ตอนพิเศษ 3 : น้ำฝน
“เฮ่ย พวกมึง ดูผู้หญิงโต๊ะนั้นดิ มองตามไอ้ทินตาเยิ้มเลยว่ะ”
“ไหนๆ เออจริงว่ะ แม่งมองอย่างกับจะแดกไอ้ทินเข้าไปทั้งตัว”
“ไอ้ตูนไอ้เอิร์ธ พวกมึงนี่ชักจะสอดเสือกเรื่องชาวบ้านมากขึ้นทุกวันแล้วนะ เขาจะมองก็ให้มองไปสิ เสือกไรกับเขาด้วย”
“แหม เสือกไรกับเขาด้วย ถุย ไอ้ห่าทาน ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ย มึงเองก็จ้องเขาซะตาขวางขนาดนั้นแล้วยังจะมีหน้ามาพูดอีก”
“ไอ้ห่า...ก็กู...”
“ก็กูอะไร...ไอ้ทาน”
“กูจะอะไรก็เรื่องของกู ไอ้เอิร์ธ”
“อ้อเหรอ...หวงกันนักทำไมไม่ตามกันไปเข้าห้องน้ำด้วยเลยล่ะ”
“ไอ้เหี้ย ก็กูไม่ปวดจะให้กูเข้าไปยืนดูมันฉี่รึไง” ถึงจะอยากตามไปด้วยแต่กูก็ไม่ได้ด้านขนาดนั้น
“เอ้า ของมันก็เคยๆกันอยู่จะไปอายอะไร”
“ไอ้ฟาย มึงจะแดกก็รีบแดกเลยไปเลย กวนประสาทกูอยู่ได้ รู้งี้กูไม่มาด้วยก็ดีหรอก ฉลองปิดเทอมห่าอะไร กูนอนอยู่บ้านซะยังจะดีกว่า” หงุดหงิดชะมัด
“เอาน่าไอ้ทาน อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิวะ มึงน่าจะชินกับปากของไอ้เอิร์ธได้แล้วนะ”
“เออกูก็รู้...”แต่กูไม่ได้หงุดหงิดไอ้เอิร์ธมันคนเดียวนี่หว่า...
.
.
“ว่าไงคะสุดหล่อ มากับใครคะเนี่ย...” รีบดักเอาไว้หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ
“อะ...เอ่อ เพื่อนครับ ผมขอตัวนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิคะ จะรีบไปไหน ชื่อน้ำฝนนะคะแล้วคุณล่ะ” ถือวิสาสะรั้งแขนเอาไว้ เจอเหยื่อทั้งทีจะปล่อยให้หลุดไปง่ายๆได้ยังไง
“ผมว่าคุณปล่อยผมเถอะ ใครเห็นมันคงดูไม่ดีเท่าไหร่” ทินกรว่าเข้าให้แล้วสะบัดแขนออกอย่างนุ่มนวลที่สุด
“ใจร้ายจัง มีแฟนแล้วเหรอคะ” ถามไปงั้น ถึงจะตอบว่ามีแล้วใครจะไปสน
“ครับ มีแล้ว...แล้วก็รักมากด้วย”
“...ทินกร มัวแต่มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ พวกกูนึกว่าตกส้วมตายไปแล้ว”
“ก็กำลังจะไปน่ะที่รัก” มาแบบได้จังหวะเลยโอบไหล่ทานตะวันให้คนตรงหน้าดูเป็นขวัญตา นี่แหละแฟนไม่สิ...เมียกู
“เอ้า นี่แฟนคุณเหรอ แหม ตามมาทวงกันถึงที่เลยนะคะ กลัวแฟนหายเหรอ” เฮอะ ที่แท้ก็เป็นเกย์ แต่ก็ไม่เป็นไร...ท้าทายความสามารถดี
“ครับ...พอดีว่าคนเดี๋ยวนี้คนมันไว้ใจไม่ได้ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วขอตัวนะ”
.
.
“เฮ้อ...กูล่ะก็ไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงสมัยนี้จริงๆ”
“นั่นสิ เห็นแต่งตัวดีๆแบบนั้นไม่คิดว่าจะใจกล้าได้ขนาดนี้ แต่กูคิดว่าที่กูประกาศออกไปขนาดนั้น ก็น่าจะรู้แล้วแหละว่าอะไรเป็นอะไร...”
“ขอโทษนะคะ พอดีว่าน้ำฝนนั่งอยู่คนเดียวแล้วเหงาๆเลยคิดว่าจะขอมานั่งด้วยคน เห็นท่าทางโต๊ะนี้คุยกันสนุกดี หวังว่าคงจะไม่รังเกียจนะคะ” ไม่รอให้ใครเอ่ยปากแม่คุณก็ลากเก้าอี้มานั่งแทรกกลางระหว่างทานตะวันกับทินกรซะอย่างนั้น
“คือตอนแรกก็ไม่รังเกียจหรอกนะ แต่ตอนนี้เริ่มชักไม่แน่ใจเพราะจำได้ว่ายังไม่มีใครอนุญาต” ทานตะวันว่าแล้วก็ขยับเก้าอี้ให้ชิดกับทินกรมากขึ้นเพื่อเบียดบุคคลที่สามออกไป ถ้าบอกขนาดนั้นแล้วยังกล้ามาอ่อยถึงนี่ก็แสดงว่าจงใจแย่งแล้วสินะ
“แหม ก็เห็นไม่มีใครว่าอะไรนี่คะ น้ำฝนก็เลยถือว่าอนุญาตแล้ว” ขยับเก้าอี้เข้าไปอีกอย่างไม่นึกยอมแพ้แล้วพยายามเบียดหน้าอกของตัวเองให้เข้าไปใกล้กับทินกรมากที่สุด...ให้มันรู้กันไปสิว่า ของแท้จะแพ้ของเทียม
“พี่ครับ...เช็คบิลด่วน”
“อุ๊ย จะไปกันแล้วเหรอคะเนี่ย ยังไม่ทันได้แนะนำตัวกันเลย ฉันชื่อน้ำฝนนะคะ”
“เออ คือว่าไม่ค่อยอยากอยู่นานน่ะ กลัว‘ฝน’ตกเพราะช่วงนี้ข่าวเขาออกกันโครมๆว่า ‘น้ำฝน’ ช่วงนี้มันไม่ค่อยสะอาด ไม่บริสุทธิ์ และเป็นอันตรายต่อร่างกาย ผมเลยไม่อยากโดนไม่อยากเข้าใกล้ เดี๋ยวโดนแย่ง ‘ผัว’...เอ๊ย เดี๋ยวจะได้รับสารกัมมันตรังสี” หึหึ เล่นกับทานตะวันก็ต้องเจอแบบนี้
“เออใช่ กูเห็นด้วยกับไอ้ทาน ยิ่งข่าวเขาบอกมาด้วยนะว่า สารกัมมันตรังสีที่อยู่ใน‘น้ำฝน’เนี่ย มันไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แอ๊บแบ๊วชอบหลอกให้คนอื่นตายใจว่าใสซื่อ แต่จริงๆโคตรร่าน เอ๊ย โคตรอันตราย” ดีมากไอ้เอิร์ธ นี่สิเพื่อนกู
“งั้นกูว่าพวกเรารีบกลับเหอะ เดี๋ยว ‘ฝน’ จะตกแรง เพราะกูว่ามันเริ่มตั้งเค้าแล้วว่ะ” ตูนว่าเมื่อหันไปมองหน้าแขกไม่ได้รับเชิญที่เริ่มตึงนิดๆ
“เออๆ รีบกลับกันเลยละกันเพราะกูเองก็ไม่ค่อยชอบ‘น้ำฝน’เหมือนกัน...มันเฉอะแฉะ ‘น่ารำคาญ’ ” ตบท้ายด้วยทินกรอีกคน
“กรี๊ดด นี่พวกแกกำลังด่าฉันกันอยู่เหรอฮะ”
“เปล๊า ใคร ใครจะไปกล้าว่าสุภาพสตรีอย่างคุณกัน พวกเรากำลังพูดถึง ‘น้ำฝน’ กันอยู่ต่างหากล่ะ” ทานตะวันยกยิ้ม “...และถ้าคุณไม่มีธุระสำคัญอะไรแล้ว พวกเราก็ขอตัวเลยแล้วกันนะ คุณ ‘น้ำฝน’ ” อยากจะร้องจะกรี๊ดจะด่าอะไรก็สรรหาคำมาไม่ทันแล้วเพราะกว่าจะตั้งตัวได้พวกเขาก็ยกโขยงกันออกจากร้านไปหมดเรียบร้อย ทิ้งให้คุณน้ำฝนของทุกคนได้แต่นั่งกัดฟันกรอดๆอย่างนึกเจ็บใจอยู่คนเดียวที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แถมยังถูกรุมด่าอ้อมๆแต่โดนตรงๆอีกต่างหาก
.
.
“เดี๋ยวกูพาไอ้ทานไปส่งบ้านก่อนนะเว่ย ดึกแล้ว แม่งกูบอกแล้วว่าอย่าย้ายมาร้านนี้ พวกมึงนี่ก็ไม่มีใครฟัง ส่วนไอ้คนกินนี่งก็ไม่ดูสภาพตัวเอง ห้ามไม่ฟังแล้วเป็นไง คอพับคออ่อนหลับไม่รู้เรื่องอยู่เนี่ย”
“เอ้ามึง ก็แค่เหล้าปั่นใครจะไปคิดว่าแม่งจะกินจนเมา ว่าแต่มึงเหอะ ส่งถึงบ้านแน่นะ...ไม่ใช่แวะข้างทางก่อนล่ะ”
“เชี่ยเหอะมึงไอ้เอิร์ธ กูยังไม่อยากโดนพี่ทิวเอาปืนส่องหัวนะเว่ย แค่พาน้องเขากลับไปสภาพแบบนี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเนี่ย”
“เออๆ อย่ามัวแต่เถียงกันเลยน่า ไอ้ทิน มึงจะพาไอ้ทานกลับก็พาไปเหอะ กูก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน ง่วงว่ะ”
“อ้าวไอ้เหี้ยตูน แม่งทิ้งกูเหรอวะ เชอะ กลับก็กลับวะ พี่...เช็คบิล”
.
.
“ขอโทษครับพี่ทิวที่เอาทานมันกลับมาส่งในสภาพแบบนี้ แต่ผมห้ามมันแล้วไม่ฟัง”
“อะ...อืม ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ว่าแต่เราจะเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนกลับบ้านมั้ย” ถามพลางก็รับตัวน้องชายตัวแสบมาจากทินกรพลางอุ้มขึ้นพาดบ่าเหมือนเด็กๆ
“สักหน่อยก็ดีครับ...”
“งั้นก็ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้มาให้”
.
“อื้อ ยัยบ้า ยัยผู้หญิงไร้ยางอาย...กล้าดียังไงมายุ่งกับทิน...ทินของกู” ทานตะวันครางทั้งๆที่ยังนอนหลับตาอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ทำให้ทินกรที่นั่งอยู่ใกล้ๆถึงกับอมยิ้ม
“ร้ายจริงๆนะ เมียใครเนี่ย...หืม” อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มขาวที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีชมพูนิดๆ ก่อนจะฉวยโอกาสลากผ่านไปจูบที่ริมฝีปากเบาๆ
“อะแฮ่มๆ มาเอาน้ำไปดื่มสิทิน” ตอดเล็กตอดน้อยเลยนะน้องเขยกู
“ขอบคุณครับ”
“อื้อ...ยัยน้ำฝน...ยัยกะละมังสังกะสี...อึก...อีชะนีหาผัวม่ายด้าย...อึก...”
“เมาแล้วเพ้ออะไรเนี่ยไอ้น้องคนนี้ กะละมังสังกะสีอะไรของมัน”
“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ทิวทานมันคงหมายถึงกัมมันตรังสีน่ะ” ทินกรพูดขำๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนี้ ทานตะวันเอ๊ยนี่ถ้าไม่ติดว่าอาทิตย์นี้พาไปค้างด้วยแล้ววันนึงนะ คืนนี้จะจับไปฟัดให้ซะเข็ดโทษฐานทำตัวน่าหมันเขี้ยวเกิน
“สงสัยไม่พอใจใครมาอีกแน่ๆเลยสิท่า ถึงได้เก็บมาโวยวายได้ขนาดนี้”
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ... 'ดึกมาก' แล้ว...ผมขอตัวกลับเลยก็แล้วกันจะได้ไม่รบกวนพี่ทิว”
“อืม...งั้นก็กลับดีๆล่ะ ขอบใจมากที่หิ้วไอ้ทานมาส่งให้ อ้อ แล้วถึงจะเน้นคำว่าดึกมากให้พี่ฟัง ก็ต้องขอโทษนะที่ให้ค้างด้วยตามที่ต้องการไม่ได้...” หึหึ ไอ้ทานมันยิ่งเมาไม่รู้เรื่องอยู่ให้ค้างด้วยก็เสร็จกันพอดี
“ครับ ไม่เป็นไรครับ” เฮ้อ พี่ทิวนี่ก็รู้ทันตลอด เล็กๆน้อยๆนี่ไม่เคยพลาด คนอะไร หวงน้องได้เหนียวแน่นจริงๆ กูล่ะเชื่อเลย
.
.
Fin.
ฮุๆ แอบชอบพี่ทิว แต่งเองชอบเอง คนอะไรรู้ทันทุกเรื่อง ชอบมาก็จัดไป ตอนพิเศษจะมาเรื่อยๆๆๆๆ จนกว่าจะหมดมุก