จริงๆ นี่มันคือตอนพิเศษที่พี่วีตั้งใจลงในเล่ม แต่เห็น fc บ่นคิดถึงพี่วีกันมากมาย
พี่เค้าเลยให้นู๋เอามาลงให้อ่านกัน เป็นของขวัญละกันค่ะ
Luk.
เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part พิเศษ 5
เลี้ยงหลาน...
.
.
.
.
ปีโป้..คือชื่อหลานชายของวี..ลูกชายพี่ก้อย เป็นลูกสาวคุณอาน้องของคุณพ่ออีกที
ปีโป้อายุสามขวบกว่า พี่ก้อยเอามาฝากให้ช่วยเลี้ยงสองวัน ซึ่งพอดีวีกับกลว่างช่วยเลี้ยงหลานให้ได้
เพราะติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์
พี่ก้อยเอาปีโป้มาส่งให้วันเสาร์ วันอาทิตย์จะมารับช่วงบ่ายเดินทางกลับเหนือเลย
พี่เค้ากับสามีพาปีโป้มากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันศุกร์แวะพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงบาลศิริราชก่อน
เพราะปีโป้ตั้งแต่เกิดเท้าข้างซ้ายเป็นพังพืดทำให้นิ้วเท้าติดกันไม่สามารถแยกจากกันได้ พี่เค้าเลยพา
มาปรึกษาหมอที่ศิริราช หมอแนะนำให้ตัดพังพืดทิ้งเพื่อแยกนิ้วเท้า..แต่ต้องรอให้หลานโตกว่านี้
อายุสักห้าขวบหมอถึงจะยอมทำการผ่าตัดให้ ตอนนี้วัยยังไม่สามารถทำให้ได้
จังหวะที่พวกเค้าต้องไปติดต่อทำธุระที่ชลบุรีต่อ ไม่สะดวกเอาหลานไปด้วย
เลยโทรมาขอร้องวีให้ช่วยเลี้ยงหลานให้หน่อย วีถามกลแล้วกลบอกไม่มีปัญหา
จริงๆก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่า..กลเป็นคนรักเด็กกับหมามาก เรื่องเด็กกลไม่คิดเรื่องลูกไปนานแล้ว
เพราะรู้ว่าวีมีให้ไม่ได้
ส่วนเรื่องหมากลเคยคิดจะเอามาเลี้ยงเหมือนกัน แต่ติดตรงที่เราทำงานกันทั้งคู่
ไม่อยากทิ้งน้องหมาไว้ตามลำพังในคอนโดฯ เลยตัดความยุ่งยากไม่เลี้ยงเลยซะดีกว่า บอกไว้รอซื้อบ้าน
ก่อนค่อยเอามาเลี้ยงทีหลัง
พอรู้ว่าจะมีเด็กเล็กๆ มาให้เลี้ยง กลสิทธิ์กระดี๊กระด๊าดีใจใหญ่ สิบโมงกว่า
พี่ก้อยกับพี่หนุ่มพาปีโป้มาส่ง กลสิทธิ์กุลีกุจอเข้าไปอุ้มเอาเจ้าหนูทันที ปีโป้ก็ไม่ยักแปลกหน้าอากลสักนิด
ยอมให้อุ้มซะดิบดี ไม่มีร้องตามพ่อแม่สักแอ๊ะ ปีโป้พูดได้แล้วแต่ไม่ค่อยชัด เพราะอายุเพิ่งได้
สามขวบกว่าเอง จะเหยี่ยวจะอึบอกให้รู้ก่อนทุกครั้ง ไม่มีเรี่ยราดค่อยยังชั่วหน่อยเรื่องนี้
แต่ยังดื่มนมผงชงอยู่ทุกวันสามเวลา
ซึ่งพี่ก้อยเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อมแล้ว อธิบายวิธีทำให้ฟังคร่าวๆ เป็นอัน
เข้าใจกัน เรื่องการล้างขวดนมในน้ำร้อน ชงนม แช่น้ำเย็นให้อุ่นก่อนจะให้ปีโป้ดื่ม
ส่วนข้าวปีโป้ทานเองได้ไม่ต้องคอยป้อน เพียงแต่คอยระวังเรื่องอาจเลอะเทอะหกเปื้อนเท่านั้น
วันนี้ทั้งวันกลสิทธิ์คลุกอยู่กับปีโป้ตลอด วีแทบไม่ได้แตะหลานเลยด้วยซ้ำ
กลเล่นกับหลานสองคนหัวเราะกันคลิกคลักเป็นที่สนุกสนาน วีเพียงแค่คอยชงนมให้เมื่อถึงเวลากินนม
เตรียมกับข้าวให้ตอนกินข้าวแค่นั้น อาบน้ำกลสิทธิ์ก็พาหลานไปอาบเองกับมือ..แถมทาแป้งสวมเสื้อผ้า
ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วพากันไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หน้าทีวีซึ่งปูพรมหนานุ่มเอาไว้อยู่แล้ว
หันไปดูอีกทีทั้งอาทั้งหลานหลับไปแล้วทั้วคู่
เป็นภาพที่น่ารักมากสำหรับวี ลึกๆ กลคงอยากมีลูกแต่เค้าพยายามไม่พูดถึง
คงไม่ต้องการให้วีคิดมาก จึงไม่เคยเอ่ยปากเรื่องลูกกับวีเลย ทั้งสองคนหลับไปแล้ว วีจัดการทำ
ความสะอาดเก็บกวาดบ้าน เอาผ้าใส่เครื่องปั่นทิ้งไว้ บ่ายสามโมงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้นมา
“
กริ๊งงงง!!!....กริ๊งงงง!!!..” ต้องรีบวิ่งไปรับ กลัวเสียงโทรศัพท์
จะไปรบกวน ทำให้ทั้งสองคนอาหลานตกใจตื่นขึ้นมา
“สวัสดีค่ะ...วีกำลังพูดค่ะ”
“วีหรือลูก...นี่แม่เองนะ” แม่ของกลโทรมา
“ค่ะแม่....มีอะไรหรือเปล่าค่ะ?”
“แล้วกลไปไหนหละลูก อยู่ด้วยหรือเปล่า?”
“อยู่ค่ะแม่...กลหลับอยู่..แม่มีธุระกับกลหรือเปล่า? วีไปปลุกให้เอาไหมค่ะ?”
“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ...ปล่อยให้เค้าหลับไปเถอะ..คุยกับวีก็เหมือนกันแหละลูก
คืองี้เพื่อนแม่ที่สุพรรณเค้าเพิ่งเสีย แม่กับอาลพต้องไปงานศพเย็นนี้ กะอยู่จนเผาพรุ่งนี้
เลยจำเป็นต้องค้างคืนหนึ่ง ปัญหามันอยู่ที่น้องหนูนะลูก แม่เอาไปด้วยไม่ได้ไม่สะดวกจริงๆ
น้องยังเด็กอีกอย่างมันไม่ใช่งานมงคล แม่ไม่อยากเอาน้องไป กุ้งกุลาเค้าไปเข้าค่ายกับเพื่อน
ที่ต่างจังหวัด บ้านไม่มีใครอยู่เลย รบกวนวีดูแลน้องให้แม่หน่อยได้ไหมลูก? พรุ่งนี้เย็นแม่กับอาลพ
จะแวะเข้าไปรับกลับเอง” น้องหนูคือชื่อเล่น ชื่อจริงคือกุ้งแม่น้ำเป็นลูกสาวของกุ้งนางที่ท้อง
ไม่มีพ่อนั่นแหละ แม่กับอาลพรับเอาไว้เป็นลูกซะเอง กุ้งนางตอนนี้ไปอยู่กับแฟนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ
ที่ต่างประเทศ
“ได้ค่ะแม่...แม่พาน้องมาได้เลย แม่จะมาถึงกี่โมงค่ะ?”
“แม่ว่าจะออกไปกันเดี๋ยวนี้เลย น่าจะไม่เกินสี่โมงครึ่งคงถึงคอนโดฯวี
แล้วไงเดี๋ยวค่อยเจอกันนะลูก”
“ค่ะแม่?” พูดจบแกก็วางหู เอ่อเหะ!...ตกลงวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นหนอ
ทำไมมีแต่คนเอาเด็กมาฝากเลี้ยง น้องหนูอายุห้าขวบครึ่ง กำลังช่างพูดน่ารักน่าชังอ้วนจ่ำหม่ำ
แก้มยุ้ยหน้าหยิก เหมือนใครไม่รู้ หน้าตาไม่ได้แม่มาสักนิด ได้แต่ผิวที่ขาวละมั้ง แต่รูปหน้า
โครงหน้าไม่เหมือนกุ้งนางเลย วียังเคยแอบสำรวจด้วยนะ ว่าน้องหนูหน้าคล้ายกลสิทธิ์หรือเปล่า?
แหะ...แหะ...แหะ...อย่าไปพูดให้เค้าฟังกันหละ นิดหนึ่ง...เพื่อให้หายสงสัย สรุปไม่มีส่วนใด
คล้ายยอดชายเค้าเลย ถึงได้โล่งอก..อย่างน้อยพิสูจน์แล้วว่ากลสิทธิ์ไม่ได้ไข่ทิ้งไว้เรี่ยราดจริงๆ
น้องหนูติดพี่กลมาก เห็นหน้านี่แทบจะพุ่งเข้าหาเลยทันที เพราะพี่กลแกชอบเอาใจ
น้องหนูถามอะไรพี่เค้าก็ตอบให้ไม่เคยเบื่อ กับเด็กนี่ยอมรับเลยว่า..กลสิทธิ์ใจเย็นและนุ่มนวลมาก
ใช่ว่าวีจะไม่รักเด็กนะวีก็รักเหมือนกัน และก็ดูแลเอาใจใส่ได้ไม่ต่างกับกลสิทธิ์หรอก ไม่งั้นแม่คงไม่
ไว้ใจเอามาฝากวีให้ช่วยเลี้ยง หรือพี่ก้อยก็คงไม่เอาปีโป้มาฝากให้ดูแลหรอกค่ะ
เพียงแต่กลสิทธิ์รักเด็กเว่อร์นะ ขานั้นเค้าทั้งรักทั้งหลง เห็นเด็กไม่ได้เจอที่ไหน
จะมองตลอด แต่พอถามอยากมีบ้างไหม กลับตอบว่าไม่เอาหรอก มีความสุขที่ได้อุ้มได้เล่นชื่นใจ
เป็นครั้งคราวก็พอแล้ว ถ้าต้องมีแล้วเลี้ยงตลอดเวลาไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวไม่มีเวลาอ้อนเมีย....ฟังเค้าพูดดิ..
วีควรดีใจใช่ไหม?
ขณะกำลังเอาผ้าที่ปั่นทิ้งไว้ออกตาก คิดไรไปด้วยเพลินๆ ยอดชายเค้าก็ย่องเข้า
มารวบกอดเอวด้านหลัง แถมซุกหน้าหอมซอกคอไปด้วย
“
อืม..หอมจัง..เมียใครหว่า?..ทั้งสวยทั้งหอม” นั่นหละ..ลูกอ้อนเค้าประจำ
“ตื่นแล้วหรือค่ะ..กาแฟสักแก้วไหม?...กลไปล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนป่ะ...
เดี๋ยววีไปชงให้” พูดจบหันหลังเตรียมกลับเข้าไปชงกาแฟพร้อมกับเตรียมของว่างให้ยอดชายเค้าหน่อย
บ่ายๆ เค้าชอบดื่มประจำ วันหนึ่งเค้าจะทานกาแฟสองแก้ว คือเช้าก่อนไปทำงาน และก็บ่าย
อีกแก้วที่ทำงาน พอหยุดอยู่บ้านวีต้องคอยจัดการให้เค้าหน่อย
“ขอบคุณครับ มาให้หอมทีก่อนอย่าเพิ่งไป” ไม่พูดเปล่า..รวบกอดดึงเข้าไปหอมทันที
“พอแล้วกล..เดี๋ยวหลานตื่นมาเห็นเข้ามันไม่ดี”เอามือยันหน้าอกให้หยุด
“นั่นสิ..กลลืมไปเลยว่าคืนนี้หลานต้องค้างกะเรานี่หว่า?...เวรแล้วไง..อดเลยคืนนี้
กะว่าจะจู๋จี๋กะเมียซะหน่อยหมดกัน” อาการหื่นลอยมาเชี่ยว
“ไม่ต้องคิดเลย...เดี๋ยวแม่จะพาน้องหนูมาให้ช่วยเลี้ยงอีกคน วันนี้กลต้องทำหน้าที่
ทั้งพี่ทั้งอาเลี้ยงหลานไปเลย พรุ่งนี้เย็นแม่กับอาลพถึงจะแวะมารับกลับ” วีรีบบอกไปทันที
ยอดชายทำหน้านิ่งคิด คงงงอยู่ว่าเกิดไรขึ้น..ทำไมแม่ถึงเอากุ้งแม่น้ำมาให้เลี้ยงละมั้ง
“
เอ้!..ทำไมแม่เอาน้องหนูมาให้เลี้ยงหละวี...แล้วแม่บอกกับวีตอนไหน?”
นั่นว่าแล้วต้องสงสัย
“แม่โทรมาตอนกลหลับ ท่านจะไปงานศพเพื่อนที่สุพรรณ เห็นว่าจะค้างคืนหนึ่ง
อยู่รอจนเผาเลยไปกับอาลพ พรุ่งนี้เย็นค่อยแวะเข้ามารับน้องหนูกลับ” ต้องรีบแจงรายละเอียดให้ฟังก่อน
“แล้วกุ้งกุลาหละ..ไปด้วยกันหรือไง..ทำไมไม่เลี้ยงน้อง?”
“กุ้งกุลาไปเข้าค่ายกับเพื่อนที่ต่างจังหวัด..ที่บ้านไม่มีใครอยู่...ทำไม?..กลไม่อยาก
เลี้ยงน้องเหรอถามเยอะจัง” แกล้งหยอกไปแหละ พอรู้อยู่หรอก..ขานี่รักน้องหนูจะตาย
ยิ่งกุ้งแม่น้ำขี้อ้อนฉอเลาะปานนั้น เดี๋ยวคอยดูสิ...ลองมาถึงไม่มีทางจะห่างพี่กลเค้าหรอก
“เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...กลเห็นว่าปีโป้ก็ค้างกะเราคนหนึ่งแล้ว..กว่าจะกลับ
ก็บ่ายพรุ่งนี้ แล้วยังมีน้องหนูมาอีกคน กลกลัววีจะเหนื่อยนะสิ” อูยยยยๆๆๆ.....ได้ยินแล้วอดยิ้ม
แก้มปริไม่ได้ ยอดชายห่วงเมียหรอกเหรอ ฟังแล้วชื่นใจชะมัด อดใจไม่ไหวยื่นปากไป
จุ๊บแก้มสากทีหนึ่ง
“
จุ๊บ!..ขอบคุณค่ะ..วีไม่เหนื่อยหรอกค่ะ” เล่นเอากลสิทธิ์ยิ้มไม่หุบไปเหมือนกัน
แม่เคยสอนไว้บางครั้งวีต้องเป็นน้ำตาล เพื่อเติมความหวานให้กับชีวิตรัก นี่แหละน้ำตาลที่วีเป็น
“ง่า...ขอจุ๊บปากแทนได้ไหม?” นั่น!..ว่าแล้วต้องมาอิหรอบนี้ ได้คืบเอาศอกประจำ..
“พอแล้ว..จะกินไหมกาแฟ..รีบไปล้างหน้าเร็วเข้า..มัวโอ้เอ้เดี๋ยวปีโป้ตื่น น้องหนูมา
อีกคน ที่นี้ไม่มีเวลากินไม่รู้ด้วยน๊า” รีบเตือนก่อน ยอดชายทำเป็นตาโต ก่อนจะรีบผลุบ
หายเข้าห้องน้ำไปทันที
วีจัดกาแฟกับบราว์นี่เป็นของว่างช่วงบ่ายให้กับกลเค้า ส่วนของวีแค่ชาอุ่น
กินเสร็จปุ๊ป..ปีโป้ตื่นพอดี ลุกนั่งได้เหลียววอกเหลียวแวกมองหากลสิทธิ์ใหญ่ อากลก็แกล้งหลาน
มุดหัวหลบหลังโซฟาซะนี่ วีลองแกล้งอยู่เฉยๆ รอดูว่าปีโป้จะทำยังไง เริ่มแบะปากแล้ว
อ้าวๆ..อย่าบอกว่าจะร้องนะนั่น เลยกระแอมเสียงแล้วมองแกนิ่งๆ พอแกหันมาเจอวี..คงนึกขึ้นได้ว่า
ยังมีวีอยู่อีกคน หุบปากฉับ ก่อนจะพูดตะกุกตะกักตามสำเนียงไม่ชัดของแกนั่นแหละ...ขึ้นมาว่า
“อาวี..อาวี...อาโกนป่ายหน่ายคับ..” เห็นไหม..ว่าแล้วต้องถาม ก็อย่างที่พูดไว้
แล้วว่า..กลเค้ามีบางอย่างที่เด็กๆติดกันแจทุกราย
“อือ...อาวีไม่รู้เหมือนกันครับ...เอางี้ดีไหม..ปีโป้ลุกไปฉี่ล้างหน้าให้เรียบร้อยก่อน
แล้วเราค่อยตามหาอากลกัน..เอาไหม?” วีลองหลอกล่อแกดู ว่าจะยอมทำหรือเปล่า ยอดชายยังมุดหัว
แอบมองหลานอยู่ที่เดิม หน้านี่อมยิ้มแก้มตุ๋ยไปแล้ว สนุกจริงแกล้งหลานเนี่ยะ
“ม่ายอ้าว...ปีโป้งจาหาอาโกน...ให้อาโกนพาปีโป้งป่ายสี่..ล้างหน้าให้โด้ย”
นั่นแหละ...เสน่ห์ของยอดชายเค้าหละ บอกแล้วไม่รู้เป็นไงรายไหนรายนั่น ติดกลสิทธิ์หมด
“อาวีก็พาปีโป้ไปฉี่ได้ เดี๋ยวอาวีทำให้ก็ได้นี่ครับ ตกลงไหม?” วียังต่อรองกับแกอยู่
พูดจบ...อ้าว!...แบะปากร้องซะงั้น เอาแล้วไงหละที่นี้
“ฮึ..ฮึ...ฮือออๆๆ...ม่ายอ้าว...ปีโป้ง..จาอาวอาโกน..ฮือออๆๆ..อาโกนป่ายหน่าย...
ปีโป้งจาหาอาโกน..อือ..อือ..ฮือออๆๆๆ” ดับอนาถ หยอกไปหยอกมา หลานร้องซะงั้น
ยอดชายตาลีตาเหลือก รีบโผล่ออกมาทันทีให้ไวตั้งแต่ได้ยินเสียงหลานร้องแล้ว
แหมต้องรอให้ร้องก่อนนะ..ถึงค่อยยอมโผล่หัวออกมา..นึกแล้วมันน่าหมั่นไส้นัก
“โอ๊ะโอ๋...ปีโป้คนเก่งของอากล..อากลอยู่นี่แล้วครับ...ไม่ไปไหนน้า..อย่าร้องนะครับ
คนเก่ง..มามะอาพาไปฉี่ดีกว่าเนอะ...ไม่เอาไม่ร้องนะครับ..คนเก่งต้องไม่ร้องรู้ไหม?” อุ้มหลานแนบอก
กระเตงกันเข้าห้องน้ำไปแล้ว ปลอบไปด้วย ไอ้หลานสุดโปรดก็นะ พออากลอุ้มสะอื้นฮักๆ
กอดคอกลมป๊อก...เงียบเสียงซะงั้น ดูเอาเถอะค่ะ..นี่แหละเสน่ห์กลสิทธิ์ที่มีต่อเด็กๆ นึกภาพผู้ชาย
ตัวใหญ่ล้ำ ผิวเข้มอุ้มเด็กตัวขาวเล็กๆ แนบอก มือลูบหัวลูบหลังพูดปลอบไปด้วย มันเป็นภาพที่
หาดูได้ยากนะสำหรับวี กลสิทธิ์มุมนี้เค้าดูอบอุ่นและอ่อนโยนยิ่งนัก นี่คือส่วนหนึ่งที่เด็กๆเค้าสัมผัสได้เอง
ตามธรรมชาติ ทุกรายหลงกลสิทธิ์ติดกันแจ
สองอาหลานดูแลกันเองในห้องน้ำ วีเลยถือโอกาสเก็บถ้วยกาแฟจานขนมไปล้างให้
เรียบร้อย ไม่ลืมเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดโต๊ะอีกด้วย กันไม่ให้มดขึ้น เสร็จแล้วจึงเดินออกมา..
จังหวะอ๊อดก็ดังขึ้นพอดี แม่กับอาลพคงพาน้องหนูมาส่งแล้ว
“
อ๊อดดดๆๆๆ!!!...” รีบเดินไปเปิดก่อน กลัวท่านรอนาน
“แอ็ด!....สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะอาลพ..ว่าไงค่ะคนสวย” เปิดประตูปุ๊ปรีบยกมือไหว้แม่
กับอาลพทันที อาลพหิ้วตะกร้าเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนให้น้องหนู วีไม่ลืมก้มไปทักทายน้องหนูตัวอ้วน
ที่ยืนจับมือแม่กลอยู่ข้างๆกัน
“ซาหวัดดีค๊าอาวี....” พูดจบปล่อยมือแม่ปั๊ป โผลเข้าหาวีทันที ต้องรีบอ้าแขนก้มลง
อุ้มหนูน้อยที่ตัวไม่น้อยเลยขึ้นมาไว้ก่อน กระปุกลุกจ่ำหม่ำไปทั้งตัวหนักใช่เล่น แต่ก็ต้องตามใจ
น้องหนูเค้าหละ เพราะกุ้งแม่น้ำมักชอบให้อุ้มเสมอเวลาเจอกันทีไร อดไม่ได้ต้องกดจมูกหอมแก้มนุ่ม
ทั้งสองข้างทันที กลิ่นแป้งเด็กทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก กลิ่นไร้เดียงสาบวกกับแก้มยุ้ยนุ่มนิ่ม
พาลรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากกัดสักทีพิลึก
“แม่กับอาลพเข้ามาข้างในก่อนไหมค่ะ?..” พูดจบเปิดทางให้แม่กับอาลพเดินเข้ามา
ในห้องด้วย อาลพรีบเอาตระกร้าผ้าไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว เดินมานั่งโซฟาตัวยาวข้างๆแม่
วีปิดประตูเสร็จก็ตามมานั่งตรงข้ามท่าน จังหวะกลกับปีโป้กระเตงกันออกจากห้องน้ำมาด้วยเช่นกัน
“อ้าว!..หวัดดีครับแม่ หวัดดีครับอา” เอ่ยแต่ปาก ไม่ได้ยกมือไหว้เพราะอุ้มหลาน
ชายตัวแสบอยู่
“แล้วนั่น..อุ้มลูกใครอีกละนี่?”แม่ถามขึ้นทันที เมื่อเห็นกลอุ้มปีโป้ออกมา
“ลูกพี่ก้อยนะค่ะแม่ ลูกพี่ลูกน้องของวีเอง แม่กับอาลพน่าจะพอจำได้ตอนไปงานแต่ง
วีกับกลไงค่ะ พี่ก้อยที่คอยดูแลข้าวปลาอาหารบริการครอบครัวแม่นั่นแหละค่ะ”
“อ้อ..หนูก้อยเองนะเหรอ...แม่จำได้สิทำไมจะจำไม่ได้...แล้วนี่ไปมีลูกตั้งกะเมื่อไหร่เล่านี่
ตาหนูนี่อายุกี่ขวบแล้วหละ?” แกถามทันที
“สามขวบกว่าค่ะ...พี่ก้อยเค้ามีปีโป้ได้ขวบกว่าๆแล้วตอนงานแต่งวี พอดีแกพาปีโป้มา
ตรวจเท้า..นิ้วเท้าซ้ายติดกันหมด ตรวจที่ศิริราชหมอเค้านัดผ่าแต่ต้องรอปีโป้อายุครบห้าขวบก่อน
วันนี้พี่ก้อยกับพี่หนุ่มแฟนแกไปทำธุระต่อ ไม่สะดวกเอาปีโป้ไปด้วยเลยฝากวีกับกลไว้ค่ะ” เล่าให้แก
ฟังซะยาวจะได้เข้าใจ
“จริงเหรอ...ไหนเอาตาหนูมาให้แม่ดูหน่อยสิกล เท้าเป็นยังไงกันหละลูก...แล้วนี่เรา
สองคนจะไหวเหรอมีเด็กมาให้ดูแลถึงสองคน ยุ่งยากกันหรือเปล่า?” กลสิทธิ์รีบอุ้มปีโป้เข้าไปให้แม่ดู
ตาหนูไม่ยอมผละจากอ้อมกอดของกลเลย กลับกอดเอาไว้แน่น แถมตากลมยังจ้องหน้าน้องหนูอีกตะหาก
“ดูสิไม่ยอมออกห่างอาเลยทีนี่ อืม..เป็นพังพืดจริงๆด้วย นิ้วไม่ยอมแยกออกจากกัน
ผ่าแล้วคงหาย นิ้วก็มีครบนี่คงแค่ตัดพังพืดแยกนิ้วออกจากกันแค่นั่น จริงไหมคุณ?” แม่หันไปถาม
ความเห็นจากอาลพ ที่นั่งเงียบฟังพวกเราคุยกันมาตลอด
ต่อด้านล่างค่ะ