คุณแม่...ครับผม !!! Ch.23 - Horse รถกอล์ฟสีขาวสามคันค่อยๆขับตามกันมาบนถนนเรียบ ผ่านบริเวณทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อนๆ มองเลยไปหน่อยก็เป็นภูเขาลูกขนาดหย่อมวางเรียงเป็นทิวแถวน่ามอง... น้ำฟ้าอุ้มหนูลินเข้าตักโดยจับหันหน้าออกแล้วชี้ชวนหนูน้อยให้มองดูวัหลากสีที่ยืนเคี้ยวเอื้องอยู่ไกลๆ ไม่ก็เป็นแพะสองสามตัวที่พอเห็นรถวิ่งผ่านแล้วตัวเองก็วิ่งหนี หนูน้อยพยายามทำปากเลียนเสียงน้ำฟ้าที่คอยบอกลูกว่าแต่ละอย่างเรียกว่าอะไรบ้าง คนที่นั่งมาข้างกันก็คือคุณหมอณัฐกานต์ ที่คอยเติมเสริมพัฒนาการให้หลานรักไปด้วย... โดยมีคุณหมอกที่อาสาหอบหิ้วตะกร้าใส่ขวดนมและอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กๆน้อยๆนั่งอมยิ้ม...
วันนี้ว่าที่เจ้าของงานแต่งทั้งคู่ชวนพวกเขามาปิกนิกที่หลังรีสอร์ท และถือโอกาสพาเพื่อนเที่ยวไปด้วยในตัว ทีแรกม่านโวยวายอยากนั่งรถกอล์ฟคันนี้ตามหนูลินมาด้วย แต่สุดท้ายก็โดนว่าที่เจ้าบ่าวซิวไปนั่งคันแรกคู่กัน โดยมีรังสิมันต์ที่ท่าทางไม่ค่อยพอใจเช่นกันนั่งไปด้วยอีกคน ส่วนคันสุดท้ายเป็นพนักงานรีสอร์ทที่มาคอยดูแลพร้อมข้าวของอีกเล็กน้อย
นั่งชมวิวกันมาไม่นานก็เห็นเขตล้อมรั้วไม้เตี้ยๆเป็นแนวยาว ที่สุดปลายเขตรั้วก็มีบ้านไม้หลังไม่ใหญ่มากวางอยู่ มีพนักงานยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้าสองคน รถกอล์ฟค่อยๆเลี้ยวเข้าไปอย่างนุ่มนวลและจอดลงตรงบริเวณหน้าบ้านไม้สองชั้น ซึ่งชั้นล่างดูคล้ายถูกจัดให้เป็นสำนักงานอะไรซักอย่าง... ประตูแก้วด้านหน้าเลื่อนออกโดยผู้ชายอายุราวห้าสิบกว่าๆ รูปร่างลงพุงน้อยๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มเหมือนจะอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา ชายคนนั้นเดินอย่างกระฉับกระเฉงมาตรงหน้าโตยธรที่โอบมือตัวเองเข้าราวเอวหญิงสาวที่นั่งข้างกายมาตั้งแต่บนรถด้วยความเคยชิน ผู้ชายตัวอ้วนกลมถอดหมวกปีกกว้างแบบคาวบอยออกแล้วโค้งน้อยๆให้โตยธรพร้อมรอยยิ้มกว้าง ชายหนุ่มพยักหน้าให้แล้วถาม
"ที่ให้เตรียมไว้เป็นไงบ้าง..."
"เรียบร้อยครับพ่อเลี้ยง... ผมจัดโต๊ะไว้ที่ศาลาริมน้ำตามคำสั่งแล้วครับ... ม้าก็เตรียมไว้เรียบร้อย เอ่อ...แต่ไม่ทราบว่าแขกที่มานี่ขี่ม้าเป็นกันทุกคนหรือเปล่าครับ ผมจะได้เตรียมคนของเราไว้คอยบริการ..."
"อืม... ว่าไงครับ...มีใครขี่ม้าไม่เป็นบ้าง..." ก่อนออกมานี่ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะบอกทุกคนว่าจะพามาขี่ม้าด้วย... สีหน้าของแต่ละคนเลยเปลี่ยนไปหน่อยๆ คุณหมอกดูตื่นเต้นเหมือนน้องสาวเปี๊ยบ... ส่วนคุณหมอกานต์ตีหน้าเหยเกเพราะเคยมีความหลังครั้งวัยเยาว์กับม้ามาก่อน น้ำฟ้ามีสีหน้ากังวลเพราะมีเด็กเล็กมาด้วยอีกทั้งตัวเองกเคยแต่เห็นม้าในสวนสัตว์อยู่ห่างๆ ไม่เคยได้แตะสักที... ส่วนเพื่อนเขาเจ้ารังสิมันต์ทำสีหน้านิ่งๆ มองตรงไปยังเด็กหนุ่มน้ำฟ้ากับหลานตาไม่กระพริบ... เท่านี้ก็พอดูออกแล้วว่าใครขี่เป็นบ้าง...
"คงมีแค่เพื่อนฉันคนเดียวมั้งที่ขี่ได้...ชิตน์เตรียมไว้กี่ตัวล่ะ..."
"แปดครับนายเผื่อเลือก... เป็นอาระเบียนสาม เธอร์รัพเบรตสาม กับดราฟท์ฮอร์ส (Draft Horse) สองครับ..." นายชิตน์ตอบ โตยธรพยักหน้ารับ... ซักพักก็รู้สึกเหมือนใครมาดึงแขนเสื้อเขายิกๆอยู่ข้างตัว พอก้มมองก็เห็นดวงตาใสแจ๋วของว่าที่เจ้าสาวจ้องมองมาอย่างมีความหมาย... พ่อเลี้ยงหนุ่มหรี่ตาจ้องกลับแล้วจุ๊ปากบอก...
"...จุ๊ๆ...อย่าได้หวังจะขี่คนเดียวอีกเลยสาวน้อย... คราวนี้เธอต้องมาขี่ตัวเดียวกับฉัน... ขี้เกียจขี่ตามข้ามเขาเหมือนคราวนั้นอีก..." ชายหนุ่มดักคอ เพราะรู้ดีว่าฝีมือการขี่ม้าของสาวน้อยนั้นไม่ได้ถึงกับแย่หากมีคนคอยดูแลอยู่ด้วย...แต่การควบคุมอารมณ์เวลาม้าตกใจของเธอน่ะสิที่ลำบาก แค่ม้ายกขาหน้าขึ้นมาเธอก็ร้องกรี๊ดกรอกหูเจ้าสัตว์สี่เท้า มันก็ตกใจเสียงวิ่งเตลิดไปเสียทุกครั้งน่ะสิ...
ม่านตีหน้างอใส่แฟนหนุ่มแล้วพยายามแยกแขนล่ำๆนั่นออกจากเอว...แล้วเดินหน้าง้ำไปหาพี่ชาย โตยธรส่ายหน้ากับอาการงอนของสาวเจ้า แต่เขาก็ชินเสียแล้วเรื่องแค่นี้ เดี๋ยวพอได้ขึ้นม้าก็หายเองแหละ...
"ไปครับ...ไปคอกม้ากัน..." โตยธรหันไปบอกแขกที่เหลือแล้วตบไหล่เพื่อนพาเดินนำ... ปล่อยให้คนที่ขนาดตัวไซส์กะทัดรักสี่คนด้านหลังเดินตาม...
"ฟ้า...ฉัน...ฉันกลัวม้าอ่ะ..." หมอกานต์กระตุกแขนเพื่อนยิกๆ "...พี่หมอก...กานต์กลัวม้าอ่ะพี่..."
"เฮ้ย...! หมอเด็กอย่างแกเนี่ยนะกลัวม้า...กลัวทำไมว่ะ... ม้าเชื่องๆ น่ารักจะตาย..." คุณหมอกหันมาแซวรุ่นน้องที่ถือเป็นเพื่อนร่วมรุ่นไปแล้ว
"เชื่องบ้าอะไรล่ะ ! ก็...ก็ตอนเด็กๆอ่ะเคยไปขี่ที่หัวหิน... แล้วไม่รู้ม้ามันเป็นไร จู่ๆก็ร้องฮี้สะบัดกานต์ตกลงมาหอยตำก้นซะงั้นอ่ะพี่... ไม่เอาอ่ะเข็ด...เกิดคราวนี้นั่งอีกแล้วตกม้าเจอหินตำอีกล่ะก็...เหอๆ จอดไม่ต้องแจว...เป็นหมันแหงๆเลยอ่ะ..." คนพูดทำสีหน้าจริงจัง... แต่คนฟังแทบขำพุ่งเรียงตัวเลยทีเดียว...
"บ้า ! หอยไรว่ะตำก้นแก..." คุณหมอกที่ตอนนี้กลั้นขำจนแก้มแดงเอ่ยถาม...
"ก็หอยไอที่เปลือกมันเป็นเกลียวๆสูงๆอ่ะ... ทำไมตอนจะปล่อยให้ขี่ถึงไม่มีใครมาเก็บกวาดหอยไปก่อนนะ... ดูดิ...ฝังใจเลยเนี่ย..."
"...อุ๊บ...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า.... ไม่ไหวแล้ววว ...โอ๊ยยยยตายๆ... คุณหมอคร๊าบบบบ...มันคงไม่ซวยไปตลอดหรอกนะ... แกจะกลัวไปทำไมว่ะ ดูอย่างน้องฟ้าดิ...ไม่เห็นจะกลัวเลย..." พูดแล้วก็โยงถึงเด็กหนุ่มอีกคนที่อุ้มลูกไม่พูดไม่จานอกจากยิ้มขำตามไปด้วยเท่านั้น...
"...ใครบอกไม่กลัวล่ะพี่หมอก...ผมน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ผมมีหนูลินด้วยนี่สิ...ก็เลย..."
"เออว่ะ...จริง... มีเด็กมาด้วยแบบนี้เขาจะให้ขี่ได้มั้ยอ่ะม่าน..." คนพี่กระตุกไหล่เรียกน้องสาวที่ทำงอนไม่ยอมคุยกับแฟนซะงั้น... สาวม่านทำแก้มป่องแต่ก็ตอบโดยดี...
"ถ้าคนอุ้มชำนาญน่ะก็ไม่เป็นไรหรอก...แต่ถ้าไม่ก็ลำบากหน่อย...อาจต้องขี่สองคนแล้วล่ะพี่ฟ้า ถ้าพี่ฟ้าขี่ไม่เป็นน่ะ..."
"เอ่อ...พี่ขอไปรถกอล์ฟไม่ได้เหรอ..." น้ำฟ้าถาม... จริงๆแล้วตัวเองน่ะก็ตื่นเต้นอยู่หรอกที่จะได้ขี่ม้าตัวเป็นๆ... แต่หนูน้อยตาแป๋วแว๋วในอ้อมแขนที่วันนี้ทำตัวเงียบเรียบร้อยเป็นพิเศษนี่สิที่ห่วงนักหนา...
"ข้างในเขาไม่อนุญาตให้เอาเข้าไปน่ะพี่ ยกเว้นรถที่ใช้ในฟาร์ม... แต่พี่ฟ้าไม่ต้องห่วงหรอก... นายนั่นน่ะคงเตรียมคนขี่ม้าไว้ให้แล้วแหละ..."
"ม่าน ! นั่นว่าที่สามีเรานะ มาเรียกนายนั่นได้ยังไง..." คนเป็นพี่ทำเป็นเสียงดุใส่... เพราะคนน้องไม่เก็บอาการงอนเลย... แต่ก็นะ...ต่อหน้าเจ้าสองคนนี้คงไม่เป็นไร...
"นั่นสิ...พี่หมอกขอกานต์นั่งรถไปกับฟ้าสองคนได้มั้ยอ่ะ... กานต์กลัวม้าจริงๆนะ..." คนพูดทำสีหน้าคล้ายจะร้องไห้เต็มแก่...ท่าทางจะกลัวม้าอย่างสุดซึ้งจริงๆนั่นแหละ... แต่จู่ๆความรู้สึกเหมือนมีใครมายืนอยู่ด้านหลังก็ทำให้คุณหมอเด็กหันมอง... พอเห็นสีผมอ่อนที่สะท้อนแสงกับหุ่นตัวสูงล่ำในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขายาวเนื้อผ้าดูหยาบๆสีดำแล้วแทบจำไม่ได้ เพราะปกติคนตรงหน้าจะอยู่ในชุดสูทเสมอ... คราวนี้พอเจอก็ทำเอาคุณหมอกานต์นิ่งอึ้งไปพักหนึ่งเลยทีเดียว...
"อ้าว...คุณบอดี้การ์ดคุณรังสิมันต์ใช่มั้ยครับ...คุณ...มาคัส...ใช่รึเปล่า... มาได้ยังไงครับ คุณไม่ได้มากับรถกอล์ฟหรอกเหรอ..." เป็นคุณหมอกที่ทักเสียงใสขึ้นมาก่อน เพราะจำได้ว่าวันแรกที่คนเหล่านี้มาทำเอาพวกแม่บ้านกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ที่มีหนุ่มๆวัยฉกรรจ์แบบนี้มาให้เป็นอาหารตา... ชายหนุ่มตัวสูงผมทองโค้งให้เล็กน้อยแล้วบอก...
"...เรียกว่าเลขาดีกว่าครับคุณหมอก... ผมมาก่อนพวกคุณพักใหญ่แล้วครับ..." พูดแล้วก็ยิ้มให้ คุณหมอกก็ยิ้มรับ... แต่คนที่มาคัส ไบรอันพยายามจะสบตาด้วยนี่สิ... ไม่ยอมมองหน้าเขาเลย แถมยังกระตุกแขนเพื่อนยิกๆให้เดินตามไปทางคอกม้าใหญ่อีก...
"เดี๋ยวสิครับคุณหมอกานต์... นี่ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะ...ว่าคุณจะกลัวม้าด้วย..." มาคัสก้าวไม่กี่ก้าวก็ตามทันคุณหมอตัวเล็ก ใจจริงอยากคว้าแขนให้หยุดคุยกันก่อน... แต่รู้ดีว่าวัฒนธรรมคนไทยถ้าไม่สนิทกันมากนัก การถึงเนื้อถึงตัวก็ออกจะเสียมารยาทไปหน่อย... ชายหนุ่มจึงเดินตามหลังคุณหมอกานต์มาอย่างเดียว... เพราะก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะเสียมารยาทไปค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน
"คุณยุ่งอะไรด้วยเล่า..." คุณหมอตอบน้ำเสียงเกือบสะบัด... น้ำฟ้ามองอาการเพื่อนที่จ้ำเอาๆราวกับจะหนีแล้วก็มองมาคัสที่จ้ำตามราวกับจะไล่ก็ออกจะงงๆ ว่าทำไมจู่ๆสองคนนี้ถึงมามีความสัมพันธ์กันแบบนี้ได้...
"ไม่ให้ยุ่งได้ยังไงล่ะครับ...ก็ถ้าคุณขี่ม้าไม่เป็น... ไม่สิ...คุณกลัวม้าเลยใช่มั้ย... คุณก็ต้องไปขี่ม้ากับผมน่ะสิ..."
"ห๊ะ !" คุณหมอกานต์ชะงักกึก หันมามองในฉับพลันจึงชนเข้าอย่างจังกับแผ่นอกแข็งแรงที่ทำเอาจมูกคุณหมอเจ็บแปล๊บๆเลย... "นี่คุณว่าอะไรนะ...ผมเนี่ยนะต้องไปขึ้นขี่ม้ากับคุณ...!"
"ใช่ครับ... เจ้านายผมกับคุณโตยธรบอกว่าท่าทางคุณคงขี่ม้าไม่เป็น เลยให้คุณมา 'ขี่' กับผมก่อน..." ท้ายประโยคมาคัสจงใจทำเสียงเบาๆ แล้วเน้นคำว่า 'ขี่' ชัดๆแซวคุณหมอที่พอจะรู้ความนัยหน้าแดงเล่นๆ... แต่น้ำฟ้ากลับยืนเงียบไม่พูดไม่จาและทำหน้างงๆเพราะไม่ค่อยเข้าใจความหมายแฝงเท่าไหร่...
"ให้ตายผมก็ไม่มีวันไปขี่ 'ม้า' กับคุณหรอก... ไปฟ้า...ไปบอกคุณโตกันว่าเราสองคนขอนั่งรถไปได้รึเปล่า..." แล้วก็ไม่สนใจอะไรอีกเดินลากแขนเพื่อนก้าวฉับๆไปทางสองหนุ่มตัวสูงที่ยืนอยู่หน้าคอกม้าพันธุ์อะไรไม่รู้แต่ตัวโตมากจนคุณหมอต้องชะงักกึกก่อนถึงคอกไปหลายเมตร... โอ๊ย...เจอที่หาดมันตัวกะเปี๊ยกกว่านี้ตั้งเยอะ...แล้วนี่ดูขนาดสิสูงกว่าเขาอีก...จะให้ขึ้นขี่เนี่ยนะ...ไม่มีทาง...
คุณหมอกำลังลังเลอยู่ว่าจะเรียกโตยธรมาหาได้รึเปล่าเพราะไม่กล้าเข้าใกล้ม้าจริงๆ...กลัวอ่ะ...
แต่สองหนุ่มก็หันมองมาพอดี และคนที่เดินเข้ามาหาคุณหมอกานต์กับน้ำฟ้าโดยไม่ต้องคิดเลยก็คือรังสิมันต์... ชายหนุ่มเดินมาหาน้ำฟ้าแล้วแบมือขออุ้มหนูลิน... เด็กหนุ่มตั้งท่าจะเบี่ยงตัวหลบแล้วล่ะแต่ว่าหนูลินที่ทำท่ากางแขนพร้อมเอนตัวเข้าหาชายหนุ่มแต่โดยดีก็ทำให้น้ำฟ้าต้องยอมให้รังสิมันต์แตะตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็ไม่ยอมให้อุ้มไปแต่โดยดี... รังสิมันต์ถอนหายใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้น้ำฟ้าอุ้มหลานตัวเอง...โดยที่ชายหนุ่มก็เอามือลูบแก้มนิ่มๆแล้วหอมฟอดเบาๆ... หนูลินหัวเราะคิกคักมีความสุข... มือหนึ่งก็กำนิ้วชายหนุ่มแน่นมือ ส่วนอีกข้างก็กำผมคุณแม่ฟ้าที่ตอนนี้ปล่อยระยาวลงมา เนื่องจากตอนแรกก็หนีบกิ๊บดีอยู่หรอก แต่ตอนนั่งรถกอล์ฟเจอทั้งลมและมือซนๆของลูกน้อยที่คอยแต่จะแกะกิ๊บออกให้ น้ำฟ้าจึงยอมปล่อยให้ระวงหน้านวลเพื่อเป็นของเล่นให้กับลูก... หนูลินหันมายิ้มยิงเหงือกแดงแจ๋ให้รังสิมันต์ นิ้วเล็กๆที่กำรอบนิ้วโป้งของชายหนุ่มแกว่งเล่นอย่างมีความสุข...
"...โอ๊ยยย... น่าอิจฉาครอบครัวพ่อแม่ลูก... อย่างงี้คุณโตจัดนั่งม้าตัวเดียวกันไปเลยนะ...ท่าทางหนูลินจะไม่ยอมปล่อยทั้งคุณตะวันทั้งน้องฟ้าแน่ๆล่ะแบบนี้..." คุณหมอกที่เดินคล้องแขนน้องสาวตามมาเอ่ยแซว เนื่องเพราะคุณหมอกไม่เคยทราบความสัมพันธ์ที่แน่นอนของสองคนนี้ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร แต่ฟังเอาจากที่น้องสาวตัวดีเคยมาพร่ำให้ฟังว่าสองคนนี้เขาดูเข้ากันได้ดี...น่าร๊ากน่ารักจนเหมือนสวรรค์ของสาวก 'วาย' อย่างเธอจริงๆ...
"ก็...คงต้องอย่างนั้นล่ะครับ... พ่อแม่ลูกนั่งไปด้วยกัน... ส่วนสามีภรรยาอย่างเราก็มานั่งด้วยกัน...ดีมั้ยจ๊ะ..." คุณโตยธรถือโอกาสนี้ทำเนียนเดินไปกอดเอวภรรยา สาวเจ้าออกอาการขัดขืนเล็กน้อยเป็นการเล่นตัวแต่พองาม... แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้ชายหนุ่มกอดรัดเอาจนพอใจอยู่ดีนั่นแหละ...
"...เอ่อ...ขอ...ขอผมนั่งรถไปได้มั้ยครับคุณโต...ผม...ผมไม่อยากขี่ม้าน่ะครับ..." คุณหมอออกอาการสั่นเล็กน้อยตอนพูด... โตยธรหันมามองแล้วยิ้มให้...
"ไม่ต้องห่วงครับคุณหมอกานต์... เดี๋ยวให้คุณมาคัสเป็นพี่เลี้ยงพาขี่รับรองสบายแน่นอน... ส่วนคุณฟ้าก็ไปกับเจ้าตะวันมันแล้วกันนะครับ... สองคนนี้น่ะขี่สไตล์อังกฤษ รับรองนุ่มนวลสบายและที่สำคัญปลอดภัยแน่นอนครับ...ไม่ต้องห่วง..." เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มยิ้มอารมณ์ดี "ไปจ่ะที่รัก... ส่วนพี่เนี่ย...จะขี่สไตล์คาวบอย...เดี๋ยวพี่พาแอดเวนเจอร์นะ..." ชายหนุ่มบอกแล้วพาสาวเจ้าเดินเข้าบริเวณคอกไป ไม่ทันสนใจหน้าตาที่ค่อยๆซีดเผือดของคุณหมอเด็กกับสีหน้าอ้าปากหวอของน้ำฟ้าที่ไม่คิดว่าประกาศิตจะฟาดเปรี้ยงลงมาขนาดนี้...
"งั้น...เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ... อ่า...คุณรังสิมันต์ครับ... นี่ครับ..." ตอนที่จะเดินผ่านคู่สามพ่อแม่ลูก คุณหมอกก็หยุดแวะเอาอุปกรณ์เด็กอ่อนที่ตัวเองหอบหิ้วมายื่นให้รังสิมันต์ ซึ่งชายหนุ่มก็ยื่นมือออกไปรับโดยไม่เคอะเขิน มีทั้งผ้าอ้อมเอามาพาดบ่า ตะกร้าสีฟ้าอ่อนใส่ขวดนมและน้ำ... น้ำฟ้าที่ตอนแรกแอบเหวอเพราะต้องขี่ม้าไปกับผู้ชายตรงหน้ายังเผลอแอบอมยิ้มเล็กๆ เพราะชายหนุ่มที่ดูเท่ห์และขรึมตลอเวลาแบบนี้ ตอนนี้กลับดูเหมือนคุณพ่อลูกอ่อนเข้าแล้วจริงๆ...แถมยังมีการแอบเช็คของในตะกร้าและดมผ้าอ้อมดูอีกแน่ะ...ที่ถ้าบอกไปว่าผ้าอ้อมนั่นเอาไปเช็ดก้นหนูลินมาแล้วจะกล้าหอมรึเปล่านะ...
"ยิ้มอะไรของเธอ..." รังสิมันต์หันมาทันเห็นน้ำฟ้ายิ้มค้างอยู่แว่บนึงจึงเอ่ยถาม... น้ำฟ้าหุบปากฉับแล้วทำหันหน้าไปมองคอกม้าพร้อมบอก
"เปล่านี่... นี่คุณขี่ม้าไปคนเดียวเลยนะ ส่วนผมกับลูกแล้วก็หมอกานต์จะนั่งรถในฟาร์มไป..." น้ำฟ้าพูด ตัวบางๆสาวเท้าเดินไปทางชายตัวอวบท้วมที่ยืนเอามือลูบขนแผงคอม้าตัวใหญ่สีดำเมี่ยมทั้งตัวแล้วเอ่ยถาม... "เอ่อ...ลุงครับ...ผมกับลูก แล้วก็คุณหมอกานต์คนนั้นน่ะฮะ...ขอนั่งรถในฟาร์มไปได้รึเปล่าครับ..."
"เอ้อ...คือ..." ชายตัวท้วมหันมองคนถามแล้วก็ออกจะงง... เพราะรูปร่างหน้าตาทรงผมนี่มันผู้หญิงชัดๆ...แล้วทำไมแทนตัวเองว่า 'ผม' ว่ะ...
"เธอทำลุงเขาลำบากใจนะรู้รึเปล่า... ไอโตสั่งมาให้พาทุกคนลองขี่ม้าไปที่ศาลาริมน้ำเชิงเขาด้านโน้น... เป็นความหวังดีของเพื่อนฉันที่อยากขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานแต่งและพาเที่ยวรีสอร์ทของมันไปในตัว...เธอจะไม่รับความหวังดีจากเพื่อนฉันหน่อยรึไง..." เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ชายหนุ่มร่ายยาวใส่น้ำฟ้า จนเด็กหนุ่มเองยังงงไปเลย... แต่พอสติเริ่มกลับมาและทบทวนสิ่งที่ได้ยินไปเลยเอ่ยกับคุณลุงที่ยืนใกล้ๆอีกที
"งั้น...งั้น...ให้ผมนั่งไปกับคนอื่นได้มั้ยครับ...มันจะได้..."
"...เขางอนฉันน่ะ...ไม่มีอะไรหรอก... เอาเธอร์รัพเบรตมาตัวนึงนะ... เดี๋ยวฉันตามไป..."
"คะ...คุณ.. !" ...งอน??...เขาเนี่ยนะงอนหมอนี่ !... "นี่คุณจะเผด็จการมากไปแล้วนะ !"
"นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ...กับเผด็จการของฉันที่เธอว่าน่ะ... มานี่..." พูดจบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วชายหนุ่มก็คว้าข้อมือคนตัวเล็กกว่าแล้วพาลากไม่พูดไม่จา ไม่สนใจแรงมดที่พยายามตีมือเขาออก ตั้งใจจ้ำอ้าวพาไปตรงที่มีชายลงพุงตัวท้วมถือสายจูงม้าตัวโตสีดำไว้ให้...
ทั้งสองคนปล้ำเถียงกันอีกชั่วครู่ กว่าที่รังสิมันต์จะบังคับร่างน้ำฟ้าขึ้นม้าพร้อมโอบอุ้มหนูลินตามขึ้นไปด้วย... แล้วจึงเคาะเท้าเข้าสีข้างม้าเพื่อบังคับมันออกเดิน ปล่อยให้คุณลุงผู้น่าสงสารสงสัยต่อไปว่าจริงๆแล้วคนที่อุ้มเด็กน่ะผู้หญิงหรือผู้ชาย...เอ๊ะ...รึจะเป็นทอมว่ะ... คิดพลางก็เอามือเกาหัวแกรก... ซักพักจึงได้ยินเสียงคนเถียงกันดังมาจากด้านหลังอีกคู่... พอหันมองก็เห็นฝรั่งตัวโตกับคนไทยตัวเล็กกำลังฉุดกระชากเดินมาอีกคู่แล้ว... เอ้อ ! นี่ชักจะสงสัยอีกแล้วสิว่าเขากำลังแสดงอยู่ในเรื่องจำเลยรักอยู่รึเปล่า...ชอบฉุดกันจริงจริ๊ง...
"ลุงครับ...เธอร์รัพเบรตตัวนึงนะครับ..." หนุ่มฝรั่งผมทองแต่พูดไทยค่อนข้างชัดบอกเขาพร้อมรอยยิ้ม... แถมสีหน้ายังไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิดแม้เท้าตัวเองจะถูกประทุษร้ายโดยเท้าของเด็กหนุ่มคนไทยอีกคน...
"เอ่อ...ครับๆ... คอยซักครู่... เฮ๊ย ! ไอวัติไปเอาเจ้าแม็กมา..." คุณลุงหันไปตะโกนบอกคนงานหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง... แล้วหันมามองคู่ตรงหน้าตัวเองต่อ...
"เอ้อ...คุณสองคนจะไปด้วยกันใช่มั้ยครับ..."
"ไม่ ! / ใช่ครับ..." สองเสียงประสานแต่มันช่างตรงข้ามกันเหลือเกิน...จนทำเอาคุณลุงต้องเกาหัวแกรกอีกรอบ...
"ลุงครับช่วยผมด้วย...ผมโดนไอฝรั่งโรคจิตนี่ฉุดมาอ่ะ...ลุงครับ...!!"
"เงียบน่าที่รัก...ผมรู้ว่าคุณโกรธผมมาก...ที่เมื่อคืนผมไม่ได้กลับไปนอนที่ห้อง...แต่ผมก็กำลังง้อคุณอยู่นี่ไง..." มาคัสตีบทแตกกระจุยพร้อมใส่อินเนอร์ลงไปเต็มที่... จนคนที่เขากำลังฉุดอยู่ถึงกับนิ่งอึ้งอ้าปากค้าง...
"คะ...คุณว่าอะไรนะ..."
"โธ่ที่รัก ! คุณอย่าทำหน้าแบบนี้สิ...ผมผิดไปแล้วจริงๆ...แต่ผมก็ไม่ได้ไปเหลวไหลที่ไหนนะ... เมื่อคืนผมอยู่ทำงานที่บ้านใหญ่ดึกไปหน่อย...เลยนอนค้างที่นั่น...แต่สาบานได้นะว่าผมไม่ได้แอบไปหนีเที่ยวโดยไม่บอกคุณก่อนหรอก..."
"ห๊ะ..." เสียงคุณหมอกานต์ที่กำลังงงสุดขีดลอดผ่านออกมาแค่ลำคอ...
"โฮ่...เป็นแฟนที่ดีมากเลยนะครับ...จะหนีเที่ยวก็ยังต้องบอก...แหม่...เป็นลุงหน่อยก็ไม่ได้...อีแก่คงเอาอีโต้สับคอไปแล้ว...ฮ่าฮ่าฮ่า..." คุณลุงที่ตอนนี้หลงเชื่อนายฝรั่งผมทองเข้าเต็มเปาก็นึกว่ารู้ว่าคงเป็นคู่เกย์งอนกันแหงแซะ...แหม่...เสียดายสรรพยากรชายแทนสาวไทยอีกสองคนแล้ว... คุณลุงส่ายหัวยิ้มๆ เขาไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่หรอก...เพราะงานบริการของเขาที่ทำมานานมักจะเจอลูกค้าหลายรูปแบบเสมอ...จนเขาชินไปแล้วกับรูปแบบความรักที่หลากหลายในสังคมไทยตอนนี้...
"ครับ...อ๊ะ...ม้ามาแล้ว... เดี๋ยวขี่ไปตามทางเลยใช่มั้ยครับ..." มาคัสถาม คุณลุงพยักหน้าตอบ
"ครับ...พอเจอแยกที่สองให้เลี้ยวซ้ายนะครับ...จากนั้นก็ตรงโลด..." คุณลุงยิ้มจนหนวดกระดิก...จากนั้นก็หันไปลูบแผงคอเจ้าม้าตัวใหญ่สีน้ำตาลแก่อย่างอารมณ์ดีตามสไตล์... แต่ตอนนี้คุณหมอเด็กของเรานี่สิ... ตาเบิกกว้าง ค้างนิ่งอึ้ง อ้าปากหวอกับขนาดใหญ่โตที่อยู่ตรงหน้าในระยะประชิด...
เจ้าม้าหนุ่มสีน้ำตาลจ้องคุณหมอนิ่ง ก่อนจะแยกเขี้ยวยิ้มยิงฟันแล้วร้อง 'ฮี้~' ทักทาย... แต่คนโดนทักทายอย่างมีไมตรีกลับร้องจ้าไปแล้ว...
"อ๊ากกกกกกกกก !! ช่วยด้วยยยย !!! แงงงง...มันจะกินหัวผมอ่ะ... ม่าย...มันจะกินหัวกานต์แล้วอ่ะแม่ !!! แม่คร๊าบบบ...ช่วยด้วยยย แง้.........................!!!!" คุณหมอกานต์สะบัดแขนเต็มแรงสูบ... คิดอย่างเดียวว่าเจ้าสี่เท้าตรงหน้านี่คือเอเลี่ยนที่มาบุกโลกเพื่อทำลายล้างเขา... โอ๊ยยย !! ตายแน่หมอกานต์เอ๊ย... ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปมีหวังเขาตายแน่ๆ...ตายแน่ๆ !
"เดี๋ยว...คุณ ! คุณ !! ใจเย็นๆ...ไม่เป็นไรหรอก...ม้ามันไม่กินคน... โธ่~ นี่...!!" ไม่นึกเลยว่าคนตัวเล็กนี่จะกลัวม้าเอามากๆจริงๆ... อย่างนี้เขาจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย...
"ไม่เอาอ่าาา...ฮืออออ... มันอ้าปากจะกินหัวผมแล้วอ่ะ ...มาคัสช่วยผมที...ฮือออ....." คราวนี้คุณหมอกระโดดตะครุบเข้าวงแขนใหญ่โตด้านหน้าซึ่งกางรอโดยไม่ลังเล... มาคัสพอได้ตัวคุณหมอปุ๊บก็อุ้มเข้าวงแขนปั๊บ... แกว่งเบาๆพลางบอกใกล้ใบหูของใบหน้าที่ซุกไซ้เข้าซอกคอตาปิดแน่นไม่กล้าลืมว่า...
"ไม่ต้องกลัวนะที่รัก... ไม่มีใครทำอะไรคุณได้...ถ้าคุณกอดผมแน่นๆนะรู้มั้ย..." มาคัสบอกจบก็แอบเผลอจูบเบาๆลงริมหู คนตัวเล็กก็กระชับอ้อมแขนเพรียวเข้าหาคอร่างสูงตามที่บอกด้วยความกลัวมาก
"งั้น...งั้นผมจะกอดคุณแน่นๆ...ฮือ...คุณอย่าปล่อยผมลงนะ...ผมยังไม่อยากโดนม้ากินหัวตายอ่ะ...ฮือ..." คุณหมอกอดชายหนุ่มตรงหน้าและอยู่นิ่งๆแบบไม่อายใครอีกแล้ว... ยอมรับอยู่ในใจลึกๆว่าสัญชาตญาณของเขาบ่งบอกว่าถ้าเขาอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ...ภัยอันตรายรอบตัวจะไม่มีทางได้เข้ามากร้ำกรายเขาแน่นอน
มาคัสหัวเราะลึกๆในลำคอพลางสาวเท้าออกเดินไปที่ม้าตัวใหญ่ตรงหน้า ระหว่างทางก็พร่ำบอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ห้ามลืมตาเด็ดขาด คนตัวเล็กพยักหน้ากับไหล่เขาจนผมสะบัด... เมื่อชายหนุ่มเดินมาถึงข้างม้าตัวใหญ่ ก็จัดการโยนตัวคนในอ้อมแขนที่ขนาดตัวแทบจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสาวเอเชียขึ้นหลังม้าไป... คนตัวเล็กหลับตาพริ้ม จับนั่งอย่างไรก็นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น จากนั้นตัวเขาก็โยนตัวเองขึ้นหลังม้านั่งประกบติดด้านหลัง... กระทุ้งเท้าเข้าสีข้างม้าบังคับออกเดิน... ฝ่ายคุณหมอที่นั่งปิดตามาตลอดและคิดว่าตัวเองถูกพามานั่งบนเก้าอี้สูงๆอะไรซักอย่างพอรู้สึกว่ามันเริ่มโคลงเคลงซ้ายทีขวาทีก็เอะใจ พอลืมตามองก็เห็นเท้าตัวเองลอยเหนือพื้นดิน มีขนหรือผ้าอะไรไม่รู้น้ำตาลๆ พอเผลอหันมองไปข้างหน้าก็เห็นหู 'ม้า' ตั้งชันพร้อมแผงคอสีดำซึ่งถูกหวีอย่างเป็นระเบียบ... คุณหมอก็ถึงกับช็อกพูดอะไรไม่ออก ร่างกายไม่ยอมขยับไปเสียอย่างนั้น...
...มะ...ม้า...เข้ากำลังนั่งอยู่บนม้า... ...เขากำลังจะเป็นหมัน !!!!... แง้....................... เสียงร่ำร้องของคุณหมอกานต์ดังอยู่ภายในใจ โดยที่คนนั่งข้างหลังกลับคิดไปว่าที่คุณหมอนั่งตัวนิ่งไม่ขยับอยู่ในอ้อมแขนนี่จะเป็นเพราะคุณหมอเริ่มคุ้นเคยและปรับตัวเข้ากับม้าได้แล้ว...และคงรู้แล้วว่าการขี่ม้าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด... ที่ไหนได้ล่ะ...คุณหมอน่ะช็อกตัวแข็งทื่อไปแล้วต่างหาก !
-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue
โอ้...ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องสอบโทเฟลค่ะ
ตอนนี้จะเลือกสอบที่ศูนย์พญาไทพลาซ่าน่ะ ดีรึเปล่าคะ...
แล้วในสี่ทักษะอันไหนมันยากกว่ากันล่ะคะ...= =
จริงๆแล้วเค้าควรจะมีเวลาเตรียมตัวสอบเพื่อให้ผ่านแสตนด์ดาร์ดถึงสองปีเลยอ่ะ
แต่นี่อะไร...คณบดีเพิ่งมาบอกว่าต้องสอบ...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เดี๋ยวปั๊ดส่งเรื่องเข้าอธิการ...
เกรดก็ต้องทำ...สอบก็ต้องสอบ...กรี๊ดดดดดดดดดด ใครเลือกคณะนี้ฟ่ะ !! <...ก็ตูเองแหละ = =>
เอาล่ะบ่นต่อทำไมเสียเวลา...ขอให้ทุกคนมีความสุขกับงานและการสอบนะคะ
รักษาสุขภาพด้วย...
ปล.ใครอยู่ชลฯก็ระวังฝนฟ้า = = อย่าเผลอตากผ้าไว้ข้างนอกตอนค่ำๆล่ะ เหอๆ เดี๋ยว กกน.ปลิวหาย...