ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
เนื่องจากน้อง aumzaa ไม่มาต่อนานมากแล้วจึงขอให้เด็กน้อยช่วยโพสต่อแทนนะครับ
จึงปรับแก้ให้เด็กน้อยสามารถเข้ามาเป็นเจ้าของกระทู้เพื่อนแก้ไขรีพลายต่างๆในกระทู้ตัวเองได้
edit by blueboyhubสวัสดีครับทุกคน.... ผมเป็นน้องใหม่หัดโพสต์นะครับ....
ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ....
ขอบคุณเจ้าของเรื่องด้วยนะครับ..

ตอนที่ 1
"..เราไปก่อนนะ ลาก่อน.." เสียงแผ่วของเด็กน้อยหน้าขาวๆ ตรงหน้า ทำให้ก้อนอะไรบ้างอย่างจุกขึ้นในลำคอ รอยยิ้มจางๆเกิดขึ้นบนหน้าเด็กน้อย แต่แววตาเศร้าดูขัดกับรอยยิ้ม เด็กคนนั้นหันหลังกลับเดินไปอย่างช้าค่อยๆ เลือนหายไป ขณะที่เด้กน้อยตัวเล็กๆอีกคนเพิ่งรู้สึกตัว หันไปตะโกนสุดเสียง
"นายอย่าลืมเรานะ เดี่ยว......" เด็กคนแรกหันมองพร้อมยิ้มกว้างแล้วเดินจาก .......
กริ๊ง! ๆๆๆๆๆ ...เสียงนาฬิกาปลุก ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้อง เสียงกรีดร้องของมันสามารถกระชากร่างหนึ่งที่อยุ่บนที่นอนกระดอนตัวขึ้นมาเพื่อปิดการทำงานของมัน
"นี่ใครเลือกนาฬิกาปลุกเสียงอุบาทว์มาว่ะเนี้ย" เด็กหนุ่มเจ้าของห้องสบถอย่างหัวเสียก่อนนึกขึ้นได้ว่า เป้นคนซื้อมันมาเอง แต่มันก็ได้ผลชะงักนักสำหรับเด็กชาย ผู้นอนขี้เซาแบบเขา เด็กหนุ่มเหลือบตามองปฏิทินแล้วเกาหัวแบบเบื่อหน่าย
"วันนี้เปิดเทอมอีกแล้วเหรอ อะไรว่ะ" เขาคิดพลางเตือนตัวเองให้ไปอาบน้ำแล้วรีบไปโรงเรียน วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของเขา จริงๆแล้วไอ้การขึ้นม.4 นี่มันก้อน่าตื่นเต้นอยู่หรอก เพราะจะได้เจอเพื่อนที่ห่างกันไปเกือบ 2 เดือน คงมีเรื่องที่จะได้คุยสนุกพิลึก แต่เทียบความอิสระในช่วงปิดเทอมแล้ว ทำให้เด็กหนุ่มใจเหี่ยวลงทันตา
เด็กหนุ่มยังคงหน้าบูดเมื่อเดินทางไปโรงเรียน ความจริงการนั่งรถเมลล์ไปเรียนนั้นสะดวกดี แต่เพราะระยะทางที่ไม่ได้ไกลมากเขาจึงตัดสินใจเดินเพราะวันนี้ตื่นเร็วเลยมีเวลาเหลือเฟือ ทางเท้าที่ปูอิฐหยาบที่เรียงทอดยาว กำลังพา เขาเดินมุ่งหน้าไปสู่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ซึ่งเขาเรียนจบม.ต้นมาจากที่นี่
เด็กหนุ่มเดิน ตามองมายังบ้านข้างทางหลังหนึ่งที่ดุเหมือนจะปิดไว้เฉยๆ นานแล้ว แนวรั้วรกรุงรังไปด้วยดอกเล็บมือนางที่เจ้าของบ้านคนเก่าปลูกไว้ เมื่อขาดการตัดแต่งจึงทำให้เป็นเช่นที่เห็น
เหมือนกับอุปทานตาเด็กหนุ่มมองไปเห็นเด็กน้อยสองคนวิ่งเล่นหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน โดยเด็กชายตัวโตตัวขาว กำลังวิ่งหนีในขณะที่เด็กน้อยแก้มยุ้ยอีกคนกำลังวิ่งไล่ตาม
"เก่งจริงก็จับเราให้ได้ดิ ไอ้เก่งหน้าหมา" เด็กน้อยตัวโตกว่าร้องล้อเลียน
" ไอ้บ้าเดี่ยว อย่าหนีนะ "เด็กน้อยผิวขาวเหลืองร้องไล่อย่างขัดใจ
ภาพเด้กๆวิ่งไล่กันค่อยจางหาย เก่งยิ้มให้กับตัวเองเมื่อรู้สึกว่าได้มองเห็นอดีต ช่วงวัยเด็กช่างมีความสุขเหลือเกิน โลกของเก่งตอนนั้นมีแต่พ่อแม่พี่สาว และ "เดี่ยว" ผู้เป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็ก
"ตอนนี้เดี่ยวจะเป็นไงมั่งนะ" เด็กหนุ่มคิดเมื่อเห็นบ้านเก่าของเพื่อนวัยเด็ก อาจเป็นเพราะเมื่อเช้าเพิ่งฝันถึง จึงทำให้ภาพเด้กน้อยที่ถูกลืมเลือนฟืนขึ้นมาอีกครั้ง
"ตอนนี้สงสัยเรียนอยู่ที่เชียงใหม่มั้ง" เก่งบอกไม่ถูกว่าทำไมจำภาพวัยเด้กของเดี่ยวได้ชัดเจน ทั้งที่ตอนนั้น ไม่เต็ม 5 ขวบด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะเป็นเพื่อนเล่นคนเดียวของช่วงวัยเด็กกว่าได้ ตัวเขาเองก็จำไม่ได้แล้วว่าเดี่ยวต้องย้ายบ้านเพราะอะไร
จำได้เพียงลางๆว่า เดี่ยวย้ายตามพ่อแม่ไปอยู่เชียงใหม่เท่านั้น แต่พี่สาวของเก่งเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อแม่เดี่ยวย้ายไปรับตำแหน่งอะไร ประมาณนี้ และยังล้อด้วยว่าช่วงนั้น เก่งซึมมากอย่างเห้นได้ชัด แต่พอเข้าโรงเรียนก็ดูสดใสขึ้น
เก่ง ละสายตาจากบ้านแล้วเดินต่อไปตามทางอิฐ โดยไม่ได้สังเกตุว่าในบ้านมีคนอยู่ !
"เฮ้ย! เก่งหวัดดี" เสียงทักดังมาข้างหลังในขณะที่เก่งกำลังจะเดินเข้าประตูโรงเรียน เด็กหนุ่มหันไปมองรอยยิ้มบนหน้าหวานๆ ของเพื่อนรอยมาก่อน
"เออ หวัดดี แก้ว "เก่งทักแล้วหยุดรอเด็กหนุ่มตัวเล็กๆอีกคนที่กำลังเดินมา ไอ้แก้วนั่นเองรู้สึกตัวมันจะสูงขึ้นกว่าเก่าแต่หน้าหวานเหมือนผู้หญิงเหมือนเดิม
"เป็นไงมั่งว่ะช่วงปิดเทอม เห็นเอ้งเงียบหายไป" เก่งถามแก้วขณะเดินขึ้นชั้นเรียน
"ก็ไม่อะไรหรอก ข้าอยู่บ้านเงียบๆน่ะ บ้างที่ก็ขี่จักรยานไปวาดรูปที่ทุ่งบัวน่ะ"แก้วตอบขณะที่เดินหาห้อง
"แล้วเอ็งล่ะ บอกว่าจะไปหาข้าที่บ้านไปวาดรูปกันไง แต่ไม่เห็นมาเลย" แก้วถามมั่งเมื่อนึกถึงเรื่องที่พูดกันก่อนปิดเทอม
"โทษที่คือข้าเอาแต่นอนอยู่บ้านน่ะ ขี้เกียจเลยไม่ได้ไปไหน" เด็กหนุมตอบ
"เออ เอ็งดูสูงขึ้น นี่เกือบเท่าข้าแล้ว ไปทำไรมา" เก่งร้องถามแก้วเหมือนจะแซว
"แหม! ไอ้เก่ง คนมันถึงวัยแล้วมันก็ต้องมีการพัฒนามั่งดิ เอ็งจะให้ข้าเตี้ยเป็นเด็กประถมอยู่ได้ไงวะ" ไอ้แก้วตอบแล้วมองหน้าแบบเอาเรื่อง
"ถึงยังไงกูก้ยังเตี้ยอยู่ดี อยากสูงแบบไอ้พวกรุ่นพี่ ม.6 มั่งจังว่ะ" แก้วพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจขณะที่กำลังเก้าเข้าห้อง
" เอาน่าเดี๋ยวเอ็งกะข้าก็สูงเองแหละ ล้อเล่นแค่นี้คิดมาก"เก่งหัวเราะขำเมื่อเห็นเพื่อนจ๋อยลงไป จะว่าไปเพื่อนทุกคนตอนนี้ก้เปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายไปหมด ดูกลายเป็นหนุ่มเป้นสาวกันหมด เก่งเองก้เช่นกันความสูงที่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากเพียงแต่สูงมากว่าแก้วเล็กน้อย
หลังเคารพธงชาติแล้วเมื่อเด็กๆทุกคนถูกปล่อยให้เข้าห้องเรียน ความเงียบก่อนหน้านี้ถูกแทรกด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ของเหล่าเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มสาว ทุกคนมีเรื่องคุยกันเหมือนว่าไม่ได้เจอกันมาแล้วเป็นชาติ ไม่เว้นแม่แต่กลุ้มของเก่ง
"นายเป็นไงกันมั่งน่ะ เก่ง แก้ว ปิดเทอมไม่โทรหาเลยไหนว่าจัดนัดไปเที่ยวบ้านแก้วไง " เด็กหญิงหน้าตาน่ารักผิวเหลือง เอ่ยถามเมื่อทุกคนจัดที่นั่งตามใจชอบเรียบร้อยแล้ว
"ใช่ เราก้รออยู่ว่าจะไปกันวันไหน แต่ไม่เห้นมีใครโทรมาเลยนะ ว่าไง ไอ้พัฒน์ ไอ้เคน"เด็กหญิงอีกคนเอ่ยบ้าง ผิวสองสีที่ดูเนียนๆไม่ทำให้รู้สึกว่าเธอคนนี้เป้นคนผิวคล้ำ
"หยุดเลยพวกเธอสองคน หนอยแน่! แล้วนึกได้ทำไมตัวเองไม่โทรนัดล่ะ จริงๆแล้วพวกเธอก้ขี้เกียจใช่มะ" ไอ้พัฒน์ คนปากกล้าประจำกลุ่ม เอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด
"ใช่แล้ว ยายพวกตัวดีทั้งหลาย"ไอ้เคนกับเก่งร้องสนับสนุน
"อ้าวแล้วพวกนายล่ะ ทำไมไม่โทร มันก็เหมือนกันแหละใช่ม้า "บีมสาวน้อยตาคมถามแล้วยักคิ้วตอบอย่างท้าทาย
"เอ้ย! หยุดเถียงกันได้แล้ว มันพอกันทั้งกลุ่มแหละ หน่อยแน่! โยนกันไปโยนกันมานะไอ้ความผิดเนี้ย วันหลังบอกมาตามตรงว่าไม่อยากไปนะ จะได้ไม่เสียเวลารอ" ไอ้แก้วหน้าหวานร้องห้ามแบบเคืองแล้วนิ่งไป
ทุกคนในกลุ่มหันมองเจ้าของเสียง หน้าเสียกันไปตามๆกัน ไม่เว้นแม้แต่เก่ง เก่งเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ไม่ได้กระตือรือร้นทั้งที่เพื่อนตั้งหน้าตั้งตารอให้ไปเที่ยวบ้าน แก้วยังคงนิ่งไม่หันมาคุยกับเก่งและเพื่อนๆ
"เฮ้ย! ไอ้แก้วมันโกรธแล้วดูดิ ไม่น่าเลย"ไอ้พัฒน์หันมากระซิบบอกคนอื่นๆ สองสาวหน้าใสหน้าเสียเพระเป้นต้นเหตุ
" ไอ้เก่ง เอ็งไปดึงมันมาที่เดี๋ยวไงพวกเราจะต้องขอโทษมัน "ไอ้พัฒน์กระซิบบอกเก่ง เด็กหนุ่มหันไปอย่างว่าง่าย พลางสะกิดเพื่อนตัวเล็ก
"สะกิดทำไม มีไร ห๊า" แก้วตอบกลับมองตาขวาง
เก่งและเพื่อนรู้สึกหนาวขึ้นมายังไงไม่รู้ ถึงแม้แก้วจะเป้นคนตัวเล้ก แต่ใจแข็งเหลือเกิน จำได้ว่ามันเคยโกรธไอ้พัฒน์ที่ล้อ มันว่าเป็นกระเทย จนมันไม่ยอมพูดด้วยเกือบเดือน เก่งคิดว่าคราวนี้ดุส่อเค้าว่าจะเป็นแบบเดิมอีกเพราะดูแก้วจะโกรธมาก
" มีไรก็พูดมา" มันทำเสียงเย็นชาใส่เก่งและเพื่อน ทำให้ทุกคนต้องสะกิดเกี่ยงกัน
"ตกลงมีไรกันแน่ " ไอ้แก้วตาขวางมองเรียงตัว
" คือพวกเราขอโทษนะที่ทำให้นายรอน่ะ พวกเราไม่ได้เจตนานะ" แพทถูกดันมาให้เป็นคนเจรจา ส่วนเก่งและเพื่อนคนอื่นพยักหน้าพร้อมกัน
" เอาเป้นว่าเรารับคำขอโทษแล้วกันแต่เราจะจำไว้ว่าพวกเธอทำอะไรไว้กับเรา" มันพูดพร้อมมองเรียงตัว แล้วหันหน้าเดินมุ่งหน้าไปที่ประตู ก่อนหันหน้ากลับมามองเก่งและเพื่อนที่หน้าเสียอยู่ พร้อมตะโกนขึ้นว่า
" กูล้อเล่นโว้ย !!!! .... ฮ่าๆ ว่าแล้วแก้วก็วิ่งหนีไป ตามด้วยเสียงด่าทอของเพื่อนพร้อมเสียงวิ่งไล่ของเก่ง พัฒน์และ เคน สนั่นห้องเรียนไปหมด
นี่! ทุกคนเงียบ ๆ เสียงอาจารย์ที่ปรึกษาดังมาเมื่อเห็นว่าเสียงดังพึมพัมยังไม่เงียบขณะที่เดินเข้ามา เก่งเงียบเสียงและปล่อยมือจากคอเพื่อนตัวเล็ก หลังจากที่จับแก้วได้หลังห้องเรียน และกำลังลากตัวมาให้เพื่อนๆฉลองศรัธทา แต่เสียงอาจารย์เข้ามาขัดจังหวะก่อน
"ฝากไว้ก่อนเหอะ เอ็ง" เก่งและเพื่อนคำรามเมื่อเห็นแก้วยิ้มร่าเมื่อรอดตัวไปได้ อาจารย์ท่านนี้เป็นที่คุ้นเคยกันดีเพราะเคยสอนคณิตให้เก่งมาแล้ว แต่ไม่เคยอยู่ในความดุแลของอาจารย์ลักษมี(ชื่ออาจารย์)เลย แต่เก่งคิดว่าอาจารย์ดุท่าทางใจดี ถึงแม้ว่าจะพยายามทำตัวให้ลูกศิษย์กลัว แต่แววตาและสีหน้าบอกให้ถึงใจใจที่มีความปราณีสูง
ห้องของเก่งนั้นส่วนมากเป็นคนคุนเคยกันเพราะเรียนร่วมกันมาตั้งแต่ ม.3 เก่งอยู่ห้อง 2 สายวิทย์ ถึงแม้ไม่ใช่ห้องคิงแบบห้อง1 แต่เก่งกลับดีใจที่มาอยู่ห้องนี้เนื่องจากทุกคนในห้องรักกันดี จนอาจารย์หลายท่านเอ่ยปากชมเด็กห้องของเก่ง
"วันนี้มีเด็กใหม่เข้าเรียมรวมกับเราด้วยนะ เพิ่งย้ายมา เอ้าเธอแนะนำตัวซิ" อาจารย์ลักษมีบอก เมื่อเด็กหนุ่มตัวขาวสูงคนหนึ่งเดินเข้ามา
"แพทดูดิ หล่ออะ" สาวบีมผู้ก่ากั๋นกระซิบบอกแพทผู้เรียบร้อย โดยที่แพทก้มองเป้าหมายเดียวกับบีม
"ผมชื่อณัฐพล ครับยินดีที่ได้รู้จัก" เสียงฮือฮาของสาวในห้องดังขึ้น เมือเด็กหนุ่มตัวสูงขาว เอ่ยแนะนำแล้วยิ้ม
"อืมไอ้นี่หน้าขาวชะมัดยาดเลย ตัวแม่งโคตรสูงเลย เอ คุ้นๆ ว่ะ" เก่งคิด แล้วรู้สึกงงตัวเอง ตัวเขาจำได้แน่ว่าไม่เคยเจอไอ้ผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่นี่ ! เก่งพยายามคิดเพราะมั่นใจว่าต้องเคยเจอแน่ แต่ไม่รู้ที่ไหน เก่งจ้องนานจนเด็กหนุ่มยืนหน้าชั้นเรียนสังเกตจึงมองตอบมา แล้วยิ้มมุมปากให้ รอยยิ้มนั้นดูดีใจ แต่มันทำให้เก่งยิ่งงง!
วันนี้อีกวันที่วุ่นวายของเก่ง เนื่องจากไหนจะต้องเรียนไหนจะ ต้องเตรียมหาชมรมกิจกรรมเสริม(โรงเรียนบังคับให้เข้า) เก่งหนักใจเนื่องจากชอบหลายอย่างโดย เฉพาะชมรมบาส กับฟุตบอลแต่สุดท้ายก็โดนอาจารย์ฝ่ายศิลปกรรมลากเข้ามาที่ชมรมจนได้ไอ้แก้วเช่นกัน
เก่งรู้สึกเซ็งเมื่อโดนบังคับ ก็ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อตัวเขาเป็นนักกวาดถ้วยรางวัลศิลปกรรมประจำเขตอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่เก่งต้องมานั่งอยู่ในห้องศิลปะอีกครั้ง ทั้งที่บอกกะตัวเองไว้แล้วว่า เทอมนี้จะเข้าชมรมบาสให้ได้
" เฮ้ย เบื่อ" เก่งร้องออกมาหลังจากเลิกชมรม พร้อมเตรียมตัวกลับบ้าน
" ทำไมว่ะ" ไอ้แก้วร้องถามขณะที่ลงมือเก็บดินสอลงกล่องแล้วใส่กระเป๋า
"ก็ข้าเบื่อต้องมานั่งวาดรูปง่ะ ข้าอยากออกไปอยู่ชมรมอื่นมั่ง " เก่งบ่นกะปอดกระแปด
" มันสายไปแล้วว่ะ อาจารย์เค้าคงอยากเก็บเอ็งกะข้าไว้ล่ารางวัลน่ะสิ เอาเหอะ เอ็งก็ช่วยจารย์แกหน่อย แล้วค่อยหนีไปเล่นบ้างแกก็คงไม่ว่าหรอแล้วอีกอย่างกิจกรรมมันก็มีวันเดียวเอง "แก้วพูดปลอบแต่เด็กหนุ่มยังคงหน้าหงิก แล้วชวนกันเดินออกมาหน้าประตูโรงเรียน
" ไอ้พวกนั้นมันกลับไปหมดแล้วง่ะ เอ็งกะข้ากลับกันมั่งเหอะ" ไอ้แก้วบอก พลางตบไหล่โบกมือลา
เก่งเริ่มเดินเงียบเมื่อเริ่มคิดถึงเรื่องนักเรียนใหม่คนนั้น
"หน้ามันคุ้นนะ แต่นึกไม่ออก " เก่งขมวดคิ้วพึมพำกับตัวเอง คิดวนไปวนมาอยู่หลายรอบ เสียงกริ้งจักรยานดังรัวๆขึ้น
" เฮ้ยหลบๆๆ" เก่งหันมองแล้วรู้สึกว่ามันพุ่งเข้าถึงตัวอย่างรวดเร็ว! "เฮ้ย !" เก่งกระโดดหลบจักรยานลงข้างทาง จักรยานคันนั้นก็หักหนีตัวเขแล้วชนเข้ากับต้นไม้โครมใหญ่! ก่อนจะล้มลง เก่งมารู้สึกตัวอีกที่ก้เห็นว่าขาตัวเองอยู่ในสระบัวข้างทาง ดีที่น้ำตื้นแค่เข่า ส่วนเจ้าจักรยานซิ่งคันนั้นลิ้มกลิ้งอยู่ตรงนั้น เจ้าของจักรยานหันมามองด้วยสายตาตกใจ
"เอ้ย! นายเป็นไรเปล่า เราขอโทษเราเบรกไม่ทัน " ไอ้เด้กใหม่ที่เพิ่งเข้าวันนี้น่ะเอง อ้าวดูดิยังมายิ้มขำอีก
"เราไม่เป้นมั้งเนี้ย แค่ลงมาแช่โคลนเล่นเท่านั้นเอง " เก่งพูดกวนกลับ ก็แหมไอ้บ้าเอ้ยเห้นอยู่เนี้ย
"นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เอ้า! ขึ้นมา"เด็กใหม่ พูดพร้อมยืนมือมาฉุด
" ไม่ต้องเราขึ้นเองได้ " เก่งพูดพร้อมตะกายขึ้นจากบ่อ อย่างทุลักทุเล
" วันหลังนายหัดขี่จักรยานให้มันระวังคนมั่งนะ ทำงี้คนอื่นเค้าเดือนร้อน หัเราะทำไม ห๊า" เก่งร้องบอกเมื่อเห้น เด็กหนุ่มตัวสูงหัวเราะสภาพของตน แล้วเดินหนีไป
"เอ้ยเดี๋ยวเราไปส่งบ้าน " เด็กหนุ่มตัวขาวสูงตะโกนบอก เก่งหันมองตาขวางใส่
" นายกลับไปหัดขี่จักรยานใหม่ก่อนเหอะแล้ว ไป๊" ว่าแล้วรีบเดินไปด้วยความโกรธ อะไรว่ะไอ้นี่ หัวเราะอยู่ได้ทำคนอื่นเดือดร้อนแท้ๆ
" งั้นเอาไว้วันหลังน๊า....." ดุมันยังตะโกนตามอีกไม่ได้สำนึกเลย ไอ้บ้าเอ้ย กวนติงจริงเลย เสียงหัวเราะของหนุ่มน้อยร่างสูงเมื่อกี้ ทำให้เก่งเคืองมากจริงๆ แต่ความรู้สึกที่เหมือนคุ้นเคยกัน ยังคงวนเวียนอยู่นั่นเอง...