Part 78
ลูกโดด....
.
.
.
.
หลังจากวันนั้น..กูกับไอ้พี่โต๋ตกลงจะทำตัวปกติ กิจกรรมที่เคยทำ
ก็เหมือนเดิมโดยมีมันคอยระวังให้กูตลอด แผนล่อเสือออกจากถ้ำยังดำเนินการต่อ
กูต้องไม่ทำตัวเป็นภาระให้มันมากังวล จากที่ไม่รู้อะไรเลยเมื่อรับรู้แล้ว
เห็นทีต้องแสดงศักยภาพ..ของตะเกียงเจ้าพายุให้ศัตรูรู้ฤทธิ์กันหน่อยแล้ว
พวกมันเห็นกูเป็นตัวอะไร..นึกอยากฆ่าก็สั่งฆ่าซะงั้น ดีล่ะ..เมื่อพวกเล่นแรงก่อน
อย่าว่าไอ้ตะเกียงร้ายก็แล้วกัน..เจอกันหน่อยดิไอ้เต่าหดหัว
กูนี่แหละจะลากคอพวกมัน..ให้ออกมาแสดงตัวเอง..
ชิ...รู้จักตะเกียงเจ้าพายุน้อยไปซะเร้ว............ย๊ากกกกกๆๆๆ!!!
หลังสอบกลางภาคผ่านไป ทุกอย่างเงียบ...เฉียบ..ไร้วี่แววผู้มุ่งร้าย
ทั้งที่กูออกจะทำตัวลัลล้า..ล่อตาตะเข้ตะโข่ง ให้มันออกมาปลิดปลงชีวิตกู
กลับไม่ยักมีใครอุกอาจออกมาลุยสักแอ๊ะ พ่อสิงห์บอกว่าพวกมันคงรอดูก่อน
น่าจะรอจังหวะเหมาะลงมือเร็ว ๆนี้แหล่ะ..แกกำชับไม่ให้ประมาทเลิ่นเล่อเป็นอันขาด
วันนี้อาจารย์หัวหน้าภาควิชาพละศึกษา นัดพวกกูทั้งสิบสองคน..เจอที่โรงยิมตอนบ่ายสาม
บอกจะแนะนำโค้ชให้รู้จัก พี่ท่านจะจัดตารางการซ้อมให้ทุกเย็น..เริ่มพรุ่งนี้เลย
ตารางเรียนของพวกกูถูกปรับลด โดยวิชาเลือกเสรีบางตัว..อาจารย์ยกยอดให้ไปเรียนเสริมทีหลัง
ไม่ต้องเรียนเต็มพีเรียล ยกเว้นวิชาหลักต้องเรียนตามปกติ ทำให้ได้สิทธิ์เลิกบ่ายสามโมง
และอยู่ซ้อมบาสจนถึงหกโมงเย็น รู้สึกคึกคักกระดี๊กระด๊าได้อีก
เพราะแมทนี้..ไปทัวร์ถึงเกาหลีเมืองปูซาน น่าสนใจไหมล่ะ...
“กริ๊งงงๆๆๆ!!!.” สัญญาณหมดเวลาคาบเจ็ด..บ่ายสามโมงตรง กู..ไอ้พี่โต๋..ไอ้พี่บอมย์...
ไอ้พี่รัน...ไอ้พี่กาน..ไอ้พี่โทนี่ ต่างเก็บสัมภาระลงกระเป๋า พากันเดินออกห้อง
ท่ามกลางสายตาเพื่อน ๆ..หลายคนคงรู้..ว่าพวกกูไปทำอะไรกัน แต่ยังอดมองตามไม่ได้..
เพราะพวกต้องนั่งเรียนต่อกันอีกคาบ....ศรีริต้า..จ้องกูตาไม่กระพริบ...????
มาถึงยิม พวกเหยี่ยวเวหามารอก่อนแล้วครบเซ็ท ไอ้พี่รันพอเจอไอ้พี่พรต..รีบเดินเข้าไปหามันทันที
“เอาชุดกูมาด้วยเปล่า?” อ่า!..มันถามไอ้พี่พรต
“เอามา..อยู่ในกระเป๋า” อื้อ!..ไอ้พี่พรตตอบมัน ไมชุดไอ้พี่รันถึงอยู่กับไอ้พี่พรต?
“ป่ะ!..ไปเปลี่ยนชุดกัน” พูดจบ..มันล๊อคคอลากไอ้พี่พรต
เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากันสองคน ท่ามกลางสายตายี่สิบคู่ที่มองตาค้าง
ซึ่งมันหาได้สนใจไม่..ยังกะโลกใบนี้มีมันสองคนซะงั้น
แม่ง..แน่จริง..จริ๊งงงง..กุนซือกู..อย่าได้แคร์จัดไปเลยพี่..
อึ้ง..ทึ้ง..ปนเสียว...ว้าวววๆๆ!...ควายธนูรุ่นใหญ่สองตัว..ควงกันไปแล้ว..ฮิ้ววววว!!!!
ตั้งแต่ไอ้พี่รันอะไรยังไงกับไอ้พี่พรต รู้สึกไอ้พี่พรตจะลดการกวนโอ้ย
ความกร่างยียวนกวนส้นหดหายไปเลย แถมพวกเหยี่ยวเวหาก็ไม่ค่อยอะไรอีก
กลับทำตัวเรียบร้อยกันซะงั้น หรือที่เขาพูด..พอดองกันแล้ว..น้องแก้วต้องคล้อยตามพี่...อิอิอิ
เพราะลูกพี่พฤติกรรมเปลี่ยน พวกลูกทีมก็หันหัวตาม สิงห์รันกูแน่มาก เด็ดปีกเหยี่ยวจนเชื่องได้
ปกติไอ้พี่พรตมันเจอกู..ต้องหยอดต้องหม้อไปตามเรื่อง เดี๋ยวนี้ไม่แม้แต่น้อย
เอาตรง ๆมันพบรักกัน..จนเพื่อนวงในตั้งชื่อให้ว่า ‘
คู่รักสนามรบ’ ตลกพิลึก..
รบในเกมส์กีฬาสี..กลายเป็นคู่สยิวกิ้วของวงการซะงั้น แต่ก็ไม่มีใครพูดไป..รู้กันแค่พวกกูเนี๊ยะแหล่ะ
ขืนข่าวแพร่กระจายออกไปล่ะก็ ไม่อยากจะคิด สาวแท้ สาวเทียม แฟนคลับ ตลอดจน
พวกที่คลั่งไคล้พวกมัน..จะหัวใจแตกกระจายกันขนาดไหน ก็นะ..ท๊อปฮ๊อทอันดับสองอันดับสาม
หันมานัวกันเองซะงั้น ใครไม่หัวใจสลายให้มันรู้ไปสิว่ะ!....กร๊ากกกๆๆ!!!
พวกกูจัดการเปลี่ยนชุด..เตรียมพร้อมรอโค้ช ไอ้พี่เทคเดินมาหากู ถามกูว่า
“ตะเกียงครับ พี่ได้ยินว่า..สองอาทิตย์ก่อนวิ่งหลบกระสุนกันเลยหรือครับ?” กูเลยยิ้มให้ ก่อนตอบไปว่า
“ใช่ครับพี่ ยังกะหนังฮอลิหวู๊ดแน่ะ...ไม่รู้แก็งค์ไหนถล่มกับแก็งค์ไหน เกือบโดนลูกหลง
ดีที่ตะเกียงสวมวิญญาณเจมส์บอนด์ ตีลังกาสามตลบ..
เข้าบังหลังครกส้มตำทันแหละ...5555!...เอิ้กกกๆๆ!!!” มันมองหน้ากูกลั่นขำหน้าดำหน้าแดง
ไหนที่สุด..ก็ทนม่ายไหว.....หัวเราะซะดังลั่น...
“5555!!!...จี้ชะมัด..ตะเกียง..คิดได้ไงตีลังกาหลบหลังครกส้มตำ อย่าบอกว่าที่รอดมีชีวิตมา..
เพราะบารมีครกส้มตำช่วยไว้อ่ะนะ?” ยังด้นมุกสดกับกูต่อ
“จริงดิ...ตะเกียงจะโกหกทำไมเล่า รอดมาได้เนี๊ยะ!..เพราะปาฏิหาริย์ครกส้มตำล้วน ๆ
แม่ค้าคนตำ..เค้าฝีมือขั้นเทพเลยเชียวน๊า..” ละไว้ให้พี่แกงงเต็กแหละ ไงเดี๋ยวต้องถามต่อแน่
หลายคนเห็นกูกับมันสนทนากันออกรส ขยับเข้ามาฟังกันใหญ่
“หือ.....ฝีมืออะไรขั้นเทพ?” น้านนน...ว่าแล้วต้องถาม
“ก็..แหม...ฝีมือควงสากปัดกระสุนไงพี่ พวกโจรรัวยิงเต็มแม็ก
ลูกกระสุนไม่สามารถฝ่ารัศมีสากกระบือ..ที่แม่ค้าเค้ายกควงร่อน..
ตวัดปัดกระสุนกระเด็นกระดอนแตกกระจายระเอียดยิบ....นับปลอกกระสุนโดยรวม..
แหล่งข่าวแจ้งว่า..ประมาณห้าร้อยกว่าปลอกเลยน๊า..!” กูยังฝอยแมงโม้บินว่อน
พวกมันต่างฟังกูปากอ้าตาค้าง ทั้งพวกที่อยู่ในเหตุการณ์..พากันกลั้นขำระนาว
ส่วนพวกเหยี่ยวเวหา ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ยกเว้นไอ้พี่พรต อึ้งกิมกี่กันเป็นแถว
ไอ้พี่ชัด..คงอดใจไม่ไหวถามขึ้นบ้าง
“นี่พูดจริงหรือพูดเล่นเนี๊ยะ?” หนะ!...ว่าแล้วมันต้องอยากรู้ จัดไป
“พูดจริ๊งงงงๆๆๆ!!!..” เสียงสูงได้อีกกู
“ห่ะ!...ยิงกันเป็นว่าเล่น..รัวกระสุนสี่ห้าร้อยลูกเลยเหรอะ?” ไอ้พี่ต้าพาซื่อ..ถามมาอีกคนแหละ..
ไอ้พี่บอมย์ ไอ้พี่กาน ไอ้พี่โทนี่ แม้แต่ไอ้หล่อเทพ..กลั้นขำหน้าดำหน้าแดง
ฟังกูอำพวกพี่เค้าต่อ...
“เอ้า!...จริงดิ...ลูกโดดล้วน ๆ คนตำควงสากตวัดรัวใส่กระหน่ำเลยพี่ ไม่ใช่ธรรมดานะนั่น”
กูยังเล่นไม่เลิก
“แล้วพวกตะเกียงทำไง เห็นว่าไปกันตั้งหลายคน ผู้หญิงก็มีไม่ใช่เหรอ
ไม่โดนลูกหลงกันสักคนเลยนี่ โชคดีมากเลยนะ ห่ากระสุนรัวมาขนาดนั้น” ไอ้พี่วิน
แสดงความคิดเห็นมาอีกคนแหละ....
“อ้าว!...ก็ตัวใครตัวมันแหละพี่ ตะเกียงรับไปสิบลูกคนเดียวล้วน ๆ
ส่วนคนอื่นกระจัดกระจายแล้วแต่ใครสามารถรับได้แค่ไหน” ถึงตรงนี้
พวกมันหันมองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก เริ่มงงเต็กเข้าไปใหญ่ว่าพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า
กูรู้สึกสงสารเห็นหน้าหมางงแล้วก็นะ ในขณะที่พวกสิงห์โตดำ..เริ่มจะหมดความอดทน
จะปล่อยกร๊ากกันอยู่มะร่อมมะร่อแล้ว หน้าดำหน้าแดงน้ำตาเล็ดกันอยู่ด้านหลัง..พวกพี่เค้านั่นแหละ
เฉลยให้เข้าใจดีกว่า..น่าสงสารหน้าซื่อๆ ..
“ก็ตะเกียงรับไหวแค่สิบเม็ด นี่ถือว่าเผ็ดสุดแล้ว ส่วนคนอื่น ๆก็แค่เม็ดสองเม็ด
เผ็ดขี้แตกขี้แตนกันแล้วพี่ เหงื่อไหลซิบซกเล็กหยดกันติ๋ง ๆแล้วนะนั่น..ขืนมากกว่านี้
ไฟลุกกระเพาะแน่ ๆ..เผลอๆขี้ที...คงแสบตูดแดงจนเป็นตูดลิงเข้าให้” กูพูดจบ พวกเหี้ยสิงห์โตดำ
ปล่อยกร๊ากกกๆๆ..กันทันที เหยี่ยวเวหาถึงบางอ้อ อายกันหน้าดำหน้าแดง ทนฟังกูพร่ำตั้งนาน
กว่าจะรู้กระสุนกูหมายถึงพริกขี้หนูลูกโดด ที่แม่ค้าเค้าใส่ส้มตำอ่ะนะ เป็นไงมุกไอ้ตะเกียง
แป๊กสมใจกันดีไหมงานนี้.....ห่ะ..ห่ะ..ห่ะ!....กร๊ากกกกกๆๆๆๆ........
ขอให้มีความสุขส่งท้ายเทศกาลสงกรานต์กันนะค่ะ..อย่าลืมสรงน้ำพระ..รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ด้วยนะค่ะ
แต่กำนันไม่ต้องก็ได้ค่ะ...ประเพณีเค้าเน้นรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ท่านเดียว...ไม่ได้บอกกำนัน...ก๊ากกๆๆ
Luk. [/color]