คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น  (อ่าน 196867 ครั้ง)

min_min

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #120 เมื่อ04-08-2007 16:42:06 »

กำ  เกิดไรขึ้นนิ     นายเอกโดนกลั่นแกล้งซะแร้ว 
สู้เขานะจั๊บ   
แล้วนี่อะไรนิกะลังอ่านเพลิน    สะดุดกึก  อารมณ์ค้างอย่างแฮง

จะยะจะใดดีนิ  ขะใจ๋มาต่อเวยๆเน่อ    มะอั้นจะโขด     
ฮึ่มๆๆๆๆๆๆ 


 :m16: :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #121 เมื่อ04-08-2007 18:02:40 »

 :impress: :impress: :impress:

โดนแกล้งแล้วนะ เหอๆๆ อย่ายอมแพ้ละพี่ก๊วยจั๊บ

แล้วพี่เจมิลีหายไปไหนอะ เหอๆๆ แล้วจะรออ่านตอน

ต่อไปนะครับ ค้างคา อะครับ

 :impress: :impress: :impress:

paryjt

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #122 เมื่อ05-08-2007 04:15:54 »

ค้างด้วยคนคับ

เพิ่งปาดมาเจอ อ่านทีเดียวรวดเดียวจบเลย แล้วก้อตามมาค้างเหมือนคนอื่น ๆ

เรื่องสนุกมากเลยคับ อินเตอร์จริง ๆ

รีบมาต่อนะคับ ปล่อยให้ค้างนาน มันมิดีคับ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #123 เมื่อ05-08-2007 14:51:08 »



คนนี้แหละใช่เลย 11


“โอ๊ย!!!!”

เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของก๊วยจั๊บดังก้องสตูดิโอ ทำให้คนที่ทำงานอยู่หันมามองเป็นตาเดียว เจมินี่วิ่งตรงมายังร่างที่ทรุดลงกับพื้น ตามมาด้วยซิสซี่และริค นายแบบหนุ่มประคองก๋วยจั๊บให้ลุกขึ้นยืน แล้วเม้มปากแน่น เมื่อเห็นเลือดสีแดงเข้มไหลเป็นทางยาวลงมาตามแขนยาวเรียว

“เกิดอะไรขึ้น” เจมินี่ตรวจดูบาดแผลอย่างละเอียด บาดแผลไม่ใหญ่นักแต่ไม่แน่ว่าจะมีเศษแก้วฝังอยู่หรือเปล่า

“ฉันหกล้ม” ปากพูดแบบนั้นแต่สายตากลับตวัดไปที่ใบหน้าของลอเรนซ์ ซึ่งยืนยิ้มอยู่เงียบๆ จริงๆแล้วมันต้องเป็นเขาถูกขัดขาให้ล้มต่างหาก

“พาไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่านะ เลือดไหลไม่หยุดเลย”

ซิสซี่ออกความเห็น แต่ชายหนุ่มส่ายหน้า

“ไม่ไป แผลเล็กแค่นี้เดี๋ยวก็หาย”

“ไม่ได้! ยังไงก็ต้องไป” เจมินี่พูดเสียงแข็ง เจ็บแล้วยังจะดื้ออีก

“ไม่ไป!!” ก๋วยจั๊บแผดเสียง ความเจ็บและความไม่พอใจทำให้อารมณ์เริ่มคุกรุ่นทีละน้อย

ก่อนที่จะพูดอะไรอีก ริคก็เอ่ยแทรกขึ้นมา

“ถ้าไม่ไป อย่างน้อยก็ไปทำแผลก่อนก็ยังดีนะครับ ผมจะทำให้เอง” แล้วชายหนุ่มก็ถูกจูงมือไปทำแผลอีกด้านหนึ่ง

คนอื่นๆเมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรต่อแล้วจึงพากันแยกย้ายไปทำงานเหลือเพียง เจมินี่ และลอเรนซ์ที่ยังยืนนิ่ง ลอเรนซ์ขยับเข้าไปจนชิดนายแบบหนุ่ม มือเรียวขยับจัดเนกไทด์ให้อย่างชำนาญ ดวงตายาวรีช้อนขึ้นมองอีกฝ่ายแล้วยิ้มอย่างรื่นรมย์

“ยังผูกไทด์ไม่เก่งเหมือนเดิมเลยนะเจ็ม ต้องให้บอกกี่ครั้งกัน หืม?” เจ้าตัวไล้นิ้วผ่านอกแกร่งลงไปถึงหน้าท้องแบนเรียบซึ่งซ่อนอยู่ใต้ผ้าไหมเนื้อเรียบลื่น ดวงตาสีเทาคมกริบไหววูบไปนิดนึง ก่อนจะกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มดันตัวลอเรนซ์ให้ถอยห่างไปเล็กน้อย

“ทำไมมาอยู่ที่นี่?”

“อา ...มาทำงานน่ะสิ ความจริงฉันไม่ต้องรับงานนี้ก็ได้ แต่พอรู้ว่าจะได้ถ่ายสตูดิโอเดียวกับนาย ฉันถึงได้รับ” ลอเรนซ์กวาดสายตาขึ้นลงมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่าย แววชื่นชมฉายชัดอยู่ในดวงตา

“นายหล่อขึ้นมากเสียด้วย ดีใจจริงๆที่ได้เจอ ถ้ายังไง....”

“แต่ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้น” เจมินี่เอ่ยขัดขึ้น “ถ้าไม่มีอะไรล่ะก็ ฉันขอตัวก่อน” ร่างสูงหมุนตัวกลับหันหลัง ลอเรนซ์คว้าแขนอีกฝ่ายไว้

“เดี๋ยวสิ เราไปกินมื้อเย็นกันดีไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยชวน เขารอโอกาสที่จะได้เจออีกฝ่ายมานานแล้วและแน่นอนว่าจะไม่ยอมปล่อยโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์อันแนบแน่นไปเสีย เขาจะไม่ยอมพลาด เหมือนคราวที่แล้วอีกเด็ดขาด

เจมินี่หันกลับมามองอีกฝ่าย ลอเรนซ์แทบจะไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยแต่เขาในวันนี้ก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มแสนโง่เหมือนในวันนั้น

“เสียใจ ฉันมีนัดแล้ว”

“ฉันจะรอนายที่เดิม ........เจ็ม จะรอจนกว่านายจะมา” ลอเรนซ์พูดไล่หลังร่างสูงที่เดินห่างออกไป ชายหนุ่มยิ้มอย่างมั่นใจ

‘นายต้องมาแน่ๆ เจ็ม นายไม่กล้าปล่อยให้ฉันรอหรอก’

.

.

.

.

เจมินี่ชำเลืองมองนาฬิกาเป็นระยะๆจนก๋วยจั๊บชักรำคาญจนต้องบอก

“นี่ ถ้ามีนัดล่ะก็ รีบไปเถอะ มัวแต่แอบมองนาฬิกาอยู่นั่นแหละ”

“เปล่านี่” เจมินี่ปฏิเสธ มองแขนที่พันผ้าพันแผลสีขาวไว้เอ่ยเบาๆ “ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า”

“อืม มันก็เริ่มปวดๆน่ะ แต่คงไม่เป็นอะไรมากหรอก พูดแล้วยังเจ็บใจไม่หาย ”

“หมอนั่นแกล้งนายใช่ไหม?”

“ใช่” ก๋วยจั๊บยอมรับ

“แล้วทำไมไม่เห็นโกรธเลย ปกตินายต้องเข้าไปลุยแล้ว” ชายหนุ่มหันหน้ามาทันที พูดเสียงเข้ม

“ไม่โกรธเรอะ นายคิดว่าฉันจะไม่โกรธหรือไง ฉันแทบอยากจะหักคอหมอนั่นเลยด้วยซ้ำ” ร่างโปร่งนิ่งไปอึดใจแล้วพูดต่อ “แต่ว่าฉันก็เล่นงานหมอนั่นไม่ได้หรอก ใครๆก็เห็นว่าฉันมากับนาย ถ้าฉันมีเรื่องเขาก็อาจจะว่านายได้ แล้วก็ไม่มีใครเห็นว่าหมอนั่นขัดขาฉัน พูดไปก็เท่านั้น”

“สรุปว่าเป็นห่วง กลัวฉันเสียชื่อเสียง ว่างั้นเถอะ”

“ฉันน่ะนะ ไม่มีทาง” ก๋วยจั๊บย่นจมูก ว่าแต่ตอนนี้ชักหิวซะแล้ว “นี่ ฉันหิวแล้วนะ ใจคอจะไม่พาไปกินอะไรอร่อยๆหน่อยหรือไง ทีนายไปนอนบ้านฉันแม่ฉันยังทำนู่น ทำนี่ให้กินตั้งเยอะ”

“นายนี่ขี้โวยวายจริงๆเลยนะ ฉันยังไม่ทันว่าอะไรสักหน่อย ตอนเด็กๆแม่เอาโทรโข่งให้กินหรือไง?” เจมินี่ประชด ก๋วยจั๊บตาโตมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา

“โห นี่ปากคอเราะรายขึ้นเยอะนะ หรือจริงๆแล้วปากมันเสียก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้วฉันพึ่งรู้หรือเปล่า เอาล่ะจะพาไปกินข้าวหรือไม่พาไป ฉันหิว!!”

.

.

.

.

สปาเกตตี้จานโตโต ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนเกินจะห้ามใจไหวที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เจมินี่นั่งเท้าคางมองอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ เอ่ยเย้าว่า “อ้าว ไม่กินเหรอ ถ้าไม่กินฉันขอกินก่อนนะ หิวพอดี”

มือที่เอื้อมมาหมายจะคว้าจานสปาเกตตี้ถูกร่างโปร่งปัดออกเบาๆ แถมเจ้าตัวยังเอาสองมือบังจานสปาเกตตี้ไว้พร้อมส่งสายตาพิฆาตไปให้ ทำให้เจมินี่หัวเราะเบาๆในลำคอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับ

“ฮัลโหล”

“นายอยู่ไหนเจ็ม ทำไมถึงยังไม่มา” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มหน้าเครียดขรึมลง เสียงของลอเรนซ์ยังพูดต่อไปอีก “ฉัน ‘รอ’ นาย และจะไม่ยอมกลับด้วย จนกว่าจะได้เจอ รีบมานะ” เสียงลอเรนซ์เงียบไปแล้ว

ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์แล้วเอ่ยขึ้น “จั๊บ ฉันต้องไปทำธุระ แต่จะรีบกลับมา”

“อ้าว ..นายจะไปไหนน่ะ ไม่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ” เจมินี่มีสีหน้าลำบากใจ ก๋วยจั๊บจึงตัดสินใจไม่ถามต่อ “รีบไปรีบมาล่ะ ถ้าชักช้านะฉันจะกินสปาเกตตี้ของนายด้วย” เจมินี่หัวเราะก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้าน

ชายหนุ่มเดินเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อนไปยังภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสที่อยู่ตรงหัวมุมถนนห่างออกไปอีกสามล็อค เมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไป ก็ได้พบลอเรนซ์นั่งส่งยิ้มน้อยๆมาให้ ชายหนุ่มเอ่ยทัก

“เจ็ม ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมา นั่งก่อนสิ”

เจมินี่ทรุดตัวลงนั่ง นัยน์ตาสีเทาทอดมองลอเรนซ์ตรงๆ “มีอะไรก็ว่ามา ...ฉันคงอยู่ไม่นาน”

“ทำไมพูดเย็นชาอย่างนั้นล่ะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแท้ๆ” ลอเรนซ์ตัดพ้อ มือเรียวยาวยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ลอเรนซ์ก็ยังคงเป็นลอเรนซ์ที่ยังต้องดูดีในทุกสถานการณ์

“ฉันคิดถึงนายมากเลยนะ นายไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ” เสียงนุ่มที่เอ่ยถามอย่างมีนัยทำให้เจมินี่เผลอขมวดคิ้ว

“ฉันเลิกคิดถึงนาย ตั้งแต่วันที่นายเดินออกจากห้องไปอยู่กับพ่อฉันแล้ว” เจมินี่โต้ แต่ลอเรนซ์ยังคงยิ้มน้อยๆ เอ่ยกระเซ้า

“ไม่จริงมั้ง ถ้านายไม่คิดถึงฉัน...” ลอเรนซ์เอื้อมมือไปกุมมือแข็งแรงของเจมินี่แล้วบีบเบาๆ “ตอนนี้นายคงไม่อยู่ที่นี่หรอก”

เจมินี่ถอนหายใจ สิ่งที่หมอนั่นพูดมันก็ถูกอยู่บางส่วน แต่อย่างน้อยเขาควรทำให้ลอเรนซ์รู้เสียบ้างว่าเจ้าตัวไม่ได้มีอิทธิพลกับเขามากเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว

“ที่ฉันมาเพราะฉันไม่อยากให้นายต้องมารอ เพราะรู้ดีว่าการรอคอยมันทำให้รู้สึกแย่ขนาดไหน เหมือนเมื่อก่อนที่นายให้ฉันรอที่นี่ ตรงนี้ และฉันเองก็มีคนที่รออยู่ซึ่งไม่อยากให้เขาต้องรอนาน” เจมินี่ลุกขึ้นยืน “ขอตัวก่อนนะ รอย ฉันต้องกลับไปหาเขาแล้ว”

ลอเรนซ์อึ้งไปพักใหญ่ ใบหน้างามปานสลักเสลานั้นซีดขาว ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น สองมือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ใครกันที่ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนไป เขาต้องการให้เจ็มทรมาน ทรมานจากการคิดถึงตัวเขาเท่านั้น แล้วนี่เจ็มถือดีอย่างไรถึงมาพูดกับเขาแบบนี้ ความคิดบางอย่างผุดขึ้นในสมอง ลอเรนซ์ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยเสียงเรียบๆ

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ ฉันจะไม่รั้งนายไว้หรอก”

เจมินี่หันหลัง ก้าวเท้าจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตูเสียงอุทาน และเสียงร้องของคนในร้านที่ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มหันกลับมาแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของลอเรนซ์ล้มลงนอนอยู่ที่พื้น ชายหนุ่มรีบถลันเข้าไปประคองตัวลอเรนซ์ไว้ ชายหนุ่มปรือตามองอีกฝ่ายแล้วพยายามจะดันตัวออกห่าง

“ไม่เป็นไร ฉันแค่หน้ามืด นายไปเถอะ”

“รู้สึกยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ชายหนุ่มพยุงร่างสูงโปร่งให้ลุกขึ้น แต่ลอเรนซ์ก็ทรุดฮวบลงไปอีก เจมินี่จึงช้อนร่างของอีกฝ่ายไว้ในอ้อมแขน

“ไปพักที่ห้องฉันก่อนแล้วกันรอย นายไม่ไหวแล้ว”



เจมินี่พยุงลอเรนซ์ให้นั่งลงบนเก้าอี้โซฟาตัวยาวในห้องรับแขก ลอเรนซ์หลับตาเอนตัวซบพนักพิง แพขนตาสีน้ำตาลหรุบต่ำ

“ดีขึ้นไหม ไปหาหมอดีกว่า หน้าของนายซีดมาก”

“ฉันไม่เป็นไรมากหรอก แค่อยากได้น้ำสักแก้ว” เสียงแผ่วๆดังลอดออกมาจากริมฝีปากสวยได้รูป เจมินี่รีบเดินไปที่ครัวจึงไม่ทันเห็นรอยยิ้มเหยียดๆของลอเรนซ์

เมื่อได้ดื่มน้ำแล้ว ลอเรนซ์จึงเอ่ยขอบคุณ เจมินี่จึงให้ลอเรนซ์พัก นายแบบหนุ่มเอ่ยขึ้น

“ขอบใจมากนะเจ็ม ฉันนี่แย่จริงๆทำให้นายต้องลำบาก ฉันค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว จะกลับแล้วล่ะ”

“หน้านายยังซีดอยู่เลย ...รอย พักที่นี่ก่อนก็ได้”

“ไหนนายว่านัดใครไว้ไม่ใช่เหรอ ป่านนี้เขารอแย่แล้วนะ”

“พระเจ้า!!! ก๋วยจั๊บ!!! รอย นายอยู่คนเดียวไปก่อนนะ ฉันต้องไปรับเขาก่อน” เจมินี่อุทานแล้วผลุนผลันออกไปจากห้องทันที

เมื่ออยู่คนเดียวลอเรนซ์ก็ลุกขึ้นอย่างว่องไว อาการอ่อนเพลียก่อนหน้านี้หายไปโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มพึมพำ

“เอาล่ะ ได้เวลาโชว์ไทม์แล้ว เจ็มที่รัก รับรองนายลืมฉันไม่ลงเลยแน่ๆ”

.

.

.

.

“เอ้า ออกแรงหน่อยสิ ล้างยังนั้นมันจะสะอาดที่ไหน”

ชายร่างใหญ่ในชุดพ่อครัวพูดเสียงดังลั่น ก๋วยจั๊บหน้าบึ้งออกแรงขัดจานเพิ่มอีกนิด ตอนนี้ถ้าถามว่าอยากจะทำอะไรที่สุด เขาตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลย

“มันน่าฆ่าให้ตายนัก” ชายหนุ่มคำรามเบาๆ หลังจากเจมินี่ปล่อยให้เค้ารอ เค้าก็รอจนทนไม่ไหว พอเรียกบริกรมาคิดเงินก็ไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มาอีก นั่นก็เพราะเจ้าบ้านั่นบอกว่าจะเลี้ยงนั่นแหละ แล้วดูสิโทรศัพท์ก็ไม่ได้พกมา วี่แววเจ้านั่นก็ไม่มี ท้ายสุดเขาก็อ้อนวอนเจ้าของร้านขอล้างจานแทนโดนจับส่งตำรวจ

“เพราะเจ้าบ้านั่นคนเดียวแท้ๆ”

และจะด้วยเหตุผลว่าเจ้าของร้านกลัวจานแตกหรือเหตุผลใดก็ตามในที่สุดก๋วยจั๊บก็ได้มายืนอยู่หน้าร้าน พร้อมด้วยปัญหาใหม่ที่ตามมา

‘จะกลับห้องยังไงล่ะ’

ตอนมานั้นเจมินี่เป็นคนพาเดินมา แต่ตอนนี้มองไปทางไหนมันก็เหมือนๆกันหมด ก๋วยจั๊บแทบจะปล่อยโฮกลางถนนจริงๆ หรือว่าคืนนี้เขาต้องนอนข้างถนนซะแล้ว

“จั๊บ!!!”

เสียงคุ้นๆ ร่างโปร่งหันไปมอง เจมินี่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา แค่เห็นหน้าความโกรธก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“มาทำไม!!”

“ฉันขอโทษ มันมีเรื่องน่ะ”

“อ๋อ !!! แน่ล่ะ ถ้านายไม่มีคำอธิบายดีๆล่ะก็ มีเรื่องแน่ๆ คราวหลังถ้าคิดจะพามาปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ต้อง นายมันแย่ที่สุด!!”

“ฉันก็ขอโทษแล้วไง กลับห้องก่อนนะ แล้วจะอธิบายให้ฟัง”



ก๋วยจั๊บฮึดฮัดแต่ก็ยอมเดินตามเจมินี่กลับห้องแต่โดยดี ระหว่างทางสองคนต่างเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่คำเดียว เจมินี่แอบชำเลืองมองใบหน้าบูดบึ้งของอีกฝ่ายแล้วต้องถอนหายใจ ดูท่าทางโกรธน่าดู เมื่อกลับถึงห้อง ก๋วยจั๊บก็ทรุดตัวนั่งบนโซฟาอย่างแรง

“เอ้า อธิบายมา ถ้าเหตุผลไม่ดีล่ะก็น่าดู” ก๋วยจั๊บขู่ ดวงตากลมโตมองคาดคั้น

ยังไม่ทันที่เจมินี่จะได้อธิบายอะไร ประตูห้องชายหนุ่มก็เปิดออก ลอเรนซ์ในชุดเสื้อคลุมซาตินสีดำของเจมินี่เดินเนิบนาบออกมาท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเจมินี่และก๋วยจั๊บ

“รอย!!!”

“นี่..นาย!!!”

ลอเรนซ์ยิ้มเหยียดๆ สองแขนเรียวโอบกอดเข้าที่คอของอีกฝ่าย ปรายตามองก๋วยจั๊บอย่างท้าทาย

“กลับมาแล้วเหรอเจ็ม เรามาต่อกันเลยดีกว่า”

ก๋วยจั๊บอ้าปากค้างแล้วนิ่งไปชั่วครู่ สมองกำลังประมวลคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะ เค้นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น

“นี่เหรอ..... เรื่องที่นายว่า......” ร่างโปร่งก้มหน้า และเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ตะโกนดังลั่นห้อง “นายทิ้งฉันให้รอที่ร้านอาหาร โดยไม่สนใจว่าฉันจะเป็นยังไง ในขณะที่กลับมานัวเนียกับผู้ชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ นายมันแย่ที่สุด!!”

พูดจบชายหนุ่มก็วิ่งหนีเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูดังโครมใหญ่ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเจมินี่ตั้งตัวไม่ทัน

ชายหนุ่มผลักลอเรนซ์ออก พูดเสียงเข้ม “รอย มันไม่ตลกเลยนะ นี่นายแกลังทำไม่สบายใช่ไหม ทำไมทำบ้าๆอย่างนี้”

“ทำไมล่ะเจ็ม นายทำเป็นรังเกียจฉัน ฉันทนไม่ได้หรอกนะ จำไว้นะยิ่งนายปฏิเสธฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำให้นายยุ่งยากมากเท่านั้น”

ลอเรนซ์เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องของก๋วยจั๊บแล้วตะโกนเข้าไป “นี่!!! ฉันจะบอกอะไรไว้ให้รู้ ห้องนี้แต่เดิมเคยเป็นห้องเดิมของฉัน! ไม่แน่นะต่อไปฉันอาจจะมาทวงห้องคืนก็ได้ ถ้าถึงวันนั้นนายก็เตรียมตัวให้ดีแล้วกัน”

พูดจบลอเรนซ์เดินกลับเข้าห้องของเจมินี่สักพักชายหนุ่มก็เดินออกมาในชุดที่เรียบร้อย ลอเรนซ์ยิ้มนิดๆก่อนจะออกไป


เจมินี่ถอนหายใจยาว ชายหนุ่มเดินไปเคาะประตู ส่งเสียงเรียกคนในห้อง

“จั๊บ ....เปิดประตูหน่อย”

คำตอบที่ได้รับคือเสียงวัตถุบางอย่างกระทบประตู เสียงตะโกนดังมาจากในห้อง “ไม่ต้องมายุ่ง คนโกหก”

“จั๊บ..เราต้องพูดกันให้รู้เรื่องนะ เปิดเดี๋ยวนี้!!!” เจมินี่พูดอย่างเหลืออด เคาะประตูเสียงดัง

ได้ยินเสียงชายหนุ่มดังออกมาแว่วๆ “ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว ไม่อยากฟังคำพูดของนายหรอก อ้อ ฉันไม่เปิดให้นายหรอกนะ มีปัญญาก็เข้ามาเองแล้วกัน”

เจมินี่ส่ายหัว คนดื้อพอถึงเวลาก็ดื้อจนน่าตี ชายหนุ่มเดินกลับเข้าห้องแล้วเดินออกมาพร้อมกุญแจที่อยู่ในมือ ร่างสูงใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการไขกุญแจเข้าไป พอเห็นหน้าเท่านั้น ร่างโปร่งก็เริ่มโวยวายทันที

“ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”

“มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน” เจมินี่พูดเสียงเข้ม ก๋วยจั๊บชำเลืองไปทางห้องน้ำ เจมินี่พูดดักอย่างรู้ทัน “กุญแจห้องน้ำฉันก็มี ไม่ต้องคิดเข้าไปหลบในนั้นเลย”

“จะพูดอะไรก็พูดมา”

“ฉันไม่ได้จะทิ้งนายไว้ ฉันแวะไปหาลอเรนซ์แล้วเขาไม่สบาย ฉันเลยพากลับมาพักที่ห้องก็เท่านั้น”

“ถ้าหมอนั่นไม่สบาย ฉันก็คงอาการโคม่า เตรียมเข้าห้องไอซียูแล้ว” ก๋วยจั๊บประชด

เจมินี่ก้าวยาวๆมานั่งที่ปลายเตียง มองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย

“เชื่อฉัน.... ฉันเคยโกหกนายหรือไง”

ก๋วยจั๊บเสมองไปทางอื่น ใจก็คิดว่าชายหนุ่มไม่ได้โกหกหรอก แต่มันแค่โมโหเท่านั้นเองแล้วก็ไอ้ความรู้สึกแกว่งๆในอกนี่มันคืออะไรนะ

ตั้งแต่ที่ร้านแล้ว...

เขารู้สึกเหมือนโดนทิ้ง......

“นายทิ้งฉัน” ก๋วยจั๊บพึมพำ

“อะไรนะ?” เจมินี่ขยับเข้าไปใกล้เพราะได้ยินไม่ถนัด

“นายทิ้งฉัน รู้ไหมว่าฉันกลัวขนาดไหน เจ้าของร้านแทบจะจับฉันส่งตำรวจด้วยซ้ำ” ก๋วยจั๊บสูดจมูก กระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่ละอองน้ำในตา “ห้องนายฉันก็จำไม่ได้ ฉันไม่รู้จักใครที่นี่ พอกลับถึงห้องก็เจอหมอนั่นแล้วเขาพูดแบบนั้นจะให้เข้าใจว่ายังไงล่ะ”

เจมินี่จับมือทั้งสองข้างของก๋วยจั๊บอย่างแผ่วเบา “ฉันสัญญา จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก คราวนี้ก็หายโกรธเถอะนะ”

ก๋วยจั๊บมองหน้าชายหนุ่มนิ่งนาน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “นายเป็นคนผิดใช่ไหม”

“ใช่”

“ถ้าอย่างนั้นนายพร้อมจะไถ่โทษหรือยัง”

“เอ๋?” เจมินี่เลิกคิ้ว ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อคนตัวเล็กลากเขาไปที่ห้องครัว แถมยังใช้ให้ทำมักกะโรนีให้กินอีก โดยให้เหตุผลว่าเพราะต้องล้างจานทำให้ใช้พลังงานไปมาก

“นี่ จำไว้นะ ถ้านายทำอะไรไม่ดีล่ะก็ นายจะต้องชดใช้โดยการทำอาหารให้ฉันกิน คอยดูฉันจะกินล้างกินผลาญ กินให้นายหมดตัวไปเลย”

“ถ้าเป็นนาย ...ฉันทำให้กินตลอดชีวิตเลยก็ได้”

เจมินี่พูดยิ้มๆพร้อมกับอาการติดคอของก๋วยจั๊บที่ร้อนถึงเจ้าของห้องต้องมาคอยลูบหลังให้ ชายหนุ่มมองเจมินี่แบบหวาดๆ เพราะบทจะพูดแปลกๆ ก็ดูเจ้าตัวจะแปลกไปจริงๆเสียด้วย

เอ...หมอนี่ชักจะยังไง ๆ แล้วนะ...ว่าไหม



 :m28: :m28: :m28: :m28: :m28:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #124 เมื่อ05-08-2007 16:08:12 »

 :impress: :impress: :impress:

อะครับ ลอเรนซ์ นี่ร้ายนะครับไม่ชอบเลย

ก๊วยจั๊บ อย่ายอมแพ้นะครับ เอาใจช่วยครับ

สนุกดีครับผม เอาไปเลย+1 ครับผม

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #125 เมื่อ05-08-2007 16:14:54 »



คนนี้แหละใช่เลย 12



หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเจมินี่ชวนก๋วยจั๊บไปเยี่ยมอลิซที่โรงพยาบาล เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบซิสซี่นั่งคุยอยู่ข้างๆคนเจ็บอย่างสนุกสนาน เมื่ออลิซเห็นก๋วยจั๊บและเจมินี่ ก็เอ่ยทักด้วยน้ำเสียงดีใจ

“อ้าว จั๊บ เจ็ม วันนี้ว่างเหรอ ทำไมมาเยี่ยมฉันได้ล่ะ?”

“สวัสดีครับอลิซ คุณซิสซี่ วันนี้เจ็มไม่มีงานครับ ก็เลยมาเยี่ยมได้ อลิซเป็นยังไงบ้างครับ”

“ฉันน่ะเหรอ อยุ่ดีกินดีจ๊ะ ออกไปคราวนี้คงแย่แน่ๆ ว่าแต่เธอเถอะ ได้ข่าวว่าทำงานดีมากเลยนี่ ท่านประธานก็ชมมาด้วยนะ” อลิซเอ่ยกระเซ้าทำให้ร่างโปร่งยิ้มเขินๆ

“แหะ แหะ...ผมก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรหรอกครับ เจมินี่เค้าช่วยผมเยอะเลย” ก๋วยจั๊บหันไปยิ้มน้อยๆให้เจมินี่ซึ่งมองด้วยสายตาอ่อนโยน

อลิซหันไปสบตากับซิสซี่อย่างไม่ได้นัดหมาย ซิสซี่หลิ่วตาให้เล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับเจมินี่

“เจ็มไปหากาแฟกินกันไหม ถึงมันจะไม่อร่อย แต่ก็ยังดีกว่ากินน้ำเปล่าน่ะ”

“ตกลงซิสซี่ จั๊บนายอยู่กับอลิซก่อนนะ” ก๋วยจั๊บพยักหน้ารับ

เมื่อซิสซี่และเจมินี่ออกไปแล้ว อลิซก็เอ่ยถามชายหนุ่มทันที

“ได้ข่าวว่ามีเรื่องกับรอย...เอ่อ ฉันหมายถึงลอเรนซ์น่ะ เป็นความจริงเหรอ?”

“ก็นิดหน่อยครับ เขาขัดขาผมจนล้มที่สตูดิโอถ่ายแบบ แถมผมยังเจอเขาที่ห้องของเจ็มอีก อลิซรู้จักเขาด้วยหรือครับ?”

อลิซยิ้มนิดๆ “ก็พอรู้จักน่ะ เขาเคยเป็นเมทเก่าของเจ็มมาก่อน แต่เขาก็ย้ายออกไปนานแล้วล่ะ”

“เขาก็บอกผมอย่างนั้นล่ะครับ แถมยังบอกด้วยว่าสักวันเขาจะกลับมาทวงห้องคืนด้วย”

อลิซทำตาโต “อะไรนะ!! เขากล้าพูดอย่างนั้นเชียวเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะกลับมาหรอก ไม่ต้องคิดมากนะจั๊บ”

ก๋วยจั๊บมองอลิซอย่างงงๆ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากนี่หว่า แล้วไอ้ที่ว่ามีคุณสมบัติไม่พอที่จะกลับมาเนี่ย มันคืออะไรกัน หรือจริงๆมันมีอะไรตื้นลึกหนาบางมากกว่านี้ ลองถามอลิซดูดีกว่า

“เอ่อ ....อลิซครับ คือ...”

ก๋วยจั๊บเอ่ยปากจะถามแต่เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน เจมินี่กับซิสซี่ก้าวเข้าในห้อง ทำให้ชายหนุ่มตัดใจไม่ถาม

คุยอีกสักครู่ทั้งสามคนก็ขอตัวกลับเพื่อให้อลิซได้พักผ่อน ก่อนจะกลับอลิซยังหันมาย้ำกับร่างโปร่งอีกครั้ง

“ไม่ต้องคิดมากนะจั๊บ เชื่อฉัน”

ชายหนุ่มยิ้มกว้างรับคำเบาๆ เมื่อออกมาแล้วเจมินี่จึงเอ่ยปากถาม

“นายคิดเรื่องอะไรรึ?”

“หืม?? ฉันนะเหรอ เปล่านี่ ถามทำไมเหรอ”

“ก็เห็นอลิซพูด”

ก๋วยจั๊บส่งยิ้มกวนๆให้ทันที “นั่นมันก็เป็นเรื่องของฉันกับคุณอลิซ นายไม่เกี่ยวสักหน่อย” ใช่สิ หมอนี่ไม่เกี่ยวสักหน่อย เอ๊ะ ไม่สิ ให้เกี่ยวหน่อยๆก็ได้

“เฮ้อ งั้นก็แย่สิ ซิสซี่อุตส่าห์บอกว่า...... ไม่เอาดีกว่า ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย” เจมินี่แกล้งถอนหายใจยาวๆแล้วหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ด้วยความอยากรู้ก๋วยจั๊บหันขวับไปทันที

“อะไร!! บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าคุณซิสซี่บอกว่าอะไร?”

“ไม่เอา นั่นมันเป็นเรื่องของฉันกับคุณซิสซี่ นายไม่เกี่ยวสักหน่อย” คำพูดที่ลอกเลียนแบบมาทุกประการทำให้ชายหนุ่มอดขำไม่ได้ มือเรียวเขย่าแขนร่างสูงเบาๆ

“นายนี่ ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าขี้ใจน้อย .... บอกหน่อยน่า เอาอย่างนี้นะ ถ้านายบอกฉัน ฉันก็จะบอกนาย.....สัก....” ก๋วยจั๊บทำท่าคิด “สัก...นิดหน่อยก็ได้” แล้วก็รีบพูดต่อ “แต่นิดเดียวนะ มีข้อแม้ว่านายต้องบอกก่อนด้วย”

เจมินี่หัวเราะเบาๆ บีบจมูกอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยว “นายนี่มันเหลือเกินจริงๆ บอกก็ได้ ฉันว่างสองวันก็เลยกะจะพานายไปเที่ยว เลยขอให้ซิสซี่ช่วยหาบ้านพักให้น่ะ พรุ่งนี้ก็ไปกันได้เลย”

ชายหนุ่มปัดมือของอีกฝ่ายออก แล้วย่นจมูกใส่ “โอ้โห ฉันพึ่งรู้นะเนี่ย ว่าจริงๆแล้ว นายก็มีน้ำใจเหมือนกัน ว่าแต่เราจะไปพรุ่งนี้จริงๆเหรอ?”

“หรือว่าไม่อยาก. ... ฉันโทรไปยกเลิกก็ได้นะ ถ้านายไม่อยากไป” เจมินี่ทำท่าจะล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แต่ร่างโปร่งพูดดักไว้เสียก่อน “นี่ ไม่ต้องมาเล่นไม้นี้เลยนะ ฉันรู้ว่านายแกล้งฉัน ว่าแต่จะพาไปเที่ยวที่ไหนเหรอ?”

“เดี๋ยวก็รู้เองน่ะแหละ”

.

.

.

.

ที่ๆเจมินี่พามาเป็นกระท่อมไม้ซุงสีเข้มขนาดใหญ่ซึ่งปลูกอยู่ท่ามกลางดงต้นสนสูงลิบลิ่ว มีดอกไม้ป่าต้นเล็กๆชูช่อบานสะพรั่งราวกับพรมดอกไม้หลากสี ถัดไปประมาณยี่สิบเมตรเป็นทะเลสาบสีเขียวคราม ลมที่พัดน้อยๆก่อให้เกิดคลื่นเล็กๆพัดเข้าหาขอบฝั่ง ก๋วยจั๊บก้าวลงจากรถ มองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจ

“สวยจังเลย เจ็ม นายนี่เข้าใจเข้าใจหาที่นะเนี่ย” แล้วก็ชกกำปั้นเข้าเบาๆที่ไหล่ของอีกฝ่ายด้วยความเผลอ เจมินี่ยื้มน้อยๆ

เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ทั้งสองหันไปมอง ชายวัยประมาณสี่สิบปี รูปร่างสูงใหญ่ก้าวออกมาจากบ้าน เดินยิ้มเข้ามาหาคนทั้งสอง

“สวัสดีครับ คุณคงเป็นมิสเตอร์วอลรีส ผมชื่อเรย์ครับเป็นคนดูแลบ้านพักหลังนี้” เรย์ยื่นมือไปจับมือกับเจมินี่พร้อมเขย่าแรงๆ “คุณตาแหลมมากครับที่เลือกมาเที่ยวที่นี่ รับรองว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่ลืมไม่ลงที่เดียว” ชายหนุ่มหันมาหลิ่วตาเล็กน้อยให้ก๋วยจั๊บซึ่งยืนยิ้มอยู่เงียบๆ

“ผมเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ ขอให้สนุกกับการพักผ่อน ขอตัวก่อนนะครับ” เรย์เอ่ยลา ก่อนไปชายหนุ่มมอบกุญแจบ้านพักไว้ให้เจมินี่

หลังจากนั้นก๋วยจั๊บและเจมินี่ช่วยกันขนของและกระเป๋าเข้าไปในบ้านพัก ข้างในแบ่งห้องเป็นสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ และมีห้องครัวเล็กๆ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นทำจากไม้ทั้งหมด

ก๋วยจั๊บได้ยินเสียงเจมินี่เรียกจากด้านนอก เมื่อออกไปก็พบชายหนุ่มหิ้วกล่องพลาสติกสีขาวขนาดกระทัดรัดใบหนึ่ง พร้อมชักชวนให้ไปกินมื้อเที่ยงริมทะเลสาบ

ทั้งสองเดินตามทางเล็กๆจนไปถึงริมทะเลสาบซึ่งมีสะพานไม้ทอดยาวจากริมฝั่งที่คงจะสร้างเอาไว้เป็นท่าเรือ เพราะมีเรือลำเล็กผูกติดอยู่ที่หัวสะพาน เจมินี่ถอดรองเท้า ทรุดตัวลงนั่งแล้วหย่อนเท้าทั้งคู่ลงในน้ำ ร่างโปร่งเห็นดังนั้นจึงทำตามแบบเดียวกัน พร้อมรับแซนวิชที่อีกฝ่ายส่งมาให้ขึ้นมากัดคำใหญ่

“ชอบที่นี่ไหม?” เจมินี่เอ่ยถามพร้อมทั้งกัดแซนวิชคำโต

“อือ” ก๋วยจั๊บพยักหน้ารับ รีบเคี้ยวแล้วกลืนแซนวิชอย่างรวดเร็ว “ที่นี่สวยดี เงียบดี บรรยากาศเหมือนบ้านย่าฉันเลย”

เจมินี่ยืดตัวบิดขี้เกียจแล้วเอนหลังลงนอนหลับตาไปทั้งอย่างนั้น ถึงแม้จะเป็นตอนเที่ยงแต่ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาล้ำเข้ามาก็เป็นร่มเงาให้เป็นอย่างดี ก๋วยจั๊บเอนหลังตามลงไป เอ่ยขึ้นลอยๆ “เล่าเรื่องนายให้ฟังหน่อยสิ”

ร่างสูงนิ่งไปอึดใจ ก่อนน้ำเสียงเรื่อยเอื่อยจะดังขึ้น “ เจมินี่ วอลรีส เกิด 22 มิถุนายน 1979 อายุ26 ปี ราศีเมถุน สูง189 เซนติเมตร น้ำหนัก 78 กิโลกรัม รอบอก......” เสียงเจมินี่หยุดไป เมื่ออีกฝ่ายขัดขึ้นมาดังๆ

“พอแล้ว พอเลย นายเป็นนางงามจักรวาลหรือไงฮะ ฉันไม่ได้อยากรู้รอบอก รอบเอว อะไรของนายหรอกนะ ฉันหมายถึงเรื่องตอนเด็กๆน่ะ ไอ้ที่นายบอกมาน่ะ ฉันก็รู้”

ไม่มีเสียงตอบจากคนข้างๆ ก๋วยจั๊บผงกหัวมองคนข้างๆ แล้วลองเรียกเบาๆ

“เจ็ม ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลยนะ”

“…………….”

“เจ็ม”

“……………………”

ร่างโปร่งกระเถิบเข้าไปชิด เอ่ยกระซิบที่ข้างหู “เจมินี่ วอลรีส ถ้านายยังไม่เลิกแกล้งหลับอีกล่ะก็ ฉัน...จะ...ดีด...จมูก....ของ..นาย..ซะ”

ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างๆ แถมใบหน้าคมยังเอียงมาทางด้านคนกระซิบกระทันหัน ทำให้ปลายจมูกโด่งสัมผัสกับพวงแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ก๋วยจั๊บผงะ พรวดพราดลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ เมื่อกี้มันเรื่องบังเอิญน่า บังเอิญ

ใช่หรือเปล่า......

คนหลับยังคงนอนอยู่เงียบๆ ร่างโปร่งถอนหายใจอยากจะด่าก็ไม่รู้จะปลุกให้ขึ้นมาฟังดีไหม ในที่สุดเจ้าตัวก็เอนหลังลงไปอีกครั้ง ดวงตากลมโตจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีคราม รู้สึกคิดถึงคนที่บ้านจับใจ ป่านนี้พ่อกับแม่จะทำอะไรอยู่นะ แล้วเจ้าเกี๊ยวจะเป็นไงบ้าง ไอ้ชีวาสจะแอบบุกไปทำคะแนนถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ คิดถึงตอนนี้ รอยยิ้มบางๆก็ปรากฏบนริมฝีปาก พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน แพขนตาหนาหรุบลง

ก๋วยจั๊บนอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนมาสะดุ้งตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงปลาฮุบน้ำโผงใหญ่ เมื่อหันไปมองคนข้างๆก็เห็นยังหลับสนิทดีอยู่ ร่างโปร่งยันตัวลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ท้องฟ้าสีครามเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง นี่นอนกันไปกี่ชั่วโมงแล้วนะ ก๋วยจั๊บมองไปบนผิวน้ำ ตอนนี้แดดไม่ร้อน น่าเล่นน้ำชะมัด คนตื่นก่อนปรายตามองไปที่เจมินี่ ก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะปรากฏขึ้นมา



“ย้า!!!!!!!!!!!!!!!”

“ตึก..ตึก...ตึก...ตึก”

“วู้วววววววว!!!!!”

เสียงตะโกนและเสียงเท้ากระทบแผ่นไม้ ปลุกให้เจมินี่ตื่นทันควัน ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นทันได้เห็นแผ่นหลังขาวๆลอยวูบอยู่ข้างหน้าก่อนจะตกลงกระทบน้ำเสียงดังสนั่น

“ตูม!!”


ผิวน้ำเรียบแตกกระจายเป็นวงกว้าง น้ำส่วนหนึ่งสาดกระเซ็นไปยังเจมินี่เต็มๆ ชายหนุ่มยกมือลูบน้ำจากใบหน้า มองคนลอยหน้าลอยตาอยู่ในน้ำอย่างเคืองๆ

“เล่นอะไร? เปียกหมด”

“อุตส่าห์ปลุกนะเนี่ย เห็นหลับเพลิน ลงมาเล่นน้ำกันเถอะ น้ำเย็นดีจังเลย”

“จะไปเล่นได้ไง เสื้อผ้ายังไม่ได้เปลี่ยน ” เจมินี่พูดแต่ก๋วยจั๊บจุ๊ปาก ส่ายหน้า

“จุ๊ จุ๊.... ใครเค้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเล่นกัน เสียเวลา นายก็ถอดกองไว้ตรงนั้นแหละ ไม่เห็นจะยากเลย” ร่างโปร่งชี้มือไปข้างๆ เจมินี่ก้มลงมองเห็นกองเสื้อผ้าถูกถอดกองไว้ตรงนั้นก็ตกใจ

“เฮ้ !! จั๊บ นี่นายกำลัง..กำลังเปลือยอยู่เหรอ?”

“ช่ายยยย ฉันกำลังเปลือยอยู่ อยากดูไหมล่ะ” ก๋วยจั๊บว่ายน้ำตรงมาที่สะพานแล้วปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย!!!” เจมินี่อุทานแต่ก็ถอนหายใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัด ถึงแม้ข้างบนจะเปลือยอยู่แต่ข้างล่างก็มีบอกเซอร์อยู่ตัวหนึ่ง

“โกหกชัดๆ”

“อ้าววววว ก้อเปลือยบนไม่ได้เปลือยล่างไง ไม่ถูกเหรอ” ก๋วยจั๊บหัวเราะชอบใจที่หลอกอีกฝ่ายได้

เจมินี่หรี่ตามองอีกฝ่าย กวาดสายตาไปทั้งร่างจนร่างโปร่งชักเขิน

“นี่ มองอะไร ไม่เคยเห็นหรือไง”

“อืมนั่นสิ จะมองทำไมก็ไม่รู้เนอะ ก็เคยๆเห็นมาก่อนแล้ว” เจมินี่พูดเป็นนัยๆ ทำให้ก๋วยจั๊บหน้าร้อนวูบ นึกถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วหน้าขาวๆก็เริ่มแดงขึ้นมาทันตาเห็น เจ้าตัวจึงแก้เขินด้วยการกระโดดลงน้ำไปอีกรอบ โดยมีเจมินี่กระโดดตามลงไปทีหลัง

ทั้งสองเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานจนดวงอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า เจมินี่จึงขึ้นจากน้ำแล้วเรียกให้อีกฝ่ายขึ้นตามมา ก๋วยจั๊บอิดออดยังไม่อยากขึ้นจึงลอยตัวเกาะแผ่นไม้ไว้ สบตากับเจมินี่ซึ่งนั่งอยู่ริมสะพาน

“นายก็ถอยไปสิ มานั่งกินที่อยู่ได้ ฉันจะขึ้นไปยังไงล่ะ” ก๋วยจั๊บบอกเพื่อให้อีกฝ่ายถอยออกไป แต่เจมินี่กลับก้มตัวลงใช้สองแขนสอดเข้าใต้วงแขนของอีกฝ่ายแล้วออกแรงดึงตัวขึ้นมา ก๋วยจั๊บดิ้นด้วยความตกใจทำให้เสียหลักล้มทับเจมินี่

ผิวกายที่แนบกันอยู่นั้นเย็นเฉียบ แต่ความรู้สึกวูบวาบที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไรเขาก็ไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน ร่างโปร่งมองเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่เปียกลู่ แล้วหยุดที่ดวงตาสีเทาซึ่งกำลังมองมานิ่งๆแล้วต้องหลบตา ไม่กล้ามองต่อ

“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เจมินี่เอ่ยถามหลังจากเห็นอีกฝ่ายทำหน้าแปลกๆ มือใหญ่ลูบไล้ที่แผ่นหลังเนียนเรียบอย่างแผ่วเบา

“เปล่า” ชายหนุ่มปฏิเสธ สัมผัสของเจมินี่ทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย ใบหน้าของเจมินี่เลื่อนมาใกล้จนห่างกันแค่คืบ

“แน่นะ”

“อือ” ก๋วยจั๊บตอบพลางถอยจากร่างกายแข็งแรงของอีกฝ่าย เจมินี่ฉุดก๋วยจั๊บให้ลุกขึ้นแล้วเดินกลับบ้านพักด้วยกันเงียบๆ



หลังจากกินข้าวด้วยกันแล้ว ก๋วยจั๊บก็ขอตัวเข้าห้อง แม้เจมินี่จะชวนให้มานอนด้วยกันก็ตามที แต่ชายหนุ่มก็ตอบปฏิเสธไป เพราะเรื่องเมื่อตอนเย็นแท้ๆ ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ

ร่างโปร่งนอนพลิกตัวไปมาหลายตลบ ได้ยินเสียงร้องของสัตว์ดังมาไกลๆ แต่ทำยังไงก็นอนไม่หลับเสียที สุดท้ายชายหนุ่มจึงตัดใจลุกขึ้นหอบหมอนกับผ้าห่มเตรียมไปขอนอนกับอีกฝ่ายเช่นเคย แต่พอเปิดประตูออกไปก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่นอนหลับอยู่บนเก้าอี้โยกหน้าเตาผิง หนังสือเล่มหนึ่งยังกางอยู่บนอก

ก๋วยจั๊บจรดฝีเท้าไปยืนมองเจมินี่อยู่เงียบๆ มือเรียวยกขึ้นปัดปอยผมที่ปรกหน้าอีกฝ่ายออก แล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้

“เจ็ม เจ็ม ตื่นเถอะ ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ”

“อืม ฉันเผลอหลับไป ว่าแต่นายเถอะนอนไม่หลับล่ะสิ”

ก๋วยจั๊บยิ้มแห้งๆ “รู้อยู่ก็ไม่เห็นต้องถามนี่” ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ “ตรงนี้อุ่นดีแหะ ในห้องอากาศเย็นชะมัด”

“งั้นมานอนตรงนี้แหละ ฉันจะไปเอาผ้าห่ม” เจมินี่ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง สักพักก็เดินออกมาโดยมีผ้าห่มผืนหนาอยู่ในมือและหมอนใบหนึ่ง ชายหนุ่มปูผ้าห่มหน้าเตาผิงแต่ไกลพอที่จะสะเก็ดไฟจะไม่กระเด็นออกมา

เมื่อจัดที่เสร็จก็ตบมือลงข้างๆตัวเรียกก๋วยจั๊บมานอน ร่างโปร่งล้มตัวลงนอนข้างๆแล้วแบ่งผ้าห่มให้ครึ่งหนึ่ง เจมินี่จูบที่ขมับอีกฝ่ายเบาๆ เอ่ยสั้นๆ

“ราตรีสวัสดิ์”

ดวงตาคู่สวยจ้องเขม็ง ก๋วยจั๊บอ้าปากเตรียมจะว่าเต็มที่ แต่เจมินี่ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“จูบราตรีสวัสดิ์เฉยๆน่า แม่ฉันชอบทำเพราะจะทำให้หลับฝันดี”

ว่าแล้วหัวขโมยก็เอนนอนลงไปโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้ก๋วยจั๊บนอนตาโต ตกตะลึงในการกระทำของอีกฝ่าย เมื่อหันไปมองอีกที ใบหน้านอนหลับเปี่ยมสุขของเจมินี่ก็จุดประกายความหมั่นไส้ให้เกิดขึ้น ก๋วยจั๊บตวัดผ้าห่มเข้าหาตัวเอง นึกในใจนอนหนาวซะให้เข็ดเถอะ

ความคิดสุดท้ายก่อนจะหลับไปนั้นก็คือความรู้สึกสบายใจเนี่ยเป็นเพราะอุ่นใจที่มีคนนอนอยู่ข้างๆ หรือเป็นเพราะ ‘จูบ’ ราตรีสวัสดิ์เฉยๆ กันแน่ เอหรือจะเป็นทั้งคนทั้งจูบน้า บรื๋ออออออออ คิดแล้วขนลุก




 o21 o21 o21 o21 o21

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #126 เมื่อ05-08-2007 16:49:53 »

 :impress: :impress: :impress:

น่ารักจังครับคู่นี้เหอๆๆ

กลับมาทำคะแนนได้แล้วนะครับคู่นี้

หลังจากปล่อยให้คู่ของ ชีวาส ทำคะแนนนำไปก่อน

สนุกๆๆ ครับผม แล้วจะมาต่อให้ป่าวครับ

วันนี้อะ

 :impress: :impress: :impress:

aumzaa

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #127 เมื่อ05-08-2007 18:30:49 »



 o18

 o18

น่ารักทั้งคู่เลยครับ....


รอตอนต่อปายครับ

[attachment deleted by admin]

armani

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #128 เมื่อ05-08-2007 18:36:17 »


น่ารักจัง :m1: :m1:
อย่าลืมคู่เกี๊ยวด้วยน๊าาา   :impress:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #129 เมื่อ05-08-2007 18:42:03 »

หุหุ น่ารักมั่ก ๆ  :m3:  :m3:  :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
« ตอบ #129 เมื่อ: 05-08-2007 18:42:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #130 เมื่อ05-08-2007 18:56:02 »

เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งชอบ  ชอบมากๆๆๆๆๆ   :m3:  :m3:  :m3:
แต่งเรื่องได้มีเสน่ห์จริงๆ เลย  หนุกๆ 
จะว่าไปก็ยังชอบคู่ชีวาสกับเกี๊ยวอยู่ดีอ่า อิอิ 
แต่จั๊บกับเจมินี่  ก็น่าร้ากกก 

รออ่านต่อน้า  น้องป๋อมแป๋มที่ร้ากกก   
:a2:  :a2:  :a2:  :a2:  :a2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #131 เมื่อ05-08-2007 19:00:57 »

 :impress:

น่ารักดีจังคู่นี้

นายลอเรนที่มันน่านัก

รออ่านต่อไปครับ

 o15

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #132 เมื่อ06-08-2007 00:39:25 »

 :impress: :impress: :impress:

รอบดึกครับผม รู้นะครับว่ายัง วนเวียนอยู่แถวนี้อะครับ

ว่าแต่จะมาต่อให้ป่าวครับดึกๆๆอย่างนี้

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #133 เมื่อ06-08-2007 02:19:57 »

น่ารักคู่นี้ แต่อยากอ่านคู่เกี้ยวกะชีวาสอะ   :m3:  :m3:

min_min

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #134 เมื่อ06-08-2007 05:27:31 »

อิอิ  น่ารักจังเลยอ่ะ คู่นี้ 
แล้วจาลงเอยกันมะไหร่อะ  ลุ้นๆๆๆ  สุดตัว

 :m3: :m3:  :m3:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #135 เมื่อ06-08-2007 10:42:10 »

เขินจังเลย  :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #136 เมื่อ06-08-2007 12:13:04 »

หุหุหุหุ

เข้ามาทวงตามหน้าที่คร้าบบบบ

 o11 o11 o11 o11 o11

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a9:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #137 เมื่อ06-08-2007 20:08:39 »

 :impress:

วันนี้ไม่เห็นมาต่อเลย

รออ่านอยู่นะคร๊าบ........

 o15

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #138 เมื่อ07-08-2007 00:45:17 »

 :impress: :impress: :impress:

อะครับยังรออ่านอยู่ครับผม

มาต่อได้แล้วครับ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #139 เมื่อ07-08-2007 21:31:45 »



คนนี้แหละใช่เลย 13



เกี๊ยวกำลังวิ่งขึ้นบันไดอย่างรีบร้อน ในใจนึกด่าตัวเองที่เผลอลืมรายงานเล่มสำคัญที่ต้องเอากลับไปแก้ที่บ้าน ปากก็บ่นพึมพำไปตลอดทาง

“หนอย ลืมที่ไหนไม่ลืม ดันไปลืมไว้ชั้นบนสุด ลิฟท์ก็ดันเสียซะนี่” ร่างโปร่งบนพึมพำ พยายามก้าวขาให้กว้างขึ้นอีกนิดเผื่อมันจะทำให้ถึงเร็วขึ้น

พอถึงชั้นห้าชายหนุ่มก็หมดแรงวิ่งไปแล้ว ได้แต่พยายามลากขาทั้งสองข้างที่หนักอึ้งราวกับหินให้เคลื่อนไปข้างหน้า ท้ายสุดก็แทบจะคลานขึ้นบันไดต่อไปถึงชั้นแปด

พอถึงปุ๊บ ร่างโปร่งก็ทรุดตัวลงนั่ง เอนหลังพิงกำแพง พยายามสูดหายใจลึกๆเพื่อบรรเทาอาการเหนื่อย เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น เกี๊ยวควานมือเข้าไปล้วงโทรศัพท์ออกมารับ

“ฮัลโหล”

“เฮ้ย เอ็งใกล้จะถึงข้างล่างหรือยังวะ รีบๆลงมาเร็ว ลุงแจ้งแกจะปิดตึกอยู่แล้ว นี่ไอ้ป๊อกมันไปถ่วงเวลาไว้ให้ ขืนชักช้าลุงแกตีหัวมันแบะแน่”

“ข้างล่างกะผีอะไรล่ะ!! พึ่งจะถึงชั้นแปดนี่แหละ ซี่โครงข้าแทบจะบานเป็นกระด้งอยู่แล้ว เอ็งให้ลุงแกปิดไปเลย เดี๋ยวข้าลงไปทางตึกบี พวกเอ็งจะกลับไปก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องรอหรอก” ชายหนุ่มตอบ

ตึกบีที่ว่าคืออาคารแฝดที่อยู่ใกล้ๆกับอาคารเอ โดยมีทางเชื่อมถึงกันที่ชั้นสอง ตามปกติพอถึงห้าโมงเย็น ภารโรงจะปิดทางเข้าใต้อาคารเอ และให้ไปใช้ทางเข้าที่อาคารบีแทน

“พวกข้าไม่ได้รีบนี่หว่า เอ็งหายเหนื่อยเมื่อไหร่ก็รีบๆลงมาแล้วกัน เดี๋ยวจะรออยู่ข้างล่างนี่แหละ แต่อย่าช้านะโว๊ย เอ็งคงเคยได้ยินเรื่องของห้องแล็บตึกบีใช่ไหมวะ” พูดได้แค่นั้นสายก็ตัดไป

เกี๊ยวเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า มองไปตามระเบียงทางเดินหน้าห้องเรียนทั้งๆที่เป็นเวลาตอนเย็นเท่านั้น แต่พอไร้เงาผู้คน มันก็ดูน่ากลัวอยู่เหมือนกัน

ร่างโปร่งตัดสินใจลุกขึ้น พอออกกำลังเข้าหน่อย เหงื่อก็ไหลออกมายังกะอาบน้ำ มือเรียวได้รูปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกทั้งแถว เผยให้เห็นแผ่นอกขาวนวล

เกี๊ยวเดินไปหยุดหน้าห้องเรียน เปิดประตูแล้วตรงไปที่เคาท์เตอร์ริมหน้าต่าง สมุดรายงานเล่มน้อยวางอยู่บนนั้น เกี๊ยวเก็บรายงานเข้ากระเป๋า แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่รีบร้อน

ชายหนุ่มลงบันไดมาเรื่อยๆจนถึงชั้นสอง สมองเจ้ากรรมก็ดันคิดถึงคำพูดของทศขึ้นมา

‘เอ็งคงเคยได้ยินเรื่องของห้องแล็บตึกบีใช่ไหมมมมมมมมม’

มีเรื่องเล่ากันว่าสมัยก่อนมีนักศึกษาหนุ่มไม่สมหวังในรัก จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการผูกคอตายภายในห้องแล็บของตึกบี วันดีคืนดี ก็จะมีคนได้ยินเสียงกุกกักๆ อยู่ในห้อง พอเปิดเข้าไปดูก็เจอคนห้อยต่องแต่งอยู่บนเพดาน

“แล้วทำไมต้องมานึกถึงเรื่องแบบนั้นตอนนี้ด้วยวะเนี่ย”

ร่างโปร่งรีบเดินให้เร็วขึ้น ถัดหัวมุมทางเดินไปก็จะเจอทางเชื่อมแล้ว ทันใดนั้นชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนเดินตามมาจากข้างหลัง พอหันกลับไปดูก็ไม่เจอใคร เกี๊ยวจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีกนิดเพื่อจะไปให้พ้นตรงนี้เร็วๆ ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งกระโดดออกมาพร้อมกับส่งเสียงดัง

“แฮ่!!!”

“ว๊ากกกกกกกกก!!!!! ไอ้....ไอ้บ้าเตย เล่นอะไรของเอ็งวะ ตกใจหมด” ร่างโปร่งร้องเสียงหลง ก่อนจะตะโกนอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นหน้าร่างนั้นชัดๆ

เตยยิ้มกว้าง เอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ข้าก็แกล้งเอ็งเล่นนิดหน่อย แหม เสียงดีไม่เบานะ ได้ยินไปถึงตึกอธิการนู่นแน่ะ ข้าว่า”

“คราวหลังอย่าเล่นอย่างนี้อีกนะ ว่าแต่เอ็งมาทำอะไรวะ เย็นป่านนี้แล้ว” เกี๊ยวด่าแล้วย้อนถามอย่างสงสัย

“ข้ามาทำแล็บน่ะสิ ว่าแต่เอ็งเถอะไอ้ชีวาสไปไหนล่ะ ทำไมมันปล่อยให้เอ็งมาเดินที่เปลี่ยวๆได้วะ”

“ข้าจะไปรู้ได้ไง ตัวไม่ได้ติดกันนี่” น้ำเสียงเริ่มขุ่นลงเล็กน้อย พร้อมกับที่ใบหน้านวลนั้นงอง้ำลงอย่างเห็นได้ชัด

“ตัวไม่ได้ติด แต่ใจมันติดกันใช่ไหม อ๊ะ ๆ อย่าพึ่งด่าน่า ข้าแค่เตือนเฉยๆ เอ็งมาเที่ยวเดินปลดกระดุมโชว์อกอย่างนี้ เดี๋ยวก็โดนฉุดหรอก ไม่รู้จักระวังตัวซะบ้าง” เตยบ่น ก่อนจะแยกออกไป

เกี๊ยวส่ายหน้านึกบ่นกับความปากเสียของเพื่อน ชายหนุ่มเดินลัดหัวมุม ไปตามทางเชื่อม จนใกล้จะถึงห้องแล็บที่เป็นที่กล่าวขวัญ สองขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักลง เมื่อจู่ๆประตูห้องแล็บก็เปิดออกช้าๆ

แอ๊ด...........

ร่างโปร่งกลืนน้ำลายแล้วตัดสินใจขยับเข้าไปใกล้ๆ ประตูแล้วชะเง้อเข้าไปมองในห้อง ภายในห้องค่อนข้างมืดไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต เกี๊ยวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันหลังเพื่อไปต่อ ยังไม่ทันขยับตัวเจ้าตัวก็ถูกกระชากอย่างแรงเข้าไปในห้อง อุ้งมือหนาตะปบปิดปากที่ส่งเสียงร้องอุทานออกมา

ชินปิดประตูห้องแล็บพร้อมกดล็อคลูกบิดแล้วลากร่างโปร่งที่ดิ้นรนขัดขืนให้เข้าไปในห้องกระจกเล็กด้านใน ชายหนุ่มตรึงร่างที่กำลังดิ้นรนขัดขืนไว้ด้วยการทาบทับร่างของตนเองลงไป พร้อมกับจุ๊ปากเบาๆ

“ชู่.....อย่าดิ้นสิเกี๊ยว ทำตัวดีๆน่า ดิ้นไปนายก็เหนื่อยเปล่า” ชินปล่อยมือที่ปิดปากได้รูปแล้วเปลี่ยนไปตรึงข้อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไว้แทน แล้วก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่าย

“ไอ้บ้าชิน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ เอ็งเป็นบ้าอะไรเนี่ย” เกี๊ยวตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย พยายามบิดข้อมือให้พ้นจากการเกาะกุมแต่ก็ไม่เป็นผล

ชินหัวเราะเสียงต่ำๆในลำคอ แล้วใช้มืออีกข้างตรึงคางอีกฝ่ายไว้ก้มลงบดขยี้เรียวปากอิ่มอย่างแรง จนร่างโปร่งรู้สึกถึงรสคาวเลือดจากปากของตน ผู้รุกรานถอนริมฝีปากออกช้าๆพร้อมกดจมูกเข้าคลอเคลียบนพวงแก้มเนียน

“ชินรักเกี๊ยวขนาดนี้ ยังมาหาว่าชินบ้าอีก นิสัยไม่ดีเลยนะ เด็กไม่ดีน่ะ ต้องถูกลงโทษรู้ไหม”

มือร้อนผ่าวเริ่มลากไล้ไปบนแผ่นอกเรียบเนียนยังผลให้ร่างโปร่งสะท้านเยือก พยายามใช้มือทั้งสองข้างที่ถูกเสื้อเชิ้ตของตนเองมัดไว้อย่างแน่นหนาทุบตีไปบนร่างกายของอีกฝ่าย ดวงตาคู่สวยทอประกายโกรธเกรี้ยว

“ชิน ไอ้บ้าปล่อยเดี๋ยวนี้นะ เอ็งทำอย่างนี้ไม่ได้ เราเป็นเพื่อนกันนะ”

มือที่ลูบไล้ไปทั่วร่างอย่างย่ามใจหยุดชะงัก ชินเงยหน้าจ้องเขม็งเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย

“เพื่อนเหรอ ยังเป็นเพื่อนเหรอ แล้วใครล่ะที่บอกว่าจะตัดขาดกับชิน แม้แต่หน้าชิน เกี๊ยวยังไม่มองเลย”

“นั่นมันก็เป็นเพราะเอ็งทำตัวเองไม่ใช่หรือไง ถ้าเอ็งไม่ทำอย่างนั้นกับข้าที่ทะเล ข้าก็ไม่อยากตัดเพื่อนตัดฝูงกับเอ็งหรอก” เกี๊ยวตวาด

ชินเงียบไปพักใหญ่ ดวงตาสงบนิ่งจนน่ากลัว ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบๆ

“เป็นชินไม่ได้ แต่เป็นชีวาสได้งั้นสิ”

เกี๊ยวอึ้งไปเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางของชิน เขาไม่แน่ใจว่าเพื่อนของเขายังพอจะพูดกันรู้เรื่องหรือเปล่า ร่างโปร่งได้แต่ภาวนาในใจให้ใครก็ได้ช่วยโผล่เข้ามาตอนนี้ที่เถอะ แต่เขาต้องถ่วงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดก่อน คิดได้ดังนั้นเกี๊ยวจึงตอบออกไป

“มันไม่เกี่ยวว่าใครได้ ใครไม่ได้หรอกนะ แล้วก็ไม่เกี่ยวกับชีวาสด้วย”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว!!! เพราะมันนั่นแหละ ถ้ามันไม่เข้ามาเกี่ยว เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก”

ชินพูดเสียงกร้าว กระชากเข็มขัดออกจากกางเกงของอีกฝ่าย ก่อนจะรูดซิปแล้วดึงรั้งลงมาอย่างแรง เสียงอุทานอย่างตกใจของเกี๊ยวดังก้องไปทั่วห้อง

“อย่า......ไม่นะ.!!!!!! ช่วยด้วย!!!”

.

.

.

.

หลังจากที่เตยแยกกับเกี๊ยวแล้ว ขณะที่เดินอยู่บนระเบียงทางเดินชั้นแปด ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวก ดังมาจากข้างล่าง

“วู้!!!!! ไอ้เกี๊ยว ได้ยินหรือเปล่า!!!”

เตยชะโงกหน้าไปมองตะโกนตอบลงไปว่า

“ไอ้ทศไม่ต้องตะโกนแล้ว เกี๊ยวมันลงไปตั้งนานแล้ว”

“ข้ารอมันตั้งนานแล้วเนี่ย เอ็งเห็นมันบ้างหรือเปล่า ทำไมมันลงมาช้าจัง”

เตยขมวดคิ้ว นึกแปลกใจที่เกี๊ยวยังลงไปไม่ถึงซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ชายหนุ่มตะโกนตอบ

“ข้าสวนกับมันที่ชั้นสอง สักสิบนาทีได้แล้วล่ะ มันยังไม่เจอเอ็งอีกเหรอ”

“ยังว่ะ ฉิบหายแล้ว!!!เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าวะ”

ทศตะโกนตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน เตยจึงตัดสินใจบอกไปว่า

“ทศ ป๊อก เอ็งรีบขึ้นไปตึกบีชั้นสองเลยนะ เดี๋ยวข้าจะรีบลงไปด้วย” พูดจบเตยก็รีบวิ่งลงไปทันที ทศกับป๊อกรีบวิ่งไปที่ใต้อาคารบีสวนกับชีวาสที่กำลังเดินออกมาพอดี

“เฮ้ย จะรีบวิ่งไปไหนกันวะ ทำยังกะใครจะตาย”

ทศหยุดวิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบ “เออ ถ้าไม่รีบน่ะ สุดที่รักของเอ็งตายแน่”

ชีวาสขมวดคิ้ว ย้อนถามอย่างสงสัย “ใครวะ สุดที่รักของข้า พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง”

“ปั๊ดโธ่!!! ไอ้โง่!!! เอ็งมีสุดที่รักหลายคนหรือไงเล่า ข้าหมายถึงไอ้เกี๊ยวน่ะ มันหายไปแถวๆชั้นสอง กำลังจะไปดู” ทศด่าอย่างหงุดหงิด

“แล้วทำไมพึ่งมาบอกเล่า มัวแต่อืดอาดอยู่นั่นแหละ” ชีวาสพูดจบก็วิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสองทันที โดยมีทศและป๊อกวิ่งตามหลังไป

ทั้งสามคนช่วยกันเปิดดูตามห้องต่างๆจนมาถึงห้องแล็บเจ้าปัญหา โดยมีเตยวิ่งมาสมทบในตอนหลัง ชีวาสเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปข้างใน ภาพที่ชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังทาบทับเรือนร่างขาวนวลเนียนที่กำลังดิ้นรนอย่างเต็มกำลัง ทำให้เลือดในกายเดือดพล่าน

ชีวาสวิ่งเข้าไปกระชากชินอย่างแรงพร้อมกับปล่อยกำปั้นลุ่นๆเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างจัง จนชินล้มลงกับพื้น คนอื่นๆรีบวิ่งเข้ามาประคองเกี๊ยวพร้อมกับแก้มัดให้ ทศเอ่ยถามอย่างห่วงใย

“เกี๊ยวเจ็บตรงไหนหรือเปล่า มันยังไม่ทันทำอะไรเอ็งใช่ไหม?”

ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ น้ำตาไหลอาบแก้ม ส่วนหนึ่งเพราะความโล่งใจ อีกส่วนหนึ่งคือความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่างโปร่งปาดน้ำตาทิ้งแล้วจัดการกับเสื้อผ้าของตนให้อยู่ในสภาพที่พอดูได้ ดวงตาแดงก่ำจับจ้องไปที่ผู้ชายสองคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่กลางห้อง

ชีวาสหันมาสบตากับเกี๊ยว ความห่วงใยลึกซึ้งฉายชัดอยู่ในดวงตาทั้งคู่ ชายหนุ่มหันกลับไปพูดเสียงกร้าว

“ชิน เอ็งรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่”

“ทำไมข้าจะไม่รู้ ข้ากำลังจะทำให้เกี๊ยวเป็นของข้า แล้วก็เป็นเอ็ง!! ที่ชอบเข้ามาแส่ข้าทุกเรื่อง” ชินกระชากเสียง มองอีกฝ่ายด้วยแววตาเกลียดชัง “ข้าสุดที่จะทนแล้ว ชีวาส วันนี้ข้าไม่ปล่อยให้เอ็งลอยนวลแน่ ตายซะเถอะ!!” พูดจบชินก็เอื้อมมือไปคว้ามีดเล่มเล็กที่มีคนลืมทิ้งไว้ในห้องแล็บขึ้นมาถือแล้วแสยะยิ้มอย่างเหียมเกรียมแล้วพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายเต็มแรง

ฉึก!!

“ชีวาส!!”

เกี๊ยวอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นใบมีดจมหายเข้าไปในท้องของชายหนุ่ม ชินถอนมีดออกก่อนจะทิ้งลงข้างตัว มองชีวาสที่ทรุดตัวล้มลงกับพื้นอย่างเย็นชาแล้วหันมายิ้มเยาะให้ร่างโปร่ง

“ถ้าชินไม่ได้ มันก็ต้องไม่ได้ คนอย่างมัน ตายไปซะก็ดี อย่านึกนะว่ามันจะจบแค่นี้เกี๊ยว ตราบใดที่ชินยังมีชีวิตอยู่ ชินจะตามเกี๊ยวไปทุกแห่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พูดจบชายหนุ่มก็วิ่งหนีออกไปจากห้อง เกี๊ยวรีบวิ่งเข้าไปประคองชีวาส

“ชีวาส!! นายอย่าเป็นอะไรนะ ชั้นจะพานายไปโรงพยาบาล”

เสียงสั่นๆของร่างโปร่งเรียกรอยยิ้มบางๆจากคนเจ็บที่ยังมีแก่ใจเอ่ยกระเซ้า

“แหม ชื่นใจ มีคนเป็นห่วง”

ชีวาสพูดจบก็เอามือกุมท้อง ตัวงอด้วยความเจ็บ สติเริ่มลางเลือน ได้ยินเสียงเจือความตกใจของเพื่อนๆดังมาแว่วๆ

“ชีวาส!!!!! อดทนไว้นะ นายต้องไม่เป็นอะไรนะ!!!......”

.

.

.

.

เจมินี่ยืนเท้าสะเอวมองหน้าคนที่ยึดโซฟาตัวยาวเป็นทำเลในการทำสมรภูมิรบอย่างหงุดหงิดหน่อยๆ ร่างสูงพูดเสียงเข้ม

“จะยอมให้ทำดีๆไหม?”

ก๋วยจั๊บเชิดหน้าขึ้น เอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น

“ไม่!!”

“ไม่ต้องกลัวน่า รับรองฉันจะอ่อนโยนกับนายที่สุด ไม่ทำแรงหรอก แป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็เสร็จ”

เจมินี่พูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ร่างโปร่งหันขวับทันที แผดเสียงออกมาทันควัน

“ไม่ก็บอกว่าไม่สิ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง!!”

“อย่าให้ต้องใช้กำลังนะ”

“ลองเข้ามาสิ พ่อจะอัดให้เดี้ยงเลย” ร่างโปร่งขู่ฟ่อ เจมินี่ส่ายหน้า เอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“ไม่ทายาแล้วมันจะหายได้ยังไงเล่า นี่ก็เดินแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ยังจะทำเป็นเก่ง”

“นั่นมันก็เรื่องของฉัน เดี๋ยวฉันก็ทำของฉันเองแหละ นายไม่ต้องยุ่งเลย ว่าก็ว่าเถอะทั้งหมดน่ะมันเป็นความผิดของนายคนเดียว”

“อ้าว ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ ฉันไม่ได้ให้นายมากระโดดขึ้นเตียงจนเตียงหักสักกะหน่อย ฉันก็จะบอกนายอยู่แล้วว่าเตียงมันไม่ดี”

ร่างสูงแก้ตัว นึกถึงคืนวันสุดท้ายที่นอนพักแรมอยู่ที่กระท่อมริมทะเลสาบซึ่งตัดสินใจเข้าไปนอนในห้อง เจมินี่พอล้มตัวลงนอนก็รู้สึกว่าเตียงมันโยกหน่อยๆ ยังไม่ทันจะพูดอะไร ร่างเล็กก็กระโดดขึ้นมาบนเตียงเต็มรัก ผลก็คือ

ขาเตียงหัก!!

แถมก๋วยจั๊บยังกลิ้งตกจากเตียงก้นกระแทกพื้นเข้าเต็มรักจนเจ้าตัวถึงกับน้ำตาซึม พอกลับมาถึงห้องจะทายาให้ยังไม่ยอมอีก

“นั่นแหละ ยังไงนายก็ผิด!! ผิด เข้าใจไหม” ก๋วยจั๊บสำทับ ยกให้อีกฝ่ายผิดเต็มประตู

“เอ้า ผิดก็ผิด งั้นก็ให้ฉันทายาให้ได้แล้ว นายมองเห็นซะเมื่อไหร่ว่ามันช้ำตรงไหน”

เมื่อเห็นร่างโปร่งยังทำเฉย ร่างสูงจึงถามต่อ

“หรือว่านายอาย?

ร่างโปร่งหน้าแดงเรื่อขึ้นนิดนึง พูดกระแทกเสียงใส่

“ใช่!! ฉันอาย ถามจริงๆเถอะ นายไม่อายหรือไงที่จะต้องมาเปิดก้นให้คนอื่นดูน่ะ”

“ไม่ เพราะมันก็แค่ส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น นายจะไปคิดมากทำไม”

“เอาเป็นว่าฉันทำไม่ได้อย่างนายแล้วกัน ส่วนยาฉันจะทาเองนายไม่ต้องยุ่ง”

ก๋วยจั๊บเอ่ยเสียงแข็ง พอดีกับที่โทรศัพท์ดังขึ้นมา ชายหนุ่มจึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ

“ฮัลโหล ...... อ้าวเกี๊ยวเหรอ ว่าไง........เฮ้ย ค่อยๆพูดสิ...ไม่ต้องร้อง ฟังไม่รู้เรื่อง ....อะไรนะ!!...อือๆ จะรีบกลับเดี๋ยวนี้ล่ะ”

เจมินี่รอจนร่างโปร่งวางสายแล้วเอ่ยถาม

“มีอะไรเหรอ?”

ใบหน้าก๋วยจั๊บเผือดไปเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา

“ที่บ้านเกิดเรื่อง!!!”

.

.

.

.

เกี๊ยวมองชีวาสที่ยังนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย

หลายครั้งที่ชายหนุ่มมักจะชอบมาแหย่ให้อารมณ์เสีย บางครั้งก็ชอบทำอะไรให้ใจเต้นตึกตัก แต่ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้เขารู้สึกห่วงใยได้มากเท่านี้ ร่างโปร่งเลื่อนมือไปเกาะกุมมือใหญ่ของอีกฝ่าย มองสายน้ำเกลือที่ข้อมือของร่างสูงแล้วรู้สึกใจหาย ดวงตาที่ชอบมองอย่างห่วงใยลึกซึ้งยังคงปิดสนิท

เกี๊ยวหายใจขัด น้ำตารื้นขึ้นมาทันที ร่างโปร่งกระซิบเสียงแผ่ว

“นายรีบฟื้นขึ้นมาเสียทีสิ.........นอนนิ่งอย่างนี้ฉันใจไม่ดีเลยนะ”

เสียงเปิดประตูดังขึ้นข้างหลัง เกี๊ยวกระพริบตาเพื่อไล่ละอองน้ำให้หายไป ก่อนจะหันกลับไปมอง เมื่อเห็นผู้ที่เข้ามา เจ้าตัวจึงเรียกอย่างดีใจ

“พี่จั๊บ พี่เจ็ม”

ร่างโปร่งลุกจากเก้าอี้ แล้ววิ่งเข้ามากอดพี่ชายทันที น้ำตาที่กักเก็บไว้ รินไหลลงมาเป็นทาง

“พี่จั๊บ .....ฮือๆ”

ก๋วยจั๊บลูบหลังน้องชายอย่างปลอบประโลม เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ไม่ต้องร้องนะ ...... ไหนเล่าให้ฟังสิว่าเรื่องเป็นยังไง”

เกี๊ยวสะอึกสะอื้น เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างกระท่อนกระแท่น พอฟังจบก๋วยจั๊บถึงกับสบถด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

“เลวที่สุด!! แล้วนี่พ่อกับแม่ว่ายังไง”

“ผมกับพ่อแม่คิดว่าจะไม่แจ้งความ เพราะยังไงเราก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่พ่อกับแม่ชีวาสผมไม่รู้ ท่านบอกว่าจะไปจัดการเอง ขอให้ผมดูแลชีวาสก่อน”

“แล้วฟื้นหรือยังล่ะ” ร่างโปร่งเอ่ยถาม ปรายตาไปยังร่างที่นอนอยู่บนเตียง

เกี๊ยวส่ายหน้า เอ่ยช้าๆ “ยังไม่รู้สึกตัวเลย.......ถ้า.....ถ้า.....” พูดไม่ทันจบประโยค น้ำตาก็ร่วงพรูลงมาอีกครั้ง

เจมินี่ก้าวเข้ามาปาดน้ำตาออกอย่างแผ่วเบา

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก หมอก็บอกว่าปลอดภัยแล้วนี่นา อีกสักพักก็คงฟื้น อย่างร้องไห้เลยนะ”

ก๋วยจั๊บก้าวไปที่เตียง แล้วก็ชะงักเมื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เจ้าตัวเขม้นมองเพื่อให้แน่ใจแล้วจึงยิ้มแสยะออกมา

“แล้วนี่กินอะไรหรือยัง ไปหาอะไรกินกับพี่ก่อนไป เดี๋ยวให้พยาบาลมาดูแลต่อดีกว่า”

“ยังเลย ......แต่ผมกินอะไรไม่ลงหรอก พี่จั๊บไปกินเถอะ”

ก๋วยจั๊บแกล้งพูดดังๆ “คนเจ็บไม่ยอมฟื้นสักที ถ้าไม่ยอมฟื้นจะเอาคนดูแลกลับแล้วนะ” แล้วหันไปคว้าข้อมือเกี๊ยวเอาไว้แน่น “โธ่ ไม่ต้องสนใจหรอก เดี๋ยวก็ฟื้นขึ้นมาเองแหละ ฟื้นแล้วค่อยมาดูก็ได้”

ร่างโปร่งลังเล ยังไม่ทันไปไหน คนเจ็บที่นอนนิ่งมาตั้งแต่ต้นก็เริ่มขยับเขยื้อน เสียงคราวแผ่วๆดังมาจากริมฝีปากได้รูป เกี๊ยวตาโต รีบวิ่งเข้าไปดูทันที

“ชีวาส!! นายได้ยินฉันไหม เป็นยังไงบ้าง เจ็บแผลหรือเปล่า?”

“อืม...”

เปลือกตาบางกระพริบนิดๆ ก่อนจะเปิดขึ้น เผยให้เห็นดวงตาคม เจ้าตัวเอ่ยเสียงแผ่ว

“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? นี่นายจริงๆใช่ไหม เกี๊ยว....โอ๊ย!!” ชีวาสอุทานออกมา

เกี๊ยวรีบถามอย่างห่วงใย “เจ็บแผลเหรอ เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”

ชีวาสยิ้มบางๆ จริงๆ แล้วไม่ได้เจ็บแผลหรอก แต่เพราะพี่ของร่างโปร่งแอบหยิกเขาเบาๆนั่นแหละ คนอะไร โหดชะมัด อุตส่าห์แกล้งทำเป็นหมดสติแล้ว ยังอุตส่าห์รู้อีก บ้าชะมัดทำแผนพังหมด




 :m22: :m22: :m22: :m22: :m22:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
« ตอบ #139 เมื่อ: 07-08-2007 21:31:45 »





น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #140 เมื่อ07-08-2007 21:58:14 »

ขำก๊วยจั๊บจัง  มีการแอบหยิกชีวาสด้วย  ร้ายจริงๆ :m4:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #141 เมื่อ07-08-2007 22:46:27 »

จั๊บนี่ท่าทางหวงน้องมากเลยนะเนี่ย

อิอิ

อยากมีคนหวงบ้างจัง

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #142 เมื่อ07-08-2007 23:03:09 »

ขำชีวาส เจ็บแล้วยังไม่วายทะลึ่ง
 :m18: :m18: :m18:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #143 เมื่อ07-08-2007 23:23:20 »

ต่อไปนี้คงจะได้ลงเอยอีกคู่รึป่าวหว่า  :m3:  :m3:

armani

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #144 เมื่อ08-08-2007 00:15:09 »

อะไรกัน... เด๋วคงจะยอมกันซะแล้วคู่เกี๊ยว ชีวาสนี่ o16
เอาแบบจีบกันยาวๆ หน่อยนะคร๊าบบบบบบ  :m5:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #145 เมื่อ08-08-2007 00:36:07 »

 :impress:

แหม น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ

thank นะครับที่มาต่อ จะรออ่านต่อไปครับ

 o15

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #146 เมื่อ08-08-2007 00:37:30 »

ฝ่าด่านจั๊บให้ได้นะชีวาส  :m26: :m26:
 :m14: :m14: :m14:

leau_dissey

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #147 เมื่อ08-08-2007 13:38:13 »

 :impress: ว้ายน่ารักจังเลยค่ะ(แม้จะแอบรู้สึกว่ามันเว่อร์ไปไหมเนี่ยะชินกะเกี๊ยวละก็ชีวาสอ่ะ)
แต่ก็น่ารักดี มาต่อไวๆนะคะ :a11:

ohhotopo

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #148 เมื่อ08-08-2007 15:47:17 »

ชอบคู่เกี๊ยวกับชีวาสจังเยยหุหุ :m3:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนนี้แหละใช่เลย โดย ขนมชั้น
«ตอบ #149 เมื่อ08-08-2007 21:50:04 »

จั๊บร้ายจริง ๆ  :a10:  :a10:  :a10:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด