25
ทั้งสี่ตัดสินใจกันแล้วว่า วันนี้จะไม่ออกไปไหนกันแต่หาที่เที่ยวเล่นเก็บบรรยากาศกันภายในรีสอร์ตไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยตระเวณเที่ยวน้ำตกทีละแห่ง ตอนแรกนทีก็เข้าใจว่าหาที่เที่ยวเล่นในรีสอร์ตนั้นก็แค่เดินชมสวน ขี่จักรยาน ถ่ายรูปอะไรไปตามเรื่อง แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าปุยฝ้ายกลับชวนทุกคนลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำใกล้ๆสวนนั้น ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นด้วยกันหมด จึงต้องกลับบ้านไปเอาชุดว่ายน้ำมาเปลี่ยน นทีทำหน้าแปลกๆเหมือนไม่เต็มใจ คนที่สังเกตเห็นคือภาสกร เขาถามหนุ่มน้อยว่า
“เป็นอะไร ไม่อยากว่ายน้ำหรือ”
“เปล่าครับ ว่ายน่ะอยาก แต่ผมก็อยากไปเที่ยวเล่นข้างนอกด้วย”
“อ้อ” ภาสกรเข้าใจจึงบอกว่า “งั้นว่ายน้ำกันเสร็จ ออกไปหาอะไรทานกันข้างนอกไหมล่ะ เดี๋ยวผมลองถามเจ้าเตอร์ดูก่อนว่ามีที่เดินเล่นตอนกลางคืนบ้างหรือเปล่า ถ้ามีแล้วไม่ไกลมากเดี๋ยวผมพาไป”
นทีก็เลยสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย เพราะคิดว่าถ้ามาเที่ยวแล้วนอนอยู่ในรีสอร์ตเฉยๆ ก็เหมือนไม่ได้มาเที่ยวเท่านั้นเอง อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยอยากให้ภาสกรเข้าใกล้คุณหญิงดาริกามากๆด้วย หากดาริกาสนใจภาสกรจริงฝ่ายนั้นก็มีโอกาสทำคะแนนได้มากขึ้น เพราะคงไม่มีหนุ่มที่ไหนอยู่เฉยได้หรอกถ้ามีสาวสวยอย่างดาริกาใส่ชุดว่ายน้ำมาคลอเคลียข้างๆ
นทีกังวลไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งพอเอาชุดว่ายน้ำมาเปลี่ยนเตรียมจะลงสระเห็นภาสกรยืนคุยอยู่กับดาริกาก็ยิ่งอดทำหน้าแปลกๆไม่ได้ จนปุยฝ้ายเดินผ่านมาด้านหลังแล้วพูดเบาๆว่า
“หึงหรือไงยะ”
“จะบ้าหรอ จะหึงทำไมคุณชายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันซะหน่อย”
ปุยฝ้ายหัวเราะหึหึในลำคอแล้วก็ปลดผ้าคลุมออกจากตัว เผยเห็นร่างอวบเตี้ยในชุดว่ายน้ำวันพีซสีดำก่อนจะกระโดดลงน้ำไปคนแรก ส่วนภาสกรและดาริกาที่เดินกันมาคุยกันมาเรื่อยๆใกล้ถึงตัวนทีนั้นก็อยู่ในชุดว่ายน้ำกันเรียบร้อยพร้อมลงสระได้ทุกเมื่อ กระนั้นก็ยังไม่คิดจะตามปุยฝ้ายลงน้ำ แต่นั่งคุยกันอยู่ที่บาร์ริมสระมีนทีนั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้สีขาวใกล้ๆ
ดาริการวมผมขึ้นไปเป็นมวยอย่างเมื่อตอนออกเดินทาง เผยให้เห็นคอยาวระหง ต่ำลงมาคือเนินอกสีน้ำผึ้งนวลเนียนที่ปิดไว้ด้วยชุดว่ายน้ำแบบทูพีซ หน้าท้องราบเรียบ มีส่วนเว้าเป็นเอวสวยดูงามอย่างปฏิเสธไม่ได้ ท่อนล่างเป็นบิกินี่สีเหลืองเข้มเว้าโค้งขึ้นอย่างพองาม ดูสวยสง่าราวกับนางแบบ โดยเฉพาะเรียวขายาวราวกับขาหงส์ที่เมื่อนั่งไขว่ห้างรับแสงไฟจากข้างๆบาร์นั้นแล้วยิ่งดูเรียบเนียนจนนทีเองก็ต้องจ้องด้วยความชื่นชม
เขายังหาข้อเสียของดาริกาไม่พบสักข้อ
ขณะที่ดาริกาคุยกับภาสกรนิ่งๆ ตามแบบของหล่อนเวลาคุยกันเป็นการเป็นงาน สายตาของหญิงสาวก็ชำเลืองมาทางหนุ่มน้อยเป็นระยะ พอเห็นว่านทีจ้องอยู่แต่หลบตาเมื่อหล่อนมองไปก็เข้าใจความคิดของหนุ่มน้อย จึงเขยิบเข้าไปใกล้ภาสกรอีกนิดจนแทบจะตัวชิดกัน ชายหนุ่มร่างใหญ่ข้างๆไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะยังคุยธุระอยู่ แต่หนุ่มน้อยที่นั่งห่างออกมาอีกคนนี่สิเห็นแล้วก็ต้องเมินหน้าหนี เปลี่ยนที่วางสายตามาเป็นที่ผิวน้ำสีเขียวมรกตที่เกิดจากน้ำในสระสีฟ้าใส รวมกับแสงไฟสีเหลืองที่ส่องอยู่ใต้น้ำในยามค่ำแทน
ดาริกายิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นท่าทีของนที ก็มั่นใจแล้วว่าตนเดาความคิดของเขาไม่ผิดเลย พอคุยจบธุระกับภาสกร ดาริกาก็ขอตัวเดินนวยนาดมาทางนที
“น้องน้ำคะ ไม่ลงว่ายหรือเห็นไหมปุยฝ้ายเขาดำผุดดำว่ายอยู่สนุกเชียว”
นทีเก็บอาการ “หวง” คุณชายไว้ในอกแล้วตอบไปอย่างสุภาพว่า
“รอสักพักก็จะไปครับ ยังเหนื่อยจากที่เดินชมสวนอยู่เลย”
ดาริกายิ้มให้อย่างมีนัย ดวงตาหล่อนเป็นประกายเมื่อพูดว่า
“รีบเข้านะคะ รอนานไปเดี๋ยวจะอด” หล่อนเดินจากไปได้สองก้าวก็หันกลับมา “พี่หมายความว่าถ้าอากาศมันเย็นกว่านี้ จะอดว่ายนะหนาวเกินว่ายน้ำไม่สบายตัว”
หล่อนปีนบันไดลงน้ำไป มิได้กระโดดตูมอย่างปุยฝ้าย นทีได้ยินคำพูดนั้นก็หูแดงตามนิสัย ดาริกาจงใจหมายถึงภาสกรหรือเปล่า หล่อนดูออกหรืออย่างไรแล้วที่มาพูดนี่จงใจจะประกาศสงครามกับเขาหรือ
ได้แต่คิดเท่านั้นไม่ทันได้แสดงออกทั้งทางสีหน้าหรือคำพูดภาสกรก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆหนุ่มน้อย นทีรู้ว่าคุณชายมานั่งอยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงหันไปมองชายหนุ่มพบว่าอีกฝ่ายยื่นมะพร้าวลูกหนึ่งมาให้ตนจึงรับเอาไว้ไม่ให้น่าเกลียด
“ไม่อยากว่ายน้ำหรือนที”
“เปล่าครับ” เขาว่า “รอสักพักก็คงจะลง”
“รอผมหรือไง” เขาหัวเราะเบา “ผมกะจะว่ายที่น้ำตกพรุ่งนี้อยู่แล้ว แต่วันนี้เห็นคุณฝ้ายชวนก็เลยตามเลย”
“ผมก็เหมือนกัน” นทีว่าเบาๆ ความอึดอัดใจค่อยๆก่อตัวขึ้นในอกของหนุ่มน้อย ไม่กล้ามองไปด้านข้างเพราะภาสกรไม่ได้นั่งอยู่ใกล้ๆอย่างเดียว แต่ยังชะโงกหน้าเข้ามาแทบจะชิดกับเขาด้วย
ภาสกรหุ่นดีอย่างคนรู้จักดูแลตัวเอง ท่อนแขนและหน้าท้องมีกล้ามเนื้อขึ้นเป็นเนินเล็กน้อย มิได้เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างนักกีฬาแต่ก็ไม่ได้อ้วนเผละน่าเกลียด ผิวสีเข้มดูจางลงบริเวณใต้ร่มผ้าที่ไม่ได้โดนแดด ในขณะที่นทีขาวใสทั้งตัวไม่มีรอยด่างดำจนภาสกรมองแล้วมองอีก แล้วก็เปรยขึ้นมาว่า
“นทีขาวไปทั้งตัวทำได้ยังไงนะ ไม่ออกแดดบ้างเลยหรือ”
“ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ” หนุ่มน้อยหน้าแดงเมื่อมีสายตาของอีกฝ่ายจับจ้องอยู่ที่ร่างของเขาไม่วางตาจึงทำไม่รู้ไม่ชี้ก้มลงดื่มน้ำมะพร้าวในมือ ต้นขาเนียนไร้ขนยกขึ้นงอเข่ากันไม่ให้ภาสกรเห็นอะไรมากไปกว่านั้น แต่นั่นก็เท่ากับว่า เผยให้คุณชายหนุ่มเห็นด้านข้างของต้นขาเนียนสวยของหนุ่มน้อยเต็มตา
ผมของนทีบัดนี้ยาวขึ้นกว่าเดิมจนปิดคิ้วและหน้าผากไปหมด จนดูผ่านๆเหมือนมีสาวน้อยสวยใสมานั่งอยู่ข้างๆ เนินอกสีขาวแทบจะแบนราบและเปิดเปลือยโล่งเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกว่าหนุ่มน้อยเป็นชายมิใช่หญิง ในเมื่อนทียกขาขึ้นอยู่ตอนนี้บังส่วนที่แสดงความเป็นชายชัดเจนของหนุ่มน้อยไว้ ภาสกรจึงไม่รู้สึกอะไรที่มานั่งจ้องร่างขาวสะอาดอย่างนี้
พาลนึกไปว่าร่างนุ่มนิ่มน่าถนอมอย่างนี้ เมื่อมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วจะเป็นอย่างไร ก็พอดีนทีลุกขึ้นด้วยความที่อดรนทนไม่ไหว เรื่องอะไรจะให้ชายหนุ่มมานั่งจ้องเขาจนต้องขวยเขิน ถึงเป็นชายเหมือนกันก็เถอะ
พอลุกขึ้นเท่านั้น สายตาของภาสกรก็มาสะดุดอยู่ที่กางเกงว่ายน้ำสีฟ้าสดใสที่ปกปิดบางสิ่งที่นทีเองมีเหมือนเขาเอาไว้พอมิให้น่าเกลียด ตอนนั้นเองที่คุณชายหนุ่มได้สติว่าคนที่อยู่ข้างๆเป็นชายเหมือนกับเขานะ ไม่ใช่สาวน้อยผู้อ่อนหวาน พอดีกับที่นทีเอ่ยเบาๆว่า
“ผมไปว่ายน้ำละ” ยื่นมะพร้าวให้คุณชายหนุ่ม ก่อนจะเดินหูแดงไปที่ริมสระ ปีนบันไดลงไปในน้ำ
ภาสกรมองด้านหลังของนทีก็พบว่า หุ่นของหนุ่มน้อยที่อยู่เบื้องหน้าแทบไม่เหมือนหุ่นของเขาเอาเสียเลย ส่วนเอวเว้าเข้าเล็กน้อยด้วยความที่นทีผอมมาก ในขณะที่สะโพกสวยกลมกลึงอยู่ในกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วกลับสร้างมิติให้ดูเหมือนหญิงสาวสักคนเปลือยอกเดินผ่านหน้าไปเท่านั้น
คุณชายยอมรับว่าเห็นภาพนี้แล้วนึกถึงอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเรื่องที่ไม่ควรนึกถึงนั้นแหละ ในขณะที่เมื่อครู่นั่งคุยอยู่กับดาริกาตั้งนานสองนาน กลับไม่คิดจะใส่ใจมองส่วนเว้าส่วนโค้งของหญิงสาวเท่าไร
ภาสกรขมวดคิ้วแน่น นี่เขาชอบผู้ชายจริงๆอย่างนั้นหรือ
ตอนนั้นเองที่เพื่อนหนุ่มของเขา ปีเตอร์ เดินเข้ามาทักภาสกร คุณชายหนุ่มนั่งคุยอยู่พักใหญ่ๆจนแทบลืมเรื่องน่าอายที่คิดถึงนทีเมื่อครู่ไปแล้วก็ดันมานึกขึ้นได้อีกทีตอนที่ปีเตอร์ผู้ใส่กางเกงว่ายน้ำแบบเดียวกับนทีเป๊ะๆ เดินไปลงน้ำเช่นกัน เปรียบเทียบกันแล้ว เขาก็ไม่เห็นรู้สึกอะไรกับปีเตอร์เช่นเดียวกับไม่รู้สึกอะไรกับ ดาริกาหรือแม้แต่กับทิฆัมพรที่เห็นอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยเช่นนี้ประจำ
ถ้าเขาเป็นเกย์จริง เขาต้องชอบปีเตอร์ด้วยซีแต่นี่กลับไม่รู้สึกอะไร
เป็นไปได้ไหมว่าเพราะปีเตอร์เป็นเพื่อนเขา เขาถึงคิดอะไรกับเพื่อนคนนี้ไม่ลง หรือในทางกลับกันเป็นไปได้ไหมว่า เพราะเป็นนทีต่างหากเขาถึงคิดถึงเรื่องนี้เฉพาะกับนทีเท่านั้น กับใครไม่ว่าเพศใดคนไหนก็ไม่คิดด้วย
นึกถึงหลายครั้งที่เข้าใกล้หนุ่มน้อย ภาสกรจะรู้สึกอยากโอบกอด อยากเคล้าคลึงคลอเคลีย แม้กระทั่งอยากจุมพิตนทีด้วยอย่างเมื่อเช้านี้อีกต่างหาก เขาไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นฉะนั้นเขาก็คงไม่ได้เป็นชายรักร่วมเพศแน่นอน
หรือเพราะนทีเหมือนผู้หญิงเกินไปเขาถึงชอบนที ก็เปล่า ผู้หญิงเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน ...หรือต้องเป็นนทีคนเดียวเท่านั้นบนโลกนี้ที่เขาจะถูกใจ ใฝ่หา... ตอนแรกสนิทด้วยรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ก็ยังไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าถึงกับมีความรู้สึกดึงดูดทางเพศกับหนุ่มน้อยด้วยแล้วอย่างนี้
เห็นทีภาสกรจะปล่อยใจให้ถลำลึกไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วกระมัง!
ตอนนั้นนทียืนเฉยอยู่ริมสระ มือสองข้างเท้าขอบสระใบหน้าซบลงที่แขนของตัวเอง ดวงตาเหม่อลอยมองหมู่ดาวดารดาษบนฟ้า ใจคิดเรื่อยเปื่อยไปถึงชายหนุ่มที่ว่ายน้ำเล่นอยู่กับปุยฝ้ายและดาริกาส่งเสียงหัวเราะดังลั่นก้องไปทั่วบริเวณ เขาไม่รู้หรอกว่าที่ตัวเองกำลังรู้สึกอยู่นี้มันถูกต้องสำหรับคุณชายหรือเปล่า เท่าที่นึกได้หม่อมแม่ของคุณชายก็แทบจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆแล้วตอนที่คุณชายมาเฝ้าเขาที่โรงพยาบาล เพราะคิดว่าเขาจะไปเกาะเอาเงินทองจากคุณชาย
นี่ถ้ารู้ว่าเขาชอบลูกชายของตัวเองด้วย เขาจะทำอย่างไร
เท่าที่เห็นเลือนลางตอนนี้ ทางออกมีอยู่สองทางคือหนึ่งภาสกรไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย สองคุณชายหนุ่มมีใจให้เขาด้วย ถ้าเป็นทางแรกนทีเจ็บหน่อยแต่คงหายเร็วเพราะเป็นแผลใหญ่ แต่ไม่ลึกทายาปิดปากแผลไว้ไม่ให้เชื้อโรคเข้าก็หายแล้ว ถ้าเป็นข้อสองหม่อมแม่ของคุณชายเข้าใจก็ดีไป แต่ถ้าเขาต้องมาถูกกีดกันออกจากคุณชายละก็ อาจจะเป็นแผลไม่ใหญ่มาก แต่ลึกนักจะรักษาให้หายย่อมทำได้ยากเหลือเกิน
สู้เขาอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรกระโตกกระตากให้อีกฝ่ายรู้ดีกว่า อย่างน้อยก็ยังมีกันและกันอยู่อย่างนี้ เห็นได้ เข้าใกล้ได้ สัมผัสได้ ดีกว่าต้องถูกแยกจากกัน
คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ว่าคุณชายค่อยๆ ว่ายเข้ามาใกล้ๆยืนอยู่เคียงข้างหันหลังพิงขอบสระ ใบหน้าจับจ้องอยู่ที่สายตาครุ่นคิดของเขา สำหรับคุณชายแล้วคำที่บอกกันว่า ไม่ว่าใครถ้าเปียกน้ำละก็จะดูไม่ได้เป็นลูกหมาตกน้ำก็พูดไป แต่สำหรับเขานทีที่ตัวเปียกน้ำไปหมดอย่างตอนนี้ช่างน่ามองเสียเหลือเกิน
ผมสีดำสนิทเปียกลูกลงแนบหน้า ใบหน้านวลเนียลขาวใสไร้หนวดเคราสิวฝ้าหรือแม้แต่ริ้วรอยยับย่นสักรอยมีหยดน้ำเกาะอยู่พร่างพราว พอกับลำตัวท่อนบน ราวกับใครแกล้งเอาเพชรเม็ดเล็กเม็ดน้อยมาโรยประดับไว้รอยตัวของหนุ่มน้อยอย่างนั้น ริมฝีปากเปียกน้ำเป็นสีแดงสด เผยอออกเย้ายวนให้เข้าไปใกล้ อีกครั้งแล้วที่ใจภาสกรเต้นรัว ถ้าหากอกเขาเป็นกลองละก็ป่านนี้ผิวน้ำคงกระจายตัวเป็นวงตามแรงตีลั่นของใจเขาเป็นแน่ ภาสกรอยู่ห่างนทีเพียงไม่กี่นิ้ว
ถ้าจะโน้มคอลงมาจูบเสียตอนนั้นก็ทำได้ง่ายเหลือเกิน
“นที เขาขึ้นสระกันหมดแล้ว” ภาสกรกระซิบเบาๆ หนุ่มน้อยข้างจึงสะดุ้งสุดตัวราวกับว่าสิ่งสุดท้ายที่เขาหวังจะได้ยินตอนนั้นคือเสียงของชายหนุ่มที่เขาหมายปองกระนั้น หนุ่มน้อยหันมายิ้มให้ภาสกรก่อนจะบอกว่า
“แล้วคุณชายไม่ตามไปหรือครับ”
“ก็มาตามนทีไปด้วยกัน” ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าจะกระซิบเสียงสั่นทำไมทั้งที่พูดเสียงปกติก็ได้ รู้แต่ตอนนั้นปุยฝ้ายและดาริกาขึ้นจากน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เหลือเขาอยู่กับนทีสองคนอีกครั้งมีดอกไม้นานาชนิดอยู่รายล้อมสระว่ายน้ำสีเขียวใสแบบนี้ ชายหนุ่มแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่
แน่ละถ้านทีเป็นหญิงสาวละก็ภาสกรคงรวบตัวเข้ามากอดจูบให้สมใจแล้ว มีเพียงสิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคใหญ่ขวางไว้คือ ความเหมาะสมนั่นเอง
แม้ภาสกจะดูเหมือนไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองนักว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร... ถูกใจ ชอบ หรือ รัก หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ชายหนุ่มมั่นใจละว่ามันคือความรู้สึกดี อย่างที่เขาไม่เคยมีให้ใคร อย่าพูดถึงทิฆัมพร แม้แต่เจสสิกาแฟนเก่าเขาก็ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ด้วย ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเสยผมที่เปียกลู่ลงมาปิดหน้าปิดตาของนทีขึ้นไปทัดหูของหนุ่มน้อยด้วยความรักใคร่
แกล้งลากมือช้าๆลงมาตามสองข้างแก้ม สัมผัสแผ่วเบาราวกับคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นสมบัติราคาแพงที่จะให้มีรอยขีดข่วนใดๆไม่ได้
“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวผมพาไปทานข้าว”
นทีแทบจะดำลงไปใต้น้ำแล้วกลั้นใจตายให้ได้เดี๋ยวนั้นเพราะไม่แน่ใจว่าถ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปจะมีโอกาสได้สัมผัสความสุขที่มากล้นได้ถึงขนาดนี้หรือไม่ ภาสกรปล่อนให้นทีว่ายน้ำนำไปก่อน ตัวเองว่ายตามมาไม่รู้ตัวว่าเมื่อครู่ทำอะไรลงไป ภาสกรเอ๋ย ไหนบอกตัวเองว่าจะเอาตัวเอาใจออกห่างจากนทีไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้ไม่ใช่หรืออย่างไร... ไม่เห็นทำได้อย่างที่พูดเลย
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จแล้ว ชายหนุ่มเจ้าของรีสอร์ตก็พาเพื่อนหนุ่มออกมาทานร้านอาหารไทยง่ายๆ ใกล้ๆกับรีสอร์ตของเขา อาหารอร่อยทุกอย่างทุกคนดูเจริญอาหารแม้แต่ดาริกา และปุยฝ้ายที่แม้ปากจะบอกว่าไดเอต แต่มือกลับตักอาหารเอาๆ จนแทบไม่ได้คุยกัน ส่วนทางนทีก็เช่นกันกินเอาๆอย่างไม่สนใจใครตามนิสัยคนกินเก่ง คนพามาอยากตักอาหารใส่จานให้อย่างเคยแต่ก็ห้ามใจตัวเองเอาไว้ ไม่ได้ทำอย่างที่ใจอยาก กลัวว่าเพื่อนหนุ่มจะผิดสังเกต
พอกินกันเสร็จทั้งหมดก็ตรงกลับรีสอร์ต เพราะเห็นตรงกันว่าจะออกมาเที่ยวน้ำตกกันแต่เช้าจะได้ไปเที่ยวกันได้ทั้งน้ำตกนางรอง และสาริกาที่เจ้าของพื้นที่บอกว่าสวยหนักหนา ไม่ได้ไปหาที่เที่ยวกลางคืนเดินเล่นกันอย่างที่ตั้งใจแต่แรก ที่นครนายกอาจจะมีที่แบบนั้นก็ได้ แต่ปีเตอร์ไม่รู้จักก็เลยไม่ได้ไปกัน แยกย้ายกันกลับบ้านพักตั้งแต่ยังไม่ทันสามทุ่มดี ภาสกรว่าดีเหมือนกันจะได้พักผ่อนเก็บแรงไว้วันพรุ่งนี้
นทีอาบน้ำก่อนภาสกรเพราะตอนขึ้นจากสระเมื่อตอนเย็นนั้น หนุ่มน้อยล้างตัวด้วยน้ำเปล่าเฉยๆ ไม่ได้อาบน้ำถูสบู่ให้สะอาด ภาสกรก็เลยนั่งดูโทรทัศน์รอในห้องนั่งเล่น ส่วนสาวๆทั้งสองยังไม่เหนื่อยก็เลยออกไปนั่งคุยกันที่โต๊ะไม้ยาวหลังบ้านพักภาสกรรอจนเสียงน้ำหมดแล้วจึงเข้าไปอาบบ้าง
พอชายหนุ่มกลับออกมาอีกครั้งนทีก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อแขนยาวสีขาวสะอาด ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนานุ่มหลับตาพริ้มเหมือนจะหลับไปแล้วด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่เพื่อความแน่ใจภาสกรร้องเรียกชื่อหนุ่มน้อยเบาๆเห็นว่าไม่ตอบแน่แล้วตัวเองจึงเดินมาที่เตียงฝั่งของตัวเองจะล้มตัวลงนอนอยู่แล้วพอดีเห็นใบหน้าที่เหมือนเด็กน้อยของนทีนอนหลับตาพริ้มอยู่ก็อดไม่ได้
คุณชายเดินเข้าไปใกล้นที ค่อยๆโน้มตัวลงเหนือหนุ่มน้อย ค่อยๆเลื่อนหน้าคมเข้มของตนเข้าไปใกล้คนตัวเล็กกว่าที่กำลังหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง กลิ่นสบู่อ่อนๆผสมกับกลิ่นแชมพูหอมตรึงใจเมื่อใบหน้าของคุณชายอยู่ห่างจากนทีเพียงไม่ถึงนิ้ว