วันนี้คุณชายจางมาหาเหลียนอิง
คุณชายจาง เป็นคุณชายที่รูปงาม ทั้งยังร่ำรวย ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว แม้คณิกาหลายคนจะแอบนินทา โดยเรียกเขาว่า คุณชาย 'เจือจาง' บ้าง 'จืดจาง' บ้าง ก็ตามที เซี่ยเอ๋อร์ไม่เข้าใจนัก ว่าทำไมถึงเรียกเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่คุณชายเองก็ออกจะสง่างาม แถมยังหล่อเหลาขนาดนี้ ไม่ได้ดูจืดชืด เจือจาง ดังฉายาที่แอบได้รับนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
คุณชายจางนอกจากจะเป็นแขกของเหลียนอิง ยังเป็นเพื่อนสนิทของเหลียนอิงอีกด้วย ทั้งคู่มักมาพบปะ เดินหมาก ร่ำสุรา และพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ กันยันเช้า โดยไม่ได้ทำ 'เรื่องอย่างว่า' กันสักครั้ง ดังนั้นยามดื่ม เหลียนอิงจึงอนุญาตให้เซี่ยเอ๋อร์อยู่เป็นเพื่อน คอยช่วยรินเหล้าให้ด้วย
แขกส่วนใหญ่มักมาเล่นเกม 'เรื่องอย่างว่า' กันกับนายโลมที่นี่ แต่คุณชายจาง กลับเป็นข้อยกเว้น เขามาเพียงเพราะอยากได้เพื่อนคุยเท่านั้น
ใบหน้าสง่างามแย้มยิ้มให้เด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน มือแข็งแรงลูบไล้เรือนผมนุ่มด้วยความเอ็นดูแทบทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากัน เซี่ยเอ๋อร์มักจะนั่งดูทั้งคู่เดินหมาก แต่ด้วยความที่ยังเด็ก นั่งดูสักพัก เขาก็เริ่มง่วงงุน บางทีก็โงกหลับ และคุณชายจางก็ชอบอุ้มเขา ไปนอนบนเตียงสำหรับแขก แล้วปล่อยให้เขาหลับต่อไป โดยไม่ได้ปลุก
คุณชายจางเป็นคนใจดีนัก ถ้านายแม่รู้เรื่องนี้มีหวังเขาก้นลายแน่ แต่เหลียนอิงเจ้านายที่แสนใจดีของเขากลับไม่ว่าอะไร และไม่ฟ้องนายแม่ด้วย ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะคุณชายจางขอร้องไว้
เซี่ยเอ๋อร์ยังเคยแอบคิด ว่าบางทีถ้าคุณชายจางกับเหลียนอิงทำเรื่องอย่างว่ากัน เขาอาจจะได้แอบศึกษาด้วย เพราะคุณชายจางนั้นใจดี แต่ก็น่าแปลก แม้ว่าสองคนนี้ยามอยู่ด้วยกัน ดูเหมาะสมกันนัก แต่ทุกครั้งที่คุณชายจางมาหา กลับไม่มีการทำเรื่องอย่างว่าเลย
พวกเขาบางทีก็ชอบคุยกัน แล้วก็ยิ้ม ยิ้มแล้วก็หันมามอง เซี่ยเอ๋อร์สบตาสองคู่ที่ดูแปลก ๆ นั้นอย่างงง ๆ แต่ก็ไม่รู้จะถามอะไร
ฐานะแค่เด็กรับใช้อย่างเขา ไม่มีสิทธิ์พูดคุยก่อนอยู่แล้ว ถ้าแขกไม่ได้ถามถึง
แต่ในวันนี้ คุณชายจางกลับคุยกับเขา
"อีกไม่กี่วันแล้วสินะ ที่เจ้าจะต้องถูกประมูลพรหมจรรย์"
"ขอรับ" เซี่ยเอ๋อร์รับคำอย่างนอบน้อม กับแขกของเหลียนอิง เขาต้องนอบน้อมเป็นพิเศษ
"ถ้าข้าจะไถ่ตัวเจ้า ให้เป็นอิสระก่อนการประมูล เจ้าจะว่าอย่างไร"
เซี่ยเอ๋อร์ฟังคำคุณชายจางอย่างงุนงง ก่อนตัดสินใจถามขึ้นว่า "ท่านจะไถ่ข้าไปทำไมขอรับ"
"เจ้าจะได้ไม่ถูกใครพรากพรหมจรรย์ โดยไม่เต็มใจไงล่ะ" คุณชายจางตอบพลางยิ้มน้อย ๆ อย่างใจดี
"เอ้อ...ท่านหมายถึง ข้าจะถูกทำ 'เรื่องอย่างว่า' ในคืนนั้นสินะขอรับ"
"ชะ...ใช่แล้ว ถ้าเจ้าไม่ต้องการ ข้าจะช่วยเจ้าเอง เจ้าว่าดีหรือไม่"
เซี่ยเอ๋อร์ส่ายหน้าถี่ยิบ "ไม่เอาหรอกขอรับ ข้าอยากลองทำ 'เรื่องอย่างว่า' นี่ขอรับ!"
เด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่จริงจังกว่าเดิม "เจ้านายบอกข้าว่า ถ้าข้าทำ 'เรื่องอย่างว่า' ได้ดี ไม่แน่ข้าจะมีบ่าวรับใช้ แถมยังอาจได้เลื่อนขั้น...บางทีอาจจะได้เป็นอันดับ 1 เหมือนท่านชิวชิว ดังนั้นข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าข้าจะได้เป็นอันดับ 1!"
เซี่ยเอ๋อร์ว่าอย่างดื้อดึง เหลียนอิงมองมาพลางแอบปิดปากกลั้นหัวเราะ โดยมีคุณชายจาง ที่แม้จะยิ้ม ก็เจื่อนเต็มที ลอบค้อนให้อีกฝ่ายอยู่อย่างไม่พอใจนิดหน่อย
คุณชายจางหายใจเข้าลึก พยายามตีสีหน้าใจดีจนสำเร็จอีกรอบ เขาลูบผมนุ่มของเด็กหนุ่มแผ่วเบา "เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ"
ร่างบอบบางพยักหน้ารับ อย่างกระตือรือร้นกว่าเดิม แล้วพูดประโยคแทงใจว่า "ก็ถ้าคุณชาย อยากทำ 'เรื่องอย่างว่า' กับข้า คุณชายก็ประมูลข้าให้ได้สิขอรับ รับรองว่าข้าบริการถึงใจแน่"
คุณชายจางกุมจมูกแทบไม่ทัน เมื่อเผลอคิด 'เรื่องอย่างว่า' ตามคนพูดไปเสียแล้ว เลือดที่ซึมออกมาตามง่ามมือ ทำให้เซี่ยเอ๋อร์ร้องออกมาอย่างตกใจ
"คุณชายขอรับ ไม่สบายรึเปล่าขอรับ มีเลือดออกมาทางจมูกด้วย"
เหลียนอิงที่แทบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหวแล้ว จึงได้แต่เดินเนียนไปหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งให้ชายหนุ่ม พลางพูดปลอบคนแตกตื่นด้านข้างว่า "ไม่เป็นไรหรอกเสี่ยวเอ๋อ คุณชายจางแค่เผลอเดินชนประตูเมื่อครู่ สงสัยว่าจะแรงไปหน่อย เลือดกำเดาเลยไหล"
"อ๊ะ เลือดไม่ยอมหยุดเลยขอรับ พวกเราจะทำอย่างไรดี" เด็กหนุ่มคว้าผ้าอีกผืนมาช่วยซับให้ ด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยอย่างที่สุด เล่นเอาเลือดทะลักไม่มีหยุด ตามความใกล้ชิดที่เข้ามาโดยไม่ได้ตั้งตัวนั้น
เหลียนอิงเห็นดังนั้นจึงรั้งตัวเด็กหนุ่มไว้ แล้วสั่งว่า "เจ้าไปเอาน้ำอุ่นมาดีกว่า ได้ดื่มน้ำสักเล็กน้อย อาการของคุณชายน่าจะดีขึ้น"
ได้ยินดังนั้น เซี่ยเอ๋อร์ก็รีบลุกขึ้นแทบจะในทันที "รอหน่อยนะขอรับคุณชาย ข้าจะรีบไปเอามาให้เดี๋ยวนี้แหละ อย่าพึ่งเสียเลือดจนตายเสียก่อนนะขอรับ" ว่าแล้วเขาก็ผลุนผลันวิ่งออกไป
พอลับร่างเล็ก ๆ นั้น คุณชายจางก็ถอนหายใจยาว เหลียนอิงจับผ้าเช็ดหน้า ยัดเข้าไปในจมูกคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว จนอีกฝ่ายกุมจมูกแทบไม่ทัน
เสียงหัวเราะคิกทำให้คนซับเลือดมองมาอย่างแอบเคือง เหลียนอิงพูดต่อไปอย่างนึกสนุก "ข้าว่าท่านรีบทำให้เลือดหยุดไหล ก่อนเสี่ยวเอ๋อกลับมาน่าจะดีกว่านะ ไม่เช่นนั้นหากท่านคิดลึกไปกว่านี้ อาจจะเสียเลือดตายจริง ๆ ก็เป็นได้"
คุณชายจางค้อนให้ด้วยสายตา แล้วรีบทำการซับเลือดโดยด่วน ด้วยรู้ว่าอาจเป็นได้อย่างว่าจริง ๆ
"ข้าว่าท่านก็ไม่เห็นต้องคิดมากเลยนี่ เงินท่านก็มี ประมูลเขาซะ ท่านก็จะได้ครอบครองเขาโดยชอบธรรมในคืนแรกนั่น"
"ข้าทำแน่อยู่แล้ว" คุณชายจางขัดทันที "แต่ว่า..คืนต่อไปเล่า..."
"ท่านทำให้เซี่ยเอ๋อร์เป็นของท่านแล้ว เด็กคนนั้นจะยังอยากเสาะหาใครอีก กล่อมอีกนิดหน่อย เขาก็คงยอมให้ท่านไถ่ตัวแล้ว" ว่าพลางถอนหายใจ "เฮ้อ แต่จะว่าไป ท่านจะบังคับซื้อตัวไปเลย นายแม่ก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ นางคงยินดีด้วยซ้ำ ที่จะโก่งราคาค่าตัวได้อีก"
คุณชายจางส่ายหน้าเบา ๆ "ข้าไม่อยากฝืนใจเซี่ยเอ๋อร์ แบบนี้แหละดีแล้ว ไว้คืนแรกของเรา...ข้าจะทำให้เขา ยอมรับข้าเอง!"
เหลียนอิงมองมาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ที่ยากจะบอกได้ว่าคิดอะไรอยู่ "ก็ดี ข้าจะรอดู ว่าเทคนิคการกล่อมของท่าน จะดีแค่ไหน"
"ขึ้นสิบห้าค่ำที่จะถึงนี้ ก็จะถึงเวลาประมูลแล้ว ท่านเตรียมเงินไว้แล้วกัน" ว่าแล้วก็มองมาอย่างเป็นต่อ "อ้อ แล้วก็อย่าลืม...'ส่วนแบ่งของข้า' ด้วยล่ะ ถ้าเด็กงอแงตอนกลางคืน จะหาว่าข้าไม่เตือนไม่ได้นะ"
"เฮอะ เจ้าคนหน้าเลือด ข้าน่ะ ไม่ลืมหรอก"
มือเรียวยาวแบออกเบื้องหน้า พลางยิ้มหวาน
"งั้นท่านก็จ่ายมาก่อน ค่าตัวของเซี่ยเอ๋อร์ ที่ข้าอนุญาตให้อยู่คืนนี้กับท่าน ทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กรับใช้ของข้า"
คุณชายจางโยนถุงเงินให้ อย่างไม่สบอารมณ์นัก "อีกไม่นานเซี่ยเอ๋อร์ ก็จะไม่ใช่เด็กรับใช้ของเจ้าแล้ว ถึงตอนนั้น ข้าไม่ให้เจ้าอีกแน่"
"หึ ก็ไว้ถึงตอนนั้นก่อน ค่อยว่ากันสิขอรับ คุณชาย" เหลียนอิงว่าพลางโยนถุงในมือขึ้นลง อย่างชั่งน้ำหนัก เพียงแค่รับรู้ถึงความหนัก เขาก็สามารถบอกถึงคุณค่าของภายในได้เป็นอย่างดี
เซี่ยเอ๋อร์กลับมาพอดี พร้อมน้ำร้อนแก้วใหญ่ หากเหลียนอิงกลับตัดบทว่า "วันนี้คุณชายไม่ค่อยสบาย เขาจะกลับก่อนเวลา เจ้าวางไว้ตรงนั้นแหละ"
เด็กหนุ่มมีท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนจะวางแก้วไว้ตามคำสั่ง "แต่ว่า...คุณชาย...เป็นอะไรมากมั้ยขอรับ...ข้า...ข้ากลัวท่านจะตาย"
คุณชายจางยัดผ้าเช็ดหน้าเข้าจมูกลึกกว่าเก่า เมื่อมองใบหน้าสุดแสนเป็นห่วงนั้นจนใจเต้นโครมคราม "ข้า..ไม่...ไม่เป็นไร ข้าไปก่อนนะ" เขาว่าพลางก้าวยาว ๆ ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เลือดจะพุ่งมากกว่านี้
เหลียนอิงมองร่างสูงนั้นจากไปอย่างขบขัน ในขณะที่เซี่ยเอ๋อร์กลับมองตามอย่างกังวล แต่พอเหลียนอิงยืนยันซ้ำ ว่าไม่เป็นไรแน่ ๆ เด็กหนุ่มก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก กลับมายิ้มแย้มได้ตามเดิม
"ข้าชักเหนียวตัวอยากอาบน้ำแล้วสิ เจ้าไปเตรียมน้ำก่อน แล้วข้าจะตามไป" เด็กหนุ่มรับคำ แล้วจากไปตามคำสั่งอีกครั้งอย่างว่าง่าย
ลับร่างของเซี่ยเอ๋อร์ ถุงในมือก็ถูกเปิดออก ภายในมีทองคำอยู่หนึ่งก้อน ขนาดไม่ธรรมดาเสียด้วย เหลียนอิงมองมันแล้วหัวเราะ พลางพึมพำกับตัวเองอย่างมีความสุขว่า
"คุณชายผู้รักเด็กอย่างท่าน ถึงจะน่าสนใจน้อยไปบ้าง แต่ก็ยังทำให้กระเป๋าข้าตุงได้โดยไม่เหนื่อยแรง เรื่องอะไรข้าจะเลิกง่าย ๆ กันล่ะ!"
----------------------------------
เวลา 1 สัปดาห์ ผ่านพ้นไปเร็วนัก คืน 15 ค่ำ มาเยือนแล้วในยามนี้ ตอนนี้ยังคงย่ำค่ำ และก่อนพิธีจะเริ่ม เซี่ยเอ๋อร์จำเป็นต้องดูดีที่สุด
สินค้าประมูล หากไม่บรรจงแต่งสรร อาจทำให้ราคาตกได้ และแน่นอนว่าหวังเหมยผู้แสนจะมีหัวทางการค้า ย่อมไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
นาน ๆ ครั้ง การประมูลถึงจะเกิดขึ้น เฉพาะช่วงที่มีบ่าวรับใช้ อายุครบ 15 ปี จึงเป็นนาน ๆ ครั้ง ที่จะได้เงินก้อนใหญ่เช่นกัน
เหลียนอิงยังคงอยู่เคียงข้างเด็กหนุ่ม เสมือนราวรุ่นพี่ที่รู้งาน คอยสอนเรื่องราวต่าง ๆ ให้
เป็นหน้าที่ของคณิกาผู้เป็นเจ้านายอยู่แล้ว ที่จะสั่งสอนเรื่องราวต่าง ๆ ให้เด็กรับใช้ของตน ซึ่งจะเป็นนายโลมเต็มตัวในค่ำคืนหลังการประมูล ให้รู้งานเพียงพอปรนนิบัติผู้ชนะประมูลได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกับราคาที่จ่ายไป
ร่างเล็กในวันนี้จึงถูกจับแต่งกายเสียงดงามกว่าที่เคยมากมายนัก ด้วยความที่เป็นคนตัวผอมบางรูปร่างดีอยู่แล้ว การได้ใส่เสื้อผ้าชั้นดีที่แสนกรุยกราย ช่วยขับเน้นผิวกายที่อ่อนเยาว์ให้โดดเด่นขึ้น ไหนจะเครื่องประดับประทินผิว ซึ่งแต่ก่อนมิเคยได้ใช้ จนตอนนี้ก็ได้รับการแต่งเติมด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญของหอที่ถูกเรียกตัวมา เพื่อกิจกรรมทำเงินในวันนี้เป็นการเฉพาะ
ปกติแล้วนายโลมทั้งหลาย จะแต่งตัวแต่งหน้าด้วยตนเอง หรือไม่ก็จ้างช่างประจำ โดยหักค่าจ้างจากรายรับส่วนตัวไว้
แต่เด็กน้อยผู้ผ่านเข้าพิธีประมูลพรหมจรรย์กลับเป็นข้อยกเว้น เนื่องด้วยต้องงดงามที่สุด หวังเหมยจึงเป็นผู้จัดการเอง ไม่ว่าจะเป็นการจ้างช่างที่ชำนาญการ เลือกชุดที่ดูดีรับรูปร่าง และอื่น ๆ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านั้น ล้วนหักไว้กับค่าประมูลที่ได้รับในคืนนี้ทั้งหมดทั้งสิ้น
เซี่ยเอ๋อร์นั่งนิ่ง ๆ ให้แต่งตัวมาหลายชั่วโมงแล้ว จนตอนนี้แข้งขาชักหนึบชาจนเมื่อยขบ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการได้เป็นนายโลมจะยุ่งยากอะไรขนาดนี้
แต่เมื่อได้มองเงาตนเองในกระจก เด็กหนุ่มก็อดจะปลาบปลื้มอยู่ลึก ๆ ไม่ได้ ภาพสะท้อนที่เห็นงดงามนัก อาจบางที เทียบเคียงได้กับเหลียนอิง แม้ไม่สง่างามเท่า แต่ก็ยังดูน่ารัก ไม่ได้ดูกะโปโลอย่างที่มองจากเงาในน้ำหลายวันก่อน
เหลียนอิงมองเด็กในปกครองพลางแย้มยิ้ม มือเรียวยาววางบนไหล่เล็ก บีบนวดเบา ๆ ให้กำลังใจ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองผู้กำลังจะเป็นอดีตเจ้านายของตนอย่างอาลัยอาวรณ์
"ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ท่านต้องรักษาตัวด้วยนะขอรับ" เสียงอ่อย ๆ พึมพำแผ่วเบา ดวงตากลมโตคู่สวย เริ่มรื้นด้วยน้ำตา จนอีกฝ่ายต้องใช้ผ้าซับออกให้อย่างอ่อนโยน เพื่อไม่ให้เครื่องสำอางที่แต่งไว้ต้องลบเลือน
"ข้าไม่เป็นอะไรหรอก เจ้านั่นแหละ วันนี้เป็นวันสำคัญของเจ้า ต้องดูแลแขกคนแรกของเจ้าให้ดี อย่างที่ข้าสอนด้วยนะ เข้าใจไหม"
ร่างเล็กพยักหน้ารับ รู้สึกคล้ายต้องผละจากอ้อมอกมารดา มาเผชิญโลกกว้างเพียงลำพังก็ไม่ปาน หากแม้ไม่มั่นใจนัก ใบหน้าใสก็ยังพยายามแย้มยิ้ม
"ข้าจะทำตามที่ท่านสอนไว้ทุกอย่าง แล้วข้าจะต้องเป็นอันดับ 1 ของที่นี่ให้ได้ นายท่านคอยดูนะขอรับ"
"เรียกว่า 'พี่เหลียนอิง' สิ ตอนนี้ฐานะของเจ้า ไม่ได้ต่างไปจากข้าแล้วนะ"
"..." เซี่ยเอ๋อร์หน้าแดงด้วยความขัดเขิน ก่อนพึมพำเสียงแผ่ว "พี่เหลียนอิง..."
ร่างสูงของเหลียนอิงโอบกอดเด็กหนุ่มไว้ "ข้าขออวยพรให้เจ้าเป็นนายโลมที่ดี และติดอันดับโดยไว"
"ขอบคุณมากฮะ ท่านพี่เหลียนอิง"
ตากลมโตเริ่มเอ่อคลอด้วยน้ำตาอีกแล้ว มือคล่องแคล่วช่วยซับมันออกไป ก่อนจะกำชับเสียงดุเล็กน้อยว่า "เลิกร้องไห้ได้แล้ว เจ้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ ผ่านคืนนี้ไป เจ้าก็จะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ดังนั้นจงมั่นใจในตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่ข้าเคยสอน แล้วทุกอย่างจะดีเอง"
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง "ข้าจะเชื่อท่าน พี่เหลียนอิง"
---------------------------------------------
การประมูลดำเนินไปอย่างดุเดือด แม้ว่าเซี่ยเอ๋อร์ จะดูเอ๋อ ๆ แต่ในความเอ๋อ ยังคงมีความน่ารัก และแน่นอน ความน่าแกล้ง อยู่เสมอ รอยยิ้มสดใสไร้เล่ห์เหลี่ยม ยิ่งดูใสซื่อบริสุทธิ์ จนแขกหลากหลายคน ล้วนแล้วแต่หมายมั่นปั้นมือ จะเป็นคนเปิดบริสุทธิ์เด็กหนุ่มผู้นี้ จนแทบจะเกิดการแก่งแย่งชิงกัน
ร่างเล็กที่ยืนอยู่กลางเวทีประมูล ยังคงสั่นเล็กน้อย แววตาหื่นกระหายจากหลายคนที่จับจ้อง เริ่มสร้างความรู้สึกแปลก ๆ และหวาดกลัวให้กับเด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสา แม้คืนนี้ จะเป็นคืนแรก ที่เขาจะได้ลองทำ 'เรื่องอย่างว่า' ของจริง แต่เขาเองก็อดประหม่าแกมตื่นกลัวมิได้
แต่เขาก็ต้องใจชื้นขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นในกลุ่มผู้ประมูล ยังคงมีคุณชายจางอยู่ด้วย แถมมักจะเสนอราคาที่สูงกว่าเพื่อตัดกำลังคนอื่นลงอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ราคาค่าตัวยังสูงขึ้นไปอีก ใบหน้าใสก็สบตากับคุณชายจางเข้าจนได้ ร่างบอบบางยิ้มให้แกมทักทายอย่างน่ารัก เล่นเอาคนถูกทักใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่ต้องกระตุ้น ร่างสูงพลันผุดลุกขึ้นไม่พูดพร่ำทำเพลง เสนอค่าตัวเพิ่มอีกเท่าตัวจากราคาที่ก็สูงอยู่แล้ว เล่นเอาคนอื่นอึ้งกันไปตาม ๆ กัน สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าแข่งด้วยอีก การประมูลจึงจบลงโดยเซี่ยเอ๋อร์เป็นของคุณชายจางอย่างถูกต้องในที่สุด
ร่างเล็กโผเข้าหาชายหนุ่มแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ คุณชายจางยืนแข็งทื่อไปเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่นึกไม่ฝันจะถูกหอมเช่นนี้ มือเพรียวบอบบางโอบกอดร่างสูงของเขาไว้ พลางพึมพำเสียงแผ่วเบาอย่างโล่งอก
"ข้าดีใจนะขอรับ ที่คนประมูลข้าได้ คือคุณชาย" น้ำเสียงยินดีไร้ซึ่งการเสแสร้ง ทำให้อีกฝ่ายหัวใจพองโต ร่างแข็งแรงโอบอุ้มเซี่ยเอ๋อร์ไว้แนบอก ตอบกลับอย่างยินดีเช่นกัน
"ต่อให้ข้าต้องขายทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าก็จะขายมันเพื่อเอาเงินมาประมูลเจ้า"
คนฟังแอบงุนงงเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจริงจังกับเขาถึงเพียงนี้
"ท่านคงหาคนรินเหล้าที่เก่งเท่าข้าไม่ได้อีกแล้วสินะขอรับ ถึงได้พยายามประมูลตัวข้าขนาดนี้" เซี่ยเอ๋อร์ก็ยังคงเอ๋อได้ตลอดรอดฝั่ง คำพูดน่ารักนั้นทำให้คุณชายจางอมยิ้ม
"เจ้าเป็นคนที่่รินเหล้าได้เก่งที่สุดในโลกเลย ถ้าข้าไม่ประมูลเจ้า ข้าจะประมูลใครกัน"
"ถ้างั้น...คืนนี้...ท่านจะอยู่กับข้า...ทั้งคืน..." เสียงแกมเขินอายเอ่ยขึ้น ริมฝีปากบางขบกันเล็กน้อย แล้วพึมพำแผ่วกว่าเก่าว่า "แล้ว...ท่านจะทำ 'เรื่องอย่างว่า' กับข้าด้วย...ใช่ไหมขอรับ"
คำถามนั้นราวเสียงสวรรค์ คุณชายจางแทบจะเลือดพุ่งอีกครั้ง หากงวดนี้เขาเตรียมพร้อมมาดี ได้ยาชั้นเลิศจากหมอประจำตระกูล ที่ทานแล้วจะไม่เลือดกำเดาไหลอีกโดยง่าย ซึ่งนับว่าตัวยานั้นประสบผล ขนาดถูกอ้อนเช่นนี้ เป็นยามปกติเขาคงกลายเป็นคุณชายเจือจางด้วยความขาดเลือด นอนจมกองเลือดตายสนิทไปแล้ว
ทุกครั้งแค่เซี่ยเอ๋อร์รินเหล้าให้ เขาก็เป็นสุขราวได้ดื่มน้ำทิพย์ แม้ว่าจะทำได้เพียงเฝ้ามอง เนื่องจากไม่อยากหักหาญน้ำใจเด็กน้อยที่ยังเป็นเพียงบ่าวในหอเหมยฮัว มิใช่คณิกาเต็มตัวดังเช่นในยามนี้
เขาจึงทำได้เพียงเข้าทางเหลียนอิง ทำทีเป็นมาเดินหมากร่ำสุรา แท้จริงแล้วเป้าหมายย่อมอยู่ที่การได้พบปะเห็นหน้าหนุ่มน้อยคนรินเหล้าเพียงเท่านั้น
แต่ในที่สุด วันที่เขารอคอยก็มาถึงจนได้ เขาได้เซี่ยเอ๋อร์มาครอบครองโดยถูกต้องเสียที
แถมเซี่ยเอ๋อร์เอง ก็อยากจะทำ 'เรื่องอย่างว่า' กับเขาเสียด้วย
ถ้าทำให้เด็กน้อยติดใจได้ การกล่อมให้ยอมไถ่ตัวไปอยู่กับเขา คงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คุณชายจางคิดอย่างมีความสุข
(อ่านต่อหน้า 2 ค่ะ)
====================
นิยายที่ลงไปแล้วในบอร์ดนี้ เผื่อสนใจอยากอ่านเพิ่ม:
Absolution cafe (จบ),
รักนี้พิเศษสามเท่า! : Special Triple (จบ),
สืบเสน่หา (จบ),
หรรษาฆาตกรรม (TBC)เรื่องสั้น (จบแล้วทุกเรื่อง):
ทายาทมรณะ,
Full moon night,
Give me your hand,
เรื่องสั้นนัท-เนยซีรี่ส์