คุณแม่...ครับผม !!! Ch.10 - Painful แสงไฟนีออนที่ส่องลงกระทบเปลือกตาทำให้ขนตางอนยาวของน้ำฟ้ากระพือไหวอยากจะตื่น... แต่พอได้ลองลืมตาก็ต้องรีบยกมือมาบังแสงไว้ไม่ให้จ้องกับแสงไฟสีขาวโดยตรง... เอ๊ะ...ปกติตื่นตอนหกโมงเช้าทุกวันมันไม่สว่างขนาดนี้นี่นา... แล้ววันนี้ทำไมมัน...
"ห๊ะ... ที่นี่มัน...ไม่ใช่ห้อง...เรา" พอละเมอพึมพำออกมาเบาๆประสาทส่วนอื่นๆของร่างกายจึงค่อยกระเตื้องตื่นตัวตาม ...น้ำฟ้าจึงรู้สึกได้ว่าสัมผัสของที่นอนนุ่มเกินไป... สีของเพดาน... ความกว้างของเตียง... และลักษณะห้อง...มันแปลกไป...
คราวนี้สติสตังของน้ำฟ้ากลับคืนมาเกือบร้อยเปอเซนต์ทันที... ลำตัวบางลุกขึ้นนั่งกะทันหัน อาการความดันต่ำที่มีเป็นทุนเดิมจึงทำเอาหน้ามืด... สองมือกดที่ขมับแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง... ก่อนจะค่อยๆลืมตาแล้วปรับโฟกัสสายตาและสภาพร่างกายใหม่... พอเริ่มเข้าที่น้ำฟ้าก็ค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง... อาการมึนๆยังมีอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายนัก...
ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบห้อง พินิจพิจารณาก่อนจะหยุดอยู่ที่เปลเด็กซึ่งตั้งอยู่ข้างเตียงอีกฟากหนึ่ง... น้ำฟ้าขยี้เปลือกตาแผ่วเบาพลางนึกเรื่องราวที่ผ่านมาให้ออก พอจะนึกรู้อยู่ว่านี่ก็คือห้องนอนของผู้ชายใจร้ายบางคน... เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่อต้อนรับอรุณที่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะโสภาเอาเสียเลย... ว่าแล้วสองมือน้อยๆก็ค่อยๆช่วยพยุงตัวเองคลานไปที่เปลเด็ก ตรงกลางเตียงมีเบาะเด็กวางอยู่เหมือนเมื่อคืน...และยังวางอยู่ในที่เดิมด้วย... ผิดก็แต่ไม่มีเด็กทารกที่น่าจะต้องนอนหลับอยู่บนเบาะเลย... น้ำฟ้าก็คิดได้เพียงอย่างเดียวว่า... ถ้าอย่างงั้นเด็กก็ต้องไปนอนอยู่ในเปลนี่เท่านั้น
แต่เมื่อชะโงกหน้าลงมองในเปลเด็กแล้ว ...มันกลับปรากฎแต่ความว่างเปล่า...
แวบแรกที่เห็นสมองยังประมวลผลได้ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อสภาพการรับรู้นึกรู้แล้วว่าอะไรเกิดขึ้น...น้ำฟ้าก็ตกใจเผลอช็อกค้างไปชั่วขณะ...
...เพราะมั่นใจว่าหนูลินต้องนอนอยู่ในเปลนี่แน่ๆ แล้วบนเตียงก็ไม่มี...
ถ้างั้นก็แปลว่า...หนูลินหายไป... หนูลินหายไปไหน !!!
"หนูลิน...
หนูลิน !!!" ครานี้น้ำฟ้ารีบลนลานตะกายลุกออกจากเตียง สองตากวาดมองหาไปรอบห้อง ...แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องสะดุดชายขากางเกงตัวเองล้มลงกับพื้น เพราะมันยาวเลยเท้าไปมาก ส่วนเอวยางยืดก็หลวมโพรก และพอได้มองดูเสื้อที่ตัวเองใส่อยู่ก็พบว่าคอเสื้อกว้างจนมองเห็นเนินลาดไหล่ขาวมนเลยทีเดียว... แต่ในตอนนั้นน้ำฟ้าไม่มีกะจิตกะใจจะมาคิดเรื่องเสื้อผ้าตัวเองต่ออีกแล้ว ใจประหวัดหาหนูน้อยไวโอลินเพียงอย่างเดียว...
ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลยจริงๆ น้ำฟ้า !! ทำไมเราโง่อย่างนี้ ถูกเขาพามาง่ายๆ หลงอยู่บ้านเขาตั้งนาน... แถมยังมาถูก...ทำ...อย่างนั้นใส่ แล้วมาตอนนี้ยังเลินเล่อปล่อยให้หนูลินหายไปอีก...! น้ำฟ้านะน้ำฟ้า แค่ลูกคนเดียวยังดูแลให้ดีไม่ได้เลย... รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนยังไง ก็ยังพยายามคิดในด้านดีไว้เสมอ... ไม่ยอมประมาณกำลังตัวเอง ปล่อยให้เรื่องบ้าๆทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาได้ !!... เรามันบ้าที่สุดเลยน้ำฟ้า...บ้าที่สุด...สมควรแล้วที่จะถูกทุกคนทอดทิ้ง... ทั้งพ่อ แม่...พี่น้ำฝน... แล้วคราวนี้ยังหนูลินอีกคน...
...ถ้าเขาหาหนูลินไม่พบ หรือพาหนูลินกลับบ้านด้วยความปลอดภัยไม่ได้ละก็ เขาจะไม่ยอมอภัยให้ตัวเองไปตลอดชีวิต...!!
"หนูลิน..." น้ำฟ้าครางชื่อหนูลินเมื่อพบกองผ้าอ้อมกลิ่นคุ้นจมูกกองอยู่ตรงหน้า... สองมือค่อยๆหยิบผ้าผืนนั้นขึ้นมามอง กลิ่นแป้งเด็กคุ้นจมูกลอยอบอวล... ผ้าอ้อมผืนนี้ที่ใช้ห่อตัวหนูลินนอนเมื่อคืน... ผ้าอยู่นี่...แล้วเด็กไปไหน...
ผู้ชายคนนั้น...เอาหนูลินของเขาไปแล้วงั้นเหรอ !!
"ไม่จริง... เป็นไปไม่ได้... ก็เมื่อคืนหนูลินยังอยู่นี่กับเราอยู่เลย...อะ...ฮึก..." น้ำฟ้าพยายามคิดจนสมองตึงเครียดไปหมด สองมือพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง แล้วรั้งชายขากางเกงดึงขึ้น เส้นผมดำเงาพันกันยุ่งเหยิงเพราะเจ้าของไม่คิดใส่ใจจะสางให้มันเรียบร้อย... ใจที่ลอยไปถึงประตูสีน้ำตาลตรงหน้าเร่งให้เท้ารีบก้าวเดินอย่างรวดเร็ว... แต่พอมือจับลูกบิดแล้วลองหมุนดู ปรากฎว่ามันเป็นเวลาเดียวกันพอดีกับคนที่อยู่ด้านนอกกำลังเปิดประตูเข้ามา...
แรงเหวี่ยงจากประตูกระแทกแขนน้ำฟ้าเต็มเปา... ทำให้ลำตัวบางต้องรีบถอยหลังเพราะลำตัวเสียศูนย์... และมันก็ทำให้น้ำฟ้าก้นจ้ำเบ้าลงพื้นซ้ำสอง...
"โอ๊ย...!" น้ำฟ้าร้องออกมาเพราะเจ็บที่ข้อมือซึ่งตัวเองเอามาค้ำพื้นรับน้ำหนักตัวที่หล่นลงมา... มันเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด... สงสัยมันคงจะซ้น...
นึกแล้วก็ขุ่นใจคนที่เปิดประตูเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือตรงหน้าที่สุด... แม้ไม่รู้ว่าใคร แต่ไม่รู้รึไงว่าน้ำฟ้ารีบ...จะออกไปตามหาลูก !!
"เป็นไงมั่ง... เจ็บตรงไหน..." เสียงทุ้มที่พูดอยู่เหนือศีรษะทำให้น้ำฟ้าต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง จึงได้สบกับดวงตาสีรัตติกาลคมเข้มคู่นั้นซึ่งจ้องตรงเป๋งมาที่เขา
คนตรงหน้าอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวคู่กับกางเกงแสล็คสีดำรีบกลีบผ้าเรียบกริบ... ทรงผมยุ่งๆชี้ฟูไม่เป็นระเบียบทำให้เขาดูแตกต่างจากเมื่อวานและตอนปกติที่เคยพบกันซึ่งมันต้องถูกเซ็ตให้เข้าทรงอยู่เสมอ... และสาเหตุก็คงเป็นเพราะมือซนๆของเด็กแก้มยุ้ยผิวขาวเหมือนแป้งซาลาเปาตัวปุ้มปุ้ย...ที่ชายหนุ่มกำลังอุ้มเข้าบ่าตัวเองนั่นล่ะ...
เจ้าหนูไวโอลินเอามือข้างหนึ่งกำปอยผมของคนที่อุ้มซึ่งยาวระต้นคอไว้แน่น อีกข้างก็กำหางตุ๊กตาม้าน้ำตัวโปรดซึ่งเพิ่งได้มาเมื่อวานด้วย... สองตากลมแบ๊วมองเห็นหน้าแม่ฟ้าของตัวเองที่นั่งพับลงกับพื้นก็ดีใจยกใหญ่ส่งเสียงเรียกพร้อมทำท่าโผมือเข้าหาด้วย...
"..มะ...อา...หม่ำๆ...ม่าาา....หม่ำๆ....." เจ้าหนูน้อยเอนตัวเข้าหาน้ำฟ้าอย่างไม่กลัวตก...
"
หนูลิน !!...หนูลินลูกแม่..." น้ำฟ้าเรียกชื่อหนูน้อยอย่างดีใจที่สุดในชีวิต... นึกกลัวจนหัวใจเกือบสลายว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกอีก...
"หนูลิน... ไม่เอา อย่าซน..." แต่คนอุ้มกลับมือไวไม่ยอมปล่อยให้หนูน้อยลงจากอ้อมแขนง่ายๆ... ประคองกลับเข้าไหล่แต่ทว่าเจ้าหนูน้อยตัวอวบกลับหันกลับมาแล้วดื้อใส่... สองมือเล็กผลักอกหนาออก ลำตัวก็ดีดดิ้นจะลงจากอ้อมแขนให้ได้...
"...ฮื้อออออ... ม่าาาาย... อื้อ...มะ...อา......"
"คืนมานี่นะ !...คุณ..." น้ำฟ้าเห็นดังนั้นก็รีบลุกขึ้นยืน ลืมเลือนความเจ็บปวดที่มือแล้วยื่นออกหมายจะไปรับตัวหนูลินคืน ...แต่แค่ออกแรงที่มือซึ่งช้อนเข้าใต้รักแร้ของตัวเด็กน้อยแค่นิดเดียว... ความเจ็บแปล๊บก็แล่นเข้าสู่แกนกลางสมองทันทีพร้อมคำอุทานที่ออกมาโดยไม่ตั้งใจ...
"โอ๊ย...! เจ็บ..." อาการมือซ้นมันเจ็บแปล๊บ ไม่ได้เจ็บแบบปวดหนึบๆ เพราะงั้นมันเลยทำให้น้ำตาหยาดเล็กๆมาเอ่อคลอที่ดวงตาได้ไม่ยาก... มือเล็กกุมเข้าหากันประคองความเจ็บปวดไว้ในอุ้งมือ... ทรุดนั่งยองลงบนพื้นทันที...
"...เธอ...นาย..." พอเห็นคนตัวบางตรงหน้าทรุดลงไปกับพื้นต่อหน้าต่อตาชายหนุ่มก็เผลอทำอะไรไม่ถูกไปเหมือนกัน สองแขนอยากจะคว้าเข้าไปรับแต่ก็ติดที่เขายังอุ้มหนูลินอยู่...
"มาคัส...!!!! เตโช !!! โยชิ...!!! ใครอยู่ข้างนอก...
เข้ามา...!" ชายหนุ่มตวาดก้องเรียกลูกน้องที่ต้องอยู่ในห้องรับแขกด้านนอกแน่ๆ...
สองบอดี้การ์ดหนุ่ม มาคัสกับเตโชยืนรอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องอยู่แล้วจึงรีบโผล่หน้าเข้ามาในห้อง ส่วนหนุ่มร่างเล็กชาวญี่ปุ่นซึ่งกำลังง่วนกับการต้มขวดนมให้คุณหนูไวโอลินอยู่ในครัวก็รีบวิ่งหน้าเริ่ดมาตามคำเรียกทั้งที่มือยังถือที่คีบขวดนมแสตนเลสพร้อมชุดกันเปื้อนอยู่เลย...
"ไปตามหมอมา...ท่าทางมือจะมีปัญหา..." ชายหนุ่มออกคำสั่งไป มาคัสรีบทำท่าจะหมุนตัวกลับ... แต่ทว่า...
"ไม่ต้อง !! ไม่ได้เจ็บ...! ไม่ต้องตามหมอมานะ..." น้ำฟ้าเงยหน้าที่น้ำตาปริ่มจะไหลมาบอก... มาคัสหันมองหน้าเจ้านายหนุ่มราวขอการยืนยันคำสั่งอีกครั้ง แต่คนออกคำสั่งกลับไม่หันมองกลับซักนิด สองตาคมดุวาววับจ้องมองอาการน้ำฟ้าที่มือเริ่มสั่นและค่อยๆบวมแดงเพราะเจ้าตัวพยายามกดๆนวดๆด้วยตัวเองอย่างคนไม่มีความรู้เลย...
"ไปหยิบ...กล่องปฐมพยาบาลมา..." ชายหนุ่มเปลี่ยนแปลงคำสั่งเล็กน้อย... และความนี้มาคัสก็ทำตามคำสั่งอย่างแข็งขัน ไม่สนคำทัดทานจากน้ำฟ้าเหมือนเจ้านาย...
"โยชิ..." เรียกพร้อมหันไปมองเจ้าของชื่อ แต่เมื่อเห็นวัตถุที่กำลังถืออยู่ในมือก็เปลี่ยนใจ... "เตโช...นายมาอุ้มหนูลินที... ฉันจะดูอาการ...'แม่'...ของหนูลินก่อน..." ชายหนุ่มบอก สองตาไม่ละไปจากอาการเจ็บปวดที่คนตัวเล็กตรงหน้าแสดงออกมา...
แต่ทว่าคนรับคำสั่งกลับยืนนิ่งอึ้ง...เพราะไม่นึกว่าจะได้รับงานแบบนี้ ...อุ้มงั้นเหรอ... ให้ผมไปอุ้มเด็กเนี่ยน่ะเหรอบอส !! บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าตายผู้มีกล้ามเนื้อสีแทนสมส่วนสวยงาม ผู้ผ่านงานอันตรายมาร้อยแปดพันเก้า...ให้บุกน้ำลุยไฟแค่ไหนไม่เคยหวั่น... แต่ว่า...เขาน่ะ...กลัวการอุ้มเด็กที่สุด...!!!
"เต้...นายเต้ ! บอสบอกให้นายไปอุ้มคุณหนูลิน...ไม่ได้ยินรึไงว่ะ !!" ซึโยชิเห็นเพื่อนยืนนิ่งก็ถองมือใส่เอวคนตัวใหญ่กว่าแรงๆหนึ่งทีพร้อมกระซิบเรียกดุๆ คนตัวสูงสะดุ้งนิดก่อนก้มลงมองเพื่อน...
"ได้ยิน...แต่...ฉันกลัว..."
"กลัวไรว่ะ !"
"...ฉันกลัว...เด็ก... ฉันกลัวไปทำลูกเขาหักท่อน... นายดูแขนฉันดิ...ใหญ่ขนาดนี้จะไปอุ้มเด็กได้ยังไง..." แล้วชายหนุ่มหน้าตายแต่กลับปอดไม่เข้าเรื่องก็สารภาพเสียงอ่อย... ทำเอาซึโยชิต้องเอาที่คีบขวดนมตีหน้าผากตัวเองดังป๊อก... มิน่า...เมื่อวานนายนี่ไม่ยอมเข้ามาแตะตัวคุณหนูไวโอลินเลย...
"เตโช...ฉันบอกให้มารับหนูลิน..." เมื่อเห็นว่าลูกน้องตัวเองชักช้าชายหนุ่มจึงสั่งซ้ำพร้อมเหลือบตามามอง...
"อ่ะ...เอ่อ...ครับบอส..." ...แต่ถึงจะกลัวเด็กมากแค่ไหน...แต่บอสเขาน่ากลัวกว่าหลายหมื่นเท่านัก...
ว่าแล้วเตโชก็ก้าวเข้ามาหาบอสตัวเองอย่างกล้าๆกลัวๆ แล้วยื่นมือออกไปอย่างเก้ๆกังๆ ทำให้ซึโยชิที่ยืนมองดูอยู่ทนไม่ได้ขึ้นมา ต้องรีบเดินมาใกล้ๆเพื่อกำกับสั่งการคนตัวโต...
"นายต้องเอามือสอดไว้ใต้นี่ อีกข้างนึงประคองที่ศีรษะสิ...คอเด็กยังไม่ตั้ง... เดี๋ยว...คุณหนูก็คอ..."
"หยุดเดี่ยวนี้...นะ พวกนายจะเอาลูกฉันไปไหน...ไม่ได้นะ ฉันไม่ให้...ไป..." น้ำฟ้ารีบโวยวายก่อนที่จะพยายามลุกขึ้นยืนเพื่อจะตามเอาหนูลินคืน ทว่าพอจะก้าวก็กลับล้มฮวบลงอีกรอบเพราะอาการความดันต่ำกำเริบกะทันหัน ทั้งเจ็บทั้งมึน คราวนี้น้ำฟ้าเตรียมใจรับแรงกระแทกลงพื้นหนที่สามเต็มที่...
"ยังจะปากเก่ง...แค่ยืนยังจะไม่รอด..." เจ้าของอ้อมแขนอุ่นๆที่เข้ามาคว้าเอาตัวน้ำฟ้าไว้ทันก่อนถึงพื้นกล่าวเสียงเข้มใส่เบาๆ
"คะ...คุณ..." อารามตกใจทำให้น้ำฟ้าเผลอตัวคว้าเอาเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น ทว่าพอสติเข้าที่น้ำฟ้าก็ร่ำร้องให้ปลดปล่อยตัวเองทันที "...ปล่อย ! นะ..." ว่าแล้วน้ำฟ้าก็สะบัดตัว และชายหนุ่มก็ปล่อยเอวแต่โดยดี แต่กลับไปคว้าข้อมือข้างที่เจ็บมาจับไว้แทน พร้อมกับออกแรงให้คนตัวเล็กออกเดินตาม
"...โอ๊ยย...นี่ เดี๋ยว...จะพาผมไปไหน...ไม่ไปนะคุณ...ผมจะไปหาลูกอ่ะ..." พูดพลางน้ำฟ้าก็พยายามบิดข้อมือตัวเองให้หลุดจนแทบจะเคล็ดไปด้วยแล้ว แต่ทำยังไงก็ง้างมือแข็งแรงนี่ไม่ออกเสียที สุดท้ายก็ทานแรงเจ็บและแรงบังคับของผู้ชายตรงหน้าไม่ไหว จำต้องปลิวตามแรงมานั่งแปะลงบนเตียงตามเดิม...
"จะไปหาลูกแล้วทำอะไรได้... มือเธอเป็นแบบนี้ ขืนให้มาอุ้มหลานฉันคงได้หล่นลงพื้น..." พูดจบก็จ้องเขม็งบนใบหน้าเนียนสวยที่งอง้ำไม่พอใจ... ทั้งๆที่หน้าตาตอนเงียบปากและตอนนอนก็ดูน่ารักดีแท้ๆ... แต่อย่าให้ตื่นเถอะ... ทั้งช่างพูดทั้งดื้อดึงไม่มีใครเกิน...ขยันขัดใจเขาได้ตลอดเวลา ขนาดตอนนี้เขาหวังดีจะช่วยดูมือกับทายาให้แท้ๆ... แทนที่จะนั่งนิ่งๆแล้วขอบคุณซักคำไม่มี...ยังจะมาทำหน้าไม่พอใจอีก... ทั้งๆที่คนอย่างรังสิมันต์ไม่เคยต้องมาบังคับฝืนใจใครได้มากมายเท่านี้มาก่อนเลย...
ฝ่ายคนตัวบางกว่าก็ได้ช้อนสายตาขุ่นเคืองส่งให้ เมื่อความจริงก็เป็นอย่างที่ชายหนุ่มพูดจริงๆ เมื่อครู่ก็ดูออกแล้วว่าถึงเขาได้ตัวหนูลินคืนก็คงไม่สามารถจอุ้มตัวหนูน้อยได้หากมือยังเป็นอยู่อย่างนี้... ถ้าอย่างนั้นแล้วเขาจะทำยังไงดี จะเอาตัวหนูลินกลับบ้านยังไงดี...!
"ไม่ต้องห่วงหรอก... ฉันแค่ให้เตโชพาหนูลินไปกินนมก็เท่านั้นแหละ..." จู่ๆไม่รู้เป็นเพราะได้เห็นสีหน้าและแววตาของคนตัวเล็กที่พะวงกับหลานของเขามากหรือยังไง ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจพูดประโยคนี้ออกมา... และสายตาที่มองกลับสบตาก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีๆเล็กน้อย เมื่อพบว่ามันไม่ได้มีแค่ความโกรธเคืองเหมือนก่อนหน้านี้ แต่เจือแววสงสัยพร้อมประกายตาแปลกๆที่ชายหนุ่มไม่คิดว่าจะได้จากคนตรงหน้า...
"บอสครับ...กล่องยา..." มาคัสบอกเจ้านายหนุ่มก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้อง... รังสิมันต์หันไปขอบใจเบาๆแล้วรับเอากล่องยามาถือไว้เอง... มาคัสยืนนิ่งไปเล็กน้อยเพราะคิดว่าปกติมันน่าจะเป็นเขามากกว่าที่จะเป็นคนดูแผลของน้ำฟ้า แต่เมื่อเห็นแล้วว่าไม่น่าจะมีคำสั่งอะไรเพิ่มเติมจากเจ้านายเขา ชายหนุ่มจึงถอยกลับไปยืนคอยหน้าห้องเหมือนเดิม...
รังสิมันต์เดินไปหยิบเก้าอี้หวายสานใกล้ๆโต๊ะข้างเตียงมาวางตรงหน้าน้ำฟ้า...แล้ววางกล่องยาลงบนเตียง... ยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อขอมือข้างที่เจ็บมาดู... แต่ปฏิกริยากระเถิบแขนถอยก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกขัดใจ... จึงยื่นมือไปคว้ามาดูเอง...แต่คงผิดท่าไปหน่อยเพราะดันโดนตรงที่เจ็บพอดี เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากแน่นจนซีดเพื่อกลั้นเสียงร้องและนั่นก็ไม่พ้นสายตาของชายหนุ่ม...
"ขอโ..." ...เขากำลังจะพูดคำว่าอะไร... ...ขอโทษ...งั้นเหรอ ทั้งชีวิตไม่เคยคิดว่าจะต้องพูดคำๆนี้กับใคร... แล้วเขาจะพูดทำไมกับคนตรงหน้า เพิ่งเจอกันได้กี่วันกัน...แล้วความสัมพันธ์ระหว่างกันคืออะไร...
คิดแล้วชายหนุ่มก็เผลอนึกไปถึงน้ำตาหยดเมื่อวานที่เห็น... ตอนนั้นก็ทีนึงแล้วที่เกือบเผลอพูดคำๆนี้ออกไป... คนๆนี้จะมามีอิทธิพลให้เขาต้องมีความรู้สึกผิดจนอยากขอโทษถึงสองวันติดเลยรึยังไง...
"...เจ็บแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก... เป็นผู้ชายก็ทนเอาหน่อย..." รังสิมันต์เอ่ยแล้วก้มลงมองมือข้างที่บวม กดๆดูตรงจุดที่คนเจ็บสะดุ้งก็นึกรู้ว่ามันซ้นจุดไหน จากนั้นชายหนุ่มก็ก้มหน้าก้มตาทายาลงบริเวณที่เจ็บ พอเห็นว่านอกจากตรงที่ซ้นแล้วรอยที่เขาจับข้อมือเล็กลากมาก็เป็นรอยแดงด้วยจึงเอ่ยบอก... "เธอนี่จะผิวบางเกินไปหน่อยรึเปล่า...จับนิดจับหน่อยก็เป็นรอย โดนข่วนนิดหน่อยก็เป็นทางยาว..." พูดจบชายหนุ่มก็หยิบผ้ารัดข้อมือมาเตรียมพัน... รู้สึกแปลกๆที่ครั้งนี้ไม่โดนต่อปากต่อคำเหมือนเคย...
"...เป็นอะไร รึว่าเจ็บจนพูดไม่ออก..." ...อดไม่ได้ต้องถามออกมา และเมื่อมองหน้าก็พบกับหน่วยตาแดงๆพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลลงข้างแก้ม... และคนตัวเล็กก็รีบปาดมันออกอย่างรวดเร็ว... มองอย่างนั้นชายหนุ่มก็นึกพรั่นไปว่า...คงจะเจ็บที่มือมาก...
"ขอ..." ...ครั้งที่สาม...ที่เกือบเผลออีกแล้ว...
หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างไม่พูดอะไร... รังสิมันต์ก็ตั้งหน้าตั้งตาพันข้อมือให้อย่างดี และพยายามหย่อนแรงที่ทำลง ส่วนน้ำฟ้าก็ได้แต่กัดปากนั่งเงียบ พยายามไม่มองหน้าไม่มองการกระทำของคนตรงหน้าซักนิด... ไม่ค่อยเข้าใจ...ทำไมต้องมาทำให้ขนาดนี้... ทั้งๆที่เมื่อวานก็...ใจร้ายกับเขาขนาดนั้น
"เมื่อเช้า...ฉันเห็นเธอนอนไม่ยอมตื่น แล้วหนูลินก็ร้อง...ฉันเลยพาหนูลินออกไป...เดินข้างนอก...ถ้าเธอข้องใจ..."
"
...บอสครับ !! คุณหนูลินไม่ยอมดื่มนมเลย... แถมยังร้องไม่ยอมหยุดเลยทำยังไงดีครับ...!" จู่ๆซึโยชิก็เปิดประตูพรวดเข้ามาพร้อมมือที่ถือขวดนมเอาไว้ ส่วนหนูลินก็อยู่ในอ้อมแขนของนายบอดี้การ์ดตัวโตเตโช...และกำลังแหกปากร้องไห้จ้าจนหน้าแดงไปหมด...
"หนูลิน !!" เห็นแล้วคราวนี้น้ำฟ้ารีบสะดุ้งตัวลุกออกจากเตียงโผเข้าหาลูกทันที...
"...หม่ะม๊า... ม๊าาาา...แงงง......" ส่วนเจ้าหนูน้อยก็พลิกตัวจะลงหาแม่น้ำฟ้าเช่นกัน... ก็ดื่มนมทุกเช้าน่ะ เขาต้องได้อยู่ในอ้อมแขนของแม่น้ำฟ้าคนเดียวเท่านั้น ได้เล่นผมนุ่มๆของแม่ฟ้า ได้รับจูบอรุณสวัสดิ์จากแม่ฟ้าก่อน... แต่นี่ตั้งแต่เช้าเขายังไม่ได้กอดแม่ฟ้าเลยนะ... ถ้าพูดได้หนูลินคงพูดออกมาอย่างนั้น... และน้ำฟ้าก็รับรู้สิ่งที่หนูลินจะสื่อออกมาชัดเจน...
แม้จะเจ็บแสนเจ็บข้อมือแต่น้ำฟ้าก็ทนรับลูกเข้ามากอดแนบอกพร้อมจูบปลอบขวัญที่ขมับแล้วเห่กล่อมให้หยุดร้อง... น้ำฟ้าไม่ชอบเลยจริงๆเวลาได้เห็นน้ำตาของหนูน้อยแบบนี้... พูดก็ยังไม่ได้ หากเจ็บตรงไหนก็ไม่สามารถบอกกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้ และน้ำฟ้าจะรู้สึกทรมานใจทุกครั้งที่หนูลินเป็นแบบนี้... เขาเลี้ยงหนูลินมาตั้งแต่เกิด ปวารณาตัวเองให้เป็นทั้งพ่อและแม่ของหนูลิน แล้วพ่อแม่ที่ไหนจะทนเห็นลูกร้องไห้ได้กันเล่า...
"ไม่เอาครับไม่ร้อง...แม่ฟ้าอยู่นี่นะ...คนเก่ง... ไม่ร้องเร็ว..เดี๋ยวแม่ฟ้าพาไปกินนมหวานนะ... หมูน้อยเงียบนะ...อยู่กับแม่ฟ้าแล้วไม่มีใครทำอะไรหนูได้หรอก...นะ เดี๋ยวเราก็จะได้กลับบ้านไปหม่ำๆนมไงครับ... เนอะ...มุ๊ๆเนอะ..." พออยู่กับลูกแล้วน้ำฟ้าก็รู้สึกโล่งไปหนึ่งเปลาะ และไม่คิดสนใจคนรอบข้างใดๆทั้งสิ้นตั้งหน้าตั้งตาปลอบหนูน้อยอย่างที่เคยทำ...
ส่วนหนูไวโอลินเมื่อได้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนอบอุ่นและกลิ่นหอมขนมหวานที่คุ้นเคยแล้ว...เล็กน้อยก็เริ่มเงียบลงทีละนิด สองมือน้อยยกขึ้นกำพันผมยาวสลวยของน้ำฟ้าที่ตกลงมาปลกสองข้างแก้มแล้วแกว่งเบาๆเพื่อยืนยันว่านี่คือแม่ฟ้าจริงๆ... ภาพนี้เหมือนคุ้นๆในความทรงจำของรังสิมันต์นัก... เหมือนเคยเห็นภาพคล้ายๆกันนี้มาก่อน... อาจจะเป็นภาพ...ที่ทำให้เขาทำลายรูปถ่ายของน้ำฟ้าในคราแรกไม่ลงก็ได้... ภาพเดียวกันกับรูปถ่ายใบนั้น...ที่ยังเก็บเอาไว้ข้างตัว...
"กลับบ้านเราเนอะหนูลิน... ป่านนี้น้ากานต์คงตกใจแย่แล้ว...กลับมาไม่เจอเรา..." พูดแล้วน้ำฟ้าก็ทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง แต่เสียงทุ้มนุ่มของคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ก็หยุดเขาไว้...
"เดี๋ยว...ให้หนูลินกินนมก่อน...ส่วนเธอ...ก็ไปเปลี่ยนชุดแล้วก็...ทานข้าวเช้าซะ แล้วฉันจะไปส่งเอง..." พูดแล้วรังสิมันต์ก็ลุกแล้วโยนอุปกรณ์รวมทั้งยาใส่กล่องปฐมพยาบาลส่งๆ เพราะคิดว่าคนตัวบางต้องทำตามแน่...แต่ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดอีกแล้ว...
"ไม่ต้อง...แค่เปลี่ยนชุดอย่างเดียวแล้วผมจะกลับเอง...ไม่ต้องไปส่ง..."
"ฉันพาเธอมา... เพราะงั้นเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปส่งเอง... คงไม่อยากตอบคำถามเพื่อนเธอใช่มั้ยล่ะ..." ฟังแล้วน้ำฟ้าก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย ตอบคำถามเพื่อน...เรื่องอะไร?... "...ก็ฉันไปส่งเร็วกว่า...คงถึงก่อนเพื่อนเธอมาที่บ้านแน่ๆ... รึอยากจะกลับไปตอบคำถามเพื่อนเธอก็ได้นะ...ว่าเมื่อคืน...เธอพาลูกกับตัวเองมานอนกับฉันถึงบ้าน..."
-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue...
เหอๆ บอกจะลงเร็วๆนี้แต่เล่นหายไปเป็นชาติเลยเนอะ...
ไม่มีคำแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นจ้า...นอกจาก...มาก้มหน้าก้มตาปั่นนิยายต่อไป...
อยากให้ปิดเทอมเร็วๆอ่ะ...จะได้ปั่นลงได้บ่อยๆ

แถมอาทิตย์ที่แล้วชลบุรีฝนฟ้าคะนองผิดฤดูอ่ะ ฟ้าร้อง
เปรี้ยง ! ดังมากอ่ะ
ตอนแรกเข้าใจว่าระเบิดลง...ไม่ก็สึนามิมา เพราะหอเค้าอยู่ห่างจากชายหาดบางแสนแค่ 500 เมตรเองอ่ะที่รัก !!!
ม่ายยย คืนนั้นตื่นกันหมดเลยอ่ะทั้งเค้าทั้งเมท ไม่มีใครนอนหลับซักคน...
ปรากฎว่ารุ่งเช้ารู้ว่าฟ้ามันไม่ได้แค่ร้องอย่างเดียว...มันผ่าด้วยเว้ยเฮ้ย !!
ต้นไม้ล้ม เสาพัง...อันนั้นไม่เท่าไหร่ แต่มันทำให้สายแลนหอเล่นไม่ได้ด้วยนี่ดิ...เครียด !!!
เพิ่งมาได้เมื่อสองสามวันนี้เองอ่ะเลยรีบเอามาลง...แหะๆ...
อ่อ...อีกนิดนะจ๊ะ...อาทิตย์หน้าเค้าสอบกลางภาคอ่ะ...เพราะงั้นเดี๋ยวไว้ว่างๆสุดสัปดาห์จะมาต่อเน้อ...
ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ไม่ดองแน่...อ่ะ

(คิดว่านะ

)
ยังไงก็ช่วยกันเตะช่วยกันถีบเค้าบ่อยๆละกันแล้วเค้าจะฝ่าฟันอุปสรรคมาอัพต่อ...
ปล.ตอนนี้ท้องไม่ดีอ่ะ เสียบ่อยๆ...ระวังรักษาสุขภาพด้วยนะทุกคน ไปแล้วแล้วเจอกันจ้าาา 