…………………………………………………………….
ที่มุมห้องตอนนี้ทำไมมันดูมืดสนิท ทั้งที่แสงไฟยังสว่างจ้าอยู่แท้ ๆ อากาศร้อนอบ
อ้าวไม่มีแม้สายลมจะพัดผ่านเสียงเพลงที่บรรเลงได้เปลี่ยนแนวไปแล้วมีแต่เสียงสะอื้นเข้ามาแทนที่ น้ำใส ๆ ไหลหยด
ลงบนหัวไหล่ที่เปลือยเปล่า มีเพียงเศษเสื้อที่ขาดรุ่งริ่ง แนบปิดกับหน้าอกด้วยมือข้างซ้ายแต่มันเหมือนจะไม่มีแรงกด
เลยด้วยซ้ำ ผมรู้สึกเจ็บทั้งเนื้อตัวรอยช้ำมากมายบ่งบอกว่าผู้ที่ถูกกระทำจะต้องทนกับความเจ็บปวดนั้นตั้งเท่าไหร่
คราบเลือดบนที่นอนตอกย้ำให้รู้ว่า ผมไม่มีอะไรเหลือแล้ว มันได้ทำลายทุกอย่าง ผมจะกล้าอยู่สู้หน้าใครได้
ผมจะอยู่ได้อย่างไร ฮืฮ ฮือ...... .อึก.....ฮือ .... ไม่ไหวแล้ว ผมทนไม่ได้แล้ว ใช่.......บันไดนั้นสูงพอที่จะทำให้ผม
ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวเจ็บปวดนี่ได้...
ไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ มา มา เข้ามาเลย ไม่ต้องปล้ำกรูหรอก กรูจะปล้ำเมิงเอง 55 มา
“ อั้มจะขอไรพี่” ใจหวั่นเหมือนกันกลัวมันจะพูดอย่างที่คิดออกมา แต่สู้โว้ย
“ อั้มอยากขอ เออ คือ คืนนี้พี่พงษ์อย่ารีบกลับได้ไหม” เหอ นึกว่าจะ...........
ตอนนี้แต่นั้นไง มันต้องรอพวกนั้นกลับก่อนแน่ ๆ ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ
“......เออ..........”
“ก๊อก ๆ ๆ พี่พงษ์ เปิดประตูหน่อย” เหอ... ค่อยยังชั่วไอพวกนั้นกลับมาแล้ว.....
.......ว้ากกกก กไอพวกนั้นกลับมาแล้ว ตายแน่ครับ ผมจะบอกพวกมันยังไงดีมันถึงจะเชื่อ มันคงไม่
คิดว่าผมจะล็อคห้องทำไรกันหรอกนะ เป็นใครก็ต้องคิดกันทั้งนั้นแหละ ผมต้องรีบเปิดประตูให้เร็วที่สุดแล้วทำเป็น
ร้องไห้ซบอกไอหนุ่มแล้วบอกมันไปว่าโดนปล้ำ
ความคิดไม่เร็วเท่าการกระทำ ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูแล้วก็..
“ เฮ้ย ทำไมไปนานนักว่ะ” แกล้งว่ามันไปก่อนที่มันจะถามอะไร ทั้งที่ร้านเดินจาก
หอสิบก้าวก็ถึง กำ พวกมันไม่ตอบครับแถมทำตาเยิ้มหลับตาปิ้ง ๆ เชียว น่าเตะนะเมิงไอศักดิ์
“ บ้าน่า พี่ไม่ได้ทำอะไร” ร้อนตัวครับ แต่จริงอ่ะ
“ อั้มอดใจไม่ได้เลยไล่ฟัดพี่พงษ์เองแหละ” เจ้ย อินี่เป็นหมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดมาได้หน้าผมร้อนผ่าวรีบปฏิเสธพัลวัน
ไม่ไหวแล้วครับพูดไปผมมีแต่จะเสียหายขอกินเบียร์อย่างเดียวนี้ดีกว่าปล่อยพวกนั้นคุยหัวเราะกันคิกคักสนุกสนาน ต่อ
ไป ผมก็ทำหูทวนลมไปซะแค่ไอหนุ่มมีความสุขไม่ต้องแบกความทุกข์กลับไปที่บ้านก็พอครับ แต่อนิจจาผมกับไหนุ่ม
และไอศักดิ์ต้องแบกความเครียดกลับห้องนี่สิ
“อั้มเดี๋ยวพวกเรากลับนะมันดึกมากแล้ว”ไอศักดิ์รู้หน้าที่ดีจริง ๆ (อีกหน้าที่หนึ่งต้องไปส่งกรู )
“อยู่ต่ออีกเดี๋ยวสิ นะหนุ่มนะ” อั้มทำหน้าอ้อนวอน
“พรุ่งนี้พวกพี่ทำงาน ไม่ได้เข้ากะดึกเหมือนอั้มนะ” ผมก็หาเหตุผลอ้างเพราะง่วงเต็มทน
แล้วก็ลุกไปเปิดประตูเดินออกไปสองคนนั้นก็ลุกตาม อั้มก็ลุกมาด้วย
“พี่พงษ์ อยู่ก่อนนะ ให้สองคนนั้นกลับก่อนก็ได้” สงสัยคืนนี้มันกะจะเอาผมแน่ เห็นผมไม่โต้ตอบ
อะไรตอนที่มันวิ่งไล่คงจะคิดว่าผมเล่นด้วย
“ พี่อยู่ไม่ได้หรอกนี่มันดึกแล้วพรุ่งนี่พี่ต้องทำงาน” ตอนนี้เริ่มเครียดครับทีแรกก็คิดว่า
มันจะพูดเล่นแต่มือมันกำกำปั้นแน่น กัดฟันกรอด ๆ
“จะรีบกลับไปหาอิพลอยละสิ” มันตาแดง ๆ หายใจฝืด มือสั่น
“พลอยเพยที่ไหนอั้มอย่าพาลคนอื่นสิ” ผมชักฉุน เลยเดินลงบันไดไปก่อน ไอหนุ่มกะไอ
ศักดิ์มันก็เอ๋อแด* เพราะไม่รู้ว่าเราพูดถึงใคร
“พี่พงษ์ ....ฮือ ฮือ....พี่พงษ์รังเกียดอั้มใช่ไหม” ภาพที่ผมเห็นอั้มยืนร้องไห้ที่หน้าประตู
ริมฝีปากกระทบกันสั่นไม่เป็นจังหวะ มือสองข้างกำแน่นเหยียดวางข้างลำตัว ผมไม่เข้าใจเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ทำไมเขาถึงอยากให้ผมอยู่ที่นี่ กลัวว่าตอนนี่อั้มคิดอะไรกันแน่
“ พี่ไม่ได้รังเกียดอั้ม แต่พี่ต้องกลับห้องนอนพี่ต้องทำงานนะ” ไอหนุ่มกับไอศักดิ์เดินลง
มายืนข้าง ๆ ผมเหมือนมีคำถามมากมายที่มันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“พี่นอน.....ที่นี่....ก็ได้นี่ …ฮือ อึก อึก .” ความพยายามมันสูงแต่ความอดทนผมลด
ต่ำ แสดงออกทางสีหน้าโดยชัดเจนผมไม่สนว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะมีอาการอย่างไรแล้วผมจะต้องเรียกสติมันกลับมา
“ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง พี่จะไม่มาที่นี่อีกแล้วอั้มจะไมได้เจอพี่” ผมยื่นคำขาดคิดว่ามันคง
อยากจะเจอผมต่อไป ( คิดว่างั้นนะ )
“พี่ไม่อยากมาใช่....ไหม.....อั้มก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน” อั้มสะอึ้นหนักกว่าเดิมจนคน
ข้างห้องต้องเปิดประตูออกมาดู อั้มค่อย ๆ เลื่อนมือที่กำแน่นขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับหน้าอก แสงสะท้อนของโลหะ
บางอย่างที่อยู่ในมือนั้นทำให้พวกเราต้องตกใจสุดขีด ยังไม่ทันได้พูดอะไรอั้มก็ยกแขนซ้ายให้อยู่ระดับเดียวกัน
และบรรจงกรีดปลายมีดลง