พิมพ์หน้านี้ - [story]"เสน่ห์รักยาดอง"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: wachara ที่ 01-09-2007 10:09:12

หัวข้อ: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-09-2007 10:09:12
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ



.::.กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ .::. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)






  "ความเหงาที่เกิดจากการโหยหา.....ที่ทุกคนเรียกว่าความรักนั้น มันอธิบายได้ยากจริง ๆ    อาการนั่งเหม่อตาลอย


กับการใช้ความคิดเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย  สายตาที่แน่นิ่งมองไปข้างหน้าแต่ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวนั้น



มันคืออะไร    และทุกครั้งอาการเหล่านี้ก็จะจบลงด้วยคำถามที่ตัวเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ว่า.......เราเกิดมาทำไม ? "


เกิดมาเพื่อใคร ? "   และความเหงานั้นแหละครับคือบ่อเกิดของปัญหาทั้งหมด  โดยบางครั้งเราไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด


                                                              เหตุผลเพียงแค่


                                                   "ไม่อยากอยู่เหงา ๆ คนเดียว"








...

ผมไม่ได้จะแต่งนิยายให้ใครเห็นใจ หรือเห็นความสำคัญของตนเอง    เพียงแต่ผมไมสามารถมาเล่าความจริงเหล่านี้ที่


มันเกิดขึ้นกับผมให้คนรอบข้างฟังได้ ในสิ่งที่ผมคิดว่าผมพลาดไป   คงมีแต่ที่นี่( น่าจะอย่างงั้น ) ที่อาจจะเข้าใจและยอม


รับฟังผมได้บ้าง 


เรื่องที่ผมจะเล่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและมีได้ทั่วไปในสังเมืองไทยและหรือหลายคนกำลังเป็นเหมืนผม   



หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-09-2007 10:50:38
..............................

 โอ้ย... ปวดหัว  ตื้บ  ....ทำไมมันปวดอย่างนี้       รู้สึกหนาว  ๆ  ไงชอบกล    ผมมองดูรอบข้าง ในขณะที่มีแสงสลัว ๆลอดผ่านช่องว่างของประตูเข้ามา  " เออ...นี่มันห้องนอนกรูนี่ว่า "  (จะเป็นห้องคนอื่นได้ไงก็นอนอยู่ทุกวัน) แล้วทำไมมันเย็น ๆ  หวิว ๆ อย่างนี้  ทันทีที่เหลือบมองร่างกายตนเอง

                 .....อ่ะจ้ากกกกกกกกกกก.. o22   นี่ผมไม่ได้ใส่ไรเลย  เสื้อผ้าผมไปไหน......

บนร่างกายผมมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ห่อห้มอยู่พอที่จะทำให้หายหนาวตลอดทั้งคืน   ผมลุกขึ้นนั่ง และคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน   ..โอ้ยปวด หัว  ยังจำไรไม่ได้....

                  อ้าว......แล้วนี่ใครมานอนที่นี่หล่ะ  นอนอยู่ข้าง ๆผม  ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว    ผู้ชายรูปร่างสะโอดสะอง  สูง  ผอม  ผิวสีเข้ม  มีกล้ามเนื้อพองาม  หน้าคม แบบไทย ๆ จมูกโด่งรับกับใบหน้า  นอนเอกเขนก บนที่นอนของผม   .........ผมหยุดคิดทบทวนเรื่องราวหลายอย่างที่ผ่านมา ...ภาพของเขาเริ่มชัดขึ้น  ๆ   เรื่อย ๆ จนแน่ใจแล้วว่าเขาเป็นใครมาทำไรที่นี่ ที่บ้านผม และนานแค่ไหนแล้ว ( บ้านผมจริง ๆ ครับ ผมเป็น ตจว. แต่มาทำงานที่......คิดว่าคงไม่กลับไปอยู่ที่บ้านนอกอีก เลยต้องซื้อบ้านกะว่าจะอยู่แบบถาวร  แฮะ ๆ ไม่ใช่วัวลืมตรีนครับ  แต่มันชินที่จะอยู่ที่นี่ซะแล้ว )


................   2  ปี  กับอีก 3 เดือนแล้ว   ที่ผู้ชายคนนี้มาอยู่กับผม ( ตอน พิมพ์ยังเมาอยุ่เรยครับ เมื่อคืน ตังค์ออก เลย โอเกะดึกไปหน่อย  คิ คิ )   แต่ผมก็เฝ้าถามตัวเองตลอดเวลา ว่า เขามาอยู่ในฐานะอะไร และทุกครั้งผมก็อยากจะร้องให้ ให้กับความโง่เขลา และใจอ่อน ที่ปล่อยให้เขาเข้ามาพัวพันและมีบทบาทกับชีวิตของผม  ...บัดซบเอ๊ย.. นี่เป็นคำที่เพียรบอกตัวเองตลอดเวลา   มันยังไม่สาสมกับสิ่งที่ผมทำ...ให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเสียใจไปชั่วชวิต   ที่สำคัญเด็กชายตัวน้อย ๆ ที่กำลังน่ารักและเติบโตขึ้นทุกวันจะรู้สึกอย่างไรหากรู้ว่า  พ่อของเขาจากเขาไป  เพื่อไปอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ในฐานะคนรัก



                 เมื่อ   2  ปีก่อน .........

 "เอ้ย ไอ้นัน   เดี๋ยวเจอกันที่หมอชิตนะอย่าไปไหน  ...ถ้าเราไปถึงเดี๋ยวจะโทรหา.. "

 " เออ  ๆ  เร็ว ๆ นะโว้ย " 



หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 01-09-2007 11:57:02
เข้ามาเป็นกำลังใจ  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-09-2007 12:14:01
ผมกับไอ้นันเป็นเพื่อนรักกันสมัยที่เป็นทหารเกณฑ์อยู่ ... หลังจากที่ปล่อยปลดประจำการ( เรื่องเล่าตอนเป็นทหารนี่เยอะมากครับ แต่ละเรื่อง  ได้ทั้งหวาด  ทั้ง  เสียว  ทั้งนั้น  ก็แหงละครับแต่ละเรื่อง เรท XXX ทั้งนั้น )  ผมก็กลับไปที่บ้านนอก
เราอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่คนละอำเภอ  ( จริง ๆ แล้วมันเป็นรุ่นน้องผมครับ เพราะผมปริญญาตรี มันจบ ปวส แต่ต้องมาเป็นทหารอยู่ค่ายด้วยกัน  ผมก็เลยใช้วิชามารดึงมันมาเป็นเพื่อนซะ  ) เรานัดเจอกันที่หมอชิตเพื่อเดินทางมาหางานทำแถว ๆ ภาคตะวันออกของไทย  

  
                " ทำไมมาช้าจังหว่ะ "  ไอ้นัน เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผมมาถึงตรงที่จุดมันยืนแล้ว

                 " ก็มันไกล  นั่งรถตั้ง  14  ชั่งโมงนะ เมื่อยจะตายอยู่แล้ว"  เอ้อ . คือ แบบว่าบ้านผมไกลปืนเที่ยงครับ ( ที่บ้านเรียกบ้านนอก   บ้านนอก...ทำเสียงแบบ ลูลู่ นะครับได้รมณ์ดี )

                  " แล้วจะไปไหน กัน" ประมาณว่ามันกลัวผมพามาขายยังไงยังงั้น

                   " ไปพักห้องเพื่อนเราก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยไปหาสมัครงานกัน" ผมบอกให้มันได้คลายกังวลว่ามีที่ซุกหัวนอนแล้วโว้ย

                    ...........................................................

หลังพักห้องเพื่อน  ตอนเช้าเราก็ออกตะเวนหาสมัครงาน เป้าหมายอยู่อีกอำเภอหนึ่งของจังหวัด ......ผมรู้เส้นทางดีเพราะก่อนหน้านี้ผมก็เป็นทหารประจำการที่นี่แหละ เดินทางไปกลับ จากบ้านและที่ค่อยบ่อยจนชิน และที่อำเภอนี่ แฟนไอ้นันก็ทำงานที่นี่ด้วยเป็นบริษัทผลิตรองเท้าดังยี่ห้อหนึ่ง  แฟนมัน  เป็นสาวสวยน่ารัก ผมยาว  ขาว มีเขี้ยวน้อย ๆ  อืม
   สวยเจรง ๆ

โชคดีเป็นของเราครับ     เราสมัครงานที่แรกก็ได้งานเลย  ไม่ต้องหรอกครับว่ามันจะงานดีแค่ไหน ....เพราะเหตุผลเดียวที่เราไม่เลือกงานเพราะเราต้องทำงานให้เร็วที่สุด  เพราะเงินที่ติดตัวมามันคงจะหมดไปก่อนจะถึงสิ้นเดือนแน่นอน  ( ขอบคุณครับแม่ที่ให้ผมยืม เอทีเอ็ม มางั้นลูกของแม่ต้องได้ขายตัวกินแระ ) หลังจากตกลงว่าจะทำงานในวันถัดมาเราก็เริ่มดำเนินการหาห้องเช่า ที่สะดวกและใกล้ที่ทำงานไว้ก่อน เพื่อประหยัดต้นทุนในการทำงาน (ก็คนมันจนนิ) ห่างจากที่ทำงานประมาณ  2 กิโลครับ  และผมต้องเดินไปกลับเช้าเย็นทุกวัน (เข้างาน 7.30  เลิกงาน  17.45  ถ้าโอทีบางวัน ก้อ 5 ทุ่ม )



............................... :try2: o16................................................

ต้นเหตุของเรื่องก็เกิดที่ตรงนี้แหละครับ   ที่ ๆผมทำงานนี้แหละ.......


" น้อง เดียวตามพี่มา จะพาไปแนะนำให้รู้จักหัวหน้างาน" เสียงผู้ชายคนนึงเรียกเราสอง คนให้เดินตาม

 "แล้วน้องชื่อไร"

  " ผมชื่อ  พงษ์   ครับ"

   "  ผม  นัน ครับ "

 " พี่ชื่อเดี่ยวนะ เป็นคนดูแลสายการผลิตที่นี่ทั้งหมด"

" เดียว พงษ์  ไปช่วยไอ้กรจัดของเข้าในไลน์ นะ "  ผมถูกแนะนำให้ไปช่วยผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งวุ่นวายเกือบจะว่ารอบโรงงานเลยทีเดียว  มันวิ่งไปเอาไอ้โน่น  มายกไอ้นี่ เพื่อให้มีชิ้นงานป้อนเข้าไปในไลน์การผลิตให้ทันกับจำนวน สินค้าที่วิ่งตามสายพานมาด้วยความเร็วคง โดยมีพนักงานคนอื่น ยืนเรียงแถวเป็นแนวยาวตามสายพานนั้น แต่ละคนมีหน้าที่ที่ต้องประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ  เพื่อให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป  ผมรู้สึกได้เลยว่าทุกคนต้องได้รับการฝึกฝนและมีความชำนาญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าช้าไปไม่กี่วินาที นั้นหมายถึง คุณ "ตกไลน์ "  หมายความว่า จะต้องมีการหยุดการผลิตหรือไม่หัวหน้างานจะต้องรีบวิ่งมาช่วยผลิตจุดนั้นทั้น  ผลที่ตามมาคือ  โดนดุโดนด่าครับ

     แล้วจะไหวไหมเนี้ยะ    ผมได้แต่นึกในใจ เกิดมายังไม่เคยทำงานหนักอย่าง อย่างมากก็เคยทำแต่นา   555

( หนักกว่าครับ  ขอบคุณผืนนาที่ทำให้ผมรู้ว่าไม่มีอะไรยากลำบากกว่านี้ )

  "เฮ้ย ...นายมาช่วยนี่หน่อยเด่ "  ผมสะดุ้ง เมื่อมีเสียงเรียก ( เข้าใจว่าจะเรียกผมนะ ) แน่นอนต้องทำให้ผมหันกลับหลังไปมองตามต้นเสียง จะเรียกใครเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากผมเพราะตอนนี้ไอ้นันมันก็ได้สวมบทพนักงานติดสติกเกอร์ในไลน์ไปแล้ว      ผมเหมือนโดนคาถา  นะจังงัง  เมื่อพิจารณาดูบุคคลที่ยืนต่อหน้า

  ผู้ชายรูปร่างสูง  ขาว  ผิวสะอาด  ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว  กางเกงผ้ามันสีดำ  บริเวณเอวถูกรัดทับด้วยสเตสีดำอย่างแนบสนิท เพื่อช่วยไม่ให้ปวดหลังเวลาที่ต้องก้ม ยกของนัก  ยิ่งทำให้ บ่งบอกได้เลนว่า ผู้ชายคนนี้หุ่นดีเป็นบ้า  เลย
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-09-2007 13:59:39
.กลับไปอ่านที่ตัวเองโพส    ว้า  ทำไมมันพิมพ์เยอะจัง  ก้อต้องขออภัยก่อนนะครับ ถ้าใครจะเข้ามาอ่านมั้ง


.........................................................................


ใช่แล้วครับ     ผู้ชายคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม คือ ไอ้กร  ที่ผมจะต้องมาช่วยมันทำงาน  (หรือจะเป็นภาระเนี้ยะ )
 "เดียว...ช่วยแกะไอ้นี่ออกจากถุงให้หน่อย.."  มันพูดพร้อมชี้มือไปที่กล่องพลาสติกสีฟ้าทึบ ที่มีอะไรสักอย่างหนึ่งถูกห้อด้วยถุงโฟมอีกชั้น วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ    แต่มันไม่ทันได้หันมองผม และผมก็ยังไม่ได้ตกลงจะทำ(มีสิทธิ์เลือกไม่ทำด้วยนิ ) มันก็รีบวิ่งจ้ำอ้าวไปอีกฟาก ตามเสียงเรียกของพนักงานคนหนึ่ง "กรเอาสกรูให้หน่อย "  เห้อ ได้แต่ห่อเหี่ยวใจนี่กรูเรียนมาขนาดนี้ ต้องมาทำแบบนี่เหรอ ถ้าขืนผมทำอยู่ตรงนี่มีหวังได้เป็นนักวิ่งทีมชาติ รึไม่ก็คงบ้าไปเลย
แต่ก็ต้องทำครับ หลวมตัวมาแล้วนี่ ( จริง ๆก่อนจะมาจากบ้าน ผมไปเป็นครูสอนนักเรียนอยู่สามวันอ่ะ  แต่เพราะต้องอยู่คนเดียวแล้วทำให้เหงา........ ใจหนึ่งก็คิดถึงไอ้นัน เลยต้องวางแผนหนีมา  555 )


.......................................................

งานผมก็ทำตามที่ไอ้กรมันบอกให้ทำอะไรก็ทำ และก็จะทำอยู่อย่างนั้น  สงสัยไอ้กรชักจะรำคาญผมแน่ (อย่าให้รู้น่ะว่ามรึงรำคาญกรูเจรง ๆ ) มันก็บอกให้ผมทำตามอย่างมัน  โดยชี้มือใส่ตัวเอง  ยักคิ้วนิดหน่อย 
                  "ทำเหมือนผมทำนะ" ไร  ไร  มรึงจะให้กรูยักคิ้วนิดหน่อยเหมือนมรึงเหรอ   กรูทำไม่เป็น ( โง่แระ ๆ )

                  "  ครับ "    แฮะ  ๆ  ไม่ได้ยักคิ้วนะครับ  ก็คอยมองว่ามันทำไรที่ไหน อย่างไรมั้ง แล้วก็คอยทำตาม

   ผมก็คอยมองตามมัน  สังเกตไปเรื่ยย  ...ไอ้นี้   หุ่น เอกซ์  ชิ หาย  หน้าตาก็จัดว่าหล่อ แล้วไงมาวิ่งเหงื่อแตก พรั่ก กินค่าแรงรายวันอยู่นี่ ไม่ไปถ่ายนู้ดหว่า 555 ...รอพี่รวยก่อนนะน้อง เดียวหนับหนุนให้ทุนไปเรียนต่อ..คิ คิ  ( ตัวเองก็จะไม่รอดอยู่แล้ว ) 
                  มารู้ทีหลังไอ้กรอายุห่างจากผมประมาณ 4 ปี เรียนจบ ม  ปลายครับ  มีแฟนแล้วผู้หญิง ทำงานที่เดียวกันและกำลังเก็บเงินไว้แต่งงาน...แต่ปัจจุบันไม่รู้อยู่ที่เดิมรึเปล่ารู้แต่ว่าแฟนมันมีแฟนใฟม่ในที่ทำงานเดียวกัน





    หลังพักเที่ยง  ผมกับไอ้นันถึงได้คุยกัน  ผมก็บ่นงานของผมให้มันฟัง  แต่มันยิ้มหน้าบานเพราะงานมันสบายเด็ก ๆ ก็ทำได้  เหมือนมันจะเย้ยผมครับ ( ทำหน้าประมาณ  หนูทำได้  รายการยอดฮิตเมื่อหลายสิบปี โห เกิดทันป่ะเนีย้ะ )

 เรามานั่งรอทำงาน  ตอนบ่ายโมงที่มุมพักผ่อน ของโรงงานซึ่งจะมีมานั่งอยาวอยู่หลายตัว

     " พงษ์  เรารู้สึกแปลก ๆ ว่ะ "   ไอ้นัน พูดท่าทาง สับสนนิดหน่อยแต่มันไม่มองหน้าผม

      "  แปลกยังไง มีไรอ่ะป่าวนัน "   เราพูดกันเพราะครับ เรียกเราและนาย  เพราะในชีวิตผม คำสมัยพ่อขุนรามจะหลุดออกจากปากนี่น้อยมาก
       " ไม่รู้สิ   รู้สึกอึดอัด "    อย่าบอกนะว่ามรึงจะบอกร้าก กรู .  ..คิดในใจ    รึมันจะรู้ว่าผมแอบชอบมัน   เราผมไปชอบมันตอนไหน  ออ   :m19:   นึกออกแล้ว   ตั้งแต่สมัย เป็นทหารอ่ะครับ เราอยูกองร้อยเดียวกัน  แถมเป็นคนจังหวัดเดียวกันด้วย  มันเป็นคนยิ้มเก่ง  ยิ้มที  ฟ้าขาดเลย ตัวไม่สูงครับ เท่าผมนี่แหละ ผิวก็สไตล์เดียวกัน มันเป็นคนมีน้ำใจ ผมไปไหนไปด้วยกันตลอด อยากกินไรเดี๋ยวซื้อให้ประจำ  ถ้าออกจากกองร้อยมาดูหนัง  เออ.. คือ  ไม่ใช่ที่โรงหนังครับแต่เป็นหนังกลางแปลงที่เขามาฉายให้ทหารดูกลางแจ้ง เพราะเหตุอันใดมิทราบได้  รู้แต่ว่าถ้านั้นมาถึงเงินในกระเป๋าเราที่มีอยู่น้อยก็จะเกลี้ยงไปกับการกิน  อาทิตย์หนึ่งฉายสามวัน   ผมกับไอ้นันก็จะไปด้วยกันตลอด   แรก ๆ หนะชอบครับ คนอยู่ใกล้แล้วสดชื่นเป็นบ้า ถึงจะฝึกมาเหนื่อย ก็เถอะ   ( ที่จริงผมมะค่อยได้ฝึกกะเขาหรอก เขาให้ผมไปทาสีตุ๊กตาปูนปั้นไว้ขายนักท่องเทียว ทุกวัน ซะงั้น  55)  แต่มันไม่รู้หรอกว่าผม เป็นอะไร และรู้สึกอย่างไรกะมัน ถึงได้วางแผนชวนมันมาหางานทำนี่ไง 

      นอกเรื่องมากไป  กลับมา ที่เดิมครับ



    " เหมือนมีใครมามองพวกเราตลอดเวลาเลย"  โหยยยยย....โล่งอก  นึกว่าจะต้องได้ม้วนตกม้านั่งตายซะแล้ว 

แต่ เอ๊ะ   .............เราใครตามมองเราเนี้ยะ   หรือเขาจะคิดว่าเราเป็น..................
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 01-09-2007 23:25:03
เป็นอารายยย ?!!  :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-09-2007 04:50:54
เป็นกำลังใจให้น๊า  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-09-2007 16:32:15
เรื่องใหม่  :m1:  :m1:  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-09-2007 16:56:19
โอ๊ะ พล็อคช่างน่าสนใจจริงๆ
ความจริงบนโลก ก็ยากเกินกว่าจะอธิบาย
 :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-09-2007 11:09:03
" เหมือนมีใครมามองพวกเราตลอดเวลาเลย"  โหยยยยย....โล่งอก  นึกว่าจะต้องได้ม้วนตกม้านั่งตายซะแล้ว 

แต่ เอ๊ะ   .............เราใครตามมองเราเนี้ยะ   หรือเขาจะคิดว่าเราเป็น..................ตำรวจลับ สืบตรวจจับยาบ้าในโรงงาน  ( ก็ตอนปลดทหารใหม่ หัวยังเกรียน แถมวันแรกที่เราทำงาน ยังไม่มีชุดฟอร์ม ใส่  ฝ่ายบุคคลเขากำหนดให้เราใส่เสื้อยืดสีขาวกางเกงแสล็คสีดำ ครับ และมีพนักงานคนหนึ่งเขาเดินมาทักผมว่า  เคยเป็นตำรวจรึเปล่า  ฟังครั้งแรกก็งง  ๆ   ครับ พอเขาให้เหตุผลว่า หน้าตาท่าทาง พวกผมเหมือน เจ้าหนี่ตำรวจ )   ถ้าคิดว่าพวกผมเป็นตำรวจจะโดนพวกค้ายาฆ่ารึเปล่า........  o21 o21   (ตอนนั้นคิดได้ประมาณนี่แหละครับ  คิคิ )   

                     " ดูผู้หญิงสองคนนั้นดิ  เห็นมองพวกเราตั้งแต่อยู่ที่โรงอาหารแล้ว "  ไอนันพูดพร้อมโบ้ยหน้าไปทางสุภาพสตรี สองคนที่นั่งกระซิบกระซาบกันอยู่ที่โต๊ะม้านั่งอีกตัว แถมยังส่งยิ้มหวานมาที่เรา
             
                      "อืม " 
                      "แล้วก็โน้น "  ไอนันไม่บอกว่าเป็นใคร  อยู่ที่ไหน  ผมจึงต้องมองตามสายตาที่มันจับจ้องมองอยู่  เพื่อให้รู้ว่าคนที่มันกำลังเอ่ยถึงเป็นใคร

                       " เอ้อ... เออ    เขาคงมองเพราะว่าเราเพิ่งเข้ามาทำงานใหมมั้ง ใคร ๆ เขาก็มองเราอยู่แล้วนี่" ผมพูดพร้อมทำสีหน้าเจื่อน ๆ 
                       " แต่อาการมองแบบนี่มันแปลก ๆ นะโว้ย "  ไอนันพูด แล้วก็ชายหางตามามองที่หน้าผม  แถมยิ้มที่มุมปากก่อนจะยักคิ้วให้ผมไปที
                       " บ้านา...นัน  เราเพิ่งมาทำงานวันแรก ใคร ๆ เขาก็มองงั้นแหละ " ผมเริ่มรู้สึก หวิว ๆ กับสายตาที่ไอนันมองผม เหมือนมันกำลังคิดไรสักอย่าง  มันกำลังสงสัย คนที่มอง หรือสงสัยอย่างอื่น .................

                        ไม่ได้   ไม่ได้  ผมต้องรีบพาไอนัน ออกจากการเป็นเป้าสายตาโดยด่วนก่อนที่มันจะคิดไปไกลกว่านี่
ผมคงไม่ได้คิดอะไรมากหากคนที่มองเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายธรรมดา.......ผมรีบชวนไอนันเข้าไปที่จุดทำงานโดยเร็วอาศัยเสียงเตือนเวลาทำงานตอนบ่ายโมงเป็นเหตุผลให้ผมดึงแขนออกจากที่เรานั่งทันที

               





                          " น้อง  ชื่อไรนะ"  เอาไอ้พี่นี่เมื่อเช้าก็ถามไปรอบหนึ่งแระ ความจำสั้นจริงนะเมิง

                         " พงษ์  ครับ "     ผมบอกชื่อเมื่อเห็นว่าพี่เดี่ยวกำลังยืนรอคำตอบอยู่

                           "เออ  น้องพงษ์ ไปช่วยทำงานที่ไลน์ประกอบตรงโน้น .... นะ"  เหออ  เหมือนไกลมากเลยนะไอ้ตรงโน้นหน่ะทั้ง ๆ ที่มันก็อยู่ห่างกันไม่ถึงสิบก้าว   

                            "ครับพี่เดี่ยว"  ไอ้พี่เดี๋ยวยิ้มครับ มองไม่เห็นดวงตาเลย  หน้าตี๋  ตาตี่ขนาดนี้ก็แหงละ   


 การทำงานวันแรกก็อย่างนี้แหละครับโดดยชื่อพนักงานฝ่ายผลิตเนี้ยะ ต้องทดลองทำงานทุกอย่างไปเรื่อย ๆ จนกว่าหน้าเขาจะเห็นว่าเราเหมาะที่จะอยู่ทำตรงไหน     ก็ดีละครับเพราะถ้าผมไปทำอยู่กับไอ้กร มีหวังได้เป็นนักกีฬาทีมชาติแน่และที่สำคัญ...........มันน่ารักมาก เดี๋ยวอดใจไม่ไหวจะไม่ได้ทำงานกัน    :m10:    ( แล้วจะทำไรดี   เอิ้กส์)

                         พี่เดี่ยวเดินนำผมไปที่โต๊ะทำงานยาวตัวหนึ่งที่มีพนักงานยืนล้อมรอบอยู่ 5 คนทุกคนก็สาละวนกับงานตรงหน้าตัวเอง ( ผมไม่ขอเล่ารายละเอียดของงานนะครับ เพราะมันไม่มีไรน่าสนใจมาก เอาเป็นว่าโรงงานนี้ประกอบเตาไมโครเวฟยี่ห้อดัง ยี่ห้อหนึ่งที่มีโลโก้ ขึ้นต้นตัว S สีน้ำเงิน)   พี่เดี่ยวแนะนำชื่อผมกับพนักงานคนอื่น ให้รู้จักกันและให้สอน(ใช้)ผมทำงาน


                           อ่ะ....ผู้หญิงสองคนนี้  ทำไมมันคุ้น ๆ หว้า  เคยเห็นที่ไหน... ผมพยามนึกครับว่าเคยเจอที่ไหน เป็นคนรู้จักรึเปล่า  แล้วไงมองผมแล้วชอบยิ้ม ๆ  ถามทุกอย่างที่เกี่ยวกับผมตั้งแต่เกิดจน มาทำงาน  ไอเราก็พาซื่อ ตอบทุกอย่าง  บางทียังอดคิดไม่ได้ว่า นี่ผมมาทำงานหรือมาให้ปากคำที่โรงพักเนี้ยะ จะตอบแบบโกหกบ้างก็ไม่มีเลยสักคำ   
...สงสัยผมจะตอบเพราะจิตใต้สำนึกของความกลัว    กลัวไม่มีเพื่อน  กลัวต้องอยู่คนเดียว......กลัวความเหงา.....
               
                     
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-09-2007 11:43:15
อืม ใครกันนะที่มอง
 :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-09-2007 14:40:12
..................................................................

           ....อ้า....จำได้แระ พี่หญิงสองคนนี่ ที่นั่งมองผมกับไอนันเมื่อหลังพักเที่ยงนั้นเอง   เมื่อนึกออกผมก็คงทำได้แค่เกาหัวและยิ้มแบบเขิล  ๆ  โชว์ลักยิ้มไปนาน  :m23: จนผมรู้สึกว่าความชุ่มชื่นของเหงือกและฟันผมจะหายไปเรื่อย ๆ ต้องรีบขยับปากหุบลง  แทบจะต้องให้มือช่วยดึงเพราะมันแห้งซะเหลือเกิน

                               " พงษ์  มีแฟนยัง "     รุกคาด ครับผมโดนคำถามที่ผมไม่อยากตอบที่สุด แต่ก็ทำใจแล้วครับจะต้องมีคนถามคำถามนี้  แต่คำตอบนี่สิ ผมยังไม่ได้คิดเลย ( ก็ตอบไปเด  มีกะไม่มีแค่นั้น ทำไมต้องใช้สมองคิดด้วยเหรอ) ว่าจะเลี่ยงตอบยังไง  เพราะหลังจากที่ผมตอบคำถามนี้  มันต้องมีคำมอื่นตามมาแน่นอน

                                 เอ้.....ผู้หญิงชาวลำปางหุ่นบางร่างเล็กแต่อกโต อายุมากกว่าผมหน่อย  เอ่ยถาม

                                จะเอา...แฟนผู้หญิงรึผู้ชายหล่ะละเจ๊....ได้แต่คิดในใจครับ


                              " ยังครับ  ตอนนี้โสดสนิท "  ตอบแบบขอผ่านทีครับ ก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานอย่างเดียว


                               "เหรอ "  แล้วจะยิ้มไรมากขนาดนั้นนนนน

                                "ไม่เชื่อหรอก อย่าโกหกเลย"   อ้าว ..เอ้ย   หน้าผมมันบอกเป็นคนชอบโกหกเหรอเนี้ยะ  

                                เดือน ......หญิงสาวชาวขอนแก่น ...ผิวขาว   ร่างอวบ   และอกโต  แทรกเสียงอันแหบ ๆ ของเธอขึ้นมา

                                "มีก็ได้... "   น้ำเสียงไม่เต็มใจตอบเลย

                                "น้าน  เห็นไหม   โกหกจริงด้วย" เอ้า...กรูทำไรผิดเนี้ยะ มาจับผิดกรูทำไม


                                "แต่ไม่ได้เจอ และติดต่อกันแล้ว     ตั้งแต่ผมไปเป็นทหารแล้ว"


                     และก็มีอีกหลายคำถามที่ผมตอบมั้งไม่ตอบมั้ง .......แต่ผมไม่ได้บอกหรอกว่าทำไมถึงเลิกกับแฟนทั้งที่เราก็คบกันมาตั้ง 3 ปีสมัยที่เรียนมหาลัย    ตั้งแต่มัธยมปลายผมก็มีแฟนคนนึง  เธอและกลุ่มเพื่อนจะคอยมองกลุ่มผมว่าไปทำอะไรยังไงที่ไหนในโรงเรียนบ้างแต่ผมก็ไม่เคยสนใจว่าจะมีใครมามองและถ้าเป็นผมด้วยคงจะยาก เพราะเพื่อนผมแต่ละคนมาดแมน    สูงใหญ่   นักกีฬาบาสโรงเรียนกันทั้งนั้น ผมเป็นคนตัวเล็กเรียกว่าที่สุดในกลุ่มก็ได้  ผมเล่นกีฬาไม่เก่งไม่ชอบกิจกรรมที่ต้องใช้พลกำลัง เป็นพวกเด็กเรียนมากกว่า   แฟนผมเธอจะเป็นคนสวยที่สุดในกลุ่มมารยาทเรียบร้อยเวลายิ้มน่ารักสุด ๆ  แต่เธอชอบทำตัวเหมือนนินจา  แว้บมาให้เห็นแล้วก็หายไป เวลาเดินในกลุ่มเธอก็จะถือผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าตัวเองเห็นแต่ลูกกะตา  โดยการยุยงส่งเสริมของหลานสาวผมซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกะเธอ ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นเธอจึงเฉลยให้ฟังว่าที่ใช้ผ้าปิดหน้าเพราะว่ากลัวผมเห็นหน้าแล้วจะไม่ชอบ   .555 ..ก็ขำสิครับก่อนจะโดนหยิกไปที  เราคบกันตั้งแต่ผมอยู่  ม. 5 จนผมต้องย้ายเข้ามาเรียนที่มหาลัย แรก ๆ จนหมายก็แวะเวียนหากันดี (โทรศัพท์ยังไม่นิยมครับ )  ถ้าผมกลับบ้านก็จะไปหาเธอ  สุดท้ายเราก็ขาดการติดต่อโดยปริยาย    และผมก็คบกับแฟนคนใหม่อีกคน
ซึ่งเธอก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันเธอเข้ามาทำความรู้จักผมก่อน  เราคบกันได้แค่ปีหนึ่งเทอมแรกผมก็ตัดสินใจว่าผมควรจะบอกเลิกกับเธอ เพระทุกครั้งที่ผมอยู่กับเธอผมอึดอัดเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง บางครั้งก็หงุดหงิดที่เธอคอยมาเอาใจผมตลอดเวลา....และนั้นเป็นการที่ผมผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะผมทำให้เธอต้องเสียอนาคตไปถึงแม้เพื่อนผมและเพื่อนเธอจะให้เหตุผลมากมายว่าไม่เกี่ยวกับผมเลยก็ตาม  ...พอเปิดเทอม  2  ผมก็ไม่เจอเธออีกเลย... วันที่ผมบอกเลิกเธอผมกลับได้รับ ขวดโหลรูปหัวใจข้างในบรรจุด้วยฮาร์ดบีทสีแดงเต็มขวดห่อใส่กล่องของขวัญอย่างดี.

                ...นี่คืออะไร .....นี่คือคำยินดีที่ผมเลิกกับแฟน......หรือคำสมน้ำหน้าจากผู้หญิงอีกคนที่ยื่นให้กับผม

                  นี่คือมิตรภาพใหม่ที่ผมได้รับ..จากเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับผมเอง ...ผมก็ชอบเธอ ชอบที่เธอคอยเอาใจใส่คอยอยู่เป็นเพื่อน  ทำกับข้าวที่แสนอร่อย  ต่อจากนั้นผมกับเธอก็คบกันมาเรื่อย  ผมรู้สึกสับสนและหงุดหงิดทุกครั้งที่เธอเข้ามาในชีวิตผมมากเกินไป ...เธอดีกับผมทุกอย่างเธอไม่เคยโกรธเคยเกลียดผมเลยไม่เคยคิดที่จะคบคนใหม่ทั้งที่มีคนตามจีบเธอมากมาย    ผมบอกได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เพรียบพร้อมและสมบูรณ์แบบเหมาะที่จะเป็นเมียและแม่ที่ดีให้ลูกของคุณ.......แต่ไม่ใช่ผม เพราะผมรู้ใจตัวเองดีแล้วว่าผมไม่ได้รักผู้หญิง  ผมไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวอย่างที่ชายคนอื่นเขาควรจะมีกัน  

                       " ขอโทษนะเราไม่อยากทำร้าย  นุ่น มากกว่านี้"  ตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดผม  เป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสตัวเธอ ต้องแต่เราคบกันมา ผมก็ได้แค่กอดเธอไว้ ตามคำที่เธอขอหลังจากที่เธอมานอนเฝ้าผมที่โทรมไข้มาตลอดทั้งคืน

                       " ทำร้ายอะไรหล่ะไม่เห็นเป็นไรเลย " เธอพูดด้วยสีหน้าที่เศร้า        

                        " รู้ใช่มั้ยว่าเรา............"

                         "รู้สิ.. รู้มานานแล้วด้วย "  

                          "แล้วไม่รังเกียจเราเหรอ"

                         " ไม่เคยเลย....ยิ่งรู้นุ่นยิ่งรักและสงสารพงษ์มากรู้ไหม "

                         "แต่เราคงคบกันแบบแฟนไม่ได้...มันมีแต่จะทำให้เราเสียใจคนที่จะเสียใจที่สุดก็คือนุ่นนะ" ผมผละออกจากเธอ เพื่อย้ำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรอยู่กับผมแบบนี้ถึงแม้ผมไม่ได้ทำให้เธอเสียหาย

                          " พงษ์  เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไหม " นั้นคือคำถามที่ต้องการคำตอบหรือเพื่อตอกย้ำความจริงกันแน่

                          " มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะนุ่น....เราถลำลึกเกินกว่าจะฉุดคืนแล้ว "

                          "นุ่นคงจะเจอคนที่ดีกว่า...และเขาคงไม่เป็นอย่างเรา.......................เรามีแฟนแล้วนะ " ผมบอกเพื่อให้เธอตัดใจจากผม  ความรู้สึกตอนนี้มันจุก ๆ และทรมานมาก มันยากที่จะพูด     ความจริงมันน่าจะพูดได้ง่าย
และควรบอกความจริงกับเธอตั้งแต่ที่ผมรู้จักตนเอง ว่าที่แล้วผมรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไรกันแน่ ผมกลั้นน้ำตาเมื่อเห็นว่าเธอปล่อยโฮมันออกมาเพราะเธอคงเก็บกดมันมานานเหมือนกันที่เธอทำดีกับผมทุกอย่างเพื่อให้ผมเปลี่ยนใจมารักเธอ
                           "ใครเป็นคนโชคดีคนนั้นละ" เธอปาดคราบน้ำตาที่แก้มตัวเอง  แล้วก็พยายามยิ้ม   ให้ผมได้สบายใจ

                            " ก็ คนที่เอายาแก้ไข้มาให้เมื่อคืนนี้ ที่นุ่นเจอนั้นแหละ" ผมกล่าวถึงเด็กผู้ชายวัย 20 ตัวผอม ๆ ขาว ๆ  ที่ซื้อยามาให้และเดินสวนทางกับนุ่นที่หน้าห้องผมเมื่อคืนแต่เขาไม่ใช่แฟนผมหรอกครับแค่ยืมมาสวมบทบาทให้เท่านั้น

                              " แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม" ผมคิดว่าเธอคงจะเตรียมใจกับรื่องนี้มานานมากแล้ว  เมื่อได้ยินผมพูดจากปาก  เธอถึงทำใจได้เร็วขนาดนี้

                              " เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป "  นั้นคือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ผมจะตอบแทนและชดเชยให้กับเธอได้   ผมคิดว่าผมมาถูกทางแล้ว ถ้าผมดึงดันกับความรู้สึกตัวเองมากเท่าไหร่มันจะยิ่งทำให้เราเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น  อย่างน้อยเราสองคนก็จบกันด้วยดี  ....สุดท้ายผมก็แค่กลับมาเป็นคนที่ขี้เหงาเหมือนเดิมเท่านั้น

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-09-2007 15:04:37
ขอบคุณ ทุกกำ ลังใจครับ o1  o1      ผมอาจจะใช้ภาษาได้ ไม่ดี  พิมพ์ตกก็บ่อย เพราะนี่เป็นการเขียนเรื่องครั้งแรกครับ    ถึงไม่มีใครเข้ามาอ่านเท่าไหร่ ผมก็จะมาอัพไว้  เพราะผมกำลังว่างงาน   อิอิ 



คนที่แอบมองเหรอครับ ....คุณ  b|ueBoYhUb  เดี๋ยวก็คงปรากฎตัวครับ แต่ไม่ช่คนที่กล่าวถึงข้างต้นเรื่องหรอก  เดี๋ยวลงฉากติดเรท x มั้งดีกว่า....



...
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-09-2007 15:21:39
คำถามโลกแตกที่คนถามก็ถามไปงั้น แต่คนตอบสิ
 :m29: :m29: :m29:

ปล.ไม่ต้องตกใจครับ เขียนได้ดีน่าสนใจแล้ว เพียงแต่บอร์ดเรานิยายมันเยอะมากๆ คงต้องรอสักพักเพื่อนๆจะตามอ่านกันทัน
 :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: GaSoRiNa ที่ 03-09-2007 15:39:27
มาช่วยดันอีกแรงนึงสู้ ๆคับ

คิดเรื่องของตัวเองไม่ออกเลยมานั่งอ่านของชาวบ้านไปพลาง ๆ เห่อ ๆ

ว่าแต่ทำไมผมใช้ไอคอนดุ๊กดิ๊ก ๆ ไม่ได้หว่า งงแร๊ะ

เป็นกำลังใจให้นะคร๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

     ชะแว๊บบบบบบบบบบบบบบบบ   ไปแร๊ะ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-09-2007 17:15:19
..........................................................
หลังจากผมทำงานที่นี่อาทิตย์หนึ่งผมก็เริ่มรู้จักคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่มากขึ้นโดยเฉพาะ  เอ้ กับเดือน  .. เดือนพักที่ตึกเดียวกับผม ห้องเราอยู่ใกล้กัน  ช่วงนั้นอากาศร้อนผมก็อาศัยยืมพัดลมที่ห้องเธอ   ส่วนเอ้ เธอพยายามที่จะมาเที่ยวมากินข้าวที่ห้องผม ทั้งที่ห้องผมไม่มีไรเลยนอกจาก  หมอน 2 ใบ ผ้าห่ม 2 ผืน ที่นอน 2 ผืน กระป๋า เสื้อผ้าและเตารีดเท่านั้น (เหมือนละครหลังข่าวเลยชีวิตกรู   เสื่อ  2 ผืน  หมอน  2  ใบ  ............เห้อ เศร้า )  ผมมองออกว่าเธอชอบผม  แต่ผมไม่เล่นด้วย ( หลงตัวเองจัง  กิ้ว  ๆ  )  ก็เธอมีผัวมีลูกแล้วจะให้ทำอย่างไรผมก็ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม สิครับ........ อยากได้กรูเป็นน้อยงั้นเหรอฝันไปเหอะ ( แต่ถ้าผัวเธอ ไม่แน่  555  ) ส่วนไอ้กรเราก็ได้คุยกันบ้าง ตามอัตภาพครับ  แต่ไม่มีเรื่องสำคัญไรจะต้องพูดถึง
 



..............................สามเดือน แล้ว.................


        ผมกับไอนันทำงานที่เดิมใจจริงก็อยากหางานใหม่ทำ ที่มันดีกว่านี่ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม   งานก็หนักเอาการเหมือนกัน   ผมยังใช้วิธีเดินมาทำงานอยู่เป็นส่วนใหญ่ วันไหนเหนื่อยมาก ๆ ก็มีนั่งมอมอไซค์รับจ้างมั้ง    เราสองคนขยันตื่นกันแต่เช้า ทุกวัน 6 โมงเช้าผมก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมทำงาน    ไอนันเป็นเพื่อนที่ดีต่อผม   แรก ๆ ผมคิดว่าผมชอบมันมาก แต่พอมันมาอยู่ใกล้ๆ ด้วยความดีของมัน ที่คอยดูแลเวลาที่ผมเมาก็เป็นมันทุกครั้งที่คอยดูแล  เราพักอยู่ห้องเดียวกัน แต่ผมไม่ไคยฉวยโอกาสหรือคิดทำอะไรกับมันเลย   อีกอย่างมันมีแฟนแล้ว  แฟนมันก็มาหาเป็นประจำ ถึงแม้มีทะเลาะงอนกันมั้ง ผมก็พยายามช่วยเป็นกาวประสานให้  ตอนนี้ความคิดผมเกี่ยวกับมันมีแต่คำว่าเพื่อนที่ดี  เพื่อนที่ผมรักคนหนึ่ง  แต่ผมก็รู้สึกเหงา ๆ ที่ต้องอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาหมดไปกับการนอนและการทำงาน    แต่หลัง ๆมานี่ผมเมาซมากกว่านอนครับ เพราะผม ได้เลื่อนเป็นหัวหน้า ดูแลงานและคุมพนักงานที่เคยทำด้วยกันนี่แหละครับ แบบว่าก้าวกระโดดหน่อยโอทีก็ไม่ต้องทำก็ได้ปล่อยให้ลูกน้องทำไป ผมแค่ดูแลให้มีงานส่งฝ่ายผลิตได้ตลอดแค่นั้นก็พอ

                             " พงษ์   พี่เอาลูกน้องมาให้   ช่วยดูแลและก็สอนงานด้วยละกัน "  พี่เดี่ยวเดินหน้าแฉ่งมาพร้อม คนอีกหลายคนทั้งหญิงชาย  หลังจากผมร้องเรียนถึงความถูกเอารัดเอาเปรียบด้านแรงงาน  ที่งานมากกว่าแรงคน

                              " ให้หมดเลยเหรอพี่ "  ผมถาม เพื่อหยอกเย้าแกนิดหน่อย

                              "เปล่า ให้คนหนึ่ง  อยากได้ใครก็เลือกเอา "  ...พ พี่พูดผิดพูดใหม่ได้นะ จะให้ตรงนี่เลยเหรอ  ( หน้าหื่นเลย)

                               "เอาคนหลังสุดครับ....ตัวใหญ่น่าจะแข็งแรงดี "  ยิ้มสิครับ   ....มีสิทธิ์เลือกได้ด้วย......

                                " งั้น.......(หยุดคิดครับ) ....เอาไป  ดูแลและก็สอนดี ๆนะ "  ได้เลยพี่เต็มที่และเต็มใจเลยครับ


แน่นอนครับคนที่ถูกเลือก  . . . .ต้องเป็นผู้ชาย ที่ตัวใหญ่หน้าตาละอ่อนหน่อย และต้องขาวด้วย  และต้องหล่อนี่สำคัญ
 ( เอ้อ ... คือเลือกมาทำงานครับ ไม่ได้มาเป็นนายแบบ  )  เหตุผลเหรอครับ  ก้อ....(คิดนานหน่อย)...

                     1  ต้องเป็นผู้ชาย  ..   ผู้หญิงมีแล้วสองคน ( เอ้ กับ เดือน ) ก็มากพอที่จะทำให้เราหนวกหูได้แล้ววัน

                      2  ตัวใหญ่                งานที่ทำมีทั้งยก   ทั้งแบก  ทั้งหาม  ทั้งสอด ( จะอธิบายทำไมมม ) เหล็กทั้งนั้น

                                                     จะได้ผ่อนแรงผมด้วย
      
                      3  หน้าตาละอ่อน       อืม ใช่ครับ หน้าตาละอ่อน  เด็ก ๆ อ่ะชอบครับ........เวลาหลอก  เอ้ยบอกอะไรจะได้

                                                      ทำตามและเชื่อฟังได้

                       4.  ต้องขาว และหล่อ     อันนี่เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของแผนกครับ...เอิ้ก  เอิ้ก อยู่กับความมืดมานาน

เกิน            




                                      " น้องชื่อไรครับ  "    เสียงหล่อเกินผิดสังเกตป่าวเนี้ยะ

                                       " ชื่อหนุ่มครับ"          โห...เมิงเสียงโคด เอ็กซ์  เลย


                                  เดียวคืนนี้ ไปกินข้าวกับพี่นะ  พี่เลี้ยงเต็มที่เลย  อยากกินไรตามสบายนะจ้ะ



    
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 03-09-2007 18:23:34
จะหลอกเด็กระวังโดนเด็กหลอกนะ  :m12: :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-09-2007 19:42:43
กร๊าก เลื่อนไปหัวหน้าแว้ว

แต่ตามกฎนี่เขาห้ามมีไรกับคนที่ทำงานนะ

มันจะทำงานได้ไม่ยืด

 :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 04-09-2007 01:26:36
หุหุหุ.....ระวังเขารุตัวแล้วหนีนะเออ   :m12:

 :oo1:  :oo1:  :oo1:  :oo1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 04-09-2007 08:58:29
หวัดดีครับ           kei_kakura     ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจครับ

                           b|ueBoYhUb    กฏมีไว้ให้แหกครับผม     

                           Lucifer                ใจจริงก็อยากให้เด็กหลอกครับ   ( มามอมเลยก็ได้  อิอิ )

                          GaSoRiNa           ยินดีต้อนรับครับผม

 อ้อ ...ทุกคนด้วยนะครับที่เข้ามาแต่ไม่ได้เม้นท์ .....................ยินดีต้อนรับครับ




.....................................................................



 
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 04-09-2007 09:53:34
นึกว่ามาต่อ เลยแวบเข้ามาดู  :m23: :m23:
รอ....ร๊อออ ...รอ  :a10: :a10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 04-09-2007 12:17:02
 :m3: :m3:

                                       " น้องชื่อไรครับ  "    เสียงหล่อเกินผิดสังเกตป่าวเนี้ยะ

                                       " ชื่อหนุ่มครับ"          โห...เมิงเสียงโคด เอ็กซ์  เลย


                                         "เออ .. ไอ้ศักดิ์   เอาเพื่อนไปสอนงานหน่อยดิ "   ไอศักดิ์ เป็นลูกน้องที่ทำงานด้วยกันนั้นแหละครับ  ตัวมันเล็ก ๆ  แต่ก็ไม่เล็กนะ   เอะไง .........ประมาณว่ามันตัวเตี้ยหน่อย แต่ร่างกายกำยำครับกล้ามเป็นมัด ๆ เชียว  สังเกตจากภายนอกนะครับ...ไอนี่เป็นลูกแหง่ผม ไปไหนก็จะไปด้วยโดยเฉพาะหลังเลิกงาน เราจะสุ่มหัวกันที่ร้านยาดอง ( ตอนนั้นฮิตสุด ๆ แล้วครับ ) กับเพื่อนอีกหลายคนเกือบทุกวัน หน้าตาก็ไม่ดีหรอกครับไม่อยู่ในสเป็ก เลยเอาไว้เป็นเพื่อนกินเหล้าอย่างเดียว  แต่นิสัยดี  บอกง่าย ใช้คล่อง

                                           " โห...พี่  ๆ  พี่ก็สอนเองดิ "   อ้าว  ไอนี่มีขัดขืน   งั้นที่ผมชมมันเป็นโมฆะนะครับ

                                           " นา .. นะ  สอนมันหน่อย   พี่จะไปห้องน้ำก่อน เดี๋ยวจะมาสอนเทคนิคีทหลัง"  อืม   ถึงแม้จะใช้แรงงานมันก็ต้องมีเทคนิคและวิธีการผ่อนแรงบ้างนิดหน่อยครับ  ก็เรียนมาด้านนี้แล้วนี่   ออกแรงอย่างไรให้น้อยที่สุดแต่ให้ได้งานมากที่สุด  อันนี่น่าจะเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้อันน้อยนิดของผมมาทำให้เกิดประโยชน์   ( ตอนนั้นคิดออกแค่นี่แหละ  )

                                            " พี่อย่านานนะ  ขี้เกียจไปตามหา "  กรูไปห้องน้ำอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่ได้ไปตลาดสักหน่อย

                                            " ไม่ต้องพูดมาก  ทำงานไป "

ผมปล่อยให้พวกมันสาละวนสอนงานน้องใหม่   ไม่ใช่เฉพาะศักดิ์ครับ  เกือบทุกคนจะมาช่วยสอน  ที่ดื้ด้า กันใหญ่คงจะเป็น  สองสาวนกขุนทองนี่แหละครับ  (ใหฉายาเลยละกัน)   จ้อได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็นแต่ก็ดีอย่างเพราะเราจะได้รู่ข่าวสารโรงงานเกือบละเอียดทุกเรื่อง  ....แต่ก็เป็นอันตรายสำหรับผม หากพวกเธอรู้และเอาเรื่องผมไปพูดต่อ.............ไม่อยากคิด

                         ไม่ได้  ๆ     อดใจไว้    ๆ     เราต้องไม่เข้าไปยุ่งปล่อยให้พวกนี้สนิทสนมกันก่อน   เราต้องนิ่งเฉยไว้
ให้เป็นการตัดไม้ข่มนาม  มันจะได้เกรงใจ  ........หลังจากนั้นค่อยประชิดติดตัว ถ้ามันสนิทกับไอศักดิ์ แล้วจะไปไหนเสียเอาเหล้าเข้าแลกหน่อย     เอิ้กส์  ..ๆ    แผนการแยบยลครับ

                   




                              ทุกวันเหตุการณ์ ก็ปรกติดี  ไม่มีอะไรแตกต่างมากมาย....ผมกับไอศักดิ์มีนัดกินเหล้ากันตอน 6 โมง ที่ร้านยาดองเป็นประจำ ไอนันก็จะมีแฟนมารับไปกินข้าวอยู่แล้วถึงผมกลับไปผมก็ต้อง อยู่คนเดียว   ตอนนี้แก้เหงาโดยการหาเหล้ากินครับ  ( นิสัยเสียอย่างยิ่งครับ )  เกือบทุกเช้าผมก็จะมีอาการค้างมาที่โรงงาน..........


                                          " พี่พงษ์ ..กินนมนะพี่"  ไอ้หนุ่มยื่นขวดนมรสช็อกโกแล็ค   พร้อมทำหน้ายิ้ม ๆ
 
                                          " อืม    ขอบใจ "  ผมคว้าหมับไปที่ขวดแล้วบรรจงกรอกลงคอ.. โดยไม่เทใส่แก้วเลย ( เอ้อ  จริง ๆผมเป็นคนมารยาทดีมากครับ   แต่ไงวันนี้ทำไปได้ไม่รู้ .. ) 

                                          " หนุ่มชอบกินนมเหรอ  เห็นกินได้ทุกวัน "  ถามไปงั้นแหละก็คิดว่าคงตอบว่าชอบ

                                           ".............."   มันยิ้มครับ   เวลามันยิ้มดูมันหล่อมากจริง ๆ   ผิวใส ๆหน้าคม จมูกโด่ง มีเคราข้างแก้มนิดหน่อย  ตาโต ๆ  ชอบผมตั้ง ๆ


                                              " เออ  ไม่ตอบ งั้นกินหมดนะ "  แฮะ  ๆ  ก็คนมันค้างอยู่ ยังไม่ได้กินอะไรแต่เช้าเลย( วันนี้ไอศักดิ์อด)




                                            ไม่แปลกหรอกครับ ที่มันจะยื่นนมให้ผม  เพราะทุกวันผมก็เห็นมันถือนม   รสนี่แล้วก็ขวดแบบนี้มาตอนเช้าทุกวัน  ผมว่ามันคงชอบกินแระ    และมันก็จะมาแบ่งผมกับไอศักดิ์กินด้วยอยู่แล้ว  พวกผมสามคนสนิทกันมากขึ้น    พักเที่ยงเราต้องกินข้าวด้วยกัน
ส่วนตอนเย็นถ้าไม่มีโอทีก็จะดริ้งเช่นเคย  ตอนนี้กลุ่มเหล้าผมก็เพื่อนแผนกอื่นที่สนิทกัน  ไอศักดิ์   ส่วนไอหนุ่ม ก็มาบ้างประปรายแต่ก็ไม่บ่อย    ก็ยังดียังพอมีกับแกล้มสายตาอยู่   555


    ........................................................................

              วันนี้ผมมาทำงานแต่เช้า...  กะว่าจะมากินข้าวที่โรงอาหารสักหน่อย  เมื่อคืนไม่ได้เมาเพราะมีโอทีทำกันถึงดึก ต่างคนต่างเหนื่อย  เลยต้องกลับห้องนอน....ตอนไม่เมานี่ก็รู้สึกสดชื่นครับ   ผมสั่งข้าวราดแกงจานหนึ่งแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะ  เตรียมน้ำไว้พร้อมแล้วก็ค่อย ๆ ตักกิน (ตอนนี้คนเยอะครับต้องรักษามารยาทหน่อย)  ระหว่างที่กินก็เหลือบมองดูนู้นมั้งโต๊ะนี่มั้ง ไปเรื่อย     

                                          แต่เอ่ะ..   สายตาคู่นี้อีกแล้ว..............ใครกันทำไมต้องคอยแต่มองมาทางนี้ด้วย

เราคิดไปเองรึเปล่า......คงใช่ ...คงเหมือนเราแหละเวลากินยังต้องคนอื่นเลย.
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 04-09-2007 14:11:11
ไม่ได้วนเวียนแถวนี้หลายวัน มีเรื่องใหม่อีกแย้ววว

โพสต่อไปครับ จะติดตาม
(อย่างน้อยก็เคยทำงานโรงงานมาก่อน นึกภาพออกครับ เคยนั่งร้านยาดองด้วย  :m26:)
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 04-09-2007 14:16:32
ถ้ำมองป่าววว  o17 o17
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 04-09-2007 16:10:25
......................................................................................


หลังกินข้าวเสร็จผมก็มารอบริเวณแผนกที่ทำงาน พวกเด็กในสังกัดทั้งหลาย( ลูกน้องอ่ะ) ก็ถึงกันแล้วเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วก็คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร.......พอมองไปที่มุมใต้โต๊ะเห็นไอหนุ่มนั่งกอดเข่าพิงโต๊ะอยู่  ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมวันนี้มันถึงมาทำงานแต่เช้าได้เพราะทุกวันหลังอบรมพนัก  เช็คชื่อเสร็จแล้วถึงจะเจอหน้ามัน  แต่ก็ดีครับมาเช้าอย่างนี้แถมยังนั่งอยู่คนเดียว......เสร็จโจร......

                                        ผมถลาตัวเข้าหาผลักให้มันล้มนอนลงกับพื้น....


                                        มันร้องเฮ้ยออกมา     แต่ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ   ผมได้ใจใหญ่แกล้งทำเป็นล้มทับไปอีก

ที  ที่นี่มือสองข้างของผมจับแขนมันวางไขว้บนพื้นเหนือหัวของมัน  ร่างผมที่เอนทับมันลงมา ทำให้ใบหน้าของเราอยู่

ห่างกันไม่กี่เซ็นต์  ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เร็วและแรง มันจ้องตาผม   ผมจ้องตามัน เราทั้งสองไม่ได้ละสายตาจาก

กัน  ตอนนี้ผมสังเกตได้ว่ามือของมันเริ่มอ่อนแรงลงและผมก็ไม่ได้สนใจคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้างแล้วและคิดว่าคงไม่มีใคร

มองเห็นเราทั้งสองคน.....เมื่ออีกฝ่ายเป็นใจใบหน้าของผมเริ่มเคลื่อนต่ำลง  ต่ำลง   เหมือนมีเสียงเรียกชื่อผมอย่างแผ่ว

เบา หลายครั้ง มันทำให้ใจผมยิ่งเร้าร้อนมากขึ้น   จมูกของผมชนกับอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างหน้า มันสัมผัสได้ถึงความ

เยือกเย็นของผิว........................ทำไมถึงเย็นเช่นนี้


                   

                                                          "โอ้ยยยยย.........เย็น    เล่นอะไรบ้า ๆ นะเดือน " ผมร้องทันทีเมื่อรู้สึกถึงความเปลี่ยนของอุณหภูมิบริเวณจมูก 

                                                             " นี่มีน้องเขาเอาของมาฝาก"  เดือนชักมาที่ถือถุงพลาสติกที่มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างในซึ่งผมมองเห็นมันไม่ถนัดนักหรอก

                                                             " ฝากเราเหรอ"

                                                             " ป่าว .... อั้มมันเอามาฝากให้ไอหนุ่ม" 

                                                             "แล้วไงไม่เอาให้เอาเล้า"   หงุดหงิดครับหงุดหงิด

                                                             " จะเอาให้ได้ไงหล่ะก็ยืนขวางทางอยู่นี้ "  ผมยื่นมือรับของมาก่อนจะโดนโยน

ใส่แทน ( เราสนิทกันเกินกว่าหัวหน้ากับลูกน้องครับ เรียกว่าเป็นเพื่อนกันมากกว่าผมไม่ถือสาเรื่องหยอกล้อเล่นอยู่แล้ว )

เมื่อพิจารณาของที่อยู่ในมือก็ถึงบางอ้อแหละครับ


                                                                 " ออ....นมเหรอสงสัยไอหนุ่มฝากใครซื้อมาให้" ไอหนุ่มลุกขึ้นจากมุมที่นั่งอยู่แล้วเดินมานั่งบนโต๊ะทำงานแทนเมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกเรา

                                                                  " ป่าวหรอก....อั้มซื้อมาฝาก  มันก็เอามาฝากทุกวันนั้นแหละ "

                                                                   "..............."  อึ้ง แล้วก็จี้ดดดด      นี่หมายความวาผมมีคู่แข่งเหรอ

แล้วมันนานแค่ไหนแล้วเนี้ยะ เท่าที่จำได้ผมก็กินกะมันทุกวัน............โอ้ย  ๆ   แล้วอินังอั้มเป็นใคร ?????


                                                                " ขอบคุณครับพี่"  ไอหนุ่มยิ้มเขิล ๆ ก่อนมารับนมมันไป  ปล่อยให้ผมได้แต่มองหา คนที่เป็นแม่ยกมัน

                                                                " แล้ววันนี่เป็นอะไรเรีกทำเป็นไม่ได้ยิน....ค้างมาอีกละสินำลายยืดเชียว"

แล้วจะมาแขวะทำมาย   แค่นี้ก็ตกใจแล้วยังจะให้อายอีกเหรออออออ ....บ่นอุบอิบเลยครับ  ก่อนจะยกมือปาดน้ำลายที่ย้อยลงมาซะ
                                                                     

                                                               :serius2: :angry2: o12 :o






                                                       
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-09-2007 20:43:19
เอ๊ะยังไง ใครกันที่แอบมอง
 :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 05-09-2007 11:12:24

เข้ามาดูเพราะชื่อเรื่อง และความเป็นเรื่องใหม่ (เด๋วตาบลูจะหาว่าเจ้อู้งาน อิอิ)

พล๊อตเรื่องก็ใช่ได้  ฉากของท้องเรื่องแปลกดี  หนุ่มโรงงาน  อิอิ  เจ้ชอบ  ในเล้านี้ยังไม่มีนิยายเรื่องไหนเขียนเรื่องหนุ่มโรงงานเลยอะ

เรื่องพิมพ์ตกพิมพ์หล่น  อย่างนู๋นี้ถือว่าน้อยแล้วนะเคอะ  ทำได้ดี  เอาไว้แก้ไขใหม่ตอนรวมเล่มก็ได้นะ

การใช้ภาษาก็ทำได้ดี เชิดหน้าชูตาครูสอนภาษาไทยของเธอได้

แต่มีจุดที่อ่านแล้วสะดุดเล็กน้อย ยกตัวอย่างนะ เช่น  เดือน...พูดขึ้นด้วยเสียงอันแหบๆ

ซึ่งถ้าไม่ใส่คำว่า อัน ลงไป  จะอ่านแล้วไม่สะดุด(ในสายตาเจ้)  เพราะระดับของภาษาที่คุณน้องใช้เดินเรื่องตลอดมามันเป็นภาษาชาวบ้าน  ไม่ใช่ภาษาระดับวรรณกรรม  พอมีคำว่า อัน ซึ่งเป็นภาษาที่ยากขึ้นมาระดับหนึ่งและไม่ใช่ภาษาที่ชาวบ้านใช้กันอยู่ทั่วไปแทรกเข้ามามันเลย อ่านแล้วสะดุด

แต่โดยรวมแล้ว คุณน้องทำไดเดีแล้วเคอะ  สู้ๆ เจ้เอาใจช่วย (แม้ว่าจะเริ่มรำคาญกับไอ้เจ้าสายตาประหลาดที่หาแหล่งที่มาไม่ได้นั้นบ้างแล้ว  ใครกันนะ?)

อิเจ้เองเคอะ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 05-09-2007 12:56:36
อ่ะ โอ....เจ้สองแวะเข้ามา   ดีใจมากมายครับ


ขอบคุณเจ้สองสำหรับคำแนะนำดี ๆ แล้วผมจะพยายามฝึกใช้ภาษา...ให้เมาะสม   

แต่ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า  เรื่องที่ผมพิมพิ์  ผมไม่ได้เขียนหรือแต่งไว้ ก่อน   ก็คิดและพิมพิ์สด  ๆ

(ใช้คำถูกป่าวเนี้ยะ ) เลยประมาณว่าเล่าความหลังอ่ะครับ (สงสัยจะเริ่มแก่) หากขาดตกบกพร่อง


ต้องขออภัยอย่างแรง....  ไม่แก้ตัวครับ แต่จะแก้ไข.ให้ดีขึ้นคร้าบป๋ม   (เห็นใจเด็กเรียนวิทย์ด้วยนะ

ครับ )

 o1    สู้  ๆ   :a9: :a9:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-09-2007 19:30:31
อ่านทันแล้วจ้า   :m27:  :m27: เท่าที่อ่านมาถึงตอนนี้ โดยรวมแต่งได้ดีเลยล่ะ อ่านได้ไม่สะดุด
การดำเนินเรื่อง พล็อตเรื่องก็น่าสนใจ 
เนื้อเรื่องก็สนุกดีน้า จะรออ่านต่อไปจ้า  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 06-09-2007 12:16:03
ขอบคุณและยินดีต้อนรับครับ  คุณ   THIP


................................................................

ผมสังเกตไอหนุ่มหลายครั้ง..ตั้งแต่เข้ามาทำงาน มันจะชอบมาทำงานสาย  และไม่ชอบพูดหรือสุงสิงกับใครเท่าไหร่นอก

จากผมกับไอศักดิ์  มันเป็นคนพูดน้อย  แต่ดูกำปั้นแล้วน่าจะต่อยหนัก ( มะเหงเกี่ยวเลย)  หากมีใครคิดจะผูกมิตรกับมัน

ต้องอดทนครับ....เพราะคุณ ๆ  อาจจะเบื่อและหน้าแตกกลับไปเลยทีเดียวถ้าใครไม่สนิทจริง ( มันจะสนิทใครละ ..ก็มีกรู

กะไอศักดิ์เองนี่หว่า..)  คำตอบที่จะได้รับ....จากคำถามที่ใครก็ชั่งเอ่ยถามไปคือ   ยิ้ม   แล้วก็ยิ้ม...... :m13:


                                                        "  หนุ่ม  ผีเข้าสิงรึไงมาทำงานแต่เช้าได้ "   แหย่มันไปทีหนึ่ง

                                                         " ครับ "   เอ้า..เอากะมันดิ   

                                                         "ถามเจรงเป็นอะไรรึเปล่า "  ถึงมันจะพูดแล้วยิ้มแต่ก็ไม่อาจปกปิดแววตาที่ดูเศร้าของมันได้
                               
                                                         " ไม่อยากอยู่ห้องนานนะพี่"   เมิงปิดกรูไม่ได้หรอกไอเด็กน้อย ....... กรูเก่ง

                                                         " ผมทะเลาะกับพี่สาว  เรื่องที่บ้าน" หน้าสลดลงเลยนะเมิง...เมื่อเห็นเป็นเรื่อง

ส่วนตัว ผมก็ไม่อยากซักไซร้ไร้เรียงอะไรมาก ( แน่ใจ )  ก็ได้แต่จับแขนมันเบา ๆ ..( ถือโอกาสละสิ   เอิ้กส์   :m23: )

                                                        " ไม่เป็นไรอย่าคิดมาก พี่น้องกันเดี๋ยวก็ดีกันเองแหละ"  ผมก็ปลอบได้แค่นี้ครับ

ใจจริงอยากจะเข้าไปโอบกอดไว้ แบ่งไออุ่นให้สักหน่อยแหละ.....555

                                                         " คืนนี้เลิกงานเดี๋ยวไปกินเหล้ากัน"   พูดไปแล้วลืมนึกเลย .....กรูก็อดกินมาวัน

หนึ่งแล้วนี่หว่า....ตอนนี้จนอีกแระ ( มนุษย์เงินเดือน พอกลาง ๆ เดือนจะแนวเดียวกันนั้นแหละ )

                                                        " พี่พงษ์  ผมไปด้วยนะ "  เออ...ดีเลยเมิงไอศักดิ์   ยังอยากแจมอีก

                                                         " เออ ๆ หลายคนจะได้ช่วยกันหาร"  นอกจากจนแล้วยังงกอีก....( คุณสมบัติที่

หลาย ๆ คนกำลังฮิตเชียวแหละ )

                                                        " อ้าวเอ้ยพี่เดี่ยวมาต้องใจทำงานหน่อยเร็ว  มัวคุยกันอยู่ได้ " น้าน   โยนความผิด

อีก นิสัยดีเจรง ๆ  (ใครชวนหว่า)

                                     
                                        ดูไอหนุ่มมันก็อารมณ์ดีขึ้นนะครับ  ทำงานไปด้วยเราก็คุยกันด้วยเป็นธรรมดา  เวลาไม่มีใคร

พูดมันจะเงียบเหงาผิดปรกติบางทีก็เอาเรื่องคนอื่นมาล้อเลียนประจำโดยเฉพาะ


                                     

             " ติ๊ง  ต่อง  ต๊อง .ง  ง.  ง.   ขอเชิญคุณไชยา แมททีเรียล ที่ห้องประชุมตอนี้ด้วยครับ  ต๊อง  ต่อง   ติ๊ง  ง  ง  ง  "


                                             เมื่อได้ยินเสียงนี่ทีไรไอศักดิ์มันต้องทวนประโยคซ้ำทุกที    และเราคงฟังจนจำขึ้นใจจน

ท่องได้ทุกคน  ( เออ เก่งกันเจรง ๆ  ภูมิใจกานจาง  )  แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเลยสักที  สงสัยจะเป็นลูกครึ่ง นามสกุล

แมททีเรียล


                                                 " หนุ่ม...ตอนเย็นไปกินข้าวกันไหม "  เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมคาดว่าคงมายืนอยู่ด้าน

หลังที่ผมกับไอหนุ่มกำลังทำงาน (  ไอหนุ่มมานน่ะเด็กใหม่ยังทำงานไม่คล่องเลย ต้องเข้าไปช่วย   แฮ  ๆ  )  ทุกคนหัน

มองตามเสียงนั่น                   

                                                 ผมพิจานณาดูจากเท้าจรดหัวของเธอ  การันตีได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้   ไม่มีที่สวยเลย

(อคติอ่ะป่าว )  สงสัยจะเป็นคนชื่ออั้มที่เอานมมาฝากไอหนุ่มประจำ ถึงว่าทำไมไม่กล้าแสดงตัวให้พวกเราเห็นหน้าสักกะ

ที.............ไอหนุ่ม ตอบไปดิว่าไม่ว่าง

                                              " คงไม่ได้หรอกมีนัดแล้ว" เย้. . เย้  ถูกใจพี่จังน้องเอ้ย   เดี๋ยวให้จุ๊บทีหนึ่ง ( ผมยิ้มจน

หน้าบานไปรึป่าวเนี้ยะ )

                                               " แล้วหนุ่มจะไปไหน "  เธอชักสีหน้านิดหน่อย

                                              " จะไปกินเหล้ากับพี่พงษ์ " ขายกรูแระ.... เดี๋ยวคนก็รู้หรอกว่ากรูขี้เหล้า ( แล้วจริงป่ะ )

                                               " งั้นเหรอ "   พูดยังไม่ทันเสร็จเธอก็วิ่งเข้าไปอีกแผนกหนึ่ง ..อ่ะ ฮ่า  สงสัยจะโกรธจัดถึง

ไม่หันมามองเราเลย.....  เห้อสบายใจจาง คู่แข่งไม่น่ากลัว   ยิ้มอย่างผู้มีชัยครับ  :m4: :m4:   



                                                อ้าว  ยังไม่หายดีใจเลย วิ่งมาอีกแระ  แล้วเธอก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังไอหนุ่ม

                                                 " หนุ่ม..อั้มบอกว่างั้นไปกินเบียร์ที่ห้อง อั้มก็ได้ " อ่ะ  ..อึก  อัก.. จุกเลย  เอาเบียร์มา

ล่อเหรอ  แล้วยาดองผมอ่ะ ( ลืมบอกไปว่าชวนมานไปกินยาดอง  อิอิ )  แต่ว่าเมื่อกี้..............

                                                " ชวนพี่พงษ์ กับ ไอศักดิ์ ไปด้วยได้ป่าว " เอ้ย ๆ  ไปคนเดียวดิเรื่องไรจะชวนผมไปกินที่

ห้องผู้หญิงคนนั้นด้วย

                                              " ได้สิ..อั้มคงไม่ว่าหรอกสนุกอีกมีผู้ชายไปกินหลายคน "

                                              " อืม "  ไอหนุ่มไหงเมิงไม่ถามกูก่อนหล่ะ  จะให้กูช้ำใจตายเหรอไง  คิดดูดิครับ ผมต้อง

ไปเห็นภาพบาดตาบาดใจอย่างงั้นเหรอ  .........ไอศักดิ์  ช่วยพูดปฏิเสธมั้งเด่

                                              " ได้เลย  เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อนไอหนุ่มเอง "  ได้ใจมากเลยลูกน้องผมอยากร้องไห้  ฮือ  ๆ   :m15: :m15:

                                                แต่ว่า ...คิดสิคิด..   ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ชื่ออั้มเหรอ     ทำไมไม่มาชวนเอง   แล้วทำไม

ต้องสนุกถ้ามีผู้ชายไปหลายคน.............รึว่า. o21 o21   ..จะเล่นหมู่เหรอ

                                                 "นะพี่พงษ์ ไปเป็นเพื่อนผมหน่อย  ผมกลัว "  อุ้บ...มันคือไรเนี้ยะ  งงไปหมดแล้ว

 :serius2: :serius2:

                                               



                                                       

                                                         
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 06-09-2007 15:22:16
 :m22: :m22: :m22:
เดาว่า ...
อั้มไม่ใช่ผู้หญิง
รอดูต่อปายยยยยยยย
 :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-09-2007 15:46:13
กลัวแล้วไปทำไมอ่ะ มีอะไรที่ต้องแคร์งั้นเหยอ
 :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 06-09-2007 15:54:45
อ่ะ  โอ  ๆ  ......อยากรู้เหตุ ก็ตามต่อปาย.....นะครับ


  :a11: :a11: :a10: :a10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 06-09-2007 16:13:59
ตามมาติดๆๆ   :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 08-09-2007 11:08:47
   ........................................................

                      "นะพี่พงษ์ ไปเป็นเพื่อนผมหน่อย  ผมกลัว " ไอหนุ่มมากระซิบที่ข้างหูผม ท่าทางจะกลัวจริง

                      “ได้ "   เดี๋ยวพี่จัดห้ายยย

แล้วไอหนุ่มก็ถามถึงเส้นทางที่จะไปจากผู้หญิงคนนั้น แล้วก็คุยอะไรกันอีกผมก็ไม่ได้สนใจจะฟัง   ดูเหมือนทั้งสองคนน่า

จะเคยพูดคุยรู้จักกันมาก่อน    แล้วทำไมผมไม่เคยรู้เรื่องเนี้ยะ แล้วมันไปรู้จักกันตอนไหน

                    “ เดี๋ยวเจอกันตอนเย็นนะ” ผู้หญิงคนนั้นย้ำกับไอหนุ่มอีกที  ไอหนุ่มก็พยักหน้าเป็นอันว่ารับทราบแล้ว

                     “ เดี๋ยวน้อง  ฝากบอกอั้มด้วยไอหนุ่มมันไม่ชอบนมรสช็อกโกแล็ตมันชอบสตอเบรี่” น้าน.....ปากผมครับเจือก

เรื่องชาวบ้านจริง ๆ    ไอหนุ่มกับไอศักดิ์ก็คงทำหน้างง ๆ   เอ๋อ แด*  ไปพอ ๆ  กัน    มันมองหน้าผมคงสงสัยว่าผมบอก

ตอนไหน

                       “จ้า”  อุ้ยส์....  พูดเพราะซะด้วย   เธอรับคำแล้วก็เดินไปที่แผนกที่เธอทำงาน 

ฮ่า   ฮาส์  ...ไอหนุ่มไม่เคยบอกหรอกครับว่าชอบรสไหน  คนที่ชอบก็ผมนี่แหละคร้าบบบ ( แหลจริง ๆ ) 



........................................................................................



 คงสงสัยกันละสิครับว่าทำไม เราสามคนถึงตกลงที่จะไปกัน  เหตุง่าย ๆเลยครับเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง

               
 ไอหนุ่ม                     มันคงยังไม่อยากกลับห้องเร็ว เพราะกลัวจะไปทะเลาะกับพี่มันอีก ที่ผมรู้ทีหลังก็เรื่องพี่มันจะให้

                                กลับไปเรียนต่อละครับไอหนุ่มเพิ่งจบ ม.6 มา แถมมีเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงที่บ้านพ่อมันจึงให้ลง 

                                 มาหางานทำ  และมันคงคิดว่าผมไม่มีเงินยาดองมัน

   ผม                        เบียร์ นะครับ เบียร์  ยังไง ๆ มันก็คงดีกว่ายาดองผมแหละแถมกินฟรีอีกต่างหากและผมคงไม่

ปล่อยให้ไอหนุ่มไปคนเดียวแน่ ( แฮะ  ๆ เหตุผลของผมจริง ๆ เหมือนไอหนุ่มคิดครับ   อายจังเย้ย )

   ไอศักดิ์                  มันเป็นคนเดียวที่จะพาเราไปถึงจุดหมายได้เพราะมันมีแมงกาไซต์ครับ ถึงจะเก่าไปนิดแต่ก็คิดว่า

                               ดีกว่าเดินนะครับ





เสียงสัญญาณเลิกงานตอน ห้าโมง สี่สิบห้า ( คงมีโรงงานนี้แหละเวลาเลิกงานไม่เหมือนชาวบ้านปกติทั่วไปเขาก็เลิกห้า

โมงเย็น  ) บอกเราว่าไดเวลาเมากระจายแล้ว   วันนี้ผมกะว่าต้องถล่มให้เต็มที่ให้ผู้หญิงคนนี้ได้รู้ไปเลยว่าไม่ควรมายุ่ง

กะไอหนุ่มของผม  ( มั่วป่าว ) 





         โนวาแดช (เขียนถูกป่าว ) สีน้ำเงินถูกจูงออกมาจากที่เก็บ ไม่อยากบอกเลยครับว่าสภาพมันจะพาเราไปถึงจุด


หมายได้อย่างไรเท่าที่สังเกตเห็นมันไม่มีแม้รูกุญแจเลยด้วยซ้ำ  สภาพร่างกายภายนอกมันก็น่าจะเกษียณอายุได้แล้ว

                                   “ ไอ. .ศักดิ์  นะ นะ แน่ ใจนะว่าจะไปสามคนได้”   ไอหนุ่มก็คงสงสัยเหมือนกับผม

                                    “ โห่  สบายมาก อัดสี่ ( คน ) ยังเคยมาแล้ว “   เหมือนเมิงจะภูมิใจเจรง นะกรูละเสียว

                                   “ พี่ไม่เข็นนะเว้ย..”    ผมออกตัวไว้ก่อนไม่อยากใช้แรงตอนนิ้อ่ะ

     ปรื้น น นน...ๆ    แหง่น   ๆ  ... ไอศักดิ์สตาร์ทรถแล้วบิดคันเร่งโชว์ศักยภาพของมัน  โอ ท่าทางจะไปได้สวย

     ปรื้น  น ๆ  ๆ  กึก.. ๆ .....เงียบ............เอาเวร เครื่องดับไปแระ  เฮ้อ...อ่อนใจจริง ๆ  ผมกับไอหนุ่มได้แต่มองตากัน


แล้วยิ้มแหย ๆ  เป็นกำลังใจมันไปที................ มันเริ่มใหม่อีกครั้ง   สองครั้ง  และหลายครั้ง  ในที่สุด.........ก็ต้องเป็นไอ

หนุ่มแหละครับต้องเข็นกระตุก    เรื่องอะไรผมจะทำหล่ะ ผมเป็นพี่มันนิ         จนแล้วจนรอดมันก็พาพวกเรามาถึง


อาคารปูนสองชั้นมีบันไดทางขึ้นอยู่ติดกับถนนไอศักดิ์ก็จอดรถตรงหน้าบันไดพอดี   ผมแหงนมองหน้าขึ้นไปที่ชั้นสองเห็น

ผู้หญิงคนนั้น  ( ใช่....คนนั้นแหละ )ยืนอยู่หน้าห้องกวักมือเรียกให้พวกเราขึ้นไปไอศักดิ์เหมือนจะรู้งานเดินนำหน้าไปก่อน

แล้วก็ตามด้วยไอหนุ่มส่วนผมหยุดมองบันไดก่อนที่จะอดนึกไม่ได้ว่าถ้าหากใครก็ช่างถ้าเมาจากที่ไหนคงจะต้องได้นอนที่

หน้าบันไดนั้นแหละหรือถ้าหากใครเมามาจากชั้นสองมีหวังคงต้องตกมาคอหักตายแน่.......แล้วผมก็ตามขึ้นไปข้างบน

อย่างระมัดระวัง



......................................................................

               “พี่พงษ์ นั่งลงก่อนค่า “  ผู้หญิงคนเดิม  ( ก็....คนเดียวกันนั้นแหละ ) เชิญให้ผมนั่งลงข้างไอหนุ่ม (รู้ใจจริงนะ )

ผมก็นั่งลงพร้อมโชว์ลักยิ้มไปตามระเบียบ สายตาก็กวาดมองไปรอบห้อง   มีเบียร์ลังเบียร์ลังหนึ่งถูกแกะแล้วมีเหลือใน

ลังอีกไม่กี่ขวด สงสัยจะมีใครเอาไปแช่ในตู้เย็นแล้ว    อืม ห้องก็เป็นระเบียบดีตู้เสื้อผ้าและชุดเครื่องครัวถูกแยกออกไว้

อย่างเรียบร้อยด้านหลังห้องเป็นประตูออกไปห้องน้ำและระเบียงซักล้าง  มันก็เหมือนห้องเช่า ๆ ทั่วไป ห้องที่ผมอยู่ก็

ลักษณะเดียวกันแต่ห้องผมดีกว่านี้หน่อย  แต่ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีโต๊ะเครื่องแป้งหรือเสื้อผ้าของผู้หญิงเลย 

                             “พี่พงษ์  เอาแก้ว”  ไอศักดิ์จัดการรินเบียร์ ส่งให้ผม ( ชำนาญเลยนะเมิง )ไอหนุ่มคนละแก้ว

                             “อืม ขอบใจ “  ผมหันมารับแก้วแล้วยกขึ้นดื่มทันที่ ( เหมือนตายอดตายอยากมานาน)

                             “นี่....เออ...แนน   เป็นเพื่อน อั้มครับ “ ไอหนุ่มแนะนำผู้หญิงคนนั้น ( รู้แล้ว ) ให้ผมรู้จักชื่อ  แต่ไม่ยัก

กะแนะนำชื่อผมคืน.....       
                         
                              “ยินดีรู้จักครับ “ ไม่เห็นจะยินดีเท่าไหร่เลย....คิดในใจครับ

                               “แล้ว อั้มไปไหนแนน” เอ้านี่.....ไอศักดิ์ไปรู้จักมักคุณกับเค้าเมื่อไหร่ ยังกะคนรู้จักกันมาก่อน

                               “ อ๋อ    ออกไปซื้อกับแกล้มกับลอล่า “  เออะ   เอย   ใครอีกละเนี้ยะ ลอล่าเนี้ยะ

พวกนี้คุยไรกันบ้างก็ไม่รู้ครับจำไม่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นไอศักดิ์ชวนคุยมากกว่า ไอหนุ่มก็ถามคำตอบคำ  นาน ๆทีถึงจะหัน

มาคุยกับผมบ้างผมก็ตอบเออออตามประสา    แต่ตอนนี้ผมไม่สนละครับยกเบียร์กระดกอย่างเดียว  ก็มันมีอยู่เยอะเลย

กลัวเจ้าภาพจะเสียใจ   ( เอิ้ก  อึก  )                       

            แอ้ดดดดดดดดดดดดดด........เสียงประตูเปิดออกที่ด้านหลังผม ทุกคนก็หันไปมอง แต่ผมยังกระดกเบยีร์เข้า

ปากอยู่เลย                         
                            “ ไปนานเชีวยนะย่ะอินังอั้ม”    เหวอ ๆ    ง่า ........................

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-09-2007 13:13:58
เหอ เหอ ได้เจออั้มแล้ว  :a10:  :a10:  :a10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 08-09-2007 14:22:22
 o22   อ่ะ  โอะ  โอ .. อึยส์...พิมพ์ผิดครับผม   มาขอโทษอย่างสูงขอแก้ไขหน่อยนะครับ

          “ เดี๋ยวน้อง  ฝากบอกอั้มด้วยไอหนุ่มมันชอบนมรสช็อกโกแล็ตมันชอบสตอเบรี่”

   

                              "ไอ้หนุ่มมันไม่ชอบนมรสช็อกโกแล็ตมันชอบสตอเบรี่”



อ๊าย  อาย.... :m23: :m23:   :เฮ้อ:

         

           
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-09-2007 14:46:29
รออ่านต่อจ๊ะ  :m1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-09-2007 15:14:52
o22   อ่ะ  โอะ  โอ .. อึยส์...พิมพ์ผิดครับผม   มาขอโทษอย่างสูงขอแก้ไขหน่อยนะครับ

          “ เดี๋ยวน้อง  ฝากบอกอั้มด้วยไอหนุ่มมันชอบนมรสช็อกโกแล็ตมันชอบสตอเบรี่”

  

                              "ไอ้หนุ่มมันไม่ชอบนมรสช็อกโกแล็ตมันชอบสตอเบรี่”



อ๊าย  อาย.... :m23: :m23:   :เฮ้อ:

         

           

กดคำว่า modify หรือ แก้ไข บนหัวด้านขวาของ reply ที่เราโพส แล้วจะเข้าไปแก้ไขได้นะครับ
จากนั้นก็กดโพสเลย หรือจะ preview ดูก่อนก็ดีนะครับ
ฝึกไว้จะได้แก้เองเป็นนะครับ

หนุ่มนี่ดูสุขุม ลึกลับน่าค้นหา
 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 08-09-2007 15:33:35
เหอเหอ ลุ้นจังงง งานนี้ใครจะเสร็จใคร  :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 08-09-2007 16:40:22
 o22 o21

เลย                            “ ไปนานเชีวยนะย่ะอินังอั้ม”    เหวอ ๆ    ง่า ....................


 เสียงและคำที่แนนทักทายเพื่อนทำให้ผมต้องรีบหันหลังกลับไปที่ประตูและแหงนหน้ามองผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังทันที

                                                 “ พรู้ดดดดดดดด .....อ่ะ  ฮ๊อก  ๆ  :m30: “  เบียร์ที่ผมกำลังจะกลืนลงคอพุ่งกระจาย

เป็นทางยาวโดนขาของใครคนหนึ่ง ...( โชคดีที่ผมก้มหน้าลงก่อนนะเนีย้ะไม่งั้น...........เต็ม ๆ )
                                             
                                               “ อ๊ายยยยยยย”  เสียงตอบรับของผู้มาเยือน.......

                                                “ ขอโทษครับ   ขอโทษจริง ๆ “  ผมไม่พูดเปล่าหาผ้าเศษแถวนั้นยื่นไปเช็ดที่ขาคู่นั้น

ทันที    ไอพวกลูกน้องเอี้ยนี้ก็ได้แต่หัวเราะ ไม่นึกว่ากรูจะอายบ้างเล้ย  เห้อ…แต่หน้าคุ้น ๆแฮะ

                                                “ไม่เป็นไรพี่พงษ์  เดี๋ยวอั้มเช็ดเอง” สะดุ้งเลยครับ   นี่มันรู้จักชื่อผมด้วยอ่ะ สงสัยจะ

เมื่อตอนเช้าที่ไอหนุ่มบอกว่าผมจะมาด้วยแหง ๆ

     
                    อั้ม  ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกนะครับ เธอเป็นกระเทย รูปร่างบึกบึน ตัวก็ไม่สูง  หน้าตานะเหรอครับ ….ไม่ต้อง

สงสัยเลยถึงว่าไอหนุ่มถึงได้กลัวจนลากตัวผมมาด้วย
                                         

                             “ พี่พงษ์  นันไม่มาด้วยเหรอ” ตายละหว่ามันรู้จักกะไอนันเพื่อนผมด้วย  ผมได้แต่ทำหน้าเหรอหรา 

เหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งไม่เคยรู้เรื่องอะไรกะเขาเลย    ทุกคนเขารู้จักกันมาก่อนยกเว้นผมคนเดียวหรือนี่

                              “ ไม่มาครับ มันกลับห้องแล้ว”  โกหกครับไอนันไปกินข้าวกะแฟนมัน

แล้วอั้มเธอ ( เขา ) ก็ เดินเข้ามาจัดการกับกับแกล้มใส่จานมาวาง แล้วก็แน่ะนำเพื่อนของเธออีกคนว่าชื่อล่อล่า ( บอก

แล้ว ) สุดท้ายก็

หย่อนตูดของเธอลงที่ข้าง ๆ ผม    (  ไอนี่ที่อื่นมีก็ไม่นั่ง รู้มั้ยเมื่อกี้ยังอายไม่หายเลยนะ ) คงหวังอยากจะนั่งใกล้ไอหนุ่ม   

ชิ  ชะ ขอโต้ดนี่แหละก้างตัวเบ่อเร่อ  รู้ไว้ซะด้วย

                                                   “ เอา  อั้มเบียร์”   ไอนี่แสนรู้จิงเมิง

                                                    “ ขอบใจจ้ะ ศักดิ์”   ..น้านเห็นม่ะ มันรู้จักกันมาก่อนจริงด้วย  ( บ้าไปแว้ววว )


ผมไม่อยากอธิบายบรรยากาศเลยครับว่ามันเลี่ยนแค่ไหน ผมก็ได้แต่มองเขาคุยกัน ก็มีบ้างที่ผมจะกดไฟติดแล้วได้ตอบ

คำถามบ้าง ( ไม่ใช่เกมโชว์ )   แต่ผมก็ไม่สู้ถอยหรอก พยามเอาตัวเข้าบังไม่ให้ อั้มมันมองหน้าไอ้หนุ่มได้ถนัดทุกครั้งที่

มันจะคุยด้วย    ผมก็แกล้ง( แน่ใจ ) ยกเบียร์ บ้าง กินกับแกล้มบ้าง ทำตัวโอนเอนบ้าง  ส่วนไอพวกนั้นก็คงจะสงสัยกันว่า

ผมเป็นอะไร 

                                     “ พี่พงษ์ เมารึป่าว”  ไอศักดิ์ เอาแล้วเมิง เป็นคำถามที่ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ..เพ่อ่ะคอแป้บ

                                     “ พี่ยังไม่มาวววว..หรอกแค่นี้เอง”   

ไอพวกนี่ก็หัวเราะคิก คัก กันใหญ่ ก็ผมแกล้งทำเป็นเมาอ่ะครับ เพิ่งหมดแค่ครึ่งลังเองจะเมาได้ไง ....เอิ้กส์   อึก

แผนผมได้ผลครับ ไออั้ม เลิกสนใจไอหนุ่มแล้ว   อะ  ฮ่า    แต่มันหันมาสนใจผมนี่สิ...........เวร

                                        “ พี่พงษ์ยังไม่มีแฟนเหรอ “   อาวกำคำถามนี่อีกแล้วครับ  ทำไงดี ๆ    คิดได้ก็เอาหัวโขก

ผนังปูนไปสามครั้งแล้วก็ไปเกิดใหม่เลย    555  ย้อเย่นก๊าบ

                                          “ ...........”   ยิ้มครับ  ทำได้ดีที่สุดแล้ว ( ไออั้มฉันจะฆ่าแก )

                                          “ พี่พงษ์ยิ้มน่ารักดีนะมีลักยิ้มด้วย”   แหงอยู่แล้วละน้องเอ๊ย ใคร ๆ ก็พูดอย่างนั้นชินซะแล่ว

                                          “ ............”  ยิ้มอีกแล้ว  จะดีใจอะไรนักหนา ....ความซวยจะมาเยือนไม่รู้ตัวอีก

                                          “ นันมีแฟนแล้วเหรอพี่”  ...ถามคนอื่นบ้างก็ได้นะ  ไอหนุ่มด้วยอ่ะผมอนุญาต...

                                               “ใช่ “  โทษทีนะนันบอกมันไปแล้ว…….ออ  ผมจำได้แล้ว ครับ  อั้มคนที่คุยกะไอนันเพื่อน

ผม ( รู้แล้วว่าเพื่อนนาย ) ที่ตลาดเมื่อหลายวันก่อนตอนที่เรามาซื้อกับข้าวกัน  วันนั้นผมใส่เสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ

( สั้นเหนือหัวเข่าเยอะเลย)ผมเดินนำหน้าไอนันตามหลัง  ผมรู้สึกแปลกเหมือนมีแต่คนมอง  พอจะหันไปถามไอนันก็เห็น

มันยืนคุยกับใครคนหนึ่ง เลยไม่สนใจกลับถึงห้องไอนันก็บอกผมว่ามีคนฝากบอกมาว่าน่ารักระวังตัวให้ดี   เง้อ ..ใช่แน่

เลย  ถึงว่าไมมันคุ้น ๆ
                                           
                                               “ เอ้า   น้องครับเบียร์พี่หมดแล้ว”   รีบตัดบทครับไม่อยากคุยกะมันเลยให้ตายสิ

                                               “ จ้า บริการเต็มที่เลยจ้ะ”    ไหงไอศักดิ์กะไอหนุ่มทำท่าแปลก ๆ ละเนี้ยะ

กว่าเบียร์จะหมดกว่าพวกนั้นจะพาผมกลับได้  ผมต้องกลายเป็นคนที่โดนแทะโลมเกือบจะเปื่อยแทนที่จะเป็นไอหนุ่ม ผม

จำไม่ได้หรอกว่าโดนไงมั้งเพราะผมเอาแต่กินอย่างเดียวแล้วก็มาววววว  ......สุดท้ายก็ของฟรีไม่มีในโลกครับ............

                                                             :m29: :m29:

เหตุการต่อไปนี้น่ากลัวครับ  ......มาตามกันนะ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-09-2007 16:57:11
ของฟรีไม่มีในโลก  :a5:  :a5:  :a5: อย่าบอกนะว่าพงษ์เมาแล้วเจออั้ม..........  :a6:  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-09-2007 02:23:18

เมาแล้วเจออั๊มนะ  ดีกว่าเมาแล้วเจอเจ้  หลายเท่าตัวเคอะ

อิอิ

จาก อิเจ้  คนสำส่อน
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 09-09-2007 03:19:32
เสร็จแน่ๆ เลย :m26: :m26:
 :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 10-09-2007 17:22:25
 :laugh:
นั่นไง ว่าแล้วเชียว อั้มไม่ใช่ผู้หญิง
...
แต่ ... เกิดไรขึ้นเหรอ ตามติดอยู่นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-09-2007 00:04:55
ไปถวายตัวถึงห้อง
ยังไงก็ไม่รอด

 o21 o21 o21 o21
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 11-09-2007 07:44:25
 o17 :m8:


    แหม  ๆ    คิดกันไปใหญ่เลยนะครับ  วันนี้เดี๋ยวตอนบ่าย จะมาต่อให้นะครับ


   เคลียร์งานตอนเช้าก่อนแป้บนะครับ


ปล.จะบอกว่า  อั้ม ร้ายกาจ  สุด ๆเลยครับ  อึ้ยส์
     :o
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-09-2007 11:36:23

ตามมาอ่านแล้ว..... :m13: :m13: :m13:

ตอนแรกที่อ่านนี่สะดุดใจมากเลย เพราะรายละเอียดของคุณคนเขียนนี่เหมือนพี่ทำงานอยู่คนนึง :m26:

(นึกว่าเจอคนใกล้ตัว  :m14:)

แต่อ่านๆ ไปแล้วไม่ใช่หรอก  :m23:



ว่าแล้วก็รออ่านตอนต่อไป

 :a3: :a3: :a3: :a3: :a3:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 11-09-2007 12:16:17
มาลงก่อนตอนหนึ่งนะครับ   

krappom    ใครเหรอครับบอกได้ป่าว

…………………………………………………………..


เวลาประมาณตีสองแล้วผมเห็นว่าชักเริ่มจะไม่ไหวถ้าเมามากกว่านี้ยังไม่รู้เลยอะไรจะเกิดขึ้นแนนกับลอล่าคงจะขอตัวกลับก่อนตอนที่ผมไปเข้าห้องน้ำ ( กินเบียร์นี่เข้าห้องน้ำบ่อยจริง ๆ ไม่รู้มีบ่อต่อท่อประปาในท้องรึป่าว )ออกมาก็ไม่เจอพวกเธอซะแล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกแต่ที่แน่  ๆ เบียร์หมดแล้ว จะอยู่ทำไม ขอบายสิครับ

                                 “ อืม   อึก    พรุ่งนี้ต้องไปทำงานนะเว้ย  ไอสาก  ไอหนุ่มห้ามพวกเมิงขาดลามาสายด้วย   เอิ้กส์” 

                                 “ โห..พี่ซำบายมากแค่นี้ไม่มาวหรอก”  ไอศักดิ์รับปากแล้วทำให้ได้นะเมิง

                                  “อั้ม  หนุ่มจะกลับแล้วนะ”   ทำไมต้องพูดเพราะกะมานด้วย เกรงใจพี่บ้างดิน้อง

                                 “ จะรีบกลับไปไหนล่ะ  เดี๋ยวอั้มออกไปซื้อเบียร์มาให้อีก”  เอาเบียร์มาล่ออีกแล้วเหรอ  เหอะ แน่จริงด่วนเลย

                                 “ อาวว้ายพรุ่งเน่ก็ด้าย    พรุ่งเน่วานสูก.....เอิกส์..กินด้ายยันเช้าเลย” ผมไม่มาววนะแค่พูดม่ายช๊าดเอง

                                 “ จริงนะพี่พงษ์  งั้นพรุ่งนี้เลิกงานอั้มจะซื้อกับแกล้มมาทำเตรียมไว้เลย” เออ จะกินเบียร์ไม่เอากับกับแกล้ม

                                “ไอสาก  ไปส่งกรูเลย  จะกลาบแย้ว ให้ไอหนุ่มรออยู่เน่”  ผมแค่ลองใจมันดูอ่ะ

                                 “ ไม่เอาพี่พงษ์  เดี๋ยวกลับพร้อมกันนี่แหละ”   ก็ลองอยู่ดูเด่...

                                  “ กลับแล้วอั้มเจอกันพรุ่งนี้”  ไอ้ศักดิ์ทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องลงมาที่รถ

                                   “ หนุ่ม  พี่พงษ์ เจอกันพรุ่งนี้นะจ้ะ” อะจึ้ยส์  ทามมายต้องอาวกรูปายเอี่ยวด้วยเน่

                                   “จ้า”   ตอบพร้อมกันเลยครับไม่รู้จะหว่านเสน่ห์ไปถึงไหน

ผมลุกขึ้นรีบเดินออกจากห้องพอถึงบันไดก็ต้องนึกเสียวสันหลังทันที   ผมหยุดที่หน้าบันไดยังลังเลว่าจะลงไปได้ไหมเลย

หันมองกลับไปที่ห้องเห็นไอหนุ่มกำลังคุยอะไรกันอยู่กับอั้ม แต่ผมไม่ได้ยินหรอกมันไกลเกิน และตอนนี้หูผมมันอื้อไป

หมดแล้ว ทำไมตาลายอย่างนี้ผมกำลังจะก้าวเดินลงบันได ก็มีมือสอดเข้ามาพยุงที่แขนซ้ายของผม  ตาผมจะปิดแล้ว

มองไม่ชัดเลยว่าเป็นใคร   


                                         “ อืม  หนุ่มหรอ ขอบจาย”  อาส์  ไอหนุ่มเป็นห่วงเพ่เหรอน้อง

                                          “ เดิน ดี  ๆ   นะจ้ะพี่พงษ์”     หื้อ.... พูดนะจ้ะกับพี่ด้วยเหรอหนุ่ม   อูย   น่ารักจังเลย

เราสองคนเดินลงบันอย่างทุลักทุเล ก็มันทั้งสูงทั้งชันแถมเมาอีกต่างหาก เรียกว่าแทบจะกอดกันเลยแหละ  อิ อิ แตะ

นิดกอดหน่อยไม่เป็นไรหรอกนา ผู้ชายด้วยกันอย่าคิดมาก ( ผู้ชายแหละตัวดีนัก )   ไอศักดิ์สตาร์ทรถรออยู่แล้ว ผมก็ก้าว

ขาขวาขึ้นนั่งคร่อมที่เบาะมือผมก็สวมกอดที่เอวไอศักดิ์ทันที ( คนเมาอ่ะกลัวตก  แต่กำไรเห็น ๆ   คิ คิ )  อืม  อุ่นดีเว้ย 

คิดว่าไอหนุ่มคงจะก้าวตามขึ้นมา
 
                                           “ หนุ่ม  ขึ้นมาเด่ เร็ว”  ผมร้องบอกไอ้หนุ่มให้รีบขึ้นมา

                                           “ หนุ่มเข้าห้องน้ำอยู่จ้ะพี่พงษ์”   ง่า  ว่าแล้วไง  ตอนลงบันไดทำมัน ถึงจะกอดผมอยู่เรื่อยเลย   อือ  ๆ

                                           “ อายหนุ่ม เร็ว  ๆ เด่”  ชักหงุดหงิดครับ  ปล่อยให้พี่โดนลวนลามได้ไง

                                           “ แหมพี่ก็ไปเหยี่ยวอยู่อ่ะ”  แล้วไม่เห็นบอกก่อนมั้งอ่ะจะไปด้วย ( เมาแล้วทะลึ่ง  )

บอกลากันเสร็จสับเรียบร้อยรถก็บึ่งตรงมาทางห้องพักผม  ก็อยู่ไม่ไกลจากห้องไออั้มเท่าไหร่ ตอนนี้มันเงียบมากไม่มีรถ

วิ่งเลย อากาศก็หนาวครับเพราะเป็นช่วงปลายปีแล้ว แต่ผมไม่ยักกะรู้สึกหนาวแหะ  ก็แหงละครับผมกอดไอศักดิ์ซะแน่น

แถมไอหนุ่มก็นั่งกอดผมด้านหลังอีก ( ไม่ได้คิดไรมากนา แค่อดคิดไม่ได้  555 ) ผมโดนเบียดทั้งข้างหน้าและข้างหลัง

ถ้าใครมาเห็นเข้า จะคิดว่าผม............555  ซะงั้น แต่ผมได้รับความอุ่นเต็ม ๆ   รถจอดที่หน้าหอพักผมแล้วพวกนั้นก็

พยุงผมเดินไปที่ห้อง

                                        “ ไม่เป็นไร  พี่ยังไหว”   คำพูดกับอาการมันช่างต่างกันซะเหลือเกิน

                                       “  โห  พี่อย่าดื้อนา”        มันเห็นผมเป็นเด็กไปแล้วเหรอเนี้ยะ
 
                                       “ ถึงแล้วกุญแจห้องอยู่ไหน” ไอหนุ่มถามหากุญแจห้อง มันคงไม่อยากให้ผมปลุกไอนันมาเปิดประตูเพราะมันดึกมากแล้ว
                                        “เรียกอายนานก็ด้าย  อึก  ”     อืม  มารยาทดีเจรง ๆ

                                      “ อยู่ไหน”   ไอหนุ่มตะคอกผมแต่ เสียงไม่แรงนะครับ

                                     “กราป๋าวกางเกง..”  ไอหนุ่มเอามือค่อย ๆ ล้วงกระเป๋ากางเกงด้านขวาของผม  กางเกงผมคง

ตัวเล็กไปหน่อยมือของมันสัมผัสบริเวณต้นขาของ...อืม .. มันค่อยควานหาและล่วงลึกลงไปอีก ส่วนไอศักดิ์ก็จับเอวผมไว้

แน่นเพื่อไม่ให้โยกตามจังหวะแรงมือของไอหนุ่มผมบอกไม่ถูกว่าตอนนี้ยังเมาอยู่หรือว่า....แต่ทำไมมัน...เบาหวิว อย่างนี้
                                   

                                       “ไม่เห็นมีเลยเพ่”  ไอหนุ่มชักมือออกจากกระเป๋ากางเกงผม  ( ว้า....เซ็ง)

                                        “อยู่กราเป๋าซ้าย” 

                                        “ แล้วก็ไม่บอก”  บอกไม่ไหวจริง ๆ  น้องเอ๋ย

ไอศักดิ์ใช้มือซ้ายล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงผม  อาร์  ความรู้สึกแบบเดิมมันกลับมาอีกแล้ว  ผมรู้สึกชาไปหมด มันหวิว  ๆ  อีกแล้ว

 เมื่อมือมันล่วงล่ำเกินอนาเขตลงไป  อีกนิดเดียว   นิดเดียว  ใกล้แล้ว    อึ้บบบ...........ไม่ไหวแล้ว

                                        “ พอแล้วไอสาก...”    หอบ    เลย    ( 55 )

                                        “ ยังไม่เจอเลยพี่”    เออ  ก็นั้นแหละ  ถ้าเมิงเจอ กรู จะเล่นเมิง  ( หื่น )

                                        “ มันอยู่นี่”   ผมหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าเสื้อ ( เริ่มสร่างแระ )

พวกมันก็คงทำหน้างง ๆ กัน  ( กรูลืมนี่หว่า )ก่อนไอหนุ่มจะหยิบไปไขประตูห้องและลากผมไปนอนบนที่นอน

                                        “แน่ใจเหรอจะกลับกันไหว  นอนกับพี่ก็ได้นะ”  น้าน...ยังเคลิ้มอยู่อ่ะดิ

                                         “ ไหวพี่   เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน”   ไอศักดิ์ออกตัวก่อน (ไม่ได้ชวนเมิงสักหน่อย  55  กามมั่กมาก )

                                         “ โอเค   พรุ่งนี้เจอกัน”   ไอหนุ่มกะไอศักดิ์ก็เดินออกจากห้องไปแล้วปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย สงสัยกลัวใครมาลักหลับ เอ้ย มายกเค้า    วันนี้คงต้องนอนเลยยกยอดอาบน้ำไปพรุ่งนี้เช้าแล้วกันเดี๋ยวอาบให้สองเท่าเลยคืนนี้คงต้องขอตัวแล้ว ไม่ไหวจริงหนาวมาก   และแล้วเปลือกตาผมก็เริ่มปิดลง

                                            “ ไปกินเหล้าที่ไหนมาเหรอ”  อ้าว  ไอนันยังไม่หลับอีกเหรอ

                                            “ ห้องอั้ม”     ผมฝืนตามองไอนันที่มันนอนมองผมอยู่  ดูท่ามันคงแปลกใจมากที่ผมไปได้ยังไง

                                            “ พรุ่งนี้จะเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้ง่วงมากเลยขอนอนก่อนละกัน” ผมบอกไอนันไปคิดว่ามันคงสงสัยผมแน่นอน  พรุ่งนี้ผมมีแผนแล้ว ผมต้องทำให้ไออั้มเลิกยุ่งกะไอหนุ่มของผมให้ได้   ฝากด้วยนะนัน..........คร่อก  ๆๆ ๆ  ฟี้.

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 11-09-2007 12:45:06
รอบนี้รอดมาได้ แล้วรอบหน้าล่ะ   :m21: :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-09-2007 16:33:41
นั่นอ่ะดิ่

ครั้งนี้รอดไปได้

แต่ครั้งต่อๆ ไปนี่ระวังตัวไว้ให้ดีๆ นะ  :m12:


หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 11-09-2007 16:43:57
หว้า....แล้วผมจะกล้าเอาตอนต่อไปลงไหมเนี้ยะ    เชียร์ให้เสียตัวกันจัง
 :m29:





ล้อเล่นคร้าบ..................เดี๋ยวก็มีเสียจนได้แหละ  คิคิ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-09-2007 16:48:32

............ตามอ่านทันแล้วคราบ..........หนุกดี..... :a4: :a4:

............ว่าแต่คราวหน้าสงสัยจะได้อ่านบทอัศจรรย์............. :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-09-2007 19:40:32
ตอนต่อไปมีเสียตัวใช่มะ  :m12:  :m12:  ลุ้น ๆ  :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 11-09-2007 22:18:21
ตามมาลุ้นด้วยคน  :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 12-09-2007 10:29:25
 :a4: :a4: :a4: :a4:
ดูมันทุลักทุเลยังไงมะรู้นะ
ดีนะที่ถึงห้องได้
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-09-2007 15:33:08

วันนี้งานเยอะครับ แอบพิมพ์ได้นิดหน่อย
.......................................

เอก  อี้   เอ้ก   เอ้ก    เสียงไอ้โต้งโก่งคอขันบนหลังคามุงหญ้าแฟกบอกให้รู้ว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว......บ้า  ในเมืองอย่างนี้

จะมีไอ้โต้งที่ไหน ( มุขเสี่ยวจริง ๆ )  จะมาขันให้ได้ยินจะมีก็แต่ ที่มันนอนแอ้งแหม้งไม่มีขนอยู่ในตลาดสดนู้นแหละ       

ผมลืมตาตื่นในเช้าวันต่อมาบิดตัวขี้เกียจหน่อยแล้วก็มองดูรอบ ห้อง   เห้อ .....ทำไมมันแสนจะว่างเปล่าอย่างนี้หนอ   เจอ

แต่ไอนันกำลังนั่งรีดผ้าอยู่

                                            “  อ้าว  ตื่นแล้วเหรอ  รีบไปอาบน้ำสิสายแล้วนะ”  ไอนันคงกลัวผมไปทำงานสายมั้ง  ไม่มีทางหรอกคนขยันอย่างผม ( เหรอ )

                                             “ อืม กี่โมงแล้วนี่”   ผมยังงัวเงี่ยอยู่เลย   แต่ก็ดันตัวเองลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว

                                              “ เจ็ดโมงสิบนาทีแล้ว”   เหรอ.. ตายละ...... นี่มันสายแล้วนี่โรงงานผมเข้างาน เจ็ดโมงครึ่ง  หวาย  ๆ จะไปทำงานทันรึป่าวอ่ะ
                                               “ ง่า ..แล้วนันไม่ปลุกเรามั้งอ่ะ” มัวแต่ถามไม่รีบไปอีก   

                                               “ก็เห็นหลับสบายเลยไม่อยากปลุก” อืม ขอบใจมากเลยเพื่อนร้าก....ไปแว้ว   

ต้องรีบสิครับ  ผมใช้เวลาในห้องน้ำไม่ถึงห้านาที แค่อาบน้ำแปรงฟัน สระผมก็พอ  อย่างอื่นไปทำที่โรงงาน   เพราะรู้ ๆ

อยู่ถ้าผมไปสายแม้วินาทีเดียวก็หมายถึงเบี้ยขยันที่ผมเก็บสะสมมา ( ยังไม่ได้เลยซักเดือนต่างหาก ) ต้องอันตรธานหาย

ไป     เออะ  เออ  ซวยแล้วสิ เสื้อผ้ายังไม่ได้รีดเลย...ฮือ  ๆ  ทำไมเป็นคนแบบนี้น่า

                                         “ อ้าวนันยังไม่ไปอีกเหรอไม่ต้องรอเราก็ได้”  เพื่อนผมยังไงก็เป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่ดี

                                       “ป่าว  รอแตงมารับ”  เพล้ง งง ง ง...หน้าแตก เลย  อายจัง แหะ ๆ ( แตงหน่ะแฟนไอนันครับ )

                                       “ไม่ไปทำงานเหรอนัน”    คิ้วผมขมวดหากันเล็กน้อย แต่พองาม ( ตายล่ะ )

                                       “ออ  ลาออกตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว วันนี้จะไปสมัครงานที่ใหม่”  ง่า..แล้วผมไม่เห็นรู้เรื่อง

เลยทำไมมันไม่เล่าให้ผมฟังมั้งเนี้ยะ ....ผมเป็นเพื่อนมันนะ ทำไม  ๆ   หรือมันไม่เห็นความสำคัญของผมแล้ว ....ฮือ 

(หน้าเศร้าครับ )

                                “เราว่าจะบอกนายหลายวันแล้วหล่ะว่าจะลาออกแล้วหางานใหม่  เห็นนายยุ่ง ๆ เลยไม่อยากกวน”

อะ  อึก  จุกจัง  จุกข้างหลังทะลุถึงหัวใจ   ผมเองเหรอนี่ที่ไม่มีเวลาให้เพื่อนเลย  เรื่องยุ่ง ๆ ของผมเหรอ ก็ห่วงแต่จะไป

กินเหล้านะสิ โหยทำไมเป็นคนดีแบบนี้เรา.....ดีแตกเลย
           
                                                   “น่าจะรออีกหน่อยนะ แค่อีกสองเดือนโบนัสก็ออกแล้ว”   ออกทีก็หลายเงินนะครับ ถึงแม้ทำงานไม่นานก็เถอะ

                                                   “ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าได้งานที่อื่นเร็วก็อาจได้เหมือนกัน”   อืม  ก็จริงนะ   ตายห่า ผม

ยังไม่ได้รีดผ้าเลยมัวแต่คุยแล้วก็วิ่งวุ่นเลยครับ มองดูเวลา อีกเจ็ดนาที....เสื้อ อยู่ไหน  กางเกงล่ะไอนันคงดูออกว่าผมจะ

ทำอะไร

                                                    “ เรารีดไว้ให้แล้ว  พับอยู่นั้น”โห  สุดยอดเลยเพื่อน  พูดแล้วไอนันก็หัวเราะคงจะขำกับท่าทางของผม

                                               “ ขอบใจมากนัน  เดี๋ยวให้จุ้บทีหนึ่ง” ล่อมันเล่นอ่ะครับ  แต่ถ้ามันเอาจริงมีรึจะถอย  55
       

  แต่งตัวเสร็จผมก็รีบวิ่งออกมาหน้าหอพัก  แล้วก็เรียกมอไซค์รับจ้างโดยด่วน   ไม่วายที่จะกำชับให้ไปเร็ว ๆ
             
                                                     “ พี่ส่งที่...............นะ ด่วนเลยพี่ ตายไม่เอาเรื่อง ( พี่นะไม่ใช่ผม อิอิ )

                                                      “ได้เลยน้อง  เดี๋ยวพี่จัดห้าย” เอากะแกดิ   แกก็เล่นด้วย

      ไม่ถึงห้านาทีครับผมมาถึงหน้าโรงงาน เหลือบมองดูเวลา เหลืออีกหนึ่งนาทีจะถึงเวลาเจ็ดโมงครึ่ง แต่ป่านนี้ข้างใน

เขาคงจะเริ่มทำงานกันแล้ว  ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็มาชิปบัตรทัน

                                                       “ เอ้ย   ทำไมเวลาที่เครื่องมันเจ็ดโมงสามสิบเอ็ดแล้วอ่ะ”  เวลาที่เครื่องเร็วกว่า

ของผมหนึ่งนาทีไม่ไหว ๆ  เดี๋ยวต้องเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่เลย  แหมเดินช้าอย่างนี้ไม่เก็บไว้หรอก.( ฉลาดมาก   ล้ำ

เลิศ ๆ )

                                                        “เสียเบี้ยขยันจนได้”  บ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปที่แผนกทำงานของ

ผม  ก่อนถึงก็ผ่านหลายแผนกอยู่  ผมจะเอ่ยถึงแผนกที่จะมาเกี่ยวข้องกับผมในอนาคตแล้วกันนะครับ    ทุกวันผมจะต้อง

เดินผ่านแผนกสต็อกเพื่อเข้าไปทำงานและเวลาที่ต้องเข้าห้องน้ำด้วย ซึ่งเป็นแผนกรับสินค้าจากบริษัทอื่น  ๆที่จะต้องนำ

มาประกอบ เป็นไมโครเวฟ ( เคยบอกตอนต้น แล้ว )  บริเวณนี้ก็จะมีที่จอดรถส่งของหลายช่องทีเดียว และนอกจากจะมี

พนักงานที่โรงงานเดียวกับผมแล้วก็จะมีจากบริษัทอื่น ๆ ที่มาส่งของด้วยเดินกันขวักไขว่  ผมก็พอได้รู้จักบ้างเป็นบางคน

เพราะผมจะต้องมาติดต่อขอเบิกวัสดุที่นี่  และเพื่อนร่วมวงยาดองผมก็อยู่ที่นี่ด้วย
                                               
                             “ เอ้ย   วรพงษ์  เจ้าคือมาเฮ็ดงานสวยแท้” เออ... คือ  ไอทักษ์เพื่อนสนิทผมอีกคนนี้แหละครับมันทัก

ผมมาเป็นเสียงในฟิมล์ ครับ   ผมจะพยายามแปลให้น่ะครับ ไม่รู้จะแปลถูกรึเปล่าก็พอฟังออกจากที่บ้านผมอ่ะครับญาติพี่

น้องเขาพูดกันทุกคน  คิคิ ( ทอแหลจัง )    ออ   ลืมบอกครับมันจะชอบเรียกผมว่า  วรพงษ์มั้ง  เฮียพงษ์มั้ง ( ไม่ใช่เจ๊กนะ

ดำขนาดนี้ ) และหนักสุดครับมันเรียกผม  ป๋าพงษ์.....เห้อหนักใจกะมัน  เด๋วก็เป็นป๋าให้จริง ๆ ซะนี่

                                 “ เอ้ย  วรพงษ์ ทำไมมาทำงานสวยจังว่ะ” ประมาณนี้แหละ

                                  “ ตื่นสายไปหน่อย” ก็จริงนี่

                                  “ตอนเย็นไปกินเหล้ากันนะเว้ยเดี๋ยวพี่ ลม เลี้ยง”  พี่ลมลี้ยงเหรออย่างงี้ก็กินฟรีอ่ะดิ

                                  “ได้  ๆ  ตอนเย็นรอด้วยแล้วกัน...เอ้ยไปก่อนนะเว้ยเดี๋ยวโดนแหกอก”  ก็แหงหล่ะครับคนที่กำลัง

มองมาทางผมน่ะไอพี่เดี่ยวคงจะยืนรอผมนานแล้วที่แผนก ก็เลยต้องรีบวิ่งกันหน่อย

                                  “ ไง ได้ตัว  C-OIL ( อ่านว่า  ซี  ออย ) มายัง”  ผมทำหน้าเหรอหรา ไม่รู้ไอพี่เดี่ยวถามเพื่ออะไร

แต่คนที่ท่าทางแปลก ๆ  ทำท่าขยุกขยิก  ขยิบตาให้ผมนี่สิ...เหวอ  ๆ ไอหนุ่มจะมาหวานอะไรตอนนี้  ( เห้อ..เหนื่อยใจ ) 

พี่เพิ่งวิ่งมาเหนื่อย ๆ นะจ้ะน้องร้าก     
                                 
                                  “  ออ  ก็ ซีออย โค้ด 016 มันหมดแล้ว ที่พี่พงษ์ ไปเบิกกับสต็อกนั้นแหละ”  ไอศักดิ์ขยายความ

    เหรอ ไม่ ๆ พี่ไม่ได้ไปเบิก มันยังมีอยู่ในชั้นไงไอพวกนี่โง่หรือเซ่อวะเนี้ยะ (เหรอ )

                                 “ เออ ครับพี่เดี่ยว เขาบอกว่าเดี๋ยวก็เข้ามาแล้วพี่  ในชั้นพอมีอยู่ครับ”  ทอแหลน้ำขุ่น ๆ ครับ

โชคดีที่ผมเป็นคนฉลาด(ตรงไหน )  มิเสียแรงที่พ่อแม่ส่งเสริมให้เรียน  คิคิ  (ช่างกล้า )

                                  “อืม...ดีมาก  งั้นก็คอยเช็คงานตัวอื่นด้วยนะ”   พี่เดี่ยวเอื้อมมือมาแตะบ่าผมก่อนจะเดินไป

โล่งอกไปทีถ้าแกรู้ว่าผมมาทำงานสายต้องเป็นเรื่องแน่  อันนี้ต้องยกความ ( ไม่ ) ดีให้ไอศักดิ์กะไอหนุ่มครับมันคงช่วย

กันโกหกพี่เดี่ยวก่อนที่ผมจะมาแต่ถ้าพวกแม่นกขุนทองของผมปากโป้งละก็มีหวังตายหมู่แน่   ขอบจายเจรง ๆ เดี๋ยว

ตอบแทนที่หลังนะ  55

                                        “ พี่พงษ์  เอานมมีคนฝากมาให้”  ไอหนุ่มยื่นขวดนมมาให้ผม

                                        “โหพี่รสสตอเบอรี่ด้วย” 
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-09-2007 16:28:47

โห...สายแค่นาทีเดียว โดนหักเบี้ยขยันเลยเหรอ

แต่ดีนะที่เพื่อนนันยังอุตส่าห์รีดเสื้อผ้าไว้ให้ แม้จะไม่ยอมปลุกก็เหอะ

ไม่งั้นคงสายมากกว่านี้แน่ๆ

ว่าแล้วก็รออ่านตอนต่อไป.... :a11: :a11: :a11:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-09-2007 17:17:53

วันนี้งานเยอะครับ แอบพิมพ์ได้นิดหน่อย
.......................................

เอก  อี้   เอ้ก   เอ้ก    เสียงไอ้โต้งโก่งคอขันบนหลังคามุงหญ้าแฟกบอกให้รู้ว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว......บ้า  ในเมืองอย่างนี้

จะมีไอ้โต้งที่ไหน ( มุขเสี่ยวจริง ๆ )  จะมาขันให้ได้ยินจะมีก็แต่ ที่มันนอนแอ้งแหม้งไม่มีขนอยู่ในตลาดสดนู้นแหละ      

ผมลืมตาตื่นในเช้าวันต่อมาบิดตัวขี้เกียจหน่อยแล้วก็มองดูรอบ ห้อง   เห้อ .....ทำไมมันแสนจะว่างเปล่าอย่างนี้หนอ   เจอ

แต่ไอนันกำลังนั่งรีดผ้าอยู่

                                            “  อ้าว  ตื่นแล้วเหรอ  รีบไปอาบน้ำสิสายแล้วนะ”  ไอนันคงกลัวผมไปทำงานสายมั้ง  ไม่มีทางหรอกคนขยันอย่างผม ( เหรอ )

                                             “ อืม กี่โมงแล้วนี่”   ผมยังงัวเงี่ยอยู่เลย   แต่ก็ดันตัวเองลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว

                                              “ เจ็ดโมงสิบนาทีแล้ว”   เหรอ.. ตายละ...... นี่มันสายแล้วนี่โรงงานผมเข้างาน เจ็ดโมงครึ่ง  หวาย  ๆ จะไปทำงานทันรึป่าวอ่ะ
                                               “ ง่า ..แล้วนันไม่ปลุกเรามั้งอ่ะ” มัวแต่ถามไม่รีบไปอีก  

                                               “ก็เห็นหลับสบายเลยไม่อยากปลุก” อืม ขอบใจมากเลยเพื่อนร้าก....ไปแว้ว  

ต้องรีบสิครับ  ผมใช้เวลาในห้องน้ำไม่ถึงห้านาที แค่อาบน้ำแปรงฟัน สระผมก็พอ  อย่างอื่นไปทำที่โรงงาน   เพราะรู้ ๆ

อยู่ถ้าผมไปสายแม้วินาทีเดียวก็หมายถึงเบี้ยขยันที่ผมเก็บสะสมมา ( ยังไม่ได้เลยซักเดือนต่างหาก ) ต้องอันตรธานหาย

ไป     เออะ  เออ  ซวยแล้วสิ เสื้อผ้ายังไม่ได้รีดเลย...ฮือ  ๆ  ทำไมเป็นคนแบบนี้น่า

                                         “ อ้าวนันยังไม่ไปอีกเหรอไม่ต้องรอเราก็ได้”  เพื่อนผมยังไงก็เป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่ดี

                                       “ป่าว  รอแตงมารับ”  เพล้ง งง ง ง...หน้าแตก เลย  อายจัง แหะ ๆ ( แตงหน่ะแฟนไอนันครับ )

                                       “ไม่ไปทำงานเหรอนัน”    คิ้วผมขมวดหากันเล็กน้อย แต่พองาม ( ตายล่ะ )

                                       “ออ  ลาออกตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว วันนี้จะไปสมัครงานที่ใหม่”  ง่า..แล้วผมไม่เห็นรู้เรื่อง

เลยทำไมมันไม่เล่าให้ผมฟังมั้งเนี้ยะ ....ผมเป็นเพื่อนมันนะ ทำไม  ๆ   หรือมันไม่เห็นความสำคัญของผมแล้ว ....ฮือ 

(หน้าเศร้าครับ )

                                “เราว่าจะบอกนายหลายวันแล้วหล่ะว่าจะลาออกแล้วหางานใหม่  เห็นนายยุ่ง ๆ เลยไม่อยากกวน”

อะ  อึก  จุกจัง  จุกข้างหลังทะลุถึงหัวใจ (มั่วนิ่ม)  ผมเองเหรอนี่ที่ไม่มีเวลาให้เพื่อนเลย  เรื่องยุ่ง ๆ ของผมเหรอ ก็ห่วงแต่จะไป

กินเหล้านะสิ โหยทำไมเป็นคนดีแบบนี้เรา.....ดีแตกเลย
          
                                                   “น่าจะรออีกหน่อยนะ แค่อีกสองเดือนโบนัสก็ออกแล้ว”   ออกทีก็หลายเงินนะครับ ถึงแม้ทำงานไม่นานก็เถอะ

                                                   “ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าได้งานที่อื่นเร็วก็อาจได้เหมือนกัน”   อืม  ก็จริงนะ   ตายห่า ผม

ยังไม่ได้รีดผ้าเลยมัวแต่คุยแล้วก็วิ่งวุ่นเลยครับ มองดูเวลา อีกเจ็ดนาที....เสื้อ อยู่ไหน  กางเกงล่ะไอนันคงดูออกว่าผมจะ

ทำอะไร

                                                    “ เรารีดไว้ให้แล้ว  พับอยู่นั้น”โห  สุดยอดเลยเพื่อน  พูดแล้วไอนันก็หัวเราะคงจะขำกับท่าทางของผม

                                               “ ขอบใจมากนัน  เดี๋ยวให้จุ้บทีหนึ่ง” ล่อมันเล่นอ่ะครับ  แต่ถ้ามันเอาจริงมีรึจะถอย  55
       

  แต่งตัวเสร็จผมก็รีบวิ่งออกมาหน้าหอพัก  แล้วก็เรียกมอไซค์รับจ้างโดยด่วน   ไม่วายที่จะกำชับให้ไปเร็ว ๆ
             
                                                     “ พี่ส่งที่...............นะ ด่วนเลยพี่ ตายไม่เอาเรื่อง ( พี่นะไม่ใช่ผม อิอิ )

                                                      “ได้เลยน้อง  เดี๋ยวพี่จัดห้าย” เอากะแกดิ   แกก็เล่นด้วย

      ไม่ถึงห้านาทีครับผมมาถึงหน้าโรงงาน เหลือบมองดูเวลา เหลืออีกหนึ่งนาทีจะถึงเวลาเจ็ดโมงครึ่ง แต่ป่านนี้ข้างใน

เขาคงจะเริ่มทำงานกันแล้ว  ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็มาชิปบัตรทัน

                                                       “ เอ้ย   ทำไมเวลาที่เครื่องมันเจ็ดโมงสามสิบเอ็ดแล้วอ่ะ”  เวลาที่เครื่องเร็วกว่า

ของผมหนึ่งนาทีไม่ไหว ๆ  เดี๋ยวต้องเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่เลย  แหมเดินช้าอย่างนี้ไม่เก็บไว้หรอก.( ฉลาดมาก   ล้ำ

เลิศ ๆ )

                                                        “เสียเบี้ยขยันจนได้”  บ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปที่แผนกทำงานของ

ผม  ก่อนถึงก็ผ่านหลายแผนกอยู่  ผมจะเอ่ยถึงแผนกที่จะมาเกี่ยวข้องกับผมในอนาคตแล้วกันนะครับ    ทุกวันผมจะต้อง

เดินผ่านแผนกสต็อกเพื่อเข้าไปทำงานและเวลาที่ต้องเข้าห้องน้ำด้วย ซึ่งเป็นแผนกรับสินค้าจากบริษัทอื่น  ๆที่จะต้องนำ

มาประกอบ เป็นไมโครเวฟ ( เคยบอกตอนต้น แล้ว )  บริเวณนี้ก็จะมีที่จอดรถส่งของหลายช่องทีเดียว และนอกจากจะมี

พนักงานที่โรงงานเดียวกับผมแล้วก็จะมีจากบริษัทอื่น ๆ ที่มาส่งของด้วยเดินกันขวักไขว่  ผมก็พอได้รู้จักบ้างเป็นบางคน

เพราะผมจะต้องมาติดต่อขอเบิกวัสดุที่นี่  และเพื่อนร่วมวงยาดองผมก็อยู่ที่นี่ด้วย
                                              
                             “ เอ้ย   วรพงษ์  เจ้าคือมาเฮ็ดงานสวยแท้” เออ... คือ  ไอทักษ์เพื่อนสนิทผมอีกคนนี้แหละครับมันทัก

ผมมาเป็นเสียงในฟิมล์ ครับ   ผมจะพยายามแปลให้น่ะครับ ไม่รู้จะแปลถูกรึเปล่าก็พอฟังออกจากที่บ้านผมอ่ะครับญาติพี่

น้องเขาพูดกันทุกคน  คิคิ ( ทอแหลจัง )    ออ   ลืมบอกครับมันจะชอบเรียกผมว่า  วรพงษ์มั้ง  เฮียพงษ์มั้ง ( ไม่ใช่เจ๊กนะ

ดำขนาดนี้ ) และหนักสุดครับมันเรียกผม  ป๋าพงษ์.....เห้อหนักใจกะมัน  เด๋วก็เป็นป๋าให้จริง ๆ ซะนี่

                                 “ เอ้ย  วรพงษ์ ทำไมมาทำงานสายจังว่ะ” ประมาณนี้แหละ

                                  “ ตื่นสายไปหน่อย” ก็จริงนี่

                                  “ตอนเย็นไปกินเหล้ากันนะเว้ยเดี๋ยวพี่ ลม เลี้ยง”  พี่ลมลี้ยงเหรออย่างงี้ก็กินฟรีอ่ะดิ

                                  “ได้  ๆ  ตอนเย็นรอด้วยแล้วกัน...เอ้ยไปก่อนนะเว้ยเดี๋ยวโดนแหกอก”  ก็แหงหล่ะครับคนที่กำลัง

มองมาทางผมน่ะไอพี่เดี่ยวคงจะยืนรอผมนานแล้วที่แผนก ก็เลยต้องรีบวิ่งกันหน่อย

                                  “ ไง ได้ตัว  C-OIL ( อ่านว่า  ซี  ออย ) มายัง”  ผมทำหน้าเหรอหรา ไม่รู้ไอพี่เดี่ยวถามเพื่ออะไร

แต่คนที่ท่าทางแปลก ๆ  ทำท่าขยุกขยิก  ขยิบตาให้ผมนี่สิ...เหวอ  ๆ ไอหนุ่มจะมาหวานอะไรตอนนี้  ( เห้อ..เหนื่อยใจ ) 

พี่เพิ่งวิ่งมาเหนื่อย ๆ นะจ้ะน้องร้าก    
                                
                                  “  ออ  ก็ ซีออย โค้ด 016 มันหมดแล้ว ที่พี่พงษ์ ไปเบิกกับสต็อกนั้นแหละ”  ไอศักดิ์ขยายความ

    เหรอ ไม่ ๆ พี่ไม่ได้ไปเบิก มันยังมีอยู่ในชั้นไงไอพวกนี่โง่หรือเซ่อวะเนี้ยะ (เหรอ )

                                 “ เออ ครับพี่เดี่ยว เขาบอกว่าเดี๋ยวก็เข้ามาแล้วพี่  ในชั้นพอมีอยู่ครับ”  ทอแหลน้ำขุ่น ๆ ครับ

โชคดีที่ผมเป็นคนฉลาด(ตรงไหน )  มิเสียแรงที่พ่อแม่ส่งเสริมให้เรียน  คิคิ  (ช่างกล้า )

                                  “อืม...ดีมาก  งั้นก็คอยเช็คงานตัวอื่นด้วยนะ”   พี่เดี่ยวเอื้อมมือมาแตะบ่าผมก่อนจะเดินไป

โล่งอกไปทีถ้าแกรู้ว่าผมมาทำงานสายต้องเป็นเรื่องแน่  อันนี้ต้องยกความ ( ไม่ ) ดีให้ไอศักดิ์กะไอหนุ่มครับมันคงช่วย

กันโกหกพี่เดี่ยวก่อนที่ผมจะมาแต่ถ้าพวกแม่นกขุนทองของผมปากโป้งละก็มีหวังตายหมู่แน่   ขอบจายเจรง ๆ เดี๋ยว

ตอบแทนที่หลังนะ  55

                                        “ พี่พงษ์  เอานมมีคนฝากมาให้”  ไอหนุ่มยื่นขวดนมมาให้ผม

                                        “โหพี่รสสตอเบอรี่ด้วย” 

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-09-2007 17:43:49
รออ่านต่อนะ  :m18:  :m18:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-09-2007 18:56:46
อั้มฝากไว้ให้รึเปล่าหว่า  :a5:  :a5:  :a5:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-09-2007 19:42:53
เหล้านี่กินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพนะ
คิกคิก
เล่นกินเป็นกิจวัตรเหมือนข้าวเลยวุ้ย

.( ฉลาดมาก   ล้ำ

เลิศ ๆ )
 :m30: :m30: :m30:

ปล.ว่าแต่ quote ทำไมหรือ
ถ้าจะแก้ไขให้กด modify นะครับท่าน
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 13-09-2007 15:17:14
จาเป็นไงต่อเนี่ย
 :m21:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 13-09-2007 23:23:53
รอดไม่รอดๆๆ  :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 14-09-2007 01:41:11


ใครฝากไว้อะเคอะนี้

ปล. มีใครเห็นปี้แสบมั้ง?  :a10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: yomaster ที่ 14-09-2007 08:31:21
อ่า
อั้มเอามาฝากแน่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 14-09-2007 09:22:14
 :try2: :try2:

 หวัดดีครับทุกคน ขอโทษด้วยนะครับเมื่อวานงานยุ่งมากไม่ได้มาต่อให้  วันนี้เลยมาลงแต่เช้าเลยละกัน


........................................................

                                         “ พี่พงษ์  เอานมมีคนฝากมาให้”  ไอหนุ่มยื่นขวดนมมาให้ผม

                                         “โหพี่รสสตอเบอรี่ด้วย”  ไรวะไอศักดิ์ เมิงยังไม่เห็นอีกเหรอ

                                         “ ไม่ใช่ของพี่ละม้าง”  ผมมองด้วยหางตาไปทางไอหนุ่มแล้วยิ้มแหย ๆ รู้หรอกนาว่าหนุ่มล้อผมเล่นแน่นอน

                                      “ ของพี่นั้นแหละอั้มเอามาฝากไว้ให้”  อาว  พี่ไม่ได้อยากกินสักหน่อยจะมาฝากทำไม (เหรอ )

                                          “เหรอ เอางั้นมานี่เลย”   ผมหยิบขวดนมมาเปิดฝาแล้วก็เทนมใส่แก้วที่สองสาวนกขุนทอง

แอบซุกไว้ใต้โต๊ะทำงาน แล้วก็ยื่นให้ไอหนุ่มมันกินก่อน  มันก็ทำหน้างง ๆ แต่ก็รับไปโดยดี  แล้วก็แบ่งให้ไอศักดิ์ต่อ

                                          “เอา รีบกินซะจะได้รีบทำงาน และบอกก่อนนะว่าห้ามแซวนะเว้ย” ผมกำชับไอสองตัวนั้น

เพราะไม่อยากให้มันล้อเลียน     ผมก็พอรู้หรอกครับว่ามันหมายความว่ายังไง แล้วนี่ คนเรามันเปลี่ยนใจกันง่ายขนาดนี้

เลยเหรอ ผมว่ามันชักจะยังไง ๆแล้วนะถ้าจะมีใครเอาเรื่องนี้ไปขยายความต่อคงกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แน่



“ติ้ง  ต๋อง   ต่อง    ง ง ง    ขอเชิญคุณไชยา  แมททีเรียลที่ห้องประชุมตอนนี้ด้วยครับ   ต่อง  ต๋อง ติ้ง  ง ง ง “


เสียงประกาศเดิม ๆ ที่เราคุ้นหูทุกวัน  ผมชักจะหมั่นไส้ไอคุณไชยาแล้วสิครับ  ทำงานประสาไรให้เขาเรียกเข้าประชุมได้

ทุกวันไปแอบหลับที่ไหนรึเปล่าก็ไม่รู้  

                                  “ไอศักดิ์  รู้จักคนชื่อไชยานี่รึป่าวว่ะ” สงสัยมากเลยครับ ( เจือกมากกว่ามั้ง )

                                  “ ก็หัวหน้าแผนกแมททีเรียลไงพี่”   ไอสาก...อย่ามั่วนะเมิงนั้นนามสกุลเขา  ลูกครึ่งแหงม ๆ

                                   “แผนกแมททีเรียลเหรอ   ไม่ใช่นามสกุลนะสิ”   ยิ้มแหย่ ๆ  ทำหน้าใสซื้อซะ( อุ้ย โง่นี่ )

                                   “เขาเป็นหัวหน้าแผนกของพี่ทักษ์ไงเพ่”   อาวหัวหน้าไอทักษ์หรอกเหรอ ไงผมไม่รู้จักเนี้ยะ

ช่างเหอะตอนเย็นเดี๋ยวไปกินเหล้ากะมันค่อยถามก็ได้   วันนี้กินฟรีด้วย............วู้มีความสุขจัง

เลิกงานแล้ววันนี้ผมต้องนั่งรถไปกับไอทักษ์ที่นัดเจอประจำของเราก็ร้านยาดองที่เก่า   อยู่ทางเดียวกับหอไออั้มแต่แยก

คนละซอย  รถเรามาจอดที่ซุ่มหลังคามุ้งหญ้า  มีโหลแก้วใส ๆ บรรจุของเหลวข้างในสีแดงตั้งเรียงกันหลายใบ แต่ละใบก็

มีชื่อของตัวยาเขียนปิดบนฉลากพร้อมบรรยายสรรพคุณ   ป้าใจดีมองเห็นผมกับไอทักษ์แล้วก็กวักมือเรียกให้เข้าไปนั่ง

สมทบกับพวกที่มาก่อนซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในแล้วสามคน

                                   “ เฮ้ยไอทักษ์ วันนี้ใครเป็นเจ้ามือว่ะ”  ถ้าแชร์กันก็พอได้ แต่ถ้าให้จ่ายก่อนเหมือนคราวที่ผ่าน ๆมา ไม่ไหวหรอก ตอนนี้กรอบเชียว
                                    “ ออ  พี่ลม ก็บอกไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าไง “  เออ ใช่ เมื่อเช้าผมคงจะรีบจนลืมไปแล้ว

                                 “เฮ้ย  เข้ามาสิ” เสียงพี่สอ”  เรียกเราสองคนเข้าไปนั่ง (พี่สอเพื่อนที่ทำงานแหละครับ)

                               “ทำไมมาช้านักว่ะ”  ใครว่ะไม่เห็นเคยรู้จักเลยแหะ  สงสัยจะหงุดหงิด มากละสิ อิโธ่ ไม่เห็นจะอยากมานักเลย   ( แต่ก็นั่งลงแล้วก็จิบไปแล้ว เง้อ )

                                “ก็ป๋าพงษ์นั้นแหละ มัวแต่อ่อยเด็กมันอยู่กว่าจะเคลียร์กันได้”  :laugh: อ้าวเฮ้ยไอ้นี่พูดอะไรอ่ะเมิง

                                 “เด็ก เดิก ที่ไหนกันก็ลูกน้องนั้นแหละมันจะไปกินเบียร์ก็นัดมันแล้วเลยให้มันไปก่อน”ไม่ได้เห็นแก่กินนะครับ แค่ ไม่อยากพลาดทั้งสองที่ อิอิ
                                  “ แล้วไงไม่ไปกินเบียร์หล่ะมากินยาดองทำไม”  ช่างกล้านะครับคุณเพ่ยังไม่รู้จักกันเลย หาเรื่องแล้วเหรอ
                                  “กลัวคนเลี้ยงเสียน้ำใจมั้ง” ผมก็ตอบกวน ๆ สิ โมโหอ่ะ  ไม่ชอบขี้หน้าเลยจริง ๆ

                                   “ เออะ  เออ  สองคนนี้รู้จักกันแล้วเหรอ” ไอทักษ์ กลัวมีมวยจำเป็น เหรอเมิง ถึงกรูไม่สูคนแต่บ่ย้านนะเออ
                                   “ไม่ ”   แล้วยังจะมาตอบพร้อมกรูอีกเนี้ยะ

                                  “งั้นก็  นี่พงษ์เพื่อนผมเพ่  พงษ์เน่พี่ลม”  ไม่ต้องแนะนำหรอกไม่เห็นอยากรู้จักเลย ( แนะไปแล้ว)

                                    “ ดีเพ่”   ทักทายแค่นี่คงพอนะ

                                   “อืม”............................


เหล้าหมดไปเกือบกลม  เสียงพูดคุยหัวเราะก็เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ ดูสนุกสนานกัน  ยกเว้นผม ผมนั่งกินเหล้าและคงจะ

ตั้งหน้าตั้งตากินกับแกล้มมากว่า ก็ไม่อยากจะคุยกับใครนี่ครับเสียอารมณ์ แถมไอพี่ลมนั้นชอบจะมองมาทางผมด้วย  ไม่

ชอบสายตามันเลย (คิดถึงไอหนุ่มจัง ป่านนี้คงโดนแทะเหลือแต่กระดูกแล้วมั้ง )

                                            
                             แล้วไอพี่ลมเป็นใครนะเหรอครับ  ผมฟังจากที่พวกนี่คุย ๆ กัน (ไม่ได้อยากรู้นะ ) แล้วก็ดูจากชุด

พนักงานแล้วไม่ใช่บริษัทเดียวกับผมแน่นอน เขาเป็นพนักงานรับสินค้าของบริษัทอื่นที่ต้องมาอยู่ประจำที่นี่ หน้าที่คงจะ

คอยตรวจเช็คของขาดของเกินประมาณนี้นะครับ สงสัยเพิ่งมาทำได้ไม่นานเพราะผมไม่คุ้นเลย        หน้าตานะเหรอ

ครับ  หน้าเรียว ๆ จมูกโด่ง ตาคมขนตายาว ผิวเข้ม ๆ   เหอะ หล่อตายหล่ะ

                           เหล้าหมดขวดแล้วพวกนี่ก็สั่งมาใหม่  ส่วนใหญ่ที่ชอบๆกินกันก็จะเป็นม้ากระทืบโลง  และโด่ไม่รู้ล้ม  

(ไม่รู้มันจะบำรุงไปสู้กับใครที่ไหนต่อ)   ป้าแกจะเสิร์ฟพร้อม มะยมดอง  องุ่นดองแล้วก็น้ำชาอีกเหยือกหนึ่ง  รสชาติก็เข้า

กินดีทีเดียว แต่แค่แก้วสองแก้วผมก็เมาแล้วครับ  ( กินบ่อยแต่คออ่อนจริง ๆ )

                             “ ตายละหว่า  พวกนั้นคงรอแน่เลย”  ผมบ่น เมื่อมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันเป็นเวลาเกือบทุ่มครึ่งแล้ว

                             “จะรีบไปหาเด็กรึไง”  รู้ดีนะเมิงไอทักษ์  แน่จริงไปส่งกรูเด่

                              “ เด็กบ้าอะไรที่ไหนของเมิง”  ปฏิเสธสิครับผมไม่ได้มีเด็กที่ไหนนี่  ( จริงนะ)

                              “ อ่ะ แหนะ แหนะ แหน่..... กรูรู้หรอกเมื่อเช้ามีคนเอานมมาฝากไว้ให้เมิง” มันรู้ได้ไงเนี้ยะ  

                                 “ .............”   ทำหน้างงเต็ก   ส่วนไอพวกนี้ก็หัวเราะกันใหญ่

                       ตรึ้ดด. .ด.ด.ด. .   ตรึ้ด .ด.ด . ด  ...............( โทรศัพท์ตั้งระบบสั่น)  มาได้จังหวะพอดีเลย โอสวรรค์ แล้ว

ผมก็เลี่ยงเดินไปคุยที่หลังร้าน

                                   “ สวัสดีครับ”  
                                            
                                      “ พี่พงษ์รึเปล่าครับ”  เสียงคุ้น ๆ แฮะ  แต่ฟังดูมันฝืน ๆ อ่ะ

                                       “ ใช่ครับ”  ก็โทรศัพท์กรูเน่แล้วใครจะพูดหล่ะ

                                     “ออ  พี่พงษ์เหรอค่ะอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่จะมา  ให้ไปรับไหม” น้านมันเปลี่ยนน้ำเสียงกับคำลงท้ายซะแล้ว

                                     “ พี่อยู่ร้านยาดอง   เดี่ยวไป   มารับด้วย”   ใช่แล้วครับ  ไออั้มโทรมามันต้องได้เบอร์ผมจากไอศักดิ์ แน่ ๆ

                                   “ อั้มไปรับนะแล้วร้านอยู่ไหนอ่ะ”  ไอบร้า  จะมารับได้ไง เดี๋ยวพวกเน่ก็ล้อกรูตายหรอก

                                    “ ให้ไอหนุ่มมารับดีกว่า มันรู้ว่าร้านยู่ไหน”  อิอิ  เข้าทางเลยครับ เดี่ยวจะแกล้งเมา ( ไม่ต้องแกล้งหรอก เมาจริง
                                        ผมรีบวางสายเลยครับไม่อยากคุยนาน ไม่มีธุระจำเป็นจะคุยกะมันอีกอย่างพวกมันก็มองมา

กันจริงแล้วผมก็เดินกลับไปที่โต๊ะ กินเหล้ากับพวกนั้นต่อ  สักพักก็มีรถมอไซค์มาจอดที่หน้าซุ้ม


  

 
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-09-2007 09:45:47
เกิดมาเสน่ห์แรง
เมาๆระวังนะ
โดนยั่วหน่อยอาจเผลอใจ
 o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 14-09-2007 18:28:36
……………………………………………………………………………………

                                           แสงไฟจากรถมอไซค์ดับลงก็พอจะมองเห็นแล้วว่าคนที่ขับมานั้นเป็นใคร ผมก็คงต้องถอน

หายใจใหญ่เพราะผิดคาดแผนการที่วางไว้ ก็คงล้มเหลว 

                                       
                                           “เฮ้ย..ไอสากมานี่เลยเมิงมากินเหล้ากับพี่นี่” พี่สอเชิญชวนไอศักดิ์มาร่วมวงด้วย
                                       

                                            “ครับพี่...แต่ผมคงกินด้วยไม่ได้หรอก กำลังกินเบียร์” มันยังนั่งรออยู่ที่รถ......จ้ากกก   ใช่แล้วครับมันไม่กินเหล้าเพราะกินเบียร์มาแล้ว มันคงกลัวว่าถ้ากินผสมกันเหล้ากับเบียร์คงจะตีกันตายแน่นอน ( ท้องนะไม่

ใช่คน ) แล้วผมหล่ะ  ผมกินเหล้าอยู่อ่ะ แล้วถ้าไปกินเบียร์ต่อจะกินได้เยอะมั้ยเนี้ยะ( น้าน....ไม่ได้กลัวเมาเลย )     ง่า 

ไม่ได้นึกมาก่อนเลยอ่ะ

                                           “ งั้นกรูไปก่อนนะทักษ์”  ผมลุกจากโต๊ะนั่งแล้วหันไปบอกไอทักษ์

                                            “จะรีบไปไหน  อยู่สักแป้บก่อน...เหล้าเหลือเยอะเลย” ขอบคุณครับพี่สอ  แต่เบียร์ก็เหลืออีกแยะ อิอิ

                                             “คงไม่แล้วล่ะพี่ กินเหล้ามากเดี๋ยวกินเบียร์ไม่ได้”  ยืมเหตุผลไอศักดิ์หน่อยเผื่อได้ผล

                                              “ คนเขาอยากไปจะไปห้ามทำไม  เดี๋ยวเด็กมันจะคอยนาน” โอโห.. ปากเหรอนี้ไอพี่ลม

ทำเป็นรู้ดี (แล้วจริงป่ะ)  ขี้เถายัดปากซะดีไหมนี้

                                              “ ก็นั้นนะสิเพ่  ถ้าไปช้าวงสลายก่อนก็อดแด* พอดี” หมั่นใส้ครับ ปากคอเราะร้ายจริง

                                              “ ป๋าพงษ์หน่ะ  พูดไม่เพราะเลยตบปากสามที” จะบ้าตาย  ไอทักษ์มันพูดจีบเสียงล้อ

เลียน  ( ใคร ) มันคงจะเห็นว่าผมทำหน้ายักษ์ใส่ไอพี่นั้นเลยอยากห้ามทัพมั้ง  แต่ก็ไดผลครับ พวกนั้นหัวเราะกันสนุก

สนาน  แต่ผมกลับหน้ามุ้ยไปเลยผมถอนหายใจยาว ๆ แล้วบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร  ไปหาน้องหนุ่มดีกว่า  กิ้ว  ๆ  (

อารมณ์แปรปรวนจังอ่ะ)

                                               “ เอองั้นไปแล้วนะไม่อยากอยู่นาน  ไว้วันหลังจะมาเลี้ยงคืน”  ผมพูดกับไอทักษ์แต่หันหน้าไปทางไอพี่ลม

ดูหน้ามันตอนนี้ยิ้มเย้ยผมแถมมายักคิ้วให้อีก

                                                 

                                   

                                          ผมรีบเดินมาขึ้นรถกับไอศักดิ์  แล้วสั่งให้มันรีบไปแค่ไอหนุ่มไม่มารับก็หมดอารมณ์ ( กิน )

แล้วมาเจอไอบ้านี่อีกเหมือนกับทำเวรทำกรรมมาแต่ชาติปางไหน......ตายห่าแล้วสิ ผมบอกว่าจะมาเลี้ยงคืนงั้นเหรอ งั้น

ผมก็เจอมันอีกนะเส่  ปากหนอปากหาเรื่องจริงๆ       มาถึงแล้วไอศักดิ์ก็เอารถเข้าจอดที่หน้าหอ  อืมวันนี้รู้สึกมีรถเยอะ

กว่าเมื่อวาน ผมเดินไปจะก้าวขึ้นบันไดก็ต้องหยุดมองความรู้สึกเหมือนเดิมอีกแล้วครับกลัวตกมาลงมาตาย  แต่ก้ต้องขึ้น

น้องหนุ่มรอผมอยู่แล้วนี่

                                               “อ้าวพี่พงษ์  เข้ามาก่อนสิ” อั้มครับมันเดินมาลากแขนผมเข้าไปข้างในแทบจะต้องวิ่งเชียว

                                                “ เออะทำไมคนเยอะจังอ่ะ” ผมถามมันเบา ๆ สายตาก็มองหาว่าไอหนุ่มนั่งอยู่ตรงไหน

แต่ไม่ยักกะเห็นมัน  ไอหนุ่มผมหล่ะ มันหายไปไหนมีใครแอบอุ้มสมไปรึเปล่า  ใจคอไม่ดีเลยครับอีกอย่างไม่รู้จักใครสักคน
                                                 “ก็เพื่อนที่ทำงานแหละพี่พงษ์วันนี้จะไปเที่ยวกัน” ก็มีผู้หญิงสามคนนะครับ มันก็แนะ

นำชื่อแต่ผมจำไม่ได้แล้วที่รู้จักก็ ล่อล่าครับแต่งชุดสวยเชียวแต่ไม่ได้เข้ารูปร่างหน้าตาเธอเลย อีกคนก็แนนเธอแต่งตัว

แบบธรรมดาและดูเรียบร้อยที่สุด
                                                 “ หวัดดีค่ะพี่พงษ์” ผู้หญิงคนหนึ่งทักมาผมก็ทักตอบแล้วก็แจกยิ้มไปที (อีกแล้ว )

                                                 “ พี่พงษ์ก็น่ารักดีนะมรึงมีลักยิ้มด้วย”  ให้ตายสิผมไม่ได้ยินดีในคำชื่นชมของพวกเธอเลย

มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากกว่า  ไอศักดิ์ก็เดินตามเข้ามาแล้วก็จัดการกับแก้วเบียร์ให้ตัวเองแล้วก็ให้ผม

                                             “ไอหนุ่มไปไหนศักดิ์” ผมกระซิบถามเพราะสงสัยอย่างแรง กลัวจะมีใครคาบไป (ก่อน )
                                           
                                              “มันกลับไปแล้วพี่ เห็นพี่สาวมันโทรมาตามสงสัยมีเรื่องด่วน”  เรื่องด่วนเหรอเรื่องอะไร

ล่ะคงไม่ใช้กลับไปทะเลาะกันอีกนะ ผมเป็นห่วงแล้วสิครับ  ( มือก็ยกแก้วเบียร์เข้าปากไปแล้ว )แต่สงสัยห่วงกินมากกว่า

                                                “พี่พงษ์คืนนี้ไปเที่ยว.............กันนะ”  เสียงสาวคนใดคนหนึ่งชวนผม  อ่ะแน  อยากควงเขาละสิ (หลงตัวเองชะมัด )
                                                 “ เออ...คือ”   อยากไปจะตายตั้งแต่มาอยู่นี่ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน  ขนาดทะเลอยู่ใกล้

ๆก็ไม่เคยเห็นเลย ผมเคยถามคนอื่นนะว่า..............มันอยู่ที่ไหนต้องไปยังไง เขาก็บอกนั่งวินมอไซค์ไปก็ได้ค่ารถ สี่สิบ

บาทไปกลับก็แปดสิบ ผมฟังแล้วก็ระอา คงไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอกใครกันจะกล้าเสี่ยง (คงสมเพทกันนะสิ ชิ  ชะ )   แต่ถ้า

ผมไปกับพวกนี้ เหอๆ  ผมจะรอดเหรอครับ

                                                “ไปครับ........แต่พี่ชวนเพื่อนไปด้วยนะ”  เริ่มมึน ๆ แล้วครับ สงสัยเหล้ากะเบียร์จะเริ่มทะเลาะกันในหัว

                                                “ได้พี่   วันนี้วันเกิดเพื่อนอั้มไปกันเยอะ ๆ คงสนุก” มันยิ้มจนแก้มแทบปริ ตาเยิ้มเชียวครับ

...
                                            “โหล...นันเหรอ อยู่ไหนเนี้ยะ”  ผมถามเมื่อปลายทางกดรับสาย

                                           “ เอ้ย  พงษ์ เหรอ ตอนนี้ .อยู่  โอ้ย.ย”  ไอนันพูดยังไม่จบแต่มันร้องเหมือนกำลังเจ็บ

                                            “นันเป็นไร  ตอนนี้อยู่ไหน  บอกมาเร็ว ๆ ดิ”  ผมเป็นห่วงมันครับ  อยากรู้มันอยู่ที่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า

                                             “ ก็จะบอกนี่แหละ   .....ตอนนี้อยู่คลินิกโดนรถเชียวมอไซค์ล้มที่หน้าตลาด ” คงเป็นรถแฟนมันน่ะครับ

                                             “แล้วเจ็บมากไหม   เออ แล้วไอแตงล่ะเป็นไงมั้ง”  อาว แล้วไอพวกข้าง ๆ มันก็หยุดกินแล้วตั้งใจฟังผมคุยจังสงสัยจะตื่นเต้นกัน 

                                              “เราไม่เจ็บมากหรอกแค่เป็นแผลนิดหน่อย แต่ไอแตงกระดูกข้อเท้าแตกต้องเข้าเฝือก”สงสัยต้องหยุดงานหลายวัน
                                                “แล้วตอนนี้พงษ์อยู่ไหนเดี๋ยวไปหา” โห ไอนันยังจะมาหาอีกเหรอ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-09-2007 18:48:21
สงสัยมายืมตังส์จ่ายค่าหมอมั้ง  :m23:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 14-09-2007 21:54:17
 :m28:
เอ้อ .... เค้าอ่านไรผิดไปป่าวหว่า
นันจะมาหาพงษ์ เหรอ  :m28:
มาหาไมหว่า
เจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ
 :m28: :m28: :m28:
งงหลายตลบ อ่านจบแล้วก็ยังงง
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-09-2007 01:31:04

^

^

^

คิดว่าไม่ผิดนะ

นันบอกว่าจะมาหาพงษ์แหละ

ใช่ป่ะ คุณคนเขียน

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 15-09-2007 07:58:30
อิอิ   มาตอบคำถามให้ครับ    :impress:



มันจะมาหาพงษ์นั้นแหละครับ....ไม่เจียมเลย  :m26:  แล้วก็เพราะไอนันนี่แหละที่เรื่องกำลังจะเกิดขึ้น


เดี่ยววันนี้จะมาต่อให้นะครับก่อนเที่ยง
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 15-09-2007 10:48:27
เกิดเรื่องอะไรขึ้นน๊อออออ  :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 15-09-2007 11:33:52
...

                                            “โหล...นันเหรอ อยู่ไหนเนี้ยะ”  ผมถามเมื่อปลายทางกดรับสาย

                                           “ เอ้ย  พงษ์ เหรอ ตอนนี้ .อยู่  โอ้ย.ย”  ไอนันพูดยังไม่จบแต่มันร้องเหมือนกำลังเจ็บ

                                            “นันเป็นไร  ตอนนี้อยู่ไหน  บอกมาเร็ว ๆ ดิ”  ผมเป็นห่วงมันครับ  อยากรู้มันอยู่ที่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า

                                             “ ก็จะบอกนี่แหละ   .....ตอนนี้อยู่คลินิกโดนรถเชียวมอไซค์ล้มที่หน้าตลาด ” คงเป็นรถแฟนมันน่ะครับ

                                             “แล้วเจ็บมากไหม   เออ แล้วไอแตงล่ะเป็นไงมั้ง”  อาว แล้วไอพวกข้าง ๆ มันก็หยุดกิน

แล้วตั้งใจฟังผมคุยจังสงสัยจะตื่นเต้นกัน 

                                              “เราไม่เจ็บมากหรอกแค่เป็นแผลนิดหน่อย แต่ไอแตงกระดูกข้อเท้าแตกต้องเข้า

เฝือก”สงสัยต้องหยุดงานหลายวัน

                                                “แล้วตอนนี้พงษ์อยู่ไหนเดี๋ยวไปหา” โห ไอนันยังจะมาหาอีกเหรอ

                                              “เอ้ย  นายนั้นแหละอยู่คลินิกไหนเดี๋ยวไปหาเอง”       ไม่ยอมหรอกครับเรื่องไรจะให้คนเจ็บมาหา

                                               “ ทำแผลเสร็จแล้ว บอกมาเลยอยู่ไหน” แล้วมันยังจะขับรถไหวอีกเหรอนี่  เป็นห่วงครับ

แต่ก็ต้องยอมมัน บทจะดื้อ มันก็ดื้อสักพักไอนันก็เอารถมาจอดที่หน้าหอไออั้มมันมาคนเดียวมันคงพาแฟนไปส่งที่หอ

แล้ว    ผมลงไปดูสภาพรถมันก็ไม่เป็นไรมาก ไฟเลี้ยวด้านซ้ายแตกและตัวรถมีรอยถลอกเท่านั้น  ส่วนตัวมันเหรอครับ มี

ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบแขนด้านขวาใต้ข้อศอกลงมาไม่มากนักแต่ยังมีเลือดซึมออกมาให้เห็น  ที่ค้างก็เป็นแผลถลอกนิด

หน่อย  ผมไม่อยากซักไซ้ไร้เรียงมันมาก ก็ต้องพาขึ้นห้องก่อน



                                                   “ ฮึ้ย..เจ็บอย่างนี้ยังจะกินอีกเหรอนัน” ผมกระซิบถามไอนัน ที่ตอนนี้มันกระดกเบียร์เข้าปากแล้ว

                                                     “กินได้ไม่เป็นไรแค่นี้เอง”   เออ  เอ็งเก่ง   เอาหมดแก้ว

                                                      “ เออ  คือ   เออ   อั้ม ( แหวะ) พี่คงไม่ไปเที่ยวแล้วนะ เป็นห่วงนันน่ะ” ไม่อยากไป

แล้วครับถ้าไปผมก็คงไปคนเดียวแหงม ๆ   ไอศักดิ์มันไปไม่ได้อยู่แล้วครับเพราะอายุมันยังไม่ถึงยี่สิบส่วนไอนันมันคง

อยากพักผ่อนมากกว่าเพราะเจ็บแผล

                                                       “ อึย..ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปด้วย”  ง่า  ไอนันเจ็บอย่างนี้ยังจะแผลงฤทธิ์อีกเหรอ 

                                                       “จะดีเหรอ”  ผมถามเผื่อว่ามันอาจจะเปลี่ยนใจ

                                                        “ แหมไม่เป็นไรหรอกพี่พงษ์  นันเจ็บแค่นี้เอง ถ้าขับรถไม่ได้ก็ให้ลอล่ามันขับให้

สิ”   เหวย ๆ  ได้ไงถ้าให้ลอล่าขับไอนันซ้อยท้ายแล้วผมจะไปคันไปไหน   ไออั้มมันต้องมีแผนแน่ ๆ  ไม่ได้การซะแล้ว

                                                         “ไปได้น่าไม่เป็นไร” ไอนันมันยังไม่ยอมอีกแล้วครับ  งั้นก็ได้เป็นกับพวกนั้นเองเลยละกัน

                                                          “ ก็ได้งั้นเราว่าเรากลับไปห้องก่อนดีกว่านะนายก็ต้องเปลี่ยนเสื้อด้วย” เสื้อสีขาว

ของมันมีแต่รอยเลือดถ้าขืนไปแบบนี้เขาคงจะให้เข้าอยู่หรอก    ผมให้พวกนั้นไปรอที่ร้านก่อนแล้วพวกผมจะตามไป

แรก ๆไออั้มมันก็ไม่ยอมจะรอไปพร้อมผมให้ได้  แต่ว่ามันดึกแล้วคงจะเกรงใจเพื่อนมันด้วยเลยต้องไปก่อน

                                   
                                     “โหล....กบเหรอตอนนี้มึงอยู่หนาย”

                                      “เออ มึงไปเที่ยว...........กับกรูนะ”

                                      “ กรู กับไอนัน แล้วก็พวกอิอั้ม”

                                       “เรื่องมากรอกรูอยู่นั้นแหละอาบน้ำเสร็จเดี๋ยวไปรับ”

                                      “ ตึ้ด    ตึ้ด   ตึ้ด”    ผมกดวางสายก่อนไอกบจะปฏิเสธ    ไอกบเป็นเพื่อนที่ทำงานมันรู้จักกับไอนันก่อนเลยมา

สนิทกับผมด้วย  หน้าตามันหล่อดีนะครับ ตัวสูง ๆ คิ้วเข้ม ๆ  มันชอบจะมากินเบียร์ที่ห้องผมหากวันไหนผมไม่ได้ไปร้าน
ยาดอง

ผมต้องชวนมันไปด้วยเพราะถ้าผมเมา ( กะอยู่แล้ว ) มันจะได้ขับรถแทนได้  ส่วนไอนันเหรอครับมันคงขับไม่ได้แน่ 

ใหม่ ๆ มันอาจจะขยับแขนได้แต่ถ้าแผลแห้งหน่อยมันก็จะตึง ๆ เจ็บไปหมดแระ


                               ประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ เราก็มาถึงร้าน...........เป็นตึกหกชั้นร้านนี้อยู่ชั้นล่างสุดเราต้องเสียค่าบัตรผ่าน

ประตูคนละแปดสิบบาทแต่จะได้รับคูปองไปแลกเครื่องดื่มหรือมิกเซอร์   วันนี้เป็นวันศุกร์คนเลยเยอะรึป่าวไม่รู้เพราะผม

เพิ่งเคยมาครั้งแรกนักเที่ยวกำลังเมามันส์กับเพลงแดนซ์ กระจาย จะ เราก็พยายามมองหาว่าพวกนั้นนั่งที่ไหน    ออ  เจอ

แล้วครับ ไอกบชี้ให้ผมเดินไปที่โต๊ะด้านหน้าสุดสงสารแต่ไอนันแหละมันคงจะเริ่มเจ็บแผลเห็นมันเอามือซ้ายมาจับและ

ป้องแขนขวาเวลาที่เบียดเดิน

                                        ถึงโต๊ะ  ไออั้มก็เอาคูปองเราไปจัดการ ผมเลือกที่จะกินเบียร์เพราะอย่างอื่นคงสู้ไม่ไหวแล้ว

ก่อนมาเราก็กินมามากเหมือนกัน  เราดื่มกันได้สักพักก็เริ่มจะมันส์ในอารมณ์เพลง ไอนันกับไอกบก็คงเหมือนกัน  แต่

อารมณ์ผมไม่ไหวแล้วครับ  อยากปลดปล่อยเหลือเกิน   โอ้ย  ไม่ไหวแล้ว

                                               “ นันเราไปห้องน้ำก่อนนะ”  ถ้ารออีกแป้บหนึ่งผมคงได้ปล่อยตรงนี้แน่

                                               “ เออ   รีบไปดิ”   แล้วไม่มีใครไปเป็นเพื่อนหรอ   ไม่กลัวเขาโดนฉุดหรอ

                                              “ให้อั้มไปเป็นเพื่อนไหม  จะไปช่วยถือให้”  อ่ะจ้ากก กกก  อินี่มาแต่เมื่อไหร่ แล้วพูดไร

หน่ะ  จะถือได้ไงต้องแบกสิแบก  ( หึ้ยส์  จะหยิบยังอยากเลย  555 )

                                              “ ไม่เป็นไรหรอก   ถือเองจะดีกว่า” น้านเล่นกะมันหน่อย   ผมยิ้มแบบเจื่อน ๆ แล้วโกยแนบ

.................................................................................

ระหว่างที่เดินกลับจากห้องน้ำผมก็ไปสะดุดกับสายตาคู่นั้นอีกแล้ว  แต่คราวนี้ทำไมมายิ้มให้ผมด้วย  แต่ผมก็ยิ้มตอบกลับ

ไปด้วยมารยาทแล้วก็เลี่ยงเดินก้มหน้ากลับไปที่โต๊ะ 

                                                         “ อ้าว  หายไปไหนกันหมดว่ะ”  ผมมองหาไอเพื่อนสองตัวนั้นมันหายหัวไปไหน
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 15-09-2007 14:20:46
 :o
ง่ะ ................
สายตาคู่ไหนอีกล่ะ
แล้วนันจะก่อเรื่องไรอีก
 :o
หรือว่า .... นันบอกเลิกกะแฟนแล้ว  :m28:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-09-2007 08:24:09
รอลุ้นต่อ จะเกิดอะไรขึ้นน้อ  :m5:  :m5:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-09-2007 13:29:01
สงสัยจะเสร็จอั้มแน่คืนนี้
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 16-09-2007 19:32:51

ลุ้นๆ

ไม่รู้จะเสร็จใครกันแน่

จะเสร็จอั้มรึป่าว  :m28:

หรือจะเป็นเจ้าของสายตาคู่นั้น  :m28:

แล้วนันจะทำอะไร :m28:

รอลุ้นต่อปายยยย

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 17-09-2007 00:40:02
เพิ่งเห็นครับ มาเม้นไว้ให้กำลังใจก่อน   :m4: เดี๋ยวไปอ่านก่อนนะคร้าบบ  :m22:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 17-09-2007 02:22:58
โอเย้ อ่านจบแล้วพงษ์  :m4: ดีๆสนุกๆดี ชีวิตท่าทางมีรสชาติดีนะ 555 อ่านไปได้รสยาดอง รสเหล้า รสเบียร์เต็มปาก  :laugh:

มาต่อเร็วๆเน้อ  :a2:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 17-09-2007 15:16:49
หวัดดีครับ  BlueWizard  ไม่นึกว่าจะเข้ามา ดีใจหลาย ๆ ครับ :m4: :m4:

มาต่อให้ได้นิดหน่อยครับ พอดีฝนตกหนักฟ้าลงเน็ตล่ม  55   o16 o16


............................................................

ระหว่างที่เดินกลับจากห้องน้ำผมก็ไปสะดุดกับสายตาคู่นั้นอีกแล้ว  แต่คราวนี้ทำไมมายิ้มให้ผมด้วย  แต่ผมก็ยิ้มตอบกลับไปด้วยมารยาทแล้วก็เลี่ยงเดินก้มหน้ากลับไปที่โต๊ะ 

                                                         “ อ้าว  หายไปไหนกันหมดว่ะ”  ผมมองหาไอเพื่อนสองตัวนั้นมันหายหัวไปไหน





ว้ากกกกกกกกก.....ไอนัน  โธ่เพื่อน .... ทำไมไปดิ้นชักกะแน่ว  ๆ  อย่างน้าน....  คงจะเจ็บแผลสิท่า โถ  โถ  น่าสงสาร   แต่ทำไมหน้ามันไม่เห็นเหมือนคนเจ็บเลยอ่ะแถมมันยิ้มร่าเริง   ไอกบก็อีกคนดิ้นเป็นปลาไหลถูกขี้เถ้าอยู่โน้น  สงสัยเพื่อนผมคงจะโดนของแหง ใครเสกควายธนูมาเต้นคู่ด้วย (เค้ามีแต่เสกเข้าท้อง) หรือเปล่านี่ ถึงไฟจะสลัวผมก็เห็นเป็นอย่างนั้นแต่หน้านั้นมันไออั้มนี่หว่า หรือผมมาวจนตาลายอีกแล้ว   ไม่สนแระ กินเบียร์ดีกว่า

                                                        “ ทำงานอยู่ที่..............ใช่ไหม”   ( ๐ _ ๐ ) เสียงใครคนหนึ่งทักผมจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง
                                                         “เออ  ใช่ครับ”   

                                                         “ ชื่อพลอยนะ   พี่พงษ์มากับอั้มเหรอ”   เธอ (เขา) รู้จักอั้มด้วยเหรอแล้วยังรู้ชื่อผมด้วย แย่ละสิ มีคนอื่นรู้อีกรึป่าว
                                                         “ ครับ    รู้จักชื่อผมด้วยเหรอ”   ถึงจะเมาแต่ผมก็พอจำได้ว่าไม่เคยคุยกันมาก่อนแน่

                                                         “รู้สิ.....พลอยรู้ชื่อพี่พงษ์ตั้งแต่วันแรกที่ทำงานแล้ว”  ขนาดนั้นเลยเหรอ  ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ



พลอยก็คือคนที่ผมเพิ่งยิ้มให้เมื่อตอนไปห้องน้ำแล้วก็เป็นคนที่มองผมกับไอนันเมื่อวันที่เราทำงานวันแรก เป็นคนที่มองผมในโรงอาหาร และทุกครั้งที่ผมไปเข้าห้องน้ำในโรงงาน สายตาคู่นั้นผมจำไม่ผิดแน่นอน   คืนนี้เธอบอกว่ามากับเพื่อนสามคนไม่ต้องเดาหรอกครับว่าพวกเธอเป็นผู้หญิง   พวกเธอเป็นกระเทยครับเพียงแต่ไม่เหมือนกับคนอื่นตรงที่ไม่แต่งหน้า  ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา พลอยเป็นผู้ชายที่สวยครับผิวขาวใสตามสไตล์คนเหนือ กิริยามารยาทเรียบร้อยกว่าผู้หญิงบางคนด้วยซ้ำ  เรานั่งคุยกันอยู่หลายเรื่องจนเริ่มคุ้นเคยแต่ก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคน

                                          “ นี่เหรออิตาพงษ์”  ใครกันครับบังอาจมีเรียกผมอิตาพงษ์   ผู้ชายร่างกายกำยำ สูงเกือบ180 ใบหน้าขาวใสคิ้วเข้มตาโต จมูกโด่ง ปากสีชมพูเล็ก ๆ  รวมๆ แล้วไอนี่หน้าตาหล่อเลยที่เดียวประมาณ ชิน ชินวุฒิแหละครับ
                                          “ พี่พงษ์ นี่เพื่อนพลอยชื่อเชอรี่”   คงเป็นเพราะเสียงเพลงที่มันดัง  ผมเลยต้องถามซ้ำ
                                          “ อะไรนะ  ชื่อเชอรี่เหรอ  ไม่ได้เข้ากับหน้าตาเลยนะ”    เหอ ๆ ชื่อกับหน้าตาไม่ได้เข้ากันเลย 
                                          “อิตาบ้า เขาน่ารักจะตาย”  มือเร็วกว่าปากหยิกเข้าที่แขนผม เจ็บน้ำตาแทบร่วง  แล้วเธอก็บุ้ยปากเชิด เดินหนีไปเต้นต่อกับเพื่อนสาวเธออีกคน  คนนี้ชื่อโอเด็ดครับ (ว่าไป ) แต่ไม่ใช้นางแบบหรอกแค่ก้านยาวเหมือนกัน
                                          “อิเชอรี่มันมือหนักจะตาย มันเป็นมือตบวอลเล่ย์ทีมโรงงาน”  เหวอ  ๆ  อย่างนี้อันตรายถ้าขืนผมไปยั่วอารมณ์ ( โมโห ) เธอมีหวังหัวผมเป็นลูกวอลเล่ย์แทนแน่ ๆ     

                                        “พี่พงษ์เราไปเต้นกัน” แขวนผมถูกคล่องด้วยแขนของใครอีกคนที่เป็นเจ้าของเสียง ผมหันไปมองหน้า ก็ต้องตกใจ ควายธนูเอ้ย  อั้มนั้นเอง แต่สายตาเธอไม่ได้มองที่ผมเธอจ้องหน้าพลอยแทน

                                          “ ไปพี่พงษ์”  ผมโดนลากออกไปหากลุ่มพวกไอกบและเพื่อน ๆ ของอั้ม  ผมก็คงเกิดอาการคึกผสมเมาด้วยเลยต้องออกสเต็ปกะเขาด้วยไออั้มไม่ยอมห่างผมเลย  เกาะไหล่เกาะเอวบ้าง จะบ้าตายมันจะลวนลามผมเหรอนี่
                                         “ไอนันไปไหนวว่ะกบ”  ไอนันหายไปอีกแล้วครับมันเป็นนินจารึเปล่าเนี้ยะ

                                         “ นู้นไงอยู่กลุ่มนู้นนนนนนนนนนน”  เออแค่ชี้ให้ดูกรูก็รู้แล้ว 

                                          “ ไอนันรู้จักกับเชอรี่ด้วยเหรอ” ผมบ่นเบา ๆ ก็งงเต็กกะมัน เต้นแทบจะกอดกันกลม  ไม่ได้ห่วงตัวเองเจ็บเลยนะเพื่อน

                                       ขณะกำลังมันส์อยู่นั้นผมโดนกระชากแขนให้หันหน้าไปอีกทางตอนนี้ผมถูกกอดโดยใครอีกคนไออั้มผละออกจากผมไปแล้ว  แต่ทำไมผมไม่ขัดขืนบ้างเลยผมเมาขนาดนั้นเหรอ หรือผมยอมให้เป็นอย่างนั้น   ใช่แล้วครับผมทำประชดไออั้มด้วยความสนุกดูจะได้ผลมันยืนนิ่งทำท่าโกรธเหมือนยักษ์ขมูขี  อั้มเดินมาดึงแขนผมอีกข้างผมเลยหันไปเต้นกับเธอ   สักพักผมหันไปโอบเอวพลอยแทน  คนอื่น ๆ ก็มองเรากันใหญ่คงคิดว่าต้องมีการวางมวยแน่    อะไรกันนี่ผมล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นเหรอ แล้วคนที่ผมกอดตอนนี้คือพลอย    แล้วพลอยคิดยังไงที่ผมไม่ได้ปฏิเสธเธอ  ไออั้มทำท่าหึงผมแต่ผมทำเพื่อสนุกเท่านั้น  ผมไม่อยากเป็นคนโชคดีที่มีคนมายื้อแย่งกันในที่แบบนี้ (ทุกที่แหละครับ)

                                           “ผมไปห้องน้ำก่อนนะ”  ทางออกของผมเข้าห้องน้ำเลยดีกว่าก่อนที่มันอาจจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่กล้าเดาหรอกว่าสองคนนั้นจะเป็นยังไงต่อ แต่ที่รู้คืออั้มน่ากลัวมากแล้วผมก็เดินผ่านไปทางกลุ่มเชอรี่กับไอนัน ดูไอนันมีความสุขดีครับแต่ที่แขนมันมีเลือดซึมออกมาแล้ว
                                           “โอ้ย”ผมร้องเสียงดังเลย  ก็มันเจ็บครับ  ไอเชอรี่หยิกแขนผมอีกแล้วอ่ะ เนื้อผมจะหลุดติดมือไปมั้งรึเปล่าก็ไม่รู้
                                           “ ฝากไว้ก่อนเถอะเดี่ยวเอาคืน” ผมฝากสายตาอาฆาตไว้  ก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำโดยด่วน

.........................................................................................

                  ผมออกจากห้องน้ำมาก็เห็นว่ากลุ่มพวกอั้มพากันกลับแล้ว ที่เหลืออยู่ก็ไอกบกับไอนันนั่งรอผมที่โต๊ะสงสัยพวกพลอยก็คงกลับแล้วเช่นกัน  ไรว่ะสามหนุ่มสามมุมนั่งหล่อกันอยู่ตรงนี้สาว ๆ ( มั้ง ) ทิ้งไปได้ไง   เออไหนบอกวันเกิดเพื่อนไออั้ม ไม่เห็นมีเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เลยเค้กก็ไม่มีทั้งที่ตอนนี้เวลาเกือบตีสองแล้วด้วย  ฝากไว้ก่อนเถอะอิอั้ม ( อีกแล้ว )    ผมรู้สึกผมไม่ไหวนั่งก็แทบจะล้มเลยต้องชวนกันกลับ     เพียงห้านาทีเราก็ออกจากร้านขึ้นรถมอไซค์ที่จอดเปียกน้ำค้างอยู่อากาศตอนนี้เย็นมากเลยขอบอก ไอกบเป็นคนขับผมนั่งตรงกลางส่วนไอนันต้องนั่งซ้อนท้าย  และเพียงห้านาทีเท่านั้นเราก็ต้องจอดรถทันที

                                     “ ตายห่าแล้ว รถยางรั่ว” ไอกบเฉลยให้ฟัง

                                       “ เอ้ยมีใครแอบปล่อยลมรึเปล่านี่”
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-09-2007 15:30:13
มีคนแอบปล่อยยางแน่ ๆ  :m29:  :m29:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 17-09-2007 15:42:17

หรือว่าจะเป็นน้องเชอรี่มาแอบปล่อยลม o17

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 17-09-2007 16:27:36
หรือว่าจะเป็นน้องเชอรี่มาแอบปล่อยลม o17

ก็นะ พงษ์เที่ยวไปหว่านเสน่ห์เค้าไปทั่วนิ  ... คู่กรณีคงมีเยอะ  :m14:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 17-09-2007 22:07:31
เสร็จแน่ๆ เลย  :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-09-2007 23:04:42
กร๊าก ยั่วใครกันแน่เนี่ยะ
หาศัตรูซะแล้ว
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 18-09-2007 12:15:00
 :undecided:
ขอแอบอ่านเงียบ ๆ ดีก่า
 :m22:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 18-09-2007 19:42:35
  :undecided: :undecided: 

                                     “ ตายห่าแล้ว รถยางรั่ว” ไอกบเฉลยให้ฟัง  :laugh:

                     :angry2:                   “ เอ้ยมีใครแอบปล่อยลมรึเปล่านี่”  ไอนันอารมณ์ชักชุน  ….หรือจะมีคนปล่อยลมจริง

ว่ะเนี้ยะต่ายห่า  ไออั้มเหรอหรือจะเป็นเชอรี่ .....อืม  แต่คิดๆแล้วคงเป็นไปไม่ได้เพราะตอนแรกที่เราขี่มายังมีลมอยู่

เลย   ช่างมันเหอะสงสัยน้ำหนักเกินมากกว่า

                                      “ โห   อย่างนี้ก็แย่ดิ แถวนี้มันไม่มีร้านปะยางด้วยดิ”  เราสามคนได้แต่ยืนดูแหละครับคงทำ

อะไรไม่ได้ ตอนนี้เวลามันตีสองแล้ว ร้านแถวนี้ก็คงจะปิดหมด จะมีก็ต่อแต่ร้านคาราโอเกะตรงตึกแถวที่ผ่านมายังมีคน

นั่งอยู่หน้าร้าน ดูสภาพพวกเธอ ถ้าเราจะเข้าไปขอความช่วยเหลือมีหวังคงได้ทำอย่างอื่นก่อนแน่   ผมลงจากรถเดินมานั่ง

ตรงริมฟุตบาทตามด้วยไอนันส่วนไอกบนั่งอยู่ตรงรถ    อากาศตอนนี้ก็หนาวแล้วด้วยขืนเราไม่ทำไรคงต้องนั่งหนาวกันถึงเช้าแน่   

                                  “ เฮ้ยเราเดินกลับเถอะดีกว่านั่งหนาวตรงนี้นะเว้ย”  ผมออกไอเดียอย่างน้อยการเดินก็ทำให้เราอุ่นขึ้นบ้าง

                                  “ดีเหมือนกัน  ถึงช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรอย่างมากก็แค่เช้า” เออ  อย่างน้องพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์

ละหว่าแล้วกรูจะนอนยาวเลยล่ะไอกบ

                                 “ ปะ นัน ไอกบจูงรถนะเมิง “   มันสมควรต้องเป็นคนจูงครับ  อิอิ ก็มันเป็นคนขับอ่ะ ( เกี่ยวป่าว )

                                   “ไรว่ะ”  มันทำหน้างง  ๆ บ่นงุดงิด ๆ

                                   “กรูล้อเมิงเล่นน่า ไปเมิงจูงเดี๋ยวกรูเข็นเองไอนันเดินเฉย ๆ ก็พอ”  แบ่งหน้าที่เสร็จสับเรียบ

ร้อย   แหะ  ๆ  ก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น

                                        ตอนนี้อาการเมาของผมเริ่มสร่างแล้วคิดว่าคงพอเดินไหวส่วนไอนันเลือดมันก็ซึมไม่หยุด มัน

ก็คงจะเจ็บแผลเหมือนกันเริ่มรู้สึกผิดแล้วครับที่เอามันมาด้วย เอ้ยไม่ใช่สิ รู้สึกผิดที่ห้ามมันไม่ได้ทั้งที่พยายามแล้ว

(เหรอ )    แต่.........คิดสิคิด...  มันมาเพราะเห็นผมอยากมาถ้ามันไม่มาผมก็ไม่มามันก็เลยต้องมาเพื่อผมจะได้มาด้วย 

( ฮุย  งง ) เหอ ไงผมก็ผิดอยู่ดีแระ   ไอกบขยับขาตั้งขึ้นกำลังจะเคลื่อนรถ  ก็พอดีมีแสงไฟรถมอเอตร์ไซค์ส่องมาจากทาง

ด้านหลังแล้วก็ชะลอความเร็วลง

                                          เอี้ยด  ด ดด    เอี้ยด .... ( จิ้นกันเองนะแต่ผมว่าคงประมาณเนี้ยะ) เสียงรถเครื่องสองคัน

จอดที่พวกผมกำลังยืนพวกเราก็ทำหน้าแปลกใจกันเพราะคนที่ลงจากรถมาคือพลอย  เชอรี่  และโอเด็ด  ( พลอยเป็นชื่อ

จริงครับ  แต่เชอรี่นี่แต่ก่อนมันหนะชื่อชัย  ส่วนโอเด็ดชื่อเล่นจริง ๆ ว่าโอ  เห้อ   ช่างเรียกกันไปได้ ) ทั้ง ๆ ที่สามคนนี่น่า

จะกลับถึงห้องแล้ว

                                        “ รถเป็นอะไรอิตาพงษ์”  อืม ไม่ต้องบอกนะว่าใครถาม

                                         “ มันก็เป็นเหล็กนี่แหละถามได้”  ( แหวะมุขเสี่ยวมากเสี่ยวเลย ) กวงทีนมันไปโทษฐานเรียกผมอิตาพงษ์

                                     “ โอ้ย.......เจ็บนะเว้ย”  ผมรีบเปิดตัวแขนตัวเองโห....เป็นรอยเขียวเลยครับ

                                     “สมน้ำหน้าปากดีนัก” ผมทำหน้ามุ้ย กัดริมฝีปากเล็กน้อยก่อนยักคิ้วส่งไป    ฝากไว้ก่อนเถอะ

( อีกแล้ว ) ตอนนี้เชอรี่มันทำท่ายกมือขึ้นจะคี ผมก็ต้องรีบกระโดดหลบด้านหลังไอนันแทน

                                       “ อ๋อ...ชอบซาดิตส์เหรอถึงห้องก่อนเถอะเดี๋ยวให้ไอนันจัดการ”  อา  ฮา เรื่องอะไรผมจะจัด

การเองหล่ะ ว่าแต่ว่ามันก็น่ากินเหมือนกันนะ  อิอิ

                                       “ เอ้ย พอแล้วไม่เอาด้วยหรอกน่ากลัวจะตาย” ไอนันกัดเชอรี่ไปดอกหนึ่ง แล้วก็เป็นไอนันเอง

แหละครับที่โดนตี  พอถามไถ่กันได้ความแล้วเราก็ตกลงกันว่าจะให้พวกนี้ไปส่งโดยเอาตัวเข้าแลก  เย้ยย   ไม่ช่าย   คน

เขามีน้ำใจหน่ะนะครับเห็นคนหน้าตาดีสามคนตกทุกข์ได้ยากใคร ๆ ก็อยากจะช่วย ( จริงเหรอ )  ไอกบขับรถบดยางไป

คนเดียวส่วนอีกคันโอเด็ดขับเชอรี่นั่งตรงกลางไอนันนั่งท้ายสุด   ผมนั่งรถกับพลอยแน่นอนผมไม่ขับเด็ดขาดผมเป็นโรค

ขี้เกียจขับมอไซค์สุด ๆ ( สงสัยเป็นอู้ซินโดรมเหมือนรอย) และอีกอย่างอากาศมันหนาว ผมขอนั่งกอดพลอยด้านหลังแล้ว

กัน อิอิ  อุ่นจัง   เมื่อถึงหน้าตลาดเราแวะกินข้าวที่ข้างทางปล่อยให้ไอกบเอารถไปเปลี่ยนยางที่ซุ้มวินมอไซค์   สุดท้ายเรา

ก็กลับถึงห้องวันนี้ไอกบต้องมานอนห้องผม    วันนี้สำหรับผมมันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายแต่มันก็สนุกเกือบลืมไปแล้วสิว่า

ผมมีเรื่องต้องสะสางในส่วนที่มันค้างอยู่ในหัว    ผมยังไม่ได้ถามไอทักษ์เลยว่าไอคุณไชยา  แมททีเรียลเป็นใคร

 ( แล้วทำไมอยากรู้อ่ะ )   ผมจะต้องเอาคืนเชอรี่ให้ได้ทำผมเจ็บนัก    และผมจะต้องไปเลี้ยงเหล้าไอพี่ลมเหรอนี่เซ็งเลย

ไม่อยากเจอหน้ามัน   กลุ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ    นอนดีกว่า    :m29: :m29:


                               แต่ว่าจะนอนกันยังไงเนี้ยะก็ห้องผมมีที่นอนสองชุดเองอ่ะ นี่ต้องนอนสามคน

                                                                       “ ไม่ นะ  ไม่   ม่ายยยยยยยยยยย ”  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-09-2007 19:49:13
สามคนสองเตียง ไม่น่ามีปัญหานิ  :m28:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 18-09-2007 20:35:18

ก็นอนเบียดๆ กันไง อบอุ่นดีออก  :m1: :m1:



ผมนั่งรถกับพลอยแน่นอนผมไม่ขับเด็ดขาดผมเป็นโรคขี้เกียจขับมอไซค์สุด ๆ ( สงสัยเป็นอู้ซินโดรมเหมือนรอย)


 :o ไม่นะ อย่าไปเหมือนป๋ารอยแกเลย
อู้นานเกิน ทำร้ายจิตใจคนอ่าน  :o12:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 18-09-2007 20:45:45
 :a4: :a4: :a4:


คุณ  THIP  ครับมาเร็วทันใจเลยนะ  เข้าใจไรผิดป่าว มันเป็นแค่ที่นอนปิกนิคครับ  ตอนนั้นทรัพย์จาง

คุณ  krappom  นอนเบียดกันก็อุ่นดีนั้นแหละ    คิคิ

 :m10: :m10:   :oo1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 19-09-2007 16:28:57
...

 
                                      “ แสบตาจังกี่โมงแล้วนี่” เหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ อาว เวน  เพิ่งจะเจ็ดโมงเองทำไมตื่น

เร็วจังว่ะ  น่าจะนอนต่ออีกหน่อยผมบอกกับตัวเองแต่รู้สึกนอนไม่ได้แล้วเนื้อตัวมันหนักอึ้งเหมือนโดนขอนไม้ทับจนรู้สึก

ชาไปหมด ผมชะเง้อคอมองตัวเอง ตายห่า แล้วไอกบขามันพาดมาที่ขาผมเกือบจะทับไข่ส่วนแขนก็วางอยู่บนหน้าอกผม

นี่   :angry2: เง้อแล้วเมื่อคืนเมิงทำไรกูรึเปล่านี่    :o8:ฮือ  อือ  ทำไมเมิงไม่ไปนอนที่กับไอนัน ผมชะเง้อมองข้ามไอกบ

ไปก็เห็นไอนันนอนติดไอกบอยู่   เหอสรุปแล้วเรานอนเรียงกันเป็นปลาทูหัวหักไอนันนอนติดผนังเรียงมาไอกบแล้วก็ผม

เป็นอันว่าผมเบียดพวกนั้นเข้าไปเหรอนี่    อิอิ     ผมต้องขยับแขนกับขาไอกบออกค่อย ๆ กลัวว่ามันจะตื่น แล้วผมก็ลุกมา

ทำธุระตัวเอง   เสร็จก็เอาผ้าไปซัก   ออ..เสื้อผ้าไอนันด้วย เพราะมันคงซักไม่ไหวแน่  ดีนะที่ผมเป็นคนขยันหอบเสื้อผ้าใส

ตะกร้าสองใบเดินออกไปหน้าหอหน่อยทิ้งไว้ให้เจ๊เจ้าของมินิมาร์ทแกปั่นแค่นี้ขยันจะตาย  และก็ไม่ลืมซื้อมาม่ากับไข่ไป

ต้มไว้รอพวกนั้นตอนตื่น .....ฮาส์  ทำไมชีวิตผมเกิดมาช่างมีคุณค่าเช่นนี้ (ตายหล่ะ )    :a2:  :m30:




 ตอนนี่เวลาเกือบจะทุ่มผมเพิ่งตื่นนอนอีกรอบ ไอกบคงกลับไปแล้ว  และไอนันคงจะไปหาแฟนมันเพราะแฟนมันเจ็บขา

อยู่คงจะไปเอาใจกันหน่อย..................    เวลาที่อยู่คนเดียวนี่มันเศร้า ๆ นะครับ ผมเกลียดการที่จะต้องอยู่คนเดียวมัน

ทำให้ผมหดหู่และรู้สึกเหงา ผมอยู่กับความเหงามามากพอแล้วในชีวิตถ้าความเหงามันเข้ามาทักทายผมช่วงที่โตแล้ว

ผมคงจะไม่กลัวมันขนาดนี้แต่นี่มันฝังรากลึกลงไปตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นเด็กผมเริ่มเข้าเรียนชั้นประถมเมื่อถึงหน้านา

พ่อแม่ผมต้องไปทำงานอีกจังหวัดหนึ่งผมอยู่กับพี่ชายและปู่ชราเราอยู่ด้วยกันสามคน กว่าหน้านาจะเสร็จก็ สองสาม

เดือน ปีหนึ่งสองครั้งก็เกือบหกเดือนที่ผมต้องห่างจากพ่อแม่  พี่ชายอายุห่างจากผมสองปี แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดี

เลยที่มีพี่ชายมันกลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้งยิ่งขึ้น  พ่อทิ้งสวนผักไว้ให้เราดูแล หลังเลิกเรียนผมต้องไปรดน้ำ

ทุกวันหลังจากนั้นผมก็ต้องรีบกลับมาทำกับข้าวไว้ให้ปู่กิน ถ้าถามว่าแล้วพี่ชายผมหล่ะ  ผมตอบไม่ได้ว่ามันอยู่ที่ไหน

เจอกันอีกทีก็ตอนที่เรากินข้าวผมไม่มีเวลาแม้แต่จะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ    ผมเพิ่งอยู่แค่ชั้น  ป.1  ทำไมผมต้องรับผิดชอบ

ด้วย ผมบอกตัวเองไว้เสมอว่าโตขึ้นผมจะไม่ยอมลำบากแบบนี้และจะไม่ยอมให้คนอื่นต้องมาลำบากเพราะผม ผมจะต้อง

ตั้งใจเรียนและเรียนให้สูงที่สุด   ทุกคืนผมต้องนอนคิดถึงแม่ เมื่อไหร่แม่จะกลับมา  ผมกลัว   ผมหนาว  ผมอยาก

ร้องไห้    กว่าผมจะหลับตาลงนอนได้ผมต้องกล้ำกลืนความเหงาไว้ตั้งเท่าไหร่  ผมเกลียดพี่ชายตัวเอง  เกลียดที่มันไม่

เคยช่วยอะไรผมเลย  เกลียดที่มันสร้างแต่ความหนักใจให้พ่อแม่  ทำไมผมไม่มีพี่ชายที่ดีกับเขาบ้าง  กี่ปีที่ผมมีวงจร

ชีวิตแบบนี้ .................... แหละตอนนี้ผมกลับมาเหงาอีกแล้ว ผมต้องหาสิ่งอื่นมาทดแทนนั้นคือผมจะต้องมีเพื่อนมาก ๆ

ไว้พูดคุยไว้ปรึกษา วงเหล้าเท่านั้นที่จะทำให้ผมได้สิ่งนี่ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิด แต่เอาเถอะสักวันมันคงมีคำตอบ

ก่อนนี้ผมมีไอนัน มันเป็นเพื่อนที่ดีมันทำให้หายเหงาได้  แต่ว่าสักวันมันคงจะจากผมไปในที่สุดแน่นอนอยู่แล้วและคงอีก

ไม่นาน


……………………………………………………………………………………………

                         ตึ้ดด    ตึ้ด ด ด   ตึ้ดดด.................ชะแว้บ บ บ ..จิตที่กำลังกระเจิงกลับเข้าร่างทันที

                          “โหลครับ”  เสียงเศร้าจัง.. หน้ายังกะตูด

                          “เออ    ว่าไง”  ยิ้มแป้นเลยกรู  อารมณ์ไหนแน่

                           “ ห้องอั้มเหรอ......อืม.......ได้สิหนุ่มอยู่ไหนพี่ก็อยู่นั้น”  หยอดมันไปทีหนึ่งเข้าใจหรือเปล่าช่างหัวมาน

                           “เดี๋ยวไปอาบน้ำแป้บนะ”  จุ๊บ  ๆ   อาว วางซะแระ

เย็นนี้ผมมีนัดกินเบียร์อีกแล้ว..........  แต่พรุ่งนี้ต้องทำงานนี่หว่า..... ไม่เป็นไรหรอกกินนิดเดียวอยู่เป็นเพื่อนไอหนุ่ม

หน่อย  ........ไม่ได้ ๆ  แฮงค์ไปไอพี่เดี่ยวเอาตายแน่.............. ไปหน่อยนานะ......อดสักวันเถอะ.....เพื่อน้องหนุ่ม...     

เพื่องาน..  บรา  ๆ ๆๆ ๆ หยุดได้แล้วไอคนเขียนบ้าเลือกสักอย่างสิ จะไปหรือไม่ไป ........ถ้าไม่ไปกรูไป........เง้อ  ซะงั้น


..................................................................................



ไม่อยากเขียนตอนต่อไปเลยครับ   มันน่ากลัวอ่ะ.. :m17:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 19-09-2007 17:01:38

หืออออ

น่ากลัวมากมั้ยอ่ะ

ถ้าน่ากลัวมากเดี๋ยวแอบๆ ดูเอานะ  :m22: :m22: :m22:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-09-2007 17:21:56
มีไรน่ากลัวเหยอ
กลัวคนเขียนหื่น ข่มขืนหนุ่มป่าว
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 19-09-2007 17:26:47
โห...ถึงขนาดเลือดสาดเลยเหรอคับ อิอิ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-09-2007 19:26:14
น่ากลัวจริงเหรอ  :m12:  :m12: แต่ดูคนแถวนี้ไม่ค่อยกลัวเลยนะ  :m20:  :m20:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 19-09-2007 20:38:52
น่ากลัวจิงป่าวววว  :m12: :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 20-09-2007 14:15:18
..................................................
 :a10: :a10: :a10: มาต่อให้ครับ   รักทุกคนจังที่มาเป็นกำลังใจ :give2:  :give2:



ผมมาถึงห้องอั้มโดยอาศัยพี่วิน ฯส่งเสร็จก็จ่ายตังค์ไปสิบบาทเป็นสินน้ำใจ   ผมลงจากรถแหงนมองบันไดเจ้ากรรม  เหอ

สำหรับผมมันยังน่ากลัวอยู่ดี   ในห้องมีอั้ม  ไอศักดิ์  และไอหนุ่มเพียงสามคนหน้าตาแต่ละคนบ่งบอกว่ากำลังได้ที่ทีเดียว

 ผมนั่งลงร่วมวงด้วยไม่นานแก้วเบียร์ก็ถูกส่งต่อมาถึงผม  ตอนนี้อั้มแถมานั่งข้างๆ เกาะแขนผมแน่น แรก ๆ ผมก็อายนะ

ครับ และกลัวน้องหนุ่มเข้าใจผิด ( เรื่องไร ) พอดีกรีถึงหน้าเริ่มตึงแล้วความด้านมันก็แผ่ออกมาเอง เรานั่งคุยกันเรื่อง

สัพเพเหระทั่วไป สลับกับที่ไออั้มมาปะเหลาะผม   ผมสังเกตได้อย่างหนึ่งในวงสนทนาที่สนุกสนานแต่แววตาไอหนุ่มดู

เศร้า ๆ  อ่ะ แหนะ แหนะ แน  หึงพี่ละซี....... :m13:..เปล่าเลยครับผมถามเพราะอดใจไม่ได้ที่เห็นมันนั่งซึม คาดคั้นเอา

หน่อยมันก็ยอมเล่าให้ฟัง   

                                    “ ตัดวีคนี้ผมก็จะกลับบ้านแล้วพี่ พ่อให้กลับ”  มันพูดไม่ได้มองหน้าใครแล้วก้มหน้าสูบเบียร์ต่อ
 
                                     “ อืม   กลับไปเยี่ยมบ้านมั้งก็ดีท่านคงคิดถึง”  ทำเป็นรู้ดีครับ ทีตัวเองยังไม่เคยกลับเลย

                                       “ พ่อให้กลับไปเรียนต่อ”  เด็กสมัยนี้ครับได้เรียนแล้วทุกข์หนัก  อนาคตของชาติ

                                       “ ก็ดีแล้วนี่ ไม่เรียนปริญญา เรียน ปวส.ก็ได้แค่สองปีก็จบแล้ว”  ผมไม่แปลกใจหรอกครับที่

มันต้องไปเพราะผมคาดการณ์ไว้แล้ว พ่อกับพี่สาวมันอยากให้เรียนแต่ติดที่มันมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเลยต้องลงมาหางาน

ทำที่นี่ก่อน
                                       “ครับ  ก็คงอย่างนั้น”  ดูเหมือนว่ามันจะยอมรับความจริงได้ว่ายังไง ๆ มันก็ต้องกลับไปเรียน

                                        “ เรียนที่นี่ก็ได้เดี๋ยวอั้มส่งเรียนเอง”  โหแรงนะครับคุณอั้มทำตัวเป็นเศรษฐีนี คิดจะเลี้ยงต้อย

                                        “จะส่งไอหนุ่มเรียนส่งพี่เรียนด้วยก็ได้นะ”  น้าน  ผมปากหาเรื่องอีกแล้วครับ

                                       “ งั้นอั้มไม่ส่งไอหนุ่มแล้วส่งพี่พงษ์ดีกว่าตลอดชีวิตเลยนะ” มันเอาตัวมาอ้อนเอาเซาะแขน

ผม    กำ   ไม่น่าปากดีเลยกรูแต่ดูเหมือนไอหนุ่มจะอารมณ์ดีขึ้น   

                                        “เออ   พี่ว่าพี่ไม่อยากเรียนแล้วหล่ะขี้เกียจอ่านหนังสือ”   ไปส่งไอหนุ่มต่อเหอะ ยกให้เลย  เห็นหน้าแล้ว  จึ้ยส์.

วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ไอหนุ่มจะได้มากินเหล้า (เบียร์ ) กับผมและก็ไอศักดิ์ เพราะอีกแค่สามวันก็จะตัดวีคแล้วหลังจาก

นั้นเราคงไม่ได้เจอกัน  แต่ทำไมผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย  ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ใด ๆ ที่มันจะจากไปมีแต่ความรู้สึกดีที่มันจะ

ไปมีอนาคตที่ดีกว่า   ผมเข้าใจตัวเองแล้วว่าผมแค่อยากอยู่ใกล้ ๆ อยากดูแลใส่ใจเหมือนน้องชายคนหนึ่งแค่นั้น   

เหมือนกับไอนันนั้นแหละ   แต่ว่าวันนี้มันเลือกที่จะเลี้ยงส่งท้ายที่ห้องนี้มันคงเป็นที่เดียวที่มันจะสบายใจที่สุด หารู้ไม่ว่า

เรื่องวุ่นวายกำลังจะตามมาเมื่อ

                                               “ ศักดิ์เบียร์หมดแล้ว ออกไปซื้อให้พี่หน่อย”  ผมควักเงินในกระเป๋าส่งให้ไอศักดิ์พอที่จะซื้อเบียร์เท่าที่จะกินอีกได้
                                                “ ผมไปถือช่วยศักดิ์นะพี่”   อืม.....ไอหนุ่มมีน้ำใจจริง ๆ 

                                                “ อ้าว  เฮ้ยแล้วพี่หล่ะ”   ไอหนุ่มจะทิ้งพี่ไว้คนเดียวเหรอ  อย่างนี่ก็แย่นะสิ  มาวางปลาย่างไว้กับแมวได้ไง

                                                 “ พี่พงษ์ก็อยู่เป็นเพื่อนอั้มสิจะเป็นไรไป”แต่สายตากรุ่มกริ่มนั้น  บ่งบอกว่าผมต้อง

เป็นไรแน่ ๆ เลย   ไอหนุ่มก็ไม่ได้รอดูใจผมสักนิด  แล้วมันจะมาง่ายรึเปล่าภาวนานะครับอย่าให้ไออั้มมันได้เข้าสิง  เอ้

ยเข้ามาทำอะไรผมเลย     ถ้าให้อยู่กับไออั้มขอให้ผมอยู่เหงา ๆ คนเดียวดีกว่า  นึกยังไม่ขาดคำเลยครับ………….

                                                “ จุ๊บ........”  ผมสะดุ้งโหยงต้องลุกอย่างเร็ว   มันรู้สึกขนลุกครับ อึ้ยส์  จักกะเดี้ยม

                                                 “ อั้มทำไร”  มันเข้ามาด้านหลังตอนที่ผมนั่งอยู่ แล้วมาขโมยหอม  (เหม็น ) แก้มผมอ่ะ

                                                 “ล้อเล่นหน่อยเดียวเองน่า หวงไปได้”  พระเจ้าช่วยมันเห็นแก้มผมเป็นไรนี่  ยังไม่มี

ชายใดได้สัมผัสมันเลยนะ ( แน่ใจเหรอ อิอิ ) แล้วมันก็เดินไปล็อคประตู




                                                   :angry2:      อ้ากกกกกกกก.................................  อั้มอย่าเล่นบ้า ๆ นะ  พี่ยังไม่อยากรับผิด

ชอบชีวิตใคร   ไม่ใช่  ๆ  พี่ยังไม่เมาดีเลยนะ เอ้ย....... นี่เดียวพวกนั้นกลับมาเจอพี่จะเอาหน้าว้าไหน     ด้วยอารามตกใจ

สมองผมมันคิดได้แค่นี่เองเหรอครับแต่ถ้าเข้ามาจริงมรึงตายยยยย ( กรูตาย )   หลังมันล็อคประตูแล้วมันก็วิ่งไล่ ผมต้อง

วิ่งหนีมันรอบห้อง  ผมไม่รู้ว่ามันจะล้อผมเล่นหรือมันจะเอาจริงที่รู้คือ ผมกลัว  และผมไม่มีแรงจะต่อสู้มันเลยผมเป็น

ขนาดนั้นเลยผมหลบขึ้นไปยืนบนที่นอนตรงมุมพอดี   ตายหล่ะตรงนี้เป็นจุดล่อแหลมที่จะเกิดอันตรายกับมากที่สุด มันยืน

ยิ้มสายตาเยิ้มมองหน้าผม   “ อั้มขอนะ”  ง่า สติผมกำลังจะแตกมันจะข่มขืนผม
 o21 :serius2: o22
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 20-09-2007 15:04:15


ขออะไรกานค่า................

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์  เจ้ขอมั่งจิ  :m3:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-09-2007 20:18:14
เฮ้ย ขอกันง่าย ๆ แบบนี้เลยอ่ะ   :a5:  :a5:  :a5:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 20-09-2007 21:39:43
จะรอดมั้ยเนี้ยยย :m28:

รออ่านต่อน๊า o15
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 20-09-2007 23:13:52
 :o
แล้วจะให้เค้าป่ะเนี่ย เค้าอุตส่าห์ขอแล้วนะ  :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 21-09-2007 05:02:08

กร๊ากกกก

อั้มเค้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอตัวเอง

ถึงต้องวิ่งหนีซะรอบห้องอย่างนั้นน่ะ  :m20: :m20:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 21-09-2007 14:34:46

............อั้มขอไรอ่ะ.......คิดไม่ทัน......... :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-09-2007 22:41:16
เออ .... ที่บอกว่าเลือดสาดนี่คือ อั้มโดนขวดเบียร์ฟาดหัวป่าวคับ  :m26: เหอะๆๆๆ  o17
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 22-09-2007 09:49:35
…………………………………………………………….

                          :o11: :o11:          ที่มุมห้องตอนนี้ทำไมมันดูมืดสนิท ทั้งที่แสงไฟยังสว่างจ้าอยู่แท้ ๆ  อากาศร้อนอบ

อ้าวไม่มีแม้สายลมจะพัดผ่านเสียงเพลงที่บรรเลงได้เปลี่ยนแนวไปแล้วมีแต่เสียงสะอื้นเข้ามาแทนที่   น้ำใส ๆ ไหลหยด

ลงบนหัวไหล่ที่เปลือยเปล่า  มีเพียงเศษเสื้อที่ขาดรุ่งริ่ง แนบปิดกับหน้าอกด้วยมือข้างซ้ายแต่มันเหมือนจะไม่มีแรงกด

เลยด้วยซ้ำ  ผมรู้สึกเจ็บทั้งเนื้อตัวรอยช้ำมากมายบ่งบอกว่าผู้ที่ถูกกระทำจะต้องทนกับความเจ็บปวดนั้นตั้งเท่าไหร่   

คราบเลือดบนที่นอนตอกย้ำให้รู้ว่า ผมไม่มีอะไรเหลือแล้ว  มันได้ทำลายทุกอย่าง  ผมจะกล้าอยู่สู้หน้าใครได้   

ผมจะอยู่ได้อย่างไร   ฮืฮ  ฮือ...... .อึก.....ฮือ ....      ไม่ไหวแล้ว  ผมทนไม่ได้แล้ว    ใช่.......บันไดนั้นสูงพอที่จะทำให้ผม

ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวเจ็บปวดนี่ได้...



                                                                :sad2: :sad2:






                                     
ไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่  มา  มา  เข้ามาเลย  ไม่ต้องปล้ำกรูหรอก กรูจะปล้ำเมิงเอง  55 มา

         
                                                       “ อั้มจะขอไรพี่”   ใจหวั่นเหมือนกันกลัวมันจะพูดอย่างที่คิดออกมา  แต่สู้โว้ย

                                                       “ อั้มอยากขอ    เออ   คือ  คืนนี้พี่พงษ์อย่ารีบกลับได้ไหม” เหอ  นึกว่าจะ...........

ตอนนี้แต่นั้นไง มันต้องรอพวกนั้นกลับก่อนแน่ ๆ  ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ

                                                        “......เออ..........”   

                                                       “ก๊อก  ๆ  ๆ   พี่พงษ์ เปิดประตูหน่อย”  เหอ... ค่อยยังชั่วไอพวกนั้นกลับมาแล้ว..... :serius2:.......ว้ากกกก  กไอพวกนั้นกลับมาแล้ว ตายแน่ครับ  ผมจะบอกพวกมันยังไงดีมันถึงจะเชื่อ มันคงไม่

คิดว่าผมจะล็อคห้องทำไรกันหรอกนะ   เป็นใครก็ต้องคิดกันทั้งนั้นแหละ  ผมต้องรีบเปิดประตูให้เร็วที่สุดแล้วทำเป็น

ร้องไห้ซบอกไอหนุ่มแล้วบอกมันไปว่าโดนปล้ำ       

                                                      ความคิดไม่เร็วเท่าการกระทำ ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูแล้วก็..

                                                    “ เฮ้ย  ทำไมไปนานนักว่ะ”  แกล้งว่ามันไปก่อนที่มันจะถามอะไร ทั้งที่ร้านเดินจาก

หอสิบก้าวก็ถึง     กำ  พวกมันไม่ตอบครับแถมทำตาเยิ้มหลับตาปิ้ง ๆ เชียว  น่าเตะนะเมิงไอศักดิ์
                                               

                                                  “ บ้าน่า พี่ไม่ได้ทำอะไร”  ร้อนตัวครับ  แต่จริงอ่ะ

                                                  “ อั้มอดใจไม่ได้เลยไล่ฟัดพี่พงษ์เองแหละ”  เจ้ย   อินี่เป็นหมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดมาได้หน้าผมร้อนผ่าวรีบปฏิเสธพัลวัน

 ไม่ไหวแล้วครับพูดไปผมมีแต่จะเสียหายขอกินเบียร์อย่างเดียวนี้ดีกว่าปล่อยพวกนั้นคุยหัวเราะกันคิกคักสนุกสนาน ต่อ

ไป  ผมก็ทำหูทวนลมไปซะแค่ไอหนุ่มมีความสุขไม่ต้องแบกความทุกข์กลับไปที่บ้านก็พอครับ   แต่อนิจจาผมกับไหนุ่ม

และไอศักดิ์ต้องแบกความเครียดกลับห้องนี่สิ

                                            “อั้มเดี๋ยวพวกเรากลับนะมันดึกมากแล้ว”ไอศักดิ์รู้หน้าที่ดีจริง ๆ  (อีกหน้าที่หนึ่งต้องไปส่งกรู )

                                            “อยู่ต่ออีกเดี๋ยวสิ นะหนุ่มนะ” อั้มทำหน้าอ้อนวอน

                                             “พรุ่งนี้พวกพี่ทำงาน ไม่ได้เข้ากะดึกเหมือนอั้มนะ”  ผมก็หาเหตุผลอ้างเพราะง่วงเต็มทน

แล้วก็ลุกไปเปิดประตูเดินออกไปสองคนนั้นก็ลุกตาม   อั้มก็ลุกมาด้วย
 
                               “พี่พงษ์ อยู่ก่อนนะ ให้สองคนนั้นกลับก่อนก็ได้” สงสัยคืนนี้มันกะจะเอาผมแน่  เห็นผมไม่โต้ตอบ

อะไรตอนที่มันวิ่งไล่คงจะคิดว่าผมเล่นด้วย

                                               “ พี่อยู่ไม่ได้หรอกนี่มันดึกแล้วพรุ่งนี่พี่ต้องทำงาน” ตอนนี้เริ่มเครียดครับทีแรกก็คิดว่า

มันจะพูดเล่นแต่มือมันกำกำปั้นแน่น  กัดฟันกรอด  ๆ   

                                              “จะรีบกลับไปหาอิพลอยละสิ” มันตาแดง ๆ หายใจฝืด  มือสั่น 

                                              “พลอยเพยที่ไหนอั้มอย่าพาลคนอื่นสิ”  ผมชักฉุน เลยเดินลงบันไดไปก่อน ไอหนุ่มกะไอ

ศักดิ์มันก็เอ๋อแด* เพราะไม่รู้ว่าเราพูดถึงใคร

                                             “พี่พงษ์ ....ฮือ    ฮือ....พี่พงษ์รังเกียดอั้มใช่ไหม”   ภาพที่ผมเห็นอั้มยืนร้องไห้ที่หน้าประตู

ริมฝีปากกระทบกันสั่นไม่เป็นจังหวะ มือสองข้างกำแน่นเหยียดวางข้างลำตัว   ผมไม่เข้าใจเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ทำไมเขาถึงอยากให้ผมอยู่ที่นี่ กลัวว่าตอนนี่อั้มคิดอะไรกันแน่     

                                              “ พี่ไม่ได้รังเกียดอั้ม แต่พี่ต้องกลับห้องนอนพี่ต้องทำงานนะ” ไอหนุ่มกับไอศักดิ์เดินลง

มายืนข้าง ๆ ผมเหมือนมีคำถามมากมายที่มันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

                                                “พี่นอน.....ที่นี่....ก็ได้นี่ …ฮือ   อึก   อึก  .”   ความพยายามมันสูงแต่ความอดทนผมลด

ต่ำ แสดงออกทางสีหน้าโดยชัดเจนผมไม่สนว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะมีอาการอย่างไรแล้วผมจะต้องเรียกสติมันกลับมา

                                               “ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง  พี่จะไม่มาที่นี่อีกแล้วอั้มจะไมได้เจอพี่”  ผมยื่นคำขาดคิดว่ามันคง

อยากจะเจอผมต่อไป ( คิดว่างั้นนะ )

                                                “พี่ไม่อยากมาใช่....ไหม.....อั้มก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน”   อั้มสะอึ้นหนักกว่าเดิมจนคน

ข้างห้องต้องเปิดประตูออกมาดู   อั้มค่อย ๆ  เลื่อนมือที่กำแน่นขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับหน้าอก แสงสะท้อนของโลหะ

บางอย่างที่อยู่ในมือนั้นทำให้พวกเราต้องตกใจสุดขีด  ยังไม่ทันได้พูดอะไรอั้มก็ยกแขนซ้ายให้อยู่ระดับเดียวกัน   

และบรรจงกรีดปลายมีดลง         :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 22-09-2007 17:30:42
 :o
ทำไมกลายเป็นงี้  :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 22-09-2007 19:47:43
   .มาต่อได้นิดหน่อยเองครับ    เดี๋ยววันจันทร์มาต่อให้ใหม่  นะครับ

ไปแระ     :m7: :m7:
 

...

เหตุการณ์วันนั้น ถึงจะผ่านมาแล้วสองวันแต่มันยังทำให้ผมหวาดผวาอยู่ไม่น้อยทีเดียว   ผมเข็ดขยาดที่จะกินเบียร์มาแล้วสองวัน ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีกับสุขภาพตัวเอง   และก็แอบหวังว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้นาน  ๆ  แต่การเอาชนะใจตัวเองนี่สิมันช่างแสนยากจริง ๆ  วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้เจอไอหนุ่มที่ทำงานพอเลิกงานมันคงจะกลับบ้านเลย  ว่าแล้วก็รีบตื่นไปทำงานดีกว่า........................


ตอนเช้าที่โต๊ะทำงานก็เหมือน กับทุกวัน  แต่วันนี้ไม่มีนมรสสตอเบอรี่แล้วเพราะผมเป็นคนเลือกที่จะปฏิเสธก่อนที่อะไร ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปมากกว่านี้อีกอย่างวันนี้ไออั้มมันเข้ากะกลางคืนด้วย  ผมไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีคนรู้มากน้อยแค่ไหนรู้แค่เพียงผมไม่มีวันไปที่นั้นอีกแล้ว  แต่ก็ใช่ว่าจะใจดำตัดสัมพันธ์กับเจ้าของห้องเพียงแต่ผมไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวในฐานะที่เกินคำว่าเพื่อน  แต่อั้มก็ยังไม่วายที่จะแผงฤทธิ์ให้ผมได้ปวดหัวเมื่อ

                              “ พี่พงษ์  ไอหนุ่มไม่มาแล้วนะมันบอกจะกลับบ้านเช้านี่”  ผมอึ้งนิดหน่อย เพราะวันนี้ตั้งใจจะบอกลามันอย่างเป็นทางการแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะความรู้สึกผมตอนนี้ก็คิดว่ามันเป็นน้องคนหนึ่ง พี่สาวมันยังทำงานอยู่แถวนี่สักวันก็คงเจอกัน มันคงมีเรื่องด่วนจริง ๆ 
                                “อืม    มันโทรมาบอกเหรอ”  ผมถามไอศักดิ์ดวยเสียงผิดหวังนิดหน่อย

                                “ ป่าวพี่มันฝากเพื่อนข้างห้องบอก”  ใจดำจริงนะเมิงโทรบอกสักคำก็ไม่ได้ ผมได้แค่บ่นในใจ

                                “ เขาบอกว่ามันโทรมาหาพี่นะแต่โทรไม่ติดอ่ะ”   ไอนี่เจือกรู้อีกว่ากรูคิดอาไร

                               “ ออ...เออ...ใช่พี่ไม่ได้เปิดเครื่อง”  จะเปิดได้ไงครับไออั้มมันโทรตามตื้อตามจิกผมยังกะอะไรดี ( อะไรหล่ะ )

                                “........................”   ไอศักดิ์ก็คงจะเข้าใจว่าทำไมผมต้องปิดโทรศัพท์

                               “นี่พงษ์ ได้ข่าวว่าเกิดศึกชิงนาง เอ้ย ชิงชายกันเหรอ”  แม่นกขุนทองของผมมามุขไหนอีกนี่ คงจะหมายถึงเรื่องที่
เทควันนั้น ผมไม่ยากได้ยินเรื่องนั้นอีกแล้ว  ฮือ  ๆ   
                               “ป่าวนี่  ใครแย่งใครที่ไหน”  ตอบไปแบบหน้าแอ๊บแบ้วเท่ซู้ดดดดดด

                                “ก็เมื่อคืนนี่ไง”   เมื่อคืนเหรอ..........ออย   โล่งอกไปทีไม่ใช่ผม

                                “เมื่อคืน....ไออั้มไปด่าพลอย( กะดึกเหมือนกัน )ที่ทำงานว่าอย่ามาแย่งผัวมันถึงที่เลยนะ คิ คิ”  ผมเข่าอ่อนเลยครับอยากจะทรุดตัวนั่งชักกะแด่ว ๆ  ให้ตายไปกับเสียงหัวเราะของพวกเธอให้รู้แล้วรู้รอด   แต่ว่าผมไปได้เสียกับมันเมื่อไหร่นี่   แค่มันได้หอมแก้มผมนี่นะ ว่าผมเป็น......(อึยส์ )....มันแล้วเหรอ  อย่างงี้ผมก็มีเป็นเข่งแล้วสิ  ( เวอร์  ๆ   อันนี้คิดไปเอง  ) 

                               “ เหรอ  มันพูดแบบนั้นเลยเหรอ”  ผมตกใจไม่รู้จะตอบว่ายังไง ไอศักดิ์กะคงไม่น้อยไปกว่ากัน   ยืนนิ่งไปพักนึงก็แกล้งกลบเกลื่อนหัวเราะ  ทำให้เป็นเรื่องสนุกไป  ไม่เป็นไรอย่างน้อยผมก็ยังมีไอศักดิ์ที่เข้าใจ  แต่คนที่ยืนรับฟังไออั้มด่าเมื่อคืนจะรู้สึกอย่างไร  ทั้งที่พลอยไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย..........  ผมห่วงความรู้สึกพลอยเหรอ ทำไม ทำไมหล่ะ



                “ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง  พี่จะไม่มาที่นี่อีกแล้วอั้มจะไมได้เจอพี่”  ผมยื่นคำขาดคิดว่ามันคงอยากจะเจอผมต่อไป ( คิดว่างั้นนะ )
                                                “พี่ไม่อยากมาใช่....ไหม.....อั้มก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน”   อั้มสะอึ้นหนักกว่าเดิมจนคนข้างห้องต้องเปิดประตูออกมาดู   อั้มค่อย ๆ  เลื่อนมือที่กำแน่นขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับหน้าอก แสงสะท้อนของโลหะบางอย่างที่อยู่ในมือนั้นทำให้พวกเราตกใจต้องตกใจสุดขีด  ยังไม่ทันได้พูดอะไรอั้มก็ยกแขนซ้ายให้อยู่ระดับเดียวกัน   และบรรจงกรีดปลายมีดลง

                                                “อั้ม อย่าทำบ้า ๆ อย่างนั้นนะ”  เสียงไอหนุ่มร้องห้ามก่อนที่ปลายใบมีดโกนนั้นจะลงถึงเนื้อ

                                                “ ใจเย็น ๆ  ก่อนนะ  มีอะไรค่อย ๆ พูดกัน”  ไอศักดิ์พูดด้วยเสียงที่ราบเรยบและนุ่มนวลที่สุด

                                                “ ไม่มีใครเข้าใจอั้มเลย  ทุกคนมาแล้วก็ไป ฮึ   ฮึ   ฮือ ”   อั้มมันร้องไห้หนักกว่าเดิม  มือที่ถือมีดนั้นมันสั่นเทาไม่เป็นจังหวะแค่ใช้แรงกดอีกนิดเดียวมันก็คงจะปักลงบนผิวนั้นได้ไม่ยาก

                                                 “ เอาอย่างนี้นะ  พวกพี่จะอยู่ต่อกับอั้มจนกว่าจะสบายใจขึ้นนะ” ผมเดินขึ้นบันไดกลับไปที่หน้าห้อง ก่อนจะบอกให้ไอศักดิ์เดนไปบอกแนนกับลอล่าซึ่งอยู่ที่หอถัดไป ส่วนไอหนุ่มเดินตามผมขึ้นมา

                                                  “ อั้มพี่ว่าเราคุยกันดี ๆ ก่อนนะ อย่าคิดทำอะไรแบบนี้”   มันก็คงจะยอมฟังบ้างอาการมือสั่นหายไป  ไม่มีเสียงร่ำไห้  มีเพียงอาการสะอึ้นที่มันยังคั่งค้างอยู่   

                                                   ผมเดินจูงแขนอั้มให้เข้าไปในห้องและให้นั่งลงที่เตียง

                                                 “ อั้มพี่ขอนะ”

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-09-2007 19:53:02
ขออาราย  :a6:  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหมาหยอกไก่ ที่ 22-09-2007 23:05:36
 :a9: :a9:

ขออารายยยยยยยย  อิอิ

 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 23-09-2007 12:53:39
 :m13: :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 23-09-2007 13:46:09
ขออารายยอีกเนี่ย ขอกันไปขอกันมา  :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 24-09-2007 02:13:11
อั้ม ..... พี่ขอไปขี้ก่อนนะ ......  o17
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 24-09-2007 08:01:31
 :impress: :o8: :give2:


       โหย   คุณจืด  เข้ามาไก้ไงครับ  ดีใจเหลือหลาย ว่าแต่เรื่องตัวเอง อ่ะ เมื่อไรจะลงให้จบซะที



คุณ  พี  เดาถูกใจเชียวนะครับ  พอไปขี้แล้วแอบมุดหนีทางโถส้วมเลย  55 5  :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 25-09-2007 17:03:31
 ........................................................

ต่อได้หน่อยเดียวเองครับ    งานเยอะมากมาย  ใครก็ได้มาช่วยที เปิดรับหมักงานด่วน


...

                                                 ผมเดินจูงแขนอั้มให้เข้าไปในห้องและให้นั่งลงที่เตียง


                                                 “ อั้มพี่ขอนะ”  ผมพูดอย่างจริงใจที่สุด

                                                   “ พี่ขอใบมีดนะ อย่าทำอย่างนั้นอีก   มันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ ชีวิตอั้มมันไม่ได้สำคัญ

อยู่ที่พี่อั้มยังมีคนอื่นอีกมาก”   ดูเหมือนคนอื่นจะเข้ามาในห้องแล้วก็มีลอล่า แนนแล้วก็ไอศักดิ์สองคนนั้นคงจะรู้เรื่องจึงไม่

มีใครเอ่ยถาม

                                                     “ พี่พงษ์เกลียดอั้มใชไหม ถึงไม่อยากอยู่กับอั้ม” ให้ตายเถอะครับ มันไม่ยอมลดละเลยจริง ๆ

                                                     “อิอั้มเมิงเป็นบ้าไปแล้วเหรอ เมิงจะให้พี่พงษ์มาอยู่กับเมิงได้ไง” ลอล่าคงจะวีนแตก

กับคำพูดและท่าทางของเพื่อนที่อยู่ตรงหน้า
   
     
                                                        “พี่อยู่กับอั้มไม่ได้หรอก พี่ไม่ได้คิดกับอั้มแบบนั้น”  ผมพยายมกลั้นอารมณ์ตัวเอง

กับความดันทุรังของคนที่เอาแต่ใจนั้นไว้ให้ใจเย็ยที่สุด  ถึงแม้ผมเริ่มจะอึดอัดและรู้สึกได้ว่าคนอื่นก็คงจะระอาเหมือนกัน

                                                           “ ทำไมละ อั้มเป็นยังไง ทำไมพี่พงษ์ไม่ชอบอั้ม  ชอบอิพลอยละสิ” แล้วมันก็ทำ

ท่ากระฟัดกระเฟียดกำกำปั้นแน่นจิกเล็บตัวเอง  ส่วนอีกข้างยังถือใบมีดไว้  แล้วน้ำตามันก็พังลงมาเต็มที่  ทุกคนก็

ช่วยกันห้ามไม่ให้อั้มกรีดข้อมือตัวเอง   

                                                           “ เออ......อยากทำอะไรก็ทำไป ไม่อยู่ที่นี่แล้ว  คิดว่าตัวเองมีค่าแค่นี้ก็ตามใจ

ไอหนุ่มไอศักดิ์กลับ”แล้วผมก็รีบเดินลงบันไดไปทันที ไม่แม้แต่จะมองกลับไปดู   ความอดทนผมคงจะถึงขีดสุดตอนนี้ผม

ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  ในความคิดก็คิดว่ามันคงจะเรียกร้องความสนใจมากกว่าคงไม่ทำร้ายตัวเองจริงๆ แน่ถ้าขืนผมเล่น

ตามเกมนั้น ผมก็คงจะมีแต่แพ้กับแพ้   ถึงจะดูใจร้ายแต่ผมคิดว่าดีที่สุดแล้ว 

ไอหนุ่มกับไอศักดิ์รีบเดินตามผมลงมา ไอศักดิ์จูงรถออกไปมันคงเข้าใจว่าผมคิดยังไง  ไออั้มมายืนดูเราที่หน้าบันไดใน

ไอมันยังคงกำมีดอยู่ เสียงร่ำไห้ยิ่งแรงขึ้นเป็นทวีคูณส่วนคนอื่นคงได้แต่ยืนอยู่ห่าง ๆ   ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป

                                      “ อั้มอย่าทำอย่างนี้ มันจะทำให้คุณค่าของอั้มลดลงหายเมื่อไหร่คอยมาคุยกัน” ผมไม่รู้หรอกว่า

ที่ผมพูดไปแบบนั้น ผมจะทำได้  แค่เพียงเพื่ออยากให้อั้มมันคิดบ้าง 

                                         “  ฮือ  ๆ  ถ้าอั้มไม่ได้พี่พงษ์ คนอื่นก็จะไมได้เหมือนกัน  ฮือ  อึก  อึก”  นี่เป็นคำส่งท้ายที่อั้ม

ฝากให้ไว้  ก่อนพวกเราจะกลับออกมา  อย่างน้อยผมก็มั่นใจได้ว่า อั้มมันจะไม่ทำอะไรตัวเอง เพราะคงจะเก็บแรงไว้เป็น

ศัตรูกับใครก็ตามที่เขามายุ่งเกี่ยวกับผมแน่ 


                            ไออั้มไม่ได้ทำร้ายตัวเองแต่ตอนนี้มันทำร้ายคนอื่นแทน คน ๆนั้นคือผม   และใครอีกคนที่คิดว่าเขา

จะมาแย่งผมไปจากมัน






                               “ เหรอ  มันพูดแบบนั้นเลยเหรอ”  ผมตกใจไม่รู้จะตอบว่ายังไง ไอศักดิ์ก็คงไม่น้อยไปกว่ากัน   ยืน

นิ่งไปพักนึงก็แกล้งกลบเกลื่อนหัวเราะ  ทำให้เป็นเรื่องสนุกไป  ไม่เป็นไรอย่างน้อยผมก็ยังมีไอศักดิ์ที่เข้าใจ  แต่คนที่ยืน

รับฟังไออั้มด่าเมื่อคืนจะรู้สึกอย่างไร  ทั้งที่พลอยไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย..........  ผมห่วงความรู้สึกพลอยเหรอ ทำไม

ทำไมหล่ะ    อืม....อย่างน้อยผมก็ควรจะหาโอกาสไปขอโทษพลอยที่ทำให้เดือดร้อนด้วย     เรื่องนี้ถูกกระจายข่าวไปอย่าง

รวดเร็วมีคนมากมายเข้ามาสอบถามโดยเฉพาะไอทักษ์ที่มันเห็นเป็นเรื่องตลกหัวเราะล้อผมได้ทั้งวัน  แต่ที่หนักกว่าคือ

ไอพี่ลมนี่สิครับ เยาะเย้ยถากถางผมสารพัด ไม่ชอบหน้ามันเลยจริง ๆ  มันจะมาตั้งตนเป็นศัตรูกับผมเหรอ

แต่วันนี้หลังเลิกงานผมจะต้องไปเลี้ยงเหล้ามันคืนนี่    เห้อเหนื่อยใจ ไม่น่าไปกินของมันก่อนเลย (ตังค์จะพอรึเปล่าหนอ )

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-09-2007 19:17:02
 :try2: ถ้าเธอไม่รักตัวเอง ไม่ยอมดูแลแม้ตัวเอง แล้วเธอจะรักฉันยังไง
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 25-09-2007 19:26:53

...........คุณค่าของตัวเอง.......

..........วางอยู่บนชีวิตคนอื่นหรือไร.......... :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 26-09-2007 08:44:36
 :เฮ้อ: หนักใจแทนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 26-09-2007 16:32:37
อ่ะ ดันไปยั่วเขาไว้นี่
งานนี้จะเป็นปมแก้ยากซะแล้ว
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 27-09-2007 09:59:19
 :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:   :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:

แรงจัง    :a6:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 27-09-2007 14:25:15
 :try2:วันนี้จะมาต่อมั้ยน้า รออยู่นะคนดี :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 27-09-2007 19:38:23
...

                               
                        “ ป้าครับ    เอาม้ากระทืบโลงกลมหนึ่ง”  ผมสั่งยาดองป้าที่ร้านเดิม ขณะที่นั่งอยู่บนมอไซค์ไอทักษ์

                         “หายไปหลายวันเลยนะ  แล้ววันนี้ไม่กินที่นี่เหรอ”   ป้าแกคงสงสัยที่ผมไม่ลงไปนั่งที่โต๊ะ

                        “ ครับ   จะไปกินที่ห้องเพื่อนครับ”   วันนี้ไอทักษ์ชวนไปกินที่หอมันแทน  เพราะต้องรอไอพี่ลมเคลียร์งานเสร็จก่อนถ้าขืนรอที่นี่มีหวังผมคงได้คอพับก่อนแน่
                         “ กลมเดียวจะพอเหรอป๋า”  เมิงเรียกกรูป๋าอีกแล้วเดี๋ยวป้าก็เข้าใจกรูผิดหรอก

                        “ไอนี่...หมดแล้วเมิงค่อยออกมาซื้ออีกเด่”  นี่กรูกะว่าจะกินคอยถ้าไอพี่ลมไม่มากรูจะไม่ต้องเปลือง

 ป้าจัดแจงใส่ถุงให้เราเสร็จทั้งมะยมดององุ่นดองและน้ำชาจ่ายตังค์แล้วไอทักษ์ก็ออกรถไป จุดหมายเราอยู่ห่างจากร้านไม่ถึงห้าร้อยเมตรทางที่เราผ่านจะเป็นตึกแถวที่เป็นห้องพักอยู่หลายตึกทีเดียว แล้วผมก็มาสะดุดตากับผู้ชายสองคนที่ยืนโบกมืออยู่ไว ไว บนชั้นสองของตึกแถวด้านซ้ายมือ 
                     “ เอ้ย เด็กป๋าโบกมือให้”  เจือกตาดีอีกนะเมิง
                     “บ้าแล้ว   เด็กที่ไหน เขาโบกให้ใครไม่รู้” ผมพูดกลบเกลื่อนไป แต่ผมก็หันไปยิ้มให้เจาของมือนั่น
                     “ทำเป็นไก๋หน่อยเลย  เมื่อคืนเขาแย่งป๋ากันอยู่ไม่ใช่เหรอ” ไอนี่ปาก(ไม่)ดีเด๋วกรูตบให้รถคว่ำเลย  ถ้าไม่กลัวขวดเหล้าแตกนะ
                     “ปากดีนะเมิง  รีบไปเลย จะได้รีบเมาแล้วกรูจะได้กลับ”  ตัดรำคาญมันไม่อยากให้มันพูดมาก  ผมมองกลับไปที่สองคนนั้น ยังคงยืนโบกมือให้อยู่    แล้วพลอยกับเชอรี่อยู่หอนี่เหรอ  ก็ดีรู้ที่อยู่แล้วผมจะได้มาขอโทษพลอยได้  อิอิ






                  “กรูเมาแล้วนะเว้ยเมื่อไหร่พี่ลมจะมา”  ไหงผมไปถามหามันนี่  มันไม่มานะดีแล้วจะได้ไม่ต้องเจอกัน   
ผมรู้สึกเริ่มมึน ๆ เมื่อเหล้าหมดไปแล้วเกือบกลม  มีผม  ไอทักษ์ แล้วก็เพื่อนไอทักษ์อีกคนชื่อน็อต มันตามมาทีหลังเราเลือกสนามหญ้าข้างหอมันเป็นที่ตั้งวงแต่ก็บรรยากาศดีครับ
                  “ คงออกมาแล้วม้างเห็นบอกทุ่มหนึ่งนี่”  ไอทักษ์ก็บอกไป เหล้าก็เข้าปากไป   แต่มันตายยากจริง ๆ ครับ  มันขับรถมอไซค์เข้ามาจอดข้าง ๆ  แล้วก็มีอีกคันเข้ามาจอดคู่กัน ไอพี่ลมก้าวลงมาจากรถเดินตรงมาที่เราและตามด้วยพี่สอที่มาอีกคัน

                  “ โห  พี่มาช้าจังเลยนะมีคนเข้าบ่นคิดถึง”   ไอทักษ์พูดไป แต่ตามันหันมามองผมนี่  ก็ร้อนตัวสิครับเรื่องอะไรผมจะนึกถึงมันถ้าไม่มีไอพี่นี่จะดีมาก
                 “ เฮ้ย   ใครบ่นคิดถึงที่ถามหาหน่ะกลัวเหล้าหมดก่อนจะว่ากรูไม่เลี้ยงอีก” ผมค้อนไอทักษ์ไป อยากทำเป็นรู้มากนัก  ชิ

                  “ ส่งสัยกรูต้องซื้อกินเองแล้วหล่ะไอทักษ์”  แล้วไอพี่ลมก็หย่อนตูดลงที่ข้าง ๆ เบียดจนแทบล้มในท่านั่ง
 
                    “แล้วไม่นั่งตักเลยเล้า” อารมณ์เสียดิที่มีตั้งเยอะแยะจะมานั่งเบียดอะไรตรงนี่

                    “ จะให้นั่งจริงเหรอ งั้นลุกขึ้น”   งง  กะมันจะเอาไงมันจะนั่งตักผมแล้วจะให้ลุกทำไม   

                    “ เอา....ทำไมต้องลุกด้วย” ไม่ใช่อยากให้มันนั่งตักผม แต่คนไม่เข้าใจอ่ะ

                    “ ก็พี่จะได้นั่งก่อนแล้วพงษ์ค่อยนั่งตักพี่ไง”   ผมชักฉุนไม่รู้มันจะมามุขไหนได้แต่ทำหน้าบึ้งไปใครจะไปนั่งตักเมิง

                    “ เอ้า...กัดกันอยู่ได้ วันนี้จะได้กินเหล้าไหมเนี้ยะ” พี่สอยืนดูเราอยู่นานคงรำคาญ ที่แน่ ๆ เหล้าจะหมดกลมแล้ว

        ผมมองหน้ามันทำตาขวางใส่แต่ไอพี่ลมนั่งยิ้มหน้าตาเฉย แต่เวลามันยิ้มก็ดูดีนะ( แหวะ )  มันมีเขี้ยวด้วย  ผมยิ่งโมโหใหญ่เลยขวักสิ่งของในกระเป๋าเสื้อส่งให้มัน

                     “ อาไร  ใครจะเลี้ยงก็ไปซื้อเองเด่”  โห   อยากเลี้ยงตายหล่ะ  กินฟรีแล้วยังขี้เกียจอีก

                     “พี่สอวานหน่อยนะเพ่ นะ”  ผมทำเสียงอ้อนให้พี่สอไปซื้อเหล้าให้  คิดว่าคงไม่พลาดครับ

                     “ พงษ์จะเลี้ยงก็ต้องไปซื้อมาเดี๋ยวพวกพี่รอกิน” อืม    ตัวชาเลย หน้าแตกไปอีกรอบ แล้วผมก็มองไปทางไอทักษ์ส่งยิ้มไป อย่างจริงใจที่สุด  ไม่พลาดรอบสองหรอกครับกับลูกอ้อนของผม เพราะไงมันก็เพื่อนผมอยู่แล้ว  อ่า  ฮาส์
                  “หึ.. เราปวดฉี่ ไปฉี่ก่อนนะ”  เวร   เพื่อนกรูมึงไปฉี่ที่ร้านป้าก็ได้นิ  เรื่องของเรื่องคือผมไม่ชอบขับรถมอไซค์เองแหละครับถ้าไปไหนขอนั่งซ้อนท้ายดีกว่าจะมองดูอะไรที่ไหนก็ได้ ( แค่ข้างทางนะ ) และไม่ต้องกังวลอะไรด้วย
                  “ เออ    ไปเองก็ได้ว่ะ”  แล้วผมก็ลุกพรวดออกไป แต่เหมือนพวกนี้จะมีความสุขกันที่ได้แกล้งผมไม่เป็นไรยอมให้วันหนึ่ง

                   “ เด๋ว ให้เราไปเป็นเพื่อนนะ”   ไอน็อตครับมันวิ่งตามผมมา  แล้วก็แย่งกุญแจรถในมือผมไป   ไม่เข้าใจว่ามันจะอยากไปกับผมทำไม แต่ก็ดีไปอย่างผมไม่ต้องขับมอไซค์เอง  สมน้ำหน้าไอพี่ลมมันทำหน้าจ๋อย ๆ  ที่มันแกล้งผมไม่ได้


                    สักพักเราก็กลับมาพร้อมม้ากระทืบโลงอีกสองกลม สงสัยวันนี้ไม่โลงก็ม้าต้องพังไปข้างหนึ่ง  ผมเดินไปนั่งที่เดิมไอน็อตก็ตามมานั่งข้างผมด้วย  เหล้าแก้วเดียวถูกเวียนไปตามรอบ เสียงคุยกันหัวเราะสนุกสนานไม่ได้เกรงใจชาวบ้านชาวช่องที่เพิ่งจะเลิกงานมาแต่ผมกลับนั่งแกร่วเพราะเรื่องที่คุยมันเรื่องใต้สะดือทั้งนั้น
 
 :m10: :m10:


ที่แกร่วหน่ะ มัวแต่จิ้นอยู่อ่ะ   :m23:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-09-2007 20:08:05
โธ่ เราก็นึกว่าเงียบเพราะอะไร มัวแต่จิ้นนี่เอง  :m20:  :m20:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 27-09-2007 20:48:06
 :impress: :impress:


 คุณ  THIP  มาเร็วเสมอเลยนะครับ   ว่าแต่........  :m25:



อยากรู้ไหมกำลังจิ้นอารายยย   อิ อิ   



ปล.  ตอนต่อไปเด๋วลงบทอัศจรรย์ (ไร ) ให้นะจ้ะ


 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: anTon ที่ 27-09-2007 21:41:03
มารอติดตามอีกคนคร้าบ :m18:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 28-09-2007 14:49:41
...


หนังหน้าตึงหนังตาชักหย่อน  การทรงตัวก็แสนจะยากลำบาก สิ่งที่มันจุก ๆ  ตัน ๆ ที่บริเวณท้องเหมือนม้าจะออกฤทธิ์วิ่งวนไปแล้วก็วนมา เหล้ากลมที่สองสำหรับผมหมดไปแล้วครับ  หัวผมมันหนัก ๆ  ไงไม่รู้   หูอื้อไม่ค่อยได้ยินว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาคุยอะไรกัน

                           “เอ้ย   พงษ์เมิงลองจับดูเด่ว่าเจอรึป่าว”  พี่สอเอ่ยปากเชิญชวนให้ผมลองจับอะไรสักอย่างที่ไอทักษ์มันหาไม่เจอ o2

                             “ แล้วพี่สอหาอารายละค้าบ”  ผมอ้าปากไม่ทันเท่าที่สมองสั่งการเท่าไหร่  เฮ้อ  ๆ  (เมาตามเคย )

                             “เอ้า  ก็นี่ไงจับดู”  พี่สอไม่พูดป่าวคว้ามือมือผมไปที่เป้ากางเกงของแก






                               “หือ.............”   อึ้งครับ มือสั่นเลยไม่รู้สั่นเมารึสั่นอะไร  ก็ไอที่ผมจับอยู่นั้นมันทั้งดุ้นเลยนะครับ  จะ

ชักมือออกก็...อาส์   บ้า  ๆๆ  คิดมาก
                           
                             “ ไร อ่ะเพ่  ไม่เห็นมีอะไรเลย”  แล้วไอที่กรูกำอยู่นี่มันอะไร    (จิ้นกันเองนะ)

                               “ก็มุข  2  เม็ดไง”   

                                “..................”   :laugh:   สรุปแล้วกำลังคุยเรื่องพี่สอไปแทงมุขมา ไหงมาโยนให้ผมพิสูจน์หล่ะ  โอ้ยแค่เมาก็เต็มทนแล้วยังมาให้ผมจินตนาการไปอีกไกลเลย  ผมก็คลำ ๆไป ขนาดมันก็ไม่ได้ใหญ่ผมก็หาไอสองเม็ดนั้นไม่เจอ  ไม่ได้มีเจตนาจะจับหรอกนะครับและผมก็ไม่ได้คิดอะไรด้วย  จริง  จริ้ง   แต่ว่าไอเจ้านั้นมันดันสู้มือผมนะเส่  มันเริ่มขยายตัวขึ้น มือผมก็เริ่มสั่น ...แหง  พี่สอก็ไม่รู้จักห้ามมันมั้ง แล้วไงผมถึงไม่เอามือออกหล่ะ.......อ้าก.....ไม่นะผมไม่ได้คิดอย่างน้านนนน......แต่มันทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์ตอนที่เป็นทหารขึ้นมาทันทีภาพพวกนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวผมอยู่อีกเหรอเนี้ยะ......................... เห้อ   ผมทนไม่ไหวแล้ว ต้องรีบออกจากตรงนี้โดยด่วนไม่งั้นเด๋วหลักฐานมันจะฟ้อง

                                “ไม่ไหวแล้วพี่”   ผมวิ่งจู้ดออกจากวงมุ่งตรงไปที่รั้วทันที หาที่ ๆ ลับตาคนหน่อย แล้วก็นั่งลงปล่อยออกมาได้อย่างเต็มที่ของเหลวที่มีอยู่ในตัวพุ่งทะยานเป็นทางยาวตามแรงมือของคนลูบ    ฮาส์   รู้สึกโล่งจนตัวลอยค่อยสบายขึ้นหน่อย     แต่ว่ามันยังไม่............รู้สึกต้องมีอีกรอบหนึ่งแน่ ในท้องผมเหมือนม้าที่วิ่งวนอยู่มันปั่นป่วนตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงต้นคอผมคงจะต้องออกเป็นรอบที่สองแน่      แล้ว ก็   









                                “ อร้วก........ๆ”      รอบสองจริง ๆ   ไอพี่ลมมันตามมาลูบหลังให้ผมตอนไหนไม่รู้   รู้แต่ว่าเมิงดูดีขึ้นเยอะเลยรู้ป่าว

                                ผมก็นั่งเจ่าเฝ้าหลักฐานสักพัก ไม่รู้ไอน็อตมันเดินมาตอนไหน  มันยื่นแก้วน้ำเปล่าให้ผม   รู้แต่ว่าเมิงดูดีกว่าไอพี่ลมนี่อีกเยอะ 555  ไม่ทันที่ผมจะรับแก้วไอพี่นี่ก็มาแย่งไปก่อนแล้วก็ไล่ไอน็อตกลับไป  มันบอกจะดูเอง    เอากะมันดิ
 ผมจัดการกับตัวเองเสร็จก็ไปเข้าที่เดิมแต่ผมคงกินต่อไม่ไหว ตาก็เริ่มจะปิด ง่วงก็ง่วง เมาก็เมา  ไม่เห็นคนอื่นจะเมาเหมือนผมเลย
ไหนบอกม้ากระทืบโลงกินแล้วคึกกินคักไง  กับผมทำไมเป็นแบบนี้  ปากผมก็บ่นว่าไม่ไหว ๆ  ไม่เอาอีกแล้ว  คงจะเข็ดไปอีกนาน 

                               “ บอกแล้ว.....คออ่อน ๆ อย่ามากินแถวนี้”  ไอพี่นี่มันกัดผมทั้งที่ยังนั่งไม่สนิทเลย   คนอื่นก็หัวเราะสมเพทกันใหญ่

                                “อืม........พูดไม่เพราะ...... ตบปากสามที” ผมจีบเสียงว่ามันไปใจก็ยากจะเอานันยางส่งไปให้มันแทนแหละถ้าไม่นึกถึงตอนที่มันดูแลตอนผมอ้วก    มันพูดอะไรต่อผมก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้วกำลังจะเอนตัวลงนอนบนสนามหญ้า

                               “ นอนหนุนตักเราก็ได้นะ” ไอน็อตพูดแล้วก็เอื้อมมือมาดึงตัวผมให้เอนไปหนุนตักมัน   ผมไม่ได้คิดอะไรมากขอนอนให้สบายก่อนละกันกว่าพวกนี้จะกินเหล้าหมดอีกกลมผมก็คงจะดีขึ้นเรื่องพาผมกลับห้องให้เป็นภาระของพวกมันไป


     
                                ผมรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ไอน็อตขยับขามันคงจะเมื่อยกับแรงกดทับของหัวผม แค่น้ำหนักหัวก็มากพอแล้วนี่หัวผมหนักเหล้าอีกมันคงจะเมื่อยเป็นเท่าตัว  ผมดันตัวลุกขึ้นจะนั่งมันก็บอกให้นอนต่อ แต่เกรงใจมันครับ    ผมเลยล้มหัวลงนอนที่เดิม(เอะไง) ผมหายง่วงแล้วถึงแม้จะยังมึนๆ เลยนอนมองพวกนี่กินเหล้าแล้วคุยกัน   ผมเพิ่งรู้ว่าที่โรงงานเขาจะแข่งกีฬาในวันเสาร์จะถึงนี้  แข่งเสร็จก็มีกินเลี้ยงตอนกลางคืน    แต่ละโรงงานก็จะแบ่งออกเป็นสี  ๆ  แล้วก็คัดตัวนักกีฬาแต่ละประเทภมาแข่งกัน        กินไปได้สักพักแต่ละคนก็ออกอาการว่าเมาและพอดีกับเหล้าหมด ก็เลยต้องมีอันเลิกราวงกันไป   ทีแรกไอน็อตก็อาสาไปส่งผมที่ห้องพัก แต่ไอพี่ลมมันไม่ยอมมันจะไปส่งผมเอง   ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะอะไรกับผมนักหนาทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็กัดกันยังกับแมว แล้วมันจะมาทำดีทำไม  มันต้องมีแผนแกล้งผมแน่   ๆ  ถ้าเกิดมันพาไปถึงแค่ครึ่งทางแล้วปล่อยให้ผมเดินกลับเอง   ไม่สิ ๆ   อันนี้ไม่น่ากลัว ถ้าเกิดมันจะฆ่าหมกไว้ข้างทางก็คงไม่มีใครมาเจอ  เออ  เออะ  อันนี้แรงไปมันคงไม่กล้าทำ   โอ้ย ไม่เอายังไงก็ไม่ไปกับมันแน่  ถึงจะเมาแต่สติผมยังดีนะ(แน่ใจเหรอ)   
                          “ไม่เป็นไรหรอกกลับพร้อมพี่สอก็ได้” ง่า  ไม่ได้คิดไรนะครับถึงเขาจะให้ผมจับ.......ก็เหอะก็แค่ผู้ชายทะลึ่งคนหนึ่งเองอ่ะ
                          “ เดี๋ยวไปส่งเอง ไอสอมันเมาแล้วจะขับไหวเหรอ”  เหตุผลดีครับ แต่ฟังไม่ขึ้นตัวเองก็เมาเหมือนกันนิ

                           “ ไม่เมาโว้ย  แค่นี่เองกรูไปส่งไอพงษ์เองสบายมาก หออยู่ทางเดียวกันด้วย”   ท่าทางจะยังไม่เมาจริง ๆ พูดรู้เรื่องด้วย

                           “ ให้ผมไปส่งก็ได้นะ พี่ลมจะได้ไม่ต้องกลับดึกมาก ”   ไอน็อตก็ยังหวังดีไม่เลิก ไม่เข้าใจว่าต่างคนต่างเมารึว่าอวดเก่งกันแน่แต่ผมชักจะไม่ไหวอีกรอบแล้วนะ แต่ตอนนี้ มันเป็นอารมณ์นะไม่ใช่อย่างอื่น

                           “ งั้นก็เอางี้สิ แบ่งผมไปคนละส่วนแล้วไปต่อกันที่ห้องเลยดีไหม”  โมโหสิครับ ก็ผมเริ่มง่วงอีกแล้วอ่ะ

                           “ ดีเลยงั้นกรูเอาส่วนบนเมิงเอาส่วนล่างไปไอน็อต”   จ้ากกกกกกกก    จะบ้าตายกะมันไอพี่ลมบ้ามันจะแบ่งผมจริง ๆ ที่ผมคิดไว้ไม่มีผิดเลย  น่ากลัว

                           “ ปากเด่.....ไปพี่สอกลับ” ผมเดินไปขึ้นรถพี่สอทันที  ผมไม่มีอารมณ์จะไปต่อปากต่อคำกับมัน รู้สึกง่วงมากว่า  พี่สอไปส่งผมที่หน้าหอโชคดีที่หอผมเปิด24ชั่วโมงเพราะมียามเฝ้าตลอดไม่ต้องมาคอยปีนกำแพงเหมือนสมัยเรียน     วันนี้เหมือนเดิมขอผ่อนการอาบน้ำไปเป็นตอนเช้าทีเดียวแล้วกัน  ซกมกสุด ๆเลย

 :a12: :a12:     :m14:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-09-2007 19:50:13
โธ่ อุตส่าห์จิ้นรอ ตอนอัศจรรย์ที่แท้ก็แค่ลูบ  :try2:  :try2: สรุปว่าเจอใช่มะ  :m26:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 28-09-2007 22:34:23
เห็นเรื่องนี้ผ่านตามาหลายครั้งเเล้วในที่สุดก็ได้เข้ามาอ่านซะที  เป็นเรื่องราวที่สนุกดีเกินคาดเลยครับสำนวนก็ดี อ่านเเล้วดูเป็นกันเองเหมือนไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มาขอเป็นเเฟนคลับเรื่องนี้ด้วยคนดีกว่า อิๆ :m11: :m4: :m11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 30-09-2007 10:36:29
แหม.......นึกว่าจะมากก่านี้  ....คิดไปไกลซะง้าน  เรา  :o8:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 30-09-2007 15:18:58
แหมๆๆ นายพงษ์ ให้ผมรอจิ้นอยู่ซะ .... อิอิอิ  o17
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 30-09-2007 23:24:19
กลับกะพี่สอหรือ
เจอมุกเข้าไปนี่เตรียมเข้าโรงบาลแน่
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-10-2007 08:20:13
เอ้า  ใครที่กำลังจิดเตลิดก็กลับมาก่อนนะครับ  รอต่อจากตอนนี้เดี๋ยวมีจิ้นแน่นอน


"มุขเหรอ  คำนี้สยิวนะครับคุณบลู  แต่ไม่เอาอ่ะ" :a5:

...

พิเศษ    ตอนที่  1    (  ถ้าได้จับดูผมจะรู้ครับ )  o7 o7


                             เหตุการณ์ที่พี่สอคว้ามือผมไปจับไอสอน้อยของแกทำให้ผมนึกถึงตอนเป็นทหารใหม่ ที่เกือบจะต้องแก้ผ้าโชว์เจ้าช้างน้อยให้ผู้เสียหายตรวจสอบหาตัวคนผิด  ทีแรกผมก็ไม่รู่ว่ามันจะหาตัวคนทำผิดได้อย่างไรแล้วใครทำอะไรผิดเหรอ

                                   “ปรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  ปิ้ด   ปรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด”

                                    “ทั้งหมดพร้อมกันที่สนามตะกร้อ แถวตอนเรียงหนึ่งตามหมวดหมู่”สิ้นเสียงร้องสั่งของจ่าณรงค์จอมโหดทหารใหม่เกือบสองร้อยนายก็วิ่งกันกรูลงบันไดจากโรงนอนให้เร็วที่สุด กลางดึกแบบนี้ต้องมีการซ่อมแน่  ผมนอนบนเตียงชั้นสองก็ต้องรีบกระโดดทันทีรองเท้าคงไม่จำเป็นต้องใส่เพราะคงไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่นาที   แถวถูกจัดให้เป็นระเบียบในเวลาอันรวดเร็วแต่สภาพการแต่งตัวของแต่ละคนไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่ควรเป็น  ส่วนใหญ่ชุดที่ใส่ตอนเข้านอนก็เป็นกางเกงขาสั้นสีดำที่สั้นและแนบเนื้อผูกมัดด้วยผ้าคาดเอว(จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร)ร้อยเข้ากับซองผ้าสำหรับใส่อาวุธประจำกายนั้นก็คือ ช้อนกับซ้อมห้อยลงมาที่ข้างเอวและสียืดสีขาว   ( คงสงสัยกันละสิว่าเป็นทหารเหล่าไหน ) 

                                  “นับจำนวนนับ.....นับ”  ไม่ใช่แบบครูสอนเด็กให้นับเลขพร้อมกันนะ  เป็นการนับแบบเรียงตัวทีละคนเพื่อเช็คจำนวนครับ
                                  “ 1   2   3......................................................


                                  “188...........ร้อยแปดสิบแปดครับ” สิ้นเสียงร้องบอกของคนสุดท้ายที่ต้องทวนตัวเลขอีกครั้ง
                               “ หายไปไหนคนหนึ่ง......................ขยายแถว.....  ทั้งหมดยึดพื้นท่าเตรียมปฏิบัติ”   ทุกคนอยู่ในท่าโก่งโค้งอย่างเร็วไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดปฏิเสธและไม่มีสิทธิ์ด้วย หน้าที่ของพวกเราตอนนี้คือทำตามคำสั่งเท่านั้นถึงแม้จะยังไม่รู้เหตุผลก็ตาม

                                “ ห้าสิบยก”    อึ้ย....น้อยไปป่าวจ่า

                                “ห้าสิบยก”   เราทั้งหมดทวนคำสั่งพร้อมกันเสียงดังจนแสบแก้วหู

                                 “ เสียงหายไปไหนหมด......หนึ่งร้อยยก”   ตาค้างเลยครับแต่ปากก็ทวนจำนวนนั้นไป ดังกว่าเดิมเป็นสองเท่าไม่งั้นมีหวังถึงสองร้อยยกแน่
                                  “เริ่ม”
 
                                  “1.....2.....3....................60 .......................................99......100”   เหนื่อยแทบคลาน  แต่ก็ต้องยกแขนค้างละครับ

                                “ แบกโลกท่าเตรียม”   มาอีกท่าแล้ว  ท่านี้ตายแน่ ๆ    งงละสิว่าเราจะแบกกันยังไงก็ท่าสะพานโค้งนี่ละครับห้ามเอาหัวตั้งพื้นก็พอจากท่านี้เราก็โดนไปอีกหลายชุดก่อนจะลุกขึ้นจัดแถวใหม่อย่างทุลักทุเล ทุกอย่างที่โดนเป็นท่าออกกำลังกายทั้งนั้น  เป็นนโยบายของรัฐที่ไม่ให้มีการทำโทษแบบทำร้ายร่างกาย   แต่ก็ทั้งเหนื่อยทั้งหล้าแทบจะล้มทั้งยืน ในใจก็ก่นด่าไอคนที่มันหายไปมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนอย่าให้รู้นะว่าใคร ไม่งั้นจะ............คิดยังไม่ทันจบ


                                  “รัตนะไปไหน”  ออ  ไอคนชื่อรัตนะนี่เอง แล้วมันหายหัวไปไหน  สงสัยแมร่งหนีกลับบ้านแล้วมั้ง

                                   “อยู่ในห้องน้ำครับ”  เสียงทหารยามรายงานกับจ่าชาติผู้มีมาดขรึมติดตลก

                                    “เมิงไปตามมันมา”   ทหารยามวิ่งขึ้นไปที่ระเบียงลอยข้างบันไดแล้วก็เดินจูงแขนใครคนหนึ่งลงมาจ่าก็สั่งให้มันไปเข้าที่   อ้าว ยังงี้ไม่แฟร์เลยนะจ่าไหงไม่ทำโทษมันหละ....ชักฉุนแต่ก็แค่ในใจ   ผมซึ่งอยู่อีกหมู่หนึ่งมองไม่เห็นหรอกว่าหน้าตาเป็นไง เพราะเพิ่งมาอยู่ยังเพียงสองอาทิตย์ที่รู้จักกันก็มีเพียงไม่กี่คน

                                    “มีใครจะยอมรับว่าเมื่อคืนไปทำอะไรมา”   เสียงจ่าณรงค์ตะโกน ถามคำถามแปลก ๆ  ผมว่าทุกคนก็คงจะยอมรับแหละครับว่าไปทำอะไรมาแต่ว่าไปทำอะไรมานี่มันคืออะไร   เห้อ  งง   แต่........เงียบ

                                   “เมื่อคืนใคร............ข่มขืนเพื่อน”  เง้อ  ใครข่มขืนกันที่ไหนทำไมไม่เรียกผมด้วยง่ะ...  เอ้ยม่ายช่าย ...เสียงอื้ออึงวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่   ส่วนผม ตกใจอย่างมากเลยครับใครกันที่มันอุตริไปทำอย่างนั้นและคนที่โดนผมว่าต้องเป็นไอรัตนะ แน่ๆ  จ่าถึงไม่ทำโทษมันและมันคงจะไปฟ้องจ่าก่อนนี่แล้ว ผมมาอยู่นี่ก็ไม่เห็นมีใครที่มันน่าข่มขืนสักคนหรือผมไม่เห็นก็ไม่รู้  ที่ผมรู้จักก็มีแต่ไอนันเท่านั้น   55
                                    “.................................”  ไม่มีเสียงตอบ

                                    “ มดแดงท่าเตรียม    ปฏิบัติ”  อีกแล้วครับ ได้ออกแรงอีกแล้ว ทำไมน๊า ตัดสินอะไรไม่ได้ก็ต้องใช้กำลังกัน  ผมก็ยืนกางแขนกางขาเตรียมท่ามดแดง ผมเดาเอานะว่าไอท่ามดแดงเนี้ยะน่าจะมาจากท่าแปลงร่างของไอมดแดงมดเอ็กซ์อะไรสักอย่างแน่ะ  เพราะคงไม่มีใครไปนั่งสังเกตมดแดงจริง ๆแล้วมานั่งวิเคราะห์เป็นท่าออกกำลังกายหรอกนะครับ


   เจออีกรอบก็แทบจะนอนแผ่หลา บางคนก็ทนไม่ไหวกับของเหลวในกระเพาะที่มันอยากจะออกมาทางเดิมที่มันเข้าไป
แต่ที่หนักกว่าคือบางคนโดนซ่อมทิ่มที่เอวทะลุเสื้อเลือดไหลซิบเห็นแล้วก็เสียวแทน
                                   “รัตนะจำหน้าคนทำได้ไหม”  จ่าแกหันไปถามเจ้าทุกข์ที่ตอนนี้มันก็หอบแฮก ๆ เหมือนกัน  สมน้ำหน้ามันที่โดนด้วย  เจอของดีแล้วเจือกไม่เก็บไว้เองนิ 

                                    “จำไม่ได้คับ”  ตาครับของมันฟังดูหลวม ๆ อ่อย ๆ  แหะ

                                     “มันมีกี่คนแล้วกี่ครั้งแล้ว”  จ่าแกถามต่อ   อะโห    ผมเอ๋อแด*  ไม่ได้ร่วมเอ้ย ไม่ได้รู้เรื่อง (ไม่เคยรู้อะไรเล้ย ) อะไรกับเขาเลย มัวแต่ออกไปทาสีตุ๊กตาข้างนอกไม่เคยได้ฝึกกะเขาสักที 
                                      “มันหลายคนจำหน้าไม่ได้มันมืดด้วย คับ  มาสองคืนแล้วคับ”

                                       “แล้วทำไงเมิงถึงจะจำมันได้”  จ่าแกถามเผื่อมันจะจำอย่างอื่นได้  รูปร่าง  แผลเป็น  หรืออะไรประมาณนี้.....55

                                       “ ถ้าได้จับดูผมจะรู้ครับ”   จับอะไรอ่ะ ......................จ้ากกกก..........แล้วมันต่างกันตรงไหน    ยังไง    หน้าตามันก็คงเหมือน ๆกันแหละ  ใชม่ะ ( รึป่าว )
                                       “ ถ้าอย่างนั้นหากพวกเมิงไม่มีใครรับสารภาพ ...........กรูจะให้พวกเมิงแก้ผ้าให้มันจับดูทุกคน ใครที่มันบอกว่าใช่ มันคนนั้นห้ามเถียงเด็ดขาด แล้วกรูจะลงโมษมันให้หนัก”  สุดยอดเลยครับจ่า....คิดได้ไง ถ้ามันจำผิดจำถูกขึ้นมามีรายชื่อผู้บริสุทธิ์อย่างผม ( แน่ใจ ) ไปร่วมด้วยมันก็แย่สิ.....แล้วกว่ามันจะจับผ่านมาถึงผมเนี้ยะผมว่ามันคงแยกแยะผิดถูกไม่ออกแล้วหล่ะ และมีหวังมันโดนรอบสองแน่ผมนี่แหละจะข่มขืนมันเอง  เออ ..................เพราะผมคงมองคนอื่นจนเงี่ยนนะจิ   อิอิ 




                                                                           สุดท้ายก็เจอผู้กระทำผิดจนได้
                                 





                                             
5.30  น  เสียงสัญญาณบอกให้เราตื่นและไปอาบน้ำ  วันนี้วันอาทิตย์เราไม่ต้องฝึกเลยไม่ต้องรีบเร่งอะไรมากนุ่งผ้าขาวม้าไปผืนเดียวนี่แหละสบายดี
                                              “ว้า.....เมื่อคืนน่าเสียดาย”  ผมบ่นพึมพำกับเช้าวันปวดเมื่อยทรมาน เบา ๆ
                                               “เสียดายไรเมื่อคืน”  อุ๊บ   ตายห่าไอนันได้ยินด้วย
                                                “ออ   ก็   ก็   เมื่อคืนไงกำลังได้เหงื่อกระชุมกระชวยดันมีคนรับสารภาพซะนี่” แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ใจจริงเสียดายที่ยังไม่ได้ดู เอ้ย ไม่ได้โชว์ให้รัตนะมันจับ  55
                                                 “ก็ดีแล้วนี่เมื่อยจะตาย ถ้าไม่มีใครรับนะมีหวังได้แก้ผ้ายันเช้าแน่”  ไอนันพูดและก็บิดตัวไปมาไล่ความปวดเมื่อย
                                                 “ อืม   น่าจะเป็นอย่างนั้น”   ผมยิ้มมุมปากนิดหน่อย

                                                  “ อะไรนายอยากแก้ผ้าถึงเช้าเลยเหรอโรคจิตอ่ะป่าว” ไอนันทำหน้าสงสัยว่าผมหมายถึงอะไร

                                                 “ ป่าว  เราเห็นด้วยที่มีคนรับสารภาพไม่งั้นตายแน่”  ปากก็พูดไปแต่ใจไม่ได้คิดแบบนี่เลยนิ
                                                 “ ว่าแต่ว่า  นายอ่ะนอนอยู่ข้างไอรัตนะไม่ใช่เหรอ  อ่ะ  แหนะ แหนะ แน”   ผมมองยิ้ม ๆแล้วก็ชี้หน้ามัน
                                                 “เอ้ย.....บ้าเรอะเราจะไปทำมันได้ไงไม่เอาหรอก”  ไอนันทำท่าสะบัดสะบิ้งจนขนที่หน้าอกมันลุก
                                                  “ป่าว เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น  เราหมายถึงว่านายไม่เห็นใครไปทำอะไรมันบางเลยเหรอ” เราเดินลงบันไดไปที่ห้องอาบน้ำต่อ
 
                                                  “ ไม่เห็นหรอก มันดึกขนาดนั้น  ก็ไอคนที่ข่มขืนมันนะเข้ายามกลางคืน...  ไม่ใช่ข่มขืนสิไอรัตนะหน่ะมันสมยอมต่างหาก ถ้างั้นมันจะบอกเหรอว่าถ้าได้จับแล้วจะรู้อ่ะ”  ไอนันเบาเสียงลงเมื่อเห็นคนเดินตามมาหลายคน
                                                   “อืม”   ก็จริงของไอนันนะครับแต่ว่าทำไมมันต้องฟ้องจ่าด้วย ถ้าจับดูแล้วมันจะรู้ว่าเป็นใครเนี้ยะจะรู้ได้อย่างไร.................    สุดท้ายก็ได้คำตอบครับว่าไอคนที่ทำมันหน่ะ  มันฝุงมุขรอบลำเลย     


                                                    เราเดินมาถึงหน้าห้องอาบน้ำไอนันเข้าไปก่อน ผมยังไม่เข้าไปเพราะคนอาบเต็ม

                                                       “ เฮ้ยนายเก็บสบู่ให้หน่อยสิ”  ใครคนหนึ่งพูดและหันมองมาทางผม  ฟันขาว ๆ ตัดกับใบหน้าเข้ม ๆของมันมันยิ้มให้ผมอย่างมีเลศนัย
                                                        ผมก็มองหาว่าสบู่มันทำหล่นอยู่ไหนทั้ง ๆที่มันก็อาบเสร็จแล้ว ผมรู้นาว่ามันคิดอะไร แกล้งมองเฉย ๆแหละ   แล้วผมก็เดินสวนกับมัน  ยิ้มให้มันไปทีหนึ่งก่อนจะกระซิบข้างหู

                                                        “ตอนเย็นแล้วเจอกัน”  ผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำไม่ได้หันมามองปฏิกิริยามันหรอกปล่อยให้มันจิ้นไปวันนี้วันพักผ่อนสบายจริงโว้ย...........
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-10-2007 08:26:26
ชอบตอนพิเศษ  :m4:  :m4:  :m4: ทำไปได้ ต้องจับถึงจะรู้  :m12:  :m12:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 01-10-2007 08:34:16
 :m25:เอิ๊ก อยากจับมั่งจัง คิคิ :m30:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 01-10-2007 09:30:17
พรวดดด!  :m30:  อารายกานเนี่ย :a5:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: GaSoRiNa ที่ 01-10-2007 10:40:48



    :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:   อรู๋วววววววววววววว จุดประกายมาจากคำว่ามุข เห่อ ๆ ไม่ไหวละ ว่าแต่คืนนี้มีอะไรเหรอเล่าอีกนิดนึงได้ม๊ายยยยย 
     แบบว่าไม่ประสีประสา หะหะหะหะ    :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 01-10-2007 12:59:33
 :m25:  :m25:  :m25:  :m25:  :m25:  :m25:

ลองจับดูถึงจะรุ...แปลว่า..จำได้อ่ะจิ     :m10:  :m10:  :m10:  :m10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-10-2007 14:33:45

...........ง่ะ..........จับกันใหญ่เลย............ :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 01-10-2007 22:52:19
ไหนๆๆ เป็นยังไงไม่เคยเห็นมุก อิอิ  :m11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 02-10-2007 08:22:13
 :m26:ไข่มุกที่บ้านไง เอามาดูจิ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 02-10-2007 09:46:36
 :m22:


แอบมาดูหน่อย  ตอนนี้กำลังปั่น ทั้งงานราช งานหลวง   ตอนบ่าย ๆ จะมาต่อให้นะจ้ะ


 :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 02-10-2007 11:51:29
พิเศษ   ตอนที่ 2  ( เจ้าของสบู่...........อิอิ )


                           วันนี่เราไม่มีฝึกภาคสนาม จะมีก็แต่ภาคทฤษฎีเล็ก ๆ น้อย ๆ  แบ่งออกเป็นชั่วโมงเรียน   มีตารางเรียนเหมือนนักเรียนเวลาหมดคาบเรียนก็จะเปลี่ยนห้องเปลี่ยนสถานที่ไปตามตาราง   จะมีครูฝึกเป็นคนสอน  ผมก็มีโอกาสได้ไปเรียนกับเขาครั้งแรกเพราะทุกทีก็ต้องออกไปนอกกรม  ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเที่ยง  หลังจากนั้นครูฝึกก็จะปล่อยให้เราพักผ่อนตามอัธยาศัยทหารส่วนใหญ่ก็จะดูทีวีกันแต่ผมกับไอนันจะต้องมานั่งหลบที่ซุ้มไม้ไผ่หาซื้ออะไรมากินกัน ก็มีคนอื่น ๆ  ร่วมด้วยส่วนใหญ่เขาจะรู้จักไอนันมากกว่าผม  บางทีเพื่อนในกองร้อยมันยังบอกว่ามีคนหน้าตาอย่างผมอยู่ร้อยเดียวกับมันด้วยเหรอ   ให้ตายสิผมกลายเป็นหมอโฮจุนไปแล้วรึนี่   แต่ก็ชั่งเถอะไม่มีใครรู้จักเท่าไหร่นะดีแล้วไม่อยากคุยอะไรมากเกิดพวกมันล้วงความลับผมได้มีหวัง เกิดคดีข่มขืนอีกแน่  ที่สำคัญอาจจะมีฆาตกรรมเกิดขึ้นตามมา       
                                       
                                  วันนี้ผมกับไอนันไม่ได้กินข้าวที่โรงเลี้ยงจ่าอนุญาตให้กินข้าวที่แผง ( ร้านค้า )ได้ก่อนเวลาหกโมงเย็นหลังกินข้าวเราเดินเลือกหาซื้อของกันไอนันได้ขนมมาเพียบส่วนผมได้แหนบมาอันหนึ่งก็มันไม่มีอะไรจะซื้อส่วนขนมก็กินกับไอนัน  อิอิ    วันนี้ผมต้องถอนหนวดที่คางสักหน่อยปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะกลายเป็นโจรแทน 

                                  “พงษ์ยืมแหนบหน่อยสิ” ไอดิวเดินมาเกาะที่เตียงผมเอาคางเกยมาบนที่นอน

                                  “อืม  แป้บนะอยู๋ในตู้”  ผมกระโดดลงจากเตียงเดินไปเปิดตู้หยิบส่งให้มันไป

                                   “เดี๋ยวเอามาคืนนะ”  ผมมองตามทางที่มันเดินไปนั่งลงบนเตียงซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับเตียงของผมเตียงมันอยู่ลึกข้าไปในแถวที่สองติดกับตู้เป็นมุมมืดพอดี       
                                    “อืม”  แล้วผมก็หยิบขายหัวเราะในตู้เดินตามมันไปนอนอ่านที่เตียงข้าง ๆ มันกะว่ามันถอนของมันเสร็จผมก็จะถอนของผมต่อ  ตอนนี้มีคนอยู่บนโรงนอนไม่มากส่วนใหญ่ก็จะลงไปดูทีวีแล้วก็เล่นตะกร้อกัน       ผมนอนอ่านหนังสือไปโดยไม่ได้สนใจคนอื่นสักพักผมรู้สึกว่าเตียงมันยุบลง ที่ข้างขาผมเลื่อนหนังสือที่บังหน้าอยู่เปิดให้มองเห็นว่าใครที่เป็นเจ้าของแรงกดนั้น 

                                    ไอนี่ใครวะ ถือดียังไงมานั่งเตียงที่กรูนอนอยู่ไม่มีมารยารทเลย ผมบ่นในใจ   มันนั่งหันหลังให้ผมและมองไปทางไอดิวที่กำลังมันส์กับการถอนหนวดอยู่       แต่คุ้น ๆแฮะ
                                    “นพถอนหนวดให้เราหน่อยดิ”  ไอดิวบอกไอหมอนั้นให้ถอนหนวดให้   ออรู้แล้วมันชื่อนพแต่ผมไม่รู้จักหรอกไม่เคยได้ยินชื่อนี่ด้วย

                                    “ไม่อ่ะจะนอน”  แล้วมันก็ล้มตัวลงนอนที่ข้าง ๆ ผม โดยไม่มองหน้าผมเลยว่าเต็มใจให้นอนร่วมเตียงด้วยรึป่าว  ชิ ชะ ไอนี่ที่อื่นก็มีไม่ไปนอนยังจะมาเบียดกรูอีก     ผมเลยรีบนอนหันหลังให้มัน ...........เอ้ยอย่าคิดลึกนะ ก็ผมอ่านหนังสืออยู่เลยต้องหันไปอ่านทางอื่นอ่ะ 

                                   “วันนี้อากาศหนาวนะยังไม่ไปอาบน้ำอีกเหรอ”  ไอหมอนี่มันถามใครหว่า.......แต่คิดว่ามันถามผมแน่นอนเพราะศอกที่มันกระทุ้ง ๆ ที่เอวผมนี่คงเป็นคนอื่นไปไม่ได้   ว่าแต่เสียงคุ้น ๆ จัง 

                                     “ยัง...รอถอนหนวดก่อน”  ผมก็ตอบไปตามมารยาทแหละครับไม่เหมือนมันหรอกมาถึงก็มานอนเบียดผมเลยเตียงใครก็ไม่รู้   
                                     “งั้นเราถอนหนวดให้นะ”  มันพูดจบพร้อมขยับตัวหันหน้ามาทางผม

                                      “......................”   ผมลดหนังสือลงหันหน้ามาทางมันโดยเร็ว

                                      “   เอ้ย...”   มันนอนยิ้มแป้นอยู่ต่อหน้าห่างกันแค่เพียงคืบ     

                                      “ ตกใจอะไร”  มันยังทำหน้าทะเล้นมาถามอีก    ไม่ให้กรูตกใจได้ไงถึงว่าอ่ะดิทำไมเมิงดูคุ้น ๆ ก็เมิงเพิ่งบอกกรูเก็บสบู่ให้เมื่อเช้านี่เอง  ตอนนี่เมิงมานอนตรงหน้ากรูนิ     ใจกรูเต้นตกไปอยู่ตาตุ่มแล้ว

                                      “ ปะ  ปะ  ป่าว   แล้วไม่ลงไปดูทีวีกับคนอื่นเหรอ” 
                                      “ดูมาแล้วง่วงเลยขึ้นมานอน.....มาจะถอนหนวดให้”  มันทำท่าจะลุกผมเลยดึงแขนมันไว้ก่อน
                                      “เดี๋ยว  นี้เตียงคนอื่นนะเขาจะว่าเอา” มีมารยารทอีกแล้วผม คนดีจริง ๆ
                                       “แล้วที่นอนเตียงเขาอยู่เนี้ยะไม่กลัวเขาว่าเหรอ”  จึก...แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจเลย (จริงของเมิง)
                                        “ เออ....คือ...”
                                       “เราพูดเล่นนานี่เตียงเราเอง”  เหวอ  ๆ .....ง่า   มันคงไม่คิดว่าผมมานอนรอมันเหมือนที่พูดเมื่อเช้าหรอกนะ
                                         “....................................”
มันหันไปคว้าแหนบจากไอดิวมา อยู่ในที่นั่งแล้ว ก้มหน้าลงมาถอนหนวดให้ผมทีละเส้น  ส่วนผมนอนเกรง หลับตาปี๋ ไม่อยากลืมตามาเจอหน้ามันเพราะมันอยู่ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจของมันได้  มันใช้มือประครองคางผมให้เชิดขึ้นบางทียังรู้สึกว่ามันกำลังลูบหน้าผมเบา ๆ  มันบรรจงถอนอย่างเบามือที่สุดแต่ผมก็อดที่จะเม้มปากกับความเจ็บและแสบนั้นไม่ได้  ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะรู้สึกอย่างไรใจมันก็คงสั่นไม่แพ้ผมเหมือนกัน  ผมเผลอหลับไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่รู้สึกอีกทีก็มีคนมานอนเบียดและกอดผมอยู่ ข้าง ๆคนอื่น ๆ ก็คงจะเข้านอนกันแล้วเพราะไฟปิดสนิทโชคดีที่วันนี้หยุดจ่าไม่ได้ขึ้นมาตรวจโรงนอนไม่งั้นผมคงโดนแหงม ๆ   ผมเลยลองจับมือมันเขย่าดู
มันไม่ขยับแต่ผมรู้ว่ามันยังไม่หลับแน่นอก็ใจมันเต้นแรงซะขนาดนี้แล้วไอท่อนแข็ง ๆที่มันทิ่มอยู่ทีขาผมนี่อีก ผมเลยจับมือมันค่อย ๆยกออกจากอกผมไปวางที่อกมันแทนและหันไปกระซิบที่ข้างหูมัน  “เราไปห้องน้ำก่อนนะ”  ผมไม่แน่ใจว่ามันจะได้ยินผมไหม  ผมไม่ได้อ่อยมันนะ  ผมแค่จะไปห้องน้ำจริง ๆ จะไปล้างหน้าแล้วไปนอนเตียงตัวเองสักที

                                    “ เอ้ย”   ผมโดนฉุดข้อมือเข้าไปในห้องโถงซึ่งเป็นห้องประชุมทางผ่านที่จะไปห้องน้ำ

                                    “ เราเอง”  ไอนพดึงผมเข้าไปที่โซฟา ริมห้องซึ่งมันมืดพอที่จะหลบสายตาของทหารยามหน้าโรงนอนได้
ไม่ทันที่ผมจะตั้งตัวมันก็เข้ามาประชิดดึงตัวผมให้แนบกับหน้าอกมันใจผมเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เหมือนมันจะหลุดออกตัวให้ได้มือของมันกอดรัดผมไว้แน่นหน้ามันก็ยื่นมาประกบปากกับทันที สัมผัสที่เร้าร้อนและรุนแรงทำให้ผมต้องทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา ในใจผมอยากปฏิเสธมันเพราะเหตุการณ์เมื่อวานมันยังทำให้ผมจดจำ ผมไม่อยากเป็นเหมือนไอรัตนะมันคงจะเจอทีเด็ดของเจ้านั้นไปจนระอามันถึงทนไม่ได้  ถ้าไอนพมันฝังมุกมาเหมือนไอนั้นแล้วมันบังคับจะเอาผมก็คงแย่   ผมจะผลักมันออกก็ไม่มีแรงแล้ว  หัวนมตอบสนองกับการรุกรานของนิ้วมือที่มันขยำและบีบเค้นเบา ๆ ผมถึงกับแอ่นหน้าอกรับส่วนอีกข้างหนึ่งมันชอนไชเลื้อยต่ำลงจากเอวมาที่ขอบกางเกงและไชนิ้วผ่านขนอ่อนผมลงไป  ความรู้สึกซ่านแผ่กระจายไปทั้งร่าง  มันเปลี่ยนจากปากผมลงมาไซร้ที่ซอกคอเลยขึ้นมาถึงติ่งหู
มือมันปลดตะขอกางเกงผมออกอย่างช้าๆ แล้วค่อย ๆชอนเข้าไปข้างในกางเกงในคลำคลึงของผมจนมันแข็งและเยิ้มเต็มที่   ผมไม่ยอมให้มันลุกล้ำผมฝ่ายเดียวแน่ ผมเบี่ยงตัวออกด้านข้างแล้วไซร้ที่ซอกคอมันแทน เสียงกระเส่าของมันยิ่งทำให้อารมณ์ผมกระเจิง  “เบา ๆนะครับ” ผมกระซิบที่ข้างหูมันมือซ้ายก็ซุกซ่อนเข้าใต้ชายเสื้อเลื่อนสูงขึ้นไปผ่านหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อแน่นจนถึงเม็ดแข็งๆที่ชูชันสู้มือผมอยู่  ผมใช้นิ้วเขี่ยและลูบไล้เบา ๆ  ปลายนิ้วมือขวาผมอยู่ที่ขอบกางเกงในของไอนพ ผมค่อย ๆ เลื่อนมันลงไปช้าจนสะดุดกับไอนพน้อยของมันแต่มันไมได้อย่างที่คิดเลยขนาดของมันทำให้ผมเกือบจะกำมือไม่มิด  ผมชักขึ้นลงให้ช้า ๆ  มันก็เด้งสู้ไม่ถอย จนมันคงจะทนไม่ไหวเลยหันหน้ามาหาผมและจับมือผมไว้ในท่านั่งคุกเข่า  แล้วไอนพก็ถลกชายเสื้อผมขึ้นและเริ่มเลียไล้รอบหัวนมก่อนจะเลื่อนลิ้นลงมาเรื่อย ๆ  มันงัดช้างน้อยผมออกมาและมันก็จมหายไปในปากของมัน  มันเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนทำรู้สึกทนไม่ไหว ตัวเกร็งและเสียวซ่านไปทั่วใบหน้า น้ำอุ่น ๆ พุ่งเข้าไปในปากและเลือนหายไปในท้องของมัน  ส่วนมันก็ตามมาติด ๆ ด้วยจังหวะเร่งตามแรงมือของมัน ..........................................................
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: GaSoRiNa ที่ 02-10-2007 13:21:29
 


:m30: :m30: :m30:
     
      งะ อารายเนี๊ยะ มาต่อ ด่วน ๆ ๆ  ค้างมากมาย อ๊ากกกกกกกกกกก ไม่ไหวแล้ว

 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 02-10-2007 15:16:29
ประสบประการณ์เสียวหุๆ :a11:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 02-10-2007 15:19:32

 :m3: :m3: :m3: :m3:

ไม่ได้เข้าทู้นี้มาอาทิตย์นึง

พอมาตามอ่านอีกที เจอฉากเด็ดพอดีเยย อิอิ  :m4: :m4: :m4:


หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-10-2007 19:59:57
หุหุ และแล้วก็ได้เก็บสบู่จนได้   :m10:  :m10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 02-10-2007 22:42:25
อ๊ากซซซซซซซ  :m30: ทามมายมาลงค้างๆคาๆงี้....  :m25:  .... มาต่อให้จบเลยนะ  :m10:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 03-10-2007 08:47:53
 :m10:เอิ๊ก  เป็นลมดีกว่า  :m25:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 03-10-2007 10:14:22
.....เจ้าของสบู่..................... :m25: ... :m25:... :m25:

ค้าง.....แกล้งคนอ่านนิ   :m17:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 03-10-2007 17:05:21

...........ระวังมีคนมาร่วมแจมนะ.......... :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 04-10-2007 02:14:16
 :m10: :m10: :m10: :m10:
เง้อ.....ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 08-10-2007 15:16:16
 :try2:

ขอโทษที่ปล่อยให้ค้างกันนะครับ   วันนี้แวะเข้ามาดู  เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จพมาลงให้นะครับ






ปล.1  ติดนิยายของคุณเรย์ อยู่เลยมะได้เขียนของตัวเอง  แต่จะรีบปั่นจ้า( โทษที่คุณเรย์ละกัน)

ปล.2   เลิกงานก็โอเกะเกือบทุกวัน เวลาว่างเลยมีแค่ช่วงทำงาน (เอะไง) ครับ (อันนี้ต้องโทษเด็กเสิร์ฟ  555)
 o16 o7
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-10-2007 18:19:22
กรรม ผมไม่เกี่ยว
 :serius2: :serius2: :serius2:

เพราะผมก็ค้างอยู่บนฟ้าแล้ว
 o9 o9 o9
มาต่อด่วน

อิอิ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 10-10-2007 14:56:35
 :m14: :m14: ปล่อยให้ค้างไป ว่าง ๆ จะมาภาคพิเศษให้ทีหลัง

จบตอนพิเศษแล้วนะครับ   กลับมาต่อปัจจุบัน(ในเรื่อง)กัน

ตอน        เอาคืนเชอรี่    .................................................................................................

หลังจากวันนั้นที่ผมเมายาดองที่หอไอทักษ์ผมก็ไม่ได้กินเหล้าอีก    ที่ทำงานทุกวันไออั้มยังเกาะแกะผมไม่เลิกยังเทียววนไปตรงที่ผมทำงานอยู่แม้มันจะเข้ากะกลางคืนก็ตามแต่ทำโอทีต่อจนถึงเก้าโมงเช้าทุกวัน ไม่รู้มันจะขยันอะไรกันนักหนา ไม่ใช่แค่อั้มคนเดียวนะ ที่อยู่ทำโอทีผมก็ยังเห็นพลอยเอาน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ฝากเชอรี่มาให้ผมทุกเช้าเหมือนกัน  ก่อนกลับห้องก็เดินผ่านมาโบกมือลาผมทุกวัน  จนคนอื่นเริ่มชินไปหมดแล้วรวมทั้งผมด้วย   ข่าวเกี่ยวกับผมแพร่สะพัดขจรขจายไปไกลจนหลายคนเริ่มจะมองและสนใจ ผมก็ได้แต่ทำใจแหละครับ  เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดแหละดี   ใครถามอะไรมาผมตอบได้ก็ตอบถ้าตอบไม่ได้ผมก็ยิ้มซะ 

                        วันนี้เป็นวันเสาร์เขามีการแข่งกีฬาชิงชนะเลิศกันตอนเช้า  พอสี่โมงเย็นจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์มีวงดนตรีและการแสดงบนเวทีและมอบรางวัลกัน   ผมก็ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยหรอก ผมรู้สึกเหนื่อย ๆ เพลีย ๆ  เหมือนไม่สบายขอนอนพักอยู่ห้องแล้วกัน
คงจะถ่อสังขารไปร่วมด้วยไม่ไหว  ได้ยาพารา หนึ่งเม็ด   แก้อักเสบหนึ่งเม็ดและแก้แพ้อีกหนึ่ง  เป็นสูตรเฉพาะของผมเวลาไม่สบาย  กินรวมกันแบบนี้ทีไรผมก็หายไข้เลยทุกที  ไม่ควรเอาอย่างนะครับเพราะไม่ได้มีหมอแนะนำ   

                     ผมหลับไปนานเหมือนกันตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น ปกติผมก็ไม่ชอบนอนกลางวันเพราะตื่นทีไรใจผมจะต้องสั่น กระวนกระวายทุกที ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร จะต้องนั่งนิ่ง ๆ พักใหญ่อาการถึงจะหายไปเอง แต่นี่คงเพราะพิษไข้และฤทธิ์ของยาด้วยที่ทำให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างสบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น แต่ก็ยังกรึ่ม ๆ ไม่สร่างไข้ดี 

                                                  “พงษ์  ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงมั้งหายยัง”   ไอนันถามผมขณะที่ผมยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง

                                                    “ อืม  ก็ดีขึ้น  แล้วนายรู้ได้ไงว่าเราไม่สบาย”  ผมทำหน้าสงสัยว่ามันรู้ได้ไง  อืม มันต้องมาแอบแตะอั้งผมตอนหลับแน่เลย  (น้าน )
                                                  “...................”  มันไม่ตอบแต่มันยิ้มที่มุมปาก  ก่อนจะเก็บเอาถ้วยจานที่ผมใส่อาหารประทังชีวิตวางเกลื่อนเมื่อตอนเที่ยงไปล้าง  (ก็เขาเก็บไม่ไหวนี่หน่า)
                                                 
                                                  อะไรว่ะถามไม่ตอบ   ทำไมไม่ตอบนันจะให้เราคิดว่านายเอามือมาแตะที่หน้าผาก   ที่ลำคอ  ที่แขนที่ขา  แล้วก็รู้ว่าเราไม่สบายงั้นเหรอ  นายจะทำแบบนั้นจริงเหรอ

                                                  “ พงษ์ลุกไปกินข้าวไหวป่าว  ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวซื้อมาให้”  ผมว่ามันจะห่วงผมแปลก ๆ ไปรึป่าว เพื่อนกันเขาห่วงกันแบบนี้เหรอ หรือว่าผมคิดมากไป     
                                                   “ไม่เป็นไรเราหายแล้วไปกินเองได้” ที่บอกกินเองได้ก็คงไม่พ้นร้านขายอาหารตามสั่งหน้าหอแหละครับง่ายและสะดวกที่สุด  แต่ในใจก็นึกเสียดายวันนี้วันแข่งกีฬาโรงงาน มีงานเลี้ยงแท้ ๆ  ตัวเองต้องมานอนซมอยู่ในห้องอย่างนี้ปานนี้ไอทักษ์ พี่สอ คงได้เมาหัวปิ้นแล้วม้าง แล้วก็ไอพี่ลมด้วย เอะไปนึกถึงมันทำไม
                                                   “ อืม.....อ๋อ ยานายเราเก็บไว้ข้างที่นอนหน่ะเข้ามาเห็นวางเกลื่อนเต็มห้องเลย”  แฮ  ๆ  มันรู้ว่าผมไม่สบายจากถุงยานั้นหรอกเหรอ หลอกให้ดีใจหมดเลย  อายว่ะอายความคิดตัวเองได้แต่ยิ้มเขิน ๆ  ส่วนไอนันมันคงคิดว่าผมจะอายที่วางของเกลื่อนกลาดไม่รู้จักเก็บ แต่ขอโต้ดนั้นผมทำเป็นประจำ

                                                     “งั้นก็อาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวไอกบมารับ”  มันบอกผมแค่นั้นแล้วก็ไม่พุดอะไรต่อบอกแค่เพียงว่าไอกบจะมารับไปกินข้าวข้างนอกแค่นั้น ผมก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยเรื่องไม่สบายลืมไปได้เลยผมหายเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่ตอนไอนันบอกว่าจะมีเลี้ยงเหล้านั้นแหละ  ก็ผมพลาดงานเลี้ยงไปแล้วนี่เรื่องอะไรจะยอมพลาดอีกละครับ วันหยุดทั้งทีอุตส่าหยุดกินมาได้ตั้งหลายวันวันนี้ขอกินล้างพิษไข้ซะหน่อยละกาน

......................................................................................

ไอกบเอารถมอเตอร์ไซค์มารับพวกเราที่หน้าหอพัก  ไม่ยักกะรู้ว่ามันมีรถขับด้วยแต่ดูสีดูยี่หอแล้วผมว่ามันคุ้นตายังไง ๆ อยู่  เส้นทางที่มันพามามันก็คุ้นๆ นะ  อืม ผ่านสี่แยกทางไปหอพักอั้มแต่ไปคนละทาง ใช่แล้วทางนี่ต้องผ่านร้านยาดองแต่ไหงมันไม่จอดไม่ได้มากินที่ร้านนี่หรอกเหรอ มันขับผ่านร้านมามุ่งตรงไปทางหอพักไอทักษ์  อ๋อ มันจะไปหอไอทักษ์นั้นแหละสุดปลายทางมันก็ไม่มีที่ไหนนี่  แล้วก็มาถึงจนได้

                             มันเลี้ยวรถเข้าตึกแถวสีฟ้าสองชั้นด้านซ้ายมือ แล้วจอดตรงที่หน้าบันได  เฮ้ย  ผมรู้แล้วหล่ะว่ามันจะไปกินข้าวที่ไหน
รู้แล้วหล่ะว่าทำไมรถมันคุ้น ๆ  แล้วก็รู้แล้วหล่ะว่ามันจะไปห้องใครไม่ใช่ห้องไอทักษ์แน่ก็คนที่ยืนโบกมืออยู่ไว ไวนั้นไง  เชอรี่หล่ะ
ไอกบเดินนำขึ้นบันไดไปก่อน  ทำยังกับว่ามันคุ้นเคยที่นี่ดีผมกับไอนันเดินตามเข้าไปในห้อง ก็เห็นไอกบกระดกเหล้าเข้าปากไปแล้ว 
อะโห  วันนี้โชคดีครับเปลี่ยนบรรยากาศการกินหน่อย  จากยาดองวันนี้ขอขยับมาเป็นเหล้าแดงแทนละกัน  (ยังคิดถึงร้านป้าอยู่นาเอาไว้วันหลังละกัน ) ซีดีคาราโอเกะพี่แอ็ดคาราบาวก้ออกมาวาดลวดลายกล่อมชาวบ้านชาวช่องนอนตั้งแต่หัวค่ำ แต่ที่จะนอนไม่ได้ก็เพราะเสียงของไอกบนี่แหละ  ในห้องก็มีพลอย  โอเด็ด  แล้วก็เชอรี่อยู่ก่อนแล้ว ผมไม่ได้สงสัยหรอกว่าพวกนี้ไปชวนกันตั้งวงตั้งแต่ตอนไหน ที่แน่ ๆ คือไม่มีใครไปงานเลี้ยงกีฬาที่โรงงานจัดเลย     

                             “โห เชอรี่ ขาขาวว่ะ อ่อยเลยนะ”  เป็นไอนันที่ปากดีที่ไปแหย่รังมดแดง เข้า

                             “อิตานันบ้า นี่แหนะ”   ผมก็ได้ยินแต่เสียงร้องโอ้ย ของไอนันดังกว่า บัวลอยของพี่แอ็ดที่ว่าดังแล้วซะอีก

                               “โหย  มือรึอะไรว่ะหยิกเจ็บชิบ”  ก็เพราะอย่างนี่แหละที่ผมไม่กล้าแซวเชอรี่มัน กลัวจะอ่วมก่อนได้ทำอย่างอื่น  อิอิ

                                “สมน้ำหน้าปากดี  ถ้ามีต่อไปเดี๋ยวจับปล้ำซะเลย”  มันขู่แบบโหมดหื่นเลย  ถ้าไอนันโดนเชอรี่ปล้ำมีหวัง ได้แห้งตายแหง ๆ ละไอนันเอ้ย
                                   
                                “ดีพลอย” ผมทักพลอยที่นั่งยิ้มแป้นอยู่หน้าทีวีข้าง ๆ ไอกบ   ผมเพิ่งสังเกตเห็นชัด ๆ  วันนี้เองว่าพลอยหน้าขาวเนียนมาก มองไงก็เหมือนผู้หญิงมากว่าผู้ชายไม่เหมือนเชอรี่มันที่แนวออกหล่อซะมากกว่า 

                                 “ดีจ้ะพี่พงษ์  นัน  ”  พลอยทักทายผมกับไอนัน ก่อนจะลำเรียงแก้วเหล้ามาให้  ผมรับเอาและยกเข้าปากทันที อาหาร กับแกล้มมาวางเรียงรายต่อหน้า ด้วยฝีมือของโอเด็ดกับเชอรี่ หน้าตาก็หน้าทานดีแต่รสชาติไม่รู้เป็นไง อันนี้ไม่รู้ต้องลองดู

                                 “ แน่ใจเหรอเชอรี่ว่าเรียกกับข้าวอ่ะ”  พูดไปแล้วแหย่เชอรี่มันไปแต่หารู้ไม่ว่าผลที่ตามมาคือแขนผมเป็นรอยเขียวจ้ำ ๆ  ตามาทันที  เหล้าเข้าปากอะไรก็ดูสนุกสนาน เราคุยสนิทกันมากขึ้นถามที่ไปที่มาของแต่ละคน  พลอยก็จะนั่งข้าง ๆ ผมคอยตักโน้นเติมนี่ให้ตลอด  เหล้าก็เติมเอา ๆ สงสัยกลัวผมจะไม่เมา รึป่าว  สักพักผมก็สังเกตเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับใครบาง

                                  “เอ้ย  เชอรี่เป็นอะไร ทำไมหน้าแดงตัวแดงขนาดนั้น”  ไอกบร้องทักแบบทำท่าตกใจ แต่ไม่เห็นโอเด็ดกับเชอรี่จะแปลกใจเลยสักนิด 

                                     “ อิเชอรี่มันแพ้แอลกอฮอล์  กินเกล้าทีมันก็เป็นอย่างนี่แหละ”  โอเด็ด อธิบาย เหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่พวกผมไม่เคยเห็นใครเป็นมากแบบนี้นี่ก็ตกใจสิ    ไม่รู้ว่าถ้าแพ้มาก ๆ จะเป็นยังไงต่อ แต่ผมว่าท่าทางไม่ดีแน่  ก็เลยต้องห้ามมันหน่อยนะ

                                        “ อ่อนแอจริ้ง คนเรากินแค่นี้ทำเป็นออกอาการ”  เอ้อ  จริง  ๆ แล้วผมจะบอกว่าเชอรี่กินน้อย ๆหน่อยก็ได้นะจ้ะ

                                          “ย่ะใครจะไปเก่งอย่างแกหล่ะอิตาพงษ์   พ่อสิงห์ยาดอง”  นั้นไง  มันเอาเรื่องจริงมาชมเชยต่อหน้าก็เขินแย่ดิ

                                          “เออ  กินให้น้อยหน่อยก็แล้วกัน”    แต่ในใจผมคิดจะแก้แค้น ที่มันทำรอยช้ำ ๆ ตามแขน ตามลำตัวที่มันฝากไว้ให้ได้โอกาสแหละ  จะกรอกเหล้าเข้าปากให้มันแพ้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปเลย  อ่า  ฮา     

                                          “ เป็นบ้าอะไรอีก  ยิ้มอยู่ได้สมน้ำหน้าเขาอยู่รึไงอิตาพงษ์”  เออ   เชอรี่มันทำหน้างอน ๆ  (น่ารักตาย ) คงคิดว่าผมเยาะเย้ยมัน แต่ป่าวนะ ผมมีจิตใจงดงามจะตาย  แต่ต้องแก้แค้น ต้องเอาคืน  ต้องเอาคืนเชอรี่สิ หุหุ
                                           
                                          เวลา ประมาณสี่ทุ่มความเป็นผู้ดีที่มีอยู่น้อยนิดก็ทำให้เราสำนึกผิดชอบชั่วดี โดยการเลิกแหกปากรบกวนชาวบ้านมาเปิดเพลงคลอเบา ๆ  ไม่ได้สร้างบรรยากาศอะไรหรอกนะ เห็นมีครบคู่ก็เหอะ  เหอ  ๆ  เพราะไอเพื่อนสองคนผมคงไม่เล่นด้วย จะเหมาคนเดียวก็.............(คิดไรว่ะเนี้ยะ)  อ้าวแล้ว  เราเปลี่ยนจากนั่งล้อมวงกับแกล้มมาเป็นวงอย่างอื่นแทน  ความคิดไอกบครับ มันก็ช่างสายตาดีจริง    พอเหล้าเข้าปากอะไรก็กรึ่ม ๆ  ความคิดผมบรรเจิดเรื่องเอาคืน   

                                             “เฮ้ยเราไม่มีตังค์นะเว้ยเปลี่ยนเป็นถอดผ้าแทนได้ม่ะ”  คงเพราะฤทธิ์เหล้านะครับ  จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนลามกนะ  เอิกส์   

                                             “ อุ้ยส์   งั้นก็ดีสิพี่พงษ์ แต่พลอยขอดูอย่างเดียวนะไม่เล่นด้วย” ตาหวานเยิ้มเชียวนะน้องพลอย เอาไว้จะให้ดูคนเดียวทีหลังนะ จ้ะ
                                              “เอ้ย  ถ้าถอดก็เล่นด้วยกันดิ” ไอกบเสริมทัพช่วยผม ทำตากรุ่มกริ่ม

                                               “เอางี้แล้วกัน  ใครแต้มน้อยกว่าโดนหอมแก้ม”   เข้าทางเลยเชอรี่เอ้ย  เป็นข้อเสนอที่ถูกใจพี่มาก อ่ะ  อ่ะ  แนะ แหน่   ผมคงไม่ไปหอมแก้มไอกบกับไอนันหรอกครับ  เดี๋ยวพวกมันได้เอาผมตาย  ผมได้แผนแกล้งเชอรี่แล้ว

                                                 ไพ่ในสำรับถูกนำออกมาเราแบ่งทีมออกเป็นสองฝ่าย ก็ฝ่ายผม ไอกบ และไอนัน ส่วนอีกฝ่ายมีเชอรี่กับโอเด็ดสองคน พลอยไม่เล่นเพราะรักนวลสงวนตัวเลยต้องทำหน้าที่ชงเหล้าอยู่ข้างหลังผมแทน   เชอรี่เป็นคนแจก   ไพ่ ป็อกนะครับ
แจกคนละสองใบในใจก็ลุ้นแหละครับว่าจะได้แต้มเท่าไหร่ ถ้าแต้มน้อยก็โดนหอมแก้มถ้าแต้มมากก็จะได้หอมแก้มเชอรี่กับโอเด็ดผมไม่รู้ว่าใครจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบถ้าเป็นผู้หญิงคงจะเสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องแน่  แต่นี่ไม่ใช่  ไอ้พวกเพื่อนผมมันก็ใจกล้าหน้าด้านซะจริง ไอกบเมื่อรู้ตัวเองได้แต้มมากกว่าก็รี่เข้าไปจุ๊บที่แก้มพวกนั้นคนละครั้ง  มีแต่เสียงวี้ดว้ายกันใหญ่  ส่วนไอนันแต้มน้อยกว่าก็โดนรุมหอมแก้มกันไปคนละข้าง   มันทำอะไรไม่รู้สึกรู้สากันเลยเหรอ ส่วนผมได้แต่นั่งเหงื่อแตกพลั่ก จนพลอยต้องถามว่าร้อนรึเปล่า

                                                  “ ฝากไว้ก่อนอิตาพงษ์” คำขู่ของเชอรี่มันครับ   มันทำไรผมไม่ได้เพราะแต้มเราเท่ากัน  ผมก็ได้แต่ทำหน้าเยาะเย้ยแล้วทำปากจุ๊บ ๆ ให้มัน        แต่มันไม่รู้หรอกว่าผมจะเขินอายแค่ไหนกับเรื่องแบบนี้  นี่ผมจะแกล้งมันหรือผมจะโดนแกล้งกันแน่ไม่รู้   ลองอีกตาหนึ่งแล้วกันถ้ามันจะทน ( สั่น ) ไม่ไหว ก็ค่อยหนีกลับห้องแล้วกัน  แต่กินเหล้าก่อนก็แล้วกัน    ไพ่รอบสองถูกแจกออกมา ใจผมลุ้นยิ่งกว่าเดิม ไม่อยากให้แต้มมันมากหรือน้อยกว่าของมันเลย  แต่ว่า....

                                                      “เย้   ป็อกโว้ย  โอเด็ดจัดการ”  คำขู่ของเชอรี่เป็นผลครับ  ผมโดนเข้าไปคนละข้าง จากโอเด็ดกับเชื่อรี่ไอกบกับไอนันก็โดนด้วย  ดูพวกมันสนุกสนานกันใหญ่    แต่แค้นผมฝังลึกนึกทั้งเจ็บตัวแล้วยังเจ็บใจที่โดนหอมแก้มอีก  ผมต้องเอาคืนให้ได้ 
                                                       “มานี่เด๋วแจกเอง ไรว่ะป็อกอยู่คนเดียว”   เหอ ๆ  พวกนี้เสร็จผมแน่ไม่รู้จักอะไรซะแล้ว แล้วผมก็ทำการแจกโดยใช้วิธีของผมเอง
                                                         “ อ้าว  ป๊อกเว้ย  เชอรี่เอาแก้มมาซะดี ๆ”  ฮือเชอรี่เอียงหน้าเข้ามาหาผม   แก้มมันนวลเนียนสีแดงระเรื้อ ไม่มีสิวแม้สักเม็ดริมฝีปากเล็ก ๆ  อมชมพูนั้นมันน่าสัมผัสจริง  ผมจ้องหน้ามันแล้วค่อย ๆ เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ๆ  มันเหมือนเนิ่นนานกว่าจะเลื่อนไปถึง   นี่ผมได้หอมแก้มมันจริง ๆ  เหรอ

                                                         “เร็วเด่  ช้าอยู่ได้”  โห   จะรีบไปไหนเสียอารมณ์หมดเลย
                                                          “ ฟืดดด”   หอมแก้มมันไปทีหนึ่งก่อนจะหันไปหาโอเด็ดต่อ   อ่ะ  อ่า  โล่งอก รู้สึกดีเหมือนกันนี่หว่า  และคนที่รู้สึกเขินกับเป็นเชอรี่แทนยิ่งสนุกใหญ่ได้การแล้วครับ ความกลัวหายหมดเหลือแต่ความด้านที่มันมีอยู่เต็มหน้าแทน
                                                           “ ป๊อกเก้าเด้งด้วย”
                                                           “เฮ....แปดแต้ม”
                                                             .
                                                             .
                                                             .
                                                             .
                                                             .

                                         
                                                          “เย้  เอียงมาเลยแก้มมาเลย”

                                                            “อ่าส์  แต้มสูงกว่า  อีกแล้ว”  วู่   สนุกจังได้แกล้งคน พวกผมสามคนสนุกสนานกันใหญ่ 
 คนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ฝั่งตรงข้ามโน้น สะใจจริง ๆ   ก่อนผมจะโดนพลอยตีที่หน้าขาเบา ๆ  ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตี
แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ทำโทษคนขี้แพ้ก่อนนะ

                                                           เชอรี่ไม่ยอมเอียงแก้มมาให้ผมแล้ว มันนั่งหน้าบูดบึ้งอยู่  ผมเลยลุกขยับตัวเข้าหา มันก็มองหน้าผม และจะถอยออกห่าง  ผมมองด้วยสายตาที่ดุแล้วยิ้มที่มุมปาก เชอรี่มันคงเข้าใจว่ายังไงก็ไม่รอดแน่เลยยอมเอียงแก้มเข้ามาหา  ไอเพื่อนผมก็ลุ้นกันตัวโก่งยังกะดูหนังสด  ยิ่งผมขยับหน้าเข้าหามันช้า ๆ  มันก็ยึกยักลุกลี้ลุกลนนั้นแหละคือสิ่งที่ผมต้องการ  ทำให้มันอาย   มันพยายามจะถอยหนีอีกครั้งผมเลยต้องจับแขนไว้  และก็บอกว่า “จะกลัวทำไมยังไม่ชินอีกเหรอ”  มันยิ่งมองหน้าผมใหญ่  ได้โอกาสเหมาะผมเลยเลื่อนหน้าไปที่ข้างแก้มสีชมพูนั้นแล้วก็จุ๊บ.............ที่ปากเชอรี่ไปทีหนึ่ง





                                                      สะใจชะมัด ปล่อยให้มันค้างอยู่อย่างนั้นแหละ  แล้วผมก็ขอตัวไม่เล่นต่อ  ง่วงจังขอนอนเลยละกันโดยมีพลอยนอนเป็นเพื่อนข้าง ๆ  นี่แหละ
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-10-2007 15:40:55
ระวังเชอรี่จะเอาคืน  :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 10-10-2007 15:50:49

............ค้างคา.........ทั้งคู่..........  :m10: :m25:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 10-10-2007 16:08:54
ล้อมากๆเด๋วโดนเค้าจับปลํานา...  :m12:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-10-2007 13:12:14

ที่พลอยตีขาสงสัยจะหึงอ๊ะป่าว  :m26:

ว่าแต่ระวังเชอร์รี่เอาคืนหนักกว่าเดิมล่ะ :m12: :m12:

หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-10-2007 16:02:29
ชอบยั่วแบบนี้ เกิดเรื่องทุกที
 :a1: :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-10-2007 16:26:13
ยั่ว ๆ ไป ระวังเถอะ  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 12-10-2007 17:49:41
น่านหน่ะสิเฮียพงษ์  :m12: ยั่วมากๆแบบนี้ ระวังเถ้อะ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: "เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-10-2007 18:39:37
เออ  คือ   ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง ชื่อเดิมมันดูเศร้า ๆ ไงไม่รู้


แล้วจะมาอัพพรุ่งนี้นะครับ  ใครว่างก็แชตคุยกันหน่อยก็ได้

 :a1: :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: "ขอโทษที่ผมเป็นคนขี้เหงา"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-10-2007 18:42:54
แฮ   ๆ  แต่เปลี่ยนไม่เป็นครับ   :m17: :m17:   ใครก็ได้ช่วยที    น่า   นะ  นะ


 :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-10-2007 20:10:02
เวลาจะแก้ชื่อ topic ต้องไปแก้ที่รีพลายแรกครับ
กด แก้ไข หรือ modify ตรงหัวด้านขวาของรีพลายได้ครับ

ชื่อใหม่น่าสนใจและดึงดูดดีครับ
 :m27:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 12-10-2007 23:48:32
น่านหน่ะสิเฮียพงษ์  :m12: ยั่วมากๆแบบนี้ ระวังเถ้อะ  :laugh3:

 :m13: นั่นนะสิ  อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 13-10-2007 16:33:30
สู้ๆนะครับมารออยู่ :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 13-10-2007 17:02:39
 o13 o13   ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ   ถึงจะไม่ค่อยได้ทักทายเท่าไหร่แต่ก็แว้บเข้ามาทุกวันวัน  8 ชั่วโมงเลยนะ

 :m13: :m13:


เอ่อ............จริงๆ แล้วผมไม่ได้คิดจะไปยั่วใครหรอกนะครับทำไปเพราะสัญชาตญาณ 55   รูปร่างหน้าตาผมก็ไม่ได้ดูดีมีเสน่ห์ตรงไหน
ติดขี้เหร่ด้วยซ้ำ  แต่ก็หลายครั้งหลายทีที่อยู่ ๆมีคนมาบอกว่าตรงสเป็ก ผมก็เอ๋อรับทานไปหลายที    อย่างในเรื่องที่เขียนก็จะมีมาอีกหลายคนแต่ผมก็ตัด ๆ ออกไปบ้างกลัวว่าคนอ่านจะเบื่อกัน    จะเล่าเฉพาะที่จะเกิดเรื่องแล้วกันนะครับ


...
ตอน    ไชยา  แมททีเรียล

จากวันนั้นกลุ่มผมกับกลุ่มของพลอยก็สนิทกันมากขึ้นส่วนใหญ่ ก็จะนัดกินเหล้ากันหรือไม่ก็จะไปขี่รถเที่ยวที่เกาะลอย (หากันเองนะครับว่าเกาะลอยอยู่ไหน)  แน่นอนว่าผมไม่เป็นคนขับรถหรอก ความขี้เกียจมันเกาะกินสมองที่มีอยู่น้อยนิดเกือบจะหมดแล้ว ขอนั่งข้างหลังอาศัยร่างกายของคนข้างหน้าให้ความอุ่นจะดีกว่า   ผมกับพลอยไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยจนคนอื่นเขาคิดว่าเราเป็นแฟนกันผมก็ไม่รู้นะว่าจะเรียกว่ายังไง สำหรับผม ความรู้สึกที่มีผมไม่ได้รังเกียจพลอยเลยอยู่ด้วยแล้วสบายใจ  พลอยจะคอยดูแลเทคแคร์ผมตลอดเวลาแต่ไม่เคยเรียกร้องอะไรตอบแทน  ไม่เหมือนกับอั้มที่ผมไม่กล้าแม้จะเข้าใกล้นิสัยของสองคนแตกต่างกันอย่างชัดเจน   แต่ถ้าในโรงงานเราก็เป็นแค่คนรู้จักกันธรรมดาพลอยมีกลุ่มเพื่อนของเขาผมก็มีกลุ่มเพื่อนของผม ก็กลุ่มยาดองแหละครับ วันไหนว่างก็จะไปนั่งที่ร้านป้าเป็นประจำ  แต่ผมก็ไม่ได้ฟุ่มเฟื่อยกับการใช้จ่ายนะครับ ยังมีส่งให้ที่บ้านบ้างเดือนละสองพัน  ( เหอ  ๆ  มากไปป่าว )  ผมรู้ว่าเป็นเงินส่วนน้อยแต่ผมก็ต้องเก็บไว้จะซื้อรถมอเตอร์ไซค์บ้าง เอาไว้ตะเวนหางานใหม่ทำหลังปีใหม่ก็คงอีกไม่กี่วันนี่แหละ

                                     “ พี่พงษ์  วันนี้เลิกงานไปงานเลี้ยงนะ” งานเลื้ยงเหรอ   มีเหล้าด้วยป่าว

                                     “ที่ไหนพลอย”   ผมถามเพราะไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนที่ผมไม่รู้จัก ก็ไปตระเวนหากินเหล้ามาหมดแล้วอ่ะ

                                      “ บ้านพี่เปาะ  วันนี้หลังเลิกงานเขาเลี้ยงชนะวอลเล่กัน”  ออ   ลืมบอกไปครับเชอรี่  โอเด็ด แล้วก็พลอยเป็นนักวอลเล่ย์ทีมชายของโรงงาน  เหอ  โชคดีของโรงงานที่พวกนี่เป็นแค่ตัวสำรองเลยได้ที่หนึ่งมา  อิอิ

                                        “อืม...”    แปลว่าตกลงครับผมไม่ได้สนใจหรอกว่าใครจะเลี้ยงอะไรที่ไหน  แค่ว่าได้กินฟรีแล้วมีเหล้าเนียะก็เหตุผลมากพอที่จะไม่ปฏิเสธแล้วครับ  เป็นอันว่าหลังเลิกงานวันนี้  มีที่กินเหล้าแล้ว
......................................................................................

หลังเลิกงานผมต้องกลับมาเปลี่ยนชุดที่ห้องก่อน  ก็แค่ถอดเสื้อทำงานออกแล้วใส่เสื้อยืดแทนแค่นั้นแหละ  55   ไม่ได้แต่งหล่ออะไรหรอกไม่รู้จะแต่งไปให้ใครดู   แล้วพลอยก็ขับรถมารับผมที่หน้าห้องพักจะชวนไอนันไปด้วยมันก็ไม่อยู่ซะนี่ ขับรถเลยหอพักผมไปหน่อยหนึ่งก็เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านจอดรถใต้ต้นมะม่วง  บนแคร่ไม้มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วประมาณห้าหกคนท้งผู้หญิงและผู้ชาย  ขวดเบียร์วางเกลื่อนแล้วอยู่สงสัยเราจะมาช้าไปนิด

                                        “ บ้านพี่เปาะ  เขาเป็นร้านขายของด้วย ที่นั่งอยู่ก็มีแต่ลูกน้องเขาแหละ” พลอยบอกผมเพราะคงเห็นว่าผมทำหน้าสงสัยจนคิ้วจะผูกกันเป็นโบว์ได้ละมั่ง
                                        “เหรอ  แล้วพี่เปาะทำงานตำแหน่งอะไรหล่ะ”  ผมถามเพราะเห็นลูกน้องเขาหน้าตาคุ้น ๆ 
 
                                         “พี่เปาะก็หัวหน้าแมททีเรียลที่โรงงานแหละ”  ออ  หัวหน้าแมทเหรอ   ๆ   งั้นก็หัวหน้าไอทักษ์........
หัวหน้าไอทักษ์  งั้นก็ที่ชื่อ ไชยา แมททีเรียลที่ประกาศไมโครโฟนทุกวันนะสิ      จำได้ไหมครับที่ผมชอบล้อเลียนเวลาที่เขาเรียกเข้าประชุมว่าคงเป็นลูกครึ่งฝรั่งชอบอู้งานหลบงานไปหลับในห้องน้ำจนเขาต้องประกาศเรียกหาตัวนั้นแหละ

                                        เอาไงดีวะเนี้ยะถ้าเขารู้ว่าผมนินทาเขาอยู่ทุกวัน จะเป็นยังไง คงไม่ไล่เตะผมออกจากวงเหล้าหรอกนะะกลับก็ไม่ได้ กลุ่มนั้นมองมาทางเราแล้วนี่   เหอ  หลบ ๆ กินอย่างเดียวก็ได้ว่ะ  (มีความผิดแล้วจิตวิตกอ่ะครับ)ผมเดินตามพลอยไป แล้วพลอยก็แนะนำให้ผมรู้จักคนโน้นคนนี้ รวมทั้งพี่เปาะนั้นด้วย  ผมทักทายไปแล้วก็รีบหลบมานั่งกินเบียร์ไปตามเรื่องตามราวคนอื่นก็คุยกันสนุกใหญ่  ถึงแม้สายตาจะสงสัยว่าผมเป็นใครมาได้ยังไงก็ช่างเหอะ  แต่สายตาพี่เปาะนี่สิ จะมองอะไรผมนักหนา จะคาดคั้นเอาความจริงเหรอ รึว่าจะมีเซ็นซ์รับรู้ว่าผมชอบนินทาแก     แต่ก็ยังดีหน่อย นู้น เชอรี่กับโอเด็ดขับมอไซค์มาแล้วผมจะได้มีคนรู้จักเพิ่มขึ้น

                                         “อิตาพงษ์  มาเร็วนะจ้ะเรื่องกินเนี้ยะ”  เชอรี่ครับมันเล่นทักผมซะตกอกตกใจ  ถ้าช็อกตายจะรีบผิดชอบไหมนี่

                                          “ ของฟรีนี่ หาได้ง่าย ๆที่ไหน”  พูดไปแล้ว  บอกไปแล้ว  มันออกมาจากจิตใต้สำนึกอ่ะ

                                         “จ้า  ชอบของฟรี อิพลอยเอาไปเลี้ยงเลยเมิง”  โห   มันพูดไม่ได้เห็นอกเห็นใจผมเลย  คนอื่นผมก็ไม่ได้คุ้นเคยซะหน่อย ผมอายนะคร้าบ 
                                           “บ้าเลี้ยงไม่ไหวหรอก กินเก่งจะตาย”  เออ  เอาเข้าไปสนุกกันใหญ่คนที่ทำหน้าเยเก  เอ้ย หน้าแหยเหงือกจะแห้งตายอยู่ตรงนี้ไม่สงสารมั้งเลยยิ้มปากจะถึงฉีกถึงหูอยู่แล้ว (ทำได้ดีที่สุดแล้ว )  เซ็งกะมันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย

                                           “ พงษ์  ถ้าชอบกินก็มากินเป็นเพื่อนพี่ที่บ้านก็ได้”   ผมหันมองหน้าพี่เปาะทันทีไม่ใช่ว่าดีใจนะครับแต่ตกใจมากกว่า และผมเพิ่งเห็นหน้าแกชัด ๆ ก็ตอนนี้ ไม่ได้เป็นลูกครึ่ง หรอกครับ  ก็แค่ผู้ชายธรรมดาหุ่นนักกีฬาทั่ว ๆไปนี่แหละ สงสัยแกจะชอบกินเหล้า
                                           “ ครับ..”   อายสิครับมากินของเขาฟรี ๆ แล้วยังตอบตกลงจะมากินอีก   แต่จะว่าไปเปลี่ยนจากยาดองมาเป็นเบียร์ไปเลยคงดีเหมือนกันนะ
                                         
                                         
                                           กินได้สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับหลายคนโดยเฉพาะพี่เปาะชอบมาชวนผมหมดแก้วตลอดมีเหรอะอย่างผมจะถอยสู้ตายโว้ย...... แก้วต่อแก้ว หลายแก้วก็หลายขวดไม่นานหรอกครับอาการอ้อแอ้ก็จะเข้ามาแทนที่  อยู่ต่อคงไม่ไหวแน่เพราะไม่ใช่ที่ของผม พลอยคงจะเห็นว่าพอแล้วเลยต้องลากตัวผมกลับเชอรี่กับโอเด็ดก็กลับด้วยระหว่างทางก็อาศัยซบไหล่ของพลอยแทนหมอนหนุนไปทำไมช่างแสนดีอย่างนี่น๊า   ผมบอกพลอยว่าไม่อยากกลับห้องให้ไปห้องเชอรี่ เดี่ยวจะตามไอนันกับไอกบมากินต่อ พวกนี่ก็ตามใจแหละครับ      ถึงห้องพักผมก็โทรตามไอนันกับไอกบให้หิ้วเบียร์มาให้ด้วย  เพื่อนผมก็ได้ใจชะมัด   คืนนั้นก็เลยต้องมีอัน...............






เอาไว้เดี๋ยวมาต่อให้นะครับสำหรับคืนอันแสนสยิว  แต่เรื่องของพี่เปาะยังไม่จบแค่นี้หรอกครับ มันต้องพัวพันกันอีกสักหน่อย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-10-2007 17:25:54

มีอันอะไรอ่ะ

อยากรู้ๆ  o9

จากวันนั้นกลุ่มผมกับกลุ่มของพลอยก็สนิทกันมากขึ้นส่วนใหญ่ ก็จะนัดกินเหล้ากันหรือไม่ก็จะไปขี่รถเที่ยวที่เกาะลอย (หากันเองนะครับว่าเกาะลอยอยู่ไหน) 


 :laugh: :laugh:
ตะงิดๆ อยู่แล้วว่าฉากแต่ละฉากทำไมมันถึงรู้สึกคุ้นๆ อย่างนี้

ที่แท้ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง
 o17 o17 o17

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-10-2007 18:40:47
คืนอันแสนสยิว  :m10:  :m10:  :m10:  :m10:
มาต่อไวไวน้า  :m11:  :m11:  :m11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 13-10-2007 19:22:27
จุ๊กกรู๊ววววว  :m4:  มารอคืนอัศจรรย์ของคุณพี่พงษ์คร้าบบบ  :m12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-10-2007 19:36:29
เมาขนาดนี้ โดนลักหลับแน่
 :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 14-10-2007 10:06:55
รออยู่นะครับเฮ้อออ. :เฮ้อ:จะเกิดไนขึ้นนะเนี้ย :m7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 14-10-2007 12:33:17
 :try2:ถึง่วาสิ หาเรื่องตัวเองไม่เจอ เปลี่ยนชื่อนี่เอง

 :serius2:อ้ายยยยย อย่าลองเทสยาดองของเฮียจังเลย

หุหุ :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 14-10-2007 19:29:25
รอตอนหยิ๊วกิ้วค้าบบบบบบ :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 15-10-2007 08:57:45
 :m28:
เกาะลอย ชื่อนี้คุ้น ๆ แฮะ
แต่ ... นึกมะออก
 :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-10-2007 23:39:44

.............มารอคืนวันอันน่าสยิว........ :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 16-10-2007 08:14:40
ใครจะมานมัสการเจ้าแม่กวนอิมหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดก็เชิญที่เกาะลอยนะครับ   


ปัจจุบันก็ยังไปขี่รถและนอนเล่นอยู่ประจำ   อิอิ   :m14: :m14:


เอาเป็นว่า บ่าย ๆ จะมาต่อนะครับ  ตอนนี้ขอตัวไปอ่านนิยาย เอ้ย  ทำงานนะคร้าบบบบบบ  :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 16-10-2007 10:52:09
เย้ๆๆ...ตามอ่านจนทันแล้ววววววววว

หนุกๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-10-2007 11:32:10
รอตอนหยิวด้วยคน  :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 16-10-2007 13:31:54
เฮ้อ !!!  อ่านทันสักที   :m11:

คืนนั้นก็เลยต้องมีอัน.......  อะไรอ่ะ  ต่อด่วน ๆ ติดจ๋ายยยยย   :m12:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: gateau ที่ 16-10-2007 13:37:37
มารอตอน...


 :m25:    :m25:    :m25:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 16-10-2007 13:49:58
 :try2: :try2:  เข้ามารอกันใหญ่  รู้มั้ยผมต้องมานั่งปั่นเวลางาน   อิอิ  เจ้านายก็แสนใจดี  ผมว่างงานซะขนาดนี้ยังจะรับคนมาดูงานช่วยอีก 


คุณเรย์  คุณเรย์ แน่ ๆ  มือปริศนานั้น    ง่า :serius2: :serius2:

ไอกบกับไอนันหอบหิ้วเบียร์เข้ามาสักครึ่งหลังได้ ผมก็คิดว่าคงจะกินต่อไม่ไหวแต่ต้องทำหน้าที่ตัวเองนี่สิเสียงเรียกร้องมันเยอะอ่ะครับเลยจัดพี่แอ็ดให้ไปห้าหกอัลบั้มเอ้ยห้าหกเพลงรวดจากนั้นก็ต่อด้วยพงษ์สิทธิ์อีกหน่อยก่อนจะทำตามใจตัวเองแบกหัวหนัก ๆไปวางไว้ที่หมอน จะเป็นหมอนใครก็ชั่งผมคงไม้ได้เลือกขอนอนเลยแล้วกันส่วนพวกนี่ก็คงจะกินต่อจนหมด แระ

                               ผมรู้สึกมีมืออุ่น ๆ  กำลังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณท้องน้อยมันช่างเนิ่บนาบและแผ่วเบาปลายนิ้วค่อย ๆ ลากเลื่อนหมุนเป็นวงจากรอบสะดือสูงขึ้นมาบริเวณหน้าอกและเขี่ยเล่นที่หัวนมของผม  คืนที่มืดมิดปราศจากเสียงคาราโอเกะที่เคยก้องเมื่อหัวค่ำทำให้ผมนึกย้อนลำดับเหตุการณ์ แต่ผมคิดไรไม่ออกสมองผมแปรปรวนไปตามแรงมือนั้นมากกว่า   รู้ตัวเองแค่เพียงว่ากำลังจะโดนลักหลับ  เป็นใครผมไม่รู้เพราะมันมืดเกินกว่าจะมองเห็นถ้าหากมีเสียงของผมเล็ดรอดออกจากปากไปอาจทำให้คนที่นอนข้าง ๆ ตื่นได้จึงได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไว้  มือขวาผมรีบยกไปจับมือปริศนานั้นไว้แน่นจนทำให้เจ้าของมือตกใจจะชักมือกลับ   ผมกำมือเขาไว้อย่างนั้นก่อนจะเลื่อนมาจับที่ชายเสื้อตัวเองและถลกขึ้นมาให้อยู่เหนือระดับหน้าอกแล้วค่อยเลื่อนมือนั้นลงไปให้นิ้วแทรกเข้าไปใต้หัวเข็มขัดของผม  ผมปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระให้รู้ว่าอยากจะทำอะไรก็ทำ  เป็นอันว่าเราสองคนรับรู้กันจะมีคนอื่นรู้ด้วยรึป่าวไม่แน่ใจ  ภายใต้ความเงียบของยามดึกมีเพียงเสียง...............เบา ๆ ในลำคอของผมกับการเคลื่อนไหว ขึ้นลงอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลของหัวใครบางคนที่หว่างขาสุดท้ายมือผมก็จับหัวของเขากดแน่นก่อนจะกระเด้งไม่กี่ทีเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่ถูเก็บไว้ภายในให้กลายเป็นน้ำหวานสำหรับผู้หิวโหย น้ำหวานถูกจัดการจนหมดเกลี้ยงก่อนที่ผมจะถูกจับแต่งตัวให้อยู่ในสภาพปกติ    ไม่มีแม้คำพูดคุย   ไม่มีแม้คำถามใด ๆ  เขาล้มตัวลงนอนและกอดผมแน่น  ส่วนผมหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้     







                                           “เฮ้ย พงษ์  กลับห้องป่าว”   ผมงัวเงียลุกขึ้นมองตามเจ้าของเสียง

                                            “ เออ  ๆ  กลับ รอแป้บนึงนัน”  ผมสำรวจตัวเองใต้ผ้าห่มว่าอยู่ในสภาพที่ผมรึป่าว  (ระแวงอ่ะ)

                                             “นอนกอดกันกลมเลยนะ” ไอนันทำให้ผมสะดุ้ง  ผมรีบหันมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ....  เอ้ยนี่มันเชอรี่นี่หว่า เชอรี่นอนอยู่ด้านซ้ายมือ   แล้วเมื่อคืนมือนั้นมาจากทางไหนว่ะ  ไม่ใช่ซ้ายนะ  เป็นทางขวานี่  แล้วคนที่นอนด้านขวาหายไปไหน  แล้วใครอ่ะ

                                           “........................”  เราตอบไรไม่ได้นะนันเพราะไม่รู้ใครกอดเราอ่ะ  และถ้านายรู้ว่าทำอย่างอื่นด้วยเนี้ยะจะกล้าแซวป่าวว่ะ
                                          “กลับดีกว่า ต้องไปซักผ้าอีก” ผมเฉไฉไปเรื่องอื่น  รู้สึกเขินตัวเองจัง  หน้าบางซะไม่มีเลยวุ้ย         ผมลุกขึ้นจัดการกับสภาพตัวเองหน้ากระจก ไอนันกำลังลากไอกบลุกจากที่นอนส่วนเชอรี่กับโอเด็ด ที่นอนอยู่ฝั่งมือผมกำลังนอนมองพวกเราที่วุ่นวายกันอยู่  แล้วพลอยไปไหนล่ะ  เช้า ๆ อย่างนี่ในห้องน้ำก็ไม่มีนี่
                                          “พลอยไปไหน”  อดสงสัยไม่ได้ครับ 

                                          “ ห่างกันไม่ได้เลยนะ  เมื่อคืนยังกอดไม่พออีกเหรอ” หน้าผมร้อนวูบขึ้นมาทันที  เชอรี่มันพูดอะไร   งั้นเมื่อคืนนี่ก็พลอยนะสิ
                                          “ บ้าถามดูเฉย ๆ  จะกลับแล้วต้องมีคนไปส่งสิ”  ทำท่าฉุนไปอย่างนั้นแหละครับ ก็ไม่เห็นมันจริง ๆ
                                           “มันไปช่วยแม่ขายของที่ตลาดตั้งแต่เช้าแล้ว วันนี้วันอาทิตย์ตอนเช้าคนจะเยอะ”  ก็แค่นั้นแหละจะกั้กทำไม ไม่ได้อยากรู้อะไรมากหรอก  ผมไอนันและไอกบขอตัวกลับห้องก่อน ไม่อยากอยู่นานถ้าพลอยกลับมาอายพลอยมันด้วย ไม่รู้ว่าพลอยจะคิดไปขนาดไหน ความคิดผมสับสนวุ่นวายไปหมด ชีวิตก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ในใจผมคงจะผูกมัดอะไรใครตอนนี้ไม่ได้   ก็ได้แต่บอกตัวเองแหละว่าผมเมา  ต่อไปคงต้องห่างออกมาสักพักผมไม่อยากดึงใครมาผูกพันมากกว่านี้  เพราะผมรู้เสมอว่าพลอยเขาแอบรักผมมาตลอด
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-10-2007 16:56:44
 :o เป็นพลอยเหรอเนี่ย  :m25:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 16-10-2007 17:03:34

ที่แท้ก็พลอยเองเหรอเนี่ย  :laugh: :laugh: :laugh:


หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 16-10-2007 19:21:31
เสร็จพลอยไปซะเเล้วหรอออ o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nara ที่ 17-10-2007 08:19:31
ขอร่วมวง(เหล้า)ด้วยคน


ชอบจังคับ


บรรยากาศดีๆอ่านสบาย

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 17-10-2007 10:22:49
กรรมของเวร เวรของกรรม o9
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 17-10-2007 10:33:13
ตกลงใช่น้องพลอยแน่เหรออออออออ......คึคึคึ :m21:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-10-2007 23:21:34
ของผมไม่ใช้มืออ่ะ ใช้แต่ลิ้น
 :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 18-10-2007 07:00:30
คุนเรย์ใช้แต่ลิ้น   :sad5:

แล้วใช้ลิ้นทำไรอ่า  :confuse:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 18-10-2007 07:04:47
พี่ฮะฟื้นจากยาดองยังครับถ้าฟื้นแล้วมาต่อด้วยนะฮะ :m23:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 18-10-2007 14:13:34
 :m13: s6s6 ตาเรย์หยิวอีกแล้วนะ

อยากไปลอยเกาะ เอ้ย เกาะลอยจัง ใครจะว่างพาไปนมัสการพระแม่กวนอิมบ้างน้า  :amen:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 18-10-2007 15:51:18
อยากเขียนต่อจังเลย   แต่ขออ่านนิยายก่อนนะ    พรุ่งนี้จะมาอัพให้นะครับ



อยากให้จบเร็วจัง แต่ว่าพอเขียนไปแล้วมันยาวขึ้นเรื่อย ๆ  คนที่ผมพูดถึงข้างต้นเรื่อง  ก็เพิ่งแว้ป ๆ มาให้เห็นยังไม่มี


บทบาทอะไรเลย   เอาเป็นว่าจะมารวบรัดตัดตอนให้เยอะ ๆ  จะได้ทันปัจจุบันแล้วกันนะครับ





ปล.  น้องKrappom  คุณ  จืด  รู้เหรอว่าเกาะลอยอยู่หนาย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-10-2007 16:06:43
รอลุ้นต่อใช่พลอยหรอ  :m21: :m21: อ่านนิยายเสร็จรีบมาต่อนะ  :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 19-10-2007 01:09:02
แบบประมาณจริงๆแล้วเป็นนันอะไรเงี้ยป่ะ 555 ..... ว่าแต่ ตกลงเป็นพลอยหรือคุณเรย์แน่อ่ะครับ  o17
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 19-10-2007 07:46:02
รอต่อไป :a9:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 19-10-2007 07:53:03

ปล.  น้องKrappom  คุณ  จืด  รู้เหรอว่าเกาะลอยอยู่หนาย


รู้จิ อยู่ที่ศรีราชาไง เคยไปฝึกงานมาแล้วจ้า ที่สถาบันวิจัยประมงศรีราชาอ่ะ  :m21:ถูกป่าวเอ่ย

  o1 ยังเคยไปอ่างศิลา ศาลเจ้านาจาไท่จื่อ ด้วยน้า ส่วนใหญ่จะไปปล่อยปูม้าจ้า  :m7:

ไปก่อนล่ะนะ  :m2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 19-10-2007 08:32:23
เอ่อออ........เมื่อไหร่จะมาต่อ.. :m23:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 19-10-2007 11:24:02
รอต่อไป :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 19-10-2007 17:24:54

 :m17: :m15:
 วันนี้ไปตามอ่านนิยายที่คนอื่นมา  น้ำตาซึมเลยครับทั้งซึ้งทั้งเศร้า  นึกถึงตัวเองแล้วใจแป้วยังไงไม่รู้ ไอคนที่เจอหน้ากันทุกวันไม่เคยหวานอะไรกับผมเลย   เมื่อวานมันนั่งหัวเราะผมจนท้องขดท้องแข็ง  ก็เล่นกับมันแหละครับตอนนั้นกำลังดู โฆษณาตัวหนึ่งแล้วชอบมาก (ไม่รู้คนอื่นจะชอบรึป่าว)เกี่ยวกับอะไรก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าในฉากมีคนยืนรอคิวกด ATM อยู่เยอะ แล้วก็มีชายคนหนึ่งยืนกดอยู่ ( ใครรู้บอกทีน๊า)  พวกรอคงเห็นว่ารอนานเลยด่าเป็นภาษาเพลงซะ   เต้นได้อารมณ์ครับอารมณ์เครียดหนะนะดูหน้าแต่ละคนไม่ได้สนุกกับเพลงเลย    ผมชอบตรงที่คนยืนกดเต้นแล้วก็ร้องเป็นเพลงอ่ะ   ตอนนั้นผมใช้มันออกไปซื้อของที่มินิมาร์ทให้มันไม่ไปมันบอกถ้าไปจะซื้อเบียร์ด้วยไอผมไม่ไปเองหรอกขี้เกียจขับรถ ใช้นิดใช้หน่อยไม่ได้อารมณ์เริ่มชุนเลยร้องตะโกนออกไป  “บอกให้รออีกแป้บหนึ่งไม่ได้รึไง”  ร้องเป็นเพลงอ่ะแล้วก็เต้นแบบในโฆษณานั้น  ( ไปดูกันเอง )  มันได้ใจหัวเราะผมใหญ่บอกให้ทำอีกแล้วจะไปซื้อของให้  เชอะไม่ทำหรอกครับของดีมีครั้งเดียวมันก็หัวเราะไม่เลิกผมทำหน้ามุ้ยเข้าไปในห้องหยิบกีตาร์มาแหกปากกลบเสียงหัวเราะมันไป  แต่มันก็ยอมไปซื้อของให้ผมแต่โดยดี


                  เอาหล่ะครับที่ผม เกริ่นไว้เนี้ย อาจจะงงว่ามันเป็นใครวันนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังนี่แหละครับ มันเคยออกมาแว้บ ๆในบางฉากแล้วแต่ไม่ได้โดดเด่นอะไร เพราะผมเล่าแบบผ่าน ๆมากกว่า ตัวละครก็เยอะเลยจะลดให้เหลือน้อยหน่อย  เข้าเรื่องละกันเนาะ


.................................................................................

เช้าของวันจันทร์ต่อจากอาทิตย์ที่มีการแข่งกีฬาโรงงาน  เรื่องวุ่น ๆ มันก็ตามมาตั้งแต่เช้าแหละครับ   งานที่จะส่งเข้าไปผลิตในไลน์ไม่พร้อมสักที่ ก็วิ่งกันวุ่นวายหาโมเดลที่สามารถจะประกอบได้แต่แผนกของผมไม่มีสต็อกนี่สิครับ ต้องเกณฑ์ลูกน้องมาช่วยทำหลายคน แม้แต่ผมก็ไม่ได้ว่างเว้น คนใหม่ที่แทนไอหนุ่มก็ยังไม่คล่อง( จำไอหนุ่มไม่ได้ก็ไปอ่านใหม่นะจ้ะ ) เลยต้องลงมือทำเอง  ทำงานแข่งกับเครื่องจักรนี่โคตระเมื่อยเลยครับขอบอก   กำลังไล่งานให้ทำสต็อกได้ก่อนเครื่องจักรอยู่แล้วเชียว มือผมก็ไปเกี่ยวเอาเหล็ก จนได้เลือดตอนแรกก็ค่าแสบ ๆ มองอีกที ตายห่าละครับเลือดผมหยดลงถึงชิ้นงานแล้ว ก็เลยหยุด  แล้วมาจับกดนิ้วตัวเอง พนักงานคนอื่นเห็นก็ตกใจ จะให้ผมไปล้างแผล แต่ผมจะไปได้ไงละครับงานกำลังเร่งอยู่นี้เลยใช้ผ้าเช็ดหน้า เช็ด ๆ เลือดออกแล้วจะทำงานต่อ    :laugh:

                          “มานี่จะช่วยทำเอง ไปล้างมือเลยไป”   :m28:ผมชะงักเงยหน้ามองตามต้นเสียงแล้วถอยห่างออกมา

วันนี้มันมาแปลกปรกติมันจะต้องมายืนหัวเราะเยาะผมที่ชอบทำอะไรซุ่มซ่ามจนเจ็บตัว  แต่วันนี้ดูหน้ามันเครียด ๆ  ก่อนจะส่งสายตามาบอกผมให้ไปได้แล้ว  ผมก็ยืนกดนิ้วมองมันอยู่ว่ามันจะทำเป็นเหรอ มันไม่เคยทำนี่และอันที่จริงไอพี่นี่มันไม่ใช่พนักงานบริษัทผมด้วย

                          “ ไปได้แล้วเดี๋ยวก็เป็นบาดทะยักตายหรอก” เออ จริงแหะ  กรูกลัวตายนี่หว่า ไปก่อนนะเว้ย :o12:

ปล่อยทิ้งมันเลยครับอยากอวดเก่งนัก  ขนาดกรูว่าเซียนแล้วยังโดนเลย แล้วเมิงจะทำได้เหรอว่ะ  (จริงไม่อันตรายหรอกครับอย่างที่บอกผมอ่ะชอบทำอะไรซุ่มซ่ามเอง)    ผมรีบวิ่งไปห้องน้ำทันทีก็มีคนชะเง้อมองกันใหญ่ว่าไอนี่เป็นอะไร  ล้างเสร้จก็ขอพลาสเตอร์มาปืดไว้ซะก็เป็นอันเสร็จไม่ต้องถึงกับไปเย็บหรอกครับ ( กลัวเข็มอะดิ ) แผลนิสเดียว

-ไอพี่ลมนี่มันมายืนดูตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะไม่ยักกะเห็น-

-แล้วทำไมหน้ามันเครียดได้ขนาดนั้นเป็นไรมารึป่าว-   ก็นึก ๆในใจ แหละครับแล้วก้อต้องรีบเดินกลับไปแย่งงานมันคืน แต่ไอพี่ลมก็ไม่ยอมครับ จะช่วยทำจนกว่าจะทำสต็อกได้ ผมก็ต้องยอมเออ  ๆมันไปไม่อยากต่อล้อต่อเถียงมาก  แต่ก็ขอบใจหว่ะ

รู้สึกว่ามันจะมีน้ำใจอยู่บ้างถึงจะปากมอมไปหน่อย   เลยเวลาพักเที่ยงทุกวันผมจะต้องมาหาที่นอนพักนั่งพักกับพี่สอแล้วก้อไอทักษ์ แต่วันนี้มีพนักงานคนหนึ่งก็ที่รู้ ๆจักกันแหละครับมาทำหน้าที่เป็นหมอดู ดูลายมือคนโน้นทีคนนี้ที  มันก็ดูให้พี่สอก่อนแล้วก็บอกว่าพี่สอมีเมียหลายคนยังตกลงใจไม่ได้ว่าจะแต่งกับใครดี  พี่แกก็รับสารภาพว่าจริง ดูให้ไอทักษ์บ้างมันก็ไม่ปฏิเสธอะไร  ใจผมชักหวั่น ๆ หล่ะถ้ามันดูให้ผมแล้วพูดอะไรไปบ้างเนี้ยะ.........เย้ออ...แต่ก็อยากรู้เลยต้องลองหน่อย ไอพี่มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับไม่ได้สังเกตมันนั่งอยู่ข้าง ๆ ไอทักษ์แล้ว    ผมยื่นมือขวาไปให้ไอท่านหมอดู  มันก็จับไปพิจารณาไปแอ่นดู

                       “ วาสนาพอมี”  ตรงไหนเหรอ
                       “ตอนเด็ก ๆ  นี่ลำบากนะ”  ตอนโตกรูยังลำบาอกว่ะ  (กว่าเดมอีก )
                       “การศึกษาดี”   ก็แหงละครับคนเขารู้หมดแล้วนี่ว่ากรูอ่ะจบไรมา  (ก็เพิ่งรู้ไม่นานนี่เองเพราะผมใช้วุฒิ ม. 6 สมัครงานเข้ามาความเพิ่งแตก  )
                         -ไหงไม่บอกชาติตระกูลดีด้วยหว่า-  คิดในใจครับ   อืม.....  สงสัยจะแม่นจริงแฮะ

                       นมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม   

                       แล้วกลับไปดูลายมือใหม่

                        ก็เงยหน้ามองทุกคน 

                        แล้วก็มองหน้าผม...........ยิ้ม

                          “ อันนี้กุมารทองบอกกู”   มันว่า  แต่ทำให้ผมค้าง  อยากรู้ว่าบอกอะไร  (มันเลี้ยงกุมารทองด้วยครับ )





                                     “มึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย”   :m30: :m30:


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
                       
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-10-2007 20:15:16
อ้างถึง
มึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย”
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

ทำมายหมอดูเก่งเยี่ยงนี้ อยากดูบ้างแล้ว
ต้องโทรไป 1900 ปะ
กร๊าก
 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 19-10-2007 22:00:27
 :m20:  อ่านเพลินดีอ่าเรื่องนี้ 

ตามมาให้กำลังใจ หุหุ..

ปล. ชอบโฆษณาเดียวกันเลย เต้นๆตอนกดเอทีเอ็ม ขำดี เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 20-10-2007 09:55:36
มาต่อไว้ให้ก่อนนะครับ   เดี๋ยวมันจะขาดตอน   :m26:


และคงจะมาต่อให้อีกวันที่   23    ยังงัยก็ขอกำลังใจกันหน่อยนะครับ



ปล.ใครแอบอ่านไม่เม้นท์ขอให้แฟนทิ้ง   อิอิ (แรงไปป่าว)



//////////////////////////////////////////////////

อึ้งกิมกี่  หน้าซีดพอประมาณ จะยิ้มก็ไม่เต็มปาก กับคำทำนายของไอท่านหมอดู  “มึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย”  ไม่ได้เถียงมันหรอกครับก็รู้อยู่แก่ใจและหวังว่าคงเป็นอย่างนั้น   แต่ที่อึ้งเนี้ยะเพราะไม่คิดว่ามันจะกล้าบอกตรงขนาดนี้   เห้อ  คนที่นั่งข้างๆ ก็มองหน้าผมกันอย่างพร้อมเพียง  เหมือนจะคาดคั้นอะไรสักอย่าง  แต่ที่จริงผมก็ไม่เคยปิดบังอะไรใครจะรู้หรือจะดูออกก็ช่าง แต่ผมแค่กลัวว่าเพื่อน ๆ ผมจะรังเกียดมากกว่า

                                   “นั้นไง....ว่าแล้ว”   o21 จึ้ยส์    ไอทักษ์  ทำผมตกอกตกใจ  มองหน้ามันเจื่อน ๆ

                                    “ ป๋าจะเอา น้องอั้มหรือจะเอาน้องพลอยหล่ะ  5555”   มันพูดแบบติดตลกแล้วก็ขำกันใหญ่  ยกความดีให้มันไปที่ทำลายบรรยากาศหวิว ๆ ของผมได้
                                     “ เออว่ะ  เดี๋ยวกรูเอาหมดแหละ  มึงด้วยไหมหล่ะ 55”  พูดขำ  ๆ  ไปกะมัน  แค่นั้น  (แต่ได้ก็ดี  ฟรีให้เบิ้ล กิ้ว  ๆ ) :m10:

                                             




                                   เพื่อนกัน  ๆ  ล้อเล่นน๊า     หมดเวลาพักแล้วครับได้เวลาทำงานช่วงบ่าย ผมก็ต้องเข้าประจำตำแหน่งเดิม แต่ต้องไปดูโมเดลแล้วก็เช็คสต็อกของในไลน์ก่อนว่าขาดเหลือเท่าไหร่   ไม่อยากเข้าไปแต่ต้องจำใจละครับและก็ต้องจำเป็นเดินผ่านจุดที่ไออั้มมันทำงานด้วย  ผมก็ทำเป็นไม่มองมันเดินนับงานผ่านด้านหลังมันไปพยายามทำตัวลีบเล็กที่สุดกลัวมันเห็น แล้วก็เดินผ่านมันไปอย่างสบาย   โล่งอกไปที



                                             “  58     59     60   “   ทั้งหมด 60 ตัวยังขาดอีก 48  ตัว  แล้วผมก็ก้มหน้าจดบันทึกของผมไป  พร้อมหันหลังกลับทางเดิมเพื่อนับสต็อกที่ไลน์อื่นต่อ 


                                          “ พี่พงษ์ขา “     เจ้ย......ผมเกือบจะร้องเสียงหลง เมื่อสะดุ้งตกใจกับคนที่ยืนขวางหน้าผมอยู่   :m30: :m30:

                                           “อะ   อะ  อะไร”   ใจหายยิ่งกว่าตอนกลัวผีอีก   ผมไม่รู้ว่ามันจะทีเล่นหรือทีจริง  มันยืนกางแขนกางขาขวางทางผม ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่มองมา  รอยยิ้มของมันเห็นแล้วก็เสิยว  เอ้ยสยิว  เอ้ย  ไม่  ไม่ .....เห็นแล้วสยองทันที

                                            “อั้มไม่ให้พี่พงษ์ไป”  พูดแล้วมันก็จะเดินเข้ามา   ใจสั่นครับไม่รู้ว่าผมจะกลัวอะไรกันนักหนา

                                             “ อั้มไม่เล่นนะพี่จะรีบไปทำงาน”   ไม่รีบหรอกครับแต่ผมอายมากกว่า  คนมองกันเยอะจะด่ามัน ไอผมก็ด่าคนไม่เป็นซะด้วย  เบี่ยงตัวจะเดินหลบ มันก็มาขวางอีก กลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น   เห้อได้แต่ยืนนิ่ง ๆ  ละเหี่ยใจกับมัน

                                                “อั้มล้อเล่น พี่พงษ์ไปสิ  ไปสิ ไปสิ”  นั้นยิ่งทำให้ผมหวั่น  มันเบี่ยงตัวมายืนด้านข้างทำตาเยิ้มเชียว ผมเลยต้องรีบเดินผ่านมันไป

                                                  “ป้าบ”   :angry2:น้าน.......................ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ  ผมคิดไว้ไม่มีผิด มันจับตูดผมเต็ม ๆ ( ฮือ  ๆ เค้าจะฟ้องแม่   )

                                                   ผมเดินผ่านมาแล้วหันกลับไปมองอีกครั้ง คราวนี้มันทำให้ผมอึ้งและตกใจมากขึ้น มันทำหน้าเศร้า ๆ  ชวนน่าสงสาร................แต่ตอนนี้ผมอยากจะฆ่ามัน.....ที่มือมันนั่น.......นั่น  มัน..... รูปผมตอนรับปริญญานี่  มันเอามาได้ไงอ่ะ  ผมเก็บใส่อัลบั้มไว้ที่ห้องนี่ อยู่กับมันได้ไง...... โกรธครับ   โกรธมากด้วย จากหน้าเศร้า ๆมันมีรอยยิ้มแหลมขึ้นมาที่มุมปาก...............................................อ้ากกกกก  ............กรูจะฆ่าเมิง............เมิงตายยยยยยยย............. o12 o14






                                                 เห้อ....ก็คงต้องทำใจละครับอยากได้ก็ให้มันไปส่วนมันจะได้มายังไงไอนันน่าจะรู้ดีที่สุดเอาไว้กลับห้องค่อยถามแล้วกัน     ผมก็ได้แต่เดินหน้ายุ่ง ๆ กลับไปที่โต๊ะ ไม่นงไม่นับสต็อกมันแล้ว เดินไปก็ผ่านไอพี่ลม  เหลือบตามองมันหน่อยนึงไอพี่นี่คงว่างจัดการงานไม่ทำแล้วก็เดินต่องุด ๆ
                                           “ไง......”   อะไร   อ่ะไง
                                           “ไปหยอกกับแฟนมาสิท่าสนุกสนานกันใหญ่” สนุกกะผีนะสิ ตาบอดรึไงหน้ากรูยังกะตูด

                                           “อะไรใครไปหยอกแฟนที่ไหน  พี่อย่ามามั่ว”  ใครจะกล้าเอามันเป็นแฟนฟะ แค่มองก็สยองแล้ว (ไม่ใช่มันหน้าตาไม่ดีนะแต่การกระทำมันอ่ะน่าสยองเจรง ๆ )

                                            “ ก็เห็นอยู่ จะปฏิเสธทำไมยอมรับมาเหอะ” เครียดกับไออั้มแล้วยังจะมาเครียดกับไอพี่นี่อีก  เมิงจะมายุ่งอะไรกับกรูฟะเนี้ยะ   ไม่สนใจแม่งแล้วเดินหนีดีกว่า

                                            “อย่ามากวนจะไปทำงาน”   น้าน    ทางออกครับแต่ว่าทางที่เดินไปหน่ะ............ ห้องน้ำนะนั่น



                                        ผมเดินหงุดหงิดเข้าห้องน้ำไป  ไม่รู้ว่าเข้าไปทำอะไร  กรูมาทำไรเนี้ยะ  เอาว่ะล้างหน้าหน่อยก็ได้จัดการล้างหน้าตัวเองแล้วก็ส่องหล่ออีกนิดหน่อย  อืม  ทำหน้าเครียดไม่ดี  ยิ้มแล้วกรูดูดี  ยิ้มไว้  ยิ้มไว้...........   ทำอารมณ์ดีเดินออกจากห้องน้ำจะกลับมาที่เดิมก็เจอพลอยยืนดักรอที่ข้างทาง 

                                           “พี่พงษ์  น้ำโค้ก”  พลอยยื่นน้ำโค้กมาให้ผมกระป๋องหนึ่ง

                                          “อืม   ขอบใจนะ”   มือไว้กว่าปากครับ  (เฉพาะเรื่องกินน๊า)

                                           “เป็นอะไรอ่ะทำหน้าเครียด ๆ”  นั้นนะสิ เป็นอะไรอ่ะ  เครียดตั้งแต่เช้าแล้วนี่  สรุปใจความสำคัญให้ตังเองได้ว่า   -เป็นเกย์- :m23:

                                            “ป่าวไม่มีไรมากหรอก  คงเรื่องงานแหละ”  มันก็มีส่วนนิ
                                           “ยิ้มหน่อยสิจะได้น่ารักหน่อย”  อ่ะอันนี่พูดถูกใจ  เดี๋ยวแจกยิ้มให้อีกกระบุงโกย

                                             

                                          ผมยิ้มให้พลอยอย่างน้อย ก็ทำให้ผมสบายใจขึ้น แล้วก็เดินยิ้มค้างไปที่โต๊ะงาน   แต่ไอพี่ลมนี่นะสิมันยังไม่เลิกมองตามผมอีก   มันเป็นบ้าป่าวว่ะ  ช่างมันทำงานดีกว่า
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-10-2007 10:42:06
พี่ลม มีพิรุธนะเนี่ย  :m28:  :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 20-10-2007 13:43:27
 :m1:
เกลียดอะไรได้อย่างนั้นหรือเปล่า

ว่าแต่
อ้างถึง
ปล.ใครแอบอ่านไม่เม้นท์ขอให้แฟนทิ้ง   อิอิ (แรงไปป่าว)

เอ้อ ... แล้วถ้าแฟนไม่มีล่ะ  :m21:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 20-10-2007 14:38:18
:m1:
เกลียดอะไรได้อย่างนั้นหรือเปล่า

ว่าแต่
อ้างถึง
ปล.ใครแอบอ่านไม่เม้นท์ขอให้แฟนทิ้ง   อิอิ (แรงไปป่าว)

เอ้อ ... แล้วถ้าแฟนไม่มีล่ะ  :m21:


ใครแฟนไม่มีขอให้ได้ผมเป็นแฟนเอ้า  (แรงกว่านะเนี้ย)
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 20-10-2007 21:15:47
หุๆคนปัจจุบันใช่พี่ลมป่ะน้า :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-10-2007 10:56:01
พี่ลมเริ่มรุกคืนหน้าแล้ว
เฝ้าแอบสังเกตพฤติกรรมด้วย สงสัยจะหวง
 :m11: :m11: :m11: :m11:

เรื่องเริ่มมีพล็อตเดินให้ตื่นเต้นแล้ว
ว่าแต่ตอนต้นเรื่องนี่ หนุ่มไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตเลยหรือ
 :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 21-10-2007 10:57:57
น่ารักอ่ะไงก็ขอบคุณนะครับ :a1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 21-10-2007 12:05:52
 :m15:ถึงว่าสิ ไมเรามีแต่กิ๊ก ไม่มีแฟนใหม่กะเค้าสักที  :a14:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-10-2007 22:11:22
มาเม้นแล้วนะค้าบบบบ แต่ผมก็ยังไม่มีแฟนเหมือนกันนะ อิอิ  o17

หุหุ เนื้อเรื่องเริ่มมีอะไรมากขึ้น มีบุคคลหลายคนกะลังจ้องพงษ์อย่างตาเป็นมัน คิคิ จะเสียทีใครน้า  :m25:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 22-10-2007 08:55:14
[ว่าแต่ตอนต้นเรื่องนี่ หนุ่มไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตเลยหรือ
 :m28:
[/quote]


คือว่า  ไอหนุ่มยังไง ๆ มันก็เป็นน้องอ่ะครับ  ผ่านมาแค่แว้บเดียวไม่ได้สานสัมพันธ์ อะไรกันมาก 



เอ้อ  จริงๆก้อแค่ผมชอบมองคนหล่อ   กิ้ว  ๆ 




ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังนะครับ   งั้นขอให้มีแฟนดี ๆทุกคน  ใครมีแล้วให้มีอีก    55
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 22-10-2007 10:21:46
^
^
^
^
มารับคำอวยพร  555  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 22-10-2007 13:31:39

.............อีกคนที่เข้ามา...... :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 22-10-2007 13:32:17
อ้างถึง
ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังนะครับ   งั้นขอให้มีแฟนดี ๆทุกคน  ใครมีแล้วให้มีอีก    55

แล้วมันจะดีเหรอ มีแล้วมีอีกเนี่ย  :m28:

เข้ามารอวันที่ 23 นึกไปนึกมา

อย่าบอกนะว่าเป็นนัน

แต่ ...

พี่ลมอ่ะน่าสงสัยที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 22-10-2007 13:55:05
พี่ลมพฤติกรรมน่าสงสัยที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nara ที่ 22-10-2007 22:20:57
ต้องเป็นพี่ลมแน่เลย


แล้วมาต่อนะคับ

กินเหล้าให้มันน้อยหน่อยน่ะ

เป็นห่วง

เลิกเหล้าเลิกจน
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: anTon ที่ 23-10-2007 00:08:11
นั่นสิคับ

มีแฟนเปลี่ยนผู้ชายเนี่ย

พี่ลมแน่ๆ :a4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 23-10-2007 02:08:31
:m12: :m12:.....อ่ะน้า...เพิ่งเข้ามาอ่านอ่ะ...แหมๆๆ...คนเขียนนี่ท่าทางมุขเยอะดีนะครับ....เขียนไปขำไปด้วยอ่ะ....เรื่องเตรียดๆยังทำให้ขำอมยิ้มได้อ่ะครับ....ขอบคุณน้าค้าบ.... :m20: :m5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 23-10-2007 16:23:52
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
วันนี้วันหยุดนะนี่  ผมต้องมานั่งทำโอทีอีกเหรอนี่   เศร้า  :m29: :m29:

เลิกงานตอนเย็นวันนี้งดกิจกรรม เมาที่ร้านป้าครับ ผมต้องรีบกลับห้องถามความจริงจากไอนันให้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะตามไปเอารูปผมคืนหรอกนะครับแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น   ไออั้มเอารูปผมไปได้ไง    ไอนันได้งานทำที่ใหม่แล้วคงจะเลิกงานสักสองทุ่มได้  ผมก็นั่งรอนอนรออยู่ในห้องนั่งอ่านหนังสือมั้ง เขียนบันทึกมั้ง ฆ่าเวลาไป    จนไอนันกลับมาแหละถึงได้เล่าให้ผมฟังว่าอั้มมันมารอผมที่ห้องเมื่อวันที่ผมไปกินเบียร์บ้านพี่เปาะไอนันกลับจากทำงานเห็นมันนั่งอยู่หน้าหอเลยบอกมารอข้างใน  ผมก็ไม่รู้ว่าจะมารอผมทำไมไอนันก็ไม่ได้ถาม   สักพักเดียวมันก็กลับ    ไอนันมันก็ถามว่าเกิดไรขึ้นผมก็เล่าให้มันฟัง แล้วก็บอกว่าอย่าให้เข้าห้องอีก  ถ้าเกิดมันหื่นข่มขืนนันมาจะว่าไง  (อันนี่แซวไอนันเล่นครับ ) 




เอาเป็นว่าผมไม่ได้ติดใจอะไร  ผมประเภทโกรธง่ายหายเร็ว  แล้วลืมง่ายด้วยสงสัยจะเป็นญาติกลับปลาทอง  อาทิตย์ทั้งอาทิตย์ผมก็วุ่นวายอยู่กับงานซะส่วนใหญ่  ห่างหายจากยาดองไปได้หลายวันเพราะโรงงานต้องเก็บสต็อกสินค้าก่อนจะถึงวันปีใหม่      และคืนข้ามปีก็มาถึงผมไม่ได้กลับบ้านเพราะผมเพิ่งกลับไปรับปริญญา เมื่อไม่นานนี่เองปีใหม่นี่เลยขอแม่ไม่กลับบ้าน  แล้วผมจะไปไหนได้ล่ะครับ ก้อต้องอ่านหนังสือไป  เซ็ง ............................................................

.วันที่   31  ธันวา.............อ่านหนังสือ ...............  ซักผ้า.................เดิน.........กิน .........นอน............และนอนยาว 


วันที่    1  มกรา.......................รีดผ้า.............กิน.............เดิน...........นอน...............และ.......นอนยาว ( วงจรชีวิตแมงวันยังดีกว่าอีกเนอะ)


วันที่    2  มกรา........................เย้...ๆ ....ๆ ...ๆ ........วันนี้ไปทำโอที ดีกว่า.......................(ควรดีใจมั้ยนี่  เห้อ)

 

                                               
   เป็นวันปีใหม่ที่ทรมานที่สุดครับ  ทางใจหน่ะนะผมคงไม่ต้องบอกหรอกครับว่าจะรู้สึกอย่างไร      ที่เซ็ง ๆ เพราะคนอื่นเขากลับบ้านกันหมดรวมทั้งไอนันด้วย  วันนี้ผมเลยต้องมาทำงานเพื่อฆ่าเวลา แม้จะครึ่งวันก็ยังดี   ผมมาถึงโรงงานก็ก่อนเวลา เจ็ดโมงครึ่งก็เดินผ่านป้อมยามไปแต่ดูคนมีน้อยจัง   ส่วนใหญ่ก็จะมาเตรียมงานก่อนเปิดพรุ่งนี้

                                                 “พงษ์  ไม่ได้กลับบ้านเหรอ”     เสียงใครคุ้น  ๆ

                                                  “อ๋อ   ป่าวครับพี่ ไม่ได้กลับครับ”   ถ้ากลับกรูจะมายืนหน้าแห้งอยู่นี่เหรอฟะ

                                                   “เอ้า   แล้วก็ไม่บอกจะได้ชวนไปเที่ยวด้วย”  เหอ  ๆ   จะรู้ไหมเนี้ยะ ว่าจะให้ไปด้วย

                                                   “หว่า  เสียดายจังพี่ไม่ได้ไปด้วย”   แล้วไม่ตามหากรูเลยอ่ะ  ปล่อยให้กรูนอนอยู่ห้องทำมายยยยยย

                                                    “งั้นเอาเบอร์มา จะได้ชวนไปกินข้าวด้วย”  ดีครับพี่  พี่น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว.............ผมรีบเขียนเบอร์โทรให้โดยด่วนแทบไม่ทันใจ ....กลัวจะไม่ได้กิน  (ฟรี)   

                                                    “ตอนเที่ยงอย่าเพิ่งไปไหนนะ”   เหวอ  ตอนเที่ยงจะมีเหล้าป่าวเนี้ยะ

                                                     “ครับพี่”   ใจง่ายจังเลยครับ    เอาของกินมาอ้างเนี้ยะ   

ออ  ลืมบอกครับที่ขอเบอร์ผมนี่พี่เปาะครับ  แกก็มาเตรียมงานของแกเหมือนและ  ที่แน่ ๆ ตอนเที่ยงนี่แกบอกจะชวนผมไปกินข้าว ก็คงจะไปหลายคนแหละครับรวมกับลูกน้องแผนกเค้าและที่แน่ ๆ ผมเห็นไอทักษ์ อยู่ไว ๆ มันก็คงจะไปด้วยแน่นอน...............
ไอทักษ์เหรอ ....................(คิดสิ)............มันมาทำงานด้วยเหรอ......................มันไม่ได้กลับบ้านหรอกเหรอ..........................
มันไม่ได้กลับบ้าน.......แล้วทำไมมันไม่มาหาผมบ้าง ปล่อยผมอยู่ห้องคนเดียวตอนปีใหม่ได้งายยยยย.....................................ไอบ้าทักษ์.........ไอเพื่อนเวร............



                                               

                                       หลังเที่ยงผมชิปบัตรออกครึ่งวันหลังพี่เปาะโทรมานัดผมให้รอที่หน้าประตู    ผมขึ้นรถแกไปในใจก็คิดว่าคงจะแวะไปรับไอทักษ์ที่ไหนสักแห่งเพราะมันน่าจะเอารถมันไปเก็บที่หอพักก่อน  ตอนทำงานก็ยังไม่ได้คุยกับมันไม่รู้หายหัวไปไหน
พี่เปาะขับรถห่างออกมาจากโรงงาน  ห่างออกจากที่ ๆผมคุ้นเคย ไม่เห็นพี่เปาะแวะรับไอทักษ์หรือลูกน้องแกคนอื่นสักที    พี่เปาะก็ชวนผมคุยโน้นนี่คงกลัวผมจะ(นั่ง)  เกร็ง  แต่ผมอดสงสัยไม่ได้จึงต้องถามออกไป  พี่เปาะเลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนไปกินเหล้าที่ผับกันมาไอทักษ์ก็ไปด้วยเช้ามันมาทำงานคงยังค้าง ๆ (เมา)  จึงกลับห้องไปก่อน.............สรุปคือผมต้องไปกินข้าวกับพี่เปาะสองคน

 
                                    พี่เปาะขับรถวนหาร้านอยู่หลายรอบก่อนจะมาจอดที่ร้าน ร้านหนึ่งที่บรรยากาศดีมากเราเลือกนั่งที่ซุ้มด้านนอกที่จัดเป็นสระบัวและสวนอย่างสวยงาม   พี่เปาะให้ผมสั่งกับข้าวสามสี่อย่าง  ส่วนแกสั่งเหล้ากลมนึง  เด็กเสิร์ฟก็จัดการชงเหล้าให้คนละแก้ว   ผมยังรู้สึกไม่ดีเลย  ทำตัวไม่ถูกเพิ่งรู้จักกันแค่ครั้งเดียวนี่ไหงพาผมมากินข้าวกันแค่สองคนซะแล้ว   ไอผมก็พาซื่อไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเดินลงหลุมพรางซะแล้ว  .........................






ปล. วันนี่มีมารผจญครับ  ตอนนี้มันอบซุ่มอยู่ที่ข้างกระจก   ผมพิมพ์ไรได้ไม่มาก เดี๋ยวขอไปจัดการก่อนนะครับ

...................เมิงตาย........... :angry2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-10-2007 18:32:51
อ๊ะ น่ากลัว จะโดนมอมหรือปล่าวนี่
เสน่ห์แรงจริง กะเพศเดียวกัน
 :m20: :m20: :m20: :m20:

ว่าแต่ไปจัดการใครเหยอ ระวังอย่าถึงตายนะ
 :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 23-10-2007 19:19:51
พึ่งได้อ่านครับ 

มาช้ายังดีกว่าไม่มาเนาะ

เรื่องน่าติดตามครับ 

รอตอนต่อไป

+1 ให้ครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 24-10-2007 13:09:22
สู้ๆนะครับผมระวังโดนมอมเหล้านะ :a9:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 24-10-2007 14:05:45
                      ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เหล้าเข้าปากอะไร ๆ ก็ง่ายขึ้น  จากที่เคยนั่งเกร็งตอนนี้แทบจะอ่อนปวกเปียก  เราใช้เวลาในการกินเกือบสามชั่วโมง ทุกอย่างตรงหน้าถูกจัดการจดหมดเกลี้ยง  (ยังกะรถเก็บขยะมาเอง ) ระหว่างกินดูพี่เปาะแกมีพฤติกรรมและคำพูดแปลก ๆ   ถึงเวลาต้องกลับแล้ว  ผมกินเสร็จก็กะว่าจะชิ่งเลยแหละแต่ไปไม่ได้ไม่มีรถ ที่สำคัญกว่านั้นผมคงหลงทางแน่ ๆ ไม่อยากอยู่นาน เมาก็เมาแล้วผมจะไว้ใจพี่เปาะได้ไหมเนี้ยะ  ขึ้นรถได้พี่แกก็ขับพาผมออกมา ขับเข้าไปในเขตเมือง  ไม่แปลกหรอกที่ผมจะไม่ทักท้วง เพราะผมจำทางกลับไม่ได้อ่ะ  เลยได้แต่นั่งเฉย ๆ  จนแกวนรถอยู่หลายรอบ  ( สงสัยพ่อขายน้ำมัน )  นั้นแหละครับ

                              “พี่เปาะ  พาผมไปส่งห้องนะ”  เกิดระแวงครับ  ใจคอไม่ดีเลย

                               “ อืม  เดี๋ยวพี่ไปส่ง”   ใช่แล้วครับพี่   ถูกต้องนะคร้าบ

                                “.....................”   ยิ้ม

                                พี่เปาะหันมามองหน้าผม  แล้วก็ยิ้มตอบ

                                “ แต่พี่ขอนอนพักก่อนนะ   ตอนนี้ง่วง”    ดีครับพี่  ถ้าง่วงก็นอนก่อน สนองนโยบายรัฐดีครับ ผมก็ง่วงเหมือนกัน พอคิดว่าง่วงนอนตาก็เริ่มปรือแล้ว...............หง่าวววว :a12:

                                “จะไปโรงแรมไหนดี”    อืม  ดีอีกแล้วครับพี่  นอนโรงแรมง่ะดีจะได้สบาย ๆ หน่อย......

                                 นอนโรงแรม .............. (สดุ้ง)    :m28:


                                นอนโรงแรมเหรอ………………….(ตาเบิกกว้าง ) :m21:


                               นอน –โรง---แรม  ...............อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก............ :serius2:



                           “พี่กลับไปนอนห้องดีกว่าครับ”   อื๋อ..........


                             “ไม่ ๆ  ๆ  ๆ    ไปส่งผมที่ห้องก่อนนะครับ”  เอาแล้วไหมล่ะ   เพิ่งกินเหล้ามาจะได้กินของหวานตบท้ายอีกเหรอ


                            “ทำไม...กลัวพี่เหรอ”   แน่นอนที่สุด    ยังไม่เมาดีเลยนิ  ( เอะไง)

                             “แล้วพี่คิดว่าไงหล่ะครับ”    อ้าว ............ซวยแน่ตู จะโดนคิดค่าข้าวกับค่าเหล้ามั้ยเนี้ยะ


                     “งั้น............ไป”   เหงื่อแตกพลั่ก     สะดีดสะดิ้งจนเกินงาม

                      “ปะ   ปะ  ไป  ไหนครับพี่”   แล้วกรูจะถามทำไมเนี้ยะจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ

                        “ไปไหนดีหล่ะ”   อืม   เริ่มจะเหลืออดครับ...กรอดดด....เอาว่ะทุบแม่งตอนขับรถดีไหมนี่

                         “พี่ไปส่งผมที่ห้องนะครับ”  ทำเสียงอ้อน  ๆ  โปรดเห็นใจผมเถอะ  (พลีส)

                         “..................”   พี่เปาะไม่พูดครับ เลี้ยวรถเข้าข้างทางรถไฟไป   เย้ย..........นี่มันไม่ใช่ทางกลับห้องผมนี่


                           “..............”   เครียดนะโว้ย  .....เอาละฟะ ถ้าไม่ไปส่ง  กรูจะโวยวาย   แล้วกระโดดรถแม่งเลย

                          “ พี่ชอบพงษ์นะ”  อึกส์      จุกเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างอุดแน่นที่หน้าอก 

   พี่เปาะเลี้ยวรถจอดที่ข้างทางแล้ว   หันมามองหน้าผม   

                          “ พี่ชอบพงษ์จริง ๆ  ตั้งแต่เจอที่บ้านพี่แล้ว”  สงสัยจะรักแรกพบ...หรือไม่ไอพี่เปาะนี่ก็ตาถึง  เอ้ยตาถั่ว   

                           “  เอ่อ   ครับ”    ผมก้มหน้าลงเกาหัวแบบเขิน  ๆ

                            “ พงษ์      พี่ขอได้ไหม”  อ้ากกกกกกกกกก  (รอบที่สอง)  ทำไมครับ  ในเรื่องนี้ ต้องมีแต่ขอ   ขออะไรกันนี่

-ผมให้ไม่ได้หรอกครับพี่ นี่มันกลางถนนนะ เอ้ย  ม่ายช่าย  ยังไงซะผมก็จะไม่ยอมเปลืองตัวง่าย ๆ อีกแล้วอีกอย่างผมไม่ได้ชอบพี่เลย จะให้ทำอย่างนั้นกับพี่คงไม้ได้หรอกครับ  แต่ถ้าพี่ยอมลงทุนมอมเหล้าผมอีกสักขวดอะไร ๆ  อาจจะง่ายขึ้นนะครับ-  แหะ  ๆแค่พูดในใจนะครับห้ามได้ยินด้วยเดี๋ยวซวย

                            “พี่ไปส่งผมนะครับ”  อ้อนอีกรอบครับ ไม่ยอมคราวนี้............มีอ้อนอีกแน่ 

ผมก็ใจดีสู้เสือแหละครับขอร้องแกดี ๆ  พี่เปาะก็โอเคแต่มีข้อแม้ว่าผมต้องไปกินข้าวกับพี่แกอีก   เหอ  ๆ  ผมคงไม่กล้าไปคนเดียวแล้วครับ ไม่อยากเอาตัวไปจ่ายค่าเหล้าให้แก..........พี่เปาะก็ขับรถมาส่งที่ห้องพัก ผมขอบคุณแล้วก็รีบชิ่งไปก่อนที่พี่เปาะจะพูดอะไร




หลายวันถัดมาและหลายคราว พี่เปาะก็จะมาชวนผม ไอทักษ์ไปเที่ยวกันบ่อย ๆ  บางทีก็มีพี่สอไปด้วย  ทุกครั้งที่แกขับรถกลับมาส่งก็จะชวนไปกินต่อที่ห้องแก  หรือไม่ก็มาส่งผมเป็นคนสุดท้าย  จนกลายเป็นว่าไอพวกเพื่อน ๆ จะแซวว่าผมเป็นเด็กแก   เห้ย..... เรื่องราวของผมในโรงงานมันช่าง  มั่วโลกีย์ไดขนาดนี้    ผมโดนกัดโดนแขวะอยู่ทุกวัน  ก็ใครซะอีกละครับ ไอพี่ลมบ้านั้น   ผมว่าบริษัทมันคงจะจ้างมาเสียเงิน (เข้าตัวเองหมด) งานการไม่ทำ คอยมายืนแขวะผมที่โต๊ะทำงานนั้นแหละ  วันไหนเล่นกับมันหน่อยอารมณ์ดีมันก็จะมาช่วยผมทำงาน  เรียกได้ว่าสนิทกันมากขึ้น  แต่ผมก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวมันเลย.....................................สักอย่าง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 24-10-2007 14:15:49
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคนนะครับพี่ชาย :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 24-10-2007 14:52:27
สุดท้ายใครจาได้ตาพงษ์ไปน้า

ลุ้นครับลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 24-10-2007 15:28:45
มีตัวละครมาให้เลือกแล้ว
จะเป็นใครกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-10-2007 19:04:33
รักษาเนื้อรักษาตัวมาเพื่อพี่ลมคนเดียว
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 25-10-2007 11:14:48
ใครจะได้พงษ์ไปหว่า..คึคึคึ :a10:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 25-10-2007 12:58:10
  “จะไปโรงแรมไหนดี”    อืม  ดีอีกแล้วครับพี่  นอนโรงแรมง่ะดีจะได้สบาย ๆ หน่อย......

                                 นอนโรงแรม .............. (สดุ้ง)   


                                นอนโรงแรมเหรอ………………….(ตาเบิกกว้าง )


                               นอน –โรง---แรม  ............... :serius2:อ้ายยยยย :m24: ต้องมีถ่ายคลิปวิดีโอด้วยนะ ไม่งั้นไม่ไป

หุหุ :m13:............


 :m23: ขำ ๆ นะจ้ะ ตัวเอง

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 25-10-2007 15:40:18

เกือบไปแล้วพี่พงษ์เอ๋ย

เกือบเสร็จพี่เปาะเสียแล้ว

เอ๊ะ หรือว่าเสียดาย  :m14:


ปล.  น้องKrappom  คุณ  จืด  รู้เหรอว่าเกาะลอยอยู่หนาย

รู้จิ่

ตอนฝึกงานก็พักอยู่ที่นั่น

พอเรียนจบไปทำงานก็พักอยู่ที่นั่น

เพิ่งย้ายออกจากที่นั่นมาได้ไม่ถึงเดือนเลย :laugh: :laugh: :laugh:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-10-2007 21:46:21
หุหุ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี  :a9:  :a9:  :a9:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: anTon ที่ 26-10-2007 02:22:43
หุหุ

เด็กเสี่ยเปาะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 26-10-2007 16:32:03
 :เฮ้อ:   ลุ้นกันใหญ่เลยน่า ว่าใครจะได้ตัวไป  ไม่สงสารเค้ามั่ง    :sad2:



 :o11:ทำยังกะประมูลสินค้าเลย อ่ะ     (น้อยใจ  หึ หึ  )   แต่ว่า......มีหัวใจแจกให้ฟรีคร้าบบบ :m11: :m14:




อ่ะย้อเย่น        เดี๋ยวจะเข้ามาต่อให้นะครับ   


  :a4:ร้าก ร้ากทุกคน   ร้ากทุกคนไปหมดเลย ยังไงก็รัก รักทุกคนไปหมดเลย  :a4: (เพลงเก่าไปนิสนึง ) 
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-10-2007 19:29:09
มานอนรอ  :a12:  :a12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 26-10-2007 23:37:35

ยังไม่มาอีกเหรอ

ไหนบอกเดี๋ยวไง  :o11: :o11: :o11:


หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 27-10-2007 15:01:14
วันเวลาผ่านไปไวยังกับนิยาย   วันข้ามปีผ่านไปแล้ว   วันแหกขี้หูขี้ตามาดูโลกของผมก็ผ่านไปอย่าง เงียบ ๆ  มีเพียงของขวัญกับเค้กจากพลอยเท่านั้น    วันแห่งความรัก ( เศร้า )มันก็ผ่านไปแบบเดิม ๆ ทุกปี ผมยังไปทำงานแบบปรกติ   ไม่รู้จะมีวันอะไรกันนักกันหนา จะมาตอกย้ำทำไมว่าผมต้องอยู่คนเดียวแสนเปล่าเปลี่ยวใจโบราณว่าไว้แสนสบายแต่ไม่สนุก (น้านโบราณเจรง ๆ ) ผมเริ่มขาดงานลางานบ่อยเพื่อตะเวนสมัครงานใหม่ทั้งในและนอก.........เขตจังหวัด  ก็หวังว่าจะได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียนมามั้ง  ร่อนใบสมัครไปทุกที่ที่เขาเปิดรับสมัคร สุดท้ายก็มานั่งตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จแก่เพื่อนฝูงที่โรงงานประจำ  :m8: :m8:

 
                                         “ออ  เค้าบอกว่ารอสอบสัมภาษณ์ แล้วจะโทรมาบอกอีกที”  ผมตอบคำถามไอทักษ์ที่มันเหมือนตั้งหน้าตั้งตาจะเอาคำตอบ   แต่ก็บอกไปอย่างนั้นแหละครับ  รู้ทั้งรู้ว่าไม่รู้ชาติไหนมันเรียกสัมภาษณ์  สงสัยคงต้องตายแล้วเกิดใหม่โน้น ละมั่ง   

                                         “หยุดงานบ่อย ๆ  รู้ไหมมีใครเขาเป็นห่วงมึงนะ”  เอ่อะ  ไอพี่ลมครับมันแทรกขึ้นมา ไม่ดูตาม้าตาเรือว่าเค้ากำลังคุยไรกัน   แล้วใครจะมาห่วงผมละเนี้ยะ  อะโย่ย....เลยสอดตามองมันหน่อย มันทำหน้ายิ้มกรุ่มกริ่มโชว์เขี้ยวมาเล็กน้อย  -ไอนี่ท่าจะบ้า-  :m14:
                                         “แฟนคลับ (ขับ)เมิงนะ สงสัยกลัวเมิงจะไปตายห่าที่ไหน ถามกันอยู่นั่นแหละ”   ว้ากก   กรูไม่ใช่  AF4  นะ จะได้มีแฟนคลับ     
                                           “ว่าไป....ถ้าผมไปตายที่ไหนเขาคงกลัวไม่มีเงินใส่ซองอะดิ” อารมณ์ไหนไม่รู้ครับเกิดน้อยใจมันทั้งที่รู้ว่ามันพูดเล่น    ก้มหน้าลงต่ำกระดกยาดองเข้าปากไป   คิด ๆ ดูแล้วผมมาทำงานที่นี่รู้จักคนอื่น ก็แค่แบบฉาบฉวย  แม้แต่พลอยเองผมก็ยังบอกว่าเสมอว่าไม่ใช่ส่วนที่จะมาเติมเต็มชีวิตผมได้    :m17:

                                            “ทั้งเด็กทั้งเสี่ยเลยนะป๋า ถามหากันใหญ่   ก็ได้แต่บอกว่าไม่รู้”  แล้วมันไม่มีอะไรจะคุยกันรึไงจะมาวกวนอะไรกับกรูนี่

                                            “เออ  ๆ  คุยเรื่องอื่นมั้งก็ได้นะ”  ผมชี้นำทางให้ ไม่รู้มันจะมองเห็นกันรึป่าว 

                                            “อืม    งั้นเมิงจะทำไงต่อ”   งง   ครับ  ไอพี่ลมมันถามแบบงง

                                            “ทำไง  เรื่อง อะไร..........เรื่องเด็ก ๆ กับเสี่ยงั้นเหรอ” น้าน.......เป็นผมเองอ่ะที่วกวนอยู่แต่กับเรื่องเดิม

                                             “ ป่าว  เรื่องหางานใหม่หน่ะ  เมิงก็วนอยู่แต่เรื่องเดียวนนี่แหละนะ”  แหะ  ๆ  กรูจะรู้เรอะว่าพูดถึงเรื่องอะไร  เกาหัวแก้เขินแม่งเลย
                                             “ก็คงต้องหาต่อไป  ถ้าไม่ได้ก็กลับไปทำนาที่บ้านดีกว่า”  :m17:

                                            “ หาเผื่อด้วยแล้วกันนะป๋า”  ไอเพื่อนเวร  กรูยังเอาตัวไม่รอดเลย 

                                             “เออ  เดี๋ยวกรูถามเผื่อให้”  ไม่ใช่ผมพูดนะครับ  ไอพี่ลมต่างหากมันอาสาจะหางานใหม่ช่วย

ผมมองหน้ามันอย่างสงสัย  อะไรของมันมันจะมาหางานใหม่ช่วยผมเหรอ  มันกินยาดองผิดสูตรรึป่าว  แต่แววตามันดูจริงใจนะ อืม

                                           “มองหน้ากรูเอี้ยอะไร  มันมีใบประกาศรับสมัครงานรึไง”  เหวอสิครับ เผลอจ้องหน้ามันนี่   ผมหลุบสายตาก้มลงต่ำกระดกเหล้าเข้าปากต่อ 
                                     “ก็นึกว่ามีจะได้กรอกใบสมัคร”   แก้เขินกันไป    คำตอบพอถู ๆ ไถ ๆ ได้   ปรกติผมจะต้องโกรธไอพี่ลมมันนะเพราะเราไม่เคยได้พูดดีกันสัดครั้ง  วันนี้เห็นมันใส่ใจจะหางานช่วยเลยรู้สึกแปลก ๆ   แต่ก็ดีละหว่า ผมก็ไม่ชอบที่จะต้องมานั่งทะเลาะกับมันทุกวันเหมือนกัน   อย่างน้อยก็รู้แล้วมันเป็นคนปากร้าย  พูดขวานผ่าซาก แต่ก็ยังแฝงความมีนำใจอยู่บ้าง   

                                       บรรยากาศวงเหล้าหลังเลิกงานของเราก็ยังสนุกสนานเหมือนเดิม ผมกับไอพี่ลมก็ยังคุยกันได้มากกว่าเก่า  บทสนทนาของเราดำเนินเรื่อยมา จนผมสะดุดกับข้อมูลอะไรบางอย่างของไอพี่ลม

                                     “เอ้ย   วันนี้ใครจ่ายว่ะ”  เอ๋า   กรูก็นึกว่ากินฟรี  รู้งี้ชิ่งหนีซะก็ดี

                                     “  กรูไม่มีตังค์นะโว้ย  เมิงใช้เครเมิงไปก่อนพรุ่งนี้เด๋วกรูจ่าย”  ไอทักษ์มาบ่อยจนเปิดเป็นบัตรเครดิตได้

                                    “ไม่เป็นไร  วันนี้กรูเลี้ยง”  ใจดีจริงนะเมิงไอพี่   กรูเหมาหมดร้านดีไหมเนี้ยะ

                                    “วันนี้มีเงินเลี้ยงเหล้าเมียให้มาเหรอพี่”............ไอทักษ์ เมิงว่ายังไงนะ............

                                   “..................................”







                                   “อืม......”        ไอพี่ลมพยักหน้านิดหน่อย       







                          ข้อมูลสำคัญที่ผมได้มาอีกอย่าง  คือ  ไอพี่ลมมีเมียแล้ว                   




                       แต่ทำไมผมรู้สึกหดหู่จัง....................... :sad2:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-10-2007 22:34:34
พี่ลมมีเมียแล้ว  :a5:  :a5:  :a5:  :a5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 27-10-2007 23:14:09

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ไอ้พี่ลมมีเมียแล้ว...

มะเป็นไรเด๋วก็เลิก เอิ้กกกกกกกกกกกกกกกกกกส์ o17

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-10-2007 23:47:41
 :o :o :o :o
มีเมียแล้วมาหลอกให้รักทำไม
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-10-2007 01:39:52
 :a6: :a6:พี่ลมมีเมียแล้ว :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 29-10-2007 01:55:28

.........รักคนมีเจ้าของ......... :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 29-10-2007 12:22:33
ไอพี่ลมนี่แหละ หุหุ..  :oo1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 29-10-2007 13:07:08
มีเมียแล้วก็เอา  :a11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 29-10-2007 20:56:08
เมียเผลอแล้วเจอกันช่ายป่ะ

ลุ้นครับลุ้น
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nara ที่ 29-10-2007 21:06:23
ผัวเพิ่นพาเป็น
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ( ขอเปลี่ยนชื่อเรื่อง หน่อยนะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 30-10-2007 17:31:51
ตอน     สุขสันต์วันเกิด  ( เรื่อง )




หลังจากที่รู้ว่าไอพี่ลมมันมีเมียแล้วผมก็มักจะไปเลียบ ๆ เคียงบริเวณที่ไอทักษ์ทำงานบ่อย  ๆ   ผมก็ไม่เข้าใจว่าตัว

เองต้องทำอย่างนั้นทำไม อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยากรู้ข้อมูลของคนอื่น ที่อยู่รอบข้างมากขึ้นมั่ง เพราะที่ผ่านผมไม่

ค่อยรู้อะไรเลย      และล่าสุดทีเข้าไปคลุกคลีทุกวัน ผมก็รู้ว่าเมียไอพี่ลมเป็นพนักงานอีกบริษัทหนึ่งแต่มาประจำที่นี่

เหมือนกันแกชื่อว่าพี่แดง   มีลูกชายด้วยกันแล้วหนึ่งคนอายุประมาณหนึ่งขวบเห็นจะได้   ผมก็เคยคุยกับพี่แดงแก

เพราะแกจะสนิทกับไอทักษ์  พี่แดงไม่ใช่คนสวยแต่เป็นคนรูปร่างดี  อารมณ์เย็น   ชอบพูดเร็ว ๆ ตามแบบฉบับสาว

ใต้   



                           
                  “พี่ลมให้มาถามว่าวันนี้จะกินอะไร”  ไอทักษ์ถามผมในช่วงเบรก 10 นาทีก่อนพักเที่ยง

                  “ตอนเที่ยงนะเหรอต้องดูก่อนว่าเขามีขายอะไรมั้ง”

                 “ไม่ใช่...........วันนี้ตอนเย็นอยากกินอะไร”  อะไรว่ะ   หากินตอนเที่ยงก่อนดีกว่าไหม

                  “ กรูยังไม่ได้คิดหรอก  อะไรน่ากินเดี๋ยวค่อยซื้อ”  แค่กินข้าวตอนเย็นไม่ต้องคิดครึ่งค่อนวันหรอกไอบ้า

                  “ เออ....ป๋านี่สงสัยไม่รู้จริง ๆ   กับแกล้มหน่ะอยากกินอะไร”  ก็แค่เนี้ยะ 

                   “แล้วทำไม...จะเลี้ยงหรอ” 

                   “เออนา  ตอนเย็นก็รู้เองแหละทำตัวให้ว่างด้วย”   กรูว่างจะตาย

                    “กรูชอบกินลูกชิ้น  กับหอยแมลงภู่”   


ผมพยายามถามว่ามันจะถามผมทำไมร้อยวันพันปีมันไม่เห็นจะสนใจว่าผมอยากจะกินอะไร  มันไม่บอกผมก็ช่าง

เหอะรู้แค่ว่าวันนี้มีเหล้ากินอีกแล้ว และแน่นอนผมต้องได้กินลูกชิ้นกับหอยแมลงภู่ของโปรดแน่ ๆ   




                          หลังโอทีหนึ่งทุ่มผมโดนพี่สอลากขึ้นมอไซค์ของแกขับตามไอทักษ์ ไปตาม เส้นทางที่ผมไม่คุ้น

เคย ข้ามถนนสายมอเตอร์เวย์ไปทางระยองระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างตลาดสด ตรงไป

อีกประมาณหนึ่งกิโล ผ่านป่ายูคาลิปตัสสูงทึบ ที่แสนจะวังเวง   ผมยังมองไม่เห็นจุดหมายเลยว่าเราจะไปหยุดอยู่ที่

ใด  ผ่านป่ารกทึบออกมา ผ่านบริเวณโรงงานใหญ่ ๆ หลายโรงเรียงกัน ไม่นาเชื่อว่าจะมีโรงงานอยู่ในพื้นที่แถบนี้

ด้วย   รถเลี้ยวซ้ายเข้าบริเวณห้องแถวยาวหลายหลัง  และหยุดห้องสุดท้ายของตึก

                          “ ไอทักษ์ มึงพากรูมาที่นี่ทำไม”  ผมกระซิบถามมันก่อนจะก้าวลงจากรถ

                          “ก็พามางานวันเกิดไง”   

                          “ ...................”  ก่อนจะผมจะถามต่อ เจ้าของห้องก็ออกมาเรียกเราไป


ผม พี่สอ และไอทักษ์เดินเข้าไปนั่งลงบนพื้นเสื่อที่ปูไว้หน้าห้อง มีหมูกระทะตั้งไฟอยู่แล้วสองเตา  คนที่นั่งอยู่ก่อนคือพี่

แดง  พี่ลมเดินออกจากห้องพร้อมด้วยยาดองสองกลม และหย่อนตูดลงตรงกลางระหว่างผมกับพี่แดง    ก่อนจะทัก

ทายไอทักษ์และพี่สออย่างเสียงดัง แต่ไม่เห็นจะมองมาทางผมเลยด้วยซ้ำ       พี่ลมส่งยาดองให้ผมขวดหนึ่ง จากมือ

ด้านซ้ายโดยไม่พูดอะไร ผมก็รับมาอย่างงง ๆ  แต่ก็เข้าใจว่าจะต้องเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องริน   แต่เรื่องบริการ

แบบนี่ผมไม่ค่อยถนัดจึงยกให้เป็นหน้าที่ของไอทักษ์ไป  ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอกินอย่างเดียว      ทุกคนคุยกัน

อย่างออกรสออกชาติยกเว้นผมคนเดียวที่ ยังนั่งเกร็งตัวตรงอย่างสงสัย  ก็แหงละครับ   ผมยังไม่รู้เลยว่านี่วันเกิด

ใคร   แล้วไอตอนก่อนเที่ยงที่ผมบอกไอทักษ์ว่าผมชอบกินลูกชิ้นกับหอยแมลงภู่  ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีลูกชิ้นสักลูก

หรือแม้หอยแมลงภู่สักตัว แล้วมันจะถามผมไปหาพระแสงของ้าวอะไร  (เซ็งสุด ๆ )  ผมเลยได้แต่กระดกเหล้าเข้า

ปากอยู่อย่างเดียว

                      “โหล  อยู๋ไหน”    พี่ลมพูดโทรศัพท์กับใครบางคน

                      “....................”     อันนี้ไม่ได้ยิน

                     “เหรอ  มาห้องกูดิ วันนี้วันเกิดกรู”  วันนี้วันเกิดไอพี่ลมเหรอ   แล้วก็ไม่บอกจะได้ซื้อของขวัญให้

                     “..........................”

                     “อยู่    มีเพื่อนมาสามคน  น่ารักด้วยนะเมิง”   ผมเหลือบมองหน้าพี่ลมเมื่อรู้ว่าผมกำลังถูกจ้อง :m28:

                      “........................”

                      “ เออ   ๆ   เร็วนะ  จะให้ไปรับไหม”   

                      “..........................”

                       “โอเค รอแป้บ”     แล้วพี่ลมก็ขับมอไซค์ออกจากหน้าห้อง  สงสัยจะไปรับเพื่อนที่คุยโทรศัพท์ด้วย


ผมไม่ได้คุยอะไรกับพี่แดงมากมายนักส่วนใหญ่จะเป็นไอทักษ์มากกว่า    บรรยากาศงานวันเกิดของคนบ้านนอกจน

ๆ ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรจากวงเหล้าทั่ว ๆ ไป  ส่วนใหญ่ก็จะหาอะไรกินกันเองระหว่างเพื่อนฝูงงบประมาณที่มี

ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ถูกจัดสรรไปเป็นเหล้ากับกับแกล้มมากกว่า  ไม่มีค่าจัดตกแต่งสถานที่  ไม่มีค่าวงดนตรี  ไม่มี

แม้แต่เค้กวันเกิด  อาจจะมีของขวัญให้กันบ้างแต่ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น  ทุกคนเพื่อนฝูงที่มาก็จะมาด้วยความยินดี   แต่

วันนี้ยกเว้นผม   สมองผมกำลังสบสนว่าผมไม่ควรจะมา ควรจะกลับบ้านไปนอนซะ   แต่ใจกลับอยากจะแสดงความ

ชื่นชมยินดี และอวยพรให้พี่ลมมัน        แล้วนี่ผมเป็นอะไรไป       รู้สึกอึดอัดจัง............. :m15: :m15:

ไม่นานพี่ลมก็กลับมาพร้อมกับใครบางคนที่นั่งมาด้วย   



                               “มานี่เลยอิกุ้ง   มานั่งข้างๆ กรูนี่    ทำไมเมิงมาช้านักหว่ะรู้มั้ยมีคนรออยู่นะนี่” 
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-10-2007 18:45:53
ใครรอกุ้งอยู่เนี่ย  :a5:  :a5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 30-10-2007 19:00:30
ค้างอย่างแรง

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 30-10-2007 20:28:22

ใครรอกุ้ง

กุ้งมาหาใคร

 :a5: :a5: :a5: :a5:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: GOONGII ที่ 31-10-2007 00:20:58
ทำไมถึงทำอย่างนี้......อยากรู้อยากรู้ :m16:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: gateau ที่ 31-10-2007 05:55:58
อ่ะ... ค้างอย่างแรง

กุ้งเหรอพงษ์ชอบกินหอยแมลงภู่นี่หน่า   

เป็นครายอีกหว่า ตัวละครล่องลอยเยอะแยะเต็มไปหมด

ต่อด่วน  อย่าเพิ่งไปเที่ยวทู้อื่นนะ

  :m5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 31-10-2007 10:09:49
555555ทำgateauอารมณ์ค้างไปแล้ว
มาต่อด่วน
ตกลงพี่ลมจะหาแฟนให้พงษ์หรือ
เมาๆแบบนี้ไม่เหลือ
 :m27:

ปล.การกินยาดองเยอะๆไม่ดีนะครับ ยิ่งถ้าพวกใส่สัตว์เข้าไปด้วยระวังพยาธินะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 31-10-2007 10:20:22
อ่านแล้วค้างคาอ่ะ :a5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 31-10-2007 11:27:52
กุ้งคือใครรรรรร 

ค้างๆๆ

ต่อด่วนจี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 31-10-2007 12:59:55

............เธอคือใคร.......... :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 01-11-2007 12:08:35
กุ้งนี่ช่ายมะ ที่จะทำให้เกิดเรื่อง  :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-11-2007 12:51:43


เคยตั้งวงโจ๊ะยาดองกะเพื่อนทีนึง  เมาหัวทิ่มหัวตำเลย คิคิ

อ้าส์  คิดถึงบรรยากาศแบบนั้นอีกจัง  สายหมอก ลมหนาว  ดาวเดือน  เพื่อนฝูง  กองไฟ  วงเหล้า  กีต้าร์  และเสียงเพลงเพื่อชีวิต

คิดถึงพวกเมิงนะโว้ย

จาก อิเจ้ ของพวกเมิง  อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-11-2007 14:28:19
 :o11: :o11:

    รู้แล้วครับว่าใครที่พี่แดงบอกว่ากำลังรอกุ้งอยู่หนะ   ก็คือ..............ผมเอง    แล้วผมไปรอเธอตอนไหน  ไม่ได้รู้จักกัน

มาก่อนเลย   เหตุผลที่เป็นผมเหรอครับ  เป็นการวางแผนจะหาแฟนให้ผมนะสิ  คิดได้ไงไม่รู้  อยู่ดี ๆ ก็จะโดนจับคลุม

ถุงชนซะงั้น  เห้อ  เซ็ง  ผมได้รับการบริการอย่างดีจากกุ้ง  การพูดคุยก็เป็นที่สุกสนานจากแรงเชียร์ของคนรอบข้าง  ดู

เหมือนเธอ ก็ตกหลุมพรางนั้นเต็มเหนี่ยวเหมือนกัน   เรานั่งกินหมูกระทะแกล้มกับยาดองจนเวลาเลยเข้ามาเกือบเที่ยง

คืน  ก็มีแขกผู้เยือน  รถมอไซค์  สามคันพร้อมคนโดยสารนับยอดรวมได้ทั้งหมดห้าคน  พวกผมเป็นคนแปลกหน้าก็รู้สึก

หวั่น ๆ ว่าจะเกิดเรื่องอะไรรึป่าว   ผู้ชายสองคนเดินมาหาเราที่ตั้งวง ส่วนคนที่เหลือยังนั่งอยู่บนรถ  จากการสนทนากับ

เจ้าของห้องก็รู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทกับไอพี่ลม และคงจะรู้จักดีกับกุ้งด้วย  หนึ่งในนั้น มองพวกเราด้วยสายตาแปลก  ๆ  และ

พยายามพูดกวนส้นตลอดเวลา  ในเชิงพยายามหาเรื่องมากกว่า 

                            “เพื่อนเมิงพูดไม่ค่อยเข้าหูเลยหว่ะ” นั้น เป็นคำพูดใส่ร้ายพวกผมอย่างร้ายกาจ จากใครสักคนในกลุ่มคนมาเยือน

                            “ เมิงไม่ต้องมาพูดเลย  กรูรู้ว่าพวกเมิงจะมาหาเรื่อง”  ว่าแล้วไงครับ  ไอพี่ลมพูดซะผมตกใจ

                            “ถ้าพวกผมพูดไม่ดี ก็ขอโทษแล้วกัน”   พี่สอยอมมันได้ไงฟะ  กลัวทำไมแค่ หกต่อสาม

                             “เมิงกลับไปก่อนเลย  นี่มันวันเกิดกรู  แล้วนี่ก็เพื่อนกรู  กรูไม่อยากมีเรื่อง”  ไอพี่ลมแมน ค่อด  ๆ

                             “พวกกรูไม่ได้มาหาเรื่องเว้ย แค่แวะมาอวยพรเมิง”  ไอคนนั้นพูดต่อ  แต่ไอทักษ์กับผมกำขวดคนละใบแล้ว

                             “พาเพื่อนกลับไปเลยนะ  เดี๋ยวกุ้งก็จะกลับแล้ว”  งวยงง และสงสัยกับคำพูดของกุ้งครับ  หมายความว่าไงนี่

                             “.................................”ไม่มีเสียงตอบกลับมา  มาเพียงสายตาที่เหลือบมองพวกผมแต่ละคน  แล้ว

พวกมันก็เดินไปหาพวกที่อยู่บนรถและสตาร์ทรถออกไป



                             ไอพี่ลมไม่ได้เล่าอะไรให้พวกเราฟัง    แต่พวกผมก็พอจะเข้าใจว่าคนต่างถิ่นอย่างพวกเราถึงหน้าตา

จะบ้องแบ้วแค่ไหน จะพูดไพเราะเสนาะหูอย่างไร  มันก็ไม่ได้ชวนให้เจ้าถิ่นเขาพิศวาสหรอกครับ    บรรยากาศงานวัน

เกิดแบบลูกทุ่งคงจะหมดทางดำเนินต่อ พวกผมอยู่ต่อคงไม่เป็นผลดี   เลยขอชิ่งหนีแล้วกาน ...........เปล่า  ๆ  ไม่ได้

หนี  แต่มันดึกแล้วครับคงจะสมควรแก่เวลาจรรี   แต่ก่อนจะกลับนี่สิ  พวกมันก็เข้ามาอีกแต่ตอนนี้มาสองคน   และเรียก

ไอพี่ลมออกไปคุย ก่อนจะมีปากเสียงกันอีกรอบ    ผมอยู่ไกลจำไม่ได้หรอกว่าเขาคุยอะไรกัน   มีเพียงประโยคสำคัญที่

มันยังฝังหัวผมอยู่

                                “ถ้าพวกเมิงจะทำอะไรเพื่อนกรู  ก็ข้ามศพกรูก่อนแล้วกัน”  ไอพี่ลมพูดได้น้ำเน่า กับประโยคยอด

ฮิตติดบทหนังไทย  แต่ก็ได้ใจ แหละครับเพราะไม่มีใครอยากจะข้ามศพ แห้ง  ๆของมัน


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


เรื่องจบไปแล้ว ด้วยการทำตัวเป็นฮีโร่ของไอพี่ลม   เหตุผลที่พวกนั้นมาหาเรื่องนะเหรอ  ก็เพราะมันหึงกุ้ง   หึงใส่ใคร

หล่ะ   ก็ผม นะสิ   อยู่ดีไม่ว่าจะมาจับคู่ให้ผมถ้าผมโดนปาดคอทิ้งตายไปใครจะรับผิดชอบไอพี่ลมทำอะไรไม่คิด (ไม่เคย

เข้าใจอะไรเล้ย) แต่ชีวิตผมกำลังจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย อีกครั้งหลังจากไอพี่ลมขับรถออกมาส่งพวกเรา ที่ปากซอย 

 ทุกคนอยู่ในสภาพกรึ่ม  ๆ  เมา แต่ผมยังตาสว่างอยู่เลย ผมจะกลับรถคันเดียวกับไอทักษ์ แต่พี่สอแกไม่ยอมครับ หาว่า

ไม่ไว้ใจแก ผมเลยต้องลากสังขารตัวเองเอาตูดไปแปะไว้ที่เบาะรถแก ก่อนที่แกจะโชว์ยกล้อ ออกตัวไปบนเส้นทางเดิม

ที่เรามา  พี่สอบิดคันเร่งอย่างเร็วและแรงจนผมมองไม่เห็นไอทักษ์ที่ขับตามมาทีหลัง  รถมอไซค์ส่ายตัวไปมาบนสะพาน

ข้ามมอเตอร์เวย์  ผมเอามือกอดกระชับเอวพี่สอจนแน่นขนัด ไม่แม้จะลืมตามามองว่าถึงตรงไหน  ผมก็ได้แต่ท่อง

ภาวนานึกถึงหน้าพ่อแก้วแม่แก้ว  กลัวว่าชาตินี้จะต้องเป็นผีเฝ้าเสาร์ไฟ    ถึงแม้จะตีและร้องบอกพี่สอให้เบา  ๆ  กลับ

เหมือนว่ายิ่งยุให้พี่สอบ้าบิ่น แถมแกปล่อยมืออีกโชว์.............ว้ากกกก   ผมยังไม่มีแฟนนะ

 o9 o9
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 01-11-2007 14:47:49
จะรอดไหมเนี้ย :m30:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 01-11-2007 14:52:26
ว้ากกกก....พี่สอเล่นไรแบบนี้อ่ะ.. :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-11-2007 15:05:10

...........สงกะสัยจะรอดยาก....... :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-11-2007 15:08:30
มากินเหล้านี่ก็เบื่อพวกหาเรื่องจริงๆ
แทนจะมีความสุข กับทุกข์ถนัด
 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: anTon ที่ 02-11-2007 01:32:20
ม่ายรอดแน่ๆ :try2: คับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 02-11-2007 11:16:12
////////////////////////////////////////////////////////////////////////

 o2 o2
ชีวิตผมอยู่รอดปลอดภัยมาอีกวันหนึ่ง เมื่อตื่นมายังเห็นว่าสังขารตัวเองยังอยู่ดี  แต่ว่าที่นี่ที่ไหน...............ทำไมมันเหม็น

อับ กลิ่น ตุ ๆ อย่านี้    ลืมตามองรอบข้าง มันไม่ได้คุ้นตาเท่าไหร่กับไอห้องรกรุงรัง  เจ้าของห้องคงซกม๊กสิ้นดี    หันมอง

คนที่นอนข้าง ๆ ก็ถึงบางอ้อ แหละครับ  จะใครหล่ะก็ไอทักษ์ครับ  เมื่อคืนผมมานอนห้องมันนี่แล้วนี่ก็พี่สอ  ผมงัวเงีย

มองดุนาฬิกาบนฝาผนังข้างตู้เสื้อผ้า  ตายห่าละ นี่มันจะหกโมงแล้ว  ก็ต้องปลุกสารถีสิครับ  เรียกไม่ได้ยินมันก็ต้องใช้

กำลังกันหน่อย ทั้งลากทั้งเขย่าได้ผลครับแถมได้เกินคาดนอกจากพี่สอจะตื่นแล้วยังด่ามาอีกเป็นชุด แต่สุดท้ายก็ต้อง

ตามใจผมอยู่ดี  โดยเหตุผลง่าย ๆ  วันนี้ต้องไปทำงานนี่เป็นคำสั่งของหัวหน้านะโว้ย   




การงานวันนี้เรียบร้อยไม่มีปัญหา  แถมเรื่องของผมถูกเล่าขานกันไปใหญ่เมื่อกุ้งโทรมาหาและคุยกับผมอยู่นาน  กุ้งโทร

มาขอโทษและเล่าเรื่องเด็กถิ่นพวกนั้นให้ฟัง   จากเรื่องที่ผมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย   เรื่องของเด็ก ๆในสังกัด  และเรื่องที่

ว่าผมเป็นเด็กพี่เปาะตอนนี้ กลายเป็นเรื่องกุ้งกับผมแทน  ข่าวแพร่ไปอีกไกลจากเรื่องเล่าสนุก ๆ  จนกลายเป็นเรื่อง

ซีเรียสเมื่อพลอยได้ข่าวและมาซักถามผมอย่างจริงจัง  ถึงแม้ไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผม  แต่อาการของ

พลอยก็ทำให้คนอื่น เดากันไปได้ไกลกว่านั้น   ส่วนอั้มไมได้มาวุ่นวายกับผมแล้วเพราะเธอมีเหยื่อใหม่มาให้หยอกล้อ

ใกล้ ๆ  มือ  จะมีบ้างก็เพียงมาแซวตอนที่ผมต้องเข้าไปเช็คสต็อกในไลน์เท่านั้น







หลายอาทิตย์ผ่านไป    ไม่มีอะไรพิเศษ ทำงานแล้วกับห้องนอนอย่างเดียว ไม่ได้กินยาดองเท่าไหร่  ก็ช่วงกลางเดือนแล้ว

นี่ครับและอีกอย่างตอนนี้น้องชายผมลงมาหางานทำและพักที่เดียวกับผมแล้ว จะทำอะไรก็ต้องเกรงใจมัน  กลัวมันจะ

โทรไปฟ้องแม่แหละ  ที่สำคัญผมจะต้องเลี้ยงมันจนกว่ามันจะหางานทำได้ แรก ๆ มันก็เข้ามาทำงานที่เดียวกับผม

เพราะยังไงก็ต้องเอาไว้ก่อน

เลิกงานวันนี้ผมควักตังค์ให้น้องชายไว้ซื้อข้าวกิน   ส่วนผมนะเหรอ  หุหุ   มีงานเลี้ยงจำเป็นอีกแล้วครับ  ก็ไอทักษ์มัน

ชวนผมไปที่ห้องพี่ลม พรุ่งนี้มันจะไปสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่เทคโน ฯ   ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับไอพี่ลมสัก

นิด

                                  “เหอะนา   พาไปหน่อยดิ แค่แป้บเดียวเอง”  อะไรของเมิงฟะ  วุ่นวายจริง

                                  “แล้วเมิงจะไปทำอะไรที่นั้นเล่า”   หงุดหงิด  ๆ

                                   “จะไปเอาเสื้อเชิ้ตสีขาว จะไปสมัครเรียน” มันพูดเสียงอ่อย ๆ  เหมือนกลัวใครได้ยิน

                                   “ไอบ้าทักษ์  เสื้อเชิ้ตกรูก็มีเยอะแยะเอาของกรูก็ได้” 

                                   “จะไปเอาตังค์ด้วย”  อ๋อ   เข้าใจแล้ว ไอทักษ์มันสนิทกันถึงขั้นฝากให้เก็บเงินให้   ไม่งั้นมันจะเอาไปกินเหล้าหมด
                                    “ก็ได้............แต่ทำไมเมิงจะต้องเอาเหล้าไปด้วย”

                                    “ เอ่อ  จะฉลองที่เรียนใหม่นิดหน่อย”  ไอบ้า  ยังไม่ได้สมัครเลยจะฉลองซะแล้ว  ขี้เหล้าแบบนี่ที่ไหนจะรับเมิงเข้าเรียนว่ะเนี้ยะ


                                      เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ท้องฟ้าหน้าร้อนยังโพล่เผล้ สีแดงสลับกับแสงไฟตามท้องถนน  รถมอไซ

ค์ แดชร้าย ๆ ของไอทักษ์มุ่งผ่านป่ายูคาลิปตัสที่แสนจะวังเวง  ออลืมบอกครับไอทักษ์เป็นคนที่กลัวผีจนขึ้นสมอง  มันจะ

ไม่ยอมนอนในห้องคนเดียวเป็นอันขาด  พอเจอบรรยากาศของป่าข้างทางมันก็รีบบิดคันเร่งจนแทบจะไม่ทันใจ ไม่นาน

ก็มาถึงห้องไอพี่ลม

                                  ประตูห้องเปิดทิ้งไว้  ข้างในมองเห็นร่างใครบางคนกำลังนอนอยู่บนเตียง ตาจ้องมองทีวีอยู่  ไม่

ได้สนใจว่าใครจะมาเลยผมไม่กล้าจะเดินเข้าไป เพราะมันไม่คุ้นเคยมีแต่เสียงไอทักษ์ที่โวกเวกโว้ยวาย เดินเข้าไปยังกะ

ห้องตัวเองไอพี่ลมเมื่อเห็นเราก็ลุกจากเตียง มีเพียงบ๊อกเซอร์ ตัวเดียวปิดกั้นร่างกายอยู่ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะ

หน้ามืด เลือดพุ่งขึ้นหน้าปิ้ด ๆ  ร่างกายบาง ๆ ที่มีกล้ามเนื้อ พองาม เอวที่คอดกิ่ว ประมาณ 29 นิ้ว  หน้าอกกว้าง ๆ และ

เรียวขายาว ๆ “สะดือสวยจัง” ผมพึมพำเบา ๆ นั้น  ทำให้ผมต้องถอยห่างออกมานอกประตู ก่อนที่ไอพี่ลมจะสังเกตเห็น

พฤติกรรมแปลก ๆ ของผม  แล้วมันก็เดินไปหยิบเสื้อมาใส่   

                             ไอทักษ์จัดการเอาเสื่อมาปูด้านหน้าห้องจัดการเตรียมน้ำเตรียมแก้วไว้เสร็จสัพเรียบร้อยแล้วมันก็

ลากผมมานั่งลงข้าง ๆ มัน    วันนี้งดยาดองมาเป็นเหล้าสี่สิบดีกรีแทน  รสชาติมันไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ผมคงสู้ไม่ไหว

  ขอเพียงจิบ ๆ แล้วกันผมต้องรักษาสุขภาพไว้หาสมัครงานทำดีกว่า     ผมกับไอทักษ์นั่งกันอยู่แค่สองคน  เจ้าของห้อง

หายหัวไปไหนไม่รู้  ได้ยินแต่เสียงก๊องแก๊ง  ๆ  ดังมาจากข้างหลังห้อง

                         “พี่ลมทำอะไรอยู่ทักษ์”  ผมอดถามไม่ได้

                         “ไม่รู้ว่ะสงสัยกับแกล้มมั่ง”  เออ ท่าจะจริงก็เสียงครกเสียงสากทั้งนั้นนิ

                        “แล้วพี่แดงหล่ะ ไปไหน” 

                       “พี่แดงเข้ากะดึกตอนนี้คงอยู่ที่โรงงานล่ะมั้ง”  อืม   งั้นอยู่คนเดียวหรอกเหรอ

                        ไม่นานพี่ลมก็เดินออกมา พร้อมกับจานใบใหญ่   พระเจ้า.........นั้นมัน   หอยแมลงภู่นี่  จัดการลวกมา

แล้วเรียบร้อยพร้อมถ้วยน้ำจิ้ม   อีกจานหนึ่งเป็นลูกชิ้นหมูทอด   โห ๆ  ถูกใจซะเหลือเกิน   ผมเป็นโรคอย่างหนึ่งคือ

เห็นลูกชิ้นไม่ได้จะต้องแถไปซื้อไว้กินตลอด ชนิดที่ว่าผมกินแทนข้าวได้เลยละกัน  (อันนี้ไม่ดีครับ กินอาหารต้องครบ 5

หมู่น๊า) ผมเจอของกินก็ได้แต่นั่งยิ้มดีใจ

                          “นี่ของเมิงนะ  มาช่วยยกหน่อยดิ”  เสียงนั้นทำให้ผมตื่นจากภวังค์  แล้วหันมองหน้าคนเรียก

                         “เหรอ  ไม่ได้อยากกินซะหน่อย”  น้าน.....เอาอีกแล้วปากไม่ตรงกับใจ   แล้วผมก็ลุกเดินไปหยิบถ้วยน้ำ

จิ้มข้างในกับช้อนจานชามอีกสองใบออกมานั่งลงที่เดิม

                           “ของเมิง เมิงต้องกินให้หมด”  นั้นเป็นคำสั่งเหรอ

                           “โห  ใครจะกินหมด  แล้วก็ไม่ได้อยากกินขนาดนั้นด้วย”  ประโยคหน้านะใช่  แต่ประโยคหลังนี่  โกหกครับ

                           “เออ  งั้นก็ไม่ต้องกินแล้วเดี๋ยวเอาไปให้หมามันกินแทน”  มันพูดทำท่าจะยกจานหนี  แต่..

                           “เอ๋า    กินก็ได้   ขี้ใจน้อยเจรง  ๆ”  ผมแกล้งลากเสียงยาว ๆ   มองดูหน้ามันแอบยิ้ม ๆ   เชอะ

                           “ คนเขาอุตส่าตั้งใจทำ”  ไอพี่ลมมันพูดแบบลอย ๆ  ไม่ได้เจาะจงให้ไปลงที่หูใคร

                             “ไอทักษ์ เมิงกินช่วยกรูเลย  มา  เอา  จานเมิงมา”  แก้เขิลครับ ปัดให้ไอทักษ์ไป  ไม่ว่ามันจะพูด

จริงพูดเล่นก็ตาม  ในวงสนทนาก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ไอทักษ์จะสมัครเรียนต่อ วันหยุดเสาร์อาทิตย์  แต่ไม่ยักกะถามเรื่อง

เสื้อเชิ้ตมันเลยสักนิด  คิดว่ามันก็คงจะไปเอาของผมนั้นแหละ  เวลาเลยเข้าห้าทุ่ม  สองคนก็เริ่มกรึ่ม ๆ  เหล้าหมดแล้ว

ก็คงจะกลับกัน  แต่ไอทักษมันไม่ยอมกลับกับผมแค่สองคนไม่ใช่ว่ามันกลัวผมน๊า  ผมน่ารักจะตาย แต่มันกลัวจะต้อง

ผ่านป่ายูคานี่สิ และจะไม่ยอมนอนห้องไอพี่ลมแน่  เพราะประวัติห้องพักแถวนี่ก็โชคโชนเรื่องผี ๆ เหลือเกิน  สรุปก็คือ

ต้องให้พี่ลมออกไปส่ง แต่คราวนี่ไม่ใช่แค่ปากซอยพี่ลมมาส่งถึงห้องไอทักษ์พร้อมกับเหล้าขวดเล็กอีกขวดหนึ่ง     

                              วงเหล้าเกิดขึ้นอีกครั้งที่ห้องไอทักษ์   มือถือแก้ว ตาดูบอลที่มีการถ่ายทอด  ส่วนผมงัวเงียเพราะ

ฤทธิ์เหล้าบวกกับง่วง จึงขอตัวมุดหัวนอนก่อน  สักพักเสียงต่าง ๆ รอบบริเวณรอบ ก็ค่อย ๆ     

                               ค่อย  ๆ    ๆ



                              ค่อย  ๆ..............


                               ค่อ......................


                                คร่อก   กกกก   ฟี้..........................


                               



                                       ผมสะดุ้งตื่นในความมืดอีกครั้ง  เมื่อรู้สึกว่ากำลังมีมือใครบางคนกำลัง โอบกอดผมเข้ามา

จากทางด้านหลัง  ผมนอนหลับตานิ่งอย่างนั้น สักพัก ร่างของผมก็โดนโอบกระชับให้แน่นขึ้น  อากาศที่อบอ้าว ทำให้

เหงื่อไหลจากแก้มลงมาสู่ต้นคอสัมผัสอุ่น ๆ ของลมหายใจ  กำลังรดรินที่ต้นคอผม  ริมฝีปากฝังลงมาเบา ๆ และค่อย ๆ

เลื่อนไปมา    มือหนา ๆ   แทรกซอนเข้ามาใต้ชายเสื้อ ลูบไล้ขึ้นมาจนถึงหัวนม   

                                     ใครกันนะ  ช่างบังอาจ  ทำจาบจ่วงได้อย่างนี่ จำได้ว่าผมไม่ได้อยู่ลำพังกับใครเพียงสองคน แต่

เราอยู่สามคนต่างหาก  ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองอย่างปรือ ๆ กว่าจะปรับแสงให้เข้าที่ได้ อารมณ์ผมก็คงกำลังกระเจิงจาก

ใครคนหนึ่งที่ซุกไซร้ผมอยู่     และภาพใครอีกคนที่กำลังนอนหลับอย่างสนิท ข้างหน้าผม......นั้น

                                                      นั้น...........

                                                      นั้น .........มัน......ไอ................................






/////////////////////////////////////////////////////////////////////

ปล.   รีบมากเขียนต่อไม่ทัน   ไปฉี่ก่อนนะครับ   
 :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" ตอน สุขสันต์วันเกิด ( เรื่อง )
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 02-11-2007 11:41:06
 :serius2:ใครไอ้.....อะไรอ่ะครับทำไมชอบทำค้างๆคาๆอ่ะ :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 02-11-2007 13:31:53
แอร๊ย....ใจร้าย..

มาต่อด่วนเลย..มือใครๆๆๆ..หุหุ.. :a6: :angry2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 02-11-2007 13:32:37
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง    อีกแระ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-11-2007 13:49:24
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ใครกันหนอ
รึว่าจะฝันไป
มาต่อด่วน
 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 02-11-2007 14:24:29
ค้าง........อย่างแรง  :a14:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 02-11-2007 14:52:10
ทำยังกะละครหลังข่าว
โฆษณานานไปแล้วเพ่ มาต่อให้ไว

ไม่อยากถูกสอย

ปล.กะว่าจะเดาซะหน่อย แต่เห็นหัวเรื่องชื่อตอนแล้ว ... ไม่เดาดีก่า (ยังไงก็ถูก)
 :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-11-2007 15:11:26




เข้ามาทวงนิยายตามหน้าที่เคอะ  อิอิ

ใจจริงนะ  ไม่อยากจะอ่านอะไรมากมายเลย  แค่อยากนิดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดส์  เดียวเอง

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 02-11-2007 15:15:01
                                                       นั้น...........

                                                      นั้น .........มัน......ไอ................................


                                                         ไอพี่ลม............แล้วคนถัดไปนั้นหล่ะ


                                                        ที่นอนติดกะไอพี่ลม...............นั้น ไอทักษ์




                                                          ใจผมเริ่มสั่น   เมือไม่รู้ว่ามีใครอีกคนกำลัง เคล้าคลอผมอยู่


                                                           ทำไมสัมผัสนี้ มันเริ่มเยือกเย็น ขึ้นเรื่อย  ๆ   และเริ่มเหนียวเหนอะ


                                                           กลิ่น อ่อน  ๆ   ของอะไรสักอย่างกำลังโชยมาจากทางด้านหลัง



                                                           ".........................................................."









                                                            ง่า ............คงไม่เป็นแบบนี่หรอกเนาะ    เสียว ๆ  


 
ปล.  ขอแซวตัวเองหน่อย     :m26:    

ปล. 2  เดี๋ยวไปตามไอ้น้องคมกะไอ้วินมาเฝ้า 7 -11  ก่อนนะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-11-2007 15:23:21

เอ่อ   คุณน้องเคอะ  แรงนะเคอะ  ที่เล่นแบบนี้

กำ


เจ้กลุ้มใจ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 02-11-2007 15:33:39
 :m30:พี่ครับที่บ้านผมแบบนี้เรียวว่าเคาะกะลาให้น้องหมาดีใจนะครับ :a6:นึกว่ามาต่อซะอีกอ่ะ :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-11-2007 16:19:37
 :m22: :m22: :m22:
ไรอ่ะ งง
ตกลงฝันไปเหยอ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 02-11-2007 17:07:57
อ่ะขอโต้ด     o1


มาต่อให้จริง ๆ แล้วนะครับ   อย่าเพิ่งใจน้อยนะ 


///////////////////////////////////////////////
         
                            ใครกันนะ  ช่างบังอาจ  ทำจาบจ้วงได้อย่างนี่ จำได้ว่าผมไม่ได้อยู่ลำพังกับใครเพียงสองคน แต่เราอยู่

สามคนต่างหาก  ผมค่อยลืมตาขึ้นมองอย่างปรือ ๆ   กว่าจะปรับแสงให้เข้าที่ได้  อารมณ์ผมก็คงกำลังกระเจิงจากใคร

คนหนึ่งที่ซุกไซร้ผมอยู่     และภาพใครอีกคนที่กำลังนอนหลับอย่างสนิท ข้างหน้าผม......นั้น

                                                      นั้น...........

                                                      นั้น .........มัน......ไอ..............................ทักษ์..



                                       ไอทักษ์นอนอยู่ตรงนั้น   แล้วตอนนี้คนที่กำลังเคล้าคลอผมคงจะไปใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากพี่ลม

                                         พี่ลมเหรอ   ทำแบบนี้ทำไม

                                          คนที่ปากดีด่าว่าเราอยู่ตลอดเวลา 

                                 คนที่คอยแต่ยิ้มเยาะเย้ยและพูดถากถาง

                                           คนที่พยายามจะไปส่งห้องตอนที่ผมเมา

                                           คนที่มาช่วยทำงานตอนผมเจ็บมือ

                                           คนที่เอาหอยแมลงภู่และลูกชิ้นมาให้ผมกิน

                                           แต่  เป็นคนที่พยายามจะจับคู่ให้ผมนี่

                                           เป็นคนที่มีเมียแล้ว

                                          ใช่มีเมียแล้ว      แล้วมาทำอย่างนี้ทำไม

                                               




                             
                                  ผมเลื่อนมือไปกุมมือพี่ลมที่กำลังซุกซนกับหน้าอกและท้องของผมไว้แน่น และค่อยหันหน้ามา   

ดูเหมือนพี่ลมจะหยุดแล้ว  และกำลังหายใจอย่างหนัก  ผมก็เหมือนกัน  จนต้องผละออกมาให้สายตาอยู่ในระยะที่โฟกัส

ได้    ใบหน้าแบบนี้ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อน   ทำไมต้องทำตาหวานเยิ้มขนาดนั้นด้วย  ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก  มันดูอบอุ่น

และจริงใจ ซึ่งผมไม่เคยได้รับจากคน ๆ นี้มาก่อน  ใจผมเต้นรัวและแรง  เลื่อนมือที่จับมือพี่ลมอยู่ให้ไปแนบชิดกับหน้า

อกเขา   รอยยิ้มนั้นหายไปแล้วมีเพียงสายตาที่ดูฉงน เมื่อผมปล่อยมือพี่ลมให้เป็นอิสระ  ก่อนจะกระซิบบอก

                              “ พี่อย่าทำแบบนี้  ผมไม่สมควรได้รับมัน”  แล้วผมก็ขยับตัวออกมา แต่ก็ไม่มากพอที่จะหนีออกมา

ไกลได้ ไอทักษ์ยังคงหลับใหล   ดีแล้วหล่ะที่มันไม่ต้องตื่นมาเจออะไรที่มันอาจจะรับไม่ได้     
 

                              ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้พี่ลม ก่อนจะเอามือมาหนุนแก้มแทนหมอน  สมองผมสับสน  ว่านี่คือ

อะไร  เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยมีความรู้สึก ดี ๆ ให้เขาเลย   

                              “.................”   
 

                               ในความเงียบมีเพียงเสียงถอนหายใจยาว  ๆ   เหมือนคนหมดหวัง  พี่ลมเอื้อมมือมาแตะที่ไหล่ผม

ดึงตัวผมให้พลิกกลับขึ้นไปนอนหนุนหมอน   มือข้างซ้ายกอดรัดผมอย่างหลวม ๆ  ไออุ่นของลมหายใจเคลื่อนมาที่ปลาย

ผม  พร้อมเสียงกระซิบ เบา  ๆ

                             “ขอพี่กอดนะ  แค่กอดเฉย ๆ  ได้ไหม”  เหมือนเป็นคำถามและคำร้องขอ    ผมไม่ตอบอะไร  มี

เพียงน้ำตาที่กำลังคลอ อยู่เบ้าตา  กับสัมผัสจากมือหนา  ๆ  ที่กระชับตัวผมให้เนื้อแนบชิดกัน    ผมปล่อยให้เวลาผ่านไป

เนิ่นน่าน   ผมนอนไม่หลับ  ผมหลับไม่ได้  พยายามข่มตาแล้ว  ผมปวดเมื่อยร่างกายเพราะต้องนอนอยู่ท่าเดียว   อาการ

ปวดหัวครึ่งซีกของผมเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากที่มันเคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว  ทำไมมันปวด

จิ๊ด ๆ  อย่างนี้   

                             ตอนนี้เวลาเกือบตีห้าครึ่ง  ผมหยิบมือพี่ผมที่กอดผมอย่างหลวม ๆ  ออกไปวางที่ข้างตัวแก และดัน

ตัวเองลุกขึ้นนั่งด้วยความสบสน ผมค่อย ๆ ลุกอย่างเบาที่สุด  ก้าวเข้าห้องน้ำล้างหน้า กะให้สดชื่นบ้างแต่  แม่งเอ้ย 

ทำไมตากรูยังกะผีในหนังจีน ........................ผมมองดูคนที่กำลังนอนหลับอย่างสนิท สองคน  ทำไมมันถึงได้หลับงาย

ดายขนาดนี้   ไอเพื่อนเวรมันหลับเป็นเด็กโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว   แล้วอีกคนก็หลับอย่างสนิท ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตัวเอง

กำลังจะทำ   ผมกล่าวสรรเสริญให้มัน “มึงทำได้อย่างไร”  ก่อนที่ผมจะลงล็อกประตูเดินลงบันไดอย่างไว มุ่งตรงไปยัง

หน้าหอพัก เรียกวินมอไซค์ ให้ไปส่งที่ห้อง 



                             ที่ของผม  มันน่าจะทำให้ผมรู้สึกดี........................... :undecided:

///////////////////////////////////////////
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: GaSoRiNa ที่ 02-11-2007 18:04:16



   จิ้มตูดไปติด ๆ หนึ่ง จึ๊ก ว่าแต่ที่พี่ลมทำคงเพราะเมามั๊ง เห่อ ๆ แต่ก็จะรอดูตอนต่อไปนะคับ กำลังใจให้ซาเหมอ จู้ ๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 02-11-2007 21:51:40
เฮ้อ ...  :เฮ้อ:  ซะงั้น .... กลายเป็นคนมีเมียมีลูกแล้วที่มาหลงเรา ....  :undecided: ...... แล้วแบบนี้จะลงเอยยังไงนิ  :m28:

(แต่ก็แอบเดาไว้แล้วหล่ะ อิอิ)
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-11-2007 22:00:05
กาเมสุมิจฉาจารา .......  :amen:  :amen:  :amen:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 03-11-2007 08:39:09
 :m18: เป็นชู้ เป็นชู้ เหมือนเค้าอ้ะ  o17 หุหุ

เง้อ ฉันจะได้ปีนต้นงิ้วมั้ยน้า  :m17:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 03-11-2007 15:20:36
^
^
^
^
^
อย่าปินต้นเดียวกันนะ  :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: giffyaof ที่ 04-11-2007 00:29:02
 :laugh:ตามทันแล้วเพิ่งเข้ามาอ่านแล้วรู้สึกว่าติดใจ  มาก  เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านบ่อยๆน่ะครับ   :a1:เสียดายที่เพิ่งมาอ่านตอนนี้เลยไม่ได้คอมเมนต์เลย   :a9: :a6: :m23: :oo1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง" จะบาปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 05-11-2007 12:51:51


ผมกลับถึงห้องก็ล้มหัวลงนอน   พยายามไม่คิดกับเรื่องที่เกิด   ตื่นขึ้นมาออกทีเพราะเสียงเรียกของไอนัน

                               “พงษ์  มีคนมาหา”

                               “อืม ......”ผมงัวเงียลุกขึ้น  มองดูนาฬิกา เพิ่งจะสามโมงเช้า    แต่ไม่ยักกะเห็นว่ามีใครนอจากไอนัน ส่วนน้องชายผมคงจะออกไปทำโอที แล้ว

                               “ใครเหรอนัน”  ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่หลังห้อง 

                                “พี่ลมมาหา” ไอนันพูดไล่ตามหลังผมมา   ผมต้องหยุดชะงัก  ใจเต้นระส่ำผิดปรกติ   

-  ไอพี่ลม มาทำเอี้ยไร............มาที่นี่ทำไม   แล้วรู้จักห้องผมได้ไง   พี่ลมไม่เคยมาที่นี่มาก่อน  ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำ  ก่อนจะชะโงกหัวออกมาบอกไอนันให้พี่ลมมานั่งรอในห้อง    ผมปิดประตูยืนนิ่งที่หน้ากระจก  จิตเริ่มวิตก ทำอะไรไม่ถูก

                              ทำไมผมไม่ไล่เขากับไป   ทำไมต้องให้มารอในห้องด้วย  คำถามต่าง ๆ ผุดขึ้นในหัวมากมาย  ผมถอนหายใจใหญ่หนึ่งครั้ง  รู้สึกมันปวด  ๆ   ก่อนจะตัดสินใจ

                               “เอาละหว่ะ.............ยังไงก็ต้องขี้ก่อนแล้วกัน  อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”

                                “พงษ์............บ่นอะไรคนเดียววะ”  เจ้ย.........ไอนันเจือกหูดีอีก

                                  “ปะ  ป่าว  ไม่มีไร”   ผมตะโกนบอกผ่านผนังห้องน้ำไป

///////////////////////////////////////////////

                                10  นาทีผ่านไป   แปลงฟันยังไม่เสร็จ คิดเรื่องเก่าเมื่อคืน  ( ฝังใจ )

                                20  นาทีผ่านไป   สระผมอยู่   คิดเรื่องกำลังจะเกิด

                                 30 นาที     “เอ้ย  อาบนานจังหว่ะ   ปวดขี้โว้ย” 

                                                   “เออ   เสร็จแล้ว แป้บหนึ่ง”   ไอนันทำผมเสียมู้ด   แล้วผมก็เปิดห้องน้ำออกมา


                              ไอนันวิ่งสวนทางเข้าห้องน้ำต่อ  ไม่มันนจะรีบไปไหน ( ไปขี้ ) 

                              พลันสายตาผมก็ไปเจอะกับใครบางคนที่นั่งนิ่ง ๆ บนที่นอนผม   ไม่มีแม้รอยยิ้มหรือคำทักทาย   แต่สายตาคู่นั้นเหมือนกำลังสำรวจร่างกายผมอยู่.............เอ้ย  ลืมไปเลยว่านุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว    เหอ  ๆ   เขิล นะเว้ย

                                     “มองอะไร”   คำทักทายของผมครับก่อนจะรีบวิ่งไปหลังห้องเพื่อหาเสื้อผ้ามาใส่โดยไม่รอฟังคำตอบ  รู้สึกเขิน ๆ ที่ต้องมาแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชาย   แต่กับไอนันผมไม่ยักกะอายมันสักที


                             การเผชิญของผมกับไอพี่ลม  สองต่อสอง มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด  ไม่เป็นตัวของตัวเอง  ดูเหมือนพี่ลมก็คงจะเป็นเหมือนกัน  ไม่มีเหตุผลที่พี่ลมจะต้องมาหาผม  ปรกติก็ไม่เคยมาอยู่แล้ว   

                                      “จะพาไอทักษ์ไปสมัครเรียน แต่มันไม่อยู่ ”  ไม่ได้ถามนะ   แต่ก็ดีครับทำลายบรรยากาศ

                                       “ทำไม”  เหอ  ๆ   กว่าจะพูดได้

                                        “มันไปแข่งบอลแล้ว”  อ้าวเพื่อนผม    ช่างรู้หน้าที่ดีจริง ๆ   

              ไม่ทันได้พูดอะไรต่อผมก็โดนดึงแขนให้ออกจากห้อง  ผมถามว่าจะพาไปไหน พี่ลมก็ไม่ตอบอะไร  ได้แต่ดึงแขนผมให้เดินตาม  จนมาถึงรถมอไซค์  ผมสะบัดมือออกเพราะอายคนที่เขามองมา

                                       “ผมถามจริง ๆ  นะจะพาไปไหน”   ผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเชิงว่าสงสัยมั่กมาก

                                        “ขี่รถเล่น”  เท่านั้นแหละครับ    ผมก้าวขาขึ้นรถอย่างง่ายดาย  เห้อ  เซ็งตัวเอง  ทำไมใจง่ายอย่างนี้นะ :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: giffyaof ที่ 05-11-2007 12:56:56
มาตามจิ้มก้นคุณพงษ์ครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 05-11-2007 13:01:04
อ้างถึง
เห้อ  เซ็งตัวเอง  ทำไมใจง่ายอย่างนี้นะ

เพิ่งรู้ตัวเองเหรอ  :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 05-11-2007 16:45:48
แล้วพงษ์จะได้ปีนต้นงิ้วมั้ยนี่?

 :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 05-11-2007 19:44:16
มันไม่ผิดที่จะรักกัน
แต่มันคงผิด ถ้าเขาตัดสินใจที่จะมีครอบครัวไปแล้ว
เกิดจะมานอกใจเมีย
 :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-11-2007 00:50:24

............ชู้ทางใจอ่ะได้........แต่ทางกายจงคิดหั้ยดี........ o7 o7
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 06-11-2007 16:19:24
    :o11:   ผมทำใจลำบากจัง     


                แต่คนที่ลำบากใจกว่าผมว่าน่าจะเป็นพี่ลมนะ     :angry2:ไม่เคยรู้ตัวเองหรือไง  ไอพี่ลมบ้า.. :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 06-11-2007 16:23:16


ผิดด้วยเหรอที่เป็นชู้

ไม่ยักกะรู้นะเนี้ย


แหม่  ทำมาเสียนาน  ไม่รู้ว่าผิด  อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 06-11-2007 18:13:12
อืมมมมมมมม   แล้วจาเป็นไงต่อเนี่ย

เอาใจช่วยครับ

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-11-2007 18:57:08
อุตส่าห์หลบ แต่ไม่พ้น  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 06-11-2007 21:31:52
พี่ลม..รุกอย่างหนัก..เหอๆๆ :m24:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 06-11-2007 21:37:02
 :a10:

มาอ๊ะยางงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 08-11-2007 16:57:08
สัญญาครับ  ว่าพรุ่งนี้จะมาต่อ  วันนี้ต้องรีบไปปั่นผ้าครับ  :m17:    อีกอย่างมันมานั่งเฝ้าอยู่ข้าง  ๆ   ผมพิมพ์ต่อไม่สะดวก


เดี๋ยวมันจะรู้ความลับผมหมด   สงสัยคืนนี้ต้องจัดการ.....................






...........ปฏิบัติการเชือด................ :ฮึ่มม:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 08-11-2007 18:31:03
 :m13:เชือดอะไรหรอ เค้ามะเห้นรู้เรื่องเลย แบบว่า โนเนะอ่ะค่ะ :o8:

ปล. ปั่นผ้าดี ๆ นะจ้ะพงษ์ ระวังผ้าผ่อนของตัวเองจะหลุดเข้าไปในเครื่องซักผ้าด้วยล่ะ คิคิ o3

 o4ไปอาบน้ำ นุ่งมอสดี้ ออกมาล่อเหยื่อดีก่า คึคึ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-11-2007 18:39:22
555
จัดการให้หมดแรงข้าวต้มเยย
ว่าแต่นายจะหมดแรงก่อนป่าว
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 09-11-2007 07:54:01
เมื่อคืนหมดแรงข้าวต้มจริง  ๆ   ครับ







เพราะมันต้องหิ้วปีกผมกลับบ้าน  ผ้ามันก็ซักเอง  แถมหุงข้าวทำกับข้าวอีก เสร็จตอน 6 ทุ่ม    สมนำหน้ามันอยากลากผมไปเมาเอง       





  ส่วนผมเหรอ  หลับตั้งแต่ถึงห้องแล้ว  เป็นภาระมันต้องแก้ผ้าผม   555   สบายจังใส่เกงในตัวเดียว



 :o8:  :o8:


ปล.  บ่าย  ๆ  เดียวมาต่อ  วันนี้ต้องออกไปพบลูกค้า แป้บหนึ่ง



หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-11-2007 08:40:03


กล้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คะ

ที่ทำแบบนี้

งอน wachara แล้วนี้กว่า 

จะไม่เข้ามาอ่านสามวันเลย คอยดูดิ

งอนส์
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 09-11-2007 11:55:00
รอครับผม :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 09-11-2007 12:00:27
รออออออออออออออออออออออออออ :a11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 09-11-2007 12:08:26
ยังอ่านอยู่นะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 09-11-2007 13:36:14
      มาแล้วครับ    สด ๆ   ใหม่    ๆ    :m4:   แต่ไม่โสด  (แซวตัวเอง)      :m29:

       ขอบคุณทุคนที่ตามอ่านนะครับ   


.................................................................

                    ไอพี่ลมพาผมขี่รถวนรอบสวนสาธารณะสักสองรอบได้มั้ง  มันก็คงไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกันแหละ   

                                    ไอพี่ลมไม่พูด


                                     ผมก็ไม่พูด   ไม่มีอะไรต้องคุย   

                                     สุดท้ายรถก็มาจอดที่ทาวเฮาส์ชั้นเดียว    มองเข้าไปข้างในเหมือนบ้านร้างไม่มีใครอยู่ 

 แล้วไอพี่ลมจะพาผมมาที่นี่ทำไม  คิดว่าคงไม่....................




                                    “เฮ้ย   มาได้ไง เข้ามาข้างในก่อน” พี่สอ ครับ  บ้านพี่สอนะเอง 


หากมีการรวมตัวกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปอะไรจะตามมาคงไม่ต้องบอกหรอกครับ แต่วันนี้ผมไม่อยากเมา  ก็แค่พอจิบ ๆ 

ไอพี่ลมก็คอยแต่จะมองหน้าผม  ถ้าพี่สอเผลอเมื่อไหร่มันต้องหันมาจ้องหน้าผมตลอด   ผมละเซ็ง  มันอึดอัดนะทำอะไร

ไม่ค่อยถูก ตัดปัญหาซะโทรชวนพลอยออกมาเป็นเพื่อนคุย  ก็กะว่าจะมาเป็นไม้กันหมาแหละครับ   และอีกอย่างผม

อยากรู้เหมือนกันว่าไอพี่ลมมันคิดยังไงกันแน่  ไม่เห็นมันจะมีทีท่าอะไรเลย  ทำหน้าเฉย ๆ  ได้ใสซื่อมาก    หรือผมจะ

คิดไปเองไม่รู้  ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้มันไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าพี่น้อง

                                      “พลอยเหรอ    ทำไรอยู่”  ไอพี่ลมหันควับ

                             
                                       “ ออกมาหาพี่หน่อยสิที่บ้านพี่สอนะ” มันจ้องตาเขม็ง

                                      “เร็ว  ๆ  นะ  เดี๋ยวไปเที่ยวกัน”   มันทำหน้านิ่วคิ้วขมวด  เกาคางหย๋อย  ๆ

                                     ผมวางสายไปแล้วหันมามองหน้าพี่ลมเต็ม ๆ  หลังจากแอบชำเลืองด้วยหางตา    แม่ง  ผมว่า

คิ้วมันคงผูกกันเป็นโบว์ได้แล้วม้าง     แต่ซะใจครับ ไม่รู้มันอยู่ในอารมณ์ไหน    ไม่นานพลอยก็มาถึง ยังไม่ยอมลงจากร

ถ ดูพลอยมันเขิน ๆ ที่ผมนัดออกมาหา ผมเลยต้องเดินไปดึงแขนเข้ามานั่งด้วย ส่วนไอพี่ลมขอตัวเข้าห้องน้ำไปแล้ว   


                            เราตกลงจะไปเดินห้างกัน   แน่นอนว่าต้องเอารถไปแค่สองคัน  คันหนึ่งรถพลอย  อีกคันหนึ่งรถพี่ลม

สองคนนั่นนั่งคร่อมที่มอไซค์จอดคู่กันอยู่   เหลือผมกับพี่สอที่ต้องเลือกจะขึ้นคันไหน    คันหนึ่งผมติดรถมาด้วยเมื่อเช้า 

คันหนึ่งผมเป็นคนชวนออกมาเอง    เลือกยากครับไม่รู้จะขึ้นคันไหนดี (เหมือนจะเลือกคู่เลยวุ้ยชีวิต)   ผมยืนมองอยู่เป็น

นานจนทุกคนต้องมองมาที่ผม  แต่พี่สอก็ทำให้ผมไม่ต้องตัดสินใจอะไรแกเดินไปที่รถพลอยในตำแหน่งคนขับ     สุด

ท้ายผมต้องไปกับไอพี่ลม  แต่ไม่ใช่จะตัดสินอนาคตผมนะครับแค่เลือกนั่งรถเอง    ดูไอพี่ลมจะทำหน้ายิ้ม ๆ  ผิดกับ

พลอยที่ทำหน้างง   ๆ      ถึงห้างเราก็เดินหาซื้อของกัน  ผมเลือกที่จะแยกออกมาเดินคนเดียว  คิดอะไรเรื่อยเปื่อย  ได้

ของกินของใช้มาแค่นิดหน่อย กลับมาถึงห้องผมก็ไล่ไอพี่ลมกับทันทีไม่อยากให้มันอยู่ดูหน้านานเดี๋ยวหวั่นไหวเกินไป   
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 09-11-2007 14:09:12
 :amen:สู้ๆนะครับผม
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 09-11-2007 14:16:24
มาต่อให้อีกครับ

////////////////////////////////////////////////////////////////////

                       วันที่  1  สิงหาคม  

                          
                          
                                   “เอ้านี่  ใบสมัครงาน เอาไปกรอกซะ”  ไอพี่ลมยื่นให้ผมฉบับหนึ่งช่วงเบรก 10 นาที

                                   “สมัครงานอะไร”    กลัวเป็นใบสมัครลงปักษ์ใต้อ่ะ  

                                    “โรงงานกรูเขาเปิดรับสมัครพนักงานการตลาด”  กรูจบวิทย์ ฯ  เนี้ยะนะ

                                    “การตลาด.............   แล้วเขาจะรับเหรอจบมาไม่ตรงสายนี่”  ทำหน้ายุ่งเหมือนจะคิด

                                     “ก็ลองดูสิแค่แกะบอม (BOM ) เป็น  แล้วก็จัดรถส่งงานแค่นั้น”  งานบ้าไรจะง่ายขนาดนั้น

                                      “อืม  เดี๋ยวลองสมัครดู”   ผมแกะบอมได้เพราะต้องทำอยู่แล้วทุกวัน  คือจะดูว่าวันนี้จะผลิต

งานโมเดลอะไร จะต้องใช้อะไรประกอบบ้าง  ดูจำนวนแล้วก็แจงเป็นชิ้นส่วนประกอบออกมา  

                                          ผมกรอกใบสมัครและยื่นฝากพี่ลมกลับไป  ออ  ไอทักษ์ด้วยครับ  เราสมัครพร้อมกัน  ดูไอ

พี่ลมจะสนับสนุนผมเต็มที่ มันไปเล่าให้ที่โรงงานมันฟังว่าผมทำอย่างโน้น อย่างนี้ ได้    อีกอย่างไม่รู้มันไปไล่คนเก่าเค้า

ออกรึเปล่า    

                     วันที่   3  สิงหาคม


                                      “ฮัลโหลครับ...”   เสียงผู้หญิงโทรมาครับ
                                    
                                     “สวัสดีค่ะ  ใช่คุณ....................รึเปล่าค่ะ”
                              
                                     “ใช่ครับ”

                                     “โทรจากบริษัท.............นะค่ะวันนี้จะนัดสัมภาษณ์ งานตอนบ่ายโมงค่า”

                                      “วันนี้เลยเหรอครับ”

                                     “ใช่คะ  สะดวกไหมค่ะ”

                                      “ได้ครับ  บ่ายโมงนะครับ”

                                     “ออ  ฝากบอกเพื่อนมาพร้อมกันด้วยนะคะ”   หือ    รู้ด้วยเหรอว่าผมเป็นเพื่อนกับไอทักษ์  เอะชักจะยังไง

                                     “อ่ะ ครับ”     สรุปผมลากลับบ้านก่อนเที่ยงต้องไปเตรียมตัวสักหน่อย   ส่วนไอทักษ์หัวหน้ามัน

ไม่ให้ลาแต่มันจะตามมาทีหลัง   ผมเลยต้องเอารถพี่สอไปทีแรกพี่ลมจะให้ผมเอาของมันไปแต่ผมไม่เอาเกรงพี่แดง

เมียแก พักนี้เห็นมีทะเลาะกันบ่อย  กลัวว่าผมจะกลายเป็นชนวนให้
                                  
  
                               เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า

      
                               กางเกงแสล็คสีดำ
                          
                      
                                ถุงเท้าสีขาว

      
                                รองเท้าหนังสีดำ

 
                                กระเป๋าเอกสารใบหนึ่ง

      
                                 อืม..........ดูเข้าชุดกันดี  

                          
                                หวีผมปะแป้งหน่อย    
                                
                    
                                  ส่องกระจก    อือ  ก็หล่อดีนี่  ถึงจะแบบบ้าน  ๆ  ก็เหอะ

                                  
  

                                 หมุนตัวหน้ากระจก    “..........ห่าเอ้ย   ครูภูธรที่ไหนว่ะเนี้ยะ............”

                              
                          บ่ายโมงตรง ผมก้าวเข้าไปในออฟฟิต  แอร์เย็นฉ่ำสบาย  มีคนทำงานแค่ไม่กี่คน  มองเก้าอี้แล้วมันน่า

นั่งจริง  ๆ   อย่างนี่แหละที่ผมอยากทำงาน    แล้วฝ่ายบุคคลก็เรียกผมเข้าไปสัมภาษณ์   กับคนเกาหลี (โรงงานเกาหลี

ครับ)  ก็ถามโน้น  นี้   นั่น  นู้น  ไปเรื่อย    ออกจากห้องสัมภาษณ์  เห็นไอทักษ์นั่งรอที่หน้าป้อมยาม  แม่งคิดได้ไง เสื้อ

ยืดกางเกงยีนส์รองเท้าแตะมาสัมภาษณ์  แต่งตัวยังกะจะไปตลาดนัดเลยนะเมิง      





                      ผลสัมภาษณ์ออกมาว่า ผมจะได้เริ่มงานใหม่ในวัน จันทร์ที่  5    ซึ่งผมจะต้องยื่นใบลาออกวันนี้   ชีวิตผม

กำลังจะเริ่มต้นใหม่   ผมต้องมองหาที่พักใหม่   ที่ ๆ มันใกล้กว่าเดิม  นั้นหมายถึง  ผมต้องทำงานโรงงานเดียวกันกับ

ไอพี่ลม   ผมต้องย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ มันเหรอ .............ไม่เป็นไรอนาคตข้างหน้าค่อยว่ากัน  มันยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย

นี่   แต่ก็ขอบคุณแหละที่มันยังพยายามช่วยหางานให้ผม      :m29:


หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 09-11-2007 14:34:25
 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-11-2007 15:19:22
รู้สึกจะผูกพันกับพี่ลมมานะ

ถ่ายทอดออกมาได้อารมณ์ดี
 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 09-11-2007 15:49:17
แหะๆ ได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆพี่ลม จะเกิดไรขึ้นป่ะเนี่ย

 :try2:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: giffyaof ที่ 09-11-2007 22:46:36
 :m3:ต้องเป็นแผนของพี่ลมแน่ๆเลย  แผนเผด็จศึก หุๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 10-11-2007 14:46:24
 :a3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 10-11-2007 20:43:38
พี่ลมมันมีเจ้าของแล้วนา

ลุ้นครับลุ้นๆๆๆ  ว่าใครจาได้หัวใจพงษ์ไป
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 12-11-2007 12:26:21
รออยู่นะครับพี่ :a14:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-11-2007 13:09:51
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


วันแรกของการทำงานที่ใหม่ตื่นเต้นค่อด ๆ เลยครับ ผมต้องเตรียมตัวตั้งแต่กลางคืน (เวอร์ไป ) เตรียมอะไรน๊า

   เตรียมไรดี   เตรียมอะไรบ้างว่ะ   เอาหนังสือเรียนไปด้วยไหม    ชีตหล่ะ    สมุดจด  ปากกา ดินสอ  ยางลบ   

.........อ่ะย้อเย่น.......




วันแรกการทำงาน  ก็ทุลักทุเลดีครับ  เหมือนเป็นการฝึกงานเลย  ก็ได้ไอพี่ลมแหละครับคอยบอกว่าตำแหน่งนี้เค้าทำ

อะไรกันมั้ง เอ้ย   สิ่งที่เรียนมาไม่มีประโยชน์เลยจริง ๆ ปรกติมันต้องอยู่ประจำที่โรงงานเก่าผมนี่นา

แล้วนี่มันกลับมาทำไมกับรถส่งสินค้า ทุกรอบเลย

นั้นไงมันมาคอยแวะเวียน ส่องที่กระจก   

มองเสร็จไอพี่ลมมันก็ออกไปกับรถอีก

“เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันพี่พงษ์”   น้องผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในออฟฟิตชวน

“ครับ  เดี๋ยวไป”   ว่าแต่ว่า ผมจะไปกินที่ไหน  ไม่เห็นมีโรงอาหารเลย

พนักงานคนอื่นก็เห็นขี่รถออกนอกโรงงานหมด

ผมก็งงสิครับไม่รู้ว่าจะมีร้านข้าวที่ไหนมั้ง  แมร่งตอนมาก็ไม่ได้มองไว้ด้วยสิ

“เมิงจะไปยัง” ...ผีหลอก.........ไอพี่ลมมันขับมอไซค์มาจอดข้างหน้าผม

“มาได้ไง”   อยากถามมากกว่าอยากตอบ

“กรูก็ขับรถกลับมาไง แล้วเมิงจะไปกินข้าวยัง”  ผมก็ได้แต่เกาหัวแล้วก้าวขึ้นรถมัน

ก็ดีเหมือนกัน ผมยังไม่รู้จักใคร ให้มันพาทัวร์พื้นที่หน่อยจะได้ไม่ต้องอด

แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้หรอกว่ามันกลับมาทำไม แต่ช่างมัน ตอนนี้หิว

ไอพี่ลมจอดรถที่ร้านตามสั่งข้างถนน   

“ เส้นเล็กเนื้อ สองป้า”  น้านมันสั่งแล้วทีเดียวสองชาม  กินจุนะเมิง

“ผมเอา.............” 

“กรูสั่งให้แล้วไม่ต้อง”   ผมกำลังจะบอกว่าเอาเหมือนมันนั่นแหละ
 
ไอพี่ลมบริการดีครับ  ตักน้ำตักท่า ให้เพียบพร้อม  แล้วก๋วยเตี๋ยวก็มา

“โห  ได้เยอะจัง”  ผมจ้องชามตรงหน้า

“เออ  ไดเยอะมึงก็กินให้หมด  ตัวยิ่งกระเปี๊ยกอยู่”  ไรวะตัวกระเปี๊ยก  ยุ่งไรกับตัวกรูเนี้ยะ
 
 “กินปาย........มองหน้ากรูอีก” เออ   ถ้วยกรูขาดหวานหว่ะ จะตักน้ำตาลจากตาเมิงหน่ะ  แม่ง ตาหวานค่อด

 “เอ๋า....มาจ้องถ้วยกรูทำไม”  ผมเปลี่ยนจากจ้องหน้ามาจ้องที่ถ้วยมันแทนครับ

“........................”  มันเลิกคิ้วขึ้นแล้วจ้องผมแทน

“อือ  เอาไป  มึงชอบกินไม่ใช่เหรอ”  มันใช้ช้อนตักลูกชิ้นมาให้ผมสองลูก

“....ขอบใจ   อีกลูกได้ม่ะ”   ผมยิ้มให้ไอพี่ลมก่อนจะเอื้อมมือไปที่ชามของมัน

“พอแล้ว   ให้กรูกินมั้งดิ”   มันยกชามมันหนีก่อนะมองค้อนมา

“ล้อเล่น.....โหย  เอาเนื้อไป  ไม่ชอบกิน”  ผมตักเนื้อให้เป็นการลูกกับลูกชิ้นครับ   เดี๋ยวจะหาว่าผมเอาเปรียบ
 

 จะว่าไปร้านนี้ก็อร่อยใช้ได้เลยครับถึงว่าคนเยอะขนาดนี้   เราสองคนทำลายหลักฐานตรงหน้าให้เห็นแค่ไก่สองตัวที่นอนแอ้งแม้งติดก้นชาม

 “วันนี้ทำไมพี่กลับมาโรงงาน”   ผมมองหน้าอย่างจริงจัง

 “ .......”  มันเหลือบมองแล้วก็เงียบ

“ถามจริง”   

“งานเสร็จกรูก็กลับดิ  จะได้เช็คงานขึ้นรถด้วยเลย”  ผมว่ามันโกหกครับ  งานที่นู้นมันต้องเช็คจำนวนแล้วต้องรอดูว่าจะมีปัญหาไหมแล้วงานจะเสร็จได้ไง  ( ปรกติมันก็ว่างจัด มะใช่หรอ )

“จริง  ๆ”   

“เออน่า.........กรู  กรูก็กลัวว่าเมิงจะทำไรเปิ่น ๆ   ขายขี้หน้าคนฝากอีก”  แล้วมันก็เดินหลบไปจ่ายตังค์ป้าแก

-  ขอบจาย.....กรูเป็นคนเปิ่นขนาดนั้นเหรอหว่ะ -    แมร่งโกหกชัวร์ (กรูออกจะเริ่ด)

มันมาส่งผมที่โรงงาน ก่อนเข้างานบ่ายโมง   แล้วไอพี่ลมก็ขับรถออกไป 

ออ.....ลืมบอกครับ  มันบอกว่าเลิกงานแล้วอย่าเพิ่งกลับให้รอมันด้วย   แต่มันไม่บอกเหตุผลครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 12-11-2007 13:16:04
 :m11:ดีใจจังแต่ติดอยู่ตรงที่พี่ลมมีลูกมีเมียแล้วนี้สิ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 12-11-2007 13:33:48
 o12
ไอ้พี่ลมคิดไรอยู่ฟะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-11-2007 14:09:37
รักคนมีเจ้าของ โย่วๆๆ
 :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 12-11-2007 14:17:38
 :เฮ้อ:  เฮ่อ..น่าอึดอัด  (ที่ไม่โสด)
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 12-11-2007 17:02:34
 :a11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 12-11-2007 18:37:00
ชอบครับชอบ เรื่องนี้

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-11-2007 18:42:47
หลงรักคนมีเจ้าของ แอบมองอยู่ทุกวัน  :m27:  :m27:  :m27:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-11-2007 20:30:43


ท่าทางจะอึดอัดน่าดู

 :เฮ้อ: 

แต่พี่ลมก็น่ารักนะ  ดูแลดีจัง  ไมเราไม่มีอย่างนี้บ้างน้อ

ว่าแล้วก็เปลี่ยน ผ. ใหม่ดีกว่า เนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 13-11-2007 16:51:51
//////////////////////////////////////////////////////////////////

งานบ่ายโมงเริ่มแล้วครับ  จะว่าไปงานเอกสารที่ทำในออฟฟิสก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ ผมพยายามเคลียร์ให้เสร็จในช่วงเช้า

ก็เฉพาะที่คนเก่าเขาสอนแระครับ (แค่อย่างเดียวโว้ย อันอื่นยังไม่ให้ทำ  555+ )  ง่าย ๆ สบาย ๆ  งั้นเอาเป็นว่าช่วงบ่าย

นี้ผมต้องออกภาคสนามดีกว่า  ไปเดินดูทำความรู้จักคนในสังกัดสักหน่อย    เหอ  ๆ   เจรง  ๆ  แล้วอยากไปโชว์ตัวอ่ะ   

ว่าแล้วก็ไปกันเลย............

ผมเดินเข้าแผนกประกอบชิ้นส่วนคอมฯ  ซึ่งห่างจากออฟฟิตนิดหน่อย  ส่วนใหญ่พนักงานประกอบจะเป็นผู้หญิงครับมี

อยู่ ห้าถึงหกคน

-  ทำไมมีแต่คนแก่ ๆ  ว่ะ -  สงสัยไลน์นี้จะเป็นงานสงคมสงเคราะห์คนชรา  เอิ้กส์  ๆ (“ไม่แก่มั้งรู้ไป”  ใครพูดฟะ)

ผมยิ้มทักทายรวดทีเดียวให้คุณยายทั้งหลาย ใครเห็นก็รับเอา  ใครไม่เห็นถือว่าเป็นกรรม (บุญอย่างยิ่ง)  แล้วก็เดินต่อ

เข้าแผนกเครื่องจักร  ที่เป็นบริเวณปั้ม ขึ้นรูปเหล็ก มีหลายคนทั้งหมดเป็นผู้ชายครับ  หุ่นบึกบึน มอมแมม   และหน้า

โหดเหี้ยม

-   เหอ  น่ากลัว  ๆ  ไม่ไหว  ยังกะโจรใต้มาเอง -  จะยิ้มให้ก็กะไรอยู่  เดี๋ยวเขาจะหาว่าผมสะเหร่อ  เดินหนีต่อ

ไปเกือบสุดพื้นที่โรงงานด้านหลัง    ไมหว่ะแผนกที่ผมต้องดูแลมันอยู่ที่ไหนเนี้ยะ  สุดทางแล้วนะเฟ้ย

ไอพวกพนักงานทั้งหลายจะมามองกรูทำไมนักนา  กะอิแค่กรูเดินหลงทางนี่ น่ามองนักรึงาย.... ไม่ได้หรอกครับ

ต้องฟร์อมไว้ก่อน  โชคดีที่ห้องน้ำอยู่เกือบหลังสุดเหมือนกัน   เลยต้องแว้บ...........

“เอาว่ะ ตั้งต้นใหม่ตรงนี้แหละ”  แล้วผมก็เดินย้อนกลับทางเดิมครับ   ผ่านกลุ่มโจรใต้นี้ต้องเดินก้มหน้ามองปลายเท้าตัว

เองไป แต่พอผ่านกลุ่มคุณยายต้องระวังครับเดี๋ยวน้ำหมากกระเด็น  ( ล้อเล่น )  สุดท้ายกลับมานั่งแกร่วในออฟฟิสอีกครั้ง

   เอาไงดีหว่า  จะไปแผนกสต็อก กับแผนกจัดส่งอย่างไร    จะให้ไอพี่ลมพาไปมันก็ไม่อยู่ที่โรงงานซะนี่  ถ้ามันอยู่ก็คงจะ

ดีเนาะ

-   .........นี่ผมคิดถึงมันทำไม  มันไม่อยู่ผมก็ไปเองได้นิ............-

-   ..........ก็แค่มันไม่อยู่.......ก็แค่รู้สึกโวงเวง .........เท่านั้น..-


     
                                           “  พี่ครับ....มาเอาใบส่งของครับ”


                                          “คะ   คะ   ครับ”   ไอนี่มันเป็นใคร   ตัวเล็ก ๆ น่ารัก   ทำผมทรงตูดเป็ดยืนยิ้มแฉ่งอยู่นี่     

ดูมันอายุคงสัก 20 ต้น ๆ  ผิวออกคล้ำ หน้าอก ล้ำ ๆ 

                                             “พี่ครับ” 

                                             “ออ ครับ รอแป้บ” ผมหยุดสำรวจตัวมันแล้วหันรีหันขวาง หาใบส่งของยื่นให้  มันยิ้มรับ

แล้วเปอดประตูออฟฟิสออกไป 
 
                                      “โป้ะเช่ะ”  ผมดีดนิ้วมือแล้ววิ่งตามมันออกไป ทิ้งให้พวกมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายนั่งงงสงสัยว่าผมเป็นอะไร  จะเป็นอะไรหล่ะครับก็ต้องรีบวิ่งตามมันนะสิ   ไม่ได้คิดอย่างอื่นน๊าแค่จะไปแผนกสต็อกและจัดส่งอ่ะ

ครับ  จะว่าไปถามชื่อมันไว้หน่อยก็ดี   ไอ้ตอนที่ผมกำลังเดินตามมันอยู่นี่เจือกมีโทรศัพท์เข้ามาหาผม  เบอร์แปลก ๆ 

ไม่เคยเห็น

                                         “สวัสดีครับ” 

                                        “.......................”   


                          หลังรับสายเสร็จผมก็รีบวิ่งตามหลังไอเจ้านั้นไปทันที   รู้ว่าตอนนี้อะไร  ๆ  ก็ไม่สำคัญเท่าอนาคตของ

ผมแล้ว  ก็ทำไมละครับ คนที่โทรมาหนะโทรจากโรงงานเก่าผม  เขาเร่งจะเอางาน  ผมรู้ดีว่าถ้าผมส่งงานเข้าไม่ทัน

อะไรจะเกิดขึ้นไม่อยากคิด    ไปถึงผมก็เห็นพนักงานกำลังขึ้นของกันอยู่เลยต้องเข้าช่วย  แบกของขนของช่วยเขา  ไอ

เจ้าน่ารักนั้น เห็นผมไปช่วยแมร่งก็ยิ้มไม่หุบ  แต่กรูไม่มีอารมณ์เล่นนะโว้ย  คอยดูนะถ้าส่งงานไม่ทันกรูจะเล่นเมิง

ตั้งแต่วันแรกที่ทำงานนี่แหละ   ขึ้นเสร็จผมก็เร่งให้คนขับรีบไปทันที   

                              “บินเลยนะน้า”  นี่เป็นคำสั่งผมครับ   

                       ทำงานยังไม่ถึงวันเหงื่อโทรมเลย   พอมองหาไอเจ้านั้น  ก็ไม่เห็นมันแล้ว   พอรถอ้อมออกหน้าประตู   

มันก็ยิ้มโบกมือ บ๊าย  บาย  ส่งยิ้มอยู่หน้ารถ   เห้อ   กวนทีนนะเมิงไอ้ ......ไอ้.......ไอ้น่ารัก
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-11-2007 17:15:37
ไรหวา มาไม่ทันไร ก็แอบปันใจให้ชายอื่นหล่ะ
เด่วให้พี่ลมจับตีก้นเยย
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-11-2007 18:18:36
มีไอ้น่ารักอีกแระ  คนเรา

แล้วพี่ลมก้อแห้วอ่ะเด่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 14-11-2007 11:47:04
 :m21:
พี่ลมรู้เข้าละ ตายยยยย  :m7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 14-11-2007 11:56:10
กรรมมาแป็บเดียวมีไอ้หน้ารักอีกคนและ :เฮ้อ:เดี้ยวโดนพี่ลมปล้ำหรอกครับ :m14:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 14-11-2007 12:19:45
 :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 14-11-2007 17:40:18
ช่วงนี้มีเวลาว่างจะรีบเขียนให้จบครับ   รู้สึกว่ายิ่งเขียนยิ่งถดถอย :o11:  แต่ไม่อยากปล่อยค้าง ๆ คา ๆ   :undecided:

เอาเป็นว่าจะเร่งมือให้จบในเร็ววัน     ก่อนอื่นก็ขอบคุณทุกคนที่ยังอุตส่ามาอ่าน  และให้กำลังใจมาตลอด

ขอบคุณมากมายครับ o1


/////////////////////////////////////////////////////////////

               เหงื่อชุ่มเหงื่อชวยไปกับงานวันแรกได้แผลมานิดหน่อย     เห้อ  ๆ   อยู่ไหนผมก็ยังซุมซ่ามเหมือนเดิม

               ผมรีบขี่รถกลับจากโรงงานเพราะต้องเอารถไปคืนพี่สอที่โรงงานเก่า   จนรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่าง

 (โรคปลาทองกำเริบ)  แต่ไม่เป็นไรนึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึกปวดหมอง   

             ผมกะไว้แล้วว่าสุดสัปดาห์นี้ผมจะซื้อรถมอไซค์ เดี๋ยวนี้ดาวน์น้อยผ่อนถูกมีมากมายแค่ดอกเบี้ยบานตะไทเอง   

ได้รถแล้วก็ต้องหาห้องเช่าใหม่เอาที่ใกล้ที่ทำงาน  จะได้ไม่ต้องขับรถไกล   

                    “ตื้ด    ตื้ด     ตื้ด...............” 

                     “โหล.........ครับ”

                     “เมิงอยู่ไหน”  เสียงปลายสายตะคอกจนต้องยกโทรศัพท์ออก

                     “อยู่ห้อง   แล้วนี่ใคร”  ใครไม่รู้พูดไม่เพราะด้วย

                      “ไอนี่.....เมิงจำกรูไม่ได้เหรอ....น่าน้อยใจหวะ” น้อยใจเอี้ยไร  ใครกรูยังไม่รู้เลย

                      “เอ้า    แล้วใครเล่า”  ผมลากเสียงยาว ๆ  แบบกรูรำคาญนะเฟ้ยยยยยยยยย

                      “กรูบอกเมิงรอกรูหน้าโรงงานไม่ใช่เหรอ”  เสียงมันโกรธน่าดูแหะ  ใครฟ่ะ

                      “..................”  รู้แล้วว่าเป็นใคร  ตายแน่

                      “ออ  พี่ลมเหรอ นึกว่าใคร  เปลี่ยนเบอร์ใหม่ก็ไม่บอก”   เฉไฉไปเดี๋ยวคงลืมเอง 

                     “เบอร์เก่ากรูโว้ย   แหกตาดูมั้งไม่ใช่ว่าใครโทรมาแมร่งไปรับหมด”  อ้าวไอนี่  พูดไรแปลก ๆ (แล้วใครโทรมา ผมถึงจะไม่ต้องรับสาย)

                     “โทษทีคร้าบบบบ   ถ้าเจอเบอร์นี้จะได้ไม่ต้องรับอีก”  ถ้ารู้เบอร์เมิงกรูไม่รับหรอก (มันไม่เคยให้เบอร์นิ )

                     “เมิงไม่ต้องประชดจะบอกกรูได้ยัง”  งง   

                     “บอกไร   ไม่เข้าใจ”

                      “ทำไมเมิงไม่รอกรู”  ออ   นึกว่ามันลืมแล้ว  จำดีนะเมิง

                      “ รีบเอารถไปคืนพี่สอครับ  แกเลิกงานห้าโมงสี่สิบห้า”  ผมไม่ได้ลืมนะ  แค่ไม่เคยจำ   

                      “เออ   แต่คราวหลังกรูบอกรอต้องรอ”  ทำไมกรูต้องเชื่อเมิงด้วย  เมิงไม่ได้เป็นอะไรกับกรูสักหน่อย
           
                    “เอ้ย......” 

                    “ตู้ด   ๆ   ๆ    ๆ”   ไม่ทันแล้วครับ  มันวางสายไปแล้ว


                  ไรวะ  ไอพี่ลมนี่ทำท่าแปลก ๆ  ขึ้นทุกวัน   จะมาอะไรผมนักหนา ลูกเมียตัวเองมี ไม่เห็นจะไปสนใจ..................

                   มีลูกมีเมียแล้วไม่เห็นไปสนใจงั้นเหรอ     ทำไมไม่สนใจเมียตัวเองนะ

                  รู้แค่เพียงว่าเริ่มทะเลาะกันบ่อย

                   มีข่าวมาเข้าหูทุกวัน                 

                     เรื่องอะไรนะ  อยากรู้จัง 

                     คงไม่เกี่ยวกับผมนะ     

                    ไม่อยากให้เกี่ยวด้วย

                     ต้องทำตัวออกห่าง   ไม่อยากรู้สึกดี ๆ เกิน พี่น้อง   :o11:

                    ต้องทำไงนะ   ทำไงพี่ลมถึงจะเลิกสนใจ   แต่แค่คิดว่าพี่ลมจะเลิกสนใจผมแค่นั้นทำไมมันเจ็บแปล้บ ๆ แบบนี้ไม่รู้

                    ผมไม่อยากเป็นแบบนี้หรอก    ต้องวางแผน      ใช่   ใช่แล้วครับ     ไอ้นั้นไง.......ไอ้น่ารักนั่นไงต้องช่วยผมได้แน่
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-11-2007 18:43:47
อืม วิธีให้เขาตัดใจง่ายสุด ก็ต้องบอกไปเยย ว่ามีคนอื่นที่เรารักแล้ว
 :a1:

ปล. ไม่ต้องน้อยใจนะครับ
ตอนนี้พล็อตเรื่องเริ่มวิ่งแล้วตั้งแต่เจอพี่ลม
กำลังสนุกเลยครับ
 o13
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-11-2007 19:08:17
ไอ้พี่ลมยังตื้ออยู่  :a6:  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-11-2007 20:34:26
จะดึง ไอ้น่ารัก มาร่วมชะตากรรมด้วยเหรอเนี่ย

 :a5:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 14-11-2007 22:36:22
 :a10:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: gateau ที่ 14-11-2007 23:39:51
แน่ใจนะว่าคิดถูก ที่จะเอาไอ้น่ารักมาร่วมด้วยเนี่ย

งานนี้เจอลมพายุแน่...       :m2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-11-2007 12:10:30
มีแต่เรื่อง น่าปวดหัวทั้งน๊านนนนนนน

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 15-11-2007 14:06:41
จะเอาคนอื่นมาอยู่ในวังวนเหรอ :m26:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 15-11-2007 14:24:45
                          //////////////////////////////////////////////////////////////////


ให้ทายครับว่าวันนี้ผมได้รถใครมาทำงาน............ใครนอ.................ใครน๊า...........


รถไอทักษ์ครับ.......เมื่อคืนออดอ้อนมันหน่อย เอาตัวเข้าแลกยอมไปนอนห้องมัน  เหอ ๆ   มันก็ให้รถผมมาใช้แต่โดยดี 

คือ พอดีว่ารูมเมทมันต้องเข้ากะกลางคืน  มันต้องนอนคนเดียวแต่มันดันกลัวผีขึ้นสมอง  มันเลยต้องโทรตามให้ผมไป

นอนเป็นเพื่อนอาทิตย์ทั้งอาทิตย์ ผมเลยมีข้อตกลงกับมันว่าผมจะเอารถมันไปทำงานส่วนมันให้นั่งวินมอไซค์โดยผมจ่าย

ค่าวินให้     ไม่มีไรมากแค่เพื่อนกัน

ผมมาถึงโรงงานตั้งแต่เช้าก่อนเจ็ดโมงครึ่ง   ทักทายหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน เสร็จ ก็เริ่มงานเลย   งานที่ผมทำกำหนด

กะเกณฑ์อะไรไม่ได้มากขึ้นอยู่กับลูกค้าจะเรียกเอางาน   ผมก็ต้องคอยดูยอดงาน   ออกเอกสารและวางแผนจัดส่ง  ถ้า

รถส่งไม่ทันก็ต้องได้เหนื่อยเหมือนเมื่อวาน  ผมจึงมีพนักงานในสังกัดก็เป็นคนขับรถและทีมจัดส่งทั้งหมด  ไอพี่ลมด้วย

ครับ มันเป็นลูกน้องผม แต่ผมไม่ได้ควบคุมโดยตรงแต่จะมีคนดูแลอีกคนหนึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับผม 

วันนี้ยังไม่เห็นหน้าพี่ลม    ตอนเข้าแถวก็ไม่เจอ     มันไปไหนของมัน   หรือมันไม่มาทำงาน

จะโทรหาดีไหม     ไม่เอาดีกว่าไม่มีอะไรจะคุยถ้าไม่มาทำงานมันคงโทรมาลาเองแหละ

                       “น้า  เอกสารส่งของครับ”

                         “ครับ”  ชายวัยกลางคนตัวจ้ำหม้ำ  คาดว่าคงประมาณ  120 กิโลอัพ รับเอกสารจากผม

                         “เออ  คุณพงษ์   มีเบอร์ไหมครับ   เวลามีปัญหาจะได้ติดต่อได้”  โห  ปัญหาของคนมีร้อยแปดพันประการเลยนะนั่น

                         “ออ  ครับ  081..............7   ครับ”  แต่อย่ามีปัญหาเรื่องกะตังค์ก็แล้วกาน

                         “ เอ่อ   คือ  แล้วเด็กรถน้าชื่ออะไรครับ”  ผมไม่ได้อยากรู้นะ  แค่มันจำเป็นต้องรู้  อิอิ

                          “ชื่อ ไอยุทธครับ  ไอนี่มันขยันทำงานดีใช้ไปไหนได้ไม่มีเกี่ยง  นิสัยก็ดีนะผมว่า”   เอ่อ   คือ  ผมแค่ถามชื่อครับ ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ   

                           “น้าเร็วดิ เขาโทรมาตามงานแล้ว”  ไอยุทธมันโผล่หัวออกมาจากหน้ารถ  เรียกคนขับให้รีบไป

                           “น้ารีบไปเหอะ เดี๋ยวส่งของไม่ทัน”  ผมว่า  แล้วก็หันมองดูไอยุทธ     แต่มันไม่ยักกะหุบหัวเข้าไป  ส่งยิ้มหวานมาให้ผมทีนึง  ผมเลยยักคิ้วเป็นการตอบรับ   เหอ ๆ  ไอนี่ชักยังไง ๆ
                   
 
                             ผมหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าออฟฟิต   ก็เจอไอพี่ลมมันมายืนดักรออยู่ตรงหน้า

                                     “เฮ้ยยยย     ตกใจหมด”   ใจผมเต้นแรง เพราะตกใจ  ไม่รู้ว่ามันมาตั้งแต่เมื่อไหร่

                                      “ขวัญอ่อน นะ  หรือว่าใจลอยหาใคร”   น้ำเสียงมันเรียบ ๆ  กับสายตาหม่น ๆ  แบบนี้

                                     “ใจลอยบ้าไร  คนตกใจ มาแบบไม่มีเสียงนี่”   น่าโมโหครับผมเลยจะเดินหนี

                                     “ คงจะมัวยิ้มอ่อยอยู่นั้นดิ  รู้จักมันแล้วเหรอ” ไรของเมิงกรูไม่อยากคุยด้วย 

                                       “มันเป็นลูกน้องก็ต้องรู้จักดิ”  แค่รู้ชื่อมันหนะ  แต่ต้องฟอร์ม

                                        “ เมิงไม่ต้องไปคุยกับมันมาก แค่รู้จักก็พอ”  ไรว่ะ งงกะมัน

                                       “ทำไม”   ทำไมไม่ให้คุยมาก  และทำไมแค่รู้จักก็พอ

                                      “ไม่ต้องถามมาก  เชื่อกรูเดี๋ยวจะดีเอง

                                        “...............”  เดินหนีแม่งเลย  เซ็ง

                                        “ตอนเที่ยงรอกรูมากินข้าวด้วย”  มันตะโกนแล้วก็เดินหนีไปเลย :m16:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-11-2007 14:45:57

ชอบพี่ลมอะ  ทำไงดี  ส่งต่อมาให้เจ้มะ?


ปล. เรื่องมันเริ่มไหลแล้วจ๊ะ  อย่างที่พี่เรย์ว่า

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-11-2007 14:54:08
พี่ลมหึงอ่ะดิ
 :m3: :m3: :m3:
แต่มันคงเป็นไปได้ยาก

สงสัยเจ้ายุทธจะไม่น่าไว้ใจป่าว พี่ลมเลยเตือน
อิอิ
 :m18:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 15-11-2007 14:55:51
ช่วงนี้มีลุ้น

พี่ลมจะทำไรต่อ คิดไรอยู่
ิอิตาพงษ์จะจัดการยังไง
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 15-11-2007 15:34:41
งงกับพฤติกรรมของพี่ลมจริง :o11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: terukizawa ที่ 15-11-2007 23:25:41
เหะๆๆๆ ตามอ่านทันแย้ว.......... :a2: :a2: :a2:

ขอบอกหน่อย.....ท่านพงษ์เป็นคนเจ้าชู้มากมาย.....

เหะๆๆๆ แต่น่ารักอ่ะ

ท่าทางพี่ลมจะหึงน่าดูเลยอ่ะพี่ (ทั้งๆที่มีเมีย :m16: (ช่ายป่ะหว่า??))

แนะนำให้ยั่วพี่ลม(ให้โมโห+หึง)ทุกวัน เพื่อความสุขของใจ?ครับท่าน
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 15-11-2007 23:45:06
 :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 16-11-2007 09:27:56
พี่ลมหึงอะเด่

ชอบเค้าก้อบอกไปเด้  เดี๋ยวยุธก้อเอาตาพงไปกิน หรอก

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: howto696 ที่ 16-11-2007 09:52:23
สนุกสนานเบิกบานใจ :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 16-11-2007 10:09:19
เข้ามาตอบเม้นท์ให้ก่อนครับ

ชอบพี่ลมอะ  ทำไงดี  ส่งต่อมาให้เจ้มะ?


ปล. เรื่องมันเริ่มไหลแล้วจ๊ะ  อย่างที่พี่เรย์ว่า

สู้ๆ
ยกให้เลยครับเจ๊   แถมข้าวสาร 1 กระสอบ

พี่ลมหึงอ่ะดิ
 :m3: :m3: :m3:
แต่มันคงเป็นไปได้ยาก

สงสัยเจ้ายุทธจะไม่น่าไว้ใจป่าว พี่ลมเลยเตือน
อิอิ
 :m18:
ไอยุทธไม่แน่ใจครับ  เดี๋ยวไอพี่ลมจะมาพิสูจน์ให้ดู o17
ช่วงนี้มีลุ้น

พี่ลมจะทำไรต่อ คิดไรอยู่
ิอิตาพงษ์จะจัดการยังไง
จัดการไงดีครับ   ช่วยสอนหน่อย 55
งงกับพฤติกรรมของพี่ลมจริง :o11:
ผมก็งง กับมัน  จนปวดหมอง
เหะๆๆๆ ตามอ่านทันแย้ว.......... :a2: :a2: :a2:

ขอบอกหน่อย.....ท่านพงษ์เป็นคนเจ้าชู้มากมาย.....

เหะๆๆๆ แต่น่ารักอ่ะ

ท่าทางพี่ลมจะหึงน่าดูเลยอ่ะพี่ (ทั้งๆที่มีเมีย :m16: (ช่ายป่ะหว่า??))

แนะนำให้ยั่วพี่ลม(ให้โมโห+หึง)ทุกวัน เพื่อความสุขของใจ?ครับท่าน

เอ่อ   อันขอแก้ข่าวครับ  ผมม่ะได้เจ้าชู้น๊า  :o11: แค่เพื่อนมันบอกว่า เมิงคิ้วต่อ  เห็นชัดเจน  :m23:
:m4:

พูดบ้างก็ไดนะครับ  (ไม่ได้เป็นใบ้ใช่ป่ะ)
พี่ลมหึงอะเด่

ชอบเค้าก้อบอกไปเด้  เดี๋ยวยุธก้อเอาตาพงไปกิน หรอก


ใช่มีอะไรก็ไม่ยอมบอก

สนุกสนานเบิกบานใจ :a4: :a4:

ยินดีต้อนรับครับ    วิน  เดี๋ยวจะไปเฝ้า 7-11 ช่วย



ออ  มาบอกว่าจะมาต่อให้วันนี้แหละครับ  :m5:
 
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 16-11-2007 10:15:47
 :a10:
รออ่านตลอดเวลาครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: terukizawa ที่ 16-11-2007 13:43:03

เหะๆๆๆ ตามอ่านทันแย้ว.......... :a2: :a2: :a2:

ขอบอกหน่อย.....ท่านพงษ์เป็นคนเจ้าชู้มากมาย.....

เหะๆๆๆ แต่น่ารักอ่ะ

ท่าทางพี่ลมจะหึงน่าดูเลยอ่ะพี่ (ทั้งๆที่มีเมีย :m16: (ช่ายป่ะหว่า??))

แนะนำให้ยั่วพี่ลม(ให้โมโห+หึง)ทุกวัน เพื่อความสุขของใจ?ครับท่าน

เอ่อ   อันขอแก้ข่าวครับ  ผมม่ะได้เจ้าชู้น๊า  :o11: แค่เพื่อนมันบอกว่า เมิงคิ้วต่อ  เห็นชัดเจน  :m23:


เอ่อ....พี่ฮับ ข้าน้อยว่านี่มันลักษณะสำคัญของคนเจ้าชู้เลยมิใช่รือ

หรือว่าหนูจำผิดอ่ะ งืมๆๆๆๆ o2
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 16-11-2007 17:43:55
ต่อให้ได้แค่นิดหน่อยนะครับ    พอดีลูกค้ามีปัญหา  ต้องไป  LG  ก่อนเด้อ


//////////////////////////////////////////////////////////////////////

ตอนเที่ยงมันลงทุนขับมอไซค์กลับมารับผมที่โรงงานไปกินข้าว  ที่ร้านตามสั่ง  ก็มีไปกันหลายคน  เหมือนเพื่อนไปกินข้าวกันธรรมดา  ไม่มีอะไรมากนัก  พอตอนบ่ายมันก็กลับไปที่เดิม      วันนี้ตอนบ่ายงานที่ผมต้องส่งมันเยอะเลยต้องออกไปช่วย   ขึ้นของเสร็จไปหนึ่งคัน อีกคันก็เข้ามา  ขอบอกว่าเหนื่อยครับ มีพนักงานออฟฟิสที่ไหนทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำมั่ง  คงมีที่นี่แหละครับ   แต่ก็ดีหน่อยตรงที่ไม่เหนื่อยใจ........อิอิ

                                      “พี่พงษ์ครับ”  ต้นเสียงมาจากด้านหลัง

                                       “ครับ”    หันกลับมองหน้าคนเรียก

                                       ไอยุทธยืนยิ้มแฉ่งพร้อมยื่นถุง ถุงหนึ่งมาให้ผม

                                      “มะม่วงครับพี่ มีคนเอามาฝาก”   มันก้มหน้าลงเกาหัวหย่อย ๆ

                                       “ฝากพี่เหรอครับ”   วะ  ฮะ ฮ่า  อ่อยมันหน่อย

                                         “ครับฝากมาให้พี่”   ไอนี่หน้าเนียนแฮะ (สนใจของฝากหน่อยโว้ย)

                                         “อืม   ฝากบอกเขาด้วยนะขอบใจมาก”   ก็พอจะเดาออกละครับของใครซื้อมา

มันยิ้มแล้วก็รีบวิ่งไปขึ้นรถไม่รู้มันรีบหรือเพราะอะไร   
ส่วนมะม่วงผมก็ไม่ได้กิน เอาแขวนไว้แถว ๆนั้น  ให้พนักงานที่เขาทำงานเหนื่อย ๆ ได้กินส่วนผมก็ต้องรับเข้าออฟฟิส ตากแอร์ให้สบายอุรา  แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกวันผมว่าผมอาจผ่านโปรแบบดีเด่นหรือก็คงต้องตายก่อนเป็นแน่   

                                        “โหล   ครับ”   ผมกดรับสายหลังเลิกงาน

                                        “เออ  เลิกงานแล้วอย่าเพิ่งกลับนะ”

                                         “ทำไม”   เมิงชอบสั่งกรูเจรง

                                          “ให้รอกรูอยู่ร้านเจ๊ก่อน  กรูกำลังกลับ”  (มันให้รอร้านเหล้าข้างโรงงาน )

                                           “ทำไม”   จะให้กรูรอทำไม

                                            “ไม่ต้องถามรออยู่นั้นแหละ”

                                          “ไม่รอโว้ยจะรีบกลับ  เหนื่อย”  ผมไม่รอมันหรอกแมร่งชอบออกคำสั่ง

                                           “..................” มันไม่พูด   มีแต่เสียงลมดัง ซ่า  ซ่า  คิดว่ามันน่าจะขับรถอยู่

                                           “จะรีบกลับเอารถไปคืนไอทักษ์”   ชักฉุนครับ

                                            “นั้นแหละสำคัญ”   สำคัญไรของเมิง

                                              “ ตื้ด    ตื้ด    ตื้ด......”   มันวางสายไปแล้วครับ   

                               

                          แล้วผมจะเอาไงดี   จะรอมันดีรึเปล่า ชอบพูดให้ค้างคา   เซ็งกับมัน
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 16-11-2007 18:01:50
น่าลุ้น   :interest:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 16-11-2007 18:11:54
พี่ลมนี่ก้อเนอะ บังคับกันจิ๊งงงงงงง

เดี๋ยวก้อไปหายุทเลยนี่ 

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 16-11-2007 18:13:16
 o1
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-11-2007 19:06:41
ยังไงอ่ะ ทักษ์มันมีไรหรือ
 :m21: :m21: :m21:
แบบตอนนี้ตามประกบไม่ปล่อย มีเครียดเว้ย
 :m18:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 16-11-2007 19:14:57
ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องเชื่อฟังมันด้วย  เลิกงานเสร็จผมก็นั่งรอมันที่ร้านเหล้า  นั่งเล่นไปสักพัก  ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผม   เป็นกุ้งนั้นเองครับผู้หญิงที่เคยคุยกันตอนงานวันเกิดพี่ลม  ที่มันพยายามจะจับคู่ให้ผม    ห้องเช่ากุ้งอยู่ข้าง ๆ ร้านเหล้า   เธอบอกว่าเธออยู่ห้องนี้กับแฟน   พอได้ยินแค่นั้น  ผมอึ้งและนึกโกรธไอพี่ลมมันอย่างจริงจังเพราะปกติผมไม่ใช้คนโกรธง่าย  แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร   คงโกรธที่มันจะมาเล่นตลกกับผม
                                          กุ้งเธอมีแฟนแล้ว   แล้วจะมายุยงให้ผมจีบเธอ

                                           มันทำเพื่ออะไร   มันต้องการอะไร   

                                             คนอื่นผมไม่ได้พาลโกรธแต่ผมโกรธไอพี่ลมคนเดียว 

 
                                             ความรู้สึกมันจุกอยู่ที่หน้าอก   แต่ก็นึกขำให้ตัวเอง  ฮึ  ฮึ  โง่นักนะเมิง

                                             “พงษ์  กุ้งถามอะไรหน่อยสิ”  ผมเงยหน้าขึ้นมองเธอ

                                              “ถามอะไรกุ้ง”  เธอจ้องหน้าผมอย่างสงสัย 

                                              “พี่แดงเขาโทรมาคุยกับกุ้งว่าพงษ์เป็น..........เกย์”
                                               “...............”  ผมเลิกคิ้วขึ้นมองเธอ

                                               “พีแดงเขาเล่าว่าที่โรงงานเก่าพงษ์ มีแต่ผู้ชายกับกระเทยมาชอบ”   
                                                “เหรอ...........แล้วกุ้งคิดว่าไง” ผมไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดไง  ตอนนี้ผมยังโกรธมากว่า

                                                “กุ้งว่า..........ไม่ใช่หรอก  ก็แค่พงษ์เป็นคนเรียบร้อย  แต่ดูไงก็คงไม่ใช่” 

                                                “คิดว่างั้นเหรอ”  ผมส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้ไป

                                                 “พี่แดงเขากลัวพี่ลมจะมาชอบพงษ์”   

                                    คำพูดของกุ้งทำให้ผม รู้สึกกระอักกระอ่วน  ร้อนผ่าวทั้งหน้า มือเท้าชาไปหมด  เหมือนว่าผมกำลังรู้สึกผิดอะไรสักอย่าง   ผมคิดว่าผมคงนั่งตรงนี้ต่อไม่ได้ ผมเลยต้องขอตัวกลับ  กุ้งก็คงจะงง   

                                    ผมขับรถกลับห้องด้วยใจที่เหม่อลอย  คิดถึงแต่เรื่องไอพี่ลม   ขับเลยครึ่งทางมาแล้วฟ้าก็เริ่มมืด  เหลือบมองกระจกหลังก็เห็นว่ามีไฟรถมอไซค์ขับตามหลังผมมา  ผมเลยขับให้ช้าลงเพื่อให้เขาแซง    แต่เขาไม่ยอมแซงผมขึ้นไป กลับขี่มาขนาบข้าง    ผมชะลอรถและหันมอง  ผู้ชายสองคนขับรถปาดหน้าขวางทางผมไว้พร้อมตะโกนให้ผมหยุด........                                         
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-11-2007 19:17:37
 :o

ใครมาดักเคอะเนี้ย

จะโดนข่มขืนหรอ?

เจ้ขอรับแทนได้ไหมเคอะ

แบบว่า...

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

คัน  อิอิ

ปล.  ทำไมพี่แดงต้องกลัวพี่ลมมาชอบพงษ์  หรือพี่แดงจะรู้นิสัยสามีตัวเองดี  กำ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-11-2007 20:15:21
เหอ เหอ สงสัยพี่แดง ตัดไฟแต่ต้นลม ดักคอไว้ก่อน  :m12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-11-2007 20:23:34
 :o :o :o :o
มาหยุดอะไรแบบนี้
ใครจะมาทำอะไรพง
 :serius2: :serius2: :serius2:
หรือจะลากไปข่มขืน จะว่าไปก็ดีหรือปล่าว
 o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 16-11-2007 23:45:58
 :m26: ผู้ชายตามแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 17-11-2007 11:40:09
ลุ้นๆๆๆ อ่ะ

หัวใจจะวาย   ใครอ่ะ ใครๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 17-11-2007 15:11:58
:o

ใครมาดักเคอะเนี้ย

จะโดนข่มขืนหรอ?

เจ้ขอรับแทนได้ไหมเคอะ

แบบว่า...

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

คัน  อิอิ


 :m13: ว้ายยยย เจ๊คงต้องแย่งกะจืดแล้วล่ะ เพราะจืดเองก้คันไม่แพ้ค่ะ คุคุ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 19-11-2007 13:50:23
อ้างถึง
“พี่แดงเขากลัวพี่ลมจะมาชอบพงษ์”

มันยังไง ๆ อยู่นา ทำไมพี่แดงต้องกลัวด้วย  :m28:

ว่าแต่มอไซค์คันนั้นคงไม่ใช่ไอ้พี่ลมนะ
แต่ถ้าไม่ใช่ ... ไอ้พี่ลมก็คงมาช่วยแหละ  :m12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 20-11-2007 13:15:34
 :o11:
ไม่มาซักที...
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 20-11-2007 13:29:26
ขอบคุณนะครับแต่ก็รออยู่ครับ :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 23-11-2007 17:45:34
 :m5:   เข้ามบอกว่า พรุ่งนี้จะมาต่อให้นะครับ



ตอนนี้  เครียด  ๆ กับงานครับ    ไม่ค่อยมีเวลา   งานก็หนักรักก็ยุ่ง   เห้อ  ๆ   :m28:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 24-11-2007 02:51:10
"งานก็หนัก รักก็ยุ่ง"

เหมือนจะน่าเห็นใจ


เอาเป็นว่า จะรอนะคะ

 :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 24-11-2007 10:08:39
รออ่านอยู่หนา  :a10:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: *~Kisa~* ที่ 24-11-2007 12:20:13
เกือบตามทันแล้วค่ะ

มาโพสให้กำลังใจก่อน  o15
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 24-11-2007 13:07:26
                                    ผมขับรถกลับห้องด้วยใจที่เหม่อลอย  คิดถึงแต่เรื่องไอพี่ลม   ขับเลยครึ่งทางมาแล้วฟ้าก็เริ่มมืด  เหลือบมองกระจกหลังก็เห็นว่ามีไฟรถมอไซค์ขับตามหลังผมมา  ผมเลยขับให้ช้าลงเพื่อให้เขาแซง    แต่เขาไม่ยอมแซงผมขึ้นไป กลับขี่มาขนาบข้าง    ผมชะลอรถและหันมอง  ผู้ชายสองคนขับรถปาดหน้าขวางทางผมไว้พร้อมตะโกนให้ผมหยุด........                                                                               

                                      ผมหักรถหลบจอดที่ข้างทาง  เมื่อมีรถอีกคันขวางหน้าผมอยู่

                                     …………ไอพี่ลมกับไอทักษ์.............แล้วไม่บอกว่าไอทักษ์จะมาด้วย

                                       “ทำไมเมิงไม่รอกรู”   เชี่ยเอ้ย  กรูตกใจหมดนึกว่าจะโดนจี้ข่มขืน  (เสียดายละสิ)

                                        “ รอแล้ว...แต่นานไป”  ก็จริงครับ  ใครจะรอมันไหว

                                        “เออ  รอนิดรอหน่อยแค่นี่ไม่ได้”  ไอพี่ลมทำสายตามองค้อน

                                        “...........................”  งอนมันครับ จะให้รอฟังเรื่อง บ้า ๆ  อย่างนั้นได้ไง

                                        “ป๋าพงษ์  มาเดี๋ยวขับเอง” ไอทักษ์วาดขาข้ามเบาะมาแย่งรถที่ผมขับไป( เอ่อ..รถมัน)

                                         “เมิงมาขึ้นนี่” ไอพี่ลมมันสั่งผม

                                          “ไปกับไอทักษ์ก็ได้”  ไม่อยากไปกับมัน  ยังนึกถึงเรื่องที่กุ้งเล่าให้ฟังอยู่

                                          “ โห ป๋าคันนี้มันแก่แล้วนะสงสารมันหน่อย”  ไอเพื่อนเวน  แล้วเมิงไม่สงสารกรูมั่ง

สรุปผมก็ต้องไปกับไอพี่ลมอยู่ดี  มันเลี้ยวรถกลับไปตามทางเดิม   นั้นหมายความว่ามันไม่ไปส่งผมที่ห้อง  แล้วมันจะพา

ผมไปไหน  ไอทักษ์ก็ขับรถตามตูดมา   ผมหันกลับไปมองดูสภาพรถมัน   เห้อ  ถ้านั่งสองคนคงจะแย่เอาการจริง ๆ

                                           “ พี่ลมจะไปไหน” 

                                            “ไปที่ ที่พงษ์มานั้นแหละ”  โอ้ว  เป็นครั้งแรกที่ไอพี่ลมเรียกชื่อผม  ไม่พูดเมิงกะกรู   แต่

ว่ามันจะกลับไปทำไม ที่ห้องกุ้งเหรอ  ผมไม่อยากไปเลย  ไม่อยากไปพร้อมไอพี่ลมด้วย  รู้สึกอึดอัด

                                         “ไปทำไม”

                                          “..............”  มันไม่พูดตอบอะไร  ผมก็ไม่ถามต่อ เซ็ง –ไอพวกปากหนักเอ้ย มีไรก็ไม่เคยพูด-



                                        รถกลับมาจอดที่หน้าร้านค้าข้างโรงงานที่เดิมที่ผมเพิ่งจากไป   ไอพี่ลมก็สั่งเหล้ากลมหนึ่ง

 มิกเซอร์พร้อมแล้วก็เดินเข้าห้องกุ้งไป   ไอทักษ์ก็เดินตาม ส่วนผมยืนงงกับพฤติกรรมประหลาด ๆ  ก่อนจะโดนกระชาก

แขนให้ตามไป 

-   ผมว่าไอพี่ลมต้องมีเรื่องอะไรในใจแน่ ๆ  ถึงกลายเป็นคนเก็บกดแบบนี้-

-   มันมีอะไรทำไมไม่พูด  แต่ก่อนมันเป็นคนร่าเริง ปากหมา หาเรื่องด่าชาวบ้าน –


                                          กว่าผมจะได้กลับถึงห้อง (ห้องไอทักษ์ )ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน  ก็เล่นโจ้ะเหล้ากันหมด

ไปตั้งสองกลม (ยาดองเริ่มหายไปจากชีวิตแล้ว)  ก็มีพี่ลม  ไอทักษ์   กุ้ง  แฟนกุ้งและผม   โชคดีที่กุ้งไม่ได้เล่าเรื่องพี่

แดงหึงไอพี่ลมใส่ผมให้ใครฟัง  ผมก็กลบเกลื่อนไม่อยากให้ปากว่างมาก นอกจากกินเหล้าแล้วก็ต้องแหกปากร้องคารา

โอเกะเข้าไว้   แล้วก็หยัดเหยียดไมค์ให้ไอพี่ลมไปจะได้ไม่ต้องมีเวลาพูดคุยกับใคร  ไม่อยากให้รู้ครับว่าพี่แดงคิดยังไง

 กลัวว่าจะเป็นเรื่องให้ต้องทะเลาะกัน  ส่วนผมนะเหรอ  พยายามจะไม่ไปใกล้ชิดสนิทสนมให้  ผมบอกตัวเองว่าผมต้อง

ทำได้   ต้องทำให้ได้ ..................ถึงแม้ใจผมจะไม่ค่อยเชื่อก็ตาม



                                      เสาร์นี่แล้วสิผมจะต้องย้ายที่พักมาอยู่แถวโรงงาน  โชคดีที่น้องชายผมได้งานทำใหม่ที่ใกล้

กัน   ผมก็คงไม่ต้องย้ายมาอยู่คนเดียว  อย่างน้อยก็ทำให้ผมไม่ต้องเหงา
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 24-11-2007 13:57:57
^
^
^
จิ้มตามเจ้าของเรื่องมาติดๆ

สถานการณ์น่าอึดอัดเนอะ

 :m29:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 24-11-2007 14:54:12
ตามอ่านทันแล้ววววววววววววววววววว   :a1: 

กะลังงงกะพี่ลม  เหอๆๆๆ   คุณพี่จะเอาไงกันแน่หว่า  :m16:

ผู้หญิงบางทีมันก็เซ้นต์แรงใช้ได้นะเนี่ยะ   ระวังตัวไว้หน่อยดีไหม??   :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 24-11-2007 15:51:33
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

                                   หลังเลิกงานวันเสาร์ ผมก็ยืนทะเล่อทะล่าอยู่หน้าโรงงาน ความจริงก็คิดไว้แล้วว่าเลิกงานวันนี้ผมจะย้ายของมาห้องใหม่  กะว่าจะให้ไอนันกับน้องชายมาช่วยขนของแต่มันสองตัวติดงานหมดซะนี่    ที่จริงก็ไม่มีไรของไรมากหรอกครับแค่เสื่อผืนหมอนใบแต่ยามเดินทางมานี่สิ
ต้องมีคนเอารถมาส่ง เพราะผมยังใช้รถไอทักษ์อยู่  กะว่าวันนี้จะต้องคืนมัน    ถ้าอยู่ที่ห้องใหม่ผมไม่ต้องใช้รถก็ได้เวลาไปทำงานก็จะให้รถโรงงานมารับ

                                  ยืนชั่งใจตัวเองอยู่นานว่าจะโทรหาไอพี่ลมดีรึเปล่า  สุดท้ายก็ต้องพึ่งมันแหละครับ   

                                                       “ฮัลโหลครับ”   ต้องพูดเพราะ ๆ ไว้ก่อน

                                                        “ทำไม   มีไร”  โหเมิง   ใจเย็นไว้  ๆ :m16:

                                                          “เอ่อ   คือ   พี่ลมช่วยขนของหน่อยสิจะย้ายห้องอ่ะ”  จะใช้เขาต้องพูดอ่อน ๆ

                                                      “กรูยังไม่เลิกงานเลยนะเมิง”  อืมด้วยครับ  มันยังไม่เลิกงานเลย

                                                       “ออ   เหรอครับ  งั้นแค่นี่นะ”  :m29: นี่  กดวางแม่งเลย ไม่มีประโยชน์แล้วนี่


                                   ผมเลยต้องขับรถกลับไปห้องพักด้วยอารมณ์เซ็ง   ท่าทางจะไม่ได้ย้ายวันนี้ละม้าง จะให้ไอทักษ์มาส่งก็คงต้องรอมันดึก  เอาว่ะ ย้ายพรุ่งนี้ก็ได้       

                                     ผมเอารถไปคืนไอทักษ์ที่โรงงานเก่า แล้วนั่งวิน ฯ กลับห้อง  ถึงหน้าหอพักผมก็แวะซื้อลูกชิ้นไปกินด้วย   กินไปเดินไปก็สบายใจดี มีความสุขกับการกินละครับ   แต่เกือบทำผมสำลักลูกชิ้นตายเพราะ

                                              “กินสบายใจเลยนะเมิง”  ผมเงยหน้าขึ้นมอง  ลูกชิ้นที่อยู่เต็มปากเกือบจะพุ่งรดหน้ามัน

                                              “พรุ่ดดด ด ด    อะฮ่อก  ๆ  ๆ   อึ๊บ   เหอ  หึ เหอ   “  ผมก้มมือจับหัวเข่า

                                         “เอ้ยแค่นี่ทำตกใจเลยเหรอ”  มันเดินเข้ามาช่วยพยุ่งผม   (ขอบใจเมิงแต่เกือบทำกรูตาย )

                                                          “ไหนว่าไม่เลิกงานไง”  กัดมันก่อนฐานโกหก

                                                           “ยังไม่เลิก”   อ้าว ไอนี่มั่ว
                                                       
                                                            “ไม่เลิกแล้วมาได้ไง” 

                                                            “เอ้า..ก็กะจะกลับไปเลิกนี่แหละ”  เออ   ทำยังกับต้องไปเลิกที่ทำกระบอกเลย

                                                            “อืม    งั้นมาช่วยขนของหน่อยดิ”



ปล. พิมพ์ได้แค่นี่ก่อนนะครับ   มีงานด่วนไปแระ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 24-11-2007 16:02:54
หึหึหึ     สงสัยว่าโทรไปปุ๊ป   ใจคงจะรีบมาปั๊ปเลยมั้งนี่   :m12:

รีบๆ มาต่อนะค่ะ   รออ่านอยู่   :a2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-11-2007 17:59:15
พี่ลมทำคะแนนใหญ่เลยวุ้ย  :a4:  :a4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 24-11-2007 19:35:17

มาเร็วมากๆ เลยพี่ลม

รักเค้าอะดิ  อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 25-11-2007 00:03:04
 :o
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 25-11-2007 15:04:05
ที่บอกว่าจะเลิกนี่  เลิกกะเมียอ๊ะป่าวพี่ลม
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 26-11-2007 12:30:44
 :m23:พี่ลมครับเห็นต้นงิ้วอยู่รำไรๆไหมครับผม :m23:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 26-11-2007 20:58:49
 :m18:ปีนเลย ปีนเลย เค้าหนับหนุนเต็มที่นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 27-11-2007 00:02:52
เง้อ  แต่ละคนเนอะ เชียร์ให้ปีนต้นงิ้วกันใหญ่

แต่มันก็น่าอยู่หรอก

โทรปุ๊บ มาปั๊บอย่างงี้ น่ารักจริงๆ

 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 29-11-2007 14:23:32
รอครับรอ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-11-2007 14:38:39
รออยู่นะครับผม :a10:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-11-2007 16:01:57
อิอิ ขอแค่สั่งมา
 :a9: :a9: :a9:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 29-11-2007 16:47:37
เห็นมีเพื่อนเข้ามารออ่าน  ก็รู้สึกผิด  นะครับ   พอดีเป็นช่วงเช็คสต็อกประจำปีของลูกค้าเลยวุ่น ๆ หน่อย 


วันนี้มาต่อให้แล้วนะครับ    ใครลืมที่มาที่ไปก็กลับไปอ่านใหม่นะครับ   :m23:



ข้าวของที่ผมจะสามารถเอามาด้วยได้ก็คงแค่เสื้อผ้าชุดทำงานเท่านั้น  ผมเป็นคนแบกระเป๋าไอพี่ลมเป็นคนขับ นั่งซ้อน

รถมอเตอร์ไซค์ในมือหอบแค่กระเป๋าสองใบ ใครผ่านมาเจอเค้าคงไม่คิดว่านี่เป็นการย้ายห้องหรอกครับ  คนอื่นเค้าคง

จะมองว่าผมหอบเสื้อผ้าหนีตามผู้ชายมากว่า   เห้อ  ๆ  คิดแล้วก็อนาถตัวเอง   ระหว่างที่กลับ ไอพี่ลมแวะรับโทรศัพท์ที่

ข้างทาง   ผมก็พอเดาได้ว่าใครโทรมา  ผมไม่ได้แอบฟังแต่มันอยู่ใกล้ซะจนชัดเจนในทุกคำพูด 

                                                       “ อืม  ขับรถอยู่”   ไอพี่ลมตอบ  ขณะเลี้ยวรถจอด

                                                       “ขับรถไปไหน ทำไมไม่รอเค้า”  เสียงพี่แดงลอดผ่านโทรศัพท์

                                                        “ มาขนของช่วยไอพงษ์มัน ย้ายห้องวันนี้”

                                                        “ ทำไมต้องไปช่วยมันด้วย”
                                                        “ มันไม่มีรถ แล้วก็ไม่มีใครก็ต้องมาช่วยสิ”

                                                         “แล้วเค้าละ  ทำไมไม่รอเค้าเลิกงานก่อน  ทำไมอะไร ๆ  ก็มีแต่พงษ์  ๆ  ๆ  ด้วย”

                                                        “นี่...อย่างี่เง่าได้ไหม  ตัวเองก็ยังไม่เลิกไม่ใช่เหรอ”

                                                         “ จะเลิกแล้วจะกลับตอนนี้ มารับด้วยเร็ว ๆ   แล้วทีหลังจะไปไหนบอกด้วย  โดยเฉพาะไปกับไอพงษ์  เค้าไม่ชอบ”
                                                         “...............................”   สิ้นเสียงของพี่แดง  สัญญาณก็ตัดไปแล้ว


                                                         พี่ลมไม่พูดอะไรต่อ เก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อตัวเอง  มีเพียงเสียงถอน

หายใจยาว ๆ ที่เล็ดลอดออกมาให้ผมได้ยิน    ส่วนผม นั่งก้มหน้าจ้องมองที่กระเป๋าผ้าในมือ   รู้สึกว่าตัวเองตัวชา 

เหมือนมีอะไรมาจุกที่หน้าอก  มันแน่นไปหมด  มันเกิดอะไรขึ้น  ทำไมผมต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ทำไมต้องให้

ผมได้ยินด้วย     ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี่หรอก    ผมแค่วานให้พี่ลมช่วยขนของเท่านั้น   แค่นั้นจริง  ๆ


                                                       เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน  พี่ลมมาส่งผมที่หน้าหอพัก  ผมก้าวลงจากรถมายืน

ข้าง ๆ  ก้มหน้ามองกระเป๋าตัวเองต่อ  ส่วนพี่ลมยังคงนั่งอยู่บนรถ  ไม่ได้ดูหรอกว่าพี่ลมจะมีสีหน้าอย่างไร ตอนนี้ผมไม่

อยากมองหน้ามัน  แต่ผมรู้ว่าพี่ลมต้องคิดอะไรอยู่ในใจแน่ ๆ  มันมีอะไรที่ต้องคิดมากสินะ  ผมคงเป็นต้นเหตุจริง  ๆ   



                                                       “ ขอบคุณครับ  รีบไปรับพี่แดงเถอะ”   ผมพูดได้แค่นี่ครับ  ความรู้สึกน้อยใจมัน

เกิดขึ้นกับผม อีกแล้ว  ทำไมผมต้องน้อยใจด้วยก็ไม่รู้   และไม่อยากยืนอยู่ที่นี่นาน  ๆ  ผมหิ้วกระเป๋ารีบก้าวขึ้นบันไดไป

บนชั้นสอง    ไม่มีเสียงพูดใด ๆ ตอบกลับมา   ผมรีบเดินและหยุดยืนที่ระเบียงหน้าห้อง   ผมรู้ว่าพี่ลมยังไม่ไปถึงแม้ผม

ไม่ได้มอง  ระยะห่างระหว่างห้องกับหน้าบันได ไม่ได้ไกลกันจนจะไม่ได้ยินเสียงของรถเครื่องนี่    ผมจึงหันหลังกลับ  ไป

ส่งยิ้มให้พี่ลมก่อนจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป

                                                        “ อย่าลืมมาเลี้ยงฉลองห้องใหม่นะครับ”   ประโยคนี่ผมคงจะพูดได้แค่ในความ

รู้สึกเท่านั้น  คนฟังเขาคงไม่ได้ยิน  ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น   ผมก็ทำใจแล้วว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับพี่ลม ทั้งกายและใจ
                                                                           





ปล.  ไม่ใช่ว่าผมจะไปมีอะไรกับพี่ลมนะครับ  ที่บอกเลิกยุ่งเกี่ยวทางกายเนี้ยะ  คือ  ไม่อยากเจอหน้า  ไม่ไปกินข้าว  กินเหล้าด้วยอะครับ

ส่วนทางใจ  เพราะผมยังไม่แน่ใจตัวเอง และไอพี่ลม  ว่าจริง ๆ แล้วเราคิดยังไงกันแน่  เลิก ๆ คบกันไปเลยดีกว่า  ว่ามะ

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 29-11-2007 17:16:36
มันช่างน่าเศร้ายิ่งนัก

และมันยิ่งรันทดท้อ เมื่อหันกลับมาดูตัวเอง

ไปดีก่า
 :m7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-11-2007 18:14:11
เจ็บจริงๆ รักคนมีเจ้าของ
 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nara ที่ 29-11-2007 19:45:30
ชอบ


คับ


รอนะคับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-12-2007 11:53:05
 :o11:    ผมว่าผมลงไปอีก 2  ตอนแล้วนะครับ   ไม่รู้มันหายไปไหนอ่ะ 



  งั้น  บ่ายวันนี้ผมมาลงให้ใหม่ดีกว่าเนาะ      :undecided:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-12-2007 11:57:19
กู้ระบบมาได้แค่วันที่ 1 ธันวาคมอ่ะครับ
ขออภัยด้วยครับ
ไม่ทราบเก็บไว้บ้างป่าวครับ
 o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-12-2007 12:13:15
เศร้าจัง  รักคนมีเจ้าของเนี่ย

รอตอนบ่ายๆ ครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-12-2007 12:30:10
                ผมจัดการปูที่นอนแล้วล้มตัวลงทันที  ไม่แม้แต่คิดจะเปิดไฟ   อยากอยู่กับความมืดมากกว่า  ไม่ต้องมองเห็น

อะไร      พยายามข่มตาลงสักหน่อยผมคงจะหลับได้  แต่ภาพต่าง ๆ ของไอพี่ลมยังคงวนเวียนสลับกับคำพูดของพี่แดงที่

เหมือนเธอจะชิงชังผมเสียเต็มประดา    จนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้  ในห้องที่ว่างเปล่ากับความมืดที่ปก

คลุม มีเพียงผมคนเดียวที่รับรู้ ว่ามันเหงาแค่ไหน  แต่อีกไม่นานมันคงจะสว่างแล้วสินะ  อย่างน้อยพรุ่งนี้น้องชายผมก็จะ

ย้ายตามมา  คงจะมีเพื่อนได้พูดคุยบ้าง


       
                                    ผมตื่นมาช่วงสายของวันอาทิตย์เพราะเสียงเคาะประตู  ผมงัวเงียลุกขึ้น  ก็ยังงงกับภาพของ

ห้อง  ที่ผมไม่คุ้นตา  ลืมไปว่าตัวเองมานอนที่ห้องใหม่เมื่อคืน แต่จำไม่ได้ว่าหลับไปเองตอนไหน 

                                       ผมเดินไปจะเปิดประตู ก็ต้องหยุดเมื่อคิดว่าใครกันที่เป็นคนมาเคาะห้องผมได้  ผมยอมรับ

ว่าตอนนี้ในหัวสมองผมมีเพียงพี่ลมเท่านั้นที่จะมา   ผมไม่อยากเปิดมันหรอกถ้าจะเป็นพี่ลมจริง ๆ แต่ด้วยมารยาทแล้ว

ผมก็ต้องจำใจ

                                       “อ้าว....นึกว่าใคร”   ดีใจที่ไม่ใช่พี่ลม  แต่แอบผิดหวังเล็กน้อย

                                       “นึกว่ามาผิดห้องซะอีกแหนะ”  น้องชายผมเองแหละครับ  (ขอไม่เอ่ยชื่อนะครับ) 

                                      “อืม  พอดีกรูไม่ได้ยิน”  ผมก็แกล้งบอกไป        ส่วนน้องผมก็เดินเข้าห้องไป

                                      “ เอ้านี่ซื้อข้าวมาให้”   ขอบใจเมิง   กรูยังไม่ได้กินไรเลยตั้งแต่เมื่อวาน เป็นน้องที่ดีจริง ๆ

                                      “อืม......แต่ว่า   กรูจะกินยังไงอ่ะ” 


                                 
                                ประมาณเกือบเที่ยงผมก็ชวนน้องชายออกไปตลาดแถว ๆ ห้องพักเดิม  ลืมบอกไปครับว่าน้องผม

เอารถแฟนไอนันมา  ก็กะว่าจะเอาไปคืนมันด้วย            พอถึงตลาดแล้วก่อนอื่นผมต้องกินแหละครับ ยังไม่ได้กินไรเลย

นี่  ข้าวที่น้องซื้อมาฝากก็กินไม่ได้  มันเป็นกับข้าวถุงอ่ะครับ  ถ้วยจานชามผมก็ยังไม่มี  (วงเวียนชีวิตเจรงๆ ) ไอน้องตัว

ดีก็ไม่คิดเลยว่ากรูจะกินยังไง   

                               ได้ออกตลาด  เดินซื้อของดูนั้นดูนี่ ผมก็สบายใจลืมเรื่องต่าง ๆ ได้มาก ทีเดียว      ผมได้รถมอ

ไซค์คันใหม่ (มือสองอ่ะ)   ถ้วยจาน ชาม กระทะไฟฟ้า  หม้อหุงข้าว  และมาม่าอีกลัง  ส่วนน้องผมได้ทีวีเครื่องหนึ่ง 

เครื่องเล่นวีซี

ดีเครื่องหนึ่งพร้อมลำโพง   เอ่อ มันอาจจะแปลก ๆว่าทำไมสองพี่น้องนี่ถึงได้ซื้อ ง่าย ๆ ยังกะเดินซื้อของตามตลาด

นัด     จริง ๆแล้วมันเป็นศูนย์รวมที่เดียวกันอ่ะครับ มอไซค์ผมซื้อผ่อน นอกนั้นจะซื้อสด  เลยมีเงินพอจะซื้อได้       ถึง

ห้องพักเราก็ช่วยกันจัดข้าวของให้เข้าที่  เสร็จก็ซักผ้าตาก จากนั้นก็นอน   


                               ชีวิตผมตอนนี้มันเหมือนกำลังเริ่มนับหนึ่ง  ทุกอย่างเหมือนการเริ่มต้นใหม่  วันนี้ทั้งวันผมไม่ได้

เจอหน้าพี่ลมและก็ไม่มีแม้แต่เสียงโทรศัพท์มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ  ที่อยากรู้ว่าตอนนี้ไอพี่ลมทำไรอยู่  มันจะมาหา

ผมบ้างรึเปล่า  มันจะห่วงว่าผมต้องอยู่คนเดียวไหม   เห้อ  ได้แต่ถอนหายใจแล้วสะบัดหัวไล่ความคิดบ้า ๆ นี้ทิ้งไป    ก็

บอกตัวเองแล้วไง  ว่าจะไม่ยุ่ง ๆ  ไม่ใช่เหรอชั่งแม่งมัน  นอนดีกว่า เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย  ง่วงก็ง่วง   ตื่นขึ้นมาค่อยว่า

กันอีกทีนะ


                                     

                                 แสงไฟที่แยงตากับเสียงของอะไรบางอย่างที่ดังก่องแก่ง  ๆ  อยู่ใกล้ ๆ ทำให้ผมต้องปรือตาขึ้น

มองแต่ภาพมันไมค่อยชัดเจนต้องขยี้ตาซ้ำอีกรอบ  ภาพตรงหน้าที่เห็น มีผู้ชายสามคนกำลังนั่ง ชนแก้วกันอย่างอิ่มเอม

                                           “เอ้ย......มาตั้งแต่เมื่อไหร่”  รีบลุกแล้วขยับนั่งทันที 

                                            “ เพิ่งมานี่แหละป๋า”  อย่าให้เลยครับว่าใคร   ก็ไอเพื่อนเวน  ไอทักษ์นั้นแหละ

                                            “แล้วไมเมิงไม่ปลุกกรูหว่า”  ผมหันไปว่าน้องตัวเองสักหน่อย   

                                             “ปลุกแล้วเมิงไม่ตื่นเอง”   อ้าวไอน้องนี่เวนอีกคนแล้วไหมล่ะ  กรูอายนะเว้ย

                                              “เอ้า  ตื่นแล้วก็มากินเหล้ากัน   นี่ม้ากระทืบโรง”  ห่อเหี่ยวใจ  นึกว่าชีวิตผมจะหนีรอด

จากยาดองมาได้  วันนี้มันยังตามมาให้ผมได้ยลโฉมถึงห้องอีก   

                                              ออ  แล้วอีกคนที่นั่งหน้าระรื่นอยู่นั้น  มันจะมาทำไม  เห็นหน้ามันแล้วเซ็ง  ก็ไอพี่ลมนั้น

แหละครับ ไม่อยากเจอหน้ามัน  วันทั้งวันไม่เห็นมาหาบ้าง  โทรมาก็ไม่มีแล้วจะมาให้เห็นทำไมตอนนี้     คิดไปก็งงกับ

ตัวเองไม่รู้ว่าอยากเจอหรือไม่อยากเจอกันแน่

                                            “แล้วนี่  พี่ลมมาทำไม”   น้าน   พูดเหมือนตัดพ้อเลยตรู  ถามมันหน่อยจะหาว่าเสียมารยาท

                                           “ เอ่อ....ไอทักษ์มัน  มันอยากมาฉลองห้องใหม่ หน่ะ”  ท่าทางเมิงเขินนี่น่ารักตายหล่ะ

                                           “เอ้าไหนพี่ลมบอกว่าพงษ์ชวนมาไง”  เอ่ะ  เอาไงแน่เมิง

                                            “มันก็เหมือนกันนั้นแหละน่า  เมิงอยากมาหรือพงษ์ชวนมาก็เหมือนกันนั้นแหละ”  เหมือนกันตรงไหนกรูไม่เข้าใจ  กรูโง่

                                          “ยังไง  ๆ  ก็ต้องมากินอยู่ดีแหละ”  ไอพี่ลมอธิบายต่อ  ดูมันเครียด ๆ เหมือนมีความผิด ( ก็แหงละมันโกหกอยู่เนี้ยะ)

                                          “ อือ   ๆ”   ยอม ๆ  มันไปไม่อยากพูดมาก   อยากมา ก็มา  อยากกินก็กิน  จะได้จบ ๆ สัก

ที นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กินเหล้าด้วยกัน  อาจเป็นครั้งสุดท้ายจะเราจะดูสนิทสนมกัน  พรุ่งนี่ไปผมจะเป็นคน

ใหม่แล้ว


                                            ...............................................

                                            “เดี๋ยวไปซื้อกับแกล้มก่อนนะ”  ผมลุกพรวดพลาดเดินออกจากห้องมา

                                           “เอ้ยเด๋วกรูไปด้วย”  ไอพี่ลมลุกตามออกมา

                                            “จะไปทำไม”  ผมถาม

                                             “ถ้ากรูไม่ไป เมิงจะไปยังไง”  มันเถียง

                                              “ก็เอารถไปไง”  ผมเสียงสูงและรีบเดินให้เร็ว

                                              “กุญแจรถอยู่นี่   เมิงจะเอารถใครไป”  มันรีบเดินตามผมมาโชว์กุญแจรถมันให้ดู

                                               “รถไอ้ยุทธ”   ผมพูดออกไป  โดยไมได้คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น  แค่อยากพูดประชดมัน

                                               “........................”  มันหยุดเดินตรงทางลงบันได

                                               “.........................”  ผมก็หยุดเดินเมื่อไม่ได้ยินฝีเท้ามันตามมา

                                               “จะไปด้วยไหม”  ผมถาม

                                               “........................”  มันจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ ผมไม่เคยเห็น เหมือนจะโกรธแต่มันดูเศร้ามากกว่า

                                               “เอ่อ.......ไม่ใช่รถไอยุทธหรอก รถผมนี่แหละ”  ผมพูดเสียงอ่อนเหมือนรู้สึกผิด  ไม่รู้ว่า

ทำไมพี่ลมต้องเงียบ  แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องรู้สึกผิด

                                               “เพิ่งไปซื้อรถมา เมื่อเช้า   นั้นไง”   ผมชี้ไปที่รถของผมที่จอดอยู่ในโรงจอดรถหอพัก

                                               “กรูก็ไม่ได้ว่าไรเมิงนี่  ทำไมต้องกลัวด้วย” มันวิ่งลงมาและคว้ากุญแจรถในมือผมไป

                                                “เร็วดิ เมิงจะไปไหม”   อ้าว  .........กลายเป็นผมที่ต้องยืนงงซะเอง


                                               ผมก้าวขึ้นซ้อนท้าย  นั่งจนจะหลุดจากเบาะอยู่แล้วแต่ไอพี่ลมก็ยังขยับเบียดผมจนขยับ

ต่อไม่ได้  รู้ว่าพี่ลมแกล้งทำ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร    ขอชิดสักหน่อยแล้วกันนะ ไหน ๆ ก็จะไม่ได้ใกล้ชิดกันอีกแล้ว แต่

เมื่อนึกถึงว่าจะห่างกันผมก็เจ็บแปลบ ๆ ทุกที         

                                             “พงษ์”

                                              “อือ..”

                                            “ ขออะไรหน่อยได้ไหม”  (เรื่องนี้เค้าขอกันทั้งปีเลยวุ้ย)

                                             “อะ  อะ ไร” 

                                      “ อย่าพูดโกหกอีกนะ  ล้อเล่นก็ไม่เอา   ไม่ชอบ”

                                       “..................”  ผมไม่ได้ตอบ  ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องรับปาก  ในเมื่อเราไม่ได้เป็นไรกัน  ไอพี่ลมก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบจากผม  คงคิดว่าผมจะรับรู้และเข้าใจ

 
                                        รถจอดที่หน้าร้าน ค้าตรงสี่แยก  ดูคนพลุ่กพล่านและยืนรอคิวกันหลายคน  แสดงว่าร้านนี้คงอร่อย  ผมยกหน้าที่ให้พี่ลมเป็นคนสั่ง   แว่ว  ๆ  ว่า น้ำตกหมู   ต้มแซ่บและยำทะเล    และก็แว่ว ๆ......


                                                 “พี่พงษ์    พี่พงษ์มาซื้ออะไรครับ”    อยู่ข้างหลังนี่เอง  เสียงคุ้น ๆ  แฮะ


                                                ผมหันไปยิ้มเพื่อจะตอบคำถามทางต้นเสียง   แต่คนที่สั่งอาหาร  กำลังจ้องมองหน้า

และเดินเข้ามาหาท่าทางดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่  ทำไมต้องทำท่าเหมือนกำลังโกรธด้วย    อาการแบบนี้ผมว่ามัน

แปลก ๆ อยู่น๊า 
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 03-12-2007 12:35:24
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์ ชอบๆๆๆๆๆ

ปล. แต่จัดหน้าแปลกๆ เนอะว่ามะ?
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-12-2007 12:55:31
พี่ลมหึงอ่ะเด้

ช่ายยุทธป่าวหว่า
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 03-12-2007 16:42:13
ต่อๆๆๆๆๆ กะลังลุ้นมันๆ
มาเร็วนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-12-2007 20:03:00
มาต่อให้แล้วครับ หน่อยนึง       คนก็แปลกเลยจัดหน้าแบบแปลก  ๆ  อ่ะเจ๊สอง o16

/////////////////////////////

                                                 “พี่พงษ์    พี่พงษ์มาซื้ออะไรครับ”    อยู่ข้างหลังนี่เอง  เสียงคุ้น ๆ  แฮะ


                                                ผมหันไปยิ้มเพื่อจะตอบคำถามทางต้นเสียง   แต่คนที่สั่งเมนูอาหาร  กำลังจ้องมอง

หน้าและเดินเข้ามาหาท่าทางดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่     
 
                                                “อ๋อ   พี่มาซื้อกับข้าวครับ”  ไม่อยากบอกว่านี่มันเป็นกับแกล้ม เดี๋ยวเด็กจะเอาเยี่ยงอย่าง

                                                  “ แล้วพี่พงษ์  มาได้ไง  พักอยู่ไกลไม่ใช่เหรอ”  เออแหะ  มันยังไม่รู้นี่

                                                  “คือพี่ย้า..ย...ย...........” “ไอพงษ์มากับกรู เมิงมีไรรึเปล่าไอยุทธ”  ไอพี่ลมมาแต่เมื่อ

ไหร่ ไม่ได้เว้นช่องไว้ให้ผมตอบเลย :undecided:

                                                   “มากับพี่ลมเหรอครับ     ว้า...ผมว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยซะหน่อย”

                                                   “เอ่อะ  คือ............”  “ก็ซื้อกับข้าวอยู่จะไปกินกับเมิงได้ไง”   หือ  ๆ  มันแย่งผมพูดหมด :m8:

                                                   “อืม.........แล้วพี่พงษ์ จะกลับห้องหรือจะพักที่ไหนครับ”  ไอยุทธตั้งหน้าตั้งหน้าถาม

                                                   “อ๋อพี่มา.......” “ ไอพงษ์จะไปนอนห้องกรู ทำไมเมิงจะให้ไปนอนด้วยรึไง”

  :angry2: ว้ากกกกกกกกก  ไอบร้า ผมปริ้ดแตก แล้วครับมันเห็นผมเป็นไรเนี้ยะ  ไม่ไหว ๆ  ต้องจัดการ

                                                    “พี่ลมกับแกล้ม  เอ้ยกับข้าวได้แล้วไปเอาสิ”  ผมพูดได้แค่เสียงอ่อย ๆ  ไม่มีแรงไปสู้

รบตบมือกับใครที่ไหนหรอก  ห่อเหี่ยวใจ เจรง ๆ  :o11:

                                                   “อืม” 
                                             
                                                     “งั้นผมไปแล้วนะครับพี่พงษ์  จะรีบไปคาราโอเกะครับ”  เว้ย  ๆ  ไอยุทธแล้วไม่บอกแต่แรกเล่า จะได้ไปด้วย   ง่า

                                                 “ครับ เดี่ยวพี่ตามไปด้วย”  อยากไป ๆ ๆ ๆ

                                                 “ ไปเลย ๆ ไอยุทธ รำคาญ”  ไอพี่ลมดับความหวังคาราโอเกะผมอ่ะ

                                                “โห่     พี่ลมอ่ะ”  เห้อ   เอากับมันไอยุทธทำหน้าเหมือนเด็กน้อยน่ารัก  เลยทำให้มันยิ่งน่ารักเข้าไปอีก

                                             
                                              ไอยุทธขับรถออกไป  ทิ้งให้ผมยืนยิ้มแห้ง ๆ  ก่อนจะโดนกระชากแขนให้ขึ้นรถมอไซค์   


                                                “เมิงอ่ะกรูบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ยุ่งกับมัน”  ไอบร้านี่กรูไปยุ่งไรกะมัน

                                                “.........................”  ไม่ตอบหรอก เพราะกรูไม่อยากยุ่งกะเมิง

                                               “ นะขอร้อง  อย่ายุ่งกะมันนะ”  พี่ลมพูดเสียงที่อ่อนฟังดูเว้าวอนสุด ๆ

                                               “..........................”  เห้อ  ได้ฟังคำอ้อนแบบนี้ ผมละใจชักอ่อน

                                               “ไอยุทธน่ารักดีนะ”  ผมพูด :o8:


                                              พี่ลมเหยียบเบรกกะทันหันจนผมต้องกระแทกไปตามแรงทรงตัว  หน้าอกผมกระทบกับ

แผ่นหลังของพี่ลมอย่างแรงทำให้ผมต้องโอบกอดพี่ลมอย่างไม่ตั้งใจ   หน้าผมแนบชิดกับแผ่นหลังนั้น  กลิ่นตัวอ่อน ๆ

กระทบที่จมูก   มันหอมซะจริง ๆ แผ่นหลังที่ร้อนผ่าวส่งผ่านมาถึงตัวของผม    ไม่อยากจะปล่อยออมแขนนี้เลย   แต่ก็

ต้องจำใจเพราะนี่ไม่ใช่ของผม   มันไม่ใช่ของผม  หรือมันยังไม่ใช่ของผม   ถ้าจะเป็นของผมต้องเป็นด้วยความถูกต้อง

และเต็มใจ   ไม่ใช่การแย่งมา    แบบนี้ผมไม่ต้องการ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 03-12-2007 22:30:07
 :undecided:

ใช่ๆ มันต้องได้มาอย่างถูกต้องเนาะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 03-12-2007 23:29:47
^
^
^
^
เห็นด้วยๆ

 ถ้าต้องแย่งเค้ามามันจะมีความสุขจริงๆ เหรอ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 04-12-2007 12:49:21
ถ้ามันไม่ถูกต้อง มันก็เหมือนไม่มีความสุข
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 04-12-2007 13:21:06
เฮ้อ  เอาไงดีเนี่ย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 05-12-2007 21:10:08
กลิ่นมันช่างเย้ายวนใจ
 :m3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 05-12-2007 21:34:15
ขอต่อเร็วนะงับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nunyy ที่ 06-12-2007 09:34:40
 :m5:ไม่ได้เข้ามาทักตั้งหลายวันแล้ว ไม่โกรธเค้าน้า ตัวเอง

ช่วงนี้มันเหงา ๆ เอาแต่เที่ยวน้ำตกทั้งปี เง้อ  :m7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 06-12-2007 20:16:42
มาต่อให้แล้วครับ    อาจจะดูเศร้า ๆ ไปหน่อย   ก็ตามเรื่อยหน่ะครับ  ก็อยากเขียนให้สนุกแต่มันปั่นไม่ขึ้นจริง  ๆ   ขอ


อภัยล่วงหน้าก่อนนะครับ    :เฮ้อ:


                      พี่ลมเหยียบเบรกกะทันหันจนผมต้องกระแทกไปตามแรงทรงตัว  หน้าอกผมกระทบกับแผ่นหลังของพี่ลมอย่างแรงทำให้ผมต้องโอบกอดพี่ลมอย่างไม่ตั้งใจ   หน้าผมแนบชิดกับแผ่นหลังนั้น  กลิ่นตัวอ่อน ๆ กระทบที่จมูก   มันหอมซะจริง ๆ แผ่นหลังที่ร้อนผ่าวส่งผ่านมาถึงตัวของผม    ไม่อยากจะปล่อยออมแขนนี้เลย   แต่ก็ต้องจำใจเพราะนี่ไม่ใช่ของผม   มันไม่ใช่ของผม  หรือมันยังไม่ใช่ของผม   ถ้าจะเป็นของผมต้องเป็นด้วยความถูกต้องและเต็มใจ   ไม่ใช่การแย่งมา    แบบนี้ผมไม่ต้องการ                                                 



//////////////////////////////////////////////////////////////

แต่ผมตัดสินใจแล้ว  ว่าผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่ลม  ด้วยเหตุนี้ในวันทำงาน ต่อมา ผมให้น้องชายไปส่งผมที่โรงงานส่วนมอไซค์มันต้องเอาไป   ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้วเวลาเลิกงานเพราะผมกลับพร้อมรถส่งสินค้าหรือพนักงานคนอื่นได้  ส่วนน้องชายผมมันจะเลิกงานตอน  2 ทุ่ม ถึงจะเอารถกลับด้วย

                         
                                                ผมยืนทำใจอยู่นานเมื่อคิดว่า  อยู่ดี ๆ ตัวเองจะต้องทำเฉยชาใส่ใครสักคนที่เรามีความรู้สึกดี ๆ ให้ แต่เพราะความถูกต้องผมจึงจำป็นต้องทำ   การที่ผมทำห่างเหินกับพี่ลม  อาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้ 
                                        ผมเดินผ่านประตูโรงงานเข้ามาก็พอจะมองเห็นแล้วว่า ใครที่ยืนรออยู่ ผมเลือกที่จะเดิน เลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเพื่อที่จะเข้าออฟฟิส   ไม่แม้จะมองกลับหลังว่ามีใครคนหนึ่งกำลังทอดสายตามองตามผมมา     เลือกที่จะนั่งนิ่ง ๆ เพื่อคลายความกังวลที่มันเริ่มก่อตัวขึ้น   ก่อนจะกล่าวทักทายหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน     หลังเสียงสัญญาณเริ่มงาน   พี่ลมก็เข้ามาในออฟฟิสตามปรกติเหมือนทุกวันเพื่อรับตารางการจัดส่งงานกับน้องผู้หญิงอีกคนที่นั่งคู่กับผม 

สายตาของพี่ลมที่จ้องมองมาที่ผม  เหมือนกำลังสงสัย
สายตาที่เศร้าและดูกังวล   
สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย 
ถึงผมไม่ได้มอง แต่ผมก็รับรู้  ว่ามันอัดอั้นแค่ไหน   ผมเลือกที่จะลุกจากตรงนั้นเพื่อไปที่เคาน์เตอร์ชงกาแฟที่ด้านหลัง  แต่มันก็ใกล้พอที่ผมจะได้ยินสิ่งที่พี่ลมพูดคุยกับหัวหน้าของผม   
พี่ลมขอย้ายตัวเองกลับมาอยู่ที่บริษัท  และขออยู่ในส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบด้วย 
ซึ่งนั้นคือ ปัญหาอย่างยิ่งยวด  ต่อการปฏิบัติการของผม 
ผมอยากจะอยู่ห่าง  ๆ   แต่ทำไมเหมือนยิ่งจะใกล้กว่าเดิม
ผมเลือกที่จะไม่พูดและคุยด้วย  แต่มันก็จะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะผมต้องสั่งงาน    เหมือนผมยิ่งหนีมันก็ยิ่งตาม
ผมกำลังโดนแกล้งแน่ ๆ เลย     แต่ก็เอาหล่ะผมยังมีเวลาทำใจ  อย่างน้อย ๆ  พี่ลมก็ไม่ได้ย้ายกลับมาวันนี้

                                พักเที่ยงแล้วผมไม่ได้ไปกินข้าว ยังคงนั่งที่โต๊ะทำงาน   ถ้าเหนื่อยนักก็ขอนอนพักสักตื่นนะ เผื่อสมองจะได้โล่งขึ้น 

                                      “ พี่พงษ์  “  ผมปรือตาขึ้นมอง

                                     “อืมว่าไง” น้องเพื่อนร่วมงานผมนะเอง

                                      “เอาข้าว   พี่ลมฝากมาให้”  พี่ลมฝากมาให้เหรอ  ไม่อยากได้นี่  ฝากมาให้ทำไม

                                      “ยังไม่ได้กินข้าวมะใช่เหรอ” 

                                     “พี่ไม่หิวอ่ะ   ง่วงนอนมากกว่า”  จริง  ๆ   ก็หิวอยู่  แต่กินไม่ลง

                                      “งั้นหนูเก็บไว้ให้กินตอนเบรกบ่าย 3 ในห้องครัวนะ”  แล้วเธอก็เดินถือถุงข้าวกล่องออกไป

                                      “อืม  ขอบใจนะ”

                                      - ขอบใจ...........พี่ ลม............. ยังอุส่าห่วงใยอีก–

                                      -  แล้วจะตัดใจได้ยังไง-


                                     ก่อนเวลาเลิกงานผมเช็ครถส่งสินค้าทุกคันว่าคันไหนจะกลับเมื่อไหร่อย่างไร  พี่ลมจะกลับมาพร้อมรถคันไหน  ผมไม่พลาดที่จะไปเจอหน้าพี่ลมหรอกครับ   จนแน่ใจแล้วว่าพี่ลมไม่มีทางมาทันเวลาผมเลิกงานแน่   เมื่อสิ้นเสียงสัญญาณผมกระโดดขึ้นรถส่งของคันหนึ่ง ที่จะผ่านห้องพักผม  ผมขอลงก่อนถึงหน้าหอ   และเดินเรื่อยเปื่อยตามถนน   ไม่มีจุดหมายแน่นอน  ยังไม่อยากให้ถึงห้อง เพราะไม่รู้จะอยู่อย่างไร  ไม่อยากอยู่คนเดียวมันเหงา    ผมล่วงมือหยิบโทรศัพท์ออกมาดู  ดูแล้วก็ดู  จ้องอยู่อย่างนั้น   วันนี้มันเงียบผิดปรกตินะ   การจะตีจากใครสักคนทำไมมันทำยากอย่างนี้  เราเป็นแค่พี่น้องกันไม่ใช่เหรอ
                                        “ปี๊ก   ปี๊ก”   เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์  ทำให้ผมสะดุ้ง และต้องหยุดมอง 

                                         “............................”  มันไม่พูดครับ  ได้แต่ยิ้ม  ยิ้มหวานอยู่อย่างนั้น

                                         “เอ้า   มีไรป่าวยุทธ”   เป็นผมที่ต้องมันก่อน

                                         “พี่พงษ์  ยังไม่กลับห้องจะไปไหนครับ”  ก็จะกลับอยู่นี่ไง

                                         “กำลังจะกลับครับ” ผมตอบแล้วก็ยิ้มให้ไป

                                         “โห     พี่จะเดินกลับเหรอครับ”  เอ่อ    อือ   อ๋อ  ไอยุทธไม่รู้ว่าผมย้ายมาอยู่แถวนี่แล้ว

                                         “  ห้องพี่อยู่แค่นี่เองครับ”

        แค่นั้นแหละครับ มันก็ซักถามเป็นการใหญ่ และจะขอตามไปดูห้องผมด้วย ก็ต้องยอมซ้อนท้ายรถมันไป     ผมว่าอยู่กับไอยุทธนี่ก็ดีแฮะ  มันน่ารักและชอบเอาใจ   อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ผมเหงา   มันมาถึงห้องแล้วจะรวบหัวรวบหางซะก้อกะไรอยู่ เพราะมันหน่ะเป็นลูกน้องผม ( จากเหงา ๆ กลายเป็นหื่นในบัดดล ) อีกอย่างผมขอดูใจมันก่อนแล้วกัน
                                         “แล้วยุทธจะไปไหนต่อ”

                                           “ผมจะไปเกาะลอยครับ  เอาตังค์ไปให้น้อง”  มันบอก

                                          “พี่ไปด้วยได้ไหม” 

                                          “ พี่พูดจริงรึเปล่า  ดีเลยครับ ดีมากเลย”
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-12-2007 22:35:52
อาจเป็นหนทางที่ดีแล้วหล่ะ
เพราะเขามีเจ้าของแล้วนิ ทำไงได้
 :m8: :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 07-12-2007 10:11:47
 o16
สลัดไม่หลุดหรอก ก็ต้นเรื่องเปิดไว้ซะขนาดนั้น
แต่เกิดอะไรขึ้นบ้างนี่ละ อยากรู้  :m23:


รึชั้นจะเข้าใจผิดอีกฟะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 07-12-2007 11:29:17
เอาไงดีละทีนี้
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 08-12-2007 21:03:09
ปัญหาใหญ่ยิ่งเลยงานนนี้ o7
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 08-12-2007 21:33:52
ง่า ...ตามเข้าไปซะงั้นเหอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 09-12-2007 16:38:55
โอย ไม่ชอบสถานการณ์อย่างนี้เลย

อึดอัดมากมาย   :m8:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-12-2007 21:14:56
แรก ๆ  มันก็อึดอัด   อีกหน่อยก็คงโล่งละมั้งครับ   คอยฟ้าหลังฝนอยู่   :o11:


///////////////////////////////////////////////

ผมว่าอยู่กับไอยุทธนี่ก็ดีแฮะ  มันน่ารักและชอบเอาใจ   อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ผมเหงา   มันมาถึงห้องแล้วจะรวบหัวรวบหางซะก้อกะไรอยู่ เพราะมันหน่ะเป็นลูกน้องผม ( จากเหงา ๆ กลายเป็นหื่นในบัดดล ) อีกอย่างผมขอดูใจมันก่อนแล้วกัน
                                         “แล้วยุทธจะไปไหนต่อ”

                                           “ผมจะไปเกาะลอยครับ  เอาตังค์ไปให้น้อง”  มันบอก

                                          “พี่ไปด้วยได้ไหม” 

                                          “ พี่พูดจริงรึเปล่า  ดีเลยครับ ดีมากเลย”



        ผมนั่งซ้อนท้ายไอยุทธเป็นคนขับ ตามเส้นทางที่จะไปเกาะลอยอากาศยามเย็นก็ร่มรื่นดี   รถราไม่ค่อยเยอะ

 ไอยุทธจึงขับเร็วได้ ส่วนผมเหรอครับ  กอดมันซะแน่น  ไม่ได้ฉวยโอกาสนะ  ก็มันนั้นแหละบอกให้กอดเอง   ไปถึงก็

เกือบจะหกโมงแต่เพราะเป็นฤดูร้อน ฟ้าจึงยังไม่มืด  เราข้ามสะพานไปหยุดตรงสวนสาธารณะในเกาะ  ก็มีผู้คนมาเล่น

กีฬามากเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่นน่ารัก ๆ (ทำไมต้องมีน่ารัก ๆ ด้วย ไม่เข้าใจ) เล่นฟุตบอลกัน แล้วก็ข้ามไป

วัยไม้ไกล้ฝั่งมารำมวยจีนกันแต่ส่วนใหญ่จะเล่นแถวรอบนอกมากกว่า
             

                 รถหยุดที่ตีนสะพานหน้าห้องน้ำ  ( เลือกที่จอดดีเลยนะเมิง)
   
                                       “ยุทธมีน้องด้วยเหรอ” ผมถาม


                                           “มีครับน้องชาย มาทำงานอยู่กับญาติ”  มันบอก
 
                                           “แล้วไม่พักกับยุทธละ” วิญญาณตำรวจเริ่มสิง

                                            “ อยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกพี่ อยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก”   อ้าว   ที่กรูยังอยู่กะน้องนิ

                                           “พี่จะไปถามถึงมันทำไมละครับ”  ก็แค่อยากรู้ว่าน้องมึงจะน่ารักเหมือนเมิงรึเปล่าไง  เอิ้ก  ๆ
                                           “ เปล่าหรอกก็แค่อยากรู้”   

                                            “ไงมันก็ไม่น่ารักเท่าผมหรอก”  มันบอกเหมือนรู้ว่าผมกะลังคิดอะไร   แต่ ชิส์ไอนี่หลงตัวเอง

                                            “ อืม  เหรอครับ”  ผมพูดแล้วหันไปยิ้มให้มัน

              ตึ้ด........ตึ้ด..........ตึ้ด.........ตึ้ด     (เสียงโทรศัพท์ทุกเรื่องนี่มันกันเนาะ)  ของผมเอง  แต่ไม่อยากจะรับเลย

ครับ  ไม่ต้องเดาว่าใคร

                                             “พี่ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”  ไอยุทธบอกแล้วมันก็เดินไป

                                              “ครับ”   ผมรับสาย

                                               “ เมิงอยู่ไหน”  พี่ลมพูดเสียงแข็งมา

                                               “อยู่....อยู่เกาะลอย”   ผมตอบเสียงเรียบ ๆ

                                                “เมิงไปกับใคร ไอยุทธใช่ไหม”  มันเริ่มขึ้นเสียงครับ   เรื่องอะไรละผมจะไปไหนกับใครก็เรื่องของผมนี่

                                                 “ใช่มากับมาไอยุทธ  แล้วทำไม” ผมเสียงดังบ้าง  “ แค่เอาเงินมาให้น้องมัน” อันนี้พูด

เสียงอ่อยๆ  บอกเหตุผลมันไปโดยไม่ต้องถาม   ผมกลัวมันจะโกรธครับ  แต่ทำไมต้องกลัวมันโกรธด้วย

                                                  “จะกลับมาเมื่อไหร่ มีเรื่องจะคุย”  พี่ลมลดน้ำหนักเสียงลงแล้ว

                                                   “ไม่รู้  ธุระยังไม่เสร็จ” 

                                                    “ ก่อนทุ่มหนึ่งกรูจะรอที่หน้าห้องเมิงนี่แหละ” 

                                                    “............ตึ้ด  ๆ ๆ ๆ ๆ  “

                                                     “เฮ้ย  ๆ   เดี๋ยวดิ”   ไม่ทันครับ   มันบีบบังคับผมอีกแล้ว

 ผมยืนมองโทสับด้วยความหงุดหงิด  และงุนงง  กับตัวเอง  ทั้งที่บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่ยุ่ง  แต่กลับต้องเป็นฝ่ายคิดหนักไปเอง

                                                    “พี่ลมโทรมาเหรอครับ”  ซวยมั้ยละ ไอยุทธมาแต่เมื่อไหร่

                                                   “เอ่อ...คือ”

                                                    “ผมว่าพี่ลมชอบพี่พงษ์นะ  สงสัยจะหึง”  ใบ้แดรก อัตโนมัติ  หน้าซีดเหมือนเลือดสูบฉีดไม่ทัน

                                                     “เอ่อ  ไม่หรอกมั้ง  แค่พี่ลมโทรมาถามว่าอยู่ไหน”  จะบอกความจริงได้ไง เดี๋ยวไก่ตื่น เอ้ย เป็นเรื่อง

                                                    “เหรอครับ”   ไอยุทธ  ทำหน้าสลด เหมือนมันจะไม่เชื่อ ( เชื่อแกก็ไง่ดิ)

                                                      “พี่ลมมีลูกมีเมียแล้ว  จะมาชอบพี่ได้ไง.....ไป   ไปหาน้องกัน”  น้องของเรา  อิอิ

                                   ไม่นานก้เจอตัวน้องมัน  อย่างที่ไอยุทธบอกครับ มันไม่น่ารักเท่ามัน แต่น้องมันจะขาวกว่า ไอ

ยุทธเอาเงินให้น้องส่วนผมก็เอาพวกขนมและของต่าง ๆ ที่ซื้อไว้ยกให้มันไปหมดเลยจะได้ไปแจกเพื่อน ๆ ที่พวกมัน

กำลังเล่นตะกร้อกันอยู่   แล้วผมก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อให้ไอยุทธรีบพากลับห้องพัก  ระหว่างทางก็คุยนั้น  นู้นนี้

ไปเรื่อย  แต่มาสะดุดใจที่

                                                    “พี่พงษ์ครับ ผมอยากย้ายห้อง”  มันพูดมาแบบลอย ๆ ครับ

                                                     “ทำไมครับ”  ผมกับไอยุทธพูดกัน เพ๊ราะ  เพราะ    ต่างกับไอพี่ลมคนละขั้ว

                                                      “ผมอยากอยู่กับพี่พงษ์  ให้ผมย้ายมาอยู่ด้วยนะครับ”   ตายห่าละครับ รู้จักกันยังไม่

นานมันจะหอบผ้าหนีตามผมซะแล้ว   แต่จะว่าไปห้องผมก็ใหญ่นะ ตอนนี้ยังมีที่ว่างอีกตั้งเยอะ  ที่สำคัญเวลาน้องผมเข้า

กะกลางคืนผมก็ต้องนอนคนเดียวนี่น่า


                                                       “เออะ   คือ  พี่ว่าอย่าเพิ่งดีกว่าครับ เอาไว้คุยกันทีหลังนะครับ”  บอกอ้อน ๆ มัน

หน่อย มันจะได้ไม่งอน (นิสัยเจ้าชู้นี่หว่า........  “ใครพูดว่ะ”)   ผมยังไม่อยากให้มีเรื่องยุ่งยากอะไรมารุมผมมากกว่านี้ 

แค่เรื่องพี่ลมคนเดียวก็มากพอแล้วครับ    :m29:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 12-12-2007 23:31:37
ดีแล้วแค่พี่ลมคนเดียวก็ปวดหัวแย่แล้ว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 13-12-2007 01:24:50

 :เฮ้อ:พี่ลมน่าจะไม่มีลูกมีเมียน๊า  เรื่องจะได้ง่ายขึ้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 13-12-2007 09:46:40
                                                        กลับถึงห้องก็เจอไอตัวดีนั่งรอผมที่หน้าห้อง  โหย....มันนั่งรอผมจริง ๆ หรือนี่ 

ทำไมมันไม่อายคนเขาบ้างเลยเหรอไง   ไอยุทธจะตามผมขึ้นไปด้วย  แต่เห็นท่าจะไม่ดีต้องรีบไล่มันกลับก่อน

                                                       ผมเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องพักชั้นสอง ก้าวขาอย่างหวั่น ๆ ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นกับ

ผมต่อไป ยังไงก้อคิดในแง่ร้ายไว้ก่อนจะได้หาทางป้องกัน  ผมเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้อง จ้องมองคนที่กำลังลุกขึ้นยืน

ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร

                                                         “ไปเที่ยวกับมันสนุกมากไหม”  ผมตกใจและยืนตัวสั่น เพราะพี่ลมกำลังเหมือน

กัดฟันพูด ที่สำคัญดวงตาที่แดงก่ำนั้นมันคืออะไร  พี่ลมเป็นมากถึงเพียงนี้เหรอ

                                                           “ก็แค่ไปเป็นเพื่อนมัน เอาตังค์ไปให้น้องมัน”  ผมทำใจดีสู้เสือ  ไม่ได้กลัวพี่ลม

เข้าใจผิดหรอก แต่ยังห่วงสวัสดิภาพตัวเองอยู่เท่านั้น   จริง ๆ

                                                         “อยากไปเที่ยวทำไมไม่บอกละ ถ้าบอกก็จะพาไปอยู่แล้วนี่”  พี่ลมเบี่ยงหน้าหนีเพื่อหลบสายตาผม

                                                        “ผมว่าเข้าห้องก่อนนะ มีอะไรแล้วค่อยพูด”   ตอนนี้ผมเริ่มแน่ใจแล้วว่าพี่ลมคิด

ยังไงกับผม  และผมรู้สึกอย่างไร   ถ้าเป็นแบบนี้ผมต้องทำอะไรสักอย่าง

                                                         ประตูห้องผมปิดลงหลังจากพี่ลมเดินตามเข้า  ผมเปิดทีวีเพื่อทำลายบรรยากาศ

ที่มันอึดอัด ให้สภาวะจิตใจมันไปสนใจกับสิ่งแวดล้อมอื่นดีกว่า    และมันก็ได้ผล เราลงนั่งที่พื้นดูทีวี

                                                          “ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”  พี่ลมถามผม   งงสิครับไม่เข้าใจคำถาม  (โง่นิ)

                                                            “ทำอะไร  ไม่เข้าใจ”  ผมตอบ  ไม่ได้กวนนะ 

                                                          พี่ลมขยับเข้ามา หันมามองหน้าผม
           
                                                         “ทำไมต้องทำเย็นชาแบบนั้น  ทำเหมือนไม่รู้จักกัน”  ผมได้แต่นั่งเงียบ

                                                “รู้ไหมว่ามันเจ็บแค่ไหน มันเจ็บมากเลยรู้รึเป่ลา”  ผมก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาพี่ลม 

รู้สึกผิดอย่างมหันต์ เมื่อเช้าที่โรงงานผมทำเมินเฉยเหมือนคนไม่รู้จักกัน  เลี่ยงที่จะไปเจอหน้า  ไม่พูดไม่คุย  แต่ใช่ว่า

พี่ลมจะเจ็บคนเดียว  ผมก็รู้สึกเจ็บเหมือนกัน  เจ็บตั้งแต่รู้ว่าตัวเองแอบหลงรักคนมีเจ้าของแล้ว  เจ็บมาตลอด และยิ่ง

เจ็บที่ต้องฝืนทำตัวเป็นคนอื่นที่เหมือนคนไม่รู้จักกัน   เพื่ออะไรหล่ะเพื่อคนที่ผมรักไม่ใช่เหรอ  เพื่อเขาจะได้มีครอบ

ครัวที่อบอุ่น   ไม่ต้องมานั่งหลงผิดกับผมอย่างนี้

                                                    ตอนนี้น้ำตาผมมันมาคลอที่เบ้า พร้อมที่จะหลั่งทุกเมื่อถ้าเพียงแค่ใครสะกิดเบา ๆ
                     
                                    “ ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอก.....แต่พี่มีลูกมีเมียแล้วนะจะมายุ่งกับผมทำไม  หือ ๆ  ๆ “

                                                       ผมทนไม่ไหวแล้วผมกลั้นมันไว้ไม่ไหว  มันอัดอั้นเหลือเกิน สุดท้ายผมก็ต้องพูด

ออกมา เพียงประโยคแค่นี้  มันก็คงจะบอกความรู้สึกของผมทั้งหมดได้    ผมร้องไห้โดยไม่อายใครเพราะไม่มีใครให้

อายแล้ว  กะอีแค่พี่ลมเอาซีจะเอาผมไปล้อก็ชั่ง   ผมไม่สนหรอกผมไม่สนอะไรแล้ว  หือ  ๆ   ฮึก  อึก  หือ  ๆ    พี่ลมขยับ

ตัวเข้ามากอดผมให้หน้าซบลงที่อก ผมพยายามจะฝืนตัวออกแต่พี่ลมยิ่งกอดแน่นขึ้น

                                                         “ อย่าทำแบบนี้เลย   อย่ายุ่งกับผมอีกเลยนะพี่”  ปากผมพูดไปแต่มือผมกอดรัดตัวพี่ลมแล้วเต็ม ๆ

                                                          “ปะ  หยุดร้องเถอะไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง อย่าคิดมาก  ไม่มีไรแล้วนะ”  พี่ลม

ปล่อยแขนจากผมแล้วก็ผละออกมายืนห่าง ๆ    มองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม   แต่มันเป็นยิ้มที่เศร้าเหลือเกิน

                                                            “รู้ไหมพี่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน  พี่ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชาย  แต่พี่ชอบพงษ์ พี่

ห้ามใจตัวเองไม่ได้  พี่สับสนกับตัวเองอยู่ตั้งหลายเดือน  เมียพี่ก็รู้แล้วว่าพี่ชอบพงษ์   เราอยู่ด้วยกันก็เพราะลูกเท่านั้น 

เราเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น  เราไม่เคยรักกันเลย”
 
                        พี่ลมพูดอะไร                 ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย                 มาบอกผมทำไม       ต้องการอะไร

                                                         “ปะ  กรูอยากกินเบียร์  วันนี้เลี้ยงกรูนะเว้ย เพราะเมิงทำให้กรูเป็นแบบนี้ วันนี้

เมิงต้องเลี้ยงกรู”

      ..................ไอ้  ไอ้  ไอ้พี่ลมบ้า กรูกำลังซึ้ง ไหงเมิงเปลี่ยนโหมดเร็วอย่างนี้   ไอ  ผีดิบเอ้ย............
 :m16:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-12-2007 10:39:59

ไม่เห็นจะยาก

ก็ไปช่วยเค้าเลี้ยงลูกเดะ





แฟนเรา  สามีคนอื่น  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 13-12-2007 11:05:38
กรรมม :เฮ้อ:ความรักต้องห้าม :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: madamkung ที่ 13-12-2007 15:01:11
เหอะ อ่านทันแล้วดีใจจริงๆ
เฮ้อ ทำใจลำบากจริงๆเลยนะเนี่ย

ก็ลุ้นต่อไป เป็นกำลังใจให้นะคะ


หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 13-12-2007 21:32:58
สงสารพี่ลมนะ :m8:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-12-2007 11:30:21
เจ็บทุกทาง

:เฮ้อ:

 :a6:

  :m8:

 :m15:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 15-12-2007 10:03:41
รีบมาต่อนะครับผม :a11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 15-12-2007 14:02:16
แล้วจะทำกันยังไงละเนี่ย เฮ้อ กลุ้มใจแทนจางงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 15-12-2007 14:16:46
 :m18:
มารอครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 15-12-2007 16:10:07
มารอเน้อ  :m5:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 17-12-2007 10:45:50
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น  ผมกับพี่ลมเราก็กลับมาพูดดี ๆ กันเหมือนเดิม พี่ลมย้ายแผนกมาอยู่กับผมแล้ว   และทุกครั้งที่ผมกับไอยุทธเจอหน้ากัน จะต้องมะไอพี่ลมเข้าทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองตลอดเวลา  บางทีก็หาเหตุผลไม่ได้ว่ามาร่วมสนทนากับพวกผมทำไม  ก็จะเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ    แล้วเรื่องที่ไอยุทธอยากจะย้ายมาอยู่กับผมนี่มันก็ยังไม่ลืม ทวงได้ทั้งเช้าเย็น  ท่าทางมันดูจริงจังและจริงใจดี  แต่ผมก็ไม่ได้ให้คำตอบ  เดี๋ยวจะเป็นเรื่อง  ส่วนพี่ลมไม่รู้ครับ ถ้ารู้ตายสถานเดียว

                                                  บ่ายวันนี้หลังจากที่พี่ลมจัดสินค้าขึ้นรถเสร็จแล้ว ก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ  ทิ้งให้ผมยืนคุยกับไอยุทธสองคน    เห้อ  ๆ  คงจะปวดหนักจริง ๆ ถึงกล้าทิ้งปลาย่างไว้กับแมว

                                                  “ พี่พงษ์   เมื่อไหร่จะให้ยุทธย้ายไปอยู่กับพี่พงษ์ อ่ะ” มันเล่นจู่โจมผมทันทีที่มีโอกาสเลย   เอ๊ะ มันแทนตัวเองว่ายุทธเหรอ ปรกติมันจะพูดผม ตลอด จะว่าไปก็น่ารักดีเนาะ

                                                     “ พี่ว่า  คือ   เอ่อ   ถ้าย้ายไปไอลพก็อยู่คนเดียวมันจะจ่ายค่าห้องไหวเหรอ”  ไอลพ เป็นรูมเมทไอยุทธครับ  เช่าห้องอยู่ด้วยกันแล้วรวมพลังหารสอง

                                                      “ อืม...เพราะอย่างนี้นะสิครับยุทธถึงรอคำตอบจากพี่พงษ์   เพราะถ้าพี่โอเคผมจะบอกมันได้ว่าพี่เป็นคนชวน”  ง่า   เหตุผลดีนะเมิงมันจะเอาผมไปอ้างเพื่อหนีจากเพื่อนมัน

                                                       “..............................”  มองหน้ามันหน่อย อยากมาขนาดนั้นเชียว

                                                      “ เดี๋ยวเพื่อนมันก็ลงมาอยู่ด้วยอีกคน  ไม่ยากหรอกพี่”  โป้ะเช่ะ    เหตุผลของมัน แล้วก็เป็นเหตุผลผมด้วย

                                                   “  ถ้างั้น   พี่ว่ารอเพื่อนมันลงมาก่อนดีกว่าไหม ค่อยว่ากันอีกที”  ผมก็สงสารมันนะครับเพราะมันกับไอลพไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ไม่ใช่ว่าผม จะอยากได้มันนะครับ   ไอชอบก็ชอบอยู่  แต่ว่าหัวใจมันไม่ว่างแล้วนี่สิ

                                                   “ก็ได้ครับ    แต่.....พี่ให้ผมไปเที่ยวที่ห้องพี่บ่อยๆได้ไหม”  มันทำหน้าสลด 

                                                   “ได้สิ   ตอนเย็นเดี๋ยวชวนไปกินเบียร์ด้วย”  ผมก็เป็นงี้แหละ ใจอ่อนเป็นทุนอยู่แล้ว

                                                    “ครับ....เอ่อ   พี่พงษ์ว่า.....พี่ลมเป็นเกย์ รึเปล่า”  มันยื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหู  (สยิวเลย)

                                                    “ ทำไมครับ   ชอบพี่ลมเหรอ”

                                                     “ เปล่าครับ   ไม่ได้ชอบ   ชอบพี่พงษ์คนเดียว” มันทำหน้ายี้  แต่ผมหน้าแดง ก็มาบอกชอบซึ่ง ๆหน้านิ

                                                    “ไอยุทธ เมื่อไหร่เมิงจะไป  รถเค้ารอเมิงอยู่นะรีบไปเลยนะเมิง”  ไอพี่ลมครับมันตะโกน  เสียงมาก่อนตัวเลย

                                                   “โหย   กำลังจะไปอยู่นี่แหละ   ไปแล้วนะครับพี่พงษ์” ดูหน้ามันตอนนี้ บอกบุญไม่รับแล้วก็เดินบ่นหงุงหงิง ๆ ไป

                                                 “มันมาคุยอะไร” 

                                                 “เปล่า   ไม่มีไร” จะให้บอกได้ไงละครับว่ามันมาขอไปอยู่ด้วยอ่ะ  กรูก็ตายดิ

                                                 “ไม่บอกก็ไม่เป็นไร   แต่กรูว่าไอยุทธมันชอบเมิงนะ  มันเป็นเกย์แน่เลย”  เห้อ  ๆ  ฟายพี่ลม ดูไม่ออกอีกเหรอ  เมิงสองคนนี่พอกันเลย

                                                  “เหรอ   ทำไม”  แอ๊บแบ๊ว ไว้ก่อนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

                                                  “ กรูสงสัยมัน   เมื่อวานก็เลยลองจับ XXX มัน    มันไม่ว่าไรกรู   กรูว่ามันชอบแล้วเป็นเกย์แน่นอน”

                                                 “................................”    :m10:เง้อ    วิธีทดสอบของไอพี่ลม  ทำน้ำลายหกเลยตรู  หน้าด้านจริงนะเมิง

                                                 “แล้วชอบมันรึเปล่า”  ยุแม่งสองคนเอากันดีไหมนี่   

                                                 “ ไม่.....ชอบคนเดียวพอ” พี่ลมพูดแล้วยิ้มมาที่ผม

                                               “........................”  ผมไม่พูดต่อครับ เดินหนีไปเลย   ก็รูอยู่ว่าหมายถึงใคร อายด้วยไม่หน้าด้านอย่างมัน

คิดได้ไง  วิธีทดสอบความเป็นเกย์   แล้วคงเพราะเหตุนี่ไอยุทธถึงสงสัยว่าพี่ลมเป็นเกย์รึเปล่า    เห้อ  ฟายทั้งคู่
                                                 
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 17-12-2007 12:41:40
มีใครอยากทดสอบมั่งอ่ะ  เดี๋ยวผมช่วยทดสอบให้
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 17-12-2007 12:46:59

ฟายพอกันทั้งคู่

แต่ว่า  ขอเจ้ไปจับ xxx ด้วยคนเดะ  :m17:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 17-12-2007 12:49:02
โห  วิธีทดสอบของพี่ลม  :m29:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 17-12-2007 14:19:50
มาทดสอบเราบ้างดิ
อยากโดยทดสอบจิงๆ
ฮ่าๆๆๆ  :a4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 17-12-2007 15:00:20
ทดสอบด้วยการจับน้องชาย ไม่เห็นบอกว่าแข็งหรือป่าว :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 18-12-2007 11:31:08
ทดสอบได้ :m30:สู้ๆนะครับผม :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 18-12-2007 19:49:54
อ่านเรื่องนี้แล้วกลับไปคิดถึงตัวเอง
ก็เคยมีนะ ... กุ๊กกิ๊กกะคนมีเจ้าของเนี่ย

 ...


แฟนเค้าก็ทีเล่นทีจริงกะเราอ่ะนะ ประมาณว่าสนใจเป็นน้อยมั๊ย
ไอ้เราก็อย่านะพี่ ... ผมเอาจริงนะ  :m21: 555555555

แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้ทำไรหรอกครับ เฮฮาบ้าบอไปวัน ๆ ดีก่า
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 19-12-2007 12:24:33
รออยู่นะคับพี่ :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 20-12-2007 19:21:14
/////////////////////////////////////////////////////////////////////

                            วันนี้  ฤกษ์งามยามดี ผมจะได้ไปเที่ยวร้านคาราโอเกะ  ก็นัดกับไอยุทธไว้แล้ว   ไปกันแค่สองคนครับน้องชายผมยังทำงานตอนกลางคืนเลยไม่ได้ไปด้วย ส่วนไอพี่ลม   เหอ  ๆ   ไม่บอกหรอกครับเดี่ยวมันจะไปขัดความสุขการร้องเพลงของผม (แน่ใจ)ทุ่มครึ่งแล้วไร้วี่แวว  เสียงรบกวนโสตประสาทจากโทรศัพท์   แสดงว่าวันนี้ที่โรงงานไม่มีปัญหาใด ๆ และไอพี่ลมก็คงไม่มีปัญหาเช่นกัน ( บอกไปสิว่าปิดเครื่อง    ไอบ้า )โดยปรกติ มันจะต้องรู้ว่าผมทำอะไร กับใครที่ไหนเวลาใด  เอ้ย  ไม่ใช่อย่างที่คิดน๊า  เดี๋ยวเรียบเรียงคำใหม่ก่อน นะ  มันจะต้องรู้ว่า ผมทำอะไร  ที่ไหน  เวลาใด  กับใครบ้าง  (โหยย  เหงื่อแตกซิก)   หูตามันเยอะครับ  พี่ลมบอกว่ามันเป็นคนพื้นที่ พ่อแม่พี่น้องอยู่ที่นี่หมด ก็เลยรู้จักคนเยอะ แต่ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าบ้านอยู่ตรงไหน เห็นอยู่แต่ห้องเช่านิ      โชคดีวันนี้จะได้ไปเที่ยวอย่างสงบ

                         ห้องแถวชั้นเดียวถูกต่อด้วยเพิงหมาแหงนด้านหน้า  ด้านข้างจัดทำเป็นสวนวางเรียงด้วยโต๊ะไม้ หลายตัว  สำหรับลูกค้าที่มากินหมูกระทะ  ข้างในร้านดัดแปลงเป็นห้องคาราโอเกะ มืด ๆ  ประดับด้วยแสงไฟระยิบระยับ อย่างสวยงาม.............เหรอ

                            “โห ยุทธ  ทำไมมืดจัง  แล้วก็แสงนี่  พี่ตาลายหมดแล้ว”  คงเพราะดวงตาปรับเลนส์ไม่ทันครับ  (ไม่ได้แก่นะ...อิอิ ร้อนตัว) 
                              “เดี๋ยวก็คงชิน  ใหม่ ๆ ก็อย่างนี่แหละครับ” โหย   เข้าใจเล่นนะเมิง  ก็คนไม่เคย........เข้าคาราโอเกะอ่ะ


                               “พี่นั่งตรงนี้นะครับจะได้มองได้ถนัด” มันจัดให้ผมนั่งหันหน้าเข้าไปทางข้างในร้าน

                              “ครับ ดีครับ   ตรงนี้มองถนัดจริง ๆ”  อิอิ  ก็เด็กหนุ่ม ๆ โต๊ะด้านในอ่ะครับ แหม๊  มันน่ารักกันทั้งน้าน

                              “ก็มันใหญ่กว่ากันนี่ครับ  ของผมเล็กนิดเดียวเอง  แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมค่อยมองฝั่งของพี่ก็ได้” ได้ไงง่า  มามองฝั่งของพี่ได้ไง  เค้าหวงนะ

                                   
                                งง ไหมครับ ที่มันบอก  คือ หมายถึงจอทีวีครับ  ไม่ใช่มองคน  ส่วนผมมองคนละเรื่องเลย555
                                             
ไอยุทธสั่งเบียร์ มาหลายขวดพร้อมกันสงสัยกะจะมอมผมแน่เลย  ไม่มีทางหรอก   ยอมอยู่แล้ว ........อ้าวเป็นไงไป    สักครู่เพลงต่าง ๆ มันก็สรรหามาขับกล่อมสลับกับโต๊ะข้าง ๆ บ้าง   จะว่าไปเสียงมันก็พอฟังได้ ถึงว่ามันบอกว่าเจ้าของร้านให้ทิป แล้วก็เลี้ยงเบียร์มันบ่อย ๆ  เอ้ะยังไง เจ้าของร้านเลี้ยงเบียร์ลูกค้า  แต่ช่างมันเหอะครับ ของฟรีมันก็คงดีอยู่แล้วละมั้ง   

                                  “พี่พงษ์ชนแก้วหน่อยครับ”  เอาไมค์ออกมันก็เอาเบียร์เข้าปากแทน ถ้าเอาเบียร์ออกจะเอาอะไรเข้าไปต่ออีกละนี่........เห้อ  ๆ   ๆ     ก็กับแกล้วต่อเลยละกัน  ( กล้าคิดเนาะ)   อิอิ

                                  “ครับชนแก้วครับ”   ชนแค่แก้วนะไม่ต้องจ้องตาก็ด้ายยย

                                    “พี่พงษ์ ไม่ชวนพี่ลมมาด้วยเหรอครับ”  อ้าวไอนี่  เมิงอยากให้มานมาทามมาย   

                                    “ทำไมครับ   อยากให้มาด้วยเหรอ”  เยาะ ๆ  มันหน่อยเผื่อมีไรดี ๆ

                                     “เปล่าครับ  ก็เห็นพี่ลมตามหาพี่พงษ์อยู่นะครับ”   สงสัยจะตอนหัวค่ำที่ผมไปตลาด

                                      “เหรอ    มาสองคนก็ดีแล้วนี่ ครับจะได้ไม่เปลือง”  ไม่ได้งกนะครับ  แต่กลัวจะเป็นเรื่องซีเรียสอ่ะ

                                       “ เหรอ”   ไอยุทธตอบ  แต่เสียงมันเฉยมากเลย

                                       “อืม”   ตอบมันไป  ตาก็มองหาชื่อเพลงที่อยากจะร้องไป

                                       “งั้น  กรูจะกินให้เมิงเปลือง”   ไม่เป็นไรเพื่อยุทธพี่เลี้ยงได้

                                        “.......................”  ผมเงยหน้ามองไอยุทธ  เห็นมันนั่งฉีกยิ้มกว้าง แต่ตามันไม่ได้มองที่ผมเลยอ่า




-------------------------------------------

ปล. งานด่วนอีกแล้วครับ  อย่าเพิ่งว่ากันนะ   นะ   นะ   :oni1: :oni1:  ไปแว้ว
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 20-12-2007 20:58:25
หุยยยยยยยยย ขาดดดตอนนนนนนน  :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 20-12-2007 21:22:11
 :o :o :o

เสียงใครพูดน้า

 :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 21-12-2007 13:36:25
 :oni2:
พี่ลมมาแว้วววววว
 :oni2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 21-12-2007 14:59:55
หลบหน่อยพระเอกมา  :m30:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 21-12-2007 15:04:19
พี่วัชระครับขาดตอนอ่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-12-2007 15:12:30
น่านหรือยุทธจริงๆจะชอบพี่ลม

ไปตามพี่ลมมาด้วยคน
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 21-12-2007 17:56:47
เจอศึกชิงนาย อีกแล้ว พงษ์นี่เสน่ห์แรงจิง
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 22-12-2007 14:48:24
จะจบแล้วนะครับ  ไม่อยากให้ยืดเยื้อมาก   ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านทั้งที่เม้นท์และไม่เม้นท์ด้วยนะครับ  ผมไม่ได้ซีเรียส  เรื่องจำนวน รีพายหรอกครับ  คิดว่าคงไม่เกินสัปดาห์หน้า  นะครับ  จบแน่นอน

//////////////////////////////////////////////////////////////////////

                                 “เหรอ    มาสองคนก็ดีแล้วนี่ ครับจะได้ไม่เปลือง”  ไม่ได้งกนะครับ  แต่กลัวจะเป็นเรื่องซีเรียสอ่ะ

                                       “ เหรอ”   ไอยุทธตอบ  แต่เสียงมันเฉยมากเลย

                                       “อืม”   ตอบมันไป  ตาก็มองหาชื่อเพลงที่อยากจะร้องไป

                                       “งั้น  กรูจะกินให้เมิงเปลือง”   ไม่เป็นไรเพื่อยุทธพี่เลี้ยงได้

                                        “.......................”  ผมเงยหน้ามองไอยุทธ  เห็นมันนั่งฉีกยิ้มกว้าง แต่ตามันไม่ได้มองที่ผมเลยอ่า

                                         “ไม่เปลืองใช่ไหม   ดี  วันนี้กรูจะกินมันให้เปลือง” โอ้  ม่าย   ไม่จริง   ไม่มีตังค์   อ้าว ไม่ใช่ นั้นไม่ใช่เสียงพี่ลมใช่ไหม  หูผมฝาดแหง ๆ   แต่ว่าตาผมไม่ฝาดนี่ 

                                         “ อ้าว  พี่ลมนั่งก่อนสิครับ”  ไอยุทธบอกแค่นั้นแหละครับไอพี่ลมก็หย่อยก้นลงนั่งที่ข้างๆ ผม และดำเนินการตามเจตนารมณ์ที่มันบอกคือจะกินให้ผมเปลือง แต่คงไม่ท่าไหร่หรอกแค่เมาเดียวจะหมดเท่าไหร่กันผมเลี้ยงได้สบาย   แต่ไอ้ที่ไม่สบาย ก็คือ ข้างใน  ลึกเข้าไปข้างในผมรู้สึกหวั่น ๆ จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า  สองคนนี้ก็นั่งตาเขม่นท้าชนท้าดวลแก้วกันแบบไม่มีใครยอมใคร อย่างกับใครชนะจะได้รางวัลซะงั้น  จนเวลาจะเลยสามทุ่ม ไอยุทธก็ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน  ดูมันก็เดินโซเซแล้ว สงสัยจะเมา   ไอพี่ลมยื่นมือมากำมือผมบีบอย่างแรง และกระชากให้ผมขยับเข้าไปใกล้ ๆ

                                       “ เมิงมากับมันทำไม  กรูเคยบอกเมิงแล้วใช่ไหม”   

                                        “ทำไมล่ะ  ก็แค่มากินเหล้าจะเป็นไรไป ไอยุทธมันก็ลูกน้อง”  ผมพยายามที่จะบิดมือออกแต่ก็โดนบีบแน่นขึ้นผมเจ็บแขนจนมือชาไปหมด

                                       “ เมิงก็รู้ว่ากรูไม่ชอบ  กรูไม่อยากให้เมิงไปกับใคร” มันจ้องหน้าผมตาเขม็ง  แต่ผมไม่หลบสายตามันหรอก เรื่องอะไรหละ ผมมีสิทธิ์จะไปกับใครก็ได้  มันเรื่องของผมและผมก็ตั้งใจ  ตั้งใจที่จะไม่คิดถึง  ไม่เจอหน้า ผมพยายามจะหาใครสักคนเข้ามาแทนที่ใครบางคนที่อยู่ในใจผมตลอดเวลา  ผมให้โอกาสไอยุทธ ให้โอกาสตัวเอง เพราะผมไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นคนบาป  ผมผิดด้วยเหรอ

                                    “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่หล่ะ มันเรื่องของผม” ผมขบฟันพูด จนตัวสั่น บิดแขนให้แรงขึ้นเพื่อจะได้หลุดจากมือของไอพี่ลม จนโต๊ะข้าง ๆ เขาหันมามอง

                                      “กรูรู้ว่าเมิงจงใจจะหนีกรู  เมิงมันไม่ยอมรับความจริง เมิงชอบกรูแต่เมิงจะหนีกรู” น้ำตาผมเริ่มคลอ ผมไม่อยากสบตามัน    มันจะพูดเพื่อให้ผมรู้สึกอะไรรู้สึกผิดมากไปกว่านี้เหรอ 

                                       “ไม่  ผมไม่ได้ชอบพี่  ช่วยออกไปจากชีวิตผมได้ไหม” 

                                        “......................”

                                      ตึ้ด  ๆ  ๆ   ๆ   ๆ    เสียงโทรศัพท์ ไอพี่ลม    แล้วพี่ลมก็ปล่อยมือจากผมเดินออกไปรับสายที่นอกร้าน พอดีกับที่ไอยุทธเดินเข้ามาและนั่งฝั่งตรงข้าม  มันจ้องมองหน้าผม

                                         “พี่พงษ์  เป็นอะไรรึเปล่าครับ ดูตาแดง ๆ”  ไอยุทธถาม

                                          “  อ๋อ  พี่ไม่เป็นไรครับ  สงสัยจะเมาแล้ว” 

                                          “พี่พงษ์ไหวมั้ย........เมื่อกี้พี่ลมทำอะไรพี่รึเปล่า”  อึ้งเลยครับ  ไม่คิดว่าไอยุทธจะเห็น

                                          “ทะ  ทะ  ทำอะไรครับ  ไม่มีไรนี่”  ผมตอบแล้วก็รีบคว่าเบียร์ยกเข้าปาก

                                           “ไม่มีไรก็ดีแล้วครับผมจะได้ไม่ต้องห่วง”  ขอบใจนะยุทธ เอาความห่วงใยไปให้คนที่เขามีค่ากว่าพี่ดีกว่า  ยิ่งตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจแล้วว่าผมจะชอบไอยุทธได้รึเปล่า  ผมไม่อยากดึงมันเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วสิ  ดูมันทำหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีอะไรในใจ

                                          พี่ลมเดินเข้ามาจากหน้าร้านแล้วก็บอกให้พวกเรารออยู่ที่นี้เดี๋ยวจะรีบกลับมา แล้วพี่ลมก็สตาร์ทรถออกไป  ผมสังเกตไอยุทธว่ามันไม่ได้สนุกเหมือนแต่ก่อน แต่ผมก็ยังไม่อยากถามอะไรมัน ผมอยากกลับห้องมากกว่า  ไม่อยากอยู่รับรู้เรื่องอะไรอีก 

                                           “ยุทธ  นี่ตังค์ค่าเบียร์  พี่คงกินต่อไม่ไหว” ผมยื่นเงินให้ไอยุทธไป  มันมองหน้าผมแล้วก็รับไว้

                                           “ พี่จะกลับแล้วนะ  แต่ไม่ต้องไปส่งพี่  เดี๋ยวพี่จะเดินกลับเอง”

                                           “แต่.............”

                                           “ไมเป็นไรครับ พี่ยังไม่เมา  อีกอย่างพี่อย่างเดินกลับมากกว่า”

                                            “ครับ   พี่กลับดี ๆ นะครับ ผมจะรอพี่ลมมาก่อนถึงจะกลับเหมือนกัน”

                                            “ครับ  ออ  ตังค์ที่เหลือก็กินต่อเลยนะไม่ต้องทอน”  ผมลุกขึ้นและยิ้มให้มันก่อนเดินออกไป   ผมรู้สึกใจหายที่เดินจากมันมา เหมือนปล่อยทิ้งให้มันอยู่คนเดียว ไอยุทธไม่ได้ยิ้มตอบผมแต่มันนั่งกุมขมับแทน    ผมคิดว่ามันคงจะเห็นที่ผมกับพี่ลมทะเลาะกัน  แต่มันไม่ยอมพูดอะไร   ผมก็จะปล่อยให้มันแบบนี้แหละ  ปล่อยให้อะไร ๆ  มันเป็นไปด้วยตัวของมัน เดินจากไปเลยทั้งสองคน
                                            ผมเดินออกมาจากร้าน  และเดินเรื่อยเปื่อยตามทางเท้า ในสมองก็มีแต่เรื่องให้คิด  สบสนวุ่นวายไปหมดตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยรู้สึกหดหู่ได้มากขนาดนี้   บนถนนที่เราเดินคนเดียว  มันเหงา  หว้าเหว่   ผมก้าวไปเรื่อย ๆ  ท่ามกลางความมืดจนถึงทางเข้าหอพัก ก็มีแสงไฟจากรถมอเตอร์ไซค์สาดส่องมาทางด้านหลังและหยุดอยู่ตรงหน้าผม   และคนขับก็ลงมากระชากแขนผมอย่างแรง...........    “โอ้ย...........ผมเจ็บนะ”
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 22-12-2007 14:58:57
จะจบอีกแล้ว โห็นึกว่าเป็นเรื่องยาว

แต่ไงก็เป็นกะลังใจให้นะคับ

 :m15: จะจบจิงๆๆหรอ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 22-12-2007 15:29:14
โดนนน...โดนนน แน่ แน่เลยยยย คืนนี้.... อิ อิ  :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-12-2007 18:02:47
 :o

ทำไมจะจบเร็วจังคะ


พี่ลมรุนแรงอ่ะ  :o8:

พงษ์เจ็บแขนแย่เลย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 22-12-2007 20:33:32

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์ ไอ้พี่ลม

นั่นแกจะทำอะไรคุณน้องพงษ์ของช้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 23-12-2007 02:53:28
15 หน้ารวด เฮ่อๆ
 ต่อไวๆ นะค้าบ ..  :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-12-2007 14:48:40
 :o :o :o :o
ทำไมถึงรุนแรงกันอย่างนี้
อารมณ์รัก ยากนักจะห้ามใจ
แต่ทำอะไรก็ต้องชัดเจน มีครอบครัวแล้วก็ต้องเคลียร์ตัวเองก่อน จะมีสิทธิ์มายุ่งกับคนอื่นนะ
 :mc1: :mc1: :mc1: :mc1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 23-12-2007 19:41:40
เหอะๆ...เอาละงัย

ออกแนวพิศาลมากมาย

ดีที่ยังไม่มีตบจูบๆ

เป็นกำลังใจให้ครับ แหะๆ

 :oni3:  :oni3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 24-12-2007 09:23:02
 :oni1:   ดุกดิกตัวนี้น่ารักเนาะ


ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ  เอ้ามาต่อกันเลยนะ  ตอนนี้อาจตึง ๆ หน่อยนะครับ

///////////////////////////////////////////////////////

                           ข้อมือผมถูกกกระชากไปตามแรงของคนดึง

                                        “โอ้ย............ผมเจ็บนะ”

                                          “แล้วไง  เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก  แล้วมึงจะรีบไปไหน”  ไอพี่ลมมันจะตามมาทำไม

                                           “ง่วง....จะกลับห้อง   นอน”  ผมสะบัดแขนและเดินหนีต่อแต่มันกระชากแขนผมไว้อีก

                                           “เมิงจะรีบไปไหน  เมิงต้องคุยกับกรูให้รู้เรื่องก่อน” ไอพี่ลมจับแขนผมบิดแล้วยกขึ้น แต่ผมพยายามฝืน  ผมรู้ว่ามันโกรธที่ผมไม่รอมัน   

                                            “ผมไม่มีอะไรจะคุย  ทำไมเราต้องคุยกัน  เราไม่ได้เป็นไรกันสักหน่อย” ผมหยุดดิ้นและมองหน้าพี่ลม น้ำตาเจ้ากรรมมันมาจ่อพร้อมจะล่วงได้ทันที  (เวน จะร้องอีกแล้ว)

                                             “ ทำไมหล่ะ  พงษ์ก็รู้ว่าพี่ชอบพงษ์ ไม่ใช่เหรอ  แล้วพงษ์ละชอบพี่บ้างไหม”  ผมอึ้งและจ้องมองตาพี่ลมที่กำลังมีน้ำคลอๆ   ชอบงั้นเหรอ   ชอบแล้วไง  ชอบแล้วต้องเจ็บปวดกันทุกฝ่าย จะชอบทำไม

                                              “พี่มีลูกมีเมียแล้วนะ  จะมายุ่งกับผมทำไมพี่กลับห้องไปเถอะอย่าให้ผมเป็นคนบาปเลยนะ  ผมขอร้อง” ผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้วครับ  ไม่ใช่สิผมไม่กลั้นมันแล้วมันอัดอั้นมานาน ปล่อยให้มันออกมาบ้างก็คงจะดี    นี่เป็นครั้งที่สองที่เราทะเลาะกัน เรื่องเดิม ๆ  เหตุการณ์แบบเดิมเหมือนตอนที่มันเกิดที่ห้องผม   

                                               “พงษ์    พี่ห้ามใจตัวเองไม่ได้   พี่ทนไม่ไหวแล้วนะอย่าทำแบบนี้ได้ไหม” แล้วพี่ลมก็ปล่อยมือก้มหน้าต่ำลง  ผมมองเห็นหยดน้ำใส ๆ  ที่มันกระทบกับแสงไฟที่ข้างทางหล่นลงจากดวงตาของพี่ลม 

                                                “   ผมจะกลับห้อง  พี่กลับไปเถอะ”  แล้วผมก็หันหลังจะเดินกลับ

                                               “พงษ์   จะรีบไปไหน”  เสียงเล็กแหลมของผู้หญิงคนนึงดังมาจากข้างหลังผม

                                                 “แดง”   “พี่แดง”  พี่ลมกับผมพูดพร้อมกัน

                                                 “ลมมาทำอะไรที่นี้  ไหนบอกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่เหรอ” พี่แดงเดินมาและดึงแขนพี่ลม

                                                “...............................”  ทั้งผมและพี่ลม เราเงียบ

                                                “ ลมชอบไอพงษ์เหรอ   ถึงได้มาหาถึงที่นี่แล้วยังโกหกเค้าอีก”

                                                “ไม่มีไรก็แค่มาส่งไอพงษ์มัน  พูดอะไรบ้า ๆ” 

                                                “พูดบ้าที่ไหน  เค้าได้ยินหมดแล้ว   ไม่นึกเลยนะว่าลมจะเป็นแบบนี้” พี่แดง เหมือนกำลังสะอื้น 

                                                 “พงษ์ชอบพี่ลมใช่ไหม   ทำไม  ทำไมต้องทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกด้วย”  ผมได้ยินประโยคนี้ผมก็กลั่นน้ำตาไว้ไม่ไหวอีกรอบ  ผมคงเป็นคนเลวจริงๆ   ผมคงจะอยู่รับหน้าต่อไปไม่ไหว 

                                               “พี่กลับไปเถอะ  อย่ามายุงกับผมเลย  เราต่างคนต่างอยู่  ผมไม่ได้ทำอะไร ผมไม่ได้ชอบพี่ลม  มันเป็นเรื่องที่พี่ต้องเคลียร์กันเอง”

                                      ผมปาดน้ำตาและหายใจเข้าลึก ๆ  ก่อนจะรีบวิ่งออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ผมจะไม่หันไปมอง  ไม่มองแน่นอน   การแก้ปัญหาครั้งนี้ผมเลือกที่จะหนี  ผมหนีเพราะจิตใจของผมอ่อนแอเกินที่จะรับรู้เรื่องนี้อีก  ปล่อยให้ความเจ็บปวดมันฝังอยู่กับผม  ผัวเมียกันยังไงเขาก็ต้องเข้าใจกัน  เขาคงเคลียร์กันได้   พี่ลมก็คงแค่หลงชั่ววูบเท่านั้น    ผมกลับมาที่ห้องดีที่น้องชายทำงานผมจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มันยุ่งยาก   ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ล้มตัวลงนอน  พยายามข่มตางลง แต่ผมก็หลับลงไม่ได้ น้ำใส ๆ  นี่มันยังไหลออกมาไม่หยุด   ผมปาดน้ำตาอีกครั้ง  ครั้งนี่คงจะเป็นครั้งสุดท้าย  ผมจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้  มันสมควรจะจบสักที  จบได้แล้ว  พอแล้วกับการเป็นคนบาป   วันเวลาคงดูแลรักษาใจได้   วันนี้ขอร้องไห้ให้พอ  ร้องไห้หมดแล้วพรุ่งนี้ผมจะไป   
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 24-12-2007 10:02:51
 :o12: :o12: :o12:ช่วยด้วยอ่านแล้วอินน้ำใสๆมันไหลออกมาจากดวงตาทำไงดี :โฮๆ1: :โฮๆ1: :โฮๆ1: :โฮๆ1: :โฮๆ1: :โฮๆ1: :โฮๆ1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 24-12-2007 10:13:44
ตัดสินใจดีแล้วละฮะที่ไม่ทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยก

แต่อนาคตของครอบครัวพี่ลมกับพี่แดงท่าทางจะร้าวซ๊ะแล้ว

แล้วมาต่ออีกนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

 :o12:   :o12:   :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-12-2007 10:24:03
ของรักใคร ใครก็หวง
ลมต้องตัดสินใจและทำมันให้เด็ดขาดลงไปจะเอาอย่างไร

ยังมีหน้าพูดมาได้ ว่ามาส่งเฉยๆ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 24-12-2007 11:48:17
 :sad2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 24-12-2007 13:39:32
ปวดใจ  :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 24-12-2007 14:20:53
 :serius2: :serius2: :serius2:

พี่ลมทำไมไม่เลือกซักทางเนี่ย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 24-12-2007 14:21:16
ก็ดีเหมือนกันนะ ที่หนีมาแบบนี้

อย่างน้อยจะผิดจะถูกยังไงก็คงแล้วแต่พี่ลม
เพราะพงษ์เองก็ยอมรับและก็คงฝืนอะไรพี่ลมไม่ได้อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 25-12-2007 10:20:05
ตอนจบพี่ลมก็ทิ้งเมียและลูกใช่ป่าวน่าสงสารเด็กน่ะ :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 25-12-2007 10:43:03

อยู่กัน พ่อแม่ลูก  ใช่ว่า ลูกจะมีความสุขเสมอไป

ในเมื่อ  พ่อกับแม่ มันทะเลาะกันทุกวัน

กรุณาอย่าเอาประเด็นนี้มาอ้าง

อิชั้นไม่รับฟังเคอะ

เชอะส์  :a4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จะจบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 25-12-2007 22:34:44
                       วันนี้ผมหลับ ทั้งน้ำตาบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่มันก็ทำให้ผมหลับไม่สนิทนัก จนเวลาล่วงเลย ถึงตีสี่ครึ่งผมลุกขึ้นมองดูนาฬิกา  และเดินไปเปิดประตูเพราะใครคนนึงกำลังเคาะประตูห้องผมอยู่   
                                                   “ยุทธ”   มันมาทำไมตอนนี้ 

                                                    “พี่พงษ์   ผมนอนไม่หลับ”   ไอยุทธบอกผมหน้าเศร้า ๆ 

                                                    “เข้ามาก่อนสิ”  ผมเดินนำเข้าไป  และล้มตัวลงบนที่นอนของผม มันก็เข้ามานั่งข้าง ๆ

                                                     “ยุทธมีอะไรรึเปล่า  ทำไมมาดึกขนาดนี่”

                                                     “..............................” มันมองหน้าและดึงมือผมไปกุมไว้
     
                                                     “พูดเถอะ พี่รอฟังอยู่”

                                                     “ผม        ผมคิดถึงพี่  ผมนอนไม่หลับ”  นี่มันตีสี่แล้วมันยังไม่ได้นอนเหรอ

                                                     “ยุทธ”ไม่น่าเชื่อว่ามันจะนอนไม่หลับ  มันเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ

                                                       “ผมขอนอนกอดพี่ได้ไหม”   ขอกอดเหรอ  แค่กอดใช่ไหม

                                                       “ดะ  ดะ  ได้สิ  นอนเถอะพี่ง่วงแล้ว”   ไอยุทธนอนลงข้าง ๆ และเอื้อมมือมากอดผมไว้   ผมสัมผัสได้ว่าตัวมันสั่น  ใจเต้นแรงและเร็ว เสียงลมหายใจของมันดังพอที่ผมจะได้ยิน

                                                        “พี่พงษ์   ผมชอบพี่นะ  ชอบมาด้วย ให้ผมมาอยู่กับพี่นะ” ไอยุทธกระซิบที่ข้างหูและกระชับตัวผมให้แน่นขึ้น

                                                        “ ยุทธ     พี่ว่าพี่ก็ชอบยุทธนะ  แต่.........พี่ชอบยุทธเหมือนน้องชายคนหนึ่ง” 




                                                     บทสนทนาของผมกับไอยุทธจบลงเพียงแค่นี้ ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดอกจากปากเราสองคน  ไอยุทธก็คงจะเข้าใจดีว่ามันหมายถึงอะไรสำหรับผมก็เคลียร์ตัวเองได้แล้วว่าระหว่างไอยุทธกับผมเราคงได้เป็นแค่พี่น้องกัน  ผมปล่อยให้มันกอดอย่างนั้น จนถึงหกโมงเช้า   เสียงเคาะประตูห้องผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง

                                                   ไอยุทธผละมือจากที่กอดผมขยับออกมานอนข้าง ๆ   ผมลุกขึ้นไปเปิดประตู โดยไม่ได้มองผ่านบานเกร็ดเพราะคิดว่าคงเป็นน้องชาย แต่ก็ต้องทำให้ผมตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคืดพี่ลม


                                                “พี่ลม”  ผมยืนตัวเกร็งที่หน้าประตู  ตายแน่เลยไม่ไอยุทธก็ผมคงต้องมีใครโดนดีแน่

                                               “อืม” แล้วพี่ลมก็ผลักประตูเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอยุทธ 

                                                “เมิงมาทำไมตั้งแต่เช้าไอยุทธ”   น้ำเสียงเรียบเฉยอย่างที่ผมไม่เคยเห็น  แตกต่างจากเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง

                                                “ผมก็แค่แวะเข้ามาหาพี่พงษ์เฉย ๆ  กำลังจะกลับพอดี”  ทำไมมันง่ายอย่างนี้   ไม่เห็นเป็นอย่างที่ผมคิด 

                                                 “แล้วพี่มาทำไมแต่เช้า” 

                                                  “กรูก็แค่แวะมาเฉย ๆ”  สองคนนี้มันเห็นห้องผมเป็นอะไร  ถึงต้องเข้ามาแวะดู

                                                  “เหรอครับ     งั้นผมกลับก่อนนะ....พี่พงษ์”  ไอยุทธหันหน้ามามองทางผมแล้วก็ยิ้ม   ผมรู้ว่ามันฝืนยิ้ม  เพราะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผมเคยเห็น

                                                 ไอยุทธกลับไปแล้ว เหลือแค่ผมกับพี่ลมแค่สองคน  พี่ลมเดินเข้ามาจูงแขนผมให้ไปนั่งบนที่นอน  สองมือกุมมือผมไว้อย่างนั้น ดวงตาที่จ้องมองมากับรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า  เหมือนคนกำลังดีใจแบบสุด ๆ  มันทำให้ผมแปลกใจว่ามันคืออะไรภาพเมื่อคืนมันยังฝังหัวผมอยู่เลย

                                                “พงษ์  พี่คุยกับแดงแล้วนะ”  พี่ลมดึงมือผมขึ้นมาแนบที่หน้าอก

                                               “คุยอะไรกัน” ผมถามเพราะยังมึนงง

                                               “ พี่บอกแดงแล้วว่า พี่ชอบพงษ์  ไม่ใช่สิ พี่รักพงษ์”

                                                “พี่ลม”  นี่พี่ลมมาสารภาพรักผมเหรอ  แล้วจะให้ผมทำอย่างไร แล้ว   แล้ว   ๆ

                                              “แดงเข้าใจ  และรับได้   แรก ๆ คงจะเสียใจแต่คงไม่มากหรอก   ที่เราอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่ความรัก เราอยู่ด้วยกันเพราะความผิดพลาดของคนสองคน  เพราะความสงสาร”

                                               “พี่ลมหมายความว่าไง”

                                                “เราสองคนเลิกกันแล้ว   ที่จริงเราเลิกกันนานแล้ว แต่เพราะพ่อกับแม่พี่ขอไว้เราถึงยังอยู่ด้วยกัน”

                                                “แล้วลูกพี่หละ” 

                                                “ยังไงพี่ก็เป็นพ่อ   พี่ไม่ทิ้งหรอก แต่คงจะให้รู้เรื่องแบบนี้ไม่ได้ ลูกพี่อยู่กับตายายที่ปักษ์ใต้ ยังไงพี่ก็จะส่งเสียให้ถึงที่สุด”

                                                “แล้วผมละพี่ลม   พี่จะให้คนอื่นมองผมยังไง จะให้มองผมเป็นคนแย่งแฟนคนอื่นเหรอ  พี่อยากอยู่ก็อยู่อยากเลิกก็เลิก  แล้วเอาผมมาเป็นเหตุผลให้ครอบครัวต้องแตกแยกงั้นเหรอ  ผมรับไม่ได้หรอก  ผมรู้ที่พี่พูดหมายถึงอะไรพี่จะทิ้งเมียแล้วมาอยู่กับผมมันง่ายไปรึเปล่า”    ผมสะบัดมืออกและขยับหนีออกมา

                                                 “พงษ์ฟังนะ   พี่รักพงษ์ พี่ไม่อยากเสียพงษ์ไป   พี่รู้แล้วพี่รักพงษ์มากแค่ไหนอย่าทรมานพี่อีกเลยนะ”

                                                “ลม.......ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ออกไปข้างนอกก่อนเดี๋ยวเค้าคุยเอง” 

                                                 “พี่แดง”  ผมผงะมองผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าประตู  นี่อะไรกัน พี่แดงมาด้วยเหรอ   


                                              พี่ลมเดินออกไปนอกห้องแล้วพี่แดงก็นั่งลงข้าง ๆ ผม  และเธอก็เริ่มร้องไห้

                                                “พงษ์  ฟังพี่นะ พี่มีแฟนแค่คนเดียว คือลม พี่ไม่อยากเสียลมไป........................................”



                                               






                                                พี่แดงพูดจบแล้วก็ยิ้มให้ผม  ก่อนจะเดินออกประตูไปและยืนคุยกับพี่ลมที่หน้าห้องผมไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน  แล้วสองคนก็เดินจากไปขึ้นรถมอไซค์ที่จอดอยู่ด้านล่าง   ผมเปิดผ้าม่านที่บานเกร็ดมองตามจนรถหายลับตาไป 

                                             ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมคนเดียว คำพูดของพี่แดงทำให้ผมตัดสินใจอะไรได้แล้ว ผมก็แค่รอเวลา  รอเวลาเท่านั้นแล้วทุกอย่างคงกระจ่างเอง




                                            “พงษ์  ฟังพี่นะ พี่มีแฟนแค่คนเดียว  คือลม  พี่ไม่อยากเสียลมไป  เพราะพี่ห่วงลูกสงสารลูก แต่พี่คงดึงลมไว้ไม่ได้  พี่รู้สักวันเราก็ต้องจากกัน  แรก ๆ พี่ก็ทำใจไม่ได้พี่กลัวว่าลมจะชอบพงษ์  เพราะพงษ์เป็นคนน่ารัก    แต่เมื่อลมเค้าเลือกแล้วพี่ก็ต้องยอมรับความจริง   ยังไงเราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้    พงษ์ยอมรับเถอะ พงษ์เองก็รักลมไม่ใช่เหรอ  พี่จะไม่ขวางทางหรอก พงษ์คิดดูดี ๆ นะ”  
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-12-2007 22:48:45
เส้นทางที่ยากจะเลือกเดิน  :a1: :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 25-12-2007 23:14:45
เมื่อตัดสินใจจะทำอะไรลงไป ก็ต้องเคลียร์ให้มันเด็ดขาด
ไม่รักอยู่ด้วยกันก็รังแต่จะมีปัญหา

 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 25-12-2007 23:30:32
แล้วพี่พงษ์จะตัดสินใจว่าไงคะเนี่ย

 :serius2: :serius2: :serius2:


พี่แดงทำถูกแล้วค่า

 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 25-12-2007 23:37:34
จะจบแล้ว อ่า :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 26-12-2007 01:34:59
 o2
ลุ้นมากกกกกกกกกครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 26-12-2007 01:40:29
ง่ะ มะอยากให้จบเลยยยย อ่ะ


ขอบคุณคนแต่งคร้าบบบบ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 26-12-2007 08:20:07
จะตัดสินใจยังงัยน้อ...

ลุ้นมากเยยง่ะ

เป็นกำลังใจให้งับป๋ม

 :sad2:   :sad2:   :sad2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 26-12-2007 09:20:24

โอ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว


พี่ลมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม


แล้วมันจะเป็นยังไงต่อปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!


 :m30:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 26-12-2007 09:39:34
ปวดจิต :sad2:มะอยากให้จบเลยอ่ะครับผม o7
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 26-12-2007 10:15:44
 :mc3:   ขอบคุณทุกกำลังใจครับ   มันก็คงถึงคราวต้องจบละครับ   แต่ก็จะคอยแวะเวียนอยู่แถวนี้จะคอยอัพตอนพิเศษให้บ่อย ๆ    เรื่องนี้ไม่ได้ให้ใครเอาเป็นเยี้ยงงอย่าง  แต่ควรจะเข้าใจและลมรับความจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็น  บางคนปล่อยให้มันผิดพลาดแล้วก็เลยตามเลย  เวลามีปัญหามาแล้วมันแก้ยาก  ไม่ดีนะครับ 



เอ้ามาฟังการตัดสินใจกันเลยเนาะ

////////////////////////////////////////////////////

ผมตัดสินใจแล้ว  ในเมื่อเราเลือกเกิดไม่ได้   แต่เราเลือกทางที่จะเดินได้  ชีวิตเป็นของผม ไม่มีใครมาจูงให้เดิน   ผมต้องเดินเอง เดินตามทางที่หัวใจมันต้องการ  มันเป็นโอกาสของผมแล้วนี่

                                           “เสร็จรึยัง”  ผมร้องถามคนที่กำลังง่วนอยู่ที่ด้านหลังห้อง

                                            “ยาง  โห ไม่คิดจะช่วยบ้างเลยนะ”  เอ้า  ไอนี่มีบ่น ๆ

                                           “สมน้ำหน้าอยากทำเองไม่ใช่เหรอ”มีคนอาสาซักผ้าก็สบายสิครับ ส่วนผมก็นอนดูทีวีกินขนมสบายใจ

                                          “..................................”  มันเงียบไปแล้วสงสัยสำนึกได้

                                         “โอ้ย....พี่ลมทำไร  เปียกหมดแล้วนะ”  มันเอาฟองผงซักฟอกมาป้ายที่แก้มผมอ่ะ

                                        “ 5 5 5   เป็นไงปากดีนัก  แล้วนี้คิดจะกินแค่คนเดียวเหรอ”  ไอพี่ลมบ้ามันอ้าปากแล้วยื่นหน้าเข้ามาหาผม

                                       “เดี๋ยวป้อน”  ผมเลยกำขนมกะว่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่มือน้อย ๆของผมจะกำได้ยัดเข้าปากมันเต็มๆ  แล้วก็ลงไปนอนกลิ้งหัวเราะจนท้องแข็ง
                                        “นี่แกล้งกันเหรอมานี่เลย  มานี่เลย”มันดึงตัวผมลากไปที่หลังห้องและบรรจง ไม่ใช่สิ โกยฟองผงซักฟอกใส่ตามหัวตามตัวผมเต็มไปหมด ผมไม่ยอมหรอกต้องเอาคืน  55 5

                                        “นี่   นี่   สองคนนี้เงียบ ๆหน่อยได้ไหม”  เหอ  ๆ  ลืมไปเลยว่าน้องชายผมมันกำลังนอนอยู่  เราก็เลยต้องเล่นกันเงียบ ๆ

                                        “มาเดี๋ยวช่วยซัก” 

                                         “อืม    เดี๋ยวซักผ้าเสร็จแล้วขึ้นไปบ้านหาพ่อกับแม่กันนะ”

                                        “โหย  ไปจริงเหรอ เค้าอายนะ” ผมทำท่าอายแล้วก้มหน้าซักผ้าต่อ

                                         “อายทำไม  เค้ารู้กันหมดแล้ว พ่อเค้าอยากเจอหน้าว่าใครเล่นของทำให้ลูกเค้ากลายเป็นแบบนี้ได้”

                                         “บ้า  พี่ลมบ้า  คนมันน่ารักไม่ต้องเล่นของหรอก” อายไปอีกรอบสอง คนอะไรหน้าด้านชมตัวเอง

                                          “คร้าบ  น่ารักคร้าบ”  แล้วมันก้เอามือขยี้หัวผม

                                          “อืม  เดี๋ยวไปหาพ่อแล้วจะพาไปเล่นเก้าเก”  เหอ  ๆ  อย่างนี่มีหวังรวยแน่ ๆ  เล่นเก้าเกเหรอ  ผมว่าไม่ต้องเก้าก็เกย์อยู่แล้ว  555+  ชนะเลิศ

                                          “จริงอ่ะ  งั้นเร็วเลยมัวแต่เล่นอยู่ได้”   ชีวิตผมก็ดำเนินอยู่เช่นฉะนี้เรื่อยมา  พี่แดงย้ายไปอยู่กับเพื่อนใกล้ ๆที่ทำงาน  ก็ยังติดต่อไปมาหาสู่กันเป็นปรกติ ส่วนลูก พี่ลมก็ส่งเงินให้ทุกเดือน บางเดือนผมก็ช่วยด้วยทั้งเสื้อผ้าของเล่นแล้วก็ค่าเลี้ยงดู    ก็ยอมรับสภาพแหละครับ  ผมกับครับครัวพี่ลมเข้ากันได้ดี ทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงทุกคนก็เข้าใจ  แต่เผลอไม่ได้ครับต้องโดนแทะโดนเล็มอยู่เรื่อย  ๆ  บางทีจนไอพี่ลมมันออกนอกหน้าไปเลยก็มี

         :pig4: :mc1: :mc1:   ขอให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ นะครับ   หวัดดีปีใหม่นะครับ   :mc2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 26-12-2007 10:22:59
 :m1:จบไปอีกหนึ่งในความประทับใจของผมขอบคุณมากๆนะครับผม :oni1:
(อันนนี้ยังคาใจอยู่ครับสรุปใครลักหลับพี่อ่ะ) o2
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 26-12-2007 12:38:41
(อันนนี้ยังคาใจอยู่ครับสรุปใครลักหลับพี่อ่ะ)

มาตอบคำถามให้น้อง  three ก่อน   เห็นคำถามนี้แล้วอยากตอบ  55   ใครกันน๊า   เชอรี่   พลอย  หรือว่า   ไอนัน 


55  ใจจริงอยากให้เป็นไอนันแหละ  แต่คงไม่ใช่ อิอิ   ก็เหลือสองคน  ก็คิดเองแล้วกันเนาะ  เอะ รึว่าเราจะโดนรุม :serius2:   
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 26-12-2007 13:29:51
หมายความว่า วันนี้ก็ยังคบกันอยู่ใช่มั๊ยคะ (แบบว่าโง่นิ  :m23:)

ถ้าใช่ ก็ขอให้มีความสุขกันไปนานๆเลยนะคะ  :oni2:

 :mc2: Happy New Year ka  :mc3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 26-12-2007 23:23:56
อ๊า...จบลงไปแย้วววว

อีกหนึ่งความประทับใจ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

แล้วก็สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้าด้วยคับ

 :mc3:  :pig3:  :pig3:  :mc2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 26-12-2007 23:38:44
ขอบคุนคร้าบบ ขอให้รักกันนานๆนะคร้าบบ

วุยยอยากใจกล้าได้อย่างงี้เหมือนกานนน  :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 26-12-2007 23:54:02
โอ๊ย จบน่ารักมากเลยพี่  :pig3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: nugaa01 ที่ 27-12-2007 05:41:19
ชอบเรื่องนี้มาก  แต่เสียดายรีบจบไปหน่อยโดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ  กว่าจะมาคอมเม้นก็จบเสียแล้ว
ไม่เป็นไร ยังรอตอนพิเศษได้ เชื่อว่าจะมีหนะน่ะ

ขอบคุณมากที่เอาเรื่องราวมาแบ่งบันกันให้อ่าน
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-12-2007 08:16:48
เลือกเส้นทางของหัวใจเหรอเนี่ย  :m1: :m1: :m1: :m1:
ขอบคุณคนแต่ง สำหรับเรื่องราวดีๆ ขอบคุณมากค่ะ  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 27-12-2007 08:56:04
จบแล้วเหรอจะมีตอนพิเศษแบบเจ้าอื่นบ้างป่าวครับ อ่านแล้วสมหวังแต่ว่าไม่เห็นเอยถึยน้องยุทธเลยหายไปไหน :pig4: :pig4: :pig4:
แล้วมาเขียนเรื่องอื่นอีกน่ะครับเป็นกำลังใจให้ชอบอ่าน :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 27-12-2007 11:23:08
เรื่องนี้ก็ดีนะ
ทุกฝ่ายเข้าใจกันดี

อิจฉา
คิดถึงแฟนเก่าอ่ะ ลูกสามอีกตะหาก มะรู้ตอนนี้ไปอยู่ไหนแล้ว
 :mc1: :mc1: :mc1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 27-12-2007 12:14:21
ตามอ่านมานานครับ ดีใจจังที่เรื่องจบแบบนี้

ขอบคุณคุณพงมากครับ ที่เอาเรื่องราวมาเล่าให้ฟัง

มีความสุขทุกวันนะครับ

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-12-2007 17:06:40
อ่านแล้วมีความสุขจริงๆเรื่องนี้
จากเรื่องที่แรกๆลอยไปลอยมา กลับลงตัวลงเอย อย่างไม่มีที่ติ
 :mc3: :mc3: :mc3:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 27-12-2007 23:13:41
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:

ชอบจังเลย เรื่องที่จบอย่างมีความสุข   

ขอบคุณนะคะ:m4: :m4:


รอตอนพิเศษน้า

 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 27-12-2007 23:50:44
สนุกมากเลยครับ :mc3: ถ้ามีตอนพิเศษก็เอามาลงนะครับจะรอ หุๆ  :m12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: oatega ที่ 28-12-2007 09:55:16
สุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี
ขอบคุงต้าบบบบบบบ :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 28-12-2007 12:37:23
รอลุ้นมานานโดยเฉพาะตอนท้ายๆ ปาดเหงื่ออยู่หลายรอบ...ลุ้นจัด   :m29:

แต่จบลงแบบว่าเข้าใจก็โอเค   o13

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ  ขอให้รักกันนานๆๆๆๆ   :m21:

รออ่านตอนพิเศษด้วยคน   :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 03-01-2008 00:01:16
เพิ่งได้เข้ามาตามอ่านคับ

จบได้น่ารักดี

ยังคงพิมพ์ตกๆ หล่นๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ  จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของคนเขียนคนนี้ไปแล้ว

ถ้าตอนไหนไม่มีพิมพ์ตก  เจ้จะแอบสงสัยอยู่ในใจว่ามันใช่ตัวจริงหรือเปล่าวะเนี้ยที่ลงเรื่อง  อิอิ

กดบวกให้แล้วนะเคอะ  คะแนนเกิน ยี่สิบแล้ว น่าจะได้ตำแหน่ง นักเขียนแล้วมั้ง

ยังไงก็ลองไปทวงเอากะ ตาบลูดูนะเคอะหนู  โชคดีปีใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 03-01-2008 08:29:28
รอตอนพิเศษค๊าบ :mc4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 03-01-2008 12:52:39
555    หวัดดีปีใหม่ครับ    เห็นทุกคนรอตอนพิเศษกันเยอะแล้วก็ชื้นจาย   ทีแรกกะว่าจะชิ่งหนี  เหอ  ๆ  แต่ตอนนี้คงจะหนีไม่ทัน  เอาเป็นว่ามารายงานตัวครับว่ายังอยู่ดีมีสุขครับ ไม่ได้ไปร่วมสถิติ  10 วันอันตรายกะเขา   

โดนเจ๊สองแซวเรื่องพิมพ์พิมพิ์หล่น อันนี้ไม่แก้ตัว ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร   55     สงกะสัยต้องหาคนช่วยตรวจทานอีกแรงซะแระ   




ปล.  หลบทั้งเจ้านาย และไอพี่ลม  (เดี๋ยวเค้าจับได้ว่ามัวแต่ซุมหัวอยู่ที่นี่  ไม่งั้นจะโดน......) :mc4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 03-01-2008 13:07:14
จะรออ่านนะครับ :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 06-01-2008 19:59:54
ขอบคุณมากๆนะครับผม  :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 06-01-2008 22:41:02
 :m1:  ความรักนี่มานสวยงามเสมอเลยน้า..

อ่านจบแล้วก็อมยิ้ม  ยินดีด้วยที่ชีวิตรักลงตัว   :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 10-01-2008 20:55:02
 :mc4:เข้ามารอตอนพิเศษ  :m23:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 11-01-2008 15:03:35
อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ  :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (จบแล้วครับ)"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 14-01-2008 09:13:46
พิเศษ   ตอน     ปีใหม่ไปเที่ยวกันนะ
ถึงจะเลยช่วงปีใหม่มาแล้ว แต่ความทรงจำดี ๆ  มันยังอยู่เลยต้องมาเล่าสู่กันฟัง   อาจจะไม่สุขสดชื่นเหมือนคู่อื่น แต่เอาฮาไว้ก่อนเนาะ ( จะฮามากฮาน้อย ขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างฟันกับความยาวของมุมปากจากซ้ายไปขวา ของแต่ละคน   55  มะเกี่ยวกะกระผมน๊า   ออกตัวไว้ก่อน อิอิ   มั่วซะ )           

                             “ฮัลโล แม่หวัดดีครับ”  แม่ผมโทรมา

                              “เออ หวัดดีลูก  เป็นไง ปีใหม่จะกลับบ้านไหมเราหน่ะ” 

                              “ยังไม่รู้เลยครับแม่  ต้องดูก่อนว่าลูกค้าเขาทำงานรึเปล่า ถ้าทำผมคงกลับไม่ได้ครับ” ลูกค้าที่บริษัทผมเปิดโอทีทุกช่วงปีใหม่จนผมต้องระแวงว่าไม่มีใครอยู่ดูงานแทน   ไม่รู้จะทำเอาโล่ห์กันรึงาย                       
                                         
                             “เหรอ  แล้วน้องหล่ะจะกลับไหม” แม่ผมถามแบบเสียงเศร้า ๆ  หน่อย แต่ก็ไม่มากนะครับ

                             “เห็นมันบอกว่าต้องทำงานนะแม่ คงไม่ได้กลับ แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะถ้าไม่ได้กลับจริงหลังปีใหม่ผมจะลากลับเองนะครับ”

                             “เอางั้นเหรอลูก  ถ้ากลับมา ชวนพี่ลมมาด้วยนะ”  เหอ  ๆ   แม่ผมถามหาลูกเขยซะแระ ผมก็เขินนะเวลาที่แม่ผมถามถึงพี่ลม ถึงแม้ท่านจะเคยเจอกันหลายครั้ง ก็เหอะ  พ่อกับแม่ผมเข้าใจเราดี ยังห่วงว่าลูกตัวเองจะตกระกำลำบาก ฝากฝังผมซะดิบดี

                              “ครับแม่   เดี๋ยวผมส่งเงินให้แม่เยอะ ๆ แล้วกัน”   

                               ไม่ใช่ว่าผมจะอกตัญญูส่งแต่เงินโดยไม่คิดถึงความรู้สึกพ่อแม่หรอกนะครับ  แต่เพราะแม่ผมกำลังจะต่อเติมส่วนหน้าบ้าน ผมจึงบอกท่านว่าเงินค่าเดินทางค่าอยู่ค่ากินในการที่ผมจะกลับไปนี้ผมจะส่งให้แม่หมดเลย เงินจะได้พอต่อเติมบ้านให้ท่านได้อยู่สบาย แล้วผมจะกลับในคราวหลัง  ท่านก็ไม่ว่าอะไรครับ

 
                                   สรุปก็คือช่วงปีใหม่ผมไม่ได้กลับต่างจังหวัด  ไอพี่ลมก็บ่น ๆ ว่าไม่ได้เจอแม่ยาย  มันว่างั้น ผมเลยต้องกัดหัวไหล่ไปทีหนึ่ง  สะใจครับพี่ลมร้องเอ็ดตะโล ลั่นบ้านก่อนจะไล่ปล้ำผมบนที่นอน  แต่ผมสู้แรงฟายอย่างมันคงไม่ไหว  มันเล่นจี้เอวผมลงไปชักดิ้นชักงอหายใจแทบไม่ทัน  ก่อนที่ผมจะขาดใจตายพี่ลมก็คว้าตัวผมเข้าไปกอด แล้วเอาหัวมาซุกที่คอ

                                      “เค้าอยากไปภูกระดึงอ่ะ นี่กลับบ้านตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นพาเค้าไปสักที”  ไอพี่ลมพูดเสียงอ้อน ๆ พร้อมเอาหัวดุน ๆ ที่หัวผม  ( เมิงจะหาเหากินรึไง )

                                      “ อยากไปเหรอ แต่เค้าว่าคงไม่ไหวหรอก  ตะเองผอมยังกะไม้เสียบผีอย่างนี้มีหวังลมพัดตกเขาพอดี”

                                     “ผั้วะ”.. “...โอ้ย   มาตบหัวเค้าทำไม” เคืองครับงอนมันด้วย นอนนิ่งหลับตาไปเลย

                                     “ปากเสีย เค้าออกจะหุ่นดี”  พี่ลมพูดแล้วกระชับแขนกอดผมแน่นขึ้น   

                                      “..................................”  ผมเงียบไปแล้ว

                                      “เฮ้ยโกรธเค้าเหรอ” 
                                   
                                       “..................................”
           
                                       “..โกรธจริงอ่ะ เฮ้ย ๆ”   ไอพี่ลมจับตัวผมเขย่า  ๆ   ๆ 

                                        “โอ้ย  เจ็บนะ  มาปลุกเค้าทำมาย  เค้าจานอน ”  ผมหลับตาลงต่อ

                                          “เอ้าไอเราก็นึกว่าโกรธ   งั้นปีใหม่เราไปทะเลกันนะ”

                                           “อือ”

                                           “ชวนไอรุ่งไปด้วย”

                                            “อืม ม     คร็อก....ก...ก.”  ไปเฝ้าพระอินทร์แล้วครับ





   โชคดีครับปีนี้ลูกค้าผมเป็นปรกติ ไม่อุตริเปิดโอทีช่วงปีใหม่เหมือนที่ผ่านมา ผมจึงได้หยุดยาวแต่ผมก็โชคไม่ดีตรงที่จองตั๋วรถกลับบ้านนอกไม่ได้  ไม่ได้ไปไหนก็นอนยาวเลยดีก่า

                                          “เฮ้ย พงษ์ตื่นดิ  ลุกได้แล้ว”  ไอพี่ลมมันปลุกผมแต่เช้า

                                           “อืม   ยังง่วงอยู่เลย”   ผมคว้านมือหาตัวพี่ลม  อ่า จับได้แระ แต่ทำไมมันอ้วนขึ้นอะเนี่ยะ มีพุงด้วย

                                            “ตื่นได้แล้วไปทะเลกัน  เร็วลุกเลย”  ผมรู้สึกว่ามีคนมาดึงตัวผมให้ลุกและอีกคนผมกำลังกอดอยู่

                                             “หือ”  ผมรีบกระโดดลุกขึ้นจากเตียงมองสิ่งที่ผมเพิ่งกอด   

                                              “ตกใจหมด   ที่แท้ก็ตุ๊กตาหมี”  ผมยืนหายใจหอบ แฮก ๆ  แต่ไอพี่ลมมันลงไปนอนกลิ้งบนที่นอนมือกุมท้องยิงฟันขาว มาหา  ผมเลยกระโดดคร่อมตัวพี่ลมแล้วบรรจงฝังเขี้ยวลงที่หัวไหล่ไปหนึ่งดอก  ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป ผมได้ยินแต่เสียงที่มันร้องโหยหวนตามหลังมา 






                                                แต่งตัวจัดกระเป๋าเสร็จเราสองคนก็ขึ้นรถบึ่งออกไปตามเส้นทางสายพัทยา  อย่าได้คิดว่าจะเป็นเก๋งยีห้อหรูเลยนะครับ  มันก็คือฮอนด้าเวฟสีดำเทาเจ้าเก่าคันเดียวของผมนี่แหละที่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมา  ด้วยสมบัติของเจ้าคุณปู่ที่พ่อแบ่งให้ก็มีแค่ไอ้ที่ห้อยต่องแต่ง  ๆ  ไม่พอที่จะขายกินได้  คิคิ    แถมไอพี่ลมก็หวงสมบัตินี่ยังกะอะไรดี

                                                 “พี่ลมถ้าเค้ากอดเอวตะเองจะอายคนอื่นไหม”  ถามเฉย ๆ  มือผมหน่ะกอดตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว

                                                  “ไม่หรอกจะอายทำไม  คนเหมือนกัน” เออ  ก็คนนี่แหละตรูไม่ได้มีสี่ขานิ

                                                  “ แต่เค้าอายว่ะ”   :o8:ผมพูดแล้วผมก็กอดแน่นขึ้นเอาหัวซบไหล่ไป ก่อนจะโดนผั้วะที่กบาล



                                                มาถึงห้องไอรุ่งก็เกือบ ๆ  สี่โมงเช้า  ออ ลืมบอกว่าไอรุ่งเป็นเพื่อนผมสมัยที่มาทำงานแรก ๆ  ตอนนี้มันเปิดกิจการซักรีดแถวพัทยา  มีเมียมันคอยดูแลส่วนมันยังทำที่โรงงาน   พี่เปิ้ลอายุมากกว่าไอรุ่งเกือบยี่สิบปีแต่คู่นี้เค้าก็รักกันดีครับต้องยอมรับ  อายุไม่ได้เป็นอุปสรรคกับความรักจริงๆ   มาถึงผมก็จัดการหาของกินก่อนเลย  ตบท้ายด้วยเบียร์ แต่มีแค่ผมกับพี่ลมเท่านั้นที่กินเพราะไอรุ่งมันไม่กินเหล้ากินเบียร์

                                          “ไอเสือเมื่อไหร่เมิงจะมีเมียสักทีว่ะ”  ไอรุ่งถามผม จนแทบสำลักเบียร์

                                           “หน้าตากรูแบบนี้ใครมันจะมาอยากได้กรูว่ะ” ผมบอกมันไปแต่ก็ก้มหน้ากินกับแกล้มต่อ 

                                           “เมิงก็พูดไปทีกรูหาให้แล้วไม่เอา”  มันว่าต่อ  ตอนนี้ทุกสายตามองจ้องมาที่ผมรวมทั้งไอพี่ลมด้วย  เครียด ๆ  ๆ   กินเบียร์
                                                  “ใครจะไปเอามันดูดิ  ดำก็ดำ”  เออ   ก็คงมีคนตาบอดคนหนึ่งแหละไอบร้า ผมทำหน้าย่นใส่ไอพี่ลมไป งอนอีกแล้วครับแต่ต้องเก็บอาการเดี๋ยวจะเกินงาม  55

                                                   สนุกสนานกันใหญ่ล้อเลียนเรื่องผมไม่มีเมีย  ผมก็กลบเกลื่อนไปตามเรื่อง 

                                                “พงษ์ พี่ถามจริง ๆ  นะ...........เสียความบริสุทธิ์รึยัง”   :m30:ฮือ  ๆ   ๆ  พี่เปิ้ลทำไมถามแบบนี้หล่ะ จะให้ผมตอบว่าไงดี  ว่าแต่พี่อยากรู้ข้างหน้าหรือข้างหลังหล่ะ  เอิ้กส์ ๆ

                                                “นั้นนะดิ กรูก็อยากรู้เหมือนกัน”  ไอพี่ลมบ้ามันพูดแล้วก็หันมายักคื้วให้ผม   เมิงจะทำเป็นสงสัยทำไม  ก้านคอซะดีไหม  โกรธครับมันไม่ช่วยแถมจะซ้ำเติมอีก

                                                “ว่าไงละไอเสือ”  เหอ  เอากันเข้าไป ไอรุ่งร่วมผสมโรง

                                                 “ไอรุ่งกรูกับเมิงคบกันมาสามปีแล้วนะ ถ้าเมิงยังไม่รู้จักกรูดี วันนี้กรูจะเลิกคบเมิง” ผมตอบแบบฉุน ๆ พร้อมกำปั้นทุบไปที่แขนพี่ลมแรง ๆ  โทษฐานกวนตรีน

                                                  “เออน่า  กรูก็แหย่เล่นเฉย ๆ”   ไอรุ่งมันพูดแล้วก็ขำ ๆ
                                           

                                               ออกจากร้านไอรุ่งก็ประมาณบ่ายสอง เราตกลงกันว่าจะไปที่หาดพาลา ที่บ้านฉางระยอง โดยขับมอไซค์ไปเอง  ไม่มีกำหนดการไม่มีการวางแผนล่วงหน้า เรากะว่าจะไปนอนรีสอร์ต แต่ถ้าไม่มีคงต้องค้างที่บ้านญาติพี่เปิ้ลแทน


                                               เราเลือกนั่งเปลผ้าใบใต้ต้นสนริมชายหาด และสั่งอาหารมากินกันส่วนใหญ่จะเป็นจะประเภทกับแกล้มมากกว่า  พี่ลมสั่งเหล้าแบนชุดหนึ่ง แล้วก็ลงมือโซ้ยแหลก หมดก็สั่งใหม่  พี่เปิ้ลกับไอรุ่งขอตัวไปเข้าห้องน้ำและจะแวะไปบอกญาติไว้ก่อนว่าจะมาค้างด้วย   ผมมองดูไอพี่ลมที่มันทำสายตากรุ่มกริ่มและขยับเก้าอี้เข้ามาหาชิด

                                                 “ ขยับเข้ามาทำไมอายคนอื่นเขา” ผมบอกและพยายยามแกะมือพี่ลมที่มากุมมือผมไว้ออก

                                                “อายทำไม คนรักกันไม่เห็นน่าอาย”  เขินครับไอบ้านี่ร้อยวันพันปี ไม่เห็นมันจะพูด

                                                 “เมารึเปล่าเนี่ยะ”  ผมพูดไปมือก็แกะมือพี่ลมต่อ

                                                “เขาหิว”  หือ  เพิ่งกินหยก ๆ  อาหารก็เต็มโต๊ะ ยังจะบ่นหิวอีกเหรอ

                                                 “เอ้า   กินทั้งวันยังหิวอีกเหรอ  อาหารก็มี กินสิ”  ผมว่าพี่ลมท่าจะเมาแน่

                                                 “หึ    เขาอยากกินตะเองอ่ะ”

                                                 “ป้าบ” “โอ้ย”  สมน้ำหน้าปากดี

                                                  “บ้า พี่ลมอย่าแม้แต่จะคิด  แล้ววันนี้ยามนอนห้ามกอดเลยนะ เข้าใจไหม”

                       ไอพี่ลมงอนครับทำปากจู๋ ยังกะเด็ก ๆ เลยโดนไปอีกป้าบหนึ่ง      เรานั่งกินกันต่อจนสี่ทุ่มเกรงใจร้านค้าที่เค้าจะเก็บร้านเลยต้องย้ายตังเองออกไปหาที่หลับที่นอน  ถึงบ้านญาติพี่เปิ้ลเราก็เก็บของเข้าห้องนอนเลย เจ้าของบ้านก็ใจดีเตรียมไว้ให้พร้อมหมดทุกอย่าง  ตอนนอนนี้ผมต้องนอนขั้นระหว่างพี่ลมกับไอรุ่ง เพราะไอพี่นี่ชอบนอนละเมอ คว้าอะไรได้ใกล้ตัวจะกอดอย่างเดียวผมต้องเบียดพี่ลมออกห่าง ๆ และจัดการผ้าห่มพันตัวไว้ให้มิดชิดกันอุจาดตา   เห้อ  ๆ   สุดท้ายพี่ลมก็หลุดจากผ้าห่มและมานอนกอดผมอยู่ดี ช่างหัวมัน ถ้ามันไม่กอดผมก็คงนอนไม่รับเหมียนกัล   

                        เช้ามาก็ไปตลาดหาซื้อของสดมาย่างกินกัน พอสายหน่อยก็ขอตัวกลับ ก่อนกลับเราก็แวะตามหาด ต่าง ๆ ไปเรื่อย บรรยากาศยามสายสบาย ๆ   ขับรถชมวิวตามชายหาด ชอบที่ไหนก็นั่งที่นั้น ทะเลที่นี่ก็สวยเป็นธรรมชาติดี ไม่เหมือนที่พัทยาและบางแสนที่คนพลุกพล่าน  เรากลับมาถึงบ้านก็บ่ายแก่ ๆ  และตกลงกันว่าจะเคาท์ดาวน์ที่บ้านผมเลย

/////////////////////////////////////////

มาต่อให้แบบยาว ๆ เลยนะครับ   ผมก็ยังไม่ได้ไปไหนยังวนเวียน ๆ ล่องลอยไปมาอยู่แถวนี่ เข้ามาทักทายกันได้นะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 14-01-2008 11:16:34
มาต่อให้ชุ่มชื่นหัวใจดีครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 14-01-2008 12:02:24
เข้ามาอ่าน  :mc4: มีความสุขทั้งสองคนนะคะ หวานกันจริงหวานกันจัง...หุๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 14-01-2008 12:03:08
อ่านแล้วยิ้มได้เลยครับพี่ :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 14-01-2008 12:15:56
ดีใจจังยังรักกันเหมือนเดิม  :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 14-01-2008 12:26:43
ว้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


อิจฉาคนมีแฟน อิอิ  :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 14-01-2008 12:38:39
 o13
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 14-01-2008 14:01:34
 :o8:


จบยังคาใจไปนิด น่าจะเพิ่มเติมหน่อยนะงับว่าเกิดไรขึ้นหลังจากวันนั้น



มันไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไรอ่ะงับ


แล้วนายยุทธนั่นหายไปไหนอ่ะงับ :m21:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-01-2008 15:47:26
เอาอีกค่า

ต่ออีกๆ


 :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ตอน พิเศษ )" วันที่ 14 ม.ค. 2550
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 15-01-2008 16:06:19
หลายครั้งที่โดนทวงถามถึงไอยุทธ  ว่ามันหายไปไหน  ทำไมผมไม่เล่าต่อ   


วันนี้เลยสมใจท่านนักอ่าน ทั้งหลาย  เพราะผมเพิ่งวางสายจากไอยุทธไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เกือบจะสองปีแล้วมั้งที่ไม่ได้คุย

กัน  เดี๋ยวจะเล่าทีหลัง


ก่อนอื่นผมขอท้าวความให้ฟังว่ามันหายไปตอนไหนนะครับ

////////////////////////////////////////////////////////////


                  "พี่พงษ์ครับ  ผมขอย้ายแผนกนะครับ"  ไอยุทธมาคุยกับผมที่โต๊ะทำงาน

                  "ทำไมครับ  งานหนักไปเหรอ" 

                   "ป่าวครับ  แค่อยากขอย้ายครับ" มันทำหน้าเศร้า ๆ

                   "ถ้ามีอะไรลำบากใจ  ก็บอกพี่ได้นะ คุยกันได้"  ผมพูดและส่งยิ้มให้

                    "นั้นแหละครับ  ลำบากใจ"  มันพูดแล้วก็เดินหนีออกไป   ปล่อยผมนั่งงงกับมันและกับตัวเอง


หลังจากวันนั้นมันก็เริ่มห่างหายไป เราไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนก่อน เพราะอยู่ในสายตาของพี่ลมตลอด  มีผมที่ไหนต้องมีพี่ลมที่นั้น ไอยุทธก็คงไม่กล้าเข้ามาคุย  สุดท้ายหลังจากนั้นประมาณเดือนหนึ่ง มันก็ลาออกจากงาน  ผมรู้แค่เพียงว่ามันไปอยู่กับเพื่อนที่กรุงเทพและเปลี่ยนเบอร์โทรไปแล้ว  จะมีก็แต่คนขับรถที่มันสนิทด้วยคนเดียวเท่านั้นที่ยังติดต่อมันอยู่ 

จนเมื่อวันที่  12  มกรา  51

   
                 "ดูสิมันยิงเบอร์มาแต่เช้าเลย"  น้านึกคนขับรถยื่นโทรศัพท์ที่มีชื่อมันมาให้ผมดู  แต่มันไกลเกินกว่าที่ผมจะมองเห็นเบอร์  เห็นแค่เพียงชื่อที่ถูกเมมไว้  "ยุด"   ผมก็ไม่ได้ขอแกดูเพราะพี่ลมก็ยืนอยู่ข้าง ๆ  แต่เพราะรีพายของชาวเวปบอร์ดทั้งหลายทำให้ผมอยากรู้ว่าตอนนี้ มันอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่


วันนี้  15  มกรา  51 

                   " คุณพงษ์ ดูนี่ให้ผมหน่อยสิ  ใช่เวปของ ไชยา  มิตรไชยไหม"  น้านึกเข้ามาหาผมที่ออฟฟิสและยื่นโทรศัพท์ที่มีข้อความให้ผมดู ( น้านึกแกแฟนคลับไชยาครับ)

                    "ออ  ใช่ครับน้านึก "  แล้วความเร็วก็เป็นของปีศาจ ผมใช้เวลากดเบอร์ไม่กี่วินาที ก็เจอ  แต่ผมไม่ได้จดเบอร์หรอกเดี๋ยวแกจะสงสัย


         เวลา  10.00 

                     ผมกดเบอร์ที่ผม ท่องไว้ผ่านมือถือ  ผมไม่ใช้เบอร์โรงงานแน่นอนเพราะมันคงจำได้ 

                     " หวัดดีครับ"  น้ำเสียงมันยังเหมือนเดิม

                     "............................"  ผมยังไม่ตอบมัน

                     " ไม่ทราบจะคุยกับใครครับ"

                     "  เอ่อ  คือ  ผมคงโทรผิดครับ" ผมยังไม่กล้าคุยกับมันครับ รอดูว่ามันจะจำเสียงผมได้ไหม

                     "....เอ้ย....ไอวิทย์ใช่ไหม"  แป่ว แหว่ว แหว่ว   ผิดคาดตัดสายเลยดีไหม

                    "ไม่ใช่ครับ  แล้วใครรับสายครับ"

                     "ผมยุทธครับ  "
                     
                       " แล้วยุทธ ทำอะไรที่ไหนครับ"
           
                       "ผมอยู่ลพบุรีครับ"  ไหนบอกไปกรุงเทพ ไง

                       "งั้นผมคงโทรผิดนะครับ"  แต่ไม่ยอมวางสาย

                        "ผมว่าผมจำเสียงได้นะ"  เย้ ๆ  มันจำได้ ดีใจ ๆ

                       "ผมโทรผิดหน่ะครับ แค่นี้นะครับ" พอเอาจริงผมก็ยังไม่อยากให้มันรู้ว่าเป็นผม

                       "ครับ  หวัดดีครับ"   

                        ผมกดสายวางไปแล้วปล่อยให้มัยงงเล่น ๆ   วันนี้ทั้งวันมันคงจะคิดเรื่องนี้แน่ ไอยุทธมันเป็นคนที่ซื่อ บางทีอาจซื่อเกินไปด้วยซ้ำ   ผมพยายามบอกว่าโทรผิดแต่มันไม่ยอมวางสายถ้าเป็นผมดดนแบบนี้คงแตกหักไปข้างแหละครับ  เพราะอย่างนี่ไงมันถึงได้น่าร้ากน่ารัก




15  มกรา  51  เวลา  15.00

   
                       ไอยุทธยิงเบอร์มาหาผม  ตอนที่ผมพักเบรกพอดี  ผมจึงต้องดทรกลับไปเพราะอยากรู้ว่ามันจะว่ายังไง

                       "หวัดดีครับ  ไม่ทราบมีไรครับ"  เหอ ๆ แกล้งเนียน

                       "ยุทธครับ ที่พี่โทรหาผมเมื่อเช้า" 

                        "เหรอครับ  แล้วผมพูดอะไรมั้ง"  เนียนต่อ

                        "พี่ถามว่าผมอยู่ที่ไหน ทำไรอยู่"  มันซื่อ

                        "แล้วยุทธตอบว่าไงครับ"  ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าแหลเก่ง  อิอิ

                        "ผมว่าผมจำพี่ได้  เสียงคุ้น ๆ  นะ"  อ้าวจำได้แล้วไมต้องเสียงคุ้น ๆ

                         "เหรอครับ เสียงเหมือนใครครับ"

                        "พี่พงษ์  ที่อยู่ชลบุรี"

                         "ผมไม่รู้จักหรอกครับ สนิทกับเขาเหรอ"

                         "เอ่อ........ครับ สนิทกัน"แล้วมันก็เงียบไป  หว่าผมทำอะไรอยู่เนี้ยะ

                         "แล้วไม่ลงมาทำงานโรงงานเหรอครับ" ผมถามเพราะเป็นห่วงว่ามันยังว่างงานอยู่

                         "พี่พงษ์  พี่พงษ์ใช่ไหม"

                         "มะ มะ ไม่ใช่ครับ" 

                         "ผมได้ยินเสียงเครื่องที่โรงงาน"  ตายห่าละสิ  มันจำผมไม่ได้แต่มันจำเสียงเครื่องจักรได้ สุดยอด

                         " ตื้ด  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ "   ผมกดวางสายไป เพราะใจผมเริ่มสั่นเมื่อรู้ว่าจะต้องคุยกันในนามของตัวผมเอง
แค่นี้ที่เราได้คุยกัน อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่ามันยังอยู่ดีมีสุขส่วนจะมีแฟนรึยังอันนี้ไว้ผมจะโทรไปถามแล้วมาเล่าทีหลัง
กลัวอย่างเดียวถ้าพี่ลมรู้ผมคงโดนแน่ ๆ  :m29:


หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-01-2008 16:35:43
น้องยุทธอกหัก

ต้องหลบไปพักเลียแผลใจ

น่าสงสาร

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 15-01-2008 18:00:26
ดีใจที่ได้รับรู้ข่าวของยุทธ :oni2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 15-01-2008 18:44:00
โห..น้องยุทธ ของแรงแฮะ

เสียดาย เจอกับพี่พงษ์ช้าไปนีสสสส อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 15-01-2008 22:58:08
ระวังมีปัญหานะคับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 16-01-2008 10:34:21
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ หุๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 16-01-2008 11:11:29
ยุทธนี่ความจำดีจัง

จำได้กระทั่งเสียงเครื่องจักร   o13


ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-01-2008 12:39:47

สงสารน้องยุทธ

แงๆๆๆๆๆๆๆ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 17-01-2008 14:41:41
ยุทธเป็นไรมากมั๊ยเนี่ย ตรงนี้ยังมีที่ว่างนะ
 :โป้ก1:
ใครขว้างหัวเค้าฟะ  :a14:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: mahama ที่ 19-01-2008 13:17:55
ยุทธอกหักเดี่ยวก็เจอคนใหม่อยู่ดี  :m21: :m21:

ในโลกนี้มีผู้คนให้เลือกตั้งมากมาย :m23: :m23:

มาต่อไวๆนะครับ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 22-01-2008 14:06:46
โถๆ น้องยุทธ  :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 24-01-2008 10:59:02
 :a11:ยุทธ์สู้ๆนะ :m4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (เอาข่าวไอยุทธมาฝากครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 24-01-2008 16:43:43
เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  ผมเพิ่งจะทำใจได้เลยเอามาเล่าเป็นอุธาหรณ์นิดหน่อย



/////////////////////////////////


เลิกงงานเวลา 5 โมง พี่ลมก็ขับมอไซค์โดยมีผมซ้อนท้ายมุ่งตรงไปยังร้านค้าที่ข้างโรงงาน เหตุผลเหรอครับ หามะเร็งให้ตับไง   ผมก็บ่น ๆ ให้พี่ลมใหญ่าเรื่องกินเหล้ากินเบียร์นี่  อยากตายไวรึไง ไม่เอานะกลัวผีถ้าจะให้อยู่คนเดียว  แต่ก็คงได้แค่บ่นแหละครับ  ผมพยายมยกเหตุผลร้อยแปดพันประการหวังว่าพี่ลมจะซึมซับมันบ้างแต่เปล่าเลย สงสัยน้องแอลฯจะเริ่มทำงาน

                    "ถามจริง ที่บอกที่กล่าวเนี้ยะได้ยินบ้างไหม" ผมบ่น

                    "ได้ยินแต่มันออกหูนี่ไปแล้ว"  ไอพี่ลมเอามือแคะหูตัวเองข้างหนึ่งแล้วทำหน้าตาเฉย  เห้อเซ็งกะมัน  ผมเลยเปลี่ยนวิธีการ  หนามยอกตั้งเอาหนามบ่ง  คือ เราไม่ได้บ่งหนามให้กันหรอกนะครับ  มันเป็นแบบนี้

                   "เอ้าเพ่ชนแก้ว"  ผมยกแก้วปะทะกับของใครอีกคนที่นั่งร่วมวง

                   "เอ้า ชน "  เสียงขานรับกลับมาอย่างพร้อมเพรียง

                    “จะกลับยัง วันนี้ต้องซักผ้านะ” พี่ลมกระซิบถามผม    เรื่องของเมิงกรูไม่ได้ซักด้วยนิ  เห้อ ๆ

                    “ยาง  อีกนิดนา  เด่ยวค่อยซักก็ด้าย”    มองค้อน ๆ  พี่ลมแล้วผมก็ยกแก้วต่อ

                    “งั้นขวดนี้หมดแล้วกลับเนาะ” 

                     “อืม”  ที่จริงผมก็กินไม่ไหวแล้วครับ แค่เบียร์ขวดเดียวผมก็ไปโหลด  ไม่มันพี่ลมมันเล่นทีครึ่งโหลแต่พี่ลมก็คงเมาเหมือนกัน



              เราขอตัวออกจากวงบึ่งรถกลับบ้านผมก็ซบหลังพี่ลมไป   แต่ผมฟื้นแล้วครับไม่ได้เมามากแค่แสดงพฤติกรรมเฉย ๆ (บ้านผมเรียกแสดงกล้าม)
พอถึงห้องผมก็แกล้งไปล้มตัวลงนอนเลย จะบอกว่าขี้เกียจซักผ้าครับ  อิอิ  แผนสูง    เป็นไปตามคาดพี่ลมเอาผ้าไปปั่นและกำชับผมให้ไปอาบน้ำ เสร็จแล้วจะได้มากินมาม่ากัน  แต่ผมก็ยังไม่ยอมจะลุกไปไหน

                                   “ กริ้งงงงงง  ๆ      ๆ ๆ ๆ”   เสียงโทรศัพท์ผม (เอาเสียงนี้แหละเข้าใจง่ายดี )

                                   “ฮัลโหล……..ตื้ด  ๆ    ๆ ..”   เซ็ง  ใครว่ะยิงเบอร์มา  ผมเลยกดดูเบอร์ล่าสุด แต่จำไม่ได้ว่าเบอร์ใครแล้วผมก็โทรกลับ
                                   “ครับ  โทรมามีไรป่าวครับ”  ผมกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์

                                  “สบายดีไหมครับ”  เสียงตอบกลับมา  นี่มันเสียงไอยุทธนี่

                                  “ครับ  สบายดี  แล้ว......ใครพูดครับ” ผมแกล้งถามกลับไป
                                   “ผมยุทธครับ  ตอนนี้ผมกลับมาอยู่บ้านแล้ว”   ผมว่าไอนี่มันยังไม่แน่ใจว่าเป็นผมแน่  ๆ

                                  “เหรอครับ แล้ว จะลงมาหางานทำไม” 

                                  “ครับผมว่าจะไปหางานทำอยู่อ่ะครับ”  ไม่รู้ครับว่ามันจะไปหางานทำที่ไหน ไม่ได้ถาม   รู้แต่ว่าตอนนี้กลิ่นหอม ๆ ของต้มยำกุ้ง (มาม่า) ลอยมาเตะจมูกผมแล้ว   สงสัยจะเป็นพี่ลมต้มเอาไว้

                                   “แล้ว............เอ่อ .......ยุทธ มีแฟนยังครับ”  ตรงประเด็นขี้เกียจอ้อมค้อมเพื่อชาวเล้าเป็ด

                                   “มีแล้วครับ”  เอ่อะ  ยอมรับครับว่าฟังครั้งแรกมันหวั่น ๆ  แต่ก็ดีใจกับมันแหละครับ
                                   
                                    “แต่เลิกแล้วครับ  เขาไปมีผู้บ่าวใหม่แล้วครับ”  เห้อ ๆ   ไอยุทธ แฟนทิ้ง  ๆ  ๆ    55  ล่อเล่นครับ

                                    “เหรอครับ   อืมตอนนี้ผมเมา ง่วงแล้วครับ”  ผมบอกมันไม่รู้จะพูดไรต่อ และเกรง ๆ พี่ลมด้วย

                                     “ครับงั้นก็นอนนะครับ  แล้วอย่าลืมโทรมาหาผมอีกนะ”  หือ   สรุปแล้วมันรู้ไหมเนี่ยะว่าเป็นผม



                                   ผมวางสายและลบเบอร์โทรออกทันที  กำ รู้สึกไม่ค่อยดีเลย   แล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจนได้

                                      “คุยกับใคร”  รางร้ายมาเยือนแล้วครับ 

                                       “เพื่อน”  แล้วผมก็หลับตาต่อโดยมือยังกำโทรศัพท์

                                       “ดีเนาะหลอกให้กรูไปต้มมาม่าแล้วเมิงไปแอบคุยกับคนอื่น”  ชิหายความคิดมันดูไม่เข้าท่าเลย

                                       “.........................”  ไม่อยากคุย   พี่ลมก็คงกรึ่มๆ อยู่เหมือนกัน

                                       “เออ  ไปเลย เมิงอยากคุยกับใครก็ไป  อยากเอากับใครก็ไปเลย”  พี่ลมพูดอย่างเสียงดัง ผมก็เริ่มฉุนแล้ว มันดูถูกผมเกินไป  แล้วยังมีความคิดงี่เง่าแบบนี้อีก  สงสัยอะไรแล้วไม่ยอมถาม ผมเลยนอนคว่ำหน้าผ้าคุมโปงไปเลย
 
                                        “ไอ้เอ๋ใช่ไหม ไปเลย ไปเอากะมันเลย”  ผมโกรธไอพี่ลม ที่ตอนนี้ผมไม่อยากแม้จะมองหน้าคิดไปได้ยังไง  ว่าผมจะโทรหาไอเอ๋   ออ  ไอเอ๋คือพนักงานที่บริษัทเดียวกับเรา ผมเคยชมมันให้พี่ลมฟังว่ามันหน่ะหล่อ หุ่นเซ็กซี่ดี แถมขาวน่ากินแค่เนี่ยะผมผิดด้วยเหรอ (ยังไม่รู้ตัวอีก)   ไอพี่ลมเอามาคิดเป็นตุเป็นตะไปได้

                                         “อย่ากวนได้ไหม  บอกว่าโทรหาเพื่อนไง”  รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ผมถูกหยิบไป  จากคนที่หย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ


                                         “บอยพี่ผิดมากเลยใช่ไหม”  พี่ลมพูด  แล้วก็พูดอย่างนั้นอยู่ซ้ำ ๆ  แต่มันทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมามอง

                                      “ข้อความนี่ส่งให้ใคร” ไอพี่ลมถามผม  นี่มันยังไม่เลิกบ้าอีกเหรอ

                                       “เพื่อน”   

                                       “ดูแลตัวเองนะ  คิดถึง  นี่เมิงส่งข้อความแบบนี้ให้เพื่อนเหรอ เพื่อนเอาอ่ะดิ”  แมร่งเลือดขึ้นหน้าข้อความแบบนี้ส่งให้เพื่อนไม่ได้รึไง  ผมก็ได้แต่อดกลั้นในใจไม่ได้โต้ตอบอะไรไป  นอน ๆไปซะมันคงจะดีเอง  ผมรู้ว่าถึงพูดอะไรตอนนี้เค้าก็คงไม่รับฟัง  จากแค่ผมคุยโทรศัพท์มันโยงใยไปถึงคนอื่นได้อีกถึงสองคน  และคิดเกินเลยไปได้มากขนาดนั้น
       
                                        “ไม่รู้แล้วอย่าพูดได้ไหม”  แล้วทำไมผมไม่เล่าเรื่องต่างให้พี่ลมฟังหละ เพราะผมมีไรปิดบังอยู่นะสิ


                                       พี่ลมล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมหลังจากที่เขาปั่นผ้าตากและอาบน้ำเสร็จแล้ว  ส่วนผมยังคงนอนไม่หลับและคิดว่าพี่ลมคงจะใจเย็นขึ้น ถ้าตอนนี้เขาถามอะไรผมก็คงจะเล่าให้ฟัง  ผมจึงเอื้อมมือไปควานหามือพี่ลมแต่......ผมโดนสะบัดมือออก  ความน้อยเนื้อต่ำใจเริ่มเกาะกุม ผมจึงคิดแผนต่อไป

                                       “พี่ลม  เค้าปวดหัว  ปวดมากด้วย”  น้าน มารยาผม  รู้ดีว่ายังไงผมก็ต้องเป็นคนง้อเค้าอยู่แล้ว   คงไม่พลาดแน่นอน พี่ลมรู้ว่าผมมีอาการเหมือนไมเกรน อยู่ประจำ

                                        “ปวดหัวเมิงก็ลุกไปหายากินดิ อย่าทำสำออย”  ฮืม   แมร่งรู้ทันกรูอีก  ถึงกรูสำออยก็จะไม่ดูกรูบ้างรึงาย 

                                        “ปวดจริง ๆ  นะ  ปวดมากด้วย” แถไปจนได้  แต่ผมว่าผมเริ่มปวดจริง ๆ (กรรมตามทัน) มันมึน ๆ  ที่ส่วนขมับด้านขวาก่อนจะรอบบริเวณดวงตา   สักพักผมรู้สึกว่าน้ำตาผมเริ่มไหล  ทั้งปวดหัวทั้งน้อยใจ (นายเอกสุดฤทธิ์) ผมพยายามขยับตัวเข้าหาพี่ลมแต่พี่ลมกับเดินหนีผมออกนอกห้องไป.....ฮือ  ๆ  ๆ  ผมร้องหนักกว่าเดิม    พี่ลมกลับเข้ามาในห้องพร้อมยาพารา 2 เม็ดและแก้วน้ำ

                                         “แดรกซะ กรูรำคาญ”  พี่ลมเอายามายัดใส่ในมือผมแล้วก็ขึ้นเตียงนอนต่อ   

-เออก็ได้กรูแดรกก็ได้ กรูรู้อยู่หรอกว่าเมิงอ่ะปากมอมพูดไม่เข้าหู แต่กรูก็รู้ว่าเมิงก็ห่วงกรูเหมือนกันแหละ และอีกอย่างนะกรูก็รำคาญตัวเองเหมือนกัน เป็นเอี้ยไรไม่รู้............. เซ็ง..”

//////////////////////////////////////////////////////////////
หมายเหตุ :
ตอนนี้ เรื่องยังไม่จบนะครับ  พรุ่งนี้ผมจะต้องตามง้อไอพี่ลมอีก  ก็มีหลายเรื่องแหละที่ผมยังไม่ได้เล่าความจริงให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องไอยุทธ  และเรื่องข้อความที่ผมเขียนส่งให้น้องบอย   น้องบอยเป็นใครนะเหรอครับก็คือคนที่เคยเอายาแกไข้มาให้ผมในช่วงต้นเรื่องที่ผมเล่าอ้างว่าเป็นแฟนเพื่อที่จะให้แฟนเก่าผม(ผู้หญิง) ตัดใจจากผมซะเมื่อตอนที่เราเลิกกัน  ผมยอมรับว่าผมตามหาบอยมา 3 ปีตั้งแต่เราจากกันก่อนที่ผมจะเจอพี่ลม ถึงตอนนี้เราก็คงเป็นแค่ได้พี่น้อง

                                 “บอยพี่ผิดมากใช่ไหม”   นี่เป็นข้อมความที่ผมส่งให้บอยหลังจากที่ผมส่งเรื่องราวของผมกับพี่ลมให้บอยได้อ่านในเวปนี้  ผมก็แค่อยากถามว่าผิดไหมที่ผมรักคนมีเจ้าของ

     ปล. การดื่มสุราทำให้จิตปั่นป่วน       o2                             
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 24-01-2008 16:58:23
^
^
^
^

จิ้มก่อน เด่วไปอ่าน
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 24-01-2008 17:09:16
น้องยุท อกหักซะแระ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 24-01-2008 17:19:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 24-01-2008 17:30:18
เข้ามารอความคืบหน้า

หุหุ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: Pztor ที่ 24-01-2008 17:53:37
 :a11:
พี่ลม อย่ายอม อิอิ งอนให้เข็ดเลย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 24-01-2008 18:16:56
อีกอะไรทำไมไม่เล่าให้พี่ลมฟังอ่ะ เดี๋ยวเข้าใจผิดกันไปใหญ่  :เฮ้อ:

พี่ลม ทำโทษให้เล่าให้หมดเลย เปิดใจคุยกันเลย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 24-01-2008 19:28:57
กลุ้มแทน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 24-01-2008 21:34:35
มารอตอนง้อพี่ลม

 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 24-01-2008 22:11:28
หุหุ

ชอบมากมายกายกอง


 :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-01-2008 23:51:31
ว่าไปพี่ลมก็จริงจังดีนะ
อย่าไปทำให้ตัวเองเดือนร้อนเลย
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 25-01-2008 09:57:55
เปิดอกคุยกันดีกว่านะครับพี่ค้างคาแบบนี้มันจะลุกลามนะครับ :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 25-01-2008 17:43:58
อ้างถึง
ปล. การดื่มสุราทำให้จิตปั่นป่วน       

เห็นด้วย แต่อยากป่วนอ่ะ  :m23:

เฮ้อ ... ชีวิตคู่ก็อย่างนี้แหละ ง๊องแง๊งงี่เง่า สุดท้ายก็เข้าใจกัน แต่กว่าจะเข้าใจกันนี่ ....  o12
(แอบบ่นเรื่องของตัวเอง มันก็แค่พี่กะน้องอะนะ แต่ไมทะเลาะกันแต่ละที ยังกะผัวเมียก็ไม่รู้)

ว่าแต่ ... เป็นกำลังใจให้นะ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็สารภาพเรื่องเวปนี้ไปเลย แล้วให้ไอ้พี่ลมมันมาอ่าน (รึว่าสารภาพกันไปแล้วฟะ)

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: chanchouw ที่ 29-01-2008 14:22:43
ถ้ามันเป็นแค่นิยายก็คงดี

ขอโทษนะครับที่สวนกระแส

 :m15: :a6: :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 29-01-2008 14:42:38
เงียบเลย
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 30-01-2008 14:25:53
มาเมนต์ก่อนอ่านค๊าบบ
อ่านแร้วเด๋วมามเนต์อีกทีงับ
ไปแระๆ :oni1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: Dentyne ที่ 02-02-2008 21:57:48
 :m30: “ปวดหัวเมิงก็ลุกไปหายากินดิ อย่าทำสำออย” :m30:

ปากมอมจริงๆ เหอๆ กว่าจาอ่านรวดเดียวจบตาลายโคตรๆ o2 o2
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 20-02-2008 10:22:02
 :c1: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 21-02-2008 16:23:30
 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: Chiyapa ที่ 28-02-2008 12:17:50
อ่านรอบเดียวจบ

เล่นเอามึนเลย o2

แต่ไงๆเรื่องนี้ก็ Happy Endind ใช่มะ:pig3:

รักกันอย่างนี้ตลอดไปนะคะ :L1:

แล้วก็ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้รู้ค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: succubus ที่ 09-03-2008 18:16:05
เรื่องสนุกดีนะ อ่านแปบเดียวจบเลย อิอิ

ป.ล. ไปรีบคุยกันนะ ถ้าเล่าให้ฟังพี่เค้าน่าจะเข้าใจแหละ พี่เค้าหึงอ่ะ งุงิ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 06-07-2008 10:09:32
ชอบมากๆไมไม่มาต่ออ่ะค่ะ :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: jobisuka ที่ 09-07-2008 12:58:39
 :oni2: หนุกหนานมากมาย อ่านสองวันจบเรย หุหุ

 :oni3:กลับมาเล่าหน่อยจิ ว่าง้อพี่ลมได้ความไงมั่ง หุหุ  :a3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: jobisuka ที่ 05-08-2008 10:03:16
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ  :a11: :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 05-08-2008 21:24:57
 :oni1: ดีใจที่ได้อ่านอีก  :m1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 06-08-2008 10:11:50
สงสัยจะหมักเรื่องไว้ เอาไปทำยาดอก  :a6:

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: jobisuka ที่ 26-08-2008 09:29:58
 :110011: :เชิป2: บ่มได้ที่ยางงง
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 09-12-2008 23:36:26
แวะเข้ามาเม้นท์ สงสัยคนแต่งไม่มาแล้วมั้ง

เรื่องเหมือนจะจบแล้วนะ แต่ทิ้งท้ายเหมือนไม่จบอ่า

อ่านตอนแรก ก็งงๆ กับเนื้อเรื่องเหมือนกัน แต่หลังๆ

รู้สึกเนื้อเรื่องไหลลื่นกว่าเดิม น่าติดตาม ยังอยากอ่านอีกอ่ะ

ถ้าแวะมาก็มาลงให้อ่านมั้งก็ได้นะ

..............  :pig4:.............
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง (ไม่น่าเลยยุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: otaku_y ที่ 11-12-2008 14:11:30
 :sad4:

ไม่มาต่ออีกเหรอคะ
อยากอ่านอีกง่า

 :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง " โอ้ .....กระทู้ยังอยู่.
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-02-2009 15:43:28
หากระทู้ตัวเองเพิ่งเจอ  นึกว่ามันหดหายตายจากเล้าไปแล้ว ..............คิดอีกทีก็....เห้อ...ปีกว่า ๆ แหนะ   มัวแต่ตามง้อคน และวนเวียนกระทู้อื่น  ไม่รู้จะมีใครจำผมได้บ้างรึเปล่าหนอ  :o12: 
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 12-02-2009 17:19:09
^
^
 :mc4:

เจอกระทู้ตัวเองแล้ว ง้อคนเสร็จแล้ว

แล้วอย่าลืมมาต่อนะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 12-02-2009 17:20:54
โหหหหหห เรื่องนี้  แอร๊ยยยยย เราก้อ่าน จำได้ๆๆ

 :z3:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 13-02-2009 18:44:37
หาเจอแล้วก็มาต่อเลยนะค่ะ อยากอ่านๆ :L1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 15-02-2009 15:27:50
^

^

^

 :z13: จิ้มๆๆๆๆๆ



 :a5: โหคุณพี่ ตามง้อเปนปีเลยหรออออออออออออ



 :mc4: กลับมาซ้าที ยินดีต้อนรับกลับนะคะ หุหุ +1 ไปเลยยยยยยยยยยย




 :z2:จำด้ายยยยยยยยยยยยยยยยย รอลุ้นอยู่ อิอิ




 :กอด1: คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ






 :L2: อย่าลืมมาต่อตอนง้อนะคะ อิอิ



หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 22-02-2009 17:49:59
หากระทู้ตัวเองเจอแล้วควรทำอารายยยยยยยยยยต่อคะ    o18
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: BakaDeer ที่ 27-04-2009 07:12:43
ชอบเรื่องนี้โคดดดด

น่ารักอ่ะ ><

มาลงต่อนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 28-04-2009 20:37:23
 :110011: :z7:
ร่วมด้วยช่วยกัน ยกมือด้วยคนนึง
ว่า....อยากอ่านต่อ
 :L2: ถ้าว่างแล้ว และอยากเล่าต่อ
ก็เข้ามาเล่าต่อ เหอะนะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: mk_restaurant ที่ 19-05-2009 00:36:19
ขอบคุณคร๊าบบบบ
แหะๆๆๆๆ o18
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 27-05-2009 18:48:01
โฮก เรื่องนี้สนุกจัง โรแมนติกด้วย แบบว่าเรื่องค่อยๆ คืบแล้วมันก็ค่อยตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนจบนี่ดิ กระชับมาก ยังไงตอนพิเศษอย่าลืมมาต่อนะคะ ง้อกันสำเร็จหรือยัง

อ่านแล้วมีอะไรให้ฮาได้ตลอด เหตุการณ์ไม่ชวนฮา แต่สำนวนเล่าง่ายๆ ของพี่พงษ์นี่แหละทำให้เรื่องนี้สนุกจัง
ขำจังตอนฉากที่พี่พงษ์เลือกขึ้นมอเตอร์ไซท์ไปเที่ยว(ระหว่างพี่ลมกับพลอย)
สำนวนเล่าเรื่องกวนดี
บวกเป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วมาต่ออีกนะคะ เขียนเรื่องใหม่เลยก็ยิ่งดีเลย แล้่วจะตามอ่านแน่นอน


ปล...เคยทำงานอยู่ในนิคมที่พี่พงษ์ทำงานน่ะ โรงงานเกาหลีด้วย โอ้ว อะไรจะบังเอิญปานนี้ รู้สึกในนั้นจะมีเกาหลีไม่เยอะนะ แต่โรงงานที่พี่พงษ์พูดถึงก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่ามันที่ไหน
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 28-06-2009 20:47:06
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 22-10-2009 18:18:15
 :o8:   เข้ามาแจ้งข่าวสารกันสักหน่อยครับ   ถ้ายังจะมีใครหลงเข้ามาที่ทู้นี่หนะน่ะ   


     "โหล  ๆ   โหล เทส   อ่ะประกาส  ๆ   ขอเชิญญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน  ร่วมเป็นเกลียด เอ้ยเป็นเกียรติในงาน

อุปสมบท ของไอคุณลมในวัน เสาร์ที่  31 ตุลาคมนี้ ที่บ้านเลขที่  .....................วัด..................และหลังจาก

ที่ทำการอุปสมบทเสร็จสิ้นแล้วเชิญร่วมเป็นสักขีพยานในงานมงคลสมรสระหว่าง    นายยุทธ  :กอด1: นายพงษ์ 

ต่อที่บ้านเลขที่เดียวกับข้างบน......เห้อ  ๆ      อ้ากกกกกกกกก...........และก็จะต่อด้วยงานบำเพ็ญกุศล  นายพงษ์ ที่วัด

เดียวกัน  :m15:


                    "ไม่   ไม่    ไม่ใช่อย่างงั้น"  จิตตกครับ คิดไปไกลเชียว     แค่จะมาแจ้งข่าวว่า ไอพี่ลมของกระผม จะบวช

ในวันที่ 31 นี้อ่ะครับ  นาน 15 วัน  (สาธุ ขอให้มันซึ้งในรสพระธรรมแล้วบวชอย่าได้สึก..ฮิ...ฮี้ว....)
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 22-10-2009 18:26:17
เข้ามาอนุโมทนาด้วยคน ว่าแต่ว่าหาคนถือหมอนได้รึยัง หรือว่าคุณพงษ์
จะเป็นคนถือเอง ..... อยากให้มาลงนิยายต่อ จะได้อัพเดทข่าวสารของ
แต่ละคนในเรื่องว่าเป็นไงกันบ้าง...คิดถึง..... :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: ANA ที่ 22-12-2009 02:42:53
โหยๆไม่รู้ว่ามีอัพเดท  อนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ  :m5:
แต่ป่านฉะนี้คงจะสึกมาเรียบร้อยแล้ว  :m23:
ว่าแต่คุณพงษ์ไม่บวชมั่งเหรอ หรือบวชไปแล้ว  :m28:

มีไรคืบหน้า หรือจะต่ออันที่แล้ว เข้ามาเล่าให้ฟังบ้างก็ดีนะคะ  :m13: รออยู๋

Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ  :z7:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: autthawat ที่ 26-03-2010 05:30:01
 o13 หนุกหนานขอบคุณคับ o13
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-04-2010 13:46:44
 :impress2:
คิดถึง..กลิ่นยาดอง

ตอนนี้ไอ่พี่ลมก็สึกออกมาแล้ว
พงษ์จะไม่มาเล่าต่อสักหน่อยเหรอ
หลังจากพี่ลมสึกแล้ว  :pighaun: ฉลองกันอะไรเป็นยังไง

 :z2:ติ๊ดชึ่งๆๆๆ ตะแหน่วๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 02-04-2010 02:29:48
 o18 ร่วมอนุโมทนาสาธุนะคะ พี่พงษ์ และ พี่ ลม คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากมายค่ะ







 :กอด1:





หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Isuru ที่ 25-04-2010 21:56:45
อ่านจบแล้วค่ะ

รักกันแบบไม่หวาน

ก็ดูมีรสชาติไปอีกแบบ

ตอนแรกอ่านตัวละครเยอะมาก

เนื้อเรื่องก็ยืดเยื้อแต่ตอนหลังๆดูกระชับดีค่ะ

ก็ลุ้นว่าใครกันที่จะมาครองหัวใจของพี่พงษ์

สุดท้ายก็พี่ลมนี่เอง

ขอบคุณสำหรับเรืองราวความรักที่นำมาถ่ายทอดให้ฟังนะคะ

รักกันแล้ว ก็ประคองความรักกันไปตลอดนะคะ

 :L1: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 01-05-2010 21:32:50
ชื่อเรื่องก้อกินขาดแล้วเพ่
กร๊ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 02-05-2011 01:48:02
อ่านจบแล้วครับ

สุดท้ายก้อลุ้นอยู่แล้วว่าเป้นพี่ลมที่ได้หัวใจของพงษ์ปะ

กว่าจะฝ่าฝันอุปสรรค กว่าจะได้กัน กว่าจะได้รักกัน

เป็นความรักที่ไม่หวาน แต่ก้อเป็นความรักที่น่าประทับใจดีนะครับ

น้องพงษ์มีแต่คนมาจีบนะเนี่ย  พี่ลมนี้ตามหึงให้ขวับเลย

ขอให้พี่ลม กับ น้องพงษ์รักกันนานๆๆ

ขอให้พี่ลม กับ น้องพงษ์มีความสุขนะครับ

สุดท้ายนี้ ขออนุโมทนา ด้วยคนนะครับ ว่าแต่พี่ลมเนี่ย มีคนถือหมอนแล้วรึยัง แต่ดูท่าคงไมพ้น พงษ์เมียยอดรักของพี่ลมนั้นเอง555

ขอบคุนมากๆๆครับ ที่อุตสาห์เสียสละเวลานำเรื่องราวดีๆๆมาให้ได้อ่านกัน

ขอให้พี่ลม กับ น้องพงษ์ รักกันตลอดไปนะครับ มีความสุขมากๆๆนะครับ

และขอให้น้องพงษ์ง้อพี่ลมให้สำเร็จนะ เอาใจช่วย

สุดท้าย ฝากบอกพี่ลมว่า กลัวเมียแล้วจะเจริญ จริงๆนะเพ่

หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 05-05-2011 07:59:04
เพิ่งอ่านจบค่ะ ^^"

อ่านตั้งแต่เช้าเลยเนอะ 555

อนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 18-05-2011 09:47:17
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 22-05-2011 17:34:54
เดาถูกด้วยแหละว่าใครที่จะได้พี่พงษ์ไป  ฮิฮิ เพราะแอบสงสัยพฤติกรรมอยู่แล้วค่ะ
ขอให้พี่ทั้งสองมีความสุขมากๆนะคะ ถ้าพวกพี่อยู่กันที่ชลบุรี คงจะบางครั้งที่เดินสวนกันบ้างเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆที่พี่มาลงนะคะ  สวัสดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: airiiz ที่ 29-12-2013 16:35:30
หายไปหลายปีเลยพี่พงษ์-พี่ลม เป็นไงกันบ้าง
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 08-02-2014 16:27:58
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 12-03-2014 12:35:52
เป็นเรื่องที่แต่งมาจากชีวิตจริง ทีแรกไม่กล้าอ่าน กลัวจบเศร้า T_T
อ่านมาเรื่อยๆ เรื่องราวชีวิตค่อยๆเข้มข้นขึ้น
มีหลายอย่างให้คนอ่านลุ้นตามไปด้วย
แต่สุดท้ายก็จบด้วยความสุข ฮิ้วววววววว

ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันค่ะ
หวังว่าตอนนี้คงสบายดีกันเนอะ ^^
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-04-2014 09:16:33
ดีใจจังที่มีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้

เพราะอ่านแล้วครบทุกรสชาติเลย
คุณพงษ์เขียนเล่าได้ดีมากอ่านไหลเลย
เนื้อเรื่องก็ดีมาก ขอบอกมีร้องตามด้วยนะ
คุณพงษ์นิสัยน่ารักดีค่ะ ถึงจะเหมือนเจ้าชู้ไปบ้าง
แต่ไอ้พี่ลมนี่สุดยอดเลย เป็นคนที่จริงใจดีค่ะ
ถึงจะขี้หึงไปบ้าง แต่ก็มีเหตุให้สมควรหึง
ไม่รู้ว่าตอนนี้พงษ์กับพี่ลมเป็นไงบ้าง
แต่คิดและหวังว่าทั้งคู่คงจะสบายดี
และยังรักกันเหมือนเดิมนะคะ

ขอบคุณพงษ์ที่มาเล่าเรื่องราวให้ได้อ่าน
ขอบคุณGeTOuTNoWที่แปะลิังเรืีองนี้ไว้ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 27-10-2015 18:59:48
ขอบคุณเรื่องราวๆ น่ารักๆ นะคับ ขอให้พี่2คนรักกันนานๆนะ
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: poppee ที่ 28-10-2015 00:17:27
เพิ่งเข้ามายังไม่ได้อ่านแต่กำลังจะอ่าน ขออนุโมทนาด้วยคนค่าาา(ทันมั้ยหว่า) เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :-[ :mc4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 11-02-2017 08:37:44
อ่านๆก็ลุ้นๆว่าจะได้ลงเอยกับใครสุดท้ายก็เป็นพี่ลม. รักกันนานๆนะคับ :mew1:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-07-2020 10:56:36
โห้ยยชอบบบบบบ ด้วยมันเป็นเรื่องเล่า หลายปีมาแล้ว การจัดบรรทัด เว้นวรรคหรือคำผิดก็ระดับนึงเลย อาจทำให้อ่านยากไปนิด แต่ก็ทนไหวเพราะชอบเรื่องราวหนุ่มโรงงานกับยาดอง 5555 ความสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไป แบบกว่าจะรู้ตัวกว่าจะได้อยู่กัน อารมณ์แบบทั้งอยากจะรักและอยากจะปล่อยเพราะเขามีเมียแล้ว แต่สุดท้ายก็จบแฮปปี้เข้าใจกันดี งื้อออชอบอ่ะชอบบบบ ถ้าเป็นนิยาย เกลาใหม่นี่ใช่เลย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เสน่ห์รักยาดอง"
เริ่มหัวข้อโดย: anue ที่ 13-01-2021 07:07:04
เป็นเรื่องที่น่ารักดี อินมากเพราะทำงานโรงงานที่ชลบุรี 555