ลมเหนือที่รัก
ตอน15
----------------
lom's
วันพุธ รุ่งเช้า ...
หงอยไปเรียนแต่เช้า พุ่งเข้าห้องซ้อมเปียโน เล่นไม่ได้อย่างที่ใจอยาก ชิ ทำนองไม่คุ้นวะ
ไปห้องเรียน เก็ทมาถึงดันเมินหน้าไม่คุยไม่ทัก เป็นบ้าอะไร ถึงมึงจะตัดบีแต่กูเพื่อนมึงนะเฟ้ย!!! เดินไปที่โต๊ะ มือมันยังกุมหัวตาโหลเป็นแพนด้าอดนอน โกรธมันไม่ลง จะพูดก็ลำคอตีบตัน หันหาโน๊ตตัวช่วย
เมื่อคืนโทรหาแม่บีถึงรู้ว่าพ่อเพื่อนตัวเล็กเข้าโรงพยาบาล บีต้องย้ายไปอยู่ดูแลทั้งที่จริงๆ พ่อแม่มันแยกทางกันแล้ว พี่เออยู่กับพ่อแต่ตอนนี้เรียนอยู่โน่นสงขลา เหลือบีที่วิ่งวุ่นดูบ้านโน้นบ้านนี้แทน
‘พ่อบีป่วย นอนโรงพยาบาล มันไปเฝ้าไข้ ถ้าไงคุยกันก่อนก็ดี ปล. ต้องใช้พรุ่งนี้เย็น L’
ยื่นกระดาษบรรทัดห้าเส้นให้หมดทั้ง 7-8 แผ่น
“ช่วยหน่อย”เก็ทรับไปเงียบ ๆ
“งานโรงแรม ใช้พรุ่งนี้หกโมงครึ่ง ขอพรุ่งนี้เช้าเลยถ้าได้นะ” ผมสำทับ มันพยักหน้าเข้าใจ อาศัยมันต่อเน็ตผมติดเพลงไหนเพื่อนช่วยหาอัดใส่ทรัมไดรฟ์มาให้ฟังเอ็มพีสามเครื่องเก่า
‘---อ๊ออด’
เสียงสัญญาณเข้าห้องเรียน หันไปเห็นบีวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมอีกคน ...ไอ้เอก ผมจุกในอก ไม่กล้าเหลือบมองเก็ท
ไม่ทันได้คุยอะไร อาจารย์ก็เข้าตามหลังมาต้องรีบเข้านั่งที่
เก็ทเหม่อมองข้างหลังบีตลอดชั่วโมงเรียน นั่งข้างหลังเห็นเพื่อนสองคนเป็นแบบนี้ได้แต่เจ็บปวดแทน
บรรยากาศอึมครึมสำหรับผมทั้งวัน ไม่มีโอกาสได้คุยกับเก็ท ขานั้นจงใจหลบหน้า ส่วนบีก็อยู่ติดกับทรายกับเอก ไม่มีที่ให้ผมแทรกได้ เอาน่า เรื่องที่ตัวเองทำได้ก็ส่งต่อให้แล้ว ที่เหลือก็แต่พวกมึงละกัน
จูงรถจักรยานกลับบ้านเหงื่อนหงอย
ถึงบ้านเกือบหกโมงเย็น ทันเห็นรถสปอร์ตสีดำหรูเฉียดผ่านไปจอดหน้าบ้านระยะเผาขน
.... เฮ้อ เสร็จศึกนอกก็มาเจอศึกในต่อ
-------------------------
สามทุ่มกว่า ในห้องนอนผม
เรื่องเพื่อนยังคาใจแกะไม่ออก แบบนี้อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องกันพอดี น่าจะโทรหาบีอยากรู้เรื่องจริง ๆจากปาก อย่างน้อยก็ได้รู้พ่อป่วยเป็นอะไร ...จำแต่เบอร์มือถือ หาสมุดโทรศัพท์จะโทรเข้าบ้านพ่อมัน เชี่ย ไม่ได้จดไว้ มีแค่เมมไว้ในเครื่อง ไม่น่าสะเพร่าเลยเรา
“หาอะไรอยู่?” เสียงทุ้มนุ่มถามอยู่ข้างหลัง
"------" ผมชะงักแต่ไม่ตอบ ยังหาของง่วน
“เผื่อช่วยหา อาจหลงอยู่ในกองแถวนี้” ชี้กวาดสรรพสิ่งของตัวเอง เฮ้อ อาจจะจริง ยอมมันซักวัน
“โทรศัพท์ครับ” ชะงักกึกแต่รีบเช็ดหัวต่อ
“...หน้าตาเป็นไง?”
“สีดำ เล็ก ๆ เก่าหน่อย ขนาดเท่านี้” ทำมือกะขนาด
“หาข้างล่างดูยัง?”
“ดูหลายรอบแล้วครับ”
“ลองไปดูอีกที ไม่แน่ใจว่าเป็นอันสีดำ ๆแถวพื้นใต้โต๊ะรึเปล่า” เออ จริง เข้าบ้านมามันช่วยปั้นทำมาลัย ที่พื้นเมื่อเช้ารีบออกไป ไม่ได้ถู
“ครับ อ้อ ...ถ้าเป็นไปได้ ใส่เสื้อออกมาเลยก็ดี คุณแม่อยู่ในบ้าน” มันพยักหน้า ไม่ว่าอะไร วันนี้ว่าง่ายแฮะ
เสียงดังตึงตัง โครมครามตามหลังทันทีที่ปิดประตู แต่ช่างเถอะ เรื่องที่เจอวันนี้สาหัสจนหนักจุกแน่นอก เหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะตอแยแล้ว
หาจนทั่วก็ไม่เจอ ถอดใจ เอาน่าพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน
เดินทะลุออกมานอกบ้าน...นั่งริมฟุตบาท พวกหมา ๆ หงิง ๆมานั่ง นอน ยืนเป็นเพื่อนเงียบ ๆ นั่งลูบหัวไอ้บิ๊ก
เกิดเป็นหมานี่ดีเน๊าะ ไม่น่ามีเรื่องกลุ้มใจ ขนาดสามขา ไม่มีขาหน้าด้านขวา ยังกระเผลกยิ้มสู้ชีวิต ตาเดียวอีก โดนคนฟันขนาดนั้นถ้าเป็นคนจะท้อแท้ยอมแพ้รึเปล่าก็ไม่รู้
พรุ่งนี้จะถามเอาเรื่องจากบีเริองพ่อป่วยให้ได้ จากนั้นก็ให้มันสองคนคุยกันเอง ถึงผมจะเป็นเพื่อนที่สนิททั้งคู่แต่เรื่องแบบนี้คงได้แต่อยู่วงนอก
..............
....................
เสียงบิ๊กครางหื่อแฮ่ จ้องเขม็งเข้าไปในตัวบ้าน
คนตัวสูงสวมเสื้อแล้วมายืนข้าง ๆ ยื่นโทรศัพท์ตรงหน้า
“เห็นมันนอนอยู่ในถุงรองเท้าผ้าใบ ไม่รู้เข้าอยู่ในนั้นได้ไง”
“ขอบคุณครับ...” ยิ้มระรื่น ของหายได้คืนแต่แบตหมดเกลี้ยง จะเข้าไปชาร์ตแบทข้างในอยากได้เบอร์โทรแต่นี่น่าจะเกือบสี่ทุ่มแล้ว ช่างเถอะ ถอนใจอีกรอบ
นั่งลงข้างๆ มองหมาที่จ้องตากันเขม็ง ไม่กล้าเข้าใกล้
“มันชื่อไร?” หันไปมอง เห็นพยักเพยิดกับหมาคู่กรณี ยังฮึ่มแฮ่ในปากไม่หยุด
“ชื่อบิ๊กครับ”
“ตัวนั้นล่ะ”
“นั่นตาเดียวแล้วก็สามขา ข้างกัน สีนวลกับลูก ชื่อเล็กกับน้อย ”
“จะรู้มั้ยตัวไหนเล็ก ตัวไหนน้อย?” หันไปมอง ตัวสีแดงปากมอมทั้งคู่หยอกกัดกันเล่นเบา ๆ ข้างแม่มัน ผมอมยิ้ม
“เล็กตัวผู้ น้อยตัวเมีย โน่นด่างตัวสีขาวดำ นีโม่ตัวสีส้มสลับขาวมีปลอกคอแดง” ชี้กราดรายตัว เช็คชื่อ
“โหย ...เป็นฝูง ครอบครัวใหญ่เนอะ หึ ๆ” อารมณ์ดี มองไปรอบ ๆก่อนจะหันมาหาคู่กัดในมือผม
“งายยย บิ๊ก เรารู้จักกันแล้วนะเว้ย ...เฮ้ย!!!” ทำท่าจะลูบหัว ไอ้บิ๊กกระดิกหางรับแต่ปากยังแฮ่ขู่ รีบชักมือกลับสะดุ้งโหยง
ตัวโตซะเปล่าแต่กลัวหมา ผมหลุดยิ้มขำ
“...ท่าไม่อยากรู้จักแฮะ” มีหน้าจ๋อย
“ต้องลูบหัวมันเบา ๆ ...แบบนี้” สาธิต บิ๊กเงยหัวรับ เลียปากครางหงิง
“เอาเชียวนะมึงงง”
นั่งกันเงียบๆ เผลอถอนใจเรื่องคิดไม่ตก
“เป็นไร ถอนใจ?” ส่ายหน้า ไม่มีแรงจะตอบ
“วันนี้ ทำไมกลับช้า” ตัวเองกลับก่อนแค่ช่วงเลี้ยวรถเข้าบ้าน ห่างกันไม่ถึงนาที ทำคุย
“--------” ได้แต่เงียบ
“เรื่องเรียน เรื่องสอบ”
“--------”ส่ายหัว
“เรื่องแฟน ...เพื่อนผู้หญิง” จะรู้เรื่องให้ได้ใช่มั้ย แต่คนถามมองวิวไกล ๆ ไม่คาดคั้น เลยได้แค่ส่ายหน้าตอบ
“งั้นก็เรื่องเพื่อน” เผลอกำโทรศัพท์ในมือแน่น ก้มหน้าเม้มปาก เดาถูกเผง
คนถามเปลี่ยนท่านั่งเป็นเหยียดขาสบายเล่าเรื่องเรื่อย ๆ ไม่มองหน้า
“...ตอนนั้นเพื่อนพี่มีเรื่องที่บ้านไม่มาเล่าให้ฟัง หายหัวไปเฉย ไอ้เราไม่เข้าใจ โกรธ งอนมันซ้ำด่ามันอีก จะเลิกคบ ดีที่เพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟัง จากที่โกรธมันกลายเป็นโกรธตัวเองแทน”
คนถ่อยอย่างนี้ก็มีเพื่อน มีเรื่องแย่ๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่ที่แหม่งๆ คือ มันแทนตัวเองว่าพี่
“แล้วพวกคุณยังคบกันอยู่รึเปล่า”
“คบ ตอนนี้มันไปเรียนเมืองนอกยังส่งข่าวมาเรื่อย ปิดเทอมนี้น่าจะเจอกัน”
พยักหน้าเบาๆ รับรู้ ต่างฝ่ายต่างเงียบ
“เรียกพี่ได้แล้ว อ่อนกว่าตั้งหลายปี คุณแม่ก็เรียกให้ได้ยิน”
“ก็ คุณ...”
“ให้โอกาสพี่นะครับ เรียกพี่นะ พี่เหยี่ยว เรียกซิ”
"------" อึ้งไป จะมาไม้ไหน
“นะครับ ลม” เงยหน้ามอง ตาสบตา นัยน์ตาคมวับดุจเหยี่ยว แต่ช่างอ่อนโยน จริงใจ เพิ่งเคยได้ยินเรียกชื่อผมเป็นครั้งแรก นุ่มนวลจนอยากฟังซ้ำ
“ครับ ...พี่” ง่ายไปมั้ย แค่นี้ก็ตื้อปนเขินจนหน้าขึ้นสี หัวใจระริกระรี้จนไม่อยากให้อยู่ใกล้ กลัวได้ยิน
“...พี่---เหยี่ยว” โน้มมาชิดใบหู เอ่ยช้า ๆ ชัด ๆ เชิงบังคับ ผมเกร็งสุดตัวอยากเป็นขอมดำดินมุดหนี
“ฮ๊าว วว” หาวเสียงดัง อ้าปากกว้างลิ้นชมพู ลับเล็บตะกุยพื้นคอนกรีตดังแกร๊ก ๆ ตัวใหญ่ผงะถอยห่าง ...ดีมากบิ๊กเพื่อนรัก พรุ่งนี้จะขอกระดูกร้านก๋วยเตี๋ยวมาตบรางวัล!!!
“ตกลงเรื่องเพื่อนรึเปล่า?” ท่าจะเอาเรื่องให้ได้จริง ๆ
“ครับ อีกไม่กี่วันก็จะจบ ...ไม่เจอกันอีก”
“พูดยังกะเค้าจะไปเรียนต่อเมืองนอก” เก็ทบอกไม่แน่ แต่คงไม่ใช่ที่มหา-ลัย K แล้ว
“ยังไม่แน่ครับแต่ผมไม่เรียนต่อ คงเจอกันยาก”
“ทำไมไม่เรียนต่อ!?” น้ำเสียงเปลี่ยนเล่นเอาสะดุ้ง ไอ้บิ๊กกับตาเดียวหันมามอง สามขายังลุกมายืนจ้อง
“ก็ ...ไม่เรียนต่อ” เหวอซิ ไม่รู้จะตอบยังไงดี
“จะไปไหน ทำไมจะไม่เรียน!” ไอ้นี่ พูดยังกะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ จับไหล่ บีบจนเจ็บ
“พี่ครับ ...ผมเจ็บ” รีบคลายมือ ผมลูบป้อย
“ตกลงจะตอบพี่ได้ยัง”
“ทำงานครับ อยู่แถวนี้แหละไม่ได้ไปไหน” จู่ ๆก็นึกเสียใจขึ้นมาเฉย ๆ เหมือนทำคนตรงหน้าผิดหวังยังไงไม่รู้
ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีเรื่องเป็นหัวข้อข่าว
“...เข้าบ้านเถอะครับ ยุงเริ่มเยอะแล้ว”
“เข้าไปก่อน พี่ขอโทรศัพท์ก่อน”
“ครับ...” ลุกยืน ตบหัวลาไอ้บิ๊กกับสองสามตัวใกล้กัน เดินหยิบขวดน้ำในตู้ ได้ยินเสียงคนยืนโทรศัพท์ ใจร้อนสั่งการเอาแต่ใจผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ
“ฮัลโหล คุณอารักษ์ ผมเหยี่ยว ...เรื่องที่ให้คุณอาจัดการ ผมอยากได้ภายในวันสองวันนี้เลย”
“อะไรนะครับ ไม่ให้ชื่อคนสุดท้าย ใคร/------ เด็กในรูปขาวดำนั่นผมไม่สน/----- อยากรู้ให้ผมโทรไปถามอารักษ์เองวันหลัง โอเคได้ เอาเรื่องคนก่อน เค้ามีปัญหาอะไร------- ครับ ได้ที่คณะ วันพรุ่งนี้เลย --------ครับ ขอบคุณครับ”
เดินหน้ายุ่งเข้าบ้าน ผมรีบเผ่นแผล๊วขึ้นบันได
************************************** TBC by puppyluv
...เสน่ห์ของฟิคในเน็ตก็คือการโพสต์/รีพลาย ตอบกลับกันไป-มา ยิ่งเรียลไทม์ รู้สึกยังไงเดี๋ยวนั้น บัดนั้น ยิ่งมันส์กันทั้งสองฝ่าย
อยากบอกว่า ทุกโพสต์มีความหมายและเป็นกำลังใจที่ดี มีฮากร๊ากกกตาหลอดดด
( แค่เห็นตัวเลขวิวก็ปลื้มแล้ว ยิ่งมีโพสต์ตอบยิ่งสนุกใหญ่ )
เป็นส่วนนึงให้อยากอัพ อยากมาเข้าเล้า ตามล่าคนอ่านมาทำหน้าที่ เหอๆๆ
( จริงๆ ก็นิสัยเหมือนกัน ไปโพสต์ชาวบ้านเรื่องที่ชอบ ...นิสัยๆ -^-!!! )
แต่ขอชมบรรดาสิงเล้าที่ตามอ่าน ตามโพสต์ตลอด ไปเรื่องไหนก็เจอ
ทั้งfuku, ZakuPz, hotladyayavee, roseen, samsoon@doll, ken_krub, BeeRY
iforgive, namtaan, TONG, golove2, JJHJJH, whatever it is และอีกหลายๆ คน ไม่หวาดไม่ไหว
ขอชมนะ
...แต่ตอนนี้ ตื่น-มา-อ่าน-ได้-แล้ว มารอแล่วววววววว (ได้ขึ้นหน้าใหม่แล้วววว มีฟามสุข!!!)...จริงๆ ตื่นมารอโคนัน
