อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน  (อ่าน 132362 ครั้ง)

Panny

  • บุคคลทั่วไป
พี่รุ่งสู้ๆ สักวันพี่ยาก็จะเปิดใจ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 13 อยากให้&
«ตอบ #153 เมื่อ04-05-2011 11:14:11 »

14.

   “หลวงพี่แสงฉาน” ..ยกมือพนมทำความเคารพ ก่อนจะเรียกแสงทองให้มาทำความเคารพแล้วบอกให้หญิงสาวไปเดินเล่นตามลำพังก่อน พอแสงทองลับหายไปกับหมู่ชน สุริยาจึงเอ่ยกับหลวงพี่ว่า

   “หลวงพี่สบายดีนะครับ”

   “สบายดี โยมก็ดูสบายดีนะ ตอนนี้ทำอะไร..” สุริยายกมือพนมบอกเล่าเหตุที่เป็นมาและจะต้องเป็นไปอย่างที่รุ่งโรจน์ต้องการ

   “ดีแล้ว ช่วยกันเผยแผ่ศาสนาทางอ้อม โมทนาบุญ..แล้วเรื่องครอบครัว..”

   “ยังครับ ..ดูไปก่อน”

   “ถ้าดูแล้วไม่ดี ไม่ถูกใจ ก็กลับบ้านเรานะ หาคนอยากหมดกิเลสยากเหลือเกิน..” สุริยาไม่ตอบรับคำ..จนกระทั่งสนทนาถามไถ่ถึงกัลยาณมิตรในทางธรรมที่เคยรู้จักร่วมกัน..แล้วจึงเอ่ยถามเรื่องที่ค้างใจ

   “หลวงพี่ครับมีเรื่องจะถาม คือกรรมอะไรครับทำให้ต้องมีรักร่วมเพศ แบบชายรักชาย หญิงรักหญิงครับ” หลวงพี่นิ่งไปสักพักก่อนจะตอบว่า..

   “หลวงพ่อที่หลวงพี่นับถือท่านบอกไว้..กรรมกาเม คนเคยเจ้าชู้ ในชาติที่ยังเป็นชายไว้มากกว่าชาติที่เป็นหญิง ชาตินี้มาเกิดเป็นหญิงก็จะเป็นทอม ส่วนคนที่เจ้าชู้ในชาติที่เป็นหญิงเท่า ๆ กับชาติที่เคยเกิดเป็นผู้ชาย ชาตินี้มาเกิดเป็นหญิง จะเป็นดี้ ถ้าเกิดเป็นผู้ชายก็จะเป็นเกย์คิง ส่วนผู้เคยเจ้าชู้ในชาติที่เกิดเป็นหญิงไว้มาก มาชาตินี้มาเกิดเป็นชายก็จะเป็นกะเทย มีจิตใจรักผู้ชาย ก็ขึ้นอยู่กับเศษกรรมหรือส่วนกรรม ระยะเวลาของชาติที่ได้เกิดไปแล้ว...ยากที่จะจำแนก”

   คนฟังตรึกตรองตามด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ

   “จำได้นะ คนเรารวยมากน้อยใช้ของประณีตหรือไม่ประณีต จากการให้ทาน สวยหล่อเรื่องเพศบริสุทธิ์หรือไม่ มาจากการรักษาศีล...ส่วนปัญญามาจากการเจริญภาวนา เข็มทิศในการมีชีวิตอยู่ก็มีอยู่กับตัว คงเอาตัวรอดได้ ถามไปทำไม”

   “มีคนรู้จักกันเขาเป็นแบบนั้นถามมาน่ะครับ” ก้มหน้าตอบ ด้วยโกหกพระนั่นเอง..

   “ถ้าหักใจให้เลิกเจ้าชู้ มากรักหลายใจไม่ได้ ชาติหน้าก็จะแย่กว่าเก่า..เคยฟังอดีตชาติพระอานนท์ใช่ไหม อดีตชาติเคยเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน พอตายไปแล้วตกนรก ขึ้นมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ยังถูกกัดอวัยวะ ถูกตอนฯ..เอาไว้วันหลังนะ หลวงพี่มีหนังสือมีเทปหลวงพ่อจะส่งไปให้..เอาที่อยู่มา..เอาเบอร์โทรศัพท์มา มีอะไรดี ๆ จะส่งไปให้”
   สุริยาส่งกระดาษซึ่งจดที่อยู่และเบอร์โทรให้พร้อมกับพับแบงก์ห้าร้อยสอดเข้าไปด้วย..

   “ถวายค่าพาหนะกับค่าอาหารระหว่างเดินทางครับ..”

   หลวงพี่รับปัจจัยไว้แล้วยกมือให้พร

   “ขอความปรารถนาของโยมที่เป็นบุญเป็นกุศลจงสำเร็จโดยง่าย ให้บุญรักษาสุขกายสุขใจ..เอ้าไปเถอะอย่าปล่อยให้อีนางรอนาน ..”

   
   รถบัสประจำทางวิ่งถึงหมอชิตในเวลาเย็น สุริยาลังเลที่จะทำหน้าที่สุภาพบุรุษด้วยทิศทางกลับบ้านตนกับแสงทองคนละทาง..หากดีที่หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาก่อนว่า..

   “หนูกลับเองได้ ไม่มีปัญหาเพราะซอยมหาดไทยพระอาทิตย์แทบไม่ตกดินอยู่แล้ว”..

   เมื่อแสงทองแยกไป เขาก็ต่อรถไปลงนวนคร..พอรถแล่นมาถึง..ก่อนจะข้ามสะพานลอยเข้าซอย สุริยาก็ได้แวะไปหาพี่สมใจ บอกเล่าความเป็นมาเป็นไปในการที่เพื่อนคนหนึ่งจะมาร่วมทุนทำทัวร์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย พี่สมใจปลาบปลื้มยินดีกับความสำเร็จของน้องชาย...

   ในเบื้องต้นคงยังต้องใช้ สถานที่แห่งนี้จดทะเบียนขอใบอนุญาต...พี่สมใจว่าไม่มีปัญหา...เมื่อฟังสาวอ้อยบอกเล่าความคืบหน้าเรื่องทริปลพบุรี ก็หายใจคล่องอีกครั้ง ถ้าเต็มคันก็กะรายได้ประจำเดือนได้ หากยังขาด ก็รู้ว่าจะมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่..แต่ถ้าเป็นทัวร์ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อไหร่เมื่อนั้นเขาจะสู้ให้ยิบตา..จะวิ่งหาคนไปรอบละหลาย ๆ คัน จะวางแผนโฆษณาอย่างที่ได้ปรึกษากับแสงทองไว้เมื่อครู่..

   “ทำใบปลิว แจกตามบ้านกลุ่มเป้าหมาย ทัวร์ของเราเน้นคนที่ฐานะปานกลาง กับกลุ่มคนแก่อยู่บ้านกินบำนาญ เน้นย่านใดย่านหนึ่งไปก่อน..ส่วนวัยหนุ่มสาว คงต้องปรับอีกนิดจึงจะน่าสนใจ...และเราต้องทำให้ทัวร์วัดของเราน่าสนใจ ด้วยเด็กกะโปโลสองคน กำลังเล่นกับพระศาสนา”

   เมื่อรถมอเตอร์ไซค์แล่นถึงบ้านป้า พอก้าวลง ..รถเก๋งสีดำก็ เบรกเอี๊ยดต่อท้ายในทันที..สุริยาถอนหายใจออกมา ไม่อยากเผชิญหน้ากับรุ่งโรจน์ในเวลานี้ ด้วยยังปรับใจตนไม่ได้นั่นเอง

   “ขึ้นรถ” เขาเปิดประตูมาออกคำสั่ง..

   “ผมเพิ่งกลับมายังไม่ได้เข้าบ้านเลยจะให้ไปไหนอีก..” ทำสีหน้ายิ้มแย้มปกปิดความผิดที่ก่อไว้..
   “ผมบอกให้ขึ้นรถเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงของรุ่งโรจน์จริงจังจนสุริยาต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้น พอรถแล่นออกจากซอย สุริยาก็รู้ที่หมายของเขา

   คงไม่พ้นที่คอนโด

   “ทำไมไม่ชวนผมไปด้วย เห็นผมเป็นอะไร”..น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นน้อยเนื้อต่ำใจ.. จนสุริยาต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง..นึกอยากจะบอกความรู้สึกนึกคิดของตน แต่เขาก็ยังไม่ได้ล้ำเส้นจนต้องร้องโวยวาย   

“ผมเกรงใจคุณ” บอกตามตรงแต่ไม่หมดความจริง..

   “ผมบอกแล้วไง เรื่องของคุณก็คือเรื่องของผมด้วย ทีหลังไม่นะครับ จะไปไหนไกล ๆ บอกผม ถ้าผมว่าง ผมยินดีพาคุณไปทุกที่..อีกอย่างผมก็อยากไปเที่ยวกับคุณด้วยแหละ ไปแล้วสบายใจดี..คุณอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับสัมภาษณ์ผมหรือยัง..”

   เมื่อรุ่งโรจน์เอาน้ำเย็นเข้าลูบ สุริยาจึงเย็นตามโดยการพยักหน้าตอบรับ

   “จัดโปรแกรมไหว้พระธาตุเจดีย์ทั่วภาคเหนือให้ผมหน่อย ผมนึกอยากจะไปทุก ๆ ที่ แบบในหนังสือในห้องคุณเลยนะ”

   “คุณนี่..” สุริยาทำหน้าไม่พอใจเมื่อรู้ว่ารุ่งโรจน์เข้าไปยุ่มย่ามในห้องยามเขาไม่อยู่บ้าน

   “ก็คอนโดผมก็เหมือนบ้านคุณ แล้วทำไมห้องคุณจะเป็นคอนโดผมไม่ได้ ..” เมื่อเห็นว่าเขาขับรถขึ้นยูเทิร์น สุริยาจึงรีบถาม..

   “แล้วนี่จะพาผมไปไหน..”

   “นั่งไปเฉย ๆ ถ้าถึงแล้วจะบอกเอง..ถ้าง่วงก็ปรับเบาะหลับไปเลยก็ได้นะ..จะเปิดเพลงพี่เบิร์ดให้ฟังเบา ๆ ..”
   รุ่งโรจน์พูดจบ สุริยายังคงนั่งตัวแข็งทื่อมองข้างทาง

   “ผมยังไม่ได้ทำเรื่องจดทะเบียนเลยนะครับ กลับบ้านเถอะ”

   “พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เที่ยวดีกว่า คุณบอกเองไม่ใช่รึ ชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ต่อไปนะผมจะพาคุณไปเที่ยวทุกที่ ที่คุณอยากไป หรือไม่ก็ที่ผมอยากไปเอง..โอเค..”..

   สุริยาไม่ตอบ แต่ปรับเบาะลงเป็นเอนนอนหลับตาด้วยความอ่อนล้าสักพักก็ได้ยินเพลง ‘คิดถึงทุกเวลา’ ของพี่เบิร์ดที่อีกคนจงใจเปิดบอกเล่าความในใจ...

   ‘จะอยู่คนเดียว หรือจะเดินกับใคร ก็อุตส่าห์มีใจคิดถึงเธอ จะตื่นจะนอน เช้าจนเย็นก็ยังเห็นหน้าเธอทุกครั้งเลย ฟังเพลงทุกครั้ง ฉันได้ฟังเมื่อไหร่ ก็ส่งดวงใจเหมือนเคย จะอ่านหนังสือเห็นเธอลอยผ่านมาทุกทีเลย ไม่เคยเว้น เป็นอะไรไม่รู้ เมื่อไหร่ก็มีแต่เธอ เห็นเธออยู่แบบนี้..เป็นอะไรไม่รู้ แต่รู้ว่ามันดี ที่ฉันมีเธออยู่ในหัวใจ..ตลอดเวลานึกถึงเธอเมื่อไหร่ ก็สุขในใจทุกที ก็บอกตัวเอง ฉันช่างโชคดี ที่มีเธอ ให้คิดถึง’

   ยังไม่ทันที่เพลงจะจบ สุริยาก็ชวนทะเลาะโดยการเอื้อมมือไปปิดเครื่องเสียงก่อนจะกอดอกหลับตาพริ้ม..แต่รุ่งโรจน์ก็ไม่ยอมแพ้..พอเสียงเพลงเงียบ เขาก็ร้องขึ้นมาเอง..ทีนี้สุริยาจำต้องเอามืออุดหู..รุ่งโรจน์จึงตะโกนเสียงลั่นรถ..จนสุริยาลุกขึ้นเอามือมาอุดปากคนร้อง..ทีนี้คนร้องจึงเอาปากงับนิ้วนั้นเสีย..พองับแล้วไม่ปล่อย จนสุริยาต้องบอกว่า
   “ยอมแล้วครับ..เปิดเพลงก็ได้ครับ”..

   เมื่อเห็นดังนั้นรุ่งโรจน์จึงปล่อยมือสุริยาแล้วเปิดเพลง “ด้วยรักและผูกพัน” ให้ฟังไปสามสิบรอบ..จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ารีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งในย่านทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2011 07:49:38 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
“มาทำไมที่นี่”

   รุ่งโรจน์ไม่กล่าวว่าอะไร เพียงแต่เอื้อมมือไปที่เบาะหลังแล้วหยิบหนังสือของนายรอบรู้นักเดินทางฉบับจังหวัดนครราชสีมา ปราจีนบุรีและสระแก้ว กับนครนายกส่งให้.

   “สามจังหวัดพรุ่งนี้เลือกเอาจะไปไหนบ้าง..เข้าใจผมหรือยัง..ผมใจร้อนอยากพาคนมาเที่ยวแถวนี้จัง..” สุริยาคว้าหนังสือทั้งสามเล่มมาถือไว้พลันนึกได้ว่า ตนยังไม่ได้ซื้อสะสมไว้....

   พอเห็นสุริยาจ้องหน้า รุ่งโรจน์จึงแก้เกี้ยวด้วยคำพูดที่ว่า..

   “คุณก็ทำบัญชีค่าใช้จ่ายหักจากกองทุนออกมาคืนให้ผมก็ได้นี่..”

   สุริยารู้สึกดี ๆ ที่เขาเข้าไปค้นห้องแล้วยังใส่ใจกับรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้..ดูรุ่งโรจน์ใส่ใจ สนใจ จนเขาคงต้องทำใจ อะไรจะเกิดขึ้นคงต้องยอมเสียแล้ว..
   เมื่อเดินตามรุ่งโรจน์เข้าไปในห้องพัก พบว่าเจ้าตัวกำลังรื้อถุงเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมา..

   “นี่ของคุณ เสื้อกับกางเกงนอนชุดชั้นใน นี่ชุดสำหรับใส่วันพรุ่งนี้” สุริยาเดินมาหยุดดูยี่ห้อของเสื้อผ้าตาก็ลุกวาว หากจะปฏิเสธ เห็นทีรุ่งโรจน์คงไม่ยอม

   “นี่ผ้าเช็ดตัว อาบน้ำนะ แล้วค่อย ๆ อ่านหนังสือ ลำดับดูว่าพรุ่งนี้จะไปไหน..” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็โทรศัพท์สั่งอาหารเข้ามาในห้อง..พอสุริยาออกมาจากห้องน้ำ..อาหารชั้นเลิศสามอย่างมีมาวางอยู่บนโต๊ะมุมห้องพร้อมกับน้ำผลไม้..รุ่งโรจน์ร้องเรียกให้สุริยารีบเข้ามาร่วมวงจัดการ...พออิ่ม..เขาก็เลี่ยงออกไปโทรศัพท์หาใครบางคน เป็นเวลานานแสนนาน พอเห็นอาการของรุ่งโรจน์เป็นดังนั้น สุริยาจึงได้ถอนหายใจอย่างแรง..ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ แต่สมาธินั้นเห็นจะไม่มีเสียแล้ว..

   และค่ำคืนนั้นมือที่เคยก่ายกอด ก็เปลี่ยนมากอดอกตนเองและนอนตะแคงข้างหันหลังให้..เมื่อรูปการณ์เป็นดังนี้ สุริยาจึงเป็นฝ่ายกระสับกระส่ายเสียเอง..แล้วเสียงของนายต้องก็แว่วมาเข้าหู..

   ‘แต่ถ้าครั้งแรกเคยมีสัมพันธ์กับชายด้วยกัน แล้วคิดจะเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องการอยู่อย่างผาสุก จะลำบาก จะหลอกตัวเอง อยากกินในสิ่งที่เคยกิน..’
   อดทนไว้ สุริยาท่องไว้ในใจ..พยายามหาหมวดธรรมมาแก้อารมณ์ไม่น่ารักใคร่พอใจนี่...

   ‘สังขารไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา คนที่เคยนอนกกกอดอบอุ่นสุดท้ายก็จะแห้งเหี่ยวร่วงโรยไป..ไม่พลัดพรากจากกันในวันนี้ เหตุฉะนี้ต้องประสบในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน..สัมมา อะระหัง สัมมา อะระหัง สัมมา อะระหัง..’ หากแต่มันก็เอาไม่อยู่ จึงหันพลิกกลับมา พบว่ารุ่งโรจน์ยังหลับอยู่ในท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ใจจึงเจ็บแปลบสุดจะเกินทน..

   นี่กระมังทุกข์จากรัก..อีกหนึ่งบทเรียนที่เขาต้องก้าวข้ามไปให้ได้..
   


   เสียงไก่ขันเจื้อยแจ้วแว่วมาไกล ๆ บอกเวลาประมาณตีสามหรือตีสี่ คนที่เคยอยู่วัดรู้สึกหนักอึ้งที่ศีรษะด้วยเพิ่งจะข่มตาหลับลงได้..เมื่อดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกาย หวังจะได้ถูกเนื้อต้องตัวอีกคน กลับพบความว่างเปล่า พอหันไปมองจึงได้เห็นว่าไร้เงา ทีนี้สุริยาลุกขึ้นมองไปทางห้องน้ำ ไม่มีแสงไฟ  สุริยาผุดลุกขึ้นมานั่งมองไปรอบ ๆ ห้อง เห็นแสงไฟจากด้านหน้าบ้านพักสว่างไสว จึงย่อง ๆ เดินเข้าไป แนบตามองผ่านผ้าม่านจึงได้เห็น เขาคนนั้น นั่งสูบบุหรี่กอดอกมองฟ้ามองดาวยามราตรีใกล้ร่วงโรย

   เขาเครียดอย่างนั้นหรือ..

   คงกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่เหมือนกัน มันเป็นรักต้องห้ามเสียแล้วนายรุ่งโรจน์..

   เขาก็คงไม่อยากที่จะเป็นอย่างนี้ อาการที่เรียกว่าอย่างไรมันก็ไปไม่ถึง..ตัดใจเสียเถอะอย่าช่วยกันสานถักทอสายสัมพันธ์ขึ้นอีกเลย

   เมื่อบุหรี่หมดมวนรุ่งโรจน์โยนก้นกรองทิ้ง ก่อนจะเปิดประตูกลับเข้ามาดื่มน้ำ ..หายเข้าไปในห้องน้ำ..เช็ดมือกับผ้าเช็ดตัว แล้วล้มตัวลงนอนทอดถอนหายใจ
   ใกล้แค่คืบแต่เหมือนไกล สุดอาลัยกับหัวใจตน เมื่อทางนี้มันไปไม่ได้ ต้องนับหนึ่งใหม่กับคำว่าเพื่อน  เพื่อนเท่านั้น สายสัมพันธ์จึงจะยืดยาว จะไม่ปวดร้าวหากรักพิสุทธิ์ไม่คิดครอบครอง..

   แสงอรุณรุ่งฉาบขอบฟ้า เริ่มต้นอีกหนึ่งเพลาที่ชีวิตต้องหมุนไป..หากแต่สุริยายังหลับตาพริ้ม..คิดอยู่สองจิตสองใจ..รักกับลาร้างไกล เลือกอย่างไหนจึงจะดี..จะทำประการใดหนอจึงจะไม่เจ็บปวดทั้งสองฝ่าย ธุรกิจยังดำรงไว้ เพราะนั่นคือประโยชน์เกื้อกูล
   ยังไม่ทันที่สุริยาจะได้คิดหาวิธี แขนหนัก ๆ ของรุ่งโรจน์ก็มาพาดอยู่สะเอวเหมือนวันก่อน อารมณ์ตัดรักตัดอาวรณ์จึงมลายไปสิ้น..สุริยาหันหลังกลับไปเผชิญหน้า ตาสบตาบอกให้รู้ความนัย

‘รักเธอนะรักเสมอใจ..รู้บ้างไหม ทำอย่างนี้มันเจ็บปวด’

   “เป็นอะไรนอนไม่หลับรึ” รุ่งโรจน์ถามเหมือนแกล้ง สุริยาจึงตอบไปว่า

   “มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย คุณเองก็เถอะนอนไม่หลับเหมือนกันรึ” คำถามนั้นห่างเหินเช่นกัน

   “ก็คุณนอนไม่หลับแล้วผมจะหลับลงได้อย่างไร..สุริยา..รู้ไหม..คือผม..”

   ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรสุริยาก็ตัดสินใจลุกออกจากเตียง..หนีเข้าห้องน้ำปิดประตูขังตัวเองแล้วก็ร้องไห้ ร้องไห้กับชีวิตด้านที่มันมืดมนของตัวเอง
   เขาเป็นเกย์ เขารักผู้ชายที่อยู่นอกห้องอย่างแน่นอน..รักมากจนผู้หญิงอย่างแสงทองก็ไม่อาจเยียวยา...

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
พอเดินออกมาก็พยายามที่จะปกปิดสายตาช้ำแดงโดยพยายามยืนหันหลังให้เมื่อแต่งตัว..และรุ่งโรจน์เองก็ทำทีไม่สนใจกับรายละเอียดเล็กน้อยของสุริยา เพียงแต่พูดไปอีกทางหนึ่งว่า

   “สระผมอย่างไรให้แชมพูเข้าตาได้ โตจนป่านนี้มันน่าตีจริง”

   เมื่อรู้ว่ารุ่งโรจน์รู้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ สุริยาจึงได้แต่แอบยิ้ม..ก่อนจะถามคืนว่า

   “คุณมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า”

   รุ่งโรจน์ไม่ตอบในทันที เพียงแต่นั่งดูสุริยาสวมเสื้อกางเกงที่เขาซื้อให้เมื่อวาน

   “คุณเคยมีความรักไหม..” เมื่อได้ยินคำถาม หวีแทบหลุดจากมือสุริยาทีเดียว

   “ถ้าผมตอบว่าไม่เคยมี ...แต่..กำลังมี..คุณเชื่อไหม..” สุริยาตอบกำกวม

   รุ่งโรจน์จึงถามต่อว่า

   “ถ้าคุณรักใครสักคนคุณจะทำอย่างไร กับเขาคนนั้นบ้าง”

   สุริยาคิดไปพลางจัดของลงกระเป๋าและถุงพลาสติกที่ใส่เสื้อผ้ามา..ครุ่นคิด..ถ้าเขารักใครสักคน..เพียงคนเดียว..

   “ถ้าผมรักใครผมก็อยากรักเขาคนเดียว และอยากให้เขามีผมแค่คนเดียว..ความรัก..ผมไร้เดียงสากับมันมาก..คุณรุ่ง..ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนสองคนอยู่ด้วยกันแบบคนรัก ต้องพูดคุยอะไรกันบ้าง บางครั้งเรื่องพวกนี้มันจึงเป็นเพียงความเพ้อฝันสำหรับผมเท่านั้น”

   “คุณเพ้อฝันอย่างไรบ้าง”

   “ผมก็คงอยากอยู่กับเค้าตามลำพัง อยากดูแลเอาใจใส่รายละเอียด เค้ามีเค้าขาดอะไร คงพยายามที่จะรู้ว่าเค้าชอบไม่ชอบไม่อะไร เค้าฝันที่จะเป็นอะไร จะช่วยเค้าได้ไหม..และที่สำคัญคือเราต้องปรับตัวเข้าหากัน..ชีวิตคู่คงจะมีความสุข..”

   รุ่งโรจน์ยิ้มออกมา ก่อนจะช่วยสุริยาถือกระเป๋าไปใส่ท้ายรถ..พอเดินกลับมาหาที่ระเบียงบ้านพัก..เขาถือ..หนังสือท่องเที่ยวตั้งใหญ่มาให้ สุริยารู้สึกงุนงง

   “นี่คือหนังสือที่คุณยังขาดทั้งหมด..ผมรู้ว่าคุณต้องใช้..”

   ใบหน้าของสุริยาในยามนี้เป็นสีชมพูระเรื่อ..เขานึกอยากจะบอกกับรุ่งโรจน์อีกข้อ กับนิยามของความรักสำหรับตน..นั่นก็คือ...ผิดไหมที่เราจะรักกัน..ถ้าผิด..ก็คงเป็นได้แค่เพื่อน..เมื่อคิดได้ดังนั้นอาการที่ควรดีใจสักร้อย จึงเหลือแค่ 50 เท่านั้น

   “เดี๋ยวเราขึ้นเขาใหญ่ ไปน้ำตก ชมนกชมไม้ แล้วก็ไป สีคิ้ว หลวงพ่อโต วัดเนินกุ่มคุณสรพงษ์เป็นประธานสร้าง..แล้วก็ไปเมืองย่าโม..” สุริยาออกคำสั่ง..
   ขณะที่สารถีเหยียบเร่งน้ำมันด้วยสีหน้าที่เบิกบาน คล้ายกับว่าได้ทำอะไรอย่างที่ตนอยากทำ..ไม่มีใครมาบังคับ ทำด้วยความเต็มใจ ทำแล้วมีความสุข..

   “ถ้าคุณถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่คุณไม่ได้รักล่ะ คุณจะทำอย่างไร” สายตาของรุ่งโรจน์อยู่กับถนน แต่น้ำเสียงนั้นช่างรันทดใจเหลือเกิน

   “คนที่บังคับเรา คงเป็นพ่อแม่เราเท่านั้น..ถ้าเหตุผลท่านพอก็คงต้องยอม ประมาณว่าเราหาเองไม่ได้แล้ว ผู้หญิงคนนั้นดีเลิศ..หรือเพื่อหน้าตา ฐานะทางครอบครัว สุดแต่เหตุผลท่าน แต่ถ้าผมยังมีสิทธิ์ที่จะเลือก ผมคงไม่แต่ง”

   “อ้าว” สีหน้าของรุ่งโรจน์บอกให้รู้ว่าแปลกใจ

   “ไม่แต่งในทันทีหรอก..คงต้องศึกษานิสัยใจคอกันสักพัก..คุณรุ่ง..ถ้าคุณรักใครสักคน แล้วคุณก็รู้ว่า ความรักนั้นไม่มีวันเป็นไปได้ คุณจะทำอย่างไร”

   เจอคำถามที่คล้ายกับคนที่เพิ่งรู้จักกันถามเข้าไป รุ่งโรจน์ จึงได้แต่เอามือเคาะพวงมาลัยไป แล้วก็ทวนคำถามซ้ำ ๆ ไม่มองหน้า ไม่สบตา ไม่ยิ้มให้..เริ่มต้นใหม่..แบบเพื่อนผู้ชายคุยกัน..ก็ดี..

   “ถ้าคุณรู้ว่าความรักคุณเป็นไปไม่ได้ แล้วคุณก็กำลังถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณที่คุณไม่ได้รัก ..แต่เป็นความปรารถนาดีของผู้ใหญ่..คุณจะทำอย่างไร” สุริยาถามซ้ำ

   “ข้อแรก ผมจะพยายามให้มันเป็นไปได้..ถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ ผมคงจะพยายามเก็บความรู้สึก ดี ๆ ที่มีต่อกันไว้ ตราบนานเท่านาน ผมจะทำทุกอย่างให้เค้ารัก ผมจะกอดและจูบเค้า ผมจะอยู่กับเค้าเพียงคนเดียว ถ้าเค้าบอกผมสักนิด ว่าเค้าก็รักผม..” น้ำเสียงรุ่งโรจน์เหมือนตัดพ้อคู่สนทนา

   “เพื่อประโยชน์อะไร สู้คุณแยกทางกับเค้าเสียแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่ารึ เพื่อมันจะได้ไม่เจ็บช้ำมากไปกว่านี้”

   “บางทีช่วงที่รักกำลังคิดหาช่องทางที่จะให้มันเป็นไปให้ได้อยู่นี้ พระเจ้าอาจจะเห็นใจก็ได้..” ดูรุ่งโรจน์ยังดึงดัน

   “แต่สุดท้ายคุณก็เลือกที่จะแต่งงาน..ทำหน้าที่ลูกที่ดี..” สุริยาถอนหายใจออกมา พร้อมกับยิ้มอย่างคนที่ได้ตั้งสติแล้ว..

   “คุยเรื่องอื่นกันเถอะคุณรุ่ง..เรื่องที่มันยังไม่เกิด คิดไปก็เศร้าหมองเปล่า ๆ ...คิดเรื่องงาน เรื่องทัวร์ เรื่องไปสำรวจ ไปดูชีวิตคน ..ไปวัดไปทำบุญ ได้เป็นผู้ให้โอกาสกับคนอื่นบ้าง..ช่วงที่ผมมีความสุขที่สุด คือช่วงปีที่แล้ว..ผมคิดแต่เรื่องพวกนี้ ทั้งหลับทั้งตื่น..หัวใจผมอยู่แต่กับวัด..จะว่าไม่วกกลับมาแล้วนะ คุณรุ่ง คุณเคยคิดที่จะอยู่เป็นโสดบ้างไหม”

   เจอคำถามหักมุมเช่นนี้ รุ่งโรจน์ถึงกับหันมาทำหน้าปั้นยาก แต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า

   “หัวใจถวายวัด”

   “ความรักมันก่อให้เกิดความทุกข์นะครับ..อย่างที่บอกไว้ เราอยากให้เขาเป็นอย่างใจเรา ..เราไปเอาใจเขา แต่ถ้าเขาไม่ใส่ใจเรา ทีนี้มันจะเป็นอย่างไร..รักแล้วสมหวังก็ดี แต่รักที่ไม่สมหวังนี่ซิ เป็นทุกข์ พอทุกข์คุณก็อับปัญญาที่จะทำกิจการงานใด ๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างง่าย ๆ ..” สุริยายังพูดเรื่องเดิม

   “กินข้าวโพดไหม” รุ่งโรจน์ถามเมื่อมีร้านขายข้าวโพดต้มและปิ้งอยู่ริมทาง

   “น้อยหน่าก็มี”

   สุริยารู้ว่ารุ่งโรจน์รีบเปลี่ยนเรื่อง และใจของสุริยาก็อยากจะบอกให้รุ่งโรจน์รู้ว่า.. ‘ผมรักคุณ ผมจึงอยากให้คุณได้หูตาสว่างบ้าง...ให้รู้ว่าที่คุณเป็นอยู่นี้ บางทีมันก็ไม่ใช่ความสุขนักหรอก ความสุขจริง ๆ คืออยู่ที่วัด อยู่ที่ได้ไปปฏิบัติธรรม ดูจิตดูใจตัวเอง แต่เมื่อมันยังเป็นไปไม่ได้ มนุษย์จึงได้เที่ยวหลอกตัวเองว่านี่คือความสุข..’

   เหมือนตัวเองจะฉลาด แต่ก็โง่อยู่ดี นายสุริยาเอ๋ย..

   เมื่อสุริยาไม่ตอบ รุ่งโรจน์จึงจอดรถ เพื่อซื้อผลไม้ทุกอย่างที่วางขาย ตุนไว้เบาะท้าย

..สุริยารู้ว่าเขาคงต้องการให้ป้อน แต่จะให้ป้อนอะไรได้ สถานการณ์อย่างนี้ ยิ่งกุ๊กกิ๊ก ก็จะยิ่งสานใยยืดยาวพัวพัน..เขาจึงทำเป็นเฉยเสีย..

   “คุณไม่กินล่ะ ข้าวโพดต้มร้อน ๆ”

   “ค่อยไปกินบนเขาใหญ่ดีกว่า..เย็นกิน ๆ อร่อยกว่าร้อน ๆ”

   “แต่ผมหิวนะ”

   สุริยาทำเป็นไม่ได้ยิน..แกล้งคลอเพลงพี่เบิร์ด ชมนกชมไม้บ้านเรือนมนุษย์เหมือนมีความสุข

   “ทริปโคราชนี่ เช้าไปเย็นกลับได้ไหม”

   “ดูจากหนังสือแล้ว ได้ แต่ต้องตัดเขาใหญ่ออกไปเลย..หรือถ้าจะไปเขาใหญ่ก็ต้องเป็นโปรแกรมเน้นธรรมชาติ อาจจะเป็นวงกลม สระบุรี ฟาร์มโชคชัย วัดพิทักษ์ เขื่อนลำตะคอง วัดธรรมจักรเสมาราม วัดหลวงพ่อโต สรพงษ์สร้าง..แล้วก็นอนเขาใหญ่สักคืน เช้าเที่ยวเขาใหญ่ ลงฝั่งนครนายก เล่นน้ำตก ซื้อของแล้วก็กลับบ้าน แต่ถ้าเป็นพิมาย ไทรงาม แม่ย่าโม วัดหลวงโต วัดป่าหลักร้อย วัดศาลาลอย เขาจันทร์งาม เสมาราม วัดพิทักษ์ปุณณาราม ตลาดผลไม้ปากช่อง นี่ควรจะอีกโปรแกรม”

   สุริยาพูดเหมือนมีแผนที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งความจริงปีที่แล้วเขาเพียงนอนมองแผนที่ แล้วก็ฝันว่า สักวันจะไป จะไปให้ทั่วทุกที่..แล้วความฝันก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างสะดวกกว่าที่คิดไว้ ด้วยคนที่นั่งข้าง ๆ เป็นใจ

   “ทัวร์นี้ผมจะลุยเต็มตัวนะคุณ”

   “เหตุผล..” สุริยาหันมาถามแล้วก็หันกลับไปมองถนน

   “จริง ๆ ผมไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรอก..ก็บอกแล้วไง ผมมีความรู้ แต่ผมก็มีเงิน ผมไม่ทำงาน ผมก็มีกินไปทั้งชาติ ถ้ากินอย่างที่คุณกินนี่นะ..”

   “คนพอมีเงินแล้วก็อยากมีเกียรติ หาซื้อเกียรติ..แต่เกียรติมันก็ได้มาจากการทำอะไรให้คนอื่น มันก็ใช้เงิน ผมจึงให้อธิษฐานไงว่าให้มีสมบัติและใช้สมบัติให้เป็น ใช้สร้างบุญสร้างบารมี ให้มีโอกาสเป็นผู้ให้ รถคันนี้ขับได้ห้าปี ราคาเท่านี้..ก็น่าจะพอใจ แต่บางคน..คันละเป็นสิบล้าน บวกเครื่องเพชร บวกเสื้อผ้า..รู้สึกว่ามันขาดทุนอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ว่าพวกเขาไม่ได้หรอก มันเป็นบุญเก่าของเขา..แต่พวกนี้ก็ดีอย่าง ถ้าใจเปิดเรื่องบุญเมื่อไหร่ สว่างไสว ของเก่าเขาดี จึงเกิดมาร่ำรวยไปเสียทุกอย่าง”

   “รู้ไหมบางเรื่องที่คุณพูด ผมตามไม่ทัน แต่ผมก็พยายามที่จะฟังมัน”

   “ข้อดีของคุณไง คุณคือผู้ฟังที่ดี..อีกอย่างคุณชอบใจผมอยู่ด้วย คุณก็อยากจะฟัง แต่ถ้าคุณเกลียดผม ต่อให้ผมพูดดีแค่ไหนคุณก็ไม่อยากจะฟัง..”

   “เรื่องทัวร์นี่ ผมจะลุยเต็มที่เพียงแต่ให้คุณสั่งมา”

   “ผมคงต้องสั่งให้ประหยัด ช่วยกันทำงาน อาทิเช่นวิ่งแจกใบปลิวตามสะพานลอย ตามบ้านช่อง คอนโด ตลาด สวนสาธารณะ หน้าโรงงาน รถรับส่งคนงาน คุณทำได้ไหม ถ้าคุณทำได้ เรามีกำไรแน่ ดีไม่ดีอาจจะเพิ่มทริปหนึ่งเป็นสี่ห้าคัน..เหมือนเวลาที่โรงงานมาเหมาให้จัดพาคนงานไปเที่ยว..คุณก็ต้องมาฝึกเป็นไกด์ บริการคน เสิร์ฟน้ำ วิ่งตามลูกทัวร์ใช้ไมโครโฟน..คุณทำได้ไหมครับ..”

   “แล้วคุณคิดว่าผมจะทำได้ไหม..” รุ่งโรจน์ย้อนถาม

   “มันก็ขึ้นอยู่กับคุณจะให้ความร่วมมือหรือเปล่า อันลิงค่างกลางป่า”

   “จับมาหัดสารพัด หัดได้ดังใจหมาย..ผมฟังคุณท่องมาหลายรอบแล้ว...ผมรู้ว่าคุณลำบากมามาก กว่าจะยืนตรงนี้ ผมถึงอยากเห็นคุณมีความสุขไง”

   “ความสุขของผม ก็คือความสุขของคนอื่นด้วยนะ คุณจะร่วมรับภาระไหวหรือ” สุริยาแกล้งถาม

   ยังไม่ทันที่รุ่งโรจน์จะตอบคำถามนั้น เขาก็ดันถามคำถามอื่นขึ้นมาแทน

   “คุณคิดกับผมอย่างไร”

   พอรถเริ่มเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รุ่งโรจน์ก็ถามเรื่องอึดอัดใจทันที

   คนตอบก็ใช่ย่อย หัวเร็วพอได้ จึงตอบให้รุ่งโรจน์ได้คิดอีกยืดยาวทีเดียว

   “ผมกำลังคิดว่าผมจะพ้นจากความทุกข์นี้ไปได้อย่างไร?”
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

สวัสดีครับ...
 :3123: :3123: :3123:

วันนี้มาโดยไม่ได้นัดหมาย เหตุผลก็มีพอมีอยู่บ้าง..
ข้อ1.
ข้อ 2

เอาเป็นว่าขอบคุณจากทุก ๆ คอมฯเม้นท์ที่ช่วยกันดันช่วยให้กำลังใจกับผมนะครับ เมื่อวานนี้ผมรีไรท์เสร็จไปแล้วหนึ่งรอบ มีอะไรให้แก้ไขอยู่พอสมควร..ส่วนใหญ่จะเป็นรูปประโยคครับ ความหมายยังเหมือนเดิม แต่ให้สละสลวยขึ้น ส่วนตอนจบ ก็ยังเหมือนเดิมครับ...อย่างไงอย่างงั้น...

ทราบราคาหนังสือเมื่อไหร่จะเปิดให้จองอย่างเป็นทางการนะครับ..ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้กี่เล่มแต่เรื่องนี้ อยากให้มันถูกล่าวขานในบรรพพิภพอีกเรื่องเท่านั้นเองครับ..

ขอบคุณสำหรับแรงใจอีกครั้งนะครับ..

จุ๊บ ๆ...


ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: ตอนที่ 14 อยากให้&
«ตอบ #157 เมื่อ04-05-2011 11:24:47 »

^
^
จิ้มๆ
จุ๊บๆ ด้วย ไอ้จบอย่างไงอย่างงั้นนี่คือ เค้าสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันใช่มั้ย ToT
ดูแล้วก็สมควรหรอก ไปบวชไปยะจะได้พ้นทุกข์  :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2011 12:03:17 โดย ChCh13 »

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
ต่างคนต่างก้อมีภาระ มีหนทางของตัวเอง แต่ไม่ได้เป็นหนทางที่เลือกเอง

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ถ้าลงเอยกันคงมีความสุขทั้งคู่ แต่ทางเลิกกันไปสงสัยคุณรุ่งต้องเสียผู้เสียคนแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

:เฮ้อ: ไม่อยากคิดว่าตอนจบจะจบยังไง เห้อออ
แอบเครียดเล็กๆ อ่านตอนนี้แล้วหนักใจมากๆ
ไม่รู้จะพูดอะไรเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ  สู้ๆคะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
จะรักก็รักเถอะ  
ดูแล้วรักก็เป็นทุกข์ พยายามไม่รักก็เป็นทุกข์ ไหนๆก็ทุกข์แล้วแลือกทุกข์ที่พอจะสุขบ้างดีกว่านะคุณยา

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
น่าสงสารคู่นี้เหมือนมีอะไรบางๆมากั้นไว้


ต่างคนก็ต่างไม่แน่ใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในใจของตนเอง :กอด1:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกแทนคำขอบคุณเช่นเคยค่ะ
รอตอน 15

wongwikkarn

  • บุคคลทั่วไป
มาดันจ้าาาาาาาาาาา

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารจังแต่ก็เข้าใจนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กรอบสังคมมันบีบบังคับเราเหลือเกิน

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
ก็คิดอยู่ตั้งแต่แรกๆแล้วล่ะนะว่า"ชื่อเรื่องนี่แปลกไปไหม? คนแต่งบ้าเปล่านะตั้งแบบนี้" แต่ตอนนี้ไอพอเข้าใจแล้วล่ะค่ะ ^^

เรื่องนี้นี่specialจริงๆ เหมือนอ่านหนังสือธรรมะของศาสนาพุทธไปด้วยเลย แบบนี้ไม่มีเบื่ออ่ะ

แต่ไอกำลังเผชิญกับความรู้สึกที่ว่า..มันจะจบเศร้าจริงๆใช่ไหม ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย

อ่านแล้วก็รู้สึกขัดแย้งตัวเอง คือไอไม่ชอบอ่านและดูอะไรที่มันเป็นเรื่องเศร้าน่ะค่ะ

แบบว่าชีวิตก็สุดจะทนอยู่แล๊ะ ยังจะอ่านหรือดูอะไรที่มันsadให้เหนื่อยหัวใจอีกทำไม

แต่เรื่องนี้กลับอดที่ตามอ่านต่อไม่ได้เลย..อยากให้สองคนนี้อยู่ด้วยกัน...นี่คือตอนจบที่อยากได้....

เฮ้อ~ ขอไม่ได้ใช่ไหมคะคุณนพ ช่วยพิจารณาอีกสักรอบได้ไหมคะ? :เฮ้อ:

ปล. ส่วนเรื่องหนังสือนั้นไอขอตามอ่านต่อไปอีกหน่อยละกันนะ คืออย่างที่บอกไว้นั่นแหละค่ะว่าไอไม่ชอบเรื่องเศร้าๆ

Maize

  • บุคคลทั่วไป

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
ก็คิดอยู่ตั้งแต่แรกๆแล้วล่ะนะว่า"ชื่อเรื่องนี่แปลกไปไหม? คนแต่งบ้าเปล่านะตั้งแบบนี้" แต่ตอนนี้ไอพอเข้าใจแล้วล่ะค่ะ ^^

เรื่องนี้นี่specialจริงๆ เหมือนอ่านหนังสือธรรมะของศาสนาพุทธไปด้วยเลย แบบนี้ไม่มีเบื่ออ่ะ

แต่ไอกำลังเผชิญกับความรู้สึกที่ว่า..มันจะจบเศร้าจริงๆใช่ไหม ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย

อ่านแล้วก็รู้สึกขัดแย้งตัวเอง คือไอไม่ชอบอ่านและดูอะไรที่มันเป็นเรื่องเศร้าน่ะค่ะ

แบบว่าชีวิตก็สุดจะทนอยู่แล๊ะ ยังจะอ่านหรือดูอะไรที่มันsadให้เหนื่อยหัวใจอีกทำไม

แต่เรื่องนี้กลับอดที่ตามอ่านต่อไม่ได้เลย..อยากให้สองคนนี้อยู่ด้วยกัน...นี่คือตอนจบที่อยากได้....

เฮ้อ~ ขอไม่ได้ใช่ไหมคะคุณนพ ช่วยพิจารณาอีกสักรอบได้ไหมคะ? :เฮ้อ:

ปล. ส่วนเรื่องหนังสือนั้นไอขอตามอ่านต่อไปอีกหน่อยละกันนะ คืออย่างที่บอกไว้นั่นแหละค่ะว่าไอไม่ชอบเรื่องเศร้าๆ

เรื่องนี้เขาได้อยู่ด้วยกันครับ แต่อยู่ในใจกันและกัน..ไม่ได้ไปไหน ไม่มีใครมาแทนที่ใครได้เลย
...ความรักบางทีมันก็ไม่จำเป็นต้องครอบครอง..(แอบสปอยนิดหน่อย) แต่อยากให้ลุ้นว่า จบแบบนี้ ทุกท่านน่าจะอิ่มกับความรักไม่น้อยเช่นกัน..

ขอบคุณสำหรับแรงใจครับ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ให้กับผม (ยอมอ่านยอมคอมเมนท์)...ถึงไม่ซื้อหนังสือ ผมก็คิดว่าผมได้กำไรแล้วครับ..

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L1: :L1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2011 09:41:18 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 14 อยากให้&
«ตอบ #169 เมื่อ06-05-2011 09:59:24 »

 :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
15.
   
   สุริยานั่งมองใบทะเบียนการค้าและใบอนุญาตนำเที่ยว ซึ่งมีเลขที่บ่งบอกไว้ เขารู้สึกภาคภูมิใจแม้นรู้ว่าไม่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองทั้งหมด แต่ส่วนหนึ่งมันก็ได้มาด้วยกุศลคุณงามความดีที่เขาได้ตั้งใจช่วยเหลือคนหนึ่งคนไว้..ส่วนเรื่องหัวใจที่กำลังไล่ตาม ถือว่าเป็นกรรมที่เคยทำร่วมกันมา จะยับยั้งมันได้คงต้องตั้งสติใช้เวลากับมันสักนิด..

   แต่บางครั้ง ยิ่งก้าวยิ่งถลำลึก

   สุริยานึกถึงภาพข่าวในนิตยสารแนวปาปารัซซี่ ภาพเขากับรุ่งโรจน์เดินเคียงกันที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี..ถือดอกไม้ธูปเทียนเตรียมไปสักการะบุคคลสำคัญของโคราช..มันทำให้ อีกไม่กี่วันต่อมา ก็มีข่าวว่ารุ่งโรจน์กับน้องหนูไฮโซประกายดาว รักสะบั้นลง..ด้วยฝ่ายหญิงกังวลว่าฝ่ายชายจะเป็นเกย์อย่างที่หนังสือฉบับนั้นและฉบับอื่น ๆ พากันออกมาเม้าท์ในลักษณะอักษรย่อ ผสมนั่งตอเขียน

   สำหรับแสงทองดูไม่ใส่ใจกับรายละเอียดนั้น หญิงสาว พูดแต่ว่า

   “หนูรู้จักพี่สองคนดี..พี่สุริยาคงไม่ใช่คนเช่นนั้น”

   ความรักมันทำให้คนตาบอด เห็นแต่ไม่รู้สึกในแบบที่เห็น
โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ ตอนที่ตัดสินใจเช่าตึกที่อยู่ติดกับร้านเสริมสวยพี่สมใจทำเป็นออฟฟิศ โดยห้องพักชั้นบนดัดแปลงให้เป็นหอพักสตรี และด้านหน้าเก็บค่าเช่าจากแม่ค้าที่มาเปิดแผงขายของ ช่วงที่ช่างมาเก็บรายละเอียดตกแต่งสถานที่ด้านล่าง รุ่งโรจน์แทบจะมากินนอนอยู่ที่คอนโดในทุกค่ำคืน และพยายามรั้งให้สุริยาไปนอนเป็นเพื่อนด้วยในทุก ๆ ครั้ง

....แสงทองน่าจะฉุกคิด หรือถามไถ่ขึ้นมาบ้าง..

   แต่นายต้องก็เคยพูดไว้

   “มีผู้หญิงตั้งมากมายหลงใหลไปกับพวกเกย์ เพราะเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนดี ตั้งใจทำอะไรต่อมิอะไรให้ดีที่สุด..ดูดีเป็นหัวหน้าครอบครัว..เป็นผู้นำ หรือบางพวกก็รู้ว่าแฟนตนมีใจเบี่ยงเบน หวังจะรักษาเขาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด แต่สุดท้ายก็มีเพียงน้ำตา กับความกล้ำกลืนฝืนทน.”

   สุริยาเพียงแต่รับฟัง และพยายามที่จะวางตัวกับแสงทองให้เป็นเพียงพี่ชายคนดีตามเดิม แต่หญิงสาวเองกลับไม่รู้นัยยะนั้น..ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน สายตาของแสงทองยังเชื่อมด้วยรักหวานน้ำตาลหยด ไปทัวร์ในทริปไหน ๆ ถ้ามีโปสการ์ดขายใกล้มือ หญิงสาวจะต้องเขียนมาระบายบอกเล่าความในใจ..แล้วส่งไปรษณีย์มาหา..มันเป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่สุริยาได้เรียนรู้กรรมวิธีสร้างสานความรักความผูกพันระหว่างกัน

   แต่เขากลับเอาไปเติมเต็มให้อีกคน..

   จนกระทั่งนานวัน

   รุ่งโรจน์แทบจะไม่ไปไหนไกลตา

.. เกือบทั้งวันที่เขาขลุกอยู่ในออฟฟิศกับเครื่องคอมพิวเตอร์

   และคืนทั้งคืน เขาจะรีบกลับคอนโด อาบน้ำแต่งตัว นั่งดูรายการโทรทัศน์หรือไม่ก็อ่านหนังสือหาความรู้เชิงพุทธศาสตร์ ประวัติศาสตร์กับสุริยา...

   ..เมื่อรุ่งโรจน์ตั้งใจ พอใจจะเป็นอย่างนี้..มีหรือที่คนทางบ้านจะไม่เดือดร้อน..หลายครั้งหลายหนที่สุริยาได้ยินรุ่งโรจน์โต้เถียงกับคนเป็นแม่ทางโทรศัพท์..จะเป็นเรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่ เรื่องงาน กับเรื่องเกย์..

   ลูกชายยืนกระต่ายขาเดียวว่า

   “เขาไม่ใช่เกย์ครับคุณแม่ เขาเป็นหุ้นส่วนผม ไม่ใช่ผมกับเขาสองคน มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วย..คุณแม่จะเอาอย่างไรครับ น้องเขาไม่ใช่เศรษฐีรวยทรัพย์เหมือนเพื่อน ๆ ผมคนอื่น ๆ แต่เรารักและพอใจที่จะทำตรงนี้ด้วยกัน คุณแม่ไม่ดีใจหรือครับ ที่ผมตั้งอกตั้งใจทำงาน ไม่ดีแต่ใช้เงินไปวัน ๆ อย่างเมื่อก่อน คุณแม่อยากให้ผมเป็นอย่างเก่า..เพราะผมจะได้มีเรื่องเข้าหาคุณแม่บ่อย ๆ ..นี่เราก็เจอะกันทุกสัปดาห์อย่างที่คุณแม่ขอแล้วนี่ครับ..ออกงาน ..ผมยังไม่พร้อมครับคุณแม่ ..เปิดตัวบริษัททัวร์ให้เป็นข่าว..อย่าเพิ่งเลยครับคุณแม่ รอให้มันทำกำไร รอให้คนรู้จักพวกเราอีกสักนิดนะครับ..ผมไม่ได้อยากดังกันนะครับ อยากแค่ทำอะไรที่มันหยิบยื่นความสุขให้คนอื่น ๆ ได้บ้าง เราได้เขาได้ ประโยชน์เกื้อกูล..ให้ผมจัดทัวร์ไปต่างประเทศ หรู ๆ แพง ๆ ..ไม่ใช่นโยบายบริษัทเรานะครับคุณแม่..แต่ถ้าให้นำฝรั่งมาเที่ยววัดในเมืองไทยนี่กำลังคิดกันอยู่ครับ แต่คงต้องใช้เวลาสักพักกำลังทำข้อมูลภาษาอังกฤษ ทำเว็บอยู่ครับ จริง ๆ งานนี้มีน้องเขาคนเดียวที่มีความรู้เรื่องวัดวาอาราม ส่วนผมกับน้องอีกคนกำลังศึกษาหาความรู้กัน..คุณแม่ไม่ดีใจหรือครับที่ผมดูมีสติขึ้น..นี่คือสิ่งที่คุณแม่ต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือครับ ...แต่คุณแม่ก็ยังต้องการให้ผมเป็นฝั่งเป็นฝากับใครสักคนในบรรดาลูกสาวเพื่อน ๆ คุณแม่..แม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่าครับ”..

   สุริยาฟังสองแม่ลูกคุยกันก็พอรู้ว่า แม่เขาเลี้ยงลูกมาอย่างไร ผิดกับที่เวลาแสงทองคุยกับคนเป็นป้า..ขานั้นดูแต่จะถูกบังคับ..

   “แม่เชื่อเรื่องแม่ลิขิตใช่ไหม ผมก็เชื่อเรื่อง ผมลิขิตเองเหมือนกัน”

   ฟังต่อไปแล้ว สองแม่ลูกเริ่มจะรวน ด้วยลูกชายคงจะหมดความอดทน เพื่อประโยชน์ตนกระมัง..

   “แม่ครับ ผมขอเวลาพิสูจน์ตนเองสักปีแล้วกันนะ ถ้าผมจัดทัวร์แล้วไม่รุ่ง ไม่ทำมาซึ่งชื่อเสียงอย่างที่คุณแม่ต้องการ ผมจะยอมทำตามใจคุณแม่ โอเคไหม..แค่นี้นะครับคุณแม่...อ้อ..นิดนึงครับ คุณแม่ลูกทัวร์ผมเขาถามผมว่า ทำไมคุณแม่สวยจัง ถ้ามีโอกาส ผมอยากชวนคุณแม่มาเที่ยวกับผมด้วย..เพราะว่าทัวร์ผมจะได้เจริญ ๆ ยิ่งขึ้นเพราะมีดาราไฮโซ แก่แล้วแต่ยังสาวสวยมาออกทริปด้วย..คุณแม่ฝันดีนะครับ คุณแม่อย่าเกาะอกออกงานราตรีบ่อย ๆ ซิครับ เดี๋ยวปอดบวม ผมรักคุณแม่นะครับ..จุ๊บ ๆ ๆ ครับ”

   พอรุ่งโรจน์วางโทรศัพท์ ...สักพัก แสงทองก็มีตาแดง ๆ ออกมาจากห้องน้ำ..พอถามไถ่ สาวเจ้าจึงว่า

   “คิดถึงแม่..ทำไมพี่รุ่งโชคดีอย่างนี้ก็ไม่รู้ สมบูรณ์เสียทุกอย่าง ...”

   “เธอมันก็เหมือนคนใจดำ เข้มแข็ง แต่ไหง ถึงขี้แงจังแสงทอง” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็เอามือลูบศีรษะของแสงทองที่เช็ดน้ำตาปรอย ๆ ..ซึ่งภาพนั้น สุริยารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หญิงต้องคู่กับชาย..โลกจึงสมดุล..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ตอนที่ 14 อยากให้&
« ตอบ #169 เมื่อ: 06-05-2011 09:59:24 »





anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 14 อยากให้&
«ตอบ #170 เมื่อ06-05-2011 10:02:16 »

พอเสร็จกิจเรื่องการก่อรูปสำนักงานขึ้นมาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา..ทีนี้ ก็ถึงเวลาที่ผู้บริหารใหญ่..ต้องลงบริหาร วางแผน เพื่อผลกำไรทางธุรกิจ..
   
“ทบทวนอุดมการณ์ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์..ก่อนนะครับ” จริง ๆ ตั้งใจจะไปจดทะเบียนเป็นรุ่งสุริยาทัวร์ แต่มีคนอื่นจดตัดหน้าไปแล้ว จึงต้องเพิ่มแสงเข้าไปอีกคำเพื่อจะได้มีกำลังใจของคนถึงสามคน..

   “กำไรของเรา ก็คือ รอยยิ้มและความสุขของลูกทัวร์..ท่องพร้อมกันสามรอบเดี๋ยวนี้” ..สุริยาออกคำสั่ง รุ่งโรจน์กับแสงทองหัวเราะกิ๊ก ๆ ..

   “สมัยที่ผมเป็นเณรนะ ท่องพร้อมกันตะพึดตะพือ พระอาจารย์ท่านว่าเป็นการสร้างความสามัคคี แค่ท่องพร้อมกันไม่ได้ แล้วเรื่องอื่นมันจะทำด้วยกันได้อย่างไร.. ..อันลิงค่างกลางป่าจับมาหัดสารพัด หัดได้ดังใจหมาย เป็นสามเณรอาจารย์เพียรสอนแทบตาย ถ้าเอาดีไม่ได้ ก็อายลิง...สามเณรดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้..” พอบอกเล่าความหลังครั้งอยู่วัด ดวงตาสุริยาเป็นประกายสุขใส..

   วันคืนไม่อาจหวนกลับ แต่วันคืนที่ล่วงผ่านไป เป็นบทเรียนที่ทำให้ชีวิตในวันนี้ เป็นอย่างนี้ได้..

   แล้วหุ้นส่วน เจ้าของ..และเพื่อนสนิท ก็พากันท่องอุดมการณ์ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์ พร้อมกันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

   “เราคือหุ้นส่วน เราคือเพื่อนกัน เรามีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข เราจะเปิดอกคุยกันเรื่องงาน เราจะไม่โกรธกัน ทะเลาะกัน เราก็จะรีบคืนดีกันโดยเร็ว รุ่งแสงสุริยาทัวร์จงเจริญ”

   เป็นอุดมการณ์อีกข้อที่ทั้งสามคนร่วมร่างขึ้นมาและท่องพร้อม ๆ กัน..


   รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเมื่อเกิดขึ้นที่ใด แสดงว่าตรงนั้นมีคนมีความสุข และความสุขนั้น ทั้งสามคนปรารถนาที่จะแผ่ขยายออกไป หาเงินอย่างมีความสุข และใช้เงินให้ได้ความสุข...

   เมื่อมีสำนักงานเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา..ทุกคนจึงต้องมีหน้าที่..

   แสงทองเรียนจบปริญญาตรีสาขาสื่อสารมวลชนแล้ว เพียงรออบรมมัคคุเทศก์ให้ได้ใบอนุญาตจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในบริษัท.. หญิงสาวมีหน้าที่รับโทรศัพท์..รับจอง โทรตามขายลูกทัวร์เก่า จัดที่นั่ง ทำบัญชีรับ-จ่าย วางแผนค่าใช้จ่ายรวมถึงติดต่อร้านอาหาร ศึกษาในเรื่องที่สุริยาทำด้วยตัวเองมาตลอด..โดยสุริยาให้เหตุผลว่า

   “วันหนึ่งข้างหน้าอะไรจะเกิดก็ไม่รู้ ถ้าพี่ไม่อยู่ ทัวร์นี้ต้องอยู่ต่อให้ได้”

   หญิงสาวไม่ถามว่าสุริยาจะไปไหน..เพราะสุริยาเคยพูดไว้ ว่าทุกคนต้องมีมรณานุสติ ระลึกถึงความตายทุกวันเพื่อความไม่ประมาท..

   ทุก ๆ วันเจ้าหล่อนก็จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย และงานที่ตนรัก อ่านหนังสือหาความรู้ใส่ตัว พร้อมกับจัดหมวดหมู่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละเส้นทาง..เพื่อที่จะรวบรวมเป็นหนังสือเที่ยวรอบกรุงพรุ่งนี้กลับ..ไปค้างสักคืน หรือไม่ค้างจะกลับในคืนนั้นก็ยังทัน..

   สำหรับสุริยา เป็นคนวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวในแต่ละเดือน..เริ่มจากสามเดือนแรก ใกล้ไปหาไกล คิดเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์..คิดและทำให้ใบปลิวโฆษณาไปสู่มือกลุ่มเป้าหมายให้ได้..

   วันปกติ ในเวลาเช้าขณะที่คนในย่านนั้นเร่งรีบขึ้นรถเพื่อไปทำงาน สุริยากับแสงทองซึ่งย้ายมาพักชั้นบนของสำนักงาน ก็มีหน้าที่มายืนแจกใบปลิว หรือไม่ก็ไปติดต่อกับเจ้าของรถที่ได้สัมปทานรับส่งพนักงานแต่ละบริษัท ฝากหรือจ้างให้ช่วยแจกเอกสารแนะนำทริปเที่ยว..หรือไม่ก็ฝากลูกทัวร์เก่าไปแปะตามบอร์ดในโรงงาน แฟกซ์ไปตามสำนักงานใกล้ ๆ แล้วก็มีบ้างที่เย็นค่ำ เดินแจกตามบ้าน ห้องพักในคอนโด อพาร์ทเมนต์ รวมถึงสถานที่รวมคนรักสุขภาพรักการออกกำลังกายในสวนสาธารณะ..และคนรักบุญคือศาลาวัด

   และรุ่งโรจน์ก็คือเจ้าของทุน ที่เพียงวันนี้ ขอมามีส่วนร่วมเป็นบางครั้ง..สุริยาจึงลองมอบหน้าที่เคยบอกไว้ คือ มัคคุเทศก์ฝ่ายกิจกรรมนันทนาการ และอนาคตคือฝ่ายต่างประเทศ

   รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติที่รุ่งโรจน์พึงมีในปัจจุบันชาติ เขาไม่ปรารถนาครอบครอง ยึดมาเป็นของตนเพียงลำพัง..เพราะรู้ว่าถ้าได้กาย ใจหรือจะหาสุขได้..สู้เมตตาต่อกัน ..ปรารถนาเพียงเห็นเขานำมาใช้ทำประโยชน์กับพระพุทธศาสนา น่าจะดีกว่า

   จิตที่ตั้งไว้เป็นอย่างนี้ แต่จะทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง

   และสุริยาพยายามดึงเอาเหตุผลอย่างนี้มาใช้รักษาใจให้เป็นปกติยามอยู่เคียงกัน..
   



   สองเดือนผ่านไป..อุปสรรคและปัญหาที่ขวางหน้าก็ถูกฟันฝ่าไปด้วยใจที่มุ่งมั่น.
   “ลูกทัวร์บางคนนะ น่าตบม๊าก” เมื่อลงจากทัวร์ครั้งใด แสงทองเป็นต้องมาเม้าท์ ระบายความในใจ อีกความรู้สึกของงานขายบริการ..อดทน

   “เรื่องนั่งหน้ากับนั่งหลัง เรื่องการตรงต่อเวลา ทีตัวเองขึ้นรถช้าแล้วเงียบ ทีคนอื่นช้าหน่อย ..รีบให้เราไปเร่ง..กับเรื่องรถ แหม ..ราคาตั๋วเท่านี้ จะนั่งรถโค้ช ทีบริษัทอื่นทำรถโค้ช ราคาแพง ๆ ก็ไม่ไปกับเขาอีก พอเราผิดพลาดนิดหน่อยก็เอาไปเมาท์ซะ แต่พอเราดีมีคนชมครึ่งค่อนคัน แม่เจ้าก็เงียบเสียนี่..คราวหลังนะถ้าโทรมาจองตั๋วอีกจะบอกว่าเต็มแล้ว..หรือจะบอกไปตามตรงดีไหมพี่รุ่งพี่ยา ว่าทัวร์เราไม่ต้องการคุณ..เบื่อ”

   “บอกได้แต่เธอก็ต้องเตรียมตัวฟังเพลง จากพี่ยาของเธอว่า คุณจะรู้บ้างไหม คืนนี้ผมนอนไม่หลับ..คุณจะรู้ไหมครับหน้าคุณลอยอยู่เต็มฟ้า..เดี๋ยวก็ได้ตามไปขอโทษเขาอีกหรอก ขานี้เธอก็เห็นนี่ ให้อภัยกับแผ่เมตตา เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นเอง..จริง ๆ ดีขึ้นจริง ๆ นะ..พอเขาบ่นเราเงียบ..เขาก็มากับเราเรื่อย ๆ หลายทริปแล้วมั้ง.”

   แววตาของรุ่งโรจน์มีประกายของความสุข

   สุริยานึกถึงวันแรกที่รุ่งโรจน์ต้องขึ้นจับไมค์เป็นมัคคุเทศก์ฝ่ายกิจกรรมนันทนาการ..วันนั้น เขากับแสงทอง ต้องให้กำลังใจยกใหญ่..

   “มันตื่นเต้น..”

   “เร็ว ๆ นะ จะได้เวลารถออกแล้ว ..เดี๋ยวผมพูดเสร็จแล้วผมจะโยนไมค์ให้คุณ..”

   “ผมเสิร์ฟน้ำก็ได้นะ”

   “เสิร์ฟน้ำจ้างเด็กที่ไหนมารับจ๊อบก็ได้ แต่คนมีความสามารถนี่หาได้ไม่ง่าย ต้องฝึก แล้วฝึกแล้วเขาจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่ไปไหนเห็นจะยาก เพราะที่นี่สวัสดิการยังไม่ดี..ตกลง พร้อมนะ.”

   ครั้งแรกรุ่งโรจน์ตะกุกตะกัก..ผ่านไปสักห้านาที เขาก็ทำได้ดีไม่แตกต่างจากแสงทองในครั้งแรก..

หลังจากนั้น ลูกทัวร์ก็เรียกร้องให้เขาขึ้นทำหน้าที่อยู่บ่อย ๆ เพราะช่วงของเขา มีของรางวัล มีคำถามชวนให้ตื่นเต้น..มีท่าสำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อ..สำหรับแสงทอง นอกจากประวัติศาสตร์ที่เจ้าตัวถนัด หญิงสาวก็มีมุกตลกหน้าตายขึ้นมาใช้อยู่เรื่อย ๆ ..ส่วนสุริยาบางคนยกให้เป็นอาจารย์ เพราะดูเคร่งครัดในหลักธรรมคำสั่งสอนเสียเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2011 10:03:49 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 14 อยากให้&
«ตอบ #171 เมื่อ06-05-2011 10:05:17 »

“ผมรู้สึกว่าคุณมีความสุขกว่าวันโน้น เดือนกุมภาพันธ์ที่ผมพบคุณ” รุ่งโรจน์เอ่ยขึ้นขณะเลี้ยงฉลองผลการสอบเป็นมัคคุเทศก์ของแสงทองบนตึกสูงระฟ้า ใบหยก 2

   “ผมเห็นคุณสองคนมีความสุขมั้ง..ผมจึงมีความสุขไปด้วย”

   “ใครว่าหนูมีความสุข หนูกำลังมีความทุกข์ต่างหาก ทุกข์ว่า หนังสือที่หนูอุตส่าห์รวบรวมเรียบเรียงสำนักพิมพ์จะเยสหรือเปล่า..”

   “อธิษฐานซิ” สุริยาว่า

   “อธิษฐานกับอะไรพี่ยา..”

   “กับพี่รุ่งของหนูนี่ไง ..เธอเข้าผิดช่องเอง..ไม่รู้หรือจ๊ะ ว่าเขาคนนี้มีญาติโกโหติกาเยอะ สมบัติแค่สำนักพิมพ์สำนักเดียว คงไม่ยากสำหรับเขา..”

   รุ่งโรจน์ไม่ตอบ..เมื่อไม่ตอบอีกแสงทองจึงพูดว่า


   “อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ..ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ บุคคลเมื่อมีตนฝึกฝนได้ดีแล้วย่อมได้ที่พึ่ง ที่บุคคลอื่นได้โดยยาก..ไม่เข้าไม่ใจหรอก มั่วไป..แต่ถ้าเรื่องหนูมันดีจริงเขาคงมีอารมณ์เสี่ยงพิมพ์ขาย...จริง ๆ หนูชักมันส์กับไมค์แล้วซิ ถึงว่าไอ้พวกพี่ที่ราม ทำไม๊ทำไม มันถึงได้บ้าไมค์กันขนาด..ที่แท้ก็ดีอย่างนี้นี่เอง ..พี่รุ่ง เรื่องรายการโทรทัศน์ว่าไง หนูชักอยากเป็นพิธีกรแล้วซิ หนูมีใบผู้ประกาศนะ เคยอยากเป็นดีเจค่ะ เลยไปสอบไว้ แต่ตอนนี้ต้องมาเป็นคนพาคนไปไหว้เจดีย์แทน..”


   “พูดถึงเรื่องเจดีย์..อีกสองเดือนก็ใกล้หนาวแล้วนะคุณยะ เราขึ้นเหนือกันไหม..เริ่มออกสำรวจเสียตั้งแต่เดือนสิงหา พอช่วงหนาวเราก็จัดไป หรือหน้าหนาวเราสำรวจใต้ หน้าร้อนเราก็จัดไป..”


   “จริง ๆ คุณบ่นอยากไปมานานแล้ว ผมเองก็อยากไปในทุกที่ที่ในหนังสือแนะนำ แต่จริง ๆ แล้วนอกหนังสือสำรวจยังมีนะ วันนั้นผมเจอพระบาทห้วยต้ม ที่ทางไป อ.ลี้ ทางไปเชียงใหม่เส้นเดิม เส้นที่เรากลับมาจากจอมทอง สวยมาก ..หรือพระธาตุดอยน้อย เลยจอมทองไปขวามืออยู่บนยอดเขา มองเห็นแม่น้ำปิง  ไกล ๆ สร้างโดยพระนางจามเทวี..นี่ผมก็เคยไปตอนเป็นพระ..ถ้าเราลงละเอียดจริง ๆ ดีไม่ดีได้จัดเจดีย์ร้อยแปดองค์เชียงใหม่....”

   “เย้” แสงทองแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า..

   “ใครจะดูเรื่องตั๋ว ไปหลายวันนะ” รุ่งโรจน์ปราม

   “เสียใจที่หนูคิดได้ตั้งนานแล้วว่า สักวันมันต้องมีทริปสำรวจ หนูก็เลย..ตีซี้กับไอ้อ้อย ..ยกโทรศัพท์ไปให้มันที่ร้าน..อย่างอื่นมันก็รู้หมดแล้ว..ที่นี้หนูไปได้หรือยังคะ..

   สุริยากับรุ่งโรจน์มองหน้ากันเป็นเชิงให้รู้ว่า..ยอมมัน

   “อืมลืมไป..เย็นนี้เลี้ยงฉลองมงคลสมรสลูกทัวร์เรา พี่อิฐ กับ พี่เอ๋ เขาโทรมาย้ำนะคะว่า ถ้าไม่ไป โกรธ...เลิกเที่ยวกับเรา.. เพราะที่เขาเจอะกันรักกัน ก็เพราะพี่ยาเป็นพ่อสื่อให้..”

   รุ่งโรจน์ซึ่งไม่ค่อยรู้รายละเอียดเหล่านี้จึงมองหน้าคนที่ว่าไม่เดียงสากับเรื่องความรัก..

   “ผมคนจัดทัวร์ เขามาเจอะกัน ก็คงเหมาว่าผมมีส่วนทำให้เขาเจอะกัน ก็เท่านั้น ไม่มีอะไร ไม่ได้ชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกันสักหน่อย..”

   “ตกลงจะไปหรือไม่ไป..”

   “ไปเถอะ ไปดูงานเขาไว้ เอาไว้มาทำงานตัวเอง..” รุ่งโรจน์ต่อความ..แสงทองหน้าแดงเล็กน้อย..ส่วนสุริยาทำหน้าไร้ความรู้สึกใด ๆ ..แต่ใจจริงนั้นนึกตำหนิคนที่รู้อยู่แก่ใจแล้วยังแกล้งทำเป็นพูดดี..โยนไปให้คนนั้นคนนี้..

   “จริง ๆ ผมชอบบรรยากาศแบบทัวร์เรานะ กันเองดี เที่ยวจนกลายเป็นพี่เป็นน้องกันไป เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นแสงทองหอบดอกไม้ไปให้ใครรึ”

   “วันเกิดป้าโสภิตเค้า ลูกทัวร์สามสิบแปดรอบของพี่เค้า ...เรามาทำข้อมูลลูกค้าก็พลอยรู้ไปด้วย..ว่ารักกันเหนียวแน่น..”

   “แต่ตอนนี้เธอก็เริ่มมีแฟนคลับแล้วนี่”

   “พี่ก็ใช่ย่อย”

   “ต่อไปถ้าผมไม่อยู่คุณสองคนก็ทำกันได้สบายบรื๋อ..ง่ายนิดเดียว”

   พอสุริยาพูดจบ ทั้งแสงทองและรุ่งโรจน์จ้องหน้าสุริยา

   “เผื่อไว้เฉย ๆ ...”

   “ไม่เอา พี่ยาไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกเลยนะ ..คนอะไรชอบพูดเรื่องตายอยู่เรื่อย วันนี้วันดีหนูนะคะ..อุตส่าห์บากบั่นพากเพียรเรียนจนได้บัตรไกด์เพื่อทัวร์ของเรา..ดื่มและกินบุฟเฟ่ต์ให้หมดโต๊ะให้ได้นะเสียดายของ..”

   “ตายแล้วอย่างนั้น..อายเขาตาย” รุ่งโรจน์ส่ายหัวกับความขี้เล่น ของแสงทอง

   “พี่รุ่งช่วงนี้ แม่พี่เงียบ ๆ ไปนะ..ไม่เห็นค่อยโทรมากวนใจเหมือนเมื่อก่อน”

   “ใครว่า ทุกเที่ยว แม่ส่งสปายขึ้นรถไปด้วยทุกครั้ง ผมไม่บอกพวกคุณเองแหละ..”

   “ขนาดนั้น”

   “แม่ผมเชียวนะ..ท่านไม่ยอมให้ผมคลาดสายตาไปนานนักหรอก..คงไปดูว่าผมกับคุณสุริยากุ๊กกิ๊กอะไรกันออกนอกหน้าหรือเปล่า หรือไม่ก็ไปดูว่าผม มีตาไปมองสาวคนไหนอีก หรือถ้าผมมองอยู่ก็อยากจะรู้ว่า เธอคนนั้นเป็นอย่างไร”

   “และอย่างหนูนี่เข้าสเป็คคุณแม่พี่ไหม”

   “เธอต้องเจอแม่ผมเอง..จริง ๆ แม่ใจดี มีเหตุผลแต่เป็นเหตุผลแบบเลิศ ๆ นะ ..และตั้งแต่คบกับพวกคุณมา ยอดค่าใช้จ่ายผมก็ลดลง คุณแม่ท่านก็แปลกใจ..ผมเองก็เบื่อที่ต้องไปใช้ชีวิตให้เปลืองไปกับเหล้าบุหรี่หรือสถานที่แบบนั้นไปเสียดื้อ ๆ ด้วย”

   “จะยอมรับสักหน่อยก็ไม่ได้ว่ามีเพื่อนดีอย่างหนูกับพี่ยา ..รึจริง ๆ ก็แก่แล้วมั้ง หรือไม่ก็คงจะใกล้บวชได้อีกคน”

   “จริง ๆ ผมคิดอยากบวชเหมือนกันนะ อยากรู้เหมือนกันว่า ท่องบาลีทีละหลาย ๆ หน้าโดยไม่ดูหนังสือทำอย่างไร”

   สุริยายิ้มด้วยเขายัดเยียดเรื่องราวเหล่านี้เข้าหัวรุ่งโรจน์อยู่เนือง ๆ ไม่มีเสียล่ะที่จะไม่ไปอยู่ในหัวบ้าง

   “โอ๊ย..ไม่นะ อีกคนก็พูดเรื่องตาย อีกคนก็พูดเรื่องบวช..นี่จะหนีหนูไปหมดใช่ไหม..เผากิจการทิ้งจริง ๆ ด้วย”

   “ไม่ดีรึแสงทอง เธอฮุบไปคนเดียว..สาวสวยเนื้อหอมมีหนุ่ม ๆ มาตอมเพียบแน่ ๆ ..”

   แสงทองเบะปาก

   “ลืมบอกพี่ ๆ ไป คือว่า คุณป้าหนูบอกว่า..จะบังคับหนูให้แต่งงานกับนายตำรวจคนหนึ่ง..แต่หนูไม่โอเค..”

   “ทำไม อนาคตคุณนายนะนั่น”

   “หนูอยากเป็นเถ้าแก่มากกว่าเจ้าค่ะ..ไม่หรอก เราไม่ได้รักเขานี่ ถ้ารักก็อีกเรื่อง..”

   “แล้วเธอรักใครบ้างหรือยัง..” พอถามดังนี้ สุริยาจึงเอื้อมมือไปหยิกที่ต้นขาคนพูดเสียทีหนึ่ง..

   “อย่าพูดถึงมันเลย ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก” น้ำเสียงของแสงทองเศร้าลงในทันที ก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักอาหารเข้าปาก..รุ่งโรจน์ส่ายหัว ส่วนสุริยาถอนหายใจออกมา..

   สุริยาเชื่อว่าปรบมือข้างเดียวมันไม่ดัง เขาจึงต้องถอยออกมาจากแสงทองหนึ่งก้าว เป็นได้แค่พี่ชาย ก็ทำตัวให้เป็นพี่ชาย

   สำหรับคนที่นั่งติดกันนี่ แม้ใจจะเทให้ไป แต่มันก็เป็นได้แค่เพื่อน..จึงต้องวางตัวแค่เพื่อน ..แค่คนรู้ใจกัน ซึ่งอีกคนก็รู้นัยยะที่เขาหยิบยื่นให้นั้น..

   โลกหนอโลก..เดินไปยากเหลือเกิน..ที่สุดของคนคืออะไร..ในเส้นทางทำมาหากินความปรารถนาคือร่ำรวย หมดหนี้หมดสิน..สืบทอดถึงลูกหลาน..เมื่อมิได้ปรารถนาจะมีลูกเต้า อารมณ์ที่จะสร้างฐานะให้มั่งมีจึงหายไปนิดนึง

   ลำพังตัวเอง รู้ตัวว่าแค่ไหนจึงจะอยู่ได้จนตาย...อย่างสบาย ๆ .. ภาระที่ยิ่งใหญ่คือพ่อแม่ ก็เหลือเพียงแม่คนเดียว..ซึ่งพี่ ๆ ก็รับไปเลี้ยงดูให้อยู่ในสายตา ให้อยู่แต่บ้าน ให้ไปวัดทำบุญ..นาน ๆ ทีเขาก็ไปรับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านป้า แล้วก็พาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา อยู่ได้ไม่นาน แม่ก็ร้องขอกลับไปอยู่บ้านนอกด้วยรำคาญเสียงรถ กับความคับแคบของที่อยู่อาศัย..

   ..สุริยามองคนสองคนที่นั่งตรงข้ามกัน..หากทั้งคู่รักกัน..เขาคงมีความสุข

   ความสุขจริง ๆ ไม่ได้หลอก หรือปลอบขวัญตัวเองเลยสักนิด..
   




   ในค่ำคืนนั้นหลังจากกลับมาจากงานแต่ง.. สุริยาก็พบรุ่งโรจน์นั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่โซฟา เมื่อเขามาถึงรุ่งโรจน์ก็ยิ้มให้..พร้อมกับตบเบาะให้มานั่งเคียงกันเหมือนทุกครั้ง..

   “เป็นไงเจ้าสาวสวยไหม”

   สุริยายิ้มเนือย ๆ ด้วยช่วงหลัง ๆ ที่อยู่ด้วยกัน จากความตื่นเต้นกลายเป็นความอัดอึด แสร้งที่จะทำทั้งที่คิดไปอีกอย่าง..

   “สวย สมกันจริงล่ะ..เห็นเจ้าบ่าวแล้วนึกถึงงานของคุณนะคุณรุ่ง ถ้าคุณยอมแต่งงานกับเจ้าสาวสักคนที่คุณแม่คุณหาให้...วันนั้นผมคงมีความสุขนะ”

   รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง สุริยาเห็นดังนั้นจึงเดินตามไปยืนเคียงกันมองออกไปข้างนอกคอนโด ด้วยเป็นย่านชานเมืองพื้นที่ด้านนอกนั้น จึงไม่มีตึกสูงระฟ้าขัดลูกหูลูกตา ที่ไกลยังมีทุ่งนาเขียวขจีให้เห็นในเวลากลางวัน

   “ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก”

   “แต่คุณต้องยอมรับความจริงนะคุณรุ่ง ว่าสิ่งที่คุณคิดมันเป็นไปไม่ได้..”

   “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะคุณยะ ทั้งที่มันก็เป็นอยู่นี่ไง”

   “คุณมั่นใจนะว่าคุณมีความสุข..” สุริยาย้อนถาม..แล้วก็พูดความจริงว่า

   “แต่ผมไม่มีความสุข”

   “คุณกำลังโกหกนะคุณยะ ผมรู้ว่าคุณก็มีความสุข..”

   “มันเป็นความสุขที่เจือด้วยความทุกข์นะ แล้วคุณจะว่าสุขหรือ..”

   “ถ้าคุณเหม็นหน้าผม คืนนี้ผมกลับไปนอนที่บ้านก็ได้..” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็หยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถเปิดประตูห้องออกไป

   เมื่อเห็นอาการของรุ่งโรจน์เป็นดังนั้น สุริยาได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ตรมลงในหัวอก..นี่แหละความรัก มันพาให้ทุกข์..แล้วเราจะรักเขาต่อไปได้อย่างไร ...อีกใจมันก็สอนตัวเองได้ แต่อีกใจมันก็เฝ้าชะแง้เงี่ยหูฟังที่ประตูหวังว่าเขาจะเคาะประตูง้อขอคืนดีดั่งเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2011 18:29:08 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 14 อยากให้&
«ตอบ #172 เมื่อ06-05-2011 10:14:18 »

สวัสดีวันสุข. o18

ขอบคุณสำหรับทุก ๆคอมเม้นท์นะครับ..และคอมเม้นท์ของคุณเกริด้า ทำให้ผมต้อง ให้รางวัล..เป็นหนึ่งบทในวันศุกร์นี้ ซึ่งสิบห้าบทนี่ก็ได้ครึ่งเรื่องพอดี
เรื่องนี้กำลังจัดทำรูปเล่มอยู่ครับ ปกกำลังออกแบบ และคาดว่าจะออกมาได้สวยแบบผมนี่แหละ 5555555

ครับ ผมกำลังปรึกษากับทีมอยู่ว่า จะใส่คอมเม้นท์ที่ผมประทับใจลงไปด้วยดีไหม ทีมฯบอกว่า คนที่เขาไม่ได้เม้นท์เขาซื้อเขาจะเสียเปรียบ (มีงี้อีก))..

อ้าว แล้วจะให้ทำไง (ขอเม้นท์ตามความรู้สึกจริง ๆ นะครับ อย่างของคุณเกริด้า)))

..เอาเป็นว่า ที่เม้นท์   ๆ กันไว้แล้วผมขออนุญาตคัดไปลงในเล่มเป็นที่ระลึกนะครับ

ต้องบอกก่อนว่า นิยายเกย์เรื่องนี้ ผมเขียนนานแล้ว เขียนตั้งแต่ยังไม่รู้ว่า มีนิยายแนวนี้เป็นที่นิยม ดังนั้นผมจึงไม่รู้สูตรเอาใจนักอ่านหรอกครับ รู้แต่ว่า เขียนไปตามที่ตัวละครเรียกร้องให้เขียน  และคิดว่า แก่นของเรื่องน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอ่านบ้าง.

ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกครั้งนะครับ..



 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2011 14:34:04 โดย anop2521 »

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
คุณยา กดดันตัวเองเกินไปหรือเปล่า ???

ชอบตอนรุ่งโรจน์คุยกับคุณแม่นะ ดูแล้วอบอุ่นดี




ปล.ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไร  ก็คอมเม้นท์ให้ทุกครั้งที่อ่าน  อาจจะตกหล่นไปบ้างบางตอน  แต่ไม่ได้หลีกเลี่ยงจะไม่คอมเม้นท์นะ   เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
ไม่รู้ทำไมยิ่งอ่านยิ่งอึดอัด คนนึงถูกจำกัดด้วยฐานะทางสังคมและครอบครัว
อีกคนถูกจำกัดด้วยความคิดและจิตใจของตัวเอง
คอยดูนะถ้าปีหน้าโลกแตกจริงๆ ชั้นจะสมน้ำหน้าพวกแกสองคน
ปล. จะทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย
คนเขียนเริ่มคิดมากเหมือนตัวละคร 555

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
ของแบบนี้ยิ่งหนีให้ห่างมันก้อยิ่งใกล้นะ อย่าไปคิดอะไรมากทำตามที่ใจต้องการดีกว่า

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอ้ยอยู่แบบนี้เครียดแทนพี่ยาอ่ะ


แล้วจะรักกันได้ไหมเนี่ยโอ้ยเศร้า

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เฮ้อ~ อึนๆเนอะ  :เฮ้อ:

ไอเข้าใจที่คุณยาและคุณรุ่งคิดนะ แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณยาคิดหน่อยๆเหมือนกัน...
ก็รู้นี่ว่าสักวันคนเราก็ต้องลาลับไป(ตาย) อะไรที่ตอนนี้ทำได้ก็ควรทำมันซะ จะฝืนตัวเองไปทำไม
จะบอกว่าการที่สองคนรักกันมันทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ แล้วยังไง?
ในเมื่อรักนี้ก็ไม่ได้เปิดเผยออกไปอย่างหน้าเกลียด ทั้งสองคนรู้ลิมิตในการวางตัวต่อสังคมภายนอกดีอยู่แล้ว
ไม่ได้แกล้งให้ใครมาเป็นแฟนบังหน้าสักหน่อย ส่วนจะเป็นยังไงต่อมันก็เรื่องของวันข้างหน้า
การที่คุณยาทำแบบนี้ไม่ใช่แค่ตัวเองทุกข์เท่านั้น ยังทำให้คนที่เรารัก(คุณรุ่ง)ทุกข์ไปด้วย
เฮ้อ!
สงสารแสงทองเหมือนกันนะ แต่ในเมื่ออีกคนเขาไม่รัก ทำไง๊มันก็ไม่รักนี่นะ

หวังว่ามิตรภาพของสามคนนี้จะไม่จบไป เพราะทัวร์ที่คุณยาก่อตั้งขึ้นนี้ทำด้วยใจจริงๆ

ถ้ามีบริษัททัวร์ถูกๆแต่เต็มไปด้วยคุณภาพแบบนี้จริงๆ ไอก็อยากลองไปร่วมทริปดูด้วยนะ จากใจจริงเลย ^^


 :L2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
รู้สึกว่าพี่กดดัน >"<
พี่รุ่งก็ไม่กล้าที่จะเด็ดขาด
มันเลยไม่สุดสักทีเนี่ยยยย

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

เครียดดดด รู้ว่าพี่ยามองทุกอย่างไปตามความเป็นจริงเสมอ
แต่พี่ยาเครียดไปไหมคะ กดดันไปไหม
ทั้งๆที่พี่ยาคิดจะตั้งสติแล้วปล่อยไป ทำไมไม่คิดจะทำให้ตัวเองมีความสุขบ้าง
ที่บอกว่าทุกข์ก็ทุกข์เพราะความคิดของพี่ยาเป็นทุกข์ไม่ใช่หรอ ?
คิดให้ตัวเองมีความสุขบ้างเหอะคะ หนูอยากอ่านพี่สองคนกุ๊กกิ๊กๆกันจัง   :เฮ้อ:

รออ่านตอนต่อไปนะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ
+1จ้า จุ๊บบบบบบบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด