@@ - 2 - @@
อาลพเป็นคนจัดการนัดอาจารย์หมอ ซึ่งท่านมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ประจำโรงพยาบาลดังแห่งหนึ่ง..ท่านทำการแปลงเพศให้กับสาวประเภทสองมามากมายหลายคน..ล้วนแล้วแต่คนมีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จักในวงการ และผลงานท่านก็การันตรีฝีมือและคุณภาพได้เป็นอย่างดี
ช่วงนี้พวกผมยังรอเริ่มงานกันอยู่ นัดสัมภาษณ์ไว้แล้ว ระหว่างที่รองาน
ผมกับกลจึงมีเวลาไปพบอาจารย์หมอตลอด ครั้งแรกอาลพพ่อแม่กลและแม่กับพี่สาวผมไปด้วย เพื่อไปฟังวิธีการ
ขั้นตอนจากอาจารย์หมอ โดยท่านทำการตรวจร่างกายผมอย่างละเอียด ขอบอกว่าตรวจละเอียดจริงๆ
คือผมต้องเปลือยถอดหมดไม่สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น เพื่อให้ท่านตรวจผิวพรรณ โครงสร้างของร่างกายทุกอย่าง
เพื่อจะได้วางแผนสั่งยาปรับฮอร์โมนเพศได้ถูกต้อง
นอกจากนี้ผมยังต้องพบจิตแพทย์ เพื่อตอบคำถาม หากไม่ผ่านเกณฑ์ อาจต้องพิจารณากันอีกที
ว่าผมมีสิทธิ์ผ่าตัดหรือไม่ คำถามประมาณนี้
“
คุณคิดว่าตัวคุณเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า?” จิตแพทย์ถามผม
“ผมใช้ชีวิตอยู่กินกับผู้ชายด้วยกัน..เค้าคือคนรักของผมมาสี่ปีกว่า ทำหน้าที่ภรรยามาโดยตลอด
ไม่รู้สึกว่าถูกกดดันหรือโดนเอาเปรียบแต่อย่างใด มีความสุขและเต็มใจที่ได้ทำหน้าที่นี้ ถือว่าผมเบี่ยงเบนหรือไม่..
ขึ้นอยู่กับดุลพินิจคุณหมอแล้วครับ”
“คุณใช้ชีวิตอยู่กินกับแฟนที่เป็นผู้ชายยาวนานถึงสี่ปีกว่า ถือว่าคุณมีรสนิยมทางเพศ
ที่เบี่ยงเบนแน่นอนแล้วครับ แต่หมอยังอยากรู้ว่าก่อนหรือหลัง..ที่คุณจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนคุณ
เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงมาก่อนหรือไม่?”
“ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ทั้งก่อนและหลังจากที่ผมอยู่กับแฟนแล้วก็ตาม
ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครมาก่อนเลยครับ แฟนผมคือคนแรกและคนเดียวที่ผมหลับนอนด้วย” ผมตอบหมอไปตามจริง
“คุณมีความรู้สึก หรือเกิดปฏิกิริยาตื่นตัวเมื่อเห็นผู้หญิงสวยๆ หรือไม่ หรือมีความต้องการ
เพศตรงข้ามหรือเปล่า?” หมอถามคำถามที่ลึกมาก
“ผมเคยมีความรู้สึกนี้นานมาแล้ว ก่อนผมยังไม่รู้จักกับแฟน เพียงแต่ชอบมองและรู้สึกดีที่เห็นผู้หญิงสวย
ไม่ถึงขั้นเกิดการตื่นตัวหรือต้องการมีเพศสัมพันธ์ เพราะช่วงนั้นผมไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่การตื่นตัวตามธรรมชาติตอนเช้าๆ
หรือขณะที่ผมร่วมรักกับแฟนตอนเรามีเพศสัมพันธ์กันนั้น ปกติครับ”
“คุณมีความสุขทุกครั้งที่ร่วมรักกับแฟนใช่หรือไม่”
“ใช่ครับ”
“คุณเคยเป็นฝ่ายกระทำหรือเปล่า หรือเป็นฝ่ายรับแต่ผู้เดียว”
“รับครับ”
สรุปผมคือกลุ่มเบี่ยงเบนที่พิจารณาอนุญาติให้ผ่าตัดแปลงเพศได้ แต่ระหว่างนี้ต้องใช้ชีวิตในสังคม
เพื่อปรับเปลี่ยนร่างกายและดำเนินตามขั้นตอน คือปรับฮอร์โมน ทำหน้าอกในอีก 15 เดือนข้างหน้า
และหลังจากนั้นอีก 8 เดือนค่อยผ่าตัดแปลงเพศ ระหว่างที่เตรียมตัวสองปีนี้ หากเกิดเปลี่ยนใจก็สามารถทำได้
จากนั้นผมก็ได้รับการสั่งยาปรับสภาพฮอร์โมน ยามีผลทำให้ผิวพรรณหน้าตาเนียนละเอียด
ซึ่งพื้นฐานผมได้ผิวแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กอปรกับรูปร่างหน้าตาก็ได้จากแม่มาทั้งหมด อาจารย์หมอบอกว่า
ผมสามารถเปลี่ยนสภาพโดยอาศัยคุณสมบัติเดิมที่ติดตัวมา กลายเป็นหญิงสาวสวยและเนียนจนแยกเพศไม่ออกกันเลยด้วยซ้ำ
ตั้งแต่นั้นผมก็ต้องไปพบอาจารย์หมอเป็นระยะ ช่วงแรกเดือนละครั้ง พ้นสามเดือนแรก
ลดเหลือเป็นสามเดือนไปครั้ง รับยาแล้วก็สอบประวัติการแพ้ยาตรวจร่างกายต่างๆ กระทั่งผ่านไปหกเดือน
หน้าอกผมขึ้นเป็นลูกตั้งเต้าขนาดเท่ากำปั้น หัวนมขยายเป็นไตใหญ่กว่าปกติ
ช่วงแรกจะแข็งไม่นิ่ม แต่เพราะโดนกลสิทธิ์นวดเคล้นขยำบ่อยๆเข้ามันค่อยนิ่มเหมือนนมสาว
เป็นอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับกลสิทธิ์เค้ามาก ชอบเล่นหน้าอกผมจนเคยตัว พอว่างนั่งใกล้ไม่ได้
พี่แกต้องเอามือมาขย้ำบีบเล่นเป็นประจำ หมั่นไส้มากก็ลากผมนั่งซ้อนด้านหน้าส่วนเค้ากางขาซ้อนหลัง
อ้อมมือขยำบีบทั้งสองข้าง ใหม่ๆ ผมมีหงุดหงิดรำคาญบ้าง แต่หลังๆชักชิน หากวันไหนไม่โดนมือกลสิทธิ์บีบหน้าอก
เหมือนขาดอะไรไปอย่าง พาลจะกินข้าวไม่ลงดื้อๆ ซะงั้น ไม่รู้กลสิทธิ์หื่น หรือผมเสี้ยนกันแน่ที่นี้
หรือว่าพอกันทั้งคู่..ฮ่าๆๆๆๆ...กร๊ากกกๆๆๆ!!
ผิวพรรณผมเนียนใสขาวละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม จากเดิมผมผิวละเอียดเป็นทุนอยู่แล้ว
ทรงผมปล่อยยาวประบ่าทำให้โครงหน้าเดิมที่ใครต่างว่าหล่อ กลายเป็นสวยหวานจนคนสะดุดเหลียวหลังมองเป็นประจำ
ที่สำคัญพักนี้ไปไหนคนมักเข้าใจว่าผมเป็นหญิงมากกว่าชาย
ผมกับกลได้งานทำคนละบริษัทฯ มั่นคงทั้งคู่...บริษัทฯเข้าใจผมดี แถมรู้ด้วยว่าอีกไม่กี่เดือน
ผมต้องผ่าตัดหน้าอก เพราะก่อนผู้จัดการฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์รับผมเข้าทำงานในตอนแรกนั้น ทราบความต้องการผมก่อนแล้ว
พี่เค้ารับผมประจำฝ่ายอบรมเทรนนิ่ง นอกจากจะอบรมพนักงานที่เข้าใหม่ ชี้แจงกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงาน
ยังต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้พนักงานแต่ละแผนกได้ละลายพฤติกรรม เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
รักใคร่สามัคคีเป็นต้น คือกิจกรรมทุกอย่างแผนกผมรับหน้าที่โดยตรง ผมรู้สึกสนุกดีมีความสุขในการทำงานด้วย
สุดท้ายยูนิฟอร์มที่ผมใส่..ก็ต้องเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มพนักงานหญิงก่อนเริ่มผ่าตัดหน้าอกเพียงสี่เดือน
เพราะผมต้องฝึกใส่บราเซียร์แล้ว โชคดีหน่อยยังเป็นกางเกงขายาว ต่างกันก็ตรงทรงของหญิงชายแตกต่าง
ดีไม่เป็นกระโปรง ยอมรับยังไม่คุ้นและยังไม่กล้าใส่
ผมเข้ารับการผ่าตัดเสริมเต้านม โดยงดอาหารตั้งแต่มื้อเย็นก่อนวันผ่าหนึ่งวัน งดน้ำ
งดการกินการดื่มทุกชนิด เข้าแอดมิดที่โรงบาลตอนเก้าโมงเช้า กลสิทธิ์ใช้พักร้อนลามาสี่วันเพื่ออยู่ดูแลผม
แม่ผมก็มาด้วย พ่อกลแม่กล ต่างมาเป็นกำลังใจให้ผมกันทุกคน
หลังเจาะเลือด วัดความดัน วัดไข้ ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว
ผมก็ต้องเจาะสายน้ำเกลือ เพราะระหว่างนี้ไม่สามารถทานไรได้ ต้องข้ามไปอีกวันหลังผ่าตัดถึงจะดื่มน้ำ
และทานอาหารอ่อนๆของโรงบาลได้
เข้าห้องผ่าตัดตอนบ่ายสองโมง รมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ฉีดผ่านสายน้ำเกลือ
ต่อจากนั้นก็ไม่สามารถรับรู้ไรได้อีกเลย
เริ่มรู้สึกตัวประมาณสี่ทุ่ม เพ้อมากกว่า..จะรู้สึกตัวจริงๆ จนกว่าจะมองเห็นหน้ากลสิทธิ์ชัด
และจำทุกคนได้ก็ราวๆ เที่ยงคืน เอาหละ...ขอเล่าวิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกเลยนะครับว่าเป็นแบบไหน
ผมใช้วิธีผ่าใต้จักแร้สองข้าง สอดซิลิโคนเข้าไปเสริมดันใต้กล้ามเนื้อที่เป็นเต้านมจริงของผมอีกที
ไม่ใช่เสริมแบบไว้ใต้ผิวหนัง คือเราสามารถเสริมได้สองแบบแต่มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เสริมด้วย
มีให้เลือกหลายชนิด ทั้งเป็นแบบถุงน้ำเกลือ ซิลิโคน เจล ฯลฯ ของผมอาจารย์หมอแนะนำให้ใช้ซิลิโคน
แบบเจลถุงทรายจากสหรัฐ เพราะของดีมีคุณภาพและมาตรฐาน ทั้งมีความยืดหยุ่นคล้ายธรรมชาติมากที่สุด
กอปรกับลดการเกาะตัวของพังพืด เมื่อของดีมีคุณภาพราคาก็ตามนั้น อย่าให้ต้องบรรยาย เอาเป็นว่ามีขั้นตอนให้เลือกดังนี้
หากเสริมใต้ผิวหนัง สามารถเจาะช่องใต้ราวนมทั้งสองข้าง ผลที่ออกมาคือไม่เจ็บปวดทรมานมาก
เพราะมันดันเพียงส่วนผิวหนังชั้นบนทับหน้าอกเราอีกที วิธีนี้ง่ายและทรมานน้อยกว่าวิธีที่สอง แต่จะเห็นรอยซิลิโคน
เหมือนขอบถ้วยกลมๆ ชัดเจนถ้าสังเกตุก็จะดูรู้ เมื่อสัมผัสจะแตกต่างเพราะใต้ผิวหนังคือซิลิโคน
ความรู้สึกจะไม่เหมือนสัมผัสเนื้อหรือไขมัน
เสริมใต้กล้ามเนื้อ ผมเลือกวิธีนี้ คือหมอจะเลาะกล้ามเนื้อเต้านมของผมที่มีอยู่แล้วเป็นลูกเปิดออก
นำก้อนซิลิโคนซ้อนเข้าไปฝังไว้ข้างใน แล้วทับด้วยกล้ามเนื้อไขมันที่เป็นเต้านมจริงของผมอีกที วีธีนี้ใช้เจาะใต้จักกะแร้
ทำให้เต้านมไม่มีรอยแผลเป็น สวยงามเหมือนธรรมชาติมาก ไม่เห็นรอยขอบซิลิโคน สัมผัสเหมือนหน้าอกผู้หญิงจริงๆ
ให้ความรู้สึกเหมือนธรรมชาติเลยทีเดียว หรืออาจดีกว่าด้วยซ้ำเพราะไม่หย่อนยาน
แต่ทรมานและเจ็บปวดมาก เหมือนโดนสิบล้อทับ จุกแน่นหน้าอกหายใจลำบาก
หลังฟื้นมาใหม่ๆ ต้องอาศัยอ๊อกซิเจนช่วยหายใจ เพราะมันกำลังบวม อีกอย่างร่างกายยังไม่คุ้น ทรมานสุดๆ
ผมต้องนอนกัดฟันกรอดดดๆๆ น้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียว ต้องขอหมดฉีดมอร์ฟีนแก้ปวดตลอดทุกสี่ชั่วโมง
สองวันกว่าจะค่อยยังชั่วขึ้น
ลุกเดินแต่ละทีหน้าจะทิ่มพื้นเอาให้...เพราะสมดุลร่างกายมันเปลี่ยนไป หนักถ่วงไปข้างหน้า
กลสิทธิ์พลอยอดหลับอดนอนลูบหัวกอดปลอบผมตลอด ผมนอนไม่ได้ ครั้นหมอจะให้ยานอนหลับก็ไม่ได้อีก
มันอันตราย เพราะผมยังแน่นหน้าอกอยู่ ต้องให้รู้สึกง่วงหรือเพลียจนหลับเองนั่นแหละ แต่ประทานโทษ..
ทรมานขนาดนั้นคงหลับได้ลงหรอกนะครับ ผมเล่นอ้อนกลสิทธิ์หน้าซุกอกน้ำตาไหลให้ยอดชายคอยลูบหัวปลอบทั้งคืน
รู้ว่าพาลทรมานยอดชายเค้าด้วยเหมือนกัน ตาเป็นหมีแพนด้าเลยเพราะอดนอน คอยกอดปลอบผมอยู่นั่นแหละ
พอจะผละออกผมก็งอแงเป็นเด็กไม่ยอมให้เค้าห่างเลยซะงั้น
อือ..ใครจะว่าผมอ้อนก็เถอะนะ ต่อหน้าญาติๆ ผมยังไม่สนเลยชั่วโมงนั้น ไม่อายแล้วหละ
มันเจ็บจริงๆ นี่หน่า เหงื่อกาบแตกเต็มหน้า เหมือนหายใจไม่ออกจะตายให้ได้ ต้องซุกอกกลสิทธิ์เท่านั้น
มันเหมือนปลอดภัยกำลังใจที่จะฮึดกัดฟันทนเจ็บค่อยยังสู้ไหว คนอื่นก็ไม่เอา ร้องหาแต่กลสิทธิ์เลยผม
ยอดชายเค้าก็ดีมากเลยครับ ไม่ห่างผมเลย กอดผมไว้ตลอด จนแขนชาเค้าก็ไม่บ่น น่ารักชะมัด
ชั่วโมงนั้นผมผ่านความทรมานมาได้ เพราะกลสิทธิ์เป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ หละครับ
การเสริมแบบวิธีของผมนั้น ปัจจุบันดีขึ้นกว่าเดิมมาก แม้จะรู้ว่ายังคงทรมาน
และเจ็บปวดเหมือนเดิม แต่เค้ามีระบบบล๊อคหลัง เหมือนผ่าคลอดของผู้หญิง การบล๊อคนี้ช่วยให้ลดความทรมานลงเยอะ
คงไม่เท่าผมในอดีต แต่คนส่วนใหญ่มักเสริมวิธีแรกกันเยอะ เพราะกลัวเจ็บ ปกติผ่าหน้าอกแบบวิธีแรกเค้าพักฟื้นกัน
แค่วันเดียวก็กลับบ้านได้ แต่ของผมสามวันถึงกลับบ้าน เจ็ดวันตัดไหมและหมอนัดสอนวิธีนวดหน้าอก
เพื่อให้เนื้อสมานเข้ากันกะซิลิโคน ไม่ให้พังพืดเกาะแข็งตัวทำให้เต้านมเสียรูปทรงและแข็งเป็นไตไม่นิ่มแบบธรรมชาติ
ผมให้กลสิทธิ์เข้าฟังการนวดด้วย เพราะยอมรับตรงๆ ตอนหมอสาธิตวิธีนวด
และจับหน้าอกผมนวดครั้งแรกนั้น ผมแหกปากลั่นน้ำตาเล็ด มันเจ็บมากขอบอกเจ็บสุดๆ โครตของโครตเลยหละครับ
เจ็บแทบสลบ แต่หมอดันบอกให้ทน ช่วงแรกมันเจ็บเป็นธรรมดา ผ่านไปสามสี่อาทิตย์ก็จะอยู่ตัว
ต้องนวดทุกวันเช้ากลางวันเย็นสามเวลา อย่างครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำต่อครั้ง เป็นเวลาหกเดือนแล้วหน้าอกจะอยู่ตัว
ไม่เป็นพังพืด ไม่ต้องห่วงเรื่องนวดเช้ากับเย็น เพราะกลสิทธิ์เค้าขุนอาสา ทำได้ดีมาก ผมไม่ค่อยกล้านวดเองหรอกครับ
คือเวลานวดเองช่วงกลางวันในห้องน้ำที่ทำงาน ผมมักทำได้ไม่เต็มที่ คือใจมันไม่ค่อยกล้ากลัวเจ็บ
แต่พอเป็นมือกลสิทธิ์ พี่แกทั้งนวดทั้งขยำ ทำไปทำมาเกิดอารมณ์ขึ้นมาดื้อๆเฉยเลย
ไม่ต้องบอกต่อจากนั้นพี่ท่านทั้งดูดทั้งเม้มเป็นไปเองตามธรรมชาติ ที่ผมไม่เคยห้าม เพราะหากเข้าสู่ภาวะอารมณ์นี้
มันช่วยผมให้ผ่อนคลายหายเจ็บได้เยอะ คือสมาธิเรามันไม่ต้องไปจดจ่ออยู่ตรงนั้นแล้วไง ไม่ว่ากลสิทธิ์จะออกแรง
ตามภาวะอารมณ์ที่ร้อนแรงขึ้นมากแค่ไหน ผมดันเสียวตามซะงั้น ไม่ถึงสามเดือนไปให้หมอตรวจ ผมยังอายหมอเลย
แทบอยากเอาหน้ามุดโต๊ะ เพราะโดนแซวว่า
“อือ...หมอแปลกใจมากเลย หน้าอกคุณวีนิ่มดีมาก แถมสมานเนื้อเข้ากับซิลิโคนได้ดี
กว่าเคสที่ผ่านๆมาอีก ปกติกว่าจะได้นิ่มขนาดนี้ไม่ต่ำกว่าห้าถึงหกเดือนเป็นอย่างต่ำ นี่แสดงว่าคุณวีนวดตามหมอสั่ง
และทนเจ็บได้ดีมากเลยนะครับ ถึงออกมาสวยได้รูปและนิ่มได้ถึงขนาดนี้” เป็นไงหละ...ผิดคาดไหม?
ผมคงกล้าบอกหมอหรอกนะ..ว่าลำพังผมคงไม่สามารถ ที่ได้ขนาดนี้เพราะฝีมือยอดชายกลสิทธิ์เค้าล้วนๆ
ฮ่ะ...ฮ่าๆๆๆ!!! ยี่ห้อนี้ซะอย่าง ของเค้าดีจริง...??????
คราวหน้าวีจะเล่าตอนผ่าตัดใหญ่นะค่ะ หวังว่าตอนนี้คงให้ความรู้สำหรับน้องๆ
หรือท่านที่กำลังสนใจจะทำหน้าอก..สามารถนำไปเป็นข้อมูลขอคำปรึกษาจากแพทย์ได้ ขอเตือนว่าควรทำกับแพทย์เฉพาะทางจริงๆ
อย่าติดต่อคลีนิคเถื่อนหรือผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ เพราะได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน
หลายคนที่พลาด แล้วไม่สามารถแก้ไขได้เหมือนเดิม..มีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่มากมาย
ดังนั้นข้อควรระวังก็อย่างที่วีบอก วีเองโชคดีมากที่อาลพรู้จักกับอาจารย์หมอ ทำให้วีผ่านมาได้ด้วยดีและไม่มีปัญหา
หรือผลข้างเคียงภายหลังเลย จนกระทั่งปัจจุบันกว่า 15 ปีเข้ามาแล้ว
ตอนหน้าวีจะมาเล่าให้ฟังถึงขั้นตอนผ่าตัดแปลงเพศ วีอยากบอกว่า วีเป็นสาวประเภทสอง
ที่โชคดีมากถึงมากที่สุด..เพราะ 90% ที่วีเปลี่ยนแปลงมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าคนที่ไม่รู้จักหรือสนิทคุ้นเคยกันมาก่อน
จะไม่รู้เลยว่าวีเป็นสาวประเภทสองเสียงพูด กริยา ท่าทาง หน้าตา วีสอบผ่าน ถ้าจาก 100 คะแนน วีได้ 95 ขึ้นค่ะ
วีผ่านการเทสจากสถาบันส่งเสริมบุคลิกภาพชื่อดังมาแล้ว เคยเข้าฝึกอบรมการวางตัว และฝึกอบรมการใช้เสียง
ผ่านกระบวนการเรียนรู้มาแล้วทุกอย่าง การันตรีได้ว่าคุ้มค่า ที่เข้าคอร์สเรียนเรื่องเหล่านี้ ทำให้วีเป็นตัวของตัวเอง
ออกมาในลุ๊คผู้หญิงที่ไม่ใช่กระเทย หรือผู้ชายแปลงเพศ ไม่แน่อาจมีเซอร์ไพรส์ได้ยลโฉมวี ลักษณะรูปเหมือน
ลงในหนังสือ ปรึกษาทางเล้าฯก่อนนะค่ะ คงเป็นภาพขาวดำกราฟฟิก ขอโทษด้วยนะค่ะ
ที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนให้ได้รับรู้กัน เพราะไม่อยากให้กระทบต่อชีวิตประจำวันของครอบครัวนะค่ะ
ขอบคุณทุกคำชม ขอบคุณทุกคนที่อยากเห็นหน้าตาและตัวตนของวี หากไม่หลงตัวเองจนเกินไป
วีคิดว่าตนเองก็สามารถติดอับดับต้นๆได้สบาย วัดเรทติ้งจากลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจในปัจจุบัน
ต่างขยันขายขนมจีบให้วีเป็นประจำ
เพราะเหตุนี้ละมั้งค่ะ กลถึงไม่ยอมไปไหน ถึงได้เลื่อนบวชมาตลอดสิบเจ็ดปี
มาได้ฤกษ์บวชเอาต้นปีนี้เอง เห็นรึยังว่าใช่มีแต่ยี่ห้อกลสิทธิ์นะ ที่ของเค้าดีจริง
ยี่ห้อกวี ก็ขอการันตรีคุณภาพด้วยเช่นกัน ฮ่าๆๆๆๆ!!!
ปราณวี จิรัตติกาลเป็นอันว่าพี่วีตอบข้อสงสัยให้แล้วนะค่ะ
ในฐานะที่ได้รู้จักพี่ใกล้ชิดพี่เค้าทั้งสองคน ขอบอกว่าหากมีนิ้วหัวแม่มือสองข้าง
ทุกคนสามารถยกทั้งสองนิ้วให้ทั้งพี่กลและพี่วีได้เลยค่ะ
เรื่องรูปร่างหน้าตา ไม่ต้องพูดถึง อย่าไปนึกถึงสมัยหนุ่มสาวกันเลย
เอาแค่เฉพาะปัจจุบันยังเกรด A ทั้งคู่ เหมาะกันมาก เนื้อคู่กันจริงๆ
เชื่อได้เลยว่าสวยหล่อยกนิ้วโป้งให้ได้ไม่ผิดหวังแน่นอน
ให้จิ้นกันประมาณนี้นะค่ะ ที่พอคล้ายและใกล้เคียงอะนะ นึกถึงหน้าพี่กล
นึกถึงเต๋าสมชาย เข็มกลัด แต่ผิวพี่เค้าเข้มแบบป๋อณัฐวุฒิสะกิดใจ ขนเยอะมาก
ขนแขน ขนหน้าอกยังมีแพลมให้เห็น เคราเขียวครึ้มไล่ตั้งกะจอนมาเลย ใต้คางรอบริมฝีปาก
และบริเวณแก้มกินไปครึ่งแก้ม คิ้วหนาเข้มเกือบชนกันแหละ จมูกโด่ง ตาคม แมนโครต แมนม๊ากกกกๆๆๆๆ
พูดน้อยยิ้มง่าย แต่พูดตรงมากเลยหละค่ะ
พี่วีออกแนวสาวมั่น สวยเซ็กซี่ ไม่ได้หวานอย่างที่ไครคิด นึกเอาประมาณ
น้ำผึ้งทาริกาที่เคยเล่นเป็นพี่สาวแอนทองประสม เป็นแม่เลี้ยงเคน ธีระเดช
ในละครที่เคนเล่นเป็นคาวีนะค่ะ (สวรรค์เบี่ยง) แต่พี่วีจะอวบกว่า สูงกว่าน้ำผึ้ง
ผมยาวตาสวย โดยรวมสวย สวย สวยอึ้ง โอเค จิ้นได้ประมาณนี้แหละค่ะ
Luk.