มาต่อกันเล้ยย
ไอ้น้องปิ๊งจะเปรี้ยวไปได้อีกแค่ไหน
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจ้า จุ๊บๆๆๆๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมรีบกลับเข้าไปแต่งตัวเพราะรู้สึกว่าผมจะเสียเวลาไปกับการต่อปากต่อคำกับไอ้น้องปิ๊ง นานไปหน่อย อ่ะจ้าก จะห้าโมงแล้ว รีบซิครับ ที่นี่รีบแต่งตัวเลยครับ เพราะผมจะต้องไปประชุมก่อนที่จะเปิดเชียร์อีก สายแน่ตรู ไอ้ปิ๊งน่ะ ไอ้ปิ๊ง เดี๋ยววันนี้จะพวกเพื่อนว้ากผม เล่นให้น้วมไปเลย (แค้น คับแค้น )
10 นาทีคับ 10 นาทีที่ผมเข้าประชุมช้าไป มันกลายเป็นตราบาปติดตัวผมซะแล้ว (เว่อร์ ไปนิด) แน่นอนทกสายตาเหลือบมามองที่ผมขณะที่เปิดประตูเข้ามา
“โทดทีคับ ที่มาสายไปนีสหนึ่ง หะหะ ”
“เออ รีบๆ เข้ามา พอดีกำลังพูดเรื่องเพลงเชียร์พอดี ” อ้วนประธานสโมสร พูดตัดบททันที
“ก็เอาเป็นว่า วันนี้ให้น้องร้องเพลงไปก่อน ส่วนช่วงกลางๆของวันนี้ ก็ให้น้องแนะนำตัว ” ผมชี้แจงแผนของวันนี้
“งั้นช่วงแรกก็น้องจัดระเบียบแถวไปก่อนซักชั่วโมงล่ะกัน ตกลงตามนี้” อ้วนเสริมอีกครั้ง
ต่อจากนั้นก็ประชุมอีกหลายเรื่อง แต่ไม่ค่อยสำคัญ ผมเลยหันไปคุยกะไอ้หมี พอดีมันเป็นพี่สต๊าฟ
“งัย มาช้าว่ะ”
“เออ อาบน้ำนานไปหน่อย ”
“แก ยังไม่เลิกอาบน้ำนานอีกนิ ” รู้อีกไอ้นี่
“เรื่อง แบบนี้มันต้องค่อยลดอ่ะ จะให้ลดวันนี้ พรุ่งนี้ไม่ได้หรอก จิงป่ะ เออ มีเรื่อง รบกวนหน่อย”
“เรื่องไร อย่าถามเรื่องเงินน่ะ ไม่มีโว้ย”
“อะไรว่ะ ไอ้นี่ ไม่ใช่เรื่องเงินหรอก แค่อยากจะแกดูแล ไอ้น้องปิ๊ง ให้หน่อย”
“ทำไมว่ะ ”
“ป่าว ไม่มีไรแค่น้องมันกวนนิดหน่อย เล่นหัวรุ่นพี่ ฝากดูๆ หน่อยล่ะกาน” มีเหตุผลน่าเชื่อถือมากๆ
“เออ รับทราบ แต่ข้าว่าข้าไม่ดูพี่สต๊าฟคนอื่นๆก็ดูแทนข้าแน่ๆ”
“ไมว่ะ ” สงสัยซิครับ
“อ้าว แกก็น่าจะรู้ว่าใครเด่นๆ หน่อย ใครๆก็สนใจทั้งนั้นแหละ”
“อืมๆ ข้าเข้าจายแหละ ดีดี ” อย่างน้อยวันนี้ต้องมีเรื่องดีดี ให้ดูแน่ๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พูดจบไอ้อ้วนก็ปิดประชุมพอดี ทุกคนแยกย้ายเตรียมตัวรวมน้อง ไม่นานนักก็ถึงเวลาที่รอคอย สต๊าฟเดินลงไปลานด้านล่าง พร้อมกับเสียงโวกเวกโวยวาย ตามที่ฝึกมา(คือช่วงปิดเทอมต้องมาฝึกเหมือนทหารอ่ะคับ)
“ปี1 ปี1 จัดแถว” ประธานเชียร์เรียกรวม
“ช้าๆ จัดแถวอ่ะเป็นไหม เร็วๆ” ยังคงตะโกนไม่เลิกครับ
น้องๆลนลานทำไรไม่ถูกซิครับ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีกลุ่มกองโจรจากที่ไหนเดินมาแล้วตะโกนโวยวาย เสียงดังๆ ทำให้นึกถึงตัวผมเองช่วงเป็นเฟรชชี่อ่ะครับ เข้าเชียร์ต้องติดกิ๊ปผมสีดำด้วย เพราะผู้ชายที่ด้านหน้ายาว จะต้องติดกิ๊ป มันตลกมากๆ ผมติดอยู่ 2 ครั้งเปลี่ยนมาจุกผมด้วยยางแทน ก็ยังตลกอยู่ดี แต่ก็ยังดีกว่าติดกิ๊ปล่ะหว่า หะหะ ส่วนน้องผู้หญิงก็มัดผมเช่นกัน แต่ติดกระดุมคอเสื้อชิดเลยครับ เรียบร้อยที่สุด เรียกรวมๆว่า ระเบียบเชียร์ ครับ
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ครับ สต๊าฟยังคงเรียกจัดแถวไปมา จนน้องบางคนเป็นลมบ้างก็มี บางคนเป็นไฮเปอร์นั้นนี้ เรียกโรคคุณหนูก็ว่าได้ครับ เพราะทนเสียงดังๆไม่ได้ก็จะชัก แต่ทางเราก็เตรียมพยาบาล มาคอยช่วยดู (ไม่ได้โหดน่ะครับ แต่กลายเป็นภาพชินตาทุกปี) ผ่านไปเกือบ ชม. ล่ะ ปล่อยน้องเข้าห้องเชียร์ ผมเตรียมตัว รอข้างบนเรียบร้อย รอสักพักน้องๆเข้าห้องเชียร์เรียบร้อย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อทุกอย่างอยู่ในความเรียบร้อย ถึงคราวที่พระเอกอย่างผมต้องออกโรงซะแล้ว ผมกับเพื่อนรออยู่ประตูด้านนอกพร้อมกับรุ่นน้องและรุ่นพี่ ที่มาเชียร์น้องปี 1
สักครู่สต๊าฟกล่าวเชิญพวกผมเข้าห้องเชียร์ พร้อมกับเปิดประตู บรรยากาศในห้องเงียบมากๆ ผมกับเพื่อนอีก 2 คนเดินขึ้นเวที มองลงไป เห็นน้องนั่งเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ยอมรับว่าผมก็ตื่นเต้นมากๆ เหมือนกัน เอางัยก็เอาว่ะ
ผมเริ่มขึ้นเพลงแรกเป็นมาร์ชเพลงมหาวิทยาลัย น้องร้องเพลงตามมือที่ผมโบกไปมา (ท่าหรีดอ่ะคับ) น้องร้องไม่ตรงจังหวะบ้าง ผมหยุดเริ่มใหม่โดยไม่พูดอะไร ถ้าใครร้องผิดก็จะใช้สายตามองอย่างเดียว ว่าน้องกำลังร้องผิดน่ะคับ ถ้าใครขี้เกียจร้องก็มองอย่างให้รู้สำนึก โดยต้องมีสมาธิดูน้องๆให้ทั่วอ่ะคับ
ผ่านไปเกือบครึ่ง ชม.ล่ะยังไม่มีอะไรดีขึ้น ผมเริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกาน ระหว่างที่คิดว่ารอบสุดท้ายก่อนที่ผมจะพักผมก็มองเห็นสิ่งผิดปกติตรงด้านหน้าแถว พอดี เพราะผมไม่มองตั้งแต่แรกด้วยซ้ำเพราะผมอยู่บนเวที จะมองเลยไปตรงกลางกะด้านหลังซะมากกว่า
เอ้า ไอ้น้องปิ๊งนี่หว่า มันนั่งตรงนี้นี่เอง แหม ติดกิ๊ปด้วยแฮะ ตลกมากๆ คับ ผมเริ่มกลั้นไม่ให้หัวเราะ เอาไว้ (ใจเย็นๆ ไอ้ไอซ์ อย่าเชียวน่ะมรึง อั้นไว้ )
เอางัยล่ะทีนี้ ไอ้ปิ๊ง เหมือนมันจะรู้ ว่าผมมองมันพอดี ระหว่างที่ร้องเพลงอยู่มันยักคิ้วให้หลายที สมาธิกระเจิงเลยคับ ลืมท่าไปเลย เอางัยดีหว่า ผมหยุดด้วยการกางมือออก (ถือเป็นสัญญาณว่า ร้องหยุดได้แล้วคับน้อง ) น้องทุกคนในห้องเงียบ
“ เพลงมหาวิทยาลัย เป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกคุณ ไม่เคารพ หรือเห็นเป็นเรื่องล้อเล่น ก็เชิญออกจากห้องเชียร์ ” นั่นเป็นคำพูดทิ้งท้ายของผม ขณะที่มองลงไปที่ต้นเหตุ แล้วผมก็เดินออกจากห้องเชียร์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++