My Best Friend : บทส่งท้าย updated 8 Feb 13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Best Friend : บทส่งท้าย updated 8 Feb 13  (อ่าน 82485 ครั้ง)

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 7 updated 18/4/11
«ตอบ #60 เมื่อ20-04-2011 21:38:19 »

หลัังจากวันนั้นผมกับบาสก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ต้องขอบใจไอ้โจ้ที่ช่วยให้ผมกับบาสกลับมาคุยกันอีกครั้ง น้องแป้งค่อยๆหายออกไปจากชีวิตผมกับบาส ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะผมกับน้องแป้งเลิกติดต่อกันมานานแล้ว แต่ถึงยังนั้นผมกับบาสก็ไม่เคยคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่เคยถามบาสเรื่องของน้องแป้งและไม่เคยถามว่าทำไมอยู่ๆน้องแป้งก็หายไป ส่วนบาสก็ไม่เคยพูดอะไรให้ผมฟังเหมือนกัน มันเป็นอีกนิสัยของผมที่อยากจะปล่อยให้เรื่องราวเลวร้ายมันผ่านพ้นไป ในเมื่อน้องแป้งก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะพูดถึงเรื่องนี้อีก

ผมกับบาสกลับมาใกล้กันเหมือนเก่า ที่โรงเรียนผมมาหาบาสทุกช่วงพัก ตอนกลางคืนบาสก็โทรหาผม บางวันเราก็ไปกินข้าวเย็นด้วยกันที่สยาม แม้ผมจะต้องเหนื่อยมากขึ้นกับการแบ่งเวลาทั้งเรื่องเรียน กิจกรรมและเวลาส่วนตัวของผมกับบาสแต่ผมก็มีความสุข  :m1:

ช่วงเดือนเเรกที่เรากลับมาคุยกันแน่นอนครับว่าผมเองก็อยากรู้ว่าเราสองคนกลับมาคบกันในฐานะอะไร ผมไม่เคยพูดกับบาสถึงสถานะของเราสองคน ผมยังรักบาสอยู่และเเน่นอนว่าผมก็ยังอยากจะกลับไปอยู่ในสถานะเดิมแต่ผมก็ไม่กล้าถามบาส ผมกลัวว่าบาสจะปฏิเสธผม เราสองคนคุยกันเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์น้อยครับ แม้จะคุยกันทุกวันแต่บาสก็ไม่บอกรักผมเหมือนเคย  เรื่อง “ใกล้ชิด” บาสก็ไม่พูดถึง ส่วนผมก็เงียบไม่แสดงออก ไม่พูดอะไรทั้งนั้น

จนวันหนึ่งบาสกับโจ้นัดกันมาเล่นบ้านผม คืนนั้นผมก็คิดนะครับว่ามันจะมีอะไรมากกว่ามานั่งเล่นหรือเปล่าแต่คิดไปก็ปวดสมองผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาผมก็หลับไป ตอนเช้าบาสมาถึงก็เข้าไปนั่งเล่นเกมกับไอ้โจ้ ส่วนผมก็มาเตรียม jelly ที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ... ผมทำอาหารไม่เป็นครับ ตอนนั้นต้มมาม่าผมยังทำไม่ได้เลย แต่ผมก็ลงมือทำขนมเองเพราะอยากเอาใจบาส  :o8:

ตอนผมยกถาดขนมมา บาสก็เเซวๆว่าจะกินได้ไหม บาสรู้ครับว่าฝีมือการครัวของผมแย่สุดๆ กินกันเสร็จผมก็นั่งดู 2 คนนั้นเล่นเกม ก็ปล่อยให้บาสกับโจ้เล่นเกมกันไป เพราะดูเหมือน 2 คนจะลืมไปแล้วว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ ผมเดินขึ้นมาหาหนังสืออ่านเล่นข้างบน ผมติดนิสัยชอบอ่านหนังสือไปแล้วครับ เวลาว่างๆผมก็ชอบหยิบเอาโน่นเอานี่มาอ่าน กำลังก้มๆเงยๆหาหนังสือ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงล็อกประตู พอหันกลับไปก็เห็นบาส

บาสเดินเข้ามาจูบผม เท่านั้นล่ะครับผมสติหลุดไปเลย ผมจูบตอบ

“นิว เรากลับมาคบกันนะ”  :m10: ผมตอบรับด้วยการโน้ม หน้าเข้าไปจูบบาส ยอมรับครับว่าผมก็อยากเหมือนกัน บาสก็คงรู้สึกเหมือนผมเพราะบาสล้วงมือลงมากระตุ้นอารมณ์ผมทันที สัมผัสที่ห่างหายไปนานมันยิ่งทำให้ผมอยากเเนบชิดกับบาส จำได้ว่าผมกอดบาสเอาไว้แน่นมาก  :กอด1: ขนาดตอนอาบน้ำ้ผมก็ยังซบอยู่กับอกบาส ให้บาสล้างตัวให้ผม แล้วบาสก็พูดประโยคหนึ่งที่ีทำให้ผมดีใจจนน้ำตาไหล

“บาสขอโทษที่ทำให้นิวเสียใจ ตอนนี้รู้แล้วว่ารักนิวคนเดียว”  :m3: ... หลังจากนั้นเราสองคนก็กลับมา "ใกล้ชิด" กันเหมือนเดิม บาสกลับมาบอกรักผมอีกครั้ง

แป๊บเดียว 1 ปีผ่านไปเหมือนโกหก ผมกับบาสเลือกเรียนคนละสายกัน ผมเลือกเรียนสายเดียวกับเอ็ม พอขึ้นชั้นใหม่ผมกับเอ็มก็แยกห้องกัน อยู่ห้องใหม่ผมก็ได้เพื่อนใหม่ ผมยังสนิทกับเนย์เหมือนเดิม แต่ช่วงหลังๆผมไปสนิทกับต้นและบิว มัน 2 คนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเอ็มตั้งแต่ปีที่แล้ว

พอขึ้นม.ปลายผมก็กลายเป็นเด็กกิจกรรมเต็มตัว ผมกับเพื่อนๆชวนกันเปิดชมรม มันเหมือนเป็นวัฒนธรรมของโรงเรียนผมว่าเด็กม.ปลายต้องสังกัดชมรม ผมไปเชิญอาจารย์ 3 ท่านที่ผมสนิทมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาและก็ไม่น่าเชื่อครับว่าเพื่อนๆโหวตให้ผมเป็นประธานชมรม เเรกๆผมก็ตื่นเต้นกับตำ่แหน่งใหม่ แต่สักพักถึงได้รู้สึกว่ามันก็คือภาระดีๆนี่เอง ผมไม่เคยทำงานเป็นหัวหน้ามาก่อน

ผมกระจายงานไม่เป็น งานทั้งหมดมันเลยมาจมอยู่ที่ผม งานของชมรมเดินช้ามากเพราะเรื่องของการจัดการและความไม่รอบคอบของผม ผมหา sponser ไม่เป็น พอถึงเวลาต้องหาเงินผมก็หาไม่ได้ ในขณะที่คนอื่นๆได้เงินได้ของ ชมรมผมยังไม่ได้เริ่มหารายชื่อ sponser เลยด้วยซ้ำ้ ผมโดนอาจารย์เรียกไปว่าไม่รู้กี่หน โดนว่าจนต้องแอบมาร้องไห้เลยก็มี มันใช้เวลานานเหมือนกันครับกว่าผมจะปรับตัวได้

บาสก็ทำชุมนุมนะครับ แต่เราสองคนก็ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กัน ส่วนหนึ่งเพราะ ego ส่วนตัวของผมอีกส่วนหนึ่งคือแต่ละชมรมก็จะแข่งกันสร้างผลงาน ผมเลยตัดปัญญาไม่เอางานราษฎร์มายุ่งกับงานหลวง ทำเหมือนผมห่วงบาสนะ แต่เอาเข้าจริงถึงบทที่ผมต้องแข็งในเรื่องผลประโยชน์ของชมรม ผมก็ไม่เกรงใจเหมือนกัน ไม่เป็นไรครับโกรธกันต่อหน้าคนอื่นแล้วค่อยมาง้อกันที่หลัง  :z1:

เหนื่อยเวลาง้อนี่เหนื่อยนะครับ บาสคิดค่าเสียหายโคตรแพง  :z3: แล้วผมก็พูดอะไรไม่ได้เพราะยอมรับจริงๆว่าเรื่องงานนี่ผมฟันไม่ยั้ง จำได้ว่าที่แพงที่สุดคือให้ไปค้างบ้านบาสคืนหนึ่ง ผมนี่แทบหมดสติอยู่บนเตียง คนบ้าอะไรไม่เหนื่อยบ้างเหรอ  :m25: จนหลังๆผมเริ่มเกรงใจบาสครับ (จริงๆแล้วสงสารตัวเอง) ต้องไปขอให้เพื่อนเป็นคนออกหน้าแทนเวลามีประชุมงาน

ผมกับบาสตั้งแต่กลับมาคบกันอะไรๆมันก็ดูดี เหมือนว่าเราทั้งคู่เพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายกันไป ผมไปกินข้าวดูหนังกับบาสบ่อยขึ้น เสาร์อาทิยต์เราเรียนพิเศษที่สยามเพราะผมกับบาสเรียนคนละสาย เราเลยเรียนคนละห้องแต่พอกลางวันผมกับบาสก็จะมานั่งกินข้าวด้วยกัน ช่วงบ่ายๆหลังเลิกเรียนเราสองคนก็เดินเล่นสยามกันต่อก็กินข้าว ดูหนัง ซื่อของอะไรแบบนั้น แต่น่ว่าภาพที่เกิดขึ้นมันคงไม่เหมือนในหนังในละครที่ผมเดินควงแขนจับมือกับบาสหรือบาสยืนลูบหัวผมกลางสยาม ทั้งผมกับบาสต่างก็ไม่กล้าจะทำอะไรเปิดเผยต่อหน้าคนอื่น และมันคงไม่ดีแน่ถ้ามีเพื่อนของเราคนใดคนหนึ่งบังเอิญเห็น

ถ้าพี่ๆจะถามผมว่าผมไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยเหรอจากเรื่องที่ผ่านมา ตอบตามตรงครับว่าผมรู้ว่าบาสไม่ใช้แฟนที่ดีที่สุดแต่ผมก็รักบาสมาก รักมากจนมองข้ามเรื่องเหล่านั้นได้หมด แม้จะเคยทำให้ผมเสียใจแต่ขอแค่ให้บาสบอกรักผมเท่านี้ผมก็ยินดีที่จะลืมทุกอย่าง  :impress:

ปล. ผมรู้ว่าตอนนี้อาจจะขัดใจไปบ้างสำหรับคนที่เกียดหน้าบาส ยังไงก็ใจเย็นๆกันหน่อยนะครับ  o1

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: My Best Friend : ตอนที่ 8 updated 20/4/11
«ตอบ #61 เมื่อ20-04-2011 22:14:16 »

รู้สึกเหมือนบาสมองนิวเป็นของตายยังไงไม่รู้  แต่มันก็ช่วยไม่ได้แฮะ  รักเค้าแล้วได้อยู่ใกล้ๆ  ดีกว่ามานั่งระแวงนึกเรื่องเก่าๆแล้วจะมองหน้าเขายังไง  บาสนี่จริงๆเป็นอย่างนี้มานานแล้วป่ะ  รู้สึกดูร้ายๆอ่ะ ช่วงหลังๆนะ  ตอนแรกๆที่มาดามใจนิวนี่ตอนนั้นอย่างปลื้ม  ดูเป็นคนดีมากๆ

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
«ตอบ #62 เมื่อ20-04-2011 22:26:30 »

มันต้องมีไรอีกแน่ๆเลยนิ ใช่ม่ะ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: My Best Friend : ตอนที่ 8 updated 20/4/11
«ตอบ #63 เมื่อ21-04-2011 02:35:48 »

รับรู้ได้เลยว่า มีหนแรกมันก็ต้องมีหนที่สอง
ปล.ตอนนี้น้องนิวเรียนชั้นไหนแล้วเนี่ยพี่อยากลำดับเรื่องราวให้เข้าใจอะ อิอิ

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 8 updated 20/4/11
«ตอบ #64 เมื่อ21-04-2011 21:09:50 »

รู้สึกเหมือนบาสมองนิวเป็นของตายยังไงไม่รู้  แต่มันก็ช่วยไม่ได้แฮะ  รักเค้าแล้วได้อยู่ใกล้ๆ  ดีกว่ามานั่งระแวงนึกเรื่องเก่าๆแล้วจะมองหน้าเขายังไง  บาสนี่จริงๆเป็นอย่างนี้มานานแล้วป่ะ  รู้สึกดูร้ายๆอ่ะ ช่วงหลังๆนะ  ตอนแรกๆที่มาดามใจนิวนี่ตอนนั้นอย่างปลื้ม  ดูเป็นคนดีมากๆ
ก่อนจะคบกับผมบาสก็เหมือนเด็กผู้ชายธรรมดาละครับมีไปเหล่ๆผู้หญิงแถวสยามบ้างแต่บาสก็ไม่มีเพื่อนผู้หญิงสนิทๆ
ผมว่าก็คงเหมือนกันเด็กผู้ชายคนอื่นๆคือชอบจีบหญิงโชว์เพื่อนมากกว่า แต่คงเป็นเพราะผมกำลังคบกับบาสมั้งครับ
จีบเล่นจีบจริงสำหรับผมมันก็ไม่ต่างกัน

มันต้องมีไรอีกแน่ๆเลยนิ ใช่ม่ะ
:m26:

รับรู้ได้เลยว่า มีหนแรกมันก็ต้องมีหนที่สอง
ปล.ตอนนี้น้องนิวเรียนชั้นไหนแล้วเนี่ยพี่อยากลำดับเรื่องราวให้เข้าใจอะ อิอิ
:m7:


Rubaiyat

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 8 updated 20/4/11
«ตอบ #65 เมื่อ21-04-2011 22:06:39 »

บาสทำกับนิวไว้เจ็บมากเลยนะนั่น  :beat: อ่านแล้วยังโกรธแทน

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 8 updated 20/4/11
«ตอบ #66 เมื่อ22-04-2011 19:32:49 »

เรื่องของผมกับบาสยังมีต่อครับ ... เราสองคนมีอะไรกันมาหลายครั้ง แล้วผมก็เริ่มเรียนรู้ว่าจะต้องทำอะไรยังไงหรือว่าบาสชอบอะไรแบบไหน ผมกับบาสยังมีอะไรกันที่โรงเรียนเหมือนเคย วันนั้นเป็นวันก่อนงานเลี้ยงประจำปีของโรงเรียน แต่ละชมรมอยู่เตรียมเปิดซุ้มกัน เย็นนั้นผมก็อยู่ทำงานกับเพื่อนๆและอาจารย์ที่ปรึกษาจนค่ำ่ บาสก็มาครับ เราโทรคุยกันตอนเช้าแต่ผมไม่รู้ว่าบาสไปเตรียมงานที่ไหน ช่วงเย็นๆผมหิวข้าวก็เลยแว้บลงมาหาอะไรกิน ตอนเดินกลับขึ้นไปเจอบาสกับโจ้นั่งเตรียมงานกันอยู่ในห้อง ผมเลยเดินเข้าไปทัก มันเป็นเพียงไม่กี่ครั้งหรอกครับที่ผมจะเริ่มอ่อยบาสก่อน  :z1: … เล่าแล้วก็อายตัวเอง  :-[

“พวกมรึงอยู่เย็นเหรอ” เนียนครับ ผมเปิดเข้าไปก็ทักทายกันเเบบเพื่อนก่อน

“แล้วไมมรึงยังไม่กลับล่ะ” บาสหันมาสนใจผมครับ ไอ้โจ้กำลังเก็บของ สงสัยจะกลับกันแล้ว

“ทำงานว่ะ ยังไม่เสร็จ มรึงกลับด้วยกันเหรอ” เริ่มหาข้อมูลครับ เพราะบ้านบาสกับโจ้อยู่ใกล้กันเย็นขนาดนี้มันจะกลับด้วยกันประจำ

“อืม” โจ้มันหันมาตอบ ส่วนบาสมองมาที่ผมเหมือนจะถามอะไร เข้าทางผมสิครับ ผมชำเลืองมองไปที่ไอ้โจ้มันก็ยังนั่งเก็บของแบบไม่สนใจใคร ผมเลยขยับปากว่า “อยากว่ะ”  :m17: แล้วก็ทำหน้าทำตา บาสรับมุกครับส่งยิ้มกวนๆมาให้

“โจ้กรูหิว เดียวกรูไปหาของกินกับนิวก่อนนะ เดียวกรูซื้อเผื่อ มรึงเก็บของเสร็จเเล้วเจอกรูหน้าโรงเรียน” บาสไม่ฟังคำตอบครับเดินออกนอกห้องพร้อมผม
   
ตัดฉากมาที่ห้องนำ้เลยนะครับ มันเย็นจนข้างนอกมืดหมดแล้ว บนตึกไม่ต้องพูดถึงผมว่ามีคนอยู่ไม่เกิน 10 คน แล้วตอนนี้ไม่มีอาจารย์เวรด้วยครับ พอเข้าห้องน้ำได้ ผมกับบาสก็จูบกันแบบไม่อายฟ้าดิน ลากกันเข้าห้องนำ้ ต่างคนต่างรู้งานครับ เสื้อผ้าผมนี่ถอดง่ายเหมือนถอดถุงเท้า เผลอแป๊บเดียวเสื้อผมก็พาดอยู่บนบ่าของบาสแล้วส่วนเกงกางก็กองอยู่บนพื้น อยากบอกว่าบาสที่อยู่ในสภาพเดียวกับผมนี่เท่มากครับ เห็นแล้วแบบว่า  :m10:

วันนี้ผมเป็นฝ่ายเริ่มครับ บาสคงดีใจเพราะนานๆทีผมจะเสนอตัว บาสเลยสนองให้ ช่วยผมจนเสร็จไปก่อน ผมก็ต้องตอบแทนผู้มีพระคุณใช่ไหมครับช่วยบาสให้เสร็จตามทีหลัง พอต่างคนต่างเสร็จวันนี้ไม่ต้องรีบจัดระเบียบเครื่องแต่งกาย เราก็มายืนแต่งตัวกันหน้ากระจก

“โอ๊ย!! บาสตบหัวนิวทำไม” ผมเจ็บนะครับบาสตบลงมาไม่ยั้งเลย แต่พอหันไปผมก็อดหัวเราะไม่ได้ บาสยื่นตัวเข้ามาแล้วแหวกปกคอเสื้อโปโลออกให้ผมดู แหะแหะ เห็นรอยแดงเป็นดวงที่ไหปลาร้า  :m23:
   
“ก็บาสนั่นแหละ แกล้งนิวก่อน” ผมก็พูดไปเรื่อยแหละครับ ตอนนั้นอารมณ์มันหยุดไม่อยู่จริงๆ

ผมเดินกลับขึ้นมาทำงานต่อ ส่วนบาสก็กลับบ้าน แต่แล้วเรื่องที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นครับ
   
“นิว นี่เธอ เธอ!!”

“อะไรครับจารย์” ผมก็งงครับ อาจารย์มายืนชี้หน้าผมแล้วก็ทำหน้าอึ้งๆ
   
“พี่น้อยๆ มาดูนี่สิคะ” แล้วอาจารย์น้อยก็มาครับ ผมมีอาจารย์ที่ปรึกษาชมรม 3 ท่าน อาจารย์น้อยนี่ถือว่าเป็นอาจารย์ผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ผมเคารพ ท่านเข้าใจและค่อนข้างเป็นกันเองกับเด็ก

“นิว!! บอกครูมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าเธอไปทำอะไรมา” ผมก็อึ้งสิครับ   :try2: หน้าเริ่มซีดแล้วครับน้องนิว อะไรนี่รู้ได้ไงว่าผมไปทำอะไรมา เท่านั้นล่ะครับอาจารย์ท่านสุดท้าย อาจารย์แดงก็เดินเข้ามา อาจารย์แดงนี่ขึ้นชื่อเรื่องพูดตรงและแทงใจดำมากครับ
   
“จารย์พูดไรนะ นิวก็ลงไปกินข้าวไง หิวจะตาย” ผมก็แถล่ะครับ ยอมรับว่าใจนี่สั่นไปหมด ถ้าอาจารย์รู้ผมขึ้นแดนประหารแน่ พูดเว่อไปน่ะครับ ผมน่ะลูกรักอย่างมากก็โดนเทศน์สักชั่วโมง วันรุ่งขึ้นทั้ง 3 คนก็แซวผมกันสนุกแล้ว คนที่น่าสงสารกว่าคงเป็นบาสเพราะเป็นหัวขโมยที่เข้ามาขโมยลูกเสือจากในถ้ำ
   
“นิว เธอไปมีอะไรกับใครมา แอบมีสารมีไม่บอกแม่เหรอ”  :a5: จริงๆแล้วคำว่าสารมีนี่สุภาพแล้วนะครับ จริงๆอาจารย์ใช้คำที่ local กว่านั้น อาจารย์ก็พอดูออกว่าผมเป็นอะไรแต่ท่านแค่ไม่พูดเท่านั้นเองครับ   

“เปล่าจารย์ เอาอะไรมาพูด นิวไม่รู้เรื่อง” ผมยังงงๆไม่หายครับว่าทำไมอยู่ๆถึงมารุมผม คือถ้าเห็นถึงขั้นผมกับบาสมีไรกัน ผมว่าคงมีเฮตั้งแต่ในห้องน้ำ้แล้วล่ะครับ

“นี่ไงๆ เธอบอกชั้นมาสิว่านี่มันรอยอะไร”
   
“รอยไรจารย์ ไม่เห็นมีนิ” ผมก็หันหน้าเข้ากระจกสิครับ ผมว่าผม check สภาพตัวเองก่อนเข้ามาดีแล้วนะ

“นี่ๆ ตรงนี้”  :sad3: แล้วอาจารย์น้อยก็จิ้มมาที่หลังคอผมครับ หน้าซีดเลยครับผม ใครจะไปคิดว่าบาสจะทำ kissmark ไว้ที่หลังคอผม

“แพ้อะไรซักอย่างมั้งจารย์ วันนี้ทำงานทั้งวันเหงื่อออกเยอะ คันจะตายอยู่แล้ว” ผมก็ยังแถต่อครับ ในใจก็แบบว่าพ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย บาสนะบาสกลับไปล่ะก็จะเอาให้ตายเลย แกล้งกันได้แสบมากกกกก สรุปว่าผมโดนซักเกือบครึ่งชั่วโมงครับ ท่านดูเหมือนไม่เชื่อ แต่ผมก็ปากแข็งยืนยันกระต่ายขาเดียว จนสุดท้ายท่านก็เลิกถาม แต่อาจารย์แดงก็ยังมีเหน็บครับ

“ถ้าจับได้นะว่าใครมันแอบมาเจาะไข่แดงลูกชั้น ชั้นจะตามไปแหกอกมันถึงบ้าน … เจ็บมากไหมลูกแม่” อึ้งไปครับ
   
“นิว นี่เธอใช้ถุงยางเปล่าเนี่ย” อ้าปากค้างเลยครับผม แต่ยังไม่ใช่ที่เด็ดที่สุด

“อย่าให้ชั้นรู้นะว่าเธอท้องไม่มีพ่อ” เอออออออ คือ จารย์คับผมท้องไม่ได้ … ผมไม่มีมดลูก กร้ากกกกกกกก!!  :laugh3:

ไอ้เรื่อง kissmark นี่เกือบทำผมซวยหลายครั้งแล้ว คือเวลาเราสองคน “นั่งเล่น” ครั้งต่อไป เวลาอาบน้ำ้ผมก็จะสำรวจร่อยรอยความเสียหายของตัวเอง บางครั้งถอดเสื้ออกมาแล้วแทบช็อค มันมีแต่รอยแดงเป็นจ้ำ่ทั้งตัวเลยครับ ผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าตอนนั้นทำอะไรลงไปบ้างคือไม่เคยรู้สึกตัวเลยว่าถูกทำ kissmark พอมาเห็นหลักฐานแล้วมันรู้สึกเจ็บตามตัวยังไงไม่รู้

ผมเคยไป “นั่งเล่น” บ้านบาสมาแล้วตอนเย็นก็มานั่งกินข้าวกับพ่อ กินๆอยู่พ่อก็ถามครับว่าที่คอไปโดนอะไรมา ผมก็ใจหล่นวูบเลยครับ “อ้อ!! ไปเล่นกับน้องสาวบาสมาแล้วโดนหยิก” แก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่ก็รอดตัวไปได้อีกครั้ง

ผมกับบาสเคยรุนแรงกันถึงขั้นเลือดสาดก็มีนะครับ คือเราสองคนก็มีอะไรกัน พอเสร็จก็เดินกลับบ้านพร้อมกันแล้วบาสก็ตะโกนขึ้นมาครับ

“เลือด นิว นิวเลือดออก” ผมที่กำลังยืนเกาหัวอยู่ก็ยกมือขึ้นมาดู เลือดจริงๆครับเยอะด้วย เคยเป็นไหมครับเห็นเลือดคนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่พอเป็นเลือดตัวเอง หน้ามืดเลยครับผม  :sad4:

“บาส นิวเลือดออกอ่ะ” ผมก็คลำตามตัวว่าเลือดมันมาจากไหน บาสก็ช่วยผมสำรวจตอนแรกผมคิดว่าหัวแตกแต่ผมก็ไม่รู้สึกเจ็บ จะบ้าเหรอรุนเเรงกันขนาดหัวแตก คิดไปคิดมา แหะๆ คิดออกแล้วครับ เมื่อวานผมทำงานกับเพื่อนแล้วโดนคัตเตอร์บาดนิ้ว บาสก็พาผมไปห้องพยาบาลทำแผล อาจารย์ก็ถามนะครับว่าไปโดนอะไรมา ผมก็อายๆครับเลยตอบไปว่าโดนคัตเตอร์บาด

“นิว บาสเก่งเหรอ” บาสกระซิบข้างหูผมทันทีที่เราเดินออกมาจากห้องพยาบาลครับ

“ไมอะ”
   
“ก็บาสทำนิวหัวใจเต้นแรงขนาดแผลฉีกได้”  :m30: ผมนี่เขินมากครับ ไม่กล้ามองหน้าบาสเลย ชกบาสไปทีหนึ่งแล้วก็รีบเดินหนี

หลังจากที่อยู่บ้านเก่ามานานมากในที่สุดบาสก็ขึ้นบ้านใหม่ครับ ช่วงที่กำลังจะย้ายบ้านบาสไม่มีเวลาให้ผมเลย ผมโทรไปบาสก็บอกว่าเก็บของอยู่ พอผมชวนไปเที่ยว บาสก็บอกว่าไม่ว่าง จนผมต้องเอาตัวเองเข้าแลกครับ ชวนบาสมานั่งเล่นที่บ้าน บาสยังเมินเลยครับ ผมก็นอยด์เค้านิดๆนะ แต่ก็เข้าใจว่ากำลังเก็บของมันก็คงยุ่งๆกัน

พอขึ้นบ้านใหม่ ผมกับบาสก็มีสถานที่ที่เป็นส่วนตัวกันสุดๆ ใช่แล้วครับ ไม่นานหลังจากย้ายบ้าน บาสก็ชวนผมมานอนค้าง  :impress2: ผมใช้เวลาขอพ่ออยู่นานจนสุดท้ายพ่อก็อนุญาต จำได้ว่าวันนั้นไอ้โจ้มันก็มาด้วย แต่พี่ๆอย่าเพิ่งทำหน้าเสียใจกันสิครับ เพราะไอ้โจ้มันไม่ค้างคืนกับผม  :a2: พอกินข้าวเสร็จผมกับบาสก็ขึ้นมาข้างบน

"บาส นิวไปอาบน้ำ้ก่อนนะ"  :z1: ผมจำได้ว่าตั้งแต่ขึ้นมาบนห้องบาสก็เอาแต่นั่งเล่นเกม ผมก็นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงรออาหารย่อย

“บาสอาบด้วย” ผมไม่ได้จะยั่วบาสนะครับ ผมอยากอาบนำ้จริงๆ ผมไม่ได้ห้ามอะไรเพราะรู้ว่าห้ามไปก็เท่านั้น ยังไงบาสก็เข้ามาอาบน้ำ้กับผมอยู่ดี มันไม่ดีเหรอครับยืนอยู่เฉยๆแล้วมีคนมาสระผม ถูสบู่ให้ ก็เหมือนที่พี่ๆคิดล่ะครับ เราสองคนมีอะไรกันในห้องน้ำแต่บาสไม่ยอมช่วยผมจนเสร็จ แล้วก็ไม่ยอมให้ผมช่วยด้วย บาสบอกว่าเดี๋ยวผมหมดอารมณ์ไปซะก่อน นานๆทีจะได้มานอนค้างกับบาส  :m25:

อาบน้ำ้เสร็จบาสก็ลากผมขึ้นมาบนเตียง เขินนะครับแปลกที่ด้วยมั้ง กลิ่นเฟอร์นิเจอร์ยังใหม่อยู่เลย บาสปลุกอารมณ์ผมเต็มที่ทั้งจูบ ทั้งไซ้ ปากก็ใช้มือก็ใช้ แต่บาสก็ไม่ปล่อยให้ผมถึงสวรรค์สักที  :dont2: จนผมทนไม่ได้ครับ

“บาส นิวขอร้องล่ะ ช่วยนิวทีนะ” อายก็อายครับแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยขอ

“ไม่ไหวขนาดเอ่ยปากขอเลยเหรอ”

“อืม ไม่ไหวแล้ว”

“นิว … บาสขอนะ”

“ขออะไร” ยังโง่อยู่ครับ ภัยกำลังจะมาถึงตัวแล้วยังไม่รู้เรื่องเลย

“ขออ่ะ …. ขอ  :oo1: นิวได้ไหม”

“ฮ้า!!!! ไม่เอา นิว... นิวยังไม่พร้อม”  :a5: ตอนนั้นรู้สึกว่ามีอะไรกันแค่นี้ก็พอแล้ว จะต้องไปมีให้มันลึกซึ้งทำไม แต่หลักๆแล้วคือผมกลัวเจ็บครับ แต่ผมก็เสียท่าบาสแล้ว บาสจูบผมแล้วใช้มือช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมไปด้วย

“นะนิว”

“อืม” ผมสติแตกไปแล้ว  o2 ตอนนี้หน้ามืดของแท้ พยักหน้าทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ้ แบบว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำ้ตา ขอเล่าแบบละเอียดนะครับเพราะมันคงเป็นไม่กี่เรื่องที่ผมจำรายละเอียดได้มากขนาดนี้

บาสเอาหมอนมารองใต้สะโพกผม แต่เพราะผมที่ไม่รู้งานบาสเลยต้องจัดท่าให้ ก็คนมันไม่เคยนี่ครับ แต่จริงก็รู้นะว่าต้องทำไงแต่แค่อาย บาสอยากให้ทำอะไรก็จัดเอาเองละกัน

“บาส นิวกลัว” อันนั้นกลัวจริงครับ ใจเต้นตุ้บตั้บเลย
   
“ไม่เป็นไร ไม่เจ็บหรอกนิว” ผมรู้ว่าบาสโกหก มันเจ็บจะตายเท่าที่บาสเคยลองมันก็เจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แล้วบาสก็เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบหลอดเจลออกมา พอเห็นที่มันเขียนอยู่ข้างหลอดผมตาโตเลยครับ มีครบขนาดนี้วางแผนมาชัดๆ  :sad5:

แล้วไอ้ที่เคยอ่านว่าก่อนมีอะไรเขาใช้นิ้วเปิดทางกันก่อนนี่ ไม่มีนะครับ ผมว่าบาสก็คงเด็กด้วยเลยไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวผมยังไง แล้วถ้าพี่ๆวาดฝันไว้ว่าจะเห็นฉากรักที่อ่อนหวานนุ่มนวล อยากบอกว่าไม่ใช่เลยครับ พอรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกรุกล้ำ ้ความเจ็บปวดมันก็พุ่งขึ้นมา ผมก็ขยับตัวหนีสิครับ แต่บาสก็กดตัวผมเอาไว้

“นิวอย่าดิ้นสิ จะได้ไม่เจ็บ” โกหกได้ทุเรศมาก ดิ้นไม่ดิ้นมันก็เจ็บเหมือนกันแหละ  :o7:

“บาสไม่เอาแล้วมันเจ็บ ไม่เอาแล้วนะบาส นิวเจ็บ” พูดไปก็เท่านั้นล่ะครับ เพราะความเจ็บมันไม่ลดลงเลย ผมยังคงรู้สึกตัวว่าบาสกำลังเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ยิ่งดิ้นสิครับ

“เฮ้ย!! กรูบอกว่าไม่เอาไง มรึงไม่ได้ยินเหรอ …. ไอ้เหี้ยบาส!!! … ฮึกๆ ฮือออออออออออ บาส นิวเจ็บ เจ็บอ่ะ” บาสมาสารภาพทีหลังครับว่ารำคาญที่ผมดิ้นไปดิ้นมาไม่ยอมอยู่นิ่งๆเลยเข้ามาทีเดียวจนมิด เจ็บแบบเจ็บจี๊ดเลยครับ ผมตะโกนด่าออกมาดังลั่นห้อง มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนร้องไห้เนี่ยแหละ บาสก็ปลอบๆผมนะครับ เอามือมาเช็ดน้ำ้ตาให้ ผมก็ไม่หยุดร้อง ที่ร้องนี่คือมันเจ็บ บาสก็ยังค้างอยู่อย่างนั้น ผมก็ยิ่งเจ็บ แล้วบาสก็ค่อยๆถอยออกถอยเข้า เเรกๆมันก็เจ็บนะครับ เข้าก็เจ็บออกก็เจ็บ แต่ก็อย่างที่ใครหลายคนบอก “เดี๋ยวมันก็ชิน”  :o8:
   
สักพักจากเสียงร้องไห้มันก็กลายมาเป็นเสียงครางของผม ผมดึงบาสลงมากอดมาจูบ บาสก็จูบผม ทำ kissmark บนตัวผมแต่กิจกรรมข้างล่างมันก็ยังดำเนินต่อไป ไม่อยากพูดแบบนี้เลยครับ แต่ผมก็ชอบใกล้ชิดกับบาสแบบนี้นะ มันเหมือนเราสองคน “ใกล้ชิด” กันมากกว่าที่เคย จนผมก็รู้สึกว่าจังหวะของบาสช้าลงแต่รุนแรงขึ้นแล้วบาสก็ก้มลงมาจูบผม

“เฮ้ยบาส!! เอาออกไป”  :sad5: ตกใจสิครับ ก็ผมน่ะรู้สึกได้เลยว่ามีบางอย่างแปลกปลอมเข้ามาในร่างกายของผม มันแบบว่าร้อนวาบมาจากข้างล่าง แต่ไม่ทันแล้วครับบาสเสร็จไปแล้ว แล้วบาสก็ทิ้งตัวลงมาบนตัวผม ผมก็ทำอะไรไม่ทันแล้วเหมือนกัน บาสนอนหอบอยู่ข้างๆ
   
“ให้บาสช่วยนิวนะ” บาสดึงผมขึ้นมานั่งบนตักแล้้วใช้มือกระตุ้นอารมณ์อย่างชำนาญ ผมก็บิดไปบิดมา พี่ๆเข้าใจความรู้สึกนะครับ มันแบบว่า... จนสุดท้ายผมก็ถึงสวรรค์ บาสหยิบทิชชูมาเช็ดลูกๆของเราสองคนแต่พอเช็ดด้านหลังมันก็แสบแปล๊บขึ้นมาเลยครับ ผมเห็นเลือดติดอยู่บนทิชชู
   
“บาส นิวเลือดออก นิวเลือดออก”  o22 กลัวสิครับ ผมกลัวว่า ว่า แบบว่า … มันจะฉีกอ่ะ บาสก็ตกใจจับตัวผมนอนคว่ำ่แล้วสำรวจแผลให้ผม อายครับแต่กลัวมากกว่า ผมถึงยอมนอนนิ่งๆให้บาสเช็ดเลือดให้ ภาวนาว่าขออย่าให้มีส่วนไหนของผมบุบสลายเลยนะ

“นอนนิ่งเลย กลัวอ่ะดิ … ไม่เป็นไรแล้ว เป็นแผลนิดหน่อย” ผมหันขวับเลยครับ เวลาแบบนี้มันใช่เวลามาล้อเล่นเหรอ

“นิวอยากอาบน้ำ้” มันคงไม่หวานขนาดบาสอุ้มผมไปหรอกครับ แม้จะเจ็บแต่ผมก็เดินเข้าห้องน้ำ้ด้วยตัวของผมเอง ตอนอาบนี่ทรมานมากครับมันแสบไปหมด ตอนแรกผมอยากเอาลูกๆบาสออกมาให้หมดนะครับ แต่เเค่โดนน้ำ้ผมก็สะดุ้งแล้ว สุดท้ายก็จำใจแค่ล้างตัวเฉยๆ

ก่อนจะนอนผมก็จินตนาการภาพไปว่าเราจะนอนตรงไหน จะต่างคนต่างนอนหรือ ...เอาจริงนะครับที่พูดมาทั้งหมดนี่คือจริตที่สงสัยคือจะใส่เสื้อผ้านอนหรือไม่ใส่ แล้วพี่ๆคิดไงครับ … ใส่สิครับเพราะบาสไม่พูดอะไรผมก็เลยไม่ถาม ใส่ก็ใส่ พอปิดไฟบาสก็เข้ามากอดผมจากข้างหลัง บาสหอมแก้มผมแล้วดึงผมเข้าไปจูบ แล้วเราสองคนก็นอนคุยกัน ผมนอนซบอยู่บนหน้าอกบาส  :กอด1: ก็คุยกันเรื่อยเปื่อยล่ะครับ จนผมง่วง ตาจะปิดอยู่แล้ว

“นิว ขอบใจนะที่ให้บาส”

“ให้อะไรเหรอ” โง่อีกแล้วครับผม
   
“ก็ให้บาส  :oo1: ไง”
   
“บ้า!!”
   
“นิวเป็นของบาสแล้ว ห้ามไปมีอะไรกับใครนอกจากบาสนะ บาสก็สัญญาเหมือนกันว่าจะไม่ทำแบบนี้กับใคร สัญญาสิ” ดีใจครับที่บาสพูดแบบนี้ออกมามันเหมือนบาสสัญญากับผมว่าจะมีผมคนเดียว

“สัญญา” … นั่นแหละครับเรื่องราวของ "ครั้งแรก” ของผม
   
จากวันนั้นผมกับบาสก็เหมือนใกล้กันอีกก้าวหนึ่ง ผมจำได้ครับว่าบางเช้าตื่นขึ้นมา บาสก็จะอาบน้ำ้ก่อน ระหว่างที่ผมเข้าห้องน้ำ้บาสก็ลงไปทำข้าวเช้าให้ผม omlet ฝีมือบาสอร่อยนะครับ บางครั้งผมนั่งดูบาสเล่นเกมจนเผอหลับ บาสก็แอบหอมแก้มผม  :m3:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
«ตอบ #67 เมื่อ22-04-2011 19:52:25 »

 :เฮ้อ:



ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
«ตอบ #68 เมื่อ23-04-2011 00:29:26 »

โลกแห่งความฝันช่างสวยงาม แต่กลับสั้นใช่เล่น อิอิ

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
«ตอบ #69 เมื่อ23-04-2011 00:57:16 »

 :m7:
 
 :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
« ตอบ #69 เมื่อ: 23-04-2011 00:57:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
«ตอบ #70 เมื่อ25-04-2011 14:49:57 »

อะไรๆก็ดูดีขึ้นนะ  แต่มันจะเป็นแบบนี้ตลอดไปรึเปล่าล่ะ  รออ่านต่อนะจ๊ะ

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
«ตอบ #71 เมื่อ25-04-2011 15:55:57 »

รอติดตามตอนใหม่อยู่นะครับ

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 9 updated 22/4/11
«ตอบ #72 เมื่อ25-04-2011 22:38:36 »

ผมเล่าเรื่องที่ทำให้ผมยิ้มได้ไปแล้ว แน่นอนครับชีวิตคนเรามีสองด้านเสมอ ... มีขาวก็ต้องมีดำ มีสุขก็ต้องมีทุกข์และหลังจากที่ผมกลับมาคบกับบาสได้ไม่นาน ข่าวร้ายก็ตามมาถึงหูผม พี่ๆจำไอ้เป้ได้ไหมครับ วันหนึ่งมันก็โทรนัดผมให้อยู่รอมันหลังเลิกเรียน ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไรเพราะนึกว่ามันมีเรื่องการบ้านมาให้ช่วย แต่พอเห็นมันเดินมาผมก็หน้าเสียแล้วครับ มันเดินมาตัวเปล่าแล้วทำท่าทำทางเหมือนหลบใครมา พอเจอผมมันก็ลากผมเข้าไปคุยในห้อง

“นิว กรูมีเรื่องมาบอกแต่มรึงใจเย็นๆนะ” เล่นพูดเปิดประโยคมาแบบนี้ใครจะใจเย็นไหวล่ะครับ ผมไม่ตอบเพราะเดาได้เลาๆแล้วว่าต้องเป็นเรื่องของบาส

“บาสแมร่งไปมีอะไรกับไอ้เน็ทว่ะ” ผมพูดอะไรไม่ออกเลยครับมันเหมือนสมองมันตื้อขึ้นมากระทันหัน ... เป้มันเล่าว่าบาสไปมีอะไรกับเน็ทช่วงที่ทะเลาะกับผม  มันได้ยินเรื่องนี้มาจากไอ้เน็ทแต่เรื่องรายละเอียดเป้มันก็ไม่รู้เพราะเน็ทไม่ได้เล่าซึ่งก็ดีแล้วล่ะครับ ผมเองก็ไม่อยากฟังเหมือนกัน

“กรูไม่ได้เอาเรื่องนี้มาบอกมรึงเพราะอยากให้มรึงกับบาสทะเลาะกันนะ แค่กรูรู้ว่ามรึงรักบาสมาก ... มรึงจะเอายังไงก็แล้วแต่มรึงละกัน” ผมไม่รู้หรอกครับว่าทำไมอยู่ๆเป้ถึงมาบอกผม แต่ผมก็คิดในแง่บวกว่ามันไม่อยากเห็นผมถูกสวมเขา

เย็นนั้นตั้ั้งแต่กลับถึงบ้านผมไม่โทรหาบาสเลยครับ คิดไม่ออกว่าจะทำงดี จะถามบาสเหรอ??? มันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ถ้าผมคุยกับบาสละก็ทะเลาะกันแรงแน่ ผมไม่อยากทะเลาะกับบาสครับ แต่จะให้อยู่แบบนี้ผมก็ทนไม่ได้เหมือนกัน ผมคิดมาตลอดว่าผมเป็นคนแรกของบาส แค่คิดภาพว่าบาสไปมีอะไรกับคนอื่นผมก็ไม่อยากจะใกล้บาสแล้ว

คืนนั้นผมอ้างว่าปวดหัวเลยขอนอนตั้งแต่หัวค่ำ่ วางสายจากบาสผมก็ปิดมือถือ พี่ๆเคยคิดมากจนนอนไม่หลับกันไหมครับ ถ้าเคย พี่ๆคงรู้ว่ามันทรมานขนาดไหน ผมนอนไม่หลับเลยทั้งคืน ร้องไห้จนเหนื่อย แต่มันก็หยุดร้องไม่ได้ ในหัวมันมีแต่เรื่องบาส หลับตาก็เห็นภาพบาสมีอะไรกับเน็ท คิดถึงคำที่บาสพูดตอนมีอะไรกับผมครั้งแรกแล้วมันยิ่งทำให้ผมเจ็บ ผมไม่เคยนอกใจบาส คนอื่นเข้ามาในชีวิตเยอะแยะ แต่ผมก็ไม่เคยแม้แต่จะมอง แล้วดูบาสสิครับ ผมนอนคิดจนถึงเช้า จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจครับว่าผมจะโทรไปหาเน็ท

ผมโทรหาเน็ทพอมันรับสาย ผมก็ใส่เต็มที่เลยครับ

“ไอ้เหี้ยเน็ท มรึงทำอะไรแฟนกรู... ” เน็ทปฏิเสธครับ ยังไงมันก็บอกว่ามันไม่เคยมีอะไรกับบาส ผมคาดคั้นเท่าไหร่มันก็บอกว่าไม่ จนสุดท้ายผมก็จนปัญญา แม้จะไม่เชื่อแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ยังไงผมก็เลือกที่จะไม่ถามบาสอยู่แล้ว

ยอมรับครับว่าช่วงแรกที่ผมรู้เรื่อง ผมไม่ยอมมีอะไรกับบาสเลย ผมไม่ไปหาบาสที่สนามบอลตอนเย็นและพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะไปเวลาบาสขอ แม้แต่ sexphone ผมก็ไม่เล่น ผมไม่มีอะไรกับบาสเป็นเดือนๆ จนในที่สุดเราสองคนก็ทะเลาะกัน ... พี่ๆคิดว่าไงล่ะครับ ผมจะยอมบาสไหม .... ... ยอมครับ

ผมไม่ได้คิดว่ารักคือ sex แต่ผมก็ยอมรับว่าถ้ามีความรักมันก็มักจะหนีคำว่า sex ไม่ได้และ sex ก็เหมือนเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้รักไม่จืดชืด จำได้ครับว่าตอนมีอะไรกันบาสทำเหมือนหิวกระหายในตัวผมมาก มันไม่สนิทใจหรอกครับตอนที่บาสมีอะไรลึกซึ้งกับผม ผมคิดถึงภาพที่บาสมีอะไรกับคนอื่น เจ็บมากครับ มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูก

ตอนมีอะไรกันผมกอดบาสแน่นมาก อยากให้บาสรู้ว่าผมรักบาสมากแค่ไหน ไม่น่าเชื่อครับว่าจากคนที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นที่หนึ่ง วันนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย ผมเคยพูดกับเพื่อนว่าคนอย่างผมไม่มีทางใช้ของมือสองต่อจากใคร แล้วสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ล่ะ มันเรียกว่าอะไร คนอื่นอาจจะว่าผมโง่ แต่ผมเชื่อว่าผมยอมที่จะเจ็บ เจ็บเพื่ือให้ความรักของเรามันเดินต่อไปได้ มันใช้เวลาเหมือนกันครับกว่าผมจะปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไป

นิสัยของบาสที่ทำให้ผมเสียใจมากที่สุดก็คือความเจ้าชู้ เรื่องมันเริ่มมาจากบาสไปรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง มันเป็นนิสัยของเด็กผู้ชายครับที่พอเวลาจีบผู้หญิงแล้วต้องมานั่งคุยกัน บาสก็ทำแบบนั้นและที่ทำร้ายจิตใจผมคือบาสพูดกับเพื่อนๆว่าจะจีบคนนี้ต่อหน้าผม จะให้ผมทำหน้ายังไง คนที่กำลังคบกับผมอยู่บอกผมต่อหน้าเลยว่าจะจีบคนอื่น ถ้าตอนนั้นผมไม่เจ็บมันก็แปลว่าหัวใจผมหยุดเต้นไปแล้วล่ะครับ

เย็นวันต่อมาผมไปนั่งรอบาสกับโจ้เรียนพิเศษแถวโรงเรียน พวกเรามาถึงก่อนเวลาเลยไปนั่งกินข้าวในร้านอาหาร บาสก็ยังพูดถึงผู้หญิงคนนั้นเหมือนบาสพูดกับโจ้อยู่สองคน เพราะบาสไม่สนใจผมเลย ผมจะกินอะไรจะดื่มอะไรบาสก็ไม่สน นั่งพูดให้โจ้ฟังว่าพูดอะไรกับคนนั้นบ้าง คนนั้นชอบไม่ชอบอะไร ไอ้โจ้ก็บ้าจี้ครับเออออตามบาสทุกอย่าง

ผมไม่ชอบเลยครับนิสัยแบบนี้ของบาส พอไม่มีใครก็ทำกับผมเหมือนผมเป็นคนสำคัญ ดูแลผมดีทุกอย่าง พูดจาหวานๆเพราะๆกับผม แต่พอถึงเวลาแบบนี้บาสกลับทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ผมทนไม่ได้ครับ สุดท้ายต้องหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำ้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตมันจะละครขนาดนี้ แอบหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำ้นี่มันนิยายน้ำ้เน่าชัดๆ แต่ผมก็ทำ ผมรับอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ ถ้าไม่ออกมา ผมก็คงนั่งน้ำ้ตาแตกอยู่ในร้านอาหาร

สรุปว่าเย็นนั้นอาจารย์สอนพิเศษติดธุระด่วน ไอ้โจ้มันก็ชิ่งกลับบ้านก่อน ทิ้งให้ผมกับบาสอยู่กันสองคน บาสให้ผมนั่งรอรถที่บ้านมารับเป็นเพื่อน แล้วจะให้คนขับรถขับมาส่งผมที่บ้าน เรากลับมานั่งรอที่โรงเรียน บาสนั่งข้างผมคุยโน่นคุยนี่ บาสคุยกับผมเหมือนปกติทั้งๆที่ตลอด 2 ชั่วโมงที่ผ่านมาบาสไม่แม้แต่จะมองหน้าผม

เย็นวันนั้นบาสมาส่งผมที่บ้านครับ พอขึ้นมาบนรถบาสก็ขอให้ผมช่วย (พี่ๆเข้าใจนะครับว่าผมหมายถึงอะไร) ผมกับบาสมีอะไรกันบนรถบ่อย บ้านบาสใช้รถตู้ครับ คนขับก็ขับไปไม่เคยหันมาสนใจว่าผมกับบาสถึงไหนๆกันบนรถ ผมช่วยบาสครับและถ้าคิดว่ามันเลวร้ายแล้วเชื่อไหมครับว่าผู้หญิงคนนั้นโทรมา บาสรับสายแล้วคุยโทรศัพท์ต่อหน้าผม ผมเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก ที่ผมเป็นอยู่่ตอนนี้มันยังทรมานไม่พอหรือไง

ถึงบ้านผมกับบาสก็ขึ้นมาบนห้อง บาสบอกว่ายังไม่อยากรีบกลับเพราะรถติด เราสองคนมีอะไรลึกซึ้งกันอีกรอบ ดีหน่อยที่อย่างน้อยบาสก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์แล้ว พอช่วงเวลานั้นผ่านพ้นไปเราเข้าไปอาบน้ำ้แต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย บาสก็ขอให้ผมนั่งสอนการบ้าน มันดูน่ารักนะครับ คือบาสให้ผมสอนถ้าสอนแล้วบาสทำแบบฝึกหัดถูกหนึ่งข้อ ผมต้องให้บาสหอมแก้มหนึ่งที

ผมก็นั่งสอนบาสไปเรื่อยๆ แต่เป็นผมเองนั่นแหละที่สงบสติอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ผมกวาดของทั้งหมดลงบนพื้นแล้วโผเข้าไปกอดบาส ผมร้องไห้ครับ สองสามวันที่ผ่านมาผมทรมานมาก มันรู้สึกเหมือนก่อนจะเกิดเรื่องของน้องแป้งไม่มีผิด ผมกลัวจะเสียบาสไป บาสไม่พูดอะไรเอาแต่ลูปหัวผม ปล่อยให้ผมร้องจนผมหยุดไปเอง บาสดันตัวผมออกมาแล้วเอามือประคองหน้าผมเอาไว้

“นิว นิวมีอะไรจะพูดกับบาสไหม”

“บาส นิวเจ็บ บาสอย่าทรมานนิวแบบนี้เลยนะ … บาสจะทำอะไร นิวไม่เคยห้าม แต่นิวของร้อง อย่ามาทำต่อหน้านิว นิวรับไม่ได้ ถ้าบาสไม่รักนิวแล้วก็บอกมาตรงๆ อย่าทำกับนิวแบบนี้ นิวรักบาสมากรู้ไหม” ผมพูดไปน้ำตาก็นองหน้า ผมเจ็บมากนะครับ พี่ๆลองคิดดูว่าผมเป็นผู้ชาย ของมันก็รู้ๆกันอยู่ว่าจะเอาอะไรมาสู้ผู้หญิงได้ ผมคงให้ในสิ่งที่บาสต้องการไม่ได้ ถ้าบาสอยากจะเลิก อยากจะกลับมาคบกับผมแค่เพื่อนก็บอกผมมาละกัน ผมยินดีจะเลิก ยินดีที่จะถอยออกมายืนอยู่ที่เดิม แต่ถ้าจะให้ผมบอกเลิกบาส ยอมรับครับว่าตอนนั้นผมทำไม่ได้ ผมไม่เข้มแข็งพอและที่สำคัญผมรักบาสมาก บาสมองหน้าผมไม่พูดอะไร แต่โน้มหน้ามาหอมหน้าผากผม แล้วหลังจากวันนั้นผมกับบาสก็ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้อีกและบาสก็ไม่เคยคุยโทรศัพท์กับใครต่อหน้าผม

แต่ผมก็สบายใจได้ไม่นาน ผมกับบาสสมัรเรียนพิเศษที่เดียวกันช่วงเช้า แต่ผมเรียนคนละห้องกับบาส ช่วงสายเราถึงได้นั่งเรียนด้วยกัน ช่วงเเรกผมก็มีความสุขนะครับ เจอบาสทุกวันเสาร์ แต่พอนานเข้าผมก็เริ่มยิ้มไม่ออก เพราะบาสเริ่มพูดถึงผู้หญิงอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ผมไม่พูดอะไร ได้แต่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่

พี่ๆคิดสภาพผมตอนนั้นนะครับ ตื่นไปเรียนตั้งแต่เช้าพอเจอหน้าบาส บาสก็ทำตัวเหมือนเดิมครับคือไม่สนใจผม นั่งพูดกับเพื่อนเรื่องผู้หญิงคนนั้น พอขึ้นไปเรียนผมก็เรียนไม่รู้เรื่อง ใจมันฟุ้งซ่านไปหมด เอาแต่คิดว่าบาสที่นั่งอยู่ห้องข้างๆกำลังทำอะไรอยู่ มันเป็นแบบนี้มาเกือบทั้งเทอม ผมเบื่อครับ เบื่อจนไม่อยากมาเรียนแล้ว รู้สึกว่ามันเสียเวลา ตื่นก็เช้ามานั่งเรียนก็เรียนไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นอยู่แบบนี้ผมเอาเวลามานอนไม่ดีกว่าเหรอ งานที่โรงเรียนผมก็เยอะอยู่แล้ว มีเรื่องให้คิดเยอะแยะ แล้วยังต้องมาคิดมากกับเรื่องนี้อีก

มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดจน period สุดท้าย บาสพูดมาทั้งอาทิตย์ครับว่าจะขอเบอร์ ผมรู้ว่าถ้าบาสได้เบอร์บาสก็คงทิ้งผม ผมใช้เวลานั่งทำใจทั้งอาทิตย์ จนในที่สุดก็ถึงวันเสาร์ มันเหมือนเดินเข้าแดนประหารเลยครับ ผมทำใจมาแล้ว ทนไม่ไหวแล้วด้วยครับ ทรมานจนอยากให้มันจบไวๆ จะเลิกก็เลิกกันวันนี้ไปเลย ยังไงผมก็ทำใจมาโดนทิ้งอยู่แล้ว วันนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องเรียนผมโดดออกมานั่งกิน Au Bon Pan ที่สยามตั้งแต่เข้าเรียนได้ 10 นาทีเเรก แล้วเดินกลับมาให้พอดีกับที่บาสเลิกเรียน

พอเลิกเรียนมันก็เป็นช่วงชุลมุนผมเห็นบาสอยู่ไกลๆ กำลังชะเง้อมองหาใครคนหนึ่ง (ซึ่งคงไม่ใช่ผม) แล้วบาสกับเพื่อนก็เดินออกจากตึกไปเลยครับ ผมเดินตามออกไป แต่สุดท้ายบาสก็หาคนๆนั้นไม่เจอ บาสอารมณ์เสียมากพอหันมาเจอหน้าผมที่เดินตามมารั้งท้าย บาสก็โมโหใส่ผมไล่ผมให้ไปเรียนก่อนบอกว่า "ไม่ต้องมาเดินตามรำคาญ" แล้วผมจะทำไงได้ล่ะครับ นอกจากเดินคอตกไปเรียน นั่งได้สักพักบาสก็ยังไม่มา ผมก็นั่งไม่ติดที่ ลงมาหาของกินข้างๆ เจอบาสเดินขึ้นมาพอดีครับ ดูจากสีหน้าแล้วคงหาไม่เจอจริงๆ เห็นหน้าผมบาสก็ทำหน้าบึ้งๆ บอกผมว่า "ดื้อ” แล้วบาสก็เดินขึ้นไป

ผมก็โมโหนะ ทำไมไม่เข้าใจความรู้สึกกันบ้าง บาสก็รู้ว่าผมรักมากขนาดไหน แล้วคิดเหรอว่าเวลาแบบนี้ผมจะมีกระจิตกระใจไปนั่งเรียน ผมเดินออกไปซื้อของกินไกลกว่าที่คิดไว้ตอนแรก อยากสงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยครับ ผมซื้อขนมแล้วก็น้ำ้มาสองแก้ว ผมกับบาสนั่งข้างกัน มาถึงผมก็ยื่นแก้วไปวางไว้บนโต๊ะบาส บาสมองหน้าผมผมก็ส่งยิ้มให้ไม่พูดอะไร แล้วก็หยิบหนังสือขึ้นมาเปิด ผมได้ยินบาสพูดออกมาเบาๆ

“ขอโทษ” วันนั้นผมไม่รู้ว่าผมจะดีใจหรือเสียใจที่ผลมันออกมาเป็นอย่างนี้ ใจหนึ่งผมก็ดีใจที่ผมกับบาสยังคบกันแต่อีกใจหนึ่งผมก็เสียใจ ผมเริ่มเหนื่อยแล้วครับกับสถานะที่ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไรระหว่างเราสองคน วันนั้นผมคิดจริงๆนะครับว่าผมจะต้องทรมานไปอีกนานเท่าไหร่

หลังจากวันนั้นเรื่องของผมกับบาสแย่ลงเรื่อยๆ ผ่านมาได้สักพักเราสองคนก็ทะเลาะกันตลอด เรื่องเล็กๆน้อยๆเราก็ยังทะเลาะกัน บางครั้งผมก็รู้สึกว่าบาสเบื่อผม บางคืนเราโทรหากันแต่ไม่พูดอะไรกันเลยก็มี ผมหนีบโทรศัพท์ไว้ข้างหูแล้วฟังเสียงเกมที่บาสเล่นหรือหนักกว่านั้นคือผมเปิด speaker phone ทิ้งไว้แล้วตัวเองก็ไปนั่งทำงาน พอง่วงผมก็บอกบาสว่าผมจะนอนก่อน บาสพูดแค่ว่า "อืม" แล้วก็วางสายไป

ผมกับบาสทะเลาะกันบ่อยและหนักขึ้นจนสุดท้ายผมก็ทนไม่ไหว ผมตัดสินใจหนีบาสไปเที่ยวต่างประเทศช่วงปิด summer ผมไม่คิดอะไรมากเลยครับตอนนั้น ผมเบื่อมากมันเหมือนเสียสุขภาพจิต ทะเลาะกันได้ทุกวัน ถ้าถามว่ารักบาสไหม ผมตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยครับว่ารัก ผมรักบาสมากแต่ผมว่าเราสองคนอยู่ใกล้กันมากเกินไป ห่างกันสักพักอะไรๆมันก็คงจะดีขึ้น พอที่บ้านผม ok ผมก็เก็บของเลย ผมมี visa ของประเทศนั้นอยู่แล้ว ป้าผมอยู่ที่โน่นแล้วก็ยินดีต้อนรับให้ผมไปเยี่ยมเสมอ

วันที่ผมบอกบาส เราก็ทะเลาะกัน ผมบอกบาสวันที่ผมโทรไปคุยกับป้าแล้วก็จองตั๋วได้หลังจากนั้นอาทิตย์กว่าๆ ผมจะไปอยู่โน่นเกือบเดือนครึ่ง บาสโมโหครับ บาสอยากให้ผมอยู่ที่นี่มากกว่า แต่ผมก็อ้างไปว่าป้าอยากให้ผมไปหา ซื้อตั๋วเครื่องบินส่งมาให้ผมแล้ว บอกตามตรงว่าผมก็เสียดายเวลานะครับ ผมน่าจะได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมอยู่กับบาสแต่ถ้าจะให้กลับมาทะเลาะกันเหมือนเดิมผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน หลายเดือนที่ผ่านมาผมเหนื่อยมากกับเรื่องราวของเราสองคน จำได้ว่าช่วงก่อนที่ผมจะไปผมนั่ง count down รอแล้ว

วันที่ผมขึ้นเครื่องบินผมก็โทรหาบาสเราสองคนร่ำ่ลากันดี เท่านี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ แต่ผมก็ยอมรับเลยว่านาทีที่จะก้าวขึ้นเครื่องผมก็ยังมีความคิดว่าผมจะอยู่ที่นี่ต่อ ยอมรับครับว่าผมกลัว ผมไม่มีทางรู้เลยว่าบาสทำอะไรบ้างช่วงที่ผมไม่อยู่ บาสจะไปมีคนอื่นไหมและที่สำคัญคือสถานะของเราตอนนี้ผมเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร พอผมกลับมาเราจะยังคบกันอยู่ไหม จะมีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงไปอีกหรือเปล่า ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้ มันเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเลยที่จะต้องห่างกับบาสในสถานการณ์ที่บอบบางแบบนี้ แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเดินขึ้นเครื่อง ผมบอกกับตัวเองว่าจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่แล้วไปเที่ยว ไปหาความสุขใส่ตัว ...


ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #73 เมื่อ26-04-2011 03:11:16 »

 :z13:
และแล้วหนที่สองก็มาเยือน เลิกๆไปเถอะแบบนี้ 555+
พูดเหมือนง่ายแต่เอาเข้าจริงทำใจยากมากกกกกกกกกกกกกกกกก  :o12:
มันต้องใช้เวลาเป็นตัวเยียวยาอย่างแรงกว่าจะทนกับความรู้สึกเลวของตัวเอง หรืออีกฝ่ายได้
แม้จะรักมากมาย แต่มันก็เกินทน
แล้วจะรออ่านต่อนะ นิวน้อยน่าลัก :laugh:

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #74 เมื่อ26-04-2011 03:48:52 »

กดบวกให้จ้า

4life

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #75 เมื่อ26-04-2011 04:35:10 »

เลิกๆ ไปเถอะ เจ็บเเทนอ่ะ
เลิกให้มันเจ็บครั้งเดียวเเรงๆ ดีกว่าเจ็บหลายๆ ครั้งนะ

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #76 เมื่อ26-04-2011 11:17:28 »

อ่อย  คนเรามันเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆหรอกเนอะ  บาสเป็นแบบนี้จะทำไงได

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #77 เมื่อ26-04-2011 18:01:46 »

:z13:
และแล้วหนที่สองก็มาเยือน เลิกๆไปเถอะแบบนี้ 555+
พูดเหมือนง่ายแต่เอาเข้าจริงทำใจยากมากกกกกกกกกกกกกกกกก  :o12:
มันต้องใช้เวลาเป็นตัวเยียวยาอย่างแรงกว่าจะทนกับความรู้สึกเลวของตัวเอง หรืออีกฝ่ายได้
แม้จะรักมากมาย แต่มันก็เกินทน
แล้วจะรออ่านต่อนะ นิวน้อยน่าลัก :laugh:

ถูกใจมากครับนิวคุง "แม้จะรักมากมาย แต่มันก็เกินทน"  o13
กดบวกให้จ้า

ขอบคุณครับ  :pig4:

เลิกๆ ไปเถอะ เจ็บเเทนอ่ะ
เลิกให้มันเจ็บครั้งเดียวเเรงๆ ดีกว่าเจ็บหลายๆ ครั้งนะ

เลือกยากนะครับ เหมือนให้เลือกระหว่างโดนตะปูแทงหลายครั้งกับโดนมีดกระซวกครั้งเดียว  o18
ผมก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องติดตามต่อไป ฮิฮิ  :m26:

อ่อย  คนเรามันเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆหรอกเนอะ  บาสเป็นแบบนี้จะทำไงได

ผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับนอกจากทำใจยอมรับ  :a9:


ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #78 เมื่อ26-04-2011 20:28:04 »

 :เฮ้อ:
 :กอด1:

tantalize

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #79 เมื่อ27-04-2011 01:11:57 »

โอย สุดจะทนคนเเบบนี้ เลวมากกกกกกกก  :m31: :m31:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
« ตอบ #79 เมื่อ: 27-04-2011 01:11:57 »





New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 10 updated 25/4/11
«ตอบ #80 เมื่อ28-04-2011 21:46:38 »

ไปอยู่ต่างประเทศเดือนครึ่งชีวิตผมก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับวันๆก็เที่ยวกัับ shopping ป้าผมก็ take care ผมดีตลอดพาไปโน่นไปนี่ บางวันป้าก็พาผมมาเดินเล่นที่ห้างแล้วก็เลยไปทำงานพอบ่ายๆลุงก็มารับ แรกๆมันก็สนุกนะครับแต่สักพักผมก็เริ่มเหงา ป้าผมก็ต้องทำงาน มันจะมีใครว่างมาพาผมเที่ยวได้ทุกวัน อยู่คนเดียวผมก็เบื่อ ตอนนั้นผมเลือกที่จะโทรหาต้น ผมโทรกลับมาเม้ากับไอ้ต้นทุกอาทิตย์ นั่งเล่าให้มันฟังเป็นชั่วโมงๆว่าผมทำอะไรมาบ้าง ที่ผมเลือกที่จะโทรหาต้นแต่ไม่โทรหาบาสเพราะผมอยากคุยกับคนที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจมากกว่า ผมไม่อยากโทรหาบาสเพราะกลัวว่าเราจะทะเลาะกัน บอกแล้วไงครับว่าผมจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่เมืองไทยแล้วมาเที่ยว มาหาความสุขใส่ตัว
   
ผมมีความสุขนะครับ มันเหมือนเราได้กลับมามีชีวิตเป็นของตัวเองอีกครั้ง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีใครมาชวนทะเลาะ ไม่ต้องมานั่งเอาใจใคร แต่พี่เชื่อไหมครับว่ายิ่งนานวันผมก็ยิ่งคิดถึงบาส ผมอยากเจอหน้าบาส อยากกอดบาส อยากใกล้ชิดกับบาสและอยากให้บาสบอกรักผม ผมฝันถึงบาสหลายครั้งนะครับ ใจหนึ่งก็เริ่มอยากกลับบ้านแล้วแต่อีกใจหนึ่งก็อยากใช้ชีวิตสนุกๆอยู่ที่นี่ให้คุ้ม

แล้วเวลาก็เดินผ่านไปเหมือนโกหก แป๊บเดียวผมก็เตรียม pack ของกลับบ้าน ผมซื้อของฝากมาให้เพื่อนทุกคน แต่คนที่ได้ของแพงและเยอะที่สุดคือบาส ผมซื้อพวกช็อคโกแลตมาฝากบาส บาสชอบช็อคโกแลตครับ ตู้เย็นบ้านบาสจะมีช็อคโกแลตติดไว้ตลอด

เครื่องของผมมาถึงไทยช่วงหัวค่ำ่แล้วผมก็เหนื่อยมาก จากที่คิดว่าจะโทรหาบาสแต่ผมก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ สายๆของวันต่อไป บาสก็โทรเข้ามือถือผม บาสโทรมาหาผมเมื่อคืนครับพอผมไม่รับบาสก็โทรเข้าบ้านแม่เป็นคนบอกมั้งครับว่าผมหลับไปแล้ว เราคุยกันชั่วโมงกว่า ก่อนวางสายบาสก็บอกรักผม ดีใจครับเพราะนั่นแสดงว่าเราสองคนยังเป็นเหมือนเดิม

กลับมาได้วันสองวันผมก็ขอที่บ้านไปนั่งเล่นบ้านบาส อ้างว่าต้องเอาช็อคโกแลตไปให้ เหมือนเดิมครับบาสเอาโจ้มาเป็นไม้กันหมา เราสองคนส่งสายตาให้กันตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว ยอมรับว่าผมก็อยาก ผมก็คนธรรมดาคนหนึ่ง อารมณ์รักๆใคร่ๆมันก็ต้องมีกันบ้าง มาถึงบ้านโจ้ก็เดินเข้าห้องคอมทันที ผมกับบาสก็ไปนั่งๆอยู่สักแป๊บพอเห็นว่าไอ้โจ้มันหลุดเข้าโลกจินตนาการไปแล้ว เราสองคนก็เดินขึ้นมาข้างบนพร้อมกัน

เข้าห้องบาสปุ๊ป บาสก็ดึงผมเข้ามากอดทันที

“คิดถึงจัง” บาสประกบปากจูบผม ไม่ต้องใช้เวลามากก็จุดไฟติด ผมถอดเสื้อบาส บาสก็แถบจะฉีกเสื้อผม ผมรู้ว่าบาสเก็บกดส่วนผมเองก็อยากเหมือนกัน
   
มันเป็นเพียงไม่กี่ครั้งหรอกครับที่ผมจะยอมมีอะไรกับบาสติดๆกันหลายครั้ง แต่เพราะผมเองก็กระหายในตัวบาส มันเหมือนกับความรู้สึกที่เก็บกันมาตลอดเดือนกว่าได้ถูกระบายออกมา ไม่แปลกครับที่วันนั้นผมนอนหลับตลอดทางกลับบ้าน มารู้สึกตัวอีกทีรถบ้านบาสก็มาจอดส่งผมที่บ้านแล้ว

กลับมาแรกๆทุกอย่างก็ดูดี มันเหมือนเราเริ่มคบกันใหม่อีกครั้ง แต่พอผ่านไปสักพักทุกอย่างมันก็เป็นเหมือนเดิม เรากลับมาทะเลาะกันและอาจจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ้เพราะบาสเริ่มพูดว่ารำคาญผม อยากให้ผมออกไปจากชีวิต ผมจำได้ว่าเคยทะเลาะกับบาสแล้วนั่งร้องไห้อยู่บนห้อง ซวยมากครับเพราะลืมล็อกประตู แม่เลยเปิดประตูเข้ามาเห็น แม่ก็ตกใจถามว่าผมเป็นอะไร ผมตอบแค่ทะเลาะกับบาส แม่ไม่ถามอะไรแต่พี่ๆเชื่อไหมว่าประโยคที่แม่พูดกับผมมันทำให้ผมหยุดร้องไห้ทันที

“จำไว้นะนิว เรื่องเดียวที่จะทำให้ลูกแม่ร้องไห้ได้คือตอนที่พ่อกับแม่ตายเท่านั้น”
   
ผมกดดันนะครับกับการที่จะต้องมาปกปิดความสัมพันธ์ของผมกับบาส ขึ้นปีใหม่ผมเป็นรองประธานกรรมการนักเรียน (พูดตอนนี้มันดูไม่ยิ่งใหญ่แต่มันก็เป็นหน้าที่ที่ใหญ่สำหรับเด็กวัยขนาดนั้น) งานผมเยอะอยู่แล้ว แล้วไหนจะต้องมาคอยหลบๆซ่อนๆ ใจจริงผมไม่อยากปิดบังหรอกครับ แต่คนรอบข้างผมสิ ตั้งความหวังกับผมไว้สูงมาก

ผมรู้ตัวมาก่อนแล้วว่าตัวเองได้เป็นรองประธานกรรมการนักเรียนวันก่อนหน้าที่โรงเรียนจะประกาศชื่ออาจารย์แดงเรียกผมเข้าไปหาที่ห้องชมรม ตอนแรกผมก็คิดว่ามีนัดประชุม แต่พอเปิดประตูเข้าไปผมถึงรู้ว่ามีผมแค่คนเดียว อาจารย์เรียกผมมานั่งเก้าอี้ข้างอาจารย์ ท่านก็พูดให้ฟังคร่าวๆว่าหน้าที่ผมคืออะไร อีก 1 ปีจากนี้ผมต้องเจออะไรบ้าง แล้วผมจะต้องวางตัวยังไง

อาจารย์ก็เตือนๆเรื่องที่ผมชอบพูดคำหยาบกับชอบลาไปทำกิจกรรมแต่จริงๆแล้วก็โดดเรียนไปเดินเล่นสยาม ผมไม่แปลกใจเพราะอาจารย์ก็ทำหน้าที่นี้มานาน พี่ๆก่อนหน้าผมก็คงทำเหมือนผม อาจารย์ก็เตือนด้วยความหวังดี แต่เรื่องสุดท้ายที่ท่านพูดมันทำเอาผมพูดไม่ออกเลยครับ

“นิว เธอมีแฟนแล้วใช่ไหม” พูดอะไรไม่ออกเลยครับเจอคำถามนี้

“เออ เอออออ... ” ผมคิดไม่ทันครับ รู้ทั้งรู้ว่าต่อให้โกหกก็โดนจับได้ แต่ผมก็ไม่กล้าบอกความจริง

“บอกความจริงครูมานิว ครูอยากได้ยินจากปากเธอ”

“ครับ นิวมีแฟนแล้ว” ถึงจุดนี้มันก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะครับ

“ก็เท่านั้นแหละ ครูไม่ได้จะฆ่าจะแกงเธอสักหน่อย”

“ครับ”

“นิว ฟังที่ครูพูดให้ดีๆนะ … ครูไม่ได้จะห้ามเธอเรื่องแฟน เธอเป็นอะไรทำไมครูจะดูไม่ออก”

“แต่ครูขอร้องว่าให้เธอระวังตัวเรื่องนี้”

“นิวไม่เข้าใจครับ” ผมไม่เข้าใจเลยว่าอาจารย์กำลังสื่ออะไรกับผม ผมคบกับบาสมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

“เธอยังต้องทำอะไรอีกเยอะนะนิว อย่าทำตัวให้คนอื่นเขามีเรื่องเธอเอาไปนินทาสิ...” อาจารย์แดงพูดกับผมอีกหลายอย่างแต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอาจารย์ต้องการจะบอกอะไร

มันไม่ใช่แค่หน้าที่รับผิดชอบที่กดดันผม เพื่อนผมเองก็กดดันเหมือนกัน เพื่อนๆในชมรมเริ่มสังเกตครับว่าผมใช้เวลาช่วงพักแทบทั้งหมดอยู่กับบาส ผมยอมให้บาสแกล้งหรือไม่พูดไม่เถียงอะไรเวลาบาสพูดไม่ดีกับผม เพื่อนผมคนหนึ่งพูดกับผมตรงๆเลยครับว่าไม่ชอบขี้หน้าบาส และก็ยิ่งไม่ชอบที่บาสมาทำไม่ดีกับผม มันพูดถึงขนาดว่าถ้าผมรำคาญบาสมากก็บอกมา เดี๋ยวมันไปเคลียร์กับบาสให้ แล้วจะให้ผมพูดยังไงล่ะครับ ผมก็ได้แต่บอกมันไปว่าไม่เป็นไร ผมกับบาสสนิทกันมานานก็เล่นหัวกันแบบนี้แหละ

มันเหมือนทุกอย่างมันชี้เป้ามาที่ผม ทั้งเเรงกดดันจากคนรอบข้างและจากสถานะของผมกับบาสที่นับวันมันก็ยิ่งบอบบางและเหมือนจะพังครืนลงมาได้ทุกเมื่อ กดดันมากครับจนสุดท้ายผมก็ยอมพูดเรื่องทั้งหมดกับไอ้ต้น มันสุดๆแล้วครับ ผมทนเก็บอะไรไว้กับตัวไม่ไหวแล้ว ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผมเก็บเรื่องของผมกับบาสไว้กับตัวผมมาตลอด จริงอยู่ว่ามีคนรู้ว่าเราสองคนคบกันแต่ผมก็ไม่เคยปรึกษาใคร เรื่องทั้งหมดที่ผมเคยเล่าให้พี่ฟังผมก็ไม่เคยพูดกับใคร ผมเก็บมาคิดคนเดียวแก้ปัญหาคนเดียวมาตลอด ต้นเป็นเพื่อนคนเเรกที่ผมยอมเล่าเรื่องของผมกับบาส

มันบอกผมว่าวันแรกที่มันได้ยินว่าผมมีแฟน มันก็คิดว่าผมอำมัน แล้วยิ่งผมบอกมันว่าผมกับบาสมีอะไรกันแล้ว มันยิ่งไม่เชื่อ แต่พอมันเห็นผมเครียดจริง มันเลยรู้ว่าผมไม่ได้พูดตลก มันบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าคนเรียบร้อยอย่างผมจะทำอะไรแบบนี้ ผมพูดกับมันว่าผมไม่อยากปิดบังเรื่องของบาสและไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์แดงต้องพูดกับผมเรื่องของบาสด้วย

“มรึงไม่คิดบ้างเหรอว่าไอhที่มรึงเป็นอยู่เนี่ยมันต้องอาศัยความเกรงใจของคนอื่นขนาดไหน”
   
“แล้วไงวะ ที่กรูทำอยู่นี่มันก็คุมคนอื่นได้นิ”
   
“ได้ดิ ก็แมร่งไม่มีใครรู้นิว่ามรึงเป็นแฟนไอ้บาส … มรึงคิดดูนะ ใครเขาจะเกรงใจมรึงถ้าเขารู้ว่ามรึงเป็นเมียไอ้เหี้ยนั่น” ได้ยินมันพูดแบบนี้ทุกคนก็คงพอเดาได้ว่าไอ้ต้นไม่ชอบหน้าบาสเท่าไหร่เพราะมันก็เคยเห็นว่าบาสพูดไม่ดีกับผม ผมคิดตามไอ้ต้นและก็เป็นเหมือนที่มันว่า ผมต้องคุมน้องๆหลายคน ต้องทำงานหลายอย่างซึ่งมันก็ล้วนแต่ต้องทำตัวให้น้องเกรงใจ จะมีใครเกรงใจผมถ้าเห็นว่าผมยอมบาสขนาดนี้ ใครมันจะเคารพผมถ้ารู้ว่าคนที่ตวาดพวกมันอยู่เป็นเกย์

ผมจำใจรับสภาพว่าเรื่องของผมกับบาสก็คงเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่อะไรๆมันก็แย่ลง ผมรู้ว่ามีหลายคนคาดหวงในตัวผมแต่ผมก็ยอมรับว่าผมไม่เคยเเคร์ว่าใครจะว่าเรื่องของผมกับบาสเพราะผมคิดอยู่เสมอว่าผมไม่ได้ทำให้ใครเดือนร้อน แต่บาสเองนั้งนแหละที่กลับทำตัวเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่ารู้จักกับผม พี่ๆเชื่อไหมครับว่าช่วงหลังเวลาจะคุยกันแต่ละครั้งบาสต้องลากผมเข้าไปคุยในห้องกันสองคน ผมน้อยใจนะครับ กับไอ้แค่ยืนคุยกันทำไมจะต้องทำให้มันเป็นความลับ มันไม่ใช้แค่ทั้งโรงเรียนจะมีแค่ผมกับบาสที่คบกัน สำหรับคนรอบข้างผมพอเข้าใจในความคาดหวังที่มีกับผมแต่กับบาสผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอยู่ๆบาสถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้

สุดท้ายผมก็ทนรับอะไรต่อไปไม่ไหว ผมเลือกที่จะหยุดแล้วปล่อยให้ทุกอย่างรอบตัวมันหมุนไปเรื่อยๆ ผมเลิกลงไปหาบาสตอนพัก โดยอ้างเรื่องงาน ตอนกลางคืนเราก็ไม่ค่อยได้คุยกันหรือถ้าโทรคุยกันผมก็มักจะเป็นฝ่ายขอวางสาย ผมสับสนไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องของเราสองคน ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไร ผมคิดแต่ว่าอะไรที่ทำให้ผมสบายใจผมก็ทำ

มันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆจนผมกับบาสต่างก็ทนกับสถานะแบบนี้ไม่ไหว จำได้ว่าวันนั้นผมไปกินข้าวนอกบ้าน บาสโทรหา แต่เราก็คุยกันไม่นานเพราะผมไม่สะดวก บาสดูเสียงเครียดๆ เท่านี้ผมก็เดาได้แล้วว่าคืนนี้เราต้องทะเลาะกันแน่ๆ กลับถึงบ้านผมก็หลบเข้าห้องไปโทรหาบาส คุยกันได้ไม่นานเราสองคนก็เริ่มทะเลาะกัน

บาสถามผมว่าทำไมช่วงนี้ผมหายไป ทำไมช่วงพักผมไม่ลงไปหา ทำไมไม่ชอบรับโทรศัพท์ ผมไม่อยากทะเลาะกับบาสเลยตอบปัดๆไปว่างานเยอะ แล้วเราก็ทะเลาะกันแรงขึ้น จนผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน มันเป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมเถียงบาส จำได้ว่าผมพูดไปก็ร้องไห้ไป ผมบอกบาสว่าจะมาว่าผมทำไมในเมื่อตัวเองเป็นคนบอกว่ารำคาญผมอยากให้ไปไกลๆ

แล้วเราก็เริ่มเถียงกัน ผมบอกบาสว่าเดี๋ยวนี้บาสเปลี่ยนไป ไม่ใส่ใจผมเหมือนแต่ก่อน ส่วนบาสก็ว่าผม บาสบอกว่าผมเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน ผมเรียกร้องอะไรๆจากบาสมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่เราเถียงกันมันจะมีคำว่า “เมื่อก่อน” อยู่ในคำพูดของเราทั้งคู่ ใช่ครับ เพราะเราไม่เคยเปิดใจคุยกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเลือกที่จะเงียบ เลือกที่จะเก็บทุกอย่างไว้กับตัว เพราะเชื่อเสมอว่าการทำแบบนี้มันจะทำความสัมพันธ์ของเราสองคนยืนยาว แต่มันไม่เคยเป็นแบบนั้น มันเหมือนผมเอาขยะมายัดลงถังทุกวันๆไม่เคยเอาไปทิ้ง สักวันหนึ่งมันก็ต้องทะลักออกมา และวันนี้ก็เป็นวันที่พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ผมทำมาตลอด 2 ปี มันกลับมาทำร้ายเราสองคนยังไง

ยิ่งเถียงกันมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น บาสเป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว พอผมซึ่งยอมบาสมาตลอดอยู่ๆก็เกิดเถียงขึ้นมาบาสก็ยิ่งโมโห ผมเองพอได้พูดแล้วก็พูดไม่หยุด ผมรู้ตัวว่าเวลาพูดผมชอบพูดประชด ชอบพูดแทงใจดำมันก็ยิ่งทำให้บาสโกรธมากขึ้นไปอีก เราทะเลาะกันเกือบชั่วโมง จนสุดท้ายทั้งผมและบาสต่างก็เงียบ ผมรู้ว่าถ้าบาสเงียบแบบนี้แสดงว่าบาสกำลังจะวางหู มันเป็นวิธีแก้ปัญหาของบาส คือบาสจะวางหูใส่ผมทั้งๆที่เราสองคนก็ยังเคลียร์กันไม่จบ ผมนึกในใจเลยครับว่าถ้าคืนนี้บาสวางสายใส่ผม เราสองคนก็จบกัน

แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดบาสกระแทกหูโทรศัพท์ใส่ผม เท่านั้นล่ะครับผมร้องโฮเลย เสียใจมากครับ ผมคิดว่าทำไมทั้งๆที่ผมก็ร้องไห้หนักขนาดนี้ บาสยังใจร้ายวางหูผมได้ลงคอ น้ำ้ตาของผม ความเสียใจของผมมันไม่มีค่าพอจะรั้งบาสไว้เลยใช่ไหม หรือที่ผ่านมาผมร้องไห้มากซะจนน้ำ้ตาของผมมันไม่มีความหมาย

คืนนั้นผมโทรไปหาต้น พูดกับมันทั้งๆที่ร้องไห้ล่ะครับว่าผมจะเลิกกับบาส ไอ้ต้นมันก็ดีครับช่วยปลอบผมจนผมหยุดร้องแต่มันก็แปลกนะครับที่ผมนอนหลับได้ทั้งที่เสียใจมากขนาดนั้น หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ไม่ได้คุยกัน สักพักบาสก็มาง้อผม ทำทีว่าเข้ามาคุยเล่น แต่ผมโกรธมากจนลุกออกไปจากตรงนั้น บาสคงเสียหน้าเพราะหลังจากนั้นบาสก็ไม่เข้ามาคุยกับผมอีก เราสองคนทำเหมือนว่าอีกคนหนึ่งไม่เคยมีตัวตน เวลาเจอกันที่โรงเรียนผมก็มองผ่านบาสไปเหมือนกับที่บาสมองผ่านผม

ผมคิดว่าบาสลืมผมไปแล้ว แต่พี่ๆเชื่อไหมครับว่าบาสโทรมาวันเกิดผม ผมยังจำวันนั้นได้ ผมไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆแม่ ตอนนั้นมันดึกแล้วผมกับลูกเพื่อนแม่นั่งเล่นไพ่กันอยู่ในห้อง พอได้ยินเสียง message ผมก็ไม่คิดอะไร เพราะเป็นวันเกิด มีเพื่อนส่ง message หาผมเยอะ แต่พอผมเห็นชื่อคนส่งผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง บาสเป็นคนส่งมา สักพักมือถือผมก็ดังขึ้น ชื่อบาสมัน show อยู่ตรงหน้าจอมือถือ ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่จ้องมือถืออยู่อย่างนั้น จนในที่สุดเสียงมันก็หยุดไป ผมยังคงนั่งจ้องมือถืออยู่ จนน้องที่นั่งข้างๆถามว่าผมเป็นอะไร ทำไมหน้าซีด ผมถึงรู้ตัวครับว่าเหม่อมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว

ผมรีบเดินกลับมาที่ห้องแล้วโทรหาไอ้ต้น ผมถามมันว่าผมจะทำไงดี มันบอกว่าโทรมาก็โทรกลับดิ ผมก็งงๆว่าจะให้ผมโทรกลับเหรอ เพราะตอนที่เลิกกันมันก็เห็นดีเห็นงามด้วย ผมบอกไอ้ต้นไปว่าผมไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อยู่แบบนี้ผมก็มีความสุขดี มันก็กลับคำบอกว่างั้นก็ไม่ต้องโทรแล้ว ปล่อยมันไป ... แล้วผมก็ปล่อยมันไป

ทิ้งช่วงไปอีกนานเหมือนกันกว่าบาสจะส่ง message มาง้อผมอีกรอบ ผมตื่นมาตอนเช้าผมก็เช็คโทรศัพท์ดูปรากฏว่าบาสส่ง message มาง้อ พอถึงโรงเรียนผมก็รีบเอาไปให้ไอ้ต้นอ่าน มันก็ส่ายหัวแต่ไม่ได้พูดอะไร ที่ซวยก็คือผมยังเก็บ message ไว้ในมือถือ แล้วเพื่อนกลุ่มผมมันขอเอามือถือไปเล่นแล้วมันเจอ message ครับ กว่าผมจะคิดได้มันก็หันมาทำตาโตใส่ผม ผมงี้รีบแย่งมือถือกลับมา ส่วนพวกมันก็ทำหน้าสะใจที่รู้ความลับว่าคนนิ่งๆแบบผมก็แอบมีคนส่ง message หวานๆมาให้

ขอเล่าข้ามมาก่อนนะครับว่าสุดท้ายแล้วเราสองคนกลับมาคุยกันได้ยังไง ก็เหมือนที่ผมบอกไปแล้วว่าผมกับบาสไม่ได้คุยกันมาเป็นปีๆ จนกระทั่งวันก่อนจบการศึกษา ผมโทรไปหาบาสเพราะผมเริ่มกลับมาคุยกับเอแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่บาส ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าพอจบไปแล้ว เวลาเจอหน้าเพื่อนที่ไหนก็อยากยิ้มให้กันได้อย่างสบายใจ เราสองคนคุยนานครับ ต่างคนต่างถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายตลอดช่วงเกือบๆ 2 ปีที่ผ่านมา

คืนนั้นผมรู้สึกโล่งใจครับที่เราสองคนได้คุยกัน เพราะแม้เราทั้งคู่จะเคยผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากมาย เคยรักกันมาก เคยเสียใจให้กันและกัน แต่สุดท้ายแล้วเราสองคนก็ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ ...

ที่ผมกล้าเลิกกับบาสวันนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลอดช่วงเวลาเดือนกว่าๆที่อยู่ต่างประเทศ มันทำให้ผมค้นพบความจริงว่าชีวิตของผมก็อยู่ได้โดยไม่มีบาส และมันก็เป็นชีวิตที่มีความสุขแต่แค่ตอนนั้นผมยังรักบาสมาก มากพอที่จะยอมเจ็บไงครับ แล้วพอผมกลับมาเจอสภาพเดิมๆ ผมก็เริ่มรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวมันก็ดีเหมือนกัน

มันไม่ใช่ว่าผมไม่เจ็บนะครับที่ทำแบบนี้ วันที่เราเลิกกันผมก็ยังรักบาสเหมือนตลอด2 ปีที่ผ่านมา แต่ผมแค่มองไม่เห็นทางที่เราสองคนจะเดินต่อไปได้ ความรักของเรามันมาสุดทางแล้ว ผมเหนื่อยครับกับสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร ยิ่งทนก็ยิ่งเจ็บ เจ็บไปก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมา

ความหวานระหว่างเราสองคนมันเริ่มจืดจางไปเรื่อยๆ รักบาสก็รักนะครับ แต่พอมาถึงจุดๆหนึ่งผมก็เลือกที่จะรักตัวเองเหมือนกัน ผมไม่เคยโกรธหรือโทษตัวเองที่ยอมปล่อยใจไปคบกับบาสตั้งแต่แรก เพราะตอนนั้นผมก็คิดดีแล้วและผมก็ยินดีที่จะเสี่ยงทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าสุดท้ายแล้วก็คงเป็นผมที่ต้องเสียนำ้ตา ยอมรับตามตรงเลยนะครับว่าถ้าวันนั้นบาสไม่วางสายโทรศัพท์ใส่ผม ผมก็ยังยินดีที่จะอยู่ข้างๆบาส

ช่วงท้ายๆผมรู้แล้วว่าเรื่องระหว่างเราสองคนกำลังจะจบ ผมตัดสินใจเลือกที่จะเป็นฝ่ายเลิกเพราะถ้าผมไม่เป็นฝ่ายเลิก สักวันบาสก็ต้องมาขอเลิกผม มันไม่มีใครอยากเจ็บหรอกครับ ผมรักบาสมาทั้งชีวิตแล้ว มันจะเป็นอะไรไปถ้าผมเลือกที่จะรักตัวเองสักครั้ง เราสองคนรั้งซึ่งกันและกันมานานเกินพอแล้ว

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #81 เมื่อ28-04-2011 22:26:33 »

ดีที่กลับตัวทัน


 :กอด1:

Mileson

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #82 เมื่อ28-04-2011 22:50:49 »

ขอบอกนะครับ...รักตัวเองดีที่สุด.. แค่นี้ครับ

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #83 เมื่อ28-04-2011 23:28:00 »

ทำถูกแล้ว ควรให้รักกับคนที่คู่ควร  
จริงๆ ควรเลิกตั้งนานล่ะ  บาสไม่ได้รักหนูเลยอ่ะ  คนรักกันเค้าไม่ทำกันงี้หรอก
แม้แต่คำว่าเพื่อนยังไม่คุ่ควรเลย  ทนไปได้  ดีแล้วที่หลุดพ้นมาได้
รักตัวเองให้มากที่สุด  คำที่คุณแม่สอนถูกต้องที่สุดแล้ว ร้องไห้ให้คนที่ไม่เห็นค่าเราไปทำไม ชิ  โกรธแทน   :m31:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2011 23:43:42 โดย kenshinkenchu »

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #84 เมื่อ29-04-2011 08:19:28 »

สุดท้ายแล้วก็จบ  แต่ก็ดีกว่ายืดเยื้อ  ทำถูกแล้วล่ะ  สู้ๆ   สงสารจัง  เป็นฝ่ายยอมมาตลอด

ออฟไลน์ ChiiCaLorz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #85 เมื่อ29-04-2011 10:56:25 »

นี่เรื่องเล่าเหรอ หรือ นิยาย แล้วใครเป็นพระเอก
บาสไม่ได้รักใครเลย บาสรักตัวเอง ถ้าบาสอยู่ใกล้ใครแล้วเขามีความสุข
เขาก็จะทำดีกับคนนั้น แต่ถ้าไม่ เขาก็ถีบหัวทิ้ง
คนแบบนี้มีอยู่ทุกที่ เจอได้ทุกวัน
อ่านแล้วอินมาก เหมือนอ่านชีวิตของตัวเอง  :laugh:
แต่ต่างกันก็คือของเรา พอโดนครั้งที่สอง ขอบอกเลิกเลย ไม่เอาแล้ว ทรมานนนเกิลล o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2011 11:00:40 โดย ChiiCaLorz »

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #86 เมื่อ29-04-2011 14:53:53 »

จริงๆแล้วตอนนี้มันน่าจะเศร้านะแต่ทำไมถึงมีแต่คนดีใจที่ผมเลิกกับบาส กร้ากกกกกกกกกกกกกกก  :laugh3:


"นี่เรื่องเล่าเหรอ หรือ นิยาย แล้วใครเป็นพระเอก"
เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับผมครับแต่ผมขอเติมแต่งเล็กน้อย เพราะฉะนั้นตามกฎของเล้าถือว่าเป็นนิยาย
สำหรับพระเอก .... ชีวิตจริงมันก็ไม่จำเป็นต้องมีพระเอกเสมอไป  :m19:
ผมเคยไปอ่านมาท่ไหนไม่รู้แต่เขาว่าคนเราให้อภัยคนอื่นๆได้แค่ 2 ครั้งแล้วถ้าเค้ายังทำผิดอีกก็แปลว่าเค้าไม่เคยเรียนรู้อะไรเลย  :t2:
คุณ ChiiCaLorz เมนต์เเรงอะ .... ชอบบบบบบบบบบบบ  :m24: (ผมโรคจิตเนอะ!!)

tantalize

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #87 เมื่อ30-04-2011 21:57:01 »

เข้ามาเม้นให้กำลังใจก่อน เดวจะเข้ามาอ่าน เอิ้กกกๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #88 เมื่อ01-05-2011 18:08:23 »

 :pig4:

New_Noi :p

  • บุคคลทั่วไป
Re: My Best Friend : ตอนที่ 11 updated 28/4/11
«ตอบ #89 เมื่อ01-05-2011 22:12:44 »

ความรู้สึกหลังจากวันนั้น จะบอกว่ายังไงดีล่ะครับ ใจหนึ่งก็ดีใจนะ มันเหมือนนกที่ได้บินออกจากกรงแต่อีกใจหนึ่งผมก็เสียใจ ผมกับบาสคบกันมา 2 ปีเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ผมเคยคิดว่าถ้าสักวันหนึ่งเราลดระดับของความสัมพันธ์ลงมาแล้วเราจะยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ไหม เข้าใจแล้วครับว่าทำไมใครหลายคนถึงบอกว่าอย่าแอบรักเพื่อนสนิทตัวเองเพราะถึงตอนนี้แม้แต่คำว่าเพื่อนเราสองคนก็ยังไม่มีให้กัน

ผมเริ่มรู้จักกับกลุ่มเพื่อนของเอ็มมากขึ้นจนในที่สุดผมก็เข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่ม ผมอยู่ห้องเดียวกับไอ้ต้นไอ้บิว เรา 3 คนสนิทกันมากและแน่นอนว่าทั้งคู้รู้เรื่องผมกับบาส กลุ่มเพื่อนผมน่ารักนะครับพวกมันชวนกันเล่นชวนกันเรียน ก็คงเหมือนเด็กมัธยมปลายทั่วไปที่พอเรียนเสร็จพวกเราก็ไปเดินเล่นกันที่สยาม เสาร์อาทิตย์ช่วงเช้าเราก็ลงเรียนพิเศษด้วยกัน ตอนบ่ายก็ไปเดินเล่น กินข้าว ดูหนัง มันก็มีบ้างนะครับที่ผมกับบาสบังเอิญเดินสวนกันที่สยาม แต่เราทั้งคู่ต่างก็ไม่มองหน้ากัน กับเพื่อนกลุ่มบาสผมก็ทักบ้างพยักหน้าให้บ้าง ก็ทักกันตามประสาคนรู้จัก

เผลอแป๊บเดียวผมก็เข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเด็กมัธยมและก็เป็นเหมือนที่หลายคนคิดว่าผมได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียน  :a9: ช่วงนั้นผมเอาเวลาไปทำกิจกรรมมากกว่า 70% ของเวลาทั้งหมดที่อยู่ที่โรงเรียน เพื่อนหลายคนจะคุ้นกับภาพเก้าอี้ว่างๆของผมที่มีแต่กระเป๋าเป้สีน้ำ้เงินวางอยู่ทั้งวันโดยที่เจ้าของกระเป๋านั้นหายไป คือไม่ว่าผมจะยุ่งขนาดไหนผมก็ต้องเอากระเป๋าไปวางไว้บนห้องให้พวกเพื่อนๆมันรู้ว่าผมมาโรงเรียน ถ้ามีอะไรด่วนให้โทรตามผมด้วย และยิ่งใกล้ช่วงที่จะมีกิจกรรมชีวิตผมจะวุ่นวายมาก ผมเคยอยู่ที่โรงเรียนดึกสุดก็เกือบเที่ยงคืน มาถึงโรงเรียนเช้าสุดคือเกือบตี 4 วันไหนที่มีงานวันนั้นทั้งวันผมต้องรับโทรศัพท์จนหูเกือบไหม้

ถ้าพี่ๆจะถามว่าหลังจากนั้นผมเคยคบใครไหม  :m29: ... มันก็ไม่เชิงครับ ตอนนั้นผมยังเข็ดกับความรัก มันเหมือนจำฝังใจมาตลอดว่าผมเสียใจให้กับความรักยังไง ผมกลัวว่าถ้าผมรักใครสักคนแล้วสุดท้ายผมก็ต้องเสียใจ เพื่อนผมก็เริ่มมีแฟนกันในขณะที่ผมก็นิ่ง ทำตัวเฉยเหมือนไม่แยแสกับเรื่องแบบนี้ ผมเองก็กำลังมีความสุขกับการอยู่กับเพื่อนจึงอยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้เอาไว้ ผมอยากรักตัวเองให้มากๆ เพราะรู้สึกว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้รักตัวเองเท่าไหร่

ช่วงนั้นก็มีคนเข้ามาจีบผมนะ  :o8: ก็ทั้งเด็กในโรงเรียนและก็เด็กจากโรงเรียนอื่น เคยมีเด็กจากโรงเรียนอื่นเข้ามาดูงาน ผมก็ต้องทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีคือไปต้อนรับดูแล พอตอนเย็นผมกำลังเก็บของกลับบ้านเพื่อนผมมันก็เดินเข้ามาล็อคคอกระซิบว่า

“ไอ้นิว เมิงนี่เสน่ห์แรงว่ะ มีคนมาขอเบอร์มรึงกับกรูด้วยนะ”

“แล้วมรึงให้มันไปไหม”

 “ให้ดิ ก็กรูอยากเห็นเพื่อนกรูมีสารมีสักที”  :a2: ผมก็บ่นๆครับเพราะไม่อยากวุ่นวายเรื่องแบบนี้ เย็นนั้นเด็กคนนั้นก็โทรมา ผมพอเดาหน้าได้ว่าเป็นคนไหน เขาก็ไม่ได้จีบผมออกนอกหน้านะครับ แบบว่าเอาเรื่องงานมาบังหน้ามากกว่า ผมก็รักษาน้ำ้ใจเขา พยายามพูดกับเขาดีๆ แต่สุดท้ายผมก็ต้องบอกเขาไปว่าผมยังไม่อยากมีใครตอนนี้ เขาก็เงียบๆ หลังจากนั้นเขาก็โทรหาผมอีกทีสองทีแล้วก็หายไปเลย

เด็กในโรงเรียนก็มีมาจีบ ส่วนมากก็จะประมาณว่าฝากเพื่อนเอาน้ำ้เอาขนมมาให้ ผมก็รับ แต่รับแล้วก็แบ่งเพื่อนๆกิน เพื่อนๆผมก็รู้ว่าผมเฉยๆ จะมีก็แต่บางครั้งที่มีคนมาจีบแบบออกหน้าออกตาเท่านั้นแหละ ที่จะทำให้ผมออกอาการน็อตหลุด คนเรามันก็มีหลายแบบนะครับ บางคนพูดครั้งเดียวก็รู้ว่าจะต้องวางตัวตรงไหน แต่บางคนเหมือนพูดไปก็เข้าหูซ้ายทะลุุหูขวา

ตอนนั้นคนที่ทำให้ผมรำคาญที่สุดคงเป็นไอ้นนท์ นนท์มันเป็นรุ่นน้องผมปีหนึ่ง เป็นกรรมการนักเรียนเหมือนกัน ก็หน้าตาธรรมดาๆ นิสัยกวนอวัยวะเบื้องล่างอย่างถึงที่สุด แต่วิธีเข้าหาผมนี่แปลกกว่าคนอื่นตรงที่คนส่วนใหญ่จะฝากเพื่อนเอาของมาให้ผม แต่ไอ้นนท์นี่กล้ามากนะครับที่เอาของมาให้ผมเอง เเล้วก็บอกว่าชอบผมต่อหน้าเพื่อนผมทั้งโต๊ะ ก็แน่นอนครับเพื่อนผมมันก็รับมุกโห่ฮากันใหญ่ ผมก็อายเลยได้แต่นั่งยิ้มๆไม่พูดอะไร

ผมพูดกับไอ้นนท์ไปหลายครั้งแล้วว่าผมรู้สึกเฉยๆกับมัน แล้วยังไม่พร้อมที่จะมีใคร มันก็เหมือนจะฟังผมนะครับ แต่มันก็ยังเข้ามาจีบผมเหมือนเดิม เเละผมก็เบื่อสุดๆ เพราะมันไม่เข้ามาเงียบๆ มันต้องเข้ามาแบบให้คนรอบข้างรู้ว่ามันทำอะไร เรื่องที่ทำให้ผมโกรธมากที่สุดคือวันนั้นผมต้องเข้าไปพูดเรื่องอะไรสักอย่างกับรุ่นมัน แล้วเพื่อนๆมันก็คุยๆๆๆๆ ผมก็ยืนบนเวทีเฉยๆ เพราะส่วนมากพอเห็นพี่นิ่งไม่พูดอะไร น้องมันก็จะรู้ว่ามันควรเงียบ แต่ไอ้นนท์สิครับมันพูดออกไมค์ว่าให้เพื่อนๆมันเงียบแล้วฟังแฟนมันพูด เท่านั้นล่ะครับผมโดนโห่ฮาทั้งหอประชุม ผมโกรธมาก  :m16: โกรธจนเดินลงจากเวทีแล้วให้คนอื่นไปพูดแทน แน่นอนครับว่าอาจารย์เรียกผมไปว่า โดยเฉพาะอาจารย์แดงที่ดุผมมากกว่าคนอื่นในฐานะที่เคยเตือนผมมาครั้งหนึ่งแล้วและผมก็ต้องอารมณ์เสียหนักเข้าไปอีกเมื่อไอ้นนท์มันทำตัวเหมือนไม่รู้ว่ามันทำผิดอะไร มันยังทำตัวเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จนกระทั่งวันหนึ่งผมกำลังเดินกลับมาจากโรงอาหารก็เจอไอ้นนท์มันยืนคุยกับเพื่อนมันอยู่ ผมก็ทำเป็นไม่เห็น เพราะไม่อยากทักไม่อยากคุยกับมัน และเรื่องที่ผมไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นครับ มันเดินเข้ามาจูงมือผมไปหาพวกเพื่อนมัน มันลากผมไปยืนคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนมันแล้วมันก็ไม่ปล่อยมือจากมือผมสักที หน้าผมก็ออกนะว่าผมไม่พอใจ เพื่อนมันก็รู้เพราะทุกคนทำหน้าแบบเกรงใจผม แต่ไอ้นนท์นี่ไมู่้ร้อนรู้หนาว สักพักมีใครไม่รู้เดินมาผลักไอ้นนท์กระเด็นไปเลยครับ ผมหันกลับมาถึงกับพูดอะไรไม่ออก … ไอ้แจ๊สครับ  :a5:

“ไอ้เหี้ยนนท์ มึงปีนเกลียวมากไปแล้วนะเว้ย เลิกยุ่งกับแฟนกรูสักทีไม่งั้นมรึงโดนตีนกรูแน่”  :sad3: ผมอย่างเหวอเลยครับที่ไอ้แจ๊สพูดออกมาแบบนี้ ไอ้นนท์ก็อึ้งสิครับ หน้างี้ซีดไปเลย อย่าว่าแต่ไอ้นนท์เลยครับ เพื่อนผมก็อึ้งเหมือนกัน แล้วไอ้แจ๊สก็จูงมือผมขึ้นไปบนตึก พอลับตาคนอื่นไอ้แจ๊สมันก็ปล่อยมือผม ผมก็ยังอึ้งๆมึนเลยไม่ได้พูดอะไรกับมันนอกจากบอกมันว่าขอบใจ

เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนในห้องก็รู้ข่าวเรื่องเมื่อวาน แน่นอนครับว่าผมต้องนั่งตอบคำถามทั้งวัน แถมทุกครั้งที่เดินเข้าห้องไอ้แจ๊สก็มีแต่เสียงแซวผม เย็นนั้นผมก็โดนอาจารย์แดงเรียกไปเทศน์อีกรอบ โดนบ่นแบบหูชาเลยครับ อาจารย์ก็บ่นๆแซวๆว่าทำไมผมถึงขยันสร้างเรื่องปวดหัวให้อาจารย์นัก

ขอเล่าถึงไอ้แจ๊สนิดหนึ่งครับ คือมันก็เป็นเพื่อนกลุ่มผมคนหนึ่ง มันเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดแต่พอมันด่าทีนี่แบบว่าจุกเลยครับ ผมไม่ค่อยสนิทกับไอ้เเจ๊สเท่ากับไอ้ต้นไอ้บิว มันจะไปสนิทกับไอ้เอ็มมากกว่า แต่ผมกับมันก็ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ ยอมรับครับว่าผมก็ชอบแอบมองไอ้แจ๊สบ่อยๆ ผมไม่ได้แอบชอบอะไรมันนะ แต่มันก็แบบว่าหน้าตาดีซะขนาดนั้น ทั้งพี่ๆน้องๆและรุ่นผมเองก็กรี๊ดมันอยู่หลายคน มันเป็นนักเทควันโดด้วยนะครับ มี degree สายดำ เพราะงั้นไอ้นนท์มันถึงไม่กล้าปากดีกับไอ้เเจ๊สไงครับ ถ้าไม่งั้นมีหวังมันได้เลือดกลบปากของจริง

หลังจากวันนั้นผมก็เกร็งๆเวลาอยู่ใกล้ๆไอ้แจ๊ส ผมคุยเรื่องนี้กับไอ้ต้นไอ้บิวมันก็บอกว่าผมน่ะคิดมาก เพราะไอ้เเจ๊สมันก็ไม่ชอบหน้าไอ้นนท์เป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว ผมไม่เชื่อที่ไอ้สองคนนั้นมันพูดหรอกครับ เพราะแม้ว่าทุกคนจะมองว่าไอ้เเจ๊สทำลงไปเพราะอารมณ์ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างที่เปลี่ยนไประหว่างผมกับไอ้เเจ๊ส  :m3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด