สวัสดีค่า...
ห่างหายกันไปเป็นพักๆ หลายๆ คนก็แวะเวียนกันไปไถ่ถามอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...
ดีใจ และขอบคุณที่ยังคงคิดถึงกันเสมอๆ นะคะ
วันนี้ได้ฤกษ์ปั่นเสร็จสักที จริงๆ เขียนแล้วลบแล้วเขียนอยู่หลายรอบ หลายวันมากๆ เลยค่ะ
มันมีหลายอย่างที่ต้องระวัง เพราะถ้าหลุดออกมามันก็จะพลิกโผไปซะก่อน เอิ๊กกกกก ทำตัวเองแท้ๆ
ไม่ได้กะจะให้มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรหรอกค่ะ จริงๆ มันก็ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น
เพียงแค่มันต้องรอเวลาค่ะ...
เอาเป็นว่า รอกันสักนิดนะคะ ใครที่อยากรู้ความคิดน้องรัน เดี๋ยวได้มาฟังกันแน่ๆ จ้า...
ขอบคุณๆๆๆๆ อีกหลายๆ ครั้ง สำหรับกำลังใจล้นเหลือทั้งในเม้นท์ที่นี่และที่เฟสบุคนะคะ... กอดทุกคนเลย
ปล. คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้ให้นะคะ... ขอให้สนุกกับน้องรันและพี่ภพค่ะ++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 11สุดท้ายผมตัดสินใจบินกลับประเทศโดยไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง แต่ที่ผมต้องกลับเพราะมีเหตุจำเป็นเรื่องงานที่ผมต้องบินกลับไปตัดสินใจด้วยตัวเอง ก็ดีเหมือนกันครับ ผมจะได้กลับไปคุยกับไอ้รินอย่างจริงๆ จังๆ สักที
ก่อนกลับผมโทรไปหาน้องรันอีกครั้ง แต่น้องไม่ยอมรับสาย ผมเลยเลือกที่จะฝากข้อความเอาไว้แทน ผมบอกน้องไปว่าผมจะกลับไปคุยกับรินให้รู้เรื่อง ส่วนเรื่องของเราผมจะรีบทำทุกอย่างให้มันชัดเจนแน่ๆ
“รินเย็นนี้มึงกลับมานอนบ้านรึเปล่า” เช้าวันที่สองหลังจากที่ผมบินกลับมาถึงบ้าน และเคลียร์ปัญหาเรื่องงานเสร็จสิ้น เช้านี้ผมเลยรีบตื่นพร้อมๆ กับไอ้ริน กะไว้แล้วว่าเย็นนี้ล่ะจะคุยกับมันเป็นเรื่องเป็นราวสักที
“น่าจะกลับนะ แต่อาจจะไปกินข้าวกับพวกไอ้กฤตก่อน มึงไปไหมล่ะ” ไอ้กฤตก็เป็นเพื่อนก๊วนๆ เดียวกับผมนี่แหละครับ
“แคนเซิลไปก่อนได้ไหมวะ เย็นนี้กูมีธุระจะคุยกับมึงน่ะ”
“ซีเรียสเลยเหรอวะ คุยเลยไหมล่ะ เดี๋ยวกูเข้าสายสักหน่อยก็ได้” ไอ้รินมันเป็นพวกใจร้อน ถ้าเจอเรื่องอะไรแบบนี้เนี่ยมันต้องอยากรู้ทันทีเดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้เลย
“ไว้ตอนเย็นก่อนเถอะว่ะ วันนี้กูต้องรีบเข้าออฟฟิศ เดี๋ยวเย็นนี้กูซื้อกับข้าวมาเองสักทุ่มนึงนะ” ผมติดงานจริงๆ แล้วอีกอย่าง ขอยืดเวลาทำใจอีกสักนิดเถอะฮะ
“เออ… ก็ได้ ไอ้นี่แม่งมาพูดให้กูอยากรู้นะ แล้ววันนี้กูจะทำงานรู้เรื่องไหมเนี่ย” ไอ้รินบ่นงุ้งงิ้งนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปอาบน้ำแต่งตัว ผมเองก็ลุกขึ้นไปจัดการตัวเองเช่นกัน เช้านี้ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง งานที่เร่ง และมีเรื่องราวให้ต้องตามแก้ปัญหาตลอดทั้งวัน ทำให้ผมคลายความเครียดของเรื่องที่จะคุยกับไอ้รินเย็นนี้ไปได้บ้าง
ตกเย็นผมออกจากออฟฟิศตั้งแต่หกโมง แวะร้านอาหารอร่อยใกล้ๆ บ้านสั่งกับข้าวสามอย่างสำหรับผมและไอ้ริน ไม่เกินครึ่งชั่วโมงกับข้าวก็เสร็จ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงตามที่ผมนัดไอ้รินไว้ เลยแวะซื้อพวกของใช้เล็กน้อยเข้าบ้าน พอกลับมาถึงไอ้รินมันก็นั่งรออยู่ที่โซฟารับแขกแล้ว
“คุยกันเลยได้ไหม” ใจร้อนเสมอจริงๆ เมียผม
“กินข้าวก่อนเหอะ กูหิว หรือมึงไม่”
“หิว แต่อยากรู้มากกว่า… เออๆ ไม่ต้องทำหน้าระอาใส่ กินก่อนก็ได้” ผมยิ้มบางๆ ส่ายหัวกับอาการฟาดงวงฟาดงาน้อยๆ ของไอ้ริน ก่อนจะเดินเอากับข้าวไปใส่จาน ยกออกมาตั้งโต๊ะ และเราสองคนก็ลงมือนั่งทานกันอย่างเงียบๆ
“เอาล่ะ อิ่มแล้วก็คุยกันได้สักทีสินะ มีเรื่องอะไรว่ามาเลย” ผมกับไอ้ริน เราพากันไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นบนโซฟา ผมเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับมัน ปกติเวลาผมคุยกับใครจริงจัง ผมชอบนั่งให้เห็นหน้า
“อืม… มึงสัญญากับกูก่อนได้ไหม ว่า… ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม กูกับมึงจะยังคงเป็นเพื่อนกันต่อไป กูรักมึงมาก มึงเป็นเพื่อนที่กูรักมากที่สุดในชีวิตกู มึงคนเดียวที่กูไว้ใจ และกูไม่อยากเสียมึงไป”
ไม่ใช่ว่ามาตีน้ำเน่าเรียกความน่าสงสารอะไรหรอกครับ ผมรู้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเซนส์ซิทีฟสำหรับไอ้รินมาก มันรักรันจนค่อนข้างหวง และมันก็เคยลั่นวาจาเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น ว่าไม่ให้ผมยุ่งกับน้องมัน แต่ผมดันเสือกทำเป็นไม่ใส่ใจคำขอนั้น แอบคิดเล็กคิดน้อย ตอดนิดตอดหน่อย จนได้ตอดกันเต็มๆ ถ้าไอ้รินรู้ความจริง มันคงแทบอยากจะฆ่าผมด้วยซ้ำ แต่ขอเถอะนะ จะตายก็ไม่่ว่า แต่อย่ามาตัดเพื่อนกันเลย ผมกับมันคบกันเป็นเพื่อนรู้ไส้รู้พุงกันมากี่ปีแล้ว มันเป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด ผมยังเคยนั่งคิดเล่นๆ เลยว่า ถ้าผมไม่เป็นเกย์ผมคงไม่สนใจผู้หญิงคนไหน ในชีวิตผมคงวางเอาไว้เลยว่าจะต้องรักและแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เท่านั้น ผมถึงไม่อยากจะเสียมันไป
“ได้ กูรับปาก… แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่น่าโมโห มันคงห้ามไม่ได้ถ้าจะโมโหออกมาให้เห็นนะ” ผมพยักหน้ารับอย่างจำยอม แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ
“ริน… กู กู เออ… กูมีอะไรกับน้องรัน!!!”
“………………………….”
“ริน ริน… มึงอย่าเงียบได้ไหม กูขอโทษ ขอโทษที่ผิดสัญญากับมึง… แต่ แต่กูจริงจังกับรันนะ กูจริงจังจริงๆ” ผมลุกไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าไอ้รินที่ได้แต่มองหน้าผมนิ่งโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา ผมเดาอารมณ์มันไม่ถูก ให้มันตะโกนด่าใส่หน้าซะยังจะดีกว่า
“หึ…สิ่งที่กูกลัวที่สุดมันก็เกิดขึ้นจนได้… มึงจะมาขอโทษทำไมวะภพ ตอนมึงทำทำไมมึงไม่คิด แล้วมึงอย่ามาพูดเลยว่ะ ว่าจะจริงจังกับน้องกู มึงยังทำตัวเอาไม่เลือกอยู่เลย มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ ถึงช่วงนี้มึงจะไม่เที่ยวเหมือนเก่าแล้ว แต่มึงก็ยังซื้อเด็กมานอนด้วย มึงจะให้น้องกูอยู่กับคนที่เจ้าชู้เหี้ยๆ อย่างมึงเหรอ แล้วใจน้องกูล่ะจะเป็นยังไง” ไอ้รินเงยหน้าพูดกับผมเรียบๆ ไม่ได้ใส่อารมณ์ แต่มันนิ่งเย็นซะจนผมรู้สึกแย่
“กู กูจะรับผิดชอบทุกอย่างเองริน กูจะเลิกยุ่งกับทุกคน กูจะเลิกทำตัวมั่ว กูจะปรับปรุงตัวเอง ให้โอกาสกูเถอะนะรินนะ กูจริงจังกับรันจริงๆ” แม้เรื่องที่เกิดขึ้น มันจะไม่ได้เกิดเพราะผมก็ตาม เอาตามจริงหากผมบอกไอ้รินว่า เพราะน้องรันเป็นคนเปิดโอกาสให้ผมเอง แล้วเราก็ยินยอมด้วยกันทั้งสองฝ่าย เรื่องมันอาจจะดีขึ้นตรงที่เพราะผมไม่ได้เป็นคนเริ่ม แต่ผมคงไม่ชั่วขนาดโยนความผิดว่าน้องเป็นคนยั่วหรอกครับ ผมก็เลวเองที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่รู้จักยับยั้งช่างใจ
“กูถามมึงคำเดียว… มึงรักน้องกูเหรอ”
“……………..กู กู….เอ่อ…กู ไม่รู้… แต่กูชอบน้องมึงมาก กูยอมทิ้งวิถีส่วนตัวกู ปรับปรุงตัวเองเพื่อน้องมึงได้ กูยอมจริงๆ ให้โอกาสกูเถอะนะ”
คำถามที่ผมก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม ผมคิดถึงน้อง ผมอยากเจอน้อง อยากอยู่ใกล้ๆ น้อง อยากดูแลน้อง รันทำให้ผมใจเต้นแรงได้เสมอเมื่ออยู่ใกล้ๆ กัน รันทำให้ผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองเสมออย่างผม กลายเป็นผู้ชายที่เงอะงะได้เพียงแค่ได้คุย หากคนเสเพลอย่างผมคิดจะมีคนข้างกายที่เรียกว่าแฟนและไม่ใช่คู่ขาสักคน คนเดียวที่ตอนนี้คิดถึงก็คือวรัน…
แต่ ผมไม่กล้าเรียกสิ่งนี้ว่ารัก ผมว่ามันเร็วเกินไป ผมไม่เข้าใจความซับซ้อนของคำว่ารัก ผมไม่เคยรักใครแบบสิเน่หา ไม่ใช่รักแบบเพื่อน พี่น้อง หรือครอบครัว ปกติผมมักใช้คำว่าถูกใจซะมากกว่า ผมรู้ว่าตัวเองแย่ที่คิดแบบนี้ ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้นักหรอกครับ แม้นี่จะเป็นความคิดของผม หัวใจของผม แต่ใช่ว่าผมจะเป็นคนควบคุมให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมันมีอำนาจกว่ากันได้ซะที่ไหน ผมยอมรับตรงๆ ว่าผมกลัว ผมใช้ความคิดมากกว่าหัวใจ แม้การกระทำเรื่องคู่ควงส่วนใหญ่ของผมมักจะไร้สมองมาเกี่ยวข้องเสมอก็ตาม
“มึงเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วไอ้ภพ มึงรู้ไหมว่าบางคนขนาดรักกัน ยังเลิกกันได้เลย แล้วนี่รักหรือเปล่ามึงยังตอบกูไม่ได้ มึงแค่หลงมันรึเปล่า มันเป็นของแปลกใหม่สำหรับมึงนี่ มันยังมีอะไรให้มึงได้ตื่นเต้น ได้ไล่ตาม ได้เป็นเหยื่อสดๆ ให้มึงได้ล่า มึงแยกออกรึเปล่าว่าจริงจังหรือแค่หลง ถ้ามึงยังตอบตัวเองไม่ได้ แล้วน้องกูมันจะใช้อะไรเป็นเครื่องการันตีการคบกันครั้งนี้ล่ะหะ แถมมันก็ยังอยู่อีกซีกโลก ต่อให้อยู่ด้วยกันใกล้ๆ ไอ้พฤติกรรมฟันไม่เลือก เจ้าชู้ไม่เลิกของมึงเนี่ยมันก็ไม่มีทางหายไปได้หรอก กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีแล้วภพ ทำไมกูจะไม่รู้สันดานมึง”
“………………” ที่ผมเงียบ เพราะผมกำลังคิดตามทุกๆ คำพูดของไอ้ริน คำถามที่มันถามไม่ใช่ผมไม่เคยคิด ถามว่าผมหลงน้องรันรึเปล่า อันนี้ผมถามตัวเองแล้วครับผมไม่ได้หลงน้อง โอเคตอนแรกที่เจอกัน ได้คุยกัน ผมอาจจะหลงน้องรัน หลงความแปลกใหม่ที่ท้าทาย ผมเคยคิดว่าถ้าผมได้กับน้องสักครั้งผมคงพอ มันคงลดทอนความกระหายนี้ไปได้ แต่เปล่าเลย ผมกลับอยากครอบครองมากกว่านั้น ผมอยากโอบอุ้มประคองคนคนนี้ไว้ด้วยตัวเอง ผมอยากดูแลเขา อยากปกป้องเขา อยากกินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน ทำกิจวัตรประจำวันด้วยกัน ไม่ใช่แค่อยากมีเซ็กส์ด้วยแค่นั้น ผมเพิ่งจะเคยรู้สึกว่าเซ็กส์มันสร้างความผูกพันระหว่างคนสองคนเป็นแบบนี้เอง
“ริน มึงให้โอกาสกูหน่อยได้ไหม มึงเชื่อกูหน่อยได้ไหม กูรู้ว่ากูสันดานแย่ แต่… แต่กูจะพยายามปรับปรุงตัวเอง ส่วนเรื่องรักน้อง กูกำลังหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ มึงรอกูหน่อยได้ไหมริน ได้ไหมนะ คนอย่างกูเกิดมาไม่เคยที่จะรักใคร และรู้สึกแบบนี้กับใคร กูไม่รู้จริงๆ ว่าต้องเริ่มยังไง แต่กูอยากให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นที่รัน และจบลงที่รัน นะริน มึงให้โอกาสกูเถอะ”
“เฮ้อ!!! กูเป็นเพื่อนมึง กูรักมึง และกูเชื่อในตัวมึงทุกๆ เรื่องนะ… แต่ขอเถอะว่ะภพ เรื่องนี้กูไม่เคยแน่ใจในตัวมึงเลย โอเคการที่มึงเป็นคนแบบนี้ไม่ได้ทำให้กูเดือดร้อน มึงก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดี เพื่อนที่กูรัก เป็นเจ้านายที่ดีของลูกน้อง เป็นคนดีของพ่อแม่ แต่พอเรื่องมันมามีเอี่ยวกับคนอีกคนที่กูรักเท่าชีวิต พฤติกรรมมั่วของมึงมันเลยมีปัญหากับกูแล้วล่ะตอนนี้…”
“เอาล่ะถ้ามึงขอโอกาส กูก็จะให้ แต่… แต่กูไม่รับปากใดๆ ทั้งสิ้นว่ามึงจะผ่านบททดสอบนี้เมื่อไหร่ มึงลองไปคิดดูเอาเองแล้วกันว่ามึงจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรของมึงบ้างให้กูไว้ใจ และเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องที่มึงจะดีพอจนกูยอมรับหรือไม่ แต่มันเป็นเรื่องของผู้ชายสองคนมีความสัมพันธ์เกินเลยกัน กูน่ะไม่มีปัญหาและเข้าใจ แต่มึงเห็นกูรึเปล่าล่ะ มึงเห็นสภาพกูตอนนี้ไหม ที่กูต้องหลบๆ ซ่อนๆ คบกับน้องหนูเพราะอะไร… ถ้าป๊ากับแม่รู้ กูคิดไม่ออกเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“แต่มึงก็มีความสุขกับปัจจุบันนี้ไม่ใช่หรือไง แม้มันจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ หลอกใครต่อใคร แต่สุดท้ายมึงก็ซื่อสัตย์และไม่เคยหลอกหัวใจตัวเอง… กูซะอีก แม้แต่ตัวเองกูยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ กูดีใจที่มึงยอมให้กูได้ปรับปรุงตัวเอง กูจะพิสูจน์ให้ทั้งมึงและน้องรันได้เห็นว่ากูจะเปลี่ยนเพื่อเขาให้ได้…”
“ถึงกูจะให้โอกาสมึงแต่… กูมีข้อแม้นะ” กำลังจะโผเข้าไปกอดขอบคุณมันด้วยความดีใจ แต่ก็ต้องชะงักด้วยคำว่าแต่นี่แหละ เฮ้อออ ลำพังกูต้องลดละเลิกตัวเอง ก็ยากพอแล้วนะ มึงยังจะมามีแต่กับกูอีกเหรอวะเนี่ย
“เออๆ มึงว่ามาเลย จัดมาหนักๆ เลยมา ไหนๆ กูต้องยกเครื่องตัวเองใหม่ทั้งหมดแล้ว มีอะไรที่กูต้องทำอีกก็ว่ามาได้เลย”
“ดี… งั้นระหว่างที่มึงยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่ มึงต้องห้ามไปเจอรันเด็ดขาด ไม่มีการทำเป็นบังเอิญบินไปเรื่องงาน แล้วแวะไปหา หรือแม้แต่ไปเรื่องงานจริงก็ต้องห้ามไปเจอ ห้ามฝ่าฝืนใดๆ ทั้งสิ้น… ส่วนโทรศัพท์ก็ห้ามโทรไป แม้แต่อีเมล แชท เฟสบุค หรือส่งข้อความใดๆ ก็ห้ามเหมือนกัน กูอยากให้มึงได้อดทน เพราะถึงมึงกับรันจะลงเอยกันได้ ก็ใช่ว่าน้องกูจะย้ายกลับมาเรียนที่นี่ หรือมึงจะย้ายไปอยู่ใกล้ๆ มันก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน มึงเข้าใจกูนะ”
ถามว่าผมต่างจากนักโทษที่อยู่ในเรือนจำอย่างไรครับ… ขอตอบว่าแทบจะไม่ต่าง แถมไม่รู้ว่าจะได้ลดโทษเมื่อไหร่ หรือจะกลายเป็นโทษประหารไปซะก่อนก็ไม่มีโอกาสได้ทราบ แต่ให้ทำยังไงได้ครับ ก็ดันเผลอหลวมตัวจะค้นหาความรักกับเขาสักครั้งไปแล้ว ผมก็ต้องยอมรับเงื่อนไขสถานเดียว พร้อมสู้แหละครับแบบนี้
“ได้ กูตกลง”
“ดี พรุ่งนี้เป็นต้นไปกูจะคอยดูสามภพในรูปโฉมใหม่ ถ้ามึงดีแตกแม้แต่ครั้งเดียว กูจะถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ น้องกูเป็นผู้ชายโดนไปครั้งนึงถือซะว่าทำทานให้เพื่อนพี่สาวมันก็แล้วกัน เดี๋ยวกูจับมันใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วเอาไปขายให้คนดีๆ ต่อก็ได้ ไม่แคร์”
“เฮ้ย ไอ้ห่ารินไม่ได้นะมึง กูหวงของกู มึงจะมาเที่ยวยกน้องชายตัวเองให้คนนู้นคนนี้ได้ยังไงกัน กูสู้ขาดใจเลยแม่งห้ามนะมึง”
“มึงก็ทำตัวดีๆ สิคะคุณสามี กูก็จะได้ไม่ต้องยกน้องชายกูให้คนที่ดีกว่ามึง ไม่งั้นกูจะยุให้แม่งหาเมียแหม่มแต่งงานมีลูกมีหลานให้กูซะเลย ฮ่าๆๆๆ สะใจว่ะ”
แม่งเอ๊ย พอมันได้ทีก็ขู่เอา ขู่เอา แถมยังจะมายุให้รันของผมไปมีเมียแหม่มอีก คอยดูนะถ้าแหม่มตัวไหนบังอาจมาแหยมกะน้องเมียกูนะ กูจะตามไปราวีถึงที่เลย ผู้หญิงก็ผู้หญิงเหอะ กูไม่สนเว้ย…
“เออ…ว่าแต่ กูขอถามมึงหน่อย ตอนนี้รันยังคงคิดว่ากูกับมึงแต่งงานเป็นผัวเมียกันอยู่ แล้วอย่างนี้น้องมันจะเปิดใจรับกูได้ยังไงวะ ถึงแม้กูว่าตอนนี้น้องรันคงจะแอบมีใจให้กูอยู่บ้าง อ๊ะๆ อย่าเพิ่งอ้าปากด่ากูนะ กูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แต่ที่น้องไม่กล้ามีใจให้กูเต็มที่เพราะความมั่วของกู และก็เพราะกูเป็นผัวพี่สาวเขานี่แหละ… ทำไงล่ะทีนี้” ผมรู้สึกนะครับว่ารันก็แอบสนใจ เผลอๆ อาจจะมีใจให้ผมด้วยซ้ำ แต่คงติดที่ผมเป็นพี่เขยนี่แหละ ผมก็เข้าใจน้องนะ น้องคงรู้สึกผิดมากทีเดียวที่ทำแบบนี้
“อืม… เอาเป็นว่าเรื่องนี้ เดี๋ยวค่อยว่ากันแล้วกัน มึงทำในส่วนของมึงให้ดีไปก่อนเถอะ… กูไปละนะขอไปเคลียร์งานข้างบนก่อน พรุ่งนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นน่ะ”
อ้าว สรุปเรื่องนี้ก็ยังคงไม่เคลียร์อยู่ดี แต่เอาก็เอาวะผมก็พอจะเข้าใจรินมันเหมือนกัน เพราะเรื่องแต่งงานของเราสองคนเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจยากสักนิด และก็มีน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้ มันเองก็คงจะลำบากใจที่จะให้น้องชายมันรับรู้เรื่องชวนเวียนหัวแบบนี้ของมันเหมือนกัน เผลอๆ น้องมันจะรู้รึเปล่าว่าพี่มันเป็นเลสเบี้ยน สมัยก่อนอาจจะเคยสงสัยเพราะมันเคยมีเรื่องทะเลาะกับที่บ้านเรื่องคบกับน้องหนูมาแล้ว แต่พอไอ้รินมาแต่งงานกับผม น้องมันก็คงจะคิดว่าพี่มันกลับใจซะแล้ว หรือไม่ก็อาจจะคิดว่าพี่สาวตัวเองเป็นไบเซ็กชวล…
เอาเถอะครับ สุดท้ายคนเรา ถ้ามันจะได้รักกัน แม้จะมีปัญหาห่่าเหวอะไรมันก็จะผ่านไปได้เอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คงจะขึ้นอยู่ที่ตัวเราด้วยว่าจะพยายามผ่านพ้นมันไปให้ได้แค่ไหน… หวังเพียงแต่ว่า ถ้าน้องรันรู้ว่าผมปิดบังเรื่องแต่งงานกับไอ้รินหลอกๆ น้องรันจะไม่โกรธผมไปซะก่อนนะครับ
อย่าโกรธพี่เลยนะ ที่พี่ทำไปก็เพราะช่วยพี่สาวสุดที่รักของรันนั่นแหละ เห็นไหมครับรัน ผู้ชายหัวใจประเสริฐแบบพี่ ชาตินี้จะไปหาได้ที่ไหนกันเชียว… รอรักพี่ได้เลยครับที่รัก
+++++++++++++++++++++++++
+ ตอนนี้มาแบบสั้นๆ แถมไม่มีน้องรันโผล่มาอีก แม่ยกน้องรันรอกันไปก่อนนะจ๊ะ
+ หลายคนมีหลายคำถามเกิดขึ้นว่า ทำไมน้องถึง ทำไมพี่ภพถึง ทำไมรินถึง...ฯลฯ งืม เดากันไปก่อนนะจ๊ะ ถ้าน้องรันออกมาพูด มันจะจบทุกปัญหา (รึเปล่า?) ฮ่าๆๆ ทำตัวเองแท้ๆ เลยเมอร์ซี่เอ๊ย เครียดจริงอะไรจริง
+ Mercy ขออภัยทุกๆ คนเลยนะคะ ที่มาต่อแต่ละตอนช้าเหลือเกินเข้าใจทุกคนนะคะว่าอยากอ่านต่อ เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน เวลาอ่านเรื่องไหนติดพันก็อยากให้ต่อเร็วๆ แต่เมอร์ซี่เองก็มีงานประจำที่มันยุ่งทุกวี่วัน จะมีเวลาได้หายใจหายคอกับเขาบ้างไม่กี่วัน ก็พยายามจะมาลงให้ได้เร็วที่สุดนะคะ เพราะเรื่องทุกเรื่องไม่มีสต็อคเลยค่ะ (นิสัยเสียเนอะ)
+ เข้ามาถามไถ่ ถามหากันได้ทั้งในนี้และที่เฟสบุคนะคะ แต่ได้โปรดอย่าเร่งเลยนะคะ เพราะเร่งไปเมอร์ซี่ก็มาลงได้ต่อเมื่อมันเสร็จและเวลาอำนวยอยู่ดี ไม่ได้มีเจตนาจะดองใดๆ ทั้งสิ้นเลยค่ะ
+ รอบหน้าถึงคิว แจ็คฟี่นะคะ ใครเป็นแม่ยกคู่นี้ก็อดใจรอหน่อยจ้า
+ ส่วนใครคิดถึงน้องพาย กะอิริว ก็แวะไปที่เฟสกันได้นะคะ วันดีคืนดีเมอร์ซี่ก็จะอัพบทสนทนาสั้นๆ ของไอ้เจ้าสองตัวนี้ให้อ่านกันแก้คิดถึงบ้างค่ะ... ^^
+ ฝันดีนะคะ