเคนตะละตอนนี้
เห้ออออ อย่างน้อยเขาก้ไม่ได้เลวร้ายอะไร
นอกจากเรื่องนั้นละนะ เอาเป็นว่าให้ทำใจได้เร็วๆแล้วกัน
เพราะบันนี่เขาเป็นกระต่ายฮ่องกงไม่ใช่กระต่ายญี่ปุ่นจ้า

ขอบคุณเคนอิจิที่มาต่อนะคะ รอตอนหน้าค่ะ <3

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
บันนี่น่ารักกกกกกกกกกกกกก
เคลวินก็น่ารักกกกกกกกกกกก
น่ารักทุกคนเลยยย ฮ่าาาา
เคนตะซังง ปล่อยบันไปแหละถูกแล้วว ไปหาคนใหม่เนอะ
กระต่ายตัวนี้ถูกจับใส่กรงล็อคกุญแจไปแล้ววววว
อยากได้สวีทททค่ะ  สวีทกันหน่อยเซ่

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :angry2: เหลือแต่ยัยอลิซแสบ เคลวินจัดการด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :m1: น่าร๊ากกกกกก   

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
กรี๊ดดด ล้างเหล้าแบบนี้ คนอ่านตายไปเลย >////<

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
น้องอยากจะกรี๊ดด้วยความเขิน  :o8:
ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างคนดี ตอนนี้อัลเบิร์ตก็ดีขึ้นแล้ว บันนี่น้อยเคลียร์เรื่องเคนตะเรียบร้อย
อีกหน่อยก็กลับไปอยู่ฮ่องกงกับเจ้านาย และเจ้านายก็ยกขันหมากไปขอบันนี่กับแม่ที่เมืองไทยด้วยนะ :z1:
เหมือนได้ยินเสียงระฆังในโบถส์ดังพร้อมกับเพลงที่ชอบเปิดในงานแต่ง :laugh:
ยิ้มกว้างๆได้ซะที หลังจากอึดอัดมาหลายตอน มีความสุขแล้วกระต่ายน้อยของเค้า :man1:
จิ้มบวกให้พี่เคนจัง พร้อมกับรอตอนต่อไป

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
กรี๊ด ด ด ด ด กระต่ายฮ่องกง ><

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เคลวินขยันเพิ่มดีกรีความหวานมากขึ้นเรื่อยๆนะ  :-[

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :3123:ต่างคนเริ่มแสดงออกว่ามีใจให้กัน

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ชักจะฟินเข้าไปทุกที
ชอบให้เจ้านายแสดงความหวงบ่อยๆ จิกหมอนจะขาดแร้วววว   :-[

บ๊ายบายเคนตะ โชคดีนะจ๊ะ....

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ฟินนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :o8: :o8:

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

bozang

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดดราม่าก็หายไป
น่ารักมากกกกกกกกกก
>\\\<
ต่อจากนี้จะเป็นไงนะ บันนี่กลับมาอยู่ฮ่องกงแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
ว๊ากกกก พ่อขี้หวงมาก ห้าๆ  กรี๊ดๆๆๆๆๆ ประโยคสุดท้าย
คืออะไรเป็นญี่ปุ่นจะล้างออกให้หมดเลยใช่ไหม
น่ารักที่สุด   :-[


ออฟไลน์ Tnapat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อ่านเรื่องนี้เเล้วรู้สึกเหมือนมีความสุข แม้แต่ช่วงดราม่า

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
เราเข้าใจเคนตะซังนะ เคนตะซังไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหรอก

แต่บันนี่มันอัลเบิร์ตแล้ว :กอด1: (เอ๊ะ?)

เคนตะกับจุนอิจิช่างเป็ฯพี่น้องที่อาภัพรักจริงๆ ขอให้เจอคนที่ดีๆในวันข้างหน้านะค๊ะ

รอป๋าเคลวินจับกระต๋ายฮ๋องกงกิน ฮิฮิ :o8:

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
อุย...
ตอนนี้แอบเขิน
แม้จะสงสารคุณเคนตะ
แต่คุณเคนตะยังไม่ดีพอ
...เพราะงั้นก็ตัดใจซะเถอะนะเคนตะซัง

badfox

  • บุคคลทั่วไป
ความรู้สึกแรกเลย...อยากร้องไห้ เคนอิจิซังใจร้ายมากเลยชอบทิ้งให้ค้างแล้วก็ฟินอย่างเดียวตลอด

//ปาดน้ำตา

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
อั๊ยย่ะ!! ล้างกลิ่นเหล้าญี่ปุ่นหรอ เขิลแทนอ่ะ ^^

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
เคลวินแสดงออกเยอะขึ้น บันนี่เวลาเมาดูเอ๋อๆแต่ก็น่ารักไปอีกแบบ
อ่านตอนนี้แล้วแอบสงสารเคนตะซังง่ะ
ชอบบรรยากาศครอบครัวของเคนตะซังที่มีบันนี่เข้าไปช่วยกระชับสัมพันธ์
ยังคิดถึงภาพเวลาที่นั่งกินข้าวกัน คุรุมิซังกับบันนี่ทำอาหาร...
ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางดีหมดแล้วเนอะ รอติดตามต่อไปจ้า
 :กอด1:

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
บันนี่น่ารักมากๆเลย  :-[

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
สงสารเคนตะ!!!!!!
เคลวินเลยส้มหล่นไป
อย่างนี้ต้องจัดรางวัลให้บันหนักๆแล้ว

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด