ตอนพิเศษ ตอนที่3
ควับ!
“ปึก! อ่ะ!”
แปะๆ แปะๆ
“เยี่ยมมากยู!!!”เสียงปรบมือจากเพื่อนร่วมชั้นที่ฝึกด้วยกันทำเอาผมยิ้มแก้มปริเลยครับ ก็วันนี้ผมสามารถชนะคู่ซ้อมของตัวเองได้สักที ไม่เสียแรงครับที่ผมอุตส่าห์ฝึกซ้อมมาอย่างหนักตลอด ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมมีกำลังใจและความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นกว่าทุกที
“ขอบคุณมากครับ”
“เอาล่ะวันนี้ก็พอแค่นี้ก็แล้วกัน กลับไปพักผ่อนกันได้แล้วล่ะ”
“ครับ! ครับ! ครับ!”เสียงตอบรับดังอย่างดีใจก่อนที่ทุกคนจะแสดงความเคารพซึ้งกันและกันก่อนจะแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง
“วันนี้กลับบ้านด้วยกันนะยู พี่เบี้ยวมาหลายวันแล้ว”พี่ต้นเจ้าเก่าครับ
“ก็ได้ครับ ^^”ผมซับเหงื่อตรงหน้าที่ผุดออกเป็นห่าฝนก่อนจะเดินตามพี่ต้นไปห้องล๊อคเกอร์
“วันนี้กลับด้วยกันหลายคน ไอ้ทีมไอ้กล้ามันก็จะกลับด้วยกัน”
“ครับ!”ผมตอบรับอย่างยินดีก่อนจะเข้าไปล้างตัวแล้วเปลี่ยนเป็นชุดลำลองให้เรียบร้อย เพราะผมเสร็จก่อนพี่ๆ อีกหลายคนผมเลยมานั่งรอตรงระเบียงหน้าสวนหย่อมเหมือนเดิมครับ
......ยิ่งอยู่กับตัวเองนานๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองฟุ้งซ่าน เคยรึเปล่าครับที่จู่ๆ ก็รู้สึกน้อยใจตัวเองขึ้นมา อารมณ์เศร้ามันก็แวบมาเข้าในหัวเราอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเรื่องราวที่รู้สึกเป็นทุกข์มันก็ค่อยๆ ขนายใหญ่ขึ้นจนครอบครองความรู้สึกสุขของเราไปโดนปริยาย ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเจอปัญญาแบบนั้นครับ
สองวันมาแล้วที่ผมไม่เจอคนๆ หนึ่ง ผมก็ดีใจครับแต่มันน้อยกว่าความรู้สึกเสียใจ ไม่รู้ว่าทำไมผมยังคงคิดเรื่องแบบนั้นกับพี่วัชเค้า ทั้งๆ ที่ความเป็นไปได้ของผมกับพี่เค้ามันน้อยซะจนวัดค่าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ทั้งเรื่องจูบเมื่อตอนนั้นที่ทำให้ผมแทบนอนไม่หลับ ไม่เข้าใจว่าสิ่งนั้นพี่วัชทำไปเพื่ออะไรแต่ผมก็ยังดีใจทั้งๆ ที่ควรจะเป็นกังวนใจแท้ๆ
“ยู! พวกเราเสร็จแล้วกลับกัน!”
“ครับ แล้วพี่กล้ากับพี่ทีมบ้านอยู่ทางเดียวกับเราเหรอครับผมไม่ยักรู้”
“เปล่าหรอกวันนี้พี่กับไอ้ทีมเราจะไปเล่นเกมส์กันที่บ้านไอ้ต้นน่ะแล้วจะค้างคืนซะเลย ^^”
“เหรอครับ ^^”
“วันนี้ยูเก่งขึ้นนะ พี่ยอมรับเลย แอบไปเทรนกับใครมารึเปล่าเนี่ย”พี่ทีมจ้องผมเหมือนพยายามจับผิดด้วยสายตาทะเล้น
“ปะเปล่าหรอกครับ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิครับ”ผมหลบตาลงต้ำอย่างอายๆ ครับ ที่อายเพราะคำชมพวกนั้นต่างหากครับ
“ฮาๆ ฮาๆ พี่ล้อเล่น แกล้งเด็กนี่มันก็สนุกเหมือนกันนะเนี่ย”พี่ทีมหัวเราะขึ้นทำเอาทุกคนหัวเราะร่าตาม
“เฮ่! อย่าแกล้งยูสิเดี๋ยวน้องมันจับทุ่มขึ้นมามึงจะรู้สึกนะเว้ย เดี๋ยนี้ยูของเราไม่ธรรมดาซะแล้ว”พี่ต้นก็เริ่มแซวผมขึ้นมาบ้าง ทำให้เราเดินไปคุยไปกันอย่างสนุกสนานเลยครับโดยมีผมเป็นประเด็นหลัก
อยู่แบบนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่กังวล ดีเหมือนกันครับ
กึก!
“อ่ะ! >_o”จู่ๆ พี่ๆ ที่ผมเดินตามหลังอยู่ก็หยุดชะงักทำเอาผมที่ก้มหน้าก้มตาเดินเผลอชนหลังพี่ๆ เข้าให้ หยุดทำไมกัน?
“สวัสดีครับ!”ทั้งพี่ต้น พี่ทีม พี่กล้ากำลังทักทายใครคนหนึ่ง ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบเพราะไม่ทันจะเห็นว่าเป็นใครเพราะตกใจก็เลยไหลไปตามน้ำทักทายไปกับเค้าด้วย
“ฉันขอคุยกับยูหน่อย พวกนายกลับไปก่อนเถอะ”
เสียงนี่มันคุ้นๆ นะครับ
“ครับ!”
“ยูงั้นวันนี้เรากลับก่อนนะ ไปล่ะไว้จะกลับด้วยกันวันอื่นก็ได้นะ ^^”พี่ทีมโบกมือลาผมก่อนที่ผมจะอึ้งหลังจากพี่ๆ เดินไปแล้วผมถึงเห็นว่าคนๆ นั้นเป็นใคร
“พะพี่วัช”จู่ๆ ผมก็เดินหนีซะอย่างงนั้นครับ แถมยังไม่ใช่ทางที่จะออกจากโรงฝึกแต่กลายเป็นว่าเดินกลับเข้าไปใหม่
“ยู! ยูหยุดก่อน”เสียงเรียกที่ไล่หลังผมมากำลังเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ ครับ ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงต้องเดินหนีและความรู้สึกไม่ดีนี่มันคืออะไรกัน
หมับ! แล้วพี่วัชก็คว้าแขนผมเอาไว้แล้วกระชากให้ผมหันไปประจันหน้า ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองหน้าดูไม่ได้เลย ผมรู้สึกว่าใบหน้าผมมันกำลังบูดเบี้ยวจะยิ้มก็ไม่ได้จะทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมันก็ยากครับ
และที่สำคัญ....หัวใจของผมมันกำลังเต้นอย่างตระหนก
“ขะขอโทษครับ พอดีผมลืมของเอาไว้ผมจะกลับไปเอาที่.....”ผมอยากจะยิ้มแต่ว่าผม....ผมยิ้มได้แต่แสแสร้งเท่านั้น
“มากับฉันหน่อย มีเรื่องจะพูดด้วย”พี่วัชทำหน้าจริงจังก่อนจะลากผมให้เดินตามไป ผมจำได้ว่าทางนี้มันจะไปห้องที่ผมเคยขอพักด้วยอยู่หนึ่งคืน
ทำไมต้องเป็นที่นี่ด้วยนะ....
“นั่งลงก่อน จะเอาน้ำให้”พี่วัชพาผมมาที่นี่ก่อนจะบอกให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะชุดภายในห้อง ผมนั่งลงอย่างว่าง่าย
“น้ำไม่ต้องหรอกครับ จะพูดอะไรกับผมก็พูดเถอะครับ”ผมก้มหน้ามองฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะได้ยินเสียงนั่งลงของพี่วัชตรงข้ามผม
“เรื่องที่พี่จูบยู.......”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้คิดมากอยู่แล้ว”ผมตัดบทพูดของพี่วัชที่จะไม่ให้พี่วัชรู้สึกผิดเพราะผม“แล้วผมก็คิดว่า....พี่คงจะไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นหรอกครับ...”ทำไมยิ่งพูดปากผมมันยิ่งสั่น
“จะไม่เป็นไรได้ยังไง!”ผมที่กำลังนั่งนิ่งถึงกับสะดุ้งเมื่อน้ำเสียงของพี่วัชที่ดูเปลี่ยนไปจากน้ำเสียงเรียบเป็นน้ำเสียงไม่พอใจ มันทำให้ผมรู้สึกกลัวไปด้วย
“ไม่ต้องสนใจเด็กอย่างผมหรอกครับ ผมรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร”ยิ่งผมพยายามยิ้มและหาคำตอบในความหมายของสีหน้าพี่วัชที่ดูเปลี่ยนไปผมยิ่งรู้สึกใจไม่ดี ไม่อยากจะสานต่อความคิดตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแค่อารมณ์ชั่ววูบหรือเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้น
เจ็บครับ....ยิ่งคิดมันก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ ไม่ดีเอาซะเลยความรู้สึกพวกนี้
“อย่าพูดทั้งๆ ที่ตัวเองทำสีหน้าจะร้องไห้แบบนั้นได้มั้ยยู.....”ผมถึงกับวูบเข้าไปในอกทันทีที่พี่วัชพูดแบบนั้น
“ปะเปล่านี่ครับ.....”
ดริ้ง ดริ้ง~~~
ระหว่างที่เรากำลังเงียบเสียงโทรศัพท์ของพี่วัชก็ดังขึ้น
“อยู่ที่นี่อย่าเพิ่งไปไหน......ถือว่าฉันขอร้องล่ะ....”พี่วัชลุกพรวดขึ้นแต่ยังคงปล่อยให้โทรศัพท์เสียงดังก่อนจะเดินออกไปจากห้องพร้อมกับทิ้งความรู้สึกแย่ไว้กับผม
ทะทำไมผมต้องอยู่ด้วยล่ะ ในเมื่อเราไม่น่าจะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน....
ผมตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้แต่พอผมลุกขึ้นรู้สึกได้เลยว่าร่างกายมันไม่มีแรงผมจึงเซล้มไปกระแทกเข้ากับชั้นวางหนังสือที่ซ้อนกันไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ หนังสือพวกนั้นเลยร่วงตกลงกับพื้นสะเปะสะปะไปหมด ผมก็เลยรีบเก็บหนังสือพวกนี้ให้ทันก่อนที่พี่วัชจะมาถึง และมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่ผมสะดุดตาเลยเก็บมันขึ้นมาดู
จะเป็นอะไรรึเปล่าถ้าผมจะเปิดมันดูข้างในนี้
ผึบ! พอผมเปิดออกข้างในมันคืออัลบั้มภาพดีๆ นี่เองครับ และรูปทั้งหมดมันเหมือนเป็นรูปกลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นทำให้ผมแปลกใจคือมีเดย์อยู่ด้วย ข้างๆ เดย์ก็เป็นพี่ทิวา ทุกคนดูเหมือนจะมีความสุขกันมากๆ เลยครับ
ผมพลิกไปหน้าต่อไปด้วยหัวใจเต้นรัวและรูปต่อไปก็ทำให้ผมถึงกับรู้สึกได้เลยครับว่าภาพนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ ผมมองไปที่พี่วัชที่ยืนอยู่อีกฝั่งของรูป สายตาพี่วัชกำลังมองใครบางคนด้วยสีหน้าเศร้าปนยิ้ม และคนๆ นั้นถึงกับทำให้ผมแทบหมดแรง....
ปะเป็นไปไม่ได้หรอก....เดย์งั้นเหรอ หัวใจผมแทบหล่นวูบทันทีที่รู้อะไรบางอย่างเข้า ผมพลิกไปดูรูปอีกหน้าก่อนจะเห็นว่าเป็นรูปที่แอบถ่ายแน่นอน และผู้ที่ปรากฏอยู่ในรูปคือเดย์ ในบรรยากาศรอบๆ ภายในภาพคือริมทะเล มีเดย์อยู่หลายรูปที่เหมือนจะตั้งใจเก็บภาพ ทั้งภาพที่เดย์อยู่กับพี่ทิวาและคนอีกสองคนที่ผมยังไม่เคยรู้จัก
พรึบ!
ผมเปิดต่อไปอีกหน้าด้วยมือที่สั่นระริกก่อนจะทำกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งที่แปะล่างรูปเดย์หล่นลงกับพื้น ผมเก็บมันขึ้นมาแล้วถือวิสาสะอ่านมัน
‘ความรู้สึกของผมมันเคยว่างเปล่า จนกระทั่งเจอคนๆ นี้’
ใจผมแทบสลายเมื่อล่วงรู้ความรู้สึกที่ไม่ควรนี้.....ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากจะร้องไห้กับเรื่องเหลวไหลพวกนี้แต่ทว่า.....ความรู้สึกที่มันเอ่อล้นข้างในกำลังทำให้น้ำตาผมไหลหยดลงบนอัลบั้มรูปพวกนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจเลยครับ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
และอีกหน้าก็เช่นกันที่มีข้อความแปะไว้....ที่พร้อมจะกำจัดมันได้ทุกเมื่อที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ความคิดความรู้สึกในแผ่นกระดาษเล็กๆ พวกนี้ แต่ผมก็มาเห็นมันจนได้.....
‘อยากจะดูแล....แต่ก็ได้เพียงห่วงอยู่ไกลๆ’
…..
‘ดีใจที่วันนี้เดย์ยิ้ม....แต่ก็เสียใจที่ยิ้มนั้นไม่ใช่ของเรา.....’
…..
‘มองอยู่ไกลๆ......มีความรู้สึกที่อยากให้แต่คงต้องเก็บเอาไว้สำหรับคน.......(แอบรัก)’
อะไรกันความรู้สึกพวกนี้ มันกำลังทำให้ผมร้องไห้จนไม่สามารถหยุดน้ำตาตัวเองได้ ผมรู้สึกเจ็บที่ใจตัวเองชะมัดไม่ทันจะรักอย่างจริงจังก็ต้องมาเจ็บขนาดนี้จนแทบทนไม่ไหวแล้วเหรอ
ฮือๆ ทนไม่ไหว....ผมทนไม่ไหวจริงๆ ครับ ทำไมกัน....เดย์มีพี่ทิวาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับแล้วทำไมพี่วัชถึงได้ทำร้ายตัวเองด้วยความรู้สึกไม่ควรพวกนี้ด้วย
แล้วทำไมต้องจูบผมทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร เพราะอะไร นั่นรู้รึเปล่าครับว่ามันทำให้ผมรู้สึกเจ็บเอามากๆ กับเรื่องพวกนี้ มันคงไม่ใช่ความผิดพี่ทั้งหมดหรอกครับแต่ผมเองต่างหากที่ฝันเรื่องลมๆ แล้งๆ พวกนั้นอยู่คนเดียว
ปึก!
ผมล้มลงนอนบนเตียงเล็กๆ ของผมอย่างหมดแรง ผมไม่ได้รอพี่วัชกลับมาหลังจากนั้น ผมกลับมาที่ของตัวเองโดยไม่ได้บอกใคร ผมไม่อยากเจอพี่วัชในตอนนี้ ผมกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ที่ร้องไห้ฟูมฟายเพราะคิดไปเองกับเรื่องพวกนั้น ผมควรจะเลิกคิดแล้วพุ่งความสำคัญไปที่อย่างอื่นที่เป็นความฝันของผมจะดีกว่า
ก๊อก ก๊อก!
“คุณยูครับมีจดหมายมาส่งครับ”เสียงคุณวินัยผู้ดูแลอพาทเม้นเรียกผมอยู่หน้าประตูครับ ผมเลยลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตู แต่ทว่าคนที่ผมเจอไม่ใช่พี่วินัยแต่เป็น....
“พะพี่วัช!”ผมตาโตมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เริ่มสั่นเครืออีกครั้ง นี่มันอะไรกัน
“ผมไปก่อนนะครับ”พี่วินัยที่ยืนอยู่ หันมาบอกพี่วัชแล้วเดินออกไป
“ขอเข้าไปคุยด้วยหน่อยได้รึเปล่า เมื่อตอนเย็นนายไม่ทำตามที่ฉันบอก”
“ขะขอโทษครับแต่ผมไม่มีอะไรจะคุยจริงๆ ”ผมก้มหน้าทำท่าจะปิดประตูแต่ทว่าพี่วัชกลับดันตัวผมเข้ามาข้างในห้องผมแล้วปิดประตูล๊อคไว้
“ขอร้องล่ะอย่าทำแบบนี้เลยยู”พี่วัชจับบ่าผมแน่นแล้วมองหน้าผมเศร้าๆ ผมมองพี่วัชตอบผ่านเลนส์แว่นด้วยสีหน้านิ่งเฉยเสมือนไร้ความรู้สึกใดๆ
ตัวผม หัวใจของผม........รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินครับ เหนื่อยเกินกว่าจะมาพูดเรื่องแบบนี้อีกแล้ว เพราะยังไงซะผมก็ไม่ควรคิดเรื่องพวกนี้ขณะที่สิ่งสำคัญที่ผมควรจะทำคือเรียนหนังสือและทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงเป็นจังซะที
“ผมทำอะไรเหรอครับ....”
“หลบหน้า และประชดพี่ด้วยท่าทางเย็นชาเมินเฉยต่อกันแบบนี้”ผมยิ้มน้อยๆ ให้กับคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกระคนเจ็บปวดจนจวนเจียนจะบ้า
เพราะรู้สึกรักอย่างนั้นเหรอครับถึงทำให้ผมรู้สึกเจ็บได้ถึงขนาดนี้.....
“ผมขอโทษครับ....ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นครับ”ผมก้มหน้าไม่อาจมองคนตรงหน้าได้อีก
เพราะผมได้รับรู้ความรู้สึกของคนตรงหน้าเข้าแล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกรักที่ไม่ใช่ของผม....
“ฉันขอโทษที่ทำแบบนั้นกับเธอ ทั้งๆ ที่เธอเป็นเพื่อนเดย์แท้ๆ ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกพวกนั้นมันอะไรกันถึงได้ทำให้ฉันจูบนาย แต่ตอนนั้นที่นายหน้าแดงและแสดงสีหน้าด้วยความรู้สึกของตัวเองพวกนั้นนายทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ จริงๆ ฉันรู้ว่ามันไม่ควร...แต่ฉันก็ทำไปแล้ว....”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่เป็นไร.....ลืมมันไปซะเถอะครับถ้าพี่ไม่สบายใจเพราะผมแบบนี้”
ผมควรจะพูดแบบนั้นใช่มั้ยครับ...
“ผมเอง.....ก็ไม่ได้จะติดใจอะไรเลย มีแต่จะเป็นกังวนถ้าพี่ทุกข์ใจเพราะผมแบบนี้”น้ำตาที่เอ่อดวงตาของผมมันกำลังจะไหลแล้วครับ ผมไม่อยากให้คนตรงหน้าเห็นผมในสภาพแบบนี้จริงๆ “กลับ...กลับไปเถอะครับ ถือซะว่า....ระเราพูดคุยกัน.....จบแล้ว”ผมดันคนตรงหน้าให้ออกไปแต่ทว่าพี่วัชไม่ยอมไปไหนเลย
ฮือๆ ถ้าพี่ทำแบบนี้เท่ากับว่าพี่กำลังทำให้ผมเจ็บนะครับ.....ขอร้องเถอะ กลับไปเถอะนะครับ....
“ฉันจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ”
“ไม่ต้องไงครับผมบอกพี่ให้เข้าใจไปแล้ว อย่าทำแบบนี้กับผมเลยได้โปรดเถอะครับพี่ ฮึก.....”
“ยู......”พี่วัชมองผมด้วยท่าทีตกใจเพราะผมกำลังร้องไห้ และผมก็ห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่อยู่ ผมพยายามปาดมันออกด้วยหลังมือลายครั้งแล้วแต่ว่า....เพราะยังเห็นคนตรงหน้ายืนอยู่ตรงนี้ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
หมับ!
“ปะปล่อยผมเถอะครับ ฮือๆ ปล่อย....”ผมแทบหมดแรงที่จะยืนทันทีที่พี่วัชเข้ามากอดผมจนแน่น ผมไม่อยากให้น้ำตาเปื้อนใครนอกจากตัวของผมเอง ผมไม่อยากให้ความรู้สึกผิดมารับผิดชอบกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ด้วย
“ฉันขอโทษยู อย่าร้องไห้...มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บใจตัวเองที่เห็นนายเป็นแบบนี้เพราะฉัน ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบไม่ได้หรอกครับ....ผมไม่ต้องการ เพราะผมรู้ว่าพี่วัชไม่ดีรักผมแต่จะมารับผิดชอบผมแบบนี้ กับเรื่องไร้สาระพวกนี้ผมไม่ต้องการหรอกครับ”
ผมพูดแค่นี้พี่วัชก็เงียบครับ แต่ไม่ยอมปล่อยผมออกจากอ้อมกอด มันเป็นอ้อมกอดที่ทรมานที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้สึกเลยครับ
“..........”
“ผมไม่ได้อยากเป็นตัวแทนใครหรอกนะครับ......”ในที่สุดผมก็หลุดปากพูดมันออกมาพี่วัชถึงกับดึงผมออกจากกอดแล้วมองผมอย่างตกใจ
“ยูนายรู้อะไร”
“ผมไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับพี่หรอกครับ....แต่ผมรู้สึกได้”ผมโกหกคำโตทั้งๆ ที่ไม่อยากจะทำ“ผมรู้ว่าการแอบชอบใครสักคนมันรู้สึกเจ็บปวดทั้งๆ ที่เค้าคนนั้นมีคนที่รักอยู่แล้ว....ผมอาจจะคล้ายคนที่พี่ชอบ แต่ผมไม่ใช่ครับ....ผมคือยู ยูที่เป็นตัวของผมไม่ใช่เหมือนใครทั้งนั้น แต่ถึงจะเหมือนผมก็ไม่อยากเหมือนครับ...พี่เข้าใจใช่มั้ยครับ....ความรู้สึกของผม”น้ำตานับสิบหยดไหลอาบแก้มผมทั้งๆ ที่ดวงตาทั้งสองข้างกำลังว่างเปล่า และน้ำเสียงของความเสียใจที่ไร้เสียงสะอื้น
มันเจ็บเข้าไปข้างในอกซ้าย....ผมเลือกได้ ผมไม่อยากจะยืนอยู่ตรงจุดนี้เลยครับ
“มันไม่ใช่แบบนั้น!”เสียงตวาดลั่นของพี่วัชมันดังก้องไปทั้งห้อง ความรู้สึกของคนตรงหน้าที่ผมไม่มีวันเข้าใจได้
“...........”
“นายกำลังเข้าใจผิด....มันไม่ใช่แบบนั้นนะยู นาย....นายไม่ได้เป็นตัวแทนใครทั้งนั้น ฉันไม่เคยเอาใครมาเปรียบเทียบกับนายแล้วทำเรื่องแบบนั้น....”
“ผมเข้าใจแล้วล่ะครับ....”ผมปาดน้ำตาที่ไหลอีกครั้งแล้วยิ้มให้พี่วัชที่สีหน้ากังวลมองผมด้วยสายตาเศร้า พี่วัชที่ผมชอบต้องไม่ใช่คนที่มีสีหน้าทุกข์ใจแบบนี้ ถึงจะเป็นสีหน้าที่เรียบเฉยแต่มันก็ไม่ได้เศร้าแบบนี้....“กลับไปเถอะครับ...กลับไปทบทวนความรู้สึกจริงๆ ของพี่ ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”ผมฝืนยิ้มอีกแล้วครับ ผมไม่อยากทำแบบนี้เลย
ผมรู้ครับว่าจะทบทวนยังไงพี่วัชกับความรู้สึกชอบเดย์ก็ไม่อาจจะแปรเปลี่ยนไปได้....
“ฉันจะกลับ....ขอโทษที่มาทำให้นายไม่สบายใจ”
ผมเหลือบมองแผ่นหลังที่เปิดประตูออกไปด้วยความรู้สึกปวดร้าว
ทำไมล่ะครับ....เป็นผมไม่ได้เหรอครับที่ได้รับความรู้สึกเหล่านั้น เป็นผม...คนนี้ไม่ได้จริงๆ เหรอครับ ฮือๆๆ
สำหรับตอนพิเศษ ตอนที่ 3 ก็มาพร้อมดราม่าอีกแล้ว ยิ่งแต่งยิ่งสลดใจนัก
แอบสงสารน้องยูเหมือนกัน นี่แหละไม่ทันรักก็อกหักซะแล้ว เห้อ.....
ปล.ยังไงก็อย่าลืมมาเป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่งและตัวละครที่รักของเราใหม่นะฮับ คาดว่าอีกตอนก่อนหน้านี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะจบแล้วล่ะฮับ
ปล.2 ขอบคุณมากฮับที่เข้ามาอ่านกัน หวังว่าจะได้ความสนุกสนานกันกลับไป
(หรือตอนนี้จะได้น้ำตากลับไปก็ไม่รู้ อิอิ ^^)
ไว้พบกันตอนพิเศษตอนหน้าที่อาจเป็นบทสรุปของทั้งคู่นะฮับ....รักนักอ่านเสมอ ^^